รายงานการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ชุมชนเบอเส้ง ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จังหวดั นครยะลา นางสาวไลลา กอและ รหสั ประจาตัวนักศึกษา 611250017 รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวชิ าโครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูงปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปี ท่ี 2 รุ่นที่ 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา
คานา รายงานฉบับน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ ของนักศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนเบอเส้ง ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมืองจงั หวดั ยะลาเป็ นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่าง ๆ มีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลจาก ชุมชน โดยการสัมภาษณ์ สังเกต และจากขอ้ มูลทุติยภูมิเพ่ือให้ทราบ และเขา้ ใจถึงวิถีของคนในชุมชน และ มองเห็นสภาพปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นฉุกเฉินการแพทย์ และนาไปสู่การ วางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนไดอ้ ยา่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วิถีชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีภายในชุมชน ซ่ึงทาให้เกิดการพฒั นาอย่างยง่ั ยืน เพ่ือเตรียม ความพร้อมสู่การฝึกประสบการณ์จริง และเป็นบคุ ลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็ นอย่าง ย่ิงว่า ขอ้ มูลต่าง ๆ ในเล่มรายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ ห้เกิดประโยชน์ และเป็นแนวทางใน การพฒั นา แกป้ ัญหาในดา้ นต่าง ๆ ของชุมชน และเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาต่อไป ผู้จัดทา นางสาวไลลา กอและ
กติ ติกรรมประกาศ การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นักศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 วิทยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าการศึกษา ในพ้ืนที่ของตนเอง โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ีนกั ศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุม ชนเบอเส้งตาบลสะเตงนอก อาเภอเมืองจงั หวดั ยะลา ไดส้ าเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี โดยได้รับความกรุณาจาก บุคคลหลายท่าน ทางกลุ่มนกั ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาท่ีมีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคุณเป็ นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณฐั วีรขจร ท่ีไดใ้ หค้ าแนะนา ท่ีไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวิชา ก่อใหเ้ กิด ความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชนเบอเส้งที่คอยให้ความ ช่วยเหลือ แนะนา ให้คาปรึกษา ตลอดการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพและให้ความช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบา้ นชุมชนเบอเส้ง ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมืองจงั หวดั ยะลา ที่ให้ขอ้ มูลใน การศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการ ในทุกกิจกรรมที่นักศึกษาจดั ข้ึนและสาเร็จ ลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นักศึกษาขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาให้การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะ วชิ าชีพในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดี
สารบญั หน้า เร่ือง ก ข คานา ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 2 2 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 3 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั 3 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 4 บทท่ี 2 บริบทชุมชน 6 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 11 2.2 ฝังเครือญาติ 12 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 14 2.5 ปฏิทินชุมชน 17 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 17 2.7 ประวตั ิบุคคลสาคญั 18 บทท่ี 3 การวินิจฉยั ชุมชน 18 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 28 3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 29 3.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.4 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา 30 3.5 ปัญหาและการจดั ลาดบั ของปัญหา 30 39 บทท่ี 4 แผนงาน/โครงการ 44 4.1 แผนงาน/โครงการ 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจต่อโครงการ 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ
สารบญั ( ต่อ ) หนา้ 47 เรื่อง 47 บทที่ 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 48 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 48 5.2 อภิปรายผล 49 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 52 ภาคผนวก ภาคผนวก ขแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน 61 บรรณานุกรม
บทที่ 1 ส่วนนาโครงการ 1.1ความเป็ นมาและความสาคัญของการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ โรคความดนั โลหิตสูง ( Hypertension )ปัจจุบนั ความดันโลหิตสูงเป็ นหน่ึงในกลุ่มของโรคที่ทาให้เกิดผล แทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซ่ึงรวมท้งั หลอดเลือดท่ีสมองและไตด้วย จุดมุ่งหมายของการ รักษาภาวะความดันโลหิตสูงเพื่อลดอัตราทุพพลภาพและอตั ราการตาย ซ่ึงเกิดจากภาวะแทรกซ้อนทาง หวั ใจและหลอดเลือด การดูแลเฉพาะแต่ความดนั โลหิตสูงเท่าน้นั จะทาให้ไดผ้ ลไม่ดีเท่าที่ควร ดงั น้นั แพทย์ จึงตอ้ งตรวจคน้ หาภาวะอื่น ที่อาจพบในตวั ผูป้ ่ วยดว้ ย อาทิ เบาหวาน , ไขมนั ในเลือดสูง , ภาวะอว้ น , ผนงั หัวใจห้องซ้ายล่างหนา และโรคเก๊าท์ เป็ นตน้ ท้งั น้ีแพทยจ์ ะตอ้ งดาเนินการควบคุมและรักษาคู่ไปกบั การ รักษาความดนั โลหิตจึงจะไดผ้ ลและมีประสิทธิภาพเตม็ ที่ โรคความดันโลหิตสูง เป็ น 1 ในสาเหตุสาคญั ท่ีทาให้ประชากรทวั่ โลกตายก่อนวยั อนั ควร และเป็ น ปัญหาที่กาลงั มีความรุนแรงมากข้ึน ท้งั ในประเทศท่ีพฒั นาแลว้ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซ่ึงภาวะ ความดนั โลหิตสูงจะไม่มีสัญญาณเตือนหรืออาการแสดงให้เห็น จึงมกั จะถูกเรียกว่าเป็ น “ฆาตกรเงียบ” (Silent killer) ผปู้ ่ วยจานวนมากเป็นโรคน้ีโดยที่ไม่รู้ตวั มาก่อนว่ามีภาวะความดนั โลหิตสูง หากไม่ไดร้ ับการ ดูแลรักษาจะทาให้เพิ่มความเส่ียงของกลา้ มเน้ือหวั ใจตายเพ่ิมข้ึนเป็ นสองเท่า และความเส่ียงของโรคหลอด เลือดสมองเพิ่มข้ึนเป็ นสี่เท่า จากขอ้ มูลองคก์ ารอนามยั โลก (WHO, 2013) พบวา่ โรคความดนั โลหิตสูงเป็นสาเหตุการตายทวั่ โลกสูง ถึง 7.5 ลา้ นคน หรือร้อยละ 12.8 ของสาเหตุการตายท้งั หมด ท้งั ยงั มีผลสูญเสียปี สุขภาวะ 57 ลา้ นปี หรือคิด เป็ นร้อยละ 3.7 ของ DALYs จานวนผูท้ ่ีมีความดันโลหิตสูงทวั่ โลกพบว่ามีจานวนเกือบถึงพนั ลา้ นคน ซ่ึง สองในสามจะอยู่ในประเทศกาลงั พฒั นา และมีการคาดการณ์วา่ จะมีความชุกของโรคความดนั โลหิตสูงทว่ั โลกเพิ่มข้ึนถึงเป็ น 1.56 พนั ลา้ นคน ในปี พ.ศ. 2568 โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจยั การดาเนินชีวิตท่ี เปลี่ยนไป เช่น การมีกิจกรรมทางกายนอ้ ย การบริโภคอาหารท่ีมีส่วนประกอบของเกลือ และไขมนั สูง การ บริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบหุ ร่ี ซ่ึงนามาสู่ภาระโรคที่เพิ่มข้ึน ดว้ ยความตระหนกั ถึงปัญหาและภยั ของภาวะความดนั โลหิตสูง จากสถานการณ์และความสาคญั ดงั กล่าวนา นางสาวไลลา กอและนกั ศึกษาช้นั ปี ที่ 2 หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 เลง็ เห็นวา่ ประชาชนหมู่ 1ตาบล สะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา มีความเส่ียงท่ีจะเป็นโรคความดนั โลหิตสูง รพ.สตบาโงยบาแด จึงได้ จดั ทาโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเสี่ยงลดโรคความดนั โลหิตสูงในกลมุ่ เส่ียง
1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมป้องกันโรคความดันโลหิตสูงที่ถูกวิธีและ เหมาะสม 1.2.2 เพือ่ ใหผ้ ปู้ ่ วยโรคความดนั โลหิตสูงสามารถควบคมุ ความดนั โลหิตอยใู่ นเกณฑป์ กติ 1.2.3 เพื่อให้ผูป้ ่ วยสามารถน้าความรู้ท่ีไดร้ ับมาปรับพฤติกรรมในเรื่องการดูแลสุขภาพตนเองใชย้ า ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ถูกวิธีและลดการพ่งึ พาการใชย้ าที่เกินความจาเป็ น 1.3 กระบวนการเตรียมฝึ กโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดการฝึ กโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพนา ทกั ษะวิชาชีพ อาเภอร่อนปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นในชุมชน หม่ทู ี1 ตาบล สะเตง นอก อาเภอ เมือง จงั หวดั ยะลา นอก ภาพท่ี 1.1กรอบแนวคอิดากเาภรอเตเมรียือมงฝึจกงัโหครวงดั กยาะรพลฒัา นาทกั ษะวิชาชีพ
บทท่ี 2 บริบทชุมชน เคร่ืองมือ 7 ชิ้น เครื่องมือ 7 ชิ้น เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้ในการเข้าถึงพื้นที่ของชุมชน และบ่งบอกถงึ ความสาคญั ของกลุ่ม ผู้คนว่ามีความผูกพันธ์ุในวงศ์สกุลเดียวกัน สามารถช่วยแนะนาปัญหาบางอย่างของครอบครัวที่สามารถ เกดิ ขึน้ ได้และยังทาให้รู้จักกลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน เข้าหาชุมชนได้ง่ายขึน้ ได้เรียนรู้การรักษาตนเองของคน ในชุมชน เข้าใจวิถชี ีวิตของคนในชุมชนและทีส่ าคัญเป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้เป็ นใบเบิกทางเพื่อการกลมกลืนเข้ากับ ชุมชนน้ัน 1.แผนทเ่ี ดนิ ดิน
2.ผังเครือญาติ ผงั เครือญาติคือ การถอดความสัมพนั ธใ์ นเชิงเครือญาติ หรือเชิงสายเลือดในชุมชน มีความสาคญั ตอ่ การทาความเขา้ ใจชุมชนและสงั คม ไม่วา่ จะเป็นสังคมเมืองหรือสังคมชนบท เพราะเครือญาติเป็น ความสมั พนั ธท์ ่ีเป็นรากฐานที่สุดของชีวติ ครอบครัว การทาผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาคญั ในการทาความ เขา้ ใจระบบความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชน เป้าหมายสาคญั ของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสัมพนั ธเ์ ชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสมั พนั ธท์ างสังคมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้ัน 3.ช่วยสร้างความสัมพนั ธ์และความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีกบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคติดต่อของคนในครอบครัว เพ่ือป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผงั เครือญาติ สัญลกั ษณ์แทนบิดามารดาท่ีเสียชีวติ แลว้ สัญลกั ษณ์แทนผชู้ าย สัญลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สัญลกั ษณ์แทนการแตง่ งาน
นายดอแม กอและ / ผังเครื นางปาฮีด๊ะ มูซอ นายสาและ กอและ / นางม านางซาอดี ะ กอและ เต๊ะ นางอิสมาแ ะนนส.นสซ.สากซียาะกหีย์ กะอกเเลอะแกละ นนายามยะมซะซากาีกกี อกแอลแะลนะานยามยหู ามะ กอและ น.สไลลา กอและ นนายาอยานลมัายนอิเตาะ๊ลมั นิเตะ๊ นายอาดนมั ายนอิเตา๊ะดมั น นางสาวชลดา กอและ นางมะซาลี กอน.สลา กอและ และ
รอญาติ นางบารียะ กอและ/นายมุซตอฟา หะแว มือลอ กอและ นางมซุ ตอฟา หะแว ะ/นายอสิ มาแอล นิ แอล นิเตะ นายกามารูดิง หะแวยกามารุดิง น.สคอรีเยาะ หะแว นิเตนะ๊.สฮูดา นอิเตาด๊ะมั นิเตะ๊ ด.ญมาเรียม นิเต๊ะ หะแว นายสุไลมาน หะแว เยาะ เด็กหญิงมาเรียม นิเต๊ะ หะแว
3. โครงสร้างองค์กรชุมชน รายช่ือประธานและอาสาสมคั รชุมชน นายนาแว กรียอ นายนายสมาน หะยดี อปอ นานกามารูดิง หะยดี ือราเฮง นานายจรัส เรืองแกก้ รรมการฝ่าย เลขานุการ สวสั ดิการสังคม นายดอแม หะมะมูซอกรรมการฝ่าย นายมามุ อาเลม็ กรรมการฝ่าย พฒั นา ป้องกนั นานายฮาซนั หะมะมูซอกรรมการ นายดาฮารี ดอปอกรรมการฝ่ ายการ ฝ่ ายกลุ่มสตรี คลงั นายสุดิง มูละกรรมการฝ่ายกล่มุ นายซุนกิปลี สาและกรรมการฝ่าย สตรี การศึกษา
รายช่ือคณะกรรมการท่ปี รึกษาชุมชน นาย นาแว กรียอ ที่ปรึกษา นายสมาน หะยดี อปอ ท่ีปรึกษา นายนายกามารูดิง หะยดี ือราเฮงท่ี ปรึกษา นายจรัส เรืองแกว้ ที่ปรึกษา คณะกรรมการที่ปรึกษามี นายนาแว กรียอ นายสมาน หะยีดอปอ นายกามารูดิง หะยดี ือราเฮงนาย จรัส เรืองแกว้ บทบาทการทางานของคณะกรรมการท่ีปรึกษาส่วนใหญ่มีหนา้ ที่ปรึกษากบั ประธานชุมชน รองประธาน และ คณะกรรมการ ซ่ึงประธานกรรมการมีบทบาทในการบริหารชุมชนโดยมีประชาชนเป็ น ผสู้ นบั สนุน รายช่ือประธานอาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชน หมู่ท่ี 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา
นายนายอาลียะ๊ มซู ฮ นางแมะแย มะมิงสมาชิกอาสาสมคั ร นางปาอีด๊ะ มซู อสมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สาธารณสุข นางสาวอารุณี ปูเต๊ะสมาชิกอาสาสมคั ร นางสาวสารีป๊ ะ สาแมสมาชิกอาสาสมคั ร สาธารณสุข สาธารณสุข นางสปี น๊ะ สาและสมาชิกอาสาสมคั ร นางลดั ดา ใบเยน็ หมะสมาชิกอาสาสมคั ร สาธารณสุข สาธารณสุข นางเจะ๊ ซง มะลีสมาชิกอาสาสมคั ร สมาชิกนานางสีตีฮายา แลเยาะอาสาสมคั ร สาธารณสุข สาธารณสุข นางเซาเดาะ หะมะมซู อายดว้ ง นานางสาวสากีน๊ะ มามะสมาชิกอาสาสมคั ร สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สาธารณสุข นางศศิธร ดานางยวู ารีเยาะ หะยดี อปอบา้ น นางนางมาสก๊ะ กาเร็งลดั ดาวลั ย์ พรหมรักษ์ ใหม่ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางอาซีวะห์ แวจูนาทอง สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสานางพารีด๊ะ มะเละ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข
นานางสาวซากียะห์ กอและนางสายนั ทองสี นางสาวรอบีอะ สาและสมาชิกอาสาสมคั ร ทอง สาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสาวปัทมา ปูเตะางหนูเจียม พรหมรักษ์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางนางสาวนุรไอนี ดาปะหนูจาง เทพรัตน์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสาวนูรีซนั กามะสมาชิกอาสาสมคั ร นายอาลียะ ลาเต๊ะคลอด สาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นายมะลีกี สาแมา ปานตนุ้ นางนางสาวซูไฮลา หะมะมูซอ เสาวลกั ษณ์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข พาหะละ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางโชคดี นางสาวรุสนาณี สมหวงั แกว้ หวั ไทร สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข อาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชนหมู่ที่ 1 เป็ นองค์กรท่ีดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน เฝ้าคอย ระวงั โรคต่าง ๆ ในชุมชน มีบทบาทให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของชุมชน โดยมี นายอาลียะ๊ มูซอ เป็นประธาน โดยบทบาทหลกั ๆ ของ อาสาสมคั รสาธารณสุขในชุมชนหมู่ที่ 1ส่วนใหญ่จะประชาสัมพนั ธ์ เก่ียวกบั การตรวจสุขภาพของประชาชน รวมท้งั เชิญชวนใหป้ ระชาชนเขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั การ ดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครัวเรือน
กลุ่มสตรี นางปาอดี ๊ะ มูซอ หัวหน้ากลุ่มสตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็ นกลุ่มเป้าหมายในการดาเนินการขบั เคล่ือนการดาเนินงานจดั ประชุม สตรีในหมู่บา้ นเพื่อแนะนาการจดั ทาครอบครัวพฒั นาตามคณุ ลกั ษณะท่ีกาหนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมายท่ี เข้าร่วมโครงการวางแผนการพัฒนาประสานองค์กรหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งเพื่อ ร่วมส่งเสริม/และพฒั นา ครอบครัว กลุ่มผ้สู ูงอายุ นางนายฟุรกอน สาแมหวั หน้า กลุ่มผู้สูงอายุ ชมรมผูส้ ูงอายเุ ป็นการรวมกลุ่มของผูส้ ูงอายุที่มีอายุเกิน ๖๐ ปี ข้ึนไป อย่างนอ้ ย ๒๐ คน และอาจมี คนวยั อื่น ท้งั วยั ทางาน เด็ก เยาวชน เขา้ ร่วมเป็ นสมาชิกสมทบ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ ของสมาชิกที่เป็นวยั สูงอายุโดยมีวตั ถุประสงค์ตรงกันในการดาเนินกิจกรรมท่ีเป็ นประโยชน์ท้งั ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และมีการกาหนดระเบียบข้อบังคบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผูส้ ูงอายุอาจอยู่ภายใต้สังกัด หน่วยงาน องคก์ ร หรืออาจเป็นชมรมอิสระท่ีไมส่ ังกดั หน่วยงานใดกไ็ ด้
4.ระบบสุขภาพ รพ.สตบาโงยบาแด สถานพยาบาล คลนี ิค ระบบสุขภาพชุมชนเบอเส้ง ต จังหวดั นค ภูมิปัญญา ร้านขายยา
มสั ญิดมิฟตาฮุนญนั นะห์ ศาสนา สถานทอี่ อกกาลงั กาย ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง โรงเรียนบา้ นเบอเส้ง ครยะลา า ชีฟาอเ์ ภสชั
5. ปฏิทินชุมชน กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน มกราคม มิถนุ ายน กรกฎาคม สิงหาคม -งานอาซรู อ ตลุ าคม เทศกาลถือศิลอด รายออีดิลฟิ ตตรีห์ พฤษภาคม พฤศจิกายน ธันวาคม รายออีดิลอฎั ฮา กนั ยายน กจิ กรรมภายในแต่ละเดือน กจิ กรรม รณรงคไ์ ขเ้ ลอื ดออก เดอื น มกราคม กีฬาเยาวชนสัมพันธ์ โครงการพนม เมษายน กรดี ยาง กรกฎาคม กนั ยายน
6. ประวตั ศิ าสตร์ชุมชน บา้ นเบอรเ์ สง้ หม่ทู ่ี1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา บา้ นเบอรเ์ สง้ เป็นภาษามลายทู ่มี คี วามหมาย มาจากคาวา่ “เพ่อื น “ หรือ “พรรคพวก”ซ่งึ เดมิ ท่ีคนกลมุ่ แรกท่เี ขา้ มารวมกนั มาจากหลายพืน้ ท่ี ทงั้ ในเขต ตาบลบดุ ีตาบลสะเตงนอกในปัจจบุ นั สาเหตกุ ารมารวมตวั กนั เน่อื งจากไดม้ กี ารสรา้ งมสั ยิด “บือแซง” ท่ี ในปัจจบุ นั เรียกว่า “เบอรเ์ สง้ ” โดยกลม่ คนเร่มิ แรกมาจาก6 กาปง คอื กาปงโต กาปงโฮ กาปงกีแย กา ปงแยระ กาปงกแู ว และกาปงแบกเู ฆ็ง มารวมตวั และอาศยั อย๋ขู า้ งมสั ยิด โดยแต่ละกาปงจะอย่หู า่ งกนั ประมาณ2-3กิดลเมตร โดยมพี นื้ ท่นี ากนั้ ระหว่างกลาง ปัจจบุ นั กาปงท่มี คี นอาศยั อย่แู ค่4กาปง คอื กาปงกี แย(อย่ใู นพืน้ ท่ตี าบลบดุ ี) กาปงแยระ กาปงแวและกาปงบเู กะเล็ง (อยใู่ นพืน้ ท่ขี องตาบลสะเตงนอก)และ กลมุ่ สกลุ เร่มิ แรกท่เี ขา้ มาอาศยั และรวมกนั มี 6 สกลุ คือ มซู อ หะมะมซู อ กือแย ดเี มา๊ ะ บาเฆง็ และยามา ตอนนนั้ มผี ใู้ หญ่บา้ นคนแรกช่ือ นายอาหามะ ต่อมาไดม้ ีการสรา้ งโรงเรียนเบอรเ์ สง้ โดยการบรจิ าคท่ีดนิ จาก คนสกลุ กรียอ สถานที่สาคัญ 1 มสั ยิดเบอรเ์ สง้ 2 โรงเรียนบา้ นเบอรเ์ สง้ 3 ศนู ยเ์ ดก็ วยั ก่อนเรียน 4 สภาตาบล 5 สถาบนั ศกึ ษาอิสลาฮดุ ดีนวิทยา ผลิดภัณฑช์ ุมชน 1 กลมุ่ แม่บา้ น 2 กลมุ่ ตดั เย็บเสอื้ ผา้ 3 กลมุ่ ฟารม์ แพะ
7.ประวตั ชิ วี ติ 1.ประวตั ชิ ีวติ นายอบั ดลุ การมี กรียอ (กานนั หมทู่ 1ี คนปัจจบุ นั ) ช่ือนายอบั ดลุ การีม กรียอ (กานนั หม่ทู ี1คนปัจจบุ นั ) - 13 มนี าคน พ.ศ2523 ปัจจบุ นั อาย4ุ 0 ปี - สญั ชาติไทย นบั ถือศาสนาอสิ ลาม - ท่อี ย่อู าศยั 142/2 หม่1ู ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา - 5คน เป็นบตุ รคนท2ี - มบี ตุ รดว้ ยกนั 2คน -ไม่มีโรคประจาตวั ประวัตกิ ารศกึ ษา -จบจากประถมศกึ ษาปี ที6จากโรงเรยี นบา้ นเบอรเ์ สง้ หมทู่ ี1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา -จบจากมธั ยมศกึ ษาปี ที6จากโรงเรยี นอิสลาฮดุ ดนิ วิทยา หม่ทู ี1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา -จบจากปรญิ ญาตรจี ากมหาวิทยาลยั ราชภฎั ยะลา ประวัตกิ ารทางาน -ดารงตาแหนง่ เป็นกานนั หม่ทู ี1 เป็นเวลา4 ปี 2.ประวตั ชิ ีวติ นายจรสั เรืองแกว้ (สารวตั ร หม่ทู ี1คนปัจจบุ นั ) -ช่ือนายจรสั เรอื งแก้ ว (สารวตั ร หมทู่ 1ี คนปัจจบุ นั ) - 24 ตลุ าคม พศ.2521 ปัจจบุ นั อาย4ุ 2 ปี -สญั ชาติไทย ศาสนาพทุ ธ -ทอี ย่อู าศยั 99/91 หม่1ู ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา - 2คน เป็นบตุ รคนที1 -มบี ตุ รดว้ ยกนั 1คน
- ไม่มีโรคประจาตวั ประวตั กิ ารศึกษา -จบจากประถมศกึ ษาปี ที6จากโรงเรยี นบา้ นเบอรเ์ สง้ หม่ทู 1ี ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา -จบจากมธั ยมศกึ ษาปี ท6ี จากโรงเรียนเทศบาล2บา้ นมลายบู างกอก -จบจากปรญิ ญาตรีมหาวิทยาลยั บรุ พา ประวัตกิ ารทางาน -ดารงตาแหนง่ เป็นสารวตั รหม่1ู เป็นเวลา3 ปี 3ประวตั ชวี ติ นายอาลยี ะ๊ มซู อ( ประธานอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น หม่ทู 1ี ) -ช่ือนายอาลยี ะ๊ มซู อ( ประธานอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น หมทู่ ี1 ) - 23 พฤษภาคม พ.ศ2514 ปัจจบุ นั อาย4ุ 9 ปี -สญั ชาติไทย ศาสนาอสิ ลาม -ทีอย่อู าศยั 124/5 หม่1ู ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา - 2คน เป็นบตุ รคนท1ี -มีบตุ รดว้ ยกนั 1คน -ไม่มโี รคประจาตวั ประวตั กิ ารศกึ ษา -จบจากประถมศกึ ษาปี ที6จากโรงเรียนบา้ นเบอรเ์ สง้ หมทู่ 1ี ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา -จบจากมธั ยมศกึ ษาปี ท6ี จากโรงเรียนอสิ ลาฮดุ ดินวิทยา หมทู่ ี1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา -ปวส.จบจากวิทยาลยั เทคนคิ ยะลา ประวัติการทางาน -ดารงเป็นประธานอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหม่บู า้ น หมทู่ 1ี เป็นเวลา 8 ปี ผลงานดีเดน่ -เป็นอาสาสมคั ดเี ด่น3 ปี ซอ้ น
บทท่ี 3 การวินิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมทู่ ่ี1 ตาบลตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลาในคร้ังน้ีเป็นการศึกษาใน รูปแบบ การสารวจ สังเกต การสัมภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวนิ ิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวิเคราะห์ขอ้ มลู 3.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มลู เพ่มิ เติมจากแหลง่ ทตุ ิยภูมิ ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้นึ และขอ้ มลู ท่ีไดเ้ ป็นขอ้ มลู ปัจจุบนั มาก ที่สุด วิธีการเก็บรวมรวบขอ้ มลู ปฐมภูมิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสังเกต เป็นการสังเกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมตา่ ง ๆ ของ ประชาชน ในชุมชน โดยที่ผถู้ ูกสังเกตไม่รู้ตวั เพื่อนาขอ้ มูลมาสนบั สนุนในการวเิ คราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาถามตา่ ง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พิมพไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผูถ้ กู สมั ภาษณ์ทกุ คน โดยคาถามจะเป็น ท้งั คาถาม แบบปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพอื่ เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ ูกสัมภาษณ์แสดงความคดิ เห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มลู ทตุ ิยภูมิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ หรือขอ้ มูลท่ีรวบรวมไวท้ ่ีองคก์ ร ในหมู่บา้ น ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพิ่มเติม เพอ่ื นามาใชใ้ น การสนบั สนุน ในกระบวนการวิเคราะหป์ ัญหา การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั โรคความดนั ตอนที่ 3 ขอ้ มูลดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้
3.2 การวเิ คราะห์ข้อมูล ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวิเคราะห์ขอ้ มลู ในรูปแบบ ร้อยละ และนาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพื่อความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับขอ้ มูลเชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพ่ือความเขา้ ใจ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากการศึกษาหมู่บา้ นบา้ นเขางาม ม.1 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงาน ตา่ ง ๆ ของชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอขอ้ มูลตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี1 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศ เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 4 40 หญิง 6 60 รวม 10 100 จากตาราง 1 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชมุ ชนมเี พศสภาพสว่ นใหญ่พบวา่ เป็นเพศหญิงมาก ท่ีสดุ รอ้ ยละ 60และ เป็นเพศชายรอ้ ยละ 40 ตามลาดบั ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านสถานภาพ สถานภาพ จานวน ร้อยละ โสด 7 70 สมรสเเลว้ 3 30 หยา่ ร้าง 0 0 เเยกกนั อยู่ 0 0 รวม 10 100 จากตารางท2ี พบวา่ สถานภาพของประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญ่สมรส รอ้ ยละ30รองลงมามี สถานภาพโสด รอ้ ยละ70 ตามลาดบั
ตารางท่ี 3 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุ อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 3 30 20-30 ปี 3 30 31-40 ปี 4 40 41-50 ปี 0 0 51 ปี ข้นึ ไป 10 100 จากตาราง2 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชมุ ชนสว่ นใหญ่มีอายอุ ยใู่ นชว่ งต่ากวา่ 20ปี ขนึ้ ไป รอ้ ยละ 30% และอายอุ ยู่ ในช่วง20-30 ปี รอ้ ยละ30% และอายอุ ยใู่ นชว่ ง31-40 ปี รอ้ ยละ40% และอายอุ ยใู่ นชว่ ง 51 ปีขึน้ ไป รอ้ ยละ10% ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านระดบั การศึกษาสูงสุด ระดบั การศึกษาสูงสุด จานวน ร้อยละ ประถมศึกษา 0 0 มธั ยมศึกษาตอนตน้ ม1-ม3 2 20 มธั ยมศึกษาตอนปลาย ม4-ม6 3 30 ระดบั ปวส หรือ เทียบเท่า 2 20 ปริญญาตรี 3 30 ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ 0 0 อื่นๆ ............... 0 0 รวม 10 100 จากตาราง4 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชมุ ชนสว่ นใหญ่ศกึ ษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ รอ้ ยละ 20รองลงมา ศกึ ษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รอ้ ยละ30และรองลงมาศกึ ษาอยใู่ นระดบั ปวส รอ้ ยละ 20และรองลงมาระดบั ปรญิ ญาตีรอ้ ยละ30 ตารางท่ี 5 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผ้ตู อบแบบสอบถามในด้านอาชีพหลกั ของครอบครัว อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ รับจา้ งทวั่ ไป 4 40 เกษตรกร 3 30 ประมง 0 0
ขา้ ราชการ/ลกู จา้ งหรือพนกั งาน 1 10 คา้ ขาย 2 20 วา่ งงาน 0 0 อื่นๆ.................... 0 0 จากตาราง 5 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชมุ ชนสว่ นใหญ่มอี าชีพเกษตรกร รอ้ ยละ 30รองลงมา จะประกอบอาชีพ พนกั งานเอกชน รอ้ ยละ10และประกอบอาชพี รบั จา้ งท่วั ไปรอ้ ยละ 40และประกอบอาชีพ คา้ ขายรอ้ ยละ20ตามลาดบั ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผ้ตู อบแบบสอบถามในด้านโรคประจาตวั โรคประจาตัว จานวน ร้อยละ ไม่มีโรคประจาตวั 8 80 มีโรคประจาตวั 2 20 รวม 10 100 จากตารางท6ี พบวา่ ประชาชนกล่มุ ตวั อยา่ งในชมุ ชนสว่ นใหญ่ไมม่ ีโรคประจาตวั รอ้ ยละ80 มีโรค ประจาตวั เป็นโรคไขมนั เกนิ รอ้ ยละ20 ตามลาดบั ตารางที่ 7แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านเศรษฐกจิ ปัญหาด้านเศรษฐกจิ มากทสี่ ุด ระดบั ปัญหา 5 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพไม่พอ 0 มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ุด ไม่มีอาชีพเสริม 0 4 3 21 ขาดที่ดินทามาหากิน 0 5 5 00 หน้ีสินเพ่ิมข้นึ จากการประกอบอาชีพ 0 10 0 0 ครัวเรือนมีรายไดไ้ ม่เพยี งพอในการใชจ้ ่ายประจาเดือน 0 0 0 0 10 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า การวา่ งงานของคนในชุมชนเพ่มิ ข้นึ 0 0 0 55 ขาดความรู้เกี่ยวกบั เศษฐกิจพอเพียง 0 เยาวชนในหมูบ่ า้ นขาดความสมคั คี 0 0 10 0 0 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 0 3 7 00 0 0 6 40 0 0 7 30 0 6 31 0 5 32
ตารางที่8แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านสังคม ปัญหาด้านสังคม มากทส่ี ุด มาก ระดบั ปัญหา น้อย น้อยทส่ี ุด 5 4 2 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพ่ิมขนึ้ 0 0 ปานกลาง 2 0 กลมุ่ คนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ้ึงกนั และกนั 3 ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 0 0 8 8 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง สุขลกั ษณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝ่นุ ละอองมลพษิ ใน 0 0 02 10 ชุมชนเพม่ิ ข้นึ ความเช่ือและประเพณีของหม่บู า้ นทาใหข้ ดั แยง้ 0 0 00 9 เยาวชนทะเลาะวิวาทและไม่ไดเ้ รียนต่อ ขาดคนกลางในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ของคนใน 0 0 01 4 ชุมชน 0 0 5 24 0 0 14 10 00 ตารางท่ี 9 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมและการท่องเทีย่ ว ปัญหาด้านการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ มากท่ีสุด ระดับปัญหา น้อยทสี่ ุด ส่ิงแวดล้อมและการท่องเทีย่ ว 5 1 มาก ปานกลาง น้อย 0 ระบบสาธารธูปโภคบริโภคของชุมชน เช่นประปา 0 4 32 0 10 0 0 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ 0 สะอาดของหมู่บา้ น 0 10 0 0 5 ป่ าเส่ือมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของชุมชน 0 2 35 10 0 05 0 ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มไม่เอ้ือต่อการบริหารจดั การ 0 0 00 0 มีการบกุ รุกท่ีดินสาธารณะเพิ่มขนึ้ 0 55 0 แหล่งท่องเท่ียวในชุมชนขาดการส่งเสริมสนบั สนุน 0
ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหารจดั การ 0 0 0 0 10 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ 0 0 0 0 10 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการอนุรักษ์ 0 0 2 3 5 ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 0 55 00 ตารางที่ 10แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านอื่นๆ ระดบั ปัญหา ปัญหาด้านอื่นๆ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด 2 1 54 3 0 0 3 2 ขาดการสืบสานวฒั นธรรมและภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน 0 0 10 1 9 2 0 การคมนาคมสญั จรไม่สะดวก 00 5 1 0 0 1 ขาดแคลนทุนในการแปลงสินทรัพยเ์ ป็นทุน 00 0 3 0 0 0 ชุมชนขาดความเขม้ แขง็ ในดา้ นการรวมกลุ่ม 50 3 0 0 5 0 มีโรคติดตอ่ ภายในชุมชน 00 9 ประชาชนขดั แยง้ แบ่งพรรคแบ่งพวก 02 7 เยาวชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 00 7 ขาดแคลนแหล่งเงินทุนเพ่ือพฒั นาอาชีพ 05 5 ขาดแหลง่ น้าเพ่ือการเกษตรเพ่ือการประกอบอาชีพ 0 0 10 ขาดการดูแลรักษาสิ่งแวดลอ้ มในชุมชน 00 5 ตารางที่ 11แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านสุขภาพ ปัญหาด้านสุขภาพ มากท่ีสุด ระดบั ปัญหา น้อยทีส่ ุด 5 1 สามารถติดตามอ่านคาแนะนาที่เกี่ยวกบั การ 0 มาก ปานกลาง น้อย 0 ป้องกนั ดูแลสุขภาพถกู ตอ้ ง 432 สามารถเตือนผอู้ ื่นท่ีมีพฤติกรรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ 0 550 0 เช่น ไม่ใหส้ ูบบหุ ร่ี ด่ืมสุรา 533
สามารถไปพบแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข 0 5 5 0 0 0 หรือผใู้ หบ้ ริการสุขภาพไดท้ ุกเมื่อ ตามที่ตอ้ งการ 0 มีการจดั โครงการอบรมดา้ นสุขภาพและ 02 8 0 0 สุขลกั ษณะใหก้ บั คนในชุมชนอยเู่ ป็นประจา 0 0 0 สามารถควบคุมกากบั สุขภาพตนเอง เช่น ชงั่ 0 0 น้าหนกั ตรวจสุขภาพประจาปี คิดบวก ลดอาหาร 5 3 2 ท่ีทาลายสุขภาพ ออกกาลงั กายเสมอ ในรอบ 1 ปี สมาชิกในครอบครัวมอี าการเจ็บป่ วยด้วยอาการ/โรค เจ็บป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวด 0 1 9 0 ทอ้ ง/โรคกระเพาะ โรคติดตอ่ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค 0 3 7 0 ฯลฯ โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิตสูง 55 0 0 โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกงั วล/เครียด ติดยา/ 4 6 0 0 สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง อ่ืนๆ เช่น โรคเก่ียวกบั ขอ้ และกระดูก 22 6 0 ตารางที่ 12แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนวธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว ( สมาชิกในครอบครัวมีการเจบ็ ป่ วยเลก็ น้อย) วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว ลาดับปัญหา ( สมาชิกในครอบครัวมีการเจ็บป่ วยเล็กน้อย) มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด 54 3 21 ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั 2 2 8 00 ลดไข้ ปรึกษา/ขอคาแนะนาจาก อสม. 04 8 00 ใชบ้ ริการสุขภาพที่สถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ 2 6 2 00 คลินิก/โรงพยาบาล
วธิ ีการดแู ลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว (สมาชิกในครอบครัวมีการเจ็บป่ วยรุนแรง/หมดสต)ิ ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั 0 5 5 00 ลดไข้ มีความรู้พ้นื ฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน สามารถ ปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคืนชีพ 0 4 6 00 ข้นั พ้นื ฐาน(CPR) ใชบ้ ริการสุขภาพท่ีสถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ 2 7 1 00 คลินิก/โรงพยาบาล รีบโทร1669 08 8 00 ตารางที่ 13 แสดงค่าเฉลย่ี ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน ปัญหา x̄ S.D. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 2 0.88 ปัญหาดา้ นสังคม 1.7 1.08 ปัญหาดา้ นการจดั การ 1.96 0.55 ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และการท่องเที่ยว 1.96 0.93 2 0.80 ปัญหาดา้ นสุขภาพ 1.92 0.20 ปัญหาดา้ นอื่นๆ ค่าเฉลยี่ รวม
การคิดคะแนนเพื่อจัดลาดบั ความสาคัญของปัญหาด้านสุขภาพ เกณฑ์การจัดลาดับความสาคัญของปัญหาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ให้คะแนนระหว่าง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร คะแนนรวม Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x Cx D 3 คะแนนขององค์ประกอบ ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ วธิ ีบวก วิธคี ูณ ปัญหา รุนแรง ง่าย สนใจ 1.ความดนั โลหิต 6 12 3 1 22 216 2.เบาหวาน 4 8 4 1 17 128 3.โรคหวั ใจ 3 6 5 1 15 90 4.โรคมะเร็ง 2 4 6 1 13 48 5.โรคหลอดเลือดสมอง 2 4 5 1 12 40 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ที่ 1 คือ ความดนั โลหิต อนั ดบั ท่ี 2 คือโรคเบาหวาน อนั ดบั ที่ 3 คือ โรคหัวใจอนั ดบั ที่ 4 โรคมะเร็งอนั ดบั ที่ 5 โรคหลอดเลือดสมองตามลาดบั ท่มี า:จากอ้างองิ ทฤษฏีวิธขี องภาควชิ าบริหารสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล จาก วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข
บทท4่ี แผนงานโครงการ จากการสารวจชุมชนหมู่ที่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลาไดล้ งสารวจพ้ืนท่ีโดยใช้ แบบสอบถามขอ้ มูลวิเคราะห์เพ่ือจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพ่ือหาวิธีการแกป้ ัญหาให้กบั ชุมชน จาก การศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพโรคความดนั หิตสูงมาจดั โครงการเพื่อให้ความรู้กบั คนในชุมชนเกิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงที่ถูกวิธีและเหมาะสมลดค่าดชั นีโรคความ ดนั โลหิตสูงในชุมชนและเพือ่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และลดโรคความดนั โลหิตสูง 4.1แผนงาน/โครงการ จากปัญหาท่ีพบ พบวา่ เป็นปัญหาที่ทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กล่าว จึงได้ จดั ทาโครงการเพ่อื แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงการ :ลดพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยงโรคความดนั โลหิตสูง ชื่อ-สกุล ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงการ : นางสาวไลลา กอและ สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1. หลกั การและเหตผุ ล/ทม่ี า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตผุ ล โรคความดนั โลหิตสูง ( Hypertension )ปัจจุบนั ความดนั โลหิตสูงเป็ นหน่ึงในกลุ่มของโรคที่ทาให้ เกิดผลแทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซ่ึงรวมท้งั หลอดเลือดที่สมองและไตดว้ ย จุดมุ่งหมายของ การรักษาภาวะความดนั โลหิตสูงเพื่อลดอตั ราทุพพลภาพและอตั ราการตาย ซ่ึงเกิดจากภาวะแทรกซ้อนทาง หวั ใจและหลอดเลือด การดูแลเฉพาะแต่ความดนั โลหิตสูงเท่าน้นั จะทาให้ไดผ้ ลไม่ดีเท่าที่ควร ดงั น้นั แพทย์ จึงตอ้ งตรวจคน้ หาภาวะอื่น ท่ีอาจพบในตวั ผูป้ ่ วยดว้ ย อาทิ เบาหวาน , ไขมนั ในเลือดสูง , ภาวะอว้ น , ผนัง หัวใจห้องซ้ายล่างหนา และโรคเก๊าท์ เป็ นตน้ ท้งั น้ีแพทยจ์ ะตอ้ งดาเนินการควบคุมและรักษาคู่ไปกับการ รักษาความดนั โลหิตจึงจะไดผ้ ลและมีประสิทธิภาพเตม็ ที่
โรคความดันโลหิตสูง เป็ น 1 ในสาเหตุสาคญั ที่ทาให้ประชากรทวั่ โลกตายก่อนวยั อนั ควร และเป็ น ปัญหาที่กาลงั มีความรุนแรงมากข้ึน ท้งั ในประเทศที่พฒั นาแลว้ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซ่ึงภาวะ ความดนั โลหิตสูงจะไม่มีสัญญาณเตือนหรืออาการแสดงให้เห็น จึงมกั จะถูกเรียกว่าเป็ น “ฆาตกรเงียบ” (Silent killer) ผปู้ ่ วยจานวนมากเป็นโรคน้ีโดยท่ีไมร่ ู้ตวั มาก่อนว่ามีภาวะความดนั โลหิตสูง หากไม่ไดร้ ับการ ดูแลรักษาจะทาให้เพิ่มความเส่ียงของกลา้ มเน้ือหัวใจตายเพ่ิมข้ึนเป็ นสองเท่า และความเสี่ยงของโรคหลอด เลือดสมองเพิม่ ข้ึนเป็นส่ีเทา่ จากขอ้ มูลองคก์ ารอนามยั โลก (WHO, 2013) พบวา่ โรคความดนั โลหิตสูงเป็นสาเหตกุ ารตายทวั่ โลกสูง ถึง 7.5 ลา้ นคน หรือร้อยละ 12.8 ของสาเหตุการตายท้งั หมด ท้งั ยงั มีผลสูญเสียปี สุขภาวะ 57 ลา้ นปี หรือคิด เป็ นร้อยละ 3.7 ของ DALYs จานวนผูท้ ี่มีความดนั โลหิตสูงทว่ั โลกพบว่ามีจานวนเกือบถึงพนั ลา้ นคน ซ่ึง สองในสามจะอยูใ่ นประเทศกาลงั พฒั นา และมีการคาดการณ์วา่ จะมีความชุกของโรคความดนั โลหิตสูงทวั่ โลกเพ่ิมข้ึนถึงเป็ น 1.56 พนั ลา้ นคน ในปี พ.ศ. 2568 โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจยั การดาเนินชีวิตท่ี เปลี่ยนไป เช่น การมีกิจกรรมทางกายน้อย การบริโภคอาหารท่ีมีส่วนประกอบของเกลือ และไขมนั สูง การ บริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหร่ี ซ่ึงนามาสู่ภาระโรคท่ีเพิ่มข้นึ ด้วยความตระหนักถึงปัญหาและภัยของภาวะความดันโลหิตสูง จากสถานการณ์และความสาคัญ ดงั กลา่ วนางสาวไลลา กอและนกั ศึกษาช้นั ปี ท่ี 2 หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 เลง็ เห็นวา่ ประชาชนหมู่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา มีความเสี่ยงท่ีจะเป็ นโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพบาโงยบาแดจึงไดจ้ ดั ทาโครงการลดพฤติกรรมเสี่ยงเลี่ยงโรคความดนั โลหิตสูงในกลุ่มเส่ียง เพ่ือใหป้ ระชาชนกลุ่มเส่ียงสูงมีสุขภาพท่ีดีมีความรู้ในการดูแลตนเอง ลดการเกิดโรคความดนั โลหิตสูง และ ภาวะแทรกซอ้ นและการสูญเสียของประชากรกลุม่ เส่ียงสูงต่อไป 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพือ่ ใหป้ ระชากรกลุม่ เสี่ยงสูงมีความรู้ในการดูแลตนเองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 1.2.2 เพ่ือให้ประชากรกลุ่มเส่ียงสูงมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง และภาวะแทรกซอ้ นได้ 1.2.3 เพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มเส่ียงสูงป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง และภาวะแทรกซอ้ น 1.3 กล่มุ เป้าหมาย
กลุม่ ประชาชนทว่ั ไปและผทู้ ี่มีภาวะเสี่ยง ในหมู่ที่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคมุ ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงไดใ้ นระดบั ดี 1.4.2 เป้าหมายเชิงปริมาณ -ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคมุ ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงเขา้ ร่วม โครงการร้อยละ 80 1.5 ระยะเวลาดาเนนิ การ ต้งั แต่วนั ที่ 11เมษายน – 13เมษายน 2563 1.6 ดัชนี 1. ประชาชนกลุ่มเส่ียงและกลุ่มท่ีเป็นโรคความดันโลหิตสูงท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ความเขา้ ใจในการ ควบคมุ ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงในระดบั ดีร้อยละ80 หลงั สิ้นสุดโครงการ 2. อตั ราความพึงพอใจของประชาชนที่เขา้ รับการอบรม (ร้อยละ 80)พึงพอใจ 1.7 ผ้รู ับผดิ ชอบโครงการ นางสาวไลลา กอและนกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยร์ ุ่นที่ 15ช้นั ปี ที่ 2 1.8 สถานท่ีดาเนนิ โครงการ โรงเรียนบา้ นเบอร์เสง้ หมู่ท่ี 1ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา 1.9 ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ 1.8.1 อตั ราป่ วยดว้ ยโรคความดนั โลหิตสูงของประชากรในชุมชนลดลง 1.8.2 ทาใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูงและมีพฤติกรรม ที่ถูกตอ้ งเหมาะสม 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือในการดาเนินการรณรงค์ ป้องกนั และควบคมุ โรคความดนั โลหิตสูง
2. แผนการดาเนินงาน 2.1 วิธีการดาเนินงาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนนิ การ ผ้รู ับผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวัตถุประสงค์ 11 เมษายน 2563 นางสาวไลลา กอและ งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสาเร็จ พัฒนา นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงการฉบบั สมบรู ณ์เพ่อื ขออนุมตั ิ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. เมื่ อ โ ค ร ง ก าร ไ ด้ รั บ อ นุ มั ติ แ ล้ ว จึ ง ม อ บ ห ม าย ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ภ า ย ใ น ก ลุ่ ม พร้อมท้งั ประสานผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ที่ตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 12เมษายน 2563 นางสาวไลลา กอและ (D) 1.1 วนั จดั กิจกรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.จดั โครงการตามกาหนดการ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.1 วนั จดั กิจกรรม 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ 1.1.2 การบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคความ ดนั โลหิตสูงและวิธีการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้เร่ือง ความดนั โลหิตสูง 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุม่ ( Focus Group) ระดม สมองภายในกลุ่ม 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพึงพอใจ 1.1.7 ตรวจคดั กรองผทู้ ี่มีภะวะเส่ียง 1.2 วนั เดินรณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรื่องความดนั โลหิตสูง 1.2.2 แจกแผน่ พบั
การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 11เมษายน 2563 นางสาวไลลา กอและ (D) 1.1 วนั จดั กิจกรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.จดั โครงการตามกาหนดการ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.1 วนั จดั กิจกรรม 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนให้ความรู้ 1.1.2 การบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคความ ดนั โลหิตสูงและวิธีการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้เรื่อง ความดนั โลหิตสูง 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุม่ ( Focus Group) ระดม สมองภายในกลุม่ 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ให้ความรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพึงพอใจ 1.1.7 ตรวจคดั กรองผทู้ ่ีมีภะวะเสี่ยง 1.2 วนั เดินรณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เร่ืองความดนั โลหิตสูง 1.2.2 แจกแผน่ พบั การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถปุ ระสงคด์ ว้ ย 12 เมษายน 2563 นางสาวไลลา กอและ (C) 1. แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 3. สงั เกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพื่อสรุปผลการ 13 เมษายน 2563 นางสาวไลลา กอและ ห รื อน าผล การ ดาเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพอื่ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน ป ระเมิ น ไป ใช้ ปรับปรุงพฒั นา การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 ประโยชน์ (A) 2.2 ผลการดาเนนิ งาน
2.2.1 การดาเนนิ งานในข้นั ตอนการวางแผน (P) - ประสานงานกบั แกนนาอสม.หมทู่ ่ี 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา นางสาวไลลา กอและหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปี ท่ี 2 ประสานงานกับแกนนาอสม. หมู่ 1เพื่อจดั การทาประชาคมหาปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขเพ่ือจดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนินงานและเขยี นโครงการเพ่ือขออนุมตั ิ นางสาวไลลา กอและหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์จดั ประชุมกนั กบั แกนนาอสม.หมู่ 1เพื่อ สอบถามปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และได้มีการประชุมกันภายในกลุ่มเพ่ือวางแผนการดาเนินงาน กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หน้าที่รับผิดชอบ เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็ นไป อยา่ งมีประสิทธิภาพ -ติดตอ่ ประสานงาน กบั ผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งในชุมชน นางสาวไลลา กอและหลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ได้ติดต่อจัดการขอสถานท่ีในการทา กิจกรรม เพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อขอใชส้ ถานที่ 2.2.2.การดาเนนิ งานในข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแก้ไข โครงการรณรงค์ ป้องกันและควบคุมโรคความดัน โลหิตสูงหมู่ท่ี 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จดั เตรียมสถานท่ีในการจดั ทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูง หมู่ที่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูง หมู่ท่ี 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลาดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูง นางสาวไลลา กอและ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั การดูแล ตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูง - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง 2.3 จานวนผู้เข้าร่วมโครงการ เจา้ หนา้ ที่และกลุ่มประชาชนทว่ั ไปและผทู้ ่ีมีภาวะเส่ียง จานวน 65 คน 2.4 สถานที่ดาเนนิ การ โรงเรียนบา้ นเบอร์เส้ง หมู่ที่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา
2.5 งบประมาณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2563เงินอุดหนุนทว่ั ไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงาน ตามโครงการพระราชดาริด้านสาธารณสุข(สนับสนุนจากกองทุนหมู่ที่ 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา จานวน 7500 บาท (เจ็ดพนั หา้ ร้อยบาทถว้ น) ใชจ้ ่ายดงั น้ี 1.คา่ อาหารวา่ งและเคร่ืองดื่ม จานวน 65 คนๆละ 1 ม้ือๆละ 25บาท เป็นเงิน 1,625 บาท 2.คา่ อาหารกลางวนั จานวน 65 คนๆละ 1ม้ือๆ ละ 35 บาท เป็นเงิน 2,275 บาท 3.ค่าสมนาคุณวิทยากร จานวน 2 ชว่ั โมงๆละ 350 บาท เป็นเงิน 700 บาท 4.คา่ ป้ายไวนิลคา่ วสั ดุท่ีใชโ้ ครงการ เป็นเงิน 650 บาท รวมเป็ นเงิน 5,250 บาท (ห้าพนั สองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) 3.เคร่ืองมือและวิธีการในการประเมนิ ผล หลงั จากท่ีไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้นั ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็นกิจกรรมในการ ประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการวางแผนกบั การประเมินผลโครงการ พบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสมั พนั ธท์ ี่ตอ้ งดาเนินการควบคู่กนั โดยการวางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของการ กาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพอ่ื การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็น กิจกรรมสุดทา้ ยในการพิจารณาผลการดาเนินงานเป็นไปตามแผนท่ีกาหนดหรือไม่ 3.1 เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือการประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถามท่ีผูร้ ับผิดชอบ โครงการไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู พ้ืนฐานส่วนบคุ คล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ส่วนท่ี 2 ความรู้เร่ืองควมดนั โลหิต แบบสอบถามเป็ นแบบเลือกคาตอบเพียงคาตอบเดียว คือ ถกู หรือ ผดิ จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถกู ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผิด ไดค้ ะแนนเท่ากบั 0 คะแนน ส่วนท่ี 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคุมความดนั โลหิตสูง แบบสอบถามเป็นแบบเลือก คาตอบเพยี งคาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ เห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ขอ้ คาถามมี ท้งั ดา้ นบวกและดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน
เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไมแ่ น่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน 3.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.2.1วดั ความรู้ของประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้ก่อนการเขา้ อบรม 3.2.2วดั ความรู้ของประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้หลงั จากการเขา้ อบรม 3.3 การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ส่วนบุคคล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถ่ี ( Frequency ) และร้อยละ( Percentage ) 2. การประเมินความพึงพอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติคา่ เฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ท่ีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑก์ ารประเมินระดบั ความรู้เก่ียวกบั เร่ืองไขเ้ ลือดออก แบ่ง ออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคดิ ของบลมู Bloom (1964อา้ งถึง ใน สมนึก แกว้ วิไล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้นึ ไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑก์ ารประเมินทศั นคติเก่ียวกบั การป้องกนั และควบคุมโรค ไขเ้ ลือดออกโดยใช้วิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best,1997 อา้ งถึงใน กุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี
ระดบั ทศั นคติ คา่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์บ่งช้ีพฤติกรรมการออกกาลงั กาย โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑต์ าม ช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของเบสท์ (Best,1997 อา้ งถึงในกลุ ธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยสูงกวา่ 4.50 มีความพงึ พอใจในระดบั มากที่สุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพึงพอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพึงพอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยต่ากวา่ 1.50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยท่ีสุด 4.ผลการประเมินการดาเนนิ โครงการ 4.1 ข้อมูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบประเมิน ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 60 คน จากจานวนท้งั หมด 80 คน คิดเป็นร้อยละ 75.00 ซ่ึงขอ้ มูลทวั่ ไปใน เรื่องเพศ อายรุ ะดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มลู ดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จานวน ร้อยละ เพศชาย 20 33.33% เพศหญิง 40 66.67% รวม 60 100% จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญิง มีจานวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67%และเพศชายมีจานวน 20 คน คดิ เป็นร้อยละ 33.33% ตารางที่ 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 2 3.33
20-30 10 16.67 31-40 10 16.67 41-50 20 33.33 51 ปี ข้นึ ไป 18 30 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอายุของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อายุ 51 ปี ข้ึนไปมีจานวน 18 คน คิดเป็ น ร้อยละ 30 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 33.33อายุ 31-40 ปี มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67อายุ 20-30 ปี มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67และอายตุ ่ากวา่ 20 ปี มีจานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 3.33ตามลาดบั ตารางที่ 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศึกษา จานวน ร้อยละ ประถมศึกษา 30 50 มธั ยมศึกษา 14 23.33 อนุปริญญา 10 16.67 ปริญญาตรี 6 10 อ่ืน ๆ 0 0 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ ระดบั ประถมศึกษา มีจานวน 30 คน คิดเป็ นร้อยละ 50 ระดบั มธั ยมศึกษา มีจานวน 14 คน คิดเป็ นร้อยละ 23.33ระดับอนุปริญญา มี จานวน 10 คน คิดเป็ นร้อยละ 16.67ระดบั ปริญญาตรีมีจานวน 6คน คิดเป็ นร้อยละ 10 ระดบั อ่ืน ๆ มี จานวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั ตารางท่ี 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อาชีพ จานวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศึกษา 5 8.33 ขา้ ราชการ 4 6.67 เกษตรกรรม 12 20 คา้ ขาย/ธุรกิจ 8 13.33 รับจา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง 22 36.67 ไมไ่ ดป้ ระกอบอาชีพ/ทางาน 9 15 บา้ น
อื่น ๆ 0 0 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อาชีพรับจา้ งทว่ั ไป/ลูกจา้ งมีจานวน22 คน คิดเป็ นร้อยละ 36.67เกษตรกรรมมีจานวน 12คน คิดเป็ นร้อยละ 20ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ นมี จานวน 9 คน คิดเป็ นร้อยละ 15 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจมีจานวน 8 คน คิดเป็ นร้อยละ 13.33 อาชีพนักเรียน/ นกั ศึกษามีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33 อาชีพขา้ ราชการมีจานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 อาชีพอ่ืน ๆมีจานวน 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั .2ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ตารางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ รายการ สูงสุด ตา่ สุด เฉลย่ี ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 5 2 0.03 -- -- ผลการทดสอบ - - - 30 50 30 50 -- -- หลงั เขา้ อบรม 9 6 0.07 50 83.33 10 16.67 ผลการทดสอบ - - - จากตารางท่ี 4.2.1 พบว่าการเข้าร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การ บรรยายเก่ียวกบั โรคความดนั โลหิตสูงไดค้ ะแนนสูงสุด 5คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมีคะแนน เฉล่ีย 0.03คะแนน มีจานวนผูผ้ า่ นเกณฑจ์ านวน 30คน คิดเป็ นร้อยละ 50 มีจานวนผูไ้ ม่ผา่ นเกณฑ์จานวน 30 คน คิดเป็ นร้อยละ 50 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูง มีผทู้ ดสอบความรู้ ไดค้ ะแนนสูงสุด 9คะแนน คะแนนต่าสุด 6คะแนน และมีคะแนนเฉล่ีย 0.07คะแนน มีจานวนผูผ้ ่านเกณฑ์ จานวน 50คน คดิ เป็นร้อยละ 83.33ซ่ึงผา่ นตามตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงค์ มีผเู้ ขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 80 มี ความรู้เกี่ยวกบั การควบคมุ ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงอยใู่ นระดบั ดี
ตารางท่ี 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 2 5 8.33 3 15 25 4 10 16.67 5 30 50 รวม 60 100 จากตารางท่ี 4.2.2 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการ มี คะแนนสูงสุด 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ50 และคะแนนต่าสุด 2 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 8.33 ตารางท่ี 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 6 4 6.67 7 6 10 8 20 33.33 9 30 50 รวม 60 100 จากตารางที่ 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 9คะแนน คิดเป็นร้อยละ50และคะแนนต่าสุด 6คะแนน คิดเป็นร้อยละ 6.67 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพงึ พอใจ ตารางที่ 4.3.1ค่าเฉลยี่ ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม ลาดบั ท่ี ประเด็น ระดับความพงึ พอใจ 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม x̄ S.D แปลผล 2. ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร 4.78 0.46 มากที่สุด 3. ความพึงพอใจดา้ นสิ่งอานวยความสะดวก 4.74 0.44 มากท่ีสุด 4. ความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.68 0.38 มากที่สุด 4.74 0.44 มากที่สุด
จากตารางท่ี 4.3.1ค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม พบว่ามีความพึงพอใจดา้ น กระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรมมากที่สุด(x̄ = 4.78 ) รองลงมา ความพึงพอใจดา้ นคณุ ภาพการจดั กิจกรรมและ ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร( x̄ = 4.74 ) และความพงึ พอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก( x̄ = 4.68 ) นอ้ ยท่ีสุด ตารางที่ 4.3.2 ค่าเฉลยี่ ของผลประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ รายละเอยี ด ระดบั ความพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ ข้ันตอนการจัดกจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.24 0.54 สูง 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.25 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.43 0.58 สูง 1.4 เอกสารและส่ือประกอบในการจดั กิจกรรม 2.25 0.38 ต่า 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.52 0.57 สูง 2. ความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวิทยากรมีความชดั เจน 4.58 0.59 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ความพงึ พอใจด้านส่ิงอานวยความสะดวก 3.1 สถานท่ีจดั กิจกรรม 4.33 0.61 สูง 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.25 1.09 ต่า 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจดั กจิ กรรม 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งคุม้ คา่ 4.29 0.72 สูง 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.39 0.65 สูง ชีวติ ประจาวนั 3.72 0.34 สูง ผลรวม
4.4 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการ โครงการรณรงคป์ ้องกนั และควบคมุ โรคความดนั โลหิตสูงหมู่ท่ี1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอสะเตง จงั หวดั ยะลามีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจในการควบคมุ ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงท่ีถูก วิธี และเหมาะสม เพื่อใหx้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั หลีกเล่ียงจากภาวะความดนั โลหิตสูง เป้าหมายเชิง คุณภาพ คือประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงไดใ้ นระดบั ดี และ เป้าหมายเชิงปริมาณคือ อตั ราความพึงพอใจของประชาชนท่ีขอรับบริการ (ร้อยละ 80)พึงพอใจรับผิดชอบ โครงการ โดยนางสาวไลลา กอและ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยช์ ้นั ปี ที่2รุ่นที่15 โครงการน้ีไดด้ าเนินโครงการที่หมู่ที่1ตาบลบา้ นกลางอาเภออ่าวลึกจงั หวดั กระบ่ีต้งั แต่วนั ที่11เมษายน – 13 เมษายน 2563ข้นั ตอนการดา เนินงานที่สาคญั คือวนั จดั กิจกรรมให้ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อน และหลงั ให้ความรู้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูง และวิธีการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง เพ่ือระดมสมองและทาแบบประเมินความพงึ พอใจ ส่วนวนั เดินรณรงคม์ ีใหค้ วามรู้เร่ืองการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงพร้อมท้งั แจกแผน่ พบั ซ่ึงมีขอ้ มูลเก่ียวกบั ความดนั โลหิตสูง 4.5 ประโยชน์จากการทาโครงการ - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาหนด รูปแบบ ต่างๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั การทางาน ประสานงาน และติดต่อกบั หน่วยงานต่าง ๆ พร้อมท้งั มี การ วางแผนการทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่นรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกบั หน่วยงานตา่ งๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนที่กาหนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไมเ่ ป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาให้ตอ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความตื่นเตน้ พูดเร็ว จึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไมท่ นั - เน่ืองจากกลุ่มเป้าหมายมีจานวนมาก นกั ศึกษาผบู้ รรยายจึงไม่สามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ ง ทวั่ ถึง
4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการ 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้นั กระชบั 3. ควรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึน เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. สื่อท่ีใชค้ วรเนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรที่เห็นชดั เจน 5. ปรับการพูดใหช้ า้ ลง 5.แนวทางการพฒั นางาน 5.1 แนวทางการพฒั นางาน จากการจดั ประชุมกลมุ่ เพ่ือพิจารณาหาขอ้ ผดิ พลาด ปัญหาและอปุ สรรคของการทางานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผูด้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผิดพลาดและสาเหตุที่เกิดข้ึน และนามาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข การดาเนินโครงการท่ีไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะต้อ งมี ก ารวางแผ น แล ะ และการประชาสัมพันธ์ยงั ไม่ กาหนดการ ทาให้ระยะเวลาดาเนินงาน จดั สรรเวลาในการดาเนินงาน ทวั่ ถึง ไม่สัมพนั ธ์กับระยะเวลาที่กาหนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสัมพนั ธไ์ มท่ ว่ั ถึง เพ่ื อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เว ล า เห ม า ะ ส ม ตามที่กาหนด สถานท่ีไม่ค่อยอานวยความ เนื่องจากสถานท่ีไมก่ วา้ งมาก การดาเนินงานในคร้ังต่อไป สะดวก จะมีการวางแผน การเตรี ยม ค ว าม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก า ร ด าเนิ น กิจกรรม นาเสนอวิชาการสื่อท่ีใชค้ วร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจัดทากิจกรรม เนน้ ท่ีรูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเนน้ ไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร ท่ีวิชาการ คานึงถึง กลุ่มเป้าหมายและ ระดับความรู้ ความสนใจของ กลุ่มเป้าหมาย ท้งั น้ี สื่อจะตอ้ ง มีเน้ือหาท่ีกระชับและส่ือ ให้ เขา้ ใจไดง้ ่าย
บทที่ 5 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ คร้ังน้ี มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ ให้ นกั ศึกษาสามารถปฏิบตั ิกระบวนการ ศึกษาชุมชนและแกไ้ ขปัญหาสุขภาพท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งานดา้ นสุขภาพ ซ่ึง ประกอบดว้ ยการศึกษาชุมชน การเตรียมชุมชน และการวินิจฉยั ชุมชน พร้อมท้งั การแกไ้ ขปัญหาและพฒั นา ชุมชนซ่ึงประกอบไปดว้ ยการ วางแผน การดาเนินการตามแผน และการประเมินผลการดาเนินงาน โดยมี รายละเอียดดงั น้ี 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.2 อภิปรายผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 1ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลาสารวจชุมชนโดย ใช้ แบบสอบถาม พบวา่ ประชาชนกล่มุ ตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญ่พบวา่ เป็นเพศหญิงร้อยละ 60ผตู้ อบ แบบสอบถามเพศชายร้อยละ 70 มีอายตุ ่ากวา่ ร้อยละ30 และอาย2ุ 0-30และร้อยละ 30 อายอุ ยใู่ นช่วง 31-40 ปี ร้อยละ 40 20และอายอุ ยใู่ นช่วง 51 ปี ข้ึนไป ร้อยละ10ส่วนใหญ่ อยใู่ นสถานภาพโสด ร้อยละ 70สถานภานส มรสร้อยละ30 5.1.2 ขอ้ มูลดา้ นระบบสุขภาพจากการท่ีประชากรตอบแบบสอบถาม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ น สุขภาพ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคอื 2.12 และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.81 รองลงมาคอื มีดา้ นการ จดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและการทอ่ งเที่ยวค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.06 และมีค่า เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.19
5.2 อภปิ รายผล จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 1 ตาบลสะเตงนอก อาเภอเมือง จังหวดั ยะลาและการจัดลาดับ ความสาคัญ ของปัญหาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยการทาประชาคม ซ่ึงพบว่าปัญหาท่ีสมควร ดาเนินการแกไ้ ขด้านสุขภาพ เป็ น อนั ดบั แรกคือ โรคความดันโลหิตสูง ด้วยเหตุผลดงั กล่าวจึงไดจ้ ึงได้ จดั ทาโครงการเพ่อื ดาเนินการแกไ้ ขปัญหาดา้ นสุขภาพ เร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง ในชุมชน หมู่ที่ 1ตาบลสะ เตงนอก อาเภอเมือง จงั หวดั ยะลา โดยมีกิจกรรมในโครงการประกอบดว้ ย 3 กิจกรรมหลกั คอื การบรรยาย ให้ความรู้เก่ียวกับโรคความดันโลหิตสูง และวิธีการป้องกนั โรคความดันโลหิตสูง กิจกรรมตอบคาถาม เกี่ยวกับความรู้โรคความดันโลหิตสูง เดินรณรงค์ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง หลังจากให้ความรู้ ซ่ึง สามารถอภิปรายผลไดด้ งั น้ีคือ 5.2.1 กิจกรรมใหค้ วามรู้เร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง พบว่ามีตวั แทนครัวเรือนและผนู้ าชุมชนเขา้ ร่วม ในกิจกรรม คิดเป็ นร้อยละ 80 และผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ไดค้ วามรู้เชิงทฤษฎีเพิ่มมากข้ึน โดยส่วนใหญ่อยใู่ น ระดบั ดี ซ่ึงบรรลุตามเป้าหมาย และการท่ีประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรคความดนั โลหิตสูง มากข้ึนทาให้ ประชาชนมีความรู้ 5.2.2 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้โรคความดนั โลหิตสูงพบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการใหค้ วาม ร่วมมือในการทากิจกรรม ทาใหม้ ี ความเขา้ ใจมากข้นึ โดยประเมินจากการทดสอบความรู้หลงั ฝึกปฏิบตั ิจริง 5.2.3 กิจกรรมเดินรณรงคป์ ้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง พบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ในเชิง ปฏิบตั ิเพิ่มมากข้นึ พบวา่ ประชาชนไดใ้ หค้ วามสนใจ และร่วมกิจกรรมเป็นอยา่ งดี โดยประชาชนที่เขา้ ร่วม โครงการส่วนใหญม่ ีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ดี มากกวา่ ร้อยละ 80 ซ่ึงจากการจดั ทาโครงการดงั กล่าวน้ีทา ใหป้ ระชาชนมีความรู้ทกั ษะและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ ริงในเร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง 5.3 ข้อเสนอแนะการจัดโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจดั โครงการ ควรมีการประชาสัมพนั ธ์ใหท้ ว่ั ถึง และใหเ้ ขา้ ใจวตั ถปุ ระสงคข์ อง กิจกรรม 5.3.1.2 ควรมีการดึงประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม้ ากที่สุด โดยมีกิจกรรมสันทนาการ ละลายพฤติกรรมก่อนเขา้ เน้ือหาบทเรียน
5.3.1.3 ควรมีการเพม่ิ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมโดยการติดตามและประเมินผลโครงการอยา่ ง ตอ่ เน่ือง เพอ่ื ประเมินวา่ ประชาชนมีความรู้ในเร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง
ภาคผนวก
Search