Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) -qr code

ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) -qr code

Published by Teacher Ya Channel, 2022-05-15 05:47:07

Description: ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) -qr code

Search

Read the Text Version

ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) วา่ ด้วยการปกครองนกั เรียนทั่วไป พ.ศ. ๒๕๖๕ --------------------------------------- หมวดท่ี ๑ หมวดทวั่ ไป ข้อท่ี ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ว่าด้วยการปกครอง นกั เรยี นทวั่ ไป พ.ศ. ๒๕๖๕” ข้อท่ี ๒ ระเบียบน้ีใช้บังคับแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๕ เปน็ ตน้ ไป ข้อท่ี ๓ ให้ยกเลิกระเบียบข้อบังคับอืน่ ๆ ของโรงเรยี นที่ขัดหรือแย้งกบั ระเบียบน้ีและให้ใช้ระเบยี บนี้ แทน ข้อที่ ๔ ในระเบยี บนี้ “หวั หน้าสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร)์ “นักเรียน” หมายความว่า นักเรียนที่กาลังศึกษาอยู่ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถึงระดับชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนท่ีประพฤติผิด หรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของ สถานศึกษาหรือของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษ นักเรียนและนกั ศึกษา ๒๕๔๘ โดยมุ่งหมายเอาส่งั สอนให้มีความประพฤตดิ ีและหลาบจา “การแก้ไขพฤติกรรม” หมายความว่า การให้นักเรียนที่กระทาความผิด ทากิจกรรมหรือบาเพ็ญ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง สถานศกึ ษาหรอื สงั คม หมวดที่ ๒ ว่าด้วยความประพฤตขิ องนกั เรียน เพ่ือให้ควบคุมดูแลความประพฤติของนักเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ดาเนินไปด้วย ความเรยี บรอ้ ย โรงเรยี นจึงกาหนดใหน้ ักเรยี นปฏิบัติตามระเบยี บดังนี้ ๑. มาโรงเรยี นให้ทนั เข้าแถวเคารพธงชาติ เวลา ๐๘.๐๐ น. และกลับตามเวลาทีก่ าหนด ๑.๑) ในกรณีมาไม่ทนั หรอื มาขณะที่มกี ารประกอบกิจกรรมหน้าเสาธงห้ามเขา้ ไปในแถวจะตอ้ ง เขา้ แถวดา้ นหลัง และประกอบกจิ กรรมตามท่ีคณุ ครูเวรมอบหมาย ๑.๒) นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งประกอบกจิ กรรมหน้าเสาธงและกิจกรรมโฮมรูม ถ้ามาสายให้แจง้ ครูประจาช้ัน/ ครทู ปี่ รกึ ษารับทราบเพ่อื ลงบนั ทึกการมาสาย ยกเว้นนักเรยี นท่มี ีภารกจิ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายจากครู ๑.๓) นกั เรยี นทีม่ าเรียนสาย ด้วยเหตจุ าเปน็ ใหผ้ ปู้ กครอง แจง้ ครูประจาชั้น/ครูทปี่ รึกษารบั ทราบ ๑.๔) ผูป้ กครองต้องรบั –สง่ นักเรียน ในปกครองในบริเวณท่โี รงเรยี นกาหนดและไมร่ บั กลับก่อนเวลาเลิก เรยี น

๒. การเดนิ ทางมาโรงเรยี นและกลับบา้ นของนกั เรยี น ๒.๑) ตอนเชา้ ตอ้ งทาความเคารพครูเวรท่ีปฏิบตั ิหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณจุดคดั กรอง โดยทากิจ กรรรมยิ้มไหว้–ทักทาย แล้วเดินแถวอย่างเป็นระเบียบบนทางเดินเท้าท้ังสองข้าง นักเรียนที่ใช้รถจักรยานยนต์ จะต้องหยดุ ทาความเคารพครูเวรกอ่ นนารถเขา้ เกบ็ ในโรงรถในบรเิ วณโรงเรียนจดั ให้ ๒.๒) ตอนเยน็ ทาความเคารพครูประจาชัน้ /ครูท่ปี รึกษา กลับบา้ น หรอื รอรถโดยสารประจาทางหรือรถ ประจาตามจุดที่รถจอดรับ นักเรยี นทใี่ ช้รถจักรยานหรือจักรยานยนต์ เน่อื งจากโรงจอดรถและประตูโรงเรียนอยู่ ไกลกันจึงอนุโลมให้นักเรียนขับขี่รถจักรยานหรือจักรยานยนต์ภายในโรงเรียนได้ โดยขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน ๒๐ กิโลเมตรต่อชว่ั โมง และให้ขบั ขี่ดว้ ยความระมัดระวงั อยา่ งมาก ๓. แต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร)์ ดงั นี้ ๓.๑) ทกุ วนั จันทร์ นักเรยี นทุกคนสวมใส่ชุดนกั เรียน ๓.๒) ทุกวันองั คาร นักเรียนทุกคนสวมใสช่ ุดขาวโรงเรยี นดปี ระจาตาบล ๓.๓) ทุกวันพุธนักเรียนชายทุกคนต้องแต่งเคร่ืองแบบลูกเสือ นักเรียนหญิงทุกคนต้องแต่งเคร่ืองแบบ เนตรนารี ตามระเบียบว่าด้วยการแต่งกายลูกเสือเนตรนารี และต้องเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายพักแรม การเรียน การสอนในคาบเรียน รวมทง้ั กิจกรรมอื่น ๆ ตามที่โรงเรียนกาหนด ๓.๔) ชุดพละใหใ้ สใ่ นวนั พฤหัสบดี และในวันท่ีมีเรยี นวิชาพลศกึ ษา ๓.๕) ทกุ วันศุกร์ นกั เรียนทุกคนสวมใส่ผา้ ไทย ๔. เม่ือเข้ามาโรงเรยี นแล้วหา้ มออกนอกโรงเรียนกอ่ นไดร้ บั อนุญาต ๕. การขออนุญาตออกนอกโรงเรียนต้องมีเหตุผลอันสมควร จะต้องขออนุญาตออกนอกโรงเรียนและปฏิบัติ ดงั นี้ ๕.๑) กรณีออกนอกโรงเรียนในตอนเช้าก่อนเข้าแถว ให้ขออนุญาตครูเวรท่ีทาหน้าที่บริเวณประตู โรงเรยี น ๕.๒) กรณอี อกนอกโรงเรยี นในตอนกลางวันและกลบั มาเรียน ให้ขออนญุ าตครปู ระจาชัน้ /ครูประจาวิชา และแจ้งให้ผ้ปู กครองรับทราบ ๕.๓) กรณีออกนอกโรงเรียนและไม่กลับมาเรียน ให้ขออนุญาตครูประจาช้ัน/ครูประจาวิชาโดยให้ ผ้ปู กครองเป็นผู้มาแจง้ และรับนกั เรียนออกนอกโรงเรียน ๕.๔) กรณีปฏิบัติภารกิจให้ผู้ปกครองนอกโรงเรียน ต้องมีจดหมายขออนุญาตจากผู้ปกครอง มายน่ื เพ่ือขออนญุ าตครปู ระจาชัน้ /ครูทีป่ รกึ ษา ๖. ห้ามใส่เครื่องประดับ ของมีคา่ ทุกชนิด ยกเวน้ นาฬกิ าขอ้ มือ ๗. ห้ามใช้เคร่ืองสาอาง ไว้เล็บ ทาสีเล็บ ดัดผม ซอยผม ตกแต่งทรงผมแฟช่ัน กันค้ิว เจาะหูนักเรียนชาย ห้ามใสเ่ จล และไมน่ ามาโรงเรียน ๘. ห้ามพกพาหรือนาสื่อลามก สิ่งเสพติด และอาวุธ มาโรงเรียน ไม่เสพสิ่งเสพติดหรือดื่มเคร่ืองด่ืมที่มี แอลกอฮอล์ทกุ ชนดิ ๙. หา้ มเขา้ ไปในบรเิ วณโรงรถครู บ้านพักครู กอ่ นไดร้ บั อนุญาต ๑๐. หา้ มนาอาหารเครอ่ื งด่มื มารบั ประทานบนอาคารเรยี น ในห้องเรียนหรอื ห้องปฏบิ ัตกิ าร ๑๑. ห้ามพนัน หรือเลน่ การพนนั ทกุ ประเภท และไมน่ าอุปกรณ์ในการเลน่ การพนนั มาโรงเรยี น ๑๒. ห้ามนัดหมาย หรือนาบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียน ยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะครู และครู เวรประจาวัน ๑๓. ชว่ ยกนั รักษาทรพั ย์สมบัติของโรงเรยี น ใหอ้ ยู่ในสภาพดีและใช้ประโยชน์อยา่ งคุม้ ค่า

๑๔. ไมข่ าดเรียนโดยไม่มีใบลาและไม่ทราบสาเหตุ และปฏิบัติ ดงั น้ี ๑๔.๑) กรณที ่มี คี วามจาเป็นตอ้ งขาดเรยี นใหส้ ง่ ใบลาที่มคี ารบั รองพร้อมลายเซน็ ของผู้ปกครอง ต่อครูประจาชนั้ และครูทปี่ รกึ ษาหรอื ครูผสู้ อน ๑๔.๒) การหยดุ ตดิ ต่อกันหลายวันโดยมีสาเหตจุ ากการป่วยตอ้ งมใี บรบั รองแพทย์มาแสดง ประกอบการลา ๑๔.๓) กรณีทม่ี ีนกั เรียนหยดุ เรยี นโดยไมส่ ง่ ใบลาจะถอื ว่าขาดเรียน ๑๔.๔) กรณีที่นกั เรียนขาดเรยี นหรือมาสายบอ่ ยคร้ังโดยไม่มีเหตผุ ลอนั สมควร โรงเรยี นจะเชญิ ผู้ปกครอง มาพบครปู ระจาชนั้ /ครทู ่ปี รึกษา เพอ่ื หารอื หาแนวทางในการแก้ไข ๑๕. ไม่สร้างความเส่ือมเสียให้กับโรงเรียน แสดงความเคารพและให้เกียรติรุ่นพ่ี ดูแลให้ความช่วยเหลือรนุ่ นอ้ ง สร้างความสามคั คปี รองดองในหมูค่ ณะ ๑๖. นกั เรียนที่มาตดิ ต่อราชการกบั ทางโรงเรียนต้องสวมเครอื่ งแบบนักเรยี นทกุ ครงั้ ทม่ี าติดตอ่ หมวดท่ี ๓ ว่าด้วยการแตง่ กายของนกั เรยี น เพื่อให้การแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีระเบยี บวินยั โรงเรยี นจึงวางระเบยี บว่าด้วยการแตง่ กายนักเรยี น ดังนี้ ๑. นักเรยี นชาย ๑.๑) ทรงผม ไวท้ รงนกั เรยี น หรือ ทรงรองทรงสูงก็ได้ กรณีไว้ทรงนักเรียน ด้านหน้ายาวไม่เกิน ๔ ซ.ม. ด้านบน ยาวไม่เกนิ ๓ ซ.ม. ด้านขา้ งไมเ่ กนิ เบอร์ ๑ หรือกรณีไวท้ รงผมรองทรงสูง ด้านหนา้ ยาวไม่เกิน ๖ ซ.ม. ดา้ นบนยาว ไม่เกิน ๕ ซ.ม. ไม่ใสน่ า้ มนั ไมใ่ ส่เจล ไมด่ ดั หรอื ยอ้ มสผี ม ๑.๒) เสอ้ื ใช้เสอื้ เช้ติ แขนส้นั สีขาว ไมม่ ีลวดลาย ไม่บางหรอื ใหญ่เกินไป ปักอักษรย่อ ป.บ.พ. ตัวทึบขนาด ๑.๕ ซ.ม. ท่อี กเส้ือด้านขวาระดบั ราวนม ดา้ นลา่ งปกั ชอ่ื –นามสกุลแบบเดินเสน้ ขนาด ๑ ซ.ม. ตรงกับอักษรยอ่ ไม่ ปลอ่ ยชายเสอื้ ออกนอกกางเกง ๑.๓) กางเกง ใช้กางเกงส้ันมีจีบสีกากี สูงเหนือเขา่ ไม่เกนิ ๕ ซ.ม. มีกระเป๋าด้านในแนวเดียวกับตะเข็บ ขา้ งขนาดกว้างและลกึ พอเหมาะ ไมม่ ีลวดลาย ไม่คับหรอื หลวมจนเกินไป ขาไมบ่ านเปา้ พอดี ๑.๔) เข็มขัด ใช้เข็มขดั หนังสีน้าตาลไมม่ ีลวดลาย ขนาดกว้าง ๔ ซ.ม. หัวเขม็ ขัดเปน็ โลหะทองเหลือง รปู เหล่ียมผืนผ้าชนิดกลัด เจาะรู ๑ รู หรือหัวเข็มขัดลูกเสือคาดทับขอบกางเกงสอดหูกางเกง ๑.๕) รองเท้าและถงุ เท้า ใช้รองเท้าผ้าใบหุ้มส้นสีน้าตาล มีเชือกผูกสีน้าตาล ไม่มีลวดลาย ถุงเท้าให้ใช้ ถงุ เท้าสีน้าตาล ไม่อนญุ าตให้ใสถ่ งุ เท้าขอ้ ส้ัน ๑.๖) เครื่องแบบลูกเสือ ให้แต่งเครื่องแบบตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการกาหนดในวันพุธ วันที่ เขา้ ค่ายพกั แรมหรอื ทากจิ กรรมอนื่ ๆ ตามท่ีโรงเรียนกาหนดนดั หมาย ๑.๗) ชุดพลศึกษา ให้ใช้แบบที่โรงเรียนกาหนด กรณีตัดเองต้องยึดตามแบบของโรงเรียน ปักอักษรย่อ ป.บ.พ. ตัวทึบขนาด ๑.๕ ซ.ม. ที่อกเส้ือด้านขวาระดับราวนม ด้านล่างปักช่ือ–นามสกลุ แบบเดินเส้นขนาด ๑ ซ. ม. ตรงกับอกั ษรยอ่ ๒. นักเรยี นหญงิ ๒.๑) ทรงผม ไวผ้ มสั้นหรือยาวกไ็ ด้

๒.๑.๑) ผมสัน้ ความยาวระดับต่งิ หู ด้านข้างและดา้ นหลงั ตดั ยาวเท่ากันท้ังศรี ษะหรอื เลยติง่ หูไม่ เกิน ๓ เซนติเมตร ด้านหน้าไว้หน้าม้าได้เสมอค้ิว หวีแสกข้างติดก๊ิบดาชนิดเรียบ ห้ามดัด ซอย ไดร์ สไลด์ หรือ ย้อมสีผม ๒.๑.๒) ผมยาว ปลายผมต้องยาวเสมอกัน ด้านหน้าไว้หน้าม้าได้เสมอค้ิว ห้ามดัด ซอย สไลด์ ย้อมสีผม ให้รวบผมตงึ มัดเป็น ๑ หาง ไม่ถกั เปยี (ยกเว้นผมหยกิ ) ระดับรอยมัดผมใหม้ ีความสงู เสมอใบหูบน ตดิ กิ๊บสดี าเพ่ือความเรียบรอ้ ย ๒.๒) เสอื้ คอกะลาสี สีขาวเน้ือเกลีย้ ง ไม่บาง ไม่รดั รูป ไมย่ าวหรอื สั้นเกนิ ควร กระเปา๋ ไม่มีฝาอยู่ดา้ นล่าง ขวา ๑ ใบ แขนยาวเหนือศอกพองาม ปลายแขนมีจีบ เอวเสอ้ื ปลอ่ ยพ้นขอบกระโปรง ปกั อักษรย่อ ป.บ.พ. ตัวทบึ ขนาด ๑.๕ ซ.ม. ทอี่ กเสือ้ ด้านขวาระดบั ราวนม ดา้ นล่างปกั ช่อื –นามสกุลแบบเดนิ เส้นขนาด ๑ ซ.ม. ตรงกับอักษร ยอ่ ๒.๓) กระโปรง ใชส้ กี รมท่า ผ้าเน้อื เกลี้ยงไมม่ ีลวดลาย มีจีบออกด้านนอกข้างละ ๓ จบี ทง้ั หน้า และหลัง เย็บทับจีบลงมา ๖–๑๒ ซ.ม. ยาวคลุมเข่าครึ่งแข้ง ไม่บาน ไม่แคบ ไม่รัดรูปและสะโพก มีกระเป๋าด้านในตาม ตะเขบ็ กระโปรงดา้ นขา้ ง ๑ ใบ ซปิ ขา้ ง ๒.๔) รองเท้าและถุงเท้า ใช้รองเท้าหนังขัดมันหุ้มส้นสีดา ไม่มีลวดลาย ส้นสูงไม่เกิน ๒ ซ.ม. ชุดพลศึกษาใชร้ องเทา้ ผ้าใบสีขาวไม่มลี วดลายและสีอนื่ คาดปน โดยใชถ้ ุงเท้าส้ันสีขาว พับใหเ้ รียบรอ้ ย ๒.๕) เครื่องแบบเนตรนารี ให้แต่งเคร่ืองแบบตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการกาหนดในวันพุธ วันที่ เขา้ คา่ ยพักแรมหรอื ทากิจกรรมอื่นๆ ตามทโี่ รงเรียนกาหนดนดั หมาย ๒.๖) ชดุ พลศกึ ษา ใหใ้ ช้แบบที่โรงเรียนกาหนด กรณตี ดั เองตอ้ งยึดตามแบบโรงเรียน การปกั เคร่ืองหมาย ต่างๆ เหมือนระเบยี บของนกั เรยี นชาย ๒.๗) เลบ็ ตดั ให้ส้นั ไมท่ าสีเล็บ ๒.๘) ไมท่ าลิปสติกมาโรงเรยี น ยกเวน้ ลิปมนั หมวดท่ี ๔ วา่ ด้วยประเภทของการกระทาความผิดและการลงโทษ นักเรียนทปี่ ระพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบงั คับของโรงเรียนจะถกู พจิ ารณาลงโทษตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยการลงโทษนักเรียน พ.ศ. ๒๕๔๘ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. วา่ กล่าวตกั เตือน ๒. ทาทัณฑ์บน ๓. ตดั คะแนนความประพฤติ ๔. ทากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปล่ียนพฤตกิ รรม การพิจารณาโทษจะกระทาตามลาดับความผิด ดังนี้ ๑. ประเภทความผิดไมร่ า้ ยแรง ๑.๑ มาสายโดยไม่มเี หตผุ ลสมควร ๑.๒ ไม่รกั ษาความสะอาดในบรเิ วณโรงเรยี น ๑.๓ รับประทานอาหารกอ่ น-หลังเวลาท่กี าหนด และในสถานทหี่ า้ มรบั ประทาน ๑.๔ ผมยาวหรอื ทรงผมท่ีผิดระเบยี บท่โี รงเรียนกาหนด ๑.๕ ไว้หนวดเครา ๑.๖ สวมเส้อื ผา้ ผิดระเบยี บ เชน่ ไมป่ ักชอื่ สกลุ หรือเส้ือผ้าทีไ่ ม่ใช่เครือ่ งแบบของโรงเรยี น กางเกง กระโปรง รองเทา้ ถุงเท้าที่ผิดระเบียบ ๑.๗ ไม่เอาชายเสือ้ เข้าในกางเกง หรอื กระโปรง ๑.๘ ไม่คาดเขม็ ขัด หรอื ใช้เขม็ ขัดท่ีผิดระเบยี บของโรงเรยี น

๑.๙ ใช้เครื่องสาอางเพอ่ื การเสรมิ สวย ๑.๑๐ ไวเ้ ล็บยาวหรือทาเล็บ เขียนค้ิว กนั ค้ิว หรือทาปาก ๑.๑๑ ไมเ่ ขา้ แถวเคารพธงชาติ ๑.๑๒ กลา่ ววาจาหยาบคายต่อเพ่ือนหรอื บุคคลอ่ืน ๑.๑๓ ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต ๑.๑๔ หนเี รยี น โดดเรยี น ๑.๑๕ ใช้โทรศัพท์ในขณะที่ครูทาการสอนหรือในเวลาเรียน ๑.๑๖ หลบหนชี วั่ โมงเรียน ๑.๑๗ ขดี เขียนโต๊ะ เก้าอ้ี หรือทาความสกปรกแก่ทรพั ยส์ นิ ของโรงเรียน ๑.๑๘ ไม่เขา้ ร่วมกิจกรรมตามที่โรงเรียนกาหนดให้ ๑.๑๙ นาหนงั สือ หรือส่ือลามกอนาจาร หรือส่ือที่ไม่เกีย่ วขอ้ งกับการเรยี นการสอนเข้ามา ในโรงเรียน ๑.๒๐ พูดปด พดู โกหก ใหข้ อ้ มลู ทเ่ี ปน็ เท็จ ๑.๒๑ ประพฤติตนในทานองชสู้ าว จับมือ นอนหนนุ ตกั โอบกอด ๑.๒๒ สูบบุหร่ีทง้ั ในและนอกบรเิ วณโรงเรยี น ๑.๒๓ ข่มขู่ บงั คบั รีดไถ กลน่ั แกล้ง รังแกผอู้ น่ื ๒. ประเภทความผิดร้ายแรง ๒.๑ เสพสรุ า หรอื ของมนึ เมาทุกชนิด ท้ังในและนอกบริเวณโรงเรียน หรอื มีส่งิ เสพตดิ ของมนึ เมา อาละวาทท้ังในและนอกบริเวณโรงเรียน ๒.๒ เลน่ การพนนั ทุกชนิด ท้งั ในและนอกบริเวณโรงเรียน ๒.๓ ลกั ขโมยทรัพยส์ ินของโรงเรยี น ครู บุคลากรของโรงเรียน เพอ่ื นนักเรียน หรอื บุคคลอืน่ ๒.๔ ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทาร้ายร่างกาย ทง้ั ในและนอกบริเวณโรงเรียน หรือชักนาบคุ คลอน่ื ภายนอก มากอ่ เหตทุ ะเลาะววิ าทกบั นักเรียนในโรงเรียน ๒.๕ พกพาอาวธุ หรือสงิ่ อนื่ ใดในลกั ษณะเป็นอาวุธเขา้ มาภายในโรงเรียน ๒.๖ ชูส้ าวข้ันรา้ ยแรง ประพฤติผิดศีลธรรมอนั ดีงาม ๒.๗ เสพสารเสพตดิ รา้ ยแรง หรือมสี ง่ิ เสพติดร้ายแรง ผิดกฎหมายไวใ้ นครอบครองเพ่ือ การเสพ จาหนา่ ย จ่าย แจก หรือในการอ่นื ใด ๒.๘ ทาลายทรพั ย์สินของโรงเรยี น ครู เพ่ือน นกั เรยี น หรือบุคคลอน่ื การควบคมุ ความประพฤติของนกั เรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร)์ หลักการ ๑. เพอ่ื ควบคมุ ความประพฤตขิ องนักเรยี นให้เป็นไปตามระเบยี บของโรงเรยี น ๒. ปอ้ งกนั มใิ หน้ กั เรยี นเกีย่ วขอ้ งกับอบายมขุ ๓. แกไ้ ขพฤติกรรมทไ่ี มถ่ ูกตอ้ งของนกั เรียน ๔. สง่ เสริมสนับสนุนใหน้ กั เรียนกระทาในสงิ่ ที่ถูกต้อง ๕. ใหผ้ ปู้ กครองไดร้ ว่ มมือกับโรงเรยี นเพื่อแกไ้ ขพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง ๖. ให้บังเกดิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอน ๗. ให้คะแนนความประพฤติเปน็ เกณฑ์กาหนดพฤตกิ รรมของนักเรยี น ระเบียบวา่ ดว้ ยการลงโทษ ถ้านักเรยี นฝา่ ฝนื ระเบียบข้อบงั คบั ต่าง ๆ ทโ่ี รงเรียนแจง้ ไว้โรงเรียนจะทาการสอบสวนจนเหน็ วา่

การกระทาดงั กลา่ วนั้นเจตนาโทษทจ่ี ะดาเนินการนัน้ ๔ สถานโดยระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ด้วยการลงโทษ นกั เรยี นนกั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ๑. วา่ กลา่ วตักเตอื น ๒. ทาทัณฑบ์ น ๓. ตดั คะแนนความประพฤติ ๔. ทากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม เพื่อให้การดาเนินการควบคุมและดูแลความประพฤติของนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและ เหมาะสม โรงเรยี นจงึ ได้ทากาหนดมาตรการการลงโทษนกั เรียนทกี่ ระทาผิดระเบยี บว่าดว้ ยการควบคุมและดูแล ความประพฤตขิ องนักเรียนดงั น้ี มาตรการลงโทษและตดั คะแนนความประพฤติ ลาดบั ที่ ประเภทความผิด คา่ ของคะแนน หมวด ๑ ประเภทความผิดไมร่ า้ ยแรง ๕ ๕ ๑ มาสายโดยไมม่ เี หตุผลสมควร ๕ ๕ ๒ ไม่รักษาความสะอาดในบริเวณโรงเรียน ๕ ๕ ๓ รับประทานอาหารกอ่ น-หลังเวลาที่กาหนด ๕ ๔ ผมยาวหรอื ทรงผมท่ผี ิดระเบยี บท่โี รงเรยี นกาหนด ๕ ๕ ๕ ไว้หนวดเครา ๕ ๕ ๖ สวมเสือ้ ผ้าผิดระเบียบ เชน่ ไมป่ ักช่อื สกุล หรอื เส้ือผ้าที่ไม่ใช่เครอื่ งแบบ ๑๐ ของโรงเรียน กางเกง กระโปรง รองเทา้ ถุงเทา้ ทผ่ี ิดระเบยี บ ๑๐ ๑๐ ๗ ไมเ่ อาชายเส้ือเข้าในกางเกง หรอื กระโปรง ๑๐ ๑๐ ๘ ไมค่ าดเข็มขัด หรือใช้เข็มขัดทผ่ี ิดระเบยี บของโรงเรียน ๑๐ ๙ ใช้เครอื่ งสาอางเพอ่ื การเสริมสวย ๑๐ ๑๐ ไว้เล็บยาวหรือทาเลบ็ เขียนคิว้ กนั ควิ้ หรือทาปาก ๒๐ ๑๑ ไมเ่ ข้าแถวเคารพธงชาติ ๑๒ กล่าววาจาหยาบคายต่อเพอ่ื นหรอื บคุ คลอื่น ๒๐ ๑๓ ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนญุ าต ๒๐ ๑๔ หนีเรียน โดดเรยี น ๒๐ ๑๕ ใชโ้ ทรศัพท์ในขณะที่ครูทาการสอน หรอื ในเวลาเรียน ๒๐ ๑๖ หลบหนีชว่ั โมงเรียน ๑๗ ขีดเขยี นโตะ๊ เก้าอี้ หรอื ทาความสกปรกแก่ทรพั ย์สนิ ของโรงเรียน ๑๘ ไม่เข้าร่วมกจิ กรรมตามที่โรงเรยี นกาหนดให้ ๑๙ นาหนังสือ หรอื ส่อื ลามกอนาจาร หรือสอื่ ทไี่ มเ่ กย่ี วขอ้ งกับ การเรียนการสอนเขา้ มาในโรงเรียน ๒๐ พดู ปด พูดโกหก ใหข้ ้อมูลที่เป้นเท็จ ๒๑ ประพฤตติ นในทานองช้สู าว จับมือ นอนหนนุ ตัก โอบกอด ๒๒ สบู บหุ รี่ทงั้ ในและนอกบริเวณโรงเรียน ๒๓ ข่มขู่ บังคับ รีดไถ กลน่ั แกลง้ รงั แกผู้อืน่

หมวด ๒ ประเภทความผดิ ร้ายแรง ๓๐ ๑ เสพสรุ า หรอื ของมึนเมา ทุกชนิด ท้ังในและนอกบรเิ วณโรงเรยี น ๓๐ หรอื มสี ง่ิ เสพตดิ ของมนึ เมา อาละวาททัง้ ในและนอกบรเิ วณโรงเรียน ๓๐ ๒ เลน่ การพนนั ทกุ ชนดิ ทั้งในและนอกบรเิ วณโรงเรยี น ๔๐ ๓ ลักขโมยทรัพยส์ ินของโรงเรยี น ครู บคุ ลากรของโรงเรียน เพือ่ นนกั เรยี น ๔๐ หรือบคุ คลอน่ื ๔๐ ๔ ก่อเหตทุ ะเลาะววิ าท ทารา้ ยร่างกาย ท้ังในและนอกบริเวณโรงเรียน หรอื ๕๐ ๕๐ ชกั นาบคุ คลอืน่ ภายนอก มาก่อเหตุทะเลาะววิ าทกับนักเรยี นในโรงเรยี น ๕ พกพาอาวธุ หรอื สง่ิ อน่ื ใดในลักษณะเป็นอาวธุ เข้ามาภายในโรงเรียน ๖ ทาลายทรพั ย์สนิ ของโรงเรียน ครู เพอื่ น นกั เรียน หรอื บุคคลอ่นื ๗ ชูส้ าวขน้ั รา้ ยแรง ประพฤตผิ ดิ ศลี ธรรมอนั ดงี าม ๘ เสพสารเสพติดร้ายแรง หรอื มีส่ิงเสพติดร้ายแรง ผิดกฎหมายไว้ ในครอบครองเพือ่ การเสพจาหนา่ ย จา่ ย แจก หรือในการอนื่ ใด หมายเหตุ ๑ เกณฑ์คะแนนความประพฤติ คะแนนพฤติกรรม ๓๐ คะแนน ว่ากล่าวตักเตอื น เชิญผ้ปู กครองมาพบ คะแนนพฤติกรรม ๔๐ คะแนน ทาทัณฑ์บน แจง้ ผู้ปกครองรับทราบหาแนวทางแก้ไขรว่ มกัน คะแนนพฤติกรรม ๕๐ คะแนน ตดั คะแนนความประพฤติ แจง้ ผปู้ กครองรับทราบหาแนวทางแก้ไข รว่ มกัน และทากจิ กรรมบาเพ็ญประโยชนต์ อ่ ตนเอง สถานศึกษาหรอื สังคม คะแนนพฤติกรรม ๘๐ คะแนน ทากจิ กรรมเพอื่ ปรบั เปล่ยี นพฤติกรรม คะแนนพฤตกิ รรม ๑๐๐ คะแนน เสนอใหก้ รรมการกลุม่ บริหารงานทวั่ ไปพิจารณาเพือ่ เสนอผู้อานวยการ สถานศึกษา ๒ นักเรียนท่ีถกู ลงโทษตัดคะแนนสามารถเพมิ่ คะแนนความประพฤตไิ ด้ดังน้ี ตารางเกณฑ์การเพม่ิ คะแนนความประพฤติ เพิม่ คะแนน ๕ ลาดับท่ี ลกั ษณะของพฤตกิ รรม ๑๐ ๑๐ ๑ เกบ็ สิ่งของแล้วส่งคนื เจา้ ของ ๒๕ ๒ ให้ข้อมูลการกระทาความผิดต่าง ๆ ๕ ๓ อทุ ิศตน เสยี สละช่วยงานกิจกรรมของโรงเรยี นจนเปน็ ท่ียอมรบั ๔ สรา้ งชื่อเสียงทด่ี ีด้านตา่ งๆ ใหก้ บั โรงเรยี น เป็นทีย่ อมรับ ศรทั ธาจาก สงั คม ๕ ทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ ชว่ั โมงละ - เก็บขยะมูลฝอย - กวาดขยะ - ทาความสะอาดหอ้ งเรยี น - ขัดหอ้ งน้าห้องสว้ มให้สะอาดเรียบรอ้ ย - ทาสีผนงั อาคาร - ขดั ถูโต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ

๓ นักเรยี นท่ีถูกลงโทษตดั คะแนนความประพฤติ ถ้า ๕๐ คะแนน ทางโรงเรยี นพิจารณาไมร่ บั รองผลการ เรียน ไม่รับรองความประพฤติ ๔ กิจกรรมเพอ่ื ปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม กิจกรรมอยคู่ ่ายปฏบิ ตั ิธรรมแบบเขม้ ท่ีวดั โรงเรียน หรอื สถานปฏิบตั ธิ รรม โดยโรงเรยี นร่วมมือกับ ผู้ปกครองเป็นการชดเชยการกระทาความผิดซา้ ซาก หรอื ความผิดสถานหนัก หรอื ถูกตดั คะแนนความ ประพฤตเิ กนิ ๕๐ คะแนน โดยทากจิ กรรมท้ังภายในและภายนอกสถานศึกษา เชน่ - การปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาท่วี ดั - ไปทาบุญทีว่ ัดใกลบ้ ้าน จานวน_____คร้งั - ทาความสะอาดวัด - ดแู ลปรนนบิ ตั รพระ ปฏบิ ตั ิธรรม จานวน____ครั้ง - การบวชสามเณรภาคฤดรู ้อน หรือระหวา่ งปิดภาคเรยี นโดยมกี ารกากบั ตรวจสอบจากทางวัด โรงเรยี น มีหนงั สือรบั รองการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและคา่ ยคุณธรรมท่โี รงเรยี นจัดขึ้น ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (นายศักดช์ิ ยั เลศิ อรุณรตั น์) ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร)์

ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) วา่ ด้วยการพกพาโทรศัพทเ์ คลอ่ื นที่มาโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๖๕ ***************************** สภาพปัจจุบันการใชเ้ ทคโนโลยมี ีความจาเปน็ ตอ่ การเรียนการสอนและการตดิ ตอ่ ประสานงานระหว่างครู กับนักเรียนหรือผู้ปกครองกับนักเรียน โทรศัพท์เคลื่อนที่จึงมีความจาเป็นสาหรับนักเรียน ในขณะเดียวกัน ถ้า นักเรียนนามาใช้ในทางท่ีไม่ถูกต้องย่อมไม่เกิดผลดีกับนักเรียน อาจส่งผลกระทบต่อการเรยี น ความปลอดภัยใน ชวี ติ และทรัพย์สิน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับนักเรียน ผู้ปกครอง และป้องกันปัญหาต่าง ๆ ท่ีอาจจะเกิดข้ึนกับนักเรียนและ โรงเรียน โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์)จึงอนุญาตให้นักเรียนนาโทรศัพท์เคล่ือนที่มาโรงเรียนได้ โดย นักเรียนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ว่าด้วยการพกพา โทรศพั ท์เคลื่อนทมี่ าโรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๖๕ อยา่ งเครง่ ครดั ดังน้ี ข้อ ๑. ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ว่าด้วยการพกพา โทรศัพทเ์ คล่อื นท่มี าโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๖๕” ขอ้ ๒. ให้ใชร้ ะเบยี บน้ี ตั้งแตว่ ันท่ี ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓. ระเบียบใด ๆ ที่ขัดกับ “ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ว่าด้วย การพกพา โทรศพั ท์เคลือ่ นทม่ี าโรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๖๕” น้ี ให้ใช้ “ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการ พกพา โทรศัพทเ์ คลื่อนที่มาโรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๖๕” น้แี ทน ข้อ ๔. ในระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ว่าด้วย การพกพาโทรศัพท์เคล่ือนท่ีมา โรงเรยี น พ.ศ.๒๕๖๕ น้ี ๔.๑ โรงเรียน หมายถึง โรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) ๔.๒ นักเรียน หมายถึง นักเรียนทุกคนท่ีกาลังศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบารุง ราษฎร)์ ๔.๓ ผู้ปกครอง หมายถึง บิดา มารดา หรือบุคคลที่ลงช่ือมอบตัวนักเรียนไว้กับโรงเรียนบ้าน พลวง(พรหมบารุงราษฎร)์ ในวนั ทีม่ อบตัวนกั เรยี น ๔.๔ โทรศัพท์ หมายถึง โทรศัพทเ์ คลอ่ื นท่ี หรืออปุ กรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์อ่นื ๆ ทม่ี ลี กั ษณะการใช้ งานในลกั ษณะเดยี วกัน ข้อ ๕. นักเรยี นทนี่ าโทรศพั ท์ มาโรงเรยี น จะตอ้ งปฏบิ ตั ดิ ังนี้ ๕.๑ การนาโทรศพั ทม์ าโรงเรียนเพ่อื ใช้ประกอบการเรียนการสอนเท่านั้น ๕.๒ ถ้ามีความจาเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อส่ือสารกับผู้ปกครอง จะต้องใช้ก่อนเข้าแถว เคารพธงชาติ พักกลางวัน และหลังเลิกเรียนเท่าน้ัน และขออนุญาตครูท่ีเก่ียวข้องทุกครั้ง เช่น ครูผู้สอน หรือ ผูป้ กครอง ฯลฯ ๕.๓ การใช้โทรศัพท์ติดต่อส่ือสารกับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ผู้ปกครอง จะต้องใช้เมื่อออกนอก บริเวณโรงเรียนแลว้ เทา่ นัน้ หรอื โดยไดร้ บั อนญุ าตจากครทู ี่เก่ยี วขอ้ งเท่านน้ั ๕.๔ ในขณะที่อยู่ในห้องเรียน / ห้องปฏิบัติการ / ห้องสอบ ห้ามนักเรียนเปิดเคร่ืองโทรศัพท์ โดยเดด็ ขาด ยกเว้นไดร้ ับอนุญาตจากครผู ู้สอนในคาบเรียนน้นั ๆ

๕.๕ ในขณะที่อยู่ในโรงเรียน ห้ามใช้โทรศัพท์เพ่ือวัตถุประสงค์อ่ืน ๆ นอกจากใช้ประกอบการ เรยี นการสอน และติดตอ่ กับผู้ปกครองเท่าน้นั ตามท่ีไดร้ บั อนุญาต ๕.๖ หากนักเรียนมีความจาเป็นจะต้องติดต่อส่ือสารกบั ผู้ปกครอง ให้ขออนุญาตจากครูผูส้ อน หรอื ครูทสี่ ามารถติดต่อไดใ้ นขณะเวลานนั้ พดู บรเิ วณท่เี ปดิ เผย นัง่ พดู ประจาทที่ ีเ่ หมาะสม ไมเ่ ดินพูด ๕.๗ ห้ามนักเรียนใช้กระแสไฟฟา้ ของโรงเรยี น เพื่อเตมิ แบตเตอร่ีของโทรศพั ทโ์ ดยเดด็ ขาด ๕.๘ หากนกั เรียนกระทาผิด ตามขอ้ ๕.๑ - ๕.๗ ข้อหนึง่ ขอ้ ใด จะถูกยดึ โทรศัพท์ แล้วนามาเก็บ ไว้ท่ีงานปกครองนักเรียน และตัดคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๕ คะแนน และจะคืนให้ โดยผู้ปกครอง จะตอ้ งมาขอรับคนื และจะตอ้ งมีหลักฐานประจาตัวทท่ี างราชการออกให้ ๕.๙ กรณีที่นักเรียนใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ีส่งข้อความเฟสบุ๊คหรือสังคมออนไลน์อนื่ ๆ ถ่ายภาพ เผยแพร่ ทาให้โรงเรียนเส่ือมเสียช่ือเสียง จะถูกตัดคะแนนคุณลักษณะอันพ่ึงประสงค์ ๕๐ คะแนน และต้อง รับผิดชอบตาม พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๖๐ ๕.๑๐ ให้นักเรียนผู้พกพา เก็บรักษาโทรศัพท์เคล่ือนท่ีหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อ่ืน ๆ ให้ ปลอดภัย หากเกิดกรณี เคร่ืองโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ประกอบของนักเรียนคนหนึ่งคนใด สูญหายและหา ผู้รับผดิ ชอบไม่ได้ ทางโรงเรียนจะไม่รบั ผดิ ชอบใด ๆ ท้งั ส้นิ ทั้งนี้ ให้งานปกครองนักเรียน กากบั ติดตามการใช้ให้เป็นไปตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ (นายศักดช์ิ ยั เลิศอรณุ รัตน์) ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร์)

ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบารุงราษฎร์) วา่ ด้วย “แนวปฏิบตั ิการนาจักรยานยนต์มาโรงเรียนและการสวมหมวกนิรภัย” พ.ศ. ๒๕๖๕ ******************** ดว้ ยสภาพการคมนาคมในปจั จบุ นั มีการใช้รถจกั รยานยนตม์ ากขนึ้ อันเปน็ ความจาเปน็ ตอ่ การสัญจรไปมา แตป่ ญั หาที่ตามมา คอื ก่อใหเ้ กิดปัญหาทางดา้ นการจราจรตดิ ขดั เกดิ อุบัตเิ หตุ ทาความเสยี หายทง้ั ชวี ิตและทรพั ยส์ นิ โรงเรียนไม่มีท่ีจอดรถได้เพียงพอ ก่อให้เกิดความสูญหายในอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถจักรยานยนต์ เป็นต้น ดังน้ัน โรงเรียนจงึ พิจารณาอนุญาตให้นกั เรียนนารถจักรยานยนต์มาโรงเรยี นได้เฉพาะผู้ทม่ี ีความจาเป็นจรงิ ๆ เท่าน้ัน เช่น บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนหรือไม่มีรถประจาทางจากบ้านพักมาโรงเรียนได้สะดวก รวดเร็ว เป็นต้นเพื่อให้เกิดความ ถูกต้องและเหมาะสมตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรและเกิดความปลอดภัยในร่างกายทรัพย์สินของผู้ใช้ รถจักรยานยนต์ และเพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการขับขี่รถภายในโรงเรยี น ดังน้ัน โรงเรียนจึงกาหนดแนว ปฏบิ ตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. นักเรียนท่ีประสงค์จะนารถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ต้องทาเรื่องขออนุญาตกับทางโรงเรียนท่ี ฝ่าย บริหารงานบคุ คลและให้ผู้ปกครองมารบั รองการขออนญุ าตนารถจกั รยานยนต์มาโรงเรียนตอ่ หนา้ ผอู้ นุญาต ๒. ต้องมใี บอนญุ าตขบั ขี่ หรอื ใบอนุญาตผ่านการอบรมการจราจรจากเจ้าหน้าทีต่ ารวจและสวมหมวกนิรภยั ทุกครั้ง ๓. สภาพรถจักรยานยนต์ท่ีจะนามาโรงเรียนต้องอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย เชน่ มีป้ายทะเบียน ป้ายวงกลม กระจกส่องหลงั ไฟเลย้ี ว ทอ่ ไอเสยี ไมเ่ สยี งดงั เป็นตน้ ๔. รถจกั รยานยนตท์ ่จี ะนามาโรงเรยี น ต้องผา่ นการตรวจสอบสภาพรถในข้อ ๓ ให้ถกู ต้อง แล้วโรงเรียนจะ ออกเคร่ืองหมายอนุญาตให้นารถจักรยานยนต์มาโรงเรยี นได้ (สต๊ิกเกอร)์ โดยให้ติดเครื่องหมายอนุญาตไวด้ ้านหนา้ รถใหช้ ดั เจน ๕. การขบั ขี่ภายในโรงเรียนต้องปฏิบตั ิตามระเบยี บขอ้ กาหนดของทางโรงเรียนอย่างเคร่งครดั เชน่ ใชค้ วามเร็วไมเ่ กิน ๒๐ กม./ช.ม. ชว่ งกอ่ นเวลา ๐๗.๓๐ น. และหลงั เวลา ๑๗.๐๐ น. ในวันทีม่ ีการเรยี นการสอน ๖. เมื่อนารถจักรยานยนต์มาโรงเรียนต้องนาไปจอดไว้ในท่ีโรงเรียนกาหนดให้เรียบร้อย พร้อมทั้ง ล็อค กุญแจให้เรียบร้อย ผู้ที่นารถจักยานยนต์ไปจอดตามบ้านหรือร้านค้ารอบๆ โรงเรียนถือว่าเป็นเจตนาประพฤติผิด กฎระเบียบของโรงเรียนเปน็ การรบกวนหรือสร้างความเดือดร้อนให้แกบ่ คุ คลอื่น ในระหวา่ งทมี่ กี ารเรยี นการสอนทาง โรงเรียนไม่อนญุ าตให้นารถออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นจนกวา่ จะถงึ เวลาเลิกเรยี นเว้นแตก่ รณที ่มี คี วามจาเป็น เช่น ตอ้ ง กลบั บ้านกรณีเจ็บปว่ ยหรอื มีเหตจุ าเปน็ ๗. การนารถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ถ้าหากเกิดการสูญหายหรือชารุดผู้ปกครองและนักเรียนจะไม่เรยี ก ค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นจากโรงเรียน ๘. หากมีความจาเปน็ ท่ีจะตอ้ งนารถจักรยานยนต์มาโรงเรียน แต่ขาดคุณสมบตั ิตามขอ้ ๒ – ๔ ทางโรงเรียน จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป ๙. ผู้ท่ีไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัตินี้ อาจถูกลงโทษตามเหตุอันสมควร หรืออาจจะไม่อนุญาตให้นา รถจกั รยานยนตม์ าโรงเรยี นอกี ตอ่ ไป ๑๐.นักเรียนต้องไม่กล่ันแกล้งทาให้รถจักรยานยนต์ผู้อื่นเกิดความเสียหายมิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบกับ ความเสยี หายทีเ่ กิดขน้ึ ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (นายศกั ดช์ิ ยั เลศิ อรุณรตั น)์ ผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบารงุ ราษฎร)์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook