บทที่ 5 ออปเปอเรช่ันแนล แอมปลิไฟร์ เบื้องต้น วัตถปุ ระสงค์ 1. บอกคุณสมบัติของออปแอมป์ในอุดมคติได้ 2. บอกคุณลักษณะและคานวณคา่ ในวงจรขยายแบบกลบั เฟส และแบบ ไมก่ ลบั เฟสได้ 3. บอกคุณลกั ษณะคานวณค่าในวงจรขยายแบบรวมสญั ญาณ และวงจรขยายสัญญาณผลต่างได้ 4. บอกคุณสมบัตขิ องวงจรขยายแบบแรงดนั ตามได้ 5.1 วงจรรวม วงจรรวม (Integrated circuits หรือ IC) คือ วงจรท่ีนาเอาอุปกรณ์สารกึ่งตัวนา เช่น ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ ตวั ตา้ นทาน ตวั เกบ็ ประจุ และองคป์ ระกอบวงจรตา่ ง ๆ มาประกอบรวมกันบนแผ่นวงจร ขนาดเลก็ ในปจั จุบันแผน่ วงจรนจี้ ะทาดว้ ยแผน่ ซลิ ิคอน บางทีอาจเรียกวา่ ชิป(Chip) หรือนิยมเรียกกันส้ันๆว่า ไอ.ซี. ไอ.ซี. ตัวหนึ่งสามารถบรรจุส่วนประกอบวงจรได้จานวนมาก ภายในตัว ไอ.ซี. อาจจะมีส่วนของ วงจรลอจิกท่ีซับซ้อนจานวนมาก ตัวอย่างกลุ่มวงจรรวมที่มีความซับซ้อนสูงมากๆ เช่น ไมโครโปรเซสเซอร์ ซึ่ง ใช้ทางานเพ่ือควบคุมเคร่ืองคอมพิวเตอร์ จนถึงในสมาร์ทโฟน และ พวกไอ.ซี.หน่วยความจา (RAM) เป็นต้น การทน่ี ักวิทยาศาสตร์สามารถรวมวงจรท่ีซับซ้อนมากๆ เข้ามาบรรจุไว้ในวงจรเดียวกัน ทาให้วงจรรวมมีขนาด เล็กลง บางและเบา รวมถึงการใช้กาลังไฟฟ้าลดลง มีความน่าเชื่อถือสูงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น วงจรรวม แบง่ ออกเปน็ สอง กลมุ่ คือ วงจรรวมแอนะล็อก(Analog ICs) และวงจรรวมดิจิตอล(Digital ICs) ออปเปอเรช่ัน แนล แอมปลิไฟร์นั้น ถูกจดั อยู่ในกลมุ่ ของ วงจรรวมแอนะล็อก หรอื วงจรรวมเชงิ เส้น(Linear ICs) รูปท่ี 1 การพฒั นาวงจรรวม 5.2 ออปเปอเรช่ันแนล แอมปลไิ ฟร์
ออปเปอเรช่ันแนล แอมปลิไฟร์(Operational amplifier) นิยมเรียกสั้นๆว่า “ออปแอมป์”เป็นวงจร รวมในกลมุ่ วงจรรวมแอนะล็อก เรม่ิ พฒั นาต้งั แต่ ปี พ.ศ. 2491 เพอื่ ใชง้ านกบั แอนะลอกคอมพิวเตอร์ ใช้ในงาน คานวณทางคณิตศาสตร์เท่าน้ัน ออปแอมป์ เป็นกลุ่มวงจรรวมที่ใช้งานมากสุดแบบหนึ่งในวงจรรวม อิเล็กทรอนิกส์ มีการใช้ออปแอมป์ในวงจรขยายเสียง วงจรรีกูเลเตอร์ วงจรเครื่องมือวัด จงจรกาเนิด สัญญาณ วงจรในระบบควบคุมอัตโนมัติ วงจรเปรียบเทียบสัญญาณ วงจรแปลงสัญญาณ วงจรอินเตอร์เฟซ ระหว่างสัญญาณแอนะล็อก และดิจิตอล และวงจรแหล่งจ่ายไฟฟ้า และอื่น ๆ เป็นต้น ออปแอมป์ นับว่าเป็น วงจรรวมกลมุ่ แอนะล็อก หรอื กลมุ่ เชิงเส้น ทน่ี ิยมใชก้ ันอย่างแพรห่ ลายมากทส่ี ุด 5.2.1 ออปแอมป์ ในอุดมคติ สญั ลักษณ์ ของ ออปแอมป์ แสดงในรูปที่ 2 เป็นรูปสามเหล่ียม มี 2 อินพุต คือ อินพุตลบ (inverting input, -) และ อินพุตบวก (non-inverting input, +) มี 1 เอาต์พุต Vcc คือแรงดันไบแอสบวก และ VEE คือ แรงดนั ไบแอสลบ ศกึ ษาเรือ่ งออปแอมป์อดุ มคตเิ พิ่มเติมที่ http://www.youtube.com/watch?v=Xr2VaSmSsOg รปู ที่ 2 สญั ลกั ษณ์ ของ ออปแอมป์ ภายในตัวออปแอมป์เม่อื พจิ ารณาถงึ วงจรภายใน ในสภาวะที่ไมเ่ ปน็ อุดมคติ (Non-ideal) จะประกอบ ไปดว้ ยวงจรสมมลู ดังรูปท่ี 3 โดยกาหนดให้ Ri คอื ความตา้ นทานอินพุต Vd คอื ผลตา่ งของแรงดันอนิ พุต( Vd = V2-V1) Ro คอื ความตา้ นทานเอาต์พตุ A คืออัตราขยายแรงดนั (voltage gain) V1 Vo คือแรงดันเอาต์พุต V1 คือแรงดนั อนิ พุตที่ขา ลบ Vd Ri Ro Vo AVd V2 คือแรงดันอินพตุ ท่ีขา บวก V2 รู ป ที่ 3 วงจรออปแอมป์ ในสภาวะท่ีไม่เปน็ อดุ มคติ สมการแรงดนั เอาตพ์ ตุ ของวงจรออปแอมป์ ในสภาวะท่ีไมเ่ ปน็ อดุ มคติ เปน็ ดังสมการท่ี 5-1 Vo = AVd = A(V2 - V1) (5-1)
โดยที่อัตราขยาย(A) หาได้จาก A = Vo/Vin = Vo/(V2-V1) การไบอัส สาหรับแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่จ่ายไบอัสให้กับตัว ไอ.ซี. ออปแอมป์ ปกติจะใช้ไบอัสแบบคู่ คือ VCC=+,VEE=- ค่าแรงดันบวกและลบปกติไม่เกิน 15V และต้องไบอัสทั้งสองข้ัวด้วยแรงดันเท่ากัน เสมอ ท้ังน้ีควรพิจารณาจากคู่มือออปแอมป์อีกครั้งหน่ึง ในหนังสือเล่มน้ีหากวงจรใดไม่ได้บอกค่าแรงดัน ไบแอส หมายความว่า วงจรออปแอมป์นนั้ ไดร้ บั แรงดนั VCC=+15V ,VEE=-15V แรงดันอิ่มตัว แรงดันเอาต์พุตของออปแอมป์ ไม่สามารถเกินกว่าค่าแรงดันไบแอสที่ป้อนให้กับตัว ออปแอมป์ได้ น้ีคือขีดจากัด เรียกว่า แรงดันอ่ิมตัว(Saturation output voltage) โดยปกติค่าแรงดันอิ่มตัว สูงสุดจะต่ากวา่ คา่ แรงดันไบแอส ประมาณ 1 – 1.5 V ดงั รปู ที่ 4 รปู ที่ 4 แรงดนั อมิ่ ตัวของออปแอมป์ การจดั วางขา การจัดวางขาของ ไอ.ซี.ออปแอมป์ ท่นี ิยมใช้กันมากคือ เบอร์ 741 เปน็ แบบตวั ถัง 8 pin Dual in Line(DIL) ดงั รูปท่ี 5 รปู ท่ี 5 การจดั วางขาออปแอมป์เบอร์ 741 ในเบ้ืองต้น การพิจารณาวงจรออปแอมป์ ให้เข้าใจง่ายและ สะดวกต่อการคานวณโดยท่ีสามารถ ออกแบบให้วงจรออปแอมป์ทางานได้ไม่ผิดพลาด เป็นไปตามทฤษฎี เรานิยมใช้วิธีการมองวงจรออปแอมป์ใน อดุ มคติ(Ideal Opamp)แทนแบบเดิม วงจรออปแอมป์ในอดุ มคติ แสดงในรูปท่ี 6 การพจิ ารณาออปแอมป์ในอุดมคติจะกาหนดให้อตั ราขยาย i1 0 ลปู เปดิ มีค่าเป็นอนนั ต์ ความตา้ นทานอนิ พตุ มีคา่ เป็นอนันต์ และ ความต้านทานเอาท์พุตมีค่าเป็นศนู ย์ V() i2 0 A = ∞ V() Vo Ri = ∞ Ro = 0
รปู ที่ 6 วงจรออปแอมป์ ในสภาวะทเี่ ป็นอดุ มคติ ดงั นัน้ กระแสที่ไหลเข้าออปแอมป์ทางดา้ นอนิ พตุ จะมีคา่ เท่ากบั ศนู ย์ดังสมการ(5-2) และแรงดนั ท่ขี าบวกและขา ลบจะมีค่าเทา่ กนั เสมอ ดังสมการ (5-3) i1 = 0, i2 = 0 หรือ i1 = i2 (5.2) V(+ ) = V(- ) (5.3) Note: วธิ ีงา่ ยๆในการหาค่าของ V(+ ),V(- ) โดยการสังเกตท่ีวงจรถา้ ข้ัวใดข้ัวหนึง่ ต่อลงกราวด์ค่าแรงดัน อกี ขั้วหน่ึงจะเท่ากับศูนย์ ดังรูป 7(b) หรือถา้ เกิดต่อกับแหลง่ จ่ายแรงดันท่ขี ั้วใดขั้วหน่ึง คา่ แรงดันอกี ขั้ว หนึง่ กจ็ ะมคี ่าเทา่ กบั คา่ แรงดันทแ่ี หลง่ จา่ ยนั้น ดงั รูป 7(a) รปู ท่ี 7(a) อนิ พุต(+) เทา่ กบั 5V ทาให้ อนิ พุต(-) เทา่ กบั 5V รูปท่ี 7(b) อนิ พุต(+) เทา่ กบั 0V ทาให้ อินพตุ (-) เทา่ กับ 0V สรปุ คณุ สมบัติของออปแอมป์ในอดุ มคติคือ 1. อตั ราการขยายสงู เป็นอนันต์ A = 2. อินพุตอิมพีแดนซส์ งู เป็นอนันต์ Zin = (ทาใหไ้ ม่มีกระแสไหลเข้าอินพุต) 3. เอาตพ์ ตุ อิมพแี ดนซ์เท่ากับศูนย์ Zout = 0 4.การทางานไมข่ ้ึนกบั ความถ่ี BW = (BW=Bandwidth) 5. เมอื่ แรงดันอินพุตเป็นศูนย์ ทาให้แรงดันเอาต์พตุ เปน็ ศูนย์ดว้ ย 6. การทางานของออปแอมป์ไมข่ น้ึ กับอุณหภมู ิ 5.2.2 วงจรขยายสัญญาณแบบกลบั เฟส (Inverting Amplifier) วงจรขยายสัญญาณแบบกลับเฟส คือ วงจรออปแอมป์ท่ีขยายและกลับสัญญาณอินพุตให้มี เครอ่ื งหมายตรงกันข้ามกับของเดิม โดยสญั ญาณอินพตุ จะปอ้ นเข้าที่อนิ พตุ ลบ(Inverting input)
รปู ที่ 8 วงจรขยายสัญญาณแบบกลบั เฟส พจิ ารณาจากรปู ที่ 8 ความสมั พนั ธ์ของแรงดันอนิ พุต คือ V(+ ) = 0 = V(- ) (ขว้ั บวกของออปแอมป์ตอ่ ลงกราวด์ แรงดันทขี่ ั้วมันจึงมีคา่ เทา่ กบั ศนู ย์) พจิ ารณาทโ่ี นด V(- ) - Vi + V(- ) - Vo = 0 R1 Rf V(- ) ด้วยกฎกระแสไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ เมื่อแทนค่า V(- ) = 0 ในสมการขา้ งต้น จะได้สมการความสัมพันธ์ คอื - Vi - Vo = 0 R1 R f Vo = - Rf Vi R1 (5.4) - Rf R1 คือ A หรือ อตั ราขยายแรงดัน (voltage gain) จะเห็นได้ว่าค่าอัตราขยายแรงดันมีค่าติดลบ ซ่ึงเป็นช้ีให้เห็นว่าวงจรดังกล่าวทาหน้าที่กลับ สญั ญาณ ตัวอย่าง 5.1 วงจรขยายสญั ญาณแบบกลับเฟส ดงั รูป จงหาคา่ ของ อัตราขยายแรงดนั และ แรงดันเอาต์พุต รูปท่ี 9
วิธที ่า Vo = A(Vi) A = -Rf/Ri = -(2K/1K) = -2 ตอบ Vo = -2(1.2V) = - 2.4 V ตวั อย่าง 5.2 วงจรขยายสญั ญาณแบบกลับเฟส ดังรปู จงเขียนรปู คล่ืนของแรงดนั เอาต์พตุ รปู ท่ี 10 วธิ ีท่า A = -Rf/Ri = -(3K/1K) = -3 ตอบ Vo = -3(1Vp) = - 3 Vp รปู ที่ 11 รปู คล่นื Vo เปรยี บเทยี บกบั Vi 5.2.3 วงจรขยายสัญญาณแบบไมก่ ลับเฟส (Non-inverting Amplifier) วงจรขยายสญั ญาณแบบไม่กลบั เฟส คือ วงจรออปแอมปท์ ี่ออกแบบมาเพื่อให้ voltage gain มคี ่าเป็น บวกหรือให้คา่ เอาทพ์ ุตคงค่าเคร่อื งหมายเหมอื นเดิม โดยสญั ญาณอนิ พตุ จะป้อนเข้าท่ีอนิ พุตบวก(Non- inverting input)
รูปท่ี 12 วงจรขยายสัญญาณแบบไม่กลบั เฟส พจิ ารณาจากรูปจะได้ V(+ ) = Vi = V(- ) (ขั้วบวกของ Op amp ต่อกบั แหล่งจา่ ยแรงดัน แรงดันทีข่ ้ัวมนั จึงมคี า่ เทา่ กับแรงดันที่แหลง่ จ่ายนนั้ ) พิจารณาที่โนด V(- ) ด้วยกฎกระแสไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ V(- ) + V(- ) - Vo = 0 R1 Rf เม่อื แทนค่า V(- ) = Vi ใน สมการขา้ งตน้ จะได้ Vi + Vi - Vo = 0 R1 R f (5.5) ตวั อยา่ ง 5.3 จากวงจรขยายสญั ญาณแบบไม่กลับเฟส ดงั รปู จงหาค่าของ แรงดนั อินพตุ (Vi) เม่อื แรงดัน เอาต์พตุ เทา่ กับ 3 V
รปู ที่ 13 วธิ ที า่ ตอบ 5.2.3 วงจรขยายสัญญาณแบบรวมสญั ญาณ (Summing Amplifier) วงจรขยายสัญญาณแบบรวมสัญญาณ คือ วงจรออปแอมปท์ รี่ วมอินพุตต้งั แต่ 2 อนิ พตุ ข้นึ ไปมา รวมกัน และแรงดันเอาต์พุตจะเทา่ กบั ผลรวมของแรงดนั อินพตุ คณู กับอัตราการขยายของวงจร รูปที่ 14 ตัวอย่างวงจรขยายรวมสัญญาณแบบ 3 อินพตุ รปู ที่ 14 วงจรขยายสญั ญาณแบบรวมสัญญาณ พิจารณาจากรูปที่ 14 (สังเกตทีข่ วั้ อินพุตบวก) จะได้ V(+ ) = 0 = V(- ) พจิ ารณาที่โนด V(- ) ดว้ ยกฎกระแสไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์
V(- ) - V1 + V(- ) - V2 + V(- ) - V3 + V(- ) - Vo = 0 R1 R2 R3 Rf เมื่อแทนคา่ V(- ) = 0 ในสมการข้างตน้ จะไดส้ มการความสัมพันธร์ ะหวา่ งอินพตุ และเอาท์พตุ คือ - V1 - V2 - V3 - Vo = 0 R1 R2 R3 R f (5.6) จากสมการที่ (5.6) ถ้า R1 = R2 = R3 = R ทาให้ A = - Rf/R ดงั นั้น (5.7) ตวั อย่าง 5.4 วงจรขยายสญั ญาณแบบรวมสัญญาณดงั รปู ที่ 15 จงหาค่าของ แรงดันเอาตพ์ ตุ รูปที่ 15 วิธีท่า
ตอบ 5.2.4 วงจรขยายสัญญาณผลตา่ ง (Difference Amplifier) วงจรขยายสัญญาณผลตา่ ง คอื วงจรท่ีทาหนา้ ขยายสญั ญาณ ท่ีเกดิ จากผลต่างระหวา่ งสญั ญาณที่ ป้อนเข้ามาท่ีอินพตุ ทั้งสอง ของวงจรออปแอมปด์ งั รูปที่ 16 เม่อื ผลตา่ งของแรงดันอนิ พุตทั้งสองคือ V2-V1 รปู ท่ี 16 วงจรขยายสญั ญาณผลต่าง จากรูป พิจารณาท่โี นด V(+ ) ดว้ ยกฎกระแสไฟฟา้ ของเคอรช์ อฟฟ์ V(+ ) - V2 + V(+ ) = 0 R3 R4 [] (a) พจิ ารณาทโ่ี นด V(- ) ดว้ ยกฎกระแสไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ (b) V(- ) - V1 + V(- ) - Vo = 0 R1 R2 [] [] จากความสัมพันธ์ของแรงดนั V(+ ) = V(- ) แทนสมการ (a) ใน (b) จะได้ [ ][ ] [ ] (c) แต่ ถ้า R1 = R3 = Ri และ R2 = R4 = Rf แทนในสมการ (c) จะได้ [ ] (5.8)
ตวั อย่าง 5.5 วงจรขยายสญั ญาณผลต่าง ดังรูปท่ี 17 จงหาค่าของ แรงดนั เอาต์พตุ รปู ที่ 17 วิธีท่า [ ] ตอบ ตัวอยา่ ง 5.6 วงจรขยายสัญญาณผลต่าง ดังรูปท่ี 18 จงเขยี นรปู คลนื่ ของสญั ญาณ แรงดันเอาต์พุต เม่อื V1=1Vp, sine-wave, 1 kHz, V2=0V รปู ท่ี 18 วธิ ที า่ [ ] ตอบ
รปู ท่ี 19 คล่นื ของสญั ญาณแรงดันเอาต์พตุ เท่ากบั 1VP แต่สญั ญาณกลบั เฟสจากรูปคล่นื ของแรงดัน V1 นักศึกษาผสู้ นใจสามารถ ดาวน์โหลด โปรแกรมการคานวณคา่ วงจร Differential Amplifier ได้ที่ เวป ไซดข์ อง Analog Device ตามลิงค์ไปนี้ http://www.analog.com/en/amplifier-linear-tools/adi-diff- amp-calc/topic.html 5.2.5 วงจรขยายสัญญาณแบบตามแรงดัน (Voltage Follower) วงจรขยายสญั ญาณแบบตามแรงดัน จะให้ค่าแรงดันทางดา้ นเอาท์พตุ เท่ากับแรงดนั ทางดา้ นอนิ พุต เพราะวา่ อัตราขยายแรงดนั ของวงจร เทา่ กบั 1 (A = 1) รปู ท่ี 20 วงจรขยายสัญญาณแบบตามแรงดนั พจิ ารณาจากรูปจะได้ V(+ ) = Vi = V(- ) และ V(- ) = Vo (5.9) ตวั อยา่ ง 5.7 กาหนดให้ V1=1Vp, sine-wave, 1 kHz, วงจรออปแอมป์ ดังรูปท่ี 21 จงเขียน รูปคลนื่ ของสัญญาณ แรงดันเอาตพ์ ุต Vo2 เปรียบเทยี บกบั สัญญาณอินพตุ V1
รปู ที่ 21 รูปคล่นื ของสัญญาณ แรงดนั เอาตพ์ ุต เท่ากับ 2VP แต่สัญญาณกลับเฟสจากรปู คล่ืนของแรงดัน V1 และมขี นาดเปน็ สองเท่า เพราะวา่ อัตราขยายแรงดนั ของวงจรออปแอมป์วงจรแรก คือวงจรขยายแบบกลับ เฟส เทา่ กบั -2 คอื A = -Rf/R1 = - 2k/1K = -2 วงจรออปแอมป์ วงจรที่สอง คือ วงจรขยายสญั ญาณแบบตามแรงดนั มีอตั ราขยายแรงดันเท่ากบั 1 และไมก่ ลบั เฟสสัญญาณ ดังน้ันรูปคล่ืน Vo2 จึงเหมือนกบั รูปคลืน่ ของ Vo1 นนั่ เอง ดงั รปู ท่ี 22 รปู ที่ 22 เอกสารอา้ งอิง [1] นภัทร วจั นเทพนิ ทร์ การประมวลผลสัญญาณดว้ ยออปแอมปแ์ ละลิเนยี ร์ ไอ.ซี. สานักพิมพส์ กายบ๊กุ ส์ จากดั ปทุมธาน.ี 2548 [2] Sergio Franco Design with Operational Amplifiers and Analog Integrated Circuits 3rd Edition , McGraw-hill Higher Education, 2001 [3] ออนไลน์ http://www.electronics-tutorials.ws/opamp/opamp_1.html [4] ออนไลน์ http://www.allaboutcircuits.com/vol_3/chpt_8/3.html
แบบฝกึ หดั บทที่ 5 จงเลอื กคา่ ตอบท่ถี ูกตอ้ งที่สดุ 1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สัญลักษณ์ของออปแอมป์ ก) ข) ค) ง) 2. ขอ้ ใดคอื วงจรออปแอมป์ขยายสัญญาณแบบกลบั เฟส ง) ก) ข) ค) 3. ข้อใดคอื วงจรออปแอมป์ขยายสญั ญาณแบบรวมสัญญาณ ก) ข) ค) ง) 4. ข้อใดคือวงจรออปแอมป์ขยายสญั ญาณแบบไม่กลับเฟส ก) ข) ค) ง) 5. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบตั ิของออปแอมป์ในอุดมคติ ง) A = 0 ก) A = ∞ ข) Ri = ∞ ค) Ro = 0
รปู ท่ี 23 ใช้สาหรับตอบคาถามข้อ 6-8 6. ถ้า อัตราขยายแรงดันเทา่ กับ -20 ค่า Rf =100KΩ จงหาคา่ ของ Rin ก) 2KΩ ข) 5KΩ ค) 10KΩ ง) 20KΩ 7. ถ้า อัตราขยายแรงดันเทา่ กับ -20 ค่า Rf =100KΩ Vin = 0.2V จงหาค่าของ Vout ก) -2V ข) -6V ค) -4V ง) -5V 8. ถา้ วงจรในรูป 18 มอี ตั ราขยายแรงดนั เท่ากบั -10 รูปคล่ืนของ Vin และรปู คล่นื Vout คอื ข้อใด ก) ข) ค) ง) รูปท่ี 24 Circuit A คอื วงจรขยายออปแอมป์ ชนิดหน่ึง มี V(source) เปน็ อนิ พตุ และ V(out) เปน็ เอาต์พุต ใช้ สาหรับตอบคาถามขอ้ 9-11 9. วงจรในรูป 24 Circuit A มอี ัตราขยายแรงดันเทา่ กับข้อใด ก) -2 ข) -1 ค) 2 ง) 3 10. วงจรในรปู 24 Circuit A คือวงจรในขอ้ ใด ก) วงจรขยายสญั ญาณผลต่าง ข) วงจรขยายแบบกลบั เฟส
ค) วงจรขยายแบบไม่กลบั เฟส ง) วงจรขยายแบบรวมสัญญาณกลบั เฟส 11. วงจรในรูป 24 ถ้าความต้านทานป้อนกลบั ของ Circuit A เทา่ กบั 1KΩ ความตา้ นทานอนิ พตุ เทา่ กบั ข้อใด ก) 1KΩ ข) 2KΩ ค) 10KΩ ง) 20KΩ รปู ท่ี 25 ใชส้ าหรบั ตอบคาถามข้อ 12-15 12. วงจรในรูป 25 คือวงจรในข้อใด ข) วงจรขยายแบบกลบั เฟส ก) วงจรขยายสญั ญาณผลต่าง ง) วงจรขยายแบบรวมสัญญาณกลบั เฟส ค) วงจรขยายแบบไม่กลบั เฟส 13. ถ้าแรงดัน V1 = 1V, Vo = -2V ความตา้ นทาน R1 เท่ากบั ข้อใด ก) 2KΩ ข) 5KΩ ค) 10KΩ ง) 15KΩ 14. ถ้าแรงดนั V3 = 1V, Vo = -5V ความต้านทาน R1 เท่ากับข้อใด ก) 2KΩ ข) 5KΩ ค) 10KΩ ง) 15KΩ 15. ถา้ R1=R2=R3= 5KΩ แรงดนั V1 =V2 =V3 = 0.2V แรงดัน Vo เทา่ กับข้อใด ก) -2.1V ข) -5V ค) -1.2V ง) -1.8V รูปท่ี 26 ใช้สาหรับตอบคาถามขอ้ 16-18 กาหนดให้ R=10KΩ
16. วงจรในรปู 2 คอื ข้อใด ข) วงจรขยายแบบกลบั เฟส ก) วงจรขยายสัญญาณผลต่าง ง) วงจรขยายแบบรวมสัญญาณกลับเฟส ค) วงจรขยายแบบไม่กลบั เฟส 17. ถ้าแรงดันอนิ พุต V1 = -1.2V, V2 =2.2V แรงดนั Vo เทา่ กับข้อใด ก) -2.2V ข) 1.0V ค) 1.2V ง) -1.2V 18. ถา้ แรงดันอินพุต V1 และ V2 ของวงจรที่ 26 เปน็ ดังรูปที่ 27 รปู คล่ืนของแรงดนั Vo คือขอ้ ใด รูปท่ี 27 ก) ข)
ค) ง)
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: