๑ หลกั คุณธรรม สำหรบั ครแู ละ นกั เรียน เกษม แสงนนท์
๒ หลกั คณุ ธรรมสำหรบั ครแู ละนกั เรียน โดย เกษม แสงนนท์ สงวนลิขสทิ ธิต์ ามกฎหมาย ขอ้ มูลทำงบรรณำนุกรม เกษม แสงนนท์. (2561). หลักคณุ ธรรมสำหรบั ครแู ละนกั เรยี น. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . 114 หนา้ รำคำ………………….บำท ISBN: ……………………………………………… พมิ พ์ท:ี่ โรงพมิ พม์ หาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย เลขท่ี 17 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวงั เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
๓ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำคำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ คำนำ เกษม แสงนนท์
๔ สำรบัญ เรอ่ื ง.................................................................................... เร่ือง.................................................................................... เรอ่ื ง.................................................................................... เรอ่ื ง.................................................................................... เรื่อง.................................................................................... เรอ่ื ง.................................................................................... เรอ่ื ง.................................................................................... เรอ่ื ง....................................................................................
๑ บทท่ี ๑ หลกั ธรรมของผ้สู ่งั สอนหรอื ให้การศึกษา (ครู อำจำรย์ หรือผู้แสดงธรรม) ผ้ทู ำหนำ้ ทส่ี ั่งสอน ให้กำรศกึ ษำแก่ผู้อืน่ โดยเฉพำะครู อำจำรย์ พึงประกอบด้วยคุณสมบตั ิ และประพฤตติ ำมหลกั ปฏิบัติ ดงั นี้ ก. เปน็ กัลยำณมติ ร ข. ตัง้ ใจประสทิ ธคิ์ วำมรู้ ค. มลี ลี ำครคู รบท้ังส่ี ง. มหี ลักตรวจสอบสำม จ. ทำหนำ้ ทค่ี รูตอ่ ศษิ ย์ ก. เป็นกัลยาณมิตร คือ ประกอบด้วยองค์คุณของกัลยาณมติ ร หรอื กลั ยาณมติ รธรรม ๗ ประการ ดังนี้ ๑. ปิโย น่ารกั คอื มีเมตตำกรณุ ำ ใสใ่ จคนและประโยชน์สขุ ของ เขำ เขำ้ ถึงจติ ใจ สร้ำงควำมรูส้ ึกสนิทสนมเป็นกันเอง ชวนใจผู้เรียนให้ อยำกเข้ำไปปรึกษำไตถ่ ำม ๒. ครุ นา่ เคารพ คอื เป็นผหู้ นักแนน่ ถือหลักกำรเปน็ สำคญั และมีควำมประพฤติสมควรแกฐ่ ำนะ ทำให้เกดิ ควำมรู้สึกอบอนุ่ ใจ เป็นที่ พ่ึงได้และปลอดภยั
๒ ๓. ภาวนโี ย นา่ เจรญิ ใจ คือ มคี วำมรจู้ รงิ ทรงภูมปิ ัญญำแทจ้ รงิ และเปน็ ผู้ฝึกฝนปรบั ปรงุ ตนอยเู่ สมอ เปน็ ท่นี ำ่ ยกย่องควรเอำอย่ำง ทำให้ ศษิ ย์เอย่ อ้ำงและรำลึกถงึ ดว้ ยควำมซำบซ้ึง มัน่ ใจ และภำคภูมิใจ ๔. วตฺตา รจู้ ักพดู ใหไ้ ด้ผล คือ รู้จักชแ้ี จงให้เขำ้ ใจ รู้ว่ำเม่อื ไรควร พูดอะไร อย่ำงไร คอยให้คำแนะนำวำ่ กล่ำวตักเตอื น เป็นท่ีปรึกษำที่ดี ๕. วจนกขฺ โม อดทนตอ่ ถอ้ ยคา คอื พรอ้ มทีจ่ ะรบั ฟังคำปรกึ ษำ ซักถำมแม้จุกจกิ ตลอดจนคำล่วงเกนิ และคำตกั เตือนวิพำกษ์วจิ ำรณต์ ำ่ งๆ อดทน ฟงั ได้ ไม่เบื่อหน่ำย ไมเ่ สยี อำรมณ์* ๖.คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา แถลงเรอ่ื งลาลึกได้ คอื กล่ำวชีแ้ จงเรือ่ ง ต่ำงๆ ทย่ี ุ่งยำกลกึ ซงึ้ ใหเ้ ขำ้ ใจได้ และสอนศษิ ย์ให้ได้เรยี นรู้เร่อื งรำวท่ี ลกึ ซึ้งย่ิงข้ึน ๗. โน จฏฐฺ าเน นโิ ยชเย ไม่ชักนาในอฐาน คือ ไมช่ กั จงู ไป ในทำงท่เี ส่อื มเสีย หรอื เร่อื งเหลวไหลไมส่ มควร (อง.ฺ สตฺตก. ๒๓/๓๔/๓๓) ข. ตั้งใจประสิทธค์ิ วามรู้ โดยตง้ั ตนอยใู่ นธรรมของผแู้ สดงธรรม ทีเ่ รยี กว่า ธรรมเทศกธรรม ๕ ประการ คือ ๑. อนบุ ุพพกิ ถา สอนให้มีขนั ตอนถกู ลาดับ คอื แสดงหลกั ธรรม หรอื เน้ือหำตำมลำดับควำมงำ่ ยยำกลุม่ ลึก มเี หตผุ ลสัมพนั ธ์ตอ่ เนอื่ งกนั ไป โดยลำดับ
๓ ๒. ปรยิ ายทสั สาวี จับจดุ สาคญั มาขยายใหเ้ ข้าใจเหตุผล คอื ช้แี จง ยกเหตุผลมำแสดง ให้เข้ำใจชดั เจนในแตล่ ะแง่แต่ละประเดน็ อธบิ ำยยัก เยือ้ งไปต่ำงๆ ใหม้ องเห็นกระจ่ำงตำมแนวเหตผุ ล ๓. อนุทยตา ตงั จติ เมตตาสอนด้วยความปรารถนาดี คอื สอน เขำด้วยจิตเมตตำ มุ่งจะให้เป็นประโยชน์แกผ้ รู้ บั คำสอน ๔. อนามสิ ันดร ไม่มจี ิตเพ่งเล็งเห็นแก่อามิส คือ สอนเขำมิใช่มิใช่ ม่งุ ที่ตนจะได้ลำภ สนิ จำ้ ง หรือผลประโยชนต์ อบแทน ๕. อนุปหจั จ*์ วางจิตตรงไม่กระทบตนและผู้อื่น คือ สอนตำม หลกั ตำมเนื้อหำ มุง่ แสดงอรรถ แสดงธรรม ไม่ยกตน ไม่เสยี ดสขี ม่ ขี่ผู้อื่น (อง.ฺ ปญฺจก. ๒๒/๑๕๙/๒๐๕) ค. มลี ีลาครูครบทง้ั สี่ ครทู ีส่ ามารถมลี ลี าของนกั สอน ดงั นี้ ๑. สันทสั สนา ชีใหช้ ัด จะสอนอะไร กช็ ้ีแจงแสดงเหตผุ ล แยกแยะอธิบำยใหผ้ ฟู้ ังเข้ำใจแจม่ แจ้ง ดังจูงมอื ไปดูเห็นกับตำ ๒. สมาทปนา ชวนให้ปฏิบัติ คือ สิง่ ใดควรทำ กบ็ รรยำยให้ มองเหน็ ควำมสำคญั และซำบซ้งึ ในคณุ ค่ำ เหน็ สมจริง จนผูฟ้ งั ยอมรับ อยำกลงมือทำ หรือนำไปปฏิบตั ิ ๓. สมุตเตชนา เร้าให้กล้า คือ ปลกุ ใจใหค้ กึ คกั เกิดควำม กระตอื รือร้น มกี ำลังใจแข็งขัน มน่ั ใจจะทำใหส้ ำเร็จ ไมก่ ลวั เหน็ดเหน่อื ย หรอื ยำกลำบำก
๔ ๔. สัมปหังสนา ปลกุ ใหร้ ่าเริง คอื ทำบรรยำกำศให้สนกุ สดชน่ื แจ่มใส เบิกบำนใจ ให้ผู้ฟังแช่มชื่น มคี วำมหวงั มองเหน็ ผลดีและทำง สำเร็จ จํางา่ ยๆ ว่า สอนให้ แจ่มแจ้ง จงู ใจ แกลว้ กลา้ ร่าเรงิ (เชน่ ที.สี. ๙/๑๙๘/๑๖๑) ง. มหี ลักตรวจสอบสาม เมอื่ พูดอย่างรวบรดั ทส่ี ดุ ครอู าจตรวจสอบ ตนเอง ดว้ ยลกั ษณะการสอนของพระบรมครู ๓ ประการ คอื ๑. สอนดว้ ยควำมรูจ้ รงิ ร้จู ริง ทำได้จริง จงึ สอนเขำ ๒. สอนอยำ่ งมีเหตผุ ล ให้เขำพจิ ำรณำเข้ำใจแจง้ ดว้ ยปัญญำของเขำ เอง ๓. สอนให้ได้ผลจรงิ สำเรจ็ ควำมมุ่งหมำยของเร่ืองทีส่ อนนั้นๆ เช่น ให้เขำ้ ใจไดจ้ ริง เห็นควำมจริง ทำได้จริง นำไปปฏบิ ัตไิ ด้ผลจรงิ เปน็ ต้น (องฺ.ติก. ๒๐/๕๖๕/๓๕๖) จ. ทาหน้าท่ีครูต่อศษิ ย์ คือ ปฏบิ ตั ติ อ่ ศิษย์ โดยอนเุ คราะหต์ ามหลักธรรม เสมอื นเป็น ทิศเบ้ืองขวา* ดังน้ี ๑. แนะนำฝกึ อบรมให้เปน็ คนดี ๒. สอนให้เขำ้ ใจแจม่ แจง้ ๓. สอนศิลปวทิ ยำให้สนิ้ เชิง ๔. สง่ เสริมยกย่องควำมดีงำมควำมสำมำรถให้ปรำกฏ
๕ ๕. สร้ำงเคร่ืองคุ้มภัยในสำรทิศ คือ สอนฝกึ ศษิ ย์ใหใ้ ชว้ ชิ ำเล้ียง ชพี ได้จริงและรจู้ ักดำรงตนด้วยดี ท่จี ะเปน็ ประกันให้ดำเนินชีวิตดีงำมโดย สวัสดี มคี วำมสุขควำมเจริญ** (ที.ปา. ๑๑/๒๐๐/๒๐๓)
๖ บทที่ ๒ หลกั ธรรมของผเู้ ลำ่ เรยี นศกึ ษำ (นกั เรยี น นกั ศกึ ษำ นกั คน้ ควำ้ ) หลกั ธรรมของผเู้ ลำ่ เรยี นศึกษำ คนท่เี ล่าเรยี นศึกษา จะเป็นนกั เรยี น นกั ศึกษา หรอื นักคน้ ควา้ ก็ ตาม นอกจากจะพงึ ปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมสาหรบั คนท่ีจะประสบ ความสาเร็จ คอื จักร ๔* และอิทธบิ าท ๔* แล้ว ยังมีหลกั การที่ควรรู้ และหลกั ปฏบิ ัตทิ ีค่ วรประพฤติอกี ดังต่อไปนี้ ก. รูห้ ลักบพุ ภาคของการศึกษา ข. มีหลกั ประกนั ของชีวิตที่พัฒนา ค. ทาตามหลกั เสริมสร้างปัญญา ง. ศึกษาให้เปน็ พหูสูต จ. เคารพผจู้ ดุ ประทีปปญั ญา ก. รู้หลักบพุ ภำคของกำรศึกษำ คอื รูจ้ กั องค์ประกอบที่เป็น ปจั จัยแห่งสัมมาทิฏฐิ ๒ ประการ ดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบภายนอกที่ดี ไดแ้ ก่ มีกลั ยาณมติ ร หมายถึง รูจ้ กั หาผแู้ นะนาส่งั สอน ที่ปรกึ ษา เพื่อน หนังสือ ตลอดจนส่ิงแวดล้อมทาง สังคมโดยทวั่ ไปทด่ี ี ที่เก้ือกูล ซึ่งจะชกั จงู หรือกระตนุ้ ให้เกิดปญั ญาไดด้ ้วย
๗ การฟัง การสนทนา ปรกึ ษา ซกั ถาม การอ่าน การคน้ ควา้ ตลอดจนการ รจู้ ักเลือกใช้ส่ือมวลชนให้เปน็ ประโยชน์ ๒. องค์ประกอยภายในทด่ี ี ไดแ้ ก่ โยนโิ สมนสิการ หมายถึง การ ใชค้ วามคดิ ถกู วิธี ร้จู กั คิด หรือคิดเปน็ คือ มองสิ่งท้ังหลายด้วยความคิด พิจารณา สบื สาวหาเหตุผล แยกแยะสง่ิ นนั้ ๆ หรือปัญหานนั้ ๆ ออกให้ เหน็ ตามสภาวะและตามความสมั พนั ธ์แห่งเหตปุ ัจจัย จนเขา้ ถึงความจริง และแกป้ ัญหาหรือทาประโยชนใ์ ห้เกิดขนึ้ ได้ กล่าวโดยยอ่ ว่า ข้อหนึง่ ร้จู กั พง่ึ พาใหไ้ ด้ประโยชนจ์ ากคนและสิง่ ทแ่ี วดล้อม ข้อสอง รู้จักพ่งึ ตนเอง และทาตวั ใหเ้ ป็นทพ่ี ึง่ ของผู้อ่ืน (ม.ม.ู ๑๒/๔๙๗/๕๓๙) ข. มหี ลกั ประกันของชวี ิตท่ีพัฒนำ เม่ือรหู้ ลกั บุพภาคของการศึกษา ๒ อย่างแลว้ พงึ นามาปฏิบัตใิ น ชวี ติ จริง พร้อมกบั สรา้ งคุณสมบัตอิ ืน่ อีก ๕ ประการใหม้ ีในตน รวมเปน็ องค์ ๗ ทเ่ี รียกว่า แสงเงินแสงทองของชวี ติ ที่ดีงาม หรอื รงุ่ อรณุ ของ การศกึ ษา ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงเปรียบวา่ เหมือนแสงอรณุ ที่เป็นบพุ นมิ ติ แห่งอาทติ ย์อุทยั เพราะเป็นคุณสมบตั ิต้นทุนท่ีเป็นหลักประกันว่า จะทา
๘ ให้กา้ วหนา้ ไปในการศกึ ษา และชีวติ จะพัฒนาสู่ความดงี ามและ ความสาเรจ็ ที่สงู ประเสริฐอย่างแนน่ อน ดังตอ่ ไปน้ี ๑. แสวงแหล่งปัญญาและแบบอยา่ งที่ดี ๒. มีวินัยเปน็ ฐานของการพฒั นาชวี ิต ๓. มจี ิตใจใฝ่รใู้ ฝส่ รา้ งสรรค์ ๔. ม่งุ ม่ันฝึกตนจนเตม็ สุดภาวะทค่ี วามเป็นคนจะให้ถงึ ได้ ๕. ยึดถอื หลกั เหตปุ จั จัยมองอะไรๆ ตามเหตุและผล ๖. ตงั้ ตนอยใู่ นความไม่ประมาท ๗. ฉลาดคิดแยบคายใหไ้ ด้ประโยชนแ์ ละความจรงิ ค. ทำตำมหลกั เสรมิ สรำ้ งปัญญำ ในทางปฏิบัติ อาจสรา้ งปัจจัยแห่งสมั มาทฏิ ฐิ ๒ อยา่ งขา้ งตน้ น้นั ได้ ด้วยการปฏิบัติตามหลัก วุฒธิ รรม* (หลักการสร้างความเจริญงอกงาม แห่งปัญญา) ๔ ประการ ๑. สปั ปุริสสงั เสวะ เสวนาผู้รู้ คอื รู้จกั เลือกหาแหล่งวชิ า คบหา ท่านผ้รู ู้ ผทู้ รงคณุ ความดี มภี มู ิธรรมภมู ิปญั ญาน่านับถือ ๒. สัทธมั มัสสวนะ ฟงั ดคู าสอน คอื เอาใจใสส่ ดบั ตรับฟงั คา บรรยาย คาแนะนาส่งั สอน แสวงหาความรู้ ท้ังจากตัวบคุ คลโดยตรง และจากหนังสอื หรือสือ่ มวลชน ต้ังใจเล่าเรียน คน้ คว้า หมั่นปรึกษา สอบถาม ให้เข้าถึงความรู้ท่ีจรงิ แท้ ๓. โยนโิ สมนสิการ คดิ ใหแ้ ยบคาย คอื รู้ เหน็ ไดอ้ า่ น ไดฟ้ งั สิ่งใด ก็รู้จักคดิ พิจารณาดว้ ยตนเอง โดยแยกแยะใหเ้ หน็ สภาวะและสืบสาวให้
๙ เหน็ เหตผุ ลว่านัน่ คอื อะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ทาไมจงึ เป็นอย่างนน้ั จะ เกดิ ผลอะไรตอ่ ไป มีขอ้ ดี ข้อเสีย คณุ โทษอย่างไร เป็นต้น ๔. ธรรมานุธรรมปฏิบัติ ปฏิบัตใิ ห้ถกู หลกั นาสงิ่ ทีไ่ ดเ้ ล่าเรียนรับ ฟังและตรติ รองเหน็ ชดั แลว้ ไปใช้หรือปฏิบตั ิหรือลงมอื ทา ให้ถกู ตอ้ งตาม หลกั ตามความมุ่งหมาย ใหห้ ลกั ยอ่ ยสอดคล้องกบั หลักใหญ่ ขอ้ ปฏิบตั ิ ย่อยสอดคล้องกบั จุดหมายใหญ่ ปฏบิ ัตธิ รรมอยา่ งรู้เป้าหมาย เชน่ สนั โดษเพอื่ เกอื้ หนุนการงาน ไม่ใชส่ นั โดษกลายเปน็ เกียจคร้าน เปน็ ตน้ (องฺ.จตกุ ฺก. ๒๑/๒๔๘/๓๓๒) ง. ศกึ ษำใหเ้ ป็นพหสู ตู คอื จะศกึ ษาเลา่ เรยี นอะไร ก็ทาตนใหเ้ ปน็ พหูสูตในด้านนน้ั ด้วย การสรา้ งความรู้ความเข้าใจใหแ้ จ่มแจ้งชดั เจนถึงขัน้ ครบ องคค์ ุณของ พหสู ูต (ผไู้ ด้เรียนมาก หรือผ้คู งแกเ่ รียน) ๕ ประการ คอื ๑. พหุสฺสตุ า ฟังมาก คือ เลา่ เรียน สดบั ฟงั รูเ้ ห็น อ่าน ส่งั สม ความร้ใู นดา้ นนัน้ ไวใ้ ห้มากมายกว้างขวาง ๒. ธตา จาได้ คอื จับหลกั หรือสาระได้ ทรงจาเร่อื งราวหรือ เน้ือหาสาระไว้ไดแ้ มน่ ยา ๓. วจสา ปรจิ ติ า คล่องปาก คือ ทอ่ งบน่ หรือใชพ้ ูดอยูเ่ สมอ จน แคล่วคลอ่ งจดั เจน ใครสอบถามกพ็ ูดชี้แจงแถลงได้ ๔. มนสานเุ ปกฺขิตา เจนใจ คอื ใส่ใจนกึ คิดจนเจนใจ นึกถงึ คร้งั ใด กป็ รากฏเนือ้ ความสว่างชดั เจน มองเห็นโล่งตลอดไปทั้งเร่อื ง ๕. ทิฏฐฺ ิยา สปุ ฏิวิทธฺ า ขบได้ดว้ ยทฤษฎี คอื เข้าใจความหมาย และเหตุผลแจม่ แจง้ ลกึ ซง้ึ รทู้ ่ีไปท่มี า เหตุผล และความสัมพันธ์ของ
๑๐ เน้อื ความและรายละเอยี ดต่างๆ ท้ังภายในเรื่องน้นั เอง และทเ่ี กี่ยวโยงกับ เรื่องอน่ื ๆ ในสายวิชาหรือทฤษฎนี น้ั ปรุโปร่งตลอดสาย (องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๘๗/๑๒๙) จ. เคำรพผู้จุดประทปี ปญั ญำ ในดา้ นความสัมพันธก์ ับครูอาจารย์ พึงแสดงคารวะนับถอื ตาม หลกั ปฏิบตั ิในเร่อื งทศิ ๖ ข้อว่าด้วย ทศิ เบ้อื งขวา* ดังนี้ ๑. ลกุ ตอ้ นรบั แสดงความเคารพ ๒. เข้าไปหา เพอื่ บารุง รบั ใช้ ปรกึ ษา ซักถาม รบั คาแนะนา เปน็ ตน้ ๓. ฟงั ด้วยดี ฟังเปน็ รู้จักฟังใหเ้ กิดปัญญา ๔. ปรนนิบัติ ช่วยบริการ ๕. เรยี นศิลปวทิ ยาโดยเคารพ เอาจรงิ เอาจัง ถอื เปน็ กิจสำคญั (ท.ี ปำ. ๑๑/๒๐๐/๒๐๓)
๑๑ บรรณำนกุ รม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยตุ ฺโต). (๒๕๔๐). ธรรมนูญชีวติ . กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั . พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตโฺ ต). (๒๕๔๐). ธรรมนญู ชวี ติ พุทธจริยธรรมเพ่ือ ชวี ติ ท่ีดีงาม. (ออนไลน์). คน้ เมอ่ื ๙ ม.ค. ๒๕๖๑ จาก http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/a_const itution_for_living_thai-eng.pdf
๑๒ บนั ทึก ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ....................................................................................................
๑๓ เกยี่ วกบั ผูเ้ ขยี น ช่อื .........................................ช่อื เล่น........................ รูปสวยๆ วนั เกดิ ...........................................จังหวัด........................ การศกึ ษา ประถม โรงเรียน............................................จังหวดั .............................. มธั ยม โรงเรียน............................................จงั หวดั .............................. ป.ตรี สาขา.........................................สถาบัน........................................ ประสบการณ์ทางาน ตาแหน่ง.............................................................. สถานที่ทางาน...................................................... ตาแหน่ง.............................................................. สถานที่ทางาน...................................................... การตดิ ต่อ ............................................................................................................ ............................................................................................................ โทร............................................อีเมล.์ ................................................ Line ID:…………………………….
๑๔
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: