รายงาน เรื่อง กฬี าวอลเลย์บอล เสนอ นางสาวกติ ตยิ า กมิ าวหา โดย เด็กชาย....................................................ชน้ั ม.3 รายงานเลม่ น้เี ป็นสว่ นหน่ึงของวชิ าพลศกึ ษา (วอลเลยบ์ อล) กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร)์ สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทร์ เขต 3
คานา รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) ซ่ึงได้รวบรวมประวัติ วอลเลย์บอล กติกาวอลเลย์บอล ประโยชน์ของวอลเลย์บอล มารยาทท่ีดีของผู้เล่นกีฬา วอลเลยบ์ อล และมารยาททดี่ ขี องผ้ดู กู ฬี าวอลเลย์บอล ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่ารายงานฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากมี ข้อผิดพลาดประการใดทางผู้จดั ทาตอ้ งขออภยั มา ณ ท่นี ้ีดว้ ย เด็กชาย............................................ ผู้จัดทา
สารบัญ หน้า เร่ือง ประวัติวอลเลยบ์ อล กตกิ าวอลเลย์บอล ประโยชน์ของวอลเลย์บอล มารยาททดี่ ีของผู้เล่นกฬี าวอลเลย์บอล มารยาทท่ดี ีของผูด้ ูกีฬาวอลเลยบ์ อล
ประวัติวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) นัน้ ถือกาเนิดขึน้ ต้งั แตป่ ี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลยี ม จ.ี มอรแ์ กน (William G. Morgan) ผ้อู านวยการฝา่ ยพลศกึ ษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association) ประเทศสหรฐั อเมริกา ทต่ี ้องการมีกีฬา สาหรบั เลน่ ในชว่ งฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพอ่ื ออกกาลังกายและพกั ผอ่ นหยอ่ นใจยามหิมะตก โดย นายวิลเลียม จ.ี มอร์แกน เกดิ ไอเดียในการพฒั นากฬี าวอลเลย์บอลข้ึน ขณะทีเ่ ขา กาลังน่งั ดูเทนนิส และเลอื กนาเอาตาขา่ ยกลางสนามของกฬี าเทนนสิ มาเปน็ สว่ นประกอบในกฬี า ท่ีเขาคดิ ค้น และเลอื กใชย้ างในของลูกบาสเกต็ บอล มาเปน็ ลูกบอลทีใ่ ช้ตโี ตต้ อบกันไปมา แต่ยางใน ของลูกบาสเก็ตบอลกลบั ใหน้ ้าหนักเบาจนเกนิ ไป จงึ เปลีย่ นไปใช้ลกู บาสเก็ตบอลแทน ซ่งึ ลูกบาส เก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และนา้ หนกั มากจนเกินไปอีก เขาจงึ ส่งั ทาลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ใน ขนาดเส้นรอบวง 25-27 น้วิ และกาหนดนา้ หนักไว้ท่ี 8-12 ออนซ์ จากนั้นจงึ ตัง้ ช่ือกฬี าชนดิ นวี้ า่ มนิ โทเนตต์ (Mintonette) ตอ่ มา ชอ่ื ของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลีย่ นเปน็ วอลเลยบ์ อล (Volleyball) หลัง ได้รบั คาแนะนาจาก ศาสตราจารย์ อลั เฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ใน งานประชุมสมั มนาผนู้ าทางพลศกึ ษาท่วี ิทยาลัยสปรงิ ฟิลด์ (Spring-field College) เมือ่ ปี ค.ศ. 1896 (พ.ศ.2439) และกลายเปน็ กฬี ายอดนยิ มในหมปู่ ระชาชนชาวอเมรกิ นั จนแพร่หลายออกไป ทั่วโลก รวมท้งั มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นาอยเู่ ป็นระยะ กตกิ าวอลเลย์บอล สนามแข่งขัน - จะตอ้ งเปน็ พื้นไมห้ รอื พน้ื ปนู ทมี่ ลี กั ษณะเรียบ ไมม่ สี งิ่ กดี ขวาง - เป็นรูปสเ่ี หล่ียมผืนผ้า กวา้ ง 9 เมตร ยาว 12 เมตร ความสูงจากพน้ื ประมาณ 7 เมตร มีบรเิ วณโดยรอบหา่ งจากสนามประมาณ 3 เมตร - แตห่ ากเปน็ สนามมาตรฐานในระดบั นานาชาติ กาหนดใหร้ อบสนามหา่ งจากสนาม ประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมคี วามสูง 12.5 เมตร - เสน้ รอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะตอ้ งกวา้ ง 5 เซนติเมตร เป็นสอี ่อนตัดกับ พ้ืนสนาม มองเห็นได้ชดั เจน - เส้นแบง่ เขตแดน (Center line) ท่อี ยูต่ รงกลางสนาม จะตอ้ งอยูใ่ ตต้ าขา่ ย หรือตรงกับ เสาตาข่ายพอดี ตาขา่ ย - จะต้องมีความสูงจากพื้น 2.43 เมตร กวา้ ง 1 เมตร ยาว 9.5 - 10 เมตร - ตารางในตาข่ายกวา้ ง 10 เซนตเิ มตร ผตู้ ดิ ไว้กับเสากลางสนาม - ตาข่ายสาหรบั ทมี หญงิ สงู 2.24 เมตร
ผู้เลน่ - ในทีมจะตอ้ งมีผูเ้ ลน่ ไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผชู้ ่วยผู้ฝกึ สอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน - ผูเ้ ล่นจะลงเล่นในสนามไดค้ ร้ังละ 6 คน โดยแบ่งออกเปน็ หน้าตาขา่ ย 3 คน และ ด้านหลังอีก 3 คน - สามารถเปลี่ยนตัวผู้เลน่ ครั้งละกีค่ นกไ็ ด้ โดยผ้เู ลน่ เดิมท่ถี ูกเปลย่ี นออก สามารถเปลี่ยน กลับมาเลน่ ในสนามไดอ้ กี - การแตง่ กายในชดุ แขง่ ขัน ตอ้ งแต่งกายเหมือนกันท้ังทมี ประกอบไปด้วย เส้ือสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเทา้ และรองเท้าผ้าใบพ้นื ยางทีไ่ มม่ สี น้ โดยผูเ้ ลน่ แตล่ ะคนจะตอ้ งตดิ หมายเลข กากับไว้ทีเ่ ส้อื กาหนดใหใ้ ช้เลข 1-18 เท่านั้น สาหรับหวั หนา้ ทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8x2 เซนตเิ มตร ตดิ อยู่ใต้หมายเลขบรเิ วณอกเสอื้ ด้วย วิธีการเล่น - ทมี ท่ีไดเ้ สริ ์ฟ จะต้องให้ผูเ้ ล่นท่ีอยใู่ นตาแหน่งขวาหลัง เป็นผเู้ สริ ์ฟเพอ่ื เปิดเกม จากนัน้ ผู้ เลน่ ทุกตาแหนง่ จะขยบั ตาแหน่งวนไปตามเข็มนาฬกิ า - การเสริ ์ฟจะตอ้ งรอฟังสญั ญาณนกหวีดกอ่ น และใหเ้ ริม่ เสริ ์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที - ทีมทไ่ี ด้คะแนนจะเป็นผูไ้ ด้เสริ ฟ์ จนกว่าจะเสยี คะแนนให้ฝ่ายตรงขา้ มจึงจะเปลยี่ นเสิรฟ์ - เม่ือลกู เข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเลน่ บอลได้มากทส่ี ุด 3 ครั้งเท่าน้นั - สามารถบล็อคลกู บอลจากฝา่ ยตรงขา้ มทีห่ นา้ ตาข่ายได้ แตห่ ากผู้เล่นล้าเข้าไปในแดน ของฝา่ ยตรงข้ามจะถอื วา่ ฟาวล์ - สามารถขอเวลานอกได้ 2 คร้ังตอ่ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที - ทกุ ครั้งท่แี ขง่ ขันจบ 1 เซต จะต้องมกี ารเปลยี่ นฝง่ั
การคิดคะแนน - ทมี จะไดค้ ะแนนเมอื่ ลูกบอลตกลงในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเปน็ ลกู ละ 1 คะแนน และหากมีการเสียคะแนน จะต้องเปล่ยี นใหท้ มี ทไ่ี ด้คะแนนเปน็ ผเู้ สริ ์ฟ - หากทมี ไหนไดค้ ะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผชู้ นะในเซตน้นั ไป แต่หากคะแนน เสมอกนั ท่ี 24-24 จะตอ้ งมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทาคะแนนให้มากกว่าอกี ฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเปน็ ผู้ชนะ เช่น 26-24 หรอื 27-25 เปน็ ตน้ - ตอ้ งแข่งขนั กนั ให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเปน็ ผูช้ นะในเกมนนั้ วอลเลย์บอล เปน็ กฬี าทเ่ี ล่นโดยทีม 2 ทีมบนสนามทแ่ี บง่ แดนด้วยตาขา่ ย ลกั ษณะการเล่น อาจแตกตา่ งกนั ไดต้ ามสภาพท่จี าเปน็ เพ่ือให้ทกุ คนเล่นกนั ได้แพร่หลาย กฬี าชนดิ นี้จัดเปน็ กฬี า นนั ทนาการทไี่ ด้รบั ความนิยมเป็นอันดบั 3 ของโลกจุดม่งุ หมายของการแข่งขนั กค็ ือ การส่งลูกขา้ ม ตาขา่ ยให้ตกลงบนพื้นท่ีในแดนของทีมตรงขา้ ม และป้องกนั ไมใ่ หท้ ีมตรงข้ามส่งลกู ขา้ มตาขา่ ยมา ตกบนพ้นื ทีใ่ นเขตแดนของตน แตล่ ะทีมจะสัมผัสลูกบอลไดม้ ากที่สุด 3 ครัง้ ในการส่งลูกบอลไปยัง แดนของทีมตรงขา้ มสัมผสั บอลแคค่ ร้ังเดียวกไ็ ด้ โดยปกติแล้วการสัมผสั ลูกบอลครัง้ แรกกค็ ือ การ รบั ลกู เสิร์ฟ จากฝา่ ยตรงข้าม คร้ังที่ 2 คือ การ set บอลขึน้ บนอากาศ เพอ่ื ให้คร้ังที่ 3 ซ่ึงปกติจะ ใชต้ บลูกบอลทาได้อย่างสะดวกการเล่นจะเริ่มต้นเมื่อทาการ เสริ ์ฟ ลูกบอล โดยผเู้ สริ ฟ์ ส่งลกู บอล ขา้ มตาข่ายไปยังทมี ตรงขา้ ม การเลน่ จะดาเนนิ ไปจนลูกบอลตกลงบนพ้ืนในเขตสนามหรือนอกเขต สนาม หรอื ทีมไม่สามารถส่งลกู กลับไปยงั ทีมตรงขา้ มได้อย่างถกู ตอ้ งตามกตกิ าสว่ นการนับคะแนน นั้น การแข่งขนั วอลเลย์บอล จะมกี ารได้คะแนนทุกครัง้ ทีม่ กี ารเล่นลกู ถ้าฝา่ ยรบั ลูกเสริ ฟ์ ชนะการ เลน่ ลูกนน้ั กจ็ ะได้สิทธทิ าการเสิรฟ์ และผู้เลน่ ทงั้ หมดตอ้ งหมนุ ตามเขม็ นาฬิกา 1 ตาแหน่งจะมีผู้
เล่นอยูใ่ นทมี ๆละอยา่ งมาก 12 คน และอย่างน้อย 6 คน แต่จะลงสนามได้ทมี ละ 6 คน ผเู้ ล่นทง้ั 6 คน ในสนามอาจจะเล่นตลอดเกมหรอื อาจเปลี่ยนตวั ไดต้ ลอด ผู้เล่นทเี่ ปน็ ผเู้ สิรฟ์ จะเป็นตาแหน่ง หลังขวาสดุ ซึง่ ตาแหน่งของผู้เล่นทุกคนจะไมส่ ามารถเปล่ยี นไดต้ ามใจชอบ แต่จะต้องหมุนเวยี น แบบทวนเข็มนาฬิกาเม่อื ได้สทิ ธิเปลี่ยนเสริ ฟ์ ยกเว้นก็ตอ่ เม่อื ขณะท่ีกาลงั เล่นลกู อยู่ นอกจากนีใ้ น ส่วนของนักกีฬา ยงั มีผู้เลน่ ตัวรบั อิสระ (Libero player) ซ่ึงเป็นผู้เลน่ 1 ใน 12 คน แต่สวมเสอื้ ท่มี ี หมายเลขและสแี ตกตา่ งจากผู้เลน่ คนอนื่ ๆ อยา่ งเห็นได้ชัด สามารถเปล่ยี นตวั ไปแทนผูเ้ ลน่ ทอ่ี ยใู่ น แดนหลงั ได้เม่ือลูกตายและก่อนทผี่ ู้ตัดสินจะเปา่ นกหวีดใหท้ าการเสริ ์ฟ โดยไม่นบั เป็นการ เปล่ยี นตวั เข้าออกปกติ กฬี าวอลเลย์บอลได้วิวัฒนาการมาโดย ตลอด ในปี ค.ศ. 1921 ไดม้ ีการเปล่ียนแปลงโดย กาหนดกติกาเพ่มิ ข้ึน เช่นผ้เู ล่นใชจ้ านวนข้างละ 6 คน ขนาดสนามกว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร มี เส้นแบง่ แดนกลาง ตาข่ายสูง 2.43 เมตร แขง่ ขนั กนั เกมละ 25 คะแนน เป็นตน้ ตอ่ มาในปี ค.ศ. 1928ได้มกี ารประชมุ ขนึ้ และมีการเปลี่ยนแปลงกตกิ าเล่นวอลเลย์บอลของสมาคม Y.M.C.A. และไดจ้ ัดตงั้ สมาคมใหมเ่ รียกวา่ U.S.V.B.A. ขนึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพือ่ ต้ังกฎเกณฑ์ กตกิ าการแข่งขนั วอลเลยบอลระดบั ชาติ ประธานสมาคมคนแรก คอื ดอกเตอร์ จอรจ์ เจ. พิสเซอร์ ซง่ึ บคุ คลผูน้ ้เี ป็นผู้ทม่ี ีบทบาทอยา่ งมากในการช่วยเผยแพร่กฬี าวอลเลย์บอลออกไปเผยแพร่ในใน ลกั ษณะโครงการสันทนาการตามค่ายพักแรม ตามบา้ น และตามสถานทท่ี ่องเทย่ี วตา่ งๆ จนกีฬา วอลเลยบ์ อลเปน็ กฬี าทม่ี คี นนิยมเลน่ กนั อยา่ งกวา้ งขวาง และมีการจดั การแข่งขันแทบทกุ หาทกุ แหง่ ปี ค.ศ. 1947 ไดม้ กี ารกอ่ ต้ังสหพันธว์ อลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ต้ังอยทู่ ีก่ รุงปารสี ประเทศฝรงั่ เศส ต่อมาไดย้ า้ ยสานักงานใหญ่ไปตัง้ ทเี่ มืองโลวานน์ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1949 ปัจจบุ ันมปี ระเทศตา่ งๆ เขา้ ร่วมเป็นสมาชิก 210 ประเทศ และมีผูส้ นใจเลน่ กีฬาวอลเลยบ์ อลประมาณ 800 ลา้ นคน ปี ค.ศ. 1949 มกี ารจัดใหม้ กี ารแขง่ ขนั กีฬาวอลเลยบ์ อลเพ่อื ชิงความเป็นผู้ชนะเลศิ ของโลก ขน้ึ ทก่ี รุงปราก ประเทศเซโกวโลวะเกยี โดยจดั การแข่งขนั เฉพาะประเภทชายเท่านน้ั ปี ค.ศ. 1952 ไดม้ ีการแขง่ ขันเพอื่ ชงิ ความเปน็ ผชู้ นะเลิศของโลกประเภทชายขน้ึ เป็นครัง้ ที่ 2 และประเภทหญงิ เป็นครง้ั แรกที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ปี ค.ศ. 1957 กีฬาวอลเลยบ์ อลเป็นกฬี าประเภทหน่งึ ที่จดั แขง่ ขันในกีฬาโอลมิ ปกิ
กฬี าวอลเลย์บอลในทวปี เอเชยี ไดเ้ ริม่ มีการเล่นกีฬาวอเลเลย์บอลคร้ังแรกในทวปี เอเซยี ทีก่ รงุ มะนลิ า ประเทศฟิลปิ ปินส์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนายอี เอส บราวน์ (E.S.Bronwn) เปน็ ผู้นาเขา้ ไปเผยแพรเ่ ปน็ คนแรก ปี ค.ศ. 1913 นายอี เอส บราวน์ ไดน้ ากีฬาวอลเลย์บอลเขา้ ไปเผยแพรใ่ นประเทศญ่ีปนุ่ โดยใช้ผเู้ ลน่ ข้างละ 8 คน ปี ค.ศ. 1927 ไดม้ กี ารจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญป่ี ุ่น และมกี ารแขง่ ขนั วอลเลย์บอลในการแข่งขนั กฬี าตะวันออกไกล คร้ังที่ 8 ที่ประเทศญ่ีปนุ่ ดว้ ย ปี ค.ศ. 1951 สามาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่หนุ่ สมคั รเข้าเปน็ สมาชิกของสหพนั ธ์ วอลเลยบ์ อลนานาชาติ ต่อ มาในปี ค.ศ. 1954 ในการแขง่ ขันกฬี าเอเซยี นเกมส์ ครง้ั ท่ี 2 ที่ประเทศอนิ เดยี ยงั ไม่มี การแขง่ ขนั วอลเลยบ์ อล แต่ไดม้ กี ารแข่งขันวอลเลย์บอลชงิ แชมป์เอเชยี แทนการแข่งขนั วอลเลยบ์ อลในเอเซยี นเกมส์ ครัง้ ท่ี 2 ปี ค.ศ. 1958 ไดเ้ รม่ิ มีการแขง่ ขันกีฬาวอลเลยบ์ อล ในการแข่งขนั เอเซียนเกมส์ ครั้งท่ี 3 โดยประเทศญป่ี นุ่ เป็นเจ้าภาพจดั การแข่งขัน กรมพลศึกษาได้จัดใหม้ กี ารแข่งขันวอลเลย์บอลระหวา่ งนกั เรยี นและระหว่างประชาชนข้ึน เป็นประจาทกุ ปี มาจนถงึ ปจั จบุ นั รวมทั้งไดจ้ ัดพมิ พก์ ตกิ าการแข่งขนั ขึน้ ในตอนนนั้ ดว้ ย โดยผูท้ ่ีมี ความรู้และเชีย่ วชาญทางดา้ นน้ี คือ อาจารยน์ พคณุ พงษ์สวุ รรณ เป็นผ้แู ปลจากตน้ ฉบบั จรงิ ใชใ้ น การอบรมครูพลศกึ ษาทว่ั ประเทศ วนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2500 คณะบุคคลสาคัญ 7 ทา่ น โดย มีพลโทสรุ จติ จารเศรณี เปน็ หัวหน้าในการขอจดั ตงั้ สมาคมวอลเลย์บอลแหง่ ประเทศไทยข้นึ และ ไดร้ ับอนุมัติ ในการจัดตง้ั เม่ือวนั ท่ี 11 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2502 โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ นการกอ่ ตงั้ ดงั นี้ 1. เพื่อส่งเสรมิ การเล่นวอลเลยบ์ อลในประเทศไทย 2. เพื่อจัดการแขง่ ขนั วอลเลย์บอลในประเทศไทย 3. เพ่ือจัดการแข่งขันวอลเลยบ์ อลระหว่างประเทศ 4. เพ่อื เข้ารว่ มการแข่งขันวอลเลยบ์ อลระหว่างประเทศ 5. จะไมเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การเมืองโดยมี พลโทสุรจิต จารเศรณี เป็นนายกสมาคมคนแรก ประโยชน์ของการเล่นวอลเลย์บอล การเล่นกีฬาเป็นการออกกาลังกายชนดิ หนง่ึ ซ่งึ เป็นทยี่ อมรบั กนั วา่ การออกกาลงั กายเปน็ ยาขนานวเิ ศษ ดังคากล่าวทีว่ ่า\"กฬี า กีฬา เป็นยาพิเศษ\"วอลเลยบ์ อลเปน็ กีฬาทท่ี าให้ผ้เู ล่นเกิด ประโยชนด์ ังน้ี 1. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาท่ีฝึกหัดเลน่ ใหเ้ ป็นได้ง่ายและเลน่ ไดท้ กุ เพศทกุ วัย เมื่อเล่นวอลเลย์บอล เป็นแลว้ จะทาให้ผูเ้ ล่นสามารถเล่นกีฬาไดน้ านกว่ากีฬาบางประเภท ซง่ึ คุม้ กับท่ีได้ฝกึ ฝนมาแม้แต่ สตรที ่ีมีบุตรแลว้ หากมรี ่างกายแข็งแรงกส็ ามารถเขา้ รว่ มการแข่งขันไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
2. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททมี จงึ ตอ้ งมีการฝกึ ซอ้ มเพือ่ ให้การเลน่ ในทีมมีความสัมพันธแ์ ละ รกั ใคร่ปรองดองเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั หากทีมใดขาดความสามคั คแี ล้ว เมือ่ ลงแข่งขนั ยอ่ มจะมี ชัยชนะไดย้ าก ผลของการเล่นกฬี าประเภทนจี้ ึงสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ให้มนี ิสัยรกั ใคร่ สามคั คกี ันระหวา่ งหมคู่ ณะมากยงิ่ ขึ้น 3. วอลเลยบ์ อลเปน็ กฬี าท่ชี ่วยฝกึ ฝนให้ผู้เลน่ มีไหวพรบิ ทชี่ าญฉลาดและแก้ปญั หาอยา่ งฉับพลัน ทนั ที เพราะการเลน่ วอลเลย์บอลนน้ั ผเู้ ล่นจะตอ้ งเคลือ่ นไหวรา่ งกายอยู่ตลอดเวลา รวมทง้ั ต้องมี ไหวพรบิ ทด่ี สี ามารถตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหาเฉพาะหน้าตา่ ง ๆ ได้จึงจะทาให้มีชัยชนะในการเล่น 4. การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ การส่งเสรมิ และฝึกให้ผูเ้ ลน่ มีจติ ใจเยอื กเย็น สขุ ุม รอบคอบ อารมณ์ มน่ั คง มีสมาธดิ ี มีความเชื่อมน่ั ในตัวเอง เพราะผ้เู ล่นท่อี ารมณร์ อ้ น มุทะลุ ดดุ ัน เอาแต่ใจตนเอง จะทาใหก้ ารเล่นผิดพลาดบ่อย ๆ ถ้าเปน็ การแข่งขนั ก็จะแพฝ้ า่ ยตรงข้ามได้ง่าย ซง่ึ คณุ สมบัติเหล่าน้ี ลว้ นแตม่ ปี ระโยชนต์ ่อตวั ผ้เู ลน่ วอลเลยบ์ อลทจี่ ะนามาประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวิตประจาวนั ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คมอกี ดว้ ย 5. วอลเลยบ์ อลเปน็ กฬี าท่ีเลน่ ได้โดยไม่จากดั เวลา ถา้ หากผเู้ ล่นรจู้ กั การใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็น ประโยชน์ ซ่งึ อาจจะเล่นตอนเช้า สาย บ่าย เยน็ หรอื แม้แต่ในเวลากลางคนื ก็ได้ถ้ามีแสงสวา่ ง เพยี งพอ และเลน่ ได้ทงั้ ในที่รม่ หรอื กลางแจ้ง 6. การเล่นวอลเลย์บอล ผเู้ ลน่ ตา่ งกอ็ ยใู่ นแดนของตนเองและมตี าขา่ ยขงึ กัน้ กลางสนาม ทาให้ไม่มี โอกาสท่จี ะปะทะกนั ระหวา่ งผู้เลน่ ท้ังสองฝ่าย จึงไมก่ ่อให้เกิดการทะเลาะววิ าทกนั ข้ึน 7. วอลเลย์บอลเปน็ กฬี าทช่ี ่วยส่งเสริมบคุ ลิกภาพของผ้เู ล่นอย่างหนงึ่ เพราะผู้เล่นจะต้องถูกฝกึ ให้ มรี ะเบียบมีวนิ ยั มีเหตมุ ผี ล รูจ้ กั การเปน็ ผนู้ าผ้ตู าม และมีความรับผิดชอบในหนา้ ที่ของตน ซึง่ สงิ่ เหล่านจ้ี ะเป็นการปลกู ฝงั นิสยั อนั มีผลท่ีจะนามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ด้วย 8. วอลเลยบ์ อลเป็นกีฬาที่มกี ฎกตกิ า ผเู้ ล่นต้องเคารพและปฏิบัตติ ามกฎกตกิ าการเลน่ ดังน้ันการ เลน่ วอลเลย์บอล ย่อมช่วยสอนใหผ้ เู้ ลน่ รจู้ ักความยุติธรรม มคี วามอดทนอดกลนั้ รู้จักเคารพสิทธิของผอู้ น่ื 9. วอลเลย์บอลเปน็ กีฬาประเภทหน่งึ ทชี่ ่วยเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางด้านรา่ งกายให้มคี วาม สมบูรณ์ แข็งแรง เพราะผเู้ ลน่ จะตอ้ งฝึกใหร้ ่างกายแข็งแรง มคี วามอดทน มีความคล่องแคล่ว วอ่ งไว มีพลังและความเรว็ เมอื่ ร่างกายได้ออกกาลังกายแล้วยังชว่ ยใหร้ ะบบตา่ งๆ ภายในรา่ งกาย ไดท้ างานประสานสมั พนั ธ์กนั เป็นอย่างดแี ละมปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ขึน้ เม่ือรา่ งกายแข็งแรงกจ็ ะ ชว่ ยเพมิ่ ความสามารถของรา่ งกายให้มีความต้านทานได้ดีด้วย 10. กีฬาวอลเลยบ์ อลเหมอื นกบั กฬี าประเภทอนื่ ๆ ทสี่ ร้างความมีน้าใจนกั กฬี า เอ้ือเฟื้อเผือ่ แผ่ การรู้จกั แพ้ ชนะและอภัย นอกจากน้ียงั เปน็ เครื่องมอื ในการเปน็ สอื่ กลางกอ่ ให้เกดิ ความสนิทสนม คนุ้ เคยและมีสัมพนั ธไ์ มตรอี ันดตี อ่ กัน ทั้งระหว่างภายในประเทศและระหว่างประเทศได้อย่างดี 11. ปัจจบุ ันผเู้ ลน่ วอลเลย์บอลท่มี ีความสามารถสงู ยังมีสิทธ์ไิ ดเ้ ข้ามาศึกษาต่อในระดับสูงบางสาขา บางสถาบัน ทง้ั สถานการศึกษาของรัฐและเอกชน นอกจากนี้ยงั มหี ลายหน่วยงานทารับบุคคลที่
เป็นนกั กฬี าวอลเลย์บอลเข้าทางาน เพราะวอลเลย์บอลกาลงั เป็นกฬี าทนี่ ยิ มของวงการทั่วไปและมี การแขง่ ขันกันอย่เู ป็นประจา มารยาทที่ดีของผเู้ ลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล การเล่นกฬี าทกุ ชนดิ มจี ุดประสงค์เพื่อพัฒนารา่ งกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิตให้ เจริญเตบิ โตไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ การเลน่ กีฬาจะชว่ ยใหไ้ ดร้ ับความสนุกสนานเพลดิ เพลิน ลด ความตึงเครียด เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ กีฬาวอลเลยบ์ อลกม็ จี ดุ ประสงค์เช่นเดียวกนั แต่ทัง้ น้ีทั้งน้นั ผเู้ ลน่ จะพบความสาเรจ็ ตามจดุ มุง่ หมายได้ ก็ควรจะตอ้ งมีมารยาทในการเล่นกฬี า วอลเลยบ์ อลท่ีดี ดงั ต่อไปน้ี 1. แตง่ กายให้เหมาะสม และใสเ่ ครือ่ งแบบชุดกฬี าของทีมตนใหถ้ ูกต้อง เมือ่ เข้าร่วมการ แขง่ ขนั 2. เล่นและปฏิบตั ติ นตามกตกิ าอย่างเครง่ ครัด 3. เล่นอยา่ งมีมารยาทต่อผ้เู ล่นทกุ คนและทกุ ฝ่าย 4. ใหเ้ กียรตติ อ่ ผู้เล่นฝา่ ยตรงกนั ขา้ ม 5. ใหเ้ กียรติตอ่ ผู้ชมตลอดจนเจา้ หน้าทีผ่ เู้ กี่ยวขอ้ งทกุ ฝ่าย 6. ไม่แสดงกิริยาทไ่ี มส่ ภุ าพ และพูดจาโต้เถยี ง กา้ วร้าวต่อผู้อ่นื 7. ใจคอหนักแนน่ อดทนอดกล้ัน รจู้ กั ควบคุมอารมณเ์ มือ่ เกิดโทสะได้ 8. ผเู้ ลน่ ตอ้ งยอมรบั และเคารพคาตดั สนิ ของผู้ตดั สิน 9. ผูเ้ ล่นตอ้ งเชือ่ ฟัง เคารพคาส่งั ของหวั หน้าทีม และผ้ฝู ึกสอน 10. ปฏบิ ัตหิ นา้ ทอี่ ย่างดที ่สี ดุ เตม็ ความสามารถของตน 11. เมื่อชนะกไ็ มค่ วรดีใจจนเกนิ ไป และไมท่ บั ถม เยาะเย้ยฝา่ ยท่ีแพ้ 12. เม่อื แพ้กไ็ ม่เสยี ใจจนเกนิ ไป ค้นหาจุดด้อยของตนเอง และปรับปรงุ พัฒนาตนเองให้ดี ยิ่งขนึ้ 13. รจู้ กั ให้อภยั ไมต่ เิ ตียนกล่าวโทษเพ่อื นรว่ มทมี และถึงแม้เพ่อื นร่วมทีมจะทาผิดพลาดก็ ไม่ควรแสดงอาการไม่พอใจ 14. ไม่สร้างความเดอื ดร้อน ราคาญใจให้กับผู้อื่น มารยาทท่ีดขี องผดู้ ูกีฬาวอลเลยบ์ อล ผดู้ ูกีฬาถอื วา่ เปน็ สว่ นสาคญั สว่ นหนึ่งของกฬี าทุกประเภท ผู้ดูกฬี าชว่ ยใหผ้ ู้เล่นมีกาลังใจ ชว่ ยให้เกมกฬี าต่าง ๆ มีความสนุกสนานมากขน้ึ และมคี วามจาเป็นตอ่ การพัฒนาการกีฬาให้ ก้าวหนา้ ไม่ว่าจะเป็นการไปเชียร์เพ่ือใหก้ าลังใจทมี ของตน หรอื ไปดูเพอื่ ความเพลดิ เพลนิ ของตน และหมู่คณะ ผู้ดทู ีด่ ีก็ควรจะต้องปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสม เพราะพฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสมนอกจาก จะส่งผลเสยี ตอ่ ตนเอง สร้างความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ผู้ดกู ีฬาคนอืน่ ยงั ทาให้เสียอรรถรสในการชม กฬี าของท้ังตนเองและผู้อ่ืนอกี ดว้ ย โดยมารยาททดี่ ีท่ีผู้ดกู ีฬาวอลเลยบ์ อลควรมี ได้แก่ 1. น่ังชมกฬี าด้วยความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ไม่ยนื กดี ขวาง หรอื เกะกะผูอ้ น่ื
2. ไมส่ ง่ เสยี งดังรบกวนผอู้ นื่ และไมค่ วรส่งเสียงดังรบกวนนกั กีฬา ในเวลาทีน่ กั กฬี า ต้องการสมาธิ 3. เมอ่ื นักกีฬาและผู้ตัดสนิ ลงสู่สนาม ผู้ดคู วรปรบมือเพื่อเป็นการให้เกยี รติ 4. หากผู้เล่นเล่นได้ดี ควรปรบมอื เพ่ือเปน็ การชมเชย และให้กาลงั ใจ 5. แม้ทมี ทช่ี นะจะไม่ใชท่ ีมของตนเอง ผ้ดู ูทด่ี ีควรปรบมอื เพื่อแสดงความยนิ ดี 6. ควรปรบมือใหน้ ักกีฬาที่ยอมรบั คาตดั สนิ ของผตู้ ัดสนิ 7. ควรปรบมือให้กบั ผู้ตัดสนิ ด้วย เม่อื ผู้ตัดสินทาการตดั สินได้ถกู ต้อง 8. ปรบมอื ให้ผู้เลน่ เมอื่ ผ้เู ลน่ ไดร้ บั การประกาศช่ือ หรือไดร้ ับรางวลั 9. ไมแ่ สดงกริ ยิ าโวยวาย พดู จาหยาบคาย ก้าวรา้ ว 10. ไม่โยนหรอื ขว้างปาสง่ิ ของลงไปในสนามแขง่ ใส่ผ้เู ลน่ รวมถึงผ้ตู ัดสินในสนาม 11. ไมท่ ะเลาะววิ าทกับผเู้ ล่น หรือผู้ชมคนอื่น 12. ไม่ทาตนเป็นผ้ตู ดั สิน หรอื แทรกแซงการตดั สิน รวมทั้งการทางานของเจ้าหน้าที่ 13. หากไปเปน็ หมคู่ ณะ ควรนงั่ รวมกนั ในกล่มุ ของตนเชยี ร์กีฬาด้วยถ้อยคาสุภาพ ไมเ่ ชียร์ ในสิ่งที่เปน็ การเสยี ดสีในทางไมด่ ตี ่อทีมใดทีมหน่งึ 14. ช่วยเหลอื ใหค้ วามร่วมมือกบั เจ้าหน้าท่ี กรณเี ม่ือมีเหตกุ ารณท์ ่ีไม่สงบเกิดขนึ้ 15. ชว่ ยตกั เตือน หา้ มปรามเมอ่ื หมู่คณะของตนเองกระทาผิด 16. แต่งกายอย่างเหมาะสม ถูกกาลเทศะ 17. ไม่สบู บหุ ร่ี ไมด่ ่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดกอ่ นและขณะดูกีฬา
บรรณานุกรม https://sites.google.com/site/nureedacha/hna-raek/neuxha (5 September 2021) http://www.doohealthy.com/article/fitness/sport/318-health.html (5 September 2021)
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: