หนงั สอื เรยี น รายรซาฟร้ คบ้ ท /ร เท พ ้ผ น า ถ น เอ บ ชุน ชน สปั ทน ระดับประถมศึกษา (สก11003) ห ล กั ส ูต ร ท า ร ศ ีก ย า น ป กี ร ะ บ บ ร : ด บั ก ! ร ศ กี น า ข นั้ พ น ฐ ! น พ ทุ ธ ศ ก ร า ช 2 5 5 1 สำนักจานส่จเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาบอัรยาคึย im p สำนกั จานปลัดกระกรวงคีกษารกิ าร กระกรวจศึกษาริการ เอกสา‘ราาางวชิ า■กาจลำดา-เฑ่ื 34/2554
หนังสอื เรยนสาระการพฒั นาสงั คม รายวชิ า การพฒนาตนเอง ชุมชน สังคม (สคแ003) ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หา้ มจำหนา่ ย หนงั สอื เรยนเล่มน้ีจดั พิมพ์'ด้วยเงินงบประมาณแผ่นดนิ เพอื่ การศึกษาตลอดชวี ติ สำหรบั ประชาชน ลขิ สทิ ธี้เปน็ ของ สำนักงาน กศน. สำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เอกสารทางวิชาการลำดับท่ี 34/2554
หนงั สอื เรยี นสาระการพฒั นาสังคม รายวชิ า การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม (ส ค แ003) ระดับประถมศกึ ษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 ลขิ สิทธเป็นของ สำนกั งาน กศน. สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการลำดับที่ 34/2554
คำน ำ สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ได้ดำเนนิ การจดั ทำ หนังสอื เรยี นชดุ ใหม่นี้ข้ึน เพอื่ สำหรับใชใ้ นการเรยี นการสอนตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ทม่ี ีวัตถุประสงคใ์ นการพัฒนาผ้เู รยี นให้มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีสตปิ ัญญาและศักยภาพในการประกอบอาชีพ การศกึ ษาต่อและสามารถดำรงชีวิตอย่ใู น ครอบครวั ชุมชน สงั คมได้อย่างมีความสขุ โดยผเู้ รียนสามารถนำหนงั สอื เรยี นไปใช้ ด้วยวธิ ีการศกึ ษา คน้ ควา้ ด้วยตนเอง ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมรวมทั้งแบบแกหัดเพื่อทดสอบความรูค้ วามเขา้ ใจในสาระเนอ้ื หา โดยเมื่อศกึ ษาแลว้ ยงั ไม่เข้าใจ สามารถกลบั ไปศกึ ษาใหมไ่ ด้ ผูเ้ รียนอาจจะสามารถเพมิ่ พูนความรู้หลงั จาก ศึกษาหนงั สอื เรยี นนีโ้ ดยนำความรู้ไปแลกเปลย่ี นกบั เพ่ือนในช้ันเรียน ศึกษาจากภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ จากแหล่งเรยี นรวช้'ํและจากสื่ออ่นื ๆI ในการดำเนนิ การจดั ทำหนังสอื เรยี นตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษา ข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ได้รบั ความร่วมมอื ท่ีดีจากผทู้ รงคณุ วฒุ ิและผู้เกย่ี วข้องหลายท่านทีค่ ้นคว้า และเรยี บเรียงเนือ้ หาสาระจากสือ่ ตา่ ง ๆI เพ่อื ให้ไดส้ อื่ ที่สอดคล้องกับหลักส<บ่ตู รและเป็นประโยชน์ ต่อผู้เรียนท่ีอยูน่ อกระบบอย่างแท้จริง สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ขอขอบคณุ คณะที่ปรกึ ษา คณะผู้เรียบเรยี ง ตลอดจนคณะผจู้ ัดทำทุกทา่ นที่ไดใ้ ห้ความร่วมมอื ดว้ ยดี ไว้ ณ โอกาสน้ี สำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั หวังว่าหนังสือเรียน ชุดน้ีจะเป็นประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอนตามสมควร หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด สำนักงาน ส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ขอน้อมรบั ไวด้ ว้ ยความขอบคณุ ย่ิง สำนกั งาน กศน. 3
สารบัญ คำนำ หนา้ คำแนะนำการใชห้ นงั สือเรียน 1 โครงสร้างรายวชิ า 2 บทท่ี 1 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 8 9 ความหมาย ความสำคัญ และหลกั การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม 9 ประโยชนท์ มี่ ีตอ่ ตนเอง ชมุ ชน สังคม 13 บทท่ี 2 การจัดเก็บและวเิ คราะห์ข้อมูล 24 ความสำคัญ และคณุ สมบตั ขิ อ้ มลู ทีด่ ี 27 ว ิธ กี ารจดั เกบ็ ขอ้ มลู 28 เทคนคิ การวเิ คราะหข์ ้อมลู 30 บทท่ี 3 การวางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั 31 การใช้ข้อมลู จากการวเิ คราะหเ์ พอ่ื วางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 34 การนำแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั การมีสว่ นรว่ มผลักดนั แผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม ใหเ้ ปน็ ทยี่ อมรับ บรรณานกุ รม 4
คำแนะนำการใชห้ นงั สือเรียน หนังสือเรียนสาระการพฒั นาสังคม รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ระดับ ประถมศกึ ษา เปน็ หนงั สือเรยี นทจ่ี ดั ทำขน้ึ สำหรบั ผ้เู รียนทเ่ี ป็นนักศึกษาการศึกษานอกระบบ ในการศกึ ษาหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสงั คม รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ผ้เู รียนควรปฏิบัติดังน ี้ 1. ศึกษาโครงสรา้ งรายวิชาและทำความเขา้ ใจในหวั ขอ้ สาระสำคญั ผลการเรียนรู้ ที่คาดหวงั และขอบขา่ ยเนื้อหา 2. ศึกษารายละเอยี ดเน้อื หาของแตล่ ะบทอยา่ งละเอยี ดและแกปฏิบัติตามกิจกรรม ทกี่ ำหนด ถ้ายงั ไม่มน่ั ใจวา่ ปฏบิ ัตติ ามกิจกรรมได้อยา่ งเหมาะสม ควรย้อนกลับไปทำความเข้าใจเน้ือหา นัน้ อีกคร้ังกอ่ นศกึ ษาเรือ่ งตอ่ ไป 3. ทำกิจกรรมท้ายเร่ืองใหค้ รบทกุ เรื่อง เพือ่ เป็นการสรุปความรู้ที่ได้รบั ผู้เรยี นสามารถ ตรวจสอบและทบทวนกบั ครู เพื่อนและผรู้ ู้ 4. หนงั สือเรียนเลม่ นีม้ ี 3 บท คอื บทท่ี 1 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม บทที่ 2 การจัดเกบ็ และวิเคราะห์ขอ้ มลู บทท่ี 3 การวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 5
โครงสร้างรายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (ส ค แ003) ระดับประถมศึกษา สาระสำคัญ 1. ความหมาย ความสำคญั หลักการและประโยชน์ของการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 2. ความสำคญั ของขอ้ มูล วิธกี ารจดั เก็บและวเิ คราะหอ์ ยา่ งงา่ ย 3. การมสี ่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง 1. อธบิ ายสาระสำคญั ที่เก่ยี วข้องกบั การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 2. จดั เกบ็ และวเิ คราะหข์ อ้ มูลอย่างง่าย 3. มสี ่วนรว่ มและนำผลจากการวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน ขอบขา่ ยเนื้อหา บทที่ 1 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม บทที่ 2 การจดั เกบ็ และวิเคราะห์ข้อมลู บทท่ี 3 การวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคมและการนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน 6
บทท4 1 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม การพฒั นาตนเองเปน็ เร่ืองสำคญั และจำเป็นอย่างมาก การพัฒนาไม่ได้เน้นเฉพาะ ทางกาย แตต่ อ้ งพฒั นาจิตใจควบคูก่ ันไป ทกุ คนสามารถพัฒนาตนเองดว้ ยการสร้างนิสัยที่ดีซงึ่ เป็น ประโยชนแ์ ก'ตนเอง ใหผ้ ู้คนพึง่ พาอาศัยกนั ได้และเปน็ พน้ื ฐานที่ดีในการพัฒนาชุมชน สังคมตอ่ ไป ช่วยใหช้ มุ ชนแขง็ แกร่งและสร้างสังคมท่เี ป็นสขุ เราสามารถพัฒนาตนเองเปน็ อยา่ งแรก โดยดแู ลรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง มีสขุ ภาพอนามัยทด่ี ี เพื่อปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ กดิ อุปสรรคในการดำเนินชีวิต สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี เมอื่ ร่างกายแขง็ แรงย่อมมี จิตใจมุ่งม่ันทำงานเพอื่ ช่วยเหลือตนเองและเพ่อื นมนษุ ย์ได้ อย่างไมย่ อ่ ทอ้ ทงั้ นี้ตอ้ งรวมไปถงึ การพัฒนาบคุ ลิกภาพตนเอง พฒั นาความรู้และความคดิ รวมทง้ั ความจำ ความเข้าใจ ความมเี หตจ่มีผล 'รนิ จ้ กั มองและประเมินสถานการณ์ตา่ ง ๆI ที่ ผ่านเขา้ มาในชวี ติ ตลอดจนตดั สินด้วยความเป็นธรรม ไมล่ ำเอียงหรอื มอี คติ พ'นิดู งา่ ย ๆI คือ ร'นิ จ้ ักคดิ น่ันเอง คิดโดย อาศัยความรมู้ องจากตัวเราและไกลออกไปสคู่ รอบครัว ชุมชน สังคม โดยคดิ ใหอ้ ยู่ภายในกรอบของคุณธรรม จะทำให้ความคดิ และการตดั สินใจของเราเหมาะสมกบั สถานการณท์ ่เี กดิ ขน้ึ ไม่เบียดเบยี นตวั เราเองและผ้อู ืน่ ในสงั คม อยา่ งนีจ้ งึ เรียกไดว้ า่ “คิดเปน็ ’, 1
^ กิจกรรม ^ อา่ นเร่ืองราว แล้วคิดตาม หวานหนา้ ตาสวย เปน็ ลูกคนสุดทอ้ ง พ่อแมท่ งั้ หวงและเป็นห่วง หวานจบ ม.6 พอ่ มี อาชีพเกบ็ ของเก่าขาย แมร่ บั จา้ งซกั ผา้ พชี่ ายคนโตขับวนิ มอเตอร์ไซด์ พช่ี ายคนที่สองอาศยั อยู่กับหลวง ตาท่วี ัดใกลบ้ า้ น สว่ นพส่ี าวทำงานโรงงานปลากระป้อง พกั อยู่หอ้ งเช่าใกลโ้ รงงาน หวานชอบทำกับข้าว และขนมไทย รสมือในการทำอาหารเป็นเย่ยี ม จนพ่อและแม่ออกปากชม ถา้ คณุ เป็นหวาน มชี อ่ งทางจะคิดทำอะไรใหม้ เี งนิ เก็บพอทีจ่ ะเรยี นต่อ โดยไม่ต้องขอ เงินจากครอบครวั ลองคิดให้รอบคอบทุกด้านแลว้ เขยี นสรุปสนั้ ๆ ในสมูดหรอื กระดาษ จากนั้นเล่าให้ เพื่อน ๆ•ฟง้ แนวคิดของคจุ่ณ อยา่ ลมื ว่าทจุ่กป้ญชิหาย่อมมที างออก ไมม่ คี ำวา่ ผิดหรอื ถจิเก แต่ละคนมองหา คำตอบโดยใช้เหตุผลของตนเอง แล้วมองข้อจำกัดทีม่ ีอยรู่ อบด้าน ทุกการตดั สนิ ใจตอ้ งอธบิ ายไดด้ ว้ ยเหตุ และผล ^ เก็บข้อสรุปไว้ใหค้ รูผ้สู อนตรวจสอบ ^ ความหมาย ความสำคัญและหลักการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม การพัฒนา คือการปรับปรุง เปลยี่ นแปลงใหส้ ิง่ ที่เป็นอยู่ มีอยู่ ดขี น้ึ และกา้ วหน้าไปกวา่ เดิมจากทเ่ี คย เป็นอยู่ 2
^ กิจกรรม ^ ลองถามเพอ่ื นหรือคนท่ีอยใู่ กลต้ ัววา่ เขาเคยเหน็ อะไรทีพ่ ฒั นาไปจากเดิมบ้าง และ เปลีย่ นแปลงไปจากเดิมอยา่ งไร ไดค้ ำตอบแลว้ บันทกึ ย่อไว้ในสมดุ หรือกระดาษ เกบ็ บนั ทึกย่อไวใ้ ห้ครผู ู้สอนตรวจสอบ^ การพัฒนาตนเอง เปน็ การปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงตนเองใหด้ ขี ึน้ กว่าเดิม โดยต้องคิดให้ รอบด้านว่า เดิมตัวตนของเราเป็นอย่างไร ทง้ั สุขภาพกายและสุขภาพใจ เมือ่ ปรับปรงุ ตนเองแล้ว สามารถ มีชีวติ ทเ่ี ป็นไปตามความตง้ั ใจทหี่ วงั ไว้หรอื ไม่ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขน้ึ ทำใหต้ ัวเรามจี ติ ใจเบิกบาน มีอารมณ์แจม่ ใสขนึ้ กวา่ เดมิ ใช่หรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถคิดหาเหตผุ ลมารองรับใหเ้ กิดความก้าวหน้า ทางสตปิ ญ้ ญาของตนเองได้ เม่อื พ่ึงพาสติป้ญญาตนเองได้ กย็ ่อมมีโอกาสให้ผอู้ ่ืนพึ่งพาสติปญ้ ญาตวั เรา Vเi ด3Jเช»่นกOน' คนทพ่ี ฒั นาตนเองได้ดี ต้องมีความมุง่ ม่ัน มีจิตใจแนว่ แน่และตง้ั ใจจริง การคดิ ทางบวกทช่ี ว่ ยพฒั นาตนเองไดด้ ี : ^ มนุษย์ทกุ คนมคี ุณค่าในตนเอง สามารถพฒั นาตนเองได้แทบทกุ เร่ือง ^ ไมม่ มี นุษย์คนใดทีด่ ีพรอ้ มทุกอย่างจนไม่ต้องพัฒนาตนเองอกี ^ แม้มนษุ ยจ์ ะรตู้ ัวตนอย่างดี แตไ่ ม่สามารถปรับเปล่ยี นตนเอง ต้องอาศัยผอู้ นื่ ชว่ ยด้วย การควบคุมความคิด ความรสู้ ึกและการกระทำ ^ มนษุ ย์บางรายยดึ ติดกับความร้สู ึกนึกคิดและการกระทำของตนเอง ตอ้ งอาศยั คนใกล้ชิดชว่ ยมองแลว้ ยอมรับทจ่ี ะสรา้ งนิสัยใหม่ ^ มนุษยส์ ามารถพัฒนาตนเองไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง ตลอดเวลาเมอื่ พบข้อบกพร่องของตน ^ กจิ กรรม ^ ให้เวลาตนเองคดิ ทบทวนว่า ตนมปี ญ้ หาและข้อบกพรอ่ งใดบา้ ง ยกมาเพยี ง 1 ตวั อย่าง แล้วพจิ ารณาวา่ คุณจะพฒั นาตนเองได้ดว้ ยวธิ ีใด โดยเขียนสรุปยอ่ ในสมุดหรือกระดาษ จากนน้ั จบั คู่กบั เพ่ือน เพือ่ แลกเปล่ยี นประสบการณ์ระหว่างกัน เพ่ือหาแนวคดิ ท่แี ตกตา่ งกนั หรือมวี ธิ อี ืน่ ทจ่ี ะช่วยเหลือ เพอ่ื นเพ่ือพัฒนาตนเองอย่างไร บนั ทกึ เพิม่ เติมไว้ อยา่ ลืมว่าทุกคนมีสทิ ธิ0ทจ่ี ะคดิ ดว้ ยเหตุและผลของตนเอง ความคดิ เหน็ ท่แี ตกต่าง ไมต่ ้องการคำตอบทีถ่ ูกต้องท่สี ดุ เพียงข้อเดยี ว ใครคดิ เหน็ อย่างไรขอให้มเี หตุผลสนับสนุน เรากำลงั แกความคดิ แบบประชาธปิ ไตยแกการมสี ว่ นรว่ มและแกการยอมรับความแตกตา่ งของมนษุ ย์ เก็บสรุปยอ่ ไวใ้ ห้ครูผ้สู อนตรวจสอบ ^ 3
การพัฒนาตนเองดา้ นบุคลกิ ภาพ ไม่ได้เน้นเฉพาะสิ่งทีม่ องเหน็ ดว้ ยตาเทา่ นน้ั แตย่ งั รวมถงึ สง่ิ ท่ี ตอ้ งอาศัยการรไู้ ด้ด้วยใจ ความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อน่ื ทง้ั ต่อหนา้ และลบั หลัง เป็นตวั อย่างทีด่ ใี นสงั คม ความเอ้อื เฟอ้ เผอื่ แผ่ รู้จกั การให้ การแบ่งป้น ตามโอกาสอนั ควรโดยไม่หวงั สง่ิ ตอบแทน รักของสว่ นรวม เมื่อพบความเสียหายในที่ สาธารณะ รบี แจง้ ผู้รบั ผิดชอบดว่ นเพ่ือลด การสูญเสียทรัพยากร การตรงตอ่ เวลาเป็นการสร้างนสิ ัยท่ดี ใี ห้ เกดิ ขึน้ ในสังคม นับว่าเป็นแบบอย่างท ่ีด ี ท<=5ควรปIฏบQAรตร ตาม นอกจากสง่ิ เหลา่ นแ้ี ล้ว ยงั ควรยกย่องผ้ทู ำความดี รจู้ กั เสยี สละในทางท่ถี กู ทีค่ วร ทางดา้ นอารมณค์ วรพฒั นาตนเองให้มองโลกในแง'ดี มสี ตอิ ยเู่ สมอและสร้าง ความเช่อื มั่นให้เกิดข้นึ ในตนเอง ด้านสตปิ ฌ้ ูฌาู ควรพฒั นาความรู้อย่างสมา่ํ เสมอไม'หยุดน่งิ เพราะคนเราเรียนรูก้ นั ได้ ไม'มีวนั จบ พฒั นาทักษะทางวชิ าชีพเม่ือมโี อกาส รวมทง้ั พฒั นาความคิดใหก้ วา้ งไกลยงิ่ ขน้ึ ด้านสงั คม ควรแกการมีมนุษยสัมพนั ธท์ ี่ดกี ับคนรอบขา้ งกับคนทุกเพศทกุ วยั ให้ เหมาะสม รู้จกั อ่อนนอ้ มถ่อมตนสามารถทำงานและอยูร่ ว่ มกับผอู้ ่นื ได้และยงั เป็นไดท้ ้ังผู้นำและผตู้ ามท ีด่ ี 4
^ กจิ กรรม ^ รวมกล่มกบั เพอ่ื น 6 คน ทบทวนเรือ่ งราวตา่ ง ๆ อีกคร้งั หน่ึง แลว้ ช่วยกันคิดว่าทุกคน ในกลุ่มยังมีเร่ืองใดทต่ี ้องพฒั นาตนเองอกี บ้าง พดู กนั ในกลุ่มดว้ ยความจริงใจและปรารถนาดีตอ่ กัน อย่ามองกนั ดว้ ยการจับผดิ แล้วช่วยกนั หาแนวทางการพัฒนา ระบชุ ่ือเพอ่ื นท่จี ะช่วยเพือ่ นพฒั นาตนเอง แตล่ ะคนให้มผี ้ชู ่วยพฒั นาตนเอง 1 คน สรุปในสมุดหรือกระดาษ ขอให้นึกไว้เสมอว่า สังคมจะดีได้ต้องมาจากคนในสงั คม “หนึ่งคน หนึง่ ความด’ี , เพยี งเท่าน้สี งั คมก็จะมีหลากหลายความดี กจิ กรรมนีเ้ พือ่ สรา้ งความรสู้ กึ ทีด่ ี ขณะกลมุ่ ทำงานรว่ มกัน แกการยอมรบั ซ่ึงกันและกนั การเปน็ ผ้นู ำและผตู้ ามที่ดี การแกคิดด้วยเหตแุ ละผล รวมทั้งการตัดสินใจ ภายใต้เงื่อนไขและขอ้ จำกัดท่ีมอี ยู่ เมอื่ ไดผ้ ลสรุปของกลมุ่ มอบผสู้ รุปยอ่ และมอบผูแ้ ทนกล่มุ รายงาน สรปุ ผลใหเ้ พือ่ น กล่มุ อ่นื ฟ้ง เก็บสรุปยอ่ ไวใ้ หค้ รผู ูส้ อนตรวจสอบ^ การพัฒนาตนเองมคี วามสำคัญย่ิง ทกุ คนต้องการมีชีวิตอยูใ่ นสงั คมดว้ ยความสขุ ดำเนินชวตo ,S=N /Cj-S=N Vเปl l ตาม<=ท=ร ตSJ องการและคาดหวa/ง เว้V| 3> สามารถพัฒนาตนเอง 1ๅ Iเดทันกับสงั คมทเปลยนO'l l 5/o/พ 1£ะร ่เป ความสำคัญในการพฒั นาตนเอง ^ พรอ้ มรับสถานการณ์ที่เกดิ ขน้ึ ^ ปรบั พฤตกิ รรมใหเ้ หมาะสม ตรงตามที่สังคมตอ้ งการ พ นoาV(I ปI ส»ฌู ช าหมายชวตทA ก0าหนด เว1ๅ 3J ^ เหน็ คณุ คา่ ของตนเองและทำหนา้ ที่ไดอ้ ย่างเตม็ ที่ ความสำคญั ที่มตี ่อการพฒั นาตนเองยงั เกยี่ วข้องและสัมพันธ์กบั ผอู้ นื่ ทั้งคนใน ครอบครวั ด้านชีวิตส่วนตวั และผู้คนในชุมชน ด้านชีวติ ความเป็นอยู่ร่วมกัน ทำให้อยรู่ ว่ มกันได้ด้วย ความสุข ส่งผลใหช้ ุมชนเขม้ แขง็ และมกี ารพฒั นาอย่างต่อเน่ือง สงั คมมนั่ คงอยไู่ ดด้ ว้ ยมนุษย์ที่พัฒนาตนเอง รจู้ กั คดิ คน้ แนวทางการทำงาน การใช้ เทคโนโลยี มวี ิธคี ิดและปรับปรุงทกั ษะท่ีเพิ่มคุณภาพผลผลิต สามารถแข่งขนั กับสงั คมอน่ื และส่งผลให้ เศรษฐกจิ ของประเทศมั่นคง 5
^ กิจกรรม ^ เลอื กเพอ่ื น 1 คนมาชว่ ยกันคิดว่า การพฒั นาตนเองสำคัญต่อตัวทา่ น ตอ่ ชมุ ชนและ ตอ่ สงั คมอย่างไร เขยี นสร1ุปในสม1ุดหรือกระดาษ จากนัน้ ชว่ ยกันเลา่ ใหเ้ พอื่ น ๆI ได้ฟง้ แนวคดิ ของคqณุ อยา่ ลืมเพมิ่ เตมิ ส่ิงทีพ่ บเหน็ จากสภาพแวดล้อมท่เี ป็นอยนู่ อกเหนือจากเรื่องราวในหนงั สอื เรียนน้ี พดู คยุ กันใหช้ ดั เจน ทุกเหตผุ ลมีคา่ คุณจะรู้วา่ การเคารพความคิดซงึ่ กันและกนั ชว่ ยใหม้ ีแนวคิดท่ีกวา้ งขวาง และรอบรู้กว้างไกลมากกวา่ การคิดเพียงคนเดียว เกบ็ สรปุ ย่อไว้ให้ครผู ้สู อนตรวจสอบ ^ การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม อาศยั หลักการมสี ่วนรว่ ม การประสานความรว่ มมอื การประชาสมั พันธ์ การให้ความรู้ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม ฯลฯ 6
^ กิจกรรม ^ อยOIค่ นเดียวเงียบ ๆ1 นกึ ถึงการพฒั นาตนเองที่เคยทำมาก่อนว่าใชว้ ธิ ีการอยา่ งไร ได้ผล แค'ไหน เขียนสร1ุปส้นั ๆ1 ในสม1ุดหรือกระดาษ แล้วหาเพ่ือนอกี 3 คน รวมทง้ั ตัวทา่ นเปน็ 4 คน แยกจับค'นุ'ิ ผลัดกนั เล่าประสบการณพ์ ัฒนาตนเองทีส่ รปุ ไว้ ผูฟ้ ้งแนะนำเพม่ิ เตมิ ใหก้ ับค'ู ของตน จากนั้นทัง้ 4 คน รวมกลุ่มอีกครงั้ เพื่อสรุปแนวทางจากประสบการณก์ ารพฒั นาตนเองของกลุ่ม อย่าลืมเลา่ ใหก้ ล่มุ อน่ื ฟง้ กิจกรรมน้แี กการเล่าเรื่องราว การฟ้ง การคดิ การใช้เหตแุ ละผล การตดั สินใจเลือก เรอ่ื งราวทจี่ ะสรปุ ให้กลมุ่ อน่ื รับฟ้ง ทสี่ ำคัญชว่ ยใหท้ กุ คนในกลมุ่ รจู้ ักการมีสว่ นร่วม การรว่ มแรงรว่ มใจ ให้เกดิ ผลงานกลมุ่ และการใชค้ วามสามารถทท่ี ุกคนในกลมุ่ มีอยู่ เกบ็ สรุปส้ัน ๆ ไวใ้ ห้ครผู สู้ อนตรวจสอบ ^ พักสกั คร'ู หนึง่ ก่อน หายเหน่อื ยแลว้ เริม่ ทำกิจกรรมตอ่ ไป ^ กิจกรรม ^ หาอาสาสมัครและผนิ้ชว่ ย รวม 2 คน เพือ่ นำกล<1'มใหญช ่ใหเ้ พ่ือน ๆI ท<1ุกคนชว่ ยกันระดม ความคิดวา่ นอกจากหลักการมีสว่ นร่วม การรว่ มมอื กนั การประชาสมั พันธ์และการให้ความรู้ท้ังทางตรงและ ทางอ้อมแลว้ ยงั มีเร่อื งใดอกี บา้ งทีเ่ ปน็ หลักการสำคัญในการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ผ ้นู ำกล่มุ ใหญพ่ ยายามรวบรวมแนวคดิ จากเพอื่ นๆ โดยมีผชู้ ว่ ยบันทกึ แนวคิดอยา่ งยอ่ ไว้ให้ ทกุ คนไดอ้ า่ นทบทวน อย่าลืมว่าผู้นำกลมุ่ ต้องถามเพ่อื ให้ไดร้ ายละเอียดมากทีส่ ุด สำหรบั ผชู้ ว่ ยให้บนั ทกึ สรปุ อยา่ งย่อ ดว้ ยภาษาท่ีเขา้ ใจง่ายและชัดเจน อาจเพมิ่ คำถามโดยถามถงึ แนวทางการใหค้ วามรูท้ างตรงและ ทางอ้อมว่าเป็นอยา่ งไรบา้ ง เชน่ การบอกโดยตรง หรือการใหค้ ำปรึกษาแนะนำ ผ้ชู ่วยสรปุ ความคิดไว้ บนกระดาษ ทกุ คนมีโอกาสแสดงภาวะผนู้ ำและผ้ตู าม ร้จู กั การคดิ หาเหตผุ ล มีการตดั สินใจ มีส่วนรว่ ม มกี ารยอมรับและเรยี นร้ซู ึ่งกนั และกันภายในกล่มุ ทกุ คนไดร้ ับโอกาสในการแสดงออกตามความถนัด เก็บบนั ทกึ สรปุ ยอ่ ไว้ใหค้ รผู สู้ อนตรวจสอบ ^ J H กจิ กรรมเสนอแนะ ^ ^ ศึกษาหาความรqjู้เพม่ิ เตมิ จากเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆI ท่เี ก่ียวขอ้ ง ^ พูดคุย ปรกึ ษาหารือ เรอื่ งราวทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อการเรียนร้เู ร่อื งการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ^ แกการแสดงแนวคดิ กอ่ นตดั สนิ ใจทั้งเรื่องการเรียน การทำงานและเร่ืองสว่ นตวั โดยใช้หลัก “คิดเปน็ ’, ท่ีเคยรู้จกั กันมาแล้ว 7
ประโยชนท์ ีม่ ีตอ่ ตนเอง ชุมชน สังคม q^ncrtvtlvCuiาเ.'Sorfo £ oT ร [f ริ*^**\"*'ท , * ^ 1 ท ^^'าพา^^ ,๒£>^ ■ * ^ 7 . * ._ . A ฯ?' y-wnv^ ชุ®» % 0^* ^ \" า ว J y J * f V 4*®?L? '๘* **</» 0 ^ * > * * l e;> w^ น ^^^ t;5aj©em4 t^CrtJ*3* laobuwot&jo vfcci ^ กจิ กรรม ^ รวมกล่มุ เพอ่ื น 4 คน คน้ หาข้อความจากภาพ แล้วสรุปในสมดุ หรอื กระดาษ ดังนี้ ^ ประโยชน์ใดเกิดขึ้นจากการพฒั นาตนเองบ้าง ^ ขอ้ ความใดสร้างประโยชน์ใหเ้ กดิ กบั ชมุ ชน สงั คม กล่มุ สามารถค้นหาข้อความท่ีอยู่ ในภาพ รวมทงั้ รว่ มกันคดิ ภายในกลม่ เพื่อเพม่ิ เติมคุณลักษณะตา่ ง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง ชมุ ชน 1) ’) I q สงั คมไดต้ ามตอ้ งการ ขอให้คิดอยูเ่ สมอว่า ทกุ คำตอบผ่านกระบวนการคิดดว้ ยเหตแุ ละผลมาแลว้ การตดั สนิ ใจเลอื กคณุ สมบตั ใิ ดก็ตามย่อมมีเหตผุ ลรองรับและอธบิ ายได้ คณุ สมบตั ิบางประการอาจเกิด ประโยชนท์ ง้ั ต่อตนเอง ชมุ ชนและสังคม ทุกคนกำลงั แกการใช้ความรปู้ ระสบการณ์ การร้จู ักเคารพความ คิดเหน็ ของเพ่อื นร่วมกลุม่ การรับฟ้งเหตุและผลด้วยการไตร่ตรองอยา่ งรอบคอบ รวมทัง้ การตดั สินใจ เลือกคุณสมบัตทิ ี่ทกุ คนในกลุ่มยอมรบั ได้ หลงั จากสรปุ ในสมุดและกระดาษเรียบรอ้ ยแลว้ ทบทวนอกี ครั้งภายในกลุ่มใหโ้ อกาส เพื่อนรว่ มกลมุ่ เพ่มิ เตมิ สิ่งทต่ี อ้ งการซ่งึ ทกุ คนในกลุม่ พจิ ารณาแลว้ ว่าเหมาะสม เกบ็ คำตอบไวใ้ ห้ครผู สู้ อนตรวจสอบ ^ 8
บทท4 2 การจัดเก็บและวเิ คราะห์ขอ้ มูล ข้อมลู คอื สภาพเป็นจริงทีป่ รากฏในรปู ตวั อกั ษร สัญลักษณ์ ตัวเลข คำบอกเลา่ จากผู้รู้ สถานการณ์ที่เกดิ ข้นึ รวมทง้ั การบนั ทึกและการถ่ายทอดผ่านสอ่ื ต่าง ๆ ทั้งเอกสาร บุคคล วิทยู โทรทัศน์ I qq อินเทอรฒ์ ต็ ฯลฯ ^ กิจกรรม ^ ทบทวนเหตกุ ารณท์ ่ีผ่านมาวา่ คุณได้รับข้อมูลจากทีใ่ ดบา้ ง และใช้ประโยชน์ได้จริง มากน้อยแค'ไหน บันทึกยอ่ ในสมดุ หรอื กระดาษ จากนั้นเลา่ ให้เพ่ือนฟง้ และบันทึกความเห็นของเพือ่ นที่ ^ เก็บบนั ทกึ ย่อไว้ใหค้ รผู ้สู อนตรวจสอบ ^ กิจกรรมเสนอแนะ ^ หาโอกาสพดตยุ กับเพอื่ น ๆ เกี่ยวกบั เรอื่ งขอ้ มูลว่าการเสาะหาขอ้ มลู เปน็ เรื่องยาก ' นิ จ่ 1 ' นิ ' นิ หรอื งา่ ยเพียงใด ▼ข9>้อมลู เหลานเชอ เดแค่ เหน เคย เดรบขอ้ มูลทผดพลาดอยา่ ง เร»^ ^ )311 11111I11 ความสำคญั และคุณสมบัตขิ ้อมลู ท ดี่ ี การทำงานใดกต็ ามต้องใช้ข้อมูลมาประกอบเพอื่ เป็นแนวทางในการคดิ พิจารณาแลJ ตัดสนิ ใจ ขอ้ มลู จะมคี วามสำคัญได้ก็ต่อเมอ่ื เปน็ ข้อมลู ท่ีมีความถูกตอ้ งและเชอ่ื ถอื ได้ ตรงตาม ความตอ้ งการของผใู้ ช้และเป็นขอ้ มูลลา่ สุดท่ที นั สมัย ^ กิจกรรม ^ รวมกลม่ เพอ่ื น 6 คน เลอื กหัวหนา้ กลม่ และผ้ช่วยหัวหน้ากล่ม สอบถามเพอ่ื น ๆ ให้ ออกความเห็นวา่ ข้อมูลมคี วามสำคญั อย่างไร เหตใุ ดจงึ ตอ้ งใชข้ อ้ มลู มาประกอบ ผู้ช่วยรวบรวมแนวคดิ และบันทึกสรปุ ในสมุดหรอื กระดาษ แล้วแลกเปล่ียนขอ้ สรุปของกลุ่มกับเพ่อื น ๆ กลุ่มอ่ืน เกบ็ บันทึกสรุปไวใ้ ห้ครูผู้สอนตรวจสอบ ^ 9
ขอ้ มูลท่ดี ีตอ้ งมีลกั ษณะตอ่ ไปน ี้ 1.ถูกตอ้ งและเช่อื ถอื ได้ตอ้ งรวบรวมผลของขอ้ มูล ความมน่ั ใจว่าถูกต้องและเชอ่ื ถือได้โดยใหผ้ า่ น การตรวจสอบโดยละเอียดข้อมลู อาจตอ้ งแปลงให้อยู่ ในรปู แบบท่เี คร่อื งคอมพิวเตอรเ์ ข้าใจไดอ้ ยา่ งลูกตอ้ ง บางครง้ั ข้อมลู ผดิ พลาดเพราะใช้โปรแกรมหรอื สตู รคำนวณผิดพลาดจึงตอ้ งกำหนดวธิ กี ารรวบรวม ผลดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 2. ตรงตามความต้องการของผใู ช้ เมือ่ จะเก็บข้อมูล ใหเ้ ลือกเก็บข้อมูลเฉพาะทีผ่ ู้ใช้ตอ้ งการเท่านัน้ ต้อง ไม่เกบ็ ขอ้ ม<นลอ่นื ๆIท่ไี มต่ รงกับการใชง้ าน แตใ่ ห้ มQน' ๒G วl ่าt ^ข้อมลู ทต3อ) งการเก๘บนOน' เก๘บ VเIดร^อยา่I ง ครบถว้ นและสมบูรณ์ 3. เป็นขอ้ มูลล่าสุดท่มี คี วามทันสมยั ผู้ใช้ขอ้ มลู นำไปใชไ้ ด้ทันเวลา เพราะเก็บข้อมูลมาดว้ ยความ รวดเร็ว ทนั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ 10
^ กจิ กรรม ^ ชวนเพ่อื นทบทวนลักษณะท่ดี ขี องขอ้ มลู แลว้ สรปุ เนอ้ื หารว่ มกัน เขียนลงในสมุดหรือ กระดาษให้ชดั เจน จากน้ันเล่าสิ่งทีส่ รปุ ใหเ้ พ่ือนคนอนื่ ฟง้ เพ่อื แลกเปลยี่ นแนวคดิ ข้อสงั เกตและ ความเหน็ เพิ่มเตมิ โดยบันทกึ ย่อในสมดุ หรือกระดาษอกี ครัง้ หน่ึง กิจกรรมลักษณะเชน่ นี้เปน็ การช่วยแกฝนใหม้ ีการคดิ พจิ ารณา ไตรต่ รองและตดั สินใจ เลอื กข้อสรุปท่ีดีสำหรับกลุม่ การแกฝนจะช่วยเพิ่มความสามารถทางความคิดมกี ารพฒั นาตนเองในทางทด่ี ใี ห้เกิดข้นึ ซึง่ เปน็ รากฐานท่ีดที ี่นำไปสกู่ ารพัฒนาชมุ ชนและสังคมต่อไป เพราะชมุ ชนและสังคมจะดีได้ตอ้ งเร่มิ จากคนซ่งึ เป็นหนว่ ยเลก็ ทส่ี ดุ เมื่อมกี ารพฒั นาเกิดขึน้ ทกุ ระดับ ท้ายท่ีสดุ จะส่งผลท่ีดีไปสปู่ ระเทศชาตใิ ห้ เป็นปีกแผน่ และมน่ั คง เกบ็ บนั ทกึ ย่อไวใ้ ห้ครผู ้สู อนตรวจสอบ ^ 1. ข้อมqjลู ท่ดี ีมคี วามถqjกต้องแมน่ ยำ อาจมีความคลาดเคลื่อน อยบู่ า้ ง แตก่ ค็ วรควบคมุ ใหเ้ กิดความคลาดเคลอื่ น นอ้ ยท่ีสดุ 2. ขอ้ มลู ทนั สมยั ทนั เวลาท่ตี อ้ งการใช้ข้อมลู ท่ี ถูกตอ้ งแมน่ ยำ แตไ่ ด้ผลมาอย่างลา่ ช้า จะไมม่ คี ุณค่า แม้แตน่ อ้ ยและไมส่ ามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เลย 11
3. ข้อมลู มคี วามสมบรู ณ์ครบถ้วน ใหท้ ง้ั ข้อเท็จจรงิ หรือให้ ขา่ วสารอยา่ งครบถว้ นทุกประการ ข้อมูลท่ไี ดม้ าไมค่ รบ ทำใหใ้ ชก้ ารไมไ่ ด้ 4. ข้อมลู ทไ่ี ด้รับควรจัดระบบให้อยใู่ นรปู แบบท่กี ะทดั รัด ไมเ่ ยนิ่ เย้อ หรอื กระจดั กระจาย จึงจะสะดวกเม่อื ต้องการใช้ และค้นหา ผูใ้ ชเ้ ขา้ ใจข้อมลู ได้ทันที 5. ข้อมqj ูลทจ่ี ดั ทำตรงกับความต้องการของผqjูใช้และจำเป็น ตอ้ งรเู้ พื่อใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อการทำงานต่อไป ท้ังการจัดทำ แผนการตัดสนิ ปญ้ หาทต่ี อ้ งการหาแนวทางคำตอบขอ้ มูล มากมายทีไ่ ม่ตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้จะไม่มปี ระโยชน์ ใดเลย 6. ขอ้ มูลตอ้ งเกบ็ รวบรวมอย่างสมาํ่ เสมอและตอ่ เนื่อง เพ่ือนำไปใช้ประโยชนใ์ นการวิเคราะหว์ ิจยั หรอื หาแนวโนม้ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต ^ กิจกรรม ^ รวมกล่มุ เพือ่ น 6 คน ช่วยกันทบทวนเรื่องคุณสมบัติของขอ้ มูลท่ดี ี โดยให้มีผูอ้ าสาเปน็ หวั หนา้ กลi'มและผ'บ่ ้ชว่ ยหวั หนา้ กลจ่'มพยายามใหเ้ พอื่ น ๆ1ช่วยกนั คิดผลสรqุปจากกลi'มให้ผ'บ่้ชว่ ยเขยี นในสม9ดู หรือกระดาษแล้วรายงานใหก้ ลุ่มอื่นทราบ กิจกรรมนี้ชว่ ยให้ทุกคนแกการทำงานรว่ มกนั ได้รับฟง้ ความคิดเห็นของเพื่อน รู้จกั ลำดบั ความคดิ การใชเ้ หตผุ ล การยอมรับและแกตัดสินใจ ซง่ึ การทำเชน่ นีไ้ ดอ้ าศยั หลกั การ “คดิ เปน็ ’, ซง่ึ เปน็ พืน้ ฐานทด่ี ขี องมนษุ ยใ์ ห้ไดพ้ ัฒนาตนเองและขยายขดี การพฒั นาไปสู่วงกวา้ งต่อไป เกบ็ คำตอบไวใ้ หค้ รผู ู้สอนตรวจสอบ ^ 12
ว ธิ ีการจัดเกบ็ ขอ้ มลู เม่อื ตอ้ งการจดั เกบ็ ขอ้ มูล สิ่งแรกทตี่ ้องคิดและตัดสนิ ใจ คือ จะเก็บข้อมูลดว้ ยวิธกี ารใด แเพ^ตอต่ อ้อะง1น1เรึกดเม^้วอยตว่าอบวิธค๐ีทาถเี่ หามมนา«นะ1เสด3ม)แนล3)้วัน้ ข<จ=&น้ึ งเอAล1ยอกู่ กบั -วรรส/ธรรภกาาพรจคa/ดวเาก๘มบเปข3)็น้อมไปลู ไท<=รด่ต3แ้)อลงะกคาวราซมงต‘ม=ร้งัอใยจtูห่ วลา่ <=า4จ-ย=ระว<ใ=ธ4-ช=ร้ปวธรแะรโกยชคนอ์ การสังเกต ถา้ ต้องการรู้วา่ พระอาทติ ย์ตกโดยเฉลย่ี แล้ว ตรงกับชว่ งเวลาใด กส็ ังเกตช่วงเวลา พระอาทิตย์ตกในแตล่ ะวัน แลว้ จดเวลาท่พี ระอาทติ ยต์ กไว้ทกุ วัน ตอ่ เน่อื งกันไปเป็นสปั ดาห์หรอื เปน็ เดือน ก๘11เด3) ^ 1ฬ8.า0ร^ค31ข8.077+-189.09+18.า018.13+18.15ฯ8.นน' จากนนั้ นำขอ้ มูลเวลาทบี่ ันทึกไว้แต่ละคร้ัง มารวมกัน ไดต้ ัวเลขเทา่ ใดกน็ ำมาหารด้วย จำนวนคร้ังทีจ่ ดบนั ทึกเวลา ก็จะได้ “คา่ เฉล่ีย’, ว่าพระอาทิตยต์ กโดยเฉลีย่ แล้ว ตรงกบั เวลาใด ^ กจิ กรรม ^ ชวนเพ่อื น 1 คนมาทบทวนว่า วิธีการเก็บขอ้ มลู แบบแรกเรียกวา่ อะไร ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งอ่ืนเพอ่ื ใหเ้ ห็นวา่ จะเกบ็ ขอ้ มลู ได้อยา่ งไรและจะหาคา่ เฉลยี่ ด้วยวิธีใด เมื่อไดข้ ้อตกลงร่วมกันแล้วสรุปยอ่ ลงในสมุดหรอื กระดาษ อยา่ ลืมวา่ ต้องช่วยกันคดิ และยอมรบั ข้อเสนอแนะจากเพ่อื น โดยตา่ งฝ่ายตา่ งฟ้งเหตผุ ล ซงึ่ กันและกัน ถ้ายังไมเ่ ขา้ ใจขอให้ถามครผู สู้ อนหรอื ผ ู้ร ู้ เก็บสรปุ ย่อไวใ้ ห้ครผู ูส้ อนตรวจสอบ ^ 13
การเกบ็ ขอ้ มลู ด้วยการสังเกตแม้วา่ จะดูเหมือนง่ายและสะดวก แต่ถา้ ให้ได้ขอ้ มูล ท่ชี ดั เจนและคลาดเคลอื่ นน้อยที่สุด ต้องเฝืาดูด้วยความเอาใจใสโ่ ดยการสังเกตและรบั รูด้ ว้ ยตา หู และ การสมั ผัส วธิ กี ารเก็บขอ้ ม<นูลโดยการสังเกต จึงจำเป็นต้องมขี ้อกำหนดต่าง ๆI ดังน ้ี ^ กำหนดจดุ มุ่งหมายทแ่ี น่นอนและชดั เจนว่าตอ้ งการรู้เรอ่ื งใด ^ วางแผนอยา่ งเปน็ ระบบ กำหนดกรอบการสงั เกตและระยะเวลาให้ชัดเจน ^ บันทึกเหตุการณแ์ ละเรื่องราวทต่ี รงตามความตอ้ งการ ^ สามารถทดสอบเพื่อความลกู ตอ้ งและนา่ เชอ่ื ถือได้ การเกบ็ ข้อม<นูลโดยการสงั เกต แบง่ ออกเป็นขั้นตา่ ง ๆI ทส่ี ำคญั ย 4 ขั้นด้วยกนั คอื 1. ข้ันเตรยี มการสพังเ-กเตลอะกพJ!นทJ ^ เตรียมวสั ดุอุปกรณส์ ำหรับเกบ็ ขอ้ มูลท้งั ภาพและเสียง ^ กำหนดวัน เวลา สถานท่ีและนดั หมายผู้ทจ่ี ะไปทำการสังเกต 2. ขั้นการสังเกต ะ ^ แนะนำตนเองและทำความร้จู กั กบั หวั หนา้ กลุ่มผู้ที่จะไปศกึ ษา ซ่ึงเรียกกันวา่ กลุ่ม ประชากรศึกษา ▼สร3)้างสOJัมพQJ'นธ๕'.dทdดภาย(นกลุ่มG)I ^ สังเกตและเก็บขอ้ มลู ตามประเดน็ หรอื กรอบทีก่ ำหนดไว้ 3. ขัน้ การบนทึกขอ้ มลู ะ เขยี นบรรยายรายละเอียดให้ได้มากท่ีสดุ 4. ขัน้ เสร็จสิ้นการสงั เกต ะ กล่าวขอบคณุ ผใู้ หค้ วามร่วมมอื ซ่ึงให้ขอ้ มูลท่ีเป็นประโยชน์ ^ กจิ กรรม ^ รวมกลq่มเพื่อน 4-6 คน ทบทวนเรือ่ งราวเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆI ทส่ี ำคัญข ในการเก็บ ข้อมูลโดยการสงั เกต จากนน้ั เลือกตัวแทน 1 คน สรปุ ให้เพอื่ นทอ่ี ยูใ่ นกลมุ่ ฟ้ง แต่ละคนบันทกึ ยอ่ ไวเ้ พ่ือ เตอื นความจำในสมดุ หรือกระดาษ ขอใหท้ ุกคนชว่ ยกันคดิ และชว่ ยกนั สรุปเพ่ือบนั ทกึ ย่อไว้เตือนความจำ การมสี ว่ นรว่ ม 61(นกลจI่ ม<ถdlอฌ๘ เนก^ ตกาส0ำคa/ัญช ิท<=5ทํ <1ุกคนควรปกcIClAบตQ/>รร ^ เก็บบันทกึ ยอ่ ไว้ใหค้ รูผู้สอนตรวจสอบ ^ 14
ว ธิ เี ก็บข้อมลู โดยการสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ เปน็ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลทผี่ สู้ ัมภาษณ์และผใู้ หส้ ัมภาษณไ์ ด้ เผชญิ หนา้ กัน โดยมีการพูดคยุ ซกั ถามกนั ตอ่ หนา้ แตต่ ้องไมล่ ืมว่าการพดู คุยกนั ต้องมจี ุดม่งุ หมาย ทชี่ ดั เจนขณะพดู คยุ ผู้เกบ็ ขอ้ มลู หรือผู้สมั ภาษณ์ จะใช้เครอ่ื งมือเพื่อเก็บขอ้ มลู ซงึ่ กค็ ือ แบบสัมภาษณ์ แบบสมั ภาษณ์ คอื อะไร............... แบบสมั ภาษณค์ ือ เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ซ่งึ ในแบบสมั ภาษณจ์ ะมี ข้อคำถามทผี่ เู้ กบ็ รวบรวมขอ้ มลู หรือผู้สัมภาษณใ์ ชเ้ ป็นแนวทางในการซักถามและพูดคยุ กบั ผู้ใหส้ ัมภาษณ์ พดู ใหง้ า่ ยกค็ ือ การสัมภาษณ์ตอ้ งมีคนถามและคนตอบ คนถามใชแ้ บบสมั ภาษณ์ที่ เขียนคำถามไว้แลว้ ขณะสัมภาษณอ์ าจถามและตอบกันแบบปากเปล่า คนตอบเลา่ ให้ฟง้ ส่วนคนถามกจ็ ด 1เๅว2 ^้เ๗บ| นหลO'กฐ<*aานกa/ันลม<2*1 หรออาจ (ชG1 yj การบOSนทกเส<=s ยงดSJ้วยวธ<«s<cSการตIา่ ง ๆ' ทd ทoำ เVดI รได^ยมก<=3 ารขออนฌจิ ขาต บนั ทกึ เสียงในขณะพดู คยุ จดตามไปแลว้ เขียนอีกคร้ังหนง่ึ หลงั การซักถามพูดคยุ จบลง ^ กิจกรรม ^ ลองทบทวนวา่ วธิ ีการเกบ็ ขอ้ มลู โดยการสมั ภาษณ์เป็นอยา่ งไร แล้วบันทึกย่อเฉพาะ เรอ่ื งสำคัญข ทคี่ วรจดจำไว้ในสม1 ูดหรือกระดาษ มโี อกาสเม่อื ใดใหเ้ ล่าส่ิงทีเ่ รียนร'นิูใ้ ห้กับเพื่อน ๆ1 ฟง้ บา้ ง จงเช่อื ม่นั ว่าใครกต็ ามเม่อื รู้อะไรแลว้ สามารถบอกคนอ่ืนได้ จะยิ่งช่วยใหเ้ ข้าใจและจดจำไดต้ ลอดไป เพราะเมื่อเราเผ่อื แผ่ความรใู้ ห้กับเพอ่ื น เพอ่ื นก็จะใหส้ ิง่ เหลา่ นก้ี ลับคืนมาแก'เราเชน่ กนั เก็บบนั ทกึ ย่อไว้ใหค้ รผู ู้สอนตรวจสอบ ^ 15
การเก็บขอ้ มลู โดยการสัมภาษณจ์ ำแนกได้ตามความเหมาะสมกบั งานทีต่ ้องการศึกษา ดังน ้ี สัมภาษณ์เปน็ รายบุคคล ผู้ถกู เลอื กถือวา่ เป็นกลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีเป็นตวั แทนของ ประชากรท่ีจะศึกษาหรอื เรยี กให้ง่ายวา่ เป็นตัวแทนของเร่ืองที่ต้องการรู้ สัมภาษณผ์ ูร้ ู้ทีใ่ ห้ข้อมลู หลักหรือขอ้ มูล สำคัญ ซ่ึงคนอนื่ ไม่รู้ เป็นบุคคลทีแ่ ตกต่าง จากคนอน่ื มคี วามรอบร'นิ'ข้อมqj ลู ต่าง ๆI ในเร่อื งท ่ี ผ ู้สมั ภาษณต์ อ้ งการ เพราะเปน็ การสมั ภาษณ์ ทีเ่ จาะลึกได้แก่ ปราชญช์ าวบา้ น นักวิชาการ นักธุรกจิ ผูน้ ำท้องถ่ินฯลฯ สัมภาษณเ์ ปน็ กล่มุ เพื่อหาข้อมูลจากกลุ่ม บุคคลท่ีให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั เร่ืองท่ตี อ้ งการ ศึกษา วิธกี ารแบบนอี้ าจเรยี กวา่ ซกั ถาม หรอื สนทนากลมุ่ ทุกคนออกความเห็น และซักถามไดอ้ ยา่ งเสรี ^ กิจกรรม ^ รวมกลุ่มโดยชวนเพื่อนอกี 2 คน มาพูดคุยเก่ยี วกบั การเกบ็ ขอ้ มลู 3 แบบ คือ สัมภาษณ์ เป็นรายบุคคล สัมภาษณผ์ ้รู ทู้ ีใ่ หข้ ้อมลู หลกั และสัมภาษณ์เป็นกล่มุ เม่อื ทบทวนจนเข้าใจแล้ว แต่ละคน เลอื กวธิ กี ารสัมภาษณค์ นละแบบ แลว้ ทดลองหมุนเวียนกนั เลา่ ให้เพือ่ นในกล่มุ ฟ้งจนครบท้ัง 3 แบบ 16
ข้นั ตอนเตรียมการเกบ็ ขอ้ มลู โดยการสัมภาษณ์ 1. เตรยี มตัวผู้สัมภาษณ์ นัดประชมุ ชแี้ จงให้ เข้าใจแบบสัมภาษณแ์ ละที่สำคญั ต้อง เขา้ ใจท้ังดา้ นภาษา วัฒนธรรมและ ประเพณีของท้องถ่นิ รวมถงึ ผใู้ ห้ สมั ภาษณแ์ ละสถานทที่ ำการสมั ภาษณ์ 2. ทำหนังสือขอความรว่ มมอื กำหนดวนั เวลาและสถานที่ ซง่ึ จดั เตรยี มไว้ เพอื่ การสมั ภาษณ์และอย่าลมื ตรวจสอบให้ แน่ชัดว่าตดิ ต่อประสานงานครบถว้ นแล้ว 3. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ท่ตี อ้ งใชในการสัมภาษณ!์ ห้ พ๘!ร้อม3Jใช้งาน เช่น ดินสอ ปากกา กระดาษ 4. ขัน้ ส่งแบบสัมภาษณ์!ห้ผ1ู้ หข้ ้อมลู ไดท้ ำความ เขา้ ใจและเตรียมตัวใหพ้ รอ้ มก่อนการสัมภาษณ์ 17
5. ขนั้ การสมั ภาษณ์ ^ ชีแ้ จงวัตถปุ ระสงค์ในการเก็บขอ้ มลู บอกความสำคัญของตวั ผ้ใู ห้สมั ภาษณ์ เพือ่ กระตุน้ ให้ได้ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นจริง ^ บอกประโยชน์จากการเกบ็ ข้อมลู และผลกระทบ ที่จะเกิดขึน้ เพื่อจะไดข้ อ้ มลู ที่ถูกต้องและ ครบถว้ น ^ พยายามใหผ้ ู้ใหส้ มั ภาษณ์บอกข้อมลู มากท่สี ดุ โดยใชภ้ าษาสภุ าพ ไมถ่ ามนำ แต่พยายามให้ ได้คำตอบตามประเดน็ ทตี่ ้องการ X ข้นั บันทึกผลการสมั ภาษณ์ ขณะสมั ภาษณอ์ าจบันทกึ ได้ไมค่ รบถว้ น จึงต้องทบทวนผลการสัมภาษณ์อกี คร้ัง หลักปฏบิ ตั ิในการทบทวนผลการสัมภาษณท์ ตี่ ้องจดจำนำไปใชม้ ดี งั น ี้ ควรบันทึกผลทันทีระหว่างการสมั ภาษณ์ หรือหลงั จากสมั ภาษณ์ผา่ นไปไดไ้ มน่ าน เพราะจะไดไ้ ม่หลงลืม หรอื ไดข้ ้อมลู ทคี่ ลาดเคล่ือนไปจากความเป็นจริง ควรบนั ทึกผลตามจริงเทา่ น้ันและตอ้ งไมเ่ พ่มิ ความคดิ เหน็ ของผูส้ มั ภาษณ์เขา้ ไป 18
ขัน้ สิ้นสุดการสมั ภาษณ์ '& ดขอูควบาคมณุ ลผูกa^Gู!้ตlห้อ3Jสง0รมข๙ฺ /อภรรํงาIษข้อณมG1ทลู 3ๆJ3Jท่ย!หข้อมลู ทเบน/รปร่ ร๘!ะไยIชน<r๙ >* ^ กิจกรรม ^ ชวนเพอ่ื น 1 คน ชว่ ยกันทบทวนและพดู คุยเกีย่ วกบั ข้ันตอนการเกบ็ ข้อมูล โดยการสัมภาษณ์ จากใfนสรุปยอ่ ลงในสมดุ หรือกระดาษ พยายามหาโอกาสเล่าผลสรปุ เร่อื งนใ้ี ห้ เพื่อนคนอ่นื ฟง้ ^ เกบ็ สรุปยอ่ ไวใ้ ห้ครผู ู้สอนตรวจสอบ ^ อย่าลมื วา่ การเรียนรเู้ รื่องใดกต็ าม ถ้าไดท้ บทวนบ่อยคร้ังและพดู คยุ แลกเปล่ียนความรู้ และประสบการณ์กับผ้อู ืน่ ยอ่ มเปน็ การเพม่ิ พนู ความรู้ใหม้ ากย่งิ ข้นึ ว ิธ กี ารจดั เกบ็ ข้อมูลนอกจากการสงั เกตและการสัมภาษณ์ กย็ งั เกบ็ ข้อมลู ไดโ้ ดย การสำรวจ การสอบถามและการรวบรวมข้อมูลทผี่ อู้ น่ื รวบรวมไว้แล้ว 19
การสำรวจเปน็ การออกไปเกบ็ ข้อมลู จาก สถานที่จรงิ เชน่ ถา้ ต้องการรู้ข้อมูลเก่ยี วกับ แมลงท่ที ำลายต้นขา้ วในนา ก'็ ต้องสำรวจไป ทลี ะพนื้ ท่ี แลว้ นำข้อมูลที่ไดม้ าปรบั ปรงุ วิธีการกำจัดแมลงท่ที ำลายตน้ ขา้ ว ขณะสำรวจกต็ อ้ งบันทกึ ขอ้ มลู ไว้ใหช้ ัดเจน เพราะข้อมลู ท่ีไดม้ าจากนาข้าวแตล่ ะแปลง ต้องรวบรวมไว้เพ่ือวเิ คราะหว์ ิธใี นการกำจัดและทำลายแมลงที่เปน็ ศตั รูข้าว ^ กจิ กรรม ^ หาเวลาว่าง มองไปรอบ ๆ ตวั แล้วลองคิดวา่ จะtfารวจอะไรบ้างและมีวธิ กี ารtfารวจ อย่างไร คงเดาไดว้ า่ เราต้องมีแบบtfารวจ โดยเขียนประเด็นทจ่ี ะtfารวจไวล้ ว่ งหนา้ และบันทกึ สภาพทพี่ บ เหน็ ขณะทำการtfารวจ ข้อมูลเหล่านจี้ ะใช้เพ่ือการวเิ คราะห์ตอ่ ไป หาโอกาสเลา่ เรอ่ื งการtfารวจให้เพื่อน ๆ ฟง้ และลองสอบถามว่าเพอื่ นเคยสำรวจอะไร มาบา้ ง เพ่ือเปน็ การแลกเปลย่ี นประสบการณก์ นั 20
การเกบรวบรวมขอ้ มลู โดยการสอบถาม เปนการเกบขอ้ มลู จากประชากร หรือ กลุ่มตัวอยา่ งที่ศกึ ษาโดยใชแ้ บบสอบถาม ซงึ่ หมายความวา่ เรามีแบบสอบถามให้คนทีเ่ ราตอ้ งการรขู้ ้อมลู ตอบกลบั มา การเก็บขอ้ มูลอยา่ งน้ที ำได้ 4 วธิ ี ดังน ้ี ^ สง่ แบบสอบถามทางไปรษณีย์ และกำหนดระยะเวลาส่งแบบสอบถาม ทตี่ อบแลว้ กลบั คนื ใชว้ ิธนี ี้ถ้าผู้ตอบ อยูห่ า่ งไกล คน้ หาหรอื ติดตาม ไม่สะดวก ^ สง่ แบบสอบถามให้กบั มือผตู้ อบ และ กำหนดวิธีการรวบรวมเพอ่ื สง่ คืน หรือ ใหเ้ วลาผู้ตอบแลว้ ส่งคนื ทางไปรษณยี ์ 21
> ฝ| า_กผ3 ้นู ' ำo ท3 ้อ' ง^ถVน | เป| แจกจI่ายG1เห3/ถ5$งม^ อ ผู้ตอบแบบสอบถามแล้วรวบรวมสง่ คนื หรอื ให้เวลาผ้ตู อบแล้วส่งคืนทางไปรษณีย์ ขอความรว่ มมอเจาหนำทเนพนท แจกแบบสอบถามและรวบรวมส่งกลบั คืน หรอื หน่วยงานเจ้าของแบบสอบถามไปเกบ็ แบบสอบถามจากเจา้ หน้าทใ่ี นพื้นทีซ่ ่ึง รวบรวมไวแ้ ล้ว ^ กจิ กรรม ^ ขอให้ทบทวนวธิ ีเกบ็ ขอ้ มูลโดยใช้แบบสอบถามด้วยการชวนเพื่อนอกี 1 คน มาจับคู่กัน แตล่ ะคนเลือกทบทวนวิธเี กบ็ ขอ้ มูลคนละ 2 วธิ ี เมอื่ เขา้ ใจดีแลว้ ผลัดกันเล่าใหเ้ พ่ือนฟง้ ขอใหน้ กึ เสมอว่า ย่ิงเล่าใหเ้ พอื่ นฟ้งหลายครง้ั เท่าไรคนเล่ากจ็ ะจำได้แม่นยำยง่ิ ขึน้ เทา่ นั้น ถ้ายงั ไม่เหนือ่ ยจนเกนิ ไป มารจู้ ักวธิ กี ารจดั เกบ็ ขอ้ มลู ทจ่ี ะฝากไวเ้ ป็นวิธสี ุดทา้ ยกันเลย 22
การรวบรวมข้อมลู ท่ผี ู้อ่ืนรวบรวมไว้แล้ว เปน็ การรวบรวมขอ้ มลู ท่ีเสียคา่ ใช้จา่ ยน้อย เหพนรIVางะส4คอนทdอเ่ืนกdยลวงทกOนุับ' ทส้ังมสุนม1อ1เพงรเวทAลมาผแ9Jลูเ้ ขะยเงนนิ 1แ1เว9ล;้ห้วรเอช่นรวอบยราวกมรู้ขllเ้อว9^มแ้ ลูล3)เ้วกย่ี นวอกกบั จสามกุนน-cไfยพa/งรหกา็หอา!า่ ขนอ้ 1ม1เดูลSJจโาดกยวกาารรอสา่านร นติ ยสารและแหล่งขอ้ มลู ทีม่ ผี ู้นยิ มใชค้ ้นหาขอ้ มลู มากที่สดุ คือ การคน้ หาจากอินเทอรฒ์ ต็ เพราะสะดวก รวดเร็ว มขี ้อมูลท่หี ลากหลายและเสียคา่ ใช้จา่ ยไมม่ าก ข้อควรระวัง : ข้อม<0ลู จากอินเทอรฒ์ ็ตอาจมผี ิดพลาดบา้ ง ควรตรวจสอบกบั แหล่งขอ้ ม<นูลอื่น ๆ1 ด้วย 23
^ กจิ กรรม ^ อา่ นทบทวนเร่อื งการรวบรวมขอ้ มลู ที่ผ้อู ่นื รวบรวมไว้แลว้ อกี ครง้ั หนงึ่ แล้วเล่าให้เพอื่ น ฟง้ จากน้นั คุยกันเรอ่ื งผลดีและผลเสยี ทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ได้ จากการคน้ หาขอ้ มลู ทางอนิ เทอรฒ์ ต็ แลว้ สรุปยอ่ ลงในสมุดหรอื กระดาษ เกบ็ สรุปย่อไวใ้ หค้ รูผู้สอนตรวจสอบ ^ เรือ่ งท่ีน่าสนใจอกี เรอ่ื งหน่ึง คอื ข้อมูลทเ่ี กบ็ รวบรวมมาได้เป็นจำนวนมากและหลากหลายกนั ไปน้ัน จำเป็นต้องนำมา วิเคราะหก์ อ่ นใช้ เมอ่ื พดู ถึงคำวา่ “วเิ คราะห์, ก็คงตอ้ งดูท่คี วามหมายกันก่อน 24
“การวิเคราะห์’, หมายถึง การศึกษา คน้ คว้า ด้วยความละเอยี ดและรอบคอบในเร่อื ง ตา่ ง ๆ ท่เี กิดขน้ึ ตรงตามความต้องการท่จี ะนำไปใช้ โดยลักษณะของข้อมูลและสถิติตา่ ง ๆ เป็นการเรียนรู้ ด้วยการเก็บรวบรวมขอ้ มลู การจัดหมวดหมขู่ อ้ มลู การวิเคราะห์ข้อมลู และการแปลความหมายของ ขอ้ มลู ขอใหน้ ึกอยเู่ สมอวา่ “การวิเคราะห์ขอ้ มูล” หมายถึง การดำเนินการเพ่อื สรปุ ความสำคัญ ของข้อมูลท่จี ะนำไปใช้ ใหต้ รงตามความเป็นจริง ตรงตามความตอ้ งการ จากนั้นจงึ จะนำไปใช้ได้ ^ กิจกรรม ^ รวมกลุ่มเพ่อื น 4-5 คน เพอื่ ทบทวนคำว่า “การวเิ คราะห์” และ “การวิเคราะหข์ ้อมูล” หมายถึง การดำเนนิ การเพอ่ื สรุปความสำคญั ของขอ้ มูลที่จะนำไปใช้ ใหต้ รงตามความเป็นจรงิ ตรงตาม ความต้องการ จากน้นั จงึ จะนำไปใช้ได้ ^ กิจกรรม ^ รวมกล่มุ เพือ่ น 4-5 คน เพื่อทบทวนคำวา่ “การวิเคราะห”์ และ “การวิเคราะหข์ ้อมลู ” ถ้าตอ้ งการเรยี นรู้เพิ่มเติม อาจพดู คยุ กบั ผู้รู้ หาหนงั สือมาอ่าน หรอื ค้นหาความรู้เพ่ิมเติมจากอินเทอร์เนต็ ชว่ ยกันสรปุ ยอ่ เพอื่ เตือนความจำ จากน้นั เลือกตัวแทนจากกลุ่มเพ่ือน 1 คน เพื่อเลา่ สรปุ ถงึ ความรู้ เพ่ิมเติมทหี่ ามาได้ เพ่ือนในกลมุ่ คนอนื่ อาจซกั ถามข้อสงสยั หรืออธิบายเพมิ่ เตมิ กไ็ ด้ การแลกเปลี่ยน ความร้กู นั จะช่วยใหค้ วามรแู้ ตกฉานมากข้ึน ขอใหท้ กุ คนในกลุ่มมสี ว่ นรว่ มและกล้าแสดงออก เก็บสรุปย่อไว้ให้ครูผสู้ อนตรวจสอบ ^ เทคนคิ การวิเคราะห์ข้อมูลนนั้ จำเปน็ ต้องมีหลักเกณฑใ์ นการเลอื กหัวขอ้ เพือ่ การวเิ คราะห์ซ่ึงตอ้ งนึกถึงองคป์ ระกอบ 5 ประการทสี่ ำคัญดงั น ี้ ความสำคญั ของป้ญหา ป้ญหาบางเร่ืองทเ่ี กดิ ขึ้นอาจเป็นข้อมลู สว่ นนอ้ ยเท่านน้ั ไมไ่ ด้มีความสำคัญ มากพอที่จะนำมาวเิ คราะห์ ความเป็นไปได้ ข้อมูลบางเร่ืองท่ีเก็บรวบรวมมาได้อาจเป็นแค'ความคิดทเี่ ล่ือนลอย จะคิดหา หนทางอย่างไรกเ็ ปน็ ไปไม'ได้ 25
ความนา่ สนใจและทนั ต่อเหตุการณ์ ขอ้ มลู บางเร่อื งไม่ไดเ้ ป็นทส่ี นใจของผ้คู นทัว่ ไป อาจน่าสนใจเฉพาะสำหรบั คนบางกลมุ่ นอกจากน้ขี อ้ มลู บางเร่ืองกไ็ มค่ วรเลือกมาวเิ คราะห์ เพราะช้าเกินไปและไมท่ นั ใช้งานแล้ว ความน่าสนใจของผ้วู ิเคราะห์ ผ ทู้ ี่จะทำการวิเคราะหอ์ าจไม่สนใจขอ้ มลู บางเร่อื งทเี่ กบ็ รวบรวมมา เป็นธรรมดา ท/รร่วI่า 61(ครก๘ ตาม 1ๅ(มIสน 6(จ1 เ^ร,อ6ง1 (ด ยI่อม1ๅ(มI คI ่อยม/ะ=รความรqj ูลก*s ซGง1 (นเรองปนี จง (มนา่ จะเลอกพ ้หัว4ขอ111น1'นIOSSๆJOI' มาวิเคราะห์ ความสามารถทจี่ ะทำให้บรรลุผล ข้อมลู ท่ีเกบ็ รวบรวมมา อาจเป็นเรือ่ งท่ีวิเคราะหอ์ อกมาแล้ว มองไม่เห็น ความtfาเร็จซง่ึ คาดว่าจะเกดิ ขึ้น อาจเป็นป้ญหาหรอื เป็นเรอื่ งท่ียากเกินกวา่ จะแกไ้ ขใหt้ fาเร็จได้ หลa/ักเกณฑท เดรจู้ กกน (ปแล้วปี ตองน่ามาคด่ พจารณo' «ะร่ Vl า3J S(JหQSรอ<1บ/ ค1ๅ อIบกรรอ่ นM ทSJoI*ะร่ จะเลอื กหวั ขอ้ มาวเิ คราะห์ เพราะสงิ่ เหลา่ นี้ คอื เทคนิคสำคญั กอ่ นที่จะเลอื กวิเคราะหข์ อ้ มูล ^ กจิ กรรม ^ ชวนเพ่ือนสักคนมาทบทวนเรอ่ื งราวเก่ยี วกบั เทคนคิ การวิเคราะหข์ ้อมqj ลู ด้วยกัน ค่อย ๆI พยายามคิดตามและทำความเขา้ ใจไปพร้อมกัน ขอให้ท่องไวใ้ นใจวา่ “ไมม่ ีอะไรทีย่ ากเกินเรยี นร’ู้ , เรือ่ งท่ี ค่ดวI่ายาก กCj่ควรG1(ชร^เวลาทบทวนซoาหลายครOง' ถSJาครOง' ป!=&ยี a/งIII(มIเขร;าส(ุ จ ครพง้ ตเ่อIII(ปเสก่ ่คงเข3/าG(| จIII(ด3/ ความตOง' G1เจจรง เปน็ สิง่ สำคัญที่สดุ เมอื่ เข้าใจแล้วหาความรู้เพิม่ เติมจากผรู้ ู้ อา่ นจากหนงั สอื ตำรา หรอื ค้นควา้ จาก อนิ เทอรฒ์ ต็ จากนน้ั ช่วยกันสรุปยอ่ เฉพาะเรอ่ื งสำคัญ เกบ็ สรปุ ย่อไวใ้ หค้ รูผูส้ อนตรวจสอบ ^ ถา้ เหนอื่ ยหรือรสู้ กึ สมองลา้ หยุดพกั แล้วคอ่ ยกลับมาเรียนรู้ บทที่ 3 ต่อไป 26
บทท 3 การวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คมและการนำไปใช้!นชวี ติ ประจำวัน การพฒั นาตนเอง ชุมชนและสงั คม เพอื่ ให้เกิดประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั จำเป็นตอ้ งมี การวางแผนทด่ี ี ก่อนอืน่ มารู้จักแผนพัฒนาตนเองกนั เปน็ อย่างแรก แผนพฒั นาตนเองเป็นแผนที่คนใด คนหนึ่งหรอื กลมุ่ คนหลายคนกำหนดขึ้นมา เพ่อื เปน็ แนวทางปฏิบัตใิ นการเสรมิ สรา้ งและเพม่ิ พูนลกั ษณะ ท่จี ำเป็นใหเ้ กิดประสิทธภิ าพและเพม่ิ คณุ ภาพจนไปสู่จดุ หมายที่ต้องการ ^ กิจกรรม ^ ลองนึกดูวา่ ทา่ นเคยคดิ วางแผนพัฒนาตนเองอยา่ งไรแลว้ เล่าใหเ้ พื่อนสนทิ ฟ้ง หลังจาก เล่าไปแลว้ ยอ้ นกลับมาตอบตัวท่านเองว่า เรม่ิ ทำตามแผนหรือยงั และดำเนนิ การตามแผนไปเพยี งใด กิจกรรมนีช้ ว่ ยกระตนุ้ ใหม้ กี ารพัฒนาตนเองอย่เู สมอ ไม่ลา้ หลงั สามารถก้าวไปข้างหนา้ อยา่ งมนั่ คงและตอ่ เนือ่ งตลอดเวลา ควรมองภาพอนาคตไดว้ า่ การวางแผนพฒั นาตนเอง จะเปน็ รากฐานทด่ี ที ่ีจะนำไปสู่ การวางแผนพฒั นาชุมชนและการวางแผนพฒั นาสังคมในทสี่ ุด 27
การใช้ขอ้ มลู จากการวเิ คราะห์เพื่อวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม การวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคม จำเป็นตอ้ งใช้ข้อมูลจากการวเิ คราะห์ มาชว่ ยตัดสนิ ใจเลือกเรอื่ งที่จะพัฒนา เราอาจต้องการพัฒนาหลายเรือ่ ง แตข่ อ้ มลู จากการวเิ คราะหจ์ ะช่วย ในการจดั ลำดบั ความจำเป็นว่าเร่อื งใดควรเลอื กมาพัฒนากอ่ นและเรือ่ งใดควรรอไวพ้ ัฒนาภายหลังได้ รวมท้ังต้องดคู วามเป็นไปได้ท่จี ะพัฒนา แผนพฒั นาตนเองกำหนดได้จากเหตแุ ละผล ในการพัฒนา มกี ารกำหนดเป้าหมายทจ่ี ะ พัฒนาและมองภาพในอนาคตว่าจะได้รับ ความสำเร็จไดอ้ ยา่ งไร หลังจากน้นั จึงคดิ หา วิธกี ารพัฒนารวมไปถงึ ป้จจยั หรอื ส่ิงตา่ ง ๆ ที่ชว่ ยให้ประสบความสำเรจ็ ^ กจิ กรรม ^ ชวนเพอ่ื น 2 คน มารว่ มพูดคุยและทบทวนเร่อื งการใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ เพ่อื วางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชนและสังคม วา่ ต้องทำอย่างไรบ้าง ได้ขอ้ สรุปร่วมกนั แลว้ เลือกผ้แู ทน 1 คน พดู สรุปใหฟ้ ง้ อีกคร้ัง สว่ นอกี 2 คน ถ้ามแี นวคดิ เพ่ิมเติมขอใหพ้ ูดไดอ้ ย่างอิสระ กิจกรรมนชี้ ว่ ยใหท้ ุกคนในกลุ่มไดแกคดิ แกการมีส่วนรว่ ม ร้จู ักการแสดงออกและ ใจกว้าง ยอมรับความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ในกลุ่ม 28
การพัฒนาเปน็ การกำจัดข้อบกพร่องใหห้ มดสิน้ ไป ซ่งึ ตอ้ งใชค้ วามพยายามเป็น อย่างมาก รวมท้ังตอ้ งเอาใจใส่อยา่ งจรงิ จัง จึงจะสามารถพฒั นาตนเอง สังคมและชุมชนไดต้ ามแผน ที่กำหนด ^ กิจกรรม ^ รวมกลมุ่ เพ่ือน 6 คน เลือกเพอ่ื นคนหน่ึงเปน็ ตัวแทนกลุ่มที่จะเปน็ ผกู้ ำหนดแผนพัฒนา ตนเอง ตัดสนิ ใจวา่ จะเลือกพัฒนาเรอ่ื งใดก่อน คาดวา่ จะมีปญ้ หาอะไรเกิดข้นึ บา้ ง และควรทำอย่างไร ให้ประสบผลสำเรจ็ เมอื่ ชว่ ยกันคิดจนได้ผลสรุป ให้เลอื กผู้ทจี่ ะสรุปเรือ่ งราวเล่าให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟง้ ขาดตกบกพร่องตรงไหนให้ เพื่อนในกลุ่มช่วยเพ่มิ เติม กิจกรรมน้ีช่วยใหส้ มาชกิ กลมุ่ ได้ฝกึ คดิ อยา่ งเป็นระบบ รจู้ ักแบง่ ปนประสบการณ์ ใหแ้ ก'กนั ‘ฝึกความกลา้ คดิ กล้าแสดงออก และการยอมรบั เหตแุ ละผลของสมาชกิ ในกลุ่ม 29
การนำแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคมไปใช้!นชีวิตประจำวนั มนุษยท์ กุ คนทอี่ ยใู่ นชมุ ชนและสงั คม สามารถนำแผนพฒั นาตนเองไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ไม่ว่าจะมีอาชพี ใดหรือฐานะเปน็ อยา่ งไร ข้อสำคัญ เม่ือใชช้ ีวติ ประจำวนั ตามแผนพฒั นาตนเองแล้ว ตอ้ งมีการตดิ ตามผล ประเมนิ ผลดูวา่ ตนเองกำจดั สง่ิ ไมด่ ี สงิ่ ท่ีไม่ตอ้ งการออกไปจากชวี ติ ได้หรือไม่ เพราะทุกคนกำหนดไว้ แล้วว่าจะทำอะไร ให้ไดผ้ ลเม่ือไหร่ อีกก่วี ัน กี่เดอื นข้างหนา้ ยังมอี ะไรทเี่ ปน็ ปญ้ หาและอุปสรรคอกี บ้าง จะแกไ้ ขหรือปรบั ตนเองอย่างไรใหก้ ้าวพน้ ขอ้ จำกดั เหลา่ นน้ั ไปได้ ^ กจิ กรรม ^ แต่ละคนลองคิดดวู ่า ขณะนี้ได้ใชช้ ีวติ ประจำวนั ไปตามแผนพฒั นาบคุ คลได้แค'ไหน อยา่ งไร จากน้นั เลือกเพอ่ื น 1 คน เพือ่ ผลัดกนั เลา่ เร่ืองราวทีเ่ กิดข้นึ อยา่ ลืมว่า การทำแผนพัฒนาตนเอง อาจเป็นเร่อื งง่ายสำหรบั บางคน แต่สำหรบั อีกหลายคน อาจเป็นเร่อื งยาก ซง่ึ ต้องใช้ความพยายามเพ่ิมมากขึน้ แกวินยั ในตนเองอกี นิด เพม่ิ ความอดทนและ มีความเสมอต้นเสมอปลายอกี หนอ่ ย การชื่นชมเพอ่ื นจะเปน็ การให้กำลังใจ ช่วยให้คนที่กำลังพยายามทำ ตามแผนพัฒนาตนเองหายเหนอ่ื ยไปได้บา้ ง ในขณะท่ที ุกคนทำตามแผนพัฒนาตนเอง ย่อมส่งผลดตี อ่ แผนพัฒนาชมุ ชนและสังคม ตามไปดว้ ย เกดิ ผลกระทบในทางท่ีดตี อ่ ชมุ ชนและต่อสงั คมโดยรวม นอกจากน้ียงั เปน็ ตวั อย่างท่ีดใี ห้กบั ผคู้ นรอบขา้ งในชมุ ชนและสงั คม 30
จงเช่อื เสมอว่า ธรรมชาติของมนุษยท์ ุกผูท้ กุ นามเปน็ ผูท้ ใ่ี ฝ่ดแี ละทกุ คนจะคดิ แตส่ ่งิ ดี ใหก้ บั ตนเอง มคี วามพรอ้ มทจ่ี ะพฒั นาตนเองใหเ้ ป็นไปในทางที่ถกู ทคี่ วร ประสบการณ์เปน็ สงิ่ ท่สี อน มนุษยใ์ ห้รู้จกั ปรับตวั และสนใจท่ีจะเรียนรู้และพฒั นาตนเองตอ่ ไปไม่มวี นั สิ้นสดุ การมสี ว่ นรว่ มผลกั ดันแผนพัฒนาตนเองชมุ ชนสังคมใหเ้ ปน็ ท่ียอมรับ แผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชนและสงั คมจะเปน็ ท่ยี อมรบั ได้ถ้าทุกคนมสี ว่ นร่วมผลักดนั ใหเ้ กิดขน้ึ การมีสว่ นร่วม เปน็ คำทยี่ ง่ิ ใหญท่ ่จี ะชว่ ยให้เรื่องยากกลายเป็นเรอื่ งง่าย แตก่ อ่ นอน่ื ควรดวู า่ แผนพัฒนา ตนเองมปี ระโยชนอ์ ย่างไร ประโยชนข์ องแผนพฒั นาตนเองคอื ร ู้ข้อดแี ละขอ้ บกพรอ่ งของตนเอง หรอื รู้จุดเด่น จดุ ด้อยของตนเอง แผนพัฒนาตนเองเกดิ ขึน้ จากความต้องการและความพรอ้ มของผจู้ ัดทำแผนโดยตรง \\ l / <ม=sแนวทางปฏI -รรบaต^-รรท/รรชํ ่ Qัด/ เจน มีเปา้ หมายในการพฒั นาตนเอง มีการพฒั นาตนเองอย่างเป็นระบบ เมอ่ื ผูค้ นยอมรบั และเขา้ ใจถงึ ประโยชน์ของแผนพฒั นาตนเองก็จะนำไปสกู่ ารผลกั ดนั ให้มีการใช้แผน เหล่าน้ี ซ่ึงแผนพัฒนาชุมชนจะเปน็ แนวทางการพัฒนาและแกไ้ ขปญ้ หาที่เกิดข้ึนในชุมชน โดยผ่าน กระบวนการคดิ การตัดสินใจโดยชมุ ชนเอง ต่างคนตา่ งรว่ มกันคน้ หา ร่วมกนั เรยี นรู้ มีการสำรวจและ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ภายในชมุ ชน จดั ทำแนวทางพัฒนาชุมชนให้สอดคลอ้ งกบั ความพรอ้ มของชุมชนอย่าง ชดั เจน ซ่ึงแผนพฒั นาชมุ ชนมกั เน้นทก่ี ารสรา้ งรายได้ใหก้ ับชมุ ชน การยกระดับคณุ ภาพชีวติ ของผคู้ นใน ชุมชนและการฟน้ ฟูดูแลทรัพยากรธรรมชาติ รวมทงั้ สงิ่ แวดล้อมภายในชุมชน 31
^ กจิ กรรม ^ ใช้เวลาเพือ่ คดิ ดูวา่ ตัวทา่ นเองมสี ่วนรว่ มผลกั ดนั แผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชนและสงั คม ให้เป็นทย่ี อมรับภายในชุมชนและสงั คมของทา่ นเพยี งใด จากนัน้ รวมกลมุ่ เพ่ือน 6 คน ชว่ ยกันคิดทบทวน ว่า ในชมุ ชนที่ท่านอาศัยอยนู่ ้ัน ผูค้ นให้ความรว่ มมอื ในการผลกั ดนั ใหเ้ กิดการพฒั นาเรอ่ื งใดในชุมชนบา้ ง ขออาสาสมัครภายในกล่มุ 1 คน ช่วยเลา่ เรอื่ งราวที่สรปุ ไดภ้ ายในกลุ่มอีกคร้งั หนง่ึ ^ กิจกรรม ^ ชวนเพอื่ นมาพดู คยุ เก่ยี วกบั หลกั การพฒั นาชมุ ชนในเรื่องความคิดรเิ ร่ิมให้มาจาก ประชาชน เรอ่ื งการมีส่วนร่วมของประชาชนและเรอ่ื งการพ่ึงพาตนเอง พยายามพูดขยายความให้ได้ รายละเอยี ดตามทีเ่ ขา้ ใจมากท่สี ดุ เร่อื งบางเรอ่ื งถ้าเขา้ ใจสภาพทเ่ี ป็นอOยI ่อย่างถอ่ งแท้ อาจอธบิ ายรายละเอียดตา่ ง ๆ1 ไดเ้ อง ตามความเขา้ ใจและถา้ ตอ้ งการร้เู พ่ิมเตมิ กอ็ าจพดู คยุ แลกเปล่ยี นประสบการณก์ ับผ้สู งู อายใุ นท้องถน่ิ ทม่ี ักมีส่วนร่วมในการพฒั นาท้องถิน่ และชq ุมชนในด้านตา่ ง ๆI หรืออาจพ<บ่ดู คqุยกบั เจ้าหน้าทีซ่ ่งึ ทำหนา้ ท่ี พฒั นาชุมชนก็จะไดร้ ายละเอยี ดต่าง ๆ เพม่ิ เติมเป็นอย่างดี การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน หลกั การสร้างการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน แบง่ ไดเ้ ป็น 5 ระดับ คือ ใหข้ ้อมลู ขา่ วสาร เป็นการเปดิ โอกาสให้ประชาชนเข้ามามสี ว่ นร่วม รบั ฟ้งความคดิ เห็น ผา่ นการสำรวจความคดิ เหน็ การรับฟง้ ความคิดเหน็ การจดั เวที สาธารณะและการแสดงความคิดเหน็ ผา่ นเวบ็ ไซต์ ฯลฯ ความเก่ียวข้อง เปิดโอกาสให้ประชาชนรว่ มปฏิบตั ิงานชุมชน รว่ มเสนอแนะ แนวทางเพอ่ื การตัดสินใจ ความรว่ มมือ ใหป้ ระชาชนไดเ้ ปน็ ผแู้ ทนหรอื เป็นกรรมการในคณะกรรมการของ ชมุ ชน ร ] / เส-รรรมอoำนาจจเรห^ ปIระชาชน ไ' ดจย เห9^ปIระชาชน๘(เบร ^น^ผ- ู้ตะ ฉดุ สน61 เจ เชI่น เหฏการลง1G ร1/<รร ประชามตเิ ร่อื งท่ีเปน็ ประเดน็ สาธารณะต่าง ๆI ในชqุมชน รวมท้งั เร่อื งโครงการกองทqุนหมqjูบ่ า้ นท่ใี หอ้ ำนาจ ประชาชนในพ้นื ทเี่ ปน็ ผูต้ ดั สินใจท้ังหมด 32
^ กจิ กรรม ^ ชวนเพือ่ น 3 คน มารวมกล่มุ เพอ่ื ทบทวนเรอ่ื งหลกั การสรา้ งการมสี ่วนรว่ มของ ประชาชนในพ้ืนที่ เมื่อชว่ ยกนั สรปุ แลว้ หาอาสาสมคั รเปน็ ผู้แทนเพอื่ เลา่ เรือ่ งราวใหเ้ พื่อนกลมุ่ อนื่ ฟง้ กจิ กรรมนี้เปน็ การ'ฝกึ การมีสว่ นรว่ มของสมาชกิ กล่มุ รว่ มกันทบทวน รว่ มกนั ทำ ความเขา้ ใจร่วมกนั อธิบายให้แก'กันและร่วมกนั สรุปยอ่ เมอ่ื ทุกคนไดฝ้ กึ การทำงานร่วมกนั แตล่ ะคนจะได้รบั โอกาสในการพัฒนาความคดิ ความมีเหตqมผี ล พรอ้ มท่ีจะรบั ร<1้ข้อมqjลต่าง ๆI ที่เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง ชq มุ ชนและสังคม ไดร้ ับ การพฒั นาใหค้ ิดดแี ละมีจติ ใจดี เปน็ คนท่มี ีคณุ ภาพ ซง่ึ คณุ ลักษณะเหลา่ นีเ้ ปน็ รากฐานของสงั คม ประชาธปิ ไตยและเปน็ กลไกสำคญั ในการพัฒนาประเทศชาติ # ก่อนผ่านการเรยี นร้เู รอื่ งการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม ขอชืน่ ชมทีไ่ ด้ใชเ้ วลา ในเรอ่ื งน้อี ยา่ งเต็มที่ เรื่องบางเร่อื งจะเรยี นรูไ้ ด้ต้องอาศัยใจมาก่อน จากน้ันตามด้วยความรสู้ กึ นกึ คิดทด่ี ี เมอ่ื เข้าใจอย่างถ่องแท้และยอมรับสภาพที่เปน็ จรงิ ของมนษุ ย์แล้วเราจะรู้สกึ ไดว้ ่า การเรยี นรูเ้ ร่อื งน้ี ไม'ยากอย่างทีค่ ดิ 33
บรรณานุกรม การพฒั นาตนเองของครูสูค่ วามเปน็ เลศิ . http://202.143.146.195/krn/index.php?option=com_ Content & task = view & id = 983 & Itemid = 57. ค้นเมอื 2 มนาคม 2553. การมสี ่วนรว่ มของประชาชน. www.moph.go.th/opdc/data. ค้นเมอ่ื 2 มีนาคม 2553. การวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม. www.nonthaburi.go.th/Strategy/KPI_tem516M /2.1.doc. ค้นเมื่อ 2 มนี าคม 2553. เทคนคิ การวิเคราะหขอ้ มูล. http://xdhool.ofec.go.th/noonkuschool/multimedia/rabobsarasontes. Php. คน้ เมอื่ 5 มนี าคม 2553. ประชาชนกับการมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาสังคม. http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/soc2/so31-2-4.htm. ค้นเม่อื 5 มีนาคม 2553. ระดับการมสี ว่ นร่วมของประชาชน. www.portal.in.th/c1inictech/news/384/. ค้นเม่ือ 5 มีนาคม 2553. วธการเกบขอ้ มูล. www.moac.go.th/bulider/gsilkkm/images/05Analysis.doc. ค้นเมอ 12 มนาคม 2553. วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล. http://webwerv.kmit.. Ac.th/&7065545/unit%201%20-%203.html. ค้นเมอื่ 12 มีนาคม 2553. ว ธิ ีการจดั เกบ็ ข้อมูล. http ะ//202.129.1.133/createweb/00000//00000-504.html. คน้ เมอ่ื 12 มนี าคม 2553. หลกการพฒนาชมุ ชน. www.nesdf.go.th/Portals/0/news/plan/p4/m3_8.doc. ค้นเมอื 12 มนาคม 2553. หลกเกณฑการเลอกหวขอ้ ในการวเคราะห. www.moac.go.th/builder/qsilkkm/images/04 Collect.doc. ค้นเมอ่ื 12 มีนาคม 2553. 34
ท ป็่ รึกษา คณ ะผจู้ ัดทำ 1. นายประเสรฐิ บุญเรือง เลขาธิการ กศน. รองเลขาธิการ กศน. 2. ดร.ชัยยศ อ่ิมสวุ รรณ์ รองเลขาธกิ าร กศน. ท ี่ปรึกษาด้านการพฒั นาหลักสตู ร กศน. 3. นายวชั รนิ ทร์ จ ำป ี ผ ู้อำนวยการกลุม่ พัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรยี น 4. ดร.ทองอยู่ แกว้ ไทรฮะ กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกโรงเรยี น ศนู ยเ์ ทคโนโลยีทางการศึกษา 5. นางรักขณา ตัณฑวุฑโฒ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น ผ เู้ ขยี นและเรียบเรียง ศูนย์เทคโนโลยที างการศกึ ษา กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น 1. นางกนกพรรณ สวุ รรณพทิ ักษ์ ข้าราชการบำนาญ ขา้ ราชการบำนาญ 2. นางชนิดา ด ีย่งิ ข้าราชการบำนาญ ข้าราชการบำนาญ ผ ูบ้ รรณาธิการ และพฒั นาปรบั ปรงุ ข้าราชการบำนาญ ขา้ ราชการบำนาญ 1. นางกนกพรรณ สุวรรณพทิ กั ษ์ กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรยี น 2. นางชนดิ า ด ยี ่งิ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรยี น 3. นางสาววรรณพร ปท้ มานนท์ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 4. นายวิวฒั ใ4ไชย จันทน์สุคนธ์ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น 5. นางสาวสรุ พี ร เจริญนชิ กล่มุ พัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรียน 6. นางพชิ ญาภา ปิตวิ รา 7. นางธัญญวดี เหลา่ พาณิชย์ 8. นางเอ้อื จติ ร สมจิตต์ชอบ 9. นางสาวชนิตา จติ ตธ์ รรม คณะทำงาน 1. นายสูรพงษ์ มน่ั มะโน 2. นายศภุ โชค ศรีรัตนศลิ ปี 3. นางสาววรรณพร ปท้ มานนท์ 4. นางสาวศรญิ ญา กุลประดษิ ฐ์ 5. นางสาวเพชรินทร์ เหลอื งจิตวฒั นา ผ ู้พิมพ์ตน้ ฉบบ ป้ทมานนท์ นางสาววรรณพร ผ ู้ออกแบบปก ศรีรตั นศลิ ปี นายศภุ โชค 35
คณะผู้ปรบั ปรุงข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ปี พ.ศ. 2560 ท ป่ี รกึ ษา จำจด เลขาธิการ กศน. หอมดี ผ ู้ตรวจราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ 1. นายสุรพงษ์ สขุ สุเดช ปฏบิ ัตหิ นา้ ทร่ี องเลขาธิการ กศน. 2. นายประเสรฐิ ผ อู้ ำนวยการกล่มุ พัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั 3. นางตรีนชุ ผ ู้ปรับปรุงข้อมูล เถ่ือนมูลละ กศน.เขตบางซือ่ กรงุ เทพมหานคร นางพรสว่สด คณะทำงาน 1. นายสุรพงษ์ มั่นมะโน กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 2. นายศภุ โชค ศรีรตั นศิล'ป้ กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 3. นางสาวเบญ็ จวรรณ อำไพศรี กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 4. นางเยาวรัตน์ ปนี มณวี งศ์ กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 5. นางสาวสลุ าง เพซ็ รสวา่ ง กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 6. นางสาวทพิ วรรณ วงศ์เรอื น กล่มุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 7. นางสาวนภาพร อมรเดซาวฒั น์ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 8. นางสาวซมพนู ท สังข์พชิ ยั 36
ออกแบบบก : ศภุ โชก ศรSี OUศลั ป
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: