รายงานการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ชุมชนหม่ทู ี่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ นางสาวจุริญญา ราป้อม รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 61120006 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นท่ี 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา
คำนำ รายงานฉบับน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ ของนักศึกษาหลักสู ตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ในพ้นื ที่ ชุมชนหมทู่ ี่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง เป็ นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่าง ๆ มีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลจาก ชุมชน โดยการสัมภาษณ์ สังเกต และจากขอ้ มูลทุติยภูมิเพื่อให้ทราบ และเขา้ ใจถึงวิถีของคนในชุมชน และ มองเห็นสภาพปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นฉุกเฉินการแพทย์ และนาไปสู่การ วางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนไดอ้ ยา่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีภายในชุมชน ซ่ึงทาใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เพื่อเตรียมความพร้อม สู่การฝึ กประสบการณ์จริง และเป็นบุคลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ ว่า ขอ้ มูลต่าง ๆ ในเลม่ รายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เกิดประโยชน์ และเป็นแนวทางในการพฒั นา แกป้ ัญหาใน ดา้ นต่าง ๆ ของชุมชน และเพ่อื เป็นแนวทางในการศึกษาตอ่ ไป ผู้จดั ทำ นางสาวจุริญญา ราป้อม
กติ ตกิ รรมประกำศ การฝึ กโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 วิทยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าการศึกษาใน พ้นื ที่ของตนเอง โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ีนกั ศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุงไดส้ าเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับความกรุณา จากบุคคลหลายท่าน ทางกลุ่มนักศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาที่มีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคุณเป็ นอย่างสูง ไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณัฐ วีรขจร ที่ได้ให้คาแนะนา ที่ไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวิชา ก่อให้เกิด ความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชนหมู่ท่ี 1 ท่ีคอยให้ความ ช่วยเหลือ แนะนา ให้คาปรึกษา ตลอดการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพและให้ความช่วยเหลือ แนะนา ให้ คาปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบ้าน ชุมชนหมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ที่ให้ขอ้ มูลในการศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการ ในทุกกิจกรรมท่ีนักศึกษาจดั ข้ึน และสาเร็จลลุ ่วงไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นกั ศึกษาขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาใหก้ ารฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี
สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข คานา ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทท่ี 1 บทนา 2 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 2 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั 3-11 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 12 บทท่ี 2 บริบทชุมชน 13 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 15 2.2 ฝังเครือญาติ 19 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 23 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 28 2.5 ปฏิทินชุมชน 32 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 33 2.7 ประวตั ิบคุ คลสาคญั 33 บทที่ 3 การวนิ ิจฉยั ชุมชน 34 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 34-44 3.2 การวิเคราะหข์ อ้ มลู 45 3.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 45-57 บทที่ 4 แผนงาน/โครงการ 57-58 4.1 แผนงาน/โครงการ 59-60 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจตอ่ โครงการ 61 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ 61 บทที่ 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 62 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 62 5.2 อภิปรายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ
สารบญั ( ต่อ ) หนา้ 63 เร่ือง 64-65 ภาคผนวก 66-72 ภาคผนวก ก ภาพทากิจกรรมโครงการ ห่างไกลเกาต์ 73 ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน 74 ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เรื่องเกาต์ 75 ภาคผนวก ง แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล เกาต์ 76 ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล เกาต์ บรรณานุกรม
บทท่ี 1 ส่วนนำโครงกำร 1.1ควำมเป็ นมำและควำมสำคัญของกำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวชิ ำชีพ โรคเกาต์ (gout) คือโรคท่ีเกิดจากภาวะกรดยรู ิก (uric acid) ในเลือดสูงติดต่อกนั เป็นระยะ เวลานาน โดยภาวะกรดยรู ิกสูงหมายถึงระดบั กรดยรู ิกมากกวา่ 7 มก./ดล. ในเพศชายและ6 มก./ดล. ในเพศหญิง โรคเกาตพ์ บบอ่ ยในชายวยั กลางคนข้ึนไป หรือหญิงในวยั หมดประจาเดือนการสะสม ของกรดยรู ิกในร่างกายเป็ นระยะเวลานาน อาจทาใหเ้ กิดโรคเกาตข์ ้ึนได้ โดยสามารถเกิดโรคไดใ้ น หลายอวยั วะ ไดแ้ ก่ ขอ้ ผวิ หนงั และไต อาการท่ีพบบอ่ ยที่สุด คืออาการทางขอ้ ไดแ้ ก่ ขอ้ อกั เสบ เฉียบพลนั โดยผปู้ ่ วยจะมีอาการปวดอยา่ งรุนแรงและฉบั พลนั ทนั ทีทนั ใด ขอ้ ที่เป็นจะบวมข้ึน มีสี แดงรอบ ๆ ขอ้ หากคลาดูจะพบวา่ อนุ่ กวา่ ขอ้ เดียวกนั ในขา้ งตรงขา้ ม ขอ้ ที่อกั เสบในช่วงแรก มกั เป็น ท่ีขอ้ โคนนิ้วหวั แม่เทา้ หรือขอ้ เทา้ หากทิ้งไวน้ าน โดยไม่ไดร้ ับการรักษา อาจมีการอกั เสบที่ขอ้ อ่ืน ไดด้ ว้ ย เช่น ขอ้ เขา่ ขอ้ ศอก ขอ้ มือเป็นตน้ จากการสารวจขอ้ มลู ครัวเรือนชุมชนหมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง มีจานวนครัวเรือนท้งั ส้ิน 243 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเกาต์ พบ บ่อยท่ีสุดในผปู้ ่ วยชายที่มีอายมุ ากกวา่ 40 ปี ข้ึนไป พบในเพศชายมากกวา่ เพศหญิงเป็นสดั ส่วน 9:1 โดยในเพศชายมกั พบช่วงอายรุ ะหวา่ ง 30-50 ปี เพศหญิงพบไดม้ ากข้ึนในช่วงอายมุ ากกวา่ 50 ปี หรือวยั หลงั หมดประจาเดือนและเกิดจากการไม่ควบคุมอาหารและบกพร่องต่อการออกกาลงั กาย เทา่ ท่ีควร จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคเกาตห์ มู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบล คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ข้ึนเพ่อื ให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้เรื่องการป้องกนั โรค เกาตเ์ พอื่ ลดอตั ราการป่ วยดว้ ยโรคเกาต์ และเพ่ือใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั ควบคุม รักษาและการเฝ้าระวงั โรคไม่ติดต่อในหมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง
1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตท์ ี่ถูกวธิ ีและเหมาะสม 1.2.2 เพอื่ ใหป้ ระชาชนหนั มาสนใจและใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาเรื่องการควบคุมโรคเกาต์ 1.2.3 เพอื่ ใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมในการเขา้ ร่วมโครงการ 1.3 กระบวนกำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวิชำชีพ 1.3.1 กรอบแนวคดิ กำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นใน ชุมชนหมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ภำพที่ 1.1 กรอบแนวคิดการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ
บทท่ี 2 บริบทชุมชน ขอ้ มลู ทวั่ ไปชุมชนหมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง 1. สภำพทำงภูมิศำสตร์ หมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร เป็ น 1 ใน 14 หมู่บา้ นของจานวนหมบู่ า้ นท้งั หมดในตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ มีเน้ือท่ีประมาณ 4,423 ไร่ ห่างจากศาลากลางจงั หวดั ไปทางทิศตะวนั ตก ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยหู่ ่างจากท่ีวา่ การอาเภอกงหราไปทางทิศใต้ ประมาณ 5 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อดงั น้ี ทิศเหนือติดตอ่ กบั บา้ นนาทุง่ โพธ์ิหมูท่ ่ี 11 ตาบลคลองเฉลิม ทิศใตต้ ิดตอ่ กบั บา้ นน้าตกไพรวลั ยห์ มูท่ ่ี 13 ตาบลคลองเฉลิม ทิศตะวนั ออกติดตอ่ กบั บา้ นนาบอนหม่ทู ่ี 4 ตาบลคลองเฉลิม ทิศตะวนั ตกติดต่อกบั เทือกเขาบรรทดั 2.ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นท่ีราบเชิงเขา 3.ครัวเรือน ครัวเรือนท้งั หมด 243 ครัวเรือนประชากรไทย 887 คนชาย 437 คนหญิง 450 คน 4.แหล่งนำ้ 4.1 บ่อน้าต้ืนส่วนตวั 10 บ่อใชก้ ารได้ 3 บอ่ 4.2.บ่อน้าต้ืนสาธารณะ 0 บ่อใชก้ ารได้ 0 บอ่ 4.3.บอ่ บาดาลส่วนตวั 0 บอ่ ใชก้ ารได้ 0 บอ่ 4.4.บอ่ บาดาลสาธารณะ 0 บ่อใชก้ ารได้ 0 บ่อ
4.5. น้าประปาใช:้ มคี รัวเรือนที่ใชน้ ้าประปาตลอดปี 243 ครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 100. 00 4.6.มีน้าสะอาดดื่มและบริโภคเพียงพอตลอดปี 243ครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ100.00 4.7.มีน้าใชเ้ พยี งพอตลอดปี 243ครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 100. 00 น้าเพ่ือการเกษตรเพียงพอตลอดปี 5.บริกำรสำธำรณะในหมู่บ้ำน 5.1. วดั : 0 แห่ง 5.2. ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ / อนุบาล: 0 แห่ง 5.3.โรงเรียนภาคบงั คบั 5 ปี 0 แห่ง 5.4.โรงเรียนมธั ยมศึกษาตอนปลาย 0 แห่ง 5.5.ศูนยฝ์ ึกอาชีพ 0 แห่ง 5.6.ลาน / สนามกีฬา: 0 แห่ง 5.7.สถานท่ีพกั ผอ่ น / สวนสาธารณะ: 2 แห่ง 6.แห่งบริกำรสำธำรณะในตำบล 6.1.โรงพยาบาล / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล: ๓ แห่ง 6.2. สถานีตารวจ:. ๓. 6.3. ศูนยก์ ารเรียนรู้ชุมชน / ศูนยบ์ ริการอินเทอร์เนต็ ตาบล: 0 แห่ง 6.4. ตลาดนดั สินคา้ การเกษตร / ร้านคา้ สหกรณ์ ๐ แห่ง 7.ครัวเรือนที่ไม่มไี ฟฟ้ำใช้ 0 ครัวเรือน 8.กำรคมนำคมและกำรสื่อสำร 8.1. มีถนนเส้นทางหลกั เป็นถนนลาดยาง / คอนกรีตยาว: 3 กม. 0 ม 8.2 มีถนนเส้นทางหลกั เป็นถนนลกู รัง / หินคลุกยาว 10 กม. 0 ม. 8.3. มีรถรับจา้ งว่ิงจากหมู่บา้ นไปอาเภอ / ชุมชน: ไม่มี 8.4. ครัวเรือนที่มีอินเตอร์เน็ต 0 ครัวเรือน
9.สิทธิครอบครองทดี่ นิ ทำกนิ 9.1.มีที่ดินทากินของตนเองและไม่ตอ้ งเช่า 164 ครัวเรือน 9.2. ครัวเรือนมีที่ดินทากินของตนเองแต่เช่าเพมิ่ บางส่วน 10 ครัวเรือน 9.3. ครัวเรือนไมม่ ีที่ดินทากินของตนเองตอ้ งเช่าท้งั หมด 6 ครัวเรือน 9.4. ในหมูบ่ า้ น / ชุมชนมพี ้ืนที่รวม 4, 423 ไร่ 10.ควำมรู้และกำรศึกษำ 10.1.ศึกษำอยู่ในระบบโรงเรียน 10.1.1.ช้นั ก่อนประถมศึกษา: 40 คน 10.1.2.การศึกษาภาคบงั คบั (ป. 4-ม.3): 80 คน. 10.1.3.มธั ยมศึกษาตอนปลาย: 0 คน 10.1.4.อนุปริญญา / เทียบเทา่ 0 คน 10.1.5. ปริญญาตรี: 10 คน 10.1.6.สูงกวา่ ปริญญาตรี 0 คน 11.สุขภำวะและอนำมัย 11.1.เดก็ อายตุ ่ากวา่ ๑ ปี ตาย 0 คน 11.2.มีคนตายดว้ ยโรคต่างๆ 0 คน 11.3.เมื่อมีอาการเจ็บป่ วยเลก็ นอ้ ยคนส่วนมากเริ่มรักษาโดย : ไปรับบริการรักษาพยาบาลจากอสม. หรือศนู ยส์ าธารณสุขมลู ฐานชุมชน
จากการท่ีนกั ศึกษาไดล้ งประเมินสภาพของชุมชน โดยใชก้ ระบวนการศึกษา คน้ หาปัญหา วิเคราะห์ ประเมินสภาพการณ์ดา้ นอนามยั ครอบครัวและชุมชน และไดเ้ ลือกนา้ เครื่องมือ 7 ชิ้น มา ศึกษาสภาพของชุมชน ไดด้ งั น้ี เครื่องมือชิ้นที่ 1 แผนที่เดินดิน (Geo-Social Mapping) เครื่องมือชิ้นท่ี 2 ผงั เครือญาติ (Genogram) เครื่องมือชิน้ ท่ี 3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน (Community Organizations) เครื่องมือชิ้นท่ี 4 ระบบสุขภาพชุมชน (Local Health Systems) เครื่องมือชิ้นที่ 5 ปฏิทินชุมชน (Community Calendar) เคร่ืองมือชิน้ ท่ี 6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชนและสภาพภมู ิศาสตร์ (Local History) เคร่ืองมือชิ้นท่ี 7 ประวตั ิชีวติ (Life Story)
เคร่ืองมือชิ้นท่ี 1 แผนท่ีเดินดิน (Geo-Social Mapping)
เคร่ืองมือชิ้นท่ี 2 ผงั เครือญาติ (Genogram) ผงั เครือญาติคือ การถอดความสมั พนั ธ์ในเชิงเครือญาติ หรือเชิงสายเลือดในชุมชน มีความสาคญั ต่อการทาความเขา้ ใจชุมชนและสงั คม ไมว่ า่ จะเป็นสังคมเมืองหรือสังคมชนบท เพราะเครือญาติ เป็นความสัมพนั ธ์ท่ีเป็นรากฐานท่ีสุดของชีวติ ครอบครัว การทาผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาคญั ในการ ทาความเขา้ ใจระบบความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชน เป้าหมายสาคญั ของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสมั พนั ธเ์ ชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสัมพนั ธท์ างสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้ัน 3.ช่วยสร้างความสัมพนั ธแ์ ละความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีกบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคติดตอ่ ของคนในครอบครัว เพ่อื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา สุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผงั เครือญำติ สญั ลกั ษณ์แทนบิดามารดาท่ีเสียชีวิตแลว้ สญั ลกั ษณ์แทนผชู้ าย สญั ลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สญั ลกั ษณ์แทนการแต่งงาน
นายหมนั พลนุย้ / นางสาเหยา๊ แอน่ิม ผังเคร นายเต๊ะ แอน่ิม นายวินยั ราป้อม / น นายสุพร จนั ทร์เทพ นายอรัญ พลนุย้ นางสาวลดั ดาวลั ย์ พลนุย้ นายสุนทรพลนุย้ นางสาวนจั ติดาพลนุย้
รือญำติ ม / นางเดาะ แอน่ิม นางกอเหยา๊ แอน่ิม นายดลเลาะ แอนิ่ม / นางนะ สาแหละ พ นางสาวจุริญญา ราป้อม นายเชฟ แอนิ่ม
เครื่องมือชิ้นที่ 3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน (Community Organizations) พ้นื ที่ ชุมชนหมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ มีท้งั หมด 6 กลุ่ม คือ กลุ่มท่ีเป็นทางการ 6 กล่มุ ดงั น้ี 1.กลุม่ ผนู้ าชุมชน นายจรี เหรียญนุย้ (ผญบ.) นายมูฮาหมดั ราป้อม (ผช.ผญบ.) นายยนู ิต สังสินละ (ตารวจบา้ น) นายยซู ุฟ หละโส๊ะ (แพทยต์ าบล) 2.กล่มุ ธนาคารหมบู่ า้ น สงั กดั สานกั งานเกษตร 1.นางสาวนจั ติดา พลนุย้ ประธาน 2. นางขวญั ใจ อนุกุล ผจู้ ดั การ 3. นางสาวอาไพ ยอดดา เลขานุการ 4. นางสาวเอียด ยอดเก้ือ เหรัญญิก(ตรวจสอบ บช.) 5. นางสาว วาสนา ราป้อม กรรมการ 6.นางสาว ลินลานา กาหรีม กรรมการ ชาวบา้ นหมูท่ ่ี1 บา้ นโคกไทรไดม้ ีการรวมกลมุ่ กนั ออมเงินโดยการฝากเงินเป็นประจาอยา่ งตอ่ เนื่อง เดือนละ 200 บาทเพอื่ เก็บเป็นเงินออมของตนเอง และไดร้ ับสิทธิประโยชน์จากการเขา้ เป็นสมาชิก เช่น เงินช่วยฌาปาณะกิจและเงินเย่ยี มไข้ ซึงองคก์ รธนาคารหม่บู า้ นโคกไทรมีความเขม้ แขง็ ตลอดจนสามารถมาลงทุน ฝาก กูย้ มื ทากาไร ปล่อยกูร้ ้อยละ 2 นดั เจอกนั ทุกวนั ท่ี 15 ของทกุ เดือน เอาทนุ มาคืนพร้อมดอกเบ้ีย เอาดอกเบ้ียมาแบง่ ปันผลประจาปี ร้อยละ 80 และเขา้ กลบั กลมุ่ 5% สาธารณะ เช่น วนั เดก็ 5% และเหลือคืน 10%
3.กล่มุ อสม. 1.นายหร้อ นวลอม ประธาน 2.นางสาวอารย์ จนั ทร์ไข่ รองประธาน 3.นางสาววรรณ๊ นวลอม เลขานุการ 4.นางบีเดา๊ ะ สาแหละ เหรัญญิก 5.นางสุภชั ชา รักษาแกว้ ประชาสมั พนั ธ์ 6.นางสุนีย์ เหลม็ ปาน ปฏิคม กิจกรรมกลมุ่ 1. การส่งเสริมสุขภาพ 1.1 เยย่ี มบา้ นใหค้ า้ แนะนาผสู้ ูงอายดุ า้ นการดูแลสุขภาพ 1.2 เยย่ี มบา้ นใหค้ า้ แนะนาคนพิการดา้ นการดูแลสุขภาพ 1.3 เยยี่ มบา้ นใหค้ า้ แนะนาหญิงต้งั ครรภ์ และหญิงหลงั คลอด 2. การป้องกนั สุขภาพ 2.1 การคดั กรองเบาหวานและความดนั ใหแ้ ก่ประชาชน 2.2 รณรงคก์ ารกาจดั ลูกน้ายงุ ลาย 2.3 ใหค้ า้ แนะนา้ ประชาชนลดกิน หวาน อาหารมนั และอาหารเคม็ 3. การฟ้ื นฟู 3.1 เยย่ี มบา้ นใหค้ า้ แนะนา้ ผปู้ ่ วยโรคเร้ือรังดา้ นการดูแลสุขภาพ 4. ประสานงานระหวา่ ง รพ.สต. กบั ประชาชนในชุมชน 5. การมีส่วนร่วมกิจกรรมจิตอาสากบั เครือข่ายอ่ืน มีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมสุขภาพ กลมุ่ อสม. หมทู่ ี่ 1 บา้ นโคกไทร จะมีการนดั ประชุมและรวมตวั กนั ทุกคร้ังที่มีข่าวสาร ทางดา้ นสุขภาพ เช่น การรวมกลมุ่ กนั ทาจิตอาสากาจดั ลูกน้ายงุ ลายในดา้ นการทางานไมม่ ีความขดั แยง้ กนั
โดยประธาน อสม. จะรับฟังความคิดเห็นของ สมาชิกทุกคน เมื่อมีความขดั แยง้ กนั จะใชเ้ สียง ส่วนมากในการตดั สิน 4.กล่มุ ทาขนม 1.นางเราะ เสลา ประธาน 2.นางสาว รอดนวล รองประธาน 3.นางจิต ทองนุ่น เหรัญญิก 4.นางสุ ไหมฉู เลขานุการ 5.นางดีนะ ยอดชู เลขานุการ มีการรวมกลุม่ กนั จากการรวมกลุม่ กูเ้ งินกองทุนหมู่บา้ นมาเพอื่ รวมกล่มุ ทาขนมขายเพือ่ สร้าง รายไดแ้ ละสร้างอาชีพใหแ้ ก่ตนเองและครอบครัวซ่ึงมีการผลิตขนมตามรายการท่ีสงั่ ทาใหข้ นมไม่ เหลือคา้ งและมีรสชาติอร่อยทาใหก้ ารรวมกลุม่ เขม้ แขง็ มาถึงปัจจุบนั 5. กลุ่มแม่บา้ นเกษตรกร 1.นางสาวมีเราะ สามะแอ ประธาน 2.นางคูณ คงช่วย รองประธาน 3.นางอาพา รัตนนุกูล เหรัญญิก 4.นางดีนะห์ ภานุพงศ์ เลขานุการ 6.กลมุ่ ผนู้ าทางศาสนา 1.นายเหน๊ก หมีนปาน อิหมา่ ม 2.นายซอบาร์ด หีมหนก ก่อเตบ็ 3.นายปลดั เก้ือกลู บิลาย -เป็นผนู้ าในการจดั โยทุกวนั ศกุ ร์โดยมีการรวมกลมุ่ ผชู้ ายอิสลามทกุ คนในชุมชนมาร่วมกนั ชุมนุม และพดู คุยแลกเปล่ียนเก่ียวกบั หลกั คาทางศาสนาและทาละหมาดพร้องกนั -เป็นผนู้ าในการประกอบพธิ ีทางศาสนาในชุมชน เช่น นิกะห์ สุนดั ดุอางานบญุ เป็นตน้
เครื่องมือชิน้ ท่ี 4 ระบบสุขภาพชุมชน (Local Health Systems) สถำนพยำบำล โรงพยำบำลกงหรำ ระบบสุขภำพชุมชน ชุหมู่ที่ 1 บ้ำนโคกไทร ตำบลคลองเฉลมิ อำเภอก สถำนทอ่ี อกกำลงั กำย โรงเรียนบ้ำนพูด
ศำสนำ มัสยดิ โคกไทร กงหรำ จงั หวัดพทั ลุง ร้ำนขำยยำ คลนิ ิก ร้ำนขำยฟำร์มมำซี คลนิ ิก นพ.กวิน
เคร่ืองมือชิ้นที่ 5 ปฏิทินชุมชน (Community Calendar) มกรำคม กุมภำพนั ธ์ มนี ำคม เมษำยน วนั ปี ใหม่ ฝึกอาชีพทกุ ดา้ นใหร้ าษฎร เพิ่มประสิทธิภาพการ พฤษภำคม มถิ ุนำยน ผลิตไมผ้ ล จดั อบรมการปลูกพืช กรกฎำคม แซมในสวนยาง ตุลำคม แข่งกีฬาชุมชน สิงหำคม ประเพณีวนั ฮารีรายอ กนั ยำยน พฤศจิกำยน ธันวำคม สนบั สนุนกล่มุ แมบ่ า้ น กจิ กรรมภำยในแต่ละเดือน กจิ กรรม วนั ปี ใหม่ เดือน ฝึกอาชีพทกุ ดา้ นใหร้ าษฎร มกรำคม มีนำคม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไมผ้ ล จดั อบรมการปลกู พชื แซมในสวนยาง เมษำยน แข่งกีฬาชุมชน พฤษภำคม สนบั สนุนกลมุ่ แมบ่ า้ น กรกฎำคม โครงการส่งเสริมการทาขนมไทย พฤศจิกำยน ธันวำคม
เครื่องมือชิน้ ท่ี 6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชนและสภาพภมู ิศาสตร์ (Local History) ประวตั ิความเป็นมาของหมูบ่ า้ นเดิมหมูท่ ่ี 1 บา้ นโคกไทรตาบลคลองเฉลิมอาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุงเป็นหมู่บา้ นที่มีจานวนครัวเรือนมากทาใหก้ ารปกครองไม่ทว่ั ถึงดูแลลาบากกเ็ ลยแยก ออกเป็น 2 หมู่บา้ นคือหมูท่ ่ี 1 บา้ นโคกไทรและหมู่ท่ี 11 บา้ นนาท่งุ โพธ์ิตาบลคลองเฉลิมต้งั แต่ปี พ. ศ. 2535 ส่วนประวตั ิศาสตร์ความเป็นมาของชื่อบา้ นโคกไทรท่ีเรียกวา่ บา้ นโคกไทรเลา้ กนั วา่ ท่ีริมลา ธารมีตน้ ไทรใหญ่ตน้ หน่ึงขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 200 เซนติเมตรและตน้ ไมใ้ หญน่ ้นั อยบู่ นเนินสูงท่ี ชาวบา้ นเรียกวา่ “ โคก” จึงเรียกวา่ “ บา้ นโคกไทร” หมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร เป็ น 1 ใน 14 หม่บู า้ นของจานวนหมบู่ า้ นท้งั หมดในตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ มีเน้ือที่ประมาณ 4,423 ไร่ ห่างจากศาลากลางจงั หวดั ไปทางทิศตะวนั ตก ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยหู่ ่างจากที่วา่ การอาเภอกงหราไปทางทิศใต้ ประมาณ 5 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อดงั น้ี ทิศเหนือติดต่อกบั บา้ นนาทงุ่ โพธ์ิหมูท่ ี่ 11 ตาบลคลองเฉลิม ทิศใตต้ ิดตอ่ กบั บา้ นน้าตกไพรวลั ยห์ มทู่ ี่ 13 ตาบลคลองเฉลิม ทิศตะวนั ออกติดตอ่ กบั บา้ นนาบอนหม่ทู ี่ 4 ตาบลคลองเฉลิม ทิศตะวนั ตกติดตอ่ กบั เทือกเขาบรรทดั
เคร่ืองมือชิ้นที่ 7 ประวตั ิชีวิต (Life Story) 1.ประวตั ิชีวติ นางนจั ติดา ดอรอเฮง (ประทานธนาคารหมบู่ า้ น สงั กดั สานกั งานเกษตร) ขอ้ มูลทวั่ ไป -ชื่อนางนจั ติดา ดอรอเฮง เกิดเมื่อวนั ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2536 ปัจจุบนั อายุ 27 ปี -สญั ชาติ ไทย นบั ถือศาสนา อิสลาม -ท่ีอยอู่ าศยั 29 หมทู่ ี่ 1 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง -มีพน่ี อ้ งท้งั หมด 4 คน เป็นบุตรคนท่ี 4 สมรสกบั นายอิซสาฮมั ดอรอเฮง มีบุตรดว้ ยกนั 1 คน -ไมม่ ีโรคประจาตวั ประวตั ิดา้ นการศึกษา - จบช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 จากโรงเรียนบา้ นนาทงุ่ โพธ์ิ อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ - จบช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนกงหราพิชากร - ปริญญาตรี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวิชยั ประวตั ิดา้ นการทางาน -ดารงตาแหน่งประธานชุมชนหมู่ที่ 4 ต้งั แตป่ ี พ.ศ.2554 -อายกุ ารทางาน 10 ปี
บทท่ี 3 กำรวินจิ ฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่ที่หมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ในคร้ังน้ี เป็นการศึกษาในรูปแบบ การสารวจ สังเกต การสัมภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวนิ ิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ เป็นการเก็บขอ้ มลู เพ่มิ เติมจากแหลง่ ทุติยภมู ิ ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กล่าวมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มลู ท่ีไดเ้ ป็นขอ้ มลู ปัจจุบนั มาก ท่ีสุด วิธีการเก็บรวมรวบขอ้ มูลปฐมภมู ิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสังเกต เป็นการสังเกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่าง ๆ ของ ประชาชน ในชุมชน โดยที่ผถู้ กู สงั เกตไม่รู้ตวั เพ่อื นาขอ้ มลู มาสนบั สนุนในการวิเคราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามท่ีเตรียมคาถามต่าง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พิมพไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสัมภาษณ์ทุกคน โดยคาถามจะเป็น ท้งั คาถาม แบบปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพอ่ื เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ ูกสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ิ หรือขอ้ มลู ท่ีรวบรวมไวท้ ่ี องคก์ รในหมูบ่ า้ น ซ่ึงขอ้ มูลดงั กลา่ วน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพม่ิ เติม เพอ่ื นามาใชใ้ น การสนบั สนุนในกระบวนการวเิ คราะหป์ ัญหา
การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบถามแบง่ ออกเป็น 5 ตอน ดงั น้ี ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั โรคเกาต์ ตอนท่ี 3 ขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนที่ 4 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มลู ความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้ 3.2 การวิเคราะหข์ อ้ มูล ขอ้ มลู ที่ไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถี่ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในรูปแบบ ร้อยละ และนาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพ่อื ความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มลู สาหรับขอ้ มลู เชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพ่อื ความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู จากการศึกษาชุมชนหมทู่ ี่ หมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ จานวนครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานต่าง ๆ จากสานกั งาน กระทรวงสาธารณสุข จงั หวดั ตรังและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชน ซ่ึงจะ นาเสนอตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หมทู่ ่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบล คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ
ตำรำงที่ 1 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนเพศ (ของกลุ่มตัวอย่ำง n= 10 ) เพศ จานวน ร้อยละ เพศชาย 3 30% เพศหญิง 7 70% รวม 10 100 % ตำรำงท่ี 2 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนอำยุ อายุ จานวน ร้อยละ 1. ต่ากวา่ 20 ปี -- 2. 20-30 ปี 1 10% 3. 31-40 ปี 3 30% 4. 41-50 ปี 2 20% 5. 51-60 ปี 4 40% 6. 60 ปี ข้นึ ไป -- รวม 10 100% จากตาราง2 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อย่างในชุมชนส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 20-30 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 10% และอายุอยู่ในช่วง 31-40 ปี ร้อยละ 30% และอายุอยู่ในช่วง41-50 ปี ร้อยละ 20% และอายุอยใู่ นช่วง 51-60 ปี ร้อยละ 40%
ตำรำงที่ 3 แสดงค่ำร้อยละของศำสนำ ศาสนา จานวน ร้อยละ อิสลาม 10 100% พทุ ธ - - รวม 10 100 % จากตารางที่3 พบวา่ ศาสนาของประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งส่วนใหญศ่ าสนาอิสลาม ร้อยละ 80 รองลงมา ศาสนาพุทธ ร้อยละ 20 ตามลาดบั ตำรำงที่ 4 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพสมรส สถานภาพสมรส จานวน ร้อยละ โสด 1 10 % สมรส 8 80% หยา่ 1 10 % รวม 10 100 % จากตารางท่ี4 พบวา่ สถานภาพของประชาชนกลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่สมรส ร้อยละ 80 รองลงมามี สถานภาพโสด ร้อยละ 10 ตามลาดบั
ตำรำงที่ 5 แสดงค่ำร้อยละของระดบั กำรศึกษำสูงสุด ระดบั การศึกษาสูงสุด จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ ประถมศึกษา - - ประถมศึกษา 2 20% มธั ยมศึกษาตอนตน้ 1 10% มธั ยมศึกษาตอนปลาย 2 20% อนุปริญญาตรี/ปวส. 1 10% ปริญญาตรีข้นั ไป 4 40% รวม 10 100 % จากตาราง4 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญ่ศึกษาอยใู่ นระดบั ปริญญาตรีข้นั ไป ร้อยละ 40 รองลงมาศึกษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศึกษาตอนป ร้อยละ20 รองลงมาศึกษาอยใู่ นระดบั ประถมศึกษา ร้อยละ20 และรองลงมาศึกษาอยใู่ นมธั ยมศึกษาตอนตน้ ร้อยละ10 ตามลาดบั ตำรำงที่ 6 แสดงค่ำร้อยละของอำชีพหลกั ของครอบครัว อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ กาลงั ศึกษาอยู่ -- เกษตรกร 8 80 % คา้ ขาย - -
ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือ - - พนกั งานของรัฐ พนกั งานเอกชน 1 10 % รับจา้ งทว่ั ไป 1 10 % รวม 10 100 % จากตาราง 5 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 80 รองลงมาจะ ประกอบอาชีพพนกั งานเอกชน ร้อยละ10 และประกอบอาชีพรับจา้ งทวั่ ไป ร้อยละ 10 ตามลาดบั ตำรำงที่7 แสดงค่ำร้อยละของประวัติกำรมโี รคประจำตัวของกล่มุ ตัวอย่ำง (n = 10 คน) โรคประจาตวั จานวน ร้อยละ โรคไขมนั เกิน 1 10% โรคเบาหวาน 2 20% อื่นๆ(ไม่มีโรคประจาตวั ) 7 70% รวม 10 !00% จากตารางที่ 6 พบวา่ ประชาชนกลมุ่ ตวั อยา่ งในชุมชนส่วนใหญไ่ ม่มีโรคประจาตวั ร้อยละ 70 รองลงมา โรคเบาหวาน ร้อยละ20 และมีโรคประจาตวั เป็นโรคไขมนั เกิน ร้อยละ 10 ตามลาดบั
ตำรำงที8่ ปัญหำด้ำนเศรษฐกิจ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ ท่ีสุด 4 กลาง 2 ที่สุด x̄ S.D. 53 1 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพ 10% 30% 30% 30% - 2.9 0.99 หลกั ไม่เพียงพอ 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 20% 10% 40% 20% - 3.7 1.06 3 กเู้ งินจากหน้ีนอกและในระบบ 10% 20% 20% 30% 20% 3.2 1.23 4 มีรายไดไ้ มเ่ พยี งพอในการใชจ้ ่าย - 40% 40% 20% - 3.5 0.71 ประจาเดือน 5 มีหน้ีสินเพิม่ ข้ึนจากการประกอบ 20% 30% 40% 10% 3.2 1.03 อาชีพ 6 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ 30% 40% 20% - 10% 3.8 1.03 ขาดทนุ 7 การวา่ งงานของคนในชุมชน - 70% 10% 20% - 3.7 0.82 เพ่มิ ข้นึ 8 ขาดที่ดินทากินเป็นของตนเอง - 40% 20% 20% 10% 3.3 0.82 9 เกิดภยั แลง้ ซ้าซากในชุมชน - 20% 60% - 10% 3.2 0.42 10 มีการเล่นการพนนั ในชุมชน - 40% 20% 30% - 3.3 0.82
11 ขาดความรู้เก่ียวกบั เศรษฐกิจ - 30% 20% 40% 3.1 0.88 พอเพียง 3.35 0.21 รวม ตำรำงที่9 ปัญหำด้ำนสังคม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ท่ี ปัญหาดา้ นสงั คม ท่ีสุด กลาง ที่สุด x̄ S.D. 5 4 321 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพิ่มข้นึ 30% 30% 20% 10% - 3.8 1.23 2 กลมุ่ คนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั – 20% 60% 20% - 3 0.67 และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นา - 30% 50% 20% - 2.7 0.67 ตนเอง 4 คนในชุมชนขาดความช่วยเหลือและ - - 70% 30% - 2.5 0.71 เอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผ่ 5 ความเหลื่อมล้าทางสังคมของคนรวย - - 60% 30% - 2.5 0.71 และคนจน ในชุมชน
6 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่นุ ละออง - 20% 70% 10% - 3 0.67 มลพิษใน 30% 50% 20% - 3.3 0.48 ชุมชนเพม่ิ ข้นึ 10% 50% 30% - 2.9 0.74 7 ขาดสวสั ดิการของหมบู่ า้ น - 10% 50% 20% 10% 3.1 0.57 2.98 0.21 8 ความเช่ือและประเพณีของหมบู่ า้ นทา - ใหข้ ดั แยง้ ทางสงั คม 9 เยาวชนทะเลาะวิวาทและไม่ไดเ้ รียนต่อ - รวม ตำรำงท่ี10 ปัญหำด้ำนกำรจดั กำรทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละส่ิงแวดล้อม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นการจดั การ ที่สุด กลาง ท่ีสุด x̄ S.D. ทรัพยากรธรรมชาติและ 54 3 21 สิ่งแวดลอ้ ม 1 ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน - 40% 40% 20% - 3.5 0.71 เช่น น้าประปาและไฟฟ้าไมเ่ พยี งพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการ - 30% 20% 30% 20% 3.1 0.88
ดูแลความ สะอาดของหมู่บา้ น 3 ป่ าเส่ือมโทรมและมีการทาลาย - 40% 20% 40% - 3 0.94 ทรัพยากรของชุมชนเพม่ิ ข้นึ 4 ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการ - 40% 20% 30% - 3.1 0.88 บริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน 5 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ - 40% 30% 30% - 3 0.94 ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 6 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการ - 50% 30% 20% - 3.3 0.82 อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของชุมชน รวม 3.17 0.09 ตำรำงท่ี 11 แสดงค่ำร้อยละของอำกำรเจ็บป่ วยอำกำร/โรค ในช่วง 6 เดือน – 1 ปี อาการ/โรค จานวน ร้อยละ .เจ็บป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ 3 30 % โรคติดตอ่ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค โรคอื่นๆโปรดระบุ - - โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอ่ืนๆโปรดระบุ 2 20% ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกงั วล/เครียด ติดยา/สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง - -
อ่ืนๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก 5 50% ตำรำงท่1ี 2 ปัญหำด้ำนสุขภำพและพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตวั เองและครอบครัว บอ่ ย บอ่ ย นานๆ บางคร้ัง ไม่ เคย ที่ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เอง ที่สุด คร้ัง x̄ S.D. 1 และครอบครัว 543 2 1 ประจาวนั ทา่ นทานอาหารครบ 3 ม้ือ 60% 40% - - - 4.5 1.24 2 ท่านทานอาหารแตล่ ะม้ือครบท้งั 5 10% 50% 40% - - 3.7 0.98 หมู่ 3 ทา่ นดื่มเหลา้ 10% - 20% 10% 60% 1.8 0.94 4 ท่านชอบสูบบุหร่ี - - - 30% 70% 1 0.90 5 ท่านออกกาลงั กาย 40% 10% 20% 30% - 3.2 0.82 6 ท่านนอนหลบั พกั ผอ่ น 8 ชม. - 40% 40% 20% - 3.4 0.82 7 ทา่ นลา้ งมือทุกคร้ังก่อนรับประทาน 50% 30% 20% - - 3.7 0.82 อาหาร 8 ทา่ นตรวจสุขภาพเป็นประจาทกุ ปี 20% 20% 30% - 30% 2.8 0.85 9 เม่ือมีไขห้ รืออาการเจ็บป่ วยท่านซ้ือ - 10% 60% 30% - 2.8 0.71 ยาทานเอง
10 เมื่อท่านมีอาการเจ็บป่ วยทา่ นทาตาม 40% 30% 20% 10% - 3.2 0.74 คาแนะนาของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 11 เมื่อทา่ นมีอาการไขห้ รืออาการ 50% 20% 20% 10% - 3.4 0.79 เจ็บป่ วยท่านไปสถานพยาบาล เช่น รพสต. รพ. คลินิก 12 เม่ือเกิดเหตฉุ ุกเฉินท่านโทร 1669 30% - 30% - 40% 2 0.84 รวม 2.96 0.14 ตำรำงท่1ี 3 ปัญหำด้ำนอ่ืนๆ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปัญหาดา้ นอื่นๆ ที่สุด กลาง ท่ีสุด x̄ S.D. 54 3 21 1 ประชาชนขดั แยง้ แบ่งพรรคแบง่ พวก - - 60% 30% 20% 2.3 0.82 2 เยาวชนขาดจิตสานึกในช่วยเหลือกนั - 10% 60% 30% - 2.6 0.52 3 ขาดแคลนแหล่งเงินทนุ เพื่อพฒั นา - 30% 30% 10% 30% 2.1 1.20 อาชีพ 4 ขาดแหล่งน้า เพ่ือการเกษตรเพือ่ การ - 40% 40% 10% 10% 2.9 0.57 ประกอบอาชีพ 5 การประสานงานกบั ภาครัฐไมต่ อ่ เนื่อง - 30% 50% 20% - 3 0.67 รวม 2.58 0.27
สรุป ตำรำงที่14 แสดงค่ำเฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบน มำตรฐำนของปัญหำสุขภำพด้ำนชุมชน ปัญหำ x̄ S.D. 0.19 ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 3.18 0.21 0.09 ปัญหาดา้ นสงั คม 2.98 0.14 0.27 ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 3.17 0.18 ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว 2.96 ปัญหาดา้ นอื่นๆ 2.58 คา่ เฉล่ียรวม 3.00 กำรวิเครำะห์สำเหตุของปัญหำ เมื่อไดก้ าหนดปัญหาและจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาแลว้ จึงไดม้ ีการวิเคราะห์หาสาเหตุท่ีแทจ้ ริง เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ขอความร่วมมือจากผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง และผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ อนั จะนาไปสู่แนวทางการ แกไ้ ขปัญหาน้นั ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งแลเหมาะสม
ปัญหำและกำรจัดลำดับควำมสำคัญของปัญหำ จากตารางขอ้ มูลดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉินในชุมชนหมู่บา้ นโคกไทร ม.1 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลุง สรุป ปัญหาท่ีควรไดร้ ับการแกไ้ ขตามลาดบั ความสาคญั ของปัญหาดา้ นสุขภาพของการเจ็บป่ วย ในช่วง 6 เดือน – 1 ปี จดั ลาดบั ได้ 3 ดงั น้ี 1.โรคขอ้ และกระดูก 2.เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ 3.โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอ่ืนๆ
กำรคิดคะแนนเพ่ือจดั ลำดับควำมสำคัญของปัญหำ เกณฑ์กำรจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ คะแนนรวม ปัญหำ ขนำดของ ค ว ำ ม ควำมยำก ค ว ำ ม วธิ บี วก วธิ คี ูณ ลำดับของ 1.โรคเกาต์ ปัญหำ รุนแรง ง่ำย สนใจ ปัญหำ 2.โรคขอ้ เขา่ เส่ือม 3.โรคกระดูกทบั เสน้ 6 11 3 1 21 198 1 3 7 4 1 15 84 2 3 5 5 1 14 75 3
4.โรครูมาตอยด์ 2 3 6 1 12 36 4 5.โรคขอ้ อกั เสบสะเก็ดเงิน 1 2 7 1 11 14 5 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ที่ 1 คือ โรคเกาต์ อนั ดบั ที่ 2 คือ โรคขอ้ เข่าเส่ือม อนั ดบั ท่ี 3 คือ โรคกระดูกทบั เส้น อนั ดบั ที่ 4 โรครูมาตอยด์ อนั ดบั ที่ 5 โรคขอ้ อกั เสบสะเกด็ เงิน ตามลาดบั ท่ีมำ:จำกอ้ำงอิงทฤษฏีวิธีของภำควิชำบริหำรสำธำรณสุข คณะสำธำรณสุขศำสตร์ มหำวิทยำลัยมหิดล จำกวำรสำรพยำบำล กระทรวงสำธำรณสุข
บทท่ี4 แผนงำนโครงกำร จากการสารวจชุมชนหมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ไดล้ งสารวจพ้ืนที่โดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มูลวิเคราะห์เพื่อจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพื่อหา วิธีการแก้ปัญหาให้กับชุมชน จากการศึกษาพบว่าชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคเกาต์ มาจดั โครงการเพอ่ื ใหค้ วามรู้กบั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตท์ ี่ถูกวิธีและเหมาะสม 4.1 แผนงำน / โครงกำร จากปัญหาท่ีพบ พบวา่ เป็ นปัญหาที่ทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กลา่ ว จึงไดจ้ ดั ทาโครงการเพอ่ื แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อกจิ กรรม/โครงกำร : เกาตน์ ้ีมีแค่เรา ชื่อ-สกุล ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงกำร : นางสาวจุริญญา ราป้อม สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2
1. หลกั กำรและเหตุผล/ทมี่ ำ/ปัญหำ 1.1 หลกั กำรและเหตุผล โรคเกาต์ (gout) คือโรคท่ีเกิดจากภาวะกรดยรู ิก (uric acid) ในเลือดสูงติดต่อกนั เป็นระยะเวลานาน โดย ภาวะกรดยรู ิกสูงหมายถึงระดบั กรดยรู ิกมากกวา่ 7 มก./ดล. ในเพศชาย และ 6 มก./ดล. ในเพศหญิง โรคเกาตพ์ บ บอ่ ยในชายวยั กลางคนข้นึ ไป หรือหญิงในวยั หมดประจาเดือนการสะสมของกรดยรู ิกในร่างกายเป็นระยะ เวลานาน อาจทาใหเ้ กิดโรคเกาตข์ ้ึนได้ โดยสามารถเกิดโรคไดใ้ นหลายอวยั วะ ไดแ้ ก่ ขอ้ ผิวหนงั และไต อาการ ที่พบบอ่ ยท่ีสุด คอื อาการทางขอ้ ไดแ้ ก่ ขอ้ อกั เสบเฉียบพลนั โดยผปู้ ่ วยจะมีอาการปวดอยา่ งรุนแรงและฉบั พลนั ทนั ทีทนั ใด ขอ้ ท่ีเป็นจะบวมข้นึ มีสีแดงรอบ ๆ ขอ้ หากคลาดูจะพบวา่ อนุ่ กวา่ ขอ้ เดียวกนั ในขา้ งตรงขา้ ม ขอ้ ท่ี อกั เสบในช่วงแรก มกั เป็นท่ีขอ้ โคนนิ้วหัวแม่เทา้ หรือขอ้ เทา้ หากทิ้งไวน้ าน โดยไม่ไดร้ ับการรักษา อาจมีการ อกั เสบท่ีขอ้ อ่ืนไดด้ ว้ ย เช่น ขอ้ เข่า ขอ้ ศอก ขอ้ มือเป็นตน้ จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมทู่ ี่ 1บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 243 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเกาต์ พบบ่อยท่ีสุดในผปู้ ่ วยชายท่ีมี อายมุ ากกวา่ 40 ปี ข้นึ ไป พบในเพศชายมากกวา่ เพศหญิงเป็นสัดส่วน 9:1 โดยในเพศชายมกั พบช่วงอายรุ ะหวา่ ง 30-50 ปี เพศหญิงพบไดม้ ากข้ึนในช่วงอายมุ ากกวา่ 50 ปี หรือวยั หลงั หมดประจาเดือนและเกิดจากการไม่ ควบคมุ อาหารและบกพร่องต่อการออกกาลงั กายเทา่ ท่ีควร จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคมุ โรคเกาต์ หมทู่ ี่ 1บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกง หรา จงั หวดั พทั ลงุ ข้นึ เพื่อใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้เรื่องการป้องกนั โรคเกาตเ์ พ่ือลดอตั ราการป่ วยดว้ ย โรคเกาต์ และเพือ่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั ควบคุม รักษาและการเฝ้าระวงั โรคไม่ติดต่อใน หมูท่ ่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่เป็ นโรคเกาต์ เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตท์ ่ีถกู วิธีและเหมาะสม 1.2.2 เพอ่ื ใหป้ ระชาชนหนั มาสนใจและใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาเรื่องการควบคมุ โรคเกาต์ 1.2.3 เพอื่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการเขา้ ร่วมโครงการ
1.3 กล่มุ เป้ำหมำย อสม. ตวั แทนครัวเรือนและประชาชน 1.4 เป้ำหมำย 1.4.1 เป้ำหมำยเชิงคุณภำพ - ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเกาตไ์ ดใ้ นระดบั ดี 1.4.2 เป้ำหมำยเชิงปริมำณ - อสม. ตวั แทนครัวเรือนและประชาชน หมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 80 1.5 ระยะเวลำดำเนนิ กำร ต้งั แตว่ นั ที่ 15 มีนาคม – 17 มีนาคม 2563 1.6 ดชั นีตวั ชี้วัดควำมสำเร็จ 1.6.1. ประชนชนกลมุ่ เสี่ยงและกลมุ่ ที่เป็นโรคเกาตท์ ี่เขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ความเขา้ ใจในการ ควบคุมป้องกนั โรคเกาตใ์ นระดบั ดีร้อยละ70 หลงั สิ้นสุดโครงการ 1.6.2. อตั ราความพงึ พอใจของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการ ร้อยละ80 พึงพอใจ 1.7 ผ้รู ับผดิ ชอบโครงกำร นางสาวจุริญญา ราป้อม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.8 สถำนทีด่ ำเนินโครงกำร หอประชุมหม่บู า้ น หมู่ที่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ 1.9 ผลทค่ี ำดว่ำจะได้รับ 1.8.1 ประชาชนกลมุ่ เสี่ยงและกลุ่มท่ีเป็นโรคเกาต์ ท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการ ควบคุมป้องกนั โรคเกาตท์ ่ีถกู วิธีและเหมาะสม 1.8.2 ประชาชนกล่มุ เส่ียงและกลุ่มท่ีเป็นโรคเกาต์ ใหค้ วามสาคญั เร่ืองโรคมากข้นึ 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือ และพงึ พอใจต่อการเขา้ อบรมอยใู่ นระดบั ดี
2. แผนกำรดำเนนิ งำน 2.1 วธิ ีกำรดำเนินงำน กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนนิ กำร ผ้รู ับผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวตั ถุประสงค์ 15 มีนาคม 2563 นางสาวจุริญญา ราป้อม งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสาเร็จ พัฒนา นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงการฉบบั สมบรู ณ์เพื่อขออนุมตั ิ การแพทย์ รุ่นที่ 15 2. เมื่ อ โ ค ร ง ก าร ไ ด้ รั บ อ นุ มั ติ แ ล้ ว จึ ง ช้นั ปี ท่ี 2 ม อ บ ห ม าย ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ภ า ย ใ น ก ลุ่ ม พร้อมท้งั ประสานผูท้ ี่เก่ียวขอ้ งประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ท่ีตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 16 มีนาคม 2563 นางสาวจุริญญา ราป้อม (D) 1.1 วนั จดั กจิ กรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับโรค ช้นั ปี ท่ี 2 เกาตแ์ ละวธิ ีการป้องกนั โรคเกาต์ 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเกี่ยวกบั ความรู้ โรคเกาต์ 1.1.4 จัดกิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) ระดมสมองภายในกล่มุ 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพงึ พอใจ 1.2 วันเดินรณรงค์
กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนินกำร ผู้รับผดิ ชอบ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรื่องโรคเกาต์ 1.2.2 แจกแผน่ พบั การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 16 มีนาคม 2563 นางสาวจุริญญา ราป้อม (C) 1. แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 3. สงั เกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ช้นั ปี ท่ี 2 ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพื่อสรุปผลการ 17 มีนาคม 2563 นางสาวจุริญญา ราป้อม ห รื อน าผล การ ดาเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพือ่ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน ป ระเมิ น ไป ใช้ ปรับปรุงพฒั นา การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ประโยชน์ (A) ช้นั ปี ท่ี 2 2.2 ผลกำรดำเนนิ งำน 2.2.1 กำรดำเนนิ งำนในข้นั ตอนกำรวำงแผน (P) - ประสานงานกับแกนนา อสม.หมู่ท่ี 1 บ้านโคกไทร ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง นางสาวจุริญญา ราป้อม หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสานงานกบั แกนนาอสม. หมู่ 1 เพอ่ื จดั การทาประชาคมหาปัญหาท่ีตอ้ งแกไ้ ขเพื่อจดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนินงานและเขยี นโครงการเพอื่ ขออนุมตั ิ นางสาวจุริญญา ราป้อม หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชุมกนั กับแกนนาอสม.หมู่1 เพ่ือ สอบถามปัญหาต่างๆที่เกิดข้ึนในชุมชน และได้มีการประชุมกันภายในกลุ่มเพื่อวางแผนการดาเนินงาน
กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ท่ีรับผิดชอบ เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ ง มีประสิทธิภาพ -ติดตอ่ ประสานงาน กบั ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในชุมชน นางสาวจุริญญา ราป้อม หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้ติดต่อจดั การขอสถานท่ีในการทา กิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อขอใชส้ ถานที่ 2.2.2. กำรดำเนินงำนในข้นั ตอนกำรปฏิบัติ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแก้ไข โครงการรณรงค์ ป้องกันและควบคุมโรคเกาต์ หมู่ท่ี 1 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จดั เตรียมสถานที่ในการจดั ทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคโรคเกาต์ หมู่ท่ี 1ตาบล คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง - ดาเนิ น งานกิจกรรม โครงการรณ รงค์ ป้ องกันและควบคุมโรค โรคเกาต์ หมู่ท่ี 1 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคเกาต์ นางสาวจุริญญา ราป้อม หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้เข้ารับการอบรมให้ความรู้เก่ียวกับ การดูแลตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เกี่ยวกบั โรคเกาต์ - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เรื่องโรคเกาต์ 2.3 จำนวนผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมูท่ ่ี 1ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ จานวน 90 คน 2.4 สถำนทด่ี ำเนนิ กำร หอประชุมหมูบ่ า้ น หมทู่ ี่ 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง งบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เงินอุดหนุนทว่ั ไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงานตามโครงการ พระราชดาริดา้ นสาธารณสุข(สนับสนุนจาก อสม. หอประชุมหมู่บา้ น หมู่ท่ี 1 บา้ นโคกไทร ตาบลคลองฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ จานวน6,000 บาท (หกพนั บาทถว้ น) ใชจ้ ่ายดงั น้ี 1.ค่าอาหารวา่ งและเครื่องด่ืม จานวน 100 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 2,500 บาท 2.คา่ อาหารกลางวนั จานวน 100 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 30 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
3.ค่าสมนาคุณวิทยากร จานวน 2 ชว่ั โมงๆละ 500 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท 4.ค่าป้ายไวนิลโครงการ เป็นเงิน 200 บาท 5.คา่ วสั ดุที่ใชใ้ นโครงการ เป็นเงิน 300 บาท รวมเป็ นเงนิ 6,000 บำท (หกพนั ห้ำบำทถ้วน) หมำยเหตุ : ทกุ รายการสามารถถวั เฉลี่ยได้
3.เครื่องมือและวธิ ีกำรในกำรประเมินผล หลงั จากที่ไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้นั ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็ นกิจกรรมในการ ประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างการวางแผนกับการประเมินผลโครงการ พบว่า กิจกรรมท้ังสองมีความสัมพันธ์ที่ตอ้ งดาเนินการควบคู่กัน โดยการวางแผนโครงการเป็ นกิจกรรมของการ กาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพื่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็นกิจกรรมสุดทา้ ย ในการพิจารณาผลการดาเนินงานเป็ นไปตามแผนที่กาหนดหรื อไม่ 3.1 เครื่องมือทใี่ ช้ในกำรเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถามท่ีผูร้ ับผิดชอบ โครงการไดส้ ร้างข้นึ ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลพ้ืนฐานส่วนบคุ คล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ส่วนที่ 2 ความรู้เร่ืองเกาต์ แบบสอบถามเป็ นแบบเลือกคาตอบเพียงคาตอบเดียว คือ ถูก หรือ ผิด จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูก ไดค้ ะแนนเท่ากบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเท่ากบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคมุ โรคเกาตแ์ บบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี ง คาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ เห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ นบวกและ ดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน
ส่วนที่ 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกนั โรคเกาต์แบบสอบถามเป็ นแบบเลือกตอบเพียงคาตอบ เดียว คือ ปฏิบตั ิเป็ นประจา 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบางคร้ัง 1-2 วนั /สัปดาห์ ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ขอ้ คาถามเชิงบวก จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจา(7 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบอ่ ยคร้ัง (5-6 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง (3-4 วนั /สัปดาห์) ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางคร้ัง (1-2 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑ์การให้คะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี ระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด 5 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยท่ีสุด 1 คะแนน 3.2 วิธกี ำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4.1 วดั ความรู้ ของประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้ ก่อนการเขา้ อบรม 3.4.5 วดั ความรู้ ของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้หลงั จากการเขา้ อบรม 3.3 กำรวิเครำะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี 1. การวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบคุ คล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถี่ ( Frequency ) และร้อยละ( Percentage ) 2. การประเมินความพึงพอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติค่าเฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
3.4 เกณฑ์ทใี่ ช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑก์ ารประเมินระดบั ความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองไขเ้ ลือดออก แบ่งออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของบลูม Bloom (1964อา้ งถึง ใน สมนึก แกว้ วไิ ล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้นึ ไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์การประเมินทศั นคติเก่ียวกบั การป้องกนั และควบคุม โรคไขเ้ ลือดออกโดยใช้วิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงใน กุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ ค่าระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์บ่งช้ีพฤติกรรมการออกกาลังกาย โดยใช้วิธีการ กาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม คา่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33
Search