Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือทักษะความฉลาด ทาง ดิจิทัลสำหรับครู

คู่มือทักษะความฉลาด ทาง ดิจิทัลสำหรับครู

Published by paan010141, 2022-05-08 03:50:54

Description: คู่มือทักษะความฉลาด ทาง ดิจิทัลสำหรับครู โดยนางสาว ปราณปรียา จูเจ้ย

Search

Read the Text Version

คู่ มื อ ทั ก ษ ะ ค ว า ม ฉ ล า ด ท า ง ดิ จิ ทั ล สำ ห รั บ ค รู จั ด ทำ โ ด ย น า ง ส า ว ป ร า ณ ป รี ย า จู เ จ้ ย ร หั ส นั ก ศึ ก ษ า 6 4 7 1 9 0 3 1 7 เสนอ อ . ด ร . สุ จิ ต ต ร า จั น ท ร์ ล อ ย อ . ด ร . สุ ธิ ด า ป รี ช า น น ท์ ร า ย ง า น นี้ เ ป็ น ส่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง วิ ช า ก า ร พั ฒ น า ค ว า ม เ ป็ น ค รู ( G D 5 8 2 0 1 ) ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก า ศ นี ย บั ต ร บั ณ ฑิ ต วิ ช า ชี พ ค รู ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 6 4 ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ ห มู่ บ้ า น จ อ ม บึ ง

คำนำ เนื่องจากในยุค วิถีชีวิตใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาท อย่างมากเประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มาก ขึ้น อีกทั้งโลกออนไลน์ทำให้เราได้มีโอกาสพบปะผู้คนเพิ่มมากขึ้น ความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ครูจะต้องมีทักษะทางดิจิทัล เพื่อให้อยู่ใน โลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ผู้จัดทำได้รวบรวมทักษะ 8 ทักษะความ ฉลาดทางดิจิทัลขึ้น เพื่อเป็นแนวทาง และนำไปพัฒนาต่อยอดในการใช้ เทคโนโลยี ทั้งนี้ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ สนใจ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย ปราณปรียา จูเจ้ย ผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า 1 เรื่อง 8 ทักษะความฉลาดทางดิจิทัล ทักษะที่ 1 ทักษะในการรักษาอัตลักษณะที่ดีของตนเอง 2 ทักษะที่ 2 ทักษะการคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณ 3 ทักษะที่ 3 ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์ 4 ทักษะที่ 4 ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว 5 ทักษะที่ 5 ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ 6 ทักษะที่ 6 ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งาน 7 ทักษะที่ 7 ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ 8 ทักษะที่ 8 ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม 9 บทสรุป 10

1 การพัฒนาครูวิถีใหม่ให้เท่าทัน ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลเป็นเครื่องมือครู จึงต้องพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความรู้ด้านเทคนิคและวิธี การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทันอย่าง เป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยใน ทักษะ 8 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดีของตนเอง (Digital Citizen Identity) 2. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว (Privacy Management) 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์(Critical Thinking) 4. ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์(Cybersecurity Management) 5. ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ (Screen Time Management) 6. ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้บนโลกออนไลน์(DigitalFootprints) 7. ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์(Cyberbullying Management) 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม (DigitalEmpathy)

1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดีของตนเอง 2 (Digital Citizen Identity) 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดีของตนเอง แนวทางในการสร้างอัตลักษณ์ที่ดีของครู (Digital Citizen Identity) คือการสร้าง อัตลักษณ์ของตนเองที่ดีใน อัตลักษณ์คือลักษณะบุคคลไม่ว่าจะอยู่ในโลก เชิงบวกมีวิจารณญาณในการรับส่งข้อมูล ไซเบอร์หรือโลกเสมือนจริง ในสังคมยุค ข่าวสารรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง สารสนเทศที่มีการแพร่หลายและนำเสนอข้อมูล ปฏิบัติต่อผู้อื่ นในสังคมออนไลน์ด้วยความ ได้อย่างง่ายดาย มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทัน เคารพ ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่น มีอิสระในการ สมัยมากมาย มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน แสดงความคิดเห็นแต่ต้องรับผิดชอบต่อ ช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ คลิป อีเมลเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ไลน์ฯลฯ โดยผู้ใช้จะสร้างอัตลักษณ์ การกระทำดูแลตัวเองทั้งทางร่างกายและ ความเป็นตัวตนของตนเองเพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้า จิตใจให้ไกลจากโรคภัยที่เกิดจากการใช้ มาเยี่ยม ชม ติดตาม กดไลค์กดแชร์ข้อมูล และ เทคโนโลยีดิจิทัล เรียกค้นหาข้อมูลเป็นจำนวนมากๆ ทั้งการซื้อ การขายออนไลน์หรือการ สร้างบัญชีผู้ใช้เพื่อ เน้นขายสินค้าหรือซื้อสินค้าออนไลน์การชำระ เงินด้วยบัตรเครดิต และครูเป็นบุคคลหนึ่งที่ เป็น พลเมืองดิจิทัลและเป็นผู้มีบทบาทในการ จัดการเรียนสอน การสื่อสาร การสร้าง นวัตกรรมต่างๆ ในโลกออนไลน์ เพราะข้อมูล ดิจิทัลคืออัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของครู ตัวอย่างที่ถูก : การเป็นตัวของตัวเองบนความ สลายใจของตัวเอง โดยไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ตัวอย่างที่ผิด : การโพสในโลกออนไลน์ที่เลิศหรู และดูดี เพื่อให้คนในโซเชียลอิจฉาและรับรู้ ซึ่งใน ชีวิตจริงนั้นแตกต่างออกไป ตัวอย่าง บางคนในโลกชีวิตจริงภาพลักษณ์ที่แสดงออกต่อคนในสังคมทั่วไป หรือ กับเพื่อนร่วมงาน ก็ดูเป็นคนสุภาพ พูดจาดี แต่พออยู่บนโลกออนไลน์ กลับแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาเต็มที่ โพสต์ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ต่อว่าผู้อื่ นที่ทำให้ไม่พอใจด้วยถ้อยคำที่รุนแรงโดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง ใดๆทั้งสิ้น เพราะคิดว่านี่เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ไม่ทันได้คิดต่อว่าเป็นพื้นที่ ส่วนตัวนี้ได้เปิดเป็นสาธารณะเอาไว้ ที่ใครๆก็เข้ามาอ่านโพสต์ของเราได้ ตลอดเวลา และนี่ก็คือเหตุผลที่เราจึงควรรักษาอัตลักษณ์ หรือ ภาพลักษณ์ ของเราให้ดีทั้งในโลกออนไลน์​และโลกชีวิตจริง

2. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว 3 (Privacy Management) 2. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว ตัวอย่าง (Privacy Management) ในการรักษาข้อมูล - รู้จักปกป้องข้อมูลความส่วนตัวในโลก ส่วนตัว คือ ความสามารถในการป้องกันสิทธิ ออนไลน์ ความเป็นส่วนตัวทั้งของตนเองและผู้อื่น และมี - รู้เท่าทันภัยคุกคามทาง อินเทอร์เน็ต เช่น ความตระหนักในความเท่าเทียม กันทางดิจิทัล มัลแวร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์ และกลลวงทาง แนวทางในการรักษาข้อมูลส่วนตัวของครูคือการ ไซเบอร์ ไม่เปิดเผยข้อมูลของตนเองบนโลกออนไลน์มาก เกินไป เช่น ชื่อสกุลสถานที่ติดต่อสถานที่ทำงาน ตัวอย่าง หมายเลขโทรศัพท์ ไม่ส่งรูปภาพ รายละเอียดบัตร 1. ไม่ควรตั้งรหัสผ่านของบัญชีใช้งานที่ง่าย เครดิตหรือ บัญชีธนาคารหรือข้อมูลอื่นๆ ไม่บอก เกินไป รหัสผ่านให้แก่ใคร ไม่ตอบโต้อีเมลหรือแสดง 2. ตั้งรหัสผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ ความคิดเห็นในลักษณะก้าวร้าว เชิญชวน หยาบ 3. แชร์ข้อมูลส่วนตัวในสื่อโซเชียลมีเดียอย่าง คายศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการด้านความเป็น ระมัดระวัง ส่วนตัวไม่ตั้งรหัสผ่านของบัญชีใช้งานที่ง่ายเกิน 4. ใส่ใจกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ไป สำรองข้อมูล (back up) ของตนเองอย่าง ระมัดระวังในการเปิดเผยชื่อ และที่ตั้ง สม่ำเสมอ ติดตั้งระบบตรวจสอบไวรัส และปฏิเสธแอปฯ ที่พยายามจะเข้าถึงข้อมูล (antivirus) บนเครื่อง คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ส่วนตัว หรือโทรศัพท์เปลี่ยนพาสเวิร์ดเป็นประจำ ไม่ใช้ 5. อย่าใช้ไวไฟสาธารณะเมื่อต้องกรอกข้อมูล เครือข่ายสาธารณะ(Wi-Fi) ในกรณีที่ต้อง ส่วนตัว เช่น ออนไลน์ หรือธุรกรรมธนาคาร กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือการลงทะเบียนออนไลน์ หรือการลงทะเบียนในสื่อสังคมออนไลน์ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการด้านความเป็นส่วน 6. รู้เท่าทันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต ตัว ตลอดจน ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆและ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต และรู้เท่าทันภัยทางอินเทอร์เน็ตให้ เคารพในสิทธิ ของคนทุกคน รวมถึงมีวิจารณญาณในการรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลตนเองในสังคมดิจิทัล ต้อง รู้ว่าข้อมูลใดควรเผยแพร่ ข้อมูลใดไม่ควร เผยแพร่ สามารถจัดการความเสี่ยงของข้อมูล ของตนเองในสื่อสังคม ดิจิทัลได้ 2

3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4 (Critical Thinking) 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์(Critical Thinking) ตัวอย่าง มีวิจารณญาณที่ดีคือความสามารถของครูในการ เข้าถึง ใช้สร้างสรรค์ประเมิน สังเคราะห์และสื่อสาร ข่าวปลอม! ธ.กรุงไทย ให้ยืมเงินปิดหนี้ตาม ข้อมูลสารสนเทศผ่านเครื่องมือดิจิทัลอย่าง นโยบายรัฐ ดอกเบี้ยต่ำ ปลอดภัย เช่น เครื่อง คอมพิวเตอร์สมาร์ตโฟน แท็บเล็ตโปรแกรมและแอฟลิเคชั่นต่างๆ ที่นำมาใช้ ในการจัดการเรียนการสอน แนวทาง ในการจัดทำ สื่อการเรียนการสอนได้อย่างเชี่ยวชาญและเป็นมือ อาชีพ โดยครูต้องเป็นผู้มีทักษะในการคิดอย่างมี วิจารณญาณที่จำเป็นต่อการเลือก จัดประเภท วิเคราะห์ตีความ และเข้าใจข้อมูลข่าวสาร เป็นผู้มี ความรู้และ ทักษะในสภาพแวดล้อมดิจิทัล เป็นผู้มี ความรู้ดิจิทัลในการเป็นผู้ใช้ที่ดีเป็นผู้เข้าใจบริบท สภาพแวดล้อมสังคม ดิจิทัลที่ดีเป็นผู้สร้างเนื้อหา ทางดิจิทัลที่ดีและเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับข้อ การเสพสื่ออย่างสร้างสรรค์ บนโลกโซเซียล กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอาทิกฎหมาย ธุรกรรม มีทั้งข่าวจริงและข่าวปลอม บางครั้งยังไม่ ทางอิเล็กทรอนิกส์กฎหมายกระทำผิดเกี่ยวกับ สามารถแยกแยะได้มากนัก จึงขอแนะนำทุกท่าน คอมพิวเตอร์กฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ ให้รู้จักสังเกตข่าวด้วยตัวเองได้ เราต้องตั้ง สังคม กฎหมายระบบชำระเงิน กฎหมายข้อมูล คำถามเสมอที่จะไม่แชร์อะไรที่ไม่ตั้งคำถาม หรือ ข่าวสารของทางราชการ กฎหมายคุ้มครองข้อมูล คิดก่อนว่าสิ่งนี้เป็นจริงหรือไม่ ดังนี้ ส่วนบุคคล กฎหมาย ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 1. อย่าหลงเชื่อหัวข้อข่าว และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องปรามการ 2. พิจารณาลิงก์อย่างถี่ถ้วน ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร 3. ตรวจสอบแหล่งข่าว เครื่องหมายการค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์และสิ่ง 4. สังเกตสิ่งที่ผิดปกติ บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ 5. พิจารณารูปภาพ 6. ตรวจสอบวันที่ 7. ตรวจสอบหลักฐาน 8. เปรียบเทียบข่าวจากแหล่งอื่นๆ 9. ข่าวนั้นเป็นมุกตลกหรือไม่ 10. บางเรื่องก็จงใจสร้างขึ้นให้เป็นข่าวปลอม ใช้ วิจารณญาณในการอ่าน และแชร์เฉพาะข่าวที่ คุณแน่ใจว่าเชื่อถือได้เท่านั้น ตัวอย่าง - สามารถในการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่ผิด - รู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ สามารถวิเคราะห์และประเมิน ข้อมูลจากแหล่ง ข้อมูลที่หลากหลายได้ - เข้าใจรูปแบบการหลอกลวงต่าง ๆ ในโลกไซเบอร์ เช่น ข่าวปลอม เว็บปลอม ภาพตัดต่อ

4. ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์ 5 (Cybersecurity Management) 4. ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองใน ตัวอย่าง โลกไซเบอร์(Cybersecurity Management) คือ - รักษาความเป็นส่วนตัวและความลับ ความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของ - ป้องกันการขโมยข้อมูล ไปสวมรอยทำ ตนเองในโลกไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้เช่น การถูก ธุรกรรมออนไลน์ โจมตีขู่ทำร้าย หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายจากผู้ไม่ - รักษาป้องกันความเสียหายข้อมูลและ ประสงค์ดีการคุกคามทางเพศแบบออนไลน์การ อุปกรณ์ แอบอ้าง สวมรอย การหลอก ลวง ต้มตุ๋น โดยครูมี แนวทางในการรับมือ เช่น การบันทึกประวัติการใช้ งานทางการเงินเพื่อป้องกันการโจรกรรม ข้อมูล การเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อีเมล ที่อยู่ การไม่ส่งรูป หรือข้อมูลสำคัญลงบนอินเทอร์เน็ตถึงแม้ว่าจะ เป็นการ ส่งแบบส่วนตัวก็ตาม การหลีกเลี่ยงการใช้ เครือข่ายสาธารณะ (Wi-Fi) การไม่แชร์ทุกอย่าง บนโลกออนไลน์เพราะ อาจเป็นการแบ่งปันข้อมูลให้ กับผู้ไม่ประสงค์ดีได้การตรวจสอบประวัติการใช้งาน อินเทอร์เน็ตอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดตาม และการคุกคามด้วยโฆษณาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม การใช้ระบบความปลอดภัยในทุกอุปกรณ์ ที่เชื่อม ตัวอย่าง ต่อทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์มือถือ และแท็บเล็ต การกรอกข้อมูลส่วนตัวในเอกสารสมัครงาน เพราะทุกการเชื่อมต่อมีภัยแฝงอยู่เสมอ ในกรณีที่ หรือในแอปพลิเคชั่นต่างๆ ควรการเข้าใช้งาน สงสัยว่า ข้อมูลถูกนำไปใช้หรือสูญหายควรรีบแจ้ง ของบราวเซอร์มีความปลอดภัยหรือไม่ โดย ความและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที สังเกตหน้าเว็บโฆษณาต่างๆที่เด้งขึ้นมาทาง บราวเซอร์ ตัวอย่าง ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้น แต่ผลที่ตาม มาคืออันตรายจากอินเทอร์เน็ต เช่น อาจโดนขโมยข้อมูล หรืออุปกรณ์ที่ใช้งาน อาจติดไวรัสได้เป็นต้นเพราะฉะนั้นเราจึงควรทำความรู้จักกับ \"Firewall \" สิ่งที่ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต

5. ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ 6 (Screen Time Management) ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ (Screen Time ตัวอย่าง Management) คือ ความสามารถในการรู้จัก บริหารเวลาที่ใช้อุปกรณ์ยุคดิจิทัล รวมไปถึง ควบคุมตนเองและรู้จักแบ่งเวลาในการใช้งาน การควบคุมเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างโลก อุปกรณ์เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียได้อย่างมี ออนไลน์ และโลกภายนอก ตระหนักถึง ประสิทธิภาพ แนวทางในการจัดสรรเวลาหน้าจอคือ อันตรายจากการใช้เวลาหน้าจอนานเกินไป การ รู้จักการสร้างสมดุลระหว่างการใช้เวลาหน้าจอและ ทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และผลเสีย รู้จักจัดกิจกรรมที่ต้องทำในชีวิตประจำวันโดยไม่ ของการเสพติดสื่อดิจิทัล กระทบต่อสุขภาพตนเองและความสัมพันธ์กับคน รอบข้าง ไม่ใช้เวลาหน้าจอในห้องนอนหรือก่อน นอนเพราะอาจส่งผลกระทบกับการนอนหลับ ลด การพูดคุยผ่านสื่อโซเซียลลงบ้างโดยอาจใช้การพูด คุยทางโทรศัพท์แทนหรืออาจมีการนัดพบกันใน บางครั้ง กำหนดระยะเวลาในการใช้สื่อสังคม ออนไลน์ หากต้องสืบค้นข้อมูลอาจพิจารณาใช้สื่อ อื่นบ้างนอกจากออนไลน์เช่น การค้นคว้าในห้อง สมุด หรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญ กรณีที่จำเป็นต้อง ใช้หน้าจอเป็นระยะเวลานานควรหยุดพักผ่อนเป็น ตัวอย่าง ระยะและขยับร่างกายบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความ การติดโซเชี่ยลอย่างรุนแรง ผลกระทบที่ เหนื่อยล้าเพราะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มากเกินไป เกิดขึ้นตามมาก็คือการมีปฏิสัมพันธ์กับตน จนกลายเป็นเสพติดดิจิทัลจะก่อให้เกิดความเครียด รอบข้าง ทำให้ขาดมนุษยสัมพันธ์ ส่งผลต่อสุขภาพจิตเป็นสาเหตุก่อให้เกิดความเจ็บ วิธีการแก้ไข คือต้องมีการบริหารเวลาที่ใช้ ป่วยทางกายอันจะนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินเพื่อ อุปกรณ์ยุคดิจิตอล ความสามารถในการ ใช้ในการรักษาและเสียสุขภาพในระยะยาวจากการรู้ ควบคุมตัวเองและรู้จักแบ่งเวลาในการใช้ เท่าไม่ถึงการณ์ เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพตากับการใช้มือถือ จ้องจอนานๆอันตรายไหม ป้องกันอันตรายอย่างไร วิธีบริหารตาให้สุขภาพดี แสงสีฟ้ามีจริงไหม? ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

6. ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้ 7 บนโลกออนไลน์ (Digital Footprints) Digital Footprints คือ ร่องรอยแห่งโลก ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการ ดิจิทัล เปรียบเสมือนประวัติทางพฤติกรรม ทิ้งไว้บนโลกออนไลน์(DigitalFootprints) ทุก ที่ผู้ใช้งานกระทำในโลกอินเทอร์เน็ต ทั้งการ ครั้งที่เข้าสู่โลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นโซเชี่ยลมีเดีย พิมพ์ข้อความ การคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ กา เว็บไซต์หรือโปรแกรมสนทนาการลงทะเบียนเพื่อ รกดไลก์เพจ หรือการแชร์ข้อความทางโซเชีย ทำธุรกรรมต่างๆและการใช้งานเครือข่าย ลมีเดีย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะปรากฏเป็นร่องรอย สาธารณะ(Wi-Fi)ผู้ใช้มักทิ้งร่องรอยการเข้าใช้ ประวัติดิจิทัลที่ผู้อื่ นสามารถติดตามหรือนำ งานอยู่เสมอและต้องเข้าใจธรรมชาติของการใช้ ไปใช้งานต่อได้ ชีวิตในโลกออนไลน์รวมไปถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิด ตัวอย่าง ขึ้น แนวทางในการป้องกันตนเองของครูให้ Digital Footprint เช่น สเตตัส Facebook, ปลอดภัยจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ คือ การไม่ ข้อความใน Twitter, ภาพใน Instagram, ​ เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำรุนแรงลง การเช็คอินในสถานที่, บทความที่กดอ่าน, ข่าวที่ บนพื้นที่สาธารณะ การจำกัดการเผยแพร่ข้อมูล กดแชร์, คอมเมนต์ตามเว็บบอร์ด, การซื้อของ ส่วนตัวเพื่อป้องกันมิจฉาชีพสวมรอย การหลีก ออนไลน์ หรือประวัติที่กรอกตอนสมาชิกเว็บ เลี่ยงการโพสต์ทรัพย์สินที่มีค่ามีราคาบนพื้นที่ ต่าง ๆ กล่าวคือทุกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในโลก สาธารณะเพราะอาจตกเป็นเหยื่อของ ดิจิทัลนั่นเอง วิธีการแก้ไข การหลีกเลี่ยงการ อาชญากรรมทางออนไลน์ได้ การให้ความสำคัญ โพสต์ทรัพย์สินที่มีค่ามีราคาบนพื้นที่สาธารณะ และตระหนักอยู่เสมอว่าทุกการกระทำจะปรากฎ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทาง ร่องรอยในโลกออนไลน์ทั้งสิ้นอันจะเป็นผลให้เจ้า ออนไลน์ได้ หน้าที่ทางกฎหมายเฝ้าติดตามและระบุ ตัวตนของผู้ทำกิจกรรมได้ ตัวอย่าง เมื่อเวลาเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ จะมีประวัติการค้นหาที่ถูกบันทึกไว้โดยโปรแกรมค้นหานั้น เช่น IP Address หรือรหัสประจำตัวคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นประวัติดิจิทัลที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ เป็นข้อมูล ที่ไม่มีเจตนาบันทึก วิธีแก้ไข ควรจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันมิจฉาชีพสวมรอย มาทำความรู้จัก Digital Footprint กันเถอะ

7. ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ 8 (Cyberbullying Management) ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์(Cyberbullying Management)คือการให้ร้าย ต่อว่า ด่าทอ เสียดสีหยาบคาย หรือรังแกผู้อื่นของสื่อสังคมออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ฯลฯ แนวทางในการรับมือของครูกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์คือ การประเมินการใช้ งานโซเชียลมีเดียของตนเองและปรับเวลาการใช้งานให้เหมาะสม การไม่ตอบสนองข้อความกลั่นแกล้ง การไม่เอาคืน และการเก็บหลักฐานเพื่อบังคับใช้ทางกฎหมายกับผู้ที่กลั่นแกล้ง รวมทั้งรู้จักวิธีการ รายงานความรุนแรงและการส่งข้อมูลความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโซเชี่ยลมีเดียเพื่อให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการรู้จักวิธีการตัดช่องทางเช่น วิธีการลบ วิธีการยกเลิก และวิธีการบล็อคทุกช่องทางเชื่อมต่อ กรมสุขภาพจิต ระบุว่า การระรานทางไซเบอร์ (Cyberbullying) หมายถึง การกลั่นแกล้ง การ ให้ร้าย การต่อว่า หรือการรังแกผู้อื่นทางสื่อ สังคมโซเชียลต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โดย สาเหตุอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากการแกล้งกันเล็กๆ น้อยๆ แล้วบานปลายไปด้วยความไม่ตั้งใจ หรือ เกิดจากความขัดแย้ง ความเกลียดชัง ทั้งที่มี เหตุผลและไม่มีเหตุผล แล้วใช้พื้นที่ในโลก ออนไลน์โจมตีกัน ทั้งหมดนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหา สุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล เป็นต้น ตัวอย่าง นางงามท่านหนึ่ง เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ เหมาะสมคว้ามงกุฎ แต่นางงามดังกล่าว เลือก ที่จะไม่ตอบโต้เสียงวิจารณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นวิธี การรับมือที่ดี คือ การมีสติและเห็นคุณค่าใน ตนเอง ตัวอย่าง สถานการณ์ Cyberbullyingy ตัวอย่าง ปัญหาการระรานในโรงเรียนปัจจุบันนี้สูงถึงร้อยละ 40 ติดอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Cyberbullying ซึ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทำร้ายจิตใจและอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของ เหยื่อ ที่แย่คือคนทำสามารถปกปิดตัวตนบนโลกออนไลน์ ทำให้ไม่รู้ว่าจะจัดการแก้ปัญหากับใครได้ อย่างไร เนื้อหาที่โดนระราน กลั่นแกล้ง รังแก ไม่ว่าจะเป็น การดูถูกเหยียดหยาม ทำให้กลายเป็นตัวตลก เสียชื่อเสียง คอยจับผิด แฉ ประจาน ทำให้อับอาย จนถึงขั้นใส่ร้ายป้ายสี จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว บนโลกออนไลน์ มีคนมาช่วยแชร์ มาเขียนคอมเมนต์ในด้านลบ กลายเป็นวงจรการระรานทางไซเบอร์ที่ ทำร้ายเหยื่อไม่สิ้นสุด วิธีแก้ไข หยุดระรานกลับด้วยวิธีการเดียวกัน หยุดตอบโต้ เพื่อไม่ให้เกิดการ กระทำซ้ำหรือเพิ่มความรุนแรงของเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น

9 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม (Digital Empathy) ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ความสามารถในการเห็นอกเห็นใจและสร้าง (DigitalEmpathy)ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ และอุปกรณ์ที่ทันสมัยรวมถึงอินเทอร์เน็ตที่มี พลเมืองดิจิทัลที่ดีจะต้องรู้ถึงคุณค่าและ ความเร็วสูงขึ้นทำให้การแชท และการแชร์ข้อมูล จริยธรรมจากการใช้เทคโนโลยี ต้องตระหนัก ทำได้ง่ายและรวดเร็วผู้คนจึงมักเปิดเผยเรื่องราว ถึงผลพวงทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และ ของตนเองตลอดเวลาทั้งการโพสต์ข้อความและ วัฒนธรรม ที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต กา ความคิดเห็น การแชร์ภาพ หรือคลิปวีดีโอผ่านสื่อโซ รกดไลก์ กดแชร์ ข้อมูล ข่าวสาร ออนไลน์ รวม เชี่ยลมีเดียต่างๆ ทำให้ความเป็นส่วนตัวจึงไม่เป็น ถึงรู้จักสิทธิและความรับผิดชอบออนไลน์ ส่วนตัวอีกต่อไปในสังคมออนไลน์ในขณะที่ข้อมูล เหล่านั้นยังมีความสำคัญเสมอ หากมีผู้ไม่ประสงค์ดี คอยติดตามข้อมูลข่าวสารของบุคคลนั้นก็จะรับรู้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ไม่ยากและอาจนำมาซึ่ง อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แนวทางในการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีจริยธรรมของครู คือ การ โพสต์ข้อความหรือแชร์สิ่งใดต้องคำนึงถึงความ ปลอดภัยไว้เป็นหลัก คำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำ โดยตระหนักอยู่เสมอว่าข้อมูลที่นำเสนอนั้นเป็น ข้อมูลที่มีการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้อง แล้ว มีความแม่นยำและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ตัวอย่าง มีความเห็นอกเห็นใจและสร้าง โดยไม่กระทบกับผู้ใช้งาน สามารถตรวจสอบแหล่ง สัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่ นบนโลกออนไลน์ ที่มาของข้อมูลได้โดยง่ายไม่ลอกเลียนแบบ ปลอม - เมื่อเกิด เหตุการไฟป่าที่ออสเตรเลีย สื่อ แปลง ทำซ้ำหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ควรกำหนด สังคมออนไลน์ก็เป็นหนึ่งช่องทางที่สำคัญใน สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและเก็บรักษาสิทธิของการ การระดมความช่วยเหลือจากคนทั้งโลก ทั้งใน เข้าถึงข้อมูลนั้นไว้กับตนเองอย่างปลอดภัย ไม่ควร เรื่องของเงินบริจาค สิ่งของ วิทยาการ หรือ ลักลอบเข้าไปใช้ข้อมูลของคนอื่ นโดยไม่ได้รับ แม้แต่กำลังคนจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อช่วยให้ อนุญาต สามารถผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆไปได้ ด้วยดี - น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี เราก็จะได้เห็นการ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์​จนเกิด ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยกันบริจาคเงินได้เป็น จำนวนนับร้อยๆล้านบาท นี่ก็คือหนึงใน ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ใช้ เพื่อให้เกิดสาธารณประโยชน์กับคนใสสังคม ตัวอย่าง ต้องพึงระวังในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือกับผู้คนที่ได้รับความ เดือดร้อนผ่านโลกออนไลน์ เพราะมักจะมีมิจฉาชีพแอบแฝงมาหาผลประโยชน์กับ ความมีน้ำใจของคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเห็นข่าวสารต่างๆที่มีคนร้องขอ ความช่วยเหลือบนโลกออนไลน์​ก็ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนว่าเป็น เรื่องจริง หรือเป็นเรื่องของมิจฉาชีพที่มาหลอกลวง เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ของมิจฉาชีพในทุกๆกรณี

10 บทสรุป สมาชิกของโลกออนไลน์ คือ ทุกคนที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนโลกใบนี้ผู้ใช้สื่อ สังคมออนไลน์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ อายุ ภาษา และวัฒนธรรม พลเมือง ดิจิทัลจึงต้องเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม เห็นอกเห็นใจและเคารพผู้ อื่น มีส่วนร่วม และมุ่งเน้นความเป็นธรรมในสังคม การเป็นพลเมืองในยุคดิจิทัลนั้น มี ทักษะที่สำคัญ 8 ประความเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) เป็นการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบและปลอดภัย ตระหนักถึงความ เสี่ยงและสามารถรับมือกับผลกระทบจากภัยออนไลน์ รวมถึงมีทักษะ ความรู้ในเชิง เทคโนโลยีและการคิดขั้นสูง ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่กับ พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป อันมีผลเนื่องมาจากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี การเป็น พลเมืองที่มีความสามารถในการใช้อินเทอร์เน็ตในการ บริหารจัดการ ควบคุม กำกับตน รู้ผิดรู้ถูก และรู้เท่าทัน เป็นบรรทัดฐานในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง เหมาะสม มี ความรับผิดชอบ เรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และปลอดภัย พลเมือง ดิจิทัลจึงต้อง ตระหนักถึงโอกาสและความเสี่ยงในโลกดิจิทัล เข้าใจถึงสิทธิและความรับ ผิดชอบในโลกออนไลน์

ประวัติผู้จัดทำ นางสาวปราณปรียา จูเจ้ย ชื่อเล่น ป่าน ปปปรรริญะะกวัตญาิศกานาตีรยรศีบึั:กตบษัรญาบัชณีบัฑณิตฑิ:ตปรมะหกาาวศิทนยียาบลััตยรบูบรัณพาฑิต วิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตำแหน่งงานปัจจุบัน : ครูพิเศษสอนแผนกวิชาการ บัญชี วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี ช่องทางการติดต่อ 90/46 ม.8 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150 EMAIL : [email protected]

บรรณานุกรม มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน (สสย) (2563). ความฉลาดทางดิจิทัล. พิมพ์ครั้งที่3. --------ปทุมธานี: บริษัทวอร์ค ออน คลาวด์ จำกัด ราณี จีนสุทธิ์และคณะ. 2564. แนวทางการพัฒนาครูวิถีใหม่ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล. คุรุ --------สภาวิทยาจารย์, 2 (2) ,16 โรจน์สารรัตนะ. (2556). กระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา: กรณีทัศนะต่อการศึกษา --------ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: ทิพยวิสุทธิ

Digital Citizenship


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook