สมดลุ เคมี Chemical Equilibrium
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี สมดลุ เคมี (Chemical Equilibrium) By K.nan 1
เคมี (ครูแนน) สมดุลเคมี สมดลุ เคมี 1. การเปลยี่ นแปลงของสาร ( Change of substance) สารสามารถเปลยี่ นแปลงได 3 ชนิด คอื 1.1 การเปลย่ี นสถานะ เปนการเปลีย่ นแปลงของสาร เนอื่ งมาจากแรงยดึ เหน่ียวระหวางอนภุ าค ของสารกับพลงั งานจลนข องสาร ซง่ึ สารมี 3 สถานะ คอื ของแขง็ ของเหลว แกส เพม่ิ อุณหภูมิ, ลดความดนั เพมิ่ อณุ หภูมิ,ลดความดนั ลดอณุ หภมู ิ , เพ่มิ ความดนั ของแข็ง ของเหลว แกส ของแขง็ ลดอุณหภมู ิ, เพิ่มความดนั ลดอุณหภูมิ , เพิม่ ความดนั เพมิ่ อุณหภูมิ , ลดความดนั ** เพิ่มอณุ หภูม:ิ เพ่มิ พลงั งานจลนข องสาร ลดแรงยดึ เหน่ยี วของสาร ** ลดอุณหภมู ิ:ลดพลงั งานจลนข องสาร เพ่ิมแรงยดึ เหนี่ยวของสาร 1.2 การละลายของสาร เปน การเปล่ียนแปลงเนอื่ งมาจากการแยกแลว สารแทรกตวั ระหวาง อนุภาคของสารตางชนดิ กนั ซง่ึ แตล ะสารตอ งมีลกั ษณะแบบเดยี วกนั จงึ จะเกดิ การละลายไดด ี ไดแก นา้ํ กับนํา้ ตาล , NaCl กับ KNO3 ถาสารใดสารหน่งึ เกนิ กวา ความสามารถในการรับสารใหอยูรว มกนั กเ็ กดิ การแยกตวั ออก ถา สารแยกตวั ออกเปนของแข็ง มักจะเรยี กวา การตกผลึก การเปล่ยี นแปลงนี้จะ เปลยี่ นเฉพาะความกลมกลนื ของเน้อื สารเทา น้นั องคป ระกอบทางเคมไี มเปลยี่ นแปลง 1.3 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี เปน การเปล่ียนแปลงของสารทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการเปลี่ยนองคประกอบทางเคมี ของสาร ซ่งึ มผี ลทาํ ใหสมบตั ิทางกายภาพเปล่ียนโดยสิน้ เชิง ไดแ ก ไฮโดรเจนทําปฏกิ ิริยากบั ออกซิเจนได นํ้า , ทองแดงเผารวมกับกาํ มะถนั ไดท องแดงซลั ไฟด ฯลฯซ่ึงการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี จะแบงออกเปน / ประเภท คอื ปฏกิ ริ ยิ าผนั กลบั ได และปฏกิ ริ ยิ าผนั กลบั ไมไ ด 2. ทศิ ทางการเปลี่ยนแปลงของสาร การเปลี่ยนแปลงของสารจะมี 2 ทศิ ทาง คือ การเปล่ยี นแปลงไปขางหนา (Forward change , F) กับการเปลี่ยนแปลงดําเนินยอนกลับ ( Backward change, B)การเปล่ียนแปลงใดๆของสาร การที่เราจะทราบวามีการเปลี่ยนแปลงดําเนินไปทิศทางใด ตองรูวามีจุดเริ่มตนตรงสารใด แสดงวา สิ่งที่เปลี่ยนไปนี้เปนการเปล่ียนแปลงดําเนินการไปขางหนา และการเปลี่ยนแปลงท่ีไดยอนกลับมาเปน สารเดิมอีก เรียกวา การเปล่ียนแปลงดําเนินยอนกลับ ไดแก นํ้าระเหยกลายเปนไอนํ้า เปนการ เปลี่ยนแปลงดําเนินไปขางหนา สวนไอนํ้ากล่ันตัวกลับมาเปนน้ําฝน แสดงวา เปนการเปล่ียนแปลง ดาํ เนินไปยอ นกลบั ฯลฯ 2
เคมี (ครูแนน) สมดุลเคมี 3. การเปลยี่ นแปลงทผ่ี นั กลบั ไดแ ละกลบั ไมไ ด (Reversible & Irreversible change) 3.1 การเกิดปฏกิ ิรยิ าท่ผี ันกลับไมได (การเกดิ ปฏิกิริยาทเี่ กดิ ขึ้นอยางสมบูรณ) สารต้งั ตน กลายเปน ผลิตภณั ฑ สารตั้งตน ลดลงเกิดผลติ ภณั ฑม ากขึน้ สารตัง้ ตนหมดปฏิกริ ยิ าหยดุ เกดิ ไมเกิดการเปล่ยี นแปลงยอ นกลบั (ในบางปฏกิ ิรยิ าสารตง้ั ตนมมี ากวา 1 ชนดิ เชน A + B C ถาตัวใดตวั หนง่ึ หมด เชน A หมด B คือมากเกนิ พอ ถา B หมด A คือมากเกนิ พอ ปฏกิ ริ ยิ าหยุด ไมเ กดิ ปฏกิ ิรยิ ายอ นกลบั กถ็ อื วา เปน ปฏกิ ริ ิยาทีเ่ กดิ ขน้ึ อยางสมบรู ณ ) เชน การเผาลวด แมกนเี ซียม 3.2 การเกิดปฏกิ ิรยิ าท่ผี ันกลบั ได (การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าท่ีเกิดขึน้ ไมอ ยา งสมบูรณ) การเกิดปฏิกิริยาที่ผันกลับได คือ สารต้ังตนทําปฏิกิริยากันกลายเปนผลิตภัณฑ สารผลิตภัณฑที่เกิดขึ้นสามารถทําปฏิกิริยากันกลายเปนสารตั้งตนไดอีก การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได ตางจากการเกิดปฏิกิริยาเคมีท่ีผันกลับไดกลาวคือ การเปล่ียนแปลงที่ผันกลับไดสารต้ังตนและ ผลิตภัณฑจะมีคุณสมบัติเหมือนกัน เชน นํ้าตาลกับน้ําเชื่อมจะมีรสหวานแมสถานะจะเปล่ียนไป แตถา เปนปฏิกิริยาท่ีผันกลับได สารตั้งตนเม่ือเกิดปฏิกิริยาเคมีจะไดผลิตภัณฑท่ีมีคุณสมบัติตางไปจากสารตั้ง ตน และผลิตภัณฑจะมกี ารทาํ ปฏกิ ิรยิ าหรอื สลายตวั กลายมาเปนสารต้ังตนเหมอื นเดิม • สารตั้งตนกลายเปน ผลิตภณั ฑเ รียกวา ปฏิกิริยาไปขา งหนา (Forward reaction) • ผลติ ภณั ฑกลายเปน สารต้งั ตนเรยี กวาปฏกิ ิรยิ ายอนกลับ(Backward reaction) •ถาในปฏกิ ริ ยิ าใดๆ มที ง้ั ปฏกิ ริ ิยาไปขา งหนา และปฏกิ ิริยายอ นกลบั จะเปน ปฏิกริ ยิ าท่ผี นั กลบั ได ปฏกิ ริ ยิ าทผ่ี นั กลบั ได (ภาชนะเปด ) Fe3+(aq) + 2I-(aq) ปฏกิ ริ ยิ าเคมี CH3COOH(l) + C2H5OH(l) I2(aq) + 2Fe2+ (aq) Zn(s) + Cu 2+ (aq) CH3COOC2H5(l) + H2O(l) Zn2+ (aq) + Cu(s) ปฏกิ ริ ยิ าทผ่ี นั กลบั ไมไ ด (ภาชนะเปด ) ปฏิกริ ยิ าเคมี Zn(s) + 2HCl(aq) ZnCl2(aq) + H2(g) NaHCO3(aq) + HCl(aq) NaCl(aq) + CO2(g) + H2O(l) Na2CO3(aq) + 2HNO3(aq) 2NaNO3(aq) + CO2(g) + H2O(l) 3
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี ปฏกิ ริ ยิ าทผี่ นั กลบั ไดเ มอื่ อยใู นภาชนะปด 2CO(g) + O2(g) ปฏกิ ริ ยิ าเคมี NO(g) + SO3(g) H2(g) + SO3(g) 2CO2(g) CaCO3(s) NO2(g) + SO2(g) CoO(s) + H2(g) H2SO3(g) CaO(s) + CO2(g) Co(s) + H2O(g) นยิ ามศพั ท ระบบเปด (Opened system) คอื ระบบที่มีการถา ยเทไดท ัง้ มวลสารและพลงั งานกับสิง่ แวดลอ ม ระบบปด (Closed system) คือ ระบบที่มกี ารถา ยเทเฉพาะพลังงานอยางเดียวแตไ มมีการถายเทมวลสาร ระบบโดดเด่ียว (Isolated system) คือ ระบบทีไ่ มมกี ารถา ยเทท้ังพลังงานและมวลสารแกสง่ิ แวดลอม 4. ภาวะสมดลุ (Equilibrium state) ภาวะสมดลุ หมายถงึ ภาวะทสี่ ารทกุ ชนดิ ในระบบมปี ริมาณคงทีห่ รือภาวะทร่ี ะบบมีสมบตั คิ งที่ หรอื ภาวะทอี่ ตั ราการเปลีย่ นแปลงไปขางหนา เทากบั อตั ราการเปลย่ี นแปลงยอ นกลับ ภาวะสมดลุ จะ เกิดขน้ึ ไดกต็ อ เมื่อ 1. เปน การเปล่ยี นแปลงผนั กลับได 2. เปน การเปลย่ี นแปลงภายในระบบปด ดังน้นั ภาวะสมดลุ จงึ สามารถแบงออกไดเ ปน 3 ประเภท ไดแก 1. ภาวะสมดุลระหวางสถานะ 2. ภาวะสมดลุ ในสารละลายอ่ิมตัว 3. ภาวะสมดุลในปฏกิ ริ ยิ าเคมี 4.1 ภาวะสมดลุ ระหวา งสถานะ ตัวอยางการเกิดภาวะสมดุลระหวางสถานะ เชน เมื่อใสเกล็ดไอโอดีนในขวดรูปกรวยแลวปดฝา ขวดดวยจุกยาง ตั้งทิ้งไวที่อุณหภูมิหอง สักครูหนึ่งจะพบวา เกิดไอสีมวงของไอโอดีนและสีคอยๆเขมขึ้น จนในที่สุดสีจะคงท่ี และปริมาณเกล็ดไอโอดีนจะคงที่ (สมบัติของระบบคงท่ี) แสดงวา ไอของไอโอดีนมี ความเขมขนคงท่ีและไมวาต้ังท้ิงไวนานเทาใด สีก็จะไมเปล่ียนแปลงถาอุณหภูมิคงที่ แสดงวา ขณะนั้นได เกดิ ภาวะสมดุลแลว คอื เปนสมดุลระหวางไอโอดีนที่มีสถานะเปนของแข็งกับไอโอดีนที่มีสถานะเปนไอใน 4
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี ระบบปด ณ อุณหภูมินั้น (ถาใหระบบอยูในภาวะสมดุลนานๆ จะพบวา มีเกล็ดไอโอดีนบางสวนหายไป หรือเลก็ ลง แตมเี กลด็ ไอโอดีนบางสวนเกิดข้ึนใหมหรือใหญกวาเดิม โดยสีของไอโอดีนจะคงท่ีตลอดเวลา) ภาวะที่ระบบไมไดอยูนิ่งและมีอัตราการเปลี่ยนแปลงไปขางหนาเทากับอัตราการเปล่ียนแปลงยอนกลับ เรียกวา สมดุลไดนามิก (Dynamic equilibrium) 4.2 ภาวะสมดลุ ในสารละลายอ่ิมตัว เม่ือใหตัวถูกละลาย (Solute) ละลายในตัวทําละลาย (Solvent) ตัวถูกละลายก็จะละลายไดเร็ว ในตอนแรกแลวละลายไดชาลงและเมื่อเกิดสารละลายอ่ิมตัว เราจะพบวาตัวถูกละลายไมละลายอีกตอไป ไมวาจะคนสารละลายเปนเวลานานเทาใดถาอุณหภูมิคงท่ี ตัวอยางเชน การนําเกลือแกง (NaCl) มาละลายน้ํา จนไดสารละลาย และละลายตอจนไดสารละลายอ่ิมตัว เมื่อตั้งสารละลายอิ่มตัวไวจะเกิด ผลึกของ NaCl เกิดขึ้น แลวจะมีปริมาณเพิ่มข้ึนเร่ือยๆจนในที่สุดผลึกคงท่ี เรายังดูเหมือนวาไมเกิดผลึก อีก แตในระบบผลึกยังคงเกิดขึ้นเร่ือยๆแลวก็ละลายในสารละลายอีกดวย ดังนั้น ภาวะสมดุลใน สารละลายอิม่ ตัวก็เปน สมดุลไดนามิก 4.3 ภาวะสมดลุ ในปฏกิ ิรยิ าเคมี ภาวะสมดลุ ในปฏกิ ิริยาเคมี จะเกิดขน้ึ ไดก ็ตอเมอื่ 1. เปนปฏิกิริยาผันกลับได 2. ปฏกิ ิริยาเกดิ ในระบบปด เมื่อใหสารตั้งตน (Reactants) ทําปฏิกิริยากันจนเกิดเปนสารผลิตภัณฑ (Products) ถาทํา ปฏิกิริยาจนสารต้ังตนเปล่ียนแปลงไปเปนสารผลิตภัณฑจนหมด (สารตั้งตนสารใดสารหนึ่งหรือทุกสาร หมด) แสดงวา ปฏิกริ ยิ าเกิดขน้ึ อยางสมบูรณ ตวั อยางเชน 2Na (s) + 2H2O 2NaOH (aq) + H2 (g) แตเม่ือใดท่ีปฏิกิริยาเคมีเกิดข้ึนไมสมบูรณ เราจะพบวา เม่ือใหสารตั้งตนทําปฏิกิริยากันจนเกิด สารผลิตภัณฑ ไมวาจะปลอยใหเกิดปฏิกิริยานานเทาใด เม่ือตรวจสอบจะพบวา สารผลิตภัณฑและสาร ตง้ั ตน จะเหลืออยู หรอื เมอื่ ใหสารตั้งตนทําปฏิกริ ยิ ากนั จะเกดิ สารผลติ ภัณฑ จนระบบมีสมบัติคงที่ แสดง วา ระบบเขาสูภาวะสมดุลแลว ดังนั้น เราจะไมเห็นการเปล่ียนแปลงใดๆเกิดขึ้นอีก แตในความเปนจริง ระบบไมไ ดอยูน่ิง ยังคงมีการเปลยี่ นแปลงไปขา งหนา และยอ นกลับ แตเกดิ ในอัตราทเี่ ทากนั ดงั นั้นเราจึง สามารถเรยี กสมดุลในปฏิกริ ิยาเคมไี ดวา สมดลุ ไดนามกิ 5
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี ตัวอยางการเกิดภาวะสมดลุ CO(g) + 3H2 (g) CH4 (g) + H2O(g) ถาเร่ิมตนเราใส CO จํานวน 1.0 โมล และ H2จํานวน 3.0 โมล ลงในภาชนะขนาด 10.0 ลิตร ท่ี 1200 K อัตราการเกิดปฏิกิริยาระหวาง CO กับ H2ข้ึนกับความเขมขนของ CO และ H2คือ ตอน แรกๆ สารทั้งสองชนิดมีความเขมขนมาก แตเมื่อสารทําปฏิกิริยากัน ความเขมขนจะลดลงเร่ือยๆ น่ัน คือ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะสูงในชวงแรกๆ แลวจะคอยๆลดลง ในขณะที่ความเขมขนของผลผลิต (ที่มีคาเทากับศูนยในตอนแรก) จะคอยๆเพิ่มขึ้น และมีคาคงที่เม่ือถึงภาวะสมดุล หรือกลาวไดอีกอยาง หน่ึงวา ตอนแรกๆอัตราการเกิดปฏิกิริยายอนกลับมีคาเปนศูนยแลวคอยๆเพ่ิมข้ึนจนเทากับอัตราการ เกิดปฏิกิริยาไปขางหนา เม่ือถึงสมดุล ที่ภาวะสมดุล ความเขมขนของสารตางๆ มีคาคงท่ี และเราจะไม เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ อีกถึงแมวาปฏิกิริยายังคงดําเนินไปดังนั้น ในปฏิกิริยาใดจะเกิดสมดุลได จะตอ ง 1. เกดิ ในระบบปด 2. มสี มดุลไดนามกิ 3. ยงั มสี ารตง้ั ตนเหลอื อยู 4. ระบบสามารถเขา สสู มดลุ ไดไมว า จะเรม่ิ ตนจากไปขา งหนา/ยอ นกลบั 5. เกดิ การเปลีย่ นแปลงท่ผี ันกลับได 6. ความเขมขน, ความดนั และ อณุ หภูมิมผี ลตอภาวะสมดุล 5. การดาํ เนนิ เขา สภู าวะสมดลุ ของระบบ การดําเนนิ เขาสูสภาวะสมดลุ ของระบบไมขนึ้ อยกู บั ทศิ ทาง ไมว าจะเรมิ่ จากการเปล่ยี นแปลงไป ขา งหนา หรอื เริ่มจากการเปล่ยี นแปลงยอนกลับ เม่อื ระบบเขาสสู มดุล ภาวะสมดลุ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จะมีลกั ษณะ เหมอื นกันทกุ ประการ การเขยี นกราฟแสดงการเกดิ ภาวะสมดลุ เขยี นได2 ลักษณะ คอื 1. กราฟแสดงความสมั พนั ธร ะหวา งอตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ากบั เวลา 6
เคมี (ครูแนน) สมดุลเคมี 2. เขยี นกราฟแสดงความสมั พนั ธร ะหวา งความเขม ขน ของสารกบั เวลา ก. ทีภ่ าวะสมดลุ ที่เวลา t1 ความเขม ขนของสาร A มากกวาความเขม ขนของสาร B (ความเขมขน ของสารตัง้ ตน มากกวา ความเขม ขน ของผลติ ภณั ฑ) ข.ทภ่ี าวะสมดลุ ทเ่ี วลา t1ความเขม ขน ของสาร A นอ ยกวาความเขม ขน ของสาร B (ความเขม ขน ของสารตงั้ ตนนอ ยกวา ความเขมขน ของผลิตภณั ฑ) ค. ที่ภาวะสมดลุ ทเ่ี วลา t1 ความเขม ขน ของสาร A เทา กบั ความเขม ขน ของสาร B (ความเขม ขน ของสารตั้งตน เทา กับความเขม ขนของผลติ ภณั ฑ) 7
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 6. คา คงทส่ี มดลุ ของปฏกิ ริ ยิ าเคมี คา คงทีส่ มดลุ (K) เปน สัดสว นระหวางความเขมขน ของสารผลิตภัณฑต อความเขมขน ของ สารตงั้ ตน ณ ภาวะสมดุลและแตล ะสารยกกาํ ลงั สัมประสทิ ธห์ิ นา สาร ดังตารางที่แสดงผลการทดลอง ของปฏกิ ิรยิ า N2(g) + 3H2(g) 2NH3(g) การ ความเขม ขนเร่มิ ตน ความเขมขน ณ ภาวะสมดลุ คา คงท่สี มดุล(K) ทดลอง [N2] [H2] [NH3] [N2] [H2] [NH3] K = [NH3]2/[N2][H2]3 1.00 1.00 0 0.921 0.763 0.157 1 0 0 1.00 0.399 1.197 0.203 6.02 x 10 -2 2 2.00 1.00 3.00 2.59 2.77 1.82 6.02 x 10 -2 3 6.02 x 10 -2 คาคงท่ีสมดุลสมมารถพิสูจนไดจากกฎมวลกิริยา (law of action) มีใจความวา “อัตราการ เกิดปฏกิ ริ ิยาแปรผันตามความเขมขน ของสารทท่ี าํ ปฏิกิริยาและแตละสารยกกําลงั เทา กบั สมั ประสทิ ธหิ์ นา สารหรือจากการทดลอง” สาํ หรับภาวะสมดลุ ยกกําลงั เทา กับหนาสัมประสทิ ธห์ิ นาสาร aA(g) + bB(g) cC(g) + dD(g) rf α [A]a[B]b rf = kf [A]a[B]b rb α [C]c[D]d rb = kb [C]c[D]d ที่ภาวะสมดลุ rf = rb kf [A]a[B]b = kb [C]c[D]d kf = [C]c[D]d kb [A]a[B]b Kc = [C]c[D]d [A]a[B]b * สารท่ีเปลี่ยนแปลงความเขมขนมีเฉพาะสารท่ีอยูในสถานะแกสและสารละลายเทาน้ัน ดวยเหตุนี้ สารอยูสถานะของแข็ง,ของเหลวบริสทุ ธจิ์ งึ มคี วามเขมขนคงท่ี ไมน ํามาเขียนในสมการคาคงทีส่ มดลุ H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) K = [HCl]2 [H2][Cl2] 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) K = …………………………… CO(g) + H2O(g) CO2(g) + H2(g) K = …………………………….. C(s) + O2 (g) CO2(g) K = …………………………….. Fe2O3(s) + 3CO(g) 2Fe(s) + 3CO2(g) K =…………………………….. 8
เคมี (ครูแนน) สมดลุ เคมี 7. สมบตั เิ กยี่ วกบั คา คงทสี่ มดลุ ก. สมการคา คงทส่ี มดลุ ขนึ้ อยกู บั สมการเคมี , สภาวะของสารและปรมิ าณสารผลติ ภณั ฑ ณ ภาวะสมดลุ O2(g) 2CO(g) K = [CO]2 N2(g) + 3H2(g) 2C(s) + [O2] K = [N2][H2]3 2NH3(g) [NH3]2 ข. คา คงทส่ี มดลุ ขน้ึ อยกู บั ปรมิ าณของสารผลติ ภณั ฑ และสารตง้ั ตน A(g) + B(g) AB(g) K ท่ี 25 c = 4 x 10 -5 , K ท่ี 60 c = 10 -2 ถานาํ A , B ปรมิ ารที่เทากันทัง้ 2 อุณหภมู ิ สามารถบอกไดว า ปรมิ าณของ AB ที่ 25 C นอยกวา 60 C เนอ่ื งจากคา K ที่ 25 C < Kท่ี 60 C ฯลฯ ถา เปรยี บเทยี บระหวางปริมาณของสาร ผลติ ภัณฑก บั สารต้งั ตนวา สารกลุมใดมปี รมิ าณมากกวา สามารถดไู ดจากคา K K > 1 สารผลิตภัณฑม ากกวาสารตงั้ ตน K < 1 สารผลติ ภณั ฑน อ ยกวาสารต้ังตน 2NO(g) + O2(g) 2NO2(g) K = 10 4 แสดงวา [NO] , [O2] < [NO2] 2HCl(g) H2(g) + Cl2(g) K = 10 -5 แสดงวา [HCl] > [H2] , [Cl2] ถาเปรยี บเทียบระหวา งสารผลิตภัณฑที่เกดิ ขนึ้ อยูในภาวะสมดุลมากกวาหรือนอ ยกวา หรอื เทา กนั พิจารณาจากสมั ประสทิ ธห์ิ นา สารในสมการเคมที ดี่ ุล ถา มากกวา ไดแ ก 2NO2(g) 2NO(g) + O2(g) K =10 6 แสดงวา [NO] > [O2] , ฯลฯ ค. คา K ขนึ้ กบั อณุ หภมู ิ ณ อณุ หภมู เิ ดยี วกนั หรอื อณุ หภมู เิ ทา เดมิ คา K เทา เดมิ ไมว า เพมิ่ หรอื ลดความดนั , ความเขม ขน หรอื ปรมิ าณของสาร K เปลย่ี นเมอื่ อณุ หภมู เิ ปลยี่ น ปฏกิ ริ ยิ าคายความรอ น K α 1/T อุณหภูมเิ พมิ่ คา K ลด อณุ หภมู ิลด คา K เพิม่ N2(g) + 3H2(g) 2NH3(g) อุณหภมู ิ (K) 500 600 700 800 K 90 3 0.3 0.04 ปฏกิ ริ ยิ าดดู ความรอ น K α T อุณหภมู เิ พิ่มขนึ้ คา K เพม่ิ อณุ หภูมลิ ด คา K ลด อณุ หภมู ิ (K) 400 500 600 700 K 1 x 10-2 10 3 x 102 5 x 104 ง. คา K บอกไมไ ด คอื เวลาเขา สภู าวะสมดลุ , อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าดดู หรอื คายความรอ น 9
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 8. คา คงทสี่ มดลุ กบั สมการเคมมี คี วามสาํ คญั ตอ กนั อยา งไร สมการเคมีเปล่ียนสมการคา คงทส่ี มดลุ เปลย่ี นมผี ลทาํ ใหค า K เปลยี่ นเน่ืองจากสารในปฏกิ ริ ิยามี ความสัมพันธก ันอยู ทําใหสามารถหาคา K ของสมการใหมจาก K ของสมการเดมิ ได ซ่งึ คา K กบั สมการเคมี มคี วามสมั พนั ธท ั้งหมด 4 แบบ 1. เขยี นสมการ (2) กลบั สมการ (1) K2 = 1/K1 PCl5(g) PCl3(g) + Cl2(g) K1 = ………………………………………. เขยี นสมการใหม PCl3(g) + Cl2(g) PCl5(g) K2 = ………………………………………. 2. สมการ (2) = สมการ (1) x n n= เลขจาํ นวนเตม็ หรอื เศษสว น K2 = K1n (1) H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) K1 = ………………………………………. เขยี นสมการใหม (1) x 2 …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………. (2) x 1/2 ………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………. 3. สมการ (3) = สมการ (1) + สมการ (2) K3 = K1 K2 NO(g) + 1/2O2(g) NO2(g) K1 =………………………………………. SO3(g) SO2(g) +1/2O2(g) K2 = ………………………………………. NO(g) + SO3(g) NO2(g) + SO2(g) K3 = ………………………………………. (3) = (1) + (2)…………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. สมการ (3) = สมการ (1) - สมการ (2) K3 = K1/ K2 CO2(g) CO(g) +1/2O2(g) K1 = ………………………………………. SO3(g) SO2(g) + 1/2O2(g) K2 =………………………………………… CO2(g) + SO2(g) CO(g) + SO3(g) K3 =………………………………………… (4) = (1) + (2)………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………... 10
เคมี (ครูแนน) สมดุลเคมี จงหาคา K ของปฏกิ ริ ยิ าเคมตี ามสมการเคมที ม่ี คี วามสมั พนั ธก นั 1. PCl3(g) + Cl2(g) PCl5(g) K1 = 2 x 10 -2 PCl5(g) PCl3(g) + Cl2(g) K2 = ………………………………………. K1 = 1.6 x 10-5 2. 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) K2 = ………………………………………. K1 = 2 x 10-2 2SO3(g) 2SO2(g) + O2(g) 3. CO2(g) CO(g) + 1/2O2(g) 2CO(g) + O2(g) 2CO2(g) K2 = ………………………………………. K1 = 3 x 102 4. NO2(g) 1/2N2O4(g) 2NO2(g) N2O4(g) K2 = ………………………………………. K1 = 1.6 x 10 3 5. 2NO(g) + O2(g) 2NO2(g) K2 = ………………………………………. K1 = 4 x 102 NO(g) + 1/2O2(g) NO2(g) K2 = 2.5 x 10-3 6. H2(g) + 1/2O2(g) H2O(g) CO2 (g) CO(g) + 1/2O2(g) CO2 (g) + H2(g) CO(g) + H2O(g) K3= ………………………………………. K1 = 4 x10 2 7. NO(g) + 1/2O2(g) NO2(g) K2 = 9 x 10 4 K3= ………………………………………. 2SO3(g) 2SO2(g) + O2(g) K1 = 5 x 10 2 NO(g) + SO3(g) NO2(g) + SO2(g) 8. 2N2 (g) + 4O2(g) 2N2O4(g) N2(g) + 2O2(g) 2NO2(g) K2 = 0.66 2NO2(g) N2O4(g) K3= ………………………………………. 9. 2NO(g) + O2(g) 2NO2(g) K1 = 5 K2 = 4 x 10 -4 2NO2(g) N2O4(g) K3= ………………………………………. K1 = 5 x10 2 2NO(g) + O2(g) N2O4(g) 10. CO(g) + 1/2O2(g) CO2(g) 11
เคมี (ครแู นน) H2O(g) สมดลุ เคมี K2 = 2 x 10-4 K3= ………………………………………. H2(g) + 1/2O2(g) K1 = 3 K2 = 16 CO(g) + H2O(g) CO2(g) + H2(g) K3= ………………………………………. K1 = 4 x10 -2 11. NO2(g) NO(g) + O2(g) K2 = 2 x10 -2 K3= ………………………………………. 2SO2(g) + 1/2O2(g) 2SO3(g) K1 = 2.5 x 1033 K2 = 6 x 105 NO2(g) + 2SO2(g) NO(g) + 2SO3(g) K3 = 3.9 x 107 K4= ………………………………………. 12. 2CO(g) + 1/2 O2(g) CO2(g) K1 = 44 K2 = 100 SO2(g) + 1/2O2(g) SO3(g) K3 = 4000 K4= ………………………………………. CO2(g) + SO3(g) CO2(g) + SO2(g) K1 = 49 K2 = 64 13. H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) K3 = 30 K4= ………………………………………. N2(g) + 3H2(g) 2NH3(g) N2(g) + 4H2(g) + Cl2(g) 2NH4 Cl(s) NH3(g) + HCl(g) NH4 Cl(s) 14. N2(g) + 2O2(g) N2O4(g) 1/2N2(g) + 1/2O2(g) NO(g) NO2(g) NO(g) + 1/2O2(g) 1/2N2(g) + O2(g) NO2(g) 15. N2(g) + 2O2(g) N2O4(g) 1/2N2(g) + 1/2O2(g) NO(g) NO2(g) NO(g) + 1/2O2(g) N2O4(g) 2NO2(g) 12
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 9. การคาํ นวณเกย่ี วกบั คา คงทส่ี มดลุ กบั ความเขม ขน ของสารณ ภาวะสมดลุ การคํานวณเกีย่ วกบั คา คงที่สมดุลของปฏกิ ริ ยิ าเคมใี ดๆ ควรดาํ เนินการตามขน้ั ตอนตอ ไปน้ี 1. เขยี นสมการเคมที ด่ี ุลแลว และหาความเขม ขน ของสาร ณ ภาวะสมดลุ ตามรปู ดงั ตอไปนี้ 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) 0 C เรม่ิ ตน a b Cเปลยี่ นแปลง -2a -x +2x C สมดุล a – 2x b-x 2x C เปลีย่ น เปน ปริมาณความเขมขน ของสารแตล ะสารท่เี กิดปฏกิ ริ ยิ าเปลี่ยนตามปรมิ าณสาร สมั พนั ธ เตมิ เครื่องหมายหนาปรมิ าณสาร ดังนี้ – คอื สารที่ทาํ ปฏิกิรยิ า + คอื สารทเี่ กดิ ข้ึน 2. เขยี นสมการคา คงท่ีสมดลุ จากสมการเคมีแลว นาํ ความเขม ขน ณ ภาวะสมดุล แทนคาในสมการ คา คงท่สี มดลุ ตวั อยา งท่ี 1 จงหาคา คงที่สมดุลของปฏกิ ิรยิ า A + B C + D ถา ณ ภาวะสมดลุ มี A 5 โมล, B 10 โมล, C 6 โมลและ D 20 โมล อยูในภาชนะทม่ี ปี รมิ าตร 1 ลติ ร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ตวั อยา งที่ 2 จงหาคา คงท่ีสมดลุ ของปฏกิ ิรยิ า A(g) + B(g) 2C(g) ถา A(g) 1 โมล, B 1.4 โมลและ C 0.5 โมล ถกู บรรจุในภาชนะท่ีมปี รมิ าตร 1 ลติ ร เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าจนกระทัง้ เขาสภู าวะสมดุลมี C อยู 0.75 mol/dm3 ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 13
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี ตวั อยา งที่ 3 N2O4(g) 2NO2(g) ท่ี 50C นาํ N2O4 20 mole มาบรรจใุ นภาชนะทมี่ ี ปรมิ าตร 1 ลติ ร ปรากฏวา มกี ารสลายตัวของ N2O4 40 % จงหาคาคงทส่ี มดลุ ของ ปฏกิ ริ ยิ า ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ตวั อยา งท่ี 4 นํา H2 1 โมลผสมกับ I2 1 โมล ในภาชนะทม่ี ีปริมาตร 1 ลิตร เกดิ ปฏกิ ริ ิยา ดังสมการ H2(g) + I2(g) 2HI(g) พบวามีคา K = 9 ที่ 127 C อยากทราบ วา ภาวะสมดุลนจี้ ะมี HI ก่ีโมล/ลติ ร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ แบบฝก หดั เพมิ่ เตมิ 1. แกส A2 เกดิ ปฏกิ ริ ิยากบั B2 ไดแกส AB ในการทดลองหนง่ึ นาํ A2 2 โมล ผสมกบั B2 1 โมล ในภาชนะปด ทม่ี ีปริมาตร 1 ลิตร เกดิ ปฏกิ ิรยิ าจนกระทัง่ เขาสูภ าวะสมดุล จากการวเิ คราะหพ บวา AB 1 โมล จงหาวา คา K ของปฏกิ ิริยาเปน เทา ไร A2(g) + B2(g) 2AB(g) ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 14
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี 2. A2(g) + B2(g) 2D(g) ถาบรรจุ A 1.4 โมล, B 0.4 โมล ในภาชนะขนาด 2 ลติ ร หลังจากนนั้ ทง้ิ ใหเขาสูสมดลุ พบวา มี D อยู 2.0 โมล จงหาคา คงทส่ี มดลุ ของปฏกิ ริ ิยาน้ีมคี าเทา ไร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 3. สาร A2B แยกสลายได 25% ที่ 27C และอยใู นสมดลุ ดังสมการ A2B(g) 2A(g) + B(g) ถาบรรจุแกส A2B 1 โมล ในภาชนะ 1 ลติ ร จงหาคา คงที่สมดลุ ทีป่ ฏิกริ ยิ าน้ที ี่ 27 C มคี าเทาไร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 4. ท่ี 450C H2(g) + I2(g) 2HI(g) ถา นาํ H20.2 โมล ทําปฏิกริ ยิ ากบั I20.2 โมล ในภาชนะขนาด1 ลติ ร พบวา ณ ภาวะสมดลุ HI 0.1 โมลจงหาคา K ของปฏกิ ริ ยิ านี้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 15
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 5. ที่ 1,200 K 2H2(g) + 2CO2(g) 2CO(g) + 2H2O(g) มีคา K = 2.25 ถานาํ H2 1 โมล ผสมกบั CO2 1 โมล บรรจุในภาชนะท่มี ปี รมิ าตร 2 dm3 ณ ภาวะสมดลุ จะ มี CO2 , CO อยา งละก่ีโมล ณ ภาวะสมดลุ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 6. ที่ 1,200 K H2(g) + SO3(g) SO2(g) + H2O(g) มีคา K = 6.25 ถานาํ H2 4 โมล ผสมกบั SO3 4 โมล บรรจุในภาชนะท่มี ปี รมิ าตร 2 ลติ รณ ภาวะสมดลุ จะ มี SO3 , SO2 อยา งละกโี่ มล ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 7. พจิ ารณาสมการ (ยังไมไดด ลุ ) SO2(g) + O2(g) SO3(g) พบวา ท่ีภาวะสมดุลมี SO2 y โมล O2 x โมล และ SO3 2y ในภาชนะ 1 ลติ ร และคา คงท่ขี องสมดลุ เทา กบั 100 จงหาคา x ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 16
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 8. จากสมการ A(s) + B(g) C(s) K = 10 2จงคาํ นวณโมลของ B ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทภ่ี าวะสมดุลในภาชนะปดขนาด 0.2 dm3เมอื่ นํา C มา 0.50 โมล ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 9. 2HI(g) H2(g) + I2(g) ท่ี 500C K=4 ถา นํา HI 2 โมล บรรจใุ น ภาชนะ 1 dm3 HI จะมกี ารสลายตวั กเ่ี ปอรเซนต ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 10. 2HI(g) H2(g) + I2(g) ที่ 500 C คา K = 4 ณ ภาวะสมดลุ มี HI อยู 0.4 mol/dm3HIจะมกี ารสลายตวั กี่เปอรเ ซน็ ต ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 11. เมือ่ ปลอยให 0.5 mol ของ A สลายตวั จนอยใู นสมดุลกบั B ในภาชนะขนาด 1 dm3 ท่ี 25C ตามสมการ A(g) 2B(g) ถาคา คงทสี่ มดลุ , K ของปฏกิ ิริยาเทา กับ 8 จงหาเปอรเ ซน็ ตการสลายตวั ของ A เทาไร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 17
เคมี (ครูแนน) สมดุลเคมี 9. การรบกวนภาวะสมดลุ ของปฏกิ ริ ยิ าเคมี ระบบจะปรบั ตวั อยา งไร ลักษณะทั่วไปของสมดุล คือ เมื่อระบบอยูในภาวะสมดุล สมบัติของระบบจะคงท่ีไมวาเวลาจะ ผานไปนานเทาใดก็ตาม ดวยเหตุน้ีถามีการรบกวนสมดุลของระบบ ระบบจึงการปรับตัวเพื่อเขาสูภาวะ สมดุลใหมภายใตเ งอ่ื นไขใหม การปรับตัวของระบบจะเกิดในทิศตรงกันขามกับการรบกวนระบบน้ัน เชน เพื่อความดันใหแกระบบ ระบบจะปรับตัวโดยลดความดันของระบบ , ลดอุณหภูมิแกระบบ ระบบจะ ปรบั ตัวโดยเพมิ่ อณุ หภูมแิ กระบบ ฯลฯ การปรับตวั ของระบบท่ีเกิดจากการรบกวนดวยหลักเลอ ชา เตอริแยร ซ่ึงมีการเสนอหลักการนี้ เม่ือป ค.ศ. 1884โดย อองรี หลุยส เลอ ชา เตอริแอร (Henry Louis Le Chaterier) มีใจความวา “เม่ือระบบอยูในภาวะสมดุล หากระบบถูกรบกวนดวยอุณหภูมิ , ความดัน , ความเขมขน อยา งใดอยา งหนงึ่ ระบบจะปรับตวั เขาสูภาวะสมดลุ ใหม ภายใตเ งอ่ื นไขใหม” สิ่งที่รบกวนสมดุลของระบบได คือ อุณหภูมิ , ความดัน , ความเขมขนของสารละลาย การปรับตวั ของระบบเขาสูภาวะสมดุลใหมไดดวยการปรับตัวดําเนินไปขางหนา หรือ ยอนกลับ ขอสังเกต เกยี่ วกบั การเปล่ียนแปลงปริมาณของสารตง้ั ตน สารผลติ ภัณฑเมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ภาวะสมดลุ เดมิ การปรับตวั ดาํ เนินไปขางหนา (F) ปริมาณสารต้งั ตนลดลงปริมาณสารผลติ ภัณฑจ ะเพมิ่ ขึ้น เสน กราฟ ดังรปู ก การปรับตัวดาํ เนนิ ยอนกลบั (B) ปรมิ าณสารต้ังตน เพิม่ ข้ึน ปรมิ าณสารผลิตภณั ฑจ ะลดลง เสน กราฟ ดงั รูป ข [ ] สมดุลเดิม สมดลุ ใหม [ ] สมดลุ เดิม สมดุลใหม (ก) เวลา (ข) เวลา การปรับตัวของระบบเขาสูภาวะสมดลุ เม่ือถกู รบกวน มีหลักการพิจารณา ดงั นี้ 1. การรบกวนสมดลุ ของระบบดว ยอณุ หภมู ใิ นการทาํ ปฏกิ ริ ยิ า มหี ลกั การคดิ ดงั นี้ “รบกวนดวย การเพิม่ อณุ หภูมิ ระบบจะปรับตวั ในทิศทางทใ่ี ชค วามรอน รบกวนดว ยการลดอุณหภมู ิ ระบบจะปรบั ตัว ไปในทิศทางทใ่ี หค วามรอน หรอื ปลดปลอ ยพลงั งานความรอ น” ปฏกิ ริ ยิ าเคมที ีเ่ ปน ปฏิกริ ยิ าดดู หรอื คาย ความรอน ปรับตวั ไปทศิ ทางใดเพ่อื ใหห รือใชความรอน พจิ ารณาจากกราฟระหวา งพลงั งานกบั การดาํ เนินไปของปฏกิ ิริยา 18
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี E ปฏิกริ ิยาคายความรอ นจากกราฟระหวา งพลังงานของสารกบั การดําเนนิ ของปฏกิ ิริยา F – การดาํ เนนิ ปฏิกริ ิยาไปขา งหนา จะใหค วามรอนออกสู ส่ิงแวดลอ ม (ระดับพลงั งานของสารตง้ั ตน สูงกวาระดบั พลงั งานของสารผลติ ภณั ฑ ทาํ ใหส ารผลิตภณั ฑตองให พลังงานออกสสู ิ่งแวดลอม) การดําเนินปฏกิ ิรยิ า B – การดาํ เนินปฏิกริ ยิ ายอ นกลบั ตอ งใชความรอนจาก ภายนอกสูระบบเพอ่ื ดําเนินไปในทิศทางนี้ (ระดับพลังงาน ของสารตั้งตนสงู กวาผลติ ภัณฑ ทาํ ใหสารผลติ ภณั ฑต อง ดูดพลังงานจากภายนอกระบบหรอื สิ่งแวดลอ ม) สรุป : ปฏกิ ริ ิยาคายความรอ น ถารบกวนดว ยการเพิ่มอุณหภูมิแกร ะบบ ระบบจะปรับตัวดําเนินยอ นกลับ (B) เพอื่ ลดความรอ นของระบบ ถารบกวนดวยการลดอุณหภมู แิ กระบบ ระบบจะปรบั ตวั ดาํ เนนิ ไปขางหนา (F) เพอ่ื เพ่ิม ความรอนแกระบบ E ปฏิกริ ิยาดดู ความรอน จากกราฟระหวางพลงั งานของสารกับ การดําเนนิ ของปฏกิ ิริยา F – การดําเนินปฏกิ ริ ิยาไปขา งหนา จะใชค วามรอนจาก ภายนอกระบบหรอื ส่ิงแวดลอม เพอื่ ดาํ เนินปฏิกิริยาไปใน ทศิ ทางน้ี(ระดับพลงั งานของสารต้ังตนตา่ํ กวาระดบั พลังงานของสารผลิตภัณฑ ทาํ ใหตองดูดพลงั งานในทิศทางน้ี) การดาํ เนนิ ปฏิกิริยา B – การดาํ เนินปฏิกริ ิยายอ นกลบั ตองใหค วามรอนออกสู สง่ิ แวดลอ ม (ระดับพลังงานของสารตง้ั ตน ต่ํากวา ผลิตภณั ฑ ทาํ ใหสารตัง้ ตนตองใหพ ลังงานออกมา จึงจะ ดําเนินไปในทิศทางน้ไี ด) สรุป :ปฏิกิริยาดูดความรอน ถารบกวนดวยการเพิ่มอุณหภูมิแกระบบ ระบบจะปรับตัวดําเนิน ไปขางหนาเพื่อนําความรอนไปใชในการปรับตัว ถารบกวนดวยการลดอุณหภูมิแกระบบ ระบบจะ ปรับตวั ดาํ เนนิ ยอนกลบั เพ่อื ใหค วามรอนแกระบบทดแทนที่สญู เสียไปจากการรบกวนดวยการลดอณุ หภูมิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี เพม่ิ อณุ หภมู ิ ลดอณุ หภมู ิ 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) ∆H = -196 kJ H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) ∆H = -92 kJ N2(g) + O2(g) 2NO(g) ∆H = +181 kJ N2O4(g) 2NO2(g) ∆H = +58 kJ 19
เคมี (ครแู นน) สมดุลเคมี 2. การรบกวนดว ยความดนั ในการทาํ ปฏกิ ริ ยิ า มหี ลกั การในการคดิ ดังน้ี “รบกวนดวยการเพิม่ ความดันแกร ะบบ ระบบจะปรับตัวในทศิ ทางลดความดนั หรือลดจํานวนโมลรวม รบกวนโดยการลด ความดันแกร ะบบ ระบบจะปรับตัวโดยการเพม่ิ ความดนั หรือเพมิ่ จํานวนโมลรวมแกระบบ” จากสมการ สถานะ PV = nRT ถา V,T คงที่ P = nR หรอื P α n แสดงวา ความดันแปรผนั ตามจํานวนโมล จาํ นวนโมลดงั กลา วเปน ผลรวมสัมประสิทธ์หิ นาสารในสมการเคมีทดี่ ลุ แลว ของสารต้งั ตน , สารผลติ ภัณฑ สารตองอยใู นสถานะแกส เทา นน้ั สมมารถพิจาณาสมการตอ ไปนี้ aA(g) + bB(g) cC(g) + dD(g) ∆โมลของสารหรอื โมลรวมของสาร = ผลรวมโมลของสารผลติ ภณั ฑ- ผลรวมโมลของสารตง้ั ตน = (c + d) – (a + b) ปฏกิ ริ ยิ าเคมพี วกแกส มี 3 พวก คือ ก. ผลรวมสมั ประสทิ ธหิ์ รอื โมลสมการของสารตง้ั ตน เทา กบั สารผลติ ภณั ฑ ปฏกิ ริ ยิ าพวกนค้ี วาม ดนั ไมม ผี ลตอ สภาวะสมดลุ หรอื รบบกวนสมดลุ ไมได ปฏกิ ริ ยิ า ผลรวมโมลของสารตั้งตน ผลรวมโมลของสารผลติ ภัณฑ โมลรวม H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) NO(g) + SO3(g) NO2(g) +SO2(g) CO(g) + H2O(g) CO2(g) + H2(g) CoO(s) + H2(g) Co(g) + H2O(g) Fe2O3(g) + 3CO(g) 2Fe(s) +3CO2(g) ข. ผลรวมสมั ประสทิ ธห์ิ รอื โมลสมการของสารตงั้ ตน มากกวา สารผลติ ภณั ฑ ปฏกิ ริ ยิ าพวกน้ี ความดนั มผี ลตอ สภาวะสมดลุ หรอื รบบกวนสมดลุ ได ปฏิกริ ยิ า ผลรวมโมลของสารต้งั ตน ผลรวมโมลของสารผลิตภณั ฑ โมลรวม 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) 2CO(g) + O2(g) 2CO2(g) 2NO(g) + O2(g) 2NO2(g) 2NO2 N2O4(g) 20
เคมี (ครูแนน) สมดลุ เคมี 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) ปฏิกริ ยิ านี้ ถา ปรับตวั ไปขางหนา โมลรวมลด สารตั้งตนหายไป 3 โมลสารผลติ ภัณฑเ กิดข้ึน 2 โมล ทําใหโมล รวมหายไป 1 โมลหรอื ลด 1 โมล ถาปรบั ตัวดําเนนิ ไปยอนกลับ สารตั้งตน เพิ่ม 3 โมล สารผลติ ภัณฑหายไป 2 โมล ทาํ ใหโมลรวม เพิม่ ข้ึน 1 โมล ปฏิกิรยิ าพวกนี้ ถา เพิม่ ความดนั แกร ะบบ ระบบจะปรับตัวไปขา งหนา เพือ่ ลดความดนั หรือลดจํานวน โมลรวม แตถ าลดความดันแกร ะบบ ระบบจะปรบั ตวั ยอ นกลับเพ่อื เพิ่มความดนั หรอื จาํ นวนโมลรวมเพม่ิ ค. ผลรวมสมั ประสทิ ธห์ิ นา สารหรอื โมลสมการของสารตง้ั ตน นอ ยกวา สารผลติ ภณั ฑ ปฏกิ ริ ยิ า พวกนค้ี วามดนั มผี ลตอ สภาวะสมดลุ หรอื รบบกวนสมดลุ ได ปฏิกริ ยิ า ผลรวมโมลของสารต้ังตน ผลรวมโมลของสารผลติ ภณั ฑ โมลรวม 2NO2(g) 2NO(g) + O2(g) 2NH3(g) N2(g) + 3H2 (g) PCl5(g) PCl3(g) + Cl2(g) 2NO2(g) 2NO(g) + O2(g) ปฏกิ ิริยานี้ ถาเพ่มิ ความดนั แกร ะบบ ระบบจะปรบั ตัวยอนกลับ (B) เพมิ่ ลดความดันหรือลดจาํ นวนโมล แตถาลดความดนั แกระบบ ระบบจะปรับตัวไปขา งหนา (F) เพ่ือเพมิ่ ความดันหรอื เพิ่มจาํ นวนโมล ปฏิกิริยา ระบบจะปรับตวั เม่ือถกู รบกวนด้วย เพม่ิ ความดนั ลดความดนั H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) NO(g) + SO3(g) 2NH3(g) NO2(g) + SO2(g) 2NO2 N2(g) + 3H2 (g) 2SO2(g) + O2(g) 2NO(g) + O2(g) 2CO(g) + O2(g) 2SO3(g) 2CO2(g) 21
เคมี (ครูแนน) สมดลุ เคมี 3. การรบกวนดว ยความเขม ขนของสารในปฏกิ ริ ิยา มหี ลักการคิด ดังน้ี “เติมหรอื เพ่ิมสาร ระบบปรบั ตัวโดยลดสารกลมุ น้ันออก หากเอาสารนน้ั ออกหรือลดสาร นั้นออก ระบบจะปรับตัวโดยเพ่ิมสารน้ัน” สารท่ีใชในการรบกวนตองเปนสารที่อยูในสถานะแกสหรือ สารทสี่ ามารถละลายไดใ นตัวทําละลายของระบบได ถาเติมสารต้ังตน ระบบจะปรับตัวดําเนินไปขางหนา เนื่องจากสารต้ังตนเพิ่มขึ้น ทําให rf>rb ทําใหสารต้ังตนลดลงจากท่ีเติม สวนสารผลิตภัณฑเพ่ิมขึ้น ส่ิงที่นาสังเกต คือ สารที่เติม เม่ือลดก็ ยงั คงมีปริมาณมากกวา เดิม ถาเอาสารต้ังตนออก ระบบจะปรับตัวดําเนินยอนกลับ เนื่องจากสารตั้งตนจะลดลง ทําให rf<rb สารต้งั ตนเพมิ่ ข้นึ จากท่ีลดลง แตยงั คงนอ ยกวาสมดุลเดิม (เฉพาะสารท่เี อาออก) ถาเติมสารผลิตภัณฑ ระบบจะปรับตัวดําเนินยอนกลับ เน่ืองจากสารต้ังตนเพิ่มขึ้น ทําให rf<rb ทาํ ใหสารตง้ั ตน เพ่ิม สว นสารผลติ ภัณฑล ดลง แตกย็ งั มากกวา สมดลุ เดิม (เฉพาะสารท่ีเตมิ ) ถาเอาสารผลิตภัณฑออก ระบบจะปรับตัวดําเนินไปขางหนา เนื่องจากสารผลิตภัณฑจะลดลง ทําให rf>rb ดวยเหตุนี้สารตั้งตนลดลง สารผลิตภัณฑเพ่ิมขึ้นแตก็ยังคงนอยกวาสมดุลเดิม (เฉพาะสาร ทเ่ี อาออก) ปฏกิ ิรยิ า เตมิ เอาออก การปรับตัว H2(g) + Cl2(g) 2HCl(g) H2 - - Cl2 HCl - - HCl 2SO2(g) + O2(g) 2SO3(g) SO2 - O2 SO3 - - SO3 10. การคาํ นวณเกยี่ วกบั การรบกวนสมดลุ เคมดี ว ยความเขม ขน ของสาร การรบกวนดวยความเขมขนของสารในปฏกิ ริ ิยา สมดลุ มกี ารปรับตัวแตคา K ไมเ ปลีย่ นแปลง เนอื่ งจากเปลยี่ น T ดว ยเหตนุ ้คี า K ของสมดลุ จึงตอ งการกอนทจี่ ะคํานวณเก่ยี วกับการรบกวนระบบ เสมอและสิง่ สาํ คญั คือ จะตอ งทราบทศิ ทางการปรบั ตัวเพ่ือสามารถคิดความเขมขนทเ่ี ปล่ยี นแปลงไปได 22
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี ขั้นตอนในการคาํ นวณมี ดงั น้ี 1. เขียนสมการเคมแี ละเขียนความเขม ขน ของสารหลงั จากรบกวนสมดลุ ณ ภาวะสมดลุ ใหม CO(g) + H2O(g) CO(g) + H2(g) C เรมิ่ ตน .............................................................................................................. C รบกวน .............................................................................................................. C เปล่ยี น .............................................................................................................. C สมดุล.............................................................................................................. 2. เขียนสมการคา คงที่สมดลุ และหา K ณ สมดลุ แรกกอนรบกวน (K สมดลุ เดิม = K สมดลุ ใหม) คา K และความเขม ขน ของแตล ะสาร ณ ภาวะสมดุลใหม มาแทนคา กจ็ ะไดส งิ่ ทต่ี องการ แบบเสรมิ ประสบการณ 1. CO2(g) + H2(g) CO(g) + H2O(g) พบวาในภาชนะใบหน่งึ มีปรมิ าตร 1 ลติ ร มีCO2 , H2 ,CO, H2O = 0.6 , 0.2 ,0.8 , 0.3 mol/dm3 ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 2. ที่ 250 C NO2(g) + SO2(g) NO(g) + SO3(g) พบวา ณ ภาวะสมดุล มี NO2 , SO2 ,NO, SO3 = 0.8 , 3 ,1.2 , 1.2 โมล ซ่ึงท้ังหมดอยูในภาชนะทมี่ ปี ริมาตร 1 dm3 จะตองเตมิ NO2 ลงไปในปฏกิ ริ ยิ าเทา ไร จงึ จะทําให NO เพิม่ ขึน้ อกี 2.0 โมล ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 23
เคมี (ครูแนน) สมดลุ เคมี 3. ที่ 250 C NO2(g) + SO2(g) NO(g) + SO3(g) พบวา ณ ภาวะสมดลุ มี NO2 , SO2 , SO3 ,NO = 0.3 , 0.1 ,0.3 , 0.3 โมล ซ่ึงทั้งหมดอยูในภาชนะทมี่ ปี ริมาตร 1 ลิตร จะตอ ง เอา SO3 ออกเทา ไร จึงจะทําให NO เหลือเพยี ง 2.0 โมล ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 4. ที่ 250 C CO2(g) + H2(g) CO(g) + H2O(g) พบวา ณ ภาวะสมดุล มี CO2 , H2 , CO ,H2O = 0.5 , 0.2 ,0.2 , 0.2 mol/dm3 อยากทราบวาจะตอ งเตมิ H2เทา ไร จงึ จะทาํ ให CO เพิ่มข้นึ เปน 0.3 โมล ซงึ่ ทั้งหมดอยใู นภาชนะทมี่ ปี รมิ าตร 1 ลิตร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 5. ปฏกิ ิริยา A(g) + B(g) C(g) + D(g) ถา ที่อณุ หภมู ิ 25C มีแกส A,B,C,Dอยู 2 , 2, 1 และ 1 โมล ตามลําดับ ถารบกวนสมดุลโดยเติมแกส A ลงไปโดยไมเปลี่ยนอณุ หภูมิ พบวา เมื่อระบบเขา สูสมดุลใหมจะมแี กส B เหลืออยู 1.5 โมล อยากทราบวา เติมแกส A ลงไปกี่โมล ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 24
เคมี (ครแู นน) สมดลุ เคมี 6. SO3(g) + CO(g) SO2(g) + CO2(g) ที่ 30C นาํ CO , SO3มา 2,3 โมลมาผสมกนั พบวา ณ ภาวะสมดุลมี CO20.75 โมล ถา รบกวนสมดุลดวยการเตมิ CO2ลงไปจํานวนหน่ึง พบวา ณ ภาวะสมดุล มี CO 1.6 โมล อยากทราบวา เตมิ แกส CO2ลงไปเทา ไร ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ การหาคา K การละลายทําเชนเดยี วกับการหาคา K ท่ัวไป ตา งกนั ตรงทส่ี ารตง้ั ตน เปน ของแขง็ เสมอ ซึง่ สารน้ีไมต อ งนาํ มาคดิ ในคา K การคิดคา K จึงคํานวณไดเ ลย โดยไมต อ งหาแบบ ( มี ใช เหลอื ) 7. AgCl (s) ละลายนาํ้ ไดน อยมาก โดยมคี า K = 1.8 x 10 -10(mol/l)2ดงั สมการ AgCl(s) Ag+ + Cl–ถา AgClอยใู นสารละลายทีม่ ีความเขม ขนของคลอไรด0.001 (mol/l) สารละลาย น้จี ะมี Ag+เขมขน กี่ mol/l ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 8. ทอี่ ุณหภูมิ 25 C ผสม AgCl ละลายนํ้าอยู 0.00188 กรัม ในภาชนะ 1 dm3 ปฏกิ ริ ิยาน้มี ีคาคงที่ สมดุลเทา ใด ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 25
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: