1 กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 (วดั ควนขนั ) สังกัดเทศบาลนครตรงั กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ก การจดั ทำหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียน แบบโครงงาน กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เล่มน้ี จัดทำขึ้นซ่งึ ผู้สอน ไดจ้ ัดทำขึ้นเพ่อื มงุ่ เน้นพฒั นานักเรียนที่เรียนอ่อนและส่งเสรมิ นักเรียนที่เรยี นเก่ง โดยให้นกั เรยี น ได้เรียนร้ดู ้วยตนเอง โดยมีครูคอยดแู ละคอยแนะนำ นักเรยี นศึกษาไปทลี ะ เล่มตามลำดับจน สามารถสร้างหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ได้ ซอฟตแ์ วรท์ ีจ่ ะแนะนาให้นกั เรยี นไดศ้ กึ ษาเรยี นรกู้ ารสร้าง สอื่ มลั ตมิ เี ดยี ประเภทหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ดว้ ยโปรแกรม Flip Album ผู้จดั ทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรยี นแบบโครงงาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 น้ี สามารถพฒั นาการเรียนของนักเรยี น ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจและผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ การศึกษาที่ดีขนึ้ ขอขอบพระคุณนางสาวสมเพ็ชร ธนโชติวัฒนสิริ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 5 (วดั ควนขนั ) และผู้ท่ีเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้คำแนะนำในการจัดทำหนังสือ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใช้ การเรียนแบบโครงงาน กลมุ่ สาระ การเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่มน้ี นางธันยากร แพกุล
เรอ่ื ง ข คำนำ หนา้ สารบัญ คำชีแ้ จง ก มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด ข จุดประสงค์การเรียนรู้ ค แบบทดสอบกอ่ นเรียน ง ใบความรูท้ ี่ 1 1 ใบงานที่ 1 2 ใบความรู้ท่ี 2 4 ใบงานที่ 2 8 ใบความรู้ที่ 3 10 ใบงานท่ี 3 18 แบบทดสอบหลงั เรยี น 19 ภาคผนวก 23 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 24 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 26 เฉลยใบงานที่ 1 27 เฉลยใบงานที่ 2 28 เฉลยใบงานท่ี 3 29 บรรณานกุ รม 31 32 33
ค หนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียนแบบโครงงาน กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 พัฒนาขึ้นมาเพอ่ื แหล่งความรขู้ องนกั เรียน สง่ เสรมิ ให้นักเรียนเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศใน การสบื คน้ ขอ้ มลู การเรียนรู้ การส่อื สาร การแกป้ ัญหา การทำงานและอาชีพอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ประสิทธิผลและมีคณุ ธรรม สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมนี ิสัยรักการอ่าน หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ ารเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ท้งั หมด 6 เลม่ ดงั นี้ เลม่ ท่ี 1 เร่ือง โครงงานคอมพิวเตอร์ เลม่ ท่ี 2 เรอื่ ง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ เล่มท่ี 3 เร่อื ง ความรู้เบ้ืองตน้ เกีย่ วกับหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) เลม่ ที่ 4 เรอื่ ง การจดั การเน้อื หาหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) เลม่ ที่ 5 เร่อื ง การสรา้ งผลงานหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) เลม่ ท่ี 6 เรือ่ ง คุณค่าของโครงงานและลักษณะของโครงงานทีด่ ี
ง หนังสอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ ารเรยี นแบบ โครงงาน กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เล่มที่ 2 เรื่อง การพฒั นา โครงงานคอมพิวเตอร์ ควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. ครศู ึกษาหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ าร เรียนแบบโครงงาน กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เล่มท่ี 2 เรื่อง การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ เลม่ น้ใี ห้เขา้ ใจกอ่ นการใช้งาน 2. ครชู ี้แจงให้นกั เรียนเขา้ ใจวิธีการใช้หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album ใชก้ ารเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เล่มที่ 2 เร่ือง การพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 3. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนทกุ คร้ังเมอ่ื เริม่ ใช้หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ ารเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เล่มที่ 2 เรือ่ ง การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ ในแตล่ ะเลม่ และครูเปน็ ผู้ตรวจ 4. ครแู นะนำและใหค้ ำปรึกษาขณะนักเรียนศกึ ษาใบความรูแ้ ละฝึกปฏิบัติตามกจิ กรรม ในหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ ารเรียนแบบโครงงาน กล่มุ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เลม่ ท่ี 2 เรอ่ื ง การพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์ 5. ครูทบทวนความรูแ้ กน่ ักเรียนทกุ คร้ังกอ่ นหมดเวลาตามที่กำหนด 6. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เม่ือจบการเรียนรใู้ นหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนร้กู าร งานอาชีพ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เลม่ ท่ี 2 เร่อื ง การพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ในแตล่ ะเล่ม แลว้ สง่ ให้ครตู รวจ 7. ครปู ระเมินนกั เรยี นตามพฤตกิ รรมการเรียนรตู้ ามสภาพจริง พรอ้ มบนั ทกึ ผลทกุ คร้ัง ครูแจง้ ผลการเรยี นกับนักเรียนทกุ ครั้ง เมื่อทำกจิ กรรมการเรียนรู้เรียบรอ้ ยแล้ว
จ หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรยี นแบบ โครงงาน กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เลม่ ท่ี 2 เรื่อง การพฒั นา โครงงานคอมพวิ เตอร์ ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. นักเรยี นศกึ ษาคำแนะนำการใชง้ านหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชัน้ ประถมศึกษา ปีที่ 6 เลม่ ท่ี 2 เร่ือง การพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เลม่ นใ้ี ห้เขา้ ใจก่อนการใช้งาน 2. นักเรยี นฟังคำช้แี จงการใชห้ นงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) ดว้ ยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เล่มท่ี 2 เร่อื ง การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ จากครูใหเ้ ขา้ ใจวิธีการใชง้ านก่อนลงมือศกึ ษาด้วย ตนเอง 3. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นทุกครง้ั เมือ่ เริ่มใช้หนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใชก้ ารเรียนแบบโครงงาน กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 เล่มที่ 2 เรือ่ ง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ แลว้ ส่งใหค้ รตู รวจ 4. นกั เรียนศึกษาเน้ือหาสาระจากใบความรูแ้ ละฝกึ ปฏิบตั ติ ามตวั อยา่ ง ทำกิจกรรมดว้ ย ความตง้ั ใจ โดยมคี รูคอยแนะนำและให้คำปรกึ ษาเสร็จแลว้ ส่งให้ครตู รวจ 5. นักเรยี นทบทวนความรู้ทไ่ี ด้รบั ทุกครั้งก่อนหมดเวลา 6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนทุกคร้ัง หลังการศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียนแบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 เลม่ ที่ 2 เรอ่ื ง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ แลว้ สง่ ใหค้ รู ตรวจ
ฉ สาระท่ี 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาตรฐาน ง 3.1 : เข้าใจ เหน็ คุณค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื ค้น ขอ้ มลู การเรียนรู้ การส่อื สาร การแก้ปัญหา การทำงาน และอาชพี อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ประสิทธผิ ลและมคี ณุ ธรรม ตัวชี้วัด ง 3.1 ป. 6/2 ใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการค้นหาขอ้ มูล ง 3.1 ป. 6/3 เกบ็ รักษาข้อมลู ทีเ่ ปน็ ประโยชนใ์ นรปู แบบต่างๆ ง 3.1 ป. 6/4 นำเสนอข้อมูลในรปู แบบทเี่ หมาะสมโดยเลอื กใชซ้ อฟต์แวร์ประยุกต์ ง 3.1 ป. 6/5 ใช้คอมพวิ เตอร์ ช่วยสร้างชนิ้ งานจากจินตนาการหรืองานที่ทำใน ชีวติ ประจำวนั อยา่ งมีจติ สำนกึ และความรบั ผิดชอบ สาระสำคัญ การจัดทำโครงงานคอมพวิ เตอร์ถือเป็นกระบวนการในการทำงานโครงงานท่ตี อ้ งดำเนิน การอยา่ งเปน็ ลำดบั ขัน้ ตอน เพอื่ ให้เกดิ ประโยชน์มากทส่ี ดุ โดยมขี ้นั ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. การคดั เลอื กหวั ข้อโครงงานคอมพิวเตอร์ 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมลู 3. การเขยี นรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 4. การนำเสนอและแสดงโครงงานคอมพวิ เตอร์
1 เม่ือศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยใช้การเรียน แบบโครงงาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เลม่ ที่ 2 เร่ือง การพฒั นา โครงงานคอมพิวเตอร์ นักเรียนสามารถแสดงพฤตกิ รรมดงั ตอ่ ไปนี้ 1. นกั เรยี นอธบิ ายหลักการและองค์ประกอบสำคญั ในการตัดสินใจเลอื กหวั ขอ้ ทจี่ ะ นำมาพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ (K) 2. นักเรียนอธิบายประโยชนข์ องการศึกษาค้นคว้าเอกสารการทำโครงงาน คอมพิวเตอรไ์ ด้ (K) 3. นกั เรียนเขยี นเค้าโครงของโครงงานคอมพวิ เตอร์ได้ (P) 4. นกั เรยี นบอก ขัน้ ตอนการพัฒนาโครงงานหลักการเขยี นรายงานโครงงานและ นำเสนอแสดงโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้ (P) 5. นกั เรียนใช้คอมพิวเตอร์ในการคน้ หาข้อมูลหรืองานท่ีทำในชีวิตประจำวนั อยา่ งมี จิตสำนึก (A)
2 แบบทดสอบก่อนเรียน เลม่ ที่ 2 เร่อื ง การพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ คำชี้แจง ทำเครอื่ งหมาย ทบั ตวั อักษร ก ข ค หรือ ง ตรงกบั อักษรทีถ่ ูกทส่ี ดุ 1. โครงงานคอมพิวเตอร์และการจดั งานแสดงโครงงานจะมีคณุ ค่าตอ่ การฝึกฝน ให้นกั เรียนมที กั ษะอะไรบา้ ง ก. ความรับผิดชอบ ข. ความรู้ ความชำนาญ ค. การบรู ณาการในวิชาต่างๆ ง. เสริมสรา้ งประสิทธภิ าพทางดา้ นเรยี น 2. ท่ีมาและความสำคัญเป็นการเขียนอธบิ ายอะไร ก. ช่อื ส่งิ ที่เราทำ ข. การศกึ ษาค้นคว้าตา่ งๆ ค. ระยะเวลาตา่ งๆ ในการทำงาน ง. เหตใุ ดจึงเลอื กทำโครงงานน้ี 3. ข้ันตอนแรกของการทำโครงงาน คือขอ้ ใด ก. จดั ทำเคา้ โครงของโครงงาน ข. คัดเลือกหวั ข้อโครงงานทสี่ นใจ ค. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ง. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมลู 4. ข้อใดคือขัน้ ตอนสุดทา้ ยสดุ ของการจัดทำโครงงาน ก. การเขยี นรายงาน ข. จดั ทำเค้าโครงของโครงงาน ค. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ง. ศึกษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประเดน็ สำคญั ในการการจดั แสดงและการนำเสนอผลงาน ก. ผลงานท่เี กดิ ขึ้นจากการทำโครงงาน ข. ผลงานทกุ ช้นิ ทท่ี ดลองไม่สำเรจ็ ค. ชือ่ โครงงาน ชอ่ื ผทู้ ำโครงงาน ชื่อท่ีปรกึ ษา ง. วิธีการดำเนนิ การโดยเลือกเฉพาะขน้ั ตอนทเ่ี ดน่ และสำคัญ
3 6. ขอ้ ใดเป็นความสำคญั อันดับแรกของการจดั ทำขอ้ เสนอโครงงาน ก. ทำให้ทราบประโยชนข์ องโครงงาน ข. เพือ่ เปน็ การเลือกเร่อื งทจี่ ะทำโครงงาน ค. เปน็ การศกึ ษาความเป็นไปไดข้ องการทำโครงงาน ง. ไดก้ รอบแนวคดิ และแผนการพฒั นาโครงงานทุกขนั้ ตอน 7. เคา้ โครงข้อเสนอโครงงาน ไม่ต้องมหี วั ขอ้ ใดต่อไปน้ี ก. บทคดั ยอ่ ข. เอกสารอ้างอิง ค. แผนปฏิบตั ิงาน ง. หลกั การและทฤษฎี 8. บทบาทของหัวหนา้ พัฒนาโครงงาน ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. เปน็ ผคู้ ดิ หัวข้อโครงงาน ข. โนม้ นา้ วให้ผรู้ ว่ มทีมช่วยกนั ทำงานได้ ค. แบง่ งานตามความถนัดและความสนใจของสมาชิก ง. ควบคมุ ดูแลการทำงานใหเ้ ป็นไปตามแผนท่ีกำหนด 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขนั้ ตอนของการลงมอื พฒั นาโครงงาน ก. ประเมินผลการทำงานเป็นระยะ ข. ไปศกึ ษาดงู านแหลง่ เรียนรูท้ เ่ี ก่ียวขอ้ ง ค. จัดประชุมระดมความคดิ กับผ้รู ว่ มพฒั นา ง. บนั ทกึ ในรายงานความก้าวหนา้ อย่างสม่ำเสมอ 10. นนท์ขอพบอาจารยส์ อนวิทยาศาสตรเ์ พื่อขอคำแนะนำการทำโครงงานพัฒนา โปรแกรมสอนเรอ่ื งระบบสุริยะ อยใู่ นขนั้ ตอนใดของการทำโครงงาน ก. ขนั้ การค้นคว้าจากเอกสาร ข. ขน้ั การลงมือทำโครงงาน ค. ขั้นการคัดเลอื กหวั ขอ้ โครงงาน ง. ขั้นการจดั ทำข้อเสนอโครงงาน
4 ใบความรทู้ ี่ 1 เร่ือง การคดั เลือกหวั ขอ้ โครงงานคอมพวิ เตอร์ การจดั ทำโครงงานคอมพิวเตอรถ์ อื เปน็ กระบวนการในการทำงานโครงงานท่ีต้องดำเนินการ อยา่ งเปน็ ลำดับขน้ั ตอน เพ่ือใหเ้ กิดประโยชนม์ ากทีส่ ุดโดยมขี น้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ การคัดเลือกหวั ขอ้ โครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพ : หวั เร่อื งโครงงานนักเรยี นเป็นผู้คดิ ด้วยตัวเอง คำถามหรอื ความอยากรู้ อยากเหน็ เกีย่ วกับ เร่ืองต่างๆ ของนักเรยี นเอง เพราะฉะน้ันหัวเร่ือง หรอื ปัญหาที่ศึกษาควรให้นักเรียนเป็นผู้คิดและ เลอื กด้วยตวั เอง โดยทห่ี ัวขอ้ ของโครงงานควรมี ความเฉพาะเจาะจง และชัดเจนมุง่ ชดั ว่าจะศกึ ษา สงิ่ ใด หรือตัวแปรใด และควรเป็นเรื่องทีแ่ ปลกใหม่ ซึ่งแสดงถึงความคดิ สรา้ งสรรคด์ ้วยนอกจาก นัน้ หาคำนึงถึงเรอ่ื งท่เี ปน็ ประโยชน์ก็จะทำให้โครงงาน นนั้ มีคุณค่ายงิ่ ขนึ้ แนวความคดิ ในการเลอื กหัวข้อเรือ่ งเพอื่ ภาพ : นักเรยี นรวมกล่มุ ทำกจิ กรรมโครงงาน ทำโครงงานอาจได้มาจาก 1. ค้นคว้าจากสอื่ อนิ เตอรเ์ น็ต 2. จากการไปเยี่ยมชมสถานศึกษาตา่ งๆ เชน่ อุทยาน สวนสตั ว์ พพิ ิธภัณฑ์ หน่วยงานวิจัย หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร โรงงานอสุ าหกรรม 3. จากการฟงั บรรยายทางวิชาการ การฟงั และชมรายการทางวทิ ยุ และ โทรทศั น์ 4. กจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 5. จากงานอดเิ รกของนักเรยี นเอง 6. จากการเข้าชมนทิ รรศการ งานประกวด โครงงานสุขภาพทจ่ี ดั ในปีที่ผา่ นมา 7. จากการศึกษาโครงงานทผ่ี ูอ้ ่ืนทำไวแ้ ลว้ 8. จากการสนทนาครูอาจารย์ เพื่อนๆ หรอื บุคคลต่างๆ 9. จากการสังเกตปรากฏการณ์รอบตัว
5 ในการตดั สินใจเลอื กหัวขอ้ ทจ่ี ะนำมาพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณา องคป์ ระกอบสำคัญ ดังน้ี 1. เลอื กอย่างมคี วามคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ศึกษาค้นคว้าตามความถนดั และคำนึงความ พรอ้ มความสนใจของตนเองหรอื ของกลมุ่ 2. เลือกโครงงานท่ีมีคณุ ค่า เป็นปัญหาใหม่ๆ ตรงกับความสามารถและความรูข้ องตนเอง 3. คำนึงถงึ ความเหมาะสมในเรือ่ ง ความปลอดภัย เวลา งบประมาณ และกำลงั ของตน 4. คำนึงถงึ สภาพแวดล้อมท่เี อือ้ อำนวยต่อการทำโครงงาน 5. สามารถวางแผนการดำเนินการตามข้ันตอนตา่ งๆไวล้ ่วงหนา้ เห็นล่ทู างท่จี ะทำได้สำเรจ็ 6. สามารถหาเครอ่ื งมอื หรือสรา้ งเครื่องมือที่มคี ณุ ภาพเพ่ือรวบรวมข้อมลู ได้ 7. มคี วามตั้งใจท่ีจะทำโครงงานให้ประสบผลสำเร็จ ได้ผลงานท่นี ำไปใช้ไดจ้ รงิ 8. เป็นเรอ่ื งทีม่ อี ย่จู รงิ และเปน็ ไปได้ มีคุณคา่ ตอ่ การเรยี นรู้ของนกั เรียน 9. นกั เรยี นมปี ระสบการณ์อยู่บา้ งและเปน็ เรอื่ งท่ีมโี อกาสไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณต์ รง ภาพ : นักเรียนรวมกลมุ่ ประชุมหารือคัดเลอื กหวั ทจี่ ะนำมาพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ 10. เป็นเร่อื งทเ่ี ปดิ โอกาสให้นักเรียนร่วมมอื กันในการทำโครงงาน 11. เปน็ เรื่องที่ใกล้ตัวไมก่ วา้ งเกินไป จนทำใหไ้ ม่สามารถศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดได้ 12. เป็นเร่ืองที่นกั เรยี นสามารถนำความรู้ ทกั ษะทีไ่ ดไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นการทำกจิ กรรมอนื่ ๆ 13. เป็นกจิ กรรมการศึกษาทีใ่ ห้นักเรียนศึกษาค้นคว้าปฏิบตั ิดว้ ยตนเองโดยอาศยั หลัก วชิ าการทางทฤษฎีตามเน้ือหาโครงงานนัน้ ๆ หรือจากประสบการณแ์ ละกิจกรรมตา่ งๆ ทไี่ ด้พบ เห็นมาแล้ว 14. เปน็ โครงงานทีเ่ หมาะสมกบั ความรู้ ความสามารถของนกั เรียนตามวยั และสติปญั ญา รวมทัง้ ค่าใชจ้ า่ ยในการดำเนนิ งานด้วย 15. นกั เรียนเปน็ ผเู้ สนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบตั ิงาน และการแปล ผลรายงานผลตอ่ ครูท่ปี รึกษาเพอื่ ดำเนินงานรว่ มกนั ใหบ้ รรลุตามจุดหมายท่กี ำหนดไว้
6 นอกจากทราบแหล่งท่ีทำให้ได้ปัญหาในการทำโครงงานแลว้ ผทู้ ำควรทราบหลักเกณฑ์ ในการเลือกหัวข้อปัญหาประกอบด้วย จงึ ทำใหไ้ ดห้ วั ขอ้ ท่ีเป็นปญั หาที่ดแี ละเหมาะสม ในการทำ โครงงาน การพิจารณาปญั หาทจ่ี ะศึกษา อาศัยเกณฑ์การพิจารณาดงั ต่อไปนี้ 1. เลอื กปญั หาโดยคำนงึ ถึงความสนใจของตนเองเป็นท่ีตงั้ เพราะความสนใจเปน็ แรงจูงใจ ใหผ้ ้ทู ำทำโครงงานได้สำเร็จ 2. เลอื กปัญหาทต่ี รงกับความสามารถและระดบั ความรขู้ องตนเอง กล่าวคอื ควรจะเลอื ก ปัญหาทีต่ นเองมพี ื้นฐานความรู้ เพราะการมพี ืน้ ฐานความรู้ จะทำให้มแี นวทางทีจ่ ะเสาะแสวงหา ความรเู้ พ่มิ เตมิ เพอื่ ให้การทำโครงงานน้ันสำเร็จลลุ ว่ งไดอ้ ย่างดีและรวดเร็วยิ่งข้ึน 3. เลอื กปัญหาทมี่ ีคณุ ค่า เปน็ ปญั หาใหม่ ๆ เพื่อผลการทำโครงงานท่ไี ด้จะเปน็ การเพม่ิ พนู ความรูใ้ หม่ ๆ อันจะนำไปเสริมสร้างทฤษฎี อีกทง้ั นำไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในทางปฏบิ ัตไิ ด้ 4. เลอื กปัญหาโดยคำนึงถึงความเหมาะสมในเร่อื งของเวลา งบประมาณ และกำลงั แรงงานของตน ผ้ทู ำโครงงานจะต้องวิเคราะหส์ ถานะของตนวา่ ควรทำโครงงานที่มีขนาดใหญ่สกั แคไ่ หน จงึ จะเหมาะสม เพราะการทำโครงงานเปน็ งานท่ีตอ้ งใชเ้ วลา เงนิ ทอง และแรงงาน 5. เลือกปัญหาโดยคำนึงถึงสภาพแวดลอ้ มที่เอื้ออำนวยต่อการทำโครงงานอันไดแ้ ก่ 5.1 ปญั หานัน้ จะได้รับความรว่ มมือจากผู้เก่ยี วขอ้ งมาก – น้อยแค่ไหน 5.2 ปญั หานัน้ มีแหลง่ ความรูห้ รือเอกสารเพียงพอทจี่ ะค้นควา้ หรือไม่ ภาพ : ประชุมกลุ่ม ปรึกษาและชว่ ยกันเลือกหัวข้อที่จะนำมาทำโครงงาน
7 ลักษณะของปัญหาที่ดี 1. เป็นเร่ืองทม่ี ีความสำคัญ มปี ระโยชน์ ทำใหเ้ กดิ ความรูใ้ หม่ ๆ และนำไปใช้ปรับปรุง แกไ้ ขปญั หาต่าง ๆ ได้ พร้อมทงั้ เปน็ การส่งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคอ์ ีกด้วย 2. เปน็ ปัญหาทส่ี ามารถวางแผนดำเนนิ งานตามขัน้ ตอ้ นต่าง ๆ ล่วงหน้าได้ เหน็ ลู่ทางท่จี ะ ทำใหส้ ำเร็จ 3. เปน็ ปัญหาทไ่ี ม่เกินกำลังความสามารถของผ้ทู ำโครงงานทจี่ ะทำใหส้ ำเรจ็ แม้จะมี อุปสรรคบางอย่างก็สามารถแก้ไขได้ 4. เป็นปญั หาท่สี ามารถหาคำตอบไดโ้ ดยวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ 5. เปน็ ปัญหาท่สี ามารถหาขอ้ มลู มาตรวจสอบสมมติฐานเพอ่ื หาข้อสรุปหรือข้อยุตไิ ด้ 6. เปน็ ปญั หาทส่ี ามารถหาเครือ่ งมอื หรอื สรา้ งเคร่อื งมอื ท่คี ุณภาพเพ่ือรวบรวมขอ้ มูลได้ ขอ้ ควรระวงั ในการเลือกหวั ขอ้ ปญั หา 1. อย่าเลือกปญั หาที่ใหญ่โตเกนิ ไป หรอื ปญั หาทกี่ ว้างไมม่ ขี อบเขต ซงึ่ ผทู้ ำโครงงานอาจ ทำไม่สำเรจ็ ภายในเวลาอันจำกัด 2. อย่าเลือกปญั หาที่หาขอ้ ยุตไิ ม่ได้ 3. อย่าเลอื กปญั หาท่ีไม่สามารถหาขอ้ มลู มาทดสอบได้ 4. อย่าเลอื กปัญหาท่ีไมม่ ีสาระสำคญั ภาพ : อบรมการจดั ทำโครงงานสำหรบั นกั เรียน
8 ใบงานท่ี 1 เร่ือง การคดั เลือกหัวข้อโครงงานคอมพวิ เตอร์ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามที่กำหนดใหถ้ ูกต้อง 1. แนวความคิดในการเลือกหัวขอ้ เรื่องเพื่อทำโครงงานอาจได้มาจาก อะไรบ้าง ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ _2_. _ใ_น_ก_า_ร_ต_ัด_ส__นิ _ใจ_เ_ล_อื _ก_ห__ัวข__้อ_ท_จี่ _ะ_น_ำ_ม_า_พ_ฒั__น_า_โ_ค_ร_ง_งา_น_ค__อ_ม_พ_ิว_เ_ต_อ_ร_์ ค_ว_ร_พ__จิ _า_รณ__า_อ_ง_ค_์ป_ร_ะ_ก_อ_บ_ สำคัญคอื ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ 3. การพิจารณาปัญหาท่จี ะศกึ ษา อาศยั เกณฑ์การพิจารณาจากสิง่ ใดในการนำมาพัฒนา โครงงานคอมพิวเตอร์ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________
9 4. ลกั ษณะของปัญหาท่ดี ใี นการนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์คือ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ 5. ข้อควรระวังในการเลือกหัวข้อปัญหาในการนำมาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรค์ อื ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________
10 ใบความรู้ที่ 2 เรือ่ ง ศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งขอ้ มูล หลงั จากนักเรียนได้หัวข้อเรือ่ งกวา้ งๆ แล้ว ขัน้ ตอนตอ่ ไปคอื ศึกษาค้นคว้าเอกสารและ หาแหล่งข้อมูลทน่ี ักเรยี นจะสามารถศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เติม การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่ เกี่ยวข้องจะช่วยให้นกั เรียนได้แนวความคดิ ทก่ี ำหนดขอบขา่ ยของเรอ่ื งที่จะศึกษาคน้ คว้าให้ เฉพาะเจาะจงมากขึน้ ศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ข้อมลู การศึกษาค้นควา้ จากเอกสาร ซง่ึ รวมถึงการขอคำปรกึ ษาจากผ้ทู รงคณุ วุฒจิ ะชว่ ยให้ นักเรียนไดแ้ นวคดิ ทใ่ี ชใ้ นการกำหนดขอบเขตของเร่อื งทีจ่ ะศกึ ษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึน้ รวมทัง้ ได้ความร้เู พ่มิ เตมิ ในเร่ืองท่จี ะศกึ ษาจนสามารถใชอ้ อกแบบและวางแผนดำเนนิ การทำ โครงงานน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ในการศกึ ษาคน้ คว้าดงั กลา่ ว นักเรยี นจะต้องบนั ทกึ สรุป สาระสำคัญไวด้ ้วย ในการศกึ ษาและวิเคราะห์โครงงาน คอมพิวเตอรห์ รอื ปัญหาพิเศษต่างๆ มีประเด็นท่ี ตอ้ งพิจารณา ดังน้ี 1. มูลเหตจุ งู ใจและเป้าหมายในการทำ โครงงาน 2. การดำเนนิ การพฒั นา - วสั ดุอุปกรณ์ตา่ งๆ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ทตี่ อ้ งใชใ้ นการดำเนินการ และตวั แปลภาษาโปรแกรมทตี่ อ้ งใช้ - ความต้องการของผใู้ ชแ้ ละคุณลกั ษณะ ของผลงาน - กลมุ่ ผู้ทดลองใช้โครงงานและวิธกี าร ประเมนิ ผล - วธิ ีการพัฒนา - ข้อสรุปของโครงงาน - ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ ภาพ : แหลง่ ขอ้ มูลท่สี ำคัญอกี แหล่งหนงึ่ คือเว็บไซต์ต่างๆ ของผทู้ ำโครงงาน - แนวทางในการปรบั ปรงุ หรอื ขยายการ ทดลองจากงานเดิม
ภาพ : นกั เรียนศกึ ษาหาความรใู้ นห้องสมุด 11 ผลทไ่ี ดจ้ ากการการศกึ ษาคน้ ควา้ จาก เอกสารน้จี ะช่วยใหไ้ ดแ้ นวคดิ ในการกำหนด ขอบขา่ ยหรอื เค้าโครงของเร่อื งที่จะศึกษาชดั เจนวา่ 1. จะทำอะไร 2. ทำไมต้องทำ 3. ตอ้ งการใหเ้ กิดอะไร 4. ทำอย่างไร 5. ใชท้ รัพยากรอะไร 6. ทำกับใคร 7. เสนอผลอย่างไร แหลง่ ข้อมูลหรอื เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง เพอื่ ให้นกั เรียนได้ค้นพบส่ิงทตี่ นเองสนใจไดอ้ ย่างกว้างขวาง และนอกเหนอื จากการเรียน ในชนั้ เรยี น และการอา่ นหนงั สอื แบบเรียนแล้ว นกั เรียนควรจะได้ศึกษาหาความร้จู ากแหลง่ ขอ้ มูล ต่างๆ เพ่มิ เติมอีกดังตอ่ ไปนี้ 1. การอ่านหนงั สือตา่ งๆ เชน่ ตำราหนังสือพมิ พ์ วารสาร เป็นต้น 2. การไปเย่ยี มชมสถานท่ตี า่ งๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หน่วยงานวจิ ัย ห้องปฏบิ ัตกิ าร 3. การฟงั บรรยายทางวิชาการ การฟังและชมรายการวิทยุ โทรทัศน์ 4. จากกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 5. งานอดเิ รกของนกั เรียนเอง 6. การเข้าชมนทิ รรศการ หรอื งานประกวดโครงงานสขุ ศึกษาและพลศึกษา 7. การศึกษาโครงงานสขุ ภาพ ทม่ี ผี ูอ้ ่ืนทำไว้แลว้ 8. การสนทนากับครูอาจารย์ เพ่ือนๆ หรือบคุ คลอืน่ ๆ 9. การสงั เกตปรากฏการณต์ า่ งๆ รอบๆ ตัว 10. จากคอมพวิ เตอร์ แหลง่ ขอ้ มูลที่สำคัญอกี แหล่งหน่ึงคอื การศกึ ษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์จากงาน แสดงนิทรรศการ หรือจากเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ซง่ึ อาจค้นหาไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ท่ัวโลก จะชว่ ยเพ่ิมพูนประสบการณ์ใหก้ บั นักเรยี นในดา้ นความรู้ เทคนคิ และวธิ กี ารพัฒนา นอกจากน้ยี ังทำใหเ้ กดิ แนวคิดทีจ่ ะดดั แปลงผลงานดังกลา่ ว มาจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ในหวั ขอ้ ทต่ี นสนใจดว้ ย และสงิ่ ทสี่ ำคญั ควรจดบนั ทึกทกุ ครง้ั เมอ่ื ได้ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการแล้ว คือ ทม่ี าของข้อมูล ชื่อเรอ่ื ง ชอ่ื ผูเ้ ขียนหรือช่ือผแู้ ตง่ ชื่อหนังสอื วัน เดอื น ปที พี่ ิมพ์ สำนกั พิมพ์
12 การจดั ทำข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ การจดั ทำเคา้ โครงของโครงงานที่จะทำ จำเปน็ ตอ้ งกำหนดกรอบแนวคดิ และวาง แผนการพัฒนาลว่ งหน้าเพื่อคาดการณค์ วามเปน็ ไปได้ของโครงงาน ข้ันตอนทีส่ ำคัญคอื ศกึ ษา คน้ ควา้ เอกสาร วิเคราะหข์ อ้ มลู ออกแบบการพฒั นา เสนอเคา้ โครงของโครงงานตอ่ อาจารย์ที่ ปรกึ ษา เพือ่ ขอคำแนะนำและปรับปรงุ แก้ไข มขี นั้ ตอนทส่ี ำคัญดังนี้ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าเอกสารอ้างอิงและ รวบรวมขอ้ มูลที่ไดจ้ ากผทู้ รงคุณวุฒิ 2. วิเคราะห์ข้อมลู เพอื่ กำหนดขอบเขต และลกั ษณะของโครงงานท่จี ะพฒั นา 3. ออกแบบการพฒั นา มีการกำหนด ลกั ษณะของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และตวั แปลภาษาโปรแกรม และอปุ กรณต์ ่างๆ ท่ีต้องใช้ ภาพ : นักเรียนช่วยกนั วเิ คราะหข์ อ้ มลู 4. กำหนดตารางการปฏบิ ัตงิ านของการ จดั ทำเคา้ โครงของโครงงาน ลงมอื ทำโครงงาน และสรุปรายงานโครงงาน โดยกำหนดช่วงเวลา อย่างกวา้ งๆ 5. ทำการพฒั นาโครงงานขั้นตน้ เพ่อื ศึกษาความเป็นไปไดเ้ บ้อื งตน้ โดยอาจจะทำการ พัฒนาส่วนยอ่ ยๆ บางส่วน ตามที่ได้ ออกแบบไวแ้ ลว้ นำผลจากการศึกษา ในช่วงนีไ้ ปปรับปรุงแผนการทดลอง ทีอ่ อกแบบไว้ในครง้ั แรกใหเ้ หมาะสม มากยิ่งข้นึ 6. เสนอเคา้ โครงของโครงงาน คอมพวิ เตอร์ตอ่ ครูที่ปรึกษา เพื่อขอ คำแนะนำและปรับปรุงแก้ไขเพราะใน การวางแผนการศกึ ษาพัฒนาความคิด ของนกั เรยี นอาจยังไม่ครอบคลุมทุกดา้ น เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ จึงควร ถ่ายทอดความคดิ ที่ไดศ้ กึ ษาและบันทึก ไวใ้ หค้ รทู ราบเพือ่ รบั คำแนะนำ และนำ ภาพ : นักเรยี นช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูล ไปปรับใช้ให้เกิดความเหมาะสม
13 เคา้ โครงโครงงานคอมพิวเตอร์ คอื รายละเอียดเพื่อขอเสนอทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยหัวข้อตา่ งๆ ดังนี้ 1. ชอ่ื โครงงาน ควรเขยี นให้ตรงกับเรื่องท่จี ะทำ เขียนให้สนั้ กะทัดรัด ชัดเจน กระชบั ไมค่ วรยาวเกนิ ไป และใชข้ อ้ ความทม่ี คี วามหมายเฉพาะเจาะจงวา่ จะศึกษาอะไร ระบุใหช้ ัดเจน สอ่ื ความหมาย ได้ใจความตรงกบั เรอ่ื ง ตรงกับงานท่ีนักเรยี นกำลงั ศกึ ษา เม่ือ อ่านช่ือเร่อื งแล้ว สามารถบอกไดว้ า่ เร่อื งน้ันมลี ักษณะอย่างไร เป็นประโยค ทส่ี มบรู ณ์ มปี ระธาน กริยา กรรม และไมค่ วรเปน็ ประโยคคำถาม เพราะ ไม่ใช่คำถามหรอื ปญั หา ช่ือควรเร้า ความสนใจ แต่ตอ้ งไม่ผดิ เพ้ยี นไปจาก เนื้อเรื่องของโครงงาน ภาพ : ผู้ทำโครงงานในกล่มุ ควรรว่ มงานกันอย่างสามัคคีทม่ี า : 2. ชือ่ ผ้ทู ำโครงงาน/ คณะทำงาน (ระบุรายช่ือคณะนกั เรยี น ท่ที ำโครงงาน) 3. ช่ือครทู ี่ปรึกษาโครงงาน (ระบุช่อื ครูทใ่ี หค้ ำแนะนำปรกึ ษา) อาจจะเปน็ ครูประจำ รายวชิ าหรอื ครูท่านอื่น หรือผเู้ ชยี่ วชาญทส่ี ามารถให้คำปรึกษาได้ 4. ท่มี าและความสำคญั ของโครงงาน อธบิ ายถงึ ความสำคัญและเหตุผลในการเลือก พฒั นาโครงงาน ประโยชน์ของโครงงาน ความเปน็ มาเกยี่ วกบั ปัญหาทสี่ นใจจะศกึ ษาน้ีวา่ มหี ลกั การ ความเป็นมามีเหตุผลความจำเป็นอย่างไร แรงบันดาลใจหรอื แรงจงู ใจ เหตุใดจึงไดเ้ ลอื กทำโครงงานนี้ มเี หตจุ งู ใจอะไรท่ที ำใหส้ นใจเป็นกรณพี ิเศษ โครงงานนม้ี ีความสำคญั อยา่ งไร ประโยชนท์ จ่ี ะได้ จากการจัดทำโครงงานน้ีดีอย่างไรทำไมจงึ ตอ้ งทำมขี อ้ มลู เกย่ี วกบั ทฤษฎีหรือหลักวิชาการหรอื ตัวเลข สถติ ทิ มี่ คี วามเกยี่ วข้องปรากฏเดน่ ชัดควรจัดระบบเพ่ิมเตมิ ลงไปเพอ่ื แสดงว่าโครงงานนีม้ คี วามสำคญั เปน็ เรื่องใหม่หรอื มผี อู้ ่นื ไดศ้ กึ ษาค้นคว้าไวบ้ ้างแล้วเพอ่ื ขยายปรับปรุงหรอื ทำซำ้ เพือ่ ตรวจสอบผล ภาพ : การจัดทำโครงงานของนกั เรยี น
14 5. วตั ถปุ ระสงค์ เปน็ การระบคุ วามตอ้ งการในการศึกษา ซ่ึงอาจเขยี นเป็นขอ้ ๆ โดยเขียน ให้ผ้อู นื่ ทราบว่าเราจะทำการศกึ ษาอะไร อย่างไร แต่ไมใ่ ช่นำเอาประโยชน์ทเี่ กดิ ขน้ึ จากการทำ โครงงานมาเขียนเป็นจุดมุ่งหมาย ส่วนการระบวุ ตั ถุประสงคข์ องโครงงานนนั้ จดั ว่าเปน็ การเขียน วตั ถปุ ระสงค์การศึกษาค้นคว้าหรือเป็น วตั ถปุ ระสงค์ของการทดลองวัตถุประสงค์ ท่ีดีควรเจาะจงเปน็ สง่ิ ทีส่ ามารถเปน็ สิ่งท่ี สามารถวัดได้ บอกขอบเขตของงานทจ่ี ะ ทำไดช้ ดั เจน และไม่เขยี นอยู่ในรปู ของ ประโยคคำถาม ทส่ี ำคัญคือต้องสอดคลอ้ ง กบั ชื่อของโครงงาน 6. ขอบเขตของโครงงาน ระบุวา่ โครงงานทท่ี ำข้ึนนศี้ กึ ษาเร่ือง ภาพ : การจัดทำโครงงานของนักเรียน เนือ้ หาเก่ียวกับอะไรบ้าง ใช้โปรแกรม อะไรในการสร้างชน้ิ งานโครงงาน 7. แผนการดำเนินงาน ระบขุ ั้นตอนการดำเนินงาน ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นแต่ละขัน้ ตอน ต้ังแต่ วันที่เริม่ ทำโครงงาน ระยะเวลาดำเนินงานแต่ละขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ คา่ ใช้จา่ ย หรอื อธิบายการเร่มิ งาน การจัดทำ การ จัดรปู แบบ ออกแบบ ทดลองอะไร เก็บข้อมูลอะไรบ้าง อย่างไรและเมอ่ื ใด ข้ันตอนการดำเนินงานเป็นอยา่ งไร 8. ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ เป็นการกล่าวถึงประโยชน์ท่จี ะไดร้ บั จาก การทำโครงงานจะมีอะไรเกดิ ข้ึน มปี ริมาณมากน้อยเพยี งใด มปี ระสิทธิภาพ หรอื คุณภาพอย่างไร จะได้รับประโยชน์ หลายลกั ษณะหรอื ลักษณะใดลักษณะหนงึ่ จากการทำโครงงานครง้ั น้ีอยา่ งไร ทงั้ กับ ตนเอง เพอ่ื นๆ และบคุ คลทั่วไป 9. อุปกรณแ์ ละวธิ กี ารดำเนนิ งาน ระบุว่าเครอ่ื งมืออปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการพัฒนา ภาพ : รวมกลมุ่ ช่วยกนั เขียนเคา้ โครงโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานใชซ้ อฟตแ์ วรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ งๆ มี อะไรบ้าง มีขนาดเทา่ ใด วัสดุอปุ กรณม์ า จากไหน สิ่งใดท่ีต้องซ้ือและสงิ่ ใดทต่ี ้องขอยมื สง่ิ ทีต่ อ้ งจดั ทำเองมีอะไรบ้าง
15 การพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เมอ่ื เคา้ โครงงานผา่ นความเห็นชอบจากครทู ปี่ รึกษาโครงงานแลว้ ตอ่ ไปกเ็ ป็นขั้นลงมือ ปฏิบัติงานตามขั้นตอนทรี่ ะบุไว้ โดยปฏิบัตติ ามแผนการดำเนินงาน ซ่งึ อยภู่ ายใตก้ ารดแู ล กำกบั ติดตาม และแนะนำอย่างใกล้ชดิ ของครทู ่ีปรึกษา ควรปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรอบคอบ คำนงึ ถงึ ความปลอดภยั ในการทำงาน ตลอดจนคำนึงถงึ สภาพแวดล้อม มีการบันทึกผลการ ปฏบิ ัตเิ ปน็ ระยะๆ เพ่ือรายงานความก้าวหน้าของโครงงาน 1) การเตรียมการ โดยการจดั เตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์และวัสดุ อนื่ ๆ พรอ้ มทง้ั จดั เตรียมสถานที่สำหรับใชใ้ นการพฒั นา ตลอดจนกำหนดหน้าทคี่ วามรับผิดชอบ ของแต่ละคนในกรณที ำโครงงานเปน็ กลมุ่ 2) การลงมอื พฒั นา ดว้ ยการปฏบิ ตั ติ าม แผนงานท่วี างไว้ในเค้าโครงแต่อาจเปลยี่ นแปลง ได้ตามความเหมาะสม ในช่วงแรกอาจเปน็ การ พัฒนาโครงงานขั้นตน้ เพอ่ื ศกึ ษาความเปน็ ไปได้ โดยทำการพัฒนาส่วนงานย่อยๆ บางส่วนแล้ว นำผลจากการศึกษาในช่วงน้ีไปปรับปรุงให้ เหมาะสมมากย่ิงขน้ึ ในระหวา่ งนีจ้ ะต้องสรปุ รายงานความกา้ วหน้าพร้อมทงั้ ปญั หาที่เกดิ ขึ้น ระหว่างการทำโครงงานในแต่ละครงั้ เพอ่ื นำไป ปรบั ปรุงแก้ไขปญั หาทเี่ กดิ ขึ้นให้งานสำเร็จตาม ภาพ : จดั เตรียมเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ใหพ้ รอ้ ม เป้าหมายที่กำหนดไว้ 3) การทดสอบและแกไข โดยต้องมี การทดสอบความถกู ต้องของผลงาน และปรบั ปรุง แก้ไข เพื่อใหแ้ น่ใจว่าผลงานทพ่ี ัฒนาขึน้ ทำงานได้อย่างถูกตอ้ งตรงกบั เป้าหมายที่กำหนดไว้ และ เมือ่ นำไปใชจ้ รงิ อาจมีการตดิ ตามและประเมนิ การทำงานทกุ สปั ดาห์ เพ่ือตรวจสอบความถูกต้องของ การทำงาน 4) การอภิปรายและขอ้ เสนอแนะ เมอื่ พฒั นาเรยี บร้อยแล้ว ให้จัดทำสรปุ ดว้ ยขอ้ ความ ท่ีสน้ั กะทดั รัด ครอบคลุมหวั ข้อโครงงาน เพ่อื ช่วยให้ผ้อู า่ นเข้าใจถึงส่งิ ทค่ี น้ พบจากการทำ โครงงานและทำการอภปิ รายผล เพ่ือพิจารณาข้อมูลและผลทไี่ ด้ พรอ้ มกับนำไปหาความสัมพันธ์ กบั หลกั การ ทฤษฎี หรอื ผลงานท่ผี ้อู ่ืนไดศ้ กึ ษาไวแ้ ลว้ ทง้ั นย้ี ังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผอู้ น่ื มาใช้ประกอบการอภปิ รายผลท่ีได้ 5) แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทำโครงงานเสร็จสนิ้ ลงแล้วนกั เรียนอาจพบข้อสงั เกต ประเดน็ ท่ีสำคัญหรือปญั หา ซงึ่ สามารถเขียนเป็นขอ้ เสนอแนะ สำหรบั ผูท้ ส่ี นใจจะนำไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธภิ าพมากย่ิงขึ้น
16 การเขียนรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ การเขยี นรายงาน เป็นวิธกี ารส่อื ความหมายเพื่อใหผ้ ู้อนื่ ได้เข้าใจแนวคิด วิธดี ำเนินการ ศกึ ษาค้นควา้ หาขอ้ มลู ที่ได้ ตลอดจนข้อสรปุ และขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ เกย่ี วกบั โครงงานนัน้ โดยใน การเขียนรายงานนั้น ควรใชภ้ าษาท่อี ่านงา่ ย ชัดเจน กระชับ ตรงไปตรงมา รวมทัง้ จดั ทำคู่มอื การ ใช้งานซ่งึ ประกอบดว้ ยรายละเอยี ด ดงั น้ี 1. ชอื่ โครงงาน ให้เขียนเปน็ ประโยคบอกเล่ามที ั้งตัวแปรตน้ และตัว แปรตามอยู่ในประโยคเดยี วกัน โดยใช้ คำเช่อื มให้เหมาะสม ชือ่ เรื่องที่ดตี ้อง นำไปกำหนดสมมุติฐานได้ 2. ผ้ทู ำโครงงาน เขยี นชื่อผู้ที่ เป็นคนต้นคิดในการทำโครงงานก่อนแล้ว ตามดว้ ยผรู้ ว่ มงานคนอนื่ ๆ 3. ชอ่ื ครทู ีป่ รกึ ษา อาจมีคนเดยี ว ภาพ : ช่อื เรอื่ งทด่ี ีตอ้ งนำไปกำหนดสมมุตฐิ านได้ หรอื หลายคนก็ไดต้ ้องมีบทบาท ในการ ใหค้ ำปรึกษา 4. ชือ่ โรงเรยี นทีส่ ังกัด ควรระบุช่อื โรงเรยี น อำเภอ จังหวดั รหัสไปรษณีย์ พ.ศ. ทีท่ ำ โครงงานเพ่ือในการอา้ งองิ 5. บทคดั ย่อ เปน็ การเขียนเก่ยี วกับโครงงานอย่างย่อๆ ประกอบด้วย วัตถปุ ระสงค์ ข้ันตอน วธิ ีศึกษาและสรุปผลการศกึ ษา โดยทวั่ ไปมีความยาวไมเ่ กินคร่งึ หน้า 6. กติ ติกรรมประกาศ (คำขอบคุณ) ควรกล่าวคำขอบคณุ บุคลากรหรอื หนว่ ยงานต่างๆ ท่ีมีสว่ นชว่ ยใหโ้ ครงงานนสี้ ำเร็จ 7. หลกั การและเหตุผลทีม่ าของโครงงาน เขียนเก่ียวกับหลักการ เหตุผล ทมี่ าของโครงงาน นนั้ ให้เหน็ เด่นชดั ตลอดจนการทบทวนเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง หากโครงงานท่ีทำขึ้นไดแ้ นวคดิ มาจาก ผอู้ ่ืนต้องอา้ งองิ บคุ คลนน้ั ๆ ไว้ดว้ ย 8. วตั ถปุ ระสงค์ ระบุวตั ถุประสงคข์ องโครงงานนน้ั ๆ วา่ มวี ตั ถุประสงคอ์ ะไรบ้าง ภาพ : การจัดทำโครงงานของนักเรยี น
17 9. สมมตุ ฐิ านการศกึ ษา (ถ้ามี) เป็นการคาดคะเนคำตอบของปัญหาหนึ่งๆ ท่ีเรายังไม่รู้ ลว่ งหนา้ โดยอาศยั การสงั เกต การลงความเห็น ความรแู้ ละประสบการณ์เดมิ เป็นพ้นื ฐานให้ เขยี นเปน็ ประโยคบอกเลา่ ท่ีมที ง้ั ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม และสามารถบอกแนวทางในการวาง แผนการทดลองเพ่อื ตรวจสอบได้ 10. วธิ ศี กึ ษา อาจแยกเป็น 2 ข้อยอ่ ย คือ 1. วัสดอุ ุปกรณแ์ ละแหลง่ ข้อมูล 2. วิธีดำเนนิ การศึกษา อธิบายข้ันตอนการดำเนนิ งานโดยละเอียด หากมีหลาย ขนั้ ตอน ให้ระว่าแตล่ ะข้ันตอ้ งการศกึ ษาอะไร มวี ิธีศึกษาในขนั้ น้ันอยา่ งไร เขยี นใหไ้ ด้ ใจความตอ่ เน่อื ง ชัดเจน กะทดั รัด อา่ นแล้วเขา้ ใจงา่ ยไม่วกวน 11. ผลการศึกษาค้นคว้า เขียนใหส้ อดคล้องกับขอ้ 10 เม่ือทดลอง สงั เกต ผลการ ทดลอง เกบ็ รวบรวมข้อมลู ไว้ใหช้ ัดเจนเพอ่ื นำข้อมูลมาวิเคราะหผ์ ลต่อไปการบันทกึ ผลท่ีดีควร ออกแบเปน็ ตารางหรอื ใช้รูปภาพประกอบ 12. อภิปรายผลการศกึ ษาและข้อเสนอแนะ เป็นการอภิปรายสรปุ ผลท่ไี ด้จากการทำ โครงงาน ถา้ มีการตั้งสมมุตฐิ านควรระบดุ ้วยว่าข้อมูลที่ไดส้ นบั สนนุ หรือคัดคา้ นสมมตุ ฐิ านท่ีตงั้ ไว้ หรือยังสรุปไมไ่ ด้ นอกจากน้ยี งั กลา่ วถึงการนำผลการศกึ ษาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการ ทำโครงงาน หรือข้อสังเกตท่สี ำคัญหรอื ข้อผิดพลาดบางประการทีเ่ กดิ ขน้ึ จากการทำโครงงานนี้ รวมทง้ั ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การปรับปรงุ แก้ไข หากจะมผี ศู้ ึกษาคน้ ควา้ ในเรอ่ื งทำนองน้ีต่อไปใน อนาคตด้วย 13. เอกสารอ้างอิง อา้ งถงึ หนังสือ หรอื เอกสารต่างๆ ท่ผี ูท้ ำโครงงานใช้คน้ คว้าหรือ อ่านเพ่ือศึกษาข้อมลู และรายละเอยี ดตา่ งๆ ทีน่ ำมาใช้ประโยชน์ในการทำโครงงานน้ี ภาพ : ผทู้ ำโครงงานต้องค้นควา้ ศกึ ษาข้อมูลจากหนงั สอื หรอื แหล่งข้อมลู งต่างๆ
18 ใบงานที่ 2 เรอื่ ง การเขียนรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นออกแบบผังกราฟกิ เรือ่ ง การเขียนรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ และวาดภาพประกอบใหส้ วยงาม พรอ้ มสรุปเนอื้ หา
19 ใบความรู้ที่ 3 เรอื่ ง การนำเสนอและแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์ การนำเสนอและแสดงโครงงานคอมพวิ เตอร์ การนำเสนอและแสดงโครงงาน เปน็ ขัน้ ตอนสดุ ท้ายหลังจากการพัฒนาโครงงานเสรจ็ เรียบรอ้ ยตามเปา้ หมายและวัตถปุ ระสงคท์ ่ีไดต้ งั้ ไว้ โดยเปน็ การนำเสนอรายงานสรุปผลการ ดำเนนิ การในการจัดทำโครงงาน และโปรแกรมท่ไี ดพ้ ัฒนาขึน้ มาใหก้ บั คณะกรรมการและผเู้ กีย่ วข้อง ของโครงงานนนั้ ๆ เพอ่ื แสดงออกถึงผลติ ผลทางความคดิ ความพยายามในการทำงานท่ผี ทู้ ำ โครงงานไดท้ ่มุ เท และเป็นวธิ ที ำใหผ้ ูอ้ ่นื ไดร้ บั รู้และเข้าใจถึงผลงานนน้ั การเสนอผลงานมคี วามสำคญั มากเพราะเป็นการเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดน้ ำผลงานของ ตนมาแสดงและอธิบายใหผ้ ูอ้ ื่นไดร้ ับฟงั แนวเสนอโครงงานมีหัวขอ้ ดังนี้ 1. ชอ่ื โครงงาน 2. ชื่อผูจ้ ดั ทำโครงงาน 3. ชอื่ คุณครูท่ปี รึกษาโครงงาน 4. ทม่ี าและความสำคญั ของโครงงาน 5. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 6. สมมตุ ิฐาน (ถา้ ม)ี 7. วธิ ีการดำเนินการ 8. ผลการศกึ ษาค้นคว้า 9. สรปุ ผลการศึกษาค้นคว้า 10. ขอ้ เสนอแนะ วิธนี ำเสนอโครงงาน การรายงานปากเปล่าประกอบการสาธิต เป็นการแสดงผลงานตอ่ เพอ่ื นนักเรียน มีการ สาธติ ประกอบ และมกี ารตอบข้อซกั ถามขอ้ สงสยั โดยรายงานใหค้ รอบคลุมประเดน็ สำคัญ ดงั นี้ 1. ชือ่ โครงงาน ช่ือผ้จู ดั ทำ และช่ือที่ปรกึ ษา 2. คำอธิบายยอ่ ๆ ถงึ เหตจุ ูงใจในการทำโครงงานและความสำคัญของโครงงาน 3. วิธีดำเนนิ การ โดยเลอื กเฉพาะขน้ั ตอนทเ่ี ด่นและสำคัญ 4. การสาธติ เพอ่ื แสดงผลงานท่ไี ดจ้ ากการทดลอง 5. ผลการสงั เกต และข้อมูลเด่นๆ ทีไ่ ดจ้ ากการทำโครงงาน ภาพ : นักเรียนรายงานปากเปล่าตอ่ เพอื่ นนักเรยี น
20 การแสดงผลงานโครงงาน การแสดงผลงานโครงงานสามารถจดั ทำได้หลายลักษณะ ดังนี้ - การแสดงในรูปแบบของการอภปิ ราย หรอื รายงานปากเปล่า - การแสดงในรปู แบบของเอกสารหรอื จัดทำเปน็ ส่งิ พิมพ์ตามหัวข้อท่ีกำหนด - การแสดงในรูปแบบของการจดั นิทรรศการ การทำแผงโครงงาน ไมว่ ่าการแสดงผลงานจะอยใู่ นรูปแบบใด นักเรยี นจะตอ้ งเตรยี มการเพอ่ื นำเสนอเป็น 2 สว่ น ดังนี้ 1. การจดั ทำแผงเพ่อื การนำเสนอผลงานโครงงาน การจดั ทำแผงโครงงานนั้นตวั แผง อาจทำด้วยไม้อัด แผน่ พลาสตกิ ทำบอรด์ กระดาษแขง็ หรอื กระดาษกล่องขนาดใหญ่ โดยแสดง ในงานในโรงเรยี น เชน่ งานวันวิชาการ วนั สัปดาหว์ ิทยาศาสตร์ งานศลิ ปหตั ถกรรม หรอื วนั สำคัญอ่นื ๆ พร้อมกับให้มีการประเมนิ ผลงานตามสภาพจริง ซ่ึงอาจประเมนิ โดยตนเอง เพ่อื น และคณะครู การทำแผงสำหรบั แสดงโครงงาน แผงโครงงานมาตรฐาน มีขนาดความกว้างยาว ดงั นี้ - แผน่ ก ขนาด 60 เซนตเิ มตร 60 เซนติเมตร - แผ่น ข ขนาด 60 เซนติเมตร 120 เซนตเิ มตร - แผน่ ค ขนาด 60 เซนตเิ มตร 60 เซนติเมตร ภาพกระดาษเม่อื นำมาต้งั แสดง
21 การจดั ทำแผงโครงงาน 1. จัดทำโปสเตอร์เพ่ือตดิ แผงโครงงานเน้นข้อมูลท่สี ำคญั ใชว้ ธิ ีสอ่ื ความหมายดว้ ยกราฟ รปู ภาพ แผนภมู ิ หรือตาราง ใชข้ ้อความสั้นๆ อ่านเข้าใจงา่ ยแตช่ ดั เจน ขนาดตวั อักษรสามารถ อ่านได้ในระยะ 2 เมตร ภายในแผงโครงงานประกอบด้วยหวั ข้อต่างๆ ตามที่กำหนด และควร ตกแตง่ ให้สวยงาม เพ่อื ดึงดูดความสนใจของผ้ชู ม 2. ควรมอี ุปกรณแ์ ละผลการทดลองที่เป็นของจริงหรือชน้ิ งานสำหรับแสดงประกอบ หน้าแผงโครงงาน แตต่ อ้ งระมดั ระวังไม่ใหบ้ ังข้อความบนแผงโครงงาน 3. ตรวจสอบความถูกต้องของทุกสงิ่ ทุกอยา่ งทแ่ี สดง เชน่ การสะกดคำ การเขียน อธิบายหลกั การ ถา้ เป็นส่งิ ประดิษฐ์ตอ้ งอย่ใู นสภาพท่ีทำงานไดส้ มบรู ณ์ 4. มคี วามเหมาะสม และปลอดภยั กบั เนอ้ื ทท่ี จี่ ดั แสดง เชน่ ถ้าลมแรงควรยึดแผง โครงงานใหม้ ั่นคง เพราะอาจลม้ ทับอุปกรณด์ ้านหน้าเกดิ ความเสียหายได้
22 2. การรายงานโครงงานด้วยวาจา (หนา้ แผงโครงงาน) ในการแสดงผลงานจะตอ้ ง อธิบาย หรอื รายงานปากเปลา่ หรือตอบคำถามตา่ งๆ ตอ่ ผ้เู ข้าชมหรอื ต่อกรรมการตดั สินโครงงาน มขี ้อควรคำนึงต่อไปน้ี 1. ทำความเข้าใจเก่ยี วกบั เรื่องทจ่ี ะอธิบายเป็นอยา่ งดี 2. ความเหมาะสมของภาษาทีใ่ ช้กับระดับของผ้ฟู ัง ชัดเจน เขา้ ใจง่าย 3. ควรรายงานอย่างตรงไปตรงมา ไมว่ กวนอ้อมคอ้ ม 4. หลีกเลย่ี งการอา่ นรายงานใหผ้ ชู้ มฟงั แตอ่ าจจดหวั ขอ้ สำคัญๆ เพอื่ การรายงานเป็นไป ตามขน้ั ตอน 5. อย่าพูดรายงานแบบทอ่ งจำรายงาน เพราะจะทำให้ไมน่ า่ สนใจและไม่เป็นธรรมชาติ 6. ขณะทรี่ ายงานนน้ั ควรมองผู้ฟัง 7. เตรียมตวั ตอบคำถามเก่ียวกบั เรอ่ื งนัน้ ๆใหพ้ รอ้ มท่ีสุด 8. เวลาตอบคำถามให้ตอบตรงไปตรงมาในสง่ิ ทถ่ี าม หากตดิ ขัดในการอธบิ ายควรยอมรับ โดยดี อย่ากลบเกลือ่ นหรือหลกี เล่ยี งเป็นอย่างอื่น 9. ควรรายงานให้เสร็จในระยะเวลาท่ีกำหนด 10. ควรใชส้ อ่ื ประเภทโสตทศั นปู กรณ์ประกอบการรายงาน ภาพ : การรายงานโครงงานด้วยวาจา (หนา้ แผงโครงงาน)
23 ใบงานท่ี 3 เรื่อง การสืบคน้ ตวั อย่างการทำโครงงานคอมพวิ เตอร์ คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนสืบคน้ ตวั อย่างการทำโครงงานคอมพวิ เตอร์จากแหล่งข้อมูล สารสนเทศมา 2 โครงงาน ระบุรายละเอยี ดตามที่กำหนดให้ (1 ขอ้ 5 คะแนน) 1. ช่ือโครงงาน _______________________________________________________ 2. รายละเอียดของโครงงาน_______________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 3. ประเภทของโครงงาน _________________________________________________ 1. ชื่อโครงงาน _______________________________________________________ 2. รายละเอยี ดของโครงงาน ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 3. ประเภทของโครงงาน _________________________________________________
24 แบบทดสอบหลงั เรยี น เล่มที่ 2 เรือ่ ง การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ คำชี้แจง ทำเครอื่ งหมาย ทับตวั อักษร ก ข ค หรอื ง ตรงกับอักษรทีถ่ ูกท่สี ดุ 1. ขน้ั ตอนแรกของการทำโครงงาน คอื ข้อใด ก. จดั ทำเค้าโครงของโครงงาน ข. คดั เลือกหวั ข้อโครงงานทสี่ นใจ ค. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ง. ศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งขอ้ มลู 2. ข้อใดคอื ข้ันตอนสุดท้ายสุดของการจัดทำโครงงาน ก. การเขียนรายงาน ข. จดั ทำเคา้ โครงของโครงงาน ค. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ง. ศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งขอ้ มลู 3. ขอ้ ใดไม่ใช่ประเดน็ สำคัญในการการจัดแสดงและการนำเสนอผลงาน ก. ผลงานทเี่ กิดขึน้ จากการทำโครงงาน ข. ผลงานทุกชนิ้ ที่ทดลองไม่สำเร็จ ค. ชอ่ื โครงงาน ชื่อผทู้ ำโครงงาน ชื่อทีป่ รกึ ษา ง. วิธีการดำเนนิ การโดยเลือกเฉพาะขัน้ ตอนทีเ่ ด่นและสำคัญ 4. โครงงานคอมพิวเตอร์และการจดั งานแสดงโครงงานจะมีคณุ คา่ ตอ่ การฝกึ ฝน ใหน้ กั เรียนมีทกั ษะอะไรบา้ ง ก. ความรับผดิ ชอบ ข. ความรู้ ความชำนาญ ค. การบรู ณาการในวิชาตา่ งๆ ง. เสรมิ สร้างประสทิ ธภิ าพทางดา้ นเรยี น 5. ท่ีมาและความสำคญั เปน็ การเขียนอธบิ ายอะไร ก. ชือ่ ส่ิงท่เี ราทำ ข. การศกึ ษาค้นคว้าตา่ งๆ ค. ระยะเวลาตา่ งๆ ในการทำงาน ง. เหตใุ ดจงึ เลอื กทำโครงงานนี้
25 6. บทบาทของหวั หนา้ พัฒนาโครงงาน ข้อใดไมถ่ ูกต้อง ก. เป็นผู้คดิ หัวขอ้ โครงงาน ข. โน้มนา้ วให้ผ้รู ว่ มทีมชว่ ยกันทำงานได้ ค. แบ่งงานตามความถนัดและความสนใจของสมาชิก ง. ควบคมุ ดแู ลการทำงานใหเ้ ปน็ ไปตามแผนทกี่ ำหนด 7. ข้อใดไมใ่ ชข่ ้นั ตอนของการลงมือพัฒนาโครงงาน ก. ประเมินผลการทำงานเปน็ ระยะ ข. ไปศึกษาดูงานแหลง่ เรียนรูท้ ีเ่ กีย่ วข้อง ค. จดั ประชุมระดมความคดิ กบั ผรู้ ว่ มพัฒนา ง. บันทึกในรายงานความก้าวหน้าอย่างสมำ่ เสมอ 8. นนท์ขอพบอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์เพ่ือขอคำแนะนำการทำโครงงานพัฒนา โปรแกรมสอนเร่อื งระบบสุรยิ ะ อยู่ในขั้นตอนใดของการทำโครงงาน ก. ขัน้ การค้นคว้าจากเอกสาร ข. ขนั้ การลงมือทำโครงงาน ค. ข้นั การคัดเลอื กหัวข้อโครงงาน ง. ขนั้ การจัดทำข้อเสนอโครงงาน 9. ขอ้ ใดเป็นความสำคญั อนั ดบั แรกของการจดั ทำขอ้ เสนอโครงงาน ก. ทำให้ทราบประโยชน์ของโครงงาน ข. เพื่อเป็นการเลอื กเร่ืองทีจ่ ะทำโครงงาน ค. เป็นการศกึ ษาความเป็นไปไดข้ องการทำโครงงาน ง. ไดก้ รอบแนวคดิ และแผนการพัฒนาโครงงานทกุ ขนั้ ตอน 10. เค้าโครงขอ้ เสนอโครงงาน ไม่ตอ้ งมีหวั ขอ้ ใดต่อไปน้ี ก. บทคัดย่อ ข. เอกสารอ้างอิง ค. แผนปฏิบัติงาน ง. หลกั การและทฤษฎี
26 ภาคผนวก
27 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรียน ขอ้ คำตอบ 1. ข. 2. ง. 3. ก. 4. ค. 5. ข. 6. ค. 7. ก. 8. ก. 9. ข. 10. ง.
28 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ คำตอบ 1. ก. 2. ค. 3. ข. 4. ข. 5. ง. 6. ก. 7. ข. 8. ง. 9. ง. 10. ค.
29 เฉลยใบงานที่ 1 เรอื่ ง การคดั เลือกหวั ขอ้ โครงงานคอมพิวเตอร์ คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามท่กี ำหนดให้ถูกตอ้ ง 1. แนวความคดิ ในการเลือกหวั ขอ้ เรอ่ื งเพ่ือทำโครงงานอาจไดม้ าจาก อะไรบ้าง _______1_._จ_า_ก_ก__า_รอ_่า_น__ห_น_ัง_ส_ือ_ต_า่ _ง_ๆ__เช_น่__ต_ำ_ร_า__ห_น_ัง_ส_อื _พ_มิ_พ__์ ว_า_ร_ส_า_ร_ฯ__________________ _______2_._จ_า_ก_ก__า_รไ_ป_เ_ย_่ีย_ม_ช_ม_ส_ถ__าน__ศ_ึก_ษ_า_ต_่า_ง_ๆ_เ_ช_น่ _อ__ุท_ย_า_น__ส_ว_น_ส_ัต_ว_์ _พ_พิ _ิธ_ภ_ัณ__ฑ_์ _ห_น_ว่ _ย______ __ง_าน__ว_จิ _ยั _ห_อ้ _ง_ป_ฏ_บิ_ตั__ิก_า_ร_โ_ร_ง_งา_น_อ__ุส_า_ห_ก_ร_ร_ม______________________________________ _______3_._จ_า_ก_ก__า_รฟ__งั _บ_ร_ร_ย_า_ย_ท_า_ง_ว_ิช_าก__าร_ก_า_ร_ฟ__งั แ_ล__ะ_ช_ม_ร_า_ย_ก_า_ร_ท_า_ง_วทิ__ย_ุ แ_ล__ะ_โ_ท_ร_ท_ัศ_น__์ ____ _______4_._ก__ิจ_ก_ร_ร_ม_ก_า_ร_เร_ยี _น_ก_า_ร_ส_อ_น__ใน__โร_ง_เร_ีย_น___________________________________ _______5_._จ_า_ก_ง_า_น_อ__ด_เิ ร_ก_ข_อ_ง_น_กั__เร_ยี _น_เ_อ_ง_______________________________________ ______________________________________________________________________ _2_. _ใ_น_ก_า_ร_ต_ัด_ส__นิ _ใจ_เ_ล_ือ_ก_ห__ัวข__อ้ _ท_ี่จ_ะ_น_ำ_ม_า_พ_ัฒ__น_า_โ_ค_ร_งง_า_น_ค__อ_ม_พ_วิ _เ_ต_อ_ร_์ ค_ว_ร_พ__จิ _า_รณ__า_อ_ง_ค_ป์ _ร_ะ_ก_อ_บ_ สำคญั คอื _______1_. _เล_ือ_ก__อ_ย_่า_งม__คี _ว_า_ม_ค_ดิ _ร_ิเร_ิม่_ส__ร้า_ง_ส_ร_ร_ค_์_ศ_ึก_ษ_า_ค_น้__ค_ว_้า_ต_า_ม_ค_ว_า_ม_ถ_น_ัด_แ_ล_ะ_ค_ำ_น__ึงค_ว_า_ม____ _พ_ร_้อ_ม_ค_ว_า_ม_ส__น_ใจ_ข__อ_งต__น_เอ_ง_ห__รอื__ข_อ_ง_ก_ล_ุ่ม________________________________________ _______2_. _เล_ือ_ก__โค_ร_ง_ง_า_น_ท_ม่ี_ีค__ุณ_ค_่า__เป_็น__ป_ญั _ห__าใ_ห_ม__ๆ่ _ต_ร_ง_ก_บั_ค__ว_าม__ส_า_ม_า_รถ__แ_ล_ะ_ค_ว_า_ม_ร_ูข้ _อ_ง_____ _ต_น_เ_อ_ง_________________________________________________________________ _______3_. _ค_ำ_น_งึ _ถ_ึง_ค_ว_า_ม_เห__ม_า_ะ_ส_ม_ใ_น_เร_่ือ_ง__ค_ว_า_ม_ป_ล_อ_ด_ภ__ัย_เ_ว_ล_า_ง_บ_ป__ร_ะ_ม_า_ณ__แ_ล_ะ_ก_ำ_ล_ัง_ข_อ_ง_ต_น__ _______4_. _ค_ำ_น_ึง_ถ_ึง_ส_ภ_า_พ_แ_ว_ด_ล_อ้_ม__ท_เี่ อ__ือ้ _อ_ำ_น_ว_ย_ต_อ่ _ก_า_ร_ท_ำ_โ_ค_ร_ง_งา_น_______________________ _______5_. _ส_า_ม_า_ร_ถ_ว_า_งแ_ผ__น_ก_า_ร_ด_ำ_เน_นิ__ก_า_ร_ต_า_ม_ข_้นั _ต_อ_น_ต_่า_ง_ๆ_ไ_ว_้ล_ว่ _ง_ห_น_้า__เห__น็ _ล_ู่ท_า_ง_ท_ีจ่ _ะ_ท_ำ_ไ_ด_้ ___ _ส_ำ_เร_จ็__________________________________________________________________ 3. การพิจารณาปัญหาที่จะศกึ ษา อาศัยเกณฑ์การพิจารณาจากสงิ่ ใดในการนำมาพัฒนา โครงงานคอมพวิ เตอร์ _______1_._เ_ล_อื _ก_ป_ัญ__ห_า_โ_ด_ย_ค_ำ_น_ึง_ถ_ึง_ค_ว_า_ม_ส_น_ใ_จ_ข_อ_ง_ต_น_เ_อ_ง_เป_็น__ท_่ีต_ั้ง_เ_พ_ร_า_ะ_ค_ว_า_ม_ส_น_ใ_จ_เ_ป_น็ ______ _แ__รง_จ_ูง_ใ_จ_ใ_ห_ผ้ _ทู้ _ำ_ท_ำ_โ_ค_ร_ง_งา_น__ได_้ส_ำ_เ_ร_็จ___________________________________________ _______2_._เ_ล_ือ_ก_ป_ัญ__ห_า_ท_ีต่ _ร_ง_ก_ับ_ค_ว_า_ม_ส_า_ม_า_ร_ถ_แ_ล__ะ_ระ__ด_ับ_ค_ว_า_ม_ร_ขู้ _อ_ง_ต_น_เ_อ_ง_ก_ล_่า_ว_ค_ือ__ค_ว_ร_จ_ะ____ _เ_ล_ือ_ก_ป_ัญ__ห_า_ท_ีต่_น__เอ_ง_ม_พี__ืน้ _ฐ_า_น_ค_ว_า_ม_ร_ู้ _เ_พ_ร_า_ะ_ก_า_ร_ม_พี _้ืน_ฐ_า_น_ค_ว_า_ม_ร_ู้_จ_ะ_ท_ำ_ใ_ห_้ม_ีแ_น_ว_ท__าง_ท__่ีจ_ะ_เส_า_ะ__ _แ__ส_ว_งห__าค__ว_าม__รู้_เพ_ิม่_เ_ต_ิม__เ_พ_่ือ_ใ_ห_้ก_า_ร_ท_ำ_โค__ร_งง_า_น_น_น้ั__ส_ำ_เร_็จ_ล_ลุ_่ว_ง_ไ_ด_อ้ _ย_า่ _ง_ด_ีแ_ล_ะ_ร_ว_ด_เ_ร_ว็ _ย_ิ่งข__้นึ _____ _______3_._เ_ล_อื _ก_ป_ัญ__ห_า_ท_ี่ม_คี_ุณ__ค_า่ __เป_น็__ป_ญั _ห_า_ใ_ห_ม_่_ๆ__เพ__อื่ _ผ_ล_ก_า_ร_ท_ำ_โ_ค_ร_งง_า_น_ท__ีไ่ ด_้จ_ะ_เ_ป_น็_ก__าร_____ _เ_พ_ิ่ม_พ__นู _ค_ว_า_ม_ร_ู้ใ_ห_ม_่ _ๆ_อ_ัน__จ_ะ_น_ำ_ไป__เส_ร_ิม_ส_ร_้า_ง_ท_ฤ_ษ__ฎ_ี อ__กี _ท_ั้ง_น_ำ_ไ_ป_ใช_ใ้_ห_้เ_ก_ิด_ป_ร_ะ_โ_ย_ช_น_์ใ_น_ท_า_ง______ _ป__ฏ_บิ _ัต_ิไ_ด_้ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________________
30 4. ลักษณะของปัญหาท่ดี ใี นการนำมาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรค์ ือ ______1_._เ_ป_น็ _เ_ร_อื่ _ง_ท_ีม่ _คี _ว_า_ม_ส_ำ_ค_ัญ__ม__ีป_ร_ะ_โย__ช_น_์ ท__ำ_ให_เ้_ก_ดิ _ค_ว_า_ม_ร_ใู้_ห_ม_่_ๆ__แ_ล_ะ_น_ำ_ไ_ป_ใช__้ป_ร_บั _ป_ร_งุ ___ _แ_ก_ไ้ _ข_ป_ัญ_ห__าต_่า_ง__ๆ__ไ_ด_้ _พ_ร_้อ_ม_ท_ั้ง_เ_ป_น็ _ก_า_ร_ส_ง่ _เ_ส_ริม__ค_ว_า_ม_ค_ดิ _ส_ร_า้ _ง_ส_ร_ร_ค_์อ_กี _ด_ว้ _ย________________ ______2_._เ_ป_็น_ป__ญั _ห_า_ท_สี่__าม__าร_ถ_ว_า_ง_แ_ผ_น_ด__ำเ_น_นิ_ง_า_น_ต_า_ม__ข_นั้ _ต_อ้ _น_ต_่า_ง__ๆ_ล_ว่_ง_ห_น__้า_ได_้_เ_ห_น็ _ล_ู่ท_า_ง_ท_ี่ __ _จ_ะ_ท_ำ_ใ_ห_ส้ _ำ_เร_็จ____________________________________________________________ ______3_._เ_ป_็น_ป__ญั _ห_า_ท_ไ่ี_ม_่เ_ก_ิน_ก_ำ_ล_ัง_ค_ว_า_ม_ส_า_ม_า_ร_ถ_ข_อ_ง_ผ_้ทู_ำ_โ_ค_ร_ง_ง_า_น_ท_ี่จ_ะ_ท_ำ_ใ_ห_้ส_ำ_เ_ร_็จ_แ_ม_้จ__ะ_ม_ี ___ _อ_ุป_ส_ร_ร_ค_บ_า_ง_อ_ย_่า_ง_ก_็ส_า_ม_า_ร_ถ_แ_ก_ไ้ _ข_ไ_ด_้ ___________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ 5. ขอ้ ควรระวังในการเลอื กหัวขอ้ ปญั หาในการนำมาพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์คอื ______1_. _อ_ย_่า_เล_ือ__ก_ป_ญั _ห__าท__ี่ให__ญ_โ่ _ต_เก__นิ _ไป__ห_ร_ือ_ป__ัญ_ห_า_ท__กี่ _ว_า้ ง_ไ_ม_่ม_ีข_อ_บ__เข_ต__ซ_ึง่ _ผ_ู้ท_ำ_โ_ค_ร_ง_ง_าน__อ_า_จ__ ท_ำ_ไ_ม_่ส_ำ_เร_จ็_ภ__า_ย_ใน_เ_ว_ล_า_อ_ัน_จ_ำ_ก_ดั________________________________________________ ______2_. _อ_ย_่า_เล_ือ__ก_ป_ัญ_ห__าท__ี่ห_า_ข_้อ_ย_ตุ _ิไ_ม_่ไ_ด_้ _______________________________________ ______3_. _อ_ย_่า_เล_ือ__ก_ป_ัญ_ห__าท__ีไ่ ม__่ส_า_ม_า_รถ__ห_า_ข_อ้ _ม_ลู _ม_า_ท_ด_ส_อ__บ_ได__้ _________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________ ______________________________________________________________________
31 เฉลยใบงานที่ 2 เรือ่ ง การเขยี นรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนออกแบบผังกราฟิก เรอื่ ง การเขยี นรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ และวาดภาพประกอบให้สวยงาม พรอ้ มสรปุ เนอื้ หา พจิ ารณาจากคำตอบนกั เรียน
32 เฉลยใบงานท่ี 3 เรือ่ ง การสืบคน้ ตวั อยา่ งการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นสืบค้นตัวอย่างการทำโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ากแหลง่ ขอ้ มูล สารสนเทศมา 2 โครงงาน ระบรุ ายละเอยี ดตามท่กี ำหนดให้ (1 ขอ้ 5 คะแนน) 1. ชือ่ โครงงาน _______________________________________________________ 2. รายละเอยี ดของโครงงาน_______________________________________________ ____________________________________________________________________ __________________________พ_จิ _า_ร_ณ__า_จ_า_ก_ค__ำ_ต_อ_บ_น__กั _เ_ร_ีย_น____________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 3. ประเภทของโครงงาน _________________________________________________ 1. ช่อื โครงงาน _______________________________________________________ 2. รายละเอยี ดของโครงงาน ____________________________พ_ิจ__า_ร_ณ_า_จ__า_ก_ค_ำ_ต_อ_บ__น_กั _เ_ร_ยี _น__________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 3. ประเภทของโครงงาน _________________________________________________
33 บรรณานกุ รม กมล เวยี สวุ รรณ และคณะ. (2556). หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6. กรุงเทพฯ : คอมแพคท์พร้ินท.์ กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั . กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2554). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกดั . ทวีศักดิ์ จริงกจิ และคณะ. (2555). คมู่ อื การสอนการงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษา ปีท่ี 6. กรงุ เทพฯ : วฒั นาพานชิ . ธันยะวรี ์ คา้ ขาย.ความหมายของหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์(e-Book) บทเรียนออนไลน์ เรือ่ งการสร้าง e-Book ดว้ ย Flip Album 6.0 Pro. สบื ค้นเมื่อ 26 สงิ หาคม 2560, เข้าถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/site/krununa1007/1-2-rucak-porkaerm- flip-albumพมิ พันธ์ เดชะคุปต์ และคณะ. สอนเด็กทำโครงงาน สอนอาจารย์ทำวจิ ัย ปฏิบตั ิการในช้ันเรยี น. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, 2559. พีระพงษ์ กลุ พิศาล และคณะ. (2556). หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6. กรงุ เทพฯ : กรพัฒนายิ่ง. ภาสกร เรอื งรอง. (2557). การพัฒนาอบี ุ๊คบนคอมพิวเตอรืแบบพกพา & e-Book บน Tablet PC. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ พรทิชา กรุงเทพ. ศรรวรศิ า เมฆไพบลู ย์. (2559). การเขียนรายงานและโครงงาน. กรุงเทพฯ : เนชน่ั บคุ๊ ส.์
34
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: