Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด

วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด

Published by qacavalry, 2021-03-18 02:04:01

Description: วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด
รหัสวิชา ๐๑๐๒๐๑๐๗๐๒
หลักสูตร ชั้นนายพัน
แผนกวิชาอาวุธ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

โรงเรยี นทหารม้า วชิ า เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิด รหสั วชิ า ๐๑๐๒๐๑๐๗๐๒ หลักสูตร ช้ันนายพนั แผนกวิชาอาวธุ กศ.รร.ม.ศม. ปรัชญา รร.ม.ศม. “ฝึกอบรมวิชาการทหาร วทิ ยาการทนั สมยั ธารงไว้ซึ่งคณุ ธรรม”

ปรัชญา วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ วตั ถุประสงคก์ ารดาเนนิ งานของสถานศกึ ษา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ๑. ปรัชญา ทหารม้าเป็นทหารเหล่าหน่ึงในกองทัพบก ที่ใช้ม้าหรือสิ่งกาเนิดความเร็วอ่ืน ๆ เป็นพาหนะ เป็นเหล่าที่มีความสาคัญ และจาเป็นเหล่าหนึ่ง สาหรับกองทหารขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับเหล่าทหารอ่ืน ๆ โดยมีคุณลักษณะ ท่ีมีความคล่องแคล่ว รวดเร็วในการเคลื่อนท่ี อานาจการยิงรุนแรง และอานาจในการทาลายและข่มขวัญ อันเปน็ คุณลักษณะที่สาคัญและจาเปน็ ของเหล่า โรงเรยี นทหารม้า ศูนยก์ ารทหารม้า มีปรชั ญาดังน้ี “ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทนั สมัย ธารงไวซ้ ่ึงคุณธรรม” ๒. วิสยั ทัศน์ “โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วิชาการเหล่าทหารม้าท่ีทันสมัย ผลติ กาลังพลของเหล่าทหารมา้ ให้มลี ักษณะทางทหารทดี่ ี มคี ุณธรรม เพือ่ เปน็ กาลงั หลักของกองทพั บก” ๓. พนั ธกจิ ๓.๑วจิ ัยและพัฒนาระบบการศึกษา ๓.๒ พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ๓.๓ จัดการฝกึ อบรมทางวชิ าการเหลา่ ทหารมา้ และเหล่าอื่นๆ ตามนโยบายของกองทัพบก ๓.๔ผลติ กาลังพลของเหล่าทหารม้า ให้เป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องหลกั สตู ร ๓.๕ พฒั นาสอื่ การเรียนการสอน เอกสาร ตาราของโรงเรียนทหารม้า ๓.๖ปกครองบังคับบัญชากาลังพลของหน่วย และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ให้อยู่บนพื้นฐาน คุณธรรม จริยธรรม ๔. วัตถุประสงค์ของสถานศึกษา ๔.๑ เพ่ือพฒั นาครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ให้กับ ผเู้ ข้ารบั การศึกษาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ ๔.๒ เพอื่ พฒั นาระบบการศึกษา และจดั การเรยี นการสอนผา่ นสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ ให้มีคุณภาพอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๔.๓ เพื่อดาเนินการฝึกศึกษา ให้กับนายทหารชั้นประทวน ท่ีโรงเรียนทหารม้าผลิต และกาลังพลที่เข้ารับ การศกึ ษา ใหม้ คี วามรูค้ วามสามารถตามท่ีหน่วย และกองทพั บกต้องการ ๔.๔ เพื่อพฒั นาระบบการบริหาร และการจดั การทรัพยากรสนับสนนุ การเรยี นรู้ ให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ๔.๕ เพื่อพัฒนาปรบั ปรงุ ส่ือการเรยี นการสอน เอกสาร ตารา ใหม้ คี วามทันสมยั ในการฝึกศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง ๔.๖ เพ่ือพัฒนา วิจัย และให้บริการทางวิชาการ ประสานความร่วมมือ สร้างเครือข่ายทางวิชาการกับ สถาบันการศึกษา หนว่ ยงานอืน่ ๆ รวมทั้งการทานบุ ารงุ ศิลปวฒั ธรรม ๕. เอกลักษณ์ “เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ทางวิชาการ และผลิตกาลังพลเหล่าทหารม้าอย่างมีคุณภาพเป็นการ เพ่ิมอานาจกาลงั รบของกองทัพบก” ๖. อัตลกั ษณ์ “เดน่ สง่าบนหลังม้า เก่งกล้าบนยานรบ”

คานา เอกสารตาราฉบับน้ี แผนกวิชาอาวุธ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ได้ รวบรวมและเรียบเรยี งจัดทาข้นึ เพอื่ ใช้ในการเรยี นการสอนหลกั สูตรตามแนวทางรบั ราชการของโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ซึ่งมีเน้ือหาวิชาอาวุธทุกชนิดที่มีใช้ในเหล่าทหารม้า ประกอบด้วย วิชา อาวุธขนาดเล็ก, วิชา อาวุธประจาหน่วย, วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด, วิชา หลักยิงเครื่องยิงลูกระเบิด, วิชา อาวุธ และยุทธภัณฑ์ยาน เกราะ และวชิ า สงครามทุ่นระเบดิ แผนกวชิ าอาวธุ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศนู ยก์ ารทหารมา้ หวังเป็นอย่างย่งิ ว่า เอกสาร ตาราฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนหรือท่านผู้อ่าน และหากมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์ท่ีจะให้ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกรุณาระบุ หน้า ข้อ บรรทัด ตามที่ปรากฏในเอกสารตาราน้ี และขอความ กรุณาให้เหตุผลหรือมีหลักฐานอ้างอิงประกอบเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยส่งไปที่ แผนกวิชาอาวุธ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ตาบลปากเพรียว อาเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ๑๘๐๐๐ แผนกวิชาอาวธุ กศ.รร.ม.ศม.

สารบัญ วชิ า เคร่ืองยิงลูกระเบิด หนา้ 1. เครือ่ งยงิ ลูกระเบิด แบบ 88 ขนาด 60 มม. (บ.2)……………………………… 1 2. เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิด ขนาด 81 มม. M29……………………………………..……. 4 3. เครอ่ื งยิงลกู ระเบิด ขนาด 120 มม. M132A2 (ศอว.ศอพท.)…..………… 6 4. เครอ่ื งเล็ง บ.4, บ.34 ป.2, บ.53 และ เคร่อื งประกอบการเล็ง ค……….. 8 5. ลูกระเบดิ ยงิ / ตารางยิง ค………………………..………………………………..…… 12 6. กล้องกองร้อยชนดิ เขม็ ทิศ M1 ……………………………………………………… 18 7. กล้องกองร้อยชนดิ เข็มทศิ M2 และ M2A2 ………………………….……….… 25 ------------------------------------

-1- วิชา เคร่อื งยงิ ลูกระเบดิ 1. เครื่องยิงลูกระเบดิ แบบ 88 ขนาด 60 มม. (บ.2) หลักฐาน FM 23-85 ลง 2 FEBRUARY 1967, TM 9-3071-1 ลง 6 JANUARY 1958 1. กล่าวท่ัวไป เคร่ืองยิงลูกระเบิด แบบ 88 ขนาด 60 มม. (บ.2) เป็นอาวุธยิงประเภทปืนใหญ่สนาม ที่มีลากล้องเรียบ เกลี้ยง ทาการยิงด้วยมุมสงู สามารถทาการยงิ ไดท้ ้ังวิธีเลง็ ตรงและเลง็ จาลอง 2. ลกั ษณะทวั่ ไป - กวา้ งปากลากล้อง 60 มม. - ไม่มีเคร่ืองล่นั ไก - เครือ่ งเลง็ ใช้เครื่องเล็งแบบ บ.4 3. มาตราทาน ก. ขนาด - กว้างปากลากล้อง 60 มม. - เขตการให้ทางสูง 40 - 85 องศา - เขตสา่ ยจากจุดกง่ึ กลางสะพานโครงสา่ ย สา่ ยไดข้ ้างละ 125 มลิ เลียม - หมนุ ควงสา่ ย 1 รอบ ลากลอ้ งส่ายประมาณ 15 มิลเลยี ม - หมนุ ควงสูง 1 รอบ ยกมุมสูง ขึน้ -ลง 1/2 องศา ข. นา้ หนัก - เครอื่ งยิงท้ังกระบอกหนกั ประมาณ 42 ปอนด์ (20.52 กก.) ลากลอ้ ง หนัก 12.8 ปอนด์ ขาหยั่ง หนกั 16.4 ปอนด์ ฐานรับลากลอ้ ง หนกั 12.8 ปอนด์ - เครือ่ งเลง็ บ.4 หนกั 0.551 กโิ ลกรมั ค. ขปี นวธิ ี ระยะยงิ ใกลส้ ดุ -ไกลสุดของ ลย./ค.แต่ละชนดิ โดยประมาณ (หลักฐานตารางยิง ลย./ค.แต่ละชนิด) - ลย./ค. สงั หาร HE, M49A2 90 - 1,790 เมตร M49 HE, M49A4 50 - 1,800 เมตร - ลย./ค. ควนั SMOKE (WP), M302 90 - 1,450 เมตร M302 - ลย./ค. ซ้อมยงิ M50A2 90 - 1,790 เมตร M50 วชิ าเครือ่ งยิงลูกระเบดิ (ค.แบบ 88 ขนาด 60 มม. บ.2)

- ลย./ค. ฝกึ ยิง M69 -2- M69 225 เมตร - ลย./ค. ส่องแสง M83A1/M83A2 430 - 1,000 เมตร M83 - ลย./ค. ระเบดิ แบบ ทส./ก.1 50 - 1,945 เมตร ความเร็วในการยิง - สงู สดุ 30 นัด/นาที - ปกติ 18 นัด/นาที (ถา้ ยิงด้วยจงั หวะเร็วสงู สดุ มากกวา่ 1 นาที จะทาใหแ้ ก๊สรว่ั ทร่ี อบเครื่องปิดท้าย) 4. ส่วนประกอบ เคร่อื งยิงลกู ระเบดิ แบบ 88 ขนาด 60 มม. (บ.2) ประกอบดว้ ยช้นิ สว่ นใหญๆ่ 3 ชิ้นสว่ น คือ.- ก. ลากล้องและเครื่องปดิ ท้าย M 2 ข. ขาหย่งั M 5 ค. ฐานรบั ลากล้อง M 5 ลากล้องและเครื่องปดิ ทา้ ย (M 2 ) - ลากล้องมีลกั ษณะภายในเรียบเกลี้ยง ภายนอกมีขดี หมายปลอกรัดลากล้อง - เคร่อื งปดิ ทา้ ยเป็นฝาเกลียว ตอนลา่ งเปน็ เดือยกลมสาหรบั สวมในช่องรับเดือย ฝาเกลียว เคร่อื งปิดทา้ ย สวมต่อกบั ตวั ลากล้อง มีน้ายากันแกส๊ รั่วเช่ือมอยู่ - เข็มแทงชนวน ทาเป็นตอนเกลยี วสวมอยู่ในช่องเข็มแทงชนวนทเ่ี ดือยเคร่ืองปิดทา้ ย เมอ่ื ประกอบเต็มที่แล้ว ปลายเข็มแทงชนวนจะโผลพ่ ้นแปน้ เขม็ แทงชนวนภายในลากล้อง 1/20 น้ิว หมายเหตุ เขม็ แทงชนวนเปน็ ชิน้ สว่ นยอ่ ยเพียงช้ินสว่ นเดยี ว ทพี่ ลประจาเครื่องยิงสามารถถอดออกมาทาความ สะอาด และตรวจสภาพได้ ขาหยั่ง (M .5) ก. เครื่องรบั ลากลอ้ ง อยู่บนโครงส่าย ประกอบด้วย.- - ปลอกรดั ลากล้อง - เครื่องผอ่ นอาการสะเทือน ข. เครือ่ งส่าย ประกอบด้วย.- - โครงสา่ ย - สะพานโครงส่าย - ปลอกเกลียวควงส่าย - จานควงสา่ ย - เกลียวควงสา่ ย - ควงส่าย ค. เครอ่ื งให้ทางสงู - เรือนเครอ่ื งใหท้ างสงู - ปลอกเกลยี วควงสงู - เกลยี วควงสูง - ควงสงู ง. ขาหย่งั ซ้าย - หวั ขาหยง่ั ซ้าย - จกุ อัดนา้ มัน - ปลอกจาปา คานแก้เอยี ง - ปลอกขาหยง่ั ซ้าย วชิ าเครอื่ งยิงลูกระเบดิ (ค.แบบ 88 ขนาด 60 มม. บ.2)

-3- - ขาหย่งั ซ้าย - คานแก้เอยี ง - พล่วั ขาหยงั่ ซ้าย จ. ขาหย่ังขวา - หวั ขาหย่งั ขวา - ปลอกขาหยง่ั ขวา - เขม็ ขดั รัดขาหย่งั - พลั่วขาหย่งั ขวา ฐานรับลากลอ้ ง ทาเป็นแผน่ พล่ัว เพ่อื ใหฝ้ ังตัวลงในดินไดง้ า่ ย ด้านล่างทาให้เป็นครีบ แผน่ แหลมยื่นออกไปเปน็ ตอน ๆ ส่วนบนเป็นชอ่ งสาหรบั รับเดือยท้ายลากลอ้ ง ซึ่งประกอบดว้ ย .- - ห่วงยึดลากล้อง - กลอนห่วงยดึ ลากล้อง 5. การดแู ลรกั ษาและการตรวจสภาพ - หยอดนา้ มันตามจุดหล่อลน่ื - ให้อดั น้ามนั สว่ นเคลือ่ นท่ตี า่ ง ๆ ของขาหย่ังประจาสัปดาห์ ซ่ึงมอี ยู่ 5 จดุ ด้วยกัน คอื (ใชน้ า้ มันชโลมอดั ) 1) ข้อต่อหัวขาหยั่งซา้ ย 2) ปลอกเกลียวควงสา่ ย 3) โครงสา่ ย 4) แหนบผ่อนอาการสะเทือนตวั ซา้ ย 5) แหนบผ่อนอาการสะเทือนตัวขวา - การทาสี หน่วยใช้ทาสเี ฉพาะฐานรับลากลอ้ ง,ลากล้องภายนอก, พลวั่ ขาหยั่งและขาหยงั่ สว่ นอ่นื ๆ เป็น หนา้ ท่ีของ สพ. - การตรวจสภาพ ตรวจสภาพลากล้องทั่ว ๆ ไป และความสะอาดภายในลากล้อง ตรวจเข็มแทงชนวนไม่สึก โผลพ่ น้ แป้นเข็มแทงชนวน 1/20 นิว้ ตรวจสภาพขาหย่ัง ทางานถกู ต้อง สภาพทว่ั ไปเรียบร้อยและชน้ิ สว่ นเคล่อื นท่ีมีการหลอ่ ลืน่ ตรวจสภาพโครงสา่ ย หมนุ โครงส่ายราบรื่นไม่ หลวมคลอน ช้นิ ส่วนตา่ ง ๆ ไม่ผดิ รูป ตรวจสภาพฐานรับลากล้อง กระเด่ืองยดึ เดือยฐานรับลากล้องทางาน ถูกต้องปลดและยึดไดส้ ะดวก 6. เหตขุ ดั ข้อง ก. การบรรจุลูกระเบิดยงิ เขา้ ลากลอ้ งไม่ได้ (ลย./ค.ผิดรูป, ลากลอ้ งสกปรก) ข. ลย./ค.ไม่ลนั่ ออกไป (เขม็ แทงชนวนชารดุ ,จอกกระทบแตกเส่ือมคุณภาพ,ลากลอ้ งสกปรก, การเล่ือนตวั ของ ลย./ค.ไมส่ ะดวก) ค. ยกหรอื ลดปากลากล้องไม่ได้ (เคร่อื งใหท้ างสงู ชารดุ ) ง. ส่ายปากลากลอ้ งไปทางซา้ ยหรอื ทางขวาไม่ได้ (เครื่องส่ายชารุด) จ. เครื่องยิงสนั่ สะเทือนมากในขณะทาการยิง (เครอ่ื งผอ่ นอาการสะเทือนชารุด) ช. ระยะยงิ ใกลก้ วา่ ปกติ (แกส๊ รว่ั ทท่ี ้ายลากล้อง, ดนิ เพ่ิมเสอื่ มคณุ ภาพ) - - - - - - - - - - - - - - - - ----------------------- - - - - - - - - - - - - - - - - วชิ าเครื่องยงิ ลูกระเบิด (ค.แบบ 88 ขนาด 60 มม. บ.2)

-4- 2. เคร่ืองยิงลกู ระเบิด M 29 ขนาด 81 มม. 1. กลา่ วท่วั ไป เครื่องยิงลูกระเบิด M 29 เป็นเครือ่ งยงิ ท่ีใช้ติดต้ังบนพื้นดิน และบนยานพาหนะ เช่น รถเกราะคอม มานโด V-150, รสพ. M 125 ใช้ยงิ ไดท้ ง้ั วธิ เี ลง็ ตรง และเลง็ จาลอง 2. ลกั ษณะทั่วไป - ลากล้องภายในเกล้ียงภายนอกเป็นเกลยี ว สาหรบั แหวนสวมเพื่อยดึ ลากลอ้ งกับขาหยั่ง - ยิงดว้ ยมุมยิง - ใช้เครอ่ื งเล็ง บ.34 ป.2 และ บ.53 3. ขอ้ มูลอาวุธ รถเกราะคอมมานโด V-150 - กว้างปากลากล้อง 81 มม. - เขตให้ทางสงู (ประมาณ) 800 - 1500 มลิ เลียม - หมนุ ควงสูง 1 รอบ ให้มุมสูงไดป้ ระมาณ 10 มลิ เลียม - หมนุ ควงส่าย 1 รอบ ส่ายประมาณ 10 มิลเลยี ม - สา่ ยได้ข้างละ (ประมาณ) 95 มลิ เลียม ( 9 1/2 รอบ ) - หมุนควงส่ายได้เต็มท่ี (ประมาณ) 190 มลิ เลยี ม ( 19 รอบ ) - ทาการย้ายขาหยั่งโดยฐานรบั ลากล้องอยู่กบั ทไ่ี ด้ 6400 มลิ เลยี ม น้าหนกั - ลากลอ้ งหนัก 28 ปอนด์(12.73 กก.) - ขาหย่ัง M23A1 หนัก 40 ปอนด์ (18 กก.) - ฐานรับลากลอ้ ง M3 หนกั 25.4 ปอนด์ (11.55 กก.) - เคร่ืองเลง็ บ.53/ บ.53 เอ 1 หนกั 5.25 ปอนด์ (2.39 กก) อัตราการยิง - ยิงตอ่ เนอื่ ง 3 นดั /นาที (สว่ นบรรจุ 8) ระยะเวลา ไมก่ าหนด 5 นดั /นาที (ส่วนบรรจุ 6) ระยะเวลา ไม่กาหนด รสพ. M125 - ยิงสูงสดุ 12 นัด/นาที (สว่ นบรรจุ 8) ระยะเวลา 2 นาที 12 นดั /นาที (ส่วนบรรจุ 6) ระยะเวลา 5 นาที - ระยะยงิ ใกล้สดุ -ไกลสุด ของ ลย./ค.แต่ละชนิด โดยประมาณ (หลกั ฐานตารางยิง ลย./ค. แต่ละชนดิ ) ลย./ค. M262 (ศอว.ทบ.) 150 - 4,450 เมตร ลย./ค. HE, M374 75 - 4,700 เมตร ลย./ค. HE, M374A2 75 - 4,550 เมตร M374 ลย./ค. HE, M43A1 90 - 3,496.5 เมตร วชิ าเครื่องยงิ ลกู ระเบิด (ค.ขนาด 81 มม. M29)

-5- ลย./ค. WP, M375 75 - 4,700 เมตร ลย./ค. WP, M57 180 - 2,205 เมตร M375 ลย./ค. สอ่ งแสง M301 90 - 1,980 เมตร ลย./ค. ส่องแสง M301A1/A2 90 - 2,070 เมตร ลย./ค. ส่องแสง M301A3 218 - 2,950 เมตร M301 4. ลกั ษณะของเคร่ืองกลไก ค. M29 แบง่ ออกเปน็ สว่ นใหญ่ ๆ ได้ 3 สว่ น คอื . 1. ลากลอ้ งและเคร่ืองปิดท้าย 2. ขาหยัง่ 3. ฐานรับลากลอ้ ง 5. การดูแลรกั ษาและการตรวจสภาพ - หน่วยใชท้ าสีได้เฉพาะฐานรับลากล้องเทา่ น้ัน ห้ามทาบนแผ่นป้าย, หมายเลขวงแหวน และช่องรับเดือยเคร่ือง ปดิ ท้ายลากลอ้ ง นอกจากนั้นส่วนอ่ืน ๆ เป็นหน้าที่ของ สพ. ถา้ หากมีรอยขดี ข่วน หรือเป็นจุดใชส้ ีแต้มไว้ - การหยอดน้ามันและการตรวจสภาพอนุโลมให้ตาม ค.แบบ 93 ขนาด 81 มม. (บ.1) หมายเหตุ 1. ชุดขาหย่ังจะต้องได้รบั การตรวจสภาพและหล่อลื่น โดยเจา้ หน้าที่ สพ.ประจาครึ่งปี (6 เดอื น) 2. กอ่ นทาความสะอาดลากลอ้ งให้ถอดเข็มแทงชนวน 3. หลังจากทาการยิงให้รีบทาความสะอาดติดต่อกัน 3 วัน และให้ทาความสะอาดประจาสัปดาห์ ด้วยน้ามัน ชาระลากล้อง (RBC) แล้วเช็ดแห้ง และชโลมด้วยน้ามันหล่อล่ืนเอนกประสงค์ (General Purpose Lubricating Oil) 4. ทุก 90 วัน จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าท่ี สพ. มาทาการตรวจสภาพลากล้อง หรือหลังจากยิงไปแล้วครบ 5,000 นัด จะต้องแจง้ ให้ สพ. ตรวจสภาพลากล้องทกุ ๆ 500 นดั หลังจากการยงิ - - - - - - - - - - - - - ------------------------------ - - - - - - - - - - - - - วิชาเครอื่ งยิงลกู ระเบดิ (ค.ขนาด 81 มม. M29)

-6- 3. เครอื่ งยงิ ลกู ระเบิดขนาด 120 มม. M132A1/A132A2 (ศอว.ศอพท.) 1. ลักษณะท่วั ไป เป็นอาวธุ ตดิ ต้งั บน รสพ.แบบ 85 ทมี่ ลี ากลอ้ งเรยี บ ไม่มีเกลยี ว บรรจุกระสุนทางปาก ลากล้อง ทาการยิงได้ทีละนัด ด้วยเคร่ืองล่ันไกท่ีสามารถทาการยิงได้ท้ังแบบปล่อยยิง และวิธีลั่นไก ประกอบด้วยองคป์ ระกอบสาคญั ท่ีสามารถถอดแยกออกจากกนั ได้ 3 สว่ นใหญ่ ๆ คอื ลากลอ้ ง, ชดุ ขาหย่ัง, ชดุ ฐานรบั ลากลอ้ ง และมีอุปกรณ์ยึดตรึง ซง่ึ ตดิ ตัง้ บน รสพ.แบบ 85 2. คุณลกั ษณะเฉพาะในการใชง้ าน ค.ขนาด 120 มม. M132A2 ค.ขนาด 120 มม. M132A1 (ติดตงั้ บน รสพ.แบบ 85) (ตง้ั ยงิ บนพื้นดนิ ) ลาดับ ขดี ความสามารถ 10 นัด/นาที 10 นัด/นาที 5 นัด/นาที 1. อัตรายงิ สงู สดุ 5 นัด/นาที 6,500 เมตร 2. อัตรายงิ ต่อเน่ือง 6,500 เมตร 3. ระยะยิงไกลสุด(ใช้ลกู ระเบิดยิง 775 – 1460 มลิ เลยี ม 790 - 1500 มิลเลยี ม ขนาด 120 มม. M 293) 7 ± 1 มลิ เลียม 7 ± 1 มลิ เลยี ม 4. ยกมุมสงู ได้ตัง้ แต่ 5. หมนุ ควงมมุ สูง 1 รอบ มุมสงู 16 ± 1 มิลเลียม 16 ± 1 มิลเลียม เปลย่ี น 114 ± 2 มลิ เลยี ม 114 ± 2 มลิ เลยี ม 6. จากจุดก่งึ กลางเขตสา่ ย ณ มุม 127 ± 2 มิลเลยี ม 127 ± 2 มิลเลียม สงู ยา่ นกลาง 1050 มิลเลียม 480 มิลเลยี ม - - หมุนควงส่าย 1 รอบ มมุ ทิศ - 6400 มลิ เลยี ม เปล่ียน - ไปทางขวาได้ - ไปทางซา้ ยได้ 7. ยา้ ยพ้นื ที่ยงิ - ดว้ ยการเลือ่ นขาหยัง่ - ด้วยการยกขาหยง่ั วิชาเคร่ืองยิงลกู ระเบดิ (ค.ขนาด 120 มม. M132)

-7- 120 มม. 1738 มม. 3. คณุ ลักษณะเฉพาะทางเทคนิค 1913 มม. 3.1 ชดุ ลากลอ้ ง 3.1.1 กวา้ งปากลากล้อง 95 กก. 3.1.2 ความยาวลากล้องไม่รวมเครอ่ื งปดิ ทา้ ย 3.1.3 ความยาวลากลอ้ งรวมเครอื่ งปิดท้าย 11597.095 กก./ตร.ซม. 3.1.4 น้าหนกั ลากลอ้ งรวมเครอ่ื งปดิ ท้ายประมาณ 10683.385 กก./ตร.ซม. 3.1.5 ลากลอ้ งทาดว้ ยเหล็ก ชนดิ FORGING STEEL 11.50 เปอรเ์ ซน็ ต์ - มคี ่า TENSILE STRENGTH ไมน่ ้อยกว่า 301 - 362 HB. - มีคา่ YIELD STRENGTHไม่น้อยกวา่ 2050 กก./ตร.ซม. - มีค่า ELONGATION ไม่น้อยกวา่ - มคี ่า ความแข็ง ( BRINELL HARDNESS ) 805 มม. 3.1.6 ทนแรงดันสูงสดุ ในรงั เพลิงได้ 1900 มม. 3.2 ชดุ ขาหย่ังท่ตี ดิ ตั้งบน รสพ.แบบ 85 3.2.1 ความยาวขาหยง่ั 1100 มม. 3.2.2 ความสงู ขาหยั่งรวมเคร่ืองให้ทางสูงยืดออก 1760 มม. 3.3 ชดุ ขาหยั่งตดิ ตั้งบนพ้ืนดิน 80 ± 1 กก. 3.3.1 ความยาวขาหยง่ั เก็บปกตไิ ม่รวมเครอื่ งใหท้ างสูง 3.3.2 ความยาวขาหย่ังรวมเครื่องให้ทางสูงยดื ออกสุด 240 ± 2 มม. 3.3.3 น้าหนักขาหยง่ั 260 ± 2 มม. 3.4 ชดุ ฐานรบั ลากลอ้ งที่ติดตั้งบน รสพ.แบบ 85 85 มม. 3.4.1 ความกวา้ ง 3.4.2 ความยาว 1100 ± 10 มม. 3.4.3 ความสูง 240 ± 10 มม. 3.5 ชดุ ฐานรบั ลากล้อง ตัง้ ยงิ บนพ้ืนดิน 110 ± 1 กก. 3.5.1 เส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5.2 ความสูง 3.5.3 นา้ หนัก - - - - - - - - - - - --------------------------- - - - - - - - - - - - วิชาเครือ่ งยิงลกู ระเบดิ (ค.ขนาด 120 มม. M132)

-8- 4. เครอื่ งเล็ง บ.4, บ.34 ป.2, บ.53 และ เครือ่ งประกอบการเลง็ ค. 1. เครื่องประกอบการเล็ง ค. ประกอบดว้ ย .- 1.1 หลักเล็ง 1.2 ไฟฉายหัวหลักเล็ง 1.3 เครอื่ งเล็ง 1.4 ไฟฉายเครื่องเลง็ ไฟฉายหวั หลักเลง็ M14 หลกั เลง็ M1A2 2. เครอ่ื งเล็ง บ.4 2.1 ลักษณะทว่ั ไป ไฟฉายเครื่องเลง็ M53E1 - กล้องสอบการเลง็ มเี สน้ ดิ่งสีขาว, เลนส์รวมแสงขยายได้ 9.78 เทา่ - ศูนยเ์ ปดิ มลี วดเปน็ เส้นดิง่ ทางข้างหนา้ มีใบศูนย์หลังรูปตัวยทู างดา้ นหลงั - ควงมมุ ทศิ มีขดี มาตรามุมทิศขีดละ 5 มลิ เลียม มตี วั เลขกากับทกุ ๆ 10 มลิ เลียม จาก 0 ถงึ 150 มลิ เลยี ม ไปทางซ้ายและทางขวา - ควงมุมสงู มาตรามุมสงู ส่วนย่อยมตี วั เลขกากับตั้งแต่ 0-9 ขีดหนง่ึ มีคา่ เท่ากับ 1/4 องศา มีตวั เลขกากับทกุ ๆ 1 องศา มาตรามุมสูงสว่ นใหญ่มตี วั เลขกากบั ตงั้ แต่ 40-90 องศา ขีดหนึ่ง เทา่ กับ 10 องศา มีตวั เลขกากบั ทกุ ๆ 10 องศา - หลอดระดบั มุมสงู - หลอดระดับแกเ้ อยี ง - ก้านเครอื่ งเลง็ - วิธใี ชเ้ ครื่องเล็ง การยงิ 3 นัดแรกของที่ตั้งยิงใหมจ่ ะตอ้ งถอดเคร่ืองเล็งออกก่อน เมอ่ื จะเก็บเครอื่ งเลง็ เขา้ กลอ่ งตอ้ งตั้งมุมสูง 40 องศา และ มุมทศิ ท่ี 0 (ศูนย)์ มิลเลียม 2.2 การระวงั รักษาเคร่อื งเลง็ บ.4 - อยา่ ให้เปยี กน้า - อยา่ ใหถ้ ูกกระทบกระแทกแรง ๆ - ชารดุ ส่งเจา้ หนา้ ที่ฝา่ ยสรรพาวธุ - หา้ มปรับ, ถอด - ห้ามทาสเี อง - ห้ามหมนุ มาตราเลยขีดที่มีอยู่ - หยอดนา้ มันได้เล็กน้อยทกี่ ้านเครื่องเล็ง วชิ าเครอื่ งยิงลูกระเบิด (เคร่ืองเล็งและเครอื่ งประกอบการเล็ง)

-9- 3. เครื่องเล็ง บ.34 ป.2 ประกอบดว้ ย 1. กล้องส่องรูปข้อศอก มกี าลงั ขยาย 3 เทา่ สามารถยกข้ึนลงได้ประมาณ 30 องศา เพื่อปรบั การเล็งเหน็ 2. แท่นรับกล้องส่อง มีหลอดระดับมมุ สงู มาตรามมุ สูงสว่ นใหญ่ ซ่ึงแบ่งขดี มาตราออกเปน็ ช่องๆ ละ 100 มลิ เลยี ม มตี ัวเลขกากับไว้ ระหว่างช่อง ๆ ละ 200 มิลเลียม ตงั้ แต่ -200 ถงึ +1600 มิลเลียม มาตรามมุ สูงส่วนยอ่ ย ได้แบง่ ขดี มาตราไว้จาก 0-100 ของคร่ึงวงกลม ควงมุมสงู ตอ่ เน่อื งกนั ในครง่ึ วงกลมของควงมุมสูงมีขีดมาตรา 50 ขีด ซงึ่ มีค่าขีดละ 2 มิลเลยี ม 3. กา้ นต่อแท่นรับกล้องส่อง มหี ลอดระดับแกเ้ อียง ศูนย์เปดิ มาตรามุมสงู สว่ นใหญ่แบ่งขีดออกเป็น 64 ขีด โดยมีชอ่ งว่างระหวา่ งขีดมาตราชอ่ งละ 100 มลิ เลียม ทกุ ๆ 4 ขีด จะมตี ัวเลขกากับไว้ จาก 28-0 ไปทางซา้ ย และจาก 0-28 ไปทางขวา มาตรามมุ ทิศส่วนยอ่ ยแบ่งออกเป็น 100 ขดี ๆ ละ 1 มิลเลยี ม และมีตัวเลขกากับไว้ ทุก ๆ 10 มิลเลียม จาก 0-90 4. การเกบ็ เครื่องเล็งเขา้ กล่อง ต้ังมุมสงู ที่ 1650 มลิ เลียม และมุมทิศท่ี 0 มิลเลยี ม 5. การระวงั และการรกั ษาเครื่องเลง็ เหมือนเคร่ืองเลง็ บ.4 6. เคร่ืองใหแ้ สงสวา่ ง บ.42 ใชก้ บั เครอื่ งเลง็ บ.34 ป.2 7. ไฟฉายหลักเล็ง บ.4 4. เคร่อื งเล็ง บ.53 4.1 กล่าวท่วั ไป เคร่ืองเล็ง บ.53 แบง่ ออกเป็นส่วนใหญ่ ๆ 3 สว่ น คอื ส่วนบน, ส่วนกลาง, ส่วนล่าง 1. สว่ นบน เป็นกล้องสอ่ งรปู ข้อศอก M109 มีกาลังขยาย 4 เทา่ ภายในมีเส้นตัดกนั เปน็ กากบาท พรอ้ มมาตรา มลิ เลยี มท้งั 4 ด้าน ๆ ละ 85 มลิ เลยี ม มตี วั เลขกากบั ทุก ๆ 10 มิลเลยี ม เริม่ ตง้ั แต่ 10 - 80 มิลเลียม 2. สว่ นกลาง เป็นก้านตอ่ แทน่ รับกลอ้ งส่อง ประกอบด้วยมาตรามุมทิศ สว่ นใหญ่ และส่วนย่อย ทัง้ สแี ดง และ สีดา - มาตรามุมทศิ ส่วนใหญส่ ีแดง มี 64 สว่ น มตี วั เลขกากับทุก ๆ 400 มิลเลียม เรม่ิ จาก 0 ถึง 60 มิลเลียม มาตรามมุ ทิศสว่ นย่อยสแี ดงแบ่งออกเปน็ 100 สว่ น แต่ละส่วนมคี า่ เทา่ กับ 1 มิลเลียม มีตัวเลขกากับทกุ ๆ 10 มิลเลียม เร่มิ จาก 0 ถงึ 90 มลิ เลยี ม - มาตรามมุ ทศิ ส่วนใหญส่ ีดา ทาเปน็ กรอบเลอ่ื นได้ แบง่ ออกเป็น 64 สว่ น มตี ัวเลขกากับทุก ๆ 200 มลิ เลยี ม เริม่ จาก 0-62 มลิ เลียม มาตรามมุ ทิศส่วนย่อยสดี าแบง่ ออกเป็น 100 สว่ น แตล่ ะส่วนมีค่าเทา่ กับ 1 มลิ เลียม มีตวั เลขกากับทุก ๆ 10 มลิ เลียม เรมิ่ จาก 0 ถึง 90 มลิ เลียม 3. สว่ นลา่ ง เปน็ ฐาน M128 ประกอบดว้ ย มาตรามมุ สงู ส่วนใหญ่ และสว่ นย่อย หลอดระดบั แกเ้ อียง และหลอดระดบั มุมสงู วิชาเครือ่ งยิงลกู ระเบดิ (เครอ่ื งเล็งและเคร่อื งประกอบการเลง็ )

-10- - มาตรามุมสูงสว่ นใหญ่ มมี าตราตั้งแต่ - 2 ถงึ + 16 ชอ่ งวา่ งระหวา่ งขดี เท่ากบั 100 มิลเลียม มตี วั เลขกากับ ทกุ ๆ 200 มิลเลียม 4.2 มุมพนื้ ท่ี มีมุมลบ และ มุมบวก จาก 0 (ศูนย)์ ถึง - 300 มลิ เลียม ถึง + 300 มิลเลยี ม ชอ่ งละ 100 มิลเลยี ม ปกติมุมพน้ื ทจ่ี ะตัง้ ไว้ที่ 0 (ศนู ย)์ เสมอ 4.3 การเก็บเครื่องเลง็ เข้ากลอ่ ง ให้ต้ังมาตรามุมทศิ ส่วนใหญส่ ีแดงที่ 3800 มลิ เลยี ม ตง้ั มุมสูงที่ 0 (ศนู ย์ มลิ เลยี ม หมนุ กล้องสอ่ งรูป ขอ้ ศอกใหพ้ ับมาถึงหลอดระดบั แกเ้ อียงและหลอดระดบั มุมสูง แลว้ นาเกบ็ เขา้ กลอ่ ง 4.4 การระวงั รักษา เหมือนเครื่องเลง็ บ.4 และ บ.34 ป.2 5. สรุป เครอื่ งเล็ง และเครื่องประกอบการเลง็ ค. แต่ละชนดิ 5.1 ค. ขนาด 60 มม. บ.2 (M2) - เครอ่ื งเลง็ หรือ กล้องเลง็ บ.4 (M4) - กาลังขยายเคร่ืองเล็ง 9.78 เท่า - มมุ เก็บเครื่องเลง็ มมุ สูง 40 องศา มุมทิศ 0 องศา - ไฟฉายเครือ่ งเล็ง บ.37 (M37) , หลักเล็ง บ.1 ป.2, ไฟฉายหัวหลกั เลง็ บ.14 (M14) 5.2 ค. แบบ 93 ขนาด 81 มม. บ.1 (M 1) - เครอ่ื งเล็ง หรือ กล้องเล็ง บ.34 ป.2 (M34A2) - กาลังขยายเครื่องเล็ง 3 เทา่ , เครอ่ื งเล็งหนกั 4 ปอนด์ - มมุ เก็บเครื่องเล็ง มมุ สูง 1,650 มิลเลียม มุมทิศ 0 องศา - ไฟฉายเครอื่ งเลง็ บ.42 (M42) , หลกั เล็ง บ.1 ป.2 (M1A2) , ไฟฉายหวั หลกั เล็ง บ.14 (M14) 5.3 ค. M 29 ขนาด 81 มม. - เครื่องเลง็ หรือ กล้องเล็ง บ.53 (M53) - กาลังขยายเครื่องเล็ง 4 เท่า, เครือ่ งเล็งหนกั 5.25 ปอนด์ - มุมเกบ็ เคร่ืองเล็ง มุมสูง 0 มิลเลียม มุมทิศส่วนใหญส่ ีแดง 3,800 มิลเลียม - ไฟฉายเครื่องเลง็ บ.53 (M53) 5.4 ค. ขนาด 82 มม. (สปจ.) - เครอื่ งเล็ง หรอื กล้องเลง็ MS 4 - กาลงั ขยายเครื่องเล็ง 2.55 เทา่ , เครือ่ งเลง็ หนัก 0.9 กก. 5.5 ค. แบบ 95 ขนาด 4.2 นิว้ M30 - เครื่องเลง็ หรือ กล้องเลง็ บ.53 (M53) - กาลงั ขยายเคร่ืองเล็ง 4 เทา่ , เครื่องเล็งหนกั 5.25 ปอนด์ - มุมเก็บเครื่องเลง็ มมุ สงู 0 มลิ เลียม มมุ ทิศส่วนใหญส่ แี ดง 3,800 มลิ เลียม - ไฟฉายเครอื่ งเลง็ บ.53 (M53) วิชาเครอ่ื งยิงลกู ระเบดิ (เครือ่ งเลง็ และเครือ่ งประกอบการเล็ง)

-11- 5.6 ค.ขนาด 120 มม. M132A2 (ศอว.ศอพท.) - เครือ่ งเล็ง หรอื กล้องเลง็ M53A1 - กาลังขยายเคร่ืองเล็ง 4 เท่า, เคร่ืองเลง็ หนกั 5.25 ปอนด์ - มมุ เกบ็ เครื่องเลง็ มมุ สงู ส่วนยอ่ ย 900 มิลเลียม มุมทศิ ส่วนใหญ่สีแดง 3,200 มิลเลยี ม - ไฟฉายเครอื่ งเลง็ M53E1, หลกั เลง็ 2 หลักต่อ ค. 1 เครอ่ื ง , เคร่อื งใหแ้ สงหลักเล็ง หมายเหตุ ค.อาจได้รับหลักเลง็ เพ่ิมเติม คือ หลักเลง็ บ.10 หรอื บ.7 ฯลฯ เครอ่ื งเลง็ อาจใชไ้ ด้กับ ค.หลาย ชนิด เชน่ บ.4 ค.60, ค.81M1 บ.34 ป.2, ค.81 M29, ค.81M1 บ.53 ค.81 M29, ค.4.2 นว้ิ และ ค.ขนาด 120 มม. (ศอว.ศอพท.) - - - - - - - - - -------------------- - - - - - - - - - วชิ าเครื่องยงิ ลกู ระเบดิ (เครอ่ื งเลง็ และเครื่องประกอบการเลง็ )

-12- 5. ลูกระเบิดยงิ และตารางยงิ ค. ตารางเปรียบเทียบลูกระเบิดยงิ ขนาด 81 มม. ( FM 23-90 ) ชนิด นา้ หนัก รหัสสี สะเกด็ เวลาลุกไหม้ อัตรา พืนที่ส่องสวา่ ง แรงเทียน (ปอนด์) ระเบดิ (วนิ าที) การตก (เมตร) - ระเบดิ HE - M374A2 9.34 สีกากีแกม เส้นผา่ ศนู ย์ - - - - - ระเบดิ HE เขยี วอกั ษรสี กลาง 34 ม. - M374 - เหลอื ง - ระเบดิ HE M362 9.34 สกี ากแี กม เส้นผา่ ศนู ย์ - - - 500,000 500,000 ระเบดิ HE เขยี วอกั ษรสี กลาง 34 ม. 500,000 M43A1 เหลือง ควนั WP M375A2 9.42 สีกากีแกม 25 × 20 - - - ควัน WP เขียวอกั ษรสี เมตร M375 เหลือง ควนั WP M370 7.15 สกี ากแี กม 20 × 15 - - - สอ่ งแสง เขยี วอักษรสี เมตร ILLUM M301A3 เหลอื ง สอ่ งแสง ILLUM 9.34 สเี ขียวอ่อน เสน้ ผา่ ศนู ย์ - - - M301A2 ส่องแสง อกั ษรสีแดง กลาง 20 ILLUM M301A1 เมตร 9.34 สเี ขียวออ่ น เสน้ ผา่ ศนู ย์ - - - อกั ษรสีแดง กลาง 20 เมตร 9.34 สเี ขยี วออ่ น เส้นผา่ ศูนย์ - - - อกั ษรสีแดง กลาง 20 เมตร 10.1 สขี าว - 60 6 ม./ 1,200 อักษรสีดา้ วนิ าที 10.71 สีขาว - 60 4 ม./ 1,100 อักษรสดี า้ วนิ าที 10.71 สขี าว - 60 4 ม./ 1,100 อักษรสีดา้ วินาที วชิ าเคร่อื งยิงลกู ระเบิด (ลกู ระเบดิ ยงิ และตารางยงิ ค.)

-13- ชนิด นา้ หนัก รหสั สี สะเกด็ ระเบิด เวลาลุกไหม้ อัตรา พนื ทส่ี ่องสว่าง แรงเทียน (ปอนด)์ - (วินาท)ี การตก (เมตร) ซ้อมยิง TP 7.15 สฟี ้า - M43A1 อักษรสีขาว - -- - ฝึกยงิ 10.7 - M68 สดี ้า -- - อักษรสขี าว ตารางเปรยี บเทียบลูกระเบิดยิง ขนาด 4.2 นิว้ (107 มม.) (FM23-92 และ TM9-1015-215-10) ชนดิ นา้ หนัก ระยะยงิ (เมตร) สะเกด็ ระเบิด ลกุ ไหม้ อัตราการตก พท.ส่องสวา่ ง แรงเทยี น ปอนด์ ใกล้สดุ ไกลสุด (เมตร) (วนิ าท)ี (เมตร) HE 22.00 770 6,840 40 × 20 - - -- M329A2 (9.98 กก.) HE 27.07 920 5,650 40 × 20 - - -- M329A1 HE, M329 27.07 870 5,420 40 × 20 - - -- SMOKE 28.66 920 5,650 - - - -- M328A1 SMOKE 28.66 870 5,420 - - - -- M328 ILLUM 26.7 400 5,490 - 90 5 ม./วินาที 1,500 850,000 M335A2 ILLUM 26.7 640 5,290 - 70 10 ม./วินาที 800 500,000 M335A1 ILLUM 26.7 640 4,800 - 60 10 ม./วินาที 800 500,000 M335 GAS M2A1 24.67 870 4,540 - - - -- TACTICAL 27.07 - 5,650 - 60 - -- CS M630 วิชาเครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิด (ลกู ระเบดิ ยิงและตารางยิง ค.)

-14- ลกู ระเบดิ ยิงทใ่ี ช้กับ ค.ขนาด 120 มม. M132A1/ M132A2 ลกู ระเบดิ ยิงที่ใช้ยงิ กบั ค.ขนาด 120 มม. M132A1 และ M132A2 ซง่ึ ผลิตโดย รง.กสย.ของ ศอว. ศอพท.(โรงงานผลติ กระสุนปืนใหญแ่ ละลกู ระเบิดยิงศนู ย์อ้านวยการสร้างอาวฯุ ) จะต้องมแี รงดนั ภายใน รงั เพลงิ สงู สุดไม่เกนิ 1,103 กก./ตร.ซม. ในปัจจบุ ันนลี ูกระเบดิ ยงิ ที่ใชก้ บั ค.ขนาด 120 มม. M132A1 และ M132A2 มีดงั นี. 1. ลูกระเบดิ ยงิ ขนาด 120 มม. ชนดิ ระเบิด M 293 ( ผลติ โดยโรงงานผลติ กระสุนปืนใหญแ่ ละลกู ระเบดิ ยงิ ศนู ย์อา้ นวยการสร้างอาวฯุ ) 2. ลูกระเบิดยงิ ขนาด 120 มม. ชนดิ ควันฟอสฟอรสั ขาว แบบ M 404 (ผลิตโดยโรงงานผลติ กระสุน ปืนใหญ่และลกู ระเบดิ ยิง ศูนยอ์ ้านวยการสร้างอาวฯุ ) 3. ลูกระเบิดยิง ขนาด 120 มม. ชนดิ ควนั ฟอสฟอรสั ขาว แบบ M 9412 (จัดหามาจากต่างประเทศ) 4. ลูกระเบดิ ยิง ขนาด 120 มม. ชนดิ ส่องแสง แบบ M 9602 (จดั หามาจากตา่ งประเทศ) 5. ลกู ระเบิดยิง ขนาด 120 มม. ชนดิ ส่องแสง แบบ M 9607 (จดั หามาจากตา่ งประเทศ) - - - - - - - - - - --------------------------- - - - - - - - - - - วิชาเครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ (ลูกระเบดิ ยงิ และตารางยิง ค.)

-15- ตารางยิง (Firing Tables) ตารางยงิ จัดทา้ ด้วยกระดาษอาบมนั อยา่ งดี ลกั ษณะเปน็ แผน่ เดียวพับครึง่ หลกั การในการยิงเคร่ืองยิงลูก ระเบิด จะต้องมีตารางยิงเป็นปัจจัยส้าคัญ ด้านหน้าตารางยิงจะบอกไว้ว่า ตารางยิงส้าหรับเคร่ืองยิงขนาดใด แบบของเครื่องยิงลูกระเบิดและชนิดของลูกระเบิดยิง ด้านในจะเป็นตารางยิงบอกระยะ (RANGE) มุมสูงตังยิง (ELEVATION) กรวยสูงแล่น (MAXIMUM ORDINATE) (ใช้เม่ือปฏิบัติการร่วมกับก้าลังทางอากาศ) และจ้านวน สว่ นบรรจุ (CHARGE) ตารางยิงทัว่ ไปจะมีหมายเหตุ และค้าแนะน้าสา้ หรับการใชต้ ารางยิง บอกไวท้ างดา้ นหน้าดงั น.ี - NOTE (หมายเหตุ) สา้ หรบั ตารางยงิ FT81-AJ-2 - หมุนควงมมุ ทศิ 1 รอบ มมุ ทางทศิ จะเปล่ียนไปประมาณ 10 มิลเลยี ม - หมนุ ควงสูง 1 รอบ มมุ สงู จะเปล่ยี นไปประมาณ 10 มลิ เลียม *FT 81 – AJ – 2 (ABRIDGED) HEADQUARTERS, DEPARTMENT OF THE ARMY WASHINGTON, D.C., 29 NOVEMBER 1971 FIRING TABLES FOR MORTAR, 81 MM: M29A1 AND M29 FIRING CARTRIDGE, HE, M374A2 AND M374 CARTRIDGE, WP, M375A2 AND M375 NOTES DEFLCTION FOR ONE TURN OF TRAVERSING HANDWHEEL: APPROXIMATELY 10 MILS ELEVATION FOR ONE TURN OF ELEVATING CRANK: APPROXIMATELY 10 MILS วิชาเครอ่ื งยิงลกู ระเบิด (ลูกระเบดิ ยิงและตารางยิง ค.)

CARTRIDGE, HE, M374A2 MAX -16- FT 81 – AJ – 2 ORD (ABRIDGEID) FUZE, PD, M524A6 M CHG ELEV RANGE ELEV 693 MAX 687 MILS ORD CHG M MILS 681 2 928 M 1000 1228 674 2 867 338 1 1025 1217 667 2 307 1 1050 1205 660 2 1075 1192 652 2 1301 975 3 1100 1180 644 2 1293 970 3 1125 1167 636 2 1285 965 3 1150 1154 627 2 1277 961 3 1175 1140 617 2 1268 955 3 1200 1126 607 2 1260 950 3 1225 1111 596 2 1252 945 3 1250 1096 584 2 1243 939 3 1275 1080 571 2 1235 934 3 1300 1063 556 2 1226 928 3 1325 1046 541 2 1217 921 3 1350 1027 522 2 1208 915 3 1375 1006 501 2 1199 908 3 1400 984 474 2 1190 902 3 1425 959 433 2 1180 894 3 1450 930 2 1170 887 3 1475 894 1174 2 1160 879 3 1500 839 871 3 1525 1150 863 3 1550 1140 854 3 1575 1129 845 3 1600 1237 4 1118 วชิ าเคร่อื งยงิ ลกู ระเบิด (ลกู ระเบดิ ยิงและตารางยิง ค.)

-17- RANGE ELEV MAX CHG ELEV MAX ORD ORD CHG M MILS M MILS M 1625 1230 1168 4 1170 836 3 1650 1223 1162 4 1095 826 3 1675 1216 1156 4 1083 816 3 1700 1208 1149 4 1070 805 3 1725 1201 1143 4 1057 793 3 1750 1194 1136 4 1044 781 3 1775 1186 1129 4 1029 768 3 1800 1178 1121 4 1014 754 3 1825 1170 1114 4 998 739 3 1850 1162 1106 4 981 722 3 1875 1154 1098 4 962 704 3 1900 1146 1090 4 941 6683 3 คาแนะนาสาหรบั การใชต้ ารางยิง 1. หากระยะยิงท่ีจะใช้ท้าการยิงตอ่ ทห่ี มายสามารถเลือกใชส้ ว่ นบรรจุ และมุมยงิ ท้าการยงิ ไดม้ าก กวา่ 1 สว่ นบรรจุ และมากกว่า 1 มุมยงิ แลว้ ให้เลอื กใชส้ ่วนบรรจุซ่ึงจะสามารถทา้ การยิงได้ครอบคลมุ ระยะยิงได้ ไกลกว่า โดยไม่ต้องเปล่ียนส่วนบรรจเุ ปน็ สว่ นบรรจทุ ่จี ะใชท้ า้ การยิง อาทิ เช่น ระยะยิง 1,500 เมตร ให้เลือกใช้ สว่ นบรรจุ 3 มุมยิง 1,160 มลิ เลยี ม ท้าการยิง เป็นตน้ 2. ส้าหรบั การยงิ ต่อทหี่ มายท่ีจะต้องมกี ารปรับการยิง ให้เลือกส่วนบรรจทุ ส่ี ามารถใช้ยงิ ครอบคลุมระยะ ที่ต้องการปรับการยิง อาทิเชน่ ตอ้ งการปรบั การยงิ ทห่ี มาย ระยะระหว่าง 1,550 – 1,650 เมตร ใหเ้ ลือก ใชส้ ว่ นบรรจุ 3 และใช้มมุ ยิงที่เหมาะสมกับระยะท่ีต้องการยิง - - - - - - - - - - -------------------- - - - - - - - - - - วิชาเคร่อื งยงิ ลูกระเบิด (ลกู ระเบดิ ยิงและตารางยงิ ค.)

- 18 - 6. กล้องกองรอ้ ยชนดิ เข็มทิศ 1. กลอ้ งรอ้ ยชนดิ เขม็ ทิศ M1 (หลกั ฐาน รส.17-12) 1. กล่าวท่วั ไป กลอ้ งกองร้อยชนิดเข็มทิศ เป็นเคร่ืองมือสาหรับวัดมุมภาคของทศิ , วดั มุมสูง, วดั มมุ พ้นื ที่ วัดมมุ ภาค ของทศิ เหนือแม่เหลก็ , วัดมุมภาคของทิศเหนือแผนท่ี และใช้ในการรังวดั ได้อีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ยังเปน็ เครอื่ งมอื สาคัญสาหรบั ตัง้ ปนื ใหญ่รถถังเพ่อื ต้ังเล็งยิงจาลอง การตั้งยิงเลง็ ขนานคู่ 2. ลักษณะรายละเอียด แบง่ ออกเป็นส่วนสาคัญ 3 ส่วน คอื กล้องเลง็ , เครอ่ื งเข็มทิศ และเครอื่ งกาหนดมุมทิศ 2.1 กล้องเลง็ ประกอบด้วย 2.1.1 กล้องเล็งชนิดแทง่ แก้วเหล่ียม ขยายภาพได้ 4 เท่า ชนดิ ปรบั ภาพได้ 2.1.2 หลอดระดบั มมุ สงู ใช้กึ่งกลางในการวดั มุมพนื้ ที่เท่านน้ั 2.1.3 ควงมมุ สงู ใชป้ รบั หลอดระดับใหไ้ ด้กง่ึ กลาง 2.1.4 ปลอกเกลียวปรับเลนสต์ า ใชป้ รบั ภาพท่มี องเห็นใหช้ ดั เจนยิง่ ขน้ึ 2.1.5 มาตราประจาแกว้ จะเป็นสีดาสองเสน้ ตัดกัน แตล่ ะเสน้ จะมีมาตราแบ่งมมุ กากับไว้ แบง่ ออกเป็นขีดชว่ ย ขดี ละ 5 มิลเลยี ม มเี ลขกากบั ทุก 20 มิลเลยี ม จากกึง่ กลางไปทางขวา ซ้าย-ขวา ขา้ งละ 85 มิลเลยี ม สองขา้ งรวมกันเทา่ กับ 170 มเิ ลยี ม (เสน้ ทางดิ่งกเ็ ช่นเดียวกัน) และกล้องนี้ใช้เครอื่ งใหแ้ สงสว่างมาตรา ประจาแก้วแบบ บ.2 (ใช้ถ่านไฟฉาย 1.5 โวลท์ 1 กอ้ น) เมือ่ ต้องการสอ่ งสวา่ งมาตราประจาแก้วในเวลา กลางคืน 2.2 เคร่อื งเขม็ ทิศ ประกอบด้วย 2.2.1 ตลับเข็มทศิ อยรู่ ะหว่างกลอ้ งเลง็ กบั เครื่องกาหนดมุมทศิ มกี ระจกปดิ อยู่เพ่ือป้องกันฝุ่นละอองที่ จะเข้าไปทาใหเ้ คร่อื งเข็มทศิ ชารดุ เสยี หาย 2.2.2 เขม็ ทศิ จะตดิ อยกู่ บั แกนทต่ี ลับ ปลายดา้ นทาสีดาจะช้ที ศิ เหนอื ตลอดเวลา เมื่อไมใ่ ช้งานจะตอ้ ง ยดึ เข็มทิศให้อยู่กับทีเ่ สมอ 2.2.3 กระเด่ืองยดึ เข็มทิศ จะเป็นแกนเหล็กโผล่ออกมาท้ังสองข้างของตลบั เข็มทิศ สาหรับยึดและปลด เขม็ ทิศในระหวา่ งใชง้ าน ด้านสีแดงจะเป็นดา้ นยึดเข็มทิศ ด้านสเี ขยี วจะเป็นดา้ นปลดเขม็ ทศิ 2.2.4 หลอดระดบั วงกลม เปน็ วงกลมและมลี ูกน้าอยู่ภายในติดอยทู่ ่ีพ้นื ตลับ หลอดระดับวงกลมน้ีใช้ สาหรบั ตัง้ กล้องให้ได้ระดบั ในขณะใช้งานโดยใช้คาว่า “ก่ึงกลางหลอดระดบั วงกลม” 2.2.5 แวน่ ขยายเข็มทิศ จะอยทู่ ต่ี ลับเขม็ ทิศ ภายในจะมแี ว่นขยาย ใชข้ ยายให้เหน็ ท้ายเข็มทิศตรงกบั ขีดหลัก เม่ือก่ึงกลางเข็มทิศ 2.2.6 ขีดหลักเขม็ ทิศ จะเปน็ ขดี 3 ขดี ขีดตรงกลางยาวกว่าขีดด้านข้าง 2.2.7 แผน่ บันทึกหมายเหตุ เป็นแผ่นสขี าว ติดอยูท่ ดี่ ้านขา้ งของตลับเข็มทิศ ใชบ้ ันทึกทามุมเยอ้ื ง ประจากล้องท่ีหาไดแ้ ต่ละพน้ื ท่ี การบันทึกใชเ้ ขยี นด้วยดนิ สอดาชนดิ อ่อน กลอ้ งกองร้อยชนดิ เข็มทศิ M1

- 19 - 2.3 เครอื่ งกาหนดมุมทิศ ประกอบดว้ ย 2.3.1 มาตรามุมทศิ มีอยดู่ ว้ ยกนั ทง้ั หมด 2 มาตรา คือ มาตรามุมทิศส่วนใหญ่ และมาตรามมุ ทิศ ส่วนยอ่ ย 1) มาตรามุมทศิ ส่วนใหญ่ มี 2 แถว แถวบนเรม่ิ แต่ 0-6400 มิลเลียม ขีดละ 100 มิลเลียม มีเลข กากับทุก 200 มลิ เลียม มาตราเวยี นตามเขม็ นาฬิกา แถวล่าง เร่ิมแต่ 0-3200 มลิ เลียม ขดี ละ 100 มิลเลยี ม เลขกากับทุก 200 มลิ เลยี ม เช่นเดียวกัน แตข่ ดี 0 ของแถวล่างจะอยตู่ รงกบั เลข 32 ของมาตรามุมทิศแถวบน 2) มาตรามมุ ทศิ สว่ นย่อย จะติดตัง้ อยูร่ ว่ มแกนกับควงมมุ ทิศส่วนย่อย มมี าตราต้ังแต่ 0-100 มลิ เลียม ขีดยอ่ ยขีดละ 1 มลิ เลยี ม มีเลขกากับทุก 10 มิลเลียม เวลาหมนุ ต้ังมาตรามมุ ทิศสว่ นยอ่ ยให้หมุนที่ควงมุม ทศิ หา้ มจบั หมุนทีม่ าตรามมุ ทิศสว่ นยอ่ ย เพราะจะทาใหต้ วั เลขลบเลื่อน เม่อื หมนุ บอ่ ยๆ 2.3.2 กระเดื่องควงมุมทิศ ประโยชนค์ ือ เม่ือต้องการหมนุ กล้องสว่ นบนอย่างเรว็ ในกรณีทตี่ อ้ งเปิดมมุ มากๆ ก็ให้ใช้กระเด่ืองควงมุมทศิ โดย ผลักกระเดอื่ งควงมุมทศิ ออก เพ่อื ใหร้ อ่ งเฟืองแยกออกจากกนั 2.3.3 ควงมมุ ทิศ ใชส้ าหรบั หมนุ ตงั้ มาตรามมุ ทิศสว่ นย่อย ในกรณที ี่เปิดมมุ ทางราบอย่างแคบๆ (หรือ มุมที่ต้องการเปดิ น้อย) 2.3.4 ควงตัง้ ทศิ อยู่ส่วนลา่ ง ใช้หมุนต้งั กลอ้ งส่วนลา่ งอย่างช้าๆ 2.3.5 ควงผีเสอ้ื ยดึ กล้องอยู่ส่วนล่างสดุ ตรงเดอื ยยดึ กล้อง ใชส้ าหรับขันยึดกล้องใหแ้ นบกบั กระ บอกรับกลอ้ งหรือเม่ือต้องการคลายให้หลวมกรณที ี่เกบ็ กลอ้ งเข้ากล่อง หรือเมื่อต้องการหมนุ กล้องส่วนล่าง อย่างเรว็ ก็ให้คลายควงผเี สอ้ื ยึดกลอ้ งให้หลวม กส็ ามารถหมุนกลอ้ งทั้งกล้องอยา่ งเรว็ ได้ 3. ขาหยัง่ M5 ประกอบดว้ ย ขาทราย 3 ขา, กระบอกรบั กลอ้ งและเดือยรับกลอ้ ง 3.1 ขาทราย 3 ขา มีควงผีเส้ือยดึ ขาทราย 3 ขา และแต่ละขาสามารถยดึ ออก หรือหดเขา้ ได้ตามต้องการ ในขณะใช้งาน นอกจากนน้ั กจ็ ะมีบานพับทห่ี วั ขาทรายท้งั 3 สาหรบั บานพบั ท่ีหวั ขาทรายนี้จะปรบั ไว้ใหม้ ีความ ยดึ พอดี มีควงผเี สอื้ ยึดกระบอกรับกล้อง ในกรณีท่ีต้องการยืดกระบอกรบั กล้อง 3.2 กระบอกรับกล้อง ท่สี ่วนบนจะมเี ป้ากลม และมีควงผีเส้ือยดึ ข้อตอ่ เดือยยดึ กลอ้ งกระบอกรบั กล้องน้ี สามารถจะยดื ขึ้นหรือหดลงได้ โดยคลายควงผีเสอื้ ยึดกระบอกรับกลอ้ งใหห้ ลวมเสียก่อนตามปกติเวลาใชง้ านจะ ยึดกระบอกรบั กลอ้ งข้ึนใหส้ ูง 1 นว้ิ หรือประมาณ 2 น้ิวมือ เพ่ือใช้เป็นจุดเลง็ เม่อื สั่งใหร้ ถถังเลง็ ตอ่ กล้องเลง็ 3.3 เดือยรบั กล้อง สวมอยใู่ นเบา้ ของกระบอกรบั กล้อง ใชส้ วมกับตัวกล้องเวลาใช้งาน 4. กล่องรับกล้อง M6A1 หรือ M25 ประกอบด้วย กล่องชนดิ ทรงกระบอก 2 ท่อน ทอ่ นบน และท่อนลา่ ง 4.1 ท่อนบนเปน็ ฝาปิดกลอ้ ง เกบ็ กล้องและเป็นพนื้ ทเ่ี กบ็ เคร่ืองใหแ้ สงสวา่ งแบบ M2 ด้วยเปน็ ฝา 2 ชั้น 4.2 ทอ่ นล่าง เป็นท่เี ก็บขาหยง่ั และตัวกลอ้ ง 5. เคร่ืองให้แสงสวา่ ง M2 ประกอบดว้ ย 5.1 กระบอกไฟฉายซ่ึงเป็นทีใ่ สถ่ า่ ยไฟฉายขนาด 1.5 โวลท์ 1 กอ้ น มสี วิทช์เปิด-ปิด และเร่งแสงสว่างไฟได้ 5.2 ไฟฉายส่องมาตรา ใช้ส่องมาตราและหลอดระดบั ต่างๆ 5.3 หลอดไฟใหแ้ สงสวา่ งมาตราประจาแกว้ ใชส้ อ่ งสวา่ งมาตราประจาแก้วเพ่อื ใช้งานในเวลากลางคนื กลอ้ งกองรอ้ ยชนดิ เข็มทศิ M1

- 20 - 6. การใช้กลอ้ ง 6.1 ส่ิงทีท่ าให้กล้องชนดิ เข็มทศิ คลาดเคล่ือนได้แก่ โลหะทเ่ี ป็นเหลก็ สายไฟแรงสงู การใช้งานกล้องกองร้อย ชนิดเขม็ ทิศ M1 ควรใหห้ า่ งจาก - สายไฟฟ้าแรงสงู และเครอื่ งใช้ไฟฟ้า 150 เมตร - รถถัง, ยานหมุ้ เกราะ, รถบรรทกุ และรางรถไฟ 75 เมตร - ยานพาหนะอน่ื ๆ 50 เมตร - ลวดหนาม 30 เมตร - เครอ่ื งยิงลูกระเบิด หรือสายโทรเลข 25 เมตร - หมวกเหลก็ 10 เมตร - ลวดซึ่งมกี ระแสไฟ, วัตถซุ ง่ึ เป็นเหล็ก เช่น อาวธุ , กล้องสอ่ งสองตา ควรเอาออกให้ห่างในขณะใช้งาน 6.2 การตั้งกล้อง - ขันควงผเี สอ้ื ยึดกล้องใหแ้ น่น แล้วยกกล้องออกจากกล่อง - กางขาหยั่งออก โดยยืดขาหย่งั ออกให้เหมาะแกก่ ารใชง้ านในคร้ังน้ันๆ ยืดกระบอกรับกล้องขึน้ ให้สูง 1 นิ้ว หรอื ประมาณ 2 นิ้วมอื นอน (การยกกระบอกรบั กล้องขนึ้ สูง 1 น้ิว เพ่ือใช้เป็นจดุ เลง็ ของรถถัง เม่ือสั่งให้ รถถังเล็งต่อกล้องกองร้อยฯ) แลว้ ขันควงผีเสอ้ื ใหแ้ นน่ การยกกลอ้ งใหส้ งู ควรยดื ขาหย่ังออกให้สุดก่อนแล้วจึงยืด กระบอกรับกล้องข้ึนใหส้ ูง - คลายควงผเี สื้อยึดเดือยรบั กล้องใหห้ ลวมพอประมาณ แล้วก่งึ กลางหลอดระดับ ขันควงผีเส้ือยดึ เดือย รับกล้องให้แน่น - ขณะนีก้ ล้องอยใู่ นลักษณะที่พรอ้ มจะใช้งาน 6.3 การวดั มุมทางราบ - กึง่ กลางหลอดระดับวงกลม - ศูนย์ ( 0 ) มาตราจานมมุ ทิศ และมาตราควงมุมทศิ - หมนุ กล้องสว่ นล่างอยา่ งเร็วไปเลง็ ทจ่ี ุดเรม่ิ ต้นทางซ้าย - หมุนกลอ้ งส่วนลา่ งอยา่ งชา้ ใชค้ วงต้ังทิศแลว้ มองในกลอ้ งเล็ง เล็งให้จดุ ตดั ของมาตราประจาแก้วตรง จดุ เรมิ่ ต้นน้ัน - หมุนกล้องสว่ นบน -- ใหเ้ ส้นดิง่ ของมาตราประจาแกว้ ตรงอีกจดุ หน่งึ ทางขวาที่ต้องการวัดมมุ -- หมนุ กล้องสว่ นบนอยา่ งเร็ว ใช้กระเดอ่ื งควงมุมทศิ -- หมุนกล้องสว่ นบนอย่างชา้ ใช้ควงมุมทิศ -- หมนุ กล้องสว่ นลา่ งอยา่ งเรว็ ใช้ควงผเี ส้ือยดึ กล้อง -- หมุนกล้องส่วนลา่ งอย่างช้า ใชค้ วงตัง้ ทิศ - อ่านค่ามุม -- หลักรอ้ ยมาจากจานมุมทิศ หลักสิบและหลกั หนว่ ยมาจาก มาตราควงมุมทิศ - มมุ ที่อา่ นได้ -- จะเป็นมมุ ระหวา่ งจดุ ทงั้ สอง กล้องกองร้อยชนิดเข็มทิศ M1

- 21 - 6.4 การวัดมุมทางสูง - กง่ึ กลางหลอดระดับวงกลม - วางจุดตดั ของมาตราประจาแกว้ ตรงจุดหน่งึ ที่ต้องการวัด - อ่านมุมจากมาตราประจาแกว้ ไปยงั อกี จดุ หนงึ่ โดยใช้มาตราของเสน้ ดง่ิ 6.5 การวัดมุมพน้ื ที่ - กง่ึ กลางหลอดระดับวงกลม - วางเสน้ ดิ่งของมาตราประจาแก้วตรงจุดท่ตี ้องการวัด - กึ่งกลางหลอดระดับมมุ สูง - อ่านมุมพ้นื ที่จากมาตราเสน้ ด่งิ ของมาตราประจาแกว้ - จดุ ท่วี ดั อยู่เหนอื เส้นระดับ มมุ พ้นื ทเ่ี ปน็ บวก ถ้าอยูใ่ ตเ้ ส้นระดับมมุ พ้นื ท่ีเป็นลบ 6.6 การวัดมมุ ภาคของทิศเหนือแมเ่ หล็ก - กึ่งกลางหลอดระดับวงกลม - ศนู ย์ ( 0 ) มาตราจานมมุ ทิศ และมาตราควงมุมทิศ - กึ่งกลางเข็มทิศโดย ก) ปลอ่ ยเข็มทิศให้เป็นอิสระโดยกดกระเดอ่ื งปลดเข็มทศิ ดา้ นสีกากแี กมเขียว ข) กงึ่ กลางเข็มทิศ โดยหมุนกล้องส่วนล่างและมองดใู นแวน่ ขยาย ให้ทา้ ยเข็มทิศตรงกับขดี เส้นกลาง ในแว่นขยาย ค) ยดึ เขม็ ทศิ โดย กดกระเดอื่ งปลดเขม็ ทิศด้านทาสแี ดง - หมนุ กลอ้ งสว่ นบน เลื่อนจดุ ตดั ของมาตราประจาแก้วตรงจุดทีต่ ้องการ - อา่ นมมุ จากมาตราจานมุมทศิ และมาตราควงมุมสูง - มุมทอ่ี า่ นได้จะเป็นมุมภาคของทิศเหนือแมเ่ หล็กของจุดนน้ั 6.7 การวดั มุมภาคของทศิ เหนือแผนที่ - กง่ึ กลางหลอดระดับวงกลม - ตัง้ ค่ามุมเย้ือง ตง้ั ท่ีมาตราจานมมุ ทศิ และมาตราควงมุมทิศ - กง่ึ กลางเข็มทิศให้เปน็ อสิ ระ ก) ปล่อยเข็มทิศให้เป็นอิสระ ข) กง่ึ กลางเข็มทิศ โดยหมุนกลอ้ งส่วนลา่ ง ค) ยึดเขม็ ทศิ - หมนุ กลอ้ งส่วนบน เลอื่ นจุดตัดของมาตราประจาแก้วตรงจุดซึ่งต้องการวดั - อา่ นมมุ จากมาตราจานมมุ ทศิ และมาตราควงมุมทศิ - มุมท่ีอ่านไดจ้ ะเปน็ มุมภาคของทิศเหนอื แผนทข่ี องจดุ น้นั กล้องกองร้อยชนิดเข็มทศิ M1

- 22 - 7. การระวงั รักษาและการปรนนิบัตบิ ารงุ กลอ้ งกองร้อยชนิดเขม็ ทิศ ก. การระวงั รกั ษา 1. เม่อื ไม่ใช้ยดึ เข็มทิศให้อยกู่ บั ท่ี 2. อย่างวางกล้องไว้ใกลท้ ่รี อ้ นจัดหรอื วางกลางแดดเป็นเวลานาน จะทาใหว้ ัสดุท่อี ุดไว้ตามสว่ นตา่ ง ๆ หลุด (ละลาย) 3. อากาศหนาวจัดเก็บไว้ในท่แี ห้งทีม่ ีอากาศถา่ ยเท 4. การเก็บขาหย่ัง ระวังอยา่ ให้ควงผีเส้อื ต่าง ๆ กดกับสว่ นใดส่วนหน่ึงของกล่องเก็บกล้อง 5. เม่อื เกบ็ เขา้ กล่องให้คลายควงผเี สื้อยึดกลอ้ งใหห้ ลวม 6. อยา่ ใชพ้ ละกาลงั เกินควรในการขันควงต่าง ๆ ข. การปฏบิ ัตบิ ารุงกล้อง 1. สภาพอากาศปกติ ทาความสะอาดผิวหนา้ ของขาทรายส่วนทีเ่ ปน็ โลหะแลว้ ทานา้ มันบาง ๆ เมื่อใช้ใน บริเวณ ที่มนี า้ เคม็ หรือช้นื แฉะ ทาเฉพาะหน้าของสว่ นที่เป็นโลหะทีไ่ ม่ทาสีดว้ ยน้ามนั แลนโนไลท์ 2. เลนส์ของกล้องชนิดเข็มทิศนนั้ มีการเลื่อนเพอ่ื ลดแสงสะทอ้ นทผ่ี วิ หน้า ทาให้แสงผ่านเข้าได้มากกวา่ การทาความสะอาดทาเชน่ เดียวกบั เลนสท์ ่ไี ม่ได้เคลือบ แต่อย่าเช็ดมากเกนิ ไป จะทาใหว้ ัสดทุ ่ีเคลอื บหลดุ ใหใ้ ช้ สบู่และกระดาษเชด็ ที่เลนสท์ ่ีทางการกาหนดใหใ้ ช้ 8. การต้งั รถถังเล็งขนานคู่ เมื่อ มว.ถ. ตอ้ งทาการเลง็ ยิงจาลอง หรอื เมอ่ื ถ. อยู่หลังฉากกาบงั เพื่อให้พ้นการตรวจการณจ์ ากฝา่ ย ข้าศึก การกาหนดทศิ ทางยงิ ใหก้ ับ มว.ถ. ใหต้ ้ังกลอ้ งกองร้อยฯ ณ จดุ ซงึ่ สามารถเหน็ ได้ท้งั ถ. และทหี่ มาย และ กาบังจากการตรวจการณข์ องข้าศึก ถ. จะใช้วธิ ใี ดวธิ ีหน่ึงใน 3 วิธี เพอ่ื ตง้ั ถ. เลง็ ขนานคู่ 1. เมอ่ื กล้องกองร้อยฯ สามารถมองเหน็ ทั้งทหี่ มาย และ ถ. -กึ่งกลางหลอดระดับวงกลม -ศูนย์ 0 มาตรามมุ ทิศส่วนใหญ่ และสว่ นย่อย -หมนุ กลอ้ งฯ ส่วนล่างเลง็ ต่อทีห่ มายท่จี ะทาการยิง -สัง่ ให้ ถ. เลง็ ต่อกล้องฯ ทศิ ทางยงิ ....... (ช)้ี -พลยงิ แตล่ ะคันหมนุ ป้อมปืนและเลง็ ผ่านลากล้องปนื ใหญ่ ให้กง่ึ กลางลากล้องทับกับกระบอกรบั กลอ้ ง ฯ (สว่ นทด่ี งึ ขนึ้ มา 1 นวิ้ ) ซง่ึ ใชเ้ ปน็ จดุ เล็ง -พลยงิ แต่ละคัน ตั้งเคร่ืองกาหนดมมุ ทิศท่ีศูนย์ 0 โดยไมเ่ ขย้ือนปืน -หมุนกลอ้ งกองร้อยฯ ส่วนบน ใหจ้ ดุ ตัดของมาตราประจาแกว้ ตรงก่งึ กลางปากลากลอ้ งปืนใหญ่รถถัง คันท่ี 1 -อา่ นมมุ แลว้ แจง้ ให้พลยงิ ทราบ โดยสงั่ “หมายเลข 1 มุมทิศ...........” -การอ่านมาตรามมุ ทศิ สว่ นใหญ่ ใหอ้ า่ นท่ีมาตรามุมทศิ สว่ นใหญ่อันล่าง (0-3200) กลอ้ งกองร้อยชนิดเขม็ ทิศ M1

- 23 - -หมนุ กลอ้ งกองร้อยฯ สว่ นบนไปเล็งตอ่ รถถังคนั หมายเลข 2, 3, 4 และ 5 ตามลาดับ และแจง้ มุมทิศ ใหท้ ราบเปน็ รายคัน -พลยิงของรถถังแตล่ ะคนั หมุนปอ้ มปืนจนกระทั่งมุมทเี่ ครื่องกาหนดมุมทศิ ตรงกบั มุมทสี่ ่ัง (ก่อนหมนุ ป้อมปนื ต้องตงั้ เคร่อื งกาหนดมุมทิศใหเ้ ป็นศนู ย์ 0 กอ่ น) -ขณะนี้รถถงั ทุกคันจะตั้งเสน้ ขนานค่แู ล้ว -พลยิงของรถถังทุกคันตั้งเคร่ืองกาหนดมมุ ทิศให้เป็นศนู ย์ 0 อกี คร้งั โดยไม่ต้องเขย้อื นปืน -ปกั หลักเลง็ หนา้ รถถัง ใหต้ รงกับแนวเสน้ ดิง่ ของกล้องเลง็ ของรถถังแต่ละคนั หมายเหตุ เนื่องดว้ ยเครือ่ งกาหนดมุมทิศของรถถังแบง่ ออกเป็น 2 ซกี ดังนั้นพลยงิ จึงจาเปน็ ตอ้ งรทู้ ิศทางยิงจงึ จะใช้ส่วนของมาตราเครื่องกาหนดมุมทศิ ได้ถกู ต้อง 2. การต้งั รถถังเล็งขนานคตู่ ามมุมภาคของทิศเหนอื แผนที่ (กรดิ ) ที่กาหนดให้ -บางโอกาสท่ีกล้องกองร้อยฯ เม่อื ต้ังแลว้ ไมส่ ามารถมองเหน็ ทหี่ มาย แต่ทราบพิกัดของเป้าหมายจะ โดย ผตน. หรอื ทางใดก็ตาม เจา้ หนา้ ทป่ี ระจากลอ้ งกองรอ้ ยฯ ก็สามารถทจ่ี ะกาหนดทิศทางยงิ ให้กับรถถังทา การยงิ เล็งขนานคไู่ ด้ ในสถานการณ์เช่นนี้เจา้ หนา้ ทผ่ี ้ใู ช้กล้องกองร้อยฯ จะต้องคานงึ ถงึ ระยะห่างจากจุดทีต่ งั้ กลอ้ งกองร้อยฯ กับรถถงั แต่ละคนั และส่งิ ที่จะทาใหเ้ ข็มทิศเกิดการหักเหได้ -เมื่อทราบพิกัดของเปา้ หมายแลว้ ผู้ใชก้ ลอ้ งกองรอ้ ยฯ จะต้องวดั มมุ ภาคทศิ เหนือแผนที่ของเป้าหมาย ก่อนเป็นอนั ดบั แรก และปฏิบัติตามขนั้ ตอนต่อไปน้ี -นาค่ามมุ ทิศเหนือแผนท่ขี องเปา้ หมายไปลบออกจากคา่ มุมเยื้องคงที่ ท่หี าไว้แลว้ และได้บันทึกคา่ มมุ ไว้ทก่ี ลอ้ งกองรอ้ ยฯ ถ้าหากมุมภาคทศิ เหนือของเปา้ หมายมากกวา่ คา่ มุมเยื้องคงที่ประจากล้องกองร้อยฯ ให้ บวกด้วย 6400 เสยี กอ่ น -กงึ่ กลางหลอดระดบั วงกลม -นาผลลัพธ์จากการลบไปตั้งที่มาตรามุมทศิ ส่วนใหญแ่ ละสว่ นยอ่ ยของกล้องกองร้อยฯ -กง่ึ กลางเขม็ ทิศ โดยหมนุ กล้องสว่ นล่าง จนปลายเขม็ ทิศชท้ี ิศเหนอื และทา้ ยเขม็ ทิศชต้ี รงขีดหลัก -ขณะน้ีมาตรา 0-3200 มลิ เลียมของกล้องกองร้อยฯ จะชีไ้ ปตามแนว แนวจากท่ตี ้ังกล้องไปยงั เป้าหมาย (หรือชี้ไปตามแนวมมุ ภาคทิศเหนอื แผนทีซ่ ่งึ กาหนให้) -สง่ั ให้รถถงั เล็งต่อกล้องกองร้อยฯ ทศิ ทางยิง...... (ชี)้ -พลยิงรถถังแตล่ ะคนั เลง็ ผ่านลากล้องปนื ใหญ่ เลง็ ต่อกล้องกองร้อยฯ -ต้งั เครอื่ งกาหนดมุมทิศที่รถถังแตล่ ะคันให้เป็นศูนย์ 0 โดยไม่เขยอ้ื นปืน -หมุนกล้องกองร้อยฯ สว่ นบนใหจ้ ุดตัดของมาตราประจาแก้วตรงก่งึ กลางปากลากล้องปืนของรถถงั หมายเลข 1 -อา่ นค่ามุมจากมาตรามุมทิศส่วนใหญ่และสว่ นย่อย แล้วแจ้งมมุ ที่อา่ นได้ให้พลยงิ หมายเลข 1 ทราบ โดยสัง่ “หมายเลข 1 มุมทิศ......” (มมุ ทศิ ตอ้ งน้อยกวา่ 3200 มลิ เลยี มเสมอ) -หมนุ กล้องกองร้อยฯ สว่ นบนไปเล็งต่อรถถังทุกคนั และแจ้งมุมทิศให้ทราบเช่นเดยี วกับรถถังหมายเลข 1 กลอ้ งกองร้อยชนดิ เขม็ ทศิ M1

- 24 - -พลยิงแต่ละคนั หมนุ ป้อมปนื จนกระท่งั เคร่อื งกาหนดมุมทิศตรงกับมุมทิศท่สี ง่ั -ขณะนรี้ ถถงั ตั้งเล็งขนานค่แู ล้ว -ตง้ั เครอ่ื งกาหนดมุมทิศใหเ้ ป็นศนู ย์ 0 อีกครง้ั หน่งึ โดยไม่เขย้อื นปนื -ปกั หลกั เล็งหนา้ รถถัง ให้ตรงกับแนวเส้นด่ิงของกล้องเล็งของรถถังแต่ละคัน 3. การตั้งรถถงั เล็งขนานคู่ โดยใช้วิธเี ลง็ ตอ่ ซ่ึงกนั และกัน -------------------------------------------- กลอ้ งกองร้อยชนดิ เข็มทิศ M1

-25- 7. กล้องกองร้อยชนดิ เขม็ ทิศ M2 และ M2A2 1. คุณลกั ษณะและมาตราทาน - นา้ หนกั เรอื นกล้องพร้อมฐานตดิ ตง้ั และฝาครอบ 9 ปอนด์ - น้าหนักกล้องกองรอ้ ยพร้อมอุปกรณ์กล้องทงั้ หมด 21 ปอนด์ - ทิศทางการหมนุ ไมจ่ า้ กัดทศิ ทาง - มุมเงยสูง M2 800 มลิ เลียม M2A2 1100 มลิ เลียม - มุมกดตา่้ สุด 400 มิลเลียม - กา้ ลังขยายของเลนส์กล้อง 4 เทา่ - ย่านการเหน็ 10 องศา 2. ลักษณะและรายละเอยี ด กลอ้ งกองร้อยชนิดเข็มทิศแบ่งออกเปน็ ส่วนใหญ่ ๆ 5 สว่ น คอื .- 2.1 ชุดกลอ้ งเลง็ ใชส้ า้ หรบั วดั มมุ สูง (ทางด่งิ ) มมุ พ้นื ท่ี และมมุ ทางราบ ประกอบด้วย. 1. กลอ้ งเล็งชนิดแก้วสามเหล่ียมขยายภาพได้ 4 เทา่ 2. หลอดระดับมุมสูงมีไว้ส้าหรับวัดมุมพื้นท่ี และมีศูนย์ส้าหรับใช้เล็งอยู่ทางด้านบนของตัวเรือนหลอด ระดับ ซึง่ ติดตั้งอยทู่ างดา้ นซา้ ยของเรือนกล้อง ศูนยห์ นา้ มีลกั ษณะเป็นใบมีด ศูนยห์ ลังเปน็ บาก 3. ควงปรับระดับมุมสงู มีไว้สา้ หรับปรบั ฟองระดับมุมสูงและวดั มุมสงู 4. มาตราวดั มมุ สงู มีไวส้ า้ หรับอ่านคา่ มุมสงู มีทง้ั มาตราส่วนย่อยและมาตราส่วนใหญ่ ก. มาตรามุมสูงส่วนย่อยติดตัง้ อยู่กับควงปรบั ระดบั มมุ สูงด้านลา่ ง มรี ายละเอียดดงั นี้ - ขีดยอ่ ยมีคา่ ขดี ละ 1 มลิ เลยี ม - ขดี ใหญ่มีคา่ ขีดละ 5 มลิ เลยี ม - ตวั เลขกา้ กับทุก ๆ 10 มิลเลียม - ตวั เลขสดี ้าให้อา่ นคา่ มุมทางบวก (มมุ เงย) อ่านคา่ ได้ตงั้ แต่ 0-100 มิลเลยี ม - ตวั เลขสแี ดงให้อ่านค่ามมุ ทางลบ (มมุ กด) อา่ นคา่ ไดต้ ง้ั แต่ 0-100 มิลเลยี ม ข. มาตรามมุ สงู ส่วนใหญ่ ตดิ ตั้งอยทู่ าง ด้านขวาของเรือนกลอ้ ง มรี ายละเอยี ดดังน้ี. - ขดี มาตรามีค่าขีดละ 100 มิลเลียม - ตวั เลขกา้ กับทุก ๆ 100 มิลเลียม - ตวั เลขสีด้าให้อา่ นคา่ มมุ ทางบวก (มมุ เงย) อ่านคา่ ได้ตง้ั แต่ 0-1100 มลิ เลยี ม - ตวั เลขสีแดงใหอ้ ่านคา่ มุมทางลบ (มมุ กด) อ่านค่าไดต้ ้งั แต่ 0-400 มิลเลยี ม วิชาเครื่องยิงลูกระเบิด (กลอ้ งกองร้อยชนิดเขม็ ทิศ M2 และ M2A2)

-26- 5. หมุดเล็ง เป็นแท่งแก้วติดต้ังอยู่ทางด้านบนของเรือนกล้อง ใช้ส้าหรับเป็นจุดเล็งกล้องกองร้อยของ เครื่องเล็ง ท่ีใช้กับปืนใหญ่หรือรถถังและเครื่องยิงลูกระเบิด สามารถให้แสงสว่างในเวลากลางคืนด้วยหลอดไฟ สอ่ งสว่างชนิดมือถือ ของเคร่อื งใหแ้ สงสวา่ ง M51 6. แทน่ เกบ็ กระจกกรองแสงและกระจกกรองแสงติดต้ังอยู่ทางด้านขวาของเรือนกล้องกระจกกรองแสง ใช้ปอ้ งกันแสงจ้าเขา้ ตาในขณะใช้กล้อง 7. ปลอกยางรองตา ใชส้ ้าหรับปอ้ งกนั ตากระแทกกับกลอ้ ง 8. แทน่ ตดิ ต้ังหลอดไฟสอ่ งสว่างมาตราประจ้าแกว้ ของกล้องเลง็ ติดต้งั อยู่ทางดา้ นบนของกล้องเลง็ 9. มาตราประจ้าแก้วของกล้องเลง็ มีทง้ั มาตรามุมสูง และมาตรามุมทิศ ซึ่งมีขีดแสดงมุมทุก ๆ 5 มิ ลเลยี ม ดา้ นละ 85 มลิ เลยี ม จากจุดตัดมตี ัวเลขก้ากบั ไว้ทกุ ๆ 10 มลิ เลยี ม รวม 170 มลิ เลียม ทง้ั ทางสูงและ ทางทศิ (ทางดิง่ และทางระดับ) 2.2 เคร่อื งเขม็ ทิศ ใชส้ ้าหรับตั้งเข็มทิศให้ตรงกับทิศเหนือ ประกอบดว้ ย. 1. ตลบั เข็มทศิ ติดต้ังอยู่ระหวา่ งชดุ กล้องเลง็ และเครอื่ งกา้ หนดมุมทิศ 2. เข็มทศิ อยู่ภายในเรือนตลบั เขม็ ทศิ เพ่ือใชต้ ้งั และวัดมมุ ภาคของทิศ 3. ขดี หลักเขม็ ทศิ มองเหน็ ไดจ้ ากแว่นขยายเข็มทิศท่ี ภายในตลบั เขม็ ทศิ เป็นขดี สดี ้า 3 ขีดใชส้ ้าหรับกง่ึ กลางเข็มทศิ 4. หลอดระดับวงกลม ติดตงั้ อยูท่ างดา้ นซ้าย ของตลับเข็มทิศ มฟี องระดบั เป็นรูปตาไก่ ใชส้ า้ หรับ ต้งั กลอ้ งเขม็ ทศิ ให้ได้ระดบั 5. หลอดระดับตวั นอน ตดิ ตั้งอย่ทู าง ดา้ นหนา้ ของหลอดระดับวงกลม ใชใ้ นการติดตัง้ กล้องเขม็ ทศิ ร่วมกบั หลอดระดับวงกลมเพื่อต้งั กลอ้ งอย่างประณตี 6. คันกระเด่ืองปลดเข็มทิศ ติดตั้งอยู่ทางด้านหน้าของตลับเข็มทิศ ใช้ส้าหรับยึดเข็มทิศให้อยู่กับที่ มี 3 ต้าแหนง่ คือ - บิดไปทางขวาสดุ เปน็ ตา้ แหน่งปลอ่ ยเข็มทิศให้เปน็ อิสระ - บิดไปทางซ้ายสดุ เปน็ ตา้ แหน่งปลอ่ ยเข็มทิศให้เปน็ อสิ ระชว่ั คราว - ต้าแหน่งปกติ คือ ล่างสดุ เป็นตา้ แหน่งยึดเข็มทิศไว้ 7. ตวั อกั ษร \"N\" ก้าหนดทิศเหนือ อยู่เหนือคันกระเดื่องปลดเข็มทิศ 8. แวน่ ขยายเขม็ ทิศ เพอื่ ขยายเข็มทศิ 9. กระจกช่องมองเขม็ ทิศตดิ อยู่ทางด้านบนเรอื นตลับเขม็ ทศิ มี 2 ช่องใช้ส้าหรับตรวจภายในเข็มทิศเพ่ือ ตั้ง เขม็ ทศิ ใหต้ รงทิศในขัน้ ตน้ 2.3 เครื่องก้าหนดมุมทิศ เป็นอุปกรณ์ส่วนล่างของมุมกล้องกองร้อยชนิดเข็มทิศ ใช้ส้าหรับวัดมุมภาคของทิศ และวดั มมุ ทางราบ ประกอบดว้ ย. วิชาเครื่องยิงลูกระเบดิ (กลอ้ งกองร้อยชนดิ เข็มทิศ M2 และ M2A2)

-27- 1. มาตราจานมุมทิศอันบน เป็นมาตราส่วนใหญส่ า้ หรบั อา่ นคา่ มมุ ตามเข็มนาฬิกา เรม่ิ ตง้ั แต่ 0 -6400 มลิ เลียม มีขดี ทกุ ๆ 100 มลิ เลียม มตี ัวเลขกา้ กบั ทุกๆ 200 มิลเลียม ขดี 0 อยู่ ตรงกับขดี 3200 มิลเลียม ของมาตรา อันลา่ ง 2. มาตราจานมุมทศิ อนั ลา่ ง เป็นมาตราวัดตาม เข็มนาฬิกา เรมิ่ จาก 0-3200 มลิ เลียม มขี ดี ทุก ๆ 100 มิลเลยี ม มตี ัวเลขกา้ กับทกุ ๆ 200 มลิ เลียม ขดี 0 อยตู่ รงกับ ขดี 3200 มิลเลียม ของ มาตราอันบน 3. มาตรามมุ ทศิ สว่ นยอ่ ย อยขู่ า้ งหลงั ทางขวาของเรือน ตลับเข็มทศิ สว่ นล่างมมี าตรา อ่านได้ต้ังแต่ 0-100 มลิ เลยี ม มขี ีดทุก ๆ 1 มิลเลยี ม มีตวั เลขก้ากบั ทุก ๆ 10 มลิ เลียม มีขีดหลัก ส้าหรบั ตงั้ มาตรา 4. กระเดื่องเฟืองมุมทิศเป็นช้ินส่วนเดียวกับควงมุมทิศ ท้าหน้าที่ในการปลดเฟืองมุมทิศให้เป็นอิสระ เพอื่ หมนุ กลอ้ งสว่ นบนไดอ้ ย่างรวดเรว็ 5. ควงมุมทิศเปน็ สว่ นปลายสุดของกระเดื่องเฟืองมุมทิศ มีไว้ส้าหรับหมุนกล้องส่วนบนอย่างช้า และ เพ่ือวดั มมุ ภาคของทศิ และมุมทางราบ (ทางระดับ) 6. กระเดื่องควงตั้งทิศ ตั้งอยู่ใต้จานมุมทิศเป็นส่วนประกอบของควงตั้งมุมทิศ ใช้ส้าหรับหมุนส่วนล่าง ของกลอ้ งกองรอ้ ยอย่างรวดเร็ว 7. ควงต้งั ทิศมีอยู่สองข้าง ใต้จานมุมทศิ ใชส้ ้าหรบั หมนุ สว่ นลา่ งของกล้องชนดิ เข็มทิศ อย่างชา้ 8. ฝาครอบควงตั้งทิศ เป็นชิ้นส่วนที่ปิดฝาครอบควงต้ังทิศเพื่อป้องกันการช้ารุด เมื่อไม่ใช้งาน และ ปอ้ งกนั มิใหม้ กี ารหมนุ ควงตงั้ ทศิ โดยไม่ตงั้ ใจ เมือ่ จะใช้งานจึงเปดิ ให้อ้าออกท้ังสองขา้ ง 9. ชุดแป้นปรับระดับเป็นส่วนอุปกรณ์ส่วนล่างสุดของเรือนกล้องกองร้อยชนิดเข็มทิศ ติดตั้งอยู่ทางด้าน ใตข้ องจานมุมทศิ มี 3 แปน้ ใช้สา้ หรบั ปรบั ตัง้ ระดับใหก้ ับกลอ้ งในข้นั เตรียมการก่อนใชง้ าน 2.4 แท่นติดตั้งกล้องกองร้อยมีลักษณะเป็นแผ่นกลมเป็นช้ินส่วนอุปกรณ์ ส่วนล่างสุดของกล้องกองร้อยฯ ใช้ ส้าหรบั ประกอบกล้องเข็มทศิ ให้เขา้ กับขาหย่ัง และเป็นท่ียึดกลอนฝาครอบกล้องกองร้อย มสี ่วนประกอบ คือ 1. ด้านบนเป็นท่ีติดต้ังชุดแป้นระดับมีแผ่นบันทึกหมายเหตุเพ่ือบันทึกค่ามุมเย้ือง หรือมาตราท่ีอ่านได้ โดย ใช้ดนิ สอไสอ้ ่อนสีขาวในการเขยี น 2. ด้านล่าง เปน็ รปู เกลยี วเพื่อประกอบเข้ากับขาหยั่ง M.24 โดยมฝี าปดิ เมอื่ ไม่ใช้กล้อง 2.5 ขาหยง่ั แบบ M.24 พร้อมอุปกรณ์ เป็นขาหยั่งชนิด 3 ขา ประกอบด้วย 1. ฝาปดิ หัวขาหยั่ง สา้ หรบั ปิดครอบสว่ นบนของขาหย่ังดว้ ยควงเกลยี วยึดเพ่ือป้องกนั การช้ารุดเมื่อไม่ใช้งาน 2. ควงเกลียวยึดฐานติดตั้งกล้องชนิดเข็มทิศ และห่วงส้าหรับแขวนลูกด่ิงเพื่อมุ่งหมายจุดกึ่งกลางกล้อง กองรอ้ ยชนดิ เขม็ ทิศ 3. สายมดั ขาหยั่งเปน็ สว่ นประกอบของสายสะพายใช้ส้าหรบั มัดเกบ็ ขาหย่ังเม่ือไมใ่ ช้งาน วิชาเครอ่ื งยิงลูกระเบดิ (กล้องกองรอ้ ยชนดิ เข็มทิศ M2 และ M2A2)

-28- 4. ควงเกลยี วยดึ ฐานตดิ กลอ้ งชนดิ เขม็ ทิศและห่วงสา้ หรบั แขวนลูกด่ิง เพือ่ หมายจดุ กึ่งกลางกล้องกองร้อยชนิดเข็มทิศ 4.1 ขาหยงั่ ตัวนอก เปน็ ส่วนบนของขาหยง่ั ซ่ึงยึดติด กับตวั ขาหย่งั 4.2 ขาหยัง่ ตวั ใน เป็นส่วนที่ยืดออกเพื่อต้งั กลอ้ ง เข็มทิศให้สูงตามต้องการ โดยมีเหลก็ รัดและควงผเี สอ้ื กนั เลือ่ น ท่ีส่วนลา่ งมโี ลหะ ปลายแหลมหุม้ อยู่ เพ่อื ฝงั ขาหยงั่ ลงในดินป้องกนั การเขย้ือน และมที สี่ ้าหรบั เท้าเหยยี บเพ่อื กดขาหยั่งฝังดินใหแ้ นน่ 5. แผ่นเหลก็ ติดตั้งถุงใสช่ ดุ อุปกรณ์ ตดิ ตั้งอยดู่ า้ นในของขาหลงั ดา้ นซ้ายตัวบนเพ่ือตดิ ตั้งอปุ กรณ์ของกล้อง 6. ถุงชดุ อปุ กรณ์ ประกอบด้วย 6.1 ลกู ดงิ่ พร้อมสายสา้ หรบั หมายจดุ ก่ึงกลางกล้องกองร้อยชนดิ เข็มทศิ ในการเตรยี มการใชง้ าน 6.2 เครอ่ื งให้แสงสว่าง แบบ M.51 ประกอบดว้ ย ก. กระบอกไฟฉายชนิดมสี ายตอ่ หลอดไฟ ใชถ้ า่ นไฟฉายธรรมดา ขนาด 1.5 โวลต์ จา้ นวน 2 ก้อน ข. หลอดไฟฉายมาตราประจา้ แกว้ มคี รอบหัวโลหะ แบบหางเหยย่ี ว สา้ หรบั ติดทแ่ี ท่นรบั หลอดไฟ ท่ีกล้องเล็ง ค. ไฟฉายมาตราชนิดถือด้วยมอื ส้าหรบั ส่องมาตรา ง. สวิตชส์ ้าหรบั ปิด-เปิด ซง่ึ ลดแสงสวา่ งได้ จ. หลอดไฟอะไหล่ชนิดถือด้วยมือ และชนิดส่องมาตราประจา้ แกว้ หมายเหตุ สิ่งท่ที ้าใหต้ วั เข็มทิศคลาดเคล่ือน ควรวางกล่องเข็มทิศใหห้ า่ งจากสิ่งต่างๆ เหล่าน้ี. (FM 23-90 /2002) 1. สายไฟแรงสงู และเครื่องมืออเิ ล็กทรอนิกส์ 150 เมตร 2. รถถัง รถบรรทุก และทางรถไฟ 75 เมตร 3. ยานพาหนะทว่ั ๆ ไป 50 เมตร 4. ลวดหนาม 30 เมตร 5. เครื่องยิงลูกระเบิด และ สายโทรเลข 25 เมตร 6. หมวกเหลก็ และ อาวุธประจ้ากาย 10 เมตร 3. การเก็บกล้องเม่ือเลกิ ใชง้ าน ให้ปฏบิ ัติดงั นี้.- 3.1 ปดิ ฝาครอบหลอดระดับทุกตวั และถอดเบาะยางรองตาเกบ็ ไวต้ ามที่ 3.2 ลดส่วนหนา้ ของกล้องเล็งลงให้ต้า่ สุด 3.3 ลดกล้องกองร้อยลงใหต้ า้่ สดุ โดยการหมุนทแี่ ปน้ ปรบั ท้ัง 3 ตวั 3.4 หมนุ กลอ้ งส่วนบนให้ควงมมุ ทิศมาอย่ตู รงแผน่ บนั ทึกหมายเหตุ และครอบฝากล้องแล้วยดึ ดว้ ยขอยดึ 3.5 คลายควงยึดกล้องกองร้อยฯ และแยกชุดเรือนกล้องฯ ออกจากหวั ขาหย่ัง วชิ าเครือ่ งยงิ ลกู ระเบิด (กล้องกองรอ้ ยชนดิ เขม็ ทิศ M2 และ M2A2)

-29- 3.6 ปดิ ฝาครอบหวั ขาหยั่งและขนั ให้แนน่ 3.7 พบั และหดขาหยัง่ ทงั้ 3 ขา ขันควงผีเส้ือยึดไว้ใหแ้ น่น 3.8 รัดขาหย่ังดว้ ยสายรัด 4. การระวงั รกั ษาของผู้ใช้งาน 4.1ใช้ผา้ แหง้ ทีส่ ะอาดเท่าน้ันในการเช็ดส่วนต่างๆ ของกล้องกองร้อยฯ รวมท้งั แผน่ มาตรา 4.2 ครอบฝาปดิ ไวต้ ลอดเวลาเม่ือยงั ไม่ใชง้ าน 4.3 อยา่ ใช้แรงในการหมนุ ควงตา่ ง ๆ 4.4 ใช้กระดาษเชด็ เลนส์เท่านน้ั ในการทา้ ความสะอาดเลนส์ 4.5 อยา่ คลายหรือถอดควงใด ๆ ทีไ่ มเ่ กย่ี วกบั การปฏบิ ัติงาน 4.6 อย่าใช้กล้องส่องกับดวงอาทิตยถ์ า้ ไม่สวมกระจกกรองแสง เพราะจะท้าให้เป็นอนั ตรายกับลกู นัยนต์ า 5. การใช้งานกลอ้ งกองร้อยชนิดเข็มทิศในลกั ษณะต่าง ๆ 5.1. การใช้งานกล้องกองรอ้ ยโดยท่วั ไป 1. กล่าวทั่วไป เข็มทิศเป็นเคร่ืองมือให้ทราบความสัมพันธ์กับทิศเหนือแม่เหล็กเท่านั้น การใช้กล้อง กองร้อย ฯ อยา่ งถกู ตอ้ งจ้าเปน็ ต้องทราบคา้ จา้ กัดความและวธิ กี ารดังต่อไปน้ี 1.1 ทศิ เหนอื แม่เหลก็ คอื ทิศเหนือซง่ึ เขม็ ทศิ ชีต้ รงไป 1.2 ทิศเหนือแผนที่ คือทศิ เหนือของเส้นแผนท่ี หรือ เสน้ กรดิ 1.3 มมุ ภาคของทศิ คอื มมุ ใดมมุ หนง่ึ นับเวียนตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือแมเ่ หล็ก หรอื ทิศเหนอื แผนที่ 1.4 มุมภาคของทิศเหนือแม่เหล็ก คือมุมนับเวียนตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือแม่เหล็กไปยังจุดใด จดุ หน่ึงทแี่ น่นนอน ตวั อย่าง มุมภาคของทิศเหนือแม่เหล็กของจดุ ก. คือมุมนบั เวียนตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือแม่เหล็กไปยังจุด ก. 1.5 มุมภาคของทิศเหนือแผนท่ี หรือ มุมภาคของทิศเหนือกริด คือมุมนับเวียนตามเข็มนาฬิกาจาก ทศิ เหนือแผนท่หี รือทศิ เหนอื กรดิ ไปยงั จุดใดจุดหนึ่งท่แี น่นอน ตวั อยา่ ง มุมภาคของทิศเหนือแผนท่ีของจดุ ข. คือมุมนับเวยี นตามเข็มนาฬกิ าจากทิศเหนอื แผนท่ีไปยังจดุ ข. 1.6 คา่ มมุ เย้ือง คอื มมุ กรดิ – แม่เหลก็ โดยจะวัดเวียนตามเข็มนาฬกิ าหรอื ทวนเข็มนาฬิกาก็ได้ ก. แผนทท่ี ่ีใชท้ างทหารจะมคี ่าจะมีคา่ มมุ เยอื้ งพมิ พไ์ ว้ทีข่ อบระวางแผนทท่ี างด้านล่าง ข. การแปลงมุมภาคของทิศเหนือแมเ่ หลก็ เปน็ มุมภาคของทิศเหนือแผนที่ จะต้องน้าค่ามุมเย้ืองไป บวกหรอื ลบจากมมุ ทอ่ี ่านได้จากเข็มทิศ 1.7 ค่ามุมเยื้องคงท่ี คือมุมทางราบนับเวียนตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือแผนที่ไปยังทิศเหนือแม่เหล็ก โดยค่ามมุ เย้ืองคงทีจ่ ะแตกตา่ งกนั แต่ละต้าบลและแตล่ ะกลอ้ งกองร้อย ฯ ท่ใี ช้วัด 2. การวัดมมุ ทางราบ (มุมทางขา้ ง) ใหป้ ฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนต่อไปนี้ 2.1 ศูนยม์ าตราจานมมุ ทิศและควงมมุ ทิศ 2.2 ก่ึงกลางหวอดระดบั วงกลม (หากต้องการความประณตี ใหก้ ่งึ กลางหวอดระดบั ตัวนอนดว้ ย) วิชาเครือ่ งยิงลกู ระเบิด (กลอ้ งกองรอ้ ยชนิดเข็มทศิ M2 และ M2A2)

-30- 2.3 หมนุ กล้อง ฯ ส่วนลา่ งอย่างเร็วโดยการใช้กระเดื่องควงต้ังทิศ ไปยังจุดเร่ิมต้น (จุดท่ีอยู่ทางด้าน ซ้ายมอื ก่อน) โดยเล็งผ่านศูนยเ์ ล็ง 2.4 หมุนกล้อง ฯ ส่วนล่างอย่างช้าโดยการใช้ควงตั้งทิศ และเล็งผ่านกล้องเล็งให้จุดตัดของมาตรา ประจ้าแกว้ อยตู่ รงและ ทบั กับจดุ เร่มิ ตน้ (ถ้าจา้ เป็นใหใ้ ชก้ ารเลอื่ นกล้องเลง็ ดว้ ย) 2.5 หมุนกล้อง ฯ ส่วนบนอย่างเร็วด้วยการเล็งผ่านศูนย์เล็งไปยังจุดท่ีต้องการจะวัด โดยการใช้ กระเด่อื งเฟืองมมุ ทศิ 2.6 หมุนกล้อง ฯ ส่วนบนอย่างช้า และเล็งด้วยกล้องเล็ง ให้จุดตัดของมาตราประจ้าแก้วอยู่ตรง และทับกบั จดุ ท่ีตอ้ งการจะวดั โดยการใช้ควงมมุ ทิศ 2.7 อา่ นค่าหลกั รอ้ ยทมี่ าตราจานมุมทิศ หลักสิบและหลักหนว่ ยทม่ี าตราควงมุมทิศ 2.8 คา่ ที่อ่านได้คือ มมุ ทางราบระหว่างจุดท้งั สองทต่ี ้องการจะวัด หมายเหตุ นอกจากการวัดมุมทางราบด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังสามารถใช้เส้นระดับของมาตราประจ้าแก้วใน การวัดมุมทางราบได้อีกด้วย แต่ท้ังนี้จุดท้ังสองท่ีต้องการจะวัดไม่ควรจะอยู่ห่างกันเกินกว่า 170 มิลเลียม ถึงแม้ว่า การวัดมุมด้วยวิธีนี้จะสามารถวัดได้ทั้งจากทางด้านขวาไปทางด้านซ้ายหรือจากทางด้านซ้ายไปทางด้านขวาก็ตาม เพราะเหตุว่า การวัดมุมท่ีเกินกว่า 170 มิลเลียม น้ัน จะต้องมีการหมุนกล้องฯ และจะต้องมีท่ีหมายท่ีสามารถสังเกต ไดง้ ่าย กับตอ้ งนา้ มมุ ทว่ี ดั ได้แต่ละครงั้ มาบวกกนั ซึ่งท้าให้เกดิ ความยุ่งยากเสียเวลา และอาจจะคลาดเคล่ือนได้ 3. การวดั มุมทางสงู (มุมทางด่ิงหรอื มุมทางตัง้ ) ให้ปฏิบัติดังน้ี 3.1 ก่ึงกลางหวอดระดับวงกลม 3.2 วางจดุ ตดั ของมาตราประจา้ แก้วใหต้ รงกับจุดหน่ึงทต่ี อ้ งการจะวดั 3.3 อ่านคา่ มุมจากมาตราประจา้ แก้วไปยังอกี จุดหนึง่ โดยใช้มาตราเสน้ ด่งิ 3.4 คา่ มมุ ท่ีอา่ นได้ คอื ค่ามุมสงู ระหว่างจดุ ทั้งสอง หมายเหตุ ส้าหรับการวัดมุมท่มี คี ่าเกนิ กวา่ 170 มลิ เลียม สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 วธิ ี คอื 1. เลื่อนกล้องข้นึ หรือลง และอ่านค่ามมุ ทเ่ี ส้นดง่ิ ของมาตราประจ้าแกว้ แล้วน้าค่ามมุ ทีว่ ัดไดม้ า รวมกัน แตว่ ธิ ีนยี้ งั ยงุ่ ยากเช่นเดียวกบั การวัดมมุ ทางราบในข้อหมายเหตุ 2. ใช้เส้นด่ิงของมาตราประจ้าแก้วเปน็ ตวั ตง้ั และอ่านค่ามุมท่ีมาตรามุมสูงสว่ นใหญ่และมาตรามมุ สูง ส่วนย่อย 4. การวัดมุมพ้ืนท่ี มุมพื้นท่ี คือมุมที่วัดจากแนวระดับ (แนวขนาน) ของเครื่องวัดท่ีมีหลอดระดับมุมสูงที่ ติดตั้งอยู่ เช่น กล้องเล็งของกล้องกองร้อยชนิดเข็มทิศ ซึ่งสามารถปรับระดับได้ มุมพ้ืนท่ีท่ีวัดได้จะมีค่าเป็นบวก (+) หรือ ลบ (–) เสมอ การวดั มุมพนื้ ท่ีดว้ ยกลอ้ งกองร้อยชนดิ เข็มทิศให้ปฏิบัตติ ามขั้นตอนต่อไปนี้ 4.1 กง่ึ กลางหวอดระดบั วงกลม 4.2 หมนุ กลอ้ งอยา่ งเร็วและอยา่ งช้า โดยมองผา่ นกล้องเลง็ ให้แนวเสน้ ด่ิงของมาตราประจ้าแก้วอยู่ตรง และทาบกบั จดุ ทีต่ ้องการจะวัด 4.3 ศนู ยม์ าตรามุมสงู สว่ นใหญแ่ ละสว่ นยอ่ ยพร้อมกบั ก่ึงกลางหวอดระดับมุมสงู วชิ าเครอื่ งยิงลกู ระเบดิ (กล้องกองรอ้ ยชนิดเขม็ ทศิ M2 และ M2A2)

-31- 4.4 อ่านค่ามุมท่ีมาตราเส้นด่ิงของมาตราประจา้ แก้ว 4.5 คา่ ท่ีอา่ นไดม้ ีดงั น้ี ก. จากจดุ กากบาทขึ้นไปหาจดุ ที่ต้องการจะวดั ค่ามมุ พื้นท่ีจะเปน็ บวก (+) ข. จากจุดกากบาทลงไปหาจุดทต่ี ้องการจะวดั ค่ามมุ พน้ื ทีจ่ ะเป็น ลบ (-) หมายเหตุ หากจุดท่ีต้องการจะวัดมุมอยู่สูงเกิน หรือต่้ากว่าแนวเส้นดิ่งของมาตราประจ้าแก้ว ให้เจ้าหน้าที่ ประจ้ากล้องกองร้อย ฯ ปฏิบัติด้วยการเล่ือนกล้องเล็งขึ้นหรือลง โดยให้จุดกากบาทของมาตราประจ้าแก้วอยู่ ตรงและทาบกับจุดที่ต้องการจะวัด กระท้าโดยใช้ควงมุมสูงและอ่านค่าจากมาตรามุมสูงส่วนใหญ่และส่วนย่อย ซ่งึ จะสามารถอา่ นค่าไดท้ งั้ มมุ บวก (+) และ ลบ (-) 5. การวัดมุมภาคของทิศเหนือแมเ่ หลก็ 5.1 ศนู ย์มาตราจานมมุ ทศิ และควงมุมทิศ 5.2 กึ่งกลางหวอดระดบั วงกลม และหวอดระดับตวั นอน 5.3 กง่ึ กลางเขม็ ทิศโดย 1. ปล่อยเข็มทศิ ให้เปน็ อิสระโดยบิดคนั กระเดือ่ งยดึ เข็มทศิ ไปตา้ แหน่งปลดเขม็ ทิศ 2. กง่ึ กลางเข็มทศิ โดยหมุนกลอ้ งส่วนล่าง และมองดูในแว่นขยาย ใหป้ ลายเข็มทิศตรงขีดหลักเส้น กลาง (ยาวทส่ี ุด) ในแว่นขยาย 3. ยดึ เขม็ ทศิ ไว้ โดยบดิ คนั กระเดอื่ งยึดกลับไปต้าแหน่งยดึ 5.4 หมนุ กล้องส่วนบนอยา่ งเรว็ เวียนตามเข็มนาฬกิ า ให้ใกล้จุดทต่ี ้องการจะวดั โดยใชศ้ ูนย์เล็งช่วย 5.5 หมุนกล้องสว่ นบนอย่างชา้ ด้วยควงมุมทิศ จนจดุ ตัดของมาตราประจา้ แก้วทาบกับจุดท่ีต้องการจะ วัด 5.6 อ่านมุมท่มี าตราจานมุมทิศและควงมุมทิศ 5.7 คา่ ที่อา่ นได้ จะเปน็ ค่าของมมุ ภาคทศิ เหนือแมเ่ หลก็ ของจุดทตี่ ้องการจะวดั 6. การวัดมุมภาคของทศิ เหนือแผนที่ การวัดมมุ ภาคน้ีมี 2 กรณี คือ 6.1 กรณีทศิ เหนอื แม่เหล็กอยู่ทางทิศตะวันตกของทิศเหนือแผนท่ี (สามารถทราบได้จากรายละเอียด ขอบระวางแผนท่)ี ในกรณีนใี้ ห้ปฏบิ ตั ิดังน.ี้ 1. ใหน้ ้าคา่ มุมเยอื้ งในแผนที่ซ่ึงทราบค่าแลว้ ไปลบออกจาก 6400 2. นา้ ผลลพั ธท์ ไี่ ดไ้ ปตง้ั ทม่ี าตรามุมทศิ (ค่ามุมเยอ้ื งคงที)่ 3. กึ่งกลางเข็มทิศโดยหมุนกลอ้ งสว่ นลา่ งแนวเล็งหรือมุม 0-32 ท่ีมาตราจานมุมทิศจะชี้อยู่ตรงทิศ เหนอื แผนที่ 4. หมนุ กล้องสว่ นบนไปเล็งจุดท่ีต้องการจะวัด 5. อา่ นค่ามาตราสว่ นใหญ่ท่ีจานมุมทศิ และมาตราส่วนยอ่ ยท่ีควงมุมทิศ 6. คา่ ท่ีอ่านได้คอื คา่ มุมภาคทศิ เหนือแผนทขี่ องจดุ ท่ตี ้องการจะวัด วิชาเครอื่ งยงิ ลูกระเบดิ (กล้องกองรอ้ ยชนิดเข็มทิศ M2 และ M2A2)

-32- 6.2 กรณีที่ทิศเหนือแม่เหล็กอยู่ทางทิศตะวันออกของทิศเหนือแผนท่ี (สามารถทราบได้จาก รายละเอยี ดขอบระวางบนแผนท่)ี ใหป้ ฏิบตั ดิ ังนี้ 1. น้าค่ามุมเยื้องบนแผนท่ซี ึ่งทราบคา่ แล้วไปตัง้ ที่มาตรามมุ ทิศ (ค่ามมุ เยื้องคงท่ี) 2. กึ่งกลางเข็มทิศโดยหมนุ กล้องสว่ นล่าง หรือมมุ 0-32 ที่มาตราจานมุมทิศจะช้ีตรงทศิ เหนือแผนท่ี 3. หมุนกล้องสว่ นบนไปเลง็ จุดที่ต้องการจะวัด 4. อ่านคา่ มาตราส่วนใหญ่และส่วนยอ่ ยทจ่ี านมุมทิศควงมมุ ทิศ 5. ค่าท่ีอ่านได้คอื ค่ามุมภาคทิศเหนือแผนท่ีของจุดที่ต้องการจะวัด 7. การหาค่ามุมเย้ืองคงท่ีประจ้ากล้อง เนื่องจากเข็มทิศของกล้องกองร้อยแต่ละกล้องจะมีความเข้มหรือ ความเฉ่ือยของแม่เหล็กไม่เท่ากัน ค่ามุมภาคทิศเหนือที่วัดได้ของแต่ละกล้องย่อมไม่เท่ากันด้วย เพ่ือให้ทราบค่า ความเยื้องอันเน่ืองมาจากความเฉื่อยของเข็มทิศจ้าเป็นที่จะต้องหาค่ามุมเย้ืองของกล้อง โดยต้องต้ังสถานีหรือ ต้าบลก้าหนดค่ามุมเย้ืองข้ึน โดยปกติต้าบลดังกล่าวนี้ทหารปืนใหญ่หรือทหารช่างเป็นผู้ก้าหนด เม่ือไม่มีสถานี ก้าหนดค่ามุมเยื้อง อาจหาค่ามุมเย้ืองของกล้องได้จากบนเส้นตรงใด ๆ ท่ีทราบมุมภาคของทิศเหนือแผนที่ แน่นอน จึงจ้าเปน็ ต้องมีแผนท่บี ริเวณตา้ บลทตี่ อ้ งการจะหาคา่ มมุ เย้ือง 7.1 การหาค่ามุมเย้ือง เม่ือทราบมุมภาคของทิศเหนือแผนท่ีของเส้นตรงเพียงเสน้ เดยี วปฏบิ ัติได้ ดังน.ี้ - 1. ตงั้ กล้อง ณ ปลายเส้นทีท่ ราบค่า 2. กง่ึ กลางหวอดระดบั วงกลมและหวอดระดบั ตวั นอน 3. ศูนยม์ าตราจานมมุ ทศิ และควงมุมทศิ 4. กงึ่ กลางเข็มทิศโดยหมนุ กลอ้ งสว่ นล่าง 5. หมุนกล้องสว่ นบนเลง็ ไปยังตา้ บลท่ีทราบคา่ มุมภาคทศิ เหนอื แผนที่ 6. บนั ทึกค่ามุมที่อ่านได้ 7. กระทา้ อย่างเดิมนีส้ ามครงั้ ในการหาคา่ ของเส้นตรงเดมิ 8. หาผลเฉลย่ี ของมุมโดยน้าคา่ ที่อ่านได้ทัง้ สามครงั้ มาบวกกันแล้วหารด้วย 3 9. ลบผลเฉลี่ยของมุมที่หาได้ออกจากค่ามุมภาคทิศเหนือแผนท่ีของต้าบลนั้น หรือ บวกด้วย 6400 เมือ่ จ้าเป็น คอื เม่ือผลเฉลีย่ ของมมุ ท่ีวดั ไดใ้ หญก่ ว่ามมุ ภาคของทศิ เหนือแผนที่ของตา้ บลน้ัน 10. ผลลพั ธท์ ไ่ี ด้จะเปน็ คา่ มุมเย้อื งคงทปี่ ระจา้ กลอ้ งน้นั 7.2 ถ้าต้องการความประณีต ให้หาจากจุดที่ทราบค่ามุมภาคทิศเหนือแผนที่มากกว่าหนึ่งจุดโดยการ ตั้งกลอ้ งไว้ ณ จุดเดียวกัน แต่เล็งไปยังต้าบลต่าง ๆ ท้ังหมดท่ีแลเห็น หาผลเฉลี่ยของผลต่างระหว่างมุมภาคทิศ เหนอื แผนทแ่ี ละมุมทว่ี ดั ได้ ผลลพั ธท์ ี่ได้จะเป็นค่ามุมเยอ้ื งคงท่ี ปานกลาง ---------------------------------------------- วิชาเคร่ืองยงิ ลกู ระเบดิ (กล้องกองร้อยชนดิ เข็มทิศ M2 และ M2A2)


วิชา เครื่องยิงลูกระเบิด

Enter your Authorization ID to access.

Enter