95 3. การส่ือสารตามสถานการณ์ต่าง ๆ ของการปฏบิ ตั ิการทางยุทธวิธี 3.1 การส่ือสารในพ้นื ท่รี วมพล 3.1.1 พ้นื ทีร่ วมพลคอื พ้นื ทซ่ี ่ึงหน่วยต่าง ๆ มารวมกนั เพ่อื เตรียมการปฏิบตั ิทางยทุ ธวิธีต่อไป ในสถานการณ์น้ีส่วนต่าง ๆ ท้งั หมดยอ่ มไดร้ ับข่าวสารที่เก่ียวกบั การปฏิบตั ิที่ตอ้ งกระทา การทาแผน และแกไ้ ข ขอ้ บกพร่องเก่ียวกบั การซ่อมบารุงและส่งกาลงั เป็ นคร้ังสุดทา้ ย 3.1.2 กิจกรรมการสื่อสารในพน้ื ที่รวมพล เพอื่ ป้องกนั การตรวจพบ (Detection) ของขา้ ศึก การรักษาความปลอดภยั ทางการส่ือสาร จะตอ้ งกระทาตลอดทุกข้นั ตอนเก่ียวกับการเลือกและการใช้ เคร่ืองมือส่ือสาร 3.1.3 การสื่อสารทต่ี อ้ งจดั ใหม้ ีข้ึนในทร่ี วมพล ไดแ้ ก่ 1) ทก.ทีส่ าคญั ๆ จะตอ้ งจดั ต้งั ศูนยก์ ารสญั ญาณข้นึ และมีการปฏิบตั งิ าน ศูนยอ์ ่ืน ๆ อาจ จดั ต้งั ข้ึนตามความจาเป็ น เช่น ทีส่ นามบิน ตาบลข้นึ บก ตาบลลงรถ และอื่น ๆ 2) ทุกศนู ยก์ ารสญั ญาณหรือศนู ยก์ ารส่ือสารที่จดั ต้งั ข้นึ ในการนาสารสาหรบั เหตผุ ลเกี่ยว กบั การรกั ษาความปลอดภยั แลว้ ตามปกติยอ่ มถือวา่ การนาสารมีความเชื่อถือไดอ้ ยา่ งสูง 3) ในพน้ื ท่ีรวมพลหา้ มใชท้ ศั นสญั ญาณ และเสียงสญั ญาณ ท้งั น้ีเพอื่ ป้องกนั การสืบ คน้ หาของขา้ ศึกต่อการรวมพลของฝ่ายเรา 4)ในข้นั การรวมพล การส่ือสารดว้ ยวทิ ยุ ตามปกติจะถูกจากดั การใชว้ ทิ ยุ ชุดวทิ ยุ ถ่ายทอดอาจตอ้ งกระจายออกไวท้ ้งั พ้นื ที่รวมพล แต่ไม่ตอ้ งเปิ ดใชง้ านยกเวน้ ในกรณีการกระจายเสียงเตือน ภยั และการส่งขา่ วจากส่วนลาดตระเวนท่เี กาะอยกู่ บั ขา้ ศึก ชุดวทิ ยทุ ้งั หมดจะตอ้ งใชง้ านและทดลองใชช้ ่อง การสื่อสารท่กี าหนดไวต้ าม นปสอ. และ นสอป. ทีใ่ ชอ้ ยู่ 5) การส่ือสารทางสายในพน้ื ทร่ี วมพลเป็ นไปอยา่ งจากดั เพอื่ อานวยความสะดวกอาจใช้ ทางสายทอ้ งถ่ินทีม่ ีอยใู่ นพ้นื ที่กไ็ ด้ แตต่ อ้ งไดร้ ับอนุมตั จิ ากผบู้ งั คบั บญั ชาก่อนในการสร้างทางสายเพมิ่ เติม จะตอ้ งทาใหน้ อ้ ยทส่ี ุดเท่าทีจ่ าเป็น โดยเฉพาะสาหรบั การบงั คบั บญั ชาและการควบคุมเท่าน้นั 6) เมื่อมีหน่วยสมทบและ/หรือหน่วยสนบั สนุนอยใู่ นพน้ื ท่รี วมพลดว้ ย ควรปฏบิ ตั ิดงั น้ี 6.1) ตรวจสอบความถ่ีและนามเรียกขานของหน่วยสมทบ และ/หรือหน่วย สนับสนุนถ้าจาเป็ นตอ้ งเปล่ียนแปลงรายการ เพื่อป้องกันการรบกวนกนั เอง ตอ้ งแจง้ ใหฝ้ ่ ายการส่ือสาร ประสานงานกบั หน่วยเหนือ 6.2) ทาและแจกจา่ ย นปสอ. รายการทเี่ ก่ียวขอ้ ง (เช่นประมวลลบั ท่ีเตรียมไว้ สาหรับข่าวและนามเรียกขาน ฯลฯ ) นอกจากน้ันใหส้ รุปไวใ้ น รปจ. ของหน่วย วา่ ดว้ ยการสื่อสารเพ่ือ ใหเั จา้ หนา้ ทีต่ ่าง ๆ ไดร้ ับทราบและปฏิบตั ิดว้ ย 6.3) ตรวจสอบสถานภาพของเคร่ืองมือส่ือสารและเจา้ หนา้ ทส่ี ่ือสาร 6.4) ดาเนินการฝึกอยา่ งต่อเนื่องและเนน้ หนกั ถึงการปฏิบตั ทิ กี่ าลงั จะมาถึง 6.5) จา่ ยคาแนะนาการส่ือสารพเิ ศษสาหรับการปฏบิ ตั ทิ ่ีไดว้ างแผนไว้
96 3.2 การสื่อสารระหวา่ งการเคลื่อนยา้ ยและการพกั 3.2.1 การเคล่ือนยา้ ยแบง่ ออกเป็ นทางยทุ ธวธิ ีและทางธุรการ และอาจทาไดเ้ ป็ นข้นั ตอนเดียว หรือหลายข้นั ตอน, รูปขบวนเดียวหรือหลายรูปขบวน และใชเ้ ส้นทางเดียวหรือหลายเส้นทาง ก็ได้ การสื่อสารจะถูกใชส้ าหรับการควบคุมรูปขบวน สาหรับติดต่อกบั ส่วนลาดตระเวนและระวงั ป้องกัน และใชส้ าหรับติดตอ่ กบั หน่วยสนบั สนุนและหน่วยเหนือ เพอื่ ใหม้ ีการวางการส่ือสารท่ีจาเป็ นและน้อย ที่สุดในระหว่างการเคลื่อนยา้ ยและการพกั ฝ่ ายการส่ือสารจะตอ้ งได้รับคาช้ีแจงล่วงหน้าเก่ียวกับ แผนการเคลื่อนยา้ ย ถา้ สามารถทาได้ ฝ่ ายการส่ือสารควรจะทาการลาดตระเวนเสน้ ทางท่ีจะเคลื่อนยา้ ย เพื่อพิจารณาว่าสถานีวิทยถุ ่ายทอดหรือสถานีส่งต่อจะตอ้ งใชห้ รือไม่ในการท่ีจะดารงการสื่อสารให้มี อยา่ งตอ่ เนื่องโดยตลอด 3.2.2 ถา้ มีอากาศยานสาหรับควบคุมขบวน เครื่องมือส่ือสารทจ่ี ะตดิ ต่อกบั อากาศยานควรจะ กระจายอยู่ในขบวน ระหว่างที่จากดั การใช้วิทยใุ ห้ใชท้ ศั นสัญญาณซ่ึงไดม้ ีการนัดหมายไวล้ ่วงหน้า ทาการส่ือสารระหวา่ งอากาศยานกบั ยานพาหนะบนพน้ื ดิน 3.2.3 คาแนะนาการส่ือสารน้นั มีอยใู่ น รปจ. ของหน่วย อาจไม่จาเป็ นตอ้ งนามากล่าวอีก แต่ เพอ่ื ท่จี ะใหค้ าแนะนาน้ีสมบูรณ์ ตามปกติคาสงั่ การเคลื่อนยา้ ยจะบอกที่ต้งั ทก. ควบคุมขบวนเดินทางไว้ 3.2.4 การส่ือสารในการเคล่ือนยา้ ยทางยทุ ธวธิ ี 1) ทก. ท่ีจดั ข้นึ เพอ่ื ควบคุมขบวนจะจดั ต้งั ศูนยก์ ารสญั ญาณหรือศนู ยก์ ารสื่อสารเคลื่อน ที่ข้นึ ตามความตอ้ งการ ศูนยเ์ หล่าน้ีอยใู่ นรถนาขบวนคนั ใดคนั หน่ึงซ่ึงใกลก้ บั ทก. ขบวนเดินทางนนั่ เอง 2) ในระหวา่ งการเคลื่อนยา้ ย ทกุ หน่วยใชก้ ารนาสาร พลนาสารเดินเทา้ และยานยนตจ์ ะ ใชจ้ ากขา้ งหนา้ ไปขา้ งหลงั และระหว่างขบวนขา้ งเคียง พลนาสารยานยนตป์ ฏิบตั ิงานจากศูนยก์ ารสื่อสาร เคล่ือนท่ซี ่ึงอยใู่ กล้ ๆ กบั ทก.ขบวนเดินทาง พลนาสารจะไดร้ บั มอบหนา้ ท่ีใหต้ ิดตามผบู้ งั คบั หน่วย และรถ เจา้ หนา้ ที่ท่ีสาคญั บางคนั และถา้ มีอากาศยานจะใชพ้ ลนาสารทางอากาศดว้ ย 3) การสื่อสารประเภททศั นสญั ญาณ จะใชเ้ ป็นหลกั อยา่ งกวา้ งขวาง รวมท้งั แผน่ ผา้ สญั ญาณ มือสญั ญาณและพลุสญั ญาณ วธิ ีการและเครื่องมือทศั นสญั ญาณเหล่าน้ีซ่ึงตอ้ งอาศยั สัญญาณท่ี ไดน้ ดั หมายกนั ไวล้ ่วงหนา้ น้นั ใชใ้ นการเตอื นภยั เกี่ยวกบั การโจมตขี องขา้ ศกึ ที่กาลงั จะเกิดข้ึน, การพิสูจน์ ทราบขบวนเดินทางฝ่ายเดียวกนั , ยานพาหนะพเิ ศษบางคนั , ทก.ขบวนเดินทาง และตาบลตกข่าว/ทงิ้ ข่าว 4) เมื่อการส่ือสารดว้ ยวทิ ยไุ ดร้ บั อนุญาตใหใ้ ชไ้ ด้ จะเป็นเครื่องมือทถ่ี ูกใชใ้ นการควบ คุมการเคลื่อนยา้ ยที่รวดเร็วและไดผ้ ลดีที่สุด อยา่ งไรก็ตาม การใชว้ ทิ ยอุ าจจะถูกหา้ มใชด้ ว้ ยเหตุผลเพื่อ การรักษาความปลอดภยั ทางการสื่อสารและหวงั ผลในการจูโ่ จม 5) วทิ ยถุ ่ายทอดอาจใชร้ ะหวา่ งการเคล่ือนยา้ ยได้ ถา้ หากจะไม่เป็ นอนั ตรายแก่การ รกั ษาความปลอดภยั และถ่วงความเร็วในการเคลื่อนท่ี ตามปกตใิ นระหวา่ งการเคล่ือนยา้ ยน้ัน การใชว้ ิทยุ ถ่ายทอดจะใชต้ ามแนวเดียวซ่ึงไปตามเส้นทางการเคล่ือนยา้ ย ในการจดั ต้งั การส่ือสารด้วยวิทยถุ ่ายทอด สถานีหลกั ควรจะต้งั ณ ทีม่ ีการบงั คบั บญั ชามากทสี่ ุด สถานีดงั กล่าวควรช่วยตวั เองได้
97 6) ปกตใิ นระหวา่ งการเคล่ือนยา้ ย ไม่มีการสร้างทางสาย เวน้ แต่ทางสายทหารและ พลเรือนทีม่ ีอยเู่ ดิมแลว้ จะใชไ้ ด้ 3.2.5 การเคลื่อนยา้ ยทางธุรการ การเคล่ือนยา้ ยแบบน้ีกระทาเม่ือคาดวา่ จะไม่มีการรบกวน จากขา้ ศึกทางพน้ื ดิน ดงั น้นั วทิ ยแุ ละเจา้ หนา้ ทีน่ าสารทใ่ี ชพ้ าหนะจงึ เป็ นเครื่องมือหลกั ในการส่ือสาร การ รักษาความปลอดภยั ทางวทิ ยจุ ะตอ้ งนามาใช้ เพอื่ ลดหรือป้องกนั ข่าวมิให้ขา้ ศึกทราบ ถา้ สามารถทาไดก้ ็ ใหจ้ ดั วางทางสายข้นึ ณ ทก. แห่งใหม่ เพอื่ ปฏบิ ตั ิงานไดเ้ ม่ือไปถึง 3.2.6 การส่ือสารระหวา่ งการหยดุ พกั ระหวา่ งการหยดุ พกั ชว่ั คราวการสื่อสารใหใ้ ชเ้ ช่นเดียว กบั ระหวา่ งเวลาเดิน ระหว่างการหยดุ พกั นาน ใหใ้ ชก้ ารนาสาร ส่วนวิทยยุ งั คงใชไ้ ด้ ยกเวน้ ในกรณีถูก ห้ามใช้ด้วยเหตุผลในการรักษาความปลอดภยั ถ้ามีส่วนล่วงหน้าอยู่ด้านหน้าขบวนเดินควรจะมี เจา้ หนา้ ท่สี ่ือสารร่วมอยดู่ ว้ ย เพอ่ื ทาการติดต้งั การส่ือสารในพ้นื ท่พี กั แรมซ่ึงอาจจะตอ้ งจดั วางทางสายข้ึน แตจ่ ะมากนอ้ ยเพยี งใดน้นั ข้นึ อยกู่ บั ความตอ้ งการในการใชโ้ ทรศพั ทป์ ริมาณสายท่ีมีอยู่ และหว้ งเวลาใน การหยดุ พกั 3.3 การสื่อสารระหวา่ งการเคลื่อนที่เขา้ ปะทะ 3.3.1 ชนิดของหน่วย (ยานเกราะ, ยานยนตห์ รือทหารราบ) จะบง่ ใหท้ ราบถึงปริมาณในการ ประสานงานทีจ่ าเป็ นก่อนที่หน่วยจะไปถึงฐานออกตี เน่ืองจากบางหน่วย เช่นยานเกราะหรือยานยนตซ์ ่ึง ยดึ หรือผ่านฐานออกตีชั่วระยะเวลาส้ัน ๆ อาจไม่มีเวลาพอที่จะประสานงานเกี่ยวกับการส่ือสารคร้ัง สุดทา้ ยได้ ถา้ จะมีการจดั ขบวนรบผ่านแนวออกตีจะตอ้ งจดั นตต.ระหว่างหน่วย และตอ้ งมีเจา้ หนา้ ที่ ช้ีทางในฐานออกตดี ว้ ย 3.3.2 การใชว้ ทิ ยุ ควรจะมีแผนเพอ่ื ใชค้ วบคุมการสื่อสารทางวทิ ยจุ นกวา่ จะถึงเวลาเขา้ ตี การ เปล่ียนแปลงปริมาณข่าวจากปกติจะเป็นการแสดงออกใหท้ ราบถึงการรบที่ใกลจ้ ะเกิดข้ึน ดงั น้ันเพอื่ เป็ น การป้องกันการดักฟังของขา้ ศึก การส่งข่าวตอ้ งใชข้ ่าวลวงเพื่อรักษาปริมาณข่าวให้คงระดับเดิมไว้ ในระหวา่ งทมี่ ีการเริ่มจดั รูปขบวนรบน้ี วทิ ยถุ ่ายทอดจะไม่มีการใชง้ าน แต่ชุดวิทยอุ ื่นๆ คงประจาอยู่ ณ ตาบลที่สนบั สนุนการปฏบิ ตั ิการยทุ ธทีจ่ ะเกิดข้นึ 3.3.3 เครื่องมือส่ือสารท่ีใช้เสริม ได้แก่ การนาสารและทัศนสัญญาณจะถูกนามาใช้อย่าง กวา้ งขวางในหว้ งเวลาทเ่ี กิดทศั นวสิ ยั ไม่ดีหรืออากาศปิ ดท้งั พลนาสารและเจา้ หนา้ ที่นาทางควรจะมีเครื่อง กรองแสงเพือ่ ลดมิให้ขา้ ศึกสังเกตุเห็นไดง้ ่าย การส่ือสารประเภทสายมีความตอ้ งการนอ้ ยมากในฐาน ออกตี หรือระหวา่ งเคล่ือนทีเ่ ขา้ ปะทะ 3.4 การส่ือสารในระหวา่ งการรบดว้ ยวธิ ีรุก 3.4.1 มาตรฐานของการรบดว้ ยวธิ ีรุก คอื การเขา้ ตีตรงหนา้ และเขา้ ตีโอบ การขยายผล เป็นการปฏิบตั ิการรบดว้ ยวธิ ีรุกอยา่ งเดียวซ่ึงกระทาหลงั จากการเขา้ ตตี รงหนา้ หรือการเขา้ ตีโอบสาเร็จลง แลว้ การไล่ติดตามเป็นการปฏิบตั ติ ่อจากการขยายผลไดเ้ สร็จส้ินลง ความสามารถของผูบ้ งั คบั บญั ชาใน การบงั คบั บญั ชาและควบคุมหน่วยตา่ งๆ ของตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเป็นปัจจยั สาคญั ในการจะนาไปสู่
98 ความสาเร็จของการปฏิบตั ิการรบดว้ ยวิธีรุก การส่ือสารท่ีเหมาะสมและเช่ือถือไดเ้ ป็ นส่ิงสาคญั ที่สุดใน การเขา้ ตี การสื่อสารยงั ช่วยให้ผบู้ งั คบั บญั ชาสามารถสงั่ การรวบรวมกาลงั ท่ีกระจดั กระจายกนั อยู่ และ ใชป้ ระโยชนข์ องความคล่องตวั ทางยทุ ธวธิ ีไดอ้ ยา่ งเตม็ ทใี่ นอนั ท่ีจะดารงความมุ่งหมายของภารกิจท่ไี ดร้ ับ มอบไว้ 3.4.2 แผนและคาสงั่ การส่ือสาร แผนการสื่อสารซ่ึงสนบั สนุนการเขา้ ตีจะตอ้ งประสาน สอดคลอ้ งกบั แผนยทุ ธการ และข้ึนอยู่กบั ภารกิจและการประกอบกาลงั รบโดยตรง แผนจะตอ้ งมีความ อ่อนตวั เพยี งพอที่จะจดั การส่ือสารให้กับกองหนุนท่ีจดั ต้งั ข้ึนได้ดว้ ย ฝ่ ายการสื่อสารจะตอ้ งประสาน แผนการส่ือสารกบั หน่วยที่ข้ึนสมทบและหน่วยให้การสนบั สนุนต่าง ๆ ถา้ หากมีเวลาเพียงพอ ควรให้ ฝ่ ายอานวยการรับรองแผนเสียก่อน แต่อยา่ งไรก็ตาม การเร่ิมตน้ ปฏิบตั ิจริง ๆ น้ันไม่ควรเสียเวลารับรอง แผน เมื่อไม่มีคาแนะนาโดยละเอียดก็ใหใ้ ชค้ าสงั่ เป็นส่วน หรือ รปจ. ของหน่วยไม่วา่ เป็ นขอ้ เขียนหรือ คาพดู กไ็ ด้ คาแนะนาการสื่อสารสาหรับหน่วยรองควรจะกล่าวถึงการใชก้ ารนาสาร วทิ ยุ วทิ ยถุ ่ายทอด และระบบทางสาย ตลอดจนเรื่องท่ีจะตอ้ งประสานงานอ่ืน ๆ ซ่ึงมิไดก้ ล่าวไวใ้ น รปจ. ของหน่วย 3.4.3 การสื่อสารระหวา่ งการเขา้ ตีตรงหนา้ ในการเขา้ ตีน้ันเวลาท่ีมีในการเตรียมการจะบงั คบั ขอบเขตและชนิดของเครื่องมือส่ือสารทจี่ ะใช้ ลกั ษณะของการส่ือสารทีใ่ ชม้ ีดงั น้ี 1) ศนู ยก์ ารสญั ญาณหรือศนู ยก์ ารส่ือสาร แต่ละ ทก.หลกั ของหน่วยท่ีทาการเขา้ ตี จะ จดั ต้งั ศูนยก์ ารสัญญาณหรือศูนยก์ ารสื่อสารข้ึนตามความเหมาะสมเพ่ือใชใ้ นการดาเนินงาน ศูนยก์ าร สญั ญาณและ/หรือศูนยก์ ารส่ือสาร ทจ่ี ดั ต้งั ข้ึนน้นั ตอ้ งใหอ้ ยใู่ นลกั ษณะท่ีสามารถสนบั สนุนการปฏิบตั ิการ รุกในข้นั ต่อ ๆ ไปได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยให้มีการเคลื่อนยา้ ยน้อยที่สุด ถ้ามีการเคลื่อนยา้ ยศูนย์ เหล่าน้นั ใหป้ ฏิบตั ดิ ว้ ยความรวดเร็ว โดยใหพ้ จิ ารณาแหล่งการสื่อสารที่มีอยกู่ ่อนแลว้ รวมถึงเครื่องมือ สื่อสารสารองหรือทใ่ี ชง้ านนอ้ ย 2) การนาสารใชไ้ ดผ้ ลดีเป็นอยา่ งมากระหวา่ งการเขา้ ตี การนาสารทใี่ ชอ้ ยา่ งกวา้ ง ขวางน้นั ไดแ้ ก่ พลนาสารพเิ ศษเดินเทา้ ยานยนตแ์ ละอากาศยาน ท้งั น้ีเพราะวา่ ลกั ษณะท่ีอ่อนตวั ไดต้ าม สถานการณ์ในการเขา้ ตีเป็นส่วนมาก อยา่ งไรก็ดีความเร็วเป็ นส่ิงสาคญั ท่ีสุด และเป็ นส่วนหน่ึงสาหรับ ลกั ษณะของขา่ วที่จะส่งดว้ ยการนาสารดงั กล่าวน้ี 3) การส่ือสารประเภททศั นสญั ญาณและเสียงสญั ญาณ ใชใ้ นระหวา่ งการเขา้ ตี เพอื่ ส่งขา่ วทีน่ ดั หมายกนั ไวล้ ่วงหนา้ ตามท่รี ะบไุ วใ้ น นปสอ. 4) การส่ือสารประเภทวทิ ยุ ก่อนการปะทะกบั ขา้ ศกึ โดยปกตจิ ะจากดั การใชว้ ทิ ยุ เพอ่ื ผลการจ่โู จม หลงั จากการเขา้ ตหี รือปะทะกบั ขา้ ศึกแลว้ จึงเร่ิมใชว้ ทิ ยไุ ด้ ขอ้ จากดั พเิ ศษต่าง ๆ สาหรับ การใชง้ านของวทิ ยถุ ่ายทอดจะยกเลิกไปและจะกลายเป็ นเคร่ืองมือสื่อสารหลกั ทนั ที อยา่ งไรก็ตามการ รักษาความปลอดภยั ทางวิทยจุ ะตอ้ งดารงไว้ เนื่องจากวิทยนุ ้ันเป็ นแหล่งข่าวกรองที่ดียิง่ สาหรับขา้ ศึก สถานีวิทยตุ ่าง ๆ ควรจะรักษาปริมาณของข่าวไวต้ ามปกติ เพื่อเป็ นการลวงมิให้ขา้ ศึกทราบถึงการ เปล่ียนแปลงใหม่ ๆ หรือทีจ่ ะเกิดข้ึนตามแผนการเขา้ ตี
99 5) การสื่อสารประเภทสายในระยะของการเขา้ ตีจดั เป็นเคร่ืองมือส่ือสารรองจากวทิ ยุ ในข้นั แรกจะจดั ต้งั วงจรท่ีสาคญั ให้น้อยที่สุดเท่าท่ีจาเป็ น และจากน้ันระบบทางสายจะขยายออกอยา่ ง รวดเร็วเท่าท่ีจะทาได้จนเพียงพอแก่ความต้องการ ปัจจยั เวลาที่มีอยู่และสถานการณ์ทางยุทธวิธีท่ี เปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว รวมถึงอุปกรณ์ประเภทสายและเจา้ หนา้ ที่ที่มีอยู่ จะเป็ นปัจจยั จากดั เกี่ยวกบั การ ขยายการตดิ ต้งั ระบบทางสาย 3.4.4 การส่ือสารในการเขา้ ตีโอบ ในการเขา้ ตโี อบน้นั กาลงั ส่วนเขา้ ตีจะหลีกเล่ียงจากบริเวณ ตา้ นทานหลกั ของขา้ ศึกและอ้อมไปยงั ท่ีหมายในพ้ืนที่ดา้ นหลงั โดยผา่ นดา้ นปี กของขา้ ศึก ดงั น้ันการ สื่อสารทีใ่ ชจ้ งึ เหมือนกบั การเขา้ ตตี รงหนา้ แต่กม็ ีขอ้ แตกต่างกนั บา้ งเนื่องจากระยะทางการส่ือสารท่ีไกล ข้ึน และความตอ้ งการเกี่ยวกบั ความเร็วในการปฏิบตั ิทางยทุ ธวธิ ีและการจู่โจมจะเพิ่มข้ึน ระยะเวลาใน การจากดั การใชว้ ทิ ยอุ าจจะนานข้นึ 3.4.5 การส่ือสารระหวา่ งการขยายผล การปฏบิ ตั กิ ารระหวา่ งการขยายผลของการรบดว้ ย วธิ ีรุกตอ้ งทาในลกั ษณะหา้ วหาญ ใชอ้ านาจจากการยงิ เท่าที่มีอยอู่ ยา่ งฉบั พลบั ใชก้ องหนุนอยา่ งรวดเร็ว และไม่ลงั เล หน่วยต่าง ๆ ท่เี กาะอยกู่ บั ขา้ ศึกทีก่ าลงั ถอยหนี ใชก้ ารส่ือสารเช่นเดียวกบั การเขา้ ตีตรงหนา้ การเคลื่อนยา้ ย ทก. ระหวา่ งการขยายผลจะตอ้ งรวดเร็วและบ่อยคร้ัง แตอ่ ยา่ งไรก็ตามศูนยก์ ารสญั ญาณ ก็ ยงั ตอ้ งปฏิบตั ิงานอยา่ งต่อเน่ืองเสมอ ในการปฏิบตั ิการเขา้ ตีเพ่ือขยายผลน้ี มีการใช้เครื่องมือส่ือสาร ดงั ต่อไปน้ี 1) การนาสาร พลนาสารยานยนตท์ ้งั หมดเทา่ ทม่ี ีอยจู่ ะถูกนามาใชท้ ศี่ นู ยก์ ารสญั ญาณ หรือศนู ยก์ ารส่ือสาร เพราะระยะทางระหวา่ ง ทก. และหน่วยต่างๆ ท่ีไกลเกินไปสาหรบั พลนาสารเดินเทา้ และอาจจะตอ้ งต้งั ตาบลช่วงต่อพลนาสารข้ึนมารองรับ นอกจากน้ันจะตอ้ งเพิ่มการใชพ้ ลนาสารทาง อากาศใหม้ ากข้ึน 2) การสื่อสารประเภททศั นสญั ญาณ กาลงั ทหารฝ่ ายเดียวกนั ทีป่ ิ ดลอ้ มขา้ ศึกอยู่ จะ ติดตอ่ สื่อสารกบั เครื่องบินฝ่ายเดียวกนั โดยการใชแ้ ผน่ ผา้ สญั ญาณปูแสดงเพอ่ื บอกฝ่ ายให้กบั เครื่องบินท่ี ทาการสนบั สนุนตน พลุสญั ญาณชนิดตา่ ง ๆ ใหน้ ามาใชไ้ ดด้ ว้ ย 3) การส่ือสารประเภทวทิ ยุ อตั ราการเคลื่อนทไ่ี ปขา้ งหนา้ อยา่ งรวดเร็วทาใหว้ ทิ ยเุ ป็ น เครื่องมือส่ือสารท่ีเหมาะสมท่ีสุดในการเขา้ ตีเพอื่ การขยายผล ระยะทางระหวา่ งหน่วยต่าง ๆ และศูนย์ การสญั ญาณ อาจมีความตอ้ งการใชว้ ิทยตุ ิดต่อในระยะไกล การใชว้ ิทยถุ ่ายทอดระหวา่ งการขยายผลมกั ถูกจากดั เสมอ เน่ืองจากความเร็วในการรุกไปขา้ งหนา้ ถา้ ทาไดร้ ะบบวทิ ยถุ ่ายทอดจะถูกตดิ ต้งั ข้นึ โดยใช้ แผนเดียวกนั กบั การเคลื่อนยา้ ยทางยทุ ธวธิ ี 4) การสื่อสารประเภททางสาย การปฏิบตั ิการขยายผลอนั รวดเร็ว ทาใหไ้ ม่สามารถ จดั สรา้ งทางสายข้นึ ได้ ทางสายทอ้ งถ่ินทมี่ ีอยแู่ ลว้ ตามเสน้ ทางอาจจะใชไ้ ดถ้ า้ มีโอกาส
100 3.5 การส่ือสารระหวา่ งการต้งั รับ 3.5.1 ระบบการสื่อสารในสถานการณ์ต้งั รับจะตอ้ งพจิ ารณาอยา่ งกวา้ งขวางในเร่ืองปัจจยั เวลา ท่ีมีอย,ู่ การวางแผนล่วงหน้าในการใชเ้ ครื่องมือส่ือสาร และการลาดตระเวนของเจา้ หน้าท่ีส่ือสารซ่ึง นบั วา่ เป็นส่ิงสาคญั ยงิ่ การดาเนินการและการปฏบิ ตั ติ ่าง ๆ เช่นเดียวกบั การเขา้ ตี แต่ระบบการสื่อสารใน การต้งั รับจะตอ้ งมีความประณีตแน่นแฟ้นย่ิงกวา่ ปกติมักจะมีเวลาปรับปรุงระบบการส่ือสารให้ดีข้ึน รวมท้งั การเลือกและเตรียม ทก.สารอง ซ่ึงจะอยหู่ ่างออกมาทางดา้ นหลงั มากกวา่ การเขา้ ตี แบบของการ ต้งั รับจะเป็ นเครื่องกาหนดประเภทของการสื่อสารที่ใชใ้ นภารกิจตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 3.5.1.1 เม่ือภารกิจกาหนดใหย้ ดึ ภมู ิประเทศแห่งใดแห่งหน่ึงไว้ ผบู้ งั คบั หน่วยอาจจะ ทาการต้งั รับเป็นพ้นื ที่ และมอบความไวว้ างใจส่วนใหญ่ไวก้ บั อานาจการยงิ และกาลงั ที่มีอยใู่ นท่ีมน่ั ซ่ึง ในสถานการณ์เช่นน้ี การส่ือสารประเภททางสายจะถูกนามาใชเ้ ป็ นเคร่ืองมือส่ือสารหลกั 3.5.1.2 ถา้ ทาการต้งั รบั แบบคล่องตวั ความไวว้ างใจส่วนใหญ่จะมอบไวก้ บั การดาเนิน กลยุทธ, การยงิ และการปฏิบตั ิการรุกเพอ่ื ให้ภารกิจในการต้งั รับบรรลุผลสาเร็จลงได้ ในสถานการณ์ เช่นน้ีการส่ือสารประเภทวทิ ยแุ ละการนาสารจะถูกนามาใชเ้ ป็ นเครื่องมือส่ือสารหลกั 3.5.1.3 เม่ือจะตอ้ งทาการต้งั รับแบบใดแบบหน่ึงอยา่ งเร่งด่วน เครื่องมือสื่อสารเท่าทใ่ี ชอ้ ยู่ แลว้ คงใชต้ อ่ ไป เครื่องมือเหล่าน้ีจะตอ้ งไดร้ บั การเพม่ิ เตมิ เมื่อเวลาและเหตกุ ารณ์ทางยทุ ธวธิ ีอานวย 3.5.2 โดยทว่ั ไป ถ้าเป็ นการจัดท่ีมน่ั ต้งั รับแข็งแรงและมีกาลงั เขม้ แข็ง การใช้การส่ือสาร ยอ่ มจะกระทาไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง 3.5.3 การใชก้ ารสื่อสารในการต้งั รับ ระบบการส่ือสารจะเชื่อมตอ่ กบั หน่วยหลกั ตา่ งๆ ทีม่ ีอยู่ ไดแ้ ก่ หน่วยกาบงั , กองรกั ษาด่านรบ และกองหนุนเขา้ ดว้ ยกนั นอกจากน้ีหน่วยอาจมีความตอ้ งการต่อเขา้ กบั ระบบการส่ือสารของหน่วยอ่ืนกไ็ ด้ เช่น สนามบนิ , หน่วยสมทบและ/หรือหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ และส่วนตา่ ง ๆ ของ ทก. ประเภทการส่ือสารทใี่ ชไ้ ดแ้ ก่ 3.5.3.1 ตามปกตศิ ูนยก์ ารสญั ญาณจะไม่มีการเคลื่อนยา้ ยบ่อย ๆ ในขณะทาการต้งั รบั แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม อยา่ งนอ้ ยทสี่ ุดเจา้ หนา้ ท่ปี ระจาศูนยก์ ารสญั ญาณ ก็จะตอ้ งพร้อมที่จะยา้ ยที่ต้งั ไดใ้ นทนั ที ท่ไี ดร้ ับคาสงั่ 3.5.3.2 พลนาสารพเิ ศษนบั วา่ มีความจาเป็ นในขณะการจดั ท่ีมน่ั ต้งั รบั หลงั จากการจดั ทม่ี นั่ เสร็จเรียบร้อยแลว้ พลนาสารพเิ ศษกเ็ ปล่ียนเป็ นพลนาสารตามกาหนดเวลาไป 3.5.3.3 ทศั นสญั ญาณ อาจใชเ้ ป็นประโยชนไ์ ดใ้ นการต้งั รบั เช่นเดียวกบั สถานการณ์ อ่ืนๆ แผน่ ผา้ สญั ญาณหรือเคร่ืองมือทศั นสญั ญาณอ่ืนๆ จะถูกใชใ้ นการหมายแนวหรือหมายหน่วยก็ได้ นอกจากน้นั แผน่ ผา้ สญั ญาณยงั ใชส้ ่งข่าวส้นั ๆ เป็ นประมวลสญั ญาณไดอ้ ีกดว้ ย 3.5.3.4 การส่ือสารประเภทวทิ ยใุ ชเ้ ป็นเครื่องมือสื่อสารรองจากการส่ือสารประเภท ทางสายแบบหลายช่องและการนาสาร ข่ายวทิ ยยุ งั คงเปิ ดทาการ แตใ่ หอ้ ยใู่ นสถานการณ์เงียบรับฟัง ท้งั น้ี เพอ่ื เสริมการส่ือสารประเภททางสายแบบหลายช่องในกรณีทเี่ กิดขดั ขอ้ งข้ึน อยา่ งไรก็ตามในหว้ งเวลา
101 ของการเริ่มตน้ ในการปฏิบตั ิการต้งั รับ ถา้ มีความปลอดภยั เพยี งพอ ระบบวทิ ยถุ ่ายทอดอาจจะถูกนามาใช้ ได้ ท้งั น้ีเพอื่ ใหจ้ านวนวงจรมีมากพอตามความตอ้ งการ 3.5.3.5 การส่ือสารประเภททางสายจะถูกนามาใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง และตอ้ งจดั ทาอยา่ ง ประณีตเท่าท่ีเวลาและความสามารถจะอานวยให้ วงจรท่ีมีความเร่งด่วนสูงจะตอ้ งจดั สร้างข้ึนอยา่ ง รวดเร็วท่สี ุดเท่าทจี่ ะทาได้ เพอ่ื สนองความตอ้ งการไดท้ นั ที ต่อจากน้ันจะตอ้ งจดั วงจรเพ่ิมเติมข้ึน เพ่ือให้ สามารถส่งขา่ วและมีความคล่องตวั สูงข้ึน 3.6 การสื่อสารระหวา่ งการร่นถอย 3.6.1 การร่นถอยไดแ้ ก่การถอนตวั การรบหน่วงเวลา การผละจากการรบ หรือการใชก้ าร ปฏบิ ตั ิเหล่าน้ีร่วมกนั โดยทวั่ ไปแลว้ ในการร่นถอยมกั จะตอ้ งใชก้ ารปฏิบตั ิเหล่าน้ีร่วมกนั เสมอ การใช้ การสื่อสารระหว่างการร่นถอย ในขณะเตรียมการร่นถอย ระบบการส่ือสารท่ีมีอยู่ยงั คงใชง้ านต่อไป อยา่ งไรก็ตาม ณ ท่ีต้งั ทก. ซ่ึงจะท้ิงไปในไม่ชา้ น้นั ใหม้ ีการติดต้งั เคร่ืองมือสื่อสารใหม่แต่ให้นอ้ ยท่ีสุด โดยพยายามใชเ้ ครื่องมือสื่อสารทมี่ ีอยเู่ ดิมใหม้ ากทีส่ ุด การส่ือสารทใี่ ชน้ ้นั จะมีดงั ตอ่ ไปน้ี 3.6.1.1 การนาสารในระหวา่ งการร่นถอย จะเพมิ่ พลนาสารพิเศษข้นึ ทศ่ี นู ยก์ ารสื่อสาร หรือศูนยก์ ารสัญญาณและเพือ่ สนับสนุนความตอ้ งการเป็ นพิเศษของผูบ้ งั คบั หน่วยและฝ่ ายอานวยการ พลนาสารบางคนใหท้ ง้ิ ไว้ ณ ท่ตี ้งั ทก. เก่า เพอื่ เป็ นการประกนั วา่ การสนบั สนุนหน่วยทีท่ ้ิงไวป้ ะทะขา้ ศึก ยงั คงมีตอ่ เนื่องกนั ไป 3.6.1.2 ทศั นสญั ญาณและแผน่ ผา้ สญั ญาณ เป็ นเครื่องมือท่ีใชไ้ ดผ้ ลดีในการแสดงบอก ฝ่ ายและใชเ้ ป็ นเครื่องหมายสาหรับหน่วยท่กี าลงั ถอนตวั 3.6.1.3 การสื่อสารประเภทวทิ ยุ จะตอ้ งวางระเบียบการใชร้ ะหวา่ งหน่วยทีจ่ ะถอนตวั ท้งั หมดเพอ่ื เป็นการลวง อาจต้งั สถานีลวงข้ึน ณ ที่มน่ั เก่ากไ็ ด้ เพอ่ื รักษาปริมาณของข่าวใหอ้ ยใู่ นระดบั ปกติไว้ การเงียบรับฟังอาจตอ้ งบงั คบั ใชจ้ นกว่าหน่วยที่ทาการถอนตวั จะไปถึงที่มน่ั ท่ีกาหนดไว้ หรือ เม่ือมีการปะทะกบั ขา้ ศึก ณ ทใี่ ดทีห่ น่ึง 3.6.1.4 การส่ือสารประเภทสาย ในระหวา่ งการร่นถอย การส่ือสารทางสายทใ่ี ชอ้ ยเู่ ดิม ยงั คงใชต้ อ่ ไป การจดั สรา้ งทางสายข้นึ ใหม่น้นั จะตอ้ งใหม้ ีนอ้ ยทส่ี ุด เม่ือการร่นถอยไดด้ าเนินต่อไปทาง สายต่างๆ ซ่ึงหน่วยทถี่ อนตวั ออกไปหรือหน่วยที่ท้งิ ไวป้ ะทะขา้ ศึกเลิกใชแ้ ลว้ จะตอ้ งทาการเก็บ ถา้ หาก ไม่สามารถทาการเก็บสายไดจ้ ะตอ้ งทาลายทางสายเหล่าน้ันเสีย โดยการร้ือถอนออกเท่าที่จะทาได้ ถ้า เป็นไปได้ ณ ตาบลควบคุมการเดินตามเสน้ ทาง ควรจะจดั ใหม้ ีการส่ือสารข้ึนโดยการเกาะวงจรทางสาย ที่ตอ่ ไปขา้ งหลงั ซ่ึงมีอยแู่ ลว้ 3.7 การสื่อสารระหวา่ งการผา่ นแนวและการผลดั เปลี่ยนกาลงั 3.7.1 ในการผ่านแนวและการผลัดเปล่ียนกาลังให้ประสบผลสาเร็จอยา่ งสมบูรณ์น้ัน ฝ่ ายการส่ือสารของหน่วยที่เกี่ยวขอ้ ง จะตอ้ งประสานงานกนั อยา่ งใกลช้ ิดเพอื่ ป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดการสบั สน และการตรวจพบโดยขา้ ศึก หรือถา้ เกิดข้ึนก็ใหน้ อ้ ยทส่ี ุด ถา้ สามารถจะทาไดห้ นทางปฏบิ ตั ิทดี่ ี คือการส่ง
102 เจา้ หนา้ ที่ส่ือสารของหน่วยท่ีจะไปสบั เปลี่ยนหรือผ่านแนวเขา้ ไปยงั พ้นื ที่น้ันเพ่ือศึกษาหารายละเอียดก่อน กาลงั ส่วนใหญจ่ ะเขา้ ไปในพน้ื ที่ 3.7.2 การสื่อสารระหวา่ งการผา่ นแนว สาหรับหน่วยทีจ่ ะผา่ นแนวจะตอ้ งใชก้ ารสื่อสารอยา่ ง จากดั ใหม้ ากท่ีสุดเทา่ ทจ่ี ะทาได้ จงจรบางจงจรของหน่วยในที่มนั่ ต้งั รับที่มีอยอู่ าจจะยอมใหห้ น่วยท่ีจะผา่ น ใชไ้ ด้ คาแนะนาการปฏิบตั เิ กี่ยวกบั การสื่อสารทใ่ี ชม้ ีดงั น้ี 3.7.2.1 การนาสารของหน่วยผา่ นแนว ใหป้ ฏิบตั ิในลกั ษณะพิเศษ ส่วนการนาสาร ของ หน่วยทถี่ ูกผา่ นยงั คงปฏบิ ตั ิตามปกติ ระหวา่ งหน่วยท้งั สองจะตอ้ งมีการนาสารถึงกนั 3.7.2.2 การส่ือสารประเภททัศนสัญญาณ ใช้สาหรับการบอกฝ่ ายและตอ้ งเป็ น สญั ญาณทีไ่ ดน้ ดั หมายกนั ไวล้ ่วงหนา้ เท่าน้นั เช่น แขนและมือสญั ญาณ แผน่ ผา้ สญั ญาณและพลุสัญญาณ เป็ นตน้ 3.7.2.3 การสื่อสารประเภทวทิ ยุ การใชง้ านจะตอ้ งอยใู่ นขอบเขตจากดั ท้งั หน่วย อยกู่ บั ท่ี และหน่วยเคล่ือนทีผ่ า่ นแนว ความถี่ตา่ ง ๆ ทใ่ี ชแ้ ละระเบยี บปฏิบตั ิจะตอ้ งมีการประสานงานกนั อยา่ งระมดั ระวงั ระหวา่ งหน่วยท่เี ก่ียวขอ้ ง 3.7.2.4 อุปกรณ์วทิ ยถุ ่ายทอดของหน่วยทจ่ี ะผา่ นแนวทหารฝ่ายเดียวกนั ไม่ควรใช้ จนกว่าจะผ่านไปแลว้ อยา่ งไรก็ตามหน่วยในที่มนั่ ต้งั รับ ควรจะรักษาจานวนข่าวของวิทยถุ ่ายทอดไว้ ตามปกตหิ น่วยทจี่ ะผา่ นแนว อาจขอใชเ้ คร่ืองมือส่ือสารของหน่วยในทม่ี น่ั ต้งั รบั กไ็ ด้ 3.7.2.5 การสื่อสารประเภทสายของหน่วยทีถ่ ูกผา่ นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งใด ถา้ เป็นไปได้ ใหห้ น่วยทีเ่ คล่ือนทผ่ี า่ นใชว้ งจรทางสายของหน่วยทถ่ี ูกผา่ นใหม้ ากที่สุดเทา่ ทีจ่ ะอานวยให้ 3.7.3 การส่ือสารระหว่างการผลดั เปลี่ยนกาลงั เคร่ืองมือส่ือสารของหน่วยท่ีไดร้ ับการ ผลดั เปลี่ยนยงั คงอยใู่ นสภาพเดิมจนกวา่ การผลดั เปลี่ยนกาลงั จะเรียบร้อย เคร่ืองมือส่ือสารที่ใชอ้ ยเู่ ดิมให้ ใชง้ านต่อไปจนกวา่ หน่วยใหม่ที่มาผลดั เปล่ียนกาลงั จะเขา้ รับหน้าท่ีแทน หรือหมดความตอ้ งการใชง้ าน เครื่องมือสื่อสารแลว้ เพอ่ื ป้องกนั มิให้ขา้ ศึกทราบถึงการเปล่ียนแปลงในสถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ี หน่วย ใหม่ท่ีเขา้ มาผลดั เปลี่ยนตอ้ งใชม้ าตรการต่าง ๆ ท่ีจาเป็ นในการรักษาความปลอดภยั ทางการส่ือสาร มาตรการเหล่าน้ีไดแ้ ก่ การใชร้ ะบบบอกพวก, การใชป้ ระมวลลบั และรหัสของหน่วยเดิม ทางท่ีดีหน่วย ใหม่ทม่ี าผลดั เปล่ียนควรจะใชเ้ ครื่องมือส่ือสารทม่ี ีอยแู่ ลว้ ต่อไปให้มากที่สุด โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ วงจรทาง สาย อยา่ งไรกต็ ามการแลกเปลี่ยนเคร่ืองมือสื่อสารตามอตั ราการจดั (อจย.) น้นั จะตอ้ งไดร้ ับการยนิ ยอม ร่วมกนั ของหน่วยท่ีเกี่ยวขอ้ ง การแลกเปล่ียนดังกล่าวน้ียอ่ มข้ึนอยกู่ ับสถานการณ์ฉุกเฉินทางยุทธวิธี คาแนะนาเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิการสื่อสารมีดงั น้ี 3.7.3.1 การนาสาร หน่วยใหม่ทเี่ ขา้ ผลดั เปลี่ยน จดั การนาสารโดยทาตารางการนา สารร่วมตามขอ้ ตกลงระหวา่ งหน่วยท้งั สองน้นั
103 3.7.3.2 ประเภทวทิ ยุ ขา่ ยวทิ ยขุ องหน่วยที่ถูกผลดั เปล่ียนจะตอ้ งถูกใชง้ านตอ่ ไป จนถึงเวลาท่ีได้ตกลงกันไวร้ ะหว่างฝ่ ายการส่ือสารของท้งั สองหน่วย ตามปกติ ภายหลงั จากที่การ ผลดั เปล่ียนไดเ้ สร็จสิ้นแลว้ หน่วยท่ีถูกผลดั เปล่ียนจะตอ้ งใชข้ ่ายวิทยขุ องหน่วยตนต่อไปชว่ั ระยะเวลา หน่ึง ท้งั น้ีเพอ่ื เป็ นการรักษาความปลอดภยั ทางการส่ือสาร โดยจะตอ้ งมีการประสานงานและตกลงกนั ระหวา่ งนายทหารการข่าว และฝ่ ายการส่ือสารของหน่วยท่ีเกี่ยวขอ้ ง ข่ายวิทยขุ องนายทหารติดต่ออาจ จดั สร้างข้ึนใหม่ก็ได้ หรืออนุญาตใหน้ ายทหารตดิ ตอ่ ของหน่วยท้งั สองน้ันใชค้ วามถี่ในข่ายวทิ ยทุ ี่ใชง้ าน อยทู่ าการติดต่อกนั ดว้ ยวทิ ยทุ ม่ี ีในอตั รา การใชว้ ิทยถุ ่ายทอดสาหรับการผลดั เปล่ียนกาลงั จะตอ้ งปฏิบตั ิ ในลกั ษณะเดียวกนั กบั การผา่ นแนว 3.7.3.3 ประเภททางสาย วงจรทางสายและเคร่ืองสลบั สายต่างๆ ของหน่วยท่ีถูก ผลัดเปล่ียนน้ัน หน่วยที่ทาการผลัดเปลี่ยนจะเข้ารับหน้าที่แทนต่อไป ท้งั น้ีข้ึนอย่กู ับการพิจารณา แลกเปลี่ยนอุปกรณ์ตามทกี่ ล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ ------------------------------------------ หลกั ฐานอ้างองิ : 1. รส.11-21 2. นส. 17-11-6 (รร.ม.ศม.)
104 บทท่ี 8 คาสั่ง, บันทกึ และรายงานการสื่อสาร (SIGNAL ORDER,MEMORANDUMS and REPORTS) 1. กล่าวท่วั ไป ในบทน้ีจะกล่าวถึงรายละเอียดการจดั ทาแผนและคาสั่งการสื่อสาร รวมถึงการจดั ทาเอกสารต่างๆ ท่ีเก่ียวกบั การส่ือสารซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึงของงานในหน้าที่ของนายทหารฝ่ ายการส่ือสาร (ฝสส.) ของหน่วย ลาดบั ข้นั การจดั ทาแผนจะเริ่มจากการประมาณสถานการณ์ การประมาณการและแผนการสื่อสาร ฝสส.ของ หน่วยตอ้ งมีความเขา้ ใจและความรอบรู้ในเรื่องการจดั ทาแผนการสื่อสารเป็ นอย่างดี และเพื่อให้แผนการ ส่ือสารเป็นไปอยา่ งมีระบบ ฝสส. ตอ้ งมีความรู้ในเรื่องการเขียนคาสงั่ การสื่อสาร ตลอดจนมาตรการควบคุม และกากบั ดูแลการปฏิบตั ิงานของเจา้ หนา้ ที่สื่อสารและยทุ โธปกรณ์สายส่ือสารอีกดว้ ย 2. การประมาณสถานการณ์ การประมาณสถานการณ์ คอื การคาดการณ์ล่วงหนา้ วา่ จะเกิดอะไรข้นึ ตอ่ ไป ผลของการประมาณ สถานการณ์จะแตกต่างกนั ไปตามผปู้ ระมาณสถานการณ์น้ัน กล่าวคือ ผูบ้ งั คบั บญั ชาประมาณสถานการณ์ เพอื่ หาขอ้ ตกลงใจ ส่วนฝ่ายอานวยการก็ประมาณสถานการณ์เพอื่ หาขอ้ เสนอแนะ ในหน่วยระดบั กองพล ลงมามกั ทาประมาณสถานการณ์เพยี งในใจ ส่วนหน่วยใหญก่ วา่ กองพล การประมาณสถานการณ์จะกระทา เป็น ลายลกั ษณ์อกั ษร 2.1 หวั ขอ้ การประมาณสถานการณ์ / การประมาณการ 2.1.1 ภารกิจ ตอ้ งศึกษาใหเ้ กิดความเขา้ ใจทกุ แงท่ ุกมุมของภารกิจ รวมถึงข้นั ตอนในการปฏิบตั ิซ่ึง จะระบุอยใู่ นคาสง่ั หรือคาแนะนาของหน่วยเหนือ หรือความรอบรู้ในสถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ีของฝ่ ายเรา หรือจากทีก่ าหนดไวใ้ น รปจ. ของหน่วย ท้งั น้ีเพอ่ื เป็ นการประกนั ไดว้ ่าสามารถสนบั สนุนหน่วยต่างๆ ให้ สาเร็จภารกิจได้ 2.1.2 สถานการณ์และหนทางปฏบิ ตั ิ เมื่อศึกษาและเขา้ ใจในภารกิจจนเกิดความมนั่ ใจแลว้ ข้นั ตอน ต่อไปก็คือ การคน้ หาและรวบรวมขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ ยง่ิ ไดม้ ากเท่าไรก็ยงิ่ ประมาณการได้รอบคอบยงิ่ ข้ึน ในบางคร้ังเมื่อเกิดการขาดแคลนขอ้ เท็จจริงข้ึน ก็อาจกาหนดสมมุติฐานข้ึนได้ ขอ้ เท็จจริงท่ีตอ้ งการมีอยู่ ดว้ ยกนั 4 ประการคือ 2.1.2.1 ลกั ษณะของพ้นื ทปี่ ฏิบตั ิการ ควรพจิ ารณาในเรื่อง 1) สภาพของลมฟ้าอากาศและบรรยากาศที่จะมีผลกระทบตอ่ ระบบสื่อสาร 2) การแพร่กระจายของคลื่นวทิ ยตุ ามความถ่ีต่างๆ ในแต่ละหว้ งของการยทุ ธที่สาคญั 3) ระบบการสื่อสารทอ้ งถ่ินทม่ี ีอยู่ (คานึงถึงความปลอดภยั ในการใชท้ างทหารดว้ ย) 2.1.2.2 สถานการณ์ฝ่ายขา้ ศึก ควรพจิ ารณาในเร่ือง 1) การวางกาลงั ของหน่วยสงครามอีเล็กทรอนิกส์ของขา้ ศึก 2) การผา่ นพน้ื ที่ทีห่ นาแน่นดว้ ยความถ่ีและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
105 3) การจดั กาลงั หน่วยส่ือสาร 4) จุดเด่นและจุดอ่อน 2.1.2.3 สถานการณ์ฝ่ายเรา ควรพจิ ารณาในเรื่อง 1) การวางและประกอบกาลงั ของ หน่วย ส.ของฝ่ ายเราท่ีมีอยู่ 2) หน่วย ส. ทมี่ ีสารองไว้ 3) ขวญั และสภาพการฝึกของหน่วย ส. 4) หน่วยและระบบท่ีเป็นจุดอ่อนต่อการสงครามอิเล็กทรอนิคสจ์ ากขา้ ศกึ 5) การส่งกาลงั บารุงสาย ส. 2.1.2.4 หนทางปฏบิ ตั ิตา่ งๆ เป็ นขอ้ พจิ ารณาประการสุดทา้ ยท่ีอาจเกิดข้นึ ไดห้ ลายหนทาง ปฏบิ ตั ิท่ีจะนาไปสู่ความสาเร็จของภารกิจ แต่ตอ้ งอยใู่ นขีดความสามารถดว้ ย หนทางปฏิบตั ิแต่ละหนทาง จะแสดงใหเ้ ห็นวา่ จะใชก้ ารส่ือสารอะไรไปสนบั สนุนใหใ้ คร, ทไ่ี หน, เม่ือไร และอยา่ งไร 2.1.3 การวเิ คราะหห์ นทางปฏบิ ตั ขิ องท้งั สองฝ่ าย เพอื่ ประเมินคา่ หนทางปฏบิ ตั ิต่างๆ ที่กาหนดไว้ วา่ จะมีอิทธิพลตอ่ ความสาเร็จของภารกิจมากหรือนอ้ ยเพยี งใด ผวู้ เิ คราะห์ตอ้ งวเิ คราะห์อยา่ งเป็ นกลาง ไม่มี ขอ้ อุปทานและขอ้ ยุ่งยากที่จะพิจารณาในการวิเคราะห์น้ัน เพ่ือใช้เป็ นปัจจยั ในการวางแผน (Planning Factors) ซ่ึงปัจจยั ในการวางแผนน้นั ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ สาคญั 5 ประการหรือเรียกยอ่ วา่ METAL ไดแ้ ก่ 1) M-Mission หมายถึง ภารกิจ ตอ้ งพจิ ารณาวา่ หนทางปฏิบตั ิน้นั สามารถสนบั สนุนให้ ภารกิจสาเร็จไดท้ นั เวลาหรือไม่ 2) E-Enemy หมายถึง ขา้ ศึก ตอ้ งพจิ ารณาวา่ หนทางปฏิบตั นิ ้นั มีความไดเ้ ปรียบใน เรื่องขีดความสามารถเหนือกวา่ ขา้ ศึกอยา่ งไรบา้ ง, จะมีผลกระทบต่อขา้ ศึกมากหรือนอ้ ยเพยี งใด และมี จดุ สาคญั ตรงไหนบา้ ง 3) T-Troop หมายถึง หน่วยทหาร ตอ้ งพจิ ารณาวา่ หนทางปฏิบตั นิ ้นั ไดใ้ ชห้ น่วยทหาร เตม็ ประสิทธิภาพหรือไม่, หน่วยมีขดี ความสามารถในการสนับสนุนหรือไม่, มีความเหมาะสมและมีเวลา พอในการเคลื่อนยา้ ยหน่วย ส. หรือไม่, จะมีหน่วย ส. และ เครื่องมือสื่อสารสารองไวไ้ ดห้ รือไม่ 4)A- Area หมายถึง พน้ื ท่ปี ฏบิ ตั กิ าร ตอ้ งพจิ ารณาวา่ หนทางปฏิบตั ิน้นั จะใชป้ ระโยชน์ของ พ้นื ทไ่ี ดส้ ูงสุดเพยี งใดและไดพ้ จิ ารณาถึงพ้นื ท่ีสาคญั ยง่ิ เป็นอยา่ งดีแลว้ หรือยงั 5) L - Logistic หมายถึง การส่งกาลงั บารุง ตอ้ งพจิ ารณาวา่ หนทางปฏิบตั ิน้นั มีความ เหมาะสมหรือไม่, มีการซ่อมบารุงสนองตอบความตอ้ งการที่คาดไวห้ รือไม่ และมีระบบการขนส่งเพยี งพอ หรือไม่ 2.1.3เปรียบเทียบหนทางปฏิบตั ิของฝ่ ายเรา เมื่อไดว้ ิเคราะห์หนทางปฏิบตั ิอยา่ งรอบคอบแล้ว บางคร้งั อาจจะมีความรู้สึกลงั เลวา่ จะเลือกใชห้ นทางปฏิบตั ิใดดี ดงั น้นั จงึ ตอ้ งนาหนทาง ปฏบิ ตั ิมาทาการ
106 เปรียบเทียบกนั เพอื่ หาขอ้ ดีและขอ้ เสียของแต่ละหนทางปฏิบตั ิ เพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงหนทางปฏิบตั ิท่ีเหมาะสม ที่สุด 2.1.5 ขอ้ เสนอแนะ หลงั จากทไ่ี ดท้ าการเปรียบเทียบหนทางปฏิบตั ิอยา่ งมีเหตุผลและรอบคอบแลว้ จะพบว่ามีอยู่หนทางปฏิบตั ิหน่ึงที่ให้ประโยชน์มากที่สุด ถา้ หนทางปฏิบตั ิท่ีเลือกไม่มีขอ้ แมใ้ ดๆ เลยก็ สามารถใชเ้ ป็ นขอ้ เสนอแนะใหผ้ ูบ้ งั คบั บัญชาตกลงใจได้ แต่ในบางคร้ังหนทางปฏิบตั ิท่ีเลือกไวน้ ้ันยงั มี ขอ้ แมบ้ างประการ กจ็ าเป็นตอ้ งคิดทบทวนใหม่โดยการนาเอาหนทางปฏิบตั ิหลายๆ หนทางมาผสมผสาน กนั เพอ่ื ใหเ้ กิดหนทางปฏิบตั ิใหม่ท่ีดีท่ีสุดออกมาแลว้ ใชเ้ ป็ นขอ้ เสนอแนะใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาตกลงใจต่อไป การประมาณการสื่อสารน้นั ตอ้ งคิดไวใ้ นใจอยา่ งต่อเน่ืองเพอื่ ความทนั สมยั และทนั เหตุการณ์ โดยปกติหน่วย ส. ระดบั กองพล ลงมาจะไม่จดั ทาประมาณการส่ือสารเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร ส่วนหน่วยที่ใหญ่กว่ากองพลจะ บนั ทกึ ไวเ้ ป็ น ลายลกั ษณ์อกั ษรเพอื่ ใชใ้ นการเตรียมแผนยทุ ธการต่อไป 3. ประมาณการและแผนการส่ือสาร 3.1 ประมาณการไดม้ าจากการรวบรวมความรู้ต่างๆ มาประกอบเขา้ ด้วยกนั หรือพิจารณาหาหนทาง ปฏิบตั ไิ ปสู่การบรรลุภารกิจ ผบู้ งั คบั บญั ชาทุกระดบั ช้นั รวมท้งั ผูบ้ งั คบั ทหารส่ือสารจาเป็ นตอ้ งรู้ในส่ิงต่าง ๆ ท้งั ขอ้ ท่เี ป็นไปไดแ้ ละขอ้ ขดั ขอ้ งหรืออุปสรรคท่ีตอ้ งประสบ ความรู้และข่าวสารต่าง ๆ เป็ นองคป์ ระกอบ ของประมาณการทหารส่ือสารเรียกวา่ ประมาณการสื่อสาร ท้งั น้ีเพอ่ื จดั การส่ือสารใหเ้ ป็ นผลสาเร็จและเป็ น ส่ิงซ่ึงนาไปสู่ความสาเร็จของภารกิจของหน่วย จากประมาณการน้ี ก็จะเขา้ ไปสู่ แผนทางทหารส่ือสาร หรือท่ี เรียกวา่ แผนการส่ือสารนน่ั เอง เหตผุ ลที่ ฝสส. ตอ้ งเตรียมการจดั ทาประมาณการส่ือสารน้นั กเ็ พอ่ื 3.1.1 การจัดการสื่อสารจะต้องมีการติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆ แล้วคิดประมาณการไว้ ตลอดเวลา เพอื่ นามาใชป้ ระโยชนเ์ วลาทาแผนการส่ือสาร 3.1.2 เน่ืองจากเหตุการณ์ต่างๆ มกั เปล่ียนแปลงอยตู่ ลอดเวลา จึงจาเป็ นตอ้ งมีการจดั ทา ประมาณการ อยตู่ ลอดเวลาอยา่ งตอ่ เน่ือง เพอื่ ให้การจดั ทาแผนการสื่อสารทนั สมยั และเหมาะสมกบั เหตุการณ์ อีกท้งั ตอ้ งมีลกั ษณะตามตอ้ งการคอื มีความสมบูรณ์, ทนั เวลาและสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ 3.1.3 เพอื่ ใหผ้ ลของประมาณการเป็นท่ีเชื่อถือได้ ฝสส. ควรจะตอ้ ง 1) รู้จกั ปัญหาอยา่ งดี แลว้ รวบรวมขอ้ เทจ็ จริงท้งั หลายเกี่ยวกบั ปัญหาและขอ้ ขดั แยง้ เพอื่ พจิ ารณาหาหนทางแกป้ ัญหาทอี่ าจเป็นไปได้ 2) วเิ คราะห์หนทางแกป้ ัญหาแตล่ ะหนทาง เพอื่ พจิ ารณาขอ้ ดี และขอ้ เสีย 3) นาหนทางแกป้ ัญหาทีอ่ าจเป็ นไปไดม้ าเปรียบเทยี บกนั แลว้ เลือกหนทางท่ดี ีท่ีสุดไปใช้ แกป้ ัญหา 4) แปลงหนทางแกป้ ัญหาท่ีไดเ้ ลือกไวเ้ ป็ นขอ้ ตกลงใจ หรือขอ้ เสนอแนะ
107 ตวั อย่างประมาณการส่ือสาร (ประเภทเอกสาร) ชุดท่ี ของ ชุด หนา้ ของ หนา้ บก.ม.2 น่าน 010800 พ.ย.44 FK 10 ประมาณการสื่อสาร ม.2 (สนบั สนุนภารกิจไล่ติดตาม จ.น่าน) อา้ งถึง แผนที่ประเทศไทย จ.น่าน มาตราส่วน 1: 50,000 ระวาง 6330 I 6330 II 6430 III 6430 IV 1. ภารกิจ รกั ษาระบบการตดิ ตอ่ ส่ือสารทางวทิ ยจุ ากกองพนั ต่างๆ ขณะเคลื่อนที่อยา่ งรวดเร็ว ในภารกิจ ไล่ ติดตามที่จะประสบขา้ งหนา้ 2. สถานการณ์และหนทางปฏบิ ตั ิ ก. กาลงั ฝ่ ายขา้ ศึก 1.ขา้ ศกึ แตกกระจดั กระจาย เน่ืองจากการปฏิบตั ขิ องฝ่ายเรา 2.ถอยไปต้งั รับทเ่ี นิน 138 (พกิ ดั 264087) 3.ขา้ ศึกมีขวญั ไม่ดี 4.ทาการตา้ นทานบา้ งเล็กนอ้ ยเฉพาะหยอ่ ม ข.กาลงั ฝ่ ายเรา 1.ร้อย ลว. (+) รุกอยา่ งรวดเร็วไปตามถนนหลกั ถึงสะพานทา่ ขา้ มวงั ผายดึ และป้องกนั สะพานให้ได้ ก่อนขา้ ศึกจะเตรียมการทนั ไม่มีการหยดุ พกั เพอื่ กวาดลา้ งหรือรวมกาลงั ใหม่ 2.ม.พนั .7 (+)ปฏิบตั กิ ารกดดนั ขา้ ศกึ หนา้ เนิน 138 ดา้ นทิศตะวนั ตก,ป.พนั .20 รอ้ ย 1 สมทบ ม.พนั .7 (+) 3.ม.พนั .10 (-) ปฏิบตั ิการโอบลอ้ มดา้ นทิศตะวนั ออกเนิน 138 สกดั ก้นั การถอนตวั ของขา้ ศึก และ พร้อมสนบั สนุน รอ้ ย ลว.(+) เมื่อสง่ั 4.ม.พนั .12 เป็ นกองหนุนของ กรม รุกตามมาขา้ งหลงั พร้อม ม.2, ป.พนั .20 (-), ร้อย ช.(-) ทาการ กวาดลา้ งหยอ่ มตา้ นทานทค่ี ุกคามเสน้ ทางเคล่ือนท่ขี อง พล.ม. ทตี่ ามมา ค. ความสามารถทางยทุ ธวธิ ี ถา้ ร้อย ลว.(+) ยดึ สะพานวงั ผาไดแ้ ละหน่วยไล่ติดตาม ม.พนั .7 (+), ม.พนั .10 (-) ไม่ประสบกบั ความตา้ นทานแขง็ แรง ม.2 จะรุกขา้ มลาน้าน่านไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว (ประเภทเอกสาร)
108 (ประเภทเอกสาร) ง. การเคล่ือนยา้ ยระหวา่ งการรบ 1. ม.2 เคลื่อนยา้ ยดว้ ยรูปขบวนแถวตอนกองพนั ไปตามถนนหลกั จนถึงจุดแยกขบวน บก.ม.2 เคล่ือนทอ่ี ยา่ งรวดเร็วตามมาขา้ งหลงั ห่าง ร้อย ลว.(+) 18 ไมล์ หรือมากกวา่ 2. จะปรับขบวนเป็น 2 กองพนั เคียงกนั หลงั จากขา้ มสะพานวงั ผา ม.พนั .7 เคลื่อนที่ทางซ้ายของถนน ม.พนั .10 เคล่ือนท่ีทางขวาของถนน บก.ม.2, ม.พนั .12 และ นขต. เคล่ือนที่บนถนนหลกั ตามมาขา้ งหลงั ร้อย.ลว.คุม้ ครองสะพานวงั ผาจนกวา่ พล.ม. จะเคล่ือนทีผ่ า่ น จ. ท่ตี ้งั การสื่อสารท่มี ีอยู่ ที่ต้งั การส่ือสารของขา้ ศกึ ท่เี ป็นประโยชนเ์ ท่าทท่ี ราบไม่มี ฉ. หน่วยส่ือสารและเคร่ืองมือเครื่องใชท้ ่ีใชไ้ ด้ มว.ส. ม.2 มีกาลงั เตม็ อตั รา ไดร้ ับการฝึกดี มีวทิ ยสุ ่งต่อ สนบั สนุนหน่วยรองไดจ้ ากดั ช. ปัจจยั ทวั่ ไป 1. เวลา : การเคลื่อนทอ่ี ยา่ งรวดเร็ว และหน่วยรบปฏิบตั ิการไกลเกินรัศมีติดต่อดว้ ยวทิ ยุ FM ทา ใหข้ ่ายยทุ ธวธิ ี (บงั คบั บญั ชา) ซ่ึงใชว้ ิทยุ FM ระหวา่ ง ผบ.ม.2 กบั ผบ.พนั .ม.พนั .10 และ ผบ.ร้อย ลว.(+) ขาดการตดิ ตอ่ 2. การขนส่ง : ทางหลวงท่ีผ่านกลางพ้ืนท่ีของกรมเป็ นเส้นทางหลกั ของการจราจร อาจคบั คง่ั ไม่ สะดวกต่อการนาสาร 3. อุปนิสยั : ผบ.ม.2 ตอ้ งการใชข้ ่ายยทุ ธวธิ ี (บงั คบั บญั ชา) FM บญั ชาการรบโดยตรง ซ. ขดี ความสามารถของขา้ ศึก 1.การยงิ ป. ของขา้ ศกึ เบาบางและไม่ประสานกนั ขา้ ศึกไม่มีความสามารถจดั ใหม้ ีความไดเ้ ปรียบทาง อากาศ 2. การส่งคล่ืนรบกวนจากขา้ ศกึ เท่าที่ทราบไม่มี การดกั รับฟังอาจกระทาได้ ญ. หนทางปฏบิ ตั ิของฝ่ายเรา 1. ใชว้ ทิ ยุ AM แทน FM 2. ให้ ม.พนั 12 ปฏิบตั กิ ารส่งขา่ วตอ่ 3.ให้ ม.พนั 12 จดั สถานีส่งต่อ 4.ให้ มว.ส. ม.2 จดั สถานีส่งตอ่ มอบให้ ม.พนั 12 ปฏิบตั ิ 5.ให้ มว.ส. ม.2 จดั สถานีส่งต่อไปต้งั ณ จดุ แยกขบวน บ.โกรกพระ 6. ให้ มว.ส. ม.2 จดั สถานีส่งต่อพร้อมยานพาหนะและเจา้ หน้าที่ไปประจา ม.พนั 12 จนกว่าจะขา้ ม ลาน้าน่าน (ประเภทเอกสาร)
109 (ประเภทเอกสาร) 7.ขอชุดวทิ ยถุ ่ายทอดจาก ส.พล.ม. ไปประจา ม.พนั 12 จนกวา่ จะขา้ มลาน้าน่าน 3. วเิ คราะห์หนทางปฏบิ ตั ขิ องท้งั สองฝ่ าย ก. ขดี ความสามารถของขา้ ศกึ ทม่ี ีผลกระทบตอ่ หนทางปฏิบตั ิ หนทางที่ 1, 2, 3, 4, 6 และ 7 ไม่มี หนทางที่ 5 : หน่วยทหารขา้ ศึกที่ยงั ตกคา้ งในพ้นื ที่ ม.2 อาจทาอนั ตรายสถานีส่งต่อได้ ข. วเิ คราะหห์ นทางปฏิบตั ขิ องฝ่ายเรา หนทางท่ี 1 : ข้อดี เหมาะจะใชใ้ นการส่งข่าวทางธุรการระหวา่ ง ทก. กบั ทก. ข้อเสีย รถของ ผบ.กรม และ ผบ.พนั ไม่ไดต้ ิดต้งั ชุดวิทยุ เมื่อจะติดต่อตอ้ งไปใชท้ ่ี รถทก. ทาให้ ผบ.หน่วยขาดเสรี ไม่คล่องตวั ไม่เหมาะจะใชใ้ นการบญั ชาการรบในสถานการณ์ที่พฒั นา อยา่ งรวดเร็ว หนทางที่ 2 : ข้อดี เหมาะจะใชใ้ นการส่งขา่ วในสถานการณ์ทค่ี ล่ีคลายอยา่ งเช่ืองชา้ ข้อเสีย ขา่ วถึงผรู้ บั ชา้ ไม่ทนั ตามความตอ้ งการทางยทุ ธวธิ ี หนทางที่ 3 : ข้อดี ทาใหก้ รมไม่สิ้นเปลืองชุดวทิ ยทุ ี่จะจดั ส่งไปสนบั สนุน ข้อเสีย กองพนั มีชุดวทิ ยจุ ากดั อาจทาใหก้ ารใชว้ ทิ ยทุ างยทุ ธวธิ ีของ ม.พนั 7 ลม้ เหลว หนทางที่ 4 : ข้อดี ทาใหก้ ารตดิ ตอ่ สื่อสารทางวทิ ยกุ บั หน่วยปฏบิ ตั กิ ารในระยะไกลไดผ้ ล ข้อเสีย เพม่ิ ภาระใหก้ บั พลวทิ ยกุ องพนั ซ่ึงมีจากดั เสียผลการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีประจา และ ถา้ ม.พนั 7 เปลี่ยนแผนและพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั ิการ ชุดวทิ ยสุ ่งต่อท่ีมอบใหจ้ ะไม่เกิดประโยชน์ หนทางท่ี 5 : ข้อดี ดารงการตดิ ตอ่ ส่ือสารกบั ทกุ หน่วยไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ข้อเสีย หน่วยทหารขา้ ศึกท่ตี กคา้ งอาจทาอนั ตรายได้ หนทางท่ี 6 : ข้อดี ดารงการติดต่อส่ือสารกบั ทุกหน่วยไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ยา้ ยการสมทบ เม่ือเปล่ียนแผนไดท้ นั ที ข้อเสีย สิ้นเปลืองชุดวทิ ยุ กาลงั พล และยานพาหนะ แต่ กรม มีชุดวทิ ยพุ อสนบั สนุนได้ หนทางที่ 7 : ข้อดี ดารงการติดต่อส่ือสารกบั ทุกหน่วยไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ยา้ ยการสมทบ เม่ือเปล่ียนแผนไดท้ นั ที ม.2 ไม่ส้ินเปลืองชุดวทิ ยุ กาลงั พลและยานพาหนะ ข้อเสีย ไม่เป็นทีเ่ ช่ือไดว้ า่ ส.พล.ม. จะมาสนบั สนุนไดท้ นั หากไม่ทนั จะเสียผลการ ปฏิบตั ภิ ารกิจของหน่วยอยา่ งร้ายแรง 4. เปรียบเทียบหนทางปฏบิ ตั ขิ องฝ่ายเรา ก. หนทางปฏิบตั ิท่ี 1, 2, 3, 4, และ 5 มีอุปสรรคตามกล่าว ไม่มีแนวโนม้ วา่ จะสาเร็จหรือไดผ้ ลดีเท่าท่ีควร (ประเภทเอกสาร)
110 (ประเภทเอกสาร) ข. หนทางปฏิบตั ิท่ี 7 การรอคอยการสนบั สนุนชุดวิทยถุ ่ายทอดจาก ส.พล.ม. ไม่เป็นท่ีเช่ือไดว้ า่ จะไดร้ บั ทนั เวลา และแมว้ ่าการทาให้ กรม ขาดแคลนชุดวิทยอุ ะไหล่ไม่เป็ นส่ิงพึงประสงคก์ ็ตาม แต่หน่วยตอ้ ง ปฏบิ ตั ิภารกิจเร่งด่วน ทาใหห้ นทางปฏบิ ตั ทิ ่ี 6 เป็ นหนทางท่ีน่าจะไดร้ ับผลสาเร็จดีกว่าหนทางอื่น เม่ือจดั ให้ สถานีส่งตอ่ ม.2 อยใู่ นความคุม้ ครองของ ม.พนั 7 5.ขอ้ เสนอแนะ เห็นควรใชห้ นทางปฏิบตั ิท่ี 6 ให้ มว.ส. ม. 2 จดั ชุดวทิ ยุ AN/VRC-49 พร้อมพลวิทยแุ ละยานพาหนะ เป็นสถานีส่งตอ่ สมทบขบวนสมั ภาระรบ ม.พนั 7 เมื่อสง่ั และพรอ้ มจะยา้ ยการข้นึ สมทบไดท้ นั ที (ลงชื่อ)ร.อ. สายฟ้า ส่ือสาร ( สายฟ้า สื่อสาร ) ฝสส.ม.2 อนุผนวก ค.2 การแจกจ่ายแบบ ก. (ลงช่ือ)พ.ต. รักรบ ชอบชายแดน ( รกั รบ ชอบชายแดน ) ฝอ.3 ม.2 (ประเภทเอกสาร)
111 (ประเภทเอกสาร) อนุผนวก ค. 1 ขา่ ยวทิ ยสุ ่งตอ่ ม.2 สนบั สนุนภารกิจไล่ตดิ ตาม จ.น่าน ชุดท่ี ของ ชุด ประกอบ ผนวก ค. (การส่ือสาร) คาสงั่ ยทุ ธการ ม.2 ท่ี 5/19 หนา้ ของ หนา้ บก.ม.2 น่าน 7 2 10 2 12 2 010800 พ.ย.44 2 ๒ FK 12 ลว. แม่น้าน่าน 1 12 จุดแยกขบวน บ.ขมิ้น (237113) เนิน 138 12 2 (-) 264087 72 จุดแยกขบวน บ.โกรกพระ (025314) สาเนาถูกตอ้ ง 10 2 พ.ท.ชิน เน้ือแท้ 2 (-) เสธ.ม.2 2 (-) (ลงชื่อ) พ.อ.อานาจ นาคาพทิ กั ษ์ ผบ.ม.2 (ประเภทเอกสาร)
112 4. ปัจจยั ในการวางแผน แผนท่ีเราจะกล่าวถึงน้ีเป็ นแผนการส่ือสาร ซ่ึงก็เหมือนกับแผนอื่นๆ ท่ีจะตอ้ งถึงปัจจยั สาคญั ๆ ตา่ งๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งดงั น้ี 4.1 ลกั ษณะโดยเฉพาะของภาระกิจ 4.2 กาลงั และการวางกาลงั ของขา้ ศกึ 4.3 ทต่ี ้งั และทรี่ วมพลของฝ่ายเดียวกนั 4.4 ทีต่ ้งั ทางการส่ือสารทมี่ ีอยแู่ ลว้ 4.5 หน่วยทหารส่ือสารและยทุ โธปกรณ์ทีม่ ีอยู่ 4.6 จานวนเวลาที่มีอยสู่ าหรับการติดต้งั ยทุ โธปกรณ์และจดั ใหม้ ีการส่ือสาร 4.7 ภมู ิประเทศ, ลมฟ้าอากาศ และอุปการณ์การขนส่ง ปัจจยั ต่างๆ เหล่าน้ีใช้ในการเปรียบเทียบในการหาหนทางปฏิบตั ิใหเ้ กิดผลสาเร็จในการสื่อสาร ในการพิจารณาน้ีเป็ นการพิจารณาถึงความเป็ นไปได้ที่จะตอ้ งเพ่งเล็งถึงความสามารถของขา้ ศึกท่ีจะมี ผลกระทบต่อหนทางปฏิบตั ิ เช่น ความสามารถในการท้ิงระเบิด, ในการยิงด้วยปื นใหญ่, ในการดกั ฟังและ รบกวน หรือแมแ้ ต่ในเร่ืองของการแทรกซึมและการก่อวนิ าศกรรม ภายหลงั ที่ไดพ้ จิ ารณาถึงปัจจยั เหล่าน้ีอยา่ งถี่ ถว้ นรอบคอบแล้ว ก็ถึงข้นั ตกลงใจซ่ึงจะได้ใช้เป็ นมูลฐานในการทาแผนการสื่อสารและคาสง่ั การสื่อสาร ตอ่ ไป 5. แผนการสื่อสาร 5.1 แผนการสื่อสารเป็ นผลที่เกิดจากประมาณการสื่อสาร โดยทว่ั ไปแผนการส่ือสารควรมีลกั ษณะอ่อนตวั เพยี งพอ เพอื่ ให้เกิดการประสานงานอยา่ งต่อเนื่องกบั ฝ่ ายอานวยการต่างๆ ของกองบญั ชาการ ตลอดจน ต่อเน่ืองกบั หน่วยสื่อสารท้งั หน่วยเหนือและหน่วยรอง สาหรับการยทุ ธท่ีมีขอบเขตกวา้ งขวางมากจะตอ้ ง ทาแผนการส่ือสารหรือแผนข้นั ตน้ เป็ นลายลักษณ์อกั ษรเพ่ือเสนอขออนุมตั ิผูบ้ งั คบั บญั ชาเสียก่อน แต่ สาหรับหน่วยขนาดเล็กมกั จะทาแผนไวใ้ นใจ แผนการส่ือสารตอ้ งมีการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง แต่ไม่ควร คาดคิดล่วงหนา้ ถึงสถานการณ์และความตอ้ งการทางยทุ ธวธิ ีอยตู่ ลอดเวลา ความสาเร็จในการวางแผนการ สื่อสารทีจ่ ะใหม้ ีผลอยา่ งสมบรู ณ์ ผวู้ างแผนตอ้ งมีคุณสมบตั ิในเรื่อง 5.1.1 ความรู้, ความสามารถ, ปฏภิ าณ, ไหวพริบ, ความต้งั ใจและสามญั สานึก 5.1.2 ความสามารถในการหาและการรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกบั เคร่ืองมือและระบบการส่ือสารทวั่ ไป ๆ 5.1.3 สามารถจดจาคาสง่ั นโยบาย การประสานงาน การดาเนินกรรมวธิ ีและการทาแผนใหบ้ รรลุผล
113 5.2 เพอื่ ใหบ้ รรลุผลสาเร็จในการสื่อสาร นายทหารฝ่ายการสื่อสารจะตอ้ ง 5.2.1 จดั การใด ๆ ให้ ผบ.หน่วย และฝ่ ายอานวยการได้มีความรู้เกี่ยวกบั ขีดความสามารถและ ขีดจากดั ของเคร่ืองมือสื่อสารในหน่วยของตน 5.2.2 ทางานสมั พนั ธก์ บั ผบ.หน่วย และ ฝอ.ตา่ ง ๆ ทุกข้นั ตอน 5.2.3 ตดิ ตามแผนของ ผบ.หน่วย และ ฝอ.ตา่ ง ๆ 5.3 ผวู้ างแผนการส่ือสารควรมีความรู้ในเร่ือง 5.3.1 หลกั นิยมทางการสื่อสารในระดบั หน่วยและยทุ ธวธิ ีของหน่วย 5.3.2 ขดี ความสามารถและขอ้ จากดั ของหน่วย, เจา้ หนา้ ที่และเครื่องมือส่ือสาร 5.3.3 การส่งกาลงั และซ่อมบารุงทีเ่ หมาะสม 5.3.4 รูปแบบของแผนและคาสง่ั สื่อสารตา่ ง ๆ 5.3.5 ภารกิจและการปฏบิ ตั ิของหน่วยสนบั สนุน และ/หรือหน่วยสมทบ 5.4 แนวความคดิ ในการวางแผน ผวู้ างแผนการสื่อสารควรไดพ้ จิ ารณาตามแนวความคิดดงั น้ี 5.4.1 วางแผนท้งั ระบบใหส้ มบูรณ์ท่สี ุด เทา่ ท่จี ะทาได้ 5.4.2 ใชเ้ คร่ืองมือทกุ อยา่ งท่มี ีอยู่ ไม่วางใจในเคร่ืองมืออยา่ งใดอยา่ งหน่ึงเพยี งอยา่ งเดียว 5.4.3 วางแผนการตอ่ ตา้ นการข่าวกรองไวด้ ว้ ย 5.5 การใชแ้ ผนการสื่อสาร แผนการสื่อสารอาศยั มูลฐานจากขอ้ 5 ของประมาณการส่ือสาร แผนการส่ือสาร ท่ีทาไวน้ ้ี จะนาไปทาเป็ นผนวกส่ือสารประกอบคาสั่งยุทธการ สาระสาคัญของแผนการส่ือสารก็คือ คาแนะนาและเรื่องราวเกี่ยวกบั การจดั การสนบั สนุนการส่ือสารใหก้ บั หน่วยนนั่ เอง 5.6 รูปแบบของแผนการส่ือสาร ใชเ้ ช่นเดียวกบั รูปแบบของแผนยทุ ธการ มีเน้ือเรื่องแต่ละขอ้ ดงั น้ี 5.6.1 สถานการณ์ 1) กาลงั ขา้ ศึก อา้ งถึงรายงานข่าวกรองตามระยะเวลาฉบบั ปัจจุบนั ผนวกข่าวกรองหรือ คาสั่งยุทธการซ่ึงจะให้เร่ืองราวการประกอบกาลงั การวางกาลงั โดยทวั่ ไปของขา้ ศึก ขอ้ ต่อไปเป็ นการ บรรยายถึงกิจกรรมและขีดความสามารถของขา้ ศึกท่ีจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนการสื่อสาร 2) กาลงั ฝ่ายเรา จะกล่าวเกี่ยวกบั การจดั เฉพาะกิจต่างๆในการที่จะใชเ้ ป็ นแนวทางในการ พิจารณาหาพนั ธกิจทางการส่ือสาร เพือ่ สนับสนุนความตอ้ งการทางยทุ ธวิธีของหน่วยหรือจะอ้างคาสั่ง ยทุ ธการก็ได้ 5.6.2 ภารกิจ ตอ้ งอธิบายใหช้ ดั เจนถึงการสนบั สนุนการสื่อสารวา่ จะสนบั สนุนอะไร อยา่ งไร และเม่ือไร
114 5.6.3 การปฏิบตั ิ 1) จะกล่าวถึงแนวความคิดในการปฏบิ ตั ิโดยยอ่ เพยี งอา้ งถึง นปสอ. และ/หรือจะกล่าว แตกต่างออกไปก็ได้ 2) กล่าวถึงหนา้ ที่และการปฏิบตั ิการสื่อสาร 3) วรรคสุดทา้ ยของขอ้ 3 เป็นคาแนะนาการประสานงานเกี่ยวกบั การใชร้ ะบบการสื่อสารของ บา้ นเมือง ระบบการสื่อสารรวมและวงจรอานวยประโยชน์อื่น ๆ 5.6.4 ธุรการและการส่งกาลงั บารุง แผนการส่ือสารขอ้ น้ีเตรียมไวเ้ พ่ือนาไปใส่ในคาส่งั การช่วยรบ หรือขอ้ 4 ของคาสงั่ ยทุ ธการ 5.6.5 การบงั คบั บญั ชาและการติดต่อสื่อสาร โดยทว่ั ไปมี 3 หวั ขอ้ 1) การบงั คบั บญั ชาในทต่ี ้งั ทก. ของหน่วย 2) การสื่อสาร คาแนะนาควบคุมการปฏิบตั กิ ารส่ือสารตามข้นั การยทุ ธ 3) เสน้ หลกั การส่ือสาร
115 ตวั อย่างแ ผนการสื่อสาร (ประเภทเอกสาร) ชุดที่ ของ ชุด หนา้ ของ หนา้ บก.ม.2 น่าน 010800 พ.ย.44 แผนการสื่อสาร ม.2 (สนบั สนุนภารกิจไล่ติดตาม จ.น่าน) FK 11 อา้ งถึง : ประมาณการสื่อสาร ม.2 ฉบบั ที่ 1 1.สถานการณ์ 1.1 สถานการณ์ขา้ ศกึ : ดูคาสั่งยทุ ธการ ม.2 ที่ 5/19 1.2 สถานการณ์ฝ่ายเรา : ดูคาส่ังยทุ ธการ ม.2 ท่ี 5/19 2.ภารกิจ 2.1 ดารงการติดต่อกบั ทุกหน่วยที่ปฏิบตั ิการร่วมกบั คาสง่ั ยทุ ธการ ม.2 ที่ 5/19 โดยเฉพาะ ม.พนั .12 และ ร้อย ลว. (+) 2.2 ระบบการสื่อสารในการไล่ติดตาม จดั ใหแ้ ลว้ เสร็จใน 011100 พ.ย. 44 3.การปฏิบตั ิ 3.1 การติดต่อส่ือสารดว้ ยวิทยใุ ชแ้ บบข่ายปกติตาม นปสอ. 3.2 การส่ือสารประเภทสาย, การนาสาร, ทศั นสญั ญาณและเสียงสญั ญาณ ตาม นปสอ. และ รปจ. 3.3 ม.พนั .12, ร้อย ลว. (+) ปฏิบตั ิการไกลเกินรัศมีติดต่อดว้ ยชุดวิทยุ FM ให้ มว.ส. ม.2 จดั ชุดวิทยุ AN/VRC-49 พร้อมพลวิทยแุ ละยานพาหนะปฏิบตั ิเป็นสถานีส่งต่อ เพ่ือดารงการติดต่อสื่อสารกบั ผบ.หน่วย ดงั กล่าวดว้ ย ความถี่ 50.00 MHz และ 60.00 MHz สมทบขบวนสมั ภาระรบ ม.พนั .7 ใน 010945 พ.ย.44 3.3ใชว้ งจรทางสายทอ้ งถ่ินทีม่ ีตามแนวถนนใหม้ ากทส่ี ุด 4.ธุรการและการส่งกาลงั บารุง 4.1 แบตเตอรี่ประจาชุดวทิ ยจุ ะจดั ส่งไปกบั รถจ่าย สป. ภายใน รวม 24 ชวั่ โมง 4.2 การซ่อมบารุงสาย ส.ตาม รปจ. 5.การบงั คบั บญั ชาและการสื่อสาร ขอ้ 5 ของคาสั่งยทุ ธการ ม.2 ท่ี 5/19 5.1 ทก.ม.2 ข้นั ตน้ ต้งั อยู่ ณ วดั ตาลดา พกิ ดั 324017 5.2การติดต่อส่ือสาร ตาม นปสอ. และ ผนวก ค. การส่ือสาร 5.3เส้นหลกั การส่ือสาร อ.เมืองน่าน วงั ผา อ.ปัว (ลงชื่อ) พ.อ.อานาจ นาคาพทิ กั ษ์ สาเนาคู่ฉบบั ( อานาจ นาคาพิทกั ษ์ ) พ.ท.ชิน เน้ือแท้ ผบ.ม.2 เสธ.ม.2 หนา้ 1 ใน 1 หนา้ ( ประเภทเอกสาร )
116 6. คาสั่ง คาส่ัง คือ คาแนะนาท่ีจ่ายให้เพื่อทาให้แผนการปฏิบตั ิเป็ นผลสาเร็จ คาส่ังจะตอ้ งกระทดั รัด, ชดั เจน และทนั เวลา ปริมาณของขอ้ ความที่บรรจุลงในคาสั่งจะตอ้ งพิจารณาอยา่ งรอบคอบ ถา้ คาส่ังมี รายละเอียดมากเกินไปความมุ่งหมายทส่ี าคญั จะสูญหายไปในเน้ือเรื่องที่ไม่สาคญั ถา้ ส้นั เกินไปเรื่องราวท่ี สาคญั ตอ่ การปฏิบตั อิ นั มีประสิทธิผลของหน่วยรองกจ็ ะขาดไป อยา่ ยอ่ มากจนขาดความชดั เจน คาสัง่ มี 2 ประเภท คือ คาสง่ั ปกติ และคาสงั่ การรบ 6.1 คาสงั่ ปกติ เป็ นคาสง่ั ทคี่ รอบคลุมงานธุรการตามปกติในการปฏิบตั งิ าน ณ ทต่ี ้งั ของหน่วยหรือใน สนาม ซ่ึงหมายรวมถึง คาส่ังทวั่ ไป, คาส่ังเฉพาะ, คาสั่งเป็ นจดหมาย, คาสั่งศาลทหาร, แจง้ ความ, หนงั สือเวยี น และบนั ทกึ ขอ้ ความ 6.2 คาสง่ั การรบ เป็นคาสงั่ ที่เก่ียวขอ้ งกบั การปฏิบตั ิการทางยทุ ธศาสตร์ และยทุ ธวธิ ี รวมท้งั การช่วย รบท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การปฏิบตั กิ ารยทุ ธดงั กล่าวดว้ ย คาสงั่ การรบในข้นั แรกอาจออกมาในรูปของ \"แผน\" แลว้ จะพัฒนาเป็ นคาส่ังในเวลาต่อมา เม่ือมีเหตุการณ์เฉพาะหรือเมื่อได้เผชิญเหตุการณ์ท่ีได้กาหนดไว้ นอกเหนือจาก \"คาสั่งนโยบาย\" ที่มกั ใชเ้ พอ่ื ให้ทราบถึงความมุ่งหมายและนโยบายหรือแผนยทุ ธศาสตร์อยา่ ง กวา้ ง ๆ ที่ประกาศโดยผบู้ ญั ชาการยทุ ธบริเวณหรือหน่วยบญั ชาการที่สูงกวา่ และ \"สาส์นยทุ ธศาสตร์\" ท่ีมกั นามาใช้มากที่สุดเก่ียวกบั การกาหนดแนวทางและควบคุมการปฏิบตั ิของหน่วยบญั ชาการขนาดใหญ่ เช่น กองทพั สนาม คาสง่ั การรบ ประกอบดว้ ย 1)คาสงั่ ยทุ ธการ เป็ นคาสงั่ ทช่ี ่วยใหก้ ารปฏิบตั ิประสานสอดคลอ้ งกนั และเป็ นไปตามขอ้ ตกลงใจของ ผบู้ งั คบั บญั ชาในการปฏิบตั ิการยทุ ธ คาวา่ \"คาสั่งยทุ ธการ\" มีความหมายกวา้ งและหมายรวมท้งั คาสงั่ ท่ีใช้ สาหรับปฏบิ ตั ิการทางยทุ ธวธิ ี และคาสง่ั การเคล่ือนยา้ ย 2)คาสง่ั เตรียม เป็ นคาส่งั ท่ีแจง้ ล่วงหนา้ ใหท้ ราบถึงการปฏิบตั ิ และ/ หรือคาส่ังที่จะตามมาภายหลงั คาสงั่ น้ีจะออกมาในรูปของขา่ วส้นั ๆ ดว้ ยวาจาหรือเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร 3) คาสง่ั เป็ นส่วน ๆ เป็ นรูปแบบหน่ึงของคาสงั่ ยทุ ธการทจ่ี ะใชเ้ สมอในการปฏิบตั ิการยทุ ธของ ยานเกราะ เป็นคาสง่ั ท่ีบรรจุข่าวสารท่ีเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั หน่วยรองซ่ึงมกั จะออกมาในรูปของข่าวส้ัน ๆ เฉพาะเรื่องและทนั ต่อเหตุการณ์ แต่ตอ้ งไม่สูญเสียความชดั เจน ตามปกติคาส่ังเป็ นส่วน ๆ จะออกมา ภายหลงั ท่ีไดอ้ อกคาสงั่ ยทุ ธการไปแลว้ โดยใชเ้ พอื่ เปล่ียนแปลงหรือปรับแกค้ าสงั่ ยทุ ธการที่ออกไวเ้ ดิมน้นั 4) คาส่ังการช่วยรบ เป็ นคาส่ังที่ช่วยให้การสนับสนุนทางการช่วยรบได้มีการประสาน สอดคลอ้ งกนั ภายในหน่วยบญั ชาการน้นั ๆ 5) ระเบียบปฏิบตั ิประจา (รปจ.) เป็ นคาสัง่ ท่ีกาหนดระเบียบปฏิบตั ิที่ใชเ้ ป็ นประจาสาหรับการ ปฏิบตั กิ ารหากมิไดม้ ีการสง่ั การเป็นอยา่ งอื่น
117 7. คาสั่งการสื่อสาร คาสง่ั การสื่อสาร คือ คาสั่งที่กาหนดเก่ียวกบั กิจการส่ือสาร โดยวางระเบียบการใช,้ การจดั ระบบ การสื่อสารและการส่งกาลังบารุงเคร่ืองมือสื่อสารตามความจาเป็ น ปกติคาส่ังการส่ือสารจะอยใู่ นขอ้ 5 ของคาสง่ั ยทุ ธการ หรือ ผนวกการส่ือสาร หรือ ในรูปคาสง่ั อ่ืนซ่ึงมีอยู่ 6 แบบ คอื 7.1 คาแนะนาปฏิบตั ิการส่ือสารและอิเล็กทรอนิกส์ (นปสอ. = CEOI = Communications-Electronics Operations Instructions) 7.2 คาแนะนาปฏบิ ตั กิ ารสื่อสารและอิเลก็ ทรอนิกสป์ ระจา (นสอป. = CESI = Communications- Electronics Standing Instructions) 7.3 ระเบยี บปฏิบตั ิประจา (รปจ. = SOP = Standing Operations Procedures) 7.4 ขอ้ 4 และขอ้ 5 ของคาสง่ั ยทุ ธการ (Paragraph 4 & 5 of Operations Order) 7.5 ผนวกการสื่อสาร (Signal Annex) 7.6 คาสงั่ หน่วยทหารส่ือสาร (Signal Unit Order) 8. คาแนะนาปฏบิ ตั กิ ารสื่อสารและอเี ล็กทรอนิกส์ (นปสอ.) เป็ นรูปแบบหน่ึงของคาสง่ั การรบ ซื่งบรรจุคาแนะนาทางเทคนิคเก่ียวกบั การจดั ระบบการส่ือสาร ไดแ้ ก่ การกาหนดความถี่, นามสถานี, รหสั , พลุ, ควนั สญั ญาณและอื่นๆ เพอ่ื ให้หน่วยต่างๆ ไดป้ ฏิบตั ิอยา่ ง สอดคลอ้ งและมีความเขา้ ใจตรงกนั นปสอ. จะมีช้นั ความลบั สูงกวา่ นสอป. และมีการเปล่ียนแปลงบ่อย ท้งั น้ีเพอื่ เป็นการรกั ษาความลบั การจดั ทา นปสอ. จะจดั ทาเป็ นแผน่ แลว้ รวมเป็นเล่มเพอ่ื สะดวกต่อการถอด เปล่ียน รายการใดเปลี่ยนแปลงไม่ใชก้ ถ็ อดออกทาลายโดยการเผา แลว้ บรรจรุ ายการใหม่แทน 8.1 ผจู้ ดั ทา นปสอ. ในระดบั กองพล ผบ.ส.พล เป็นผจู้ ดั ทา นปสอ. โดยอาศยั ขอบเขต นปสอ. ของ หน่วยเหนือเป็ นหลกั ในระดบั กรมและ/หรือกองพนั นายทหารฝ่ ายการสื่อสารหรือผบู้ งั คบั หมวดส่ือสาร เป็นผจู้ ดั ทาดว้ ยการคดั ลอกรายการทจี่ าเป็ น และตดั ทอนรายการที่ไม่จาเป็ นออกไป โดยอาศยั ขอบเขต นป สอ. ของกองพลเป็นหลกั เช่นกนั แลว้ รวบรวมเพอื่ แจกจ่ายหน่วยรอง 8.2การลงนามรับรอง เม่ือ ผบ.ส. จดั ทา นปสอ. เสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหน้ าเรียน ผบ.พล ลงนามอนุมตั ิใช้ การลงนามรับรองสาเนา ผบ.ส. หรือ สธ.3 เป็ นผลู้ งนามรับรอง ท้งั น้ีแลว้ แต่ ผบ.หน่วยกาหนด แลว้ ดาเนินการ แจกจา่ ยในนาม ผบ.หน่วยผา่ นศูนยข์ ่าว หน่วยรับมีใบรับแสดงการทาลายหลกั ฐานเก่าที่ไม่ใชแ้ ลว้ เป็ นที่แน่ชดั สาหรบั กรมและกองพนั ผบ.กรม และ ผบ.พนั เป็ นผลู้ งนามอนุมตั ิ ฝอ.3 เป็ นผลู้ งนามรับรองสาเนา นปสอ. ฉบบั สมบูรณ์ตอ้ งไม่นาออกไปเกินกวา่ ทก.พนั ในแนวหนา้ 8.3 ลกั ษณะและการแจกจ่าย นปสอ. จดั ทาเป็ นรูปเล่มเลก็ ๆ สะดวกต่อการพกพาตดิ ตวั การแจกจา่ ย แบ่งออกเป็ น แบบ ส. และแบบ ก., ข., ค. การแจกจ่ายแบบ ส. มีลกั ษณะเป็ นรายการ รูปตาราง บอกให้ ทราบหน่วยใด ไดร้ ับ นปสอ. รายการใด, จานวนก่ีฉบบั และสาเนาท่ีเท่าไร หน่วยระดบั กรมและกองพนั จะมี หน่วยรบขนาดเล็กปฏบิ ตั กิ ารในเขตหนา้ จึงเพง่ เลง็ ในเร่ืองความปลอดภยั ดงั น้นั นปสอ.ฉบบั สมบูรณ์จะไม่
118 แจกจ่าย ให้กับหน่วยระดบั กองร้อยหรือเทียบเท่า แต่จะพิจารณาเฉพาะรายการที่จาเป็ นให้แต่ละระดับ หน่วย โดยแจกจ่ายเป็ นแบบ ก., ข., หรือ ค. ซ่ึงจะมีรายการมากนอ้ ยไม่เท่ากนั และไม่เป็ นรูปตาราง แต่มี มาตรการควบคุมเช่นเดียวกนั กบั แบบ ส. นปสอ. แบบ ก. มีความสมบูรณ์เท่ากบั แบบ ส. ท่ีกองพลหรือ หน่วยเหนือจา่ ยให้ แบบ ข. มีรายการน้อยกวา่ แบบ ก. และแบบ ค. มีรายการน้อยกว่าแบบ ข. บางหน่วย อาจจดั ถึงแบบ ง. ท้งั น้ีแลว้ แต่ความเหมาะสมของการแจกจ่ายให้กบั หน่วยระดบั กองพนั , กองร้อย, หมวด และหมู่ ตามลาดบั 8.4 ภาคตา่ งๆ ของ นปสอ. รายการของ นปสอ. แบง่ ออกเป็นภาคๆ อยา่ งนอ้ ย 5 ภาคไดแ้ ก่ 8.4.1 ภาคทว่ั ไป 8.4.2 ภาคประมวลลบั และรหสั 8.4.3 ภาคการส่ือสารประเภทวทิ ยุ 8.4.4 ภาคการส่ือสารประเภทสาย 8.4.5 ภาคเบด็ เตล็ด หมายเหตุ : แต่ละภาคมีรายการไม่เท่ากนั แต่แบ่งหมายเลขประจารายการไวเ้ ท่ากนั ซ่ึงอาจเป็ น 10 หมายเลขหรือ 20 หมายเลขกไ็ ด้ เมื่อจบภาคหน่ึงๆ จะข้นึ ภาคใหม่ตอ้ งใชห้ มายเลขของภาคใหม่ เช่น ภาค ทวั่ ไปมีเพยี ง 6 รายการ จะใชห้ มายเลข 1 ถึง 6 เม่ือข้ึนภาคประมวลลบั และรหสั จะใชห้ มายเลข 11 ไม่ใช้ หมายเลข 7 เป็นตน้ 8.5 องคป์ ระกอบของ นปสอ. แตล่ ะรายการ ประกอบดว้ ย 3 ส่วน ไดแ้ ก่ 8.5.1 หวั เรื่อง จะประกอบดว้ ย ประเภทเอกสาร, ช่ือหน่วยทอ่ี อก, สถานท่ี, หมายเลขประจารายการ, วนั -เวลาบงั คบั ใช้ และชื่อเรื่อง 8.5.2 ตวั เร่ือง จะเป็นการอธิบายรายละเอียดของเน้ือเรื่องสาหรับใหห้ น่วยปฏิบตั ิ 8.5.3 ทา้ ยเรื่อง จะประกอบดว้ ย การลงนามอนุมตั ิ, แบบการแจกจ่าย, การลงนามรบั รองสาเนา, ชื่อหน่วยที่ออก (ซ้ากบั หัวเร่ือง), หมายเลขประจารายการ (ซ้ากับหัวเร่ือง), จานวนหน้า และประเภท เอกสาร (ซ้ากบั หวั เร่ือง) หมายเหตุ : การลงนามอนุมตั ิ, การลงนามรับรองสาเนา และแบบการแจกจ่าย จะกระทาเฉพาะรายการ แรกของ นปสอ. เทา่ น้นั ถา้ นปสอ.ฉบบั ใดข้นึ ตน้ ดว้ ยรายการสารบญั ผบ.หน่วย, สธ.3 หรือ ฝอ.3 จะลง นามต่อทา้ ยรายการสารบญั ถ้าข้ึนตน้ ดว้ ยรายการคานา จะลงนามต่อทา้ ยคานา และจะไม่มีการลงนาม อนุมตั ิ, แบบการแจกจา่ ย และการลงนามรับรองสาเนา 8.6 หมายเลขประจารายการ แตล่ ะเร่ืองของ นปสอ. จะมีหมายเลขประจารายการ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม เลขหน้าเป็ นสารบญั เร่ืองท่ี……….. กลุ่มเลขหลงั เป็ นการเปลี่ยนแปลงคร้ังที่…………. เช่น นปสอ. รายการที่ 6 – 3 หมายความวา่ เร่ืองที่ 6 เปลี่ยนแปลงคร้ังที่ 3 เป็ นตน้ กลุ่มเลขหนา้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเม่ือ
119 เป็นเรื่องเดียวกนั ใหใ้ ชห้ มายเลขเดิม กลุ่มเลขหลงั มีการเปล่ียนแปลงทุกคร้ังที่จดั ทาใหม่ เม่ือภาคหน่ึงๆ มีเรื่อง มากกวา่ หมายเลขกาหนดจะเพม่ิ ดว้ ยวธิ ีเติมจุดทศนิยมหรือเตมิ อกั ษรกไ็ ด้ เช่น 6.1 – 3 หรือ 6ก – 3 เป็นตน้ 8.7 เร่ืองตา่ งๆ ของ นปสอ. มีดงั น้ี 8.7.1 คานา 8.7.18 นามโทรศพั ท์ 8.7.2 สารบญั 8.7.19 หมายเลขโทรศพั ท์ 8.7.3 การแจกจ่าย 8.7.20 การส่งกลบั ทางการแพทย์ 8.7.4 คาแนะนาทวั่ ไป 8.7.21 ตารางการนาสาร 8.7.5 ตารางการแปลงเวลา 8.7.22 พลุและควนั สญั ญาณ 8.7.6 สายอากาศ 8.7.23 แผน่ ผา้ สญั ญาณหมายรู้อากาศ-พ้นื ดิน 8.7.7 รหสั แบบโสณกุล 8.7.24 แผน่ ผา้ สญั ญาณพสิ ูจน์ฝ่าย 8.7.8 ระบบบอกพวก 8.7.25 แผน่ ผา้ สญั ญาณฉุกเฉินอากาศ-พน้ื ดิน 8.7.9 ประมวลลบั ตวั เลข 8.7.26 ทศั นสญั ญาณ 8.7.10 ระบบหมายฝ่าย 8.7.27 เสียงสญั ญาณ 8.7.11 ประมวลลบั บุคคลสาคญั 8.7.28 ขอ้ มูลดวงอาทติ ยแ์ ละดวงจนั ทร์ 8.7.12 ประมวลลบั คาพดู 8.7.29 เวลาราชการ 8.7.13 ประมวลลบั แผนที่ 8.7.30 เวลากระจายเสียง 8.7.14 ข่ายวทิ ยุ 8.7.31 หมายเลขอา้ งสาสน์ 8.7.15 หมายเลขตอ่ ทา้ ยนามสถานีวทิ ยุ 8.7.32 การออกสาเนียงภาษาองั กฤษและ 8.7.16 รายการคน้ หานามสถานีวทิ ยุ เลขอารบคิ 8.7.17 ประมวลลบั ป้ายผกู สาย 8.8 นปสอ. ฉบบั สารอง โดยทวั่ ไป นปสอ. จะจดั ประเภทเอกสารช้นั ความลบั ไว้ จึงไม่มีการร่ัวไหล ดงั น้นั จึงไม่จาเป็นตอ้ งมีสารองไว้ แต่อยา่ งไรก็ตามหน่วยก็ตอ้ งเตรียม นปสอ. ฉบบั สารองไวเ้ พอ่ื ความ สะดวกและ รวดเร็วในการทดแทนในกรณีที่ นปสอ. เกิดการร่ัวไหล ตามปกติหน่วยที่รับผดิ ชอบในการ จดั ทา นปสอ.จะตอ้ งดาเนินการในเรื่อง 8.8.1 จดั ทาและแจกจ่าย นปสอ. ฉบบั ท่ีสองไปใหท้ ุกหน่วยท่ีจะตอ้ งไดร้ ับ นปสอ. และ นปสอ. ฉบบั สารองฉบบั แรกน้นั หน่วยทไ่ี ดร้ ับจา่ ยจะตอ้ งเป็ นผเู้ กบ็ รักษาไว้ 8.8.2 จดั ทาและเกบ็ นปสอ. ฉบบั ทสี่ ามไวพ้ ร้อมที่จะจา่ ย 8.8.3 จดั ทา นปสอ. ฉบบั ท่ีสี่ไวพ้ รอ้ มทีจ่ ะพมิ พไ์ ด้ 8.9 ระเบียบปฏิบตั ิขา้ งตน้ ที่กล่าวถึงการจดั ทา นปสอ. ฉบบั สารองน้ันให้นาไปใชก้ บั นปสอ. ท่ีตดั ตอน ดว้ ย เวน้ แต่ นปสอ. ส่วนท่ีตดั ตอนน้ันยงั ไม่ไดจ้ ่ายใหแ้ ก่เจา้ หนา้ ที่ของกองบญั ชาการท่ีจดั ทาเป็ นบุคคล จนกวา่ จะมีผลบงั คบั ใช้
121 9. คาแนะนาปฏิบตั ิการสื่อสารและอเี ล็กทรอนิกส์ประจา (นสอป.) นสอป. เป็นคาอธิบายการใช้ นปสอ. จะออกเป็นคาสง่ั ประกอบกบั นปสอ. มีเรื่องและหมายเลข ประจารายการเช่นเดียวกบั นปสอ. เวน้ แต่เม่ือรายการใดของ นปสอ. มีความสมบรู ณ์พอไม่ตอ้ งการ คาอธิบายเพมิ่ เติม รายการน้นั จะเวน้ ไม่กล่าวใน นสอป. โดยทวั่ ไป นสอป. จะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง และมีลาดบั ช้นั ความลบั ต่ากวา่ นปสอ. ซ่ึงกาหนดข้นึ ไวต้ ้งั แต่ยามปกติ การแจกจา่ ยสามารถกระทาไดอ้ ยา่ ง กวา้ งขวาง บางหน่วยไม่จดั ทา นสอป. แตจ่ ะใชว้ ธิ ีสอดแทรกคาอธิบายบรรจุไวใ้ น นปสอ. เพอ่ื มิให้ยงุ่ ยาก แก่ผใู้ ช้ 10. ระเบียบปฏิบตั ปิ ระจาว่าด้วยการส่ือสาร (รปจ. การสื่อสาร) โดยทว่ั ไปจะคลา้ ยกบั รปจ.ของหน่วย มีขอ้ แตกต่างกนั ที่ รปจ. ของหน่วยจะกาหนดแนวทางการ ปฏบิ ตั ิในเรื่องทวั่ ๆ ไป ท้งั ทางยทุ ธวธิ ีและทางธุรการไวเ้ ป็ นการล่วงหน้า เพือ่ ใหห้ น่วยรองไดป้ ฏิบตั ิโดย อตั โนมตั ิไม่ตอ้ งส่ังการอีก ส่วน รปจ. การสื่อสารจะกาหนดวิธีการซ่ึงเป็ นแบบแผนในการติดต้งั , การปฏบิ ตั ิงาน, การซ่อมบารุง, การส่งกาลงั บารุงตลอดจนการรักษาระบบการส่ือสารโดยเฉพาะ ท้งั น้ีเพอื่ เป็ นการขยาย รปจ. ของหน่วยให้ชดั เจนและประหยดั เวลา แต่ไม่ตอ้ งออกคาส่งั ละเอียดเช่นเดียวกบั รปจ. ของหน่วย ในหน่วยบญั ชาการขนาดใหญ่อาจจดั ทา รปจ. การสื่อสารแยกไวโ้ ดยเฉพาะ แต่สาหรับหน่วย ทมี่ ีขนาดต่ากวา่ กองพลมกั จดั ทาเป็นผนวกประกอบ รปจ. ของหน่วย ท้งั น้ีเพอ่ื มิใหย้ งุ่ ยากแก่ผูใ้ ชโ้ ดยการ รวมเอาระเบียบปฏบิ ตั ิของทกุ สายงานเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั 11. การช่วยรบและการผนวกการสื่อสารประกอบคาสั่งยุทธการ คาสงั่ ยทุ ธการเป็นวธิ ีการหน่ึง ซ่ึงผบู้ งั คบั บญั ชาใชส้ าหรบั อานวยการการยทุ ธ ในขอ้ 4 และขอ้ 5 ของคาสง่ั ยทุ ธการน้นั มีคาแนะนาสาหรับควบคุมการสนับสนุนทางการสื่อสารรวมอยดู่ ว้ ย เมื่อคาแนะนา เหล่าน้ีมีจานวนมากกจ็ ะนาไปใส่ไวใ้ นคาสง่ั การช่วยรบและผนวกการส่ือสารประกอบคาสงั่ ยทุ ธการ 11.1 ขอ้ 4 การช่วยรบ นายทหารฝ่ ายการสื่อสาร (ฝสส.) จะประสานกบั ฝอ. 4 ในเรื่องคาแนะนาการ สนับสนุนทางการส่ือสารที่จะพิมพใ์ นขอ้ 4 ของ คาสั่งยุทธการ หรือ คาส่ังช่วยรบ ในหัวขอ้ การบงั คบั บญั ชาและการส่ือสาร ซ่ึงจะกล่าวถึงท่ีต้งั การเคล่ือนยา้ ยกองบญั ชาการ ที่ต้งั หน่วยทหารส่ือสาร การจดั เจา้ หน้าที่ คาช้ีแจงในการบอกฝ่ าย การพิสูจน์ทราบ กฎทวั่ ๆไปเกี่ยวกับการใชเ้ คร่ืองมือสื่อสารและ เคร่ืองมืออิเลก็ ทรอนิกสอ์ ื่นๆ รวมท้งั การจดั หา การขนส่ง การเก็บรักษา การแจกจ่าย การซ่อมบารุง การ ส่งกลบั สิ่งอุปกรณ์สายสื่อสาร และอาจรวมถึงจานวนและทตี่ ้งั ของตาบลส่งกาลงั และซ่อมบารุงสายส่ือสาร ท้งั การแบง่ มอบสิ่งอุปกรณ์สายส่ือสาร ทขี่ าดแคลนใหเ้ ป็ นไปตามความเร่งด่วนท่ีไดก้ าหนดข้ึน ตลอดจน เรื่องท่ีเกี่ยวกบั การธุรการ และส่งกาลงั บารุงสายสื่อสารท่มี ิไดก้ าหนดไวใ้ น รปจ.
ตวั อย่างคาสั่งการช่วยรบ 122 (ประเภทเอกสาร) ชุดที่ ของ ชุด คาสั่งการช่วยรบที่ ประกอบคาสัง่ ยทุ ธการ หนา้ ของ หนา้ อา้ งถึง: เขตเวลา: หน่วยทอี่ อกคาส่ัง การประกอบคาส่ังและท่ตี ้งั หน่วยธุรการและส่งกาลงั บารุง ต.ออกคาสั่ง 1.สถานการณ์ วนั เวลา 2.ภารกิจ 3.กล่าวทวั่ ไป หมายเลขอา้ งสาส์น 4.ยทุ โธปกรณ์และบริการ 5.การส่งกลบั สายแพทยแ์ ละการรักษาพยาบาล 6.การกาลงั พล 7.กิจการพลเรือน 8.เบด็ เตล็ด 9. การบังคบั บญั ชาและการส่ือสาร ก.การบงั คบั บญั ชา 1.ทก.กรม หลกั …. 2.ทก.กรม สารองจะเตรียมการรับหนา้ ท่ี ทก.หลกั ในสถานการณฉ์ ุกเฉิน 3.หน่วยต่างๆ รายงานท่ีต้งั ทก. 4.ฝสส.ปกติจะอยทู่ ี่ ทก.กรม ข.การส่ือสาร 1.นปสอ.สารบญั รายการที่…….มผี ลบงั คบั ใช้ 2.ศูนยก์ ารสื่อสารอยทู่ ่ี…… 3.ศูนยข์ ่าวอยทู่ ี่ ทก.กรม……….. 4.การจดั เจา้ หนา้ ที่สื่อสาร 5.ตาบลรวบรวม สป.ส.เกบ็ ซ่อม 6.ตาบลจ่าย สป.ส. 7.ตาบลซ่อมบารุง 8.การแบง่ มอบ สป.ส.ตามความเร่งด่วน 9.การบอกฝ่ าย 10.การพิสูจนท์ ราบ 11.การใชเ้ ครื่องมอื ส่ือสาร
12.การจดั หา, การขนส่ง, การเกบ็ รักษา 123 13.การส่งกลบั สป.ส.ของขา้ ศกึ การตอบรับ : ลงช่ือ พ.อ.อานาจ นาคาพิทกั ษ์ ผบ.ม.2 ผนวก ค. การแจกจ่ายแบบ ก. (ประเภทเอกสาร) พ.ต.รักรบ ชอบชายแดน ฝอ.3 ม.2 11.2 ขอ้ 5 การบงั คบั บญั ชาและการสื่อสาร เป็ นคาแนะนาท่ีเกี่ยวกับการบงั คบั บญั ชาและการ ปฏิบตั ิการติดต่อส่ือสาร อาจแบ่งออกเป็ นขอ้ ยอ่ ยไดม้ ากน้อยตามตอ้ งการ แต่ที่มกั ใชก้ นั อยเู่ สมอไดแ้ ก่ การบงั คบั บญั ชา, การส่ือสาร และเสน้ หลกั การเคล่ือนยา้ ยท่ีบงั คบั การ 11.2.1 การบงั คบั บญั ชา อาจแบ่งออกเป็ นขอ้ ยอ่ ยออกไปมากน้อยตามภารกิจและความตอ้ งการ ของผบู้ งั คบั บญั ชา ขอ้ ยอ่ ยขอ้ แรกไดแ้ ก่ 1) ทอ่ี ยขู่ องผบู้ งั คบั บญั ชา หรือพวกบงั คบั บญั ชา 2) ที่ต้งั ทก. ของหน่วยเหนือ และหน่วยขา้ งเคยี งถา้ เห็นวา่ จาเป็ น 3) การรายงานท่ีต้งั ทก. แห่งใหม่ 4) เวลา เปิ ด-ปิ ด ทาการ ของ ทก. 11.2.2 การสื่อสาร แบง่ ขอ้ ยอ่ ยออกไปดงั น้ี 1) มกั อา้ งถึง นปสอ. สารบญั รายการท่ีมีผลบงั คบั ใช้ 2) และขอ้ ตอ่ ๆ ไปจะเป็ นคาแนะนาในการปฏิบตั กิ ารส่ือสารท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ภารกิจใน คราวน้ัน แต่ไม่มีระบุไวใ้ นคาส่งั การส่ือสารอื่นๆ หรือถา้ มีในคาสง่ั การส่ือสารอยแู่ ลว้ ก็อาจนามาใส่ไว้ เพอ่ื เป็ นการเนน้ ก็ได้ คาแนะนาทจี่ ะนามากล่าวไวม้ กั ไดแ้ ก่ ทศั นะและเสียงสัญญาณ, สญั ญาณผ่าน และ คาสงั่ ใหว้ ทิ ยเุ งียบ-รับฟัง หรือระงบั วทิ ยเุ ป็ นตน้ หากไดจ้ ดั ทาผนวกการสื่อสารก็จะตอ้ งนามาอา้ งไวใ้ น ขอ้ น้ีดว้ ย 11.2.3 เสน้ หลกั การเคลื่อนยา้ ยท่ีบงั คบั การ ขอ้ น้ีแจง้ ให้ทราบถึงเสน้ หลกั ของการเคล่ือนยา้ ย ทบี่ งั คบั การ ถา้ กาหนดขอ้ ความเกี่ยวกบั เสน้ หลกั ในการเคลื่อนยา้ ยท่ีบงั คบั การ ซ่ึงแสดงไวใ้ นแผนที่ ยทุ ธการ หรือ แผน่ บริวารแลว้ ก็ไม่จาเป็นตอ้ งเขยี นไวใ้ นขอ้ 5 ของคาสงั่ ยทุ ธการ 11.3 รูปแบบตวั เร่ืองของคาสง่ั ยทุ ธการ คาสั่งยทุ ธการแบ่งออกเป็ น 3 ส่วนคือ หัวเรื่อง (Heading), ตวั เร่ือง (Body) และทา้ ย เรื่อง (Ending) เฉพาะตวั เร่ืองแบง่ เป็น 5 ขอ้ คือ 1) สถานการณ์ทว่ั ไป (Situation) เป็นการแจง้ ขา่ วสารส้นั ๆ เกี่ยวกบั ขา้ ศกึ และกาลงั ฝ่ายเรา 2) ภารกิจ (Mission) ระบุถึงหนา้ ที่ซ่ึงผบู้ งั คบั หน่วยจะตอ้ งปฏิบตั ิโดยเฉพาะ
124 3)การปฏบิ ตั ิ (Execution) สรุปวถิ ีทางท่ีจะปฏิบตั ิโดยตลอดและมอบหนา้ ท่ีโดยเฉพาะให้กบั หน่วย ตา่ งๆ ในบงั คบั บญั ชา 4) ธุรการและส่งกาลงั บารุง (Administration and Logistics) ระบุถึงการจดั การทางธุรการและการ ส่งกาลงั บารุงสาหรับการยทุ ธคร้งั น้นั 5) การบงั คบั บญั ชาและการสื่อสาร (Command and Communication) ระบุถึงทอี่ ยขู่ องผบู้ งั คบั บญั ชาและท่ีต้งั ที่บงั คบั การต่างๆ ตลอดจนแผนการสื่อสาร ตัวอย่างที่ 1 ขอ้ 5 ของคาสงั่ การเขา้ ตขี องพล 5. การบงั คบั บญั ชา และการส่ือสาร ก. การบงั คบั บญั ชา 1.) ทก. พล.หลกั อยทู่ ต่ี ้งั ปัจจุบนั , เคลื่อนยา้ ยเม่ือสง่ั 2.) ทก. ยทุ ธวธิ ี เคลื่อนที่ตาม กรป. 2 ในข้นั แรก ข. การส่ือสาร 1.) นปสอ.สารบญั รายการท่ี 1 – 74 มีผลบงั คบั ใช้ 2.) วทิ ยเุ งยี บ-รบั ฟัง ต้งั แต่ 27ØØØ1 พ.ย.- จนกวา่ ปะทะ 3.) ผนวก จ. การส่ือสารและอิเลคทรอนิกส์ ค. เสน้ หลกั การเคลื่อนยา้ ยทีบ่ งั ดบั การ บ.หว้ ยเด่ือ (PV1960) ตัวอย่างท่ี 2 ขอ้ 5 ของคาสงั่ การเขา้ ตขี องกรม 5. การบงั คบั บญั ชาและการสื่อสาร ก. การบงั คบั บญั ชา 1.) พวกบงั คบั บญั ชาจะอยกู่ บั ฉก. ม. พนั 5 2.) ทก.อยู่ ณ ท่ีต้งั ปัจจุบนั , เคลื่อนยา้ ยเม่ือสงั่ ข. การส่ือสาร 1.) นปสอ. สารบญั รายการที่ 1-74 มีผลบงั คบั ใช้ 2.) วทิ ยเุ งยี บ-รบั ฟัง ต้งั แต่ 27ØØØ1 พ.ย.,- จนกวา่ ปะทะ 3.) ผนวก ค. การสื่อสารและอิเลคทรอนิกส์
125 ตวั อย่างที่ 3 ขอ้ 5 ของคาสง่ั การเขา้ ตขี อง พนั ฉก. 5. การบงั คบั บญั ชาและการส่ือสาร ก. การบงั คบั บญั ชา 1.) พวกบงั คบั บญั ชาในข้นั แรกจะเคลื่อนท่ีตามชุดรบ ก. 2.) ทก.อยู่ ณ ท่ีต้งั ปัจจบุ นั , เคลื่อนยา้ ยเมื่อสง่ั ข. การส่ือสาร 1.) นปสอ. สารบญั รายการที่ 1-74 มีผลบงั คบั ใช้ 2.) วทิ ยเุ งยี บ-รับฟัง ต้งั แต่ 27ØØØ1 พ.ย. ,– จนกวา่ ปะทะ ตวั อย่างท่ี 4 ขอ้ 5 ของคาสงั่ การเขา้ ตีของกองร้อย/ชุดรบ (ออกดว้ ยวาจา) “ การบงั คบั บญั ชา ขา้ พเจา้ จะอยบู่ นรถถงั และในข้นั ตน้ จะเคลื่อนทต่ี าม มว.1 ขณะน้ี เวลา 23Ø5 มีใครสงสยั อะไรบา้ ง?” “การสื่อสาร ความถี่ท่ีจะใชใ้ นวนั พรุ่งน้ีคือ 37.65 และนามสถานีวทิ ยใุ ช้ สายฟ้า เดี๋ยวไปรบั นปสอ. ฉบบั คดั ลอกไดท้ ี่ นายสิบสื่อสาร สัญญาณผ่านจนถึงเทียงคืนวนั พรุ่งน้ี ถาม สีดา ตอบ กวนอู วทิ ยใุ หเ้ งยี บ-รบั ฟัง ต้งั แต่ 2624ØØ พย.,- จนกวา่ ปะทะกบั ขา้ ศึก” ตัวอย่างที่ 5 ขอ้ 5 ของคาสง่ั การเขา้ ตขี องหมวด (ออกดว้ ยวาจา) “นามสถานีวิทยุใหม่ของกองร้อยคือ สายฟ้า ความถ่ี 37.65 ความถ่ีของหมวดใช้ 65.55 สญั ญาณผา่ นจนถึงเท่ียงคืนของวนั ท่ี 24 พ.ย.,- ถาม สีดา กวนอู วทิ ยใุ ห้ เงียบ-รับฟัง ต้งั แต่บดั น้ี จนกว่าจะปะทะกบั ขา้ ศึก หรือเมื่อขา้ พเจา้ สั่ง ขา้ พเจา้ จะอยบู่ นรถถงั สายการบงั คบั บญั ชาตามลาดับ หมายเลขรถถงั ดงั น้ี 11,14,13,12,15, เมื่อขา้ พเจา้ พดู คาวา่ เวลา ØØ35 ตรง ตรง 5-4-3-2-1 ใครมีปัญหา อะไรบา้ ง?” 12. ผนวกการส่ือสารประกอบคาส่ังยุทธการ เพอื่ ใหค้ าสง่ั ยทุ ธการขอ้ ท่ี 5 ชดั เจนและสมบูรณ์ข้นึ ผบ.ส. ของหน่วยจะจดั ทาผนวกการสื่อสาร โดยอาศยั คาสงั่ การส่ือสารของหน่วยเหนือข้ึนไป ผนวกการสื่อสารจะช่วยใหภ้ ารกิจเกี่ยวกบั การส่ือสาร ของหน่วยเป็นผลสาเร็จ ในผนวกการส่ือสารจะกาหนดรายละเอียดของสถานการณ์และภารกิจทางการ สื่อสารท่ี จะตอ้ งปฏิบตั ิไวอ้ ยา่ งสมบูรณ์ ตลอดจนคาส่งั ที่จะให้หน่วยทหารส่ือสารต่าง ๆ ของหน่วย บญั ชาการตอ้ งปฏิบตั ิจะปรากฏอยใู่ นผนวกการสื่อสารน้ีดว้ ย นอกจากน้นั ก็อาจมีอนุผนวกประกอบการ ส่ือสารอีกกไ็ ด้ เช่น อนุผนวกทวี่ า่ ดว้ ยแผนทย่ี ทุ ธการท่เี รียกวา่ แผนที่เส้นทางสาย, แผนผงั วงจร, แผนท่ี ยทุ ธการ, แผน่ บริวาร, แผนทสี่ ถานการณ์, แผนที่ทางการช่วยรบ, สิ่งที่ใชแ้ ทนแผนท่ี เป็ นตน้ ลกั ษณะ ของผนวกการสื่อสารมีดงั น้ี 12.1 ผนวกการส่ือสารประกอบคาส่ังยุทธการ จะใช้เมื่อคาแนะนาการสื่อสารน้ันยืดยาวมากไม่ เหมาะสมท่ีจะเขียนไวใ้ นขอ้ 5 ของคาสง่ั ยทุ ธการ
126 12.2 ผนวกการสื่อสารมกั ใชใ้ นหน่วยขนาดใหญ่ ต้งั แตร่ ะดบั กองพลข้ึนไป หน่วยระดบั กรมลงมา อาจมีใชบ้ า้ งในกรณีทมี่ ีการสนธิกาลงั อยา่ งกวา้ งขวาง หรือในการปฏิบตั ิการยทุ ธที่มีข้นั ตอนการปฏิบตั ิท่ี ซบั ซอ้ น เช่น การยทุ ธบรรจบ , หรือการเคล่ือนยา้ ยทางอากาศ เป็นตน้ 12.3 รูปแบบของผนวกการส่ือสาร อนุโลมใหใ้ ชร้ ูปแบบของคาสง่ั ยทุ ธการและถือเป็ นส่วนหน่ึง ของคาสง่ั ยทุ ธการ ถึงแมว้ า่ อาจแจกจา่ ยไปพรอ้ มกบั คาสง่ั ยทุ ธการและ/หรือตา่ งเวลากนั กต็ าม 12.4 เรื่องราวในผนวกการส่ือสาร ส่วนหน่ึงมกั ไดแ้ ก่ การอา้ งอิง นปสอ., รปจ. , หรือคาสง่ั อื่น ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งและอาจรวมถึงรายละเอียดของศนู ยก์ ารสัญญาณ, ข่ายวทิ ย,ุ แผนผงั ระบบการติดต่อหลายช่อง การส่ือสาร, เสน้ ทางการนาสารข้นั ตน้ แผนผงั ข่ายโทรพมิ พ,์ แผนผงั ขา่ ยโทรศพั ท์ เป็ นตน้ ซ่ึงรายละเอียด เหล่าน้ีอาจจดั ทาเป็นอนุผนวกหรือใบแทรกหรือใบแนบประกอบผนวกการสื่อสารก็ได้ ในกรณีท่ีไม่ตอ้ งการ จดั ทาหรือพมิ พผ์ นวกการสื่อสารข้ึน ผบ.ส.พล หรือ ฝสส. จะให้ข่าวสารแก่ สธ.3 (ฝอ.3) เพอ่ื เขียนลง ในขอ้ 5 ของคาสง่ั ยทุ ธการตน้ ฉบบั ขา่ วสารดงั กล่าวน้ีอยา่ งนอ้ ยควรจะมีรายการ ดงั น้ี 12.4.1 การบงั คบั บัญชา ตามปกติหัวขอ้ น้ีจะเหมือนกันท้งั ในผนวกและในข้อ 5 ของคาสั่ง ยทุ ธการ 12.4.2 การสื่อสาร 1) รายการ นปสอ. ฉบบั ปัจจบุ นั และหน่วยที่เป็นผอู้ อก ถา้ หน่วยที่ออกคาสั่งและ ออก นปสอ. เป็ นหน่วยเดียวกนั ก็ไม่ตอ้ งกล่าวถึงหน่วยน้นั อีก 2) คาแนะนาพเิ ศษทีเ่ กี่ยวกบั การใชแ้ ละการควบคุมเคร่ืองมือส่ือสาร เคร่ืองแพร่คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า ซ่ึงมิไดม้ ีอยใู่ น นปสอ. ฉบบั ปัจจุบนั หรือ รปจ.หรือคาแนะนาอ่ืน ๆ 3) ที่ต้งั ของศนู ยส์ ญั ญาณตา่ งๆ ศูนยข์ ่าวทีม่ ิไดป้ รากฏอยใู่ นแผน่ บริวาร หรือ แสดง ไวใ้ นคาแนะนาที่อา้ งถึงหรือคาสงั่ อ่ืน ๆ 12.4.3 เสน้ หลกั ของการเคล่ือนยา้ ยท่บี งั คบั การ หวั ขอ้ น้ีถา้ ไม่ทราบข่าวสารกใ็ หต้ ดั ทิง้ ได้ 12.5 หวั ขอ้ ในการทาผนวกการส่ือสาร 12.5.1 สถานการณ์ บอกแต่รูปการณ์ส้นั ๆ เพอ่ื ให้ ผบ.หน่วยทหารส่ือสาร, ฝสส. ของหน่วย รอง ทราบสถานการณ์ส่ือสารท่ีเป็นอยใู่ นปัจจุบนั 1) ฝ่ายขา้ ศกึ บอกขดี ความสามารถ, ที่ต้งั ทางสาย, สถานีวทิ ย,ุ ตโู้ ทรศพั ทก์ ลางของ ขา้ ศกึ ท่ที ราบ ฯลฯ อาจอา้ งถึงผนวกขา่ วกรองประกอบคาสงั่ ยทุ ธการหรือรายงานข่าวกรองอ่ืนๆ ก็ได้ 2) ฝ่ายเรา บอกใหท้ ราบถึงการจดั กาลงั , ขนาดหน่วย, ระบบการส่ือสารในพน้ื ท่ี ท่ีมีอยใู่ นปัจจุบนั , รูปขบวน, แนวออกตี, ขอบเขต, เส้นหลกั การส่ือสาร, ที่ต้งั การส่งกาลงั , การธุรการ และอื่นๆ ท่ีต้งั ทางสาย, สถานีวิทยุ และตูโ้ ทรศพั ทก์ ลาง ซ่ึงจะตอ้ งจัดการติดต่อและบอกให้ทราบถึง เครื่องมือสื่อสาร ทม่ี ีอยทู่ ้งั ทางบา้ นเมืองและทางทหาร
127 3) หน่วยข้ึนสมทบและหน่วยแยก อาจอา้ งถึงคาสงั่ ยทุ ธการของหน่วยเหนือ 12.5.2 ภารกิจ กล่าวถึงหนา้ ท่ที หี่ น่วยส่ือสารของหน่วยน้นั จะตอ้ งปฏบิ ตั ิใหล้ ุล่วงไป ในขอ้ น้ีจะตอ้ งบอกเวลาทจี่ ะใหร้ ะบบการสื่อสารต่าง ๆ พรอ้ มท่จี ะปฏบิ ตั ิงานภายในเวลาใด 12.5.3 การปฏบิ ตั ิ เป็นการกาหนดหนา้ ที่ใหแ้ ก่หน่วยส่ือสารแต่ละหน่วยของหน่วยน้ันโดย เขยี นเป็นขอ้ ยอ่ ยตามหมายเลขลาดบั อกั ษร เช่น 1) แนวความคิดในการปฏบิ ตั ิ ข้นั ท่ี 1 (ข้นั ปกติ) ข้นั ที่ 2 (ข้นั เตรียมการ) ข้นั ท่ี 3 (ข้นั ปฏิบตั กิ าร) 2) การสนบั สนุนการสื่อสารและอีเลก็ ทรอนิกส์, กองหนุน 3) คาแนะนาในการประสาน 12.5.4 ธุรการและการส่งกาลงั บารุง บอกให้หน่วยสื่อสารต่าง ๆ ทราบถึงคาแนะนาท่ี เกี่ยวกบั การส่งกาลงั สายสื่อสาร และการส่งกาลงั บารุงท่ีมีผลกระทบต่อหน่วยทหารสื่อสารเม่ือมีส่วน เกี่ยวขอ้ งอยดู่ ว้ ยจะตอ้ งกาหนดคาแนะนาที่เกี่ยวกบั เรื่องดงั กล่าวไวด้ ว้ ย เช่น ลาดบั ความสาคญั เป็ นพเิ ศษ สาหรับการใชถ้ นนของทหารสื่อสาร, หรือยานพาหนะท่ีใชใ้ นการสื่อสาร, ท่ีต้งั ของคลงั สื่อสาร ตาบล จ่ายอุปกรณ์การสื่อสาร, คาแนะนาพิเศษ, การจดั หา, การขนส่ง, การเก็บรักษา, การแจกจ่าย, การซ่อม บารุง, การส่งกลบั ส่ิงอุปกรณ์สายสื่อสาร, การแบง่ มอบส่ิงอุปกรณ์สายส่ือสารทีข่ าดแคลนใหเ้ ป็ นไปตาม ความเร่งด่วน 12.5.5 การบงั คบั บญั ชาและการส่ือสาร บอกที่อยขู่ องผูบ้ งั คบั บญั ชาหรือพวกบงั คบั บญั ชา ท่ีต้งั ทก. ของหน่วยเหนือและหน่วยขา้ งเคยี ง ถา้ เห็นวา่ จาเป็ นการรายงานทีต่ ้งั แห่งใหม่, เวลาเปิ ด-ปิ ดทาการ ของ ทก. ส่วนการส่ือสารน้นั ใหก้ าหนดสารบญั รายการที่มีผลบงั คบั ใชเ้ ป็ นรายการแรก และบอกคาแนะนา ในการปฏบิ ตั ิการสื่อสารท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ภารกิจในคร้งั คราวน้นั ของหน่วย
ตวั อย่าง ผนวกการส่ือสาร 128 ลบั มาก ชุดที่ ของ ชุด หนา้ ของ หนา้ ผนวก ง. ( การสื่อสาร ) ประกอบคาส่ังยทุ ธการ ………. FK … ฉก.ม. ……. อา้ งถึง : แผนท่ปี ระเทศไทย มาตราส่วน……………….. ปากขา้ วสาร จ.สระบรุ ี ระวาง 6330 I 6330 II 6430 III 6430 IV ……ต.ค.45 1.สถานการณ์ ก. ฝ่ายตรงขา้ ม 1.) ผนวก……ข่าวกรอง 2.) ฝ่ายตรงขา้ มมีขีดความสามารถ…….. ข. ฝ่ายเรา 1.) การจดั กาลงั : คาสัง่ ยทุ ธการ………… 2.) ระบบการสื่อสารในพ้นื ท่ีทมี่ ีอยปู่ ัจจุบนั ก) ระบบโทรคมนาคม……………. ข) ระบบโทรคมนาคม……………. ค) ข่ายการสื่อสาร………………… ง) ข่ายการส่ือสาร………………… ค. หน่วยข้ึนสมทบและหน่วยแยก : คาสั่งยทุ ธการ…………….. 2. ภารกิจ ติดต้งั ปฏิบตั ิการและดารงการติดต่อสื่อสารกบั หน่วยเหนือ………………………. 3. การปฏิบตั ิ ก. แนวความคิดในการปฏิบตั ิ 1) ใชเ้ ครื่องมือส่ือสารของหน่วยท่มี ีอยอู่ ยา่ ง……….. 2) ดารงการติดต่อส่ือสารระหวา่ งหน่วยกนั เอง……….. 3) แบง่ ข้นั การปฏิบตั ิเป็น 3 ข้นั ตอน ข. มว.ส……… 1) ข้นั ที่ 1 ก) ตรวจสอบเครื่องมอื ………… ลบั มาก
129 ลบั มาก ผนวก ง. ( การสื่อสาร ) ประกอบคาส่ังยทุ ธการ ………. ข) ปรนนิบตั ิบารุงและ ซบร. ………. ค) เสนอความตอ้ งการยทุ โธปกรณ์………. ง) ขอรับการสนบั สนุน สป…………… 2) ข้นั ที่ 2 ก) ประสานการติดต่อสื่อสารกบั หน่วย………… ข) ประสานการติดต่อกบั หน่วยสื่อสารในพ้ืนทย่ี า่ น……. ค) จดั ชุดวทิ ย,ุ พลวทิ ย,ุ ยานพาหนะสนบั สนุน…………. 3) ข้นั ท่ี 3 ก) จดั ต้งั สบข. ………. ข) จดั ข่ายสถานีส่งต่อตาม………. ค) จดั ต้งั ศนู ยข์ ่าว……. ง) จดั ต้งั ข่ายการติดต่อทางสายกบั ……… จ) จดั การเช่ือมต่อระบบโทรศพั ทบ์ า้ นเมอื งใหส้ ามารถใชก้ ารไดใ้ น…………. ฉ) จดั พลนาสารทกุ ชนิดใหใ้ ชง้ านไดใ้ น ค. ฉก. ม. พนั ……………. 1) ข้นั ท่ี 1 ก) ……. ข) ……. ค) ……. 2) ข้นั ท่ี 2 ก) ……. ข) ……. ค) ……. 3) ข้นั ที่ 3 ก) ……. ข) ……. ค) ……. ง. ฉก.ม.พนั . …………….. 1) ข้นั ท่ี 1 ก) ……. ลบั มาก
130 ลบั มาก ผนวก ง. ( การส่ือสาร ) ประกอบคาสั่งยทุ ธการ ………. ข) ……. ค) ……. 2) ข้นั ที่ 2 ก) ……… ข) ……… ค) …….. 3) ข้นั ท่ี 3 ก) ……. ข) …… ค) …… จ. ฉก.ม.พนั . ……………… 1) ข้นั ที่ 1 ก) ……. ข) ……. ค) …… 2) ข้นั ที่ 2 ก) …… ข) …… ค) …… 3) ข้นั ท่ี 3 ก) …… ข) …… ค) …… ฉ. ร้อย ป. ……… ช. ปตอ. ……….. ซ. ช.พนั . ……… ฌ. คาแนะนาในการประสาน 1) ทุกหน่วยจดั การนาสาร…………… 2) แลกเปล่ียนข่าวสารทางการนาสารกบั …………. ลบั มาก
131 ลบั มาก ผนวก ง. ( การส่ือสาร ) ประกอบคาส่ังยทุ ธการ ………. 3) วางแผนการใชเ้ คร่ืองมือส่ือสารในพ้ืนท่ี………. 4) กวดขนั การ รปภ. สส. ………. 5) ข่าวทางยทุ ธวธิ ี และข่าว นชค. ……. 6) ศูนยข์ ่าวและการติดต่อ…………….พร้อมทดสอบใน…………….. 7) การรับ-ส่งข่าวให้……… 8) ศนู ยข์ ่าวปฏิบตั ิงาน…………. 9) การสื่อสารทางสาย,นาสาร,ทศั นสัญญาณ,เสียงสญั ญาณ……………. 4. การช่วยรบ 1) การส่งกาลงั บารุง สาย ส. จดั ร่วมกบั สป. อื่นๆ …….. 2) การ ซบร. สาย ส. …………. 3) การส่งกลบั สป. สาย ส. …………. 4) ……………………….. 5. การบงั คบั บญั ชาและการส่ือสาร ก. การบงั คบั บญั ชา 1) ทก. ฉก. ม. …………..หลกั อยทู่ ่ี……………… 2) ทก. ฉก. ม. …………..หลงั อยทู่ ี่……………… 3) …………………………………………………. ข. การส่ือสาร 1) นปสอ. สารบญั รายการที่…………. 2) ศูนยข์ ่าว ทก.ฉก.ม. ………….อยบู่ ริเวณ……………… 3) ระหวา่ งการเคล่ือนยา้ ยใช…้ ……………..เป็นหลกั ……………….เป็นรอง ตอบรับ : นาสาร อนุผนวก 1. แผนผงั สถานีวทิ ยสุ ่งตอ่ 2. แผนผงั ขา่ ยวทิ ยุ 3. แผนผงั ทางสาย 4. แผนผงั ข่ายโทรศพั ท์ การแจกจา่ ย : แบบ ก. (ลงชื่อ) พ.อ. ชาย นกั รบ เป็นคู่ฉบบั : (ลงชื่อ) พ.ต. ชิน เน้ือแท้ (ชาย นกั รบ) ( ชิน เน้ือแท้ ) ผบ.ม. …….. ฝอ.3 ลบั มาก
132 13. คาสั่งหน่วยทหารสื่อสาร เพอื่ ใหบ้ รรลุภารกิจในงานดา้ นการติดต่อสื่อสารที่หน่วยตนรับผดิ ชอบอยา่ งมีประสิทธิภาพ ผบ.ส. พล จะออกคาสง่ั มอบหมายงานใหส้ ่วนตา่ งๆในบงั คบั บญั ชาของตนปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั ซ่ึงคาสง่ั น้ีเรียกวา่ คาสง่ั การสื่อสารของหน่วย หรือคาส่ังยุทธการของหน่วยทหารส่ือสาร ซ่ึงจะมีรูปแบบคล้ายกับ คาสั่งยทุ ธการ (OPORD = Operation Order) แตกต่างกนั ในรายละเอียดการปฏิบตั ิ ซ่ึงจะเป็ นเรื่องของการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะ และจะมีใชใ้ นหน่วยทหารสื่อสารเทา่ น้นั 14. การบนั ทกึ และรายงานการสื่อสาร 14.1 บนั ทึกของศนู ยก์ ารส่ือสาร ไดแ้ ก่ 1) บญั ชีข่าว สาหรบั ลงทะเบยี นข่าวท่ไี ดร้ ับไว้ 2) บนั ทกึ เคร่ืองมือส่ือสารทมี่ ีอยู่ สาหรับแสดงถึงมชั ฌมิ ทีพ่ รอ้ มจะใชไ้ ดท้ นั ที 3) ตารางงานศูนยข์ ่าว สาหรับหน่วยระดับต่ากว่ากองพลมักจะใช้ตารางงานศูนยข์ ่าวแทน บนั ทึก ที่กล่าวในขอ้ 1)และ 2) ขา้ งตน้ 4) บญั ชีการแจกจ่ายข่าวภายในและเส้นทางหรือสมุดเซ็นรับข่าว บนั ทึกเหล่าน้ีพลนาสารจะ นาตดิ ตวั ไปดว้ ย และผรู้ ับไดร้ ับขา่ วแลว้ กจ็ ะไดเ้ ซ็นรบั เอาไว้ 5) บนั ทกึ ข่าวการอกั ษรลบั สาหรับบนั ทกึ จานวนข่าว แต่ละระบบการอกั ษรลบั ตลอดจน จานวนหมู่ประมวลลบั ของข่าวแต่ละฉบบั นอกจากน้ันก็อาจบนั ทึกขอ้ มูลอื่น ๆ ท่ีจาเป็ นแก่การรักษา ความปลอดภยั ทางการอกั ษรลบั 6) บญั ชีที่ต้งั หน่วยซ่ึงจะไดร้ ับจากเสมียนศูนยข์ ่าว หรือสมุด สธ. 1 ในบญั ชีน้ีจะแสดงท่ีต้งั ของกองบญั ชาการและกองบงั คบั การตา่ ง ๆ ตลอดจนส่วนตา่ ง ๆ ของกองบญั ชาการ 14.2 บนั ทกึ เก่ียวกบั ระบบทางสาย ไดแ้ ก่ 1) บนั ทึกของพนักงาน หรือประวตั ิสถานี บนั ทึกน้ีหัวหน้าพนกั งานจะเก็บไวท้ ี่เคร่ืองสลบั สายโทรศพั ท์ หรือเคร่ืองสลับสายโทรพิมพ์ หรือเคร่ืองสลบั สายกลาง ขอ้ ความในบนั ทึก จะกล่าวถึง ที่ต้งั , เวลาเปิ ดและปิ ด, ตารางปฏบิ ตั งิ านของพนกั งาน, วงจรที่ใชง้ าน และการรบกวนทม่ี ีในขณะใชง้ าน 2) บนั ทึกการติดต้งั , การทดลองและขอ้ ขดั ขอ้ งตา่ งๆ บนั ทึกน้ีหวั หน้าพนกั งานทางสายเป็ น ผูเ้ ก็บไวบ้ นั ทึกการใชเ้ ครื่องกาเนิดไฟฟ้า ซ่ึงจะบนั ทึกเก่ียวกบั การทดลองและการซ่อมแกข้ องเคร่ือง กาเนิดไฟฟ้าที่ใชก้ บั ระบบทางสายหรือสถานีวทิ ยุ ขอ้ ความในบนั ทึกจะกล่าวถึงขอ้ มูลต่างๆท่ีเก่ียวกบั การ รบกวน ที่มีในขณะใชง้ าน, จานวนชวั่ โมงท่ีไดใ้ ชง้ านไปแลว้ และอ่ืนๆ ทเ่ี ก่ียวกบั การซ่อมบารุง 3) แผนท่เี สน้ ทางสาย 4) แผนผงั วงจรและแผนผงั การส่ือสาร
133 14.3 บนั ทกึ เกี่ยวกบั สถานีวทิ ยุ ไดแ้ ก่ 1) ประวตั ิสถานี ซ่ึงหวั หน้าพนักงานวทิ ยทุ ี่กาลงั ปฏิบตั ิงานอยเู่ ป็ นผูเ้ ก็บไว้ ขอ้ ความใน บนั ทึกน้ีจะกล่าวถึง เวลาเปิ ดและปิ ดสถานี, ชื่อพนกั งานวทิ ยทุ ่ีกาลงั ปฏิบตั ิงานอย,ู่ หมายเหตุ การส่งข่าว ล่าชา้ , การปรับความถ่ี, ส่ิงผดิ ปกตทิ เ่ี กิดข้ึน เช่น การฝ่ าฝืนระเบยี บปฏิบตั ิ และการฝ่ าฝืนการยนื ยนั ข่าว 2) บญั ชีสาหรบั พนกั งานซ่ึงคลา้ ยๆ กบั บญั ชีขา่ วของศูนยข์ ่าว พนกั งานวทิ ยจุ ะใชล้ าดบั ท่ีใน บญั ชีน้ีสาหรับลาดบั การรับและส่งขา่ ว 3) แผนผงั ขา่ ยวทิ ยุ 14.4 แผนผงั การส่ือสาร, แผนที่, แผน่ บริวาร ขอ้ ความต่างๆ ที่ไดจ้ ากแผนผงั ก็ดี, จากแผ่นบริวารก็ดี, และจากแผนที่ไดท้ า เคร่ืองหมายไวแ้ ลว้ ก็ดี ล้วนแต่จะช่วยให้การใช้เวลาในการพิจารณาคาส่ังต่างๆ น้อยลง และเมื่อไม่ ตอ้ งการเนน้ กไ็ ม่จาเป็ นตอ้ งนาขอ้ ความดงั กล่าวน้ีไปใส่ไวใ้ นตวั เร่ืองของคาส่งั อีก เพราะแผนผงั วงจรก็ดี แผนทเี่ สน้ ทางสายก็ดี ยอ่ มมีความสมบรู ณ์อยใู่ นตวั เองแลว้ แต่บางคร้ังก็อาจเพิม่ เติมหรือขยายความจาก เดิมเพยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ น้นั 14.5 แผนผงั วงจรทางเทคนิค แผนผงั น้ีแสดงการจดั ทาทางเทคนิค แสดงการเช่ือมต่อของวงจรต่างๆ รวมท้งั การต่อ ปลายสายของระบบทางสาย แผนผงั วงจรน้ีจะช่วยใหเ้ จา้ หน้าท่ีทางสายทราบว่าจะติดต้งั ทางสาย, เครื่อง สลบั สายกลาง, จุดตรวจสอบ และโทรศพั ทอ์ ยา่ งไร 14.6 แผนผงั การสื่อสาร แผนผงั น้ีแสดงจานวนช่องการส่ือสารของเคร่ืองโทรศพั ท์หรือโทรพิมพ์ ระหว่าง เคร่ืองสลบั สายกลางของระบบทางสายทางทหาร วตั ถุประสงคข์ องแผนผงั น้ี ก็เพื่อแสดงให้พนกั งานเครื่อง สลบั สายทราบวา่ ทางสายใดทีเ่ ป็นทางตรงทส่ี ุด และมีทางสายอ่ืนทีพ่ อจะใชไ้ ดบ้ า้ ง ในเม่ือทางสายตรงไม่ วา่ ง หรือ ขดั ขอ้ ง วงจรน้ีจะแสดงถึงทางสายยอ่ ยทางไกลดว้ ย และบางคร้ังอาจแสดงถึงเครื่องสลบั สาย กลางของหน่วยเหนือ, ของหน่วยรอง และของหน่วยขา้ งเคียงดว้ ย หวั หนา้ พนักงานทางสายหรือหัวหนา้ พนกั งานสลบั สายเป็นผทู้ าแผนผงั น้ีสาหรบั แตล่ ะเครื่องสลบั สายกลาง 14.7 แผนผงั ขา่ ยวทิ ยุ แผนผงั น้ีแสดงการจดั ขา่ ยวทิ ยุ และเคร่ืองวทิ ยทุ ใ่ี ชภ้ ายในขา่ ย การจดั ทาแผนผงั ข่ายสถานี วทิ ยคุ วรตอ้ งคานึงถึงความปลอดภยั ในเร่ืองการระบุนามเรียกขานหรือนามหน่วยท่ีสถานีวิทยเุ หล่าน้ันประจา อย,ู่ ชนิดของเครื่องวิทยุ หน่วยท่ีตอ้ งรับผดิ ชอบในการจดั เจา้ หนา้ ที่และเคร่ืองวทิ ยสุ าหรับแต่ละสถานี และความถี่ทีใ่ ช้ ภายในขา่ ยน้นั
134 14.8 แผนทีเ่ สน้ ทางสาย แผนท่ีเสน้ ทางสายอาจเป็ นแผนที่, หรือสิ่งท่ีใชแ้ ทนแผนที่, หรือแผ่นบริวารในแผนที่ เส้นทางสายจะแสดงจานวนและชนิดของเสน้ ทางสายของวงจรทางสาย แต่ไม่ไดแ้ สดงการต่อเขา้ กบั เครื่อง สลบั สายกลางหรือสถานีตรวจสอบ ความมุ่งหมายหลกั ของแผนที่เสน้ ทางสายก็เพอื่ แสดงใหพ้ นักงานวางสาย ทราบถึงท่ีอย่จู ริง ๆ ของวงจรทางสายในแผนท่ีเส้นทางสายยงั แสดงท่ีต้งั ของกองบญั ชาการ หรือหน่วยท่ีใช้ ระบบทางสายน้นั , แสดงที่ต้งั ของเครื่องสลบั สายกลาง, ท่ีต้งั ของสถานีทดสอบ, ทางสายยอ่ ยทางไกล, ชนิด ของการติดต้งั และจานวนทางสายท่ีมีอยจู่ ริงๆ เพ่ือป้องกนั ความสับสนก็ควรละเวน้ การระบุเรื่องอ่ืนลงไป ในแผนทเี่ สน้ ทางสาย นอกจากทก่ี ล่าวมาแลว้ 14.9 แผนที่ยทุ ธการ แผนท่นี ้ีแสดงถึงเร่ืองทางยทุ ธการมากกวา่ จะแสดงเร่ืองทางเทคนิคของคาสงั่ การรบ โดยปกติแลว้ สธ.3 ( ฝอ.3 ) ของหน่วยท่ีออกคาสงั่ ยทุ ธการเป็ นผทู้ าแผนท่ยี ทุ ธการ แต่อยา่ งไรก็ดีก็อาจใช้ แผนทย่ี ทุ ธการเป็ นแผนท่ปี ฏิบตั กิ ารส่ือสารก็ไดใ้ นเมื่อผบู้ งั คบั ทหารส่ือสารไดร้ ะบุขอ้ มูลทางการสื่อสาร ลงไปบนแผนท่ยี ทุ ธการน้นั 14.10 แผนท่ีสถานการณ์ แผนที่สถานการณ์น้ีเป็นเพยี งแผนทใ่ี หข้ า่ วสารเทา่ น้นั เอง และไม่ถือเป็ นคาสงั่ แต่ละ แผนกฝ่ายอานวยการจะตอ้ งจดั ทาใหแ้ ผนที่สถานการณ์ทนั สมยั อยตู่ ลอดเวลา โดยการแสดงการวางกาลงั และกิจกรรมอ่ืนๆ ในแผนท่ีสถานการณ์ทางการส่ือสารจะแสดงทางสาย และที่ต้งั สถานีวิทยุท่ีมีอยู่ ตลอดจนแสดงการวางกาลงั ของเจา้ หนา้ ทีส่ ื่อสารอาจส่งแผน่ บริวารของแผนที่สถานการณ์ใหก้ บั หน่วยท่ี สนใจ และบ่อยคร้ังที่ใชแ้ ผ่นบริวารน้ี ประกอบการรายงานของฝ่ ายอานวยการ ท้งั น้ีเพือ่ ลดภาระในการ เขียน ขอ้ ความมากๆ 14.11. แผนท่ที างการช่วยรบ แผนทีน่ ้ีจากดั อยเู่ ฉพาะเรื่องข่าวสารทางธุรการและทางการส่งกาลงั เท่าน้ันเอง แผนที่ ทางการช่วยรบน้ี จะมีค่าตอ่ เจา้ หนา้ ท่สี ื่อสารกเ็ ฉพาะการแสดงทตี่ ้งั ทางการส่งกาลงั , ตาบลส่งกลบั ,ตาบล รวมสมั ภาระ, เสน้ ทางส่งกาลงั หลกั , ทีต่ ้งั ส่วนหลงั , ตาบลรวบรวม และขา่ วสารอื่น ๆ 14.12 แผน่ บริวาร แผน่ บริวารเป็นแผน่ กระดาษโปร่งแสงที่วางบนแผนที่แลว้ ทาเครื่องหมาย เพ่ือแสดงที่ต้งั หน่วย, กองบญั ชาการ, ทางสาย, เส้นทางและพ้ืนท่ีทางยทุ ธวิธี, คลงั และท่ีต้งั อื่นๆ ในการทาแผ่นบริวาร จาเป็ นตอ้ งทาพกิ ดั แผนที่อยา่ งนอ้ ย 2 พกิ ดั เพอื่ ช่วยใหว้ างไดถ้ ูกตอ้ ง นอกจากน้ันจาเป็ นตอ้ งเขียนขอ้ ความบน แผน่ บริวารใหช้ ดั เจนวา่ แผน่ บริวารน้ีจดั ทาจากแผนที่ระวางใด มาตราส่วนเท่าใด 14.13 สิ่งที่ใชแ้ ทนแผนที่ ส่ิงที่ใช้แทนแผนที่อาจได้แก่ ภาพถ่ายทางอากาศ, โต๊ะทราย ซ่ึงแสดงเส้นลาย ขอบเขต ใหเ้ ห็นชดั เจนกวา่ ท่แี สดงบนแผนทห่ี รือภาพถ่าย
135 ******************************** หลักฐานอ้างองิ : 1. นส. 24 – 5 (รร.ส.สส.), 2. นส.17-11-6 (รร.ม.ศม.)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140