ก การพฒั นาหลักสูตรท้องถนิ่ เรอ่ื ง ผา้ ไหมเกบ็ ศลิ ปวัฒนธรรมแหง่ บ้านเมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรสี ะเกษ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-6 ผูจ้ ัดทา นางสาวเพราพิลาส เนยี มจิตร์ รหัสนสิ ิต 61105010078 ผศ.ดร.กติ ตชิ ยั สุธาสโิ นบล โรงเรยี นบา้ นเมืองหลวง สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 2
รายงาน การพัฒนาหลกั สูตรท้องถ่ินเร่ือง ผ้าไหมเกบ็ ศลิ ปวัฒนธรรมแหง่ บา้ นเมืองหลวง อ.ห้วยทับทนั จ.ศรีสะเกษ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1-6 จดั ทาโดย นางสาวเพราพลิ าส เนยี มจิตร์ รหสั นิสิต 61105010078 สาขาวชิ าการประถมศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ เสนอ ผศ.ดร.กติ ติชัย สธุ าสิโนบล รายงานเลม่ น้ีเป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรมสาหรับครูประถมศึกษา 2 (EL 341 SOCIAL STUDIES, RELIGION AND CULTURE FOR ELEMENTARY TEACHERS II) ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ
ก คานา รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมสาหรับครูประถมศึกษา 2 (EL 341 SOCIAL STUDIES, RELIGION AND CULTURE FOR ELEMENTARY TEACHERS II) จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้ที่ศึกษา ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเร่ือง ผ้าไหมเก็บ ศิลปวัฒนธรรมแห่งบ้านเมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรี สะเกษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1-6 โดยเน้ือหาภายในประกอบ ไปด้วยข้อมูลด้านสมรรถนะท่ีสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ข้อมูลพ้ืนฐานของโรงเรียนบ้านเมืองหลวง ประวัติความเป็นมาของ “ผ้าไหมเก็บ” และการพัฒนาหลักสูตรเร่ือง “ผ้าไหมเก็บ” ของโรงเรียนบ้านเมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซ่ึงผู้จัดทาหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้ศึกษาและสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการ จัดการเรยี นการสอนรายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมได้ในอนาคต ผู้จัดทาขอขอบพระคุณ ผศ.ดร.กิตติชัย สุธาสิโนบล เป็นอย่างสูงท่ีได้ให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะในการ จัดทารายงานในคร้ังนี้จนสาเร็จ และผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้เข้ามาศึกษา เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ินเร่ือง ผ้าไหมเก็บ ศิลปวัฒนธรรมแห่งบ้านเมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1-6 หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อผิดพลาด ประการใดคณะผู้จัดทาตอ้ งขออภัยมา ณ ท่นี ด้ี ว้ ย ผูจ้ ดั ทา นางสาวเพราพลิ าส เนยี มจติ ร์
สารบัญ ข เรื่อง ความนา หนา้ วสิ ัยทศั นโ์ รงเรียน 1 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2 โรงเรียนบา้ นเมืองหลวง 3 สถานทต่ี ้ัง 3 สภาพชมุ ชน 3 ผ้าไหมเก็บบา้ นเมอื งหลวง 3 ประวตั คิ วามเป็นมา 4 เอกลักษณโ์ ดดเดน่ ของผา้ ไหมเกบ็ 4 ลักษณะและลวดลายการทอหรอื การผลติ 4 หลักสูตรท้องถ่นิ เรื่อง ผา้ ไหมเกบ็ ศลิ ปวฒั นธรรมแห่งบา้ นเมืองหลวง 5 ความสาคัญ 6 จดุ มุง่ หมาย 6 วัตถปุ ระสงค์ 6 คาอธิบายรายวิชา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 6 โครงสรา้ งรายวิชา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 7 คาอธบิ ายรายวชิ า ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 8 โครงสรา้ งรายวชิ า ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 9 คาอธิบายรายวิชา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 10 โครงสร้างรายวชิ า ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 11 คาอธบิ ายรายวชิ า ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 12 13
โครงสร้างรายวิชา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ข คาอธบิ ายรายวิชา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โครงสรา้ งรายวชิ า ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 14 คาอธบิ ายรายวชิ า ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 15 โครงสร้างรายวิชา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 16 ภาคผนวก 17 บรรณานุกรม 18
1 ความนา กระทรวงศึกษาธิการไดป้ ระกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตามคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. 1239/2560 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2560 และคาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่ี 30/2561 ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการใช้หลักสูตรในปี การศึกษา 2561 โดยให้ใช้ในชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 , 4 และ ม.1 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นตน้ มา ให้ เป็น หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเปูาหมายและกรอบ ทศิ ทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นมพี ฒั นาการเตม็ ตามศกั ยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ ที่ 21 เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบายและเปาู หมายของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน โรงเรียนบ้านเมืองหลวง จึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียน ปีพุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และไดจ้ ัดทาหลกั สตู รทอ้ งถนิ่ เพ่ือนาไปใช้ประโยชน์และเปน็ กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเปูาหมายในการ พัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน ให้มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด โครงสร้างเวลา เรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียน สามารถกาหนดทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแตล่ ะระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดย มีกรอบแกนกลางเปน็ แนวทางที่ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม คณุ ภาพ มคี วามร้อู ยา่ งแทจ้ รงิ และมที ักษะในศตวรรษที่ 21 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างม่ันใจ ทาให้การจัดทา หลกั สูตรในระดับสถานศกึ ษามคี ุณภาพและมีความเปน็ เอกภาพยิง่ ข้ึน อกี ทั้งยังช่วยใหเ้ กดิ ความชดั เจนเรื่องการ วดั และประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละช่วยแกป้ ญั หาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังน้ันในการพฒั นาหลักสูตร ในทุกระดับต้ังแต่ระดับชาติจนกระท่ังถึงสถานศึกษาจะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และ ตวั ชี้วัดท่ีกาหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน รวมท้ังเป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษาทุก รูปแบบและครอบคลุมผู้เรียนทกุ กลมุ่ เปูาหมายในระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน การจัดหลักสูตรท้องถิ่นจะประสบความสาเร็จตามเปูาหมายท่ีคาดหวังได้ ทุกฝุายที่เก่ียวข้องทั้ง ระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องใน การวางแผน ดาเนินการ สง่ เสริมสนบั สนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรงุ แกไ้ ข เพือ่ พฒั นาเยาวชนของชาติ ไปสู่ คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรูท้ ีก่ าหนดไว้
2 วิสยั ทศั น์โรงเรียน โรงเรียนบ้านเมืองหลวง เป็นสถานศึกษาที่มีมาตรฐานด้านการจัดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ใน ชุมชน ผู้เรียนทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพตามความถนัดและสนใจ เป็นคนดี มีคุณธรรมอนุรักษ์ความเป็น ไทย มีทักษะกระบวนการ เท่าทันเทคโนโลยี ยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมขุ และแนวทางของโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน หลักสูตรโรงเรียนบา้ นเมอื งหลวงยึดหลักสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นตามหลกั สูตรการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมุง่ ให้ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดงั นี้ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความ เข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับ หรือไม่รับข้อมูลข่าวสารดว้ ยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและการคิดเป็นระบบเพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจเกี่ยวกับ ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ งๆท่ีเผชญิ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของ หลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆใน สังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการปอู งกันและแก้ไขปัญหาและมีการตดั สินใจท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สังคม และส่ิงแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ งๆไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง บุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆอย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของ สังคมและสภาพแวดลอ้ มและการรู้จักหลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆและมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม
3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเุ รียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ โรงเรยี นบ้านเมอื งหลวง สถานทต่ี งั้ โรงเรียนบ้านเมืองหลวง ตาบลเมืองหลวง อาเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ เป็นโรงเรียน ประถมศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 2 ทาการสอนตั้งแต่ระดับ ปฐมวัยและระดับประถมศึกษา อนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันท่ี 22 กรกฎาคม 2465 โดยใชศ้ าลาวดั เป็นสถานที่ทาการเรยี นการสอน ตอ่ มาได้มผี ู้ใจบุญบริจาคท่ดี ินให้จานวน 9 ไร่ 3 งาน จึงได้ย้ายจากศาลาวัดมาทาการเรียนการสอนที่แห่งใหม่และเปล่ียนซ่ือจากโรงเรียนวัดบ้านเมืองหลวง เป็นโรงเรยี นบา้ นเมอื งหลวง สภาพชมุ ชน โรงเรียนบา้ นเมืองหลวงต้งั อยู่ในชมุ ชนเผ่าเขมร ซึ่งมีการถักทอเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอันเป็นเอกลักษณ์ ของชุมชนโดยเริม่ ตน้ จาก ถัก-ทอ เพื่อสวมใส่กันเอง จนกระทั่งต่อมาชุมชนบ้านเมืองหลวงก็ไดจ้ ัดต้ังกลุ่มทอผ้า พื้นเมืองย้อมสีธรรมชาติด้วยผลของมะเกลือ ถักทอด้วยมือ ตกแต่งลวดลายสีสันตามภูมิปัญญาท้องถิ่นและ รักษาเอกลักษณ์นี้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เมื่อตกถึงรุ่นลูกรุ่นหลานชุมชนแห่งน้ีจึงได้ถักทอตัดเย็บเสื้อผ้า ให้ลกู หลานไดส้ วมใสไ่ ปโรงเรียน เพ่อื ผปู้ กครองจะได้ผลัดเปลยี่ นกับชุดนักเรียนทที่ างราชการจัดหามาให้
4 ผา้ ไหมเกบ็ บา้ นเมอื งหลวง ที่มา : http://i-san.tourismthailand.org/7043/ ประวตั ิความเป็นมา “บ้านเมืองหลวง” เปน็ หมู่บา้ นเก่าแกก่ ว่า 200 ปี ผา้ ไหมเกบ็ บา้ นเมอื งหลวง เร่ิมจากชาวบ้านได้มีการ ปลูกหม่อนเล้ียงไหมแล้วนาเส้นไหมไปลอกกาวและทาเป็นผืนผ้า เกิดลวดลาย “ผ้าเหยียบ” หรือ “ผ้าเก็บ” หรือ “ผ้าลายลูกแก้ว” มีลักษณะเป็นผ้าผืนสีธรรมชาติเป็นสีขาวอมเหลือง ผู้ทอเกรงว่าผ้าดังกล่าวจะสกปรก เน่ืองจากเป็นสีขาวอมเหลือง และการใช้ชีวิตประจาวันของชาวบ้านน้ันมีกิจกรรมการทางานที่หลากหลายซ่ึง อาจจะทาให้ผ้าเปือ้ นหรือสกปรกไดง้ ่าย จึงหาวธิ ีคิดค้นนาเอาวสั ดุธรรมชาติ เช่น เปลือกไม้ต่างๆมาใช้ย้อม แต่ เนื่องจากพื้นท่ีบ้านเมืองหลวงนั้นมีต้นมะเกลือท่ีเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่เป็นจานวนมาก จึงได้มีการนาผล มะเกลือมาลองย้อมผ้าสลับกับการตากแดดและหมักด้วยโคลน โดยทาสลับกันหลายๆคร้ัง จนผ้าไหม เปล่ียนเป็นสีดาสนิทและผ้าไหมที่ผ่านการย้อมด้วยมะเกลือจะมีความหนา เหนียว และทนทาน จากน้ันได้ นามาอบด้วยสมุนไพรในท้องถ่ินเพื่อทาให้ผ้ามีกลิ่นติดหอมทนทาน จึงมีช่ือเรียกผ้าไหมชนิดน้ีตามแหล่งกาเนิด ว่า “ผ้าไหมเก็บบ้านเมืองหลวง” ซึ่งนิยมนามาตัดเย็บเป็นแบบเส้ือพ้ืนบา้ นของชนเผ่าส่วยเขมร มีการเย็บและ ปักตกแต่งให้มีความสวยงามด้วยไหมปักสีสันลวดลายต่างๆ เรียกการปักน้ันว่า \"การแซว\" เกิดเป็นภูมิปัญญา ทอ้ งถนิ่ ท่ีสืบทอดตอ่ กันมา เอกลักษณโ์ ดดเดน่ ของผา้ ไหมเกบ็ “ชมุ ชนบ้านเมืองหลวง” เป็นชุมชนท่ีมีการปลูกหม่อนเล้ียงไหมควบคู่ไปกับการทอผ้า ผลิตภัณฑ์ท่ีมี ชื่อเสียงและโดดเด่น คือ ผ้าไหมเก็บ ซึ่งเป็นสินค้าท่ีมีช่ือเสียงท้ังด้านความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ เน่ืองจากผา้ ไหมเก็บเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมท่ีสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลาน โดยมีการนาเอาประเพณี และวฒั นธรรมเข้ามาผสมผสานในการผลิต ผา้ ไหมแต่ละผืนจงึ มีคณุ ค่าและความหมายเปน็ อย่างยิ่ง
5 ลกั ษณะและลวดลายการทอหรอื การผลิต การผลิตผ้าไหมเก็บของบ้านเมืองหลวง จะทอจากก่ีแบบพ้ืนบ้านแบบทอมือ เป็นการทอลายในตัว มี ชื่อเรียกตามท้องถ่ินว่า “ผ้าเหยียบ” ซ่ึงเป็นการเรียกตามขบวนการผลิต คือ วิธีการทอผ้าให้มีลายจะใช้เท้า เหยยี บก้านไมด้ ้านลา่ งกท่ี อผ้าเพ่อื ดงึ ตะกอแต่ละอนั ใหเ้ กดิ ลาย หรอื เรียกว่า “ผา้ เก็บ” คือ การสร้างลายในการ ทอ หรือ “ผ้าลายลูกแก้ว” เป็นชอ่ื ลายผ้าที่มีลักษณะเปน็ รูปสี่เหลี่ยมขนมเปยี กปูนเล็กใหญ่ซ้อนกันเป็นจุด ๆ กระจายทง้ั ผืนผา้ ในสว่ นของการตัดเย็บเสอ้ื ผา้ ไหมเก็บ นัน้ จะใช้วิธีตดั และเย็บด้วยมือ เน่อื งจากในชมุ ชนแห่งนี้ ไม่มีการใชจ้ ักรเย็บผ้าหรือเครื่องมือทุ่นแรงอื่น ๆ แต่เดิมผ้าไหมเก็บนิยมนามาตัดเย็บตามแบบเส้ือพ้ืนบ้านของ ชนเผ่าส่วยเขมร และปักดว้ ยเส้นไหมสีสันและลวดลายต่าง ๆ ท่ีคนท้องถิ่นเรียกกันว่า “การแซว” กรมหม่อน ไหม ในฐานะหน่วยงานท่ีรับผิดชอบดูแลงานด้านหม่อนไหมทั้งระบบ รวมถึงด้านการส่งเสริม พัฒนา อนุรักษ์ ภูมิปัญญาด้านหม่อนไหม ได้เข้าไปมีส่วนส่งเสริม และสนับสนุนท้ังในด้านการทอ การออกแบบ ทาให้การ ออกแบบตัดเย็บผ้าไหมเก็บในปัจจุบันมีความทันสมัยมากยิ่งข้ึน นอกจากน้ี กรมหม่อนไหมยังดาเนินการเพื่อ ขอข้ึนทะเบยี นส่ิงบ่งช้ีทางภูมิศาสตร์ “ผ้าไหมเก็บ บ้านเมืองหลวง” ซ่ึงขณะน้ียื่นขอขึ้นทะเบยี นต่อกรมทรัพย์ สนิ ทางปญั ญาแล้วและอยรู่ ะหวา่ งการดาเนนิ การเพอื่ ขึน้ ทะเบยี น
6 หลักสตู รท้องถิน่ เรือ่ ง ผ้าไหมเก็บ ศิลปวฒั นธรรมแหง่ บา้ นเมอื งหลวง ความสาคัญ หลักสูตรท้องถิ่นเป็นหลักสูตรท่ีสถานศึกษา จัดทาข้ึนตามวัตถุประสงค์ที่เก่ียวกับสภาพปัญหาใน ชุมชน สังคมและภูมิปัญญาท้องถ่ิน กาหนดให้ผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เรียนรู้เก่ียวกับเน้ือหาท่ี เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นที่ตนอาศัยอยู่ในด้านเศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม ประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจนอาชีพ และภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านทฤษฎีการปฏิบัติท้ังในและนอกห้องเรียนเพ่ือให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของท้องถิ่น ตนเอง รู้จักรกั และหวงแหนความเป็นไทยในท้องถิ่นตนเอง ซ่ึงสอดคล้องกับพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ มาตราท่ี 27 ท่ีมุ่งเน้นความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพ่ือการศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป หลักสูตร “ผ้าไหมเก็บ” เปน็ หลักสูตรท้องถ่ิน ท่ีเน้นกระบวนการ ปฏิบตั ิเพ่ือให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายจากแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือปราชญ์ชาวบ้านที่อยู่ ใน อ.ห้วยทับทนั จ.ศรีสะเกษ จุดม่งุ หมาย 1. เพ่ือนาความรดู้ ้านภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นมาใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 2. เพอื่ ให้ผ้เู รยี นไดเ้ ลง็ เหน็ ถงึ คุณค่าศิลปวฒั นธรรม และอนรุ กั ษภ์ ูมปิ ัญญาในทอ้ งถ่ินไมใ่ หส้ ญู หาย 3. เพอื่ ให้เกดิ การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการเกยี่ วกับทอ้ งถิน่ และสถานศึกษา 4. เพอ่ื นาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อนาความรดู้ ้านภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ มาจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนใหแ้ กน่ กั เรยี น 2. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นเกิดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการเกีย่ วกับทอ้ งถน่ิ และสถานศกึ ษาอย่างเตม็ ศกั ยภาพ 3. เพื่อให้นกั เรียนเลง็ เหน็ ถึงคุณค่าของทอ้ งถน่ิ ตนเอง รกั และหวงแหนทรพั ยากรในท้องถ่นิ ตนเอง 4. เพ่ือให้ชุมชนในท้องถิ่น/ปราชญ์ชาวบ้าน มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของ นกั เรยี นเพอ่ื ให้สามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ศกึ ษาข้อมูลความรดู้ ้านทฤษฎี 2. ฝึกปฏิบัติ 3. ศกึ ษาจากแหล่งเรยี นรจู้ รงิ (ถ้าภผู าเพชร) การวัดและประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรม 2. ผลงานของผู้เรยี น 3. การสอบถาม/การสมั ภาษณ์
7 หลกั สูตรท้องถนิ่ ผา้ ไหมเกบ็ คาอธบิ ายรายวิชา เวลา 10 ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ศึกษา ประวัติความเป็นมาและความสาคัญของผ้าไหม ลวดลายของผ้าไหมเก็บ ลักษณะทั่วไปของ ชุมชน และการนาผลิตภัณฑไ์ ปใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมในชวี ิตประวันจาโดยสอดคล้องตามหลักความพอเพียง ตามโครงการพระราชดาริ โดยใช้กระบวนการทางานในการสืบเสาะหาความรู้ ทักษะการสงั เกต การคิดวเิ คราะห์ การทางานเป็น กลุ่ม การใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล การหาข้อมูลพ้ืนท่ีในชุมชนโดยมีปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนเป็นผู้ให้ ความรู้ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะการแก้ปัญหา การทางานร่วมกับผู้อ่ืน สามารถนาความรู้ไป ปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ มุ่งม่ันในการทางาน เห็นคุณค่าของการนา ความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั และมีความภาคภมู ใิ จในภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ของตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนสามารถอธบิ ายประวตั คิ วามเปน็ มาและความสาคญั ของผา้ ไหมเกบ็ บ้านเมืองหลวงได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถบอกลักษณะโดยท่ัวไปของชุมชนของตนเองได้ 3. ผู้เรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีทหี่ ลากหลายในการแสวงหาความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายการนาผา้ ไหมไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม 5. ผู้เรยี นมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรท้องถน่ิ ผ้าไหมเกบ็ โครงสร้างรายวชิ า 8 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 10 ชั่วโมง หน่วยการ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก เรียนรู้ที่ (ช่ัวโมง) คะแนน ผ้าไหมเก็บ - ผา้ ไหมเกบ็ กาเนดิ ข้ึนจากบ้านเมอื ง 1 บา้ นเมืองหลวง หลวงที่มีการปลกู หม่อนเลีย้ งไหมควบคู่ 3 20 2 ไปกบั ทอผา้ ซ่งึ เปน็ สินค้าที่มีชื่อเสียง 3 20 ด้านความงามและความเปน็ เอกลักษณ์ 3 เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมท่สี บื ตอ่ กนั มา 4 60 ลวดลายผา้ ทอ - ผา้ ไหมเก็บมีลวดลายทีโ่ ดดเด่น สวยงาม สะดุดตา ได้แก่ ลายที่มีช่ือว่า 10 100 “ผา้ เหยยี บ” “ผา้ เก็บ” และ “ผา้ ลาย ลกู แก้ว” ชุมชนตน้ แบบ - ชมุ ชน “บ้านเมืองหลวง” เป็นชุมชน ต้นแบบด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เป็นแบบอย่างการทาวสั ดุทีม่ อี ยใู่ น ท้องถน่ิ มาปรบั ใชก้ ับการดาเนนิ ชวี ติ รวม
หลกั สตู รทอ้ งถ่ิน ผา้ ไหมเกบ็ คาอธบิ ายรายวชิ า 9 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 10 ชวั่ โมง ศึกษา รวบรวมข้อมูลศิลปะของการทอผ้า ลักษณะลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่นของผ้าไหมเก็บ การ เรียนรู้เก่ียวกับลักษณะของผ้าทอพ้ืนเมืองในพ้ืนที่ชุมชนของตนเอง เห็นคุณค่า รักและห่วงแหนภูมิปัญญา ทอ้ งถน่ิ สู่การอนุรกั ษ์ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินใหค้ งอยคู่ กู่ บั ชุมชนและสังคมตลอดไป โดยใช้ทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะ กระบวนการทางาน การวางแผน และการลงพื้นที่เข้าไปศึกษาในแหล่งความรู้ชุมชน ซ่ึงมีปราชญ์ชาวบ้านเป็น ผ้ใู ห้ความรู้ ทกั ษะการปฏิบัติจริงดว้ ยตนเองในการออกแบบลวดลายผ้าทอท่เี ปน็ เอกลกั ษณข์ องตนเอง เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจศิลปะของการทอผ้า ลวดลายที่เปน็ เอกลักษณ์ของผ้าทอในชุมชนของตนเอง เห็น ถงึ คุณค่าและความสาคญั ของศิลปะการทอผ้าไหมเกบ็ มีคณุ ธรรม จรธิ รรม ใฝุหาความรู้ ม่งุ มนั่ ในการทางานให้ ประสบผลสาเร็จ เกดิ ความรกั และความภาคภมู ิใจในบา้ นเกดิ ของตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. ผเู้ รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจในศลิ ปะการทอผา้ ที่ถูกต้อง 2. ผูเ้ รียนสามารถอธบิ ายลวดลายและเอกลักษณข์ องผา้ ไหมในทอ้ งถิน่ ของตนเองได้ 3. ผเู้ รียนตระหนกั เหน็ คุณคา่ ของผ้าทอในทอ้ งถิน่ ของตนเอง 4. ผู้เรียนสามารถบอกแนวทางในการนาความรู้เกี่ยวกับการออกแบบผ้าทอท่ีได้รับไปปรับใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ 5. ผู้เรยี นเกิดความหวงแหนและสามารถอนรุ ักษ์ “ผา้ ไหมเก็บ” ใหค้ งอยู่คู่กับชุมชนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รท้องถน่ิ ผ้าไหมเกบ็ โครงสรา้ งรายวิชา 10 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 10 ชว่ั โมง หน่วยการ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก เรียนรู้ที่ (ชว่ั โมง) คะแนน ศิลปะการทอผา้ - ผา้ ไหมเกบ็ มศี ลิ ปะการทอตามสมัย 1 โบราณโดยการทอจากก่ีแบบพนื้ บา้ น ใช้ 4 60 การเหยยี บก่ีด้านลา่ งเพื่อทาใหเ้ กิด 2 ลวดลายทส่ี วยงาม 3 20 3 20 3 ประยุกต์ใช้ - ผ้าไหมเกบ็ สามารถนาไปใช้ประโยชน์ “ผา้ ไหมเกบ็ ” ได้หลากหลาย เชน่ เครอ่ื งนุ่งห่ม 10 100 กระเป๋า หมวก เปน็ ตน้ รู้รักษ์ผ้าทอ - ผ้าไหมเก็บเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมท่ี สืบต่อกันมา โดยการนาวัฒนธรรม ประเพณเี ขา้ มาผสมผสานในการผลิต ผ้าไหมแต่ละผนื จงึ มคี ุณคา่ และมี ความหมายควรคา่ แก่การอนรุ กั ษไ์ ว้ รวม
11 หลักสตู รทอ้ งถิ่น ผ้าไหมเกบ็ คาอธบิ ายรายวิชา เวลา 10 ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 ศึกษา รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์การออกแบบลวดลายของผ้าไหมให้มีเอกลักษณ์ น่าสนใจและเป็น จุดเด่น ศึกษาเคร่ืองมือ/อุปกรณ์ท่ีใช้ในการท้อผ้าท้ังที่เป็นเทคโนโลยีและเครื่องมือที่มีอยู่ในท้องถ่ิน วาง แผนการทาบัญชีรายรบั -รายจ่าย การศึกษาพื้นท่ชี ุมชนและแหลง่ เรียนร้ทู ี่สาคัญในทอ้ งถ่ิน โดยใช้ทักษะกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ ทักษะการวางแผนออกแบบช้ินงาน การทาบัญชี รายรับ-รายจ่าย ทักษะการปฏบิ ัติงานร่วมกับผู้อ่ืน ทักษะการสร้างสัมพันธ์ร่วมกับนักปราชญ์และแหล่งเรียนรู้ ชุมชน ท้ังการศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการผลิต “ผ้าไหมเก็บ” ของคนในชุมชนและการปฏิบัติงานเพ่ือให้ เกดิ ประสิทธิภาพจากการใชเ้ ทคโนโลยที ่ีเหมาะสม เพอ่ื ให้ผู้เรียนเกิดทักษะการสืบค้นและแสวงหาความรู้ มีทักษะการวางแผนและออกแบบชน้ิ งานอย่าง เหมาะสม มีทักษะพื้นฐานในการทาบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีเจตคติที่ดีต่อวิถีชีวิตในชุมชน เกิดการเรียนรู้ ร่วมกับคนในชุมชนและสามารถใช้เทคโนโลยีในการประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในชุมช นได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ 1. ผ้เู รยี นสามารถออกแบบลวดลาย “ผา้ ไหมเกบ็ ” ใหม้ เี อกลักษณไ์ ด้ 2. ผู้เรียนร้จู ักเครื่องมือที่ใชใ้ นการทอผ้า 3. ผ้เู รยี นบอกเครื่องมือในทอ้ งถิน่ ทีใ่ ช้ในการทอผ้าได้ 4. ผ้เู รยี นทาบญั ชรี ายรับ-รายจา่ ยได้ 5. ผู้เรียนมีความใฝุรู้ มุ่งม่ันในการลงพ้ืนที่ชุมชน สามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รทอ้ งถน่ิ ผ้าไหมเกบ็ โครงสรา้ งรายวิชา 12 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 10 ช่วั โมง หน่วยการ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก เรยี นรูท้ ่ี (ชวั่ โมง) คะแนน ลวดลายบน - ลวดลายทีโ่ ดดเดน่ จะบง่ บอกถึง 1 “ผา้ ไหมเก็บ” ลักษณะเฉพาะของผ้าไหม ประกอบไป 4 40 2 ดว้ ยลายทมี่ ีช่ือว่า “ผา้ เหยียบ” “ผา้ 4 40 เก็บ” และ “ผ้าลายลกู แก้ว” 3 เคร่อื งมอื การทอผา้ - เครอ่ื งมอื ดา้ นเทคโนโลยสี มัยใหม่ 2 20 ได้แก่ จักรเย็บผ้า - เครือ่ งมือตามทอ้ งถ่ิน ได้แก่ ก่ี หลา 10 100 กระสวย บัญชี - การจดบันทกึ ขอ้ มูลการปฏิบัติงานด้าน รายรบั -รายจา่ ย รายรบั -รายจ่าย เพอ่ื เปรยี บเทยี บผลการ ดาเนนิ งาน รวม
13 หลักสูตรทอ้ งถ่ิน ผ้าไหมเก็บ คาอธบิ ายรายวชิ า เวลา 10 ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ศึกษา วิเคราะห์ กระบวนการผลิตและลงมือปฏิบัติจัดทา “ผ้าไหมเก็บ” วิธีการแปรรูปด้วยวิธีที่ หลากหลาย การจัดทาบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเพ่ิมมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การนาวัสดุในท้องถิ่นมา ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ การนาผลิตภัณฑ์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิต เรียนรู้การจัดการ ทางด้านการตลาดเบอ้ื งตน้ โดยใช้ทักษะกระบวนการลงมือปฏิบัติ การแก้ปัญหา กระบวนการทางานร่วมกับผู้อ่ืน ทักษะการลง พ้ืนที่ชุมชน สืบเสาะหาความรู้จากนักปราชญ์ ทักษะการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้ความรู้ให้เกิด ประโยชน์ตอ่ การดาเนินชวี ติ การวางแผนการทางานอยา่ งเป็นระบบและการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเป็นขัน้ ตอน เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางาน เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมกระบวนการการ ทางานกับคนรอบข้าง มีความมุ่งมั่นในการทางาน สามารถยอมรับ รับฟังผู้อื่นและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ อีกท้ังยังเป็นการส่งเสริมให้แต่ละบุคคลมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม และเป็นแนวทางในการเลือก อาชีพของตนเอง ผลการเรยี นรู้ 1. ผูเ้ รยี นอธิบายกระบวนการผลิต “ผ้าไหมเกบ็ ” ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. ผเู้ รยี นลงมือปฏิบัติ จดั ทา “ผ้าไหมเก็บ” ไดด้ ว้ ยตนเอง 3. ผู้เรียนเหน็ คุณคา่ ของวัสดทุ ่ีมอี ยใู่ นท้องถิน่ และสามารถเพิ่มมูลคา่ ได้ 4. ผู้เรยี นจดั ทาบญั ชรี ายรบั -รายจ่ายได้ 5. ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีของตนเอง และสามารถนาความรู้ท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดาเนนิ ชวี ิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 6. ผเู้ รียนมีความรูค้ วามเข้าใจในด้านการตลาดเบื้องตน้ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รท้องถิ่น ผ้าไหมเกบ็ โครงสร้างรายวชิ า 14 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 10 ช่ัวโมง หน่วยการ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก เรียนรู้ท่ี (ช่วั โมง) คะแนน กระบวนการจดั ทา - ผ้าไหมเก็บมวี ธิ กี ารทาท่ีประณีต 1 “ผา้ ไหมเก็บ” • การปลกู หมอ่ นเล้ียงไหม 4 40 • การทาเส้นไหมและยอ้ มสี 2 • การกรอไหมและสาวไหม 2 20 • การทอผ้าไหม 2 20 3 คณุ คา่ ของวสั ดใุ น - ผา้ ไหมมีสว่ นประกอบการผลติ ทีม่ า 2 20 ท้องถิน่ จากพืชพนั ธใ์ นท้องถิน่ สีของผา้ ทามา 4 จาก “ผลมะเกลอื ” ทเี่ ปน็ พืชทอ้ งถน่ิ 10 100 ความร้กู บั วิถีชวี ติ - ประโยชน์ที่ไดจ้ ากผา้ ไหมเก็บ เช่น ใช้ เป็นเครือ่ งนุ่งห่ม ใช้เปน็ กระเปา๋ ในการ บรรจสุ ่ิงของ เปน็ ต้น การตลาดเบอื้ งตน้ - การศกึ ษา วิเคราะหก์ ล่มุ ลกู คา้ ทา ความเข้าใจว่าลกู ค้าคือใคร ต้องการซอ้ื เพราะอะไร เพื่อทาการสื่อสารให้ลูกคา้ ซื้อสนิ ค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวม
หลกั สูตรทอ้ งถ่นิ ผา้ ไหมเก็บ คาอธบิ ายรายวชิ า 15 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 10 ช่วั โมง ศึกษา การแปรรูปผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่หลากหลายและคงความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถ่ิน การ พัฒนาต่อยอดสนิ คา้ การผลติ บรรจุภัณฑท์ ี่สวยงามและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เรยี นรู้ด้านการใช้ เทคโนโลยีในการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบที่เหมาะสม เรียนรู้ด้านการตลาดเบ้ืองต้นและการเป็น ผปู้ ระกอบการรุ่นเยาวน์ วางแผนและศึกษาวิธกี ารในการกระจายสินค้าไปยังกล่มุ สินคา้ ท้องถ่นิ หรือ สินคา้ O-TOP เพ่ือสร้างรายไดใ้ ห้ตนเอง ครอบครวั และประเทศชาติ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ท่ีช่วยสร้างความเข้าใจทั้งการสังเกต การวิเคราะห์และการปฏิบัติ กระบวนการทางานร่วมกับผู้อ่ืน การทางานตามลาดับขั้นตอนที่ถูกต้อง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ เน้น กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากการลงมือปฏิบัติ ใช้ทักษะความรู้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล ใช้ทกั ษะการสอื่ สารข้อมูล และส่งเสริมด้านการตลาดโดยใช้โซเชยี ลมเี ดีย เพ่ือให้ผู้เรียนรู้จักการแปรรูปผ้าไหมในรูปแบบท่ีหลากหลาย มีความคิดในการพัฒนาสินค้าให้มี คุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค มีความคิดสร้างสรรค์ในการจัดทาบรรจุภัณฑ์ เกิดการใช้ เทคโนโลยีมาช่วยในการประชาสัมพันธ์สินค้าได้อย่างถูกต้อง มีความใฝุรู้ในเรื่องของกระจายสินค้าให้ผู้คน ภายนอกรู้จัก สามารถผลักดันสินค้าสู่สินค้า O-TOP และสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวโดยไม่ทาให้ผู้อ่ืน เดือดรอ้ น ผลการเรยี นรู้ 1. ผู้เรยี นแปรรูปและจัดทา “ผา้ ไหมเก็บ”ในรูปแบบท่ีหลากหลายได้ 2. ผู้เรยี นพัฒนาสนิ ค้าให้ตอบสนองความต้องการของผบู้ รโิ ภคได้ 3. ผู้เรียนใช้เทคโนโลยใี นการประชาสมั พันธห์ รือสื่อสารได้อย่างเหมาะสม 4. ผเู้ รยี นมีความรู้ดา้ นการตลาดเบอ้ื งตน้ และสามารถเป็นผู้ประกอบการรุน่ เยาวไ์ ด้ 5. ผูเ้ รียนกระจายสนิ คา้ ไปยังตลาดสินค้า O-TOP ได้ 6. ผู้เรียนสามารถสร้างรายไดใ้ ห้กับตนเองและครอบครัวและดาเนินตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง โดยไม่ทาให้ผูอ้ น่ื เดอื ดร้อน รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รท้องถ่ิน ผ้าไหมเกบ็ โครงสร้างรายวิชา 16 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 10 ชว่ั โมง หน่วยการ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก เรียนรูท้ ี่ (ช่ัวโมง) คะแนน ผา้ ไหมเก็บกับการ - การแปรรปู “ผ้าไหมเกบ็ ” จะช่วย 1 แปรรปู สรา้ งความหลากหลายให้ผา้ ไหมจาก 2 20 การนาไปจัดทากระเป๋า หมวก กางเกง 2 เพือ่ ให้สามารถนาไปใช้งานได้ 3 30 3 หลากหลายยงิ่ ข้ึน 2 20 4 บรรจภุ ัณฑแ์ สนสวย - การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ท่ีสวยงาม 3 30 และน่าสนใจเปน็ การเพ่ิมมลู ค่าให้กบั ผลติ ภณั ฑแ์ ละดงึ ดดู ผู้บริโภคได้ 10 100 ประชาสัมพันธ์ - การประชาสัมพนั ธโ์ ดยการสื่อสาร สินค้าท้องถิ่นสู่ บอกเลา่ และใชผ้ ลิตภณั ฑเ์ ป็นตวั อยา่ ง สากล - ใชเ้ ทคโนโลยปี ระชาสมั พันธ์ให้บคุ คล รบั รู้ในพน้ื ทชี่ มุ ชน จงั หวัดและประเทศ สนิ คา้ O-TOP - ผลักดันผลติ ภัณฑ์ทสี่ าเร็จรปู สกู่ ารเปน็ สินค้า O-TOP ในนามศลิ ปวัฒนธรรม พื้นบา้ นเพ่อื เพิ่มมลู คา่ และความ นา่ เชือ่ ถอื รวม
หลกั สตู รท้องถน่ิ ผ้าไหมเกบ็ คาอธบิ ายรายวิชา 17 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 10 ชวั่ โมง ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายข้ันตอนการตลาดเบื้องต้นในเชิงการทางาน การหาวิธีสร้างรายได้ให้กับ ผลิตภัณฑ์และชุมชน เรียนรู้การสร้างเครือข่ายกับองค์กรภายในและนอกท้องถ่ิน การส่งออกสินค้าที่มี มาตรฐาน การพัฒนาสินค้าให้ทันสมัยและการสร้างแบรนด์ให้กับตัวผลิตภัณฑ์ การนาผลิตภัณฑ์ไปใช้เป็น แนวทางในการประกอบอาชพี ในอนาคต โดยใช้ทักษะกระบวนคิด วิเคราะห์ การใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล การส่ือสารและการทางาน กับผู้อ่ืนอย่างเหมาะสม ทักษะการวางแผน การบริหารจัดการ การปฏิบัติงานอย่างเป็นข้ันตอนในการส่งออก สินค้า การใช้เทคโนโลยีในการติดตามข่าวสาร แนวโน้มด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าของ ตนเองเพอ่ื ให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และบรรลตุ ามวตั ถุประสงคท์ ต่ี ั้งไว้ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นแนวทางในการต่อยอดอาชีพ โดยการใช้ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับ “ผ้าไหมเก็บ” การตลาดควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพ่ือเพ่ิมความน่าสนใจและเพิ่มมูลค่า ให้แก่ผลิตภัณฑ์ เกิดความรู้ในการสร้างเครือข่ายกับองค์กรภายนอก มีความรู้ด้านการผลิตและจัดจาหน่าย สินค้าท่ีมีคุณภาพด้วยแบรนด์ของตนเอง และมีความใฝุรู้ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพและ แกไ้ ขปญั หาในชวี ิตประจาวัน รวมทง้ั ตอ่ ยอดให้เกิดการพฒั นาชุมชนในอนาคต ผลการเรียนรู้ 1. ผู้เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในด้านการตลาดเบอื้ งตน้ ได้อย่างถกู ต้อง 2. ผู้เรียนสรา้ งรายไดใ้ หจ้ ากสนิ ค้าสชู่ ุมชนได้ 3. ผูเ้ รยี นสร้างเครือข่ายดา้ นการตลาดทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ รได้ 4. ผ้เู รยี นจัดจาหน่ายถงึ สง่ ออกสนิ ค้าได้ 5. ผเู้ รยี นสามารถสร้างแบรนด์ให้กับสินคา้ ของตนเองให้เปน็ ทร่ี ู้จักของบคุ คลภายนอกได้ 6. ผ้เู รยี นนาความรูท้ ไ่ี ดไ้ ปสรา้ งรายไดแ้ ละใช้เปน็ แนวทางในการสร้างอาชพี ได้ในอนาคต รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรท้องถิ่น ผ้าไหมเกบ็ โครงสรา้ งรายวชิ า 18 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 10 ชวั่ โมง หนว่ ยการ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก เรยี นร้ทู ี่ (ช่ัวโมง) คะแนน การสรา้ งแบรนด์ - “ผา้ ไหมเก็บ”เปน็ ศิลปะการทอผา้ ที่ 1 งดงาม การสร้างแบรนดจ์ ะชว่ ยเพิ่ม 2 20 ความนา่ สนใจ น่าเชื่อถือ และไดร้ ับ 2 20 2 ความไวว้ างใจจากผบู้ รโิ ภค 4 40 3 สานสมั พนั ธ์ - การดาเนินการจัดจาหน่ายตอ้ งอาศัย เครอื ข่าย ความรว่ มมือจากหลากหลายองค์กร 2 20 4 10 100 ได้แก่ นกั ปราชญ์ แหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน กลุ่มสินคา้ O-TOP ตัวแทนจดั จาหนา่ ย บริการดา้ นขนสง่ และผู้บริโภค การตลาดและการ - การตลาดสามารถทาไดห้ ลากหลายวิธี ส่งออก เช่น การจดั จาหน่าย การตงั้ ราคาสนิ คา้ แนวโน้มด้านอุปสงค์ อุปทาน เปน็ ต้น - การสง่ ออกเป็นการเพมิ่ โอกาสทาง การค้าให้กบั ผา้ ไหมเพิส่ ง่ ไปถึงลกู คา้ ได้ อยา่ งราบรนื่ สรา้ งอาชีพ - “ผา้ ไหมเกบ็ ”หรือภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ จากผ้าไหมเก็บ เป็นผลิตภัณฑ์ทช่ี ว่ ยสรา้ งอาชพี ท่ีดี สุจริต เป็นเกียรติ และสรา้ งรายได้ใหก้ ับ ผู้เรียนและคนในชุมชนได้ รวม
ภาคผนวก
บรรณานุกรม กฤษฎี ศิริเรือง. (2556). วธิ กี ารสอน กลยุทธ์การสอน และเทคนคิ การสอน. สบื ค้นเมอื่ 28 มกราคม 2564, จาก https://www.gotoknow.org/posts/539440 จิราภรณ์ คุ้มเพชร. (2555). เทคนคิ และวธิ ีการสอน. สืบค้นเมอ่ื 29 มกราคม 2564, จาก https://www.gotoknow.org/posts/388129 จิราภรณ์ ยกอินทร.์ (2557). การจดั การเรยี นรผู้ า่ นการลงมือปฏบิ ตั ิ. สบื คน้ เม่อื 29 มกราคม 2564, จาก http://nakhonnayok.dusit.ac.th/wp-content/uploads/2015/11/%E0%B8%9A%E0%B8% 97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0 %B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf ไพโรจน์ คะเชนทร.์ (2557). การสอนนาฏศลิ ป์. สบื ค้นเม่อื 27 มกราคม 2564, จาก http://priroj.orgfree.com/pdf30/3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8F%E0%B8%A8%E0 %B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B9%8C.pdf อมรา กลาเจรญิ . (2535). วธิ สี อนนาฏศลิ ป์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร.์ Jithapoon Munkthwit. (2554). วิธีการสอน. สืบค้นเม่ือ 28 มกราคม 2564, จาก https://maymymay.wordpress.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: