ใบความรู้ เร่ือง องค์ประกอบศลิ ป์ องค์ประกอบศิลป์ หมายถงึ ส่วนประกอบตา่ งๆของศลิ ปะ เชน่ จดุ เส้น รปู รา่ ง ขนาด สดั ส่วน น้าหนกั แสง เงาลกั ษณะพืน้ ผิว ทีว่ า่ งและสี (มานิต กรนิ พงศ์:51) องคป์ ระกอบ ศลิ ปค์ ือความงาม ความพอดี ลงตัว อันเป็นรากฐานเนอ้ื หาของศลิ ปะ อกี ทั้งยงั เปน็ เคร่อื งมอื ท่สี ้าคญั ทศั นธาตุ (Visual Elements) หมายถงึ ธาตแุ หง่ การมองเห็นหรือสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ท่ี ส้าคัญในงานศิลปะหรือทศั นศลิ ป์ได้แก่ จดุ เสน้ สี แสงเงา รปู รา่ ง รูปทรง พ้ืนผวิ เป็นตน้ ซง่ึ เราสามารถนา้ สว่ นประกอบแตล่ ะอยา่ มาสรา้ งเป็นงานศลิ ปะได้ในหลายรปู แบบ ซงึ่ กจ็ ะ ใหค้ วามรู้สกึ ในการมองเหน็ ท่แี ตกต่างกันไป ทัศนธาตุ สามารถสรา้ งอารมณ์ต่าง ๆ ใหก้ บั คนดู จึงเปน็ ความรู้พ้ืนฐาน นบั ตงั้ แต่ จดุ เส้น รปู ร่าง- รปู ทรง แสง เงา น้าหนกั อ่อน – แก่ สี พ้นื ผิว มกั มีปรากฏอยูใ่ นความงามอนั ละเอยี ดออ่ นของธรรมชาติ ท้งั ส้นิ ทัศนธาตุมี องคป์ ระกอบศลิ ปด์ ังตอ่ ไปนี้
1. จดุ (Dot) หมายถึง รอยหรือแต้มทีม่ ีลกั ษณะกลม ๆ ปรากฎทพ่ี ื้นผิว ซึง่ เกิดจากการ จิ้ม กด กระแทก ดว้ ยวัสดุอุปกรณ์ตา่ ง ๆ เช่น ดนิ สอ ปากกา พูก่ นั และวสั ดุปลายแหลม ทุกชนิด จดุ เป็นตน้ ก้าเนิดของเส้น รปู ร่าง รปู ทรง แสงเงา พน้ื ผิว ฯลฯ เช่น น้าจดุ มาวาง เรยี งต่อกนั จะเกิดเปน็ เส้น และการน้าจุดมาวางใหเ้ หมาะสม กจ็ ะเกดิ เปน็ รูปร่าง รูปทรง และลกั ษณะผิวได้ 2. เส้น (Line) หมายถึง จุดหลาย ๆ จดุ ทเ่ี คลือ่ นทต่ี อ่ เนอื่ งไปในทวี่ า่ งเปลา่ จากทศิ ทางการ เคลื่อนที่ตา่ ง ๆ กนั เสน้ คอื ทศั นธาตุเบ้อื งต้นทส่ี ้าคญั ทส่ี ดุ เป็นแกนของทัศนศลิ ป์ทกุ ๆ แขนง เสน้ เป็นพน้ื ฐานของโครงสร้างของทุกสงิ่ ในจกั รวาล เส้นแสดงความรสู้ กึ ได้ท้งั ดว้ ยตวั ของมนั เองและด้วยการสร้างเป็นรปู ทรงต่าง ๆ ข้ึน เสน้ ท่เี ป็นพ้ืนฐาน ไดแ้ กเ่ สน้ ตรงและเส้น โค้ง สามารถน้ามาสรา้ งใหเ้ กิดเป็นเสน้ ใหมท่ ใ่ี ห้ความรสู้ ึกท่แี ตกต่างทงั้ ช่วยแสดงถงึ อารมณ์ และความรูส้ ึกของศิลปินดว้ ย เสน้ แตล่ ะชนิดกม็ คี วามหมายแตกต่างกัน ดังเชน่ 2.1 เส้นตรงแนวตั้ง คอื เสน้ ทล่ี ากจากพืน้ ขึน้ บนอากาศ 2.2 เสน้ ตรงแนวนอน คือ เสน้ ท่ลี ากขนานกบั พน้ื หรือ อยู่แนวเดียวกับพ้ืน
2.3 เส้นเฉียงหรือเสน้ ทแยง คือ เส้นทลี่ ากให้เอนจากแนวด่งิ แต่ไมเ่ อนจนขนานกับพ้ืน 2.4 เส้นซิกแซ็ก คือ เสน้ ทลี่ ากเฉียงข้นึ และลากลงสลับกนั เหมือนกับฟันปลาหรือฟันเลอ่ื ย 2.5 เส้นโค้ง คือ เปน็ เสน้ ท่ีถกู ลากให้เป็นแนวโคง้ ไม่ตรง ไมเ่ ปน็ เหลี่ยม เสน้ โคง้ ถกู นา้ มาใช้ ในงานศลิ ปะมากมายหลากหลายแบบ เส้น ชว่ ยแสดงถงึ อารมณแ์ ละความรู้สกึ ของศลิ ปนิ ด้วย เสน้ แตล่ ะชนิดก็มีความหมาย แตกตา่ งกนั ดงั เชน่ 1. เส้นตรงแนวตั้ง ใหค้ วามรสู้ กึ สงู สง่า มั่นคง แข็งแรง รงุ่ เรือง 2. เส้นตรงแนวนอน ให้ความรสู้ ึกกวา้ งขวาง เงียบสงบ นงิ่ ราบเรยี บ ผอ่ นคลายสายตา 3. เสน้ เฉียงหรือเส้นทแยง ให้ความรสู้ กึ ไมม่ ่นั คง เคลอื่ นไหว รวดเร็ว แปรปรวน 4. เสน้ ซิกแซกหรอื เสน้ ฟันปลา ให้ความรูส้ กึ รุนแรง กระแทกเป็นห้วง ๆ ต่ืนเตน้ สบั สน วุ่นวาย และการขดั แย้ง 5. เสน้ โค้ง ให้ความรูส้ กึ อ่อนไหว สุภาพออ่ นโยน สบาย นมุ่ นวล เยา้ ยวน
3. รูปรา่ งและรปู ทรง 3.1 รปู ร่าง (Shape) หมายถงึ เส้นรอบนอกทางกายภาพของวตั ถุ สง่ิ ของเคร่ืองใช้ คน สัตว์ และ พชื มลี ักษณะเปน็ 2 มติ ิ มีความกวา้ ง และความยาว รปู ร่าง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คอื - รูปร่างธรรมชาติ (Natural Shape) หมายถงึ รูปร่างที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ เชน่ คน สตั ว์ และพืช เปน็ ต้น - รปู รา่ งเรขาคณิต (Geometrical Shape) หมายถงึ รปู รา่ งทม่ี นุษยส์ ร้างขนึ้ มีโครงสรา้ ง แน่นอน เชน่ รูปสามเหล่ยี ม รูปส่เี หลี่ยม และรูปวงกลม เป็นต้น - รปู ร่างอสิ ระ (Free Shape) หมายถงึ รูปร่างที่เกดิ ข้นึ ตามความต้องการของผสู้ ร้างสรรค์ ให้ความรู้สึกที่เป็นเสรี ไม่มีโครงสรา้ งทีแ่ นน่ อนของตัวเอง เปน็ ไปตามอิทธิพลของสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ รา่ งของหยดน้า เมฆ และควนั เป็นต้น 3.2 รปู ทรง (Form) หมายถงึ โครงสร้างทงั้ หมดของวัตถุท่ีปรากฎแกส่ ายตาในลักษณะ 3 มิติ คือมที ้ังส่วนกว้าง สว่ นยาว ส่วนหนาหรอื ลกึ คอื จะใหค้ วามรู้สกึ เปน็ แท่ง มีเนอื้ ทีภ่ ายใน มี ปรมิ าตร และมีน้าหนกั ฃองรปู ทรงมี 2 ชนิด
1. การน้าเส้นมาประกอบกันให้เกิดความกวา้ ง ความยาว และความหนาหรือความลกึ มี ลกั ษณะ 3มติ ิ 2. ส่งิ ทีม่ ีลกั ษณะแนน่ ทึบแบบ 3 มิติ เชน่ งานประติมากรรม สถาปตั ยกรรม หรือลกั ษณะ
ใบงานตอนที่ 1 เรือ่ ง องคป์ ระกอบศิลป์ ตอนที่ 2 คา้ ชแ้ี จง จงตอบคา้ ถามต่อไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง (5 คะแนน) 1. เสน้ หมายถึง .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. 2. จงบอกความรู้สกึ ของเส้น ดงั ต่อไปน้ี เส้นตรงแนวตัง้ ใหค้ วามร้สู ึก……………………………………………………… เสน้ ตรงแนวนอน ให้ความรู้สึก……………………………………………………….… เส้นเฉียงให้ความรสู้ กึ ………………………………………………………..........…… เสน้ ซิกแซ็ก ให้ความร้สู ึก…………………………………………………...…….…… เสน้ โค้ง ใหค้ วามรู้สึก……………………………………………………........….……
3. จงยกตวั อยา่ งรปู ทรงธรรมชาติ อยา่ งน้อย 10 อย่าง 1. ……………………………………………………………………………… 2. ……………………………………………………………………………… 3. ……………………………………………………………………………… 4. ……………………………………………………………………………… 5. ……………………………………………………………………………… 6. ……………………………………………………………………………… 7. ……………………………………………………………………………… 8. ……………………………………………………………………………… 9. ……………………………………………………………………………… 10. ………………………………………………………………………………....
4. จงยกตวั อยา่ งการนา้ รูปทรงทีม่ นษุ ย์สร้างข้นึ มาใช้กบั งานทศั นศลิ ป์ อยา่ งนอ้ ย 10 แบบ 1. ……………………………………………………………………………… 2. ……………………………………………………………………………… 3. ……………………………………………………………………………… 4. ……………………………………………………………………………… 5. ……………………………………………………………………………… 6. ……………………………………………………………………………… 7. ……………………………………………………………………………… 8. ……………………………………………………………………………… 9. ……………………………………………………………………………… 10. ………………………………………………………………………………...
5.จงอธบิ าย รปู ทรงเรขาคณิต .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................
ใบงานตอนท่ี 2 เรือ่ ง องคป์ ระกอบศิลป์ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนสร้างสรรค์ผลงานภาพจากลายเส้นด้วยดินสอ สร้างสรรค์เป็น เร่ืองราวตา่ งๆ ตามนมจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์ โดยนาเส้นลกั ษณะ ตา่ งๆ มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน (10 คะแนน) ลงในกระดาษ 100 ปอนด์
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: