แฟม้ ประกอบการประเมนิ ผลงานท่ีเกิดข้นึ จากการปฏิบตั ิหน้าท่ี ด้านท่ี ๓ ด้านผลการปฏิบัติงาน สายการสอน ๒. ผลงาน ทางวชิ าการ วา่ ที่ ร.ต.ทนงศักด์ิ ดีรตั น์ ตาแหน่งครู โรงเรยี นบา้ นลานารวย สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต ๓ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ด้านท่ี ๓ ผลการปฏิบตั ิงาน สว่ นท่ี ๒ ผลงานทางวิชาการ 1. คุณภาพของงานทางวิชาการ 2. ประโยชน์ของผลงานทางวิชาการ
ด้านท่ี ๓ ผลการปฏิบัติงาน ส่วนท่ี ๒ ผลงานทางวิชาการ ๑. คณุ ภาพของผลงานทางวชิ าการ
ดา้ นท่ี ๓ ผลการปฏิบตั ิงาน ส่วนท่ี ๒ ผลงานทางวิชาการ ๒. ประโยชน์ของผลงานทางวชิ าการ
รายงานการศึกษา ค้นค้า หรือ ผลการวิจัยในช้ันเรียน หรือผลงาน ทางวิชาการในลกั ษณะอ่นื ที่มีจดุ มุงหมายในการแกปญหา ดานการเรียน ของผูเรียนและสอดคลองกับแผนการจัดการเรียนรู มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองคความรูตางๆ เพ่ือแกไขปญหาและนําไปสูการสรุปองค ความรูเพื่อพฒั นาผูเรียน มีเอกสารอา้ งองิ ดงั นี้ - รายงานการวิจยั ในชน้ั เรยี น - นวัตกรรม/สือ่ การสอน - เกียรติบัตรของนักเรียน - เกียรติบัตรของครูผู้สอน
รายงานการสงั เคราะห์ผลการแก้ปญั หาและพฒั นาผูเ้ รียน รายงานการสังเคราะหผ์ ลการแกป้ ญั หาและพฒั นาผเู้ รียน ปีการศึกษา 2562 วจิ ัยในชนั้ เรยี น เรอื่ ง “การจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะ จะสามารถแก้ปญั หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรือ่ ง สมการและ การแกส้ มการ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นบ้านลำโป่งเพชร ปกี ารศกึ ษา 2562” ปัญหาและขอบเขตของปัญหา ในการจดั การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ พบว่านักเรยี นมปี ัญหาการเรียน เร่ือง สมการและการแก้ สมการ ไม่ชำนาญกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ซึ่งผลจากการสำรวจของครู นกั เรยี นระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 จำนวนทัง้ หมด 19 คน ยงั ขาดทักษะการเรียนรู้ เร่อื งสมการและการแก้ สมการ ท้ังนเ้ี นอื่ งจากมีการฝกึ ฝนน้อย และขาดความมุง่ มัน่ ในการทำแบบฝึกหดั หากไมไ่ ดร้ ับการแก้ไขปัญหา นี้จะทำให้นักเรียนขาดพืน้ ฐานในการเรียนรูว้ ิชาคณิตศาสตร์ เรื่องสมการและการแก้สมการ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น อย่างมากในการเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์ ดังนั้นในการพัฒนาทักษะในคร้ังนี้ เป็นการวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ ของนกั เรยี นทผี่ า่ นการทดสอบทางการเรียนรู้ รูปแบบ เทคนิค วิธกี ารแก้ปัญหาหรือพฒั นา วธิ กี ารดำเนินการแก้ไขปญั หาและพฒั นา 1. กลมุ่ เป้าหมาย ไดแ้ ก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2562 จำนวน 19 คน 2. ตวั แปรท่ีศึกษา ตัวแปรตน้ คอื การจัดการเรียนการสอนใช้แบบฝึกทกั ษะคณิตศาสตร์ เร่ือง สมการและ การแก้สมการ ตัวแปรตาม คอื ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 3. วธิ ีการนำไปใช้ 3.1 แผนการจดั การเรียนรู้กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ จัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะ เร่ือง สมการและการแก้สมการ นำเอาแบบฝึกทกั ษะใช้เปน็ กจิ กรรมประกอบการสอนในเนอื้ หาวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ซึ่งประกอบดว้ ยแบบฝึกทกั ษะ คณิตศาสตร์ จำนวน 16 เล่ม 3.2 แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ เร่ือง สมการและการแกส้ มการ 4. เป็นแบบทดสอบทผ่ี วู้ ิจยั สร้างขึ้น เพื่อใช้ทดสอบวัดความสามารถ กอ่ นการทดลอง และ หลังการทดลอง เปน็ แบบทดสอบเลือกตอบชนดิ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ นกั เรียนทไี่ ด้รับการ เรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรือ่ ง สมการและการแก้สมการ มผี ลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ หลงั เรยี นสูงกว่ากอ่ นเรียน อยา่ งมนี ัยสำคัญทางสถิติท่ี ระดับ .01 5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ใช้การเก็บรวบรวมขอ้ มูลในสถานการณ์จริงในช้นั เรยี น โดยใช้แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ก่อนและหลังจัดการเรียนร้แู บบ Active Learning โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ เร่อื ง สมการและการแก้สมการ และสงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี นระหว่างจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 6. วิธกี ารวิเคราะหข์ ้อมูล 6.1 หาค่าเฉลีย่ 6.2 เปรยี บเทียบคะแนนความแตกต่างระหว่างกอ่ นใชแ้ ละหลังใช้แบบทดสอบ 7. สถติ ิท่ีใช้ ไดแ้ ก่ ค่าร้อยละ และค่าเฉล่ยี ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแกป้ ัญหาและพฒั นาอนาคต 1. กอ่ นนำแบบฝกึ ทักษะไปใชป้ ระกอบการสอน ผู้สอนควรศกึ ษารายละเอยี ดของทกุ กจิ กรรม ก่อนนำไปใช้ 2. แบบฝึกทกั ษะคณิตศาสตร์ เร่อื ง สมการและการแก้สมการ น้ี จะเกิดความสมบูรณ์ ครูผูส้ อนตอ้ งใช้ควบคู่ไปกบั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ีผวู้ จิ ัยจัดทำขึน้ จัดกจิ กรรมให้ครบทุกขนั้ ตอน ต้องตรวจ แบบฝกึ อย่างเปน็ ปัจจบุ นั ให้ผเู้ รยี นรผู้ ลทันที พรอ้ มกับเฉลยคำตอบทีถ่ กู ต้องให้ผู้เรียนได้รู้ทกุ ครัง้ ปีการศึกษา 2563 วิจยั ในช้นั เรยี น เรอ่ื ง “การจัดการเรียนรูแ้ บบ Active Learning โดยใชแ้ บบฝึก ทกั ษะ จะสามารถแกป้ ญั หาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นเร่ือง การบวก การลบ การคณู และการหารทศนิยม ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6” โรงเรยี นบา้ นลำนารวย ปีการศกึ ษา 2563 ปญั หาและขอบเขตของปญั หา จากการที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่ต้องใช้ความคิดมากกว่า บรรดาวชิ าอืน่ ทเี่ รียน ทำใหน้ กั เรยี นรู้สึกเบอ่ื หน่ายได้งา่ ย หลงั จากการสอน ครูได้ประเมินผล โดยการมอบหมายให้ทำแบบฝึกหัด ใบงาน และแบบทดสอบ พบว่านักเรียนบางคนไม่สามารถทำ แบบฝึกหัด ทำใบงาน และทำข้อสอบไดผ้ ่านเกณฑ์ท่ีกำหนด ซึ่งปัญหาดังกลา่ ว เกิดจากการที่นักเรียนบางคน เรียนรู้ไดช้ ้า และมีความสามารถในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน ข้าพเจ้า จึงได้หาวิธีการที่จะจูงใจให้นักเรียนมีความ สนใจและกระตุ้นให้นักเรยี นมีความกระตือรอื รน้ มากข้ึน มุ่งเน้นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียน ได้ฝึกทักษะการคิดคำนวณ โดยจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ โดยเรียนรู้จากง่ายไปหายาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้มีความสนใจที่จะนำเอา แบบฝึกทักษะ คณิตศาสตร์ มาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในเรือ่ ง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม กลุ่มสาระการ เรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นบา้ นลำนารวย เพื่อให้นักเรียนมีทักษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และมพี น้ื ฐานการเรยี นรู้ดีขึ้นต่อไป
รปู แบบ เทคนิค วิธกี ารแกป้ ัญหาหรือพัฒนา วธิ ีการดำเนนิ การแกไ้ ขปญั หาและพฒั นา 1. กล่มุ เป้าหมาย ไดแ้ ก่ นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปีการศกึ ษา 2563 จำนวน 16 คน 2. ตวั แปรทศี่ กึ ษา 2.1 ตัวแปรตน้ การจดั การเรียนรแู้ บบ Active Learning โดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะ คณิตศาสตร์ เรือ่ ง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม 2.2 ตัวแปรตาม ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ 3. วิธีการนำไปใช้ 3.1 แผนการจดั การเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ จดั การเรียนรู้ แบบ Active Learning โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม นำเอา แบบฝกึ ทกั ษะใช้เปน็ กจิ กรรมประกอบการสอนในเนือ้ หาวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ซึง่ ประกอบดว้ ยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 12 เลม่ 3.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ เร่ือง สมการและการแกส้ มการ 4. เปน็ แบบทดสอบทผี่ ู้วจิ ัยสรา้ งขนึ้ เพอ่ื ใช้ทดสอบวัดความสามารถ กอ่ นการ ทดลอง และหลงั การทดลอง เปน็ แบบทดสอบเลอื กตอบชนิด 4 ตวั เลือก จำนวน 30 ข้อ นกั เรยี นทีไ่ ดร้ ับ การเรียนร้แู บบ Active Learning โดยใชแ้ บบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ หลงั เรียนสงู กวา่ กอ่ นเรยี น อย่างมนี ยั สำคัญทาง สถติ ทิ รี่ ะดับ .01 5. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ใชก้ ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในสถานการณจ์ ริงในช้นั เรียน โดยใชแ้ บบทดสอบ วดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน กอ่ นและหลงั จดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะ เร่ือง การ บวก การลบ การคูณ และการหารทศนยิ ม และสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี นระหวา่ งจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน 6. วิธีการวเิ คราะห์ข้อมูล 6.1 หาคา่ เฉล่ยี 6.2 เปรียบเทยี บคะแนนความแตกต่างระหวา่ งกอ่ นใช้และหลังใช้ แบบทดสอบ 7. สถติ ิท่ีใช้ ได้แก่ ค่ารอ้ ยละ และค่าเฉล่ีย
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการแก้ปญั หาและพฒั นาอนาคต 1. ก่อนนำแบบฝกึ ทักษะไปใชป้ ระกอบการสอน ผ้สู อนควรศกึ ษารายละเอยี ดของทกุ กจิ กรรมกอ่ นนำไปใช้ 2. การจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝกึ ทักษะคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ความสมบูรณ์ครผู ู้สอนตอ้ งใชค้ วบคู่ไปกับแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ผ้วู ิจยั จดั ทำข้นึ จัดกิจกรรมใหค้ รบทกุ ข้ันตอน ตอ้ งตรวจแบบฝกึ อย่างเป็นปัจจบุ นั ให้ผเู้ รยี นรผู้ ลทนั ที พรอ้ มกบั เฉลยคำตอบท่ีถกู ต้องใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ูท้ กุ ครั้ง
รายงานการวจิ ยั ในชนั้ เรยี น ปีการศกึ ษา 2563
รายงานการวจิ ยั ในชนั้ เรยี น ปีการศกึ ษา 2562
นวตั กรรม/สือ่ การสอน
แฟม้ เกียรตบิ ตั รครู
แฟม้ เกียรตบิ ตั รนักเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: