Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา อาวุธขนาดเล็ก

วิชา อาวุธขนาดเล็ก

Published by qacavalry, 2021-03-18 02:01:21

Description: วิชา อาวุธขนาดเล็ก
รหัสวิชา ๐๑๐๒๐๑๐๗๐๑
หลักสูตร ชั้นนายพัน
แผนกวิชาอาวุธ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

- 47 - 13. ปืนกล M 37 ขนาด .30 นิ้ว 1. กล่าวนา ปืนกล M37 เปน็ ปนื กลร่วมแกนของรถถัง M41A2, M41A3 2. คุณลกั ษณะ 2.1 ทางานดว้ ยแรงถอย 2.2 ปอ้ นกระสนุ ดว้ ยสายกระสนุ 2.3 ระบายความรอ้ นดว้ ยอากาศ 2.4 ยิงเป็นแบบอัตโนมัติ 2.5 เข็มแทงชนวนแบบไปดว้ ยแรงแหนบ 2.6 ทาการยิงจากลักษณะหน้าลูกเลือ่ นปดิ 3. มาตราทาน - กว้างปากลากล้อง . 30 นิ้ว - ระยะยงิ ไกลสุดประมาณ 3,200 เมตร - ระยะยิงหวังผลไกลสุด ประมาณ 900 เมตร - น้าหนักปนื 31 ปอนด์ 4. ชอ่ื ชิน้ ส่วนภายนอก - ปลอกประคองลากล้อง - เหลก็ รองลากล้อง - ลากลอ้ ง - กลอนฝาปิดห้องลูกเลื่อน - ห้องลูกเล่อื น - ฝาปิดหอ้ งลกู เลื่อน - ชอ่ งบรรจุสายกระสนุ - แทน่ ศนู ยห์ ลัง - คันร้งั ลกู เลือ่ น, ปุ่มคนั รงั้ ลกู เลอ่ื น - เหล็กปิดท้ายห้องลูกเลือ่ น 5. การถอดแบบปกติ มชี ้ินส่วนใหญ่ ๆ ทีถ่ อดได้ คือ. 1. เหล็กปิดทา้ ยหอ้ งลูกเลอื่ น 2. แกนแหนบและแหนบส่งลูกเล่อื น 3. ปุม่ คันรัง้ ลกู เล่อื น 4. คันร้งั ป่มุ รัง้ ลกู เลอ่ื น 5. หมู่ลกู เลอื่ น 6. โครงลกู เลอื่ น 7. โครงต่อท้ายลากล้อง 8. ลากล้อง 6. การปรับระยะหนา้ ลกู เล่ือน ระยะหน้าลูกเลื่อน คือ ระยะห่างระหว่างจานท้ายปลอกกระสุนเม่ือกระสุนเข้ารังเพลิงเรียบร้อยแล้ว กบั หน้าลูกเลอ่ื น การปรับระยะหน้าลกู เลือ่ นกระทาได้ 2 วิธี คือ. 1. เม่ือปืนยงั ไม่ไดป้ ระกอบ (หลังจากกลอนลูกเลื่อนตกแล้วขันลากลอ้ งเขา้ อีก 1 คล้ิก) 2. เมอื่ ประกอบปืนเรียบร้อยแลว้ (หลังจากคลายลากล้องจนส่วนเคลอ่ื นทวี่ งิ่ ไปข้างหน้าแล้ว ใหค้ ลาย ลากลอ้ งออกอีก 2 คล้กิ ) วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M37)

- 48 - การปรับระยะหน้าลูกเล่ือนเมอื่ ประกอบปืนเรียบร้อยแล้ว 1. ตรวจความปลอดภยั ของปืน 2. ดึงคนั ร้ังลูกเลอื่ นมาขา้ งหลงั ประมาณ ¾ น้วิ และขนั ลากลอ้ งเข้ากับโครงต่อท้ายลากลอ้ งใหส้ ดุ 3. ปล่อยลกู เลอ่ื นกลับไปขา้ งหน้าด้วยการขยายตัวของแหนบรบั แรงถอย (ห้ามใช้แรงดนั คนั รัง้ ลกู เล่ือน) 4. ดึงลูกเลื่อนค้างไว้ข้างหลังเพ่ือเป็นการผ่อนแหนบยึดลากล้อง และให้คลายลากล้องออกทีละคล้ิกตรวจ สอบว่าหลังจากคลายลากล้องออกแตล่ ะคล้กิ น้นั โครงต่อทา้ ยลากลอ้ งเคล่ือนท่ีกลบั ไปข้างหนา้ สดุ หรือยัง 5. เมอ่ื ลากล้องและโครงต่อท้ายลากล้องเคลื่อนท่ีกลับไปหน้าสดุ แลว้ (ข้นั ตอนท่ี 4) ให้คลายลากล้องออกอีก 2 คลก้ิ เพื่อเป็นการชดเชย เมอ่ื ทาการยิงปนื ลากล้องปนื จะรอ้ นแลว้ ขยายตวั 7. ส่ิงชี้สอบ 1. หลังจากทาการยิงปนื ให้รีบทาความสะอาดปลอกประคองลากล้อง เนอ่ื งจากจะมีคราบเขมา่ มากอาจทาใหล้ ากลอ้ งติดไม่ถอยมาขา้ งหลงั ในขณะทาการยงิ 2. ในขณะทาการยิงระหว่างหยุดพกั ให้หยอดน้ามันหลอ่ ลื่นสว่ นเคลื่อนท่ี และรอ่ งทางเดินของ ลูกเล่อื น วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.M37)

- 49 - ตารางชนิดกระสนุ ปืนกล M 37 ขนาด .30 นว้ิ (TM 43-0001-27 ฉบับ APRIL 1994) ลาดับ ชนิดกระสนุ รหัสสี ความม่งุ หมายในการใช้ 1. กระสนุ ทดสอบความดันสูง ปลอกกระสุนสเี งิน ยงิ ทดสอบอาวธุ ในระหวา่ งการผลิต HIGH PRESSURE TEST หรือ การซ่อมบารงุ อาวธุ (HPT) M1 2. กระสุนส่องวถิ ี (TRACER) 2.1 M1 หวั กระสุนสแี ดง ตรวจตาบลกระสุนตก 2.2 M25 หวั กระสุนสีส้ม สังหารบคุ คล/ ทาลายเป้าหมายท่ีไม่ ห้มุ เกราะ 3. กระสุนเจาะเกราะ ARMOR หวั กระสุนสีดา อานาจในการเจาะเกราะ ยิงแผ่น PIERCING (AP) M2 เกราะหนา 7/8 น้ิว ณ ระยะ 100 หลา สามารถเจาะแผ่นเกราะได้หนาไม่ นอ้ ยกว่า 0.42 นวิ้ 4. กระสุนธรรมดา (BALL) หัวกระสนุ ไม่ทาสี สงั หารบุคคล/ทาลายเป้าหมายที่ M2 ไมห่ มุ้ เกราะ 5. กระสนุ เจาะเกราะเพลิง หัวกระสนุ สีเงิน ยงิ แผ่นเหลก็ กลา้ หนา 7/8 นิ้ว ณ ARMOR PIERCING ระยะ 100 หลา สามารถเจาะแผ่น INCENDIARY (API) M14 เหลก็ ได้ หนาไมน่ อ้ ยกวา่ 0.42 นว้ิ เมอ่ื กระสุนกระทบเป้าหมายจะเกิดเพลิง ลกุ ไหมท้ ันที 6. กระสุนหัวเปราะ หัวกระสุนสเี ขยี ว, มีแถบสี ใช้ฝึกวชิ าหลกั ยงิ (GUNNERY (FRANGIBLE) M22 ขาวคาด PRACTICE) 7. กระสนุ ฝึกบรรจุ (DUMMY) ไมม่ ีชนวนท้าย, มลี อน ฝกึ บรรจุ/ ตรวจสภาพ และทดสอบ M40 ลกู ฟกู ยาว 1 นว้ิ จานวน 6 กลไกของอาวุธ ลอน บนปลอกกระสนุ 8. กระสนุ ซ้อมรบ (BLANK) ไม่มลี ูกกระสนุ ใชฝ้ ึกยิงจาลองแทนกระสุนจริง หรอื M1909 ปากปลอกกระสุนสอบ ใช้ยิงสลุต - - - - - - - - - - - ------------------------ - - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.M37)

- 50 - 14. ปืนกล M 240 ขนาด 7.62 มม. หลกั ฐาน TM 9-1005-313-10 ลง 19 JULY 1996 1. คุณลักษณะ - ทางานด้วยแกส๊ - ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุน - ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ - ยิงแบบอตั โนมัติ - ล่นั ไกด้วยมอื หรือ ดว้ ยไฟฟา้ - เปลี่ยนลากลอ้ งไดร้ วดเร็ว - ระยะหน้าลูกเลื่อนแบบตายตวั (ไมม่ ีการปรับ) ปัจจบุ ัน ปก. M240 มีอยู่ 5 แบบ คอื 1) ปก.M240 ป้อนกระสุนทางด้านซ้าย ใช้ประจาการใน ทบ.ไทย สาหรับเหล่า ม. ใช้ติดต้ังเป็น ปก.ร่วมแกน ประจา ถ.M48A5/ ถ.M60A1/ ถ.M60A3 ส่วน ถ.เบา 32 ติดตั้ง ปก.ร่วมแกน M240 T ซ่ึงแตกต่างจาก ปก.M240 เก่ียวกับการติดต้ังเครื่องแม่เหล็กลั่นไกด้วยไฟฟ้า (SOLENOID) ปก.M240 SOLENOID อยู่ที่ฐาน ติดตัง้ ปนื , ปก.M240 T SOLENOID อยทู่ ่ีตวั ปนื 2) ปก.M240 B ป้อนกระสนุ ทางด้านซ้าย ออกแบบให้ต้งั ยงิ บนขาหยง่ั , ขาทราย และมีศูนย์หนา้ ปก.M240 B และศูนย์หลงั ใช้ในการยงิ สนบั สนนุ โดยหน่วยทหารทางภาคพ้นื ดนิ 3) ปก.M240 C ป้อนกระสนุ ทางด้านขวา ใช้ตดิ ตั้งบนยานเกราะขนาดเบา ปก.M240 C 4) ปก.M240 E1 ปอ้ นกระสนุ ทางด้านซา้ ย มศี ูนยห์ น้าและศนู ยห์ ลงั เครอ่ื งลั่นไกคลา้ ยกับ ปก.M60 D ใช้ติดตง้ั บนยานเกราะขนาดเบา ปก.M240 E1 5) ปก.M240 G ใช้ตดิ ตั้งบน รยบ.ฮัมวี่ คุณลกั ษณะเหมือนกบั ปก.M240 B ซ่งึ ปัจจุบัน ทบ.ไทยไดจ้ ัดหามาทดแทน ปก.M60 ปก.M240 G 2. การปรับกรวยจัดแก๊ส (เป็นปืนกลที่ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับให้มีอัตราเร็วในการยิงคงที่ภายใต้ สภาพส่งิ แวดลอ้ มทแี่ ตกตา่ งกัน) รูท่ี 1 ประมาณ 650 นัด/นาที รทู ี่ 2 ประมาณ 750 นดั /นาที รูท่ี 3 ประมาณ 950 นัด/นาที สภาพปกติให้ปรับกรวยจัดแก๊สไว้ท่ีรูท่ี 1 เมื่อยิงไปแล้วปืนเกิดการติดขัดขึ้นเนื่องจากมีคราบคาร์บอน หรอื ฝุ่น, ทราย ใหป้ รบั มาไวท้ ีร่ ูที่ 2 หรือ 3 ตามลาดบั แต่เมอ่ื จบการยิงหลังจากทาความสะอาดแล้วให้ปรับมา ไว้ที่รทู ่ี 1 ตามปกติ - การยิงเป้าหมาย ยิงเป็นชดุ ๆ ละ 20 - 30 นดั - ระยะยงิ หวงั ผล 900 เมตร (ดินสอ่ งวถิ เี ผาไหม้หมด) วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M240)

- 51 - - ระยะยิงในการปรับทางปืน 800 เมตร - ระยะยงิ ไกลสดุ 3,725 เมตร - น้าหนักปนื รวม 22.2 ปอนด์ (10.3 กก.) 3. การตรวจความปลอดภัยของปนื - มน่ั ใจวา่ หา้ มไก อยใู่ นตาแหนง่ \" F \" - ขนึ้ นก โดยการดงึ คันร้ังลูกเลอ่ื นมาข้างหลัง - จดั ให้หา้ มไก อยูใ่ นตาแหน่ง \" S \" - เปดิ ฝาปิดหอ้ งลูกเล่ือน - ถา้ มีกระสุนให้นาออก - ยกเหลก็ รองกระสนุ ข้นึ - ตรวจดู หรือสมั ผัสในรังเพลิง - วางเหลก็ รองกระสนุ ลง - จัดให้ห้ามไก อยใู่ นตาแหน่ง \" F \" - คอ่ ย ๆ ปล่อยใหส้ ว่ นเคลือ่ นที่วง่ิ ไปข้างหนา้ โดยการดงึ คันร้งั ลกู เล่ือนชว่ ย พร้อมกบั เหนี่ยวไก - ปดิ ฝาปิดห้องลูกเลอ่ื น 4. การถอด หมายเหตุ การถอดปนื เนือ่ งด้วยเหตุผล 5 ประการ คือ ทาความสะอาด, ทาการหลอ่ ล่นื , ทาการตรวจสภาพ, ทาการเปล่ียนชน้ิ สว่ น และ เพอื่ การศึกษา การถอดแบบปกติ โดยผใู้ ช้ สามารถถอดได้ 8 ชิ้นส่วนใหญ่ คือ 4.1 ชดุ ลากล้อง 4.2 ชุดเรือนเครอื่ งลั่นไก 4.3 ชดุ เหล็กปดิ ท้ายห้องลูกเลอ่ื น 4.4 ชุดแหนบและแกนแหนบสง่ ลกู เล่ือน 4.5 ชุดลกู เลอื่ นและกา้ นสูบ 4.6 ชดุ ฝาปดิ ห้องลกู เล่ือน 4.7 เหลก็ รองกระสนุ 4.8 โครงปืน 5. การประกอบ ให้ทากลบั กันกับการถอด 5.1 โครงปืน 5.2 เหลก็ รองกระสนุ 5.3 ชดุ ฝาปดิ หอ้ งลูกเล่ือน 5.4 ชุดลูกเลอื่ นและก้านสูบ 5.5 ชุดแหนบและแกนแหนบส่งลกู เลือ่ น 5.6 ชุดเหล็กปิดท้ายห้องลูกเล่ือน 5.7 ชุดเรือนเครื่องลน่ั ไก 5.8 ชดุ ลากล้อง หมายเหตุ เม่อื ประกอบลากลอ้ ง จะต้องมั่นใจวา่ ได้ล็อกคันยดึ ไว้ ระหว่าง 2-7 คลกิ๊ เพ่ือแสดงวา่ ประกอบ ลากลอ้ งเข้าท่ีถูกต้อง วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M240)

- 52 - 6. การทางาน 8 ข้นั ตอน 6.1 การป้อนกระสนุ การปอ้ นกระสนุ เป็นการวางกระสุนนดั แรกบนเหล็กรองกระสุน และใหช้ นกับเหลก็ หยดุ กระสนุ พร้อมท่ีจะบรรจุเขา้ รังเพลงิ 6.2 การบรรจุกระสุนเข้ารังเพลงิ การบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงเปน็ การดนั ใหก้ ระสนุ ออกจากสายและผลัก ให้เข้ารงั เพลิง, ปิดท้ายรงั เพลงิ ไว้ 6.3 การขดั กลอน การขัดกลอน กลอนลูกเลื่อนตกเข้าไปอย่ดู ้านหน้าของลาดขดั กลอน เป็นการลอ็ กใหล้ ูก เล่อื นอยู่ดา้ นหน้า 6.4 การลน่ั กระสนุ การลั่นกระสนุ เขม็ แทงชนวนจะวิ่งไปชนจอกกระทบแตกบนจานทา้ ยปลอกกระสนุ 6.5 การปลดกลอน กลอนลกู เลอ่ื นยกตัวขน้ึ จากด้านหนา้ ของลาดขัดกลอน 6.6 การรง้ั ปลอกกระสนุ การรั้งปลอกกระสนุ เป็นการดึงปลอกกระสุนออกจากรงั เพลงิ 6.7 การคดั ปลอกกระสุน การคดั ปลอกกระสุน เป็นการถอดปลอกกระสุนออกจากโครงปืน 6.8 การขนึ้ นก การข้นึ นก กระเด่ืองไกขัดกบั ร่องบากของก้านสูบ, ทาให้กา้ นสบู และลูกเลอ่ื นคา้ งอยู่ขา้ งหลัง 7. การใชเ้ คร่อื งมือพิเศษ ดู TM 9-1005-313-23, หน้า 2-16 ถงึ หนา้ 2-35 8. การตรวจสอบการทางาน - ม่ันใจวา่ ห้ามไก อยู่ในตาแหน่ง \" F \" - ขึ้นนก โดยการดึงคนั รงั้ ลูกเลอื่ น, เปน็ การล็อกให้ส่วนเคลื่อนท่ีค้างอยูข่ ้างหลัง - จดั ใหห้ ้ามไก อย่ใู นตาแหนง่ \" S \" - เหน่ยี วไก (จะต้องเหน่ียวไกไมไ่ ด้) - จัดใหห้ ้ามไก อยใู่ นตาแหนง่ \" F \" - เหนีย่ วไก และ ค่อย ๆ ปล่อยใหส้ ่วนเคลือ่ นทวี่ ง่ิ ไปข้างหนา้ โดยดงึ คันรัง้ ลกู เลอ่ื นชว่ ย 9. การระวังรกั ษาและการทาความสะอาด 9.1 ก่อนทาการยิง - ชโลมน้ามนั บาง ๆ สว่ นเคล่อื นที่ทั้งหมด ด้วยนา้ มัน BREAKFREE (CLP) - เชด็ แห้งรหู ลอดลากล้อง และรังเพลิง ด้วยผ้าแห้งทีส่ ะอาด หมายเหตุ หา้ มชโลมน้ามันชนิ้ ส่วนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั แกส๊ เช่น กรวยจัดแก๊ส, ลูกสูบ, หนา้ ลูกเล่อื น และ กระบอกสบู เปน็ ตน้ 9.2 หลังทาการยิง - ทาความสะอาดพน้ื ผิวท่มี ีคราบคาร์บอนทั้งหมด ด้วยน้ามนั BREAKFREE (CLP) - ทาความสะอาดส่วนประกอบท้ังหมด ด้วยน้ามัน BREAKFREE (CLP) เช็ดแหง้ และชโลม ดว้ ยนา้ มัน BREAKFREE (CLP) หมายเหตุ หา้ มแชช่ ดุ เหล็กปิดทา้ ยหอ้ งลูกเล่ือนในของเหลวใด ๆ วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M240)

- 53 - 10. การแกไ้ ขเหตตุ ิดขดั โดยฉบั พลนั 10.1 ปืนเย็น (ยิงน้อยกว่า 200 นดั ภายใน 2 นาที) - ดงึ คนั รง้ั ลกู เล่ือนมาขา้ งหลงั เพอื่ ขึน้ นก - ทาการยิง - ถา้ ปืนไม่ล่นั ใหท้ าการตรวจความปลอดภยั และตรวจสภาพปนื 10.2 ปืนรอ้ น (ยงิ มากกวา่ 200 นดั ภายใน 2 นาที) - ดงึ คันรงั้ ลกู เล่ือนมาข้างหลงั เพื่อข้ึนนก - ทาการยิง - ถา้ ปนื ไม่ล่นั ปลอ่ ยใหป้ ืนชไ้ี ปยงั เป้าหมาย เป็นเวลา 15 นาที จึงถือว่าปนื เย็น และให้ทาการตรวจ ความปลอดภัย เพื่อตรวจสภาพของปนื ต่อไป 11. อัตราการยงิ (RATE OF FIRE) - ยงิ ตามวงรอบการทางาน (CYCLE) 650-950 นัด/นาที ปก.ตระกลู M240 ไมไ่ ด้ออกแบบให้ทาการยิง ณ ความเร็ว 950 นัด/นาที เพราะจะทาให้ปืนชารดุ สกึ หรอเรว็ ยิ่งขน้ึ โดยเฉพาะลากล้อง - ยิงตอ่ เน่อื ง (SUSTAINED) 100 นดั /นาที (4-5 วินาทรี ะหว่างชุด) เปลีย่ นลากลอ้ งทุก 10 นาที - ยิงเร็ว (RAPID) 200 นดั /นาที (2-3 วนิ าทีระหวา่ งชดุ ) เปล่ยี นลากล้องทุก 2 นาที - - - - - - - - - - ----------------------- - - - - - - - - - - ( ตารางข้อมลู กระสุน หน้าถดั ไป ) วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.M240)

- 54 - ตารางขอ้ มูล กระสุนปนื กล M240 ขนาด 7.62 มม. (TM 43-0001-27 ฉบับ APRIL 1994) ลาดบั ชนิดกระสุน รหสั สี ความมุ่งหมายในการใช้ 1. กระสนุ ธรรมดา (BALL) 1.1 M80 หวั ไม่ทาสี สงั หารบคุ คล/ทาลายเป้าหมายทไี่ ม่หุ้มเกราะ 1.2 M80 (OVER HEAD FIRE หวั ไมท่ าสี ยงิ ข้ามศรี ษะหนว่ ยทหารฝ่ายเดียวกนั APPLICATION) 2. กระสนุ ทดสอบความดันสงู ปลอกกระสุนสเี งนิ ยงิ ทดสอบอาวุธในระหว่างการผลติ หรอื การ HIGH PRESSURE TEST ซ่อมบารงุ อาวธุ (HPT) M60 3. กระสุนเจาะเกราะ ARMOR PIERCING (AP) 3.1 M61 หัวกระสุนสีดา สงั หารบุคคล/ ทาลายยานเกราะขนาดเบาหรอื เปา้ หมายทไี่ มห่ มุ้ เกราะ/ เป้าหมายคอนกรีต 3.2 M993 มแี ถบสดี าลอ้ มรอบหวั มีขดี ความสามารถในการเจาะเกราะ ใชเ้ ป็น กระสนุ (ใช้ประกอบกบั กระสุนมาตรฐาน สาหรบั ปืนขนาด 7.62 มม. กระสุนสอ่ งวถิ ี M62) 4. กระสนุ ส่องวถิ ี (TRACER) 4.1 M62 หัวกระสนุ สีสม้ ตรวจตาบลกระสนุ ตก 4.2 M62 (OVER HEAD FIRE หัวกระสนุ สแี ดง ยิงขา้ มศรี ษะหน่วยทหารฝ่ายเดียวกนั MISSION) 5. กระสุนฝกึ บรรจุ (DUMMY) 5.1 M63 ลอนลกู ฟูก 6 ลอนบน ฝกึ บรรจ/ุ ตรวจสภาพและทดสอบกลไกอาวธุ ปลอกกระสนุ 5.2 M172 กระสนุ ทงั้ นดั สดี า, ไมม่ ี ทดสอบกลไกและสายกระสนุ ปนื กลขนาด ชนวนทา้ ย 7.62 มม. 6. กระสุนสอ่ งวถิ ี (DIM TRACER) หวั กระสุนสีเขยี วมแี ถบ ใช้กับหนว่ ยทีม่ ีกลอ้ งเล็งเวลากลางคืน M276 สีชมพูคาด 7. กระสุนซอ้ มรบ (BLANK) M82 ไม่มลี ูกกระสนุ และคอ ยิงแทนกระสนุ จริงในการฝึก/ ยงิ สลุต กระสนุ สอบสองชัน้ 8. กระสนุ หวั เปราะ (FRANGIBLE) หัวลูกกระสุนสเี ขยี ว ลูกกระสุนออกแบบใหย้ งิ ไดท้ ลี ะนดั เพ่อื ใช้ฝึก M160 มแี ถบสีขาวคาด วชิ าหลักยิง * ปก. M240 ใช้สายกระสนุ M13 ข้อตอ่ สายกระสนุ เปดิ (OPEN LOOP) - - - - - - - -------------------------- - - - - - - - วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปก.M240)

- 55 - 15. ปนื กล 38 ขนาด 7.62 มม. (ปก. M240 G/MAG58) 1. กลา่ วทวั่ ไป ปืนกล M240 G เปน็ อาวธุ ยิงแบบอตั โนมัติ, ระบายความร้อนด้วยอากาศ, ป้อนกระสุนด้วย สายกระสนุ และทางานดว้ ยแก๊ส ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดย FN สาหรบั ใชใ้ นการยุทธสมัยใหม่ - ทาการยงิ สนับสนุนด้วยปรมิ าณการยงิ ทสี่ ูง การยิงตามวงรอบของการทางานสามารถยงิ ติดต่อกันไปเร่ือยๆ ไดเ้ ปน็ เวลานานโดยปราศจากการติดขัด - อัตราการยิงสามารถปรบั ได้ - เป็นอาวธุ ที่มีนาหนักเบา - มีความรวดเร็ว, ง่ายในการถอด/ประกอบและการใชง้ าน - มีการจัดปรับกรวยจัดแกส๊ ในการทาการยิง จึงทาให้ปนื ชนดิ นีสามารถทาการยงิ ในสภาวการณต์ ่าง ๆ ได้ เชน่ โคลน, ทราย, หิมะ อากาศรอ้ นหรือหนาวจัด ฯลฯ - ตดิ ตงั บน รยบ. 1 ¼ ตนั (ฮัมวี)่ และยังสามารถทาการยงิ บนขาทรายในคู และสนามเพลาะได้ (มีพาน ทา้ ยและศนู ย์หนา้ /หลัง) ศูนย์ ศนู ย์หน้า (ตดิ ตงั อยู่บนลากล้อง) สามารถปรับในทางทิศ และทางระยะได้ ศนู ย์หลงั - มาตราอนั บน แบง่ ออกเป็นขดี ๆ ละ 100 เมตร จาก 200 - 800 เมตร - มาตราอันลา่ ง แบ่งออกเปน็ ขีดๆ ละ 100 เมตร จาก 800 - 1,800 เมตร (ศนู ยห์ ลงั อยู่ในตาแหนง่ ยก) 2. มาตราทาน - นาหนักของปนื (รวมพานท้าย และขาทราย) ประมาณ 11.0 กก. (24.2 ปอนด์) - นาหนกั ของลากลอ้ ง (รวมกรวยจดั แก๊ส, ปลอกลดแสง และด้ามหวิ ) ประมาณ 3.0 กก. (6.6 ปอนด์) - ระยะยิง ระยะยงิ ไกลสุด 3,725 เมตร - ระยะยิงหวังผลไกลสุด (เปา้ หมายเปน็ จดุ ) 800 เมตร ใชข้ าหยั่ง M 122 (เป้าหมายเป็นพืนที่) 1,800 เมตร ใช้ขาหยั่ง M 122 - ความยาวของปืนทังกระบอก (รวมปลอกลดแสง) ประมาณ 1,225 มม. (49.4 นวิ ) - ระยะห่างจากศนู ย์หนา้ ถึงศูนยห์ ลงั (พับศูนยห์ ลัง) ประมาณ 848 มม. (33.4 นิว) - ระยะห่างจากศูนย์หน้าถึงศูนย์หลงั (ยกศนู ยห์ ลงั ) ประมาณ 785 มม. (30.9 นิว) - ความยาวของลากล้อง (ไมร่ วมปลอกลดแสง) ประมาณ 545 มม. วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M240 G)

- 56 - - จานวนเกลียว 4 เกลียว เวยี นขวา - ความยาวของเกลยี ว 1 รอบ 305 มม. (12 นวิ ) - อัตราการยงิ ตามวงรอบของการทางาน 650 - 1,000 นดั /นาที (ขนึ อยู่กบั การปรับกรวยจดั แกส๊ ) - ขีดจากดั ในการส่ายทางขา้ ง (รวมทงั หมด) ขาทราย ประมาณ50 องศา (880 มลิ เลียม) ขาหยัง่ ประมาณ 67 องศา (1,200 มิลเลยี ม) 3. การถอดประกอบ การปฏิบัตกิ ่อนทาการถอดปนื จะต้องตรวจความปลอดภัยของปืนเสียก่อน โดยปฏิบัตดิ งั นี.- - จัดห้ามไกให้อยู่ในตาแหนง่ ยงิ (F) - ดึงคนั รงั ลูกเลื่อนมาข้างหลงั สดุ (ชดุ ลูกเลือ่ นจะต้องอยขู่ ้างหลัง) แล้วผลกั คนั รังกลบั ไปข้างหนา้ ให้สดุ - จดั ห้ามไกให้อยูใ่ นตาแหน่ง หา้ มไก (S) - เปดิ ฝาปิดห้องลูกเลื่อนแล้วยกเหล็กรองกระสุนขนึ เพื่อตรวจดใู นรงั เพลิง ไม่มีกระสุนหรอื สิ่งแปลกปลอม - วางเหล็กรองกระสนุ และปดิ ฝาปดิ หอ้ งลูกเล่อื น - จดั หา้ มไกให้อยู่ในตาแหนง่ ยงิ (F) - คอ่ ย ๆ ปล่อยลกู เลื่อนกลับไปขา้ งหนา้ โดยการเหน่ียวไกและจับที่คันรังลกู เล่อื น การถอดแยก สามารถทาการถอดได้ 5 หมูช่ ินส่วนใหญ่ คอื .- 1. ชุดลากล้อง (รวมกรวยจดั แก๊สและด้ามหิว) 2. พานทา้ ย 3. ชดุ ลูกเลอ่ื น, ลูกสบู และแหนบส่งลกู สบู 4. ชดุ เครือ่ งลนั่ ไก 5. ชดุ โครงปนื (ประกอบด้วยขาทรายและฝาปิดหอ้ งลูกเล่ือน) 5. การทางาน มี 8 ขันตอน 1. การปอ้ นกระสุน 2. การบรรจุกระสนุ เขา้ รงั เพลิง 3. การขดั กลอน 4. การลน่ั กระสนุ 5. การปลดกลอน 6. การรงั ปลอกกระสุน 7. การคัดปลอกกระสนุ 8. การขึนนก 6. การปรับกรวยจดั แก๊ส ก่อนทาการยงิ จะต้องปรบั ทกุ ครัง - ตาแหนง่ หมายเลข 1 อตั ราการยิงประมาณ 650 นดั /นาที - ตาแหนง่ หมายเลข 2, 3 เพิม่ อัตราการยิงใหส้ ูงขึน (750 - 950 นัด/นาที) หรือในพืนทีป่ ฏบิ ตั กิ ารทีป่ นื อาจเกดิ การตดิ ขัดขึน เช่น โคลน,ทราย หรอื ในสภาวะท่ปี นื มคี ราบคาร์บอนจบั มาก วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M240 G)

- 57 - 7. สาเหตุตดิ ขัดและการแก้ไข การแก้ไขเหตตุ ิดขดั ทนั ทีทันใด 3 ขันตอน ขนั ตอนท่ี 1 1. หลงั จากเกิดการติดขัดใหท้ าการเลง็ ปืนยงิ ตามปกติ 2. ขึนนก จะต้องแน่ใจว่าชดุ ลกู เลื่อนและก้านสูบค้างอยู่ข้างหลัง จัดห้ามไกให้อยู่ในตาแหน่ง \" หา้ มไก \" (S) 3. เปิดฝาปดิ ห้องลูกเลอ่ื น และนาสายกระสนุ ออก 4. จดั หา้ มไกให้อยใู่ นตาแหนง่ ยิง (F) และเหน่ยี วไก 5. ขนึ นกปนื 6. บรรจุกระสุน (แน่ใจว่ากระสนุ นดั แรกอย่ใู นตาแหนง่ ที่ถกู ต้อง) 7. ปิดฝาปิดหอ้ งลูกเลอ่ื น 8. ทาการยงิ ต่อไป ขันตอนที่ 2 ปฏิบัติ ข้อ 1-5 ในขันตอนที่ 1 6. ปรับทีก่ รวยจัดแกส๊ 1 หรือ 2 คลิ๊ก 7. บรรจกุ ระสุน 8. ปิดฝาปิดห้องลูกเล่อื น 9. ทาการยิงต่อไป ขนั ตอนท่ี 3 (ถา้ การปฏิบัตใิ นขันตอนที่ 2 ยงั ทาการยงิ ไม่ได้) ปฏิบตั ิ ขอ้ 1. – 5. ในขันตอนท่ี 1 6. เปล่ยี นลากลอ้ ง 7. บรรจุกระสนุ 8. ปิดฝาปิดห้องลูกเลื่อน 9. ทาการยงิ ตอ่ ไป คาแนะนาและขอ้ ควรระมดั ระวัง 1. ในการบรรจุหรอื การนาพาปนื ชนิดนี จะต้องให้ชดุ ลูกเล่ือนและก้านสบู อยู่ในตาแหนง่ หน้าสุดเสมอเม่ือขนึ นกและทาการเหน่ยี วไก เพื่อตรวจความปลอดภัยของปืนให้จับคันรงั ลกู เล่อื นช่วยพยุงไว้ด้วยเพ่อื ป้องกนั การชารุดของส่วนเคลื่อนที่ 2. สว่ นเคล่อื นทข่ี องปืนก่อนทาการยิงจะต้องชโลมนามนั บาง ๆ โดยเฉพาะในภูมิประเทศที่เป็นทรายไม่ จาเปน็ ที่จะต้องชโลมนามันให้มากเกนิ ควร กระสนุ ใชเ้ หมือนกันกบั กระสนุ ปนื กล M240 - - - - - - - - - - - -------------------------- - - - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M240 G)

- 58 - 16. ปนื กล แบบ 69 ขนาด 7.62 มม. หลักฐาน เอกสารโรงเรยี นยานเกราะ กองทพั บก ประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจีน 1. กลา่ วนา ปืนกลขนาด 7.62 มม.แบบ 69 เปน็ ปนื กลติดต้ังกบั รถถัง 30 (T69-2) มีด้วยกนั 2 กระบอก เปน็ ปนื กลรว่ มแกน 1 กระบอก และเปน็ ปืนกลหน้า 1 กระบอก (ติดตงั้ ทห่ี ้องพลขับ) สาหรับปืนกลหน้า ไมม่ ีปลอกป้องกันแสงทปี่ ากลากลอ้ ง 2. คุณลักษณะ 2.1 ทางานด้วยแกส๊ 2.2 ป้อนกระสุนดว้ ยสายกระสนุ (สายกระสุนแบบข้อต่อถาวร จะต้องบรรจุกระสนุ เขา้ สายเอง) 2.3 ยิงเป็นชดุ 2.4 ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ 2.5 ลั่นไกดว้ ยไฟฟา้ โดยเครอ่ื งแม่เหล็กล่ันไก (SOLENOID) และดว้ ยมือ 3. มาตราทาน 3.1 ความเรว็ ทป่ี ากลากล้อง - หัวกระสนุ หนัก 800 เมตร/วินาที - หัวกระสนุ เบา (หัวเหลก็ กลวง) 865 เมตร/วินาที 3.2 ระยะยงิ หวงั ผล 800 เมตร 3.3 ระยะยิงไกลสุด - หวั กระสนุ หนัก 5,000 เมตร - หวั กระสุนเบา 3,000 เมตร 3.4 จงั หวะการยงิ - ยงิ ช่วงส้ัน 2-7 นดั - ยิงช่วงยาว 10-15 นดั 3.5 อัตราเร็วในการยงิ 200-250 นดั /นาที 3.6 เกลียวในลากล้อง 8 เกลยี ว เวียนขวา 3.7 ความยาวของปนื 1150 มม. 3.8 น้าหนักปืน 13.8 กก. 4. การปรบั แรงดนั แกส๊ ช่องแก๊สดันโครงนาลูกเลื่อนถอยหลังกลับ ปกติจะปรับไว้ที่ เลข 2 กรณีใช้ปืนยิงในพ้ืนที่ที่มีอุณหภูมิ หนาวจัดหรือหมู่โครงลูกเลือ่ นสกปรก เนอื่ งจากไมม่ ีโอกาสทาความสะอาดปนื ได้จะทาให้หมูโ่ ครงลกู เล่อื นถอย วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปก.แบบ 69)

- 59 - หลงั ไปไม่ถงึ ข้างหลังสุด (ตาแหน่งขดั กลอน) จาเป็นจะต้องปรับช่องแก๊สมาที่เลข 3 แต่ถ้ากรณีใช้ปืนยิงในพื้นท่ี ทีม่ ีอุณหภูมริ ้อนจดั หรือแรงถอยของหมู่โครงลูกเล่ือนรนุ แรงและรวดเร็วเกินไป จะต้องปรับช่องแก๊สมาท่ีเลข 1 การปรับกระทาโดยถอดแหวนยึดสลักปรับแรงดันแก๊สมาทางซ้ายปืนออก ดันสลักปรับแรงดันแก๊สออกไป ทางขวาสุด หมนุ ให้แปน้ ปรบั สลกั ให้หมายเลขช่องแก๊สที่ต้องการตรงกับขีดปรับ ดันสลักปรับแรงดันแก๊สเข้าที่ เดมิ ใส่แหวนยดึ สลักปรับแรงดนั แก๊ส 5. การปรบั ระยะหา่ งหนา้ ลกู เลอื่ น การปรบั ระยะห่างหนา้ ลูกเล่อื น จะปรบั ที่กลอนยดึ ลากล้องปนื 1. กรณียิงไปปลอกกระสุนแตกร้าว เกิดจากระยะหน้าลูกเลื่อนห่างมากเกินไป ใช้กุญแจขันปรับกลอนยึด ลากล้องเข้าไป 1 -1.5 ขีด (มาตราบนกลอนยึดลากล้อง) ลากล้องปืนจะเลื่อนถอยหลัง ทาให้ระยะห่างหน้าลูก เลอ่ื นชิดเขา้ ไป 2. กรณีกระสนุ ไม่ลั่นเมื่อลนั่ ไกยงิ แลว้ เกิดจากระยะห่างหน้าลูกเลื่อนชิดเกินไป ทาการปรับโดยใช้กุญแจขันให้ กลอนยดึ ลากล้องออก 1 -1.5 ขีด ลากลอ้ งปนื จะเคลื่อนไปข้างหนา้ ทาให้ระยะห่างหน้าลกู เลื่อนหา่ งออก 6. การถอด/ประกอบ สามารถถอดแยกชิน้ สว่ นได้ ดงั น้ี.- 6.1 เหลก็ รั้งกระสุน 6.2 หมเู่ หล็กเครื่องปิดท้ายห้องลกู เล่ือนและแหนบรับแรงถอย 6.3 หมเู่ คร่ืองลน่ั ไก 6.4 ลูกเลือ่ นและโครงนาลูกเลือ่ น 6.5 คนั รั้งลูกเลือ่ นและแผ่นเหล็กกนั ฝ่นุ 6.6 เหลก็ เลื่อนป้อนสายกระสนุ 6.7 ลากล้องปืน การประกอบ ใหก้ ระทาย้อนกนั กบั การถอด 7. การแก้ไขเหตตุ ดิ ขัด ในระดับหนว่ ยใช้ ปก.แบบ 69 ขนาด 7.62 มม. หลักฐาน เอกสารโรงเรียนยานเกราะกองทัพบก ประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจีน เหตขุ ดั ข้อง สาเหตุ การแก้ไข 1. หมูโ่ ครงลกู เลื่อนเคล่ือนท่ีไป 1. หม่โู ครงลกู เลอื่ นและหมู่เครอื่ งล่ัน 1. ทาความสะอาดหรือตกแต่งรอย ข้างหนา้ ชา้ มาก และเขม็ แทง ไกสกปรกมาก ช้นิ สว่ นมีรอยขีดข่วน ขีดข่วนดว้ ยตะไบ ชนวนไม่ตีจอกกระทบแตก 2. แหนบรับแรงถอยอ่อนหรอื หกั ชนวนท้ายปลอกกระสุน 2. เปล่ยี นใหม่ วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.แบบ 69)

- 60 - เหตขุ ดั ข้อง สาเหตุ การแก้ไข 2. หมู่โครงลกู เลอื่ นเคล่ือนที่ไป 1. ชนวนท้ายกระสุนบกพร่อง 1. ดึงคันร้งั ขึ้นนกคดั กระสุนด้าน ขา้ งหนา้ สุด แตก่ ระสุนไม่ล่นั (กระสุนดา้ น) ออกไป แลว้ ลน่ั ไกใหม่ 2. ระยะหนา้ ลกู เล่ือนชดิ เกินไป 2. ปรับระยะหนา้ ลุกเลื่อนให้ลา 3. ปืนยังคงลน่ั อยูห่ ลงั จาก กลอ้ งเคล่ือนท่ีไปขา้ งหนา้ 1-1.5 ขดี ปลอ่ ยการเหนีย่ วไก 3. เข็มแทงชนวนสกึ 3. เปลยี่ นใหม่ 1. ชอ่ งแก๊สสกปรกทาใหแ้ รงดันไม่ 1. ทาความสะอาด 4. ปลอกกระสุนคาในรงั เพลงิ พอทจ่ี ะดันโครงนาลกู เล่อื นไปอยู่ หรอื ไม่คดั ปลอก ตาแหนง่ หลงั สดุ 2. เปลย่ี นใหม่ 2. หมูเ่ ครอ่ื งล่ันไกบกพร่อง 3. เปลย่ี นใหม่ 5. ปลอกกระสุนแตก 3. กระเดื่องขดั กลอนนกปืนสึก 4. แจง้ ช่างป้อมตรวจแกไ้ ข 6. กระสนุ ติดขดั 4. วงจรลนั่ ไกเคร่ืองลั่นไกด้วย แมเ่ หล็กไฟฟา้ ลัดวงจร 1. เปลยี่ นใหม่ 1. ขอรัง้ ปลอกฯ หรอื แหนบขอรั้ง ปลอกกระสนุ ชารดุ 2. ทาความสะอาด หรอื เปลี่ยน 2. รังเพลิงสกปรกหรือลากล้องปนื ลากล้องใหม่ รอ้ นจดั 3. เปลี่ยนใหม่ 3. สลักคัดปลอกกระสนุ สกึ 4. ทาความสะอาดชอ่ งแก๊ส 4. ชอ่ งแกส๊ สกปรก - ปรบั ระยะห่างหนา้ ลูกเลื่อนให้ชดิ - ระยะห่างหนา้ ลูกเลื่อนมากเกนิ ไป 1-1.5 ขดี 1. เปลยี่ นใหม่ 1. แหนบเหลก็ ป้อนกระสุนอ่อนหรือ หัก 2. ดึงคนั รั้งขน้ึ นกและลน่ั ไกใหม่ 2. กระสุนเขา้ ผดิ ชอ่ ง - - - - - - - - - - - - - - - -------------------------- - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.แบบ 69)

- 61 - 17. ปืนกล 93 ขนาด .50 น้วิ M2 HB 1. กล่าวนา ปก.93 ติดตั้งเป็นปนื กลต่อส้อู ากาศยานประจาป้อมปืน ถ.M41/ ติดตัง้ ประจา รสพ.M113 2. คุณลกั ษณะท่ัวไป 2.1 การทางานด้วยแรงถอย 2.2 ปอ้ นกระสนุ ด้วยสายกระสุน ได้ 2 ทาง 2.3 ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ 2.4 สามารถยงิ ได้เป็นอตั โนมัติ/ ยิงทีละนัด 3. มาตราทาน - น้าหนักปนื ทั้งกระบอก 84 ปอนด์ (38.10 กก.) - ลากลอ้ งหนกั 24 ปอนด์ - ระยะยิงไกลสดุ ประมาณ 7,440 หลา (6,764 เมตร) - ระยะยิงหวังผลไกลสดุ ประมาณ 2,000 หลา ( 1,830 เมตร) - อัตราการยิงตามวงรอบการทางาน 450 – 550 นัด/นาที - ความเร็วตน้ ณ ปากลากล้อง (ประมาณ) 3,050 ฟุต/วนิ าที - ความยาวของปนื 65.13 น้ิว - ความยาวของลากล้อง 45 น้วิ - เกลียวในลากล้อง 8 เกลียว เวยี นขวา 4. การถอดแบบปกติ 4.1 หมลู่ ากลอ้ ง 4.2 หมูเ่ หลก็ ปิดทา้ ยหอ้ งลูกเลื่อน 4.3 หมแู่ หนบส่งลูกเลอื่ น 4.4 ปุม่ คันร้ังลูกเล่ือน 4.5 หมลู่ กู เลื่อน 4.6 หมู่เรอื นเครื่องรบั แรงถอยและหมูโ่ ครงต่อทา้ ยลากลอ้ ง 4.7 หมู่เคร่ืองรบั แรงถอย 5. การปรับระยะหนา้ ลกู เลือ่ น ระยะหนา้ ลกู เล่อื น คือ ระยะห่างระหว่างหนา้ ลกู เล่ือนขณะขัดกลอนกับจานท้ายปลอกกระสนุ ขณะที่ บรรจเุ รียบร้อยอยู่ในรังเพลงิ การปรบั ระยะหน้าลกู เลือ่ นท่ีถกู ต้องจะสงั เกตได้จาก 1. ส่วนเคลื่อนท่จี ะต้องเคล่ือนท่ไี ปขา้ งหน้าสุด 2. กลอนลูกเลอื่ นจะตอ้ งขัดกลอนสนทิ 3. ส่วนเคลื่อนที่จะต้องเคลื่อนทมี่ าข้างหลังดว้ ยระยะหนึ่ง วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.93)

- 62 - * ใหต้ รวจสอบและปรับระยะหน้าลกู เลอื่ นเมื่อ - ก่อนทาการยงิ - หลังจากประกอบปนื - หลังจากเปล่ียนลากล้องหรือหมหู่ ้องลูกเลอ่ื น - เม่ือสงสยั วา่ ระยะหนา้ ลูกเล่ือนไม่ถูกตอ้ ง การปฏิบัติ 1. ตรวจความปลอดภัยของปนื 2. ยกฝาปดิ ห้องลูกเลื่อน ดึงคนั ร้ังลูกเลอ่ื นมาข้างหลัง (แหนบยึดลากลอ้ งได้จุดศูนย์กลางทีร่ ู 3/8 นว้ิ ) ขัน ลากลอ้ งเข้าใหส้ ดุ แล้วคลายออก 2 คลกิ้ ปล่อยคันร้ังลูกเลื่อน หมายเหตุ ณ จดุ น้ีให้หมุนลากล้อง (ห้ามดงึ คนั รงั้ ลูกเล่ือน) โดยหมนุ ลากลอ้ งไปทัง้ สองด้านลากล้องควร ไม่หมุน ถา้ ลากลอ้ งหมุนให้หยุดการปฏิบตั ิ และตรวจสอบร่องบากท้ายลากลอ้ งและแหนบยดึ ลากล้องว่าชารดุ หรอื ไม่ 3. ขึน้ นกและค่อย ๆ ปล่อยลกู เลื่อนไปขา้ งหน้า 4. ดึงคันรงั้ ลกู เลอ่ื นให้โครงตอ่ ท้ายลากลอ้ งห่างจากแท่นรับลากล้อง ประมาณ 1/16 นวิ้ 5. ยกเหล็กร้ังกระสุนขึ้น ใส่เครื่องมือ “GO” ลงในช่องตัวที (ให้ถึงห่วงหรือรูท่ีเคร่ืองมือปรับ) “GO” จะต้องลงได้ และใส่ด้าน “NO-GO” จะต้องลงไม่ได้ แสดงว่าการปรับระยะหน้าลูกเล่ือนถูกต้อง แล้วนาเคร่ืองมือออก ถ้าด้าน “GO” ลงไมไ่ ด้ แสดงว่าระยะหน้าลกู เล่ือนชิดเกินไป (ทาใหส้ ่วนเคลือ่ นท่ีเกดิ การกระแทกอย่างแรง) ให้ปฏบิ ตั ิดงั น้ี. 5.1 ให้คลายลากล้องออกทีละคลิ้ก จนด้าน “GO” ลงได้ (ให้ถึงห่วงหรือรูที่เครื่องมือปรับ และด้าน “NO-GO” ลงไม่ได้ หมายเหตุ ห้ามหมุนลากล้องเกนิ 5 คลกิ้ (ไม่รวม 2 คลก้ิ แรกที่คลายออก) ถา้ เกินใหส้ ง่ ซ่อม สพ. 5.2 ถ้าด้าน “NO-GO” ลงได้ แสดงว่าระยะหน้าลูกเลื่อนห่างเกินไป (ทาให้ปลอกกระสุนขาด) ให้ขัน ลากล้องเข้าทีละคลิก้ จนด้าน “NO-GO” ลงไม่ได้ แตด่ า้ น “GO” ลงได้ 6. การปรับจงั หวะการยิง การปฏิบัติ 1. ตรวจสอบระยะหน้าลูกเล่อื นใหถ้ ูกต้อง 2. ขึ้นนก 3. ดงึ คันรง้ั ลูกเล่อื นมาขา้ งหลงั ประมาณ 1/16 นิ้ว ใส่ “NO-FIRE” ระหว่างโครงต่อทา้ ยลากล้องและแทน่ รับ ลากลอ้ ง หมายเหตุ ใส่เครอ่ื งมอื ใหด้ ้านตัดยนั กับรอ่ งบากทา้ ยลากล้อง 4. เหน่ียวไก ปืนควรไมล่ น่ั - ถา้ ปนื ลนั่ แสดงวา่ “ปืนลน่ั กระสุนเรว็ ” ใหป้ ฏบิ ตั ิ ข้อ 7.-14. วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.93)

- 63 - - ถา้ ปืนไม่ลน่ั ใหป้ ฏิบัติ ข้อ 5. 5. ดงึ คนั ร้งั ลูกเลือ่ นเอา “NO-FIRE” ออก ใส่ “FIRE” เข้าไปแทน 6. เหนีย่ วไก ปนื ควรล่ัน แสดง วา่ การปรบั จังหวะการยิงถกู ต้อง 7. นาเคร่ืองมือออก, ขน้ึ นก 8. ใส่ “FIRE” เข้าไป 9. ถอดเหลก็ ปิดท้ายหอ้ งลูกเลื่อน 10. หมุนน๊อตปรบั จังหวะการยิงใหต้ ่าสุดจนสมั ผัสกับสะพานไก 11. กดสะพานไกยกข้ึน ปนื ควรไม่ลนั่ 12. หมนุ น๊อตปรับจังหวะการยิงทลี ะคล้ิก (ไปทางขวา) แต่ละคล้ิกให้กดสะพานไกยกขึน้ จนกระทั่งปืนลั่น 13. หมุนนอ๊ ตปรบั จังหวะการยงิ ไปทางขวา 2 คลก้ิ 14. ใสเ่ หลก็ ปิดทา้ ยหอ้ งลกู เล่ือน, นาเคร่อื งมืออกแล้วข้ึนนก ค่อย ๆ ปล่อยลูกเล่ือนกลับไปขา้ งหนา้ 15. ทดสอบการปรับจังหวะการยิงอีก 2 ครั้งหลังจากประกอบเหล็กปิดท้ายห้องลูกเล่ือนด้วยเคร่ืองมือ FIRE/ NO-FIRE เพ่ือให้แน่ใจวา่ การปรับจงั หวะการยงิ ถูกต้อง 7. สงิ่ ชส้ี อบ - กอ่ นทาการยงิ จะต้องปรับระยะหน้าลูกเล่ือน และจงั หวะการยงิ ทุกครงั้ - ในขณะทาการถอด/ประกอบ หรือปรับระยะหน้าลูกเล่ือน และจังหวะการยิงให้ใช้ความระมัดระวังเป็น พิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม่ือข้ึนนกปืน (ดึงคันร้ังลูกเลื่อนมาข้างหลัง) ห้ามย่ืนมือเข้าไปภายในโครงลูกเล่ือน เด็ดขาด - ปนื ชนดิ นส้ี ามารถปรับให้ยิงทลี ะนัดได้ - ในขณะทาการยงิ ระหวา่ งหยดุ พกั ให้หยอดนา้ มันหลอ่ ลนื่ สว่ นเคล่ือนที่และร่องทางเดินของลูกเลื่อนภายใน โครงลกู เลื่อน หมายเหตุ ปก. M2-HB Q.C.B. (Quick Change Barrel) ขนาด.50 น้วิ (12.7 มม.)ได้ดัดแปลงมาจาก ปก.93 ขนาด .50 นิ้ว (M2-HB) โดยบริษทั FABRIQUE NATIONALE HERSTAL (FN) แห่งประเทศเบลเยียม ใหส้ ามารถเปลี่ยนลากล้องได้รวดเร็วย่ิงข้ึน (Quick Change Barrel) โดยไม่ต้องปรับระยะหน้า ลูกเล่ือนแต่ ให้ปรับจังหวะการยิง คุณลักษณะ, มาตราทาน และขีปนวิธี เหมอื นกับ ปก.93 ปจั จุบันปก.M2-HB Q.C.B. ใช้ตดิ ตั้งเป็นปืนกลตอ่ สอู้ ากาศยานประจาป้อมปืน ถ.เบา 32 (สติง เรย์) 8. การแก้ไขเหตุติดขัด เม่ือปืนเกิดติดขัดข้ึนในขณะทาการยิง พลยิงจะต้องกระทาอย่างใดอย่างหนึ่งให้ปืน สามารถทาการยิงได้ต่อไป คร้ังแรกให้คอย 5 วินาที หลังจากที่เหน่ียวไกไปแล้วและให้รีบดาเนินการแก้ไข ตอ่ ไปโดยอาศัยการแกไ้ ขโดยฉบั พลัน วิชาอาวุธขนาดเล็ก (ปก.93)

- 64 - ตารางชนิดกระสุน ปนื กล 93 M2 HB, ปืนกล M2 Q.C.B. และ ปนื กล M85 ขนาด .50 น้วิ ลาดบั ชนดิ กระสนุ รหสั สี ความมงุ่ หมายในการใช้ 1. กระสนุ ธรรมดา ( BALL ) หัวกระสนุ ไมท่ าสี สงั หารบุคคล/ทาลายเปา้ หมายทไ่ี มแ่ ขง็ แรง M2/M33 2. กระสุนส่องวถิ ี ( TRACER ) 2.1 M1/M21 หัวทาสแี ดง ความมงุ่ หมายหลักใช้ตรวจตาบลกระสนุ ตก 2.2 M10 หัวทาสีสม้ ความมุง่ หมายรองต้องการผลในการเผาไหม้ 2.3 M17 หัวทาสีนา้ ตาล และใชท้ าสญั ญาณ 3. กระสนุ เจาเกราะ ARMOR หวั กระสุนสดี า ตอ่ สอู้ ากาศยาน/ ยานเกราะขนาดเบา ทาลาย PIERCING ( AP ) M2 เป้าหมายท่ีเปน็ คอนกรีต 4. กระสนุ เพลงิ ( INCENDIARY ) 4.1 M1 หัวทาสฟี า้ ออ่ น ยิงต่อสอู้ ากาศยาน/ ตอ้ งการผลในการ 4.2 M23 หวั ทาสีฟา้ มีแถบ ลกุ ไหม้ น้าเงินเข้มคาด 5. กระสนุ เจาะเกราะเพลงิ หวั กระสนุ สเี งิน ตอ้ งการผลในการเจาะเกราะ และลุกไหม้ ARMOR PIERCING INCENDIARY ( API ) M8 6. กระสนุ เจาะเกราะเพลงิ มีดิน หัวกระสุนสเี งินมี ต้องการผลในการเจาะเกราะ, ลกุ ไหม้ และ สอ่ งวิถี ARMOR PIERCING แถบสีแดงคาด สามารถตรวจตาบลกระสุนตกได้ INCENDIARY TRACER ( APIT ) M20 7. กระสนุ ซอ้ มรบ ( BLANK ) ปากปลอกกระสุนจบี ใชใ้ นการฝึก สาหรบั ยงิ จาลองใหเ้ หมือนกระสนุ M1A1 ไม่มีลกู กระสนุ จรงิ 8. กระสนุ ทดสอบความดนั สูง ปลอกกระสนุ สีเงนิ ยงิ ทดสอบอาวธุ / ลากล้อง ในระหว่างการ HIGH PRESSURE TEST ผลิต และซอ่ มบารุง ( HPT ) M1 9. กระสนุ ฝึกบรรจุ (DUMMY ) ปลอกกระสุนเจาะรู ใชใ้ นการฝึกบรรจุ M2 3 รู * ปก.M85 ใชส้ ายกระสนุ M15A2 ข้อต่อสายกระสนุ เปดิ (OPEN LOOP ) * ปก.93, ปก.M2 Q.C.B. ใช้สายกระสนุ M2 / M9 ข้อตอ่ สายกระสุนปดิ (CLOSED LOOP ) วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.93)

- 65 - - - - - - - - - - - ----------------------------------- - - - - - - - - - - วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.93)

- 66 - 18. ปืนกล M 85 ขนาด .50 นิ้ว กล่าวนา ปนื กล M 85 ขนาด .50 นวิ้ ตดิ ต้งั เป็นปืนกลประจาปอ้ มตรวจการณ์ M19 ของ ผบ.รถ บนรถถัง M60A1/A3 เพื่อใชย้ งิ ต่อสู้อากาศยาน, หนว่ ยทหาร และยานยนตไ์ ม่หุ้มเกราะ 1. คุณลกั ษณะ - ทางานด้วยแรงถอย - ป้อนกระสุนดว้ ยสายกระสุนได้ 2 ทาง - ระบายความร้อนด้วยอากาศ - ยงิ เปน็ อตั โนมัติ - สามารถยิงดว้ ยมือหรือดว้ ยไฟฟ้า - เปลย่ี นลากลอ้ งไดร้ วดเรว็ - มีระยะหน้าลกู เลื่อนแบบตายตัว และมกี ารปรับอตั ราการยงิ มี 2 อตั ราการยงิ 2. ขีดความสามารถ 2.1 อตั ราการยิงตามวงรอบการทางาน - อตั ราการยงิ ตา่ ( LOW RATE ) ตา่ สุด 450 นัด/นาที - อัตราการยิงสูง ( HIGH RATE ) ตา่ สุด 625 นัด/นาที 2.2 วธิ กี ารยิงต่อเป้าหมาย - เปา้ หมายบนพืน้ ดิน ยิงเปน็ ชุด ๆ ละ 10-15 นัด ในตาแหน่งอัตราการยงิ ตา่ ( LOW RATE ) - เป้าหมายบนอากาศ ยิงต่อเน่ืองในตาแหน่ง อัตราการยงิ สูง ( HIGH RATE ) 2.3 ระยะไหม้หมดของดินสอ่ งวิถี - กระสนุ สอ่ งวิถี M20 APIT ประมาณ 1,450 เมตร - กระสนุ ส่องวิถี M17 ประมาณ 2,150 เมตร 2.4 ระยะยงิ ไกลสุด 6,703 เมตร 2.5 น้าหนกั รวมลากลอ้ ง 65 ปอนด์ (29.48 กก.) 2.6 ระยะยิงหวงั ผลไกลสดุ 2,196 เมตร 2.7 ระยะเล็งยิงต่อเป้าหมายทางพ้นื ดนิ 2,000 เมตร (กล้องเลง็ M36E1) 3. ระเบยี บปฏิบตั ปิ ระจาเกี่ยวกับปืนกล M 85 3.1 การตรวจความปลอดภยั ของปืน - ตอ้ งแนใ่ จว่าแผน่ หา้ มไกอย่ใู นตาแหนง่ ยงิ ( F ) แล้วดงึ คันร้งั ลูกเลอื่ นมาขา้ งหลัง (ชุดลกู เลือ่ นจะตอ้ ง คา้ งอยู่ข้างหลัง) - จัดแผ่นห้ามไกให้อยูใ่ นตาแหนง่ หา้ มไก ( S ) - เปิดฝาปิดหอ้ งลกู เล่ือน (โดยหมนุ กลอนยดึ ฝาปิดหอ้ งลูกเล่ือนขนึ้ ข้างบน) - ถา้ มีกระสุนใหน้ ากระสุนออกจากเหล็กรองกระสุน วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M85)

- 67 - - ยกเหลก็ รองกระสนุ ขึ้น - ตรวจภายในรงั เพลิง จะตอ้ งไม่มกี ระสุน - วางเหลก็ รองกระสนุ - จัดแผ่นหา้ มไกให้อยู่ในตาแหนง่ ยงิ ( F ) - ดงึ คนั ร้ังลูกเลอ่ื นมาขา้ งหลัง เหน่ียวไกแล้วปล่อยลูกเลอ่ื นกลบั ไปข้างหน้า - ปดิ ฝาปิดหอ้ งลกู เลื่อน 3.2 การถอดประกอบแบบปกติ หมายเหตุ - วางชน้ิ สว่ นตามลาดบั ในการถอด (จากซ้ายไปขวา) - การถอดปืนกระทาเพื่อ ทาความสะอาด, หลอ่ ล่นื , ตรวจสภาพและเปลย่ี นชน้ิ ส่วนท่ชี ารดุ ตลอดจนการศกึ ษาเกย่ี วกับปืนทุกชนิด - ก่อนการถอดปนื ทกุ คร้งั จะต้องตรวจความปลอดภัยของปนื เสียก่อน (ข้อ 3.1) - จะต้องแน่ใจว่า ชดุ ลูกเลอ่ื นเคล่ือนทไี่ ปขา้ งหน้าสุด การถอดแบบปกติ สามารถถอดได้ 8 ช้ินส่วนใหญ่ ๆ ตามลาดบั ดังนี้.- 1. ชดุ ลากล้อง 2. หม่เู ครือ่ งปิดทา้ ยห้องลกู เลื่อน 3. แหนบและแกนแหนบส่งลกู เลือ่ น 4. ชุดเหล็กป้อนกระสุนและเหล็กคัดปลอกกระสนุ 5. กระเด่ืองไก 6. ชุดโครงต่อท้ายลากลอ้ ง และลกู เลือ่ น 7. ชดุ ฝาปดิ ห้องลูกเล่ือน เหล็กรองกระสนุ และปลอกยัง้ การถอย (ACCELERATOR) 8. คนั รั้งลกู เล่ือน การประกอบ ใหท้ ากลับกนั กับการถอด 3.3 การตรวจสอบการทางานของแผ่นห้ามไก จะต้องตรวจสอบทุกครงั้ หลังจากท่ปี ระกอบปนื เรียบร้อยแลว้ โดย 3.3.1 ตรวจสอบวา่ แผน่ ห้ามไกอยูใ่ นตาแหนง่ ยิง ( F ) 3.3.2 ขนึ้ นก (ดงึ คนั รงั้ ลกู เล่ือนมาขา้ งหลัง) 3.3.3 จัดแผ่นหา้ มไกใหอ้ ยใู่ นตาแหนง่ หา้ มไก ( S ) 3.3.4 เหนีย่ วไก (ถา้ ลูกเลอื่ นเคล่อื นท่ีไปขา้ งหนา้ แจ้งใหช้ ่าง ซบร.อาวธุ ฯ ทราบ) 3.3.5 จดั แผ่นห้ามไกใหอ้ ยใู่ นตาแหนง่ ยิง ( F ) 3.3.6 เหนย่ี วไก (ชดุ ลูกเลือ่ นจะต้องเคลือ่ นทีไ่ ปขา้ งหนา้ โดยไมต่ ิดขัด) 3.4 การบรรจุ - จัดหา้ มไกใหอ้ ยู่ในยิง (F) แลว้ ขน้ึ นก วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปก.M85)

- 68 - - จัดแผ่นห้ามไกให้อย่ใู นตาแหนง่ ห้ามไก (S) แล้วเปดิ ฝาปิดห้องลกู เล่ือน - ถ้ามีกระสุนใหน้ าออก แล้วยกเหลก็ รองกระสุนขนึ้ - ตรวจสอบรังเพลิง วางเหล็กรองกระสนุ ลง - จัดหา้ มไกให้อยู่ในตาแหนง่ F แลว้ เหน่ยี วไก ค่อย ๆ ปล่อยให้ส่วนเคล่ือนท่ีไปข้างหน้า - วางสายกระสนุ ลงบนเหลก็ รองกระสุน โดยควา่ ใหส้ ายกระสุนด้านเปิดลงข้างลา่ ง แลว้ ปิดฝาปดิ หอ้ งลูก เล่ือน 3.5 การแก้ไขเหตุติดขดั ทันทีทนั ใด หมายเหตุ ปืนกล M 85 ทีถ่ อื วา่ ปนื รอ้ น มีสาเหตดุ งั น้ี.- - ยิงเกนิ กวา่ 200 นัด ภายใน 2 นาที - ยงิ เปน็ ชดุ ตอ่ เน่อื งยาว ๆ (อาจจะไมถ่ ึง 200 นดั /นาที ก็ถือว่าปนื ร้อน) - หลงั จากปนื ร้อนแล้วหยุดพกั ทาการยงิ เปน็ เวลาน้อยกว่า 15 นาที กถ็ ือวา่ ปนื ยังคงร้อนอยู่ การแกไ้ ขเหตุติดขัดเมื่อปนื ยงั เย็นอยู่ หลงั จากลั่นกระสนุ แลว้ กระสุนไม่ล่ัน ขั้นตอนที่ 1 - ขนึ้ นก - ลนั่ กระสนุ ใหม่ ขั้นตอนท่ี 2 - ถ้ากระสนุ ไม่ลน่ั ตรวจความปลอดภยั ของปนื - ตรวจฝาปดิ ห้องลกู เล่อื น (ช้ินส่วนเก่ยี วกบั กลไกในการป้อนกระสนุ ) - ตรวจชดุ แหนบส่งลกู เลือ่ น, ตรวจสอบการเคลื่อนท่ขี องลกู กระสนุ ในสายกระสุน - บรรจุกระสนุ ใหม่ - ลนั่ กระสุน ขั้นตอนที่ 3 - ถา้ กระสนุ ไม่ล่ัน ตรวจความปลอดภัยของปืน - คน้ หาสาเหตตุ ดิ ขดั - ถ้าไม่พบสาเหตุ หรือพบสาเหตุการตดิ ขดั สามารถแกไ้ ขได้ ใหท้ าการบรรจแุ ละทาการยิง ต่อไป - ถ้าไมส่ ามารถแก้ไขสาเหตกุ ารติดขัดได้ หรือปนื ยังคงทาการยิงไม่ได้ แจ้งให้ชา่ งซอ่ ม บารงุ อาวุธประจาหนว่ ยทราบ การแก้ไขเหตตุ ิดขัดเมื่อปืนรอ้ นหลังจากลน่ั กระสุนแล้วกระสุนไมล่ ่นั ปฏิบัตดิ ังนี้. - ข้นึ นก - ลั่นกระสุน - ถ้ากระสนุ ไมล่ ัน่ หันปากลากล้องปนื ไปในท่ปี ลอดภัย คอย 15 นาที หลังจากน้นั ปฏิบตั เิ หมือนกับ การแก้ไขเหตตุ ิดขดั เมอ่ื ปนื ยงั เย็นอย่ทู ง้ั 3 ตอน 3.6 การบารุงรักษาและทาความสะอาด หมายเหตุ ห้ามแช่ชุดเหล็กปิดทา้ ยห้องลูกเลอ่ื น, ชุดกระเดื่องไก และชุดลูกเล่ือนในของเหลวใด ๆ วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.M85)

- 69 - 3.6.1 การเตรียมปนื กล M 85 กอ่ นทาการยิง - ทาความสะอาดและเชด็ แหง้ ตลอดจนตรวจสอบชน้ิ ส่วนประกอบท้งั หมด - ชโลมส่วนเคล่อื นท่ีดว้ ยนา้ มัน CLP บาง ๆ 3.6.2 ระหวา่ งทาการยงิ - ถ้าโอกาสอานวยใหค้ วรทาความสะอาด, ตรวจสอบ และชโลมปืนไปด้วยโดยเฉพาะฝนุ่ ละอองต่าง ๆ ควรจะสนใจเป็นพิเศษในการทาความสะอาด ฝาปิดห้องลูกเลอ่ื น ควรจะเปิดเปน็ ระยะเพอื่ ทาความสะอาด คราบเขมา่ ตา่ ง ๆ และชโลมน้ามันสว่ นเคลอื่ นที่ดว้ ย 3.6.3 หลังทาการยิง (ทาตดิ ตอ่ กนั 3 วนั ) - ทาความสะอาดคราบเขมา่ ตา่ ง ๆ ดว้ ยนา้ มนั RBC หรอื CLP - ถอดปืนและทาความสะอาดช้ินส่วนด้วยนา้ มัน SD หรอื CLP - เชด็ แห้ง - ชโลมช้นิ สว่ นของปืนดว้ ยนา้ มัน PL SPECIAL LAW หรือ CLP หมายเหตุ นา้ มนั CLP สามารถใชท้ าความสะอาด และชโลมปนื ได้ท้ังสองกรณี 4. สง่ิ ช้สี อบ ขอ้ ตอ่ สายกระสุน ปก.M85 (สายเปิด) - ชดุ ลกู เลือ่ นต้องอยู่ตาแหน่งหนา้ สุด เม่ือทาการบรรจุ - หา้ มสับเปลี่ยนชดุ ลกู เลอ่ื น, โครงต่อท้ายลากล้องหรือชุดลากล้อง จากกระบอกหน่ึงไปยงั อีก กระบอกหน่งึ เพราะอาจทาใหร้ ะยะหน้าลกู เลื่อนเปลยี่ นแปลงไป ทาใหเ้ กดิ อันตรายเวลาทาการยงิ - ห้ามเปลย่ี นอัตราการยิง ในขณะทาการยิงจะทาให้ปืนชารดุ ได้ - จะต้องม่นั ใจวา่ คันเลอื กอัตราการยิงไดล้ ็อคไว้ในตาแหน่งใดตาแหนง่ หน่ึงก่อนทาการยิง - ห้ามขน้ึ นกปืน (ดึงคันรั้งลกู เล่อื นมาขา้ งหลัง) เมือ่ ห้ามไกอยู่ในตาแหน่ง หา้ มไก (S) จะทาใหช้ ดุ ห้ามไกชารุด - เมือ่ ทาการยงิ และปืนร้อนมาก หา้ มเปดิ ฝาปิดห้องลูกเล่อื น อาจทาให้กระสุนระเบดิ ในรังเพลิง ( COOK OFF ) 5. กระสนุ ( ดูรายละเอียดในวิชา ปนื กล 93 ) - - - - - - - - - - ----------------------- - - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.M85)

- 70 - 19. ปนื กล แบบ 59 ขนาด 12.7 มม. หลกั ฐาน เอกสารโรงเรยี นยานเกราะ กองทพั บก ประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจนี 1. กล่าวนา ปืนกลต่อสู้อากาศยานขนาด 12.7 มม. เป็นปืนกลที่ติดต้ังบนรถถัง 30 (ที 69-2) และ รสพ.แบบ 85 เพ่ือใช้ยิงทาลายเคร่ืองบิน, การส่งทางอากาศ และยานเกราะขนาดเบาที่มีเกราะบางของข้าศึก มีระยะหวังผล ในการทะลทุ ะลวง 500 เมตร 2. คณุ ลักษณะการทางาน 2.1 ทางานดว้ ยแก๊ส 2.2 ปอ้ นกระสุนด้วยสายกระสนุ (สายกระสุนแบบข้อต่อถาวรจะต้องบรรจุกระสุนเข้าสายเอง) 2.3 ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ 2.4 ยงิ เปน็ ชดุ 3. มาตราทาน - ความเรว็ ต้นทีป่ ากลากล้อง 830 - 850 เมตร/วินาที - ระยะยิงหวงั ผลเปา้ หมายทางอากาศไกลสดุ 1,600 เมตร - ระยะเลง็ ยิงต่อเปา้ หมายทางพืน้ ดินไกลสุด 3,500 เมตร - ระยะยิงไกลสดุ 7,000 เมตร - อตั ราเรว็ ในการยิง 80 - 100 นัด/นาที - เจาะเกราะในระยะ 500 เมตร ไดห้ นา 15 มม. - มุมยกสูงสุด 82 องศา - มมุ กดต่าสดุ 4 องศา 30 ลิปดา - ปนื สามารถหมนุ ได้ 360 องศา - เกลยี วในลากล้อง 8 เกลียว เวียนขวา - นา้ หนกั ปืน 35.8 กก. 4. การถอดประกอบ การถอดประกอบ ปกตอ.แบบ 59 กระทาเพื่อทาความสะอาด, หล่อลื่น, ตรวจการทางานท่ีผิดปกติ, แก้ไขและเปลี่ยนชิ้นส่วนท่ีชารุด ก่อนทาการถอดแยกจะต้องตรวจความปลอดภัยก่อนว่าไม่มีกระสุนอยู่ในรัง เพลิง โครงลูกเลื่อนอยู่ในตาแหน่งหน้าสุด ในการถอดประกอบจะต้องปฏิบัติตามข้ันตอน และใช้เครื่องมือ สาหรับการซอ่ มบารงุ ปนื เทา่ น้ัน วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.แบบ 59)

- 71 - 4.1 การถอดแยก 1) ถอดสลักเกลยี วยดึ ฝาปดิ ห้องลูกเล่ือน 2) ถอดฝาปดิ หอ้ งลกู เล่อื น และเหลก็ รองสายกระสุน 3) ยกศนู ยห์ ลังตั้งข้ึน ถอดสลักขดั เคร่ืองปดิ ท้ายหอ้ งลูกเลื่อนและถอดเครื่องปดิ ท้ายหอ้ งลูกเลื่อน 4) ถอดเครื่องลั่นไก 5) ดันกระบอกลูกสูบรับแรงถอยไปข้างหน้า หมนุ ตามเขม็ นาฬกิ าใหส้ ลักขดั หลดุ ออกจากร่องขัดที่ ลา กลอ้ งปนื และถอดออก 6) ถอดโครงนาลกู เลื่อนและลกู เลือ่ นออก 7) ถอดเหล็กขัดเหลก็ ตีเข็มแทงชนวนทัง้ สองข้างออกจากลูกเล่ือน 8) ถอดเหล็กตเี ข็มแทงชนวน 9) ถอดสลกั กลอนยึดลากล้อง และดงึ ลากล้องออกจากโครงปนื 4.2 การประกอบ ปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนย้อนกลบั กนั กับการถอดแยก 5. การใชง้ าน การเล็งและการยิง สาหรบั ถ.30 (ที 69-2) พลบรรจเุ ปน็ ผ้ยู ิง ในการเล็งและยิงนั้นกระทาโดยกาด้ามให้ทางสูงด้วยมือขวา บีบคันปลดกลอนยึดเคร่ืองให้ทางสูงด้วยน้ิว 4 น้ิว จับด้ามให้ทางทิศด้วยมือซ้ายหมุนปืนเล็งไปยังเป้าหมาย โดยเลง็ ดว้ ยศูนย์เล็งเปดิ หรอื ศูนยเ์ ลง็ มาตราประจาแกว้ ใชน้ ิว้ 4 นิ้วของมือซ้ายบีบคันลากเหน่ียวไกปืนท่ีด้ามให้ ทางทศิ 6. การปรับแรงดนั แกส๊ รปู รับแรงดนั แก๊สมีดว้ ยกัน 3 ขนาด คือ เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 มม., 3.5 มม. และ 4 มม. สาหรับ ปกตอ. แบบ 59 ที่ยังใหม่อยู่ปกติจะปรับไว้ที่รูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 มม.(รูเล็ก) เพราะว่าช้ินส่วนของปืนได้เริ่มสึก หรอหลวมคลอน ทาใหก้ ารถอยของหมโู่ ครงลูกเลอ่ื นรุนแรงมาก แต่ถ้าใช้ปืนทาการยิงในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิหนาว จดั จาเป็นจะตอ้ งปรับมาทร่ี ูขนาด 4 มม. (รูใหญส่ ดุ ) เพ่ือให้หมโู่ ครงลูกเล่อื นเคลื่อนท่ไี ดส้ ะดวกไม่ชา้ เกินไป 7. สิ่งช้ีสอบ ในขณะทาการยิง ให้หมั่นตรวจสลักกลอนยึดลากล้อง เพราะเวลาทาการยิงกระสุนเป็นจานวน มากสลักกลอนยดึ ลากลอ้ งมกั จะคลายตวั อย่เู สมอ - - - - - - - - - - - - - - - - ------------------------------- - - - - - - - - - - - - - - - - วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปก.แบบ 59)

- 72 - ตารางเปรยี บเทยี บอาวุธขนาดเลก็ ทมี่ ใี ชใ้ นเหล่า ม. ลาดับ รายการ ทางานดว้ ย ระยะยิงหวังผล ระยะยงิ ไกลสุด ชนิดอาวธุ / การตดิ ตง้ั 1. ปพ.86 ไกลสดุ ( เมตร ) ( เมตร ) 2. ปลย.M16/M16A1 อาวุธประจากาย 3. ปลย.M16A2 แรงถอย 50 1500 อาวธุ ประจากาย อาวธุ ประจากาย 4. ปลย.11 แกส๊ 460 2653 5. ปลย.TAVOR อาวุธประจากาย 6. ค. M79/ M203 แกส๊ เป้าหมายเปน็ จดุ 550 3600 อาวธุ ประจากาย อาวธุ ประจาหน่วย 7. ค.อตั โนมตั ิ ขนาด เป้าหมายเป็นพ้นื ที่ 800 40 มม. CIS รยบ. ฮมั วี่ แรงสะทอ้ นถอยหลัง 400 3000 8. ปก.M60 ประจาหน่วย/ รสพ.M113 9. ปก.M60 D แกส๊ 500 - ปกตอ.บนป้อม ถ.M48A5 10. ปก.MG 3 ปกตอ.,รว่ มแกน V-150 11. ปก.L43A1 ยิงทีละนัด M79 เปิดท้ายรังเพลิงดว้ ยการ 400 ปก.ร่วมแกน ถ.เบา 21 12. ปก.M37 ปก.รว่ มแกน ถ.M41 13. ปก.M240 หกั ลา, M203 เปดิ ทา้ ยรงั เพลงิ ดว้ ยการเล่ือน ปก.รว่ มแกน ถ.M48A5/ ถ.M60A1, ถ.M60A3 14. ปก.M240 T ลากลอ้ ง เป็นจุด 150 ปก.รว่ มแกน ถ.เบา 32 15. ปก.38 (M240 G) รยบ.ฮมั วี เป็นพนื้ ท่ี 350 16. ปก.แบบ 69 ปก.รว่ มแกน ถ.30 17. ปก.93 ดันต่อหนา้ ลูกเลอ่ื น 1,500 2,200 ปกตอ.บนปอ้ ม ถ.M41, รสพ. M 113 18. ปก.M2 QCB โดยตรง (Blow Back) ปกตอ.บนปอ้ ม ถ.เบา 32 19. ปก.M85 ปกตอ.บนป้อม ถ.M60A1 แก๊ส 1,100 3,725 และ ถ.M60A3 20. ปก.แบบ 59 แก็ส 1,100 3,725 ปกตอ.บนป้อม ถ.30 และ รสพ.แบบ 85 แรงถอย 1,200 3,750 แก๊ส 900 2,000 แรงถอย 900 3,200 แกส๊ 900 3,725 แก๊ส 900 3,725 แก๊ส เปน็ จดุ 800 3,725 เปน็ พ้ืนที่ 1,800 แก๊ส 3,000 แรงถอย 800 6,764 1,830 แรงถอย 1,830 6,764 แรงถอย 2,000 6,703 เลง็ ทีก่ ล้องเลง็ แกส๊ M36 E1 7,000 1,600 - - - - - - - - - - ----------------------------------- - - - - - - - - - - วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปก.แบบ 59)

- 73 - 20. ปืนกล KT-7.62 ขนาด 7.62 มม. คุณลกั ษณะ อตั ราการยิงตามวงรอบการทางาน 700–800 นัด/นาที อตั ราการยิงในการรบ สูงสุด 250 นดั /นาที ความเรว็ ตน้ ณ ปากลากล้อง 855 เมตร/วนิ าที นาหนกั ปนื 10.5 กก. นาหนักลากลอ้ ง 3.23 กก. นาหนกั กล่องกระสนุ พร้อมสายกระสุน บรรจกุ ระสุน 250 นดั 9.4 กก. กว้างปากลากลอ้ ง 7.62 มม. ความยาวปนื 1098 มม. 1. ลากลอ้ ง 2. โครงปนื พร้อมฝาปิดห้องลกู เลื่อน 3. โครงลูกเล่ือนพรอ้ มเหล็กรังปลอกกระสนุ และลกู สบู 4. ลูกเล่ือน 5. แหนบรับแรงถอย 6. แกนแหนบรบั แรงถอย 7. กระบอกลกู สูบ 8. เคร่อื งแม่เหลก็ ลน่ั ไกดว้ ยไฟฟา้ 9. ไก วิชาอาวุธขนาดเลก็ (ปนื กลร่วมแกน KT-7.62)

- 74 - ชุดเคร่ืองมือประจาปนื กลรว่ มแกน KT-7.62 1. แส้ทาความสะอาดลากล้อง, 2. ดอกแสท้ าความสะอาดลากล้อง, 3. ดอกแส้ชโลมนามันลากลอ้ ง, 4. ไขควง 5. เหลก็ สง่ สลกั , 6. กล่องพร้อมฝาปิด, 7. จาปาถอนปลอกกระสนุ , 8. กระป๋องนามนั ชโลมลากล้อง กระสุนขนาด 7.62 มม. สาหรบั ปืนกลรว่ มแกน KT-7.62 กระสนุ ธรรมดาพร้อมลูกกระสุน กระสนุ สอ่ งวิถี (T-46) กระสนุ เจาะเกราะเพลงิ (B-32) เป็นแกนเหล็กกลา้ (LPS) หวั สเี งิน หัวสีเขียว หัวสีดา คาดแดง - - - - -- - - - - - - - ------------------------------- - - - - - - - - - - - วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (ปนื กลร่วมแกน KT-7.62)

- 75 - 21. ปนื กล NSVT-12.7 ขนาด 12.7 มม. คณุ ลักษณะ กวา้ งปากลากล้อง 12.7 มม. ระยะเลง็ ยงิ 2000 ม. อัตราการยิงตามวงรอบการทางาน 700–800 นดั /นาที อตั ราการยิงในการรบ 80–100 นดั /นาที ความเรว็ ต้น ณ ปากลากล้อง 845 เมตร/วนิ าที นาหนกั ปนื 25 กก. ความยาวเฉพาะตวั ปนื 1,560 มม. ความยาวปืนรวมเครื่องแมเ่ หล็กลน่ั ไกด้วยไฟฟ้า 1,610 มม. 1. ลากลอ้ ง 2. โครงปนื 3. โครงลูกเล่อื นพร้อมลกู เลื่อน 5. เหลก็ รองกระสนุ 6. ไก 7. คนั รงั ลูกเลอ่ื น 4. แหนบและแกนแหนบรบั แรงถอย 9. เคร่ืองแม่เหลก็ ลั่นไกดว้ ยไฟฟา้ 8. สลกั เครื่องแมเ่ หลก็ ลั่นไกด้วยไฟฟ้า วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปนื กลต่อส้อู ากาศยาน NSVT-12.7)

- 76 - ชดุ เครอ่ื งมือประจาปืนกลต่อสอู้ ากาศยาน NSVT-12.7 1. แสท้ าความสะอาดลากล้อง 2. ประแจ 3. คอ้ น 4. เครือ่ งมือปรบั แหนบ 5. เหลก็ ส่งสลกั 6. ดอกคว้านกรวยจดั แกส๊ 7. สลัก 8. ดอกควา้ นลูกสบู 9. กระป๋องนามนั 10. แปรงทาความสะอาด กระสุนขนาด 12.7 มม. สาหรบั ปืนกล NSVT-12.7 กระสุนเจาะเกราะเพลงิ (B-32) กระสนุ เจาะเกราะเพลิง มีดนิ สอ่ งวถิ ี กระสนุ เพลงิ (MDZ) หวั สีดา คาดแดง (BZT-44) หัวสมี ่วง คาดแดง - - - - - - - - - - - - - ------------------------------- - - - - - - - - - - -- วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (ปืนกลตอ่ สูอ้ ากาศยาน NSVT-12.7)

-77- 22. เคร่ืองยิงจรวด RPG2 และ RPG7 วัตถุประสงค์ เพื่อให้ทหารมีความรู้ในเร่ือง คุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธ โดยให้มีความรู้ความ เขา้ ใจและมคี วามสามารถเก่ยี วกบั การถอดประกอบ, การทางานของเครื่องกลไก, เหตุติดขัด และวิธีแก้ไข การ ปรนนบิ ตั ิบารงุ และระบบการทางานของลูกจรวด เพอื่ ทหารจะไดน้ าไปใช้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 1. ลกั ษณะทั่วไปของเครือ่ งยิงจรวดตอ่ สูร้ ถถัง RPG2 ขนาด 40 มม. ก. เครื่องยิงจรวด RPG2 ขนาดกว้างปากลากล้อง 40 มม. เป็นเครื่องยิงจรวดที่มีนาหนักเบาสามารถ นาไปได้ด้วยคนๆ เดียว เปน็ อาวุธทม่ี แี รงระเบิด และอานาจในการเจาะเกราะสงู ใช้สาหรับยิงทาลายยานเกราะ หรือวสั ดทุ ี่มีผิวพนื หนาเป็นหลัก นอกจากนียังอาจนาไปใช้ในการยิงป้อมสนาม ท่ีมีความมั่นคงแข็งแรงของฝ่าย ตรงข้ามได้ด้วย เคร่ืองยิงจรวดชนิดนีใช้ยิงลูกจรวดต่อสู้รถถังซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าลากล้อง เคร่ืองล่ันไกเป็นแบบ เข็มแทงชนวนชนดิ กระแทก (ตตี อ่ จอกกระทบแตก) บรรจุลูกจรวดทางปากลากล้อง, ทาการยิงทีละนัด และทา การยงิ ดว้ ยการพาดบ่าขวายิง เม่ือทาการยิงจะไม่มแี รงสะท้อนถอยหลัง ข. ขนาด นาหนกั และขีดความสามารถ 1. นาหนัก นาหนักของเคร่ืองยิง 2.8 ก.ก. นาหนักของลกู จรวดไม่รวมดินส่ง 1.62 ก.ก. นาหนักหลอดดนิ สง่ 0.22 ก.ก. 2. ความยาว ความยาวของลากลอ้ ง 95 ซม. ความยาวของลกู จรวดไม่รวมดินสง่ 50 ซม. ความยาวของลูกจรวดรวมดนิ ส่ง 67 ซม. หลอดดินสง่ ยาว 17 ซม. 3. ความกว้าง กว้างปากลากล้อง 40 มม. ขนาดของลูกจรวด 82 มม. 4. ระยะยงิ ระยะยิงไกลสุด 600 เมตร ระยะยิงหวังผลต่อเป้าหมายทเ่ี ป็นยานเกราะ 100 – 150 เมตร ความเร็วตน้ 85 เมตร/วนิ าที อตั ราการยิง 4 – 6 นัด/นาที 5. ขีดความสามารถ เจาะเกราะ (เหล็กกลา้ ) 18 ซม. (จดุ กระทบตงั ฉาก) เจาะคอนกรีต 60 – 80 ซม. วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-78- เจาะดนิ 1 – 1.2 เมตร 6. เปลวเพลิงท้ายเคร่ืองยิง มีลักษณะเป็นรูปกรวย ทามุม 60 องศา พุ่งออกไปทางท้ายเคร่ืองยิง ระยะไกล 10 – 15 เมตร มีลกั ษณะเปน็ รูปสามเหล่ียมดา้ นเท่า มีพนื ที่อนั ตรายประมาณ 60 ตารางเมตร 2. ส่วนประกอบเครอ่ื งยิงจรวดต่อสรู้ ถถัง RPG2 เคร่อื งยิงจรวด RPG2 ขนาด 40 มม. ประกอบด้วยชินส่วนสาคัญ 4 ส่วน คือ ส่วนลากล้อง, ส่วนเครื่องลั่น ไก, สว่ นเคร่อื งเลง็ และสว่ นชุดเขม็ แทงชนวน ก. ส่วนลากล้อง เป็นส่วนท่ีใช้ช่วยในการเล็ง และระบายแก๊สในการยิง ที่ปากลากล้องตอนบนมีบากสาหรับ บังคับลูกจรวด ให้ยึดติดแน่นอยู่กับปากกระบอกเครื่องยิงในขณะทาการยิง ทังนี เพ่ือเป็นการบังคับให้จอกกระทบ แตกที่อยู่ตรงส่วนท้ายของลูกจรวด วางอยู่ตรงกันกับช่องเข็มแทงชนวนท่ีลากล้องเคร่ืองยิง ตรงส่วนกลางของลา กล้องจะมฝี าปะกับลากล้องทาด้วยไม้ หรือไฟเบอร์เพื่อใช้กันความร้อนในเวลาทาการยิง และรัดไว้ด้วยปลอกรัดสอง ปลอก ในทางดา้ นหน้า และทางดา้ นหลังลากล้อง ประกอบด้วยชินสว่ นสาคัญต่อไปนี คอื 1. ลากล้อง 2. รอ่ งบากบงั คบั ลูกจรวด 3. หกู ระวนิ หนา้ และหลัง 4. แทน่ ศูนย์หนา้ และศนู ย์หลงั 5. ช่องระบายแก๊ส (บางแบบไมม่ ชี ่องระบายแกส๊ ) 6. แท่นรบั เรือนเคร่ืองลนั่ ไกหนา้ และหลัง 7. แท่นรับชดุ เข็มแทงชนวน 8. แทน่ ศูนยห์ ลงั และศูนยห์ ลงั 9. ฝาปะกับลากล้อง 10. ปลอกรดั ฝาปะกบั ลากล้องหน้า และหลงั ข. ส่วนเครื่องลั่นไก เรือนเคร่ืองล่ันไกติดตังอยู่ท่ีตรง ส่วนล่างทางด้านหน้าของลากล้องเครื่องยิง ซึ่งใน เรือนเครื่องล่ันไกนี จะมีสลักห้ามไกที่มีรูปร่างลักษณะเป็นเหล็กทรงกระบอกเคลื่อนที่ได้ในทางระดับเรือน เครื่องลั่นไกมีหน้าท่ีปล่อยลูกจรวด ให้หลุดพ้นออกไปจากปากลากล้องเครื่องยิงซ่ึงประกอบด้วยชินส่วนสาคัญ ดงั ต่อไปนี คอื 1. เรอื นเคร่อื งล่นั ไก 2. สลกั ยึดเรอื นเคร่ืองล่นั ไก 3. หลดุ เกลียวยดึ สลักเรอื นเครื่องล่นั ไก 4. ฝาปิดเรอื นเครือ่ งล่ันไก และหมุด เกลียวยึดฝาปดิ เรือนเครื่องลน่ั ไก 5. ฐานเรือนเคร่ืองล่ันไก 6. ไก และสลกั ไก 7. นกปนื และสลักนกปืน 8. แหนบ และแกนแหนบนกปนื 9. กระเด่อื งนกปนื และหมดุ เกลียวยึดกระเดื่องนกปนื 10. ด้ามปนื 11. ฝาปะกับดา้ มปนื และหมุดเกลยี วยดึ ฝาปะกับด้ามปืน 12. สลักห้ามไก 13. แหนบสลกั ห้ามไก และฝาครอบแหนบสลักหา้ มไก ในการหา้ มไกนนั จะต้องกดสลกั หา้ มไกจากทางดา้ นซ้ายให้เคลือ่ นท่ไี ปทางดา้ นขวา จนกระทั่งวงแหวน ทางดา้ นซ้ายใหเ้ คล่อื นท่ไี ปทางด้านขวา จนกระท่งั วงแหวนสีแดงที่ส่วนปลายห้ามไกโผล่ออกมาจากเรือนเคร่ือง ลั่นไก วิชาอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-79- ค. ส่วนเครื่องเล็ง เครื่องเล็งเป็นส่วนท่ีใช้สาหรับทาการเล็งต่อท่ีหมายท่ีจะทาการยิง เคร่ืองเล็ง ประกอบดว้ ยศูนย์หน้า และศนู ย์หลงั 1. ศูนย์หน้า มีลักษณะเป็นศูนย์กระโดง ติดตังอยู่บนแท่นศูนย์หน้า สามารถพับลงเก็บได้เม่ือไม่ ใช้ทาการเล็ง 2. ศูนย์หลัง มีลักษณะเป็นศูนย์กระโดง ติดตังอยู่บนแท่นศูนย์หลัง และพับลงเก็บได้ เช่นเดียว กบั ศนู ยห์ นา้ ศนู ย์หลงั มีบากเลง็ อยู่ 3 ตาแหนง่ ตาแหนง่ ระยะยิง 50,100 และ 150 เมตร ตามลาดับ เมื่อจะทา การเลง็ จะต้องยกศนู ยห์ น้า และศูนย์หลงั ขนึ ใหต้ งั ฉากกบั ลากลอ้ งเครอ่ื งยงิ เสมอ ง. ส่วนชุดเข็มแทงชนวน เข็มแทงชนวนมีหน้าท่ตี ีจอกกระทบแตกของลูกจรวด เพ่ือจุดดินส่งจรวด ใหข้ ับดันลกู จรวด เคลอ่ื นทอ่ี อกไปจากลากลอ้ งเครื่องยงิ ในเวลายิง เข็มแทงชนวนนีจะติดตังอยู่ท่ีแท่นรับชุดเข็ม แทงชนวนตรงใต้ลากล้องเครอ่ื งยิง เข็มแทงชนวนประกอบด้วยชินส่วนสาคัญดังตอ่ ไปนี คือ 1. จุกเกลยี วครอบชุดเขม็ แทงชนวน 2. สลกั ยึดแหวนบงั คบั แหนบเขม็ แทงชนวน 3. แหวนบังคบั แหนบเข็มแทงชนวน 4. แหนบเขม็ แทงชนวน 5. แหวนป้องกันแก๊ส 6. เขม็ แทงชนวน สาหรับเครื่องยิงจรวด RPG2 ขนาด 40 มม. บางกระบอกนันจะมีชินส่วนของชุดเข็มแทงชนวน แตกต่างไปจากทกี่ ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ โดยจะมีชนิ ส่วนประกอบสาคญั อยู่เพียงสามชนิ ส่วนดว้ ยกันเท่านัน คือ จุก เกลียวครอบชุดเข็มแทงชนวน แหนบเขม็ แทงชนวน และเขม็ แทงชนวน 3. การถอด และประกอบเครื่องยิงจรวดต่อสรู้ ถถัง RPG2 ประเภทการถอดประกอบ การถอด การถอด และการประกอบแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ การถอด ประกอบปกติ และการถอดประกอบพเิ ศษ ก. การถอดประกอบปกติ ได้แก่ การถอดประกอบชินส่วนของเครื่องยิงจรวดเฉพาะเท่าที่จาเป็น เพื่อ ความมุ่งหมายในการบารุงรักษา และการทาความสะอาด หรือเพื่อแก้ไขเหตุติดขัดเท่านัน การถอดประกอบ ปกตนิ ีพลยงิ สามารถทาการถอดประกอบไดด้ ้วยตนเอง โดยไม่ต้องมผี ูค้ วบคมุ ข. การถอดประกอบพิเศษ ได้แก่ การถอดประกอบชินส่วนของเคร่ืองยิงจรวดโดยตลอด เพื่อความมุ่ง หมายในการสับเปลี่ยนชนิ สว่ นทช่ี ารุดสึกหรอ หรือเพ่ือการซ่อมบารุง โดยปกติแล้วพลยิงไม่มีหน้าท่ีทาการถอด ประกอบแต่ถ้าได้รับคาสั่งให้ทาจะต้องกระทาภายใต้การควบคุมของนายทหารสัญญาบัตร หรือ นายสิบช่าง อาวธุ ของหน่วยเท่านนั เครือ่ งมือถอดประกอบ ในการถอด และการประกอบเครื่องยงิ จรวด RPG 2 จะตอ้ งใช้เครอื่ งมือดงั ต่อไปนี คือ ก. กุญแจถอดแหนบนกปืน มีรูปร่างลักษณะเป็นกุญแจรูปทรงกระบอกข้างในกลวง ปลายทังสองข้าง ผ่าเป็นร่องไว้ด้านละ 1 ร่อง ความยาวของร่องนันไม่เท่ากันคือ ด้านหนึ่งเป็นร่องยาวอีกด้านเป็นร่องสัน มีไว้ สาหรับใช้ในการถอดแหนบนกปืนออกจากแกนแหนบนกปืน และประกอบเขา้ ตามเดิมเทา่ นัน วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-80- ข. กุญแจปากตาย และไขควง มีไว้สาหรับใช้ในการถอดเข็มแทงชนวนออกจากแท่นรับ เรือนเข็มแทง ชนวนท่ีอยู่ตรงใต้ลากล้องของเครื่องยิง และประกอบเข้าตามเดิม นอกจากนียังนาไปใช้ในการคลาย หรือขัน หมดุ เกลียวต่างๆ ในทกุ ชนิ ส่วนตา่ งๆ ของอาวธุ ดว้ ย ค. เหลก็ ตอกสลัก มรี ูปรา่ งลกั ษณะเป็นเหล็กแท่งรูปทรงกระบอกมีปลายข้างหน่ึงเรียวเล็ก มีไว้สาหรับ ใชใ้ นการถอดประกอบนกปืน ชว่ ยในการถอดประกอบแหนบนกปนื และช่วยในการถอดประกอบสลักต่าง ๆ ความมงุ่ หมายในการถอดประกอบ การถอดประกอบเครื่องยิงจรวด RPG2 นันผู้ใช้อาจจะกระทาเพ่ือความมุ่งหมายอย่างใด อย่างหน่ึงใน 4 ประการ ดงั ตอ่ ไปนี คอื ก. เพอ่ื การฝกึ ศึกษา ข. เพอื่ การบารงุ รักษา และการทาความสะอาดอาวธุ ค. เพ่อื แก้ไขเหตตุ ดิ ขัด ง. เพอ่ื เปลย่ี นชินสว่ นทชี่ ารดุ สึกหรอ การถอดประกอบปกติ การถอดประกอบปกติสาหรับเครื่องยิงจรวด RPG2 นัน ให้ทาการถอด และประกอบได้เพียง 3 ชินส่วน คือ ส่วนชุดเข็มแทงชนวน, สว่ นเรอื นเคร่อื งล่นั ไก และสว่ นลากลอ้ ง ก. การถอด 1. การถอดชุดเข็มแทงชนวน การถอดชุดเข็มแทงชนวนออกจากแท่นรับชุดเข็มแทงชนวนที่ใต้ลากล้อง เคร่อื งยิง ใหป้ ฏบิ ตั ไิ ปตามลาดับขนั ดังตอ่ ไปนี 1.1 ใหท้ าการขนึ นก และหา้ มไกปืนเสียก่อน โดยปฏิบตั ดิ ังนี - ใชม้ อื ขวากาที่ด้ามปนื แล้วทาการขนึ นก โดยการใชน้ วิ หัวแม่มือขวากดนกปืนลงจนสุด จนกระท่ัง ไดย้ ินเสียงดัง “คลก๊ิ ” - ทาการหา้ มไก โดยใชน้ วิ หัวแมม่ ือดา้ นขวากดลงไปท่ีหัวสลักห้ามไกตรงๆ จนกระทั่งแถบวงแหวนสี แดง ซ่ึงคาดอยตู่ รงส่วนปลายของสลกั ห้ามไกเคล่ือนที่จมหายลงไปในเรือนเคร่ืองลนั่ ไก 1.2 เม่ือทาการขนึ นก และหา้ มไกปืนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้วางเครื่องยิงจรวดลงกับพืนในลักษณะที่ ใหป้ ากลากล้องเครอื่ งยิงหนั ชไี ปทางด้านซา้ ย และใหเ้ รือนเครื่องล่ันไกหันชเี ข้าหาตา 1.3 ในลาดับต่อไป ให้ทาการถอดชุดเข็มแทงชนวนออกจากแท่นรับชุดเข็มแทงชนวน โดยใช้กุญแจ ปากตายคลายจุกเกลยี วครอบชุดเข็มแทงชนวนในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกา จนกระทั่งชดุ เข็มแทงชนวนเป็นอิสระ จงึ ถอดเอาชดุ เข็มแทงชนวนออกจากแทน่ รับชุดเขม็ แทงชนวน 2. การถอดเรือนเครื่องลั่นไก การถอดเรือนเคร่ืองล่ันไกออกจากลากล้องเคร่ืองยิงจรวดให้ปฏิบัติไป ตามลาดบั ขนั ดังต่อไปนี 2.1 ทาการปลดห้ามไก เสียก่อนโดยใช้มือขวากาด้ามปืน แล้วจึงปลดห้ามไกโดยใช้นิวกด และดันสลัก ห้ามไกจากทางด้านขวาให้เคลื่อนท่ีไปทางด้านซ้าย จนกระทั่งมองเห็นแถบวงแหวนสีแดงท่ีคาดอยู่ตรงส่วน ปลายของสลกั หา้ มไกเคล่อื นท่โี ผลอ่ อกมาจากเรือนเครอื่ งล่นั ไก วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-81- 2.2 ทาการ ลดนกปืน โดยใช้นิวมือขวาเหนี่ยวไกพร้อมกับให้ใช้นิวหัวแม่มือขวาประคองนกปืนไว้ แล้ว คอ่ ยๆ ผ่อนนกปนื ให้เคลอ่ื นทีข่ นึ ไปจนสุดโดยไม่ให้นกปืนกระแทกอย่างแรง เม่ือลดนกปืนเรียบร้อยแล้วให้วางเครื่อง ยิงลงกบั พนื ในลักษณะท่ีใหป้ ากลากล้องหนั ชีไป ทางดา้ นซา้ ย และให้เรือนเคร่ืองล่ันไกหันชเี ข้าหาตวั 2.3 ทาการถอดหมุดเกลียวยึดสลักเรือนเครื่องล่ันไกทังตัวหน้า และตัวหลังที่อยู่ทางใต้ลากล้องออก โดยใช้กุญแจปากตายทางด้านปลายแบนหมุน ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาประมาณ 3 – 4 รอบ เม่ือถอดหมุด เกลียวยึดสลักเรือนเคร่ืองลั่นไกออกแล้ว ให้พลิกเคร่ืองยิงหงายขึนจนด้ามปืนตังได้ฉากกับพืน แล้วจึงถอดสลัก ยึดเรือนเคร่ืองล่นั ไกทงั ตวั หนา้ และตวั หลงั ออก โดยใช้เหล็กตอกสลักกดลงตรงหัวสลักยึดเรือนเครื่องลั่นไกข้าง ใดข้างหน่ึงก็ได้ แล้วใช้วัสดุท่ีมีนาหนัก หรือค้อนเคาะเบาๆ จนกว่าสลักยึดเรือนเคร่ืองล่ันไกแต่ละตัว จะหลุด ออกจากแทน่ รับเรอื นเครอื่ งลั่นไกทังตวั หน้า และตวั หลงั 2.4 ในลาดับต่อไป ให้ทาการถอดเรือนเครื่องล่ันไกออกจากแท่นรับเรือนเครื่องล่ันไก โดยใช้มือจับท่ี ดา้ มปืนแลว้ ดงึ เรอื นเคร่อื งล่นั ไกออกมาตรงๆ จากส่วนลากล้อง 2. การประกอบ ให้กระทาในลักษณะตรงกันข้ามกับการถอด โดยให้ยึดถือเป็นหลักในการประกอบว่า ชนิ ส่วนใดทีถ่ อดออกหลงั สดุ ใหป้ ระกอบเข้าไปกอ่ นตามลาดบั 4. การทางานของเครื่องกลไกเคร่อื งยิงจรวดตอ่ สรู้ ถถงั RPG2 การทางานของเคร่ืองกลไก กล่าวทัว่ ไป ก. พลยิงจาเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบการทางานของเครื่องยิงจรวด ตลอดจน ลักษณะการทางานตามหน้าที่ของชินส่วนต่างๆ ของเครื่องยิงซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สาคัญในการยิงเป็นอย่างดี เพอ่ื ให้สามารถแกไ้ ขเหตตุ ดิ ขดั ในขณะทาการยิงดว้ ยตนเองได้ ข. การทางานของเคร่ืองกลไก สาหรับเครอ่ื งยงิ จรวด RPG2 จะแบง่ ลกั ษณะของการทางานออกไปตาม ชินส่วนสาคัญของอาวุธได้เป็น 2 ส่วน คือ การทางานของส่วนเครื่องลั่นไก และการทางานของส่ วนเข็มแทง ชนวน สาหรบั การทางานของส่วนเครือ่ งล่ันไกนนั แบ่งการทางานออกเปน็ 3 ลกั ษณะ ได้แก่ การขึนนก, การ ล่ันไก และการหา้ มไก การทางานของส่วนเครอื่ งลน่ั ไก การทางานของส่วนเครื่องล่ันไกนัน แบ่งการทางานออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ การขึนนก, การลั่นไก และการห้ามไก ก. การขึนนก เมื่อขึนนกปืนจะทาให้แหนบและแกนแหนบนกปืนยุบตัวต่าลง และแหนบนกปืนจะถูก อัดตัวอาการท่ีแหนบ และแกนแหนบนกปืนยุบตัวต่าลงมานี จะทาให้แง่หน้าของนกปืนไปขัดกับแง่ล่างของ ปลายกระเด่ืองนกปืน จึงทาใหน้ กปืนอยใู่ นอาการขึนนก ข. การล่ันไก ในขณะที่เหนี่ยวไก และไกเคล่ือนท่ีมาข้างหลังนัน จะทาให้ส่วนบนของไกไปดันส่วนล่าง ของปลายกระเด่ืองนกปืนหลุดพ้นจากแง่หน้าของนกปืน แหนบและแกนแหนบนกปืน จะขยายตัวขึนตาม วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-82- แรงอดั ของแหนบ และคันต่อนกปืนให้ไปตีต่อทา้ ยเข็มแทงชนวน และส่วนโค้งด้านสันของแกนแหนบนกปืน จะ เปน็ ตัวบงั คับให้นกปืนเคลอ่ื นทก่ี ลบั มาอยู่ทีเ่ ดิม (ในลักษณะก่อนการขนึ นก) ค. การห้ามไก ในวงรอบการทางานของการห้ามไกนัน จะมีการทางานของเครื่องกลไกแบ่งได้เป็น 2 ลกั ษณะ คอื เมอื่ หา้ มไก และเม่อื ปลดห้ามไก 1. เม่ือห้ามไก ในการห้ามไกนัน จะต้องใช้นิวกด และดันสลักห้ามไกจากทางด้านซ้ายของเรือน เคร่ืองล่ันไกให้เคล่ือนท่ีไปทางด้านขวา จนกระทั่งแถบวงแหวนสีแดง ซ่ึงอยู่ตรงส่วนปลายของสลักห้ามไก เคล่ือนทจี่ มหายลงไปในเรอื นเคร่อื งลนั่ ไก ในขณะที่สลักห้ามไกเคล่ือนทไี่ ปทางดา้ นขวานัน บากที่ตัวสลักห้ามไก ก็เลอ่ื นตามไปด้วย จึงทาให้บากท่ีตัวสลักห้ามไกไม่อยู่ตรงกบแง่ล่างของไก เมื่อแง่หน้าของสลักห้ามไกไปขัดอยู่ กับแงล่ ่างของไกตามลักษณะดังกลา่ วมาแล้ว จะทาให้ไมส่ ามารถเหนี่ยวไกมาข้างหลังได้ จึงทาให้เคร่ืองยิงจรวด อยู่ในลักษณะการหา้ มไก 2. เมอื่ ปลดหา้ มไก ในการปลดห้ามไกนัน จะต้องใชน้ ิวกด และดนั สลกั หา้ มไกจากทางด้านขวาของ เรือนเครื่องลั่นไกให้เคล่ือนท่ีไปทางด้านซ้าย จนกระทั่งมองเห็นแถบวงแหวนสีแดง ซึ่งอยู่ตรงส่วนปลายของ สลักห้ามไก เคลื่อนท่ีโผล่ออกมาจากเรือนเคร่ืองลั่นไก ในขณะท่ีสลักห้ามไกเคลื่อนที่ไปทางด้านซ้ายนัน จึงทา ให้แง่ล่างของไกหลุดพ้นออกจากการถูกขัดกับแง่หน้าของสลักห้ามไก และแง่ล่างของไกจะอยู่ตรงกับบากของ สลักห้ามไกพอดี ซึ่งจะทาให้แง่ล่างของไก สามารถเคล่ือนท่ีผ่านเข้าไปอยู่ในบากของสลักห้ามไกได้ จึงทาให้ สามารถเหน่ียวไกมาขา้ งหลงั ได้ลกั ษณะการเช่นนี แสดงวา่ เครอ่ื งยิงจรวดอยใู่ นลักษณะการปลดห้ามไก การทางานของสว่ นเข็มแทงชนวน ก่อนท่ีนกปืนจะตีต่อท้ายเข็มแทงชนวน ตาแหน่งที่อยู่ของชินส่วนต่างๆ ของชุดเข็มแทงชนวน จุก เกลียวครอบชุดเข็มแทงชนวน จะมีหน้าที่กดให้แหวนป้องกันแก๊สติดอยู่กับแง่ซ่ึงอยู่ในช่องของแท่นรับชุดเข็ม แทงชนวน ซึ่งติดอยู่กับลากล้องเครื่องยิง เข็มแทงชนวนจะถูกแหนบเข็มแทงชนวนกดไว้ให้อยู่ในตาแหน่งที่ต่า ทสี่ ดุ และส่วนที่เปน็ แป้นของเขม็ แทงชนวน จะแนบสนทิ อย่กู ับแหวนป้องกันแก๊ส ปลายเข็มแทงชนวนจะอยู่ใน ช่องเขม็ แทงชนวนของแท่นรบั ชดุ เขม็ แทงชนวนที่ตดิ อยู่กบั ลากลอ้ งของเคร่ืองยงิ แต่จะไม่ยืน่ โผลพ่ ้นเขา้ ไป ในขณะท่ีทาการเหนยี่ วไก นกปืนจะตตี อ่ ทา้ ยเข็มแทงชนวน จึงผลักดันให้เข็มแทงชนวนเคล่ือนที่ขึนไป ทางข้างบน จนกระทั่งปลายเข็มแทงชนวนโผล่เข้าไปอยู่ภายในลากล้องเคร่ืองยิงทางช่องเข็มแทงชนวนของลา กล้องเครือ่ งยิง และปลายของเขม็ แทงชนวนจะไปกระแทกต่อจากกระทบแตกท่ีส่วนท้ายของลูกจรวด ซ่ึงบรรจุ อยู่ในลากล้องนัน ในขณะท่ีเข็มแทงชนวนเคลื่อนที่ขึนไปทางข้างบนนันแหวนบังคับแหนบเข็มแทงชนวนด้วย จงึ มีผลทาให้แหนบเข็มแทงชนวนเกดิ การอัดแหนบไว้ เมือ่ นกปนื ตตี ่อท้ายเขม็ แทงชนวนแล้ว แง่ส่วนโค้งด้านสันของแกนแหนบนกปืนซ่ึงยันอยู่กับบากนก ปนื จะดันใหน้ กปนื เคลอ่ื นทกี่ ลบั มาอยทู่ ี่เดิม (ในลกั ษณะก่อนการขึนนก) จึงทาให้เข็มแทงชนวนมีอิสระ เมื่อเข็ม แทงชนวนมีอิสระ แหนบเข็มแทงชนวนซ่ึงอัดตัวอยู่จะขยายตัว และดันแหวนบังคับแหนบเข็มแทงชนวน ให้ เคลื่อนที่มาทางข้างล่าง จึงมีผลให้ปลายเข็มแทงชนวนเคล่ือนที่ถอนตัวออกมาจากช่องเข็มแทงชนวน ของลา วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-83- กลอ้ งเคร่ืองยิงดว้ ย และมาวางตัวอยู่ในช่องเขม็ แทงชนวน ของแท่นรับชดุ เขม็ แทงชนวนท่ีติดอยู่กับลากล้องของ เครอื่ งยิงในลกั ษณะเดิม 5. เหตุตดิ ขัด และการแกไ้ ขเครื่องยงิ จรวดต่อสู้รถถัง RPG2 กลา่ วท่ัวไป ก. การตดิ ขดั คอื การหยดุ ชะงกั จากระบบการทางานตามปกติในการยิงของเคร่ืองยิงจรวดโดยไม่แล่น ออกไปจากปากลากล้องโดยที่ไม่ทราบสาเหตุนั่นเอง ในลักษณะการเช่นนีย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า เครื่องยิง จรวดไดเ้ กดิ การตดิ ขดั ดว้ ยสาเหตอุ ยา่ งใดอย่างหนึ่งขึนแล้ว ตามปกติย่อมเป็นหน้าที่ของพลยิงจะต้องรีบจัดการ แก้ไขในทันทีทนั ใดนัน เพื่อขจัดเหตุตดิ ขัดที่เกดิ ขึนนันให้หมดไป และเพื่อให้เคร่ืองยิงจรวดสามารถใช้ทาการยิง ต่อไปได้อย่างรวดเร็วที่สุด ฉะนันจึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่พลยิงทุกคนจะต้องศึกษาให้ทราบถึงสาเหตุต่างๆ ซ่ึงจะเปน็ ต้นเหตทุ าใหเ้ ครอื่ งยิงจรวดเกดิ การตดิ ขัดขึนได้ และจะต้องรู้จักวิธีการแก้ไขเหตุติดขัดท่ีเกิดขึนนัน ได้ อยา่ งถกู ต้อง และรวดเร็วท่ีสุด ข. การแกไ้ ขทันทีทันใด คือ การปฏิบัติโดยไม่ชักช้าต่อเคร่ืองยิงจรวดที่เกิดการติดขัดขึน เพื่อให้เคร่ือง ยิงจรวดสามารถทจ่ี ะใชท้ าการยงิ ต่อไปไดต้ ามปกติอย่างรวดเร็วท่ีสุด เหตุตดิ ขัด และการแก้ไข เมอ่ื เกดิ เหตตุ ดิ ขัดในระหว่างการยงิ เหตตุ ดิ ขดั นนั อาจจะเกดิ ขึนจากลักษณะการติดขัด และมีสาเหตุได้ หลายๆ ประการ ลักษณะการติดขัด และสาเหตุของการติดขัดแต่ละอย่างมีวิธีแก้ไขที่พลยิงควรยึดถือไว้เป็น หนทางปฏิบัติ ดงั ต่อไปนี คอื ลาดบั เหตุติดขดั สาเหตุ การแก้ไข 1. ศูนย์หนา้ -หลัง งอ ไดร้ ับการกระแทก สง่ ซ่อม 2. ศูนยห์ นา้ -หลังหลุด 1. แหนบอ่อน, หัก ส่งซ่อม 2. สลัก หรือชอ่ งสลักหลวม 3. ศูนยห์ นา้ -หลังตงั ไม่อยู่ แหนบชารดุ ส่งซ่อม 4. สลักห้ามไกไม่ทางาน (ห้ามไก) 1. แหนบสลักหา้ มไกหัก หรอื อ่อน 1. ส่งซ่อม 2. ฝาครอบแหนบสลักห้ามไกหกั 2. ส่งซอ่ ม 5. เมอื่ นกปืนสับแล้วไม่ถอยกลับ 1. จุกเกลยี วครอบชดุ เข็มแทง 1.ขันจุกเกลยี วครอบชดุ (หา่ งจากเข็มแทงชนวน 0.1 มม.) ชนวนขนั ไมแ่ น่น หรือหลวม เขม็ แทงชนวนให้แนน่ 2. มสี ่ิงสกปรกพอกอยทู่ ้ายเข็มแทง 2. ทาความสะอาดชดุ เข็ม ชนวน แทงชนวนเสยี 3. นกปนื บิ่น 3. ส่งซอ่ ม 6. เขม็ แทงชนวนหลวม แหนบเขม็ แทงชนวนหักหรืออ่อน เปลย่ี นแหนบเขม็ แทง ชนวน หรอื ส่งซ่อม วชิ าอาวธุ ขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-84- ลาดับ เหตุติดขดั สาเหตุ การแก้ไข 7. ลูกจรวดด้าน 1. ส่วนต่อทอ่ หลอดดินสง่ ของลูก 1. บรรจุใหมใ่ ห้สลักทล่ี ูกจรวดสวมพอดี จรวดบรรจไุ มพ่ อดกี ับลากล้อง ท่ปี ากลากล้อง 2. เขม็ แทงชนวนหัก หรอื สึกหรอ 2.เปล่ยี นเขม็ แทงชนวนใหม่หรือสง่ ซ่อม 3. เขม็ แทงชนวนกระแทกจอก 3. ทาความสะอาดเรือนเคร่ืองล่นั ไก กระทบแตกไมแ่ รงพออาจเกิดจาก และชุดเขม็ แทงชนวนเสีย ส่วนเคร่ืองลน่ั ไกสกปรก หรือมีไข นามนั ตดิ 4. บากรบั สลักลกู จรวดปากลากล้อง 4. สง่ ซอ่ ม สึกกรอ่ น 5. แหนบนกปืนอ่อน หรือหกั 5. สง่ ซ่อม 6.จอกกระทบแตกเสื่อมคุณภาพ 6. เปลย่ี นลูกจรวดยงิ ใหม่ 8. ลกู จรวดไมเ่ ข้าใน 1.ลากล้องสกปรก 1. ทาความสะอาดลากล้อง ลากลอ้ ง 2.จอกกระทบแตกบวม 2. จอกกระทบแตกบวม ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิเมื่อเกิดการตดิ ขัด ในขณะทีพ่ ลยิงกาลังทาการยิงจรวดอย่นู นั เมอ่ื เคร่ืองยิงจรวดของตนเกิดการติดขัดขึน ไม่ว่าการติดขัด นนั จะเกิดขึนดว้ ยสาเหตุใดๆ ก็ตาม พลยิงจะต้องรีบจัดการแก้ไขโดยทันทีทันใด การแก้ไขโดยทันทีทันใดนันให้ พลยงิ ปฏิบตั ติ ามระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจาดงั ต่อไปนี ก. อย่าลดเครื่องยิงลงจากบ่า ใหพ้ ลยงิ อยู่ในทา่ ยงิ และยังคงทาการเล็งไปยังเป้าหมายตามเดมิ ข. ให้ทาการขึนนกใหม่ เล็งต่อที่หมาย แล้วล่ันไกอีกหน่ึงครัง ถ้าอาวุธยังไม่ทางานอีกให้ทาการเลิก บรรจุลกู จรวดนัดนนั เสีย แล้วนาลูกจรวดนัดใหมอ่ อกมาทาการยิงตอ่ ไป ค. เมอ่ื นาลูกจรวดนัดใหม่มาทาการยงิ แลว้ ยงั เกดิ การติดขัดอยู่อีก ให้ค้นหาสาเหตุแห่งการติดขัด แล้ว รบี พยายามทาการแก้ไขเหตุติดขัดทเ่ี กิดขนึ ใหล้ ุล่วงไปด้วยความรวดเรว็ 6. ลกู จรวด RPG ขนาด 82 มม. คุณลักษณะ ก. คุณลักษณะท่ัวไป - ลูกจรวดท่ีใช้ยิงกับเคร่ืองยิงจรวดต่อสู้รถถัง RPG 2 ขนาด 40 มม. คือลูกจรวด RPG ขนาด 82 มม. (ขนาดใหญก่ ว่ากวา้ งปากลากล้องเครือ่ งยิง) - สามารถใช้ลูกจรวดนี ยิงรถถังอยู่กับท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยิงไม่เกิน 150 ม. และนาไปใช้ยิง รถถังที่กาลงั เคล่อื นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยงิ ไมเ่ กนิ 100 ม. - ภายในบรรจุดินระเบิด TNT ซึง่ วางไว้เป็นรปู กรวย วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-85- - ลูกจรวดนีมีวัตถุประสงค์ที่จะนาไปใช้ยิงต่อสู้รถถัง หรือยานพาหนะหุ้มเกราะแบบอ่ืนๆ เป็นหลัก ส่วน วัตถุประสงค์รอง ใช้ยิงต่อยานพาหนะไม่หุ้มเกราะ เช่น รถยนต์ชนิดต่างๆ เป็นต้น หรือใช้ยิงที่ม่ันดัดแปลง แข็งแรงไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพอกี ด้วย ข. นาหนกั ขนาด และขีดความสามารถ 1. นาหนัก 1.1 ลูกจรวด 1.62 ก.ก. 1.2 หลอดดนิ สง่ 0.22 ก.ก. 2. ขนาด 2.1 ขนาดเสน้ ผา่ ศูนย์กลางของลูกจรวด 82 มม. 2.2 ลูกจรวดไม่รวมหลอดดนิ ส่ง ยาว 50 ซม. 2.3 หลอดดนิ สง่ ยาว 17 ซม. 3. ขดี ความสามารถ 3.1 เจาะเกราะ (เหลก็ กล้า) ได้หนา 18 ซม. (จุดกระทบตงั ฉาก) 3.2 เจาะคอนกรตี ได้หนา 60 – 80 ซม. 3.3 เจาะดินไดห้ นา 1 – 1.2 เมตร 4. ยา่ นอนั ตรายท้ายเครื่องยิง ในเวลาทาการยงิ ลูกจรวดมพี ืนทอี่ ันตรายจากเปลวเพลิง ท่ีพุ่งออกไปทางท้าย เคร่ืองยงิ เปน็ รปู กรวยมุม 60 องศา ในลกั ษณะเปน็ รูปสามเหลี่ยมดา้ นเท่า โดยมีระยะห่างออกไปจากท้ายเคร่ือง ยงิ เป็นระยะไกล 10 – 15 เมตร ซึ่งรวมเปน็ พนื ที่อนั ตรายทงั สนิ ประมาณ 60 ตารางเมตร สว่ นประกอบลูกจรวด ลูกจรวดขนาด 82 มม. ของเครือ่ งยงิ จรวดตอ่ สู้รถถัง RPG2 มีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ (ส่วนประกอบทัง 4 สามารถถอดแยกออกจากกันได)้ 1. หวั รบ (ตดิ อยูก่ บั ลกู จรวด) แบ่งออกเปน็ 2 ส่วน คือ หัวปลอม และตัวหัวรบ 2. ชนวนหวั รบ (ติดอยูก่ ับลกู จรวด) 3. ชดุ หางนาทศิ (ตดิ อยู่กบั ลกู จรวด) 4.หลอดดินส่ง (แยกเก็บตา่ งหาก นามาประกอบกบั ลูกจรวด เม่ือจะใชท้ าการยิงเท่านนั ) การทางานของลกู จรวด ลูกจรวด ขนาด 82 มม. ของเคร่ืองยิงจรวด RPG2 แบ่งระบบการทางานออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ระบบการทางานของชดุ หางนาทิศ และหลอดดินส่ง และระบบการทางานของหัวรบ ข้อควรปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับลูกจรวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเกิดความสะดวกต่อการนาเอาลูกจรวดออกใช้ทาการยิง มีข้อท่ีควร จะตอ้ งยึดถอื ไวเ้ ป็นหนทางปฏบิ ตั ดิ ังตอ่ ไปนี คือ วิชาอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-86- 1. ในการนาลูกจรวดบรรทุกยานพาหนะเพ่ือการขนย้าย จะต้องนาลูกจรวด และหลอดดินส่งบรรจุไว้ ในกลอ่ งหรือลังท่เี ป็นภาชนะสาหรบั บรรจุโดยเฉพาะเสียก่อนเสมอ 2. ถ้าพลยิงจะต้องบรรทุกลูกจรวดติดตัวไป เป็นบุคคล พลยิงควรพับครีบหางนาทิศของลูกจรวดไว้ให้ เรยี บรอ้ ยเสมอ และจะต้องบรรจุให้ในย่าม หรอื เสอื กระสุนโดยแยกลูกจรวด และหลอดดนิ ส่งไวต้ า่ งหากจากกัน 3. การเกบ็ ลูกจรวดในสนาม ไม่ควรนาลูกจรวด และหลอดดินส่งที่แกะออกจากภาชนะบรรจุแล้ว วาง ตากแดดท่รี อ้ นจดั ไวโ้ ดยเด็ดขาด ถ้าสามารถกระทาได้ควรวางเก็บไว้ในท่ีทมี่ ีร่มเงา 4. จงอย่าเก็บลูกจรวด และหลอดดินส่งไว้ในที่ซ่ึงมีความชืนสูง เพราะจะทาให้ลูกจรวด และหลอดดิน ส่งเสอื่ มสภาพเร็วขนึ 5. จงอยา่ แกะกล่องกันความชนื ทห่ี ่อหุ้มหลอดดินส่งออก จนกว่าจะแน่ใจ หรือคาดวา่ จะต้องใชท้ าการยิง 6. ในขณะท่ีอยู่ในสถานการณ์ ซึ่งอาจมีการปฏิบัติการทางยุทธวิธี พลยิงอาจจะทาการพับครีบหางนา ทิศ และประกอบหลอดดินส่งของลูกจรวดของตนไว้ทุกนัด เพื่อให้สามารถนาออกใช้ยิงได้อย่างรวดเร็ว และ ทนั ทว่ งทกี ็ได้ 7. การปรนนบิ ัตบิ ารุง เคร่ืองยงิ จรวดต่อสูร้ ถถัง RPG2 การตรวจสภาพท่ัวไป ก. การตรวจสภาพภายนอก 1. ตรวจดกู ารชารดุ สึกหรอ, ความสะอาด และการเกดิ สนิมของชินส่วน 2. ตรวจดกู ารตดิ ตัง และทดลองใช้งานศนู ย์หน้า และศนู ย์หลัง ข. การตรวจลากล้อง 1. ตรวจดูความสะอาดภายใน และภายนอกลากล้อง ถ้าต้องการชโลมนามันเพื่อป้องกันสนิมให้ชโลม ไวแ้ ต่เพยี งบางๆ 2. ตรวจดูสภาพท่ัวไปของลากลอ้ งวา่ มีรอยร้าว, รอยบบุ หรือมสี นมิ เกิดขึน หรอื ไม่ ค. การตรวจเรอื นเคร่ืองล่ันไก (เงนิ การตรวจการทางานของชดุ เข็มแทงชนวนด้วย) 1. ทาการขึนนกเสียก่อน 2. ใช้แผน่ กระดาษบางๆ สอดเขา้ ไปในระหว่างนกปนื กบั เข็มแทงชนวน 3. ล่ันไก 4. ตรวจดูแผน่ กระดาษบางทสี่ อดอยู่ หากมีรอยขาดตรงจุดสัมผัสระหว่างนกปืนกับท้ายเข็มแทงชนวน แสดงว่าการทางานของนกปืนตีต่อท้ายเขม็ แทงชนวนไดเ้ ป็นปกติ 5. ตรวจไก โดยการบีบและคลายไกดู ถ้าไกทางานได้ตามปกติ ไกปืนจะต้องเคล่ือนท่ีเข้าออกได้ โดยสะดวก ง. การตรวจการทางานของเคร่อื งห้ามไก 1. ขนึ นกปนื หา้ มไก วิชาอาวธุ ขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-87- 2. เหนยี่ วไก ถ้าไม่สามารถเหนี่ยวไกมาข้างหลังได้ แสดงว่าระบบการทางานของเคร่ืองห้ามไก ทางาน ไดเ้ ปน็ ปกติ การทาความสะอาด และการหล่อลืน่ ก. เครอื่ งมือทาความสะอาด ได้แก่ แส้ทาความสะอาด และแส้ดนั ปลอกหลอดดินสง่ ข.วสั ดุทีใ่ ชใ้ นการทาความสะอาด ได้แก่ 1. เศษผา้ สะอาดสาหรับทาความสะอาดลากล้อง 2. ผา้ สะอาด 3. นาด่าง หรือนาสบู่ 4. นามนั หล่อล่ืน ค. วธิ ที าความสะอาด 1. ลากลอ้ ง - ภายนอกลากล้องใช้ผ้าทาความสะอาดเช็ดฝุ่นผง แล้วจึงใชน้ ามันชโลมทาไวบ้ างๆ เพื่อป้องกนั สนิม - ภายในลากลอ้ ง กอ่ นทาการยงิ ใหเ้ ช็ดแห้ง หลงั ทาการยิงปืน ให้ทาความสะอาดติดต่อกันเป็นเวลา 3 วนั 2. เรอื นเครอื่ งล่นั ไก และชดุ เขม็ แทงชนวน - ถอดชุดเขม็ แทงชนวน และเรือนเคร่ืองลัน่ ไก แยกออกจากลากล้อง - ทาความสะอาดชุดเข็มแทงชนวน ด้วย ถ้าทาความสะอาดแล้วจึงชโลมด้วยนามันชโลม เพียงบางๆ เพอ่ื ป้องกันสนิม และทาความสะอาดรเู ข็มแทงชนวนดว้ ย - ทาความสะอาดเรือนเคร่ืองล่ันไกดว้ ยผ้าทาความสะอาด ต่อจากนันจึงชโลมด้วยนามันชโลมปืนเพียง บางๆ และหล่อล่นื ส่วนเคล่อื นทด่ี ว้ ยนามันชโลมปนื ประมาณ 1 – 2 หยด - ประกอบชดุ เขม็ แทงชนวน และเรอื นเคร่ืองลั่นไกเข้ากบั ลากล้อง 2. เคร่ืองยิงจรวดต่อสู้รถถงั RPG7 ขนาด 40 มม. 1. ลกั ษณะทั่วไป เคร่ืองยิงจรวด RPG7 ขนาดกว้าง ปากลากลอ้ ง 40 มม. เปน็ เคร่อื งยิงจรวดที่มี นาหนักเบา สามารถนาไปได้ด้วยบุคคล เพียงคนเดียว ใช้ทาการยิงกับลูกจรวด ขนาด 85 มม. ด้วยการบรรจุลูกจรวดทางปากลากล้องของเครื่องยิงทีละนัด เป็นอาวุธท่ีมีอานาจในการทาลาย สูง สามารถนาไปใช้ทงั บทบาทในการต่อสู้รถถัง ทาลายที่มั่นดัดแปลง ป้อมสนาม และสังหารเป็นบุคคลด้วยวิธี ทาการยิงด้วยการพาดบา่ ยงิ จากทา่ ยิงตา่ งๆ และท่ีตอนปลายใกล้ๆ ปากลากล้องของเคร่ืองยิงยังได้สร้างเป็นขา ทรายติดไว้เพ่ือเป็นเครื่องช่วยให้สามารถใช้ตังยิงจากหลุดบุคคล หรือทาการยิงจากท่านอนยิงได้อย่างม่ันคง และมีประสิทธิภาพยิง่ ขึน 1.1 ขนาด - ปากลากล้องกว้าง 40 มม. - ลากล้องยาว 92.7 ซม. วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-88- 1.2 นาหนักเคร่ืองยิง 5.5 กก. 1.3 ขดี ความสามารถ - ระยะยิงไกลสดุ 1,500 เมตร - ระยะยงิ หวงั ผล 500 เมตร - อัตราการยิง 4 – 6 นัด/นาที - ความเร็วต้น 120 เมตร/วนิ าที - เจาะเกราะเหลก็ กลา้ ได้หนา 33 – 35.5ซม. 1.4 ย่านอันตรายเปลวเพลิงท้ายเครื่องยิง ในขณะทาการยิงเครื่องยิงจรวด RPG7 จะมีเปลวเพลิงพุ่ง ออกไปทางท้ายเครื่องยิงเป็นรูปกรวยทามุม 80 องศา พุ่งออกไปทางท้ายเครื่องยิงเป็นระยะไกล 30 ม. ใน ลกั ษณะเป็นรปู สามเหล่ียมด้านเทา่ 2. ส่วนประกอบของเครื่องยิงจรวด เคร่ืองยิงจรวด RPG7 ขนาด 40 มม. ประกอบด้วยส่วนใหญ่ๆ ท่ีสาคัญอยู่ 4 ส่วน คือ ส่วนลากล้อง ส่วนเครื่องล่ันไก และหา้ มไก ส่วนเคร่อื งเล็ง และสว่ นเรือนเข็มแทงชนวน 2.1 สว่ นลากล้อง เปน็ ส่วนท่ีใช้ช่วยในการเล็ง และการระบายแก๊สในการยิง ท่ีปากลากล้องตอนบนจะมี บากบังคับลูกจรวดอยู่หนึ่งบาก บากนีจะทาหน้าท่ีบังคับลูกจรวดให้ยึดแน่นอยู่กับปากกระบอกของเคร่ืองยิง ในขณะทาการยิง ทังยังมีหน้าท่ีบังคับให้จอกกระทบแตกซึ่งอยู่ตรงส่วนท้ายของลูกจรวดมาวางอยู่ตรงกับช่อง เข็มแทงชนวนทล่ี ากลอ้ งเครอื่ งยิงได้พอดอี กี ด้วย ตรงส่วนกลางของลากล้องจะมฝี าประกับลากล้องดังกล่าวนีจะ ถูกรัดไว้ด้วยปลอกรัดสองปลอก ซ่ึงรัดไว้ทางด้านหน้าหน่ึงปลอก และรัดไว้ทางด้านหลังหนึ่งปลอก ส่วนลา กลอ้ งนีจะประกอบไปดว้ ยชินส่วนตา่ งๆ ดังตอ่ ไปนี คอื 1. บากบังคับลกู จรวด 2. หกู ระวนิ 3. ฝาประกับลากล้องพร้อมปลอกรดั 4. ศนู ย์หนา้ และแทน่ ศูนยห์ น้า 5. แผน่ ปอ้ งกันศนู ยห์ น้า 6. ศูนย์หลงั และแท่นศนู ยห์ ลงั 7. แผน่ ปอ้ งกนั ศูนย์หลงั 8. แท่นรบั เรือนเข็มแทงชนวน 9. ด้ามหิว 10. ขาทราย 2.2 ส่วนเครื่องลั่นไก และห้ามไก เรือนเครื่องล่ันไก จะติดตังอยู่ท่ีส่วนล่างทางด้านหน้าของลากล้อง เครื่องยิง ไก จะอยู่ภายนอกส่วนห้ามไกนันมีรูปลักษณะเป็นสลักเหล็กรูปทรงกระบอกเคล่ือนท่ีได้ในทางระดับ (ขวาไปซ้าย และซ้ายไปขวา) ในการห้ามไกนันจะต้องกดสลักห้ามไกจากทางซ้ายไปทางขวาจนกระทั่งแถบวง แหวนสีแดงท่ีคาดอยู่บนตัวสลักห้ามไกจะจมหายลงไปในเรือนเครื่องล่ันไก เรือนเคร่ืองลั่นไกนีจะประกอบไป ด้วยชนิ สว่ นตา่ งๆ ดังต่อไปนี คือ 1. โครงเครื่องล่นั ไก และฝาปิดโครงเครื่องล่ันไก 2. ด้ามปืน และฝาประกบดา้ มปืนพร้อมดว้ ย พร้อมด้วยหมดุ เกลยี ว หมดุ เกลยี ว 3. นกปืน 4. แหนบ และแกนแหนบนกปนื วิชาอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-89- 5. สลกั ยดึ นกปนื 6. กระเด่ืองนกปืน 7. ไกปืนพร้อมด้วยสลักยึด 8. สลกั ห้ามไก 9. แหนบห้ามไกพร้อมด้วยฝาครอบ 2.3 สว่ นเครอื่ งเล็ง เคร่อื งเล็งเปน็ สว่ นทใ่ี ชส้ าหรับทาการเล็งตอ่ เป้าหมายในการยิง ซ่ึงจะประกอบไปด้วย ศนู ยห์ นา้ และศนู ยห์ ลัง 1. ศนู ย์หน้า มีลักษณะเป็นศูนย์กระโดงติดตังอยู่บนแท่นศูนย์หน้า มีส่วนประกอบท่ีสาคัญได้แก่ครอบ ป้องกันศูนย์หน้า หลักศูนย์หน้า โครงเลื่อนศูนย์หน้า หมุดยึดโครงเลื่อนศูนย์หน้า และก้านศูนย์หน้า ตามปกติ แล้วกระโดงศูนย์หน้านีจะต้องพับเก็บไว้ในลักษณะที่ให้วางราบมาทางข้างหลังจนแนบติดอยู่กับแผ่นป้องกัน ศนู ย์หนา้ ซึง่ ยึดตรงึ ตดิ อยกู่ บั ลากล้องเครื่องยิง เมื่อจะใช้ทาการเล็ง จึงยกกระโดงศูนย์หน้าให้ตังขึนไปในทิศทาง ข้างหน้าจนสุดในลักษณะท่ีให้วางตังได้ฉากกับลากล้องของเคร่ืองยิง และนอกจากนีที่กระโดงศูนย์หน้านียัง สามารถจะทาการปรับโครงเลื่อนศูนย์หน้าให้เคลื่อนที่ไปในทางทิศ (ทางซ้ายหรือขวา) โดยใช้เหล็กไขควงปาก แบนคลายที่หมุดยึดโครงเลื่อนศูนย์หน้า และปรับหลักศูนย์หน้าให้เล่ือนสูงขึนหรือต่าลงโดยใช้กุญแจปรับหลัก ศูนย์หน้าหมุนหลักศูนย์หน้าได้ตามที่ต้องการ ทังนีเพื่อนาไปใช้ในการปรับเส้นเล็งของศูนย์เล็งให้เป็นแนว เดียวกนั กับเส้นแกนหลอดลากล้องเครอ่ื งยิง 2. ศูนย์หลงั มีลักษณะเปน็ ศูนย์กระโดงติดตังอยู่บนแท่นศูนย์หลัง มีส่วนประกอบท่ีสาคัญ ได้แก่ครอบ ป้องกันศูนย์หลัง ช่องบากศูนย์หลัง ใบศูนย์หลัง มาตราระยะดัก เส้นดรรชนีตังมาตราระยะดัก โครงศูนย์หลัง กลอนยึดโครงศูนย์หลัง ก้านศูนย์หลัง และมาตราระยะยิง ตามปกติแล้วกระโดงศูนย์หลังนีจะต้องพับเก็บไว้ใน ลักษณะที่ให้วางราบไปในทิศทางข้างหน้าจนแนบติดอยู่กับแผนป้องกันศูนย์หลังซึ่งยึดตรึงติดอยู่กับลากล้อง เครือ่ งยิง เมื่อจะใช้ทาการเล็งจึงยกกระโดงศนู ย์หลงั ใหต้ ังขึนมาในทศิ ทางขา้ งหลงั จนสดุ ในลักษณะท่ีให้วางตังได้ ฉากกับลากล้องของเครื่องยิง กระโดงศูนย์หลังของเคร่ืองยิงจรวด RPG7 มีลักษณะท่ีสาคัญคือท่ีก้านศูนย์หลัง จะแสดงมาตราระยะยงิ ไวเ้ ปน็ หา้ ระยะยงิ คอื ระยะยงิ 100 200 300 400 และ 500 เมตร ตามลาดับ ซึ่งแต่ละ ระยะยิงดังกล่าวนีจะหมายไว้ด้วยตัวเลข 1 2 3 4 และ 5 โดยมีเส้นขีดทางระดับสีขาวขนาดเล็กแสดงไว้เหนือ ตัวเลขทุกตัว สาหรับใช้เป็นเครื่องหมายในการตังระยะยิง ในการตังมาตราระยะยิงที่ศูนย์หลังนีจะต้องใช้ นิวหัวแม่มือกดกลอนยึดโครงศูนย์หลังให้จมลงไปจนสุดเสียก่อน แล้วจึงจับโครงศูนย์หลังเล่ือนให้สูงขึน หรือ ต่าลงจนกว่าขอบล่างของโครงศูนย์หลังจะไปวางตังอยู่บนเส้นมาตราระยะยิงตามท่ีต้องการ เป็นท่ีน่าสังเกตไว้ และสามารถตังได้เป็นระยะยิงหน่วย 100 ม. ในระยะยิงไม่เกิน 500 เมตร เท่านัน เพราะฉะนันในการยิงลูก จรวดนัดแรกพลยิงจะต้องกะระยะห่างของเป้าหมายจากที่ตังยิงให้ทราบเป็นหน่วยร้อยเมตรเสมอ เช่น หน่ึง รอ้ ย สองรอ้ ย ฯลฯ เปน็ ต้น ลกั ษณะทสี่ าคญั ของศนู ย์หลังอกี ประการหน่งึ กค็ ือ ทใ่ี บศูนยห์ ลังจะแสดงมาตราระยะดัก ไว้ด้วยเส้นขีด ทางด่ิงเล็กๆ เรียงกันในทางระดับของใบศูนย์หลังในลักษณะที่แบ่งไว้เป็นสองแถบคือ แถบทางซ้าย และแถบ ทางขวาโดยมีเส้นดิ่งท่ีมีเลข 0 กากับเป็นศูนย์กลางแต่ละแถบ เส้นด่ิงในแต่ละแถบจะแสดงเส้นด่ิงเล็กๆ ไว้ จานวนแถบละ 8 เสน้ และมีตัวเลข 2 4 6 8 กากบั เส้นเหล่านีไวใ้ นลักษณะเว้นว่างไว้หน่ึงเส้นสลับกันไป แต่ละ วชิ าอาวธุ ขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-90- เสน้ มีค่าเท่ากับหน่ึงระยะดกั ในการใช้เครอ่ื งยงิ จรวด RPG7 ทาการยิงต่อเป้าหมายเคล่ือนท่ีจาเป็นจะต้องจับใบ ศนู ย์หลงั ใหเ้ ลื่อนไปทางซา้ ย หรือทางขวา จนกว่าเสน้ มาตราระยะดักในแถบทตี่ ้องการจะไปวางชีตรงกันกับเส้น ดรรชนีตงั มาตราระยะดกั เสยี ก่อนเสมอ ข้อควรระวัง ในการพับกระโดงศูนย์หลังลงเก็บในตาแหน่งปกติหรือไม่ได้ใช้ยิงนัน จะต้องจับใบศูนย์ หลังเล่ือนให้ขีดมาตราระยะดักที่มีเลข 0 กากับชีตรงกับเส้นดรรชนีตังมาตราระยะดักเสียก่อน แล้วจึงใช้ นิวหัวแม่มือกดที่กลอนยึดโครงศูนย์หลัง แล้วจับโครงศูนย์หลังเล่ือนให้สูงขึนไปจนสุด หรือวางอยู่ในตาแหน่ง ระยะยิง 500 เมตร ต่อจากนันจึงพับกระโดงศูนย์หลังไปในทิศทางข้างหน้าจนกว่ากระโดงศูนย์หลังจะวางราบ อยบู่ นแผน่ ปอ้ งกนั ศูนย์หลัง 2.4 ส่วนเรอื นเข็มแทงชนวน เรอื นเข็มแทงชนวนนีจะติดตังอยู่ท่ีแท่นรับเรือนเข็มแทงชนวนที่ใต้ลากล้อง ของเคร่ืองยิงเรือนเขม็ แทงชนวนจะประกอบไปด้วยชนิ สว่ นต่างๆ ดงั ต่อไปนี คือ 1. จุกเกลยี วครอบชดุ เข็มแทงชนวน 2. เข็มแทงชนวน 3. แหนบเขม็ แทงชนวน 4. แหวนบังคบั แหนบเขม็ แทงชนวน 3. การถอดประกอบ และการทางานของเครอ่ื งกลไกเครื่องยิงจรวดต่อส้รู ถถงั RPG7 การถอดประกอบปกติสาหรับเครื่องยิงจรวด RPG7 นัน ให้ทาการถอด และประกอบได้เพียง 3 ชินส่วน คอื เรอื นเข็มแทงชนวน เรอื นเคร่ืองลน่ั ไก และ สว่ นลากลอ้ ง ซ่งึ มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี คือ 3.1 การถอดแบบปกติ 1. การถอดเรือนเข็มแทงชนวน การถอดเรือนเข็มแทงชนวนออกจากแท่นรับเรือนเข็มแทงชนวนท่ีส่วน ลากล้องของเครื่องยิงใหป้ ฏิบตั ิไปตามลาดับขนั ดังตอ่ ไปนี คอื 1.1 ใหข้ นึ นก และหา้ มไกเสียก่อน โดยให้ปฏบิ ัตไิ ปตามลาดับดงั นี - การขึนนก ให้ใช้มือขวากาที่ด้ามปืน เสร็จแล้วให้ใช้นิวหัวแม่มือขวากดนกปืนลงข้างล่างจนสุด จนกระท่ังได้ยินเสียงนกปืนดงั คลกิ๊ - การห้ามไก ให้ใช้นิวหัวแม่มือด้านขวากดลงไปท่ีหัวสลักตรงๆ จนกระท่ังแถบวงแหวนสีแดงซึ่ง คาดอยตู่ รงสว่ นปลายของสลักหา้ มไกเคลื่อนที่จมหายลงไปในเรือนเครื่องล่ันไก 1.2 เมอื่ ทาการขนึ นก และหา้ มไกเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้วางเครือ่ งยิงจรวดลงกับพนื ในลักษณะที่ให้ปากลา กลอ้ งเครอ่ื งยิงหนั ชีไปทางด้านซา้ ย และใหเ้ รือนเคร่อื งล่นั ไกหันชเี ข้าหาตวั 1.3 ในลาดับต่อไปให้ทาการ ถอดเรือนเข็มแทงชนวนออกจากแท่นรับเรือนเข็มแทงชนวน โดยใช้ กุญแจปากตายคลายจุกเกลียวครอบชุดเข็มแทงชนวนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาจนกระท่ังเรือนเข็มแทงชนวน เป็นอสิ ระ เสรจ็ แลว้ จึงถอดเอาเรือนเข็มแทงชนวนออกจากแทน่ รับเรือนเขม็ แทงชนวน 2. การถอดเรือนเคร่อื งลั่นไก การถอดเรือนเครื่องล่ันไกออกจากแท่นรับเรือนเคร่ืองล่ันไกท่ีส่วนลา กลอ้ งของเคร่อื งยิง ให้ปฏบิ ัติไปตามลาดบั ขนั ดงั ตอ่ ไปนี 2.1 ให้ ปลดห้ามไก และลดนกปนื เสยี ก่อนโดยให้ปฏบิ ัติไปตามลาดบั ดงั นี วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

-91- - การปลดห้ามไก ให้ใช้มือขวากาท่ีด้ามปืน เสร็จแล้วให้ใช้นิวชีกด และดันสลักห้ามไกจากทาง ดา้ นขวาให้เคลื่อนที่ไปทางด้านซ้าย จนกระทั่งมองเห็นแถบวงแหวนสีแดงท่ีคาดอยู่ตรงส่วนปลายของสลักห้าม ไกเคลือ่ นทีโ่ ผลอ่ อกมาจากเรอื นเครื่องลนั่ ไก - การลดนกปืน ให้ใชน้ ิวชมี ือขวาเหน่ียวไกมาข้างหลังพร้อมกับให้ใช้นิวหัวแม่มือขวาประคองนก ปืนไวแ้ ล้วจงึ ค่อยๆ ผอ่ นนกปืนใหเ้ คลอ่ื นทข่ี ึนไปจนสดุ โดยมใิ ห้นกปืนกระแทกอยา่ งแรง 2.2 เม่อื ทาการปลดหา้ มไก และลดนกปืนเรียบร้อยแล้ว ใหว้ างเครื่องยิงจรวดลงกับพืนในลักษณะท่ีให้ ปากลากล้องเคร่ืองยงิ หันชไี ปทางด้านซา้ ย และให้เรือนเคร่ืองลน่ั ไกหันชเี ขา้ หาตวั 2.3 ให้ถอดหมดุ เกลยี วยดึ สลกั เรือนเครื่องล่นั ไกทังตัวหน้า และตัวหลังท่ีอยู่ทางใต้ลากล้องออก โดยใช้ กญุ แจปากตายทางด้านปลายแบนหมนุ ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาประมาณ 3 – 4 รอบ เม่ือถอดหมุดเกลียวยึด สลักเรือนเคร่ืองล่ันไกออกแล้ว ให้พลิกเครื่องยิงหงายขึนจนด้ามปืนตังได้ฉากกับพืน แล้วจึงถอดเอาสลักยึด เรือนเคร่ืองล่ันไกทังตัวหน้า และตัวหลังออกโดยใช้เหล็กตอกสลักกดลงตรงหัวสลักยึดเรือนเคร่ืองล่ันไกข้างใด ข้างหนึ่งก็ได้ และใช้วัตถุที่มีนาหนัก หรือค้อนเคาะเบาๆ จนกว่าสลักยึดเรือนเครื่องล่ันไกแต่ละตัวจะหลุดออก จากแทน่ รับเรอื นเครื่องล่นั ไกทงั ตวั หนา้ และตัวหลัง 2.4 ในลาดับต่อไปให้ถอดเรือนเครื่องล่ันไกออกจากแท่นรับเรือนเครื่องล่ันไก โดยใช้มือจับที่ด้ามปืน แล้วดึงเอาเรือนเคร่อื งล่ันไกออกมาจากแท่นรับเรือนเคร่ืองล่ันไกตรงๆ หมายเหตุ เมื่อได้ทาการถอดเรือนเข็มแทงชนวน และถอดเรือนเคร่ืองล่ันไกออกมาจากส่วนของลากล้อง หมดแล้ว ชนิ ส่วนชินสุดท้ายก็จะคงเหลอื แตส่ ่วนท่ี 3 คือสว่ นลากล้อง ซ่ึงไมจ่ าเป็นจะต้องถอดใด ๆ อีก 3.2 การประกอบ ให้กระทาในลักษณะตรงกันข้ามกับการถอด โดยให้ยึดถือเป็นหลักในการประกอบว่า ชินส่วนใดทถ่ี อดออกมาหลังสุดใหป้ ระกอบเข้าไปกอ่ นตามลาดับ การทางานของเครอ่ื งกลไก การทางานของเคร่ืองกลไกสาหรับเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง RPG7 จะแบ่งลักษณะของการทางานออกไป ตามชินส่วนสาคัญของอาวธุ ได้เป็น 2 ส่วน คอื การทางานของสว่ นเครอ่ื งลั่นไก และการทางานของส่วนเข็มแทง ชนวน 4. เหตุติดขัด และการแก้ไข กลา่ วท่วั ไป 1. การตดิ ขดั คือ การหยุดชะงักจากระบบการทางานตามปกติในการยิงของเคร่ืองยิงจรวด หรืออาจจะ กล่าวอีกนัยหน่ึงก็คือ เม่ือล่ันไกแล้วลูกจรวดไม่แล่นออกไปจากปากลากล้องโดยท่ีไม่ทราบสาเหตุน่ันเอง ใน ลักษณะการเช่นนี ย่อมแสดงให้เห็นว่า เครื่องยิงจรวดได้เกิดการติดขัดด้วยสาเหตุอย่างใดอย่างหน่ึงขึนแล้ว ตามปกติย่อมเป็นหน้าท่ีของพลยิงจะต้องรีบจัดการแก้ไขในทันทีทันใดนัน เพื่อขจัดเหตุติดขัดท่ีเกิดขึนนันให้ หมดไป และเพื่อให้เครื่องยิงนันสามารถทาการใช้ยิงต่อไปอย่างรวดเร็วท่ีสุด ฉะนันจึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่ พลยิงทุกคนจะตอ้ งศกึ ษาเพ่อื ให้ทราบถึงสาเหตุต่างๆ ซึง่ จะเป็นตน้ เหตุทาให้เคร่ืองยิงจรวดเกิดการติดขัดขึนได้ และจะตอ้ งรจู้ กั วิธีการแก้ไขเหตุตดิ ขัดทเ่ี กดิ ขนึ นนั ได้ อยา่ งถกู ต้อง และรวดเรว็ ที่สุด วิชาอาวุธขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-92- 2. การแก้ไขทันทีทันใด คือ การปฏิบัติโดยไม่ชักช้าต่อเครื่องยิงจรวดท่ีเกิดการติดขัดขึน เพื่อให้เคร่ืองยิง จรวดนันสามารถทจ่ี ะใชท้ าการยงิ ไดต้ ามปกตอิ ย่างรวดเร็วทีส่ ดุ เหตุติดขัด และการแกไ้ ข เม่ือเกิดเหตุติดขัดขึนในระหว่างการยิง เหตุติดขัดนันอาจจะเกิดขึนจากลักษณะการติดขัด และมีสาเหตุได้ หลายๆ ประการ ลักษณะการติดขัด และสาเหตุของการติดขัดแต่ละอย่างย่อมมีวิธีการแก้ไขท่ีพลยิงทุกคนควร ยึดถือไวเ้ ป็นหนทางปฏิบตั ดิ ังตอ่ ไปนีคือ ลาดับ เหตุตดิ ขดั สาเหตุ การแก้ไข 1. เข็มแทงชนวน - แหนบเขม็ แทงชนวนหัก หรืออ่อน - เปลยี่ นแหนบเข็มแทงชนวนใหม่ หลวม 2. ลกู จรวดดา้ น - จอกกระทบแตกไม่ตรงกบั ชอ่ งเข็ม - บรรจุลกู จรวดใหม่ใหส้ ลกั ยดึ ลกู จรวด แทงชนวน อยู่ตรงกับบากปากลากล้อง - เข็มแทงชนวนหกั หรือสึกกรอ่ น - เปลย่ี นเข็มแทงชนวนใหม่ - เข็มแทงชนวนตจี อกกระทบแตกไม่ - ทาความสะอาดเครื่องลั่นไก และเข็ม แรงพออาจจะเกิดจากส่วนเครอ่ื งลน่ั ไก แทงชนวนให้สะอาด สกปรกหรอื มไี ขนามนั ตดิ - บากปากลากล้องสึกกร่อน - ส่งซอ่ มโรงงาน - แหนบนกปนื อ่อน หรือหกั - ส่งซ่อมโรงงาน - จอกกระทบแตกเสื่อมคุณภาพ - เปลย่ี นลกู จรวด 3. ลูกจรวดไม่เขา้ ใน - ลากล้องสกปรก - ทาความสะอาดลากล้อง ลากลอ้ ง - จอกกระทบแตกบวม - เปลยี่ นลูกจรวดใหม่ ขอ้ ควรปฏิบัติเมื่อเกิดการตดิ ขัด ในขณะทพ่ี ลยงิ กาลงั ทาการยิงเครอ่ื งยงิ จรวดอยู่นัน เม่ือเครื่องยิงจรวดของตนเกิดการติดขัดขึนไม่ว่าการ ติดขัดนันจะเกิดขนึ ดว้ ยสาเหตุใดๆ ก็ตาม พลยิงจะต้องรีบจัดการแก้ไขโดยทันทีทันใด การแก้ไขโดยทันทีทันใด นนั ให้พลยงิ ปฏิบตั ไิ ปตามลาดบั ดังตอ่ ไปนี คือ 1. อย่าลดเครอ่ื งยิงลงจากบ่า อยู่ในท่ายิง และยงั คงทาการเลง็ ไปยงั เปา้ หมายตามเดิม 2. ใหท้ าการขนึ นกใหม่ เล็งต่อเปา้ หมาย แลว้ ลั่นไกอีกหนึ่งครัง ถ้าอาวุธยังไม่ทางานอีกให้ทาการเลิกบรรจุ ลกู จรวดนดั นนั เสยี แล้วนาเอาลูกจรวดนดั ใหมอ่ อกมาทาการยิงต่อไป 3. เม่ือนาลูกจรวดนัดใหม่มาทาการยิงแล้วยังเกิดการติดขัดอยู่อีก ให้ค้นหาสาเหตุการติดขัด แล้วรีบ พยายามทาการแก้ไขเหตตุ ดิ ขดั ทเี่ กดิ ขนึ นนั ให้ลุล่วงไปด้วยความรวดเร็ว วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (RPG2 และ RPG7)

-93- 5. ลกู จรวดเครือ่ งยงิ จรวดต่อสู้รถถงั RPG7 5.1 ขนาดนาหนัก และขีดความสามารถ 1. ขนาด - ขนาดของลูกจรวด 85 มม. - ลูกจรวดยาว 64.7 ซม. - ดนิ สง่ หลกั ของลูกจรวดยาว 29.2 ซม. 2. นาหนัก - ลกู จรวดหนัก 1.9 กก. - ดนิ สง่ เพ่มิ พร้อมหางนาทิศหนัก 0.4 กก. 3. ขดี ความสามารถ - เปน็ ลกู จรวดชนดิ ระเบิดแรงสงู - เจาะเกราะเหล็กกลา้ (จากจุดกระทบตังฉาก) หนา 33 – 35.5 ซม. 5.2 ส่วนประกอบของลกู จรวด ลกู จรวด RPG7 ขนาด 85 มม. มีชินส่วนประกอบที่สาคัญใหญ่ๆ อยู่ 3 ส่วน คือ หัวรบ, ตัวจรวด และ หางนาทิศ/ดินส่งเพ่มิ 5.3 การทางานของลูกจรวด ลูกจรวด RPG7 ขนาด 85 มม. แบ่งระบบการทางานออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ระบบการทางานของ ตัวจรวด และระบบการทางานของหวั รบ 5.4 ข้อปฏิบัติเก่ียวกับลูกจรวด และการปรนนิบัติบารุงเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง RPG7 ปฏิบัติเหมือนกับ เครอื่ งยงิ จรวดตอ่ สู้รถถงั RPG2 ------------------------------------------- วชิ าอาวุธขนาดเล็ก (RPG2 และ RPG7)

- 94 - 22. ปนื กล QJC 88 ขนาด 12.7 มม. ปืนกล QJC 88 ขนาด 12.7 มม. เป็นปืนกลต่อสู้อากาศยานทีต่ ดิ ต้ังบนสถานีป้อมปืนอัตโนมตั ิ ของ รถถังหลกั 60 VT4 คุณลักษณะและขดี ความสามารถ - ขนาดกว้างปากลากล้อง 12.7 มม. - ความเรว็ ต้น 800 เมตร/วนิ าที กระสนุ เจาะเกราะเพลงิ 1150 เมตร/วินาที กระสุนเจาะเกราะ - อตั ราการยงิ 650 - 750 นัด/นาที - อตั ราการยิง ในการรบ 80 – 100 นัด/นาที - ระยะยิงหวงั ผล เป้าหมายทางอากาศ 1,600 เมตร เปา้ หมายบนพ้นื ดนิ 1,500 เมตร เปา้ หมายแผ่นเกราะบาง 700 เมตร - นา้ หนักปืน 18 กก. - ความยาวปืน 1804 มม. - อายุการใช้งานของลากล้อง 7,000 นดั (รวมลากลอ้ งอะไหล่) - มมุ ยิง (ทางทศิ ) 360 องศา (มุมสงู ) – 4.5 องศา ถึง + 70 องศา ความเร็วในการหมุนป้อมเล็งเกาะ สงู สุด ≥ 30 องศา/วนิ าท,ี ต่าสดุ ≤ 0.05 องศา/วินาที จานวนกระสนุ 60 นดั /กล่อง (เก็บบรรทกุ บนรถถัง จานวน 13 กลอ่ ง) รวม 780 นัด --------------------------------------------- วิชาอาวธุ ขนาดเล็ก (ปืนกล แบบ QJC 88)

- 95 - 23. ปนื กล แบบ 86 (TYPE 86) ขนาด 7.62 มม. ปืนกล แบบ 86 ขนาด 7.62 มม. เป็นปนื กลรว่ มแกน ที่ติดตง้ั ในป้อมปืน รถถังหลัก 60 VT4 คุณลักษณะและขดี ความสามารถ - ขนาดกวา้ งปากลากลอ้ ง 7.62 มลิ ลิเมตร - ความยาว 1097 มิลลเิ มตร - ระยะยิงหวังผล 1,000 เมตร - ระยะยงิ ไกลสดุ 3,500 เมตร - อัตราการยิง ตามวงรอบการทางาน 750 – 850 นดั /นาที - อตั ราการยิง ในการรบ 250 นดั /นาที - ความเรว็ ตน้ 865 เมตร/วนิ าที - น้าหนักปนื 10.6 กโิ ลกรัม อายกุ ารใชง้ านของลากล้อง (รวมลากล้องอะไหล)่ 25,000 นัด รูปรับแรงดนั แกส๊ มี 3 ขนาด : ยงิ ไปแลว้ 3,000 นดั ใช้รทู ่ี 1, ปืนใหม่ใช้รทู ี่ 2, สภาพอากาศไม่ดใี ชร้ ทู ่ี 3 - จานวนกระสนุ 250 นัด/กลอ่ ง (ทเ่ี กบ็ บรรทุกในป้อมรถถัง จานวน 12 กล่อง รวม 3,000 นัด) ( สายกระสุนแบบถาวร ) วชิ าอาวุธขนาดเลก็ (ปืนกล แบบ 86)


วิชา อาวุธขนาดเล็ก

Enter your Authorization ID to access.

Enter
Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook