บทท่ี 5 สรุปผลโครงกำรพฒั นำทักษะวิชำชีพ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ คร้ังน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ให้ นกั ศึกษาสามารถปฏิบตั ิกระบวนการ ศึกษาชุมชนและแกไ้ ขปัญหาสุขภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั งานดา้ นสุขภาพ ซ่ึง ประกอบดว้ ยการศึกษาชุมชน การเตรียมชุมชน และการวนิ ิจฉยั ชุมชน พร้อมท้งั การแกไ้ ขปัญหาและพฒั นา ชุมชนซ่ึงประกอบไปดว้ ยการ วางแผน การดาเนินการตามแผน และการประเมินผลการดาเนินงาน โดยมีรายละเอียดดงั น้ี 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.2 อภิปรายผลโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 5.1.1 ขอ้ มูลทวั่ ไป จากการศึกษาชุมชนหมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาลบคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง สารวจชุมชนโดยใช้ แบบสอบถาม พบวา่ ประชากรท่ีตอบแบบสอบถาม มีช่วงอายตุ ่ากวา่ 20 ปี ร้อยละ 50 ช่วงอายุ 20 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 50 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนที่ทาแบบสอบถามอยใู่ นช่วงอายุ ต่ากวา่ 20 ปี ถึง 20 ปี ข้ึนไป เท่ากนั เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60 เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 40 ประชากรส่วนใหญท่ ี่ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 50 รองลงมาระดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 ระดบั ปริญญาตรี ร้อยละ 10 5.1.2 ขอ้ มูลดา้ นระบบสุขภาพจากการท่ีประชากรตอบแบบสอบถาม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ น สุขภาพ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคอื 2.12 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.81 รองลงมาคือมีดา้ นการ จดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการทอ่ งเท่ียวคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.06 และมีค่า เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.19
5.2 อภปิ รำยผล จ าก ก า ร ศึ ก ษ า ชุ ม ช น บ้ า น อู แ บ ห มู่ 4 ต า บ ล ย ะ ต๊ ะ อ า เภ อ ร า มั น จั ง ห วัด ย ะ ล า และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยการทาประชาคม ซ่ึงพบว่าปัญหา ท่ีสมควรดาเนินการแก้ไขเป็ น อันดับแรกคือ ด้านสุขภาพ โรคเกาต์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้จัดทา โครงการเพ่ือดาเนินการแกไ้ ขปัญหาดา้ นสุขภาพ เรื่องโรเกาต์ ในชุมชนชุมชนหมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาลบ คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง โดยมีกิจกรรมในโครงการประกอบดว้ ย 3 กิจกรรมหลกั คือ การ บรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคเกาตแ์ ละวธิ ีการป้องกนั โรคเกาต์ กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้โรคเกาต์ เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคเกาต์ หลงั จากใหค้ วามรู้ ซ่ึงสามารถอภิปรายผลไดด้ งั น้ีคอื 5.2.1 กิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคเกาต์ พบวา่ มีตวั แทนครัวเรือนและผนู้ าชุมชนเขา้ ร่วมในกิจกรรม คิดเป็ นร้อยละ 100 และผูเ้ ข้าร่วมโครงการ ได้ความรู้เชิงทฤษฎีเพ่ิมมากข้ึน โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี ซ่ึงบรรลตุ ามเป้าหมาย และการท่ีประชาชนมีความรู้เก่ียวกบั โรคเกาตม์ ากข้นึ ทาใหป้ ระชาชนมีความรู้ 5.2.2 กิจกรรมตอบคาถามเกี่ยวกบั ความรู้โรคเกาต์ พบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการใหค้ วามร่วมมือในการ ทากิจกรรม ทาใหม้ ี ความเขา้ ใจมากข้นึ โดยประเมินจากการทดสอบความรู้หลงั ฝึกปฏิบตั ิจริง 5.2.3 กิจกรรมเดินรณรงคป์ ้องกนั โรคเกาต์ พบวา่ ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ในเชิงปฏิบตั ิเพม่ิ มาก ข้นึ พบวา่ ประชาชนไดใ้ หค้ วามสนใจ และร่วมกิจกรรมเป็นอยา่ งดี โดยประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการส่วน ใหญ่มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ดี มากกวา่ ร้อยละ 80 ซ่ึงจากการจดั ทาโครงการดงั กลา่ วน้ีทาใหป้ ระชาชนมี ความรู้ทกั ษะและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ ริงในเร่ืองโรคไขเ้ ลือดออก 5.3 ข้อเสนอแนะกำรจัดโครงกำรพฒั นำทักษะวชิ ำชีพ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจดั โครงการ ควรมีการประชาสัมพนั ธ์ใหท้ ว่ั ถึง และใหเ้ ขา้ ใจวตั ถปุ ระสงคข์ อง กิจกรรม 5.3.1.2 ควรมีการดึงประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม้ ากท่ีสุด โดยมีกิจกรรมสนั ทนาการ ละลายพฤติกรรมก่อนเขา้ เน้ือหาบทเรียน 5.3.1.3 ควรมีการเพิ่มระยะเวลาในการจดั กิจกรรมโดยการติดตามและประเมินผลโครงการอยา่ ง ตอ่ เนื่อง เพอ่ื ประเมินวา่ ประชาชนมีความรู้ในเรื่องโรคเกาต์
ภำคผนวก
รูปกิจกรรม
รูปโครงกำร
แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน (บา้ นอูแบ หมู4่ ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา) คาช้ีแจง 1. แบบสอบถามฉบบั น้ีใชส้ ารวจและสอบถามขอ้ มลู ถึงสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน ประกอบดว้ ยดา้ นขอ้ มูลทวั่ ไปและสภาพปัญหาท้งั 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม ดา้ นการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และดา้ นสุขภาพ 2. ใหผ้ ตู้ อบแบบสอบถามตอบขอ้ มลู ตามความจริงท่ีสุด ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป 1. เพศ ( ) 1.ชาย ( ) 2.หญิง 2. อายุ (ถา้ เกิน 6เดือนให้นบั เป็น1ปี ) ( ) 1. ต่ากวา่ 20 ปี ( ) 2. 20-30 ปี ( ) 3. 31-40 ปี ( ) 4. 41-50 ปี ( ) 5. 51-60 ปี ( ) 6. 60 ปี ข้ึนไป 3.ศาสนา ( ) 1.พุทธ ( ) 2.อิสลาม ( ) 3.คริสต์ ( ) 4.อ่ืนๆ (ระบุ)………………………. 4. สถานภาพสมรส ( ) 1.โสด ( ) 2.แต่งงานแลว้ ( ) 3.หยา่ ร้าง ( ) 4. อื่นๆ (ระบ)ุ ………………………….
5. ระดบั การศึกษาสูงสุด หรือกาลงั ศึกษาระดบั ช้นั ใด ( ) 1.ต่ากวา่ ประถมศึกษา ( ) 2.ประถมศึกษา ( ) 3.มธั ยมศึกษาตอนตน้ ( ) 4.มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ( ) 5.อนุปริญญา/ปวส. ( ) 6.ปริญญาตรีข้นึ ไป ( ) 7.อ่ืนๆ................................... 6. อาชีพหลกั ในชีวิตประจาวนั ( ) 1.กาลงั ศึกษาอยู่ ( ) 2.เกษตรกร เช่น ทาไร่ ทานา ทาสวน เป็นตน้ ( ) 3.คา้ ขาย/ทาธุรกิจ ( ) 4.รับราชการ/พนกั งานรัฐวิสาหกิจ ( ) 5.พนกั งานโรงงาน/บริษทั /เอกชน ( ) 6.รับจา้ งทวั่ ไป ( ) 7.อื่นๆระบุ ......................... 7. โรคประจาตวั ( ) 1.ไม่มีโรคประจาตวั ( ) 2.มีโรคประจาตวั (ระบุช่ือโรค) .............................. 8. สมาชิกในครอบครัว ( ) 1. 1-5 คน ( ) 2. 5-10 คน ( ) 3. 10คนข้ึนไป (ระบุ)…………….
ตอนท่ี 2 แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 2.1 ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ ที่สุด กลาง ท่ีสุด 5432 1 ที่ ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลกั ไมเ่ พยี งพอ 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 3 กเู้ งินจากหน้ีนอกและในระบบ 4 มีรายไดไ้ มเ่ พยี งพอในการใชจ้ ่ายประจาเดือน 5 มีหน้ีสินเพ่มิ ข้ึนจากการประกอบอาชีพ 6 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ขาดทุน 7 การวา่ งงานของคนในชุมชนเพิม่ ข้ึน 8 ขาดที่ดินทากินเป็นของตนเอง 9 เกิดภยั แลง้ ซ้าซากในชุมชน 10 มีการเลน่ การพนนั ในชุมชน 11 ขาดความรู้เกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพ่มิ เติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.2 ปัญหาดา้ นสงั คม ท่ี ปัญหาดา้ นสงั คม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพ่ิมข้นึ ท่ีสุด กลาง ที่สุด 5432 1 2 กลมุ่ คนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 4 คนในชุมชนขาดความช่วยเหลือและ เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ 5 ความเหล่ือมล้าทางสงั คมของคนรวยและคนจน ในชุมชน 6 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝ่นุ ละอองมลพิษใน ชุมชนเพิ่มข้ึน 7 ขาดสวสั ดิการของหมบู่ า้ น 8 ความเชื่อและประเพณีของหมูบ่ า้ นทาใหข้ ดั แยง้ ทางสงั คม 9 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไมไ่ ดเ้ รียนต่อ แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพมิ่ เติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.3 ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ที่สุด กลาง ที่สุด ส่ิงแวดลอ้ ม 5432 1 1 ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่น น้าประปาและไฟฟ้าไมเ่ พียงพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ สะอาดของหม่บู า้ น 3 ป่ าเสื่อมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของ ชุมชนเพิม่ ข้ึน 4 ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหาร จดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ ชุมชน 5 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 6 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของชุมชน แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพ่ิมเติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.4 ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว จงทาเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ความขา้ งตน้ ท่ีตรงกบั ความเป็นจริงของท่าน 1. ในช่วง 6 เดือน - 1 ปี ท่ีผา่ นมาทา่ นมีอาการเจบ็ ป่ วยดว้ ยอาการ/โรค ( ) 1.เจ็บป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ ( ) 2.โรคติดต่อ เช่น อจุ จาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค โรคอื่นๆโปรดระบุ.......... ( ) 3.โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอื่นๆโปรดระบุ.......... ( ) 4.ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ติดยา/สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง ( ) 5.อ่ืนๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก 2. ท่านคดิ วา่ ณ ตอนน้ีสุขภาพโดยทว่ั ไปของท่านเป็นอยา่ งไร ( ) 1. แขง็ แรงดี ( ) 2. มีอาการอ่อนเพลียบา้ งเป็นคร้ังคราว/ประจา ( ) 3. มีอาการนอนไม่หลบั เป็นคร้ังคราว/ประจา ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว บอ่ ย บ่อย นานๆ บางคร้ัง ไมเ่ คย 2 1 ท่ี พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว ท่ีสุด คร้ัง 543 1 ประจาวนั ทา่ นทานอาหารครบ 3 ม้ือ 2 ทา่ นทานอาหารแตล่ ะม้ือครบท้งั 5 หมู่ 3 ทา่ นดื่มเหลา้ 4 ทา่ นชอบสูบบุหร่ี 5 ทา่ นออกกาลงั กาย 6 ท่านนอนหลบั พกั ผอ่ น 8 ชม. 7 ท่านลา้ งมือทกุ คร้ังก่อนรับประทานอาหาร 8 ท่านตรวจสุขภาพเป็นประจาทกุ ปี 9 เม่ือมีไขห้ รืออาการเจบ็ ป่ วยท่านซ้ือยาทานเอง
บ่อย บอ่ ย นานๆ บางคร้ัง ไมเ่ คย ที่ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว ท่ีสุด คร้ัง 5432 1 10 เมื่อท่านมีอาการเจ็บป่ วยท่านทาตามคาแนะนา ของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 11 เม่ือท่านมีอาการไขห้ รืออาการเจบ็ ป่ วยทา่ นไป สถานพยาบาล เช่น รพสต. รพ. คลินิก 12 เมื่อเกิดเหตฉุ ุกเฉินทา่ นโทร 1669 แสดงความคิดเห็นสภาพปัญหาเพ่มิ เติม .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ที่ ปัญหาดา้ นอื่นๆ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 1 ประชาชนขดั แยง้ แบง่ พรรคแบง่ พวก ท่ีสุด กลาง ที่สุด 5432 1 2 เยาวชนขาดจิตสานึกในช่วยเหลือกนั 3 ขาดแคลนแหล่งเงินทนุ เพ่ือพฒั นาอาชีพ 4 ขาดแหลง่ น้า เพื่อการเกษตรเพื่อการประกอบ อาชีพ 5 การประสานงานกบั ภาครัฐไมต่ อ่ เนื่อง แสดงความคิดเห็นสภาพปัญหาเพม่ิ เติม .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
แบบทดสอบความรู้เรื่องเกาต์ คาช้ีแจง : กรุณากรองขอ้ มลู และทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องวา่ งในขอ้ ท่ีถูก และ X ในขอ้ ที่ผิด แบบสอบถาม ก่อน หลงั ส่วนที่ 1 : ขอ้ มลู ทว่ั ไป ชาย อายุ ……… ปี เพศ หญิง การศึกษา ต่ากวา่ มธั ยมศึกษา มธั ยมศึกษาหรือเทียบเทา่ อนุปริญญาหรือเทียบเทา่ ปริญญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรีอาชีพ นกั ศึกษา ขา้ ราชการ เกษตรกร ลูกจา้ ง ธุรกิจส่วนตวั อื่นๆ ................................... ส่วนท่ี 2 : แบบทดสอบความรู้ _____ 1. โรคเกาตค์ ือ ภาวะภาวะท่ีมีอาการปวดบวมตามขอ้ _____ 2. สาเหตขุ องการเกิดโรคเกาตเ์ กิดจากการรับประทานอาหารที่ไมไ่ ดส้ ดั ส่วน หวาน มนั โดยเฉพาะ อาหารท่ีมีเกลือ(โซเดียม) สูง กินผกั และผลไม(้ รสหวานนอ้ ย)ไม่ เพยี งพอ _____ 3. ภาวะแทรกซอ้ นท่ีร้ายแรง เช่น หวั ใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ในบางรายอาจมี อาการปวดหัว เลือดกาเดาไหล หายใจไม่ทนั _____ 4. ปัจจยั เส่ียงของโรคเกาต์ คอื การรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ______5.อาการของโรคเกาตร์ ุนแรงเช่น ปวดตามขอ้ มีอาการบวมแดงซ่ึง อาการเหล่าน้ียงั ถือวา่ เป็นอาการ ท่ีไมเ่ ฉพาะเจาะจงและบอกไมไ่ ดช้ ดั เจน _____ 6. การรักษาโรคเกาต์ การรักษาโดยไมใ่ ช้ ยาคอื การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การดารงชีวิต เช่น ลด อาหารเคม็ ออกกาลงั กายสม่า _____ 7. การป้องกนั โรคเกาต์ คอื การดื่มอาหารมนั เคม็ ทุกวนั เป็นประจา _____ 8. ไมจ่ า เป็นตอ้ งไปพบแพทย์ เพอื่ รักษา สามารถซ้ือยากินเองได้ _____ 9. ออกกาลงั กายสม่า เสมอความถ่ีของการออกกาลงั กาย3-5วนั /สปั ดาห์ _____ 10. การปฏิบตั ิตวั เพอื่ หลีกเลี่ยงโรคเกาตจ์ ากการบริโภคสุรา หรือเคร่ืองด่ืมที่ มีแอลกอฮอล์ ใหอ้ ยใู่ น ปริมาณท่ีเหมาะสม หรืองดด่ืม งดสูบบุหรี่ รวมถึงหลีกเล่ียงการสูดดม ควนั บุหรี แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ คาช้ีแจง : กรุณากรองขอ้ มูลและทาเครื่องหมาย / ลงในช่องวา่ งในขอ้ ที่ถกู และ X ในขอ้ ท่ีผิด
เพศ : ชาย หญิง อาย.ุ ................ปี อาชีพ : นกั เรียน/นกั ศึกษา เกษตรกรรม รับจา้ งทว่ั ไป/ลกู จา้ ง ขา้ ราชการ คา้ ขาย/ธุรกิจ อื่นๆ......... รายละเอียด มากท่ีสุด ระดบั ความพึงพอใจ มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด 1. ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 1.3 ระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรม 1.4 เอกสารและส่ือประกอบในการจดั กิจกรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 2. ความพงึ พอใจดา้ นวิทยากร 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 3. ความพงึ พอใจดา้ นสิ่งอานวยความสะดวก 3.1 สถานที่จดั กิจกรรม 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 4. ความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ ง คุม้ คา่ 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ผลรวม ขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………….……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบลงทะเบียน โครงการ เกาตน์ ้ีมีแค่เรา ณ หอประชุมชุมชนบา้ นอูแบ หม่4ู ตาบลยะตะ๊ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา วนั ท่ี…..… เดือน……………. พ.ศ. ...……. เวลา…..........…. ลาดบั ช่ือ – สกุล ที่อยู่ หมายเลข ลายมือช่ือ ท่ี โทรศพั ท์ แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชนในชุมชน (บ้ำนอูแบ หมู่4 ตำบลยะต๊ะ อำเภอรำมัน จังหวดั ยะลำ)
คำชีแ้ จง 1. แบบสอบถามฉบบั น้ีใชส้ ารวจและสอบถามขอ้ มลู ถึงสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน ประกอบดว้ ยดา้ นขอ้ มูลทว่ั ไปและสภาพปัญหาท้งั 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม ดา้ นการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และดา้ นสุขภาพ 2. ใหผ้ ตู้ อบแบบสอบถามตอบขอ้ มลู ตามความจริงท่ีสุด ตอนที่ 1 ข้อมูลท่วั ไป 1. เพศ ( ) 1.ชาย ( ) 2.หญิง 2. อายุ (ถา้ เกิน 6เดือนใหน้ บั เป็น1ปี ) ( ) 1. ต่ากวา่ 20 ปี ( ) 2. 20-30 ปี ( ) 3. 31-40 ปี ( ) 4. 41-50 ปี ( ) 5. 51-60 ปี ( ) 6. 60 ปี ข้นึ ไป 3.ศาสนา ( ) 1.พุทธ ( ) 2.อิสลาม ( ) 3.คริสต์ ( ) 4.อ่ืนๆ (ระบ)ุ ………………………. 4. สถานภาพสมรส ( ) 1.โสด ( ) 2.แตง่ งานแลว้ ( ) 3.หยา่ ร้าง ( ) 4. อื่นๆ (ระบ)ุ …………………………. 5. ระดบั การศึกษาสูงสุด หรือกาลงั ศึกษาระดบั ช้นั ใด ( ) 1.ต่ากวา่ ประถมศึกษา ( ) 2.ประถมศึกษา ( ) 3.มธั ยมศึกษาตอนตน้ ( ) 4.มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ( ) 5.อนุปริญญา/ปวส. ( ) 6.ปริญญาตรีข้ึนไป ( ) 7.อื่นๆ................................... 6. อาชีพหลกั ในชีวิตประจาวนั ( ) 1.กาลงั ศึกษาอยู่ ( ) 2.เกษตรกร เช่น ทาไร่ ทานา ทาสวน เป็นตน้ ( ) 3.คา้ ขาย/ทาธุรกิจ ( ) 4.รับราชการ/พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ
( ) 5.พนกั งานโรงงาน/บริษทั /เอกชน ( ) 6.รับจา้ งทวั่ ไป ( ) 7.อ่ืนๆระบุ ......................... 7. โรคประจาตวั ( ) 1.ไม่มีโรคประจาตวั ( ) 2.มีโรคประจาตวั (ระบุชื่อโรค) .............................. 8. สมาชิกในครอบครัว ( ) 1. 1-5 คน ( ) 2. 5-10 คน ( ) 3. 10คนข้ึนไป (ระบ)ุ …………….
ตอนท่ี 2 แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 2.1 ปัญหำด้ำนเศรษฐกจิ ที่สุด กลาง ท่ีสุด 5432 1 ที่ ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลกั ไมเ่ พยี งพอ 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 3 กเู้ งินจากหน้ีนอกและในระบบ 4 มีรายไดไ้ ม่เพยี งพอในการใชจ้ ่ายประจาเดือน 5 มีหน้ีสินเพ่ิมข้นึ จากการประกอบอาชีพ 6 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ขาดทุน 7 การวา่ งงานของคนในชุมชนเพิม่ ข้ึน 8 ขาดที่ดินทากินเป็นของตนเอง 9 เกิดภยั แลง้ ซ้าซากในชุมชน 10 มีการเลน่ การพนนั ในชุมชน 11 ขาดความรู้เกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพ่มิ เติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.2 ปัญหำด้ำนสังคม ท่ี ปัญหาดา้ นสงั คม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพ่ิมข้นึ ท่ีสุด กลาง ที่สุด 5432 1 2 กลมุ่ คนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 4 คนในชุมชนขาดความช่วยเหลือและ เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ 5 ความเหล่ือมล้าทางสงั คมของคนรวยและคนจน ในชุมชน 6 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝ่นุ ละอองมลพิษใน ชุมชนเพิ่มข้ึน 7 ขาดสวสั ดิการของหมบู่ า้ น 8 ความเชื่อและประเพณีของหมูบ่ า้ นทาใหข้ ดั แยง้ ทางสงั คม 9 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไมไ่ ดเ้ รียนต่อ แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพมิ่ เติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.3 ปัญหำด้ำนกำรจดั กำรทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ที่สุด กลาง ที่สุด สิ่งแวดลอ้ ม 5432 1 1 ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่น น้าประปาและไฟฟ้าไม่เพียงพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ สะอาดของหม่บู า้ น 3 ป่ าเส่ือมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของ ชุมชนเพ่มิ ข้นึ 4 ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหาร จดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของ ชุมชน 5 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 6 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของชุมชน แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพิ่มเติม .......................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
2.4 ปัญหำด้ำนสุขภำพและพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตัวเองและครอบครัว จงทาเครื่องหมาย X หนา้ ขอ้ ความขา้ งตน้ ท่ีตรงกบั ความเป็นจริงของท่าน 1. ในช่วง 6 เดือน - 1 ปี ท่ีผา่ นมาท่านมีอาการเจบ็ ป่ วยดว้ ยอาการ/โรค ( ) 1.เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ ( ) 2.โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค โรคอ่ืนๆโปรดระบ.ุ ......... ( ) 3.โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอ่ืนๆโปรดระบ.ุ ......... ( ) 4.ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ติดยา/สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง ( ) 5.อื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก 2. ท่านคิดวา่ ณ ตอนน้ีสุขภาพโดยทวั่ ไปของท่านเป็นอยา่ งไร ( ) 1. แขง็ แรงดี ( ) 2. มีอาการอ่อนเพลียบา้ งเป็นคร้ังคราว/ประจา ( ) 3. มีอาการนอนไมห่ ลบั เป็นคร้ังคราว/ประจา ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว บ่อย บ่อย นานๆ บางคร้ัง ไมเ่ คย 2 1 ท่ี พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว ท่ีสุด คร้ัง 543 1 ประจาวนั ทา่ นทานอาหารครบ 3 ม้ือ 2 ทา่ นทานอาหารแตล่ ะม้ือครบท้งั 5 หมู่ 3 ทา่ นด่ืมเหลา้ 4 ท่านชอบสูบบหุ รี่ 5 ทา่ นออกกาลงั กาย 6 ทา่ นนอนหลบั พกั ผอ่ น 8 ชม. 7 ทา่ นลา้ งมือทุกคร้ังก่อนรับประทานอาหาร 8 ทา่ นตรวจสุขภาพเป็นประจาทกุ ปี 9 เม่ือมีไขห้ รืออาการเจบ็ ป่ วยท่านซ้ือยาทานเอง
บ่อย บอ่ ย นานๆ บางคร้ัง ไมเ่ คย ที่ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว ท่ีสุด คร้ัง 5432 1 10 เมื่อท่านมีอาการเจ็บป่ วยท่านทาตามคาแนะนา ของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 11 เม่ือท่านมีอาการไขห้ รืออาการเจบ็ ป่ วยทา่ นไป สถานพยาบาล เช่น รพสต. รพ. คลินิก 12 เมื่อเกิดเหตฉุ ุกเฉินทา่ นโทร 1669 แสดงความคิดเห็นสภาพปัญหาเพ่มิ เติม .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ที่ ปัญหาดา้ นอื่นๆ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 1 ประชาชนขดั แยง้ แบง่ พรรคแบง่ พวก ท่ีสุด กลาง ที่สุด 5432 1 2 เยาวชนขาดจิตสานึกในช่วยเหลือกนั 3 ขาดแคลนแหล่งเงินทนุ เพ่ือพฒั นาอาชีพ 4 ขาดแหลง่ น้า เพื่อการเกษตรเพื่อการประกอบ อาชีพ 5 การประสานงานกบั ภาครัฐไมต่ อ่ เนื่อง แสดงความคิดเห็นสภาพปัญหาเพม่ิ เติม .......................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................
แบบทดสอบควำมรู้เรื่องเกำต์ คำชี้แจง : กรุณำกรองข้อมูลและทำเครื่องหมำย / ลงในช่องว่ำงในข้อทีถ่ ูก และ X ในข้อทผ่ี ิด แบบสอบถำม ก่อน หลงั ส่วนท่ี 1 : ข้อมูลทวั่ ไป เพศ หญิง ชาย อำยุ ……… ปี กำรศึกษำ ต่ากวา่ มธั ยมศึกษา มธั ยมศึกษาหรือเทียบเท่า อนุปริญญาหรือเทียบเทา่ ปริญญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรีอาชีพ นกั ศึกษา ขา้ ราชการ เกษตรกร ลูกจา้ ง ธุรกิจส่วนตวั อ่ืนๆ ................................... ส่วนที่ 2 : แบบทดสอบควำมรู้ _____ 1. โรคเกาตค์ ือ ภาวะภาวะที่มีอาการปวดบวมตามขอ้ _____ 2. สาเหตขุ องการเกิดโรคเกาตเ์ กิดจากการรับประทานอาหารที่ไมไ่ ดส้ ัดส่วน หวาน มนั โดยเฉพาะ อาหารท่ีมีเกลือ(โซเดียม) สูง กินผกั และผลไม(้ รสหวานนอ้ ย)ไม่ เพียงพอ _____ 3. ภาวะแทรกซอ้ นท่ีร้ายแรง เช่น หวั ใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ในบางรายอาจมี อาการปวดหวั เลือดกาเดาไหล หายใจไม่ทนั _____ 4. ปัจจยั เสี่ยงของโรคเกาต์ คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ______5.อาการของโรคเกาตร์ ุนแรงเช่น ปวดตามขอ้ มีอาการบวมแดงซ่ึง อาการเหล่าน้ียงั ถือวา่ เป็นอาการ ที่ไม่เฉพาะเจาะจงและบอกไมไ่ ดช้ ดั เจน _____ 6. การรักษาโรคเกาต์ การรักษาโดยไม่ใช้ ยาคือการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม การดารงชีวิต เช่น ลด อาหารเคม็ ออกกาลงั กายสม่า _____ 7. การป้องกนั โรคเกาต์ คือการด่ืมอาหารมนั เคม็ ทุกวนั เป็นประจา _____ 8. ไมจ่ า เป็นตอ้ งไปพบแพทย์ เพ่ือรักษา สามารถซ้ือยากินเองได้ _____ 9. ออกกาลงั กายสม่า เสมอความถ่ีของการออกกาลงั กาย3-5วนั /สัปดาห์ _____ 10. การปฏิบตั ิตวั เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเกาตจ์ ากการบริโภคสุรา หรือเคร่ืองด่ืมที่ มีแอลกอฮอล์ ใหอ้ ยใู่ น ปริมาณท่ีเหมาะสม หรืองดด่ืม งดสูบบุหร่ี รวมถึงหลีกเล่ียงการสูดดม ควนั บุหรี่
แบบประเมินควำมพงึ พอใจกำรเข้ำร่วมโครงกำร คำชีแ้ จง : กรุณำกรองข้อมูลและทำเครื่องหมำย / ลงในช่องว่ำงในข้อทีถ่ ูก และ X ในข้อที่ผดิ เพศ : ชาย หญิง อำยุ.................ปี อำชีพ : นกั เรียน/นกั ศึกษา เกษตรกรรม รับจา้ งทวั่ ไป/ลกู จา้ ง ขา้ ราชการ คา้ ขาย/ธุรกิจ อื่นๆ......... รำยละเอยี ด มำกทส่ี ุด ระดับควำมพงึ พอใจ มำก ปำนกลำง น้อย น้อยทสี่ ุด 1. ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำร ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 1.3 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรม 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 2. ควำมพงึ พอใจด้ำนวิทยำกร 2.1 การถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 3. ควำมพงึ พอใจด้ำนสิ่งอำนวยควำมสะดวก 3.1 สถานที่จดั กิจกรรม 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 4. ควำมพงึ พอใจด้ำนคณุ ภำพกำรจัดกจิ กรรม 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ ง คุม้ ค่า 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ท่ีไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ผลรวม ขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………….……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบลงทะเบียน โครงการเกาตน์ ้ีมีอยจู่ ริง หอประชุมหมู่บา้ น บา้ นอแู บ หมู่4 ตาบลยะต๊ะ อาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา วนั ท่ี…..… เดือน……………. พ.ศ. ...……. เวลา…..........…. ลาดบั ชื่อ – สกลุ ท่ีอยู่ หมายเลข ลายมือช่ือ ท่ี โทรศพั ท์
บรรณำนุกรม -กลมุ่ โรคเกาต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. -จันจิราภรณ์ วิชัย, สายสมร พลดงนอก และธนพล ต่อปัญญาเรื อง. (2557) ความรู้เรื่ องโรคเกาต์ (Hypertension)ขอนแก่น :โรงพมิ พค์ ลงั นานาวิทยา.: ปฏิคม วิวฒั นานนท.์ (2558). การเฝ้าระวงั โรค การแปลผล และการรายงานทางระบาดวิทยา.
Search