Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับกำลังพลในกองทัพไทย (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒)

ภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับกำลังพลในกองทัพไทย (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒)

Published by qacavalry, 2021-01-12 07:10:45

Description: ภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับกำลังพลในกองทัพไทย (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒)
เขียนและเรียบเรียงโดย พ.อ. ระวี โรจนวงศ์

Search

Read the Text Version

กรมยทุ ธหศนกึ ังษสาอื ทเผหายรแบพกรค่ ๒ว๕า๖ม๑รู้ ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน ส�ำ หรบั กำ�ลังพลในกองทพั บกไทย (ฉบับปรับปรุง ครัง้ ที่ ๒) เขียนและเรยี บเรยี งโดย พ.อ.ระวี โรจนวงศ์ ศนู ยพ์ ัฒนาหลกั นยิ มและยทุ ธศาสตร์ ISBN 978-616-8035-45-0 กรมยุทธศกึ ษาทหารบก





ภาษาอังกฤษพนื้ ฐานส�ำ หรับก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรับปรุง ครัง้ ที่ ๒) พิมพ์ครั้งที่ 1 : พ.ศ. 2555 จำ�นวนพิมพ์ : 1,000 เลม่ พ.อ.อนันต์ แกว้ ด�ำ พมิ พ์คร้งั ท่ี 2 : พ.ศ. 2559 จ�ำนวนพมิ พ์ : 1,200 เล่ม พ.อ.หญงิ วราลี สทิ ธิเดชะ พมิ พค์ รัง้ ท่ี 3 : พ.ศ. 2561 จ�ำนวนพิมพ์ : 1,150 เล่ม พ.ท.วชริ าวทิ ย์ เขตตลาด แปลเรียบเรยี งโดย : พันเอก ระวี โรจนวงศ์ พ.ท.หญิง จันทิรา นลิ รัตน์ คณะผ้จู ดั ท�ำ พล.ท.ณฐพนธ์ ศรีสวสั ดิ์ ร.ท.หญิง ทับทิม จารุเศรนี จ.ส.อ.วฒั นา แนบเนยี น พล.ต.สมบูรณ์ ดรี อด จ.ส.อ.หญิง รตั นาพร ขลุ่ยทอง พล.ต.พรเทพ วชั รวสิ ทุ ธ์ิ น.ส.จฑุ ามาศ แกว้ สงา่ พล.ต.วสิ ันติ สระศรดี า พล.ต.สดับพงษ์ จันทุรัตน์ พ.อ.สามารถ คงสาย พ.อ.กติ ติชัย พฤกษ์พิพฒั น์เมธ พ.อ.เฉลมิ เกียรติ ชาติมงคลวฒั น์ ข้อมูลทางบรรณานกุ รมของส�ำนกั หอสมุดแหง่ ชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ระวี โรจนวงศ.์ ภาษาอังกฤษพ้นื ฐานสำ�หรบั ก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย .-- พิมพ์คร้งั ที่ 3.-- กรงุ เทพฯ : ศูนยพ์ ฒั นาหลกั นยิ มและยทุ ธศาสตร์ กรมยุทธศกึ ษาทหารบก สงั กัด กระทรวงกลาโหม, 2561. 264 หน้า. 1. ภาษาองั กฤษ -- การใชภ้ าษา. I. ช่อื เร่ือง. 428.24 ISBN 978-616-8035-45-0 จดั พิมพแ์ จกจา่ ยโดย ศนู ย์พฒั นาหลักนิยมและยุทธศาสตร์ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก 41 ถนนเทอดด�ำริ เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ 10300 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2241 4039 จดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ที่ [email protected] เว็บไซต์ http://www.cdsd-rta.net

ค�ำน�ำ เพ่ือตอบสนองนโยบายของกองทัพบกท่ีต้องการพัฒนาทักษะการใช้ ภาษาอังกฤษของกำ�ลังพลโดยท่ัวไป รวมถึงในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ของประเทศในกลมุ่ อาเซยี นนน้ั สง่ิ หนง่ึ ทจ่ี ะชว่ ยใหเ้ กดิ การพฒั นาความสมั พนั ธแ์ ละ ความรว่ มมอื ไดส้ �ำ เรจ็ เปน็ รปู ธรรม ไดแ้ ก่ ความรแู้ ละทกั ษะดา้ นการใชภ้ าษาองั กฤษ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก จงึ ไดจ้ ดั พมิ พห์ นงั สอื ภาษาองั กฤษพน้ื ฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลงั พล ในกองทพั บกไทยขน้ึ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2555 จ�ำ นวน 1,000 เลม่ และในปี พ.ศ. 2559 จำ�นวน 1,200 เล่ม ซ่ึงได้รับความสนใจจากกำ�ลังพลเป็นจำ�นวนมาก และได้รับ ข้อคิดเห็นรวมถึงข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ ดังน้ัน กรมยุทธศึกษาทหารบก จึงได้นำ�ข้อเสนอแนะมาพัฒนาปรับปรุงแก้ไขเน้ือหาภาษาอังกฤษพ้ืนฐานสำ�หรับ กำ�ลังพลในกองทัพบกไทย และจัดพิมพ์ข้นึ อีกคร้งั หน่งึ เพ่อื เป็นค่มู ือในการศึกษา ความรภู้ าษาองั กฤษใหก้ บั ก�ำ ลงั พลในกองทพั บกไทย และน�ำ ไปใชอ้ า้ งองิ ในการปฏบิ ตั ิ หนา้ ทอ่ี นั จะเกดิ ประโยชนใ์ นการท�ำ งานตอ่ ไป หากมีข้อแนะนำ� ติชมประการใด สามารถเสนอแนะได้ท่ี กองพัฒนา หลกั นยิ ม ศูนย์พัฒนาหลกั นยิ มและยุทธศาสตร์ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก เลขท่ี 41 ถนนเทอดด�ำ ริ เขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร 10300 หรอื ท่ี [email protected] โทร. 0 2241 4039 พลโท (ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์) เจ้ากรมยุทธศกึ ษาทหารบก



ศูนยพ์ ัฒนาหลกั นยิ ม และยทุ ธศาสตร์ กรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก ๒๕๕๕ ห น้ า | 10 กติ ตกิ รรมประกาศ วัตถุประสงค์หลักในการเขียนหนังสือเล่มน้ี เพ่ือเป็นแนวทางให้ กาลังพลในกองทัพ เข้าใจ และรู้จักภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น โดยมุ่งไปท่ีการ พัฒนาวิธีการสอบเพ่ือให้ได้คะแนน มิได้มุ่งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ซึ่งหากพดู ตามหลกั วชิ าการแล้วคือมุ่งไปที่การพัฒนาการในด้านการส่ือสาร มากกว่าการพัฒนาด้านโครงสร้างภาษา ดังนั้นหนังสือเล่นน้ีจึงประกอบ ด้วยกัน 5 บท โดยในบทแรกเป็นการปูพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษ บทท่ีสอง เป็นคาศพั ท์ทค่ี วรรู้ โดยเฉพาะคาศพั ท์ทางทหาร (ต้องขอกราบขอบพระคุณ ท่าน พ.อ.ยุทธ์นเรศ พัทธะเศรษฐี ที่กรุณาให้ความรู้และให้ข้อมูลจาก พจนานุกรมศัพท์และคาย่อด้านความมั่นคง หากใครต้องการรายละเอียด มากกว่าน้ี สามารถซื้อหาหนงั สือพจนานุกรมศัพท์และคาย่อด้านความม่ันคง ได้ รวมถึง พ.อ.กัณห์ สถิตยทุ ธการ ที่กรุณาช่วยตรวจสอบความถูกต้องของ การใช้ภาษาองั กฤษทางทหารในหนังสอื ฉบบั นี้) บทที่สามเป็นเร่ืองการสอบ ภาษาองั กฤษสาหรบั บคุ ลากรของกองทัพ บทที่ส่ีเป็นวิธีในการฝึกฝนตนเอง ให้มีทกั ษะภาษาเพิม่ มากขึ้น ซึง่ ในบทนี้ผ้เู ขียนใชป้ ระสบการณ์ของตัวเองมา เ ล่ า สู่ กั น ฟั ง ส่ ว น ใ น บ ท สุ ด ท้ า ย เ ป็ น วิ ธี ก า ร สอ บ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ แ บ บ ออสเตรเลียน โดยเฉพาะ IELTS (เพราะผู้เขียนได้มีโอกาสไปศึกษายัง ประเทศนี้ จึงสามารถเล่าประสบการณ์ตรงให้อา่ นกันได้) สุดทา้ ยตอ้ งขอขอบพระคุณผบู้ งั คับบัญชาทกุ ฝ่าย ท่ีกรุณาให้โอกาส ในการจดั ทาหนงั สอื เล่มนี้ หากมขี อ้ ผิดพลาดประการใดผู้เขียนขอน้อมรับไป แก้ไข หากผู้อ่านพบข้อผิดพลาด หรือมีข้อคิดเห็นประการใด กรุณาแจ้ง กลับมายังผู้เขียนที่ ศพย.ยศ.ทบ. หรือ [email protected] จักเป็นความ กรณุ าอยา่ งย่งิ พันเอก ระวี โรจนวงศ์ ผู้เขียน มกราคม 2555 ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานสาหรับกาลังพลในกองทบั กไทย หนา้ ฌ

สารบัญ 1 3 บทที่ 1 : ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดยี ว 4 Noun (คำ�นาม) 4 Pronoun (ค�ำ สรรพนาม) 4 Verb (ค�ำ กริ ิยา) 5 Adjectives (คุณศพั ท)์ 5 Adverb (วิเศษณ์ หรอื กริยาวิเศษณ)์ 6 Preposition (ค�ำ บพุ บท) 6 Conjunction (คำ�สันธาน) 9 Interjection (คำ�อุทาน) 10 Sentence (ประโยค) 10 Phrase (วล)ี 11 Clause (อนุประโยค) 11 Simple Sentence 13 Compound Sentence 14 Complex Sentence 14 Complex Sentences/Adjective clauses 17 Compound-Complex Sentence 17 19 บทท่ี 2 : ค�ำ ศพั ทท์ ค่ี วรร ู้ 24 การแนะนำ�ตนเอง 26 ยศทหารบก ไทย-สหรัฐฯ 28 ยศทหารเรอื ไทย-สหรฐั ฯ 29 ยศทหารอากาศ ไทย-สหรัฐฯ 33 ยศต�ำ รวจไทย เหลา่ ทหารบกไทย เหล่าทหารเรือไทย

เหลา่ ทหารอากาศไทย 36 เครืิอ่ งหมาย และเขม็ วิทยฐานะของกองทพั บก 37 เครอ่ื งหมาย และเข็มวทิ ยฐานะของกองทพั เรอื 42 เคร่ืองหมาย และเข็มวทิ ยฐานะของกองทพั อากาศ 45 การล�ำ ดับเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ไทย 48 พิธี อนุสาวรยี ์ และ ธงทหาร 55 คุณวุฒิปริญญาตรที ปี่ ระสาทโดย สถาบันการศกึ ษาทางทหาร 58 หน่วยท่ัวไป 60 หน่วยกำ�ลังรบทหารบก - ผบู้ ังคบั หนว่ ย และฝ่ายอ�ำ นวยการ 61 เครอ่ื งหมาย และเคร่ืองแบบทหาร 71 การฝกึ ศึกษา และเอกสารของฝา่ ยอ�ำ นวยการ 80 คำ�ศัพทเ์ กย่ี วกบั การฝึก 88 คำ�บอกค�ำ สั่งพ้นื ฐาน 92 ค�ำ สงั่ การรบ ระดบั หมู่/หมวด 107 ค�ำ สั่งการรบ ระดบั กองรอ้ ย 112 ค�ำ สั่งการรบ ระดบั กองพนั 119 แบบฟอร์ม แผน/ค�ำ สั่งยทุ ธการของกองทพั บกสหรัฐฯ 126 สรปุ ย่อ คำ�อธบิ ายแบบฟอรม์ ค�ำ ส่งั ยุทธการ ทบ.ไทย 129 แผนยทุ ธการ/ค�ำ ส่ังยุทธการ 136 คำ�ศพั ท์เกี่ยวกับอาวธุ และยุทธภัณฑ ์ 141 ค�ำ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั การสนบั สนนุ การชว่ ยรบ (สสช.) หรอื การชว่ ยรบ (ชร.) 153 คำ�ศพั ทเ์ กี่ยวกบั สง่ิ อ�ำ นวยความสะดวกในที่ต้งั ทางทหาร 159 ค�ำ ศัพท์เก่ยี วกับลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ลมฟา้ อากาศ และสถานที่/ 162 ส่งิ ที่มนุษยส์ รา้ งขึ้น ค�ำ ศัพท์ทวั่ ไป 175 บทที่ 3 : การสอบภาษาอังกฤษส�ำ หรับบคุ ลากรของกองทพั 186 การสอบ TOEFL 188 การสอบ TOEFL โดยใชค้ อมพวิ เตอร ์ 190

การสอบ IELTS 192 การสอบภาษาอังกฤษทจ่ี ำ�กดั เฉพาะในวงการทหารในประเทศไทย 195 การสอบ ECL 195 การสอบ ADFELPS 197 การสอบภาษาอังกฤษทมี่ ุ่งวดั ความสามารถในการสือ่ สาร 200 บทท่ี 4 : วธิ ีการฝกึ ฝนภาษาอังกฤษดว้ ยตนเอง 202 การฟงั 204 การอา่ นและการเขยี น 205 การพูด 207 บทที่ 5 : วธิ ีการสอบภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลยี น 208 การสอบ ADFELPS 209 IELTS 218 ประวตั ิผู้เขียน 252

ภาษาองั กฤษพ้ืนฐานส�ำ หภรับาษกา�ำ อลงั กพฤลษในพก้ืนอฐงาทนัพสบําหกรไทับยกาํ (ลฉังบพบั ลปใรนบั กปอรงงุทพัครบ้ังกทไี่ท๒ย) บทที่ 1 : ภาษาอังกฤษงา ยนดิ เดียว การทท่ีเเี่ รราาจจะะสสาามมาารรถถเเรรยี ยี นนรรแู แู้ ลละะเเขขาา้ ใใจจภภาาษษาาออังงั กกฤฤษษไไดดนน้ ั้นนั้ ไไมมใใ่ ชชเเ่ รร่ืออ่ื งงยยาากกเย็น วเพาเรราาะใวชา่ เครวาใาชมค้ รูทวาามงรหทู้ ลาักงหไวลยกั าไกวรยณาก รณ(G์ (rGamrammamr)arเ)พเียพงยี แงคแ ค2่ 02%0%คคววาามมรูรเกเู้ ก่ียยี่ ววกกับบั ความหมายของคําศัพท (Vocabulary) 20% สวนที่เหลืออีก 60% เปนการฝกฝน การใชทักษะ ดังนัน้ เราจงึ ตอ งพยายามผลกั ดนั (เนนคําวา ผลักดันเลย) ใหตนเองอยู ในสภาพแวดลอ มที่ตองใชภ าษาองั กฤษ (English Context) ซึง่ เปนวิธีเดียวกันกับท่ี เดก็ เรยี นรทู ีจ่ ะพูดและเขาใจภาษามนุษยน ั่นเอง การท่ีเราจะทําอยางนั้นได...ส่ิงแรก ที่ควรทําคือ...การทําความเขาใจกับตนเองกอน วาน่ีมันไมใชภาษาพอภาษาเรา... ดงั นั้นเวลาฟง, พดู , อาน หรือเขียน ยอมเกดิ ขอผดิ พลาดไดเ สมอ ฉะนั้นจงอยา อาย ท่ีจะฟง, พูด, อาน หรือเขียนกับคนท่ีรูมากกวาเรา โดยเฉพาะเจาของภาษา เพราะเขาจะชว ยแกไขใหเรารแู ละเขา ใจการใชภาษาที่ถูกตอ ง ดัง น้ัน เ ร าค วร เ พิ่ม โ อ ก า สใ หกั บ ต น เ อ ง ใ น ทุ ก ๆ โ อ ก าส ที่อํ าน วย ใ ห ในทง้ั 4 ทกั ษะไมวาจะเปน ทกั ษะในเรอ่ื ง การฟง...เราสามารถฟงวิทยุ 107 MHz, ดูหนัง/ฟงเพลงภาษาอังกฤษ การพูด...เราสามารถพดู กบั ตนเองหนากระจก ถาจะใหดีก็อัดเทปเอาไวฟง เ พื่อ แ ก ไ ข ห รือ ไ ม ก็ส าม าร ถฝ ก ฝ น ไ ดกั บ แ ห ล ง ค วา ม รู ท่ีเ ดิน ไ ด ( Walking Dictionary) ซ่งึ ก็คอื ฝรั่งทัง้ หลายที่พวกเคาเขามาเปนนักทองเท่ียว โดยยิ้มแลวทัก เขา ไป...พดู รเู รอื่ งบางไมรเู รอ่ื งบาง...ไมเปนไร...ท่ีสําคัญคือจะทําใหเราจะกลาที่จะ พูดกับฝร่ัง...ซ่ึงนั่นสําคัญกวาขี ดความสามารถหรือทักษะทางภาษาของเรา การอา น...หากเราใชวิธีการเรียนรูแบบจรรโลงใจใหกับตัวเอง ซึ่งก็คือการ ออกไปดูหนงั /ฟงเพลงภาษาอังกฤษนั่นเอง เราก็จะตองเอาเนื้อเร่ืองหรือเนื้อความ น้ันมาทําความเขาใจดวย ซึ่งจะสงผลใหเราไดประโยชน 3 ทักษะในเวลาเดียวกัน คอื เราจะฟงและพูดไปพรอมกับมัน รวมไปถึงเราจะตองอาน ไปพรอมๆ กันดวย ได ประโยชนแ ละสนุกไปพรอ มๆ กนั 1

ภาษาองั กฤษพืน้ ฐานสา�ำํ หรับกำ�าํ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบับปรับปรงุ ครงั้ ท่ี ๒) สวนในเร่ืองการเขียน...ที่จริงแลวคือภาคกลับกันของการอาน...เพราะเรา เองก็ไปอานเรือ่ งท่คี นอนื่ เคาเขียนมาน่.ี ..ดังนนั้ ยิ่งอา นมากเทา ไหร ก็ยิง่ รวู าการเขียน ท่ีดีนั้น เราควรท่ีจะเขียนอยางไร อยาลืมวา “Practice makes perfect” การฝกฝน ยอ มกอ ใหเกดิ ความสาํ เรจ็ ที่สมบูรณ ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสาํ หรบั กาํ ลังพลในกองทพั บกไทยนี้ จึงจะขอแนะนาํ กับทานท่ีสนใจทีละหวั ขอ ๆ เรยี งกันไป โดยเริม่ ตน จากความหมายและเนอื้ ความ ซึ่ง คอื หลักไวยากรณ, คาํ ศพั ทพ้ืนฐานทค่ี วรรู, การสอบภาษาอังกฤษสําหรับบคุ ลากรใน กองทพั , การฝกทกั ษะการใชภ าษาองั กฤษดว ยตนเอง แถมดวยเทคนคิ ในการสอบ IELTS และ ADFELPS ในตอนทายสุด อยางท่ีนักปราชญไ ดก ลา วไว \"No one too old to learn\" ไมมใี ครแกเกนิ เรยี น การเรียนรูในพน้ื ฐาน Grammar และคําศพั ทรวมถงึ การฝกฝนนนั้ เราสามารถ กระทาํ ไดทุกวนั โดยเฉพาะการฝก ฝนแลว เราสามารถทําไปไดทั้ง 4 ทกั ษะในแตละ วนั (ถาจะใหดี ควรทําทกุ วันอยา งตอ เนอ่ื งเพราะจะทาํ ใหไ ดป ระโยชนส ูงสดุ ...ถา ไม เช่ือกล็ องด)ู เรามาเริ่มทําความเขาใจกับภาษาอังกฤษกันดีกวา โดยเร่ิมจากหลัก ไวยากรณ อยา งทที่ ราบกันดีวาภาษาอังกฤษมีกฎกติกามารยาทในการใชไวยากรณ อยมู ากมาย ในเอกสารน้ีจะเนนเฉพาะทส่ี าํ คัญๆ ที่เปนแกนของภาษาอังกฤษเทาน้ัน เพราะจะทาํ ใหผ ูทพ่ี ึ่งเรมิ่ ศกึ ษา สามารถทาํ ความเขาใจไดงาย และไมสับสน สําหรับ กฎกติกามารยาทสว นอื่น ๆ ก็จะละไว แตหากได การศึกษาเพ่ิมเติมในภายหลังก็จะ ยงิ่ ดี เพราะถา รูก ็จะยิ่งเพิ่มพูนระดับหรือขีดความสามารถในการใชภาษาอังกฤษของ ผใู ชใหม ากยิ่งขึ้น เรามาเรมิ่ ท่หี ลักไวยากรณอันแรกกันเลยดีกวา นั่นคือชนิดของคํา และโครงสรางของประโยค 2

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสำ�หภรับาษกาำ�อลงั กพฤลษในพก้ืนอฐงาทนพั สบําหกรไทบั ยกํา(ลฉงับพับลปใรนับกปอรงงุทัพครบัง้ กทไี่ท๒ย) Parts of Speech (ชนิดของคํา) ขอ ความ ประกอบดว ย \"คํา\" (word) หรือกลมุ คําซงึ่ นํามาเรียงตอ เนือ่ งกนั เปนวลี (phrase) หรือประโยค (sentence) จะมีหนา ท่ีอยา งหน่ึง อยางใดใน 8 หนา ที่ ตามหลักไวยากรณอ ังกฤษ (grammar) หนาที่ของคาํ เรียกวา \"ชนิดของ คํา\" (parts of speech) ซงึ่ ไดแก Noun (คํานาม) Adjective (คําคุณศพั ท) Pronoun (คาํ สรรพนาม) Preposition (คาํ บพุ บท) Verb (คาํ กริยา) Conjunction (คําสันธาน) Adverb (คาํ กรยิ าวิเศษณ) Interjection (คาํ อุทาน) 1. Noun (คํานาม) เปนคาํ ท่ีใชเ รียกคน สัตว สิ่งของ ทง้ั ทม่ี ีรปู รางเชน โตะ สมดุ และไมม ี รปู รา งเชน วนั เวลา อากาศ รวมทัง้ ชือ่ ของคน สตั ว หรอื สิ่งของ เชน คน: man father lady ชื่อคน: John Mary สตั ว: dog cat bird ช่ือสตั ว: Lassie Lucifer ส่ิงของ: city table month ชื่อสงิ่ ของ: Bangkok January 3

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสาํ�ำ หรับกาำํ�ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรบั ปรุง ครงั้ ท่ี ๒) 2. Pronoun (คําสรรพนาม) เปน คาํ ท่ใี ชเรียกแทนคาํ นามเพ่ือหลกี เลยี่ งการกลาวซ้าํ เชน I, we, you, he, she, it หรอื ใชแ ทนคาํ นามทเ่ี ราไมทราบวา ส่ิงนั้นเปน อะไร หรอื ใคร เชน someone, something แทนคําซา้ํ Mai is a beautiful woman. Mai is a popular singer. = Mai is a beautiful woman. She is a popular singer. ยงั ไมร ูว าเปน อะไร Something is missing. ไมรวู า อะไรหายไป 3. Verb (คํากรยิ า) เปนคําที่บอกอาการหรอื การกระทํา (action) หรือบอกความเปน อยู (being) หรอื สภาวะความเปน อยู ( state of being ) เชน fly, is, am, seem, look. การกระทาํ Birds fly. นกบนิ ความเปน อยู Danny is a boy. แดนนเี่ ปน เด็กผูชาย สภาวะความ He looks good. เขาแลดูดี เปนอยู 4. Adjectives (คุณศัพท) เปนคําท่อี ธบิ ายหรือขยาย noun หรือ pronoun ใหไ ดัรายละเอียดเกี่ยวกบั คุณสมบัติของสิง่ นน้ั ๆ เพ่มิ ขึ้น เชน new, ugly, ill, happy, afraid, careless. 4

ภาษาองั กฤษพื้นฐานส�ำ หภรับาษกา�ำ อลังกพฤลษในพกื้นอฐงาทนัพสบาํ หกรไทับยกาํ (ลฉังบพบั ลปใรนบั กปอรงงุทัพครบงั้ กทไ่ีท๒ย) He bought a new car. เขาซอ้ื รถใหม. (new ขยาย car ซึง่ เปน noun) They are ugly. พวกเขานา เกลยี ด (ugly ขยาย they ซ่ึงเปน pronoun) 5. Adverb (วิเศษณ หรอื กริยาวเิ ศษณ) เปน คําท่อี ธบิ ายหรือขยาย verb หรือ adjective หรือ adverb ดว ยกนั เอง เชน hard, fast, very He works hard. เขาเปน คนทํางานหนัก (hard ขยาย works ซ่ึงเปน verb) He is very rich. เขาเปน คนจนมาก (very ขยาย rich ซึง่ เปน adjective) He works very hard.เขาเปน คนทท่ี าํ งานหนักมาก (very ขยาย hard ซ่ึงเปน adverb) 6. Preposition (คําบุพบท) เปนคํา หรือกลุมคําท่ีวางหนา noun หรือ pronoun เพื่อแสดงวา คํานาม หรอื สรรพนามนนั้ เกีย่ วของกบั คําอ่ืน ๆ ในประโยคอยา งไรเชน on, at, in, from, within I will see you on Monday. ฉันจะพบกบั คุณในวนั จันทร She was waiting at the restaurant. เธอรออยทู ร่ี า นอาหาร There is a cockroach in my room. มีแมลงสาบตวั หน่ึงในหอ งฉัน We must finish the project within a year. เราจะตอ งทําโครงการน้ใี หเสรจ็ ใน 1 ป 5

ภภาาษษาาอองังั กกฤฤษษพพืน้ื้นฐฐาานนสส�ําำ หหรรบับั กกาํ�ำ ลลงัังพพลลใในนกกอองงททััพพบบกกไไททยย (ฉบบั ปรับปรงุ ครั้งท่ี ๒) 7. Conjunction (คําสนั ธาน) เปน คาํ ทใี่ ชเ ช่อื ม คํา กลมุ คาํ หรือประโยคเขาดวยกนั เพอื่ ใหค วามหมาย สมบูรณขึ้น เชน and, but, therefore, beside, either..or John is rich and handsome. จอหน เปน คนรวยและรปู หลอ Either you or she has to do this job. ไมคุณกเ็ ธอที่จะตอ งทํางานนี้ 8. Interjection (คาํ อทุ าน) เปนคําอทุ านทแ่ี สดงถึงอารมณ ความรูสึกทเี่ กดิ ข้นึ ในขณะนัน้ โดยไม เกีย่ วของกบั คําอื่น ๆ ใน ประโยคเลย เชน Oh God! , WOW, Hurrah การพิจารณาวาคําไหนเปนคําชนิดใด เราดูท่ีการทําหนาท่ีของมันใน ประโยค คาํ คาํ เดียวอาจทําหนา ทีอ่ ยางหน่งึ ในประโยคหน่ึง แตอาจทําหนาท่ีอยาง อ่นื ในประโยคอืน่ ดังในตารางตอ ไปน้ี 66

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสำ�หภรบัาษกา�ำ อลงั กพฤลษในพกื้นอฐงาทนัพสบําหกรไทับยกํา(ลฉงับพับลปใรนบั กปอรงุงทพัครบ้ังกทไี่ท๒ย) word parts of speech example work noun My work is easy. งานของฉันงา ย verb I work in Bangkok. ฉันทํางานอยทู ีก่ รุงเทพฯ John came but Mary didn't come. จอหนมาแตแมร่ีไม conjunction ไดม า but preposition Everyone came but Mary. ทกุ คนมานอกจากแมรี่ adjective Are you well? คุณสบายดีหรอื ? well adverb She speaks well. เธอพูดไดด ี interjection Well! That expensive. แหม! แพงจงั noun We ate in the afternoon. เรารับประทานในตอนบา ย afternoon We had afternoon tea. เราดื่มชามื้อบาย noun ทาํ หนา ที่ เหมือน adjective 7

ภาษาอังกฤษพ้นื ฐานสําำ�หรับก�ำําลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบับปรบั ปรงุ คร้ังที่ ๒) ตอ ไปนเี้ ปน การแสดงถงึ Parts of Speech ตาง ๆ ในประโยค verb noun Verb noun verb verb Stop! John works. John is working. pronoun verb noun noun verb adjective noun She loves animals. Animals like kind people. noun verb noun adverb noun verb adjective noun Tara speaks English well. Tara speaks good English. pronoun verb preposition adjective noun adverb She ran to the station quickly. 8

ภาษาอังกฤษพ้ืนฐานส�ำ หภรบัาษกาำ�อลงั กพฤลษในพก้ืนอฐงาทนพั สบําหกรไทับยกํา(ลฉังบพับลปใรนบั กปอรงุงทัพครบง้ั กทไี่ท๒ย) pron. verb adj. noun conjunction pron. verb pron. She likes big snakes but I hate them. ตอ ไปน้เี ปนประโยคท่มี ีทกุ Parts of Speech ในประโยคเดียว interjection pron. conj. adj. noun verb prep. noun adverb Well, she and young John walk to school slowly. Sentence (ประโยค) Sentence เปนกลุมคําท่ีมาประกอบกันใหมีเนื้อความสมบูรณ บอกการ กระทํา ความเปนอยู หรือความเปนไป ของส่ิงหน่ึงส่ิงใด โดยทั่วไปประโยคจะมี 2 ภาคคอื subject (ภาคประธาน) และ predicate (ภาคแสดง) subject predicate He lives in Bangkok. เขาอาศัยอยูท่กี รุงเทพฯ None of the students knew the answer. ไมม นี ักเรยี นคนใดรคู าํ ตอบ 9

ภาษาอังกฤษพน้ื ฐานสำา�ํ หรบั กํ�าำ ลังพลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรับปรุง ครง้ั ที่ ๒) Phrase (วลี) เปนกลุมคาํ ซงึ่ เปนสวนหนึ่งประโยคท่ไี มมี subject หรือ predicate In case of emergency, push the button. ในกรณฉี กุ เฉินใหกดปุม (In case of emergency เปน วล)ี The woman sitting in the chair is my mother. ผูหญงิ ซ่ึงนัง่ ทเ่ี กา อค้ี ือแม ของฉัน (sitting in the chair เปน วลี) Clause (อนปุ ระโยค) เปนกลุมคําท่ีมี subject และ predicate เหมือนประโยค (sentence) แตไมไดอยูตามลําพังจะเช่ือมติดอยูกับอีก clause หน่ึงเพื่อใหเปน 1 ประโยค กลาวคอื ในประโยคทม่ี ี 2 ประโยคมารวมกันแตล ะประโยคคือ clause clause ท่ี 1 clause ท่ี 2 Jack did not come to work because he had a bad cold. แจคไมไ ดมาทํางาน เพราะเขาเปน ไขห วัดอยางหนกั เม่ือเรารูวาภาษาอังกฤษประกอบรางกันขึ้นมาอยางไรแลว เรามาดู ส่งิ จาํ เปนท่ตี องนํามาใชส อบกันดีกวา นัน่ คอื รปู แบบของประโยคนั่นเอง 10

ภาษาองั กฤษพน้ื ฐานส�ำ หภรบัาษกาำ�อลงั กพฤลษในพกืน้ อฐงาทนพั สบําหกรไทบั ยกํา(ลฉงับพับลปใรนบั กปอรงุงทพัครบ้งั กทไี่ท๒ย) รูปแบบของประโยค ประโยคมี 5 รูปแบบดว ยกันคือ Simple sentence, Compound Sentence, Complex Sentence, Complex sentence/Adjective clause และ Compound- Complex Sentence SIMPLE SENTENCE ประโยค simple sentence คือประโยคที่มีใจความเดียว มีโครงสรางอยาง งาย มีอนุประโยคอิสระหรือ independent clause เพียงอนุประโยคเดียว ซึ่งมี ประธานและกริยาเพียงอยางละ 1 โดยมีความสมบูรณของเน้ือหาหรือใจความ ตัวอยา่างงปปรระะโโยยคคตตอ่อจจาากกนน้ีจ้ีจะะแแสสดดงงปประรโะยโยคคsimsipmleplseensteenctenทceี่กําหทนขี่ ดี เสH้นigปhรliะgคhอื t สปีเรหะธลาือนง (ปsรuะbธjาeนctssu)bแjeลcะtsHแigลhะligHhigthสliเีgทhาtทสกี่ เี ขรยิี วาท(ี่กveรยิrbาsv) e r bs A. Some students like to study in the mornings. B. Somchai and Thaworn play football every afternoon. C. Somsri goes to the library and studies every day. จากตัวอยา งท้ัง 3 ขา งตน ท่ีลวนแลวแตเปนประโยค simple sentences จะ เห็นไดวาประโยคที่ 2 (ประโยค B) มีประธานมากกวา 1 และประโยคท่ี 3 (ประโยค C) มีกริยามากกวา 1 ดังน้ันจะเห็นไดวา ถึงแมในประโยค Simple sentences เปน ประโยคท่มี เี น้ือหาใจความเพยี ง 1 เดยี ว แตอ าจมปี ระธาน หรอื กริยาไดมากกวา 1 COMPOUND SENTENCE ประโยค compound sentence เปนประโยคท่ีมีอนุประโยคอิสระ 2 อนุ ประโยคมาเชื่อมโยงกันดวยตัวเช่ือม coordinator ซึ่งตัวเชื่อมดังกลาวเพ่ือใหจําได งายเราเรยี บเรียงมนั เสียใหมอ า นไดว า \"FANBOYS\" โดยจะประกอบดวย for, and, nor, but, or, yet, so. หนาตัวเช่ือมดังกลาวจะตองมีจุลภาค (Comma : ,) ยกเวน 11

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานสํำา�หรบั กำํ�าลังพลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรับปรุง คร้งั ที่ ๒) เฉพาะในประโยคสั้น ๆ เทานั้น ตัวอยางประโยคตอจากน้ีจะแสดงประโยค compoouunndd sseenntteennccee ทที่ก่ีกํา�ำหหนนดด Hขigีดhเlสig้นhปt ระสคีเือหลปือรงะปธาระนธา(นsusbujbejectcsts) และ Highhlliigghhtt สสเี ีเทขายี ทวทกี่ รก่ี ยิ รายิ า(vveerrbbss) และจลุ ภาคพรอ้ มกบั ตวั เชอื่ มในน HHiigghhlliigghhttสสเี ีแทดางเขม้ A. I tried to speak English, and my friend tried to speak Thai. B. Winai played football, so Jitlada went shopping. C. Winai played football, for Jitlada went shopping. ทั้ง 3 ประโยคขางตนเปนประโยค compound sentences ซึ่งในทุก ประโยคจะมีอนปุ ระโยคอิสระ 2 อนุประโยคเช่อื มโยงกนั ดวยตัวเชอ่ื มที่อยูหลังจลุ ภาค การใชตัวเ ช่ือ มท่ีเป ล่ีย นแ ปล งไ ปจ ะสงผ ลตอค วามสัมพันธขอ งอ นุป ระโยค ตวั อยางเชนในประโยค B และ C มีความหมายเหมือนกันแตแตกตางกันที่ตัวเช่ือม ยกตวั อยา งเชนในประโยค B จะพบวา การเลนฟตุ บอลของวนิ ยั จะเกดิ ขนึ้ กอ น จากน้ัน จึงเปนการไปชอปปงของจิตรลดา หรืออาจกลาวไดวาเพราะวินัยไปเลนบอล จิตรลดาเลยไปชอปปง แตกลบั กนั สําหรับในประโยค C จะพบวาการไปชอปปงของ จติ รลดาจะเกิดข้นึ กอ น จากน้นั จงึ เปน การเลน ฟตุ บอลของวนิ ยั อาจเปน เพราะวินัยไม รจู ะทําอะไรจึงไปเลนฟุตบอล โดยมเี หตุผลมาจากการที่จิตรลดาไปชอปปง นน่ั เอง 12

ภาษาองั กฤษพนื้ ฐานส�ำ หรภบั าษก�ำาลองัังพกฤลษในพก้นื อฐงาทนัพสบํากหไรทับยกํา(ฉลบงั พับลปใรนบั กปอรงุงทคัพรบั้งกทไี่ ท๒ย) COMPLEX SENTENCE ประโยค complex sentence คือประโยคท่ีมีอนุประโยคอิสระเพียง 1 อนุประโยค แตอาจมีอนุประโยคยอย dependent clauses มาขยายต้ังแต 1 อนุประโยคขึ้นไปได โดยมีตัวเช่ือมระหวา งอนุประโยคทงั้ 2 ประเภท คอื because, since, after, although, และ when หรืออาจเปนสรรพนามเชื่อมความ relative pronoun เชน that, who, หรือ which เปน ตน ตตัววั ออยย่า งปรระะโโยยคคตตอ ่อจจากากนนจี้ ะ้ีจแะสแดสงดปงรปะโรยะคโยcคomcpolemxpslenxtesnecneteทnีก่ cําeหนทด่ีขHีดigเสh้นligปhรtะ ทส่ีปเี หระลธือางนท(ป่ีsuระbธjeาcนtss)uแbjลeะctHsigแhลlะigHhitgสhเีliทghาทt ส่กี เีรขยิ ียาว(ทvี่กeรrbิยsา)vแeลrbะsตวัแเลชะ่ือตมัวกเชับ่ือจมุลกภบั าค (จถลุ า้ ภจา�ำคเป(็นถตา ้อจงํามเป)ี น ใตนอHงมigี)hใlนighHtigสhีเlทigาhเtขสม็ ีแดง A. When he handed in his homework, he forgot to give the teacher the last page. B. The teacher returned the homework after she noticed the error. C. The students are studying because they have a test tomorrow. D. After they finished studying, Juan and Maria went to the movies. E. Juan and Maria went to the movies after they finished studying. เเมื่อเริ่มต้นประโโยคค ccoommpplelexxsesnetnetnecneceดวดย้วกยากราใรชใสชร้สรพรรนพานมาเชม่ือเชม่ือคมวคาม�ำ (เชน ในประโยค A และ D) เราตองใชจุลภาคค่ันระหวาง 2 อนุประโยค แตหากเรา ใชสรรพนามเชื่อมคําเชื่อมตรงกลางระหวาง 2 อนุประโยค (เชน ในประโยค B, C และ E) เราไมจําเปนตองใสจุลภาคค่ันระหวางกลาง ฉะนั้นจึงเปนการผิดหลัก ไวยากรณ หากเราใสจุลภาคหนาสรรพนามเช่ือมคาํ ท่ีใชเชื่อมอนปุ ระโยคท้งั 2 1133

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานส�ํำาหรบั กํ�าำ ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบับปรับปรุง ครัง้ ที่ ๒) COMPLEX SENTENCES/ADJECTIVE CLAUSES ประโยค complex sentence ที่มีอนุประโยคยอยที่ทําหนาท่ีขยายหรือเปน adjective clauses ประโยคประเภทก็น้ีเปนประโยค complex เพราะมีการเชื่อม ระหวางอนุประโยคทเี่ ปน อนุประโยคอิสระและอนุประโยคยอย ประธาน, กริยา สรรพ นามเชื่อมคาํ จะใช Highlight เชน เดียวกบั ประโยคประเภทอนื่ ๆ แตจะมีการขดี เสนใต ในสว นของอนุประโยคอสิ ระ A. The woman who(m) my mom talked to sells cosmetics. B. The book that Jonathan read is on the shelf. C. The house which AbrahAM Lincoln was born in is still standing. D. The town where I grew up is in the United States. COMPOUND-COMPLEX SENTENCE Compound-complex sentence คือประโยคที่มีต้ังแตสอง independent clauses ข้ึนไป และมี dependent clauses ต้ังแตหนึ่ง clause ขึ้นไป กลาวงาย ๆ คือมีทั้งประโยค compound และ complex ปนกันอยู ประธาน, กริยา สรรพนาม เช่อื มคํา จะใช Highlight เชน เดยี วกบั ประโยคประเภทอ่ืนๆ แตจะมีการขีดเสนใตใน สว นของอนปุ ระโยคอิสระ A. Since that article seems to satisfy your needs, we are enclosing a copy and we hope that it will help you find a suitable solution to your problem. เร่ิมประโยค Compound-complex sentence ดวย Complex sentence ท่ี ขึ้นตน Since : Since the battle simulation project ended จากนั้นคั่นประโยค 14

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานสำ�หภราบั ษกาำ�อลังงั กพฤลษในพกื้นอฐงาทนัพสาํบหกรไับทกยํา(ลฉงับพับลปในรับกปอรงทงุ พัคบรง้ักทไท่ี ๒ย) ดวยจุลภาค (,) ตามดวย Compound sentence ที่เปนการรวมกันของประโยค simple sentence เชื่อมดวย and : we are moving to virtual simulation for small troops and developing on live simulation using MILES technique. หัวใจของการเขาใจภาษาอังกฤษอยูท่ีการท่ีเรารูวา ประโยคนี้เปนประโยค อะไร สวนที่เปนสวนขยายนั้นไมใชสาระสําคัญที่ตองอานไปทั้งหมด (เปนนํ้าบาง เปน สว นเตมิ เตม็ บา ง) หากเรามีเวลานอยก็สามารถอา นขา มไปได หลังจากท่ีเราทําความเขาใจกับแกนหลักของภาษาอังกฤษไปแลว (ซ่ึงนา เบื่อและนางวงนอนมาก) เรามาดูอีกสวนที่ทําใหเราเขาใจไดถึงความหมายของ ภาษาองั กฤษกนั ดีกวา นน่ั คอื ในสว นของคําศัพทในบทตอ ไปนน่ั เอง ในสว นนี้ตอ งขอขอบคุณคว าม รูดาน Grammar จา ก บทเรียน ภาษาอังกฤษ ออนไลน ของกระทรวงสาธารณสขุ http://ict.moph.go.th/English/content/a01intro.htm และรูปแบบโครงสราง ของประโยค จาก Advanced Composition for Non-Native Speakers of English http://www.eslbee.com/sentences.htm ดว ย 15



ภาษาองั กฤษพน้ื ฐานส�ำ หภรบัาษกาำ�อลังกพฤลษในพก้นื อฐงาทนัพสบําหกรไทบั ยกาํ (ลฉงับพับลปใรนับกปอรงุงทพัครบ้ังกทไ่ีท๒ย) บทท่ี 2 : คาํ ศพั ทท ีค่ วรรู ใ น ท าง ท ห ารแ ล ว มี คํ าศั พท ภาษาอั ง ก ฤษ จํ าน วน ไ ม น อ ย ที่ กํ าลั ง พล ค วร รู เนื่องเพราะคําศัพทภ าษาองั กฤษท่ีทางทหารเราใช มดี ว ยกนั มากมาย ตางกันไปตาม ระดับของการใช เชน ระดับผูปฏิบัติ เชน การส่ังแถว หรือในระดับผูวางแผน เชน คําศพั ททางยุทธวธิ ีตาง ๆ เอกสารฉบับน้ีจะเปนการรวมเอาคําศัพทเหลาน้ันเขาเปน หมวดหมู เพ่ือใหสะดวกในการทําความเขาใจและคนหา จะแบงเปนการแนะนํา ตนเอง คําบอกคาํ ส่ังพืน้ ฐานสาํ หรบั การส่งั การบุคคลทา มือเปลา บุคคล ทาอาวธุ แถว ชดิ และศพั ทพืน้ ฐานตา ง ๆ ทค่ี วรทราบ โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี การแนะนาํ ตนเอง เปน เรอื่ งปกติทจี่ ะตองมกี ารแนะนาํ ตวั โดยเฉพาะเม่ือแรกรจู กั กนั ทหารไทย จึงไมคอยกลาพูด หรือทักทาย ไมตองกลัวเลยทหารไทย เราแครูวาจะตองพูด อยางไรก็สามารถคุยกับฝร่ังไดแลว กอนอ่ืนจะตองเร่ิมตนประโยคสนทนาดวยการ ทักทาย จากน้ันจึงบอกกลาวถึงขอความที่เราตองการส่ือสาร ท้ังน้ีข้ึนอยูกับวาการ สอื่ สารน้ันอยูในรูปแบบใด เราพูดกับใคร แบบเปนทางการหรือไมเปนทางการ การ ทกั ทายก็ยอมจะแตกตา งกันออกไป หากอยูในรูปแบบท่ีเปนทางการ การทักทายที่ เราใชข ้นึ ตน จะมลี ักษณะเชน น้ี Good Morning, Ladies and Gentlemen แตหากอยู ในรูปแบบที่ไมเปนทางการการ มักจะใช Hi everybody/everyone หรือเราอาจใช Good Morning, everybody/everyone ก็ได จากนั้นทั้งสองรูปแบบจะตามดวย ขอความทีเ่ ราการสือ่ สารนั่นคอื My name is (ยศ, ช่อื -สกุล), I'm a commander of .............. (ตําแหนง) เราสามารถเรียบเรียงไดด งั นี้ 17

ภภาาษษาาออังงั กกฤฤษษพพื้น้ืนฐฐาานนสส�ำําหหรรบับั กก�ำําลลงังั พพลลใในนกกอองงททัพพั บบกกไไททยย (ฉบับปรบั ปรุง ครง้ั ท่ี ๒) Good Morning, Ladies and Gentlemen. My name is (ยศ, ช่ือ-สกุล), I'm a (ตําแหนง...commander of 3rd Infantry Battalion) Sir!. (หากพูดกับผูมียศสูง กวา ) Good Morning everybody/everyone. My name is (ยศ, ช่ือ-สกุล), I'm a (ตําแหนง...commander of 3rd Infantry Battalion) Sir!. (หากพูดกับผูมียศสูง กวา ) Hi everybody/everyone. My name is (ยศ, ช่ือ-สกุล) , I'm a (ตําแหนง... commander of 3rd Infantry Battalion) Sir!. (หากพูดกับผมู ยี ศสงู กวา) คาํ บอกคาํ สง่ั พ้ืนฐาน ในสวนนีจ้ ะเปน การรวมคําบอกคําส่ังสําหรับบุคคลทามือเปลา คําส่ังในการ สั่งแถว และคําส่ังทาอาวุธ รวมถึงการเรียกอุปกรณทางท หารตางๆ เอาไวดวยกัน โดยจะเร่มิ จากคาํ ส่ังสําหรบั บุคคลทามอื เปลา คําสั่งในการสั่งแถว และคําสั่งทาอาวุธ จากน้นั จะเปนคาํ ศัพทท ีเ่ กยี่ วของกบั อาวธุ ยทุ ธภัณฑตา งๆ บคุ คลทามือเปลา (Individual Drill Without Weapons) เมอื่ เราตอ งการสั่งแถวใหอยูในทาตรง เราใชคําบอกคําส่ัง \"แถว-ตรง\" ซึ่ง คือคาํ วา ATTENTION ! (แอท-เทน็ -ฮึด) ในภาษาอังกฤษนั่นเอง และหากตองการ จะส่ังแถวในทาพัก (REST POSITIONS AT THE HALT) โดยเปนการสั่งทาพัก ตามปกตเิ ราก็จะสั่ง \"พัก\" หรือ AT EASE (แอท-อีส) แตหากตองการสั่งทาพักตาม ระเบียบ เราจะใชคําบอกคําสั่งคําวา \"ตามระเบียบ, พัก\" หรือคือคําบอกคําสั่งท่ีวา PARADE, REST (พาเหรด-เรสท) แตหากตองการส่ังทาพักตามสบายก็จะสั่ง \"ตาม สบาย, พัก\" หรอื สั่งวา REST (เรสท) เทา นั้น การสัง่ ทาพักแถวจะใชคําสั่ง \"พักแถว\" หรอื FALL OUT (ฟอล-เอาท) สว นในทา เลกิ แถวจะใชคําบอกคําสั่ง \"เลิกแถว\" หรือ คาํ สงั่ DISMISSED (ดิส-มสิ ) 1188

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสําหรบั ภกาําษลาังอพังลกใฤนษกพอน้ืงทฐาัพนบสก�ำ ไหทรยับกำ�ลังพลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังท่ี ๒) ในสว นตอ จากนไี้ ปจะเปนคําศพั ทพน้ื ฐานทางทหารกําลงั พลทคี่ วรรู ยศทหารบก ไทย-สหรัฐฯ (Thai-US Army Ranks) นายทหารชน้ั สญั ญาบัตร1 (Commissioned Officer) ยศ คาํ ยอ แบบไทย คํายอ แบบสหรฐั ฯ คํา ยอ จอมพล ไมม ี Field Marshal ไมม ี General of the Army GA 2 GEN General พล.อ. General MAJ.GEN พลเอก GEN พลโท พล.ท. Lieutenant General LTG Lieutenant General LTG พลตรี พล.ต. Major General MG Major General MG พนั เอก3 พ.อ. Senior Colonel COL Brigadier General BG 1 หมายเหต:ุ วาที่ ... (ใชใ สลงหนา ยศน้นั ๆ) = ACTING OF PROVISIONAL 2 เปน ยศ อม.ในภาวะสงครามเทานั้น มีผไู ดร บั ไมกนี่ ายต้ังแตใ นอดตี ท่ีผานมา เชน แมคอาร เธอร 3 พนั เอก (พิเศษ) เปนชั้นเงินเดอื น เคร่ืองหมายเชนเดยี วกับพนั เอก แตเปล่ียนเครื่องหมายท่ี ปกเสื้อเปน คทาไขว ชอชยั พฤกษ ทั้งสองขาง แทนสงั กดั และเหลา เทียบเทากบั พลจัตวา ของสหรฐั ฯ (ปจจุบัน ยศ พลจตั วา ของ ทบ. ไทย ไมม บี รรจุ) 32 19

ภาษาองั กฤษพื้นฐานส�ำ หรับกำ�ลงั พลในกองทพั บกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษบั พปรนื้ ุงฐาคนรสงั้ ทาํ ห่ี ๒ร)บั กําลงั พลในกองทพั บกไทย เครอื่ งหมายยศนายทหารชน้ั สญั ญาบตั ร ทบ.ไทย (RTA OFFICER RANKS) พนั เอกพเิ ศษ พลจตั วา (พล.จ.) พลตรี (พล.ต.) พลโท (พล.ท.) พลเอก (พล.อ.) จอมพล (BRIGADIER GENERAL) (MAJOR GENERAL) (LIEUTENANT GENERAL) (GENERAL) (SENIOR COLONEL) (BG) (MG) (LTGEN) (GEN) (FIELD MARSHAL) (SR.COL.) (ไม่มีคำย่อ) รอยตรี (ร.ต.) รอยโท (ร.ท.) รอ ยเอก (ร.อ.) พนั ตรี (พ.ต.) พนั โท (พ.ท.) พนั เอก (พ.อ.) (SECOND LIEUTENANT) (FIRST LIEUTENANT) (CAPTAIN) (MAJOR) (LIEUTENANT COLONEL) (COLONEL) (2ND LT) (1ST LT) (CAPT/CPT) (MAJ) (LTC/LT COL) (COL) 20 33

ภาษาองั กฤษพน้ื ฐานสําหรบั ภกาําษลางั อพงั ลกใฤนษกพอ้ืนงทฐาพั นบสก�ำ ไหทรยับกำ�ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครงั้ ท่ี ๒) นายทหารช้นั ประทวน (Non-Commissioned Officer-NCO) ยศ-ไทย คํายอ ภาษาองั กฤษ คาํ ยอ ยศสหรฐั ฯ คํายอ ไมมี Sergeant Major of the Army SMA CSM จา สบิ เอก4 จ.ส.อ. Master Sergeant First 1MSGT Command Sergeant Major Class 1SGT จาสิบเอก จ.ส.อ. Master Sergeant First 1MSGT First Sergeant PSG Class SSG จา สบิ โท จ.ส.ท. Master Sergeant Second 2MSGT Platoon Sergeant Class SGT CPL จาสิบตรี จ.ส.ต. Master Sergeant Third 3MSGT Staff Sergeant PFC PV2 Class PV1 สบิ เอก ส.อ. Sergeant SGT Sergeant สบิ โท ส.ท. Corporal CPL Corporal สิบตรี ส.ต. Lance Corporal LCPL Private First Class สบิ ตรีกองประจําการ (ส.ต.ฯ) Private First Class PFC Private พลทหาร พล.ฯ Private PVT Private (no insignia) 4 จา สิบเอก ชั้นเงนิ เดอื นพเิ ศษ ในตาํ แหนง จา กองรอ ย จา กองพัน จากรมฯ 21 34

ภาษาอังกฤษพ้นื ฐานส�ำ หรับก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทภยาษ(ฉาบอบังกปฤรษับพปรื้นงุฐาคนรสง้ั ทําห่ี ๒ร)บั กําลังพลในกองทพั บกไทย ยศสหรฐั ฯ คํายอ ยศสหรัฐฯ คาํ ยอ Sergeant Major of the Army SMA E-9 Command Sergeant Major CSM Sergeant Major SMG E-8 First Sergeant 1SGT Master Sergeant MSG E-7 Platoon Sergeant PSG Sergeant First Class SFC E-6 Staff Sergeant SSG E-5 Sergeant SGT E-4 Corporal CPL Specialist 6,5,4 SPC Private First Class PFC E-3 Private PV2 E-2 Private (no insignia) PV1 E-1 เครอ่ื งหมายยศนายทหารช้นั ประทวน ทบ.ไทย (RTA - NCO RANKS) สบิ ตรี (ส.ต.) สิบโท (ส.ท.) สิบเอก (ส.อ.) จา สิบตรี (จ.ส.ต.) จา สิบโท (จ.ส.ท.) จา สิบเอก (จ.ส.อ.) LANCE CORPORAL CORPORAL SERGEANT MASTER SERGEANT MASTER SERGEANT MASTER SERGEANT THIRD CLASS SECOND CLASS FIRST CLASS (LCPL) (CPL) (SGT) (3 MSGT) (2 MSGT) (1 MSGT) 22 35

ภาษาอังกฤษพ้ืนฐานสาํ หรับภกาําษลางั อพงั ลกใฤนษกพอนื้งทฐาัพนบสกำ�ไหทรยับก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบับปรับปรุง ครั้งท่ี ๒) ยศนายทนOห.-๑1ารสัญญบัตร สนหOร.-๒ฐั2ฯ (US ArmyนOO.-๓f3ficer Ranks) นO.-๔4 นO.-๕5 นO.-6๖ LiSeeuctoennadnt นO.-L๗7ieFuitresntant Captain Major นO.-L๙9iCeuoltoennealnt Colonel นO.-๘8 Brigadier General Major General Lieutenant General นO.-๑10๐ General DOD USAR USN USAF USMC (GWeanretriaml eofRTahnekAOrnmlyy) ยศนาNยOทหEา-ร1ประทวน สEห-ร2ฐั ฯ (US ArmE-y3NCO Ranks) E-4 E-5 INSIGNIA Sergeant Private Private Coporal First Class Specialist E-8 E-9 E-6 E-7 Staff Sergeant Sergeant First Sergeant Command First Class Sergeant Major US Army Warrant Officer Ranks Master Sergeant Sergeant Major Warrant Officer Chief Warrant Officer SeorfgTehanetAMrmajyor 36 23

ภาษาอังกฤษพื้นฐานส�ำ หรับกำ�ลงั พลในกองทพั บกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษับพปรน้ื งุฐาคนรสัง้ ทําห่ี ๒ร)ับกําลงั พลในกองทัพบกไทย ยศทหารเรือ ไทย-สหรฐั (Thai-Us Navy Ranks) นายทหารช้นั สัญญาบตั ร (Commissioned Officer) จอมพลเรอื ไมมี Admiral of the Fleet ADMF Fleet Admiral FADM ไมมียศน้ี ไมม ี พลเรือเอก พล.ร.อ. Admiral ADM Admiral ADM General GEN พลเรือโท พล.ร.ท. Vice Admiral VADM Vice Admiral VADM Lieutenant LT GEN พลเรือตรี พล.ร.ต. Rear Admiral RADM Rear Admiral RADM Major General MAJ GEN นาวาเอกพิเศษ น.อ. Special Captain CAPT Commodore5 COMO Brigadier B GEN นาวาเอก น.อ. Captain CAPT Captain CAPT Colonel COL นาวาโท น.ท. Commander CDR Commander CDR Lieutenant LT COL เรอื ตรี ร.ต. Sub-Lieutenant SUBLT Ensign ENS Second 2nd LT 5 คอื ยศ พลเรอื จตั วา ของ ทร.อม. 37 24

ภาษาองั กฤษพื้นฐานส�ำ หรับก�ำ ลังพลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรบั ปรุง ครั้งที่ ๒) นายทหารชั้นประทวน (Non - Commissioned Ofiffiif icf er - NCO) 25

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานส�ำ หรบั กำ�ลงั พลในกองทพั บกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษบั พปร้นื ุงฐาคนรสัง้ ทาํ ห่ี ๒ร)บั กําลังพลในกองทัพบกไทย 26 39

ภาษาอังกฤษพนื้ ฐานสาํ หรับภกาาํษลาังอพังลกใฤนษกพอ้นืงทฐาพั นบสกำ�ไหทรยบั กำ�ลังพลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรบั ปรุง ครง้ั ท่ี ๒) น.1 (O-1) เคร่ืองหมายยศนายทหารชั้นสญั ญาบัตรกองทพั สหรัฐฯ (OFFICERS INSIGNIA OF THE UNITED STATES ARMED FORCES) น.2 (O-2) น.3 (O-3) น.4 (O-4) น.5 (O-5) น.6 (O-6) น.7 (O-7) น.8 (O-8) น.9 (O-9) น.10 (O-10) พิเศษ(SPECIAL) กองทพั เรอื - NAVY (Eเ(Nร(EรือSN.ตตIGS.ร))ีN) เร(รือ.ทโท.) (LIEเรU((รือTL.เEอTอN.)ก)ANT) น(านว.าตต.)รี (COนM((าCนMวD.าAทโRN.ท)D) ER) (Cน(ACา(นวPAาT.อPเAอ.T)กI)N) พ(ลพเรลือ.รจ.ัตจว.)า พ(พลลเร.รอื .ตตร.)ี (VIพC((พVEลลเAAร.DDรอื M.โMทIทR.))AL) (Aพ(Dพล(AเลMรD.อื รIMRเ.ออA)ก.)L) (FนLาEยEพTลAเรDือMหIาRดAาLว) (JLT)(LIEUTEGNRAANDTE)JUNIOR (LCDR)C(LOIMEUMTAENNDAENRT) (RE(ARRAADDMMIR)AL) (RE(RARAADDMMIRA)L) (FADM) นาวิกโยธิน - MARINES เร(รือ.ตตร.)ี เร(รือ.โทท.) ((CCเAรA(รือPPT.เTออ/AC.ก)IPNT))(Mน((MาAนว.AาJตตO.J)ร)Rี ) น(านว.าทโ.ท) (CนO(า(CนวLOOา.อเNLอ.)E)กL) พ(ลพเรลือ.รจ.ัตจ.ว)า พ(พลลเร.รอื .ตตร.)ี พ(พลลเร.รือ.โทท.) (Gพ(Eพล(GNเลรEE.อื รNRเ.ออA)ก.)L) (2ND LT)(SECOND LIEUTENANT) (1ST LT)(FIRST LIEUTENANT) (L(ILEUTTCEN/ALNTT CCOLOONLE)L) (BG) (MG) (LTGEN)(BRIGADIER GENERAL) (MAJOR GENERAL) (LIEUTENANT GENERAL) กองทัพบก - ARMY ร(อรย.ตต.ร)ี ร(อรย.ทโท.) ((CCรAAอ(รPPยT.Tเออ/AC.ก)IPNT)) (Mพ((MพAัน.AJตตOรJ.))Rี ) พ(พัน.โทท.) (CพO((CัพนLOO.เออNL.ก)E) L) พ(พลจลัต.จว.)า (พพลลต.ตร.ี ) (พพลลโ.ทท.) (GEพ((พGNลลEEเอ.NRอก.A)) L) น(GาOยAEFพNRลTEMหHRYาAEด)Lาว (2ND LT)(SECOND LIEUTENANT) ((LLIETUTCEN/ALNTT COCLOONELL)) (BG) (MG)(BRIGADIER GENERAL) (MAJOR GENERAL) (LTGEN)(LIEUTENANT GENERAL) (1ST LT)(FIRST LIEUTENANT) กองทพั อากาศ - AIR FORCE เรืออ(ราก.ตา.ศ) ตรี เรืออ(ราก.ทา.ศ)โท เ(รC(ือCAอ(AรPาPกT.Tอา/ACศ.)IเPNอT)ก) น(าMว((าMนAอา.AJตกOาJ.ศ))Rต)รนี(L(IาLEUวTTาCE(Nอน/ALาN.TทกT Cา.CO)ศLOOโLNทE)L) น(CาวO((าCนอLาOO.กอNาL.ศ)E)เอLก) พล(อพาลก.าอศ.จจ.ัต)วา พ(ลพอลา.กอา.ศตต.ร)ี พล(พอลาก.อา.ศทโ.)ท พ(Gล(พEอ(GNาลกE.EอาNRศ.อA)เอ.)Lก) นA(GาIORยEFพNFลTEOหHRRาAECดLEาว) (2ND LT)(SECOND LIEUTENANT) (1ST LT)(FIRST LIEUTENANT) (BG)(BRIGADIER GENERAL) (LTGEN)(LIEUTENANT GENERAL) (MAJO(RMGGEN)ERAL) 40 27

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานส�ำ หรับกำ�ลงั พลในกองทัพบกไทภยาษ(ฉาบอบังกปฤรษับพปรน้ื งุฐาคนรสงั้ ทําห่ี ๒ร)ับกําลังพลในกองทพั บกไทย ยศตํารวจไทย (Royal Thai Police Ranks) นายตํารวจสัญญาบตั ร (Commissioned Officer ) ยศ คาํ ยอ ภาษาอังกฤษ คาํ ยอ พลตาํ รวจเอก (พล.ต.อ.) Police General (Pol.Gen.) พลตาํ รวจโท (พล.ต.ท.) Police Lieutenant General(Pol.Lt.Gen.) พลตาํ รวจตรี (พล.ต.ต.) Police Major General (Pol.Maj.Gen.) พันตาํ รวจเอก (พเิ ศษ) (พ.ต.อ.) Police Senior Colonel (Pol.Sr.Col.) พันตํารวจเอก (พ.ต.อ.) Police Colonel (Pol.Col.) พนั ตํารวจโท (พ.ต.ท.) Police Lieutenant Colonel(Pol.Lt.Col.) พนั ตํารวจตรี (พ.ต.ต.) Police Major (Pol.Maj.) รอ ยตาํ รวจเอก (ร.ต.อ.) Police Captain (Pol.Capt.) รอยตาํ รวจโท (ร.ต.ท.) รอยตํารวจตรี (ร.ต.ต.) Police Lieutenant 6 (Pol.Lt.) Police Sub-Lieutenant7 (Pol.Sub.Lt.) นายตํารวจชน้ั ประทวน (Non-Commissioned Officer-NCO) นายดาบตาํ รวจ (ดต.) Police Senior Sergeant Major (Pol.Sen.Sgt.Maj.) จา นายสิบตาํ รวจ (จ.ส.ต.) Police Sergeant Major (Pol.Sgt.Maj.) สบิ ตํารวจเอก (ส.ต.อ.) Police Sergeant (Pol.Sgt.) สิบตาํ รวจโท (ส.ต.ท.) Police Corporal (Pol.Cpl.) สบิ ตํารวจตรี (ส.ต.ต.) Police Lance Corporal (Pol.L/C) พลตํารวจ (พลฯ) Policeman Constable /Police Private (Pol.Const.) นกั เรียนนายรอยตาํ รวจ (นรต.) Police Cadet (Pol.Cdt.) 6 รอยตาํ รวจโท หรอื Police First Lieutenant 41 7 รอ ยตาํ รวจตรี หรอื Police Second Lieutenant 28

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐานสาํ หรับภกาาํษลาังอพงั ลกใฤนษกพอื้นงทฐาพั นบสกำ�ไหทรยับกำ�ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครง้ั ท่ี ๒) เหลาทหารบกไทย (Royal Thai Army Corps) มี ๑๗ เหลา เหลา รบ (Combat Corps/Branch Of Service) เหลา ทหารราบ (ร.) Infantry Corps เหลา ทหารมา (ม.) Cavalry Corps เหลา สนบั สนุนการรบ (Combat Support Corps/Branch Of Service) เหลา ทหารปนใหญ (ป.) Artillery Corps เหลาทหารชา ง (ช.) Engineer Corps เหลา ทหารส่อื สาร (ส.) Signal Corps เหลาการขา ว (ขว) Intelligence Corps เหลา ชว ยรบ (Combat Service Support Corps/Branch Of Service) เหลาทหารพลาธิการ (พธ.) Quartermaster Corps เหลา ทหารการเงิน (กง.) Finance Corps เหลาทหารพระธรรมนูญ (ธน.) Judge Advocate General’s Corps (JAGO) เหลา ทหารขนสง (ขส.) Transportation Corps (TC) เหลาทหารแพทย (พ.) Medical Corps (MC) เหลา ทหารการสัตว (กส.) Veterinary Corps (VC) เหลาทหารสรรพาวธุ (สพ.) Ordnance Corps (OC) เหลา ทหารสารบรรณ (สบ.) Adjutant General Corps (AGC) เหลา ทหารสารวตั ร (สห.) Corps Of Military Police (CMP) เหลา ดุริยางค (ดย.) Band Corps เหลาทหารแผนที่ (ผท.) Survey Corps เหลาพิเศษ (Special Corps/Branch Of Service) เหลา เสนาธิการ (สธ.) General Staff Corps [หมายเหต:ุ พ.ศ. 2549 - ปจจบุ ัน มกี ารเปล่ียนแปลง คอื นายทหารที่จบหลกั สูตร เสนาธิการแลว และปฏบิ ัติหนาทฝ่ี า ยเสนาธกิ ารทค่ี รองยศไมถ งึ พันเอกอตั ราเงินเดอื น พิเศษตองตดิ เครือ่ งหมายเหลาเดิมของตนเองแทนทจ่ี ะเปน เครอื่ งหมายเหลาเสนาธิ การ] 42 29

ภาษาอังกฤษพื้นฐานสำ�หรับก�ำ ลังพลในกองทพั บกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษับพปรน้ื งุฐาคนรส้ังทาํ หี่ ๒ร)บั กําลงั พลในกองทพั บกไทย เครื่องหมายเหลา ทหารบก ไทย - สหรัฐฯ (THAI - US ARMY CORPS) 1. ทหารราบ (ร.) INFANTRY CORPS (INF) 9. ทหารสารวัตร (สห.) CORPS OF MILITARY POLICE (CMP) 2. ทหารม้า (ม.) CAVALRY (CAV) 10 . ทหารสารบรรณ (สบ.) ADJUTANT GENERAL CORPS 3. ทหารปนื ใหญ่ (ป.) (AGC) FIELD ARTILLERY (ARTY) 11. ทหารการเงิน (กง.) FINANCE CORPS (FC) 4. ทหารชา่ ง (ช.) CORPS OF ENGINEER (CE) 12. ทหารแพทย์ (พ.) MEDICAL CORPS (MC) 5. ทหารส่ือสาร (ส.) SIGNAL CORPS (SIGC) ไมมี 13. ทหารแผนที่ (ผท.) 6. ทหารสรรพาวุธ (สพ.) ORDNANCE CORPS (OC) 14. ทหารการสตั ว์ (กส.) VETERINARY CORPS (VC) 7. ทหารขนส่ง (ขส.) TRANSPORTATION CORPS (TC) 15. ทหารพระธรรมนญู (ธน.) JUDGE ADVOCATE GENERAL’S 8.ทหารพลาธกิ าร (พธ.) CORPS (JAGO) ไมมี QUARTERMASTER CORPS (QMC) 16. ทหารดรุ ยิ างค์ (ดย.) 30 43

ภาษาอังกฤษพ้ืนฐานสําหรบั ภกาาํษลางั อพงั ลกใฤนษกพอน้ืงทฐาพั นบสก�ำ ไหทรยับก�ำ ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบับปรบั ปรงุ ครั้งที่ ๒) เคร่ืองหมายเหลาทหารบก ไทย - สหรัฐฯ (ตอ) (THAI - US ARMY CORPS) 17. ทหารการข่าว MILITARY INTELLIGENCE (MI) ยงั ไมมี DENTAL CORPS ARMOR MEDICAL SERVICE CORPS ยังไมมี1 ทหารทันตแพทย ARMY NURSE CORPS ทหารมายานเกราะ ยงั ไมมี ยงั ไมมี 2 ทหารเสนารกั ษ ทหารปนใหญป อ งกนั ภยั ทางอากาศ AID DEFENSE ARTILLERY (AD) ยงั ไมมี ยงั ไมม ี AVIATION พยาบาลทหารบก ทหารนักบิน ยังไมมี CHEMICAL CORPS ยงั ไมมี ทหารวทิ ยาศาสตร ทหารผูชาํ นาญการทางแพทย ARMY MEDICAL SPECIALIST CORPS ยงั ไมม ี ยังไมม ี ทหารอนศุ าสนาจารย CHAPLAIN CORPS ทหารรบพิเศษ SPECIAL FORCES CORPS (SFC) หมายเหตุ 12 ททบบ..ไไททยย มไมเี หแ่ ลยา่กเดทยี หวาครปือืนทใหหาญรม่ แ้าลแะตท่ ทหำาหรนปา้นื ทใี่หทญหต่าร่อมส้าอู้ ยาากนาเศกยราานะดว้ ย 44 31

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานส�ำ หรับกำ�ลังพลในกองทัพบกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษับพปรืน้ ุงฐาคนรสง้ั ทําหี่ ๒ร)บั กาํ ลงั พลในกองทัพบกไทย เครื่องหมายเหลาพิเศษอืน่ ๆ ทหารบก ไทย - สหรัฐฯ (THAI - US ARMY SPECIAL CORPS) ทหารเสนาธิการ (สธ.) GENERAL STAFF ยงั ไมม ี WARRENT OFFICER นายทหารพิเศษ ยังไมม ี ยังไมม ี CIVILUSAAFRFAIRS จเรทหารบก กิจการพลเรอื น INSPECTOR GENERAL กาํ ลังสาํ รองกองทพั บกสหรฐั ฯ โรงเรยี (นCนRาMยรAอ )ย จปร. U.SA.CMAIDLEITMAYRY ยงั ไมม ี AIDE นายทหารคนสนิท (TERกRองITกาํOลRังรIAักษLาดDินEแFดEนNSE) NATIOBUNRAELAGUUARD ยงั ไมมี STAFF USPSAECRIALIST ฝายกิจการพิเศษ กาํ ลังสาํ รองทหารบกสหรฐั ฯ A Short Course In Human Relations The six most important words “ I admit I made a mistake. ” The five most important words “ You did a good job. ” The four most important words “ What is your opinion. ” The three most important words “ If you please. ” The two most important words “ Thank You. ” The one most important words “ WE. ” The least most important words “ I ” 32 45

ภาษาองั กฤษพืน้ ฐานสําหรับกภําาลษงั าพอลงั ใกนฤกษอพงท้ืนฐพั าบนกสไำ�ทหยรับกำ�ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบับปรับปรงุ ครงั้ ที่ ๒) เหลา ทหารเรือไทย (Royal Thai Navy Corps) มี 4 พรรค 24 เหลา 8 1. พรรคนาวนิ (นว.) General Line มี 10 เหลา เหลาทหารการปน (ป.) Gunner's Mate เหลาทหารอาวุธใตน ้ํา (ต.) Torpedoman's Mate เหลาทหารสามัญ (ส.) Quartermaster And Coxswain เหลา ทหารสญั ญาณ (ญ.) Signal Corps เหลาทหารอทุ กศาสตร Hydrographic Corps เหลาทหารขนสง (สพ.) Transportation Corps เหลา ทหารสรรพาวธุ (อ.) Ordnance Corps เหลาทหารอตุ นุ ิยมวทิ ยา (สห.) Meteorological Corps เหลาทหารสารวตั ร (ขว.) Military Police Corps เหลาทหารการขา ว Intelligence Corps 2. พรรคกลนิ (กล.) Engineering Line มี 2 เหลา เหลาทหารไฟฟา (ฟ.) Electrician Corps เหลาทหารเครือ่ งกล (ย.) Engine Corps 3. พรรคนาวกิ โยธิน (นย.) Marine Corps มี 4 เหลา เหลาทหารราบ (ร.) Infantry เหลาทหารปน ใหญ (ป.) Artillery เหลา ทหารชาง (ช.) Corps Of Engineer เหลาทหารส่ือสาร Signal Corps 8 ขอ บังคบั กห. วาดว ยเหลา ทหาร พ.ศ. 2528 และเพม่ิ เตมิ ถึง พ.ศ. 2538 โดย ขอบงั คับ กห. (ฉบบั ท่ี 2 - 5) 46 33

ภาษาองั กฤษพ้ืนฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลังพลในกองทัพบกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษบั พปร้ืนุงฐาคนรส้ังทําห่ี ๒ร)ับกาํ ลังพลในกองทัพบกไทย 4. พรรคพเิ ศษ Staff/Special Corps มี 8 เหลา เหลาทหารสารบรรณ (พธ.) Yeoman (Administration) เหลา ทหารพลาธิการ (กง.) Supply Corps เหลา ทหารการเงิน (ธน.) Finance Corps เหลา ทหารพระธรรมนญู (ยย.) Judge Advocate General's Corps เหลา ทหารชางยุทธโยธา (วศ.) Civil Engineer เหลาทหารวทิ ยาศาสตร (ดย.) Science Corps เหลาทหารดรุ ิยางค (พ.) Band เหลาทหารแพทย Medical Corps 34 47

ภาษาองั กฤษพ้นื ฐานสําหรับภกาาํษลางั อพงั ลกใฤนษกพอ้นืงทฐาพั นบสกำ�ไหทรยับก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบับปรบั ปรุง คร้งั ที่ ๒) เครื่องหมายเหลาทหารเรือไทย (ROYAL THAI NAVY CORPS) (GเUหNลาNทEหRา’รSกMารAปนTE) (TORเหPลEาDทหOาMรอAาNวุธ’SใตMน Aํ้า TE) (QUARเหCTลOEาXRทหSMWาAรAสSาTIมNEญั)R AND (เSหIลGา (NทแAตหรLาเรดสCยี่ ญัOวญ)RPาณS) (เSห(IพลGนาNทกั AหงาLานรสCโซญัOนญRารPาณ์)S) (เSห(IลพGา นทNกัหAงาLารนสCเญัรOดญRาราPณ)์ S) (เSหIลGาทNหA(วาLทิรสยCญัุ)OญRาPณS) (เSหIล(GทาทัศNนหAาสLรัญสCญญั OาญRณาP)ณS) (HYDเหRลOา ทGหRาAรอPุทHกIศCาสCตOรR PS) (TRANSเPหOลาRทTหAาTรขIOนNสง CORPS) (OเRหDลาNทAหNาCรสEรรCพOาRวธุPS) (METเEหOลาRทOหLารOอGตุ Iนุ Cยิ AมLวิทCยOา RPS) (MILIเหTลAา RทYหาPรOกาLรIสCาEรวCตั Oร RPS) (INTEเหLลLาIทGหEาNรกCาEรขCาOว RPS) เ(หINลFา ทAหNาTรRราYบ) เห(AลRา ทTหILารLปEน RใหYญ)  (CORPเหSลOาทFหEาNรชGาIงNEER) (SเหIGลNาทAหLารCสOอ่ื RสาPรS) เหลา(YทEหOารMสาAรNบ)รรณ (เSหUลPา ทPหLาYรพCลOาRธกิPาSร) (FเIหNลAาNทหCาEรกCาOรเRงนิPS) G(เหJEUลNาDทEGหREาAรAพLD’รSะVธCOรOCรRมAนPTSญู E) เ(หCลIาVทI(หLชาา่ EรงชNทา ่ัวGงไยIปNทุ )EธโEยRธ)า เ(หCล(IชาVท่าIงหLไาฟEรฟชN้าาGงสยIอ่ื Nทุ สEธารโEย)Rธ)า เ(หC(ลIชาVา่ ทงIหLอเิาลEรกชNทา GงรยอINทุนEธิกโEสย์)Rธ)า เ(หCลIาVทI(หLชาา่EรงชNเขา Gงยี ยIนNทุ )EธโEยRธ)า เ(หSลCาIทEหNาCรวEทิ CยาOศRาสPตSร)  เหลาท(BหAาNรดDุร)ยิ างค (MเEหDลIาCทAหLารแCพOทRยP S) 48 35

ภาษาองั กฤษพนื้ ฐานส�ำ หรับกำ�ลังพลในกองทพั บกไทภยาษ(ฉาบอับงกปฤรษับพปรื้นงุฐาคนรสงั้ ทําห่ี ๒ร)บั กาํ ลังพลในกองทพั บกไทย เหลา ทหารอากาศไทย (Royal Thai Air Force Corps) มี 23 เหลา เหลาทหารนกั บนิ (นบ.) Pilot Corps เหลาทหารตน หน (ตห.) Navigator Corps เหลาทหารตรวจการณ (ตก.) Observer Corps เหลา ทหารทิ้งระเบดิ (รบ.) Bombardier Corps เหลาทหารสอื่ สาร (ส.) Communications And Electronics Corps เหลาทหารสรรพาวุธ (สพ.) Armament Corps เหลาทหารอากาศโยธิน (อย.) Ground Security Force Corps เหลาทหารขนสง (ขส.) Transportation Corps เหลาทหารสารวัตร (สห.) Air Police Corps เหลา ทหารชางอากาศ (ชอ.) Air Engineer Corps เหลา ทหารพลาธิการ (พธ.) Quartermaster Corps เหลาทหารชางโยธา (ชย.) Civil Engineer Corps เหลาทหารแผนที่ (ผท.) Survey Corps เหลาทหารอตุ ุ (อต.) Weather Corps เหลาทหารถา ยรปู (ถร.) Photography Corps เหลา ทหารการเงนิ (กง.) Finance Corps เหลา ทหารพระธรรมนูญ (ธน.) Legal Corps เหลาทหารดุริยางค (ดย.) Band Corps เหลาทหารสารบรรณ (สบ.) Administrative Corps เหลา ทหารแพทย (พ.) Medical Corps เหลาทหารพลรม (พร.) Parachute Troops Corps เหลา ทหารพสั ดุ Material Corps เหลาทหารวิทยาศาสตร (วศ.) Science Corps 36 49

ภาษาองั กฤษพืน้ ฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรบั ปรุง ครง้ั ท่ี ๒) 37

ภาษาอังกฤษพ้นื ฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครั้งท่ี ๒) 38

ภาษาองั กฤษพืน้ ฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลงั พลในกองทัพบกไทย (ฉบบั ปรบั ปรุง ครง้ั ท่ี ๒) 39

ภาษาอังกฤษพ้นื ฐานส�ำ หรบั ก�ำ ลงั พลในกองทพั บกไทย (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครั้งท่ี ๒) 40