ห น้ า | 98 น้ำมันเคร่ืองมาก เพราะน้ำมันเคร่ืองส่วนหนึ่งจะรั่วผ่านแหวนลูกสูบได้ง่าย คราบบาง ๆ (Film) ของ น้ำมันเคร่ืองจะไม่มีความหนาแน่นมากพอสำหรับรองรับผิวหน้าของรองเพลา หรือป้องกนั รองเพลาสึกเปน็ รอย และในสภาพภูมิอากาศเย็นหากใช้น้ำมันเคร่ืองท่ีข้นมากไปจะให้การหล่อล่ืนได้ไม่เพียงพอเพราะไหลได้ยาก ชนิ้ สว่ นบางอนั อาจไมไ่ ด้สัมผัสกับน้ำมนั เครอ่ื งเลย 2. การวัดความหนืด (Viscosity Measurement) น้ำมันเคร่ืองยังถูกแบ่งเกรดตามความหนืด ตามลำดับรหัสหมายเลข SAE ของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์(Society of Automotive Engineers) โดยเมื่อ ค่าความหนดื ของนำ้ มันเครื่องมากขึ้นกจ็ ะใชร้ หสั หมายเลข SAE สูงขน้ึ ด้วย เชน่ เ SAE 4 เป็นน้ำมันเกรดเคร่ือง เบา(ความหนดื ต่ำ) ในขณะที่ SAE 90 น้ำมนั เครื่องจะข้น(ความหนืดสงู ) คา่ ความหนดื ของน้ำมนั เคร่อื งสำหรับ เคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนโดยท่ัวไปแล้วจะอยู่ในย่าน SAE 5 (ใช้ในภูมิอากาศหนาวจัดแบบอาร์กติก) ถึง SAE 60 (ใช้ในภูมิอากาศแบบทะเลทราย) พึงระลึกว่าหมายเลข SAE ไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของน้ำมันเคร่ือง หมายเลขแสดงความหนืดของน้ำมันเครื่องถูกกำหนดข้ึนด้วยการอุ่นน้ำมันเคร่ืองให้ร้อนถึงระดับอุณหภูมิท่ี กำหนดแล้วปล่อยให้ไหลผ่านรูมาตรฐานเพื่อวดั อัตราการไหล น้ำมันเคร่ืองท่ีไหลได้เร็วเท่าใดก็จะมีความหนืด ต่ำเท่านั้น เคร่ืองมือที่ใช้ในการทดสอบเรียกว่าเคร่ืองวัดความหนืด (Viscositymeter) น้ำมันเคร่ืองที่มีความ หนืดตำ่ ท่เี หมาะสำหรบั ใชใ้ นสภาพอากาศหนาวจัดจะตามทา้ ยดว้ ยอักษร \"W\" เชน่ SAE 10W 7. น้ำมันเคร่ืองเกรดรวม (Multigrade Oil) เป็นน้ำมันเครื่องท่ีผลิตข้ึนมาสำหรับใช้กับสภาพภูมิอากาศท่ัวไป เพราะว่าสามารถมีสภาพเป็นน้ำมันความหนืดต่ำในสภาพอากาศหนาวเยน็ และมสี ภาพเป็นน้ำมันความหนืดสูง ในสภาพอากาศร้อน ค่าความหนืดจึงประกอบด้วยตัวเลขสองชุด เช่น 10W-30 น้ำมันเครื่องท่ีมีความหนืด 10W-30 จะมีความหนืดต่ำเทา่ กับน้ำมันเครือ่ งเบอร์ 10W ที่อุณหภมู ิ 0๐F (-17.7 ๐C) 8. น้ำมันเคร่ืองขจัดคราบสกปรก (Detergent Oils) น้ำมันเครื่องที่ผสมสารปรับแต่งคุณภาพที่ช่วยรักษา ความสะอาดเคร่ืองยนต์ดว้ ยการป้องกันการจับตัวของคราบเหนียว น้ำมันท่ีมีรหัส SE และ SF ท้ังหมดเป็น น้ำมนั เครือ่ งขจัดคราบสกปรก ------------------------------ ตอนที่ 3 ปม๊ั น้ำมันเครอ่ื ง OIL PUMP ………………………………………………. 9. กล่าวทั่วไป ป๊ัมน้ำมันเครื่องมีตดิ ตั้งท้ังทางดา้ นในหรือด้านนอกของห้องข้อเหวยี่ ง ขึ้นอยู่กับการออกแบบ เครื่องยนต์ ปกติแล้วจะติดตั้งอยู่ในลักษณะท่ีให้สามารถรับแรงขับจากเฟืองตัวหนอนหรือ Spiral Gear โดยตรงจากเพลาลูกเบีย้ ว โดยทัว่ ไปแลว้ ปม๊ั น้ำมนั เครือ่ งจะเปน็ แบบเฟืองหรือแบบโรเตอร์ 10. ป๊ัมนำ้ มนั เครือ่ งแบบโรเตอร์ (Rotor Type Oil Pump)(ภาพ 8-4) ให้ดูคำอธิบายในขอ้ 5-21 สำหรบั การ ทำงานของป๊มั นำ้ มันเครอ่ื งแบบโรเตอร์
ห น้ า | 99 ภาพ 8-4 ปมั๊ นำ้ มนั เครอื่ งแบบโรเตอร์ 11. ป๊ัมน้ำมันเครื่องแบบเฟือง (Gear Type Oil Pump)(ภาพ 8-5) ให้ดูคำอธิบายในข้อ 5-23 สำหรับการ ทำงานของป๊มั น้ำมันเครอ่ื งเฟอื ง 12. ตะแกรงกรองและหัวดูดน้ำมันเคร่ือง(Oil Strainer and Pickup)(ภาพ 8-6) โรงงานผู้ผลิตเครื่องยนต์ แบบเรียงแถวเดี่ยว กับแบบตัว V ส่วนใหญ่ จะติดตะแกรงกรองอย่างน้อยหนึ่งอันในระบบหล่อลื่น ปกติ ตะแกรงกรองทำด้วยลวดทองเหลืองสานเปน็ ตะแกรงตาละเอียดท่ีติดต้ัง อยู่กับปั๊มน้ำมันเคร่ืองตรงปลายท่อดูด ท่อดูดน้ำมันเครื่องขันเกลียวติดเข้ากับช่องน้ำมันเข้าของปั๊มหรืออาจเป็นแบบหูติดขันด้วยสลักเกลียว (Bolted Flange) ตะแกรงกรองแบบติดอยู่กับท่ี (Fixed Type Strainer) จัดอยู่ในตำแหน่งท่ีแน่ใจได้ว่าดดู น้ำมนั เคร่ือง ได้ตลอดเวลา เครื่องยนต์บางเครื่องใช้ท่อดูดแบบพลิกขึ้นลงจากปั๊มน้ำมันเครื่องได้ โดยออกแบบให้ดูด นำ้ มนั เคร่ืองตรงส่วนบนเพ่ือปอ้ งกนั ตะกอนถกู ดูดเข้าปมั๊ น้ำมนั เครือ่ ง
ห น้ า | 100 ภาพ 8-5 ปั๊มนำ้ มนั เคร่ืองแบบเฟือง ภาพ 8-6 หวั ดดู นำ้ มนั เครอื่ งและตะแกรงกรอง 13. หม้อกรองน้ำมันเคร่ือง (Oil Fillters) 1. กล่าวท่ัวไป (ภาพ 8-7) หม้อกรองน้ำมันเครื่องทำหน้าที่ขจัดส่ิงสกปรกท่ีติดมากับน้ำมันเครื่องขณะท่ี ไหลหมุนเวยี นผา่ นเครอื่ งยนต์ โดยหมอ้ กรองจะถกู ตดิ ตั้งอยูภ่ ายนอกเครือ่ งยนตแ์ ละเปล่ยี นใหม่ไดง้ ่าย 2. รูปแบบของหม้อกรอง (Filter configuration)(ภาพ 8-7) หม้อกรองน้ำมันเคร่ืองมีอยู่สองแบบคือ แบบเปลีย่ นไสก้ รองได้ กับแบบกระปอ๋ งผนึก 2.1 แบบเปลี่ยนไส้กรอง (Cartridge Type) แบบมีไส้กรองใส่อยู่ในหม้อกรองท่ีเป็นเรือนถาวร น้ำมันเครื่องท่ีถูกปั๊มด้วยแรงดันสูงไหลเข้าในหม้อกรองโดยผ่านทางด้านนอกของไส้กรองเข้าไปส่วนตรงกลาง แล้วไหลออกจากหมอ้ กรอง การเปล่ยี นไสก้ รองทำได้โดยเปิดฝาหม้อกรองออก
ห น้ า | 101 2.2 แบบกระป๋องผนึก (Sealed Can Type) แบบน้ีไส้กรองกับตัวเรือนหม้อกรองผนึกติดกัน น้ำมันเคร่อื งถูกปั๊มเข้าหมอ้ กรอง โดยไหลเข้าทางด้านนอกของไส้กรองเข้าไปยังส่วนตรงกลางแล้วไหลออกจาก หม้อกรอง หม้อกรองแบบน้ีจะใช้วิธีขันเกลียวติดกับฐานติดต้ังหม้อกรองและถอดเปลี่ยนโดยการหมุนคลาย ออก ลน้ิ ไหลลดั ภาพ 8-7 หมอ้ กรองนำ้ มันเครือ่ ง 3. วสั ดุทำไสก้ รอง (Filter Medium Materials)(ภาพ 8-8) 3.1 วัสดุทำไส้กรองท่ีนิยมกันมากที่สุดสองชนิดคือ ใยฝ้าย กับกระดาษเรซิน วัสดุเหล่าน้ีจะใช้ คั่นกลางระหว่างแผน่ โลหะเจาะรสู องแผน่ ทใ่ี ช้ปะกบอยู่แต่ละข้าง 3.2 ไส้กรองใช้งานหนักบางแบบใช้แผ่นโลหะวางซ้อนกัน โดยให้มีช่องว่างเพียงเล็กน้อย สิ่ง แปลกปลอม จะติดอยู่ทางดา้ นนอกของไสก้ รองในขณะที่นำ้ มนั เครอื่ งไหลแทรกไประหวา่ งช้นั แผ่นโลหะ
ห น้ า | 102 ภาพ 8-8 วสั ดทุ ำไสก้ รอง 4. รูปแบบของระบบกรองน้ำมันเคร่ือง (Fillter System Cofigurations)(ภาพ 8-9) มีรูปแบบของ ระบบกรองน้ำมันเคร่ืองอยู่สองระบบ คือระบบไหลผ่านท้ังหมด กับระบบไหลลัด ทั้งสองแบบมีลักษณะการ ทำงานดังน้ี. ภาพ 8-9 ลกั ษณะการวางตวั ระบบกรองนำ้ มนั เครื่อง
ห น้ า | 103 4.1 ระบบไหลผ่านทั้งหมด (Full-Flow System)(ภาพ 8-9,A) เป็นแบบท่ีได้รับความนิยมสูงสุด สำหรับเคร่ืองรถยนต์ในปัจจุบัน น้ำมันเคร่ืองท้ังหมดในระบบน้ีจะไหลผ่านไส้กรองก่อนเข้าเคร่ืองยนต์ เมื่อใช้ ระบบน้ีจำเป็นต้องติดตั้งลิ้นไหลลัด(Bypass Valve) ไว้ท่ีหม้อกรองน้ำมันเครื่อง เพื่อยอมให้น้ำมันเคร่ืองไหล ลดั ไปเขา้ ระบบโดยไมต่ ้องผ่านไสก้ รองในกรณีทีไ่ ส้กรองอดุ ตัน ท้ังนี้เพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หเ้ ครื่องยนตข์ าดน้ำมันเครอ่ื ง หล่อลื่น 4.2 ระบบไหลลัด (Bypass System)(ภาพ 8-9,B) ระบบนี้จะแบ่งน้ำมันเคร่ืองบางส่วนท่ีถูกส่งไป หล่อล่ืนเครื่องยนตแ์ ล้ว ให้ไหลเข้าหม้อกรองก่อนปล่อยกลับสู่อ่างน้ำมันเคร่ือง ระบบน้ีจะส่งน้ำมันไปหล่อลื่น เครือ่ งยนตโ์ ดยไม่ไดก้ รองกอ่ น 14. เครอื่ งระบายความรอ้ นน้ำมันเคร่อื ง (Oil Coolers) 1. วัตถุประสงค์ ลักษณะของรถยนต์บางแบบไม่มีอากาศไหลผ่านรอบอ่างน้ำมันเคร่ืองได้มากพอ เพ่ือ พัดพาเอาความร้อนออกไป เคร่ืองยนต์ที่ใช้งานหนักและที่ใช้ในทะเลทรายต้องสามารถระบายความร้อนออก จากน้ำมันเครื่องมาก ว่าการถูกพัดพาด้วยอากาศที่ไหลผ่านตามปกติ รถยนตเ์ หล่าน้ีจึงต้องตดิ ต้งั เครื่องระบาย ความร้อนนำ้ มนั เคร่ือง 2. เคร่ืองปรับอุณหภูมิน้ำมันเคร่ือง(Oil Temperature Regulator) (ภาพ 8-10) ทำหน้าท่ีป้องกัน ไม่ให้อุณหภูมิน้ำมันเคร่ืองข้ึนสูงมากไปเมื่อใช้งานในสภาพภมู ิอากาศร้อน และช่วยให้อุณหภูมิน้ำมันเคร่ืองข้ึน เร็ว เมื่อเริ่มติดเคร่ืองในสภาพอากาศหนาวเย็น ตัวเครื่องปรับอุณหภูมิน้ำมันเคร่ืองจะทำงานดว้ ยความร้อน ของน้ำในระบบระบายความร้อน ซ่ึงช่วยให้มีการ ระบายความร้อนออกได้ดีกว่า การแพร่กระจายความ ร้อนออกจากอ่างน้ำมันเครื่อง ตัวเคร่ืองปรับอุณหภูมิ ประกอบด้วยหลอดแกนกลางและเรือน น้ำมนั เครื่องจะ ไหลผ่านหลอด ส่วนที่เป็นแกนซึ่งทำให้มีรูปทรงให้ น้ำมันเคร่ืองสัมผัสมากที่สุด เครื่องปรับอุณหภูมิ น้ำมันเครื่องจะติดกับเครื่องยนต์เพื่อให้น้ำมันไหลผ่าน หลังจากผ่านป๊ัมน้ำมันเคร่ืองมาแล้ว เม่ือน้ำมันไหลผ่าน เครื่องปรับอุณหภูมิออกไปนั้นจะร้อนหรือเย็นข้ึนอยู่กับ อณุ หภมู ิของนำ้ ในระบบระบายความรอ้ น 3. เคร่ืองระบายความร้อนน้ำมันเครอื่ ง (Oil Cooler) (ภาพ 8-11) เครือ่ งระบายความรอ้ นนำ้ มนั เคร่ืองแบบทใ่ี ชก้ ับยานยนต์สงคราม ประกอบด้วยหม้อ ระบายความร้อนที่อากาศไหลผา่ นเมือ่ รถเคลื่อนที่ หรอื ภาพ 8-10 เครอ่ื งควบคมุ อณุ หภมู นิ ้ามนั เครอ่ื ง มพี ัดลมระบายความร้อน นำ้ มันเครือ่ งไหลออกจากเครือ่ ง มาเขา้ เครอ่ื งระบายความรอ้ นแล้วไหลกลับเข้าอ่างหรอื ถัง นำ้ มนั เคร่ืองเครื่องระบายความรอ้ นจะทำหน้าทีร่ ะบาย ความร้อนเท่านน้ั โดยจะไมท่ ำหน้าทีอ่ ุน่ นำ้ มันเครอ่ื งเมอื่ เคร่อื งยงั เยน็ อยู่
ห น้ า | 104 ภาพ 8-11 เคร่ืองระบายความรอ้ นน้ำมนั เคร่อื ง 15. เหลก็ วัดน้ำมนั เครือ่ ง(Oil Level Indicator) (ภาพ 88-12) ปกติเปน็ แบบใบ ประกอบด้วยก้านส่วนปลายที่เรียกว่า ก้านจุ่ม (Dip stick) ใช้เสียบผ่านหลอดลงไปในห้องข้อเหวี่ยง ท่ีส่วน ปลายมีขีดเครื่องหมายแสดงว่ามีน้ำมันเครื่องเต็ม หรืออยู่ในระดับต่ำ, ต้องเติมน้ำมันเครื่องเท่าใด การวัดทำโดยดึงเหล็กวัดน้ำมันเคร่ืองออก ดรู ะดับน้ำมนั เครื่องที่ติดปลายเหลก็ วดั ขน้ึ มา ภาพ 8-12 เหลก็ วดั น้ามนั เครอ่ื ง 16. เคร่ืองควบคุมความดัน (Pressure Regulator)(ภาพ 8-13) ป๊ัม น้ำมันเคร่ืองทำให้มคี วามดนั ของนำ้ มันเครื่องสงู กว่าท่ีตอ้ งการ ถ้าไมม่ ีการควบคมุ ความดันที่สูงกวา่ นีจ้ ะทำให้มี ความส้นิ เปลืองนำ้ มันเคร่ือง เนอ่ื งจากมนี ำ้ มนั เครอื่ งอยู่ทีผ่ นังกระบอกสบู มากไปและร่วั ไหลออกทางซลี กนั ร่ัว ภาพ 8-13 เครอ่ื งปรบั ความดนั น้ามนั เครอ่ื ง เคร่ืองปรับความดันแบบล้ินกับแหนบจึงถูกติดต้ังเข้ากับระบบหล่อล่ืน เพื่อควบคุมความดันของป๊ัมมันเคร่ือง นจะเปิดออกเมื่อความดนั ขึ้นสูงถึงระดบั ท่กี ำหนดด้วยแรงดนั แหนบ ทำใหน้ ้ำมันเคร่ืองส่วนหนึ่งไหลออกกลบั สู่ อา่ งนำ้ มันเครือ่ ง ตอนที่ 4 ระบบหลอ่ ลนื่ แบบต่าง ๆ TYPE OF LUBRICATION SYSTEMS
ห น้ า | 105 17. ระบบวิดสาด (Splash System)(ภาพ 8-14) ระบบหล่อล่ืนแบบวิดสาดแม้จะยังมีใช้อยู่ในเครื่องยนต์ ขนาดเล็ก แตร่ ะบบน้ีก็ไม่มีใชก้ ับเครื่องรถยนตอ์ ีกแล้ว ในระบบหล่อล่ืนแบบวิดสาดน้ีเมื่อก้านสูบหมุนลงแต่ ละครั้งใบวิดจะจุ่มลงไปในน้ำมันเคร่ืองและสาดน้ำมันเครื่องขึ้น ทำให้ น้ำมันเคร่ืองกระจัดกระจายไปหล่อล่ืนช้ินส่วนต่าง ๆ มีรูเจาะไว้ท่ีก้านสูบ แตล่ ะอันจากใบวดิ ถึงรองเพลาเพ่อื ใหแ้ น่ใจว่านำ้ มนั เคร่อื งเขา้ หลอ่ ล่ืนถึงรอง เพลา ระบบน้ีไม่มีความแน่นอนสำหรับเคร่ืองรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เหตุผล ประการหนึ่งคือการเปล่ียนแปลงของระดับน้ำมันเครื่องในห้องข้อเหวี่ยงจะ ทำให้เครื่องยนต์ได้รับการหล่อลื่นไม่เท่ากัน เมื่อระดับน้ำมันเคร่ืองมีสูงน้ำ ให้มีการหล่อลื่นมากไปเกิดการส้ินเปลืองน้ำมันเคร่ือง และเมื่อระดับ น้ำมนั เครอื่ งตำ่ เพยี งเลก็ น้อยกจ็ ะหลอ่ ลืน่ ไดไ้ ม่เพียงพอ 18. ระบบวิดสาดร่วมกับแรงดัน (Combination Splash And Force- Feed System)(ภาพ 8-15) ในระบบร่วมน้ำมันเครอื่ งถกู จา่ ยใหช้ ิน้ สว่ นบาง ช้นิ ด้วยการวดิ สาดและจา่ ยไปยงั ชนิ้ สว่ นอืน่ ดว้ ยแรงดนั จากปัม๊ ในหอ้ งขอ้ เหว่ยี งผ่านทางท่อทางน้ำมนั เคร่อื ง ปกตริ องเพลาขอ้ เหวี่ยง ภาพ 8-14 ระบบวดิ สาด (Main Bearing) และรองเพลาเพลาลกู เบยี้ ว (Camshaft Bearing) ได้รับแรงดันน้ำมันเคร่ือง ในขณะท่ีก้านสูบติดใบวิดเพื่อวิดสาดน้ำมันเคร่ืองไปยังส่วนอ่นื ๆ บางแบบมีหัวฉีด ใต้ก้านสูบแต่ละอันโดยมีแรงดันน้ำมันเคร่ืองจากปั๊มฉีดออกอยู่ตลอดเวลา เม่ือความเร็วเครื่องยนต์สูงขึ้น น้ำมันเคร่ืองก็ถูกฉีดออกแรงมากข้ึน น้ำมันที่ฉีดออกมีแรงมากพอท่ีปะทะกับใบวิดสาดโดยตรง เพ่ือให้มีการ หลอ่ ลื่นไปยังลูกสบู และรองเพลาก้านสูบได้เพียงพอเมื่อเครอื่ งยนตม์ คี วามเร็วสูง ถา้ เครื่องยนต์แบบมลี ้นิ อยู่ที่ฝา สบู ใช้ระบบหล่อลืน่ แบบร่วมกจ็ ะหล่อล่นื กลไกเปิดปดิ ลิ้นดว้ ยแรงดันจากปั๊มน้ำมันเครอ่ื ง ภาพ 8-15 ระบบหลอ่ ล่นื แบบวดิ สาดรว่ มกบั แรงดนั 19. ระบบหล่อล่ืนแบบแรงดัน (Force-Feed Lubrication System)(ภาพ 8-16) ระบบนี้ให้แรงดัน น้ำมันเคร่ืองเพื่อหล่อล่ืนได้อย่างสมบูรณ์ น้ำมันเคร่ืองจะถูกสูบด้วยป๊ัมน้ำมันเคร่ืองจากห้องข้อเหวี่ยงไปยัง รองเพลาหลัก และรองเพลาเพลาลูกเบ้ียว ระบบน้ีจะไม่เหมือนระบบร่วม(ข้อ 8-18) ท่ี รองเพลาก้านสูบก็ ได้รับการหล่อลื่นด้วยแรงดันน้ำมันเครื่องจากป๊ัมด้วย ท่อทางน้ำมันเครื่องถูกเจาะในเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อให้นำ นำ้ มันเคร่อื งไป ยังรองเพลาเพลาข้อเหวี่ยง มีรูจ่ายน้ำมันเคร่ืองจากข้อรองเพลาหลักไปยังข้อรองเพลาก้านสูบ ในเครื่องยนต์ บางแบบปากรูเหลา่ นี้จะตรงกันคร้ังหนงึ่ ในการหมนุ แต่ละรอบ และเครื่องยนตบ์ างแบบมีร่องรอบรองเพลาหลัก เพ่ือให้น้ำมันเคร่ืองไหลเข้ารูในเพลาข้อเหว่ียงได้ตลอดเวลา น้ำมันเครื่องท่ีมีแรงดันที่หล่อลื่นรองเพลาก้านสูบ
ห น้ า | 106 จะไหลไปหล่อลืน่ ลูกสูบและผนงั กระบอกสูบดว้ ยการพน่ ออกทางรูท่เี จาะไว้ตรงตำแหน่งที่เหมาะสม ระบบหล่อ ลืน่ แบบน้ีมใี ช้ในเคร่อื งยนต์ทัง้ หมดที่ที่ใช้สลักลูกสูบแบบก่ึงลอยตวั (Semifloating Piston Pins)(ข้อ 3-7) ภาพ 8-16 ระบบหล่อลน่ื แบบแรงดนั ภาพ 8-17 ระบบหลอ่ ลน่ื แบบแรงดนั เตม็ ท่ี 20. ระบบหล่อล่ืนแบบแรงดันเต็มท่ี (Full Force-Feed Lubrication System)(ภาพ 8-17) ในระบบหล่อ ล่นื แบบแรงดันเต็มที่รองเพลาทุกอันที่กลา่ วถงึ ในข้อ 8-18 ได้รบั การหลอ่ ล่นื ดว้ ยน้ำมันเครื่องที่มแี รงดัน รวมท้ัง รองเพลาหลักรองเพลาก้านสูบ รองเพลาเพลาลูกเบ้ียว และกลไกเปิดปิดลิ้นนอกจากนี้ ระบบหล่อล่ืนแบบ แรงดันเต็มท่ียังส่งน้ำมันเคร่ืองท่ีมีแรงดันไปหล่อล่ืนลูกสูบและสลักลูกสูบ ผ่านทางรูท่ีเจาะไว้ตรงก้านสูบ และ ด้วยการทำรูน้ำมันเคร่ืองจากรองเพลาก้านสูบไปยังรองเพลาสลักก้านสูบ และยังให้การหล่อล่ืนลูกสูบและผนัง กระบอกสูบด้วย ในปัจจุบันได้ใช้การหล่อลื่นด้วยระบบน้ีใช้ในเครื่องรถยนต์ทั้งหมดท่ีใช้สลักก้านสูบแบบก่ึง ลอยตัว (ข้อ 3-7)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109