Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย

การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย

Published by Naresuan University Archive, 2021-07-21 08:51:35

Description: Routine to Research

Keywords: R2R

Search

Read the Text Version

การกาหนดขนาดตวั อยา่ ง-สตู รคานวณ ประชากรที่มจี านวนนบั ไดไ้ มแ่ น่นอน มารยาท โยทองยศ และปราณีสวสั ดิสรรพ,์ ม.ป.ป.

การสมุ่ ตวั อยา่ ง 1. แบบไมอ่ งิ ทฤษฎคี วามน่าจะเป็ น (Non probability sampling) 1.1 การเลอื กแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 1.2 การเลอื กแบบบงั เอญิ (Accidental Sampling) 1.3 การเลอื กแบบโควตา (Quota Sampling). 1.4 การเลอื กแบบบอกต่อ (Snowball Sampling) 2. แบบองิ ทฤษฎคี วามน่าจะเป็ น (Probability sampling) 2.1 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบงา่ ย (Simple Random) คือ (1) วธิ กี ารจบั สลาก และ (2) วธิ ใี ชต้ ารางสมุ่ เลข (Random Numbers) 2.2 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบเป็นระบบ (Systematic Sampling) 2.3 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบแบง่ ชนั้ (Stratified Random Sampling) 2.4 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบยกกลมุ่ (Cluster Sampling) 2.5 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบหลายขน้ั ตอน (Multi Stage Sampling)

การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การ การเกบ็ จาก ตอ้ งทบทวนทฤษฎี แนวคิด และงานวิจัยท่ี สงั เกตการณ์ เอกสาร เก่ียวขอ้ งกบั ตวั แปรท่ีตอ้ งการจะสรา้ งเคร่ืองมอื เลอื กวธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลใหต้ รงตามความ การสารวจ การสนทนา ตอ้ งการและถูกตอ้ ง นาเคร่ืองมอื ท่ีสรา้ งข้นึ ไป อนื่ ๆ กล่มุ ทดลองใชน้ าผลท่ไี ดจ้ ากการทดลองใชม้ าวจิ ยั เพ่อื (แบบสอบถาม) ตรวจสอบคุณภาพของเคร่ืองมือ ปรับปรุง เคร่ืองมอื ใหม้ คี ุณภาพอยู่ในระดบั ท่ีน่าพอใจ การสมั ภาษณ์ การทดสอบ วิสาขา ภ่จู ินดา, 2562 การประชุม ระดมสมอง

เคร่อื งมอื การเกบ็ ขอ้ มูล ▪ 1. การสงั เกตการณ์ เช่น แบบบนั ทกึ ขอ้ มูล แบบตรวจสอบรายการ หรือแบบประเมินค่า ▪ 2. การสารวจ เชน่ แบบสอบถาม ▪ 3. การสมั ภาษณ์ เช่น แบบสมั ภาษณ์ ▪ 4. การประชมุ ระดมสมอง เช่น แบบบนั ทกึ ขอ้ มลู ▪ 5. การทดสอบ เช่น แบบทดสอบ หรือแบบบนั ทกึ ผลการทดสอบ/ทดลอง ▪ 6. การสนทนากลมุ่ เชน่ แบบบนั ทึกขอ้ มลู ▪ 6. การเกบ็ จากเอกสาร เช่น แบบบนั ทกึ ขอ้ มลู

การวิเคราะหแ์ ละ นาเสนอผลการศึกษา การพฒั นางานประจาสู่งานวิจยั ปภาณภณ ปภงั กรภรู นิ ท,์ 2564

การวิเคราะห์ ขอ้ มูล 56

การวิเคราะห์ ลกั ษณะของการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิง ขอ้ มูลเชิงคณุ ภาพ คุณภาพ Qualitative Data Analysis ▪ มเี ป้าหมายที่จะศึกษาในเชงิ คุณภาพ ซึ่งเป็ นสง่ิ ทีไ่ ม่สามารถวดั คา่ ออกมา เป็ นตวั เลขได้ เชน่ ความรสู้ ึก และความคดิ เป็ นตน้ แตเ่ ป็ นลักษณะการ บรรยาย ▪ เป็ นการวิเคราะหเ์ ชงิ บรรยายเป็ นขอ้ ความหรือเรื่องราวเก่ยี วกับเน้ ือหาท่ี ไดท้ าการเก็บรวบรวม ▪ เป็ นการวเิ คราะหเ์ น้ ือหา (Content Analysis) ▪ เป็ นการเล่าเรอื่ ง (Narration) ▪ เป็ นการบรรยายเปรียบเทียบ (Comparative Description) 57

การวิเคราะห์ ลกั ษณะของการวเิ คราะหข์ อ้ มูลเชงิ ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ ปริมาณ Quantitative Data Analysis ▪ เป็ นกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการรวบรวมขอ้ มูลและเงือ่ นไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง นามาประเมนิ เป็ นตวั เลขโดยใชห้ ลกั ตรรกวทิ ยา คณิตศาสตร์ และสถิติ เป็ นเคร่อื งมือเพอ่ื เป็ นเคร่ืองมอื แกป้ ัญหา เพอื่ การ ตดั สินใจในการปฏบิ ตั งิ าน ▪ เป็ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ที่เป็ นตวั เลข ▪ ใชส้ ถิตติ ่าง ๆ ในการวิเคราะห์ 58

การนาเสนอ ผลการศึกษา 59

การกาหนดเคา้ โครงเน้ ือหาสาหรบั การนาเสนอ การกาหนด ▪ สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคแ์ ละประเด็นที่จะศึกษาทุกประเด็น เคา้ โครงเน้ ือหา ▪ ชื่อหวั ขอ้ ตอ้ งสมั พนั ธ์และสะทอ้ นเน้ ือหาการนาเสนอท่ีสอดคลอ้ ง สาหรบั การนาเสนอ กบั วตั ถุประสงค์ 60 ▪ ลาดบั หวั ขอ้ หลกั หวั ขอ้ รอง และหวั ขอ้ ยอ่ ย ตอ้ งเป็ นระบบ ▪ เคา้ โครงเน้ ือหาจะแตกต่างกนั ตามเน้ ือหา วตั ถุประสงค์ และหวั ขอ้ ท่ีจะศกึ ษา

ช่อื ผลงาน การศึกษาวิเคราะห์ รายรบั และรายจา่ ย ของสานกั ทรพั ยากรการเรยี นรคู้ ณุ หญงิ หลง อรรถกระวีสนุ ทร มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ วตั ถุประสงค์ ▪ 1.2.1 เพ่ือวเิ คราะหร์ ายรบั ของสานักทรพั ยากรการเรียนรคู้ ุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ปี งบประมาณ พ.ศ. 2559-2563 ▪ 1.2.2 เพ่อื วิเคราะหร์ ายจา่ ยของสานักทรพั ยากรการเรียนรคู้ ุณหญิงหลง อรรถกระวสี ุนทร ปี งบประมาณ พ.ศ. 2559-2563 ▪ 1.2.3 เพื่อวิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บรายรบั และรายจา่ ยของสานักทรัพยากร การเรยี นรคู้ ุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ปี งบประมาณ พ.ศ. 2559- 2563 ▪ 1.2.4 เพ่ือวิเคราะห์ค่าใชจ้ ่ายดา้ นบุคลากรของสานักทรัพยากรการ เรียนรูค้ ุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ปี งบประมาณ พ.ศ. 2559- 2563 วณี า ฤทธ์ิรกั ษา, 2564 61

ชือ่ ผลงาน ผลสมั ฤทธใิ์ นการนาระบบสารสนเทศมาใชง้ าน กรณศี ึกษา: สานักเทคโนโลยสี ารสนเทศ วตั ถุประสงค์ ▪ เพอื่ วเิ คราะหผ์ ลสมั ฤทธ์ิในการนาระบบสารสนเทศมาใชง้ าน โดยวิเคราะหว์ ่าเม่ือไดน้ าระบบสารสนเทศท้ัง 3 ระบบ อัน ไดแ้ ก่ ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ใชง้ านปฏิทินออนไลน์ และการใช้งานแบบฟอร์มออนไลน์ ใน Microsoft Office 365 มาใช้งานแล้วจะส่งผลในด้านต่าง ๆ อย่างไร อาทิ ปรมิ าณการใชก้ ระดาษ ระยะเวลาในการปฏิบตั ิงาน ขน้ั ตอน ในการดาเนินงาน จานวนบุคลากรท่ีปฏบิ ตั ิงาน และสถิติการ ใชง้ าน ▪ เพื่อนาผลการวิเคราะห์ท่ีได้มาเป็ นหลักฐานเชิงประจกั ษ์ ใหก้ ับผู้บริหารเพ่ือขับเคลื่อนการใช้งานระบบสารสนเทศ ตา่ งๆ อยา่ งเต็มรปู แบบแก่หน่วยงานตา่ งๆ ภายในสถาบนั อรวรรณ สุขยานี, 2563 62

การนาเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลเชิงคุณภาพ การนาเสนอผล เป็ นการพรรณนา และบรรยาย โดยสรุปแบบจาเพาะเจาะจง การวิเคราะหข์ อ้ มูล (Specificity) สามารถนาเสนอได้หลากหลายรูปแบบต้ังแต่ เชิงคณุ ภาพ ตาราง รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ หรือรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีข้ ึนอยู่กับ เครอ่ื งมือท่ีทาการวิเคราะหข์ อ้ มูล 63

การวิเคราะหเ์ กณฑม์ าตรฐานสากลเพือ่ สนบั สนุนยุทธศาสตรเ์ ชิงรุก Content analysis การวิเคราะห์เน้ ือหา โดยวิธีเชิงคุณภาพ คอื การตีความสรา้ งขอ้ สรุปแบบอุปนัย (Induction) จากเอกสารดงั กล่าวประกอบกับเอกสารอื่น ๆ โดย อาจมีการแบ่งประเภทตามเน้ ือหาของเอกสาร แลว้ เปรียบเทยี บเน้ ือหาประเภทตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั (เอ้ อื มพร หลินเจรญิ , 2555) เสมอมาศ ล้ มิ จาเรญิ , 2558 64

การเพมิ่ ประสิทธภิ าพกระบวนการจดั ทางบประมาณในลกั ษณะบูรณาการ เชิงยุทธศาสตร์ Content analysis การวิเคราะหเ์ น้ ือหา โดยวิธีเชิงปรมิ าณ คือ การทาใหข้ อ้ มูลของเอกสารน้ัน ไดแ้ ก่ ถอ้ ยคาประโยค หรือใจความท่ีปรากฏในเอกสารเป็ นจานวนท่ีวัดได้ แลว้ แจงนับจานวนของถอ้ ยคา ประโยค หรือใจความ เหลา่ น้ัน (เอ้ อื มพร หลินเจรญิ , 2555) ณฐั ชา แซงวงศ์, 2560 65

การเพม่ิ ประสิทธภิ าพกระบวนการจดั ทางบประมาณในลกั ษณะบูรณาการ เชิงยทุ ธศาสตร์ Root Cause Analysis ณฐั ชา แซงวงศ์, 2560 66

การศึกษาวิเคราะห์แนวทางและวิธีการปรบั ปรุงกระบวนงาน การขออนุมตั จิ ดั กิจกรรมบรรยายพเิ ศษ ของคณะสถิตปิ ระยกุ ต์ (ชลธิชา สายศลิ า, 2561) Work Flow Analysis 67

การประเมินคุณภาพวารสารการพฒั นางานประจาส่งู านวิจยั ตามเกณฑก์ ารประเมินคุณภาพวารสารในฐานขอ้ มูล ของศูนยด์ ชั นีการอา้ งอิงวารสารไทย (TCI) SWOT Analysis & TOWS Matrix ศภุ ลกั ษณ์ วฒั นาเฉลิมยศ, ม.ป.ป. 68

การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ การนาเสนอผล สามารถนาเสนอไดใ้ นรูปแบบตาราง และสามารถเลือก การวิเคราะหข์ อ้ มูล รปู แบบ Visualization ใหเ้ หมาะสมกบั ขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืนๆ ได้ เชิงปริมาณ เนื่องจาก ในปัจจุบนั เป็ นยุคที่เทคโนโลยเี ขา้ ถึงทุกคน ทาใหก้ าร รบั รขู้ า่ วสาร ขอ้ มูลต่างๆ เป็ นไปไดง้ ่าย และรวดเร็วมากข้ ึน คน 69 ที่นาเสนอขอ้ มูลจึงตอ้ งนาเสนอขอ้ มูลใหน้ ่าสนใจ เขา้ ใจง่าย และรวดเร็ว จึงเกิดการสรา้ ง Data Visualization ข้ ึนมา Data Visualization เป็ นการใชภ้ าพเพือ่ แสดงขอ้ มูลในเชงิ ปรมิ าณที่วดั ได้ ซึ่งอาจนาเสนอออกมาในรูปแบบ แผนภูมิ กราฟ กราฟิ ก และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย และรวดเร็ว (https://www.9experttraining.com/articles/)

ตารางแบบทางเดียว หมายถึง ตารางท่ี มีการจาแนกเพียงลกั ษณะเดียวเท่าน้ัน one-way table 70

ตารางแบบสองทาง หมายถึงตารางท่ีมี การจาแนกลกั ษณะสองลกั ษณะ two-way table 71

ตารางแบบหลายทาง หมายถึง ตารางท่ี มีการจาแนกต้งั แต่สามลกั ษณะ (three- way table) ข้ นึ ไป multi-way table 72

Chart Title 6 Category 2 Category 3 Category 4 กราฟแท่ง ใชเ้ ม่ือตอ้ งการเปรียบเทียบขอ้ มูลในช่วงเวลาใด 5 เวลาหนึ่ง หรือเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างกลุ่ม โดยการ 4 พิจารณาความสูงของแท่งกราฟซ่ึงมักจะเป็ นความถ่ีหรือ 3 จานวน และท่ีสาคญั ขอ้ มลู บนกราฟแต่ละแท่งจะต้องมีความ 2 อิสระต่อกนั มีวธิ ีการนาเสนอขอ้ มลู ดงั น้ ี ใหน้ าขอ้ มูลที่ได้มา 1 แจกแจงความถี่ตามลักษณะท่ีสนใจ แลว้ จึงสรา้ งกราฟแท่ง 0 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งลกั ษณะท่ีสนใจกบั ความถี่หรือจานวน ท่ีตกอย่ใู นแต่ละส่ิงท่ีสนใจศึกษา ซ่ึงสามารถนาเสนอเป็ น Category 1 ความถี่หรือในรปู ของความถี่สัมพัทธ์ (Relative Frequency) หรือรอ้ ยละก็ได้ Series 1 Series 2 Series 3 Bar Chart วสิ าขา ภู่จินดา, 2563 73

Sales กราฟวงกลม เหมาะสาหรบั ขอ้ มลู ตวั แปรเดียวชนิ ด จาแนก พวกหรือกลุม่ (Nominal) ซ่ึงตอ้ งการแสดง 1st Qtr 2nd Qtr 3rd Qtr 4th Qtr การเปรียบเทียบแตล่ ะกลุ่ม โดยใชช้ ้ ินส่วนของพ้ ืนท่ี วงกลมแทนสดั สว่ นหรือรอ้ ยละของแตล่ ะกลมุ่ สดั ส่วน ของทุกกลุม่ รวมกันตอ้ งเป็ น 1 หรือรอ้ ยละของทุก กลมุ่ รวมกนั เทา่ กบั 100 แทนพ้ นื ที่วงกลมท้ังหมด มี วิธีการนาเสนอชน่ เดียวกับกราฟแห่ง แต่รูปกราฟจะ เป็ นวงกลม โดยสว่ นแบ่งของวงกลมของแตล่ ะกลุม่ จะ นาสดั ส่วนหรือรอ้ ยละของแต่ละกลุ่มมาคูณ 360 องศา จะทาใหไ้ ดอ้ งศาของแตล่ ะกลมุ่ Pie Chart วิสาขา ภู่จนิ ดา, 2563 74

แผนภมู โิ ดนัท แผนภมู โิ ดนัทมีหลกั การออกแบบ เชน่ เดยี วกบั แผนภมู วิ งกลม แตส่ ามารถแสดงชุด ขอ้ มลู ไดม้ ากกวา่ 1 ชุด โดยนาเสนอขอ้ มลู เป็ น วงกลมซอ้ นกนั หลายๆ ชน้ั นัน่ เอง Doughnut Charts ท่ีมา: https://www.9experttraining.com/articles/ 75

Chart Title 6 Category 2 Category 3 Category 4 กราฟเส้น จะใชด้ ูแนวโน้มในระยะยาวเมื่อเวลา 5 Series 1 เปลี่ยนแปลงไป หรืออาจเรียกว่าเป็ นการทานาย 4 สถานการณใ์ นอนาคตก็ได้ บางครง้ั อาจใชก้ ราฟเสน้ 3 สาหรบั แสดงความสาเร็จท่ีเกิดข้ ึน โดยเปรียบเทียบ 2 กับเป้าหมาย จะทาให้ทราบว่า การเปลี่ยนแปลง 1 เทียบกบั ระยะเวลา การเปล่ียนแปลงน้ันดีข้ ึนหรือไม่ 0 ซ่ึงก็จะแสดงใหเ้ ห็นไดต้ ่ออีกวา่ การเปลี่ยนแปลงน้ัน มาถูกทิศทาง และประสบผลสาเร็จหรือไม่ โดยสรุ ป Category 1 เป็ นการนาเสนอความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มลู ที่สนใจ โดยเชือ่ มโยงความสมั พนั ธด์ ว้ ยเสน้ Series 2 Series 3 Line Diagram วิสาขา ภู่จนิ ดา, 2563 76

ฮิสโทแกรม คือ แผนภูมิแท่งที่แสดงใหเ้ ห็นถึงการกระจาย ของขอ้ มูลในกลุ่มว่าเป็ นอย่างไร สาหรับขอ้ มูลไม่ ต่อเนื่อง เ ช่ น ฮิ ส โ ท แ ก ร ม แ จ ก แ จ ง ความถ่ีหรอื จานวนเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ่ีจะตอ้ งซ่อมในแต่ละ วันในเวลา 1 เดือน (30 วัน) จะเห็นว่าจานวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ต้องซ่อม 1 เครื่องมีความถี่ของเหตุการณ์ที่ เกดิ ข้ ึนใน 1 เดือนมากที่สุด ในการเสนอฮิสโทแกรมจะเสนอ เป็ นความถี่หรือความถี่ สัมพัทธก์ ไ็ ด้ สาหรับความถ่ีสัมพัทธ์ คือ จานวนเหตุการณ์น้ันๆ หารด้วยจานวนเหตุการณ์ ท้งั หมด ซง่ึ ผลรวมของความถ่ีสัมพัทธจ์ ะเท่ากบั 1 Histogram วสิ าขา ภู่จินดา, 2563 77

แผนภมู พิ ้ นื ที่ มหี น้าตาคลา้ ยแผนภูมิเสน้ แต่มีการแร เงาพ้ นื ท่ีใตเ้ สน้ ขอ้ มลู หรือระหว่าง 2 เสน้ เพ่ือแสดง ให้เห็นปริมาณความแตกต่างระหว่างเสน้ เหมาะ สาหรบั เน้นความสาคัญของการเปลี่ยนแปลงใน ช่ว ง เ ว ล า แ ส ด ง ใ ห ้เ ห็ น ผ ล ร ว ม ข อ ง ค ว า ม แ ต ก ต่า ง ระหว่างข้อมูล เช่น ข้อมูลของการซ้ ือสินค้า ใน หา้ งสรรพสินคา้ ในแต่เดือน ตามหมวดหมตู่ ่างๆ ไล่ ไป เครื่องสาอางค์ เส้ อื ผา้ แฟชนั่ อาหาร ตามลาดบั Area Charts ท่ีมา: https://www.9experttraining.com/articles/ 78

แผนภูมิเรดาร์ มีลกั ษณะคลา้ ยแผนภูมิเสน้ ที่มีการ แสดงผลแบบวงกลม จานวนเหลย่ี มของเรดารเ์ ท่ากับ จานวนหวั ขอ้ ของขอ้ มูล แผนภูมิน้ ีไมไ่ ดบ้ อกถึงความ ต่อเนื่องของขอ้ มูล แต่เหมาะสาหรบั การนาเสนอ ขอ้ มูลเป็ นหวั ขอ้ แลว้ นามาวิเคราะหห์ าจุดอ่อน จุด แข็งของขอ้ มลู เชน่ นาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั คุณสมบัติ ของการรบั พนักงานใหม่ เพ่ือดูจุดอ่อนจุดแข็งของแต่ ละคน เป็ นตน้ Radar Charts ท่ีมา: https://www.9experttraining.com/articles/ 79

แผนภมู ิตน้ ไม้ คือการนาเสนอขอ้ มลู แบบแสดงใหเ้ ห็น พ้ ืนท่ี แสดงผลไดใ้ นแบบลาดับช้ัน เหมือนแบบ โครงสรา้ งตน้ ไม้ อาจจะนาเสนอขอ้ มูลท่ีตอ้ งการให้ เห็นถึงเขตพ้ นื ท่ี แสดงพ้ นื ที่สีที่แตกตา่ งกนั ได้ Tree Maps ท่ีมา: https://www.9experttraining.com/articles/ 80

1. การแปลผลใตต้ าราง/ภาพ นิยมใช้คาวา่ “จากตารางท่ี/จากภาพที่...พบว่า การแปลผล หรอื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ” เพอ่ื เป็นการสรุปใหผ้ อู้ า่ นเห็นว่า ตวั เลข/ขอ้ มูลท่ีอธิบาย ใตต้ าราง/ภาพเป็ นตัวเลข/ขอ้ มูลท่ีสรุปมาจากตาราง/ภาพท่ีกาลังกล่าวถึง การวิเคราะหข์ อ้ มูล โดยทวั่ ไปนิยมแปลผลใตต้ าราง/ภาพเพราะทาใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย 81 2. ควรแปลผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลหรือตัวเลขตามที่ปรากฏในตาราง/ภาพเท่าน้ัน หา้ มอภิปรายหรอื สอดแทรกความคดิ เห็นสว่ นตวั เพม่ิ เติมแต่อยา่ งใด 3. การแปลผลจากตาราง/ภาพ ไม่ควรบรรยายค่าสถิติทุกค่า/ขอ้ มูลทุกขอ้ มูลใน ตาราง/ภาพ ทาใหย้ ดื เย้ อื และยาวเกินไปจนไม่น่าอ่าน ใหแ้ ปลเฉพาะประเด็น สาคญั ๆ หรอื ขอ้ มูลทโี่ ดดเดน่ เป็นท่นี ่าสงั เกต 4. ใชภ้ าษาที่อา่ นและเขา้ ใจงา่ ยและชดั เจนในการแปลผลขอ้ มลู 5. แปลผลให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การประเมินและประเด็นที่จะศึกษา (สมมติฐาน) โดยพจิ ารณาวา่ ผลทไี่ ดพ้ าดพึงถึงสิง่ ใด ควรแปลในลกั ษณะใดจงึ จะ ถูกตอ้ ง 6. การแปลผลด้วยสถิติอา้ งอิง หากพบว่ามีนัยสาคัญทางสถิติให้แปลด้วยวา่ มี นัยสาคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั ใด เช่น .05 หรอื .01 และหากพบวา่ ค่าสถิติไม่มี นัยสาคญั ทางสถิติ ใหแ้ ปลวา่ ไม่แตกต่างกนั หรอื ไม่มีความสัมพนั ธ์กนั (โดยไม่ ตอ้ งบอกระดบั .05 หรอื .01 ) ประยุกตจ์ าก: บุญศรี พรหมมาพนั ธุ,์ 2561 (ท่ีมา: https://adacstou.wixsite.com)

การสรุป อภปิ ราย และเสนอแนะ การพฒั นางานประจาสูง่ านวิจยั ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

การสรปุ ผล ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

หลกั การสาคญั ของการสรุปผล 84 - เป็นการสรุปผลการวิจยั และพฒั นาตามวตั ถุประสงค์ - การเขียนสรุปผลต้องสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ การกาหนด หวั ขอ้ รองในหวั ขอ้ สรุปผลตอ้ งเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ - ในกรณีท่ีประเด็นปัญหา (วตั ถุประสงค)์ ข้อใด มีการวิเคราะห์ ประเด็นย่อย หรือวเิ คราะหโ์ ดยการจาแนกตามองค์ประกอบที่ เกยี่ วขอ้ ง การสรุปผลควรเป็ นการประมวลจากท้ังหมดแล้ว สรุปผล - หา้ มมิใหน้ าการแปลความทา้ ยตารางการวิเคราะหข์ ้อมูลในบท ท่ี 4 มาวางต่อๆ ไวใ้ นบทที่ 5 ส่วนของการสรุป เพราะไม่มี ประโยชนอ์ นั ใดท่ีจะทาเช่นน้นั ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

การวางโครงการเขียนสรุปผล 85 ▪ สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคแ์ ละประเด็นที่จะศึกษาทุกประเดน็ ▪ ช่ือหัวข้อต้องสัมพันธ์และสะท้อนเน้ือหาการนาเสนอที่ สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ ▪ ลาดบั หวั ขอ้ หลกั หวั ขอ้ รอง และหวั ขอ้ ยอ่ ย ตอ้ งเป็นระบบ ▪ เค้าโครงเน้ือหาจะแตกต่างกนั ตามเน้ือหา วตั ถุประสงค์ และ หวั ขอ้ ที่จะศึกษา โดยสรุปเค้าโครง/หัวขอ้ ย่อยในการสรุปผลจะเหมือนกบั เค้าโครง/ หวั ขอ้ ในบทท่ี 4 และเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

การอภปิ รายผล ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

หลกั สาคญั ของการอภปิ รายผล 87 ▪ เป็ นวิเคราะห์ให้เห็นความสอดคล้องและความแตกต่างกบั แนวคิดทฤษฎีและงานวิจยั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ▪ การอภิปรายผลทาใหผ้ วู้ ิจยั เหน็ ช่องว่างระหว่างผลการศึกษากบั แนวคิดทฤษฎีท่ีจะนาไปสู่การใหข้ อ้ เสนอแนะ ▪ การอภิปรายผลเนน้ การสงั เคราะหผ์ ลการศึกษามากกว่าการนาผล การศึกษามาเปรียบเทียบกบั งานวจิ ยั ท่ีทบทวนมาเท่าน้นั ▪ การอภิปรายผลมีเป้าหมายสูงสุดคือ องคค์ วามรู้ ดงั น้นั ผวู้ จิ ยั ตอ้ ง สงั เคราะหใ์ หไ้ ดม้ าซ่ึงองคค์ วามรู้จากการวจิ ยั น้นั ๆ ใหไ้ ด้ ▪ ส่ิงท่ีเป็นขอ้ บกพร่องในการอภิปรายผลที่ผ่านมาพบว่า ผูว้ ิจยั นา ผลการวจิ ยั ไปเปรียบเทียบกบั งานวิจัยท่ีทบทวนมาโดยไม่มีการ สังเคราะห์ประเด็นในเชิงของการอภิปราย ทาเพียงการบอกว่า สอดคลอ้ งหรือแตกต่างเท่าน้นั ทาใหไ้ ม่เกดิ องค์ความรู้ใหม่จาก การศึกษาวจิ ยั ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

การเสนอแนะ สาหรบั การทาผลงานเชิงวเิ คราะหจ์ ากงานประจา ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

“ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การพฒั นางานประจา” ขอ้ ควรระวงั ในการเสนอแนะ “ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การกาหนดนโยบาย” “ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การศึกษาในอนาคต”  ขอ้ เสนอแนะตอ้ งมาจากผลการศึกษาโดยตรง ไม่ควรนาเสนอในประเดน็ ท่ี ไมเ่ กยี่ วขอ้ งหรือมาจากผลการศกึ ษา  ขอ้ เสนอแนะตอ้ งเป็นรูปธรรม ชดั เจน และสามารถนาไปสู่การปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ  ผศู ้ กึ ษาอาจนาผลการศึกษาทไ่ี ดไ้ ปวเิ คราะห/์ สงั เคราะหร์ ่วมกบั แนวคดิ ทฤษฎี หรืองานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทไี่ ดท้ บทวนมาในบทที่ 2 เพอ่ื ใหเ้หน็ ช่องวาง (Gap) ทเี่ ป็นโอกาสในการเสนอแนะเพอ่ื นาไปใชป้ ระโยชน์ ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564 89

ขอ้ จากดั ในการวเิ คราะห์ สาหรบั การทาผลงานเชิงวเิ คราะหจ์ ากงานประจา ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

หลกั สาคญั ของการเขียนขอ้ จากดั 91 - งานศึกษาทุกชิ้นย่อมไม่สมบูรณ์แบบ ในการศึกษา หากจะมี ขอ้ จากดั เงื่อนไข หรือประเด็นท่ีทาให้งานวิจยั และพฒั นาไม่ สมบูรณแ์ บบ ผวู้ จิ ยั นาเสนอไวใ้ นหวั ขอ้ น้ี - ขอ้ จากดั ในงานวิจยั ตอ้ งไม่ใช่ประเด็นท่ีทาใหผ้ ลการวิจัยและ พฒั นาไม่สามารถตอบวตั ถุประสงคไ์ ด้ หากเป็ นเช่นน้ันคงไม่ ใช้ข้อจากดั ในงานวิจัย แต่เป็ นประเด็นที่ผู้วิจัยต้องกาจัด ออกไปใหไ้ ดเ้ พอื่ ใหไ้ ดม้ าซ่ึงคาตอบของประเด็นปัญหา ปภาณภณ ปภงั กรภูรินท,์ 2564

When you have a dream, you’ve got to grab it and never let go. 92

Thank You Paphanphon Paphangkornphurin 08 6068 8688 [email protected] FB: Paphanphon Paphangkornphurin


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook