4.3 ซอฟตแ์ วร์ระบบ (System Software) (2) • (1) โปรแกรมจัดการระบบ (System Management Programs) • โปรแกรมทม่ี หี นา้ ท่ีจดั การ ควบคมุ H. & S. Network และจัดสรรทรัพยากรในระบบ ตลอดจนการประมวลผล เชน่ ระบบปฏบิ ตั กิ าร ................................................................................................................................................... โปรแกรมจดั การเครือข่าย ..................................................................................................................................... โปรแกรมจดั การฐานข้อมลู ................................................................................................................................... โปรแกรมอรรถประโยชน์ ...................................................................................................................................... • (2) โปรแกรมจดั การระบบ (System Development Programs) • โปรแกรมที่ช่วยผ้ใู ชใ้ นด้านการพัฒนาโปรแกรม เชน่ ตัวแปลภาษา และเอดิเตอร์ (Editor) ท่ีชว่ ยอานวยความสะดวก ในการเขยี นโปรแกรม (Computer-Aided Software Engineering: CASE) ซงึ่ เปน็ เครื่องมือท่ีใช้คอมพวิ เตอรช์ ว่ ย งานด้านวศิ วกรรมซอฟต์แวร์ และเคร่ืองมือชว่ ยอื่นๆ เพื่องานพฒั นาโปรแกรม เป็นต้นLecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.4 ระบบปฏบิ ัติการ (Operating Systems) • ระบบปฏิบตั กิ าร ถือเป็นซอฟแวรท์ ม่ี ีความสาคญั มาก • ระบบคอมพิวเตอรจ์ าเป็นตอ้ งมีการติดตงั้ ซอฟต์แวรช์ นดิ น้ี • เพอื่ ใหค้ อมพิวเตอร์สามารถทางานไดต้ ามต้องการ • พรอ้ มรับคาส่งั จากผใู้ ช้งาน เพอ่ื นาคาสงั่ ไปประมวลผลต่อไป ระบบปฏบิ ัติการหรือ (OS) จะมหี น้าทีจ่ ดั การการปฏบิ ตั งิ านของซีพยี ูในสว่ นการนาเข้าและแสดงผล การจดั สรรทรพั ยากร และดูแลการทางานในดา้ นต่างๆ ให้ดาเนนิ การอยา่ งเรยี บร้อยและมปี ระสิทธภิ าพ อกี ทง้ั เป็นตวั กลางในการประสาน เพื่อทางานระหว่าง H. & S. เพอ่ื ตอบสนองการทางานของผใู้ ชง้ าน ตัวอย่าง DOS / Microsoft Windows / MAC-OS / UNIX / LINUX เปน็ ตน้ Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.5 ข้นั ตอนของระบบปฏิบัตกิ าร (Operating Systems)1........................................................................... Lecturer Ms.Watsamon Santisiri.............................................................................2........................................................................................................................................................3........................................................................................................................................................4........................................................................................................................................................
4.6 หนา้ ท่ีระบบปฏบิ ัติการ (Operating Systems) • เปน็ ส่วนประสานกับผ้ใู ช้ (User Interface) • จดั การและควบคมุ อุปกรณ์ (Manage and Control Device) • การจดั การทรพั ยากร (Resource Management) • การจัดการหนว่ ยความจา (Memory) • การจัดการการประมวลผล (Process) • การจดั การไฟล์ (Files)Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.7 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) • สามารถแบ่งย่อยไดด้ งั นี้ • โปรแกรมประยุกตเ์ พ่ืองานทั่วไป (General Purpose Application Programs) • Word Processing • Spreadsheet • Presentation • Database Management • Graphics ProgramLecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.7 ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) • สามารถแบ่งยอ่ ยได้ดงั นี้ • โปรแกรมประยุกตเ์ ฉพาะงาน (Application Specific Programs) • ……………………………………………………………………………………………………………………….. • ……………………………………………………………………………………………………………………….. • ……………………………………………………………………………………………………………………….. • ……………………………………………………………………………………………………………………….. • เปน็ ซอฟตแ์ วรท์ ี่นามาประยกุ ตใ์ ช้ในธรุ กจิ เฉพาะ ตามฟังก์ชน่ั แต่ละส่วนงาน เชน่ • ระบบบัญชี ระบบการขาย ระบบสินค้าคงคลัง บรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.7 นวัตกรรมล่าสดุ ของการพฒั นาซอฟต์แวร์ คอื OPEN-Source Software • ซง่ึ เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ผี ใู้ ชท้ ว่ั ไปสามารถใช้งานได้โดยไมก่ ังวลเก่ยี วกบั ค่าลขิ สทิ ธ์ิ • สามารถนาไปแจกจ่าย เผยแพร่ได้ รวมถึงเปดิ เผยชุดคาสง่ั ขอ้ มลู • เพือ่ เปิดโอกาสใหผ้ อู้ ื่นนาไปปรับปรงุ แกไ้ ข พฒั นา ต่อยอดได้ • มปี ระโยชนค์ ือช่วยลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ย เร่ือง ลิขสทิ ธิ์ • สาหรบั ประเทศไทยมี “สานกั งานส่งเสรมิ อุตสาหกรรมซอฟตแ์ วรแ์ ห่งชาติ” SIPA • SIPA : Software Industry Promotion Agency ภายใตก้ ารกากบั ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เพ่ือรณรงค์ในการใช้ซอฟแวร์แบบไมล่ ะเมิดลขิ สิทธิ์Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.7 นวัตกรรมลา่ สดุ ของการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ คือ OPEN-Source SoftwareLecturer Ms.Watsamon Santisiri
4.8 การพิจารณาเลอื กซอ้ื ซอฟแวร์ • เพยี งพอต่อการใช้งานตามจดุ ประสงค์ • งา่ ยตอ่ การเรียนรู้ ใชง้ าน • ความเขา้ กันได้กบั ซอฟแวร์ประเภทอ่นื ๆ • ชอ่ื เสยี งของผู้ขาย • คุณภาพการบรกิ ารหลังการขาย • ระบบเครือข่าย • ต้นทนุLecturer Ms.Watsamon Santisiri
IT Infrastructure : Software 1.2System Software & Application Software• Home Work Chapter 4 (2)• เอกสารมากกว่า 1 แผ่นเยบ็ มุมเสมอ |เอกสารสง่ ในคาบเรยี นถดั ไปในชั้นเรียนเทา่ นน้ั• เม่อื ต้องการซ้ือชุดซอฟแวร์ ส่งิ ทคี่ วรพจิ ารณามอี ะไรบา้ ง• OPEN-Source Software คอื อะไร และมีความแตกตา่ งจาก Software เพ่ือการพาณิชยอ์ ย่างไร• ซอฟแวรร์ ะบบ เหมาะสาหรบั งานประเภทใด จงยกตัวอยา่ งให้เหน็ ชดั เจน• ซอฟต์แวรท์ ี่นามาประยุกต์ใชใ้ นธุรกิจเฉพาะ ทีน่ กั ศกึ ษาร้จู กั มีอะไรบ้าง จงยกอยา่ งมา 5 ซอฟแวร์Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
Chapter 5 Business Information System Lecturer Ms.Watsamon Santisiri-Commerce
5.1 ภาพรวมของ e-Business and e-Commerce • เปน็ การรวมระบบและเทคโนโลยีถกู ผนวกรวมเขา้ ดว้ ยกนั • เปลย่ี นความสัมพันธแ์ บบพบกัน เป็นความสัมพนั ธ์แบบดจิ ติ อล “สอ่ื สารกันแบบออนไลน”์ • การตดิ ต่อสอ่ื สารสามารถทาไดโ้ ดยใช้เครอื ขา่ ยและอนิ เตอร์เนต็ • ธรุ กิจในปจั จบุ ันสามารถดาเนินการไดโ้ ดยเครอื ขา่ ยดจิ ิตอล • ธุรกจิ อิเล็กทรอนิกส์และพาณชิ ย์อเิ ลก็ ทรอนิกสต์ ่างใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิตอลและ “อนิ เตอรเ์ นต็ ” • เทคโนโลยีดจิ ติ อลใช้ในการสนบั สนนุ กระบวนการทางธุรกจิ ขององค์กร • e-Business Electronic Business • e-Commerce Electronic CommerceLecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.2 Electronic Commerce ; e-Commerce • การดาเนินธุรกรรมทางการค้าผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ • ที่เก่ยี วขอ้ งกระบวนการ ซื้อสินค้า ขายสินค้า จัดส่งสินคา้ แลกเปล่ียนสินคา้ /บริการ ผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต • e-Commerce จะมีความหมายถกู จากัดให้แคบลงไปอีก ดังนั้นหลายคนจงึ มักใชค้ าว่า e-Business เนอื่ งจากมีครอบคลมุ ความหมายทกี่ ว้างกว่าLecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.2 Electronic Commerce ; e-Business • การดาเนนิ ธรุ กรรมใดๆผ่านสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ • ท่ีมิใช่เพยี งการขายสนิ คา้ หรือบริการต่างๆบนอนิ เตอรเ์ นต็ • รวมถึงการทาธุรกรรมออนไลน์ในองค์กรและภายนอกองคก์ ร • การบริการลกู ค้า การทางานร่วมกนั ระหว่างลูกคา้ ตา่ งชาติ • การสอื่ สารรวมท้ัง อนิ เตอรเ์ นท และ เอ็กซ์ทราเน็ต • อีบิสซิเนส จงึ มีความครอบคลมุ ขอบเขตมากกว่าอีคอมเมิร์ซ • สรปุ วา่ “อีคอมเมิร์ซเป็นเพยี งสว่ นหน่ึงของอบี สิ ซิเนส”Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.2 คุณสมบตั ิ 8 ประการของเทคโนโลยี e-Commerce • การมีอย่ทู วั่ ทกุ หนแห่ง (Ubiquity) • ขอบเขตครอบคลมุ ทวั่ โลก (Global Reach) • มาตรฐานระดบั สากล (Universal Standards) • ความสมบรู ณ์ในข่าวสาร (Richness) • การตอบโต้ระหว่างกนั (Interactivity) • ความหนาแน่นของสารสนเทศ (Information Density) • เทคโนโลยีทางสงั คม (Social Technology) • ความเป็นเฉพาะตวั และการปรบั แต่งให้เหมาะสมกบั บคุ คล (Personalization/Customization)Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.2 รปู แบบการดาเนนิ ธุรกจิ แบบ e-Commerce 3 รปู แบบ • มิติของอีคอมเมิรซ์ มี 3 รปู แบบ (ผลิตภณั ฑ/์ กระบวนการ/ตวั แทนในการส่งมอบ) • Brick and Mortar การดาเนนิ ธรุ กจิ แบบดงั้ เดมิ (Purely Physical) 3 รปู แบบ (ผลติ ภณั ฑ/์ กระบวนการ/ตวั แทนในการสง่ มอบ) ลว้ นเป็นการดาเนนิ การทพ่ี บปะกนั อยา่ งแทจ้ รงิ เชน่ รา้ น สะดวกซอ้ื การเลอื กซอ้ื สนิ คา้ และชาระเงนิ ทน่ี นั่ • Click and Mortar การดาเนินธรุ กจิ แบบผสมผสาน 3 รปู แบบ (ผลติ ภณั ฑ/์ กระบวนการ/ ตวั แทนในการสง่ มอบ) เชน่ รา้ นขายสนิ คา้ ทม่ี เี ปิดหน้ารา้ นจรงิ และเวบ็ ไซตเ์ พม่ิ อกี 1 ชอ่ ง www.se-ed.com ในรปู แบบออนไลน์ • Click and Click การดาเนนิ ธรุ กจิ ดจิ ติ อลหรอื แบบออนไลน์ลว้ นๆ (Pure-Play) ซง่ึ ไมม่ รี า้ นอยู่ จรงิ ลกู คา้ ตอ้ งเลอื กสงั่ จากเวบ็ ไซตเ์ พยี งชอ่ งทางเดยี ว เชน่ amazon.com Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.2 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • ภาคธรุ กิจกบั ผบู้ ริโภค (Business-to-Consumer :B2C) • รปู แบบการดาเนินธรุ กจิ ระหวา่ งผปู้ ระกอบการและผบู้ รโิ ภค • ผบู้ รโิ ภคกค็ อื ลกู คา้ นนั่ เอง // หรอื ผซู้ อ้ื สนิ คา้ • สามารถเรยี กอกี ชอ่ื หน่ึงไดว้ า่ e-Tailing ซง่ึ ใชว้ ธิ กี ารขายตรง (Direct Sale) • การสงั่ ซอ้ื หรอื บรกิ ารจากเวบ็ ไซตผ์ า่ นรา้ นอเิ ลก็ ทรอนิกส์ • ขอ้ เดน่ สาคญั คอื ผบู้ รโิ ภคสามารถตดิ ต่อซอ้ื สนิ คา้ กบั ทางรา้ นคา้ ไดโ้ ดยตรง • ไมผ่ า่ นคนกลาง ทาใหส้ นิ คา้ ถกู กวา่ ทอ้ งตลาด Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.3 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท ภาคธรุ กิจกบั ผบู้ ริโภค (Business-to-Consumer :B2C) Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.4 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • ภาคธรุ กิจกบั ภาคธรุ กิจ (Business-to-Business :B2B) • รปู แบบการดาเนนิ ธรุ กรรมระหวา่ งผปู้ ระกอบการดว้ ยกนั • ทงั้ สองฝ่ายสามารถเป็นไดท้ งั้ ผซู้ อ้ื และผขู้ าย • สามารถสรา้ งสมั พนั ธอ์ นั ดรี ว่ มกนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี • ธุรกจิ ในปัจจุบนั ทส่ี ามารถเตบิ โตไดด้ ตี อ้ งพง่ึ พาอาศยั ซง่ึ กนั และกนั Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.5 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • ผบู้ ริโภคกบั ผบู้ ริโภค (Consumer-to-consumer :C2C) • รปู แบบธุรกรรมระหวา่ งผบู้ รโิ ภคดว้ ยกนั • การซอ้ื ขายดว้ ยวธิ นี ้ี มวี ตั ถุประสงคท์ แ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป • มกี ารขายสนิ คา้ ทงั้ มอื 1 และ มอื 2 รวมถงึ การแลกเปลย่ี นสนิ คา้ • หากมคี วามพอใจทงั้ ผซู้ อ้ื และผขู้ าย สามารถตกลงซอ้ื ขายกนั ได้ • หรอื ทาการนดั สถานทเ่ี พอ่ื ชาระเงนิ หรอื และเปลย่ี นกนั เองได้ Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.6 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • ภาคธรุ กิจในเครอื กบั ผบู้ ริโภค (Business-to-Business-to-Consumer :B2B2C) • รปู แบบธุรกจิ ทม่ี กี ารขายชว่ งตอ่ ไปยงั ภาคธรุ กจิ ดว้ ยกนั • อาจเป็นกลมุ่ ธรุ กจิ ในเครอื เดยี วกนั • การสง่ มอบธุรกจิ กย็ งั เป็นเป็นการสงมอบใหผ้ บู้ รโิ ภคโดยตรง Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.7 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • ผบู้ ริโภคกบั ภาคธรุ กิจ (Consumer-to-Business :C2B) • การดาเนินธุรกรรมระหวา่ งผบู้ รโิ ภคกบั ผปู้ ระกอบการ • ผบู้ รโิ ภคมสี ถานะเป็นผคู้ า้ • มบี ทบาทในการต่อรองเพอ่ื ตงั้ ราคาสนิ คา้ • ผปู้ ระกอบการจะนาราคาทล่ี กู คา้ เสนอใหก้ บั ผขู้ ายปัจจยั การผลติ • มาพจิ ารณาวา่ สามารถจาหน่ายไดร้ าคาน้ีหรอื ไม่ • พบวา่ อคี อมเมริ ซ์ ในรปู แบบ C2B ลกู คา้ กบั ผปู้ ระกอบการจะมบี ทบาทยอ้ นศรสลบั กนั • Priceline.com ผบู้ กุ เบิกแนวคิดอีคอมเมิรซ์ ในรปู แบบ C2B Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.8 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท Lecturer Ms.Watsamon Santisiri• ภาคธรุ กิจกบั พนักงาน (Business-to-Employee :B2E)• การดาเนนิ ธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ พอ่ื ปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั งิ านใหด้ ยี ง่ิ ขน้ึ• โดยนาขอ้ มลู ขา่ วสารและสารสนเทศภายในองคก์ ร• พนกั งานสามารถรบั ทราบขอ้ มลู ขา่ วสารไดภ้ ายในเครอื ขา่ ยอนิ ทราเน็ต• ประโยชน์ชว่ ยลดงานดา้ นเอกสาร มาใชแ้ ทนได้ ลดคา่ ใชจ้ า่ ยใหก้ บั องคก์ รไดด้ ี
5.9 ประเภทของ e-Commerce มี 7 ประเภท • รฐั บาลอิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Government) • การดาเนนิ ธุรกรรมทภ่ี าครฐั ไดน้ าสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สม์ าใหบ้ รกิ าร • ใหแ้ กภ่ าคประชาชนและบรหิ ารจดั การงานของภาครฐั เอง • ในการบรกิ ารแกภ่ าคประชาชน ถอื เป็นงานสว่ นหน้า (Font Office) • ในการบรกิ ารแก่รฐั ถอื เป็นงานสว่ นหลงั (Back Office) Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.10 ขอบเขตของ e-Commerce มี 5 ขอ้• คน (People) ผขู้ าย ผซู้ อ้ื คนกลาง ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นระบบสารสนเทศ พนกั งานภายในองคก์ รและ บุคคลภายนอกอน่ื ๆ ทม่ี สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง• นโยบายสาธารณะ (Public Policy) กฎหมายและขอ้ บงั คบั เชน่ การกดี กนั ภาษี• การตลาดและโฆษณา (Marketing and Advertising) การวจิ ยั ทางการตลาดและการโฆษณาและ ประชาสมั พนั ธ์ เพอ่ื ใหเ้ ป็นทร่ี จู้ กั ดงึ ดดู ลกู คา้• บริการสนับสนุน (Support Services) การบรกิ ารเพอ่ื สนบั สนุนและอานวยความสะดวก เชน่ การ ชาระเงนิ ไดท้ นั ที ปละรวดเรว็ การสรา้ งความน่าเชอ่ื ถอื• ค่คู ้าทางธรุ กิจ (Business Partnerships) การรว่ มลงทุน การจดั ทาการตลาดกลางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การ เป็นคคู่ า้ ทางธรุ กจิ Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.11 ประโยชนข์ อง e-Commerce• เป็น นวตั กรรมใหม่ ๆ ที่เกิดจากการนาเทคโนโลยีมาประยกุ ตใ์ ช้ ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อมวลมนุษยชาติไมว่ ่าจะเป็นประโยชน์ท่ีเกิดจากตนเองแล้ว ยงั เก่ียวข้องกบั องคก์ ร และสงั คมโดยรวม ทานองเดียวกนั กบั อีคอมเมิรซ์ ที่ก่อประโยชน์อย่างมาก และถกู ยอมรบั กนั มากขึน้ ตามอตั ราการขยายของธรุ กิจอีคอมเมิรซ์ และอินเตอรเ์ น็ต เช่น ประโยชน์ต่อองคก์ ร ประโยชน์ต่อลกู ค้า และประโยชน์ต่อสงั คม .. Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.12 ข้อจากดั ของ e-Commerce• กล่มุ คนบางกล่มุ ยงั ไมเ่ ข้าใจการซื้อขายสินค้าผา่ นระบบอีคอมเมิรซ์• เช่ือว่าสินค้า มีราคาแพงและไมป่ ลอดภยั ไม่มีความน่าเชื่อถือ• ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงแบบไมม่ ีหน้าร้าน• ขาดข้อขงั คบั ทางกฎหมายทงั้ ภายในและภายนอกประเทศ มาตรฐานอสุ าหกรรม• รายละเอียดเก่ียวกบั การจดั เกบ็ ภาษีไม่ชดั เจน• จาเป็นต้องมีอปุ กรณ์ท่ีเชื่อมต่อระบบเครอื ข่าย• เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไว Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.13 ระบบการชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ มี 3 ประเภท1. e-Checks มคี วามคลา้ ยคลงึ กบั เชค็ ทเ่ี ป็นกระดาษ มกั ถกู นามาใชก้ บั ธุรกจิ ในรปู แบบ B2B• ขนั้ ตอนแรกใหท้ าการเปิดบญั ชกี ่อน เมอ่ื มลี กู คา้ มาสงั่ สนิ คา้ หรอื บรกิ าร• ลกู คา้ จะสง่ อเี มล พรอ้ มเชค็ อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ไ่ี ดร้ บั การเข้ารหสั ความปลอดภยั ไปยงั ผขู้ าย• เมอ่ื ผขู้ ายไดร้ บั เชค็ จะนาไปฝากธนาคาร จากนนั้ ธนาคารจะโดนยอดเงนิ เขา้ บญั ชจี าก ผซู้ ้อื ไปยงั ผขู้ าย**ในกรณีนี้ผรู้ บั เชค็ จะเป็นผทู้ ่ีรบั ความเส่ียง กรณีท่ีผซู้ ื้อไม่ได้โอนเงินเข้าบญั ชี และหาเกิดขึน้ การกระทาดงั กล่าวจะมีผลทางกฎหมายทนั ทีเช่นกนั Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.13 ระบบการชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ มี 3 ประเภท2. e-Credit CARD เป็นบตั รเครดติ ทอ่ี นุญาตใหล้ กู คา้ สามารถชาระเงนิ ออนไลน์ผา่ นบตั รเครดติ ได้• ซง่ึ เหมอื นการใชบ้ ตั รเครดติ ทวั่ ไปในการซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ าร• มกั นิยมใชใ้ นรปู แบบธรุ กจิ แบบ B2C เชน่ การสงั่ หนงั สอื ออนไลน์ ดว้ ยการชาระเงนิ ผา่ นบตั รเครดติ• ไดร้ บั ความนิยมสงู และมอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตต่อเน่ือง Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.14 ระบบการชาระเงนิ อิเล็กทรอนิกส์ มี 3 ประเภท3. e-Cash เป็นเงนิ สดอเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ อ่ี นุญาตใหน้ ามาใช้ เพอ่ื ชาระคา่ สนิ คา้ และบรกิ ารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ตได้โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทยอ่ ยไดด้ งั น้ี• บตั รชาระเงินสดล่วงหน้า (Stored-Value Money Card / Prepaid Cards) เป็นการใชเ้ ทคโนโลยี การเกบ็ มลู คา่ เงนิ ลงในบตั รแบบดจิ ติ อล โดยมลู คา่ เงนิ ภายในบตั รจะเป็นตวั แทนของมลู คา่ ทผ่ี ูถ้ อื บตั รทไ่ี ดช้ าระ เงนิ ไวล้ ว่ งหน้าแลว้ ดงั นนั้ ผถู้ อื บตั รสามารถใชบ้ ตั รดงั กล่าวในการชาระเงนิ คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารแทนเงนิ สดไดท้ นั ที• การชาระเงินระหว่างบคุ คล (Person-to-Person Payments) เป็นการโอนเงนิ โดยไมใ่ ชบ้ ตั รเครดติ แต่อย่างใด ทงั้ น้จี ะมเี วบ็ ไซตท์ ไ่ี ดก้ ่อตงั้ ขน้ึ มา เพอ่ื บรหิ ารการชาระเงนิ ระหว่างบุคคลไดโ้ ดยเฉพาะ เชน่ PayPal (คดิ คา่ ธรรมเนยี ม)• กระเป๋ าเงินดิจิตอล (e-Wallets) เป็นการนาอปุ กรณ์ทถ่ี กู บนั ทกึ ดว้ ยระบบดจิ ติ อล รวมถงึ ความปลอดภยั กบั ความสะดวกสบายเขา้ ไวด้ ว้ ยดนั โดยผา่ นระบบกระเป๋ าเงนิ ดจิ ติ อล ซง่ึ เป็นอปุ กรณ์ไรส้ ายทม่ี ชี ปิ สมารท์ การด์ ฝัง ไว้ เมอ่ื เขา้ ไปใกลท้ ร่ี บั สญั ญาณ ตวั ระบบกจ็ ะทาการหกั เงนิ ในชปิ สมารท์ การด์ ไดท้ นั ที เช่น Easy Pass / M Pass Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.14 ระบบการชาระเงนิ อิเล็กทรอนกิ ส์ มี 3 ประเภท (ภาพเพิ่ม) Prepaid Cards Person-to-Person PaymentsLecturer Ms.Watsamon Santisiri e-Wallets
5.15 ความปลอดภยั ในการชาระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์• การพิสจู น์ตวั ตน (Authentication) การยนื ยนั ตวั ตน หรอื ตวั บุคคลทถ่ี กู กลา่ วอา้ งได้• ความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั (Integrity) มคี วามมนั่ ใจในการไดข้ อ้ มลู และสารสนเทศทต่ี รงกนั• การปฏิเสธความรบั ผิดชอบ (Non-Repudiation) ผปู้ ระกอบการไมส่ ามารถปฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบ ดว้ ยการยกเลกิ การสงั่ ซอ้ื จากลกู คา้ ไดใ้ นการทาธรุ กรรมทถ่ี กู ตอ้ งตามขนั้ ตอน และลกู คา้ จะไมส่ ามารถ ปฏเิ สธไมจ่ า่ ยเงนิ เมอ่ื ไดส้ นิ คา้ ภายหลงั แลว้ ไมไ่ ดเ้ ชน่ กนั แลว้ แต่กรณคี วามเทา่ นัน้• สิทธิส่วนบคุ คล (Privacy) มกี ารปกปิดขอ้ มลู สว่ นตวั ของตนเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจวา่ ปลอดภยั• ความปลอดภยั (Safety) ลกู คา้ ทกุ คนลว้ นตอ้ งการความปลอดภยั ในการตอ้ งการสนิ คา้ ในระบบ เครอื ขา่ ยออนไลน์ Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
5.16 การรกั ษาความปลอดภยั (Security Protection)• สาหรบั กลไกการรกั ษาความปลอดภยั ทใ่ี ชใ้ นธรุ กจิ อคี อมเมริ ซ์ เชน่ โปรโตคอล SSL (Secure Sockets Layer) โดยขอ้ มลู การสอ่ื สารระหวา่ งเครอ่ื งไคลเอนตแ์ ละเซริ ฟ์ เวอร์ จะถกู นามา เข้ารหสั แบบกญุ แจ สาธารณะ (Public Key) ตวั อยา่ งการสงั เกตขอ้ มลู เวบ็ ไซตท์ ม่ี กี ระบวนการรกั ษาความปลอดภยั ตรง URL จะใชโ้ ปรโตคอล https:// แทนทจ่ี ะเป็นโปรโตคอล http:// แบบปกติ Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
e C- ommerce• Home Work Chapter 5• เอกสารมากกวา่ 1 แผน่ เยบ็ มมุ เสมอ |เอกสารสง่ ในคาบเรยี นถดั ไปในชนั้ เรยี นเท่านนั้• PayPal คอื อะไร และชว่ ยสง่ เสรมิ ต่อธุรกจิ อคี อมเมริ ซ์ อยา่ งไร• จงยกตวั อยา่ งธุรกจิ ในรปู แบบ B2B, B2C , C2C , และ e-Government มาอยา่ งละ 2 ตวั อยา่ ง• e-Marketplace , e-Catalogs , e-Auction , e-Procurement จงอธบิ ายความหมายมา พอเขา้ ใจ• เทคโนโลยี EDI (Electronic Data Interchange) คอื อะไร• E-Tailing คอื อะไร มลี กั ษณะอยา่ งไร และมกี ป่ี ระเภท จงอธบิ าย *การบา้ น Chapter 5 ออกสอบปลายภาค
Business Information Systems - Intro Chapter 6 Business Information System Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
6.1 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบ • ประสิทธิผล (Effectiveness) เป็นคาทใ่ี ชว้ ดั ระดบั ความสาเรจ็ ของงาน ทส่ี ามารถทาแลว้ บรรลุ วตั ถปุ ระสงคต์ ามเป้าหมายทต่ี งั้ ไว้ นนั่ หมายถงึ งานทส่ี ามารถทาแลว้ บรรลุตามทม่ี งั่ หวงั และตามท่ี กาหนดไวใ้ นวตั ถุประสงคน์ นั่ เอง ดงั นนั้ ระบบทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ลสงู หรอื ต่า จะขน้ึ อยกู่ บั • จานวนรายการท่ีบรรลผุ ลตามท่ีกาหนดไว้ในเป้าหมาย • ระดบั ประโยชน์ที่เกิดจากผลผลิตที่ได้ • ประสิทธิภาพ (Efficiency) เป็นการวดั สง่ิ ทถ่ี กู ผลติ ออกมา (Benefits) แลว้ นามาหารดว้ ยรายจา่ ยหรอื ตน้ ทุนทใ่ี ชไ้ ป (Costs) สามารถคานวณได้ จากสตู รการคานวณดงั น้ี สตู ร Efficiency = benefits / costsLecturer Ms.Watsamon Santisiri
6.1 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบ (ต่อ) • เครอ่ื งมอื เพิ่มผลผลิต (Productivity Tools) • หมายถงึ โปรแกรมประยกุ ต์ ทน่ี ามาใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการทางานใหส้ าเรจ็ ลงไดภ้ ายในระยะเวลาอนั สนั้ อกี ทงั้ ผลงานกม็ คี ณุ ภาพ เชน่ ชดุ โปรแกรม MS-Office ทพ่ี นกั งานใชจ้ ดั การงานดา้ นเอกสาร งาน นาเสนอ และงานสานกั งานทวั่ ไปไดเ้ ป็นอยา่ งดี • สรปุ ได้ว่า ในการนาระบบสารสนเทศมาใช้กบั ธรุ กิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลนัน้ ระบบสารสนเทศจะต้องสนับสนุนงานในหน้าท่ีทางธรุ กิจขององคก์ รได้เป็นอย่างLecturer Ms.Watsamon Santisiri
Business Information System • Chapter 6 • Business Information System • Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
6.1 ระบบสารสนเทศทางธรุ กิจ • ในภาคธรุ กิจจะจดั โครงสร้างองคก์ รเป็นแผนกต่างๆ • เพ่ือให้พนักงานรบั ผิดชอบตามส่วนงานที่ตนสงั กดั • ดงั นัน้ ระบบ MIS (...................................................) ถกู พฒั นาขึน้ เพ่ือสนับสนุนการปฏิบตั ิงาน • เช่น ทางบญั ชี การเงิน การผลิต การตลาด และทรพั ยากรมนุษย์ เป็นต้น • ทาการสนับสนุนธรุ กิจหลกั ขององคก์ รให้ขบั เคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ • ทงั้ ในระดบั ปฏิบตั ิการและระดบั บริหาร • ช่วยสนับสนุนธรุ กิจหลกั ขององคก์ รให้มีประสิทธิภาพLecturer Ms.Watsamon Santisiri
6.2 ระบบสารสนเทศทางธรุ กิจ (ต่อ)• ระบบสารสนเทศได้ถกู นามาใช้งานตามบทบาทหน้าท่ีของส่วนงานธรุ กิจ (Function Area)• ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี ระบบสารสนเทศทางการเงิน ระบบสารสนเทศทางการผลิต ระบบสารสนเทศทางการตลาด และระบบสานสนเทศด้านทรพั ยากรมนุษย์• ระบบสารสนเทศดงั กล่าวมาบรู ณาการด้วยการเช่ือมโยงกนั ทงั้ องคก์ ร• ระบบท่ีเชื่อมโยงกนั แบบทวั่ ทงั้ องคก์ รเป็นระบบเดียวจะนาไปส่รู ะบบ ERP• ระบบประมวลผลรายการประจาวนั คือ ระบบ TPS ทงั้ สิ้น • Enterprise Resource Planning Systems (ERP) • Transaction Processing System (TPS)Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
6.3 ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี• ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี• ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี ระบบสารสนเทศทางการเงิน ระบบสารสนเทศทางการผลิต ระบบสารสนเทศทางการตลาด และระบบสานสนเทศด้านทรพั ยากรมนุษย์• ระบบสารสนเทศดงั กล่าวมาบรู ณาการด้วยการเชื่อมโยงกนั ทงั้ องคก์ ร• ระบบท่ีเช่ือมโยงกนั แบบทวั่ ทงั้ องคก์ รเป็นระบบเดียวจะนาไปส่รู ะบบ ERP• ระบบประมวลผลรายการประจาวนั คือ ระบบ TPS ทงั้ สิ้น • Enterprise Resource Planning Systems (ERP) • Transaction Processing System (TPS)Lecturer Ms.Watsamon Santisiri
Search