กฎหมายอาญา2 (0801221) : ภาคความผดิ ลกั ษณะ11 ความผดิ เกี่ยวกับเสรีภาพและช่อื เสียง หมวด3 : ความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท นางสาว ฟารฮ์ านา ยา รหัสนิสติ 631081217 คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ทักษณิ วทิ ยาเขตสงขลา
คานา สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์เล่มนเ้ี ป็นส่วนหน่ึงของวิชากฎหมายอาญา 2 ภาคความผดิ มเี นื้อหาสาระเกีย่ วกับกฎหมายอาญา ภาคความผิด ลักษณะ11 ความผิดเกี่ยวกบั เสรภี าพและชือ่ เสยี ง หมวด3 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมาย อาญา ภาค2 ซึ่งจดั ทาเพื่อมุ่งจะอธบิ ายหลกั เกณฑ์ของกฎหมาย และทฤษฎีทางกฎหมายให้ลกึ ซง้ึ และชัดเจน โดยอา้ งอิงจาก บทบัญญัติแหง่ กฎหมาย คาพพิ ากษาฎกี า เพื่อให้สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ช้ินนี้มลี กั ษณะสมบูรณ์ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างย่ิงว่าสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ชิ้นน้ีจะอานวยประโยชนแ์ ก่ผู้ที่สนใจจะศกึ ษา หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ นางสาวฟารฮ์ านา ยา นสิ ิตคณะนติ ิศาสตร์ ช้ันปีท่2ี มหาวิทยาลัยทักษณิ
สารบญั หนา้ เร่อื ง 1 1-3 การหม่ินประมาททางอาญาในกฎหมายไทย 4 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาท 5-6 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทผูต้ าย 7-9 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 10-11 การหมิน่ ประมาททีม่ ีอานาจกระทาได้ 12 หม่นิ ประมาทที่เป็นเหตุยกเว้นโทษ 13 เหตยุ กเว้นความผิดฐานหม่นิ ประมาท 14 มาตรการบังคับทางกฎหมาย 15 พระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทาความผดิ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ 16-17 การคุม้ ครองทางกระบวนการจากการฟ้องดาเนนิ คดีทางอาญาโดยไม่สุจรติ หรือไมม่ ีมูล 18 แนวโน้มในการดาเนินคดีหมิ่นประมาททางอาญาในประเทศไทย 19-20 พ.ร.บ.คอมฯ ยงั คงถกู ใช้เพือ่ ระงบั การวพิ ากษ์วจิ ารณ์ สรปุ
การหมน่ิ ประมาททางอาญาในกฎหมายไทย ประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทยมกี ารบรรจุความผิดฐานหมิ่นประมาทเอาไว้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ. คอมฯ) พ.ศ.2560 กบ็ รรจบุ ทบญั ญัติท่ีกาหนดความผดิ ในการนาเข้า \"ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ทเี่ ป็นเท็จ\" ซง่ึ อาจสรา้ งความเสียหายต่อบคุ คลที่สามเช่นเดียวกัน กฎหมายทั้งสองฉบับยังมโี ทษจาคกุ สาหรบั ฐานความผดิ ดังกล่าวอกี ด้วย นอกจากโทษทางอาญาแล้ว มาตรา 423 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ยงั ระบุถึงการจา่ ยคา่ สินไหมทดแทนตอ่ ความเสียหายจากการหม่ินประมาท รฐั บาลไทยได้มกี ารประกาศใช้มาตรการเพื่อปอ้ งกนั การฟอ้ งคดหี มนิ่ ประมาทเลือ่ นลอย เช่น การบัญญตั ิขอ้ กฎหมายเกี่ยวกับการห้ามฟอ้ งคดอี ย่าง \"ไม่สจุ ริต\" ในประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา อยา่ งไรกต็ าม การดาเนินการต่างๆโดยรัฐไทยเหลา่ น้กี ็ยงั ไม่สามารถป้องกนั การใชค้ วามผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวล กฎหมายอาญาและพ.ร.บ.คอมฯ ในทางท่ีละเมิดสทิ ธิในเสรีภาพในการแสดงออกได้ ความผิดเกยี่ วกับชือ่ เสียงนนั้ เปน็ ความผิดที่กฎหมายอาญามงุ่ ประสงค์จะให้ความคุ้มครองชือ่ เสียงของบุคคลไมใ่ ห้ใคร มาทาให้เสียหาย เพราะชื่อเสยี งถือเปน็ เกียรติยศท่ไี ด้รับการยอมรบั จากคนในสงั คม หากปลอ่ ยให้ผู้ใดผู้หนงึ่ มากระทาการใส่ ความหมายมาดูหม่ินกจ็ ะนามาซึ่งความไมพ่ อใจและโกรธแคน้ ของผเู้ สียหายอันจะนามาซง่ึ ความไมป่ กติสุขของสงั คม ดังนนั้ จงึ ตอ้ งกาหนดใหก้ ารกระทาให้บุคคลอื่นเสียชื่อเสยี งนน้ั มคี วามผิดและโทษทางอาญา เพือ่ ทจ่ี ะไดเ้ ป็นการยับยั้งไมใ่ หม้ กี ารกระทา ให้ผู้อื่นเสยี ชือ่ เสียงเกดิ ขนึ้ ความผิดเกี่ยวกบั ชื่อเสียงนเ้ี ป็นความผดิ ทีเ่ กดิ ข้นึ ได้งา่ ย และเป็นความผดิ ท่ีกฎหมายกาหนด (mala prohibita) และไม่ได้ก่อให้เกดิ ภยนั ตรายต่อสังคมโดยรวมกฎหมายจึงกาหนดใหค้ วามผดิ ในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมได้ มาตรา 326 - 333 ของประมวลกฎหมายอาญา หมวดเกี่ยวกับความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาทในประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทยประกอบด้วยมาตรา 326 – 333 และมี 3 มาตราที่มีการกาหนดความผดิ สาหรับการหมนิ่ ประมาท อันได้แก่ มาตรา 326 327 และ 328 ความผดิ ฐานหม่นิ ประมาท มาตรา 326 ของประมวลกฎหมายอาญาเอาผดิ การ \"ใสค่ วามผ้อู ื่นตอ่ บุดคลท่ีสาม โดยประการที่นา่ จะทาให้ผอู้ ืน่ นน้ั เสียชื่อเสยี ง ถกู ดูหมิ่น หรือถกู เกลียดชัง\" บทลงโทษหากพบว่ามีดวามผิด ไดแ้ ก่ จาคุกไมเ่ กิน 1 ปี หรือปรบั ไม่เกิน 20,000 บาท หรือท้ังจาท้ังปรบั องค์ประกอบของความผดิ 1) “ผอู้ นื่ ” คือผู้ถกู หมิ่นประมาท ต้องระบรุ ู้ได้แน่นอนวา่ เป็นใคร แต่อย่าไปคดิ ว่า ถ้าไมร่ ะบุชือ่ ตรงๆ ก็จะรอดพน้ ขอ้ หาน้ี เพราะเป็นธรรมดาของผกู้ ระทาผิด ที่มกั จะใช้คาอื่น ฉายา ชือ่ เรยี ก ฯลฯ เพื่อปอ้ งกันตัวเองจากการถกู ฟ้อง 2) “ใสค่ วามผูอ้ ่นื ตอ่ บคุ คลที่สาม ” คือ ใสค่ วามโดยแสดงขอ้ ความให้ปรากฎด้วยวธิ ีใดๆก็ได้ เช่น พดู เขียน วาด หรือ ด้วยทากรยิ าท่าทางฯก็ถือเป็นการใสค่ วามแล้ว การเอาความไปใส่เขา ซงึ่ อาจเท็จหรือจรงิ กไ็ ด้ ไม่ใช่จรงิ ไม่ผิด เท็จจึงผดิ หลกั ศาลจึงว่า “ยิ่งจรงิ ยิ่งผิด” ทาให้เสียชื่อเสียงซ่งึ เปน็ การกระทาความผดิ ฐานหมิ่นประมาท ขอ้ เท็จจรงิ ท่จี ะเป็นหมิ่น ประมาทได้นัน้ ต้องไมใ่ ช่ข้อเทจ็ จริงที่เป็นเพียงคาหยาบหรือข้อเทจ็ จริงท่เี ปน็ ไปไมไ่ ด้ เช่น นาย ก กลา่ วว่า “โจทก์เปน็ ผีปอบ
เป็นชาติหมา” ความรู้สึกนึกคิดของคนธรรมดาไมเ่ ชื่อว่าเปน็ เช่นนน้ั จงึ ไม่ทาให้ถกู ดูหม่ินหรือถกู เกลียดชังแต่อย่างใด เปน็ เพียง คาหยาบคายเท่าน้นั (จะตอ้ งเอาความรู้สกึ นกึ คิดของคนธรรมดามาเปรียบเทียบ) ***การใส่ความจะตอ้ งเป็นการใสค่ วามต่อบุคคลที่สามด้วย ดังน้นั บุคคลท่สี ามจงึ มีความสาคัญ ความผิดจะสาเร็จตอ่ เมือ่ บคุ คล ที่สามได้รับทราบข้อความและเข้าใจขอ้ ความหม่ินประมาทน้ัน ถา้ ไม่มบี ุคคลทีส่ ามจะไมเ่ ป็นความผดิ ฐานหม่ินประมาท ถา้ มี บคุ คลท่ีสามแต่บุคคลที่สามไม่เข้าใจข้อความ เช่น เป็นคนหูหนวก หรือเปน็ ชาวตา่ งชาติไมเ่ ข้าใจภาษาไทย จะเป็นความผิดฐานพยายามหม่นิ ประมาท 3) “โดยประการทนี่ า่ จะทาใหผ้ ถู้ กู ใสค่ วามเสียชอ่ื เสยี ง ถกู ดหู มนิ่ ถกู เกลยี ดชัง” คือในการพิจารณาว่าน่าจะทาให้ผ้อู ืน่ เสยี ชือ่ เสียง ถูกดูหม่ิน หรือถกู เกลยี ดชังหรือไม่ จะพจิ ารณาตามความรู้ความเข้าใจของวญิ ญูชนท่ัวไป ถ้าวญิ ญูชนทั่วไปเหน็ ว่า “นา่ จะทาให้ผ้อู ื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหม่ิน หรือถกู เกลียดชัง” และแม้ผูก้ ระทาจะไมร่ ้วู ่านา่ จะทาให้ผูอ้ ื่นเสียชื่อเสียง ถกู ดูหม่ิน หรือถกู เกลียดชัง ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ดงั นั้น เพียงแค่ “นา่ จะ” ทาให้ผอู้ ื่นเสียชื่อเสียง ถกู ดหู มนิ่ หรือถูกเกลียดชงั ยงั ไม่มีความเสียหาย เกดิ ขึ้นจริงกถ็ ือว่ามีความผิด ฐานหม่นิ ประมาทแล้ว 4) “ผู้กระทาต้องมีเจตนา” คือ เจตนาทจี่ ะใส่ความ หรือเจตนาแสดงขอ้ เท็จจรงิ อย่างใดอย่างหนง่ึ พาดพงิ ไปถึงผู้อื่นตอ่ บคุ คลท่ีสาม ตวั อย่าง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นฯ บางคนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถกู จับตัว ทัง้ ทีไ่ ม่ใช่ชือ่ -สกลุ จรงิ เพราะตารวจ ตดิ ตามไดจ้ ากบันทึกข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ ( logfile) ของระบบ ถกู ด่ามา จงึ โกรธและด่ากลับไปด้วยขอ้ ความหมนิ่ ฯ ไม่ใช่ ข้อแก้ตัว ยังถือเป็นการหมนิ่ ฯ เพียงอาจอ้างเหตุบนั ดาลโทสะ ขอบรรเทาโทษ ใครดา่ ใครก่อน จึงไม่ใช่ขอ้ สาคัญในสายตาของ กฎหมาย หลักคือ ใครเจตนาใสค่ วาม (หมิ่นฯ) ถ้าหม่นิ ฯทั้งคู่ ก็ผิดทั้งคู่ ทง้ั นี้ หากเป็นกรณีแสดงความคิดเหน็ โดยสจุ ริตได้แก่ (1) การแสดงความคดิ เห็นหรือข้อความใด เพือ่ ความถกู ต้องหรือเพื่อป้องกันชือ่ เสียงหรือประโยชน์ของตนไมใ่ หถ้ กู ดูหม่นิ หรือ ถูกเกลียดชงั จากการกระทาของผอู้ ื่น (2) กระทาในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบตั งิ านตามหนา้ ที่ เชน่ พนักงานสอบสวนสรุปสานวนเสนอพนักงานอัยการซงึ่ ข้อความ ในสานวนการสอบสวนมขี ้อความหมน่ิ ประมาท (3) พูดตชิ มอันเป็นวิสัยของประชาชนท่ัวไปที่สามารถกระทาได้ เช่น เรื่องกจิ การบา้ นเมือง กจิ การสาธารณะหรือพฤติการณ์ ของเจ้าหน้าท่ีบา้ นเมือง (4) การแสดงความคิดเห็นที่เป็นการแจง้ ข่าวเก่ียวกับการดาเนนิ การอันเปิดเผยในศาล เชน่ การประกาศรายชื่อบคุ คล ล้มละลาย หรือการแสดงความคิดเห็น ในการประชุมที่เปดิ เผยไมใ่ ช่การประชมุ ลับ เชน่ การอภปิ รายในสภา เป็นตน้ ผกู้ ระทา จะไม่มคี วามผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท ตามมาตรา 329 **ข้อยกเว้นความผดิ หม่ินฯ คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และข้อยกเว้นโทษคือ มาตรา 330
คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่เกีย่ วข้อง คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 3920/2562 ข้อความท่ีจาเลยกล่าวจะเปน็ ความผิดฐานหม่ินประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาถงึ ความรสู้ กึ ของวิญญูชนท่ัวๆไป เป็น เกณฑ์ในการพจิ ารณาว่าข้อความท่กี ลา่ วถึงนน้ั ถึงข้นั ท่ีทาให้ผู้ถกู หมิ่นประมาทซึง่ เปน็ ทนายความน่าจะเสยี ชื่อเสียง บคุ คลอื่นดู หมน่ิ เกลียดชังหรือไม่ มิใชพ่ ิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝา่ ยเดยี ว ถ้อยคาที่จาเลยกลา่ วว่า \"เอาทนาย เฮงซวยท่ีไหนมา สถุล\" นน้ั พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ให้ความหมายของคาว่า \"เฮงซวย\" ว่า เอาแน่นอน อะไรไมไ่ ด้ คณุ ภาพตา่ ไมด่ ี เชน่ คนเฮงซวย ของเฮงซวย เรื่องเฮงซวย ส่วนคาวา่ \"สถุล\" ใหค้ วามหมายว่า หยาบ ต่าช้า เลว ทราม (ใช้เปน็ คาดา่ ) เช่น เลวสถุล เช่นนี้ แม้ถ้อยคาท่จี าเลยดา่ โดยการกลา่ วว่าทนายเฮงซวย เป็นเพียงการดูถูกเหยียดหยาม และสบประมาทโจทก์ อันเปน็ การพดู ดหู มน่ิ เหยียดหยามให้อับอายเจ็บใจ แตย่ ังไมเ่ ป็นการใสค่ วามให้เสียชื่อเสียง ถกู ดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังก็ตาม แต่เมือ่ ฟังประกอบกับถ้อยคาตอนท้ายว่า \"สถุล\" แล้ว วิญญูชนทั่วไปจงึ อาจเขา้ ใจว่า โจทกซ์ ่ึงเปน็ ทนายความเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ คณุ ภาพต่า ไม่ดแี ละเป็นไปในทางหยาบ ต่าชา้ เลวทราม ถอ้ ยคาดงั กลา่ วจึงอาจทาให้โจทก์ เสยี ชือ่ เสยี ง ถกู ดูหมิ่นหรือถกู เกลียดชัง อันอาจเป็นความผิดฐานหม่นิ ประมาทได้ คาพิพากษาศาลฎกี าท่ี 6593/2559 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 326 ไม่ใช่ความผิดท่ีมีผลเกิดข้ึนตา่ งหากจากการกระทา เมือ่ จาเลยพูด ให้สัมภาษณ์นกั ข่าว การกระทาของจาเลยท่ีโจทกก์ ล่าวอ้างว่าเปน็ ความผิดย่อมสาเรจ็ เมือ่ นักข่าวซ่ึงเป็นบุคคลท่ีสามทราบ ขอ้ ความแล้ว โดยคนท่ีถกู หม่ินประมาทไมต่ อ้ งร้วู ่าตนเองถูกหม่ินประมาท สาหรบั ขอ้ ที่วา่ โดยประการที่น่าจะทาให้ผูเ้ สียหาย เสยี ชือ่ เสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังน้นั เป็นพฤติการณ์ประกอบการกระทา ไม่ใช่ผลของการกระทา จงึ ไมต่ ้องด้วย ป.อ. มาตรา 5 วรรคแรก เมือ่ โจทก์กล่าวอ้างว่าจาเลยกระทาความผดิ ฐานหมิน่ ประมาทนอกราชอาณาจกั รและไมใ่ ชก่ รณีกระทา ความผิดที่ประมวลกฎหมายอาญาถือว่าไดก้ ระทาในราชอาณาจกั ร ผู้กระทาความผิดจึงไม่ตอ้ งรบั โทษในราชอาณาจกั ร คาพิพากษาศาลฎกี าท่ี 21627/2556 จาเลยเป็นผูพ้ ิมพ์หนังสือรอ้ งเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เรือ่ งอุทธรณ์คาสั่งบรรจแุ ต่งตัง้ ผู้ผ่านการสอบ คัดเลือกเขา้ ทางาน แมข้ ้อความโดยรวมเป็นการกล่าวหาผเู้ สียหายซึง่ ดารงตาแหนง่ นายกเทศมนตรเี ทศบาลตาบลบ้านโตนด และเป็นผู้บริหารสูงสุดของเทศบาลตาบลบ้านโตนดว่ารับสมัครบคุ คลเพือ่ คัดเลือกเป็นพนักงานเทศบาลไม่โปร่งใส เปน็ การใช้ อานาจหนา้ ที่ในทางมิชอบแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นซงึ่ ไมเ่ ปน็ ความจริง อันเป็นการใสค่ วามผูเ้ สียหายก็ตาม แต่ ไม่ปรากฏวา่ จาเลยได้กระทาต่อบุคคลท่ีสาม กลับได้ความเพียงวา่ ก. ซ่ึงเป็นเจ้าหน้าท่ีของเทศบาลตาบลบ้านโตนดไปพบ หนังสือร้องเรยี นดังกลา่ วท่ีหน้าคอมพิวเตอรห์ ้องงานคลังด้วยตนเอง โดยจาเลยมไิ ด้นาออกมาแสดงตอ่ ก. เพือ่ ให้ทราบ ข้อความในเอกสารนัน้ ส่วน ศ. พนักงานขับรถของผู้เสียหายก็เพยี งแต่สงสัยว่าจาเลยจะเป็นผพู้ ิมพ์หนังสือรอ้ งเรยี นดังกลา่ ว เท่านั้น ทง้ั จาเลยยังไมไ่ ด้ส่งเอกสารดงั กลา่ วไปให้ผู้ว่าราชการจังหวดั สุโขทยั ทราบ การกระทาของจาเลยจงึ ยังไม่ครบ องคป์ ระกอบความผิดฐานหมน่ิ ประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
ความผิดฐานหมน่ิ ประมาทคนตาย มาตรา 327 เอาผดิ การใส่ความผู้ตาย ซ่ึง \"น่าจะเป็นเหตุ ใหบ้ ิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผูต้ ายเสยี ชื่อเสียง\" และมีบทลงโทษเช่นเดียวกับมาตรา 326 องคป์ ระกอบของความผดิ 1) ใส่ความ 2) ผ้ตู าย 3) ตอ่ บคุ คลท่ีสาม 4) การใส่ความนั้น น่าจะเป็นเหตุให้ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบตุ รของผ้ตู ายเสียชื่อเสียง ถกู ดหู มน่ิ หรือถกู เกลียดชัง 5) เป็นการกระทาโดยเจตนา ***ความผิดในมาตรานี้ เป็นความผดิ ที่ผู้ทถี่ ูกหมนิ่ ประมาทตายไปแลว้ (ตายกอ่ นจะถูกหม่ินประมาท) แต่การหมิน่ ประมาทคนที่ตายไปแลว้ น้ันทาใหค้ นท่ยี ังมชี ีวติ อยู่เสยี ช่อื เสียง ถูกดูหม่ินหรือถกู เกลียดชงั เชน่ กล่าวว่า 'ผตู้ ายขโ้ี กง โกงเคา้ มาจนมีทรัพย์สินมากมายตกถึงลกู ถึงหลาน 'หรือคากลา่ วที่ว่า ' ผตู้ ายมีกรรมพนั ธ์ุ ที่โกงทั้งโคตร ' ข้อความดังกล่าวน้ันย่อมทาใหค้ นที่ยงั มชี ีวิตอยูเ่ สียหายไปด้วย การกระทานน้ั ย่อมเป็นความตามมาตรา327 คาพพิ ากษาศาลฎกี าทเ่ี กีย่ วข้อง คาพพิ ากษาฎกี าที่ 6031/2531 จาเลยที่1 เขยี นบทความลงในหนังสือพมิ พ์มีขอ้ ความวา่ \"พรรคไหนเอ่ยทีค่ นในพรรคพวั พนั กับการค้าเฮโรอนี ระหว่างประเทศ จนตอ้ งแก้ปญั หาด้วยการปลดิ ชพี ตวั เองลาโลก...\" ขอ้ ความดังกล่าวทาให้ผอู้ า่ นเขา้ ใจว่าหมายความถึงพรรค ป. และ ด. สามโี จทก์ ดังนี้จาเลยที่1 มีเจตนาใส่ความผตู้ ายโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร อันนา่ จะเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นภรรยา ของผูต้ ายและบุตรของผ้ตู ายเสียชื่อเสยี ง ถูกดูหม่นิ หรือถกู เกลียดชังจากผอู้ ืน่ ได้ มิใชเ่ ป็นการแสดงความคดิ เหน็ หรือขอ้ ความ โดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม จาเลยท่ี1 จึงมคี วามผิดฐานหม่ินประมาทผุ้ตาย ตามมาตรา327 ประกอบด้วยมาตรา328 เพิ่มเติม มาตรา 423 ของประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยร์ ะบวุ า่ \"ผใู้ ดกล่าวหรือไขขา่ วแพร่หลายซ่ึงขอ้ ความอนั ฝ่าฝื นตอ่ ความจริง เป็นที่เสียหายแกช่ ่ือเสีย หรือเกียรติคณุ ของบคุ คลอื่นก็ดี หรือเป็นท่ีเสียหายแกท่ างทามาหาไดห้ รือทางเจริญของเขาโดยประการอ่ืนกด็ ี ท่านวา่ ผนู้ ้นั จะตอ้ งใช้ค่าสินไหมทดแทนใหแ้ ก่เขาเพอ่ื ความเสียหายอยา่ งใด ๆ อันเกิดแตก่ ารน้ัน แมท้ ้งั เม่ือตนมิได้รูว้ ่าขอ้ ความน้ันไมจ่ ริง แต่หากควรจะรูไ้ ด้ ผใู้ ดส่งข่าวสารอนั ตนมิไดร้ ู้ว่าเป็นความไมจ่ ริง หากว่าตนเองหรือผรู้ ับข่าวสารน้นั มีทางไดเ้ สียโดยชอบในการน้นั ดว้ ยแลว้ ท่านว่าเพียงท่ีส่งข่าวสารเช่นน้นั หาทาใหผ้ นู้ ้นั ตอ้ งรบั ผดิ ใชค้ ่าสินไหมทดแทนไม่\"
ความผิดฐานหมิน่ ประมาทโดยการโฆษณา มาตรา 328 ถา้ ความผิดฐานหมน่ิ ประมาทได้กระทาโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรท่ี ทาให้ปรากฏด้วยวธิ ีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิง่ บันทึกเสียง บันทกึ ภาพ หรือบันทึกอักษร กระทาโดยการ กระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทาการป่าวประกาศด้วยวธิ อี ืน่ ผู้กระทาตอ้ งระวางโทษ จาคกุ ไมเ่ กินสองปี และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท องคป์ ระกอบความผิด 1)กระทาความผดิ ฐานหม่ินประมาท 2)โดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทาให้ปรากฏด้วยวธิ ีใด ๆ แผน่ เสียง หรือส่ิงบนั ทึกเสยี ง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทาโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทาการป่าว ประกาศด้วยวธิ ีอืน่ ข้อพจิ ารณา - ตอ้ งรบั โทษหนักข้ึน เพราะเปน็ การเผยแพรไ่ ปสู่สาธารณชน (Public) - ไม่จากัดบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใด ตวั อย่าง นาย ส. จาเลยไดพ้ มิ พใ์ บปลิวโฆษณามขี อ้ ความว่า \"นาย ง. (โจทก)์ ทาการคา้ ในสหกรณส์ มยั นาย ฉ. เป็นผจู้ ัดการ รับนมและ บุหรไ่ี ปขายแล้วไม่นาเงินมาให้ร้านสหกรณ์ 20,383 บาท และจ่ายเชค็ ไม่มีเงินให้ 13,878.85 บาท ผม(จาเลย) เข้าไปรับงาน ผู้จัดการทีหลัง รือ้ เรื่องขึ้นมาฟอ้ งร้องดาเนินคดี เรียกเงินให้ร้านสหกรณ์สาเร็จ ขณะนี้นาย ง. โจทก์ยังคงผอ่ นชาระให้รา้ น สหกรณ์ตามคาส่ังศาลอย\"ู่ แมค้ วามจริงจะเป็นดังจาเลยโฆษณา แต่โจทก์และจาเลยตา่ งเคยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชกิ สหกรณเ์ ทศบาลด้วยกัน สอ่ ให้เห็นเจตนาของจาเลยไดด้ ีวา่ ต้องการใส่ความโจทก์ หาใชเ่ ป็นการแสดงความคดิ เหน็ โดยสุจรติ ไม่ การกระทาของจาเลยเปน็ ความผิดฐานหม่ินประมาทด้วยการโฆษณา ตามมาตรา328 คาพพิ ากษาศาลฎกี าทีเ่ กย่ี วขอ้ ง. คาพิพากษาศาลฎกี าท่ี 1101/2530 การทจ่ี าเลยทาหนังสือส่งไปยังประธานคณะกรรมการตลุ าการและกรรมการตลุ าการอืน่ ทุกคนกลา่ วหาว่า โจทก์ซงึ่ เป็นกรรมการตลุ าการคนหน่ึงผูกใจเจ็บแค้นมารดาจาเลยเพราะมคี ดเี รือ่ งบุกรุกและหาเหตุกลั่นแกล้งจนมารดาจาเลยถงึ แก่ กรรม แล้วโจทก์ยังมาฟ้องกล่าวหาจาเลยในมูลละเมิดโดยใช้อิทธิพลในฐานะเปน็ กรรมการตุลาการทาให้ผพู้ พิ ากษาซึง่ นั่ง พจิ ารณาคดีเกดิ ความกลัวบีบบังคับใหจ้ าเลยทาสัญญาประนปี ระนอมยอมความและไม่ใหค้ วามเปน็ ธรรมแก่จาเลยในการบังคับ คดตี ามคาพพิ ากษาตามยอมดงั กลา่ ว อันทาให้โจทก์ตอ้ งเสือ่ มเสียชือ่ เสียง ท้ังท่จี าเลยรู้ดีวา่ ไม่มีมลู ความจรงิ ยอ่ มแสดงให้เห็น ในเบื้องตน้ ถงึ เจตนาอันไม่บริสุทธ์ขิ องจาเลย ทง้ั จาเลยกไ็ ม่อาจแกต้ ัวได้ว่ากระทาการดังกลา่ วเพื่อป้องกันผลประโยชน์อนั ชอบ ธรรมของตนหรือเปน็ การตชิ มด้วยความเป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) (3) เพราะในคดีแพ่งที่ โจทกจ์ าเลยพิพาทกันเก่ียวกับมูลละเมิด จาเลยก็มีทนายช่วยแกต้ า่ งจาเลยจงึ ย่อมทราบดีกว่าขัน้ ตอนของกระบวนวธิ พี จิ ารณา เปน็ อย่างไรและควรปฏิบตั ิอยา่ งไรหากเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในปัญหาทพี่ ิพาทกบั โจทก์มิใชร่ ้องเรยี นไปยังบรรดา
บคุ คลซึ่งจาเลยทราบดีวา่ ไม่อาจบันดาลใด ๆ ในทางคดีได้แตก่ ลบั เปน็ การแสดงเจตนาชดั แจ้งว่า จาเลยมุ่งประสงค์ใสค่ วามเพื่อ ทาลายชื่อเสียงของโจทก์ และเปน็ การกระทาที่มีลักษณะใหข้ อ้ ความหมิน่ ประมาทดังกลา่ วแพรห่ ลายไปในวงการของนัก กฎหมายและบุคคลอืน่ เพือ่ ให้ผู้ทไ่ี ม่ทราบความจรงิ เกิดเข้าใจผิดดูหมิ่นเกลียดชงั โจทก์อันสง่ ผลกระทบตอ่ เกยี รติและสถานะ ในทางสังคมของโจทก์โดยตรงสมดังเจตนาอันแทจ้ ริงของจาเลย จาเลยจึงมีความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328. คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 4249/2542 กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทไดก้ ระทาโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 เป็นบทความผิด ลักษณะฉกรรจข์ องความผิดฐานหม่ินประมาทตามมาตรา 326 กฎหมายหาไดบ้ ัญญตั ิแยกการกระทาความผิดฐานหมน่ิ ประมาทตามมาตรา 326 กับความผดิ ฐานหมิ่นประมาทไดก้ ระทาโดยการโฆษณาตามมาตรา 328 ออกตา่ งหากจากกันไม่ เมื่อ เป็นความผดิ ฐานหมิน่ ประมาทไดก้ ระทาโดยการโฆษณาตามมาตรา 328 แล้ว กไ็ ม่จาต้องยกมาตรา 326 ขึ้นปรับมาลงโทษอีก ดังนี้ เมื่อศาลแขวงไม่มอี านาจปรับบทลงโทษจาเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 เพราะเกนิ อานาจพิจารณา พพิ ากษาและไดม้ คี าสั่งไม่รับคาฟอ้ งของโจทก์ในส่วนทีเ่ กี่ยวกับข้อหาความผิดตามมาตรา 328 ไปแล้ว เมือ่ จาเลยหมน่ิ ประมาท โจทกด์ ้วยการโฆษณาทีศ่ าลล่างทงั้ สองพิพากษาวา่ จาเลยมีความผิดตามมาตรา 326 จึงชอบแล้ว คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 1808/2531 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 329 ขอ้ ความที่จาเลยลงพิมพใ์ นหนังสือพมิ พท์ ้องถิ่นวา่ ผู้เสยี หายเรียกตัวยากหาตัวลาบากแถมยังมรี าคี เรื่องอืน่ ๆ เป็น ข้อความที่ แสดงความรู้สกึ วา่ ไม่อาจเรียกตัวผ้เู สียหาย หรือพบตัวผเู้ สยี หายลาบากเท่าน้นั มไิ ด้แสดงวา่ ผูเ้ สยี หายมรี าคีมัวหมอง ในเรือ่ งใดผ้เู สียหายจึงมิไดถ้ กู ใส่ความโดยประการที่นา่ จะทาให้ผเู้ สยี หายเสียชือ่ ถูกดหู ม่ินหรือถูกเกลยี ดชัง การกระทาของ จาเลยไม่เป็นความผิดฐานหม่นิ ประมาท ส่วนขอ้ ความท่ีลงพิมพ์วา่ \"เหตุไฉน รฐั มนตรบี ญั ญัติจึงพูดบดิ เบือนความจรงิ เรือ่ ง ศาลากลาง สนามกีฬา ทาไมไมพ่ ดู เรื่องกัญชาข้อหาฉกรรจเ์ พราะประชาชนขอ้ งใจ แต่ท่ีจาได้ ส.ส. ขี่ควายไม่อายเท่าใด ส.ส.ค้า ยาเสพติดนน่ั คือส่ิงท่ีประชาชนสนใจ\" นน้ั ประชาชนผ้อู ่านหนังสือพิมพย์ อ่ มเข้าใจได้วา่ รัฐมนตรีบญั ญัติผู้เสียหายซง่ึ เป็น สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรคา้ ยาเสพตดิ ให้โทษคือกัญชาซึ่งไม่ตรงกับความจริง จาเลยหาได้ตชิ มด้วยความเป็นธรรมหรือโดย ความสจุ รติ ใจแต่อยา่ งใดไม่และมิใชข่ ้อความทไี่ มเ่ หมาะสม แตเ่ ปน็ การยืนยันข้อเท็จจรงิ ว่าผู้เสียหายคา้ ยาเสพติดให้โทษ จงึ เปน็ ขอ้ ความท่ีใส่ความผ้เู สียหายด้วยการแพร่ขา่ วสารทางหนงั สือพมิ พ์โดยประการทนี่ ่าจะทาใหผ้ ูเ้ สียหายเสียชือ่ เสียง ถูกดู หมิ่นหรือถกู เกลียดชัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
การหม่นิ ประมาททม่ี อี านาจกระทาได้ มาตรา 329 ผู้ใดแสดงความคดิ เห็นหรือขอ้ ความใดโดยสุจริต (1) เพือ่ ความชอบธรรม ป้องกันตนหรือปอ้ งกนั ส่วนไดเ้ สียเก่ียวกับตนตามคลองธรรม (2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบตั ิการตามหน้าท่ี (3) ติชม ด้วยความเปน็ ธรรม ซึง่ บุคคลหรือส่ิงใดอันเป็นวิสยั ของประชาชนยอ่ มกระทา หรือ (4) ในการแจง้ ขา่ วด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดาเนินการอนั เปิดเผยในศาลหรือในการประชุม ผู้นนั้ ไมม่ ีความผดิ ฐานหม่ินประมาท องคป์ ระกอบภายความผิด 1) ผู้ใด 2) แสดงความคิดเห็น หรือข้อความโดยสจุ ริต -เพือ่ ความชอบธรรม ปอ้ งกันตนหรือป้องกนั ส่วนได้เสยี -ในฐานะเปน็ เจา้ พนกั งานฯ -ติชมด้วยความเป็นธรรมฯ -แจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม ในศาลหรือในการประชุม “เพื่อความชอบธรรม” หมายความวา่ เพื่อความถกู ต้อง “ป้องกันตนตามคลองธรรม” หมายความว่า ป้องกันเกี่ยวกับชือ่ เสยี งหรือประโยชน์ของตนตามวธิ ีท่ีชอบให้พ้นภยั “ปอ้ งกันส่วนไดเ้ สยี เกย่ี วกับตนตามคลองธรรม” หมายถึง ป้องกันไปถึงประโยชนไ์ ดเ้ สียทมี่ ีความสัมพันธเ์ กีย่ วกับตนเองให้ พ้นภัย ในฐานะเปน็ เจา้ พนกั งาน หมายถงึ เจา้ พนักงานท่ีปฏบิ ัติการตามหน้าท่ีเท่านน้ั ฎ.858/2523 สารวัตรใหญ่สถานีตารวจกล่าว ในท่ีประชุมราชการอาเภอประจาเดือนวา่ “โจทก์ตั้งบ่อนการพนันเลีย้ งโจร” เปน็ การกลา่ วตามหนา้ ท่ีราชการไม่ผิดมาตรา 326 ตชิ มด้วยความเปน็ ธรรม หมายความว่า การตชิ มด้วยความเขา้ ใจวา่ ถูกตอ้ งและสมควรตามความรู้สกึ ของประชาชนท่ัวไป ฎ. 1551/2503 จาเลยกลา่ วว่า การทาทานบของนายอาเภอไม่ทาตามคาพดู ทางานไม่ขาวสะอาดนั้น ถ้อยคาที่จาเลยกลา่ วจึงเป็น การกลา่ วโดยสุจริตและอยู่ในวิสัยของการติชม ไมเ่ ป็นผิดฐานหมิน่ ประมาท
คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่เกย่ี วขอ้ ง คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 1320/2513 กฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 329 330 ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา.172 172 โจทกฟ์ อ้ งหาวา่ จาเลยหม่ินประมาทโจทก์ด้วยการใส่ความทาหนังสือรอ้ งเรียนกลา่ วหาโจทก์ แล้วสง่ ไปโฆษณาตพี ิมพ์ ในหนงั สือพมิ พ์ จาเลยให้การว่า จาเลยได้ร้องเรยี นจรงิ โดยส่งคาร้องเรียนไปลงหนังสือพิมพ์ด้วยความสุจริต เพื่อความชอบ ธรรม ป้องกนั ส่วนไดเ้ สียเก่ยี วกับจาเลยตามคลองธรรมและเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน ข้อความทรี่ ้องเรียนเป็นความจรงิ ขอ พสิ ูจน์ความจรงิ ดังนเี้ ท่ากับจาเลยตอ่ สู้ว่าจาเลยไม่ได้กระทาผิด และเพือ่ มิใหจ้ าเลยตอ้ งรับโทษตามท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา 329 (1) และมาตรา 330 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นคาใหก้ ารปฏิเสธ เมือ่ จาเลยให้การปฏเิ สธความผิด ศาลจะตอ้ งฟังขอ้ เทจ็ จริงจากการนาสืบของโจทก์จาเลยเสียก่อนจึงจะวนิ ิจฉัยช้ีขาดคดีได้ การ ทศี่ าลชัน้ ต้นงดสืบพยานของโจทก์จาลยแล้ววินจิ ฉยั ชี้ขาดวา่ จาเลยกระทาความผดิ ไปทีเดียว จึงเปน็ การท่ศี าลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติ ให้ถูกต้องตามกระบวนพจิ ารณา คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 938/2519 กฎหมายท่เี ก่ียวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญา 83 326 328 329 จาเลยท่ี 2 ในฐานะเลขาธิการ ไดแ้ จ้งข่าวการประชมุ ของสมาคมธนาคารไทย จาเลยท่ี 1 ตามมติของท่ีประชมุ โดย ทาเปน็ หนงั สือเวียนลับเฉพาะถึงสมาชกิ แจ้งให้ทราบถงึ พฤติการณ์ของบุคคลกลุ่มหนง่ึ ทีไ่ ปขอเปิดเลตเตอรอ์ อฟเครดิตจาก ธนาคารสมาชิก แล้วไม่มาติดต่อขอรับราชการไปรบั ของ ทาใหธ้ นาคารสมาชิกได้รับความเสียหาย โดยในหนังสือเวียนได้ระบุ ชื่อกลุ่มบุคคลดังกลา่ วซง่ึ มีชือ่ โจทก์รวมอยูด่ ้วย เพือ่ มใิ ห้ธนาคารสมาชิกได้รับความเสยี หายดังที่มีมาอีก เช่นน้ี ถือได้วา่ การแจ้ง ขา่ วดังกล่าวเป็นการแสดงขอ้ ความโดยสุจริต เพือ่ ความชอบธรรม ปอ้ งกันส่วนไดเ้ สียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ไมเ่ ปน็ ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 329 คาพิพากษาศาลฎกี าท่ี 1547/2514 กฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญา 326 328 329(1) การท่จี าเลยซ่ึงเป็นพระภกิ ษแุ สดงตนเป็นโจทก์ขึ้นในที่ประชุมสงฆเ์ มื่อมพี ระภกิ ษตุ ้องหาวา่ ประพฤตผิ ิดพระวินัย เปน็ การปฏิบตั ติ ามพระธรรมวินัยโดยมมี ูลใหจ้ าเลยเชื่อโดยสุจรติ ใจ ไม่ใช่กระทาเพือ่ กล่ันแกล้งใส่ความโดยไม่มีมลู แล้วจาเลยย่อม ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 329(1) ประมวลกฎหมายอาญายังไมเ่ ป็นความผิดฐานหมน่ิ ประมาทใส่ความ
คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 1716/2522 กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 326 328 329 บุตรจาเลยถกู ตารวจจับข้อหาขับรถจกั รยานยนตไ์ ม่มีใบขับขไี่ ม่เสยี ภาษีขับรถเป็นที่นา่ หวาดเสียว และรถถูกยึดไปไว้ ท่ีสถานีตารวจ จาเลยไปตดิ ต่อกับโจทก์ซึ่งเปน็ สารวัตรจราจร เพื่อขอรับรถคืน โจทกเ์ ปน็ เจ้าพนักงานที่จะต้องปฏิบัติการตาม หน้าท่ีเกี่ยวกับคดีท่ีบุตรจาเลยตอ้ งหา แทนทีจ่ ะพูดให้จาเลยเข้าใจ กลับพดู แรงไป การทจี่ าเลยส่งขอ้ ความไปลงหนังสือพิมพ์ถึง อธิบดกี รมตารวจซึ่งเป็นเปน็ ผู้บงั คบั บญั ชาของโจทก์ มีใจความเป็นการแสดงความเสียใจน้อยใจของจาเลย และขอร้องให้ผ้ใู หญ่ ในกรมตารวจสอดสอ่ งตกั เตือนตารวจใหพ้ ดู จาแนะนาประชาชนในส่ิงท่ีประชาชนไมร่ ู้อย่างสภุ าพ เพื่อให้ตารวจเข้ากับ ประชาชนได้ จงึ เป็นการติชมโจทก์ด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทาได้ และจาเลยลงข้อความนน้ั โดย สุจริตตามเรือ่ งทเ่ี กิดแก่จาเลย กรณตี ้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จาเลยไม่มีความผดิ ฐานหม่ินประมาทและ ฐานดูหม่ินเจ้าพนกั งานซ่งึ กระทาการตามหน้าที่ คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 4295/2531 กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 329(3) จาเลยเบกิ ความเป็นพยานในคดีที่ ซ. กับพวกยื่นคาร้องขอให้ศาลส่ังเลกิ บรษิ ัทน.เพือ่ สนบั สนุนใหเ้ ห็นวา่ บรษิ ทั น. ประสบภาวะขาดทุนเพราะการบริหารงานของบริษทั หละหลวมไมเ่ ปน็ ระเบียบ กรรมการผู้มีอานาจของบรษิ ทั ไม่สจุ รติ และ กรรมการบรหิ ารของบรษิ ทั ทุจริตทาให้การดาเนินงานของบริษทั ไม่มีโอกาสจะฟน้ื ตัวเป็นการยืนยันว่าโจทก์ซง่ึ เปน็ กรรมการผู้มี อานาจของบริษัท น.ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของบรษิ ัทโดยสุจรติ และกระทาการทุจรติ เปน็ เหตใุ ห้บริษัทขาดทุน จาเลยเบกิ ความในคดีดังกลา่ วในฐานะพยาน มิใช่คู่ความ จาเลยมไิ ดเ้ ปน็ ผู้ถือหุ้นหรือกรรมการบริษัทน.อันจะถือไดว้ ่าเปน็ ผู้มีส่วนไดเ้ สีย ทั้งบรษิ ทั น.กเ็ ป็นบรษิ ทั เอกชน มิใชส่ ่วนราชการหรือองคก์ ารสาธารณะ จงึ ไม่อาจถือได้ว่าจาเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติ ชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือส่งิ ใดอันเป็นวิสยั ของประชาชนยอ่ มกระทาไดต้ ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3)
ประมาททเ่ี ปน็ เหตยุ กเว้นโทษ มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถา้ ผู้ถูกหาวา่ กระทาความผิด พสิ ูจน์ได้วา่ ขอ้ ที่หาว่าเป็นหมน่ิ ประมาทนั้นเป็น ความจรงิ ผู้น้นั ไมต่ ้องรบั โทษ แตห่ ้ามไม่ใหพ้ ิสจู น์ ถ้าขอ้ ที่หาวา่ เป็นหม่ินประมาทน้ันเป็นการใสค่ วามในเรื่องส่วนตัว และการพสิ จู น์จะไมเ่ ป็น ประโยชน์แก่ประชาชน องค์ประกอบความผดิ 1)พิสูจน์ความจริงได้ 2)ขอ้ ยกเว้น ห้ามพิสูจน์ถ้าเปน็ เรือ่ งส่วนตัวและการพิสูจนไ์ มเ่ ปน็ ประโยชน์แกป่ ระชาชน 3)เจตนาธรรมดา *** มาตรา 330 อนญุ าตให้พิสจู นไ์ ด้ หากว่าขอ้ ความน้นั เป็นความจรงิ และไมใ่ ชเ่ รื่องส่วนตัว แมจ้ ะไม่เป็นประโยชน์แก่ ประชาชนก็ตาม แต่ถ้าเรื่องนน้ั เปน็ เป็นเรือ่ งส่วนตัว การจะพสิ ูจน์ได้ตอ้ งเป็นประโยชน์แก่ประชาชนด้วย เช่น ฎ.1072/2507 เจา้ คณะอาเภอฟอ้ งว่าพระภกิ ษุแดงยอ่ งเข้าหาแม่ชีทหี่ ้องวิปสั สนา, ฎ.1362/2514 กล่าวว่านายดาซง่ึ เป็นตารวจรบั สนิ บน คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ีเก่ียวขอ้ ง คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 2272/2527 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 326 328 330 การปิดประกาศโฆษณาหมน่ิ ประมาทนั้น เป็นความผิดต่อเนื่องจนกว่าจะมกี ารปลดป้ายประกาศออกไป ซึง่ ถือได้ว่า การกระทาอนั เป็นมูลแห่งความผิดฐานหมิน่ ประมาทไดย้ ตุ ิลง อายุความย่อมจะต้องเริม่ นับตง้ั แต่วันท่ีมีการปลดป้ายประกาศ ออก ดงั นั้นแมจ้ าเลยตดิ ปา้ ยประกาศหมิ่นประมาทโจทก์กอ่ นวันท่โี จทก์ไปรอ้ งทกุ ข์หรือฟอ้ งคดีเกิน 3 เดือนแต่เมื่อโจทก์รอ้ ง ทกุ ข์และฟอ้ งคดีไมเ่ กนิ 3 เดือนนับแต่วันปลดป้ายประกาศโฆษณาหมิ่นประมาทออกคดีจึงไมข่ าดอายุความ จาเลยปิดประกาศภาพถ่ายโจทก์โดยมีขอ้ ความภาษาอังกฤษกากับแปลเปน็ ภาษาไทยว่า โจทก์เป็นหนีจ้ าเลย 15,910 บาท ยงั เรียกเก็บไม่ไดห้ รือยังไม่ได้ชาระ โดยจาเลยปิดประกาศดังกลา่ วในสถานบริการของจาเลยซ่ึงมีลกู ค้าเข้าไปรับบรกิ าร เช่นน้ี ยอ่ มถือได้วา่ เป็นการกล่าวหาเรือ่ งรา้ ย เปน็ การใส่ความโจทกอ์ นั จะทาใหโ้ จทกเ์ สียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชงั ท้ังเปน็ การใสค่ วามในเรื่องส่วนตัว ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนแม้ว่าเรื่องทก่ี ล่าวหาจะเป็นความจรงิ ก็ไมเ่ ป็นเหตุยกเว้นใหก้ าร กระทาของจาเลยไมเ่ ป็นความผิดฐานหมนิ่ ประมาท
คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 3/2508 กฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 330 จาเลยเป็นสมาชิกเทศบาล ทาหนังสือร้องเรยี นต่อผู้วา่ ราชการจงั หวัดเกี่ยวกับเรื่องที่ภริยาของโจกท์ (โจทก์ เป็น ปลัดเทศบาล) ตั้งเบกิ จ่ายค่าพาหนะเดินทางยา้ ยวา่ \"การเบิกจา่ ยที่ผ่านไปได้ทงั้ ๆ ท่ไี มเ่ ป็นความจรงิ หรือการทจุ รติ น้ีวญิ ญูชนก็ ตอ้ งเข้าใจว่า คงกระทาไปด้วยความแนะนารเู้ ห็นเป็นใจของโจทก์ผู้สามอี ย่างแน่นอน เพราะต่างก็ทางานรว่ มกันและอยใู่ น บา้ นพกั เดียวกัน การกระทาดงั กลา่ วน้ีเปน็ การผดิ กฎหมายและวินัยของราชการอย่างร้ายแรง\" และ \"แทนท่โี จทกจ์ ะปฏิบตั ิ หน้าท่ีและวางตนใหส้ มกับตาแหนง่ โจทกก์ ลบั จะกลายมาเป็นผแู้ สวงหาประโยชน์จากเทศบาลโดยวิธีที่ไมช่ อบ ทง้ั มีความ ประพฤติส่วนตัวท่ไี ม่สมควรมากมายหลายอย่าง จนพนักงานเทศบาลและประชาชนขาดความเคารพนับถือ สาหรับความ ประพฤติส่วนตัวท่เี ลวร้ายของโจทกน์ ้ันจาเลยจะยังไม่ขอกล่าวในโอกาสน\"ี้ ดังนี้ ข้อความทก่ี ล่าววา่ โจทกม์ คี วามประพฤติ เลวร้ายแต่มไิ ดก้ ลา่ วว่าเลวรา้ ยอย่างใดนั้น ก็นา่ จะเข้าใจได้ว่า การกระทาทเ่ี ป็นทจุ ริตอย่างจาเลยกลา่ วหาโจทก์ เปน็ ความ ประพฤติทเ่ี ลวรา้ ยได้ และเมือ่ ปรากฏว่าคารอ้ งเรียนของจาเลยเปน็ ความจรงิ จาเลยกไ็ ม่ตอ้ งรับโทษเพราะได้รบั ความยกเว้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 330. คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 1320/2513 กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 329 330 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา172 172 โจทกฟ์ ้องหาวา่ จาเลยหม่ินประมาทโจทก์ด้วยการใส่ความทาหนังสือรอ้ งเรยี นกลา่ วหาโจทก์ แล้วสง่ ไปโฆษณาตีพิมพ์ ในหนังสือพิมพ์ จาเลยใหก้ ารว่า จาเลยได้รอ้ งเรียนจรงิ โดยส่งคาร้องเรยี นไปลงหนงั สือพมิ พ์ด้วยความสุจริต เพื่อความชอบ ธรรม ปอ้ งกนั ส่วนไดเ้ สียเกยี่ วกับจาเลยตามคลองธรรมและเพือ่ ประโยชน์แก่ประชาชน ขอ้ ความทีร่ อ้ งเรียนเป็นความจรงิ ขอ พิสจู น์ความจรงิ ดังนเ้ี ทา่ กับจาเลยต่อสู้ว่าจาเลยไมไ่ ดก้ ระทาผดิ และเพือ่ มใิ หจ้ าเลยต้องรับโทษตามท่ีบัญญตั ิไว้ในมาตรา 329 (1) และมาตรา 330 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นคาให้การปฏิเสธ เมื่อจาเลยใหก้ ารปฏเิ สธความผดิ ศาลจะต้องฟังข้อเท็จจริงจากการนาสืบของโจทก์จาเลยเสยี ก่อนจึงจะวนิ ิจฉยั ชี้ขาดคดไี ด้ การ ท่ีศาลชน้ั ต้นงดสืบพยานของโจทกจ์ าลยแล้ววินจิ ฉยั ชี้ขาดว่าจาเลยกระทาความผดิ ไปทเี ดียว จึงเปน็ การท่ศี าลช้ันต้นมไิ ด้ปฏิบตั ิ ให้ถูกตอ้ งตามกระบวนพิจารณา
เหตุยกเว้นความผดิ ฐานหมนิ่ ประมาท มาตรา 331 ค่คู วาม หรือทนายความของค่คู วาม ซึง่ แสดงความคดิ เห็น หรือขอ้ ความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพือ่ ประโยชน์แก่คดีของตน ไมม่ คี วามผดิ ฐานหม่ินประมาท คาว่าคูค่ วามตามความหมายหัวขอ้ น้ี หมายถึง บคุ คลผู้ยืน่ คาฟ้องหรือถูกฟอ้ งตอ่ ศาลและเพื่อประโยชน์แห่งการดาเนินกระบวน พิจารณาใหร้ วมถึงบุคคลผู้มีสิทธิกระทาแทนบคุ คลน้ันๆ ตามกฎหมายในฐานะทนายความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณา ความแพง่ มาตรา 1(11) คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่เี ก่ียวขอ้ ง คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 6483/2531 กฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา326 328 329 331 การทจ่ี าเลยฟ้องโจทกเ์ ป็นคดีล้มละลายโดยบรรยายฟ้องวา่ โจทก์เป็นคนมีหน้ีสนิ ลน้ พน้ ตัว ซึง่ จาเปน็ ตอ้ งกล่าวในคา ฟ้องเพือ่ ใหโ้ จทก์เข้าใจขอ้ หาได้ชัดเจนนั้น ถือไดว้ ่าเป็นข้อความในกระบวนพิจารณาคดใี นศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน จึง ไมเ่ ป็นความผดิ ฐานหม่ินประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 331 ส่วนทจี่ าเลยนาขอ้ ความเกี่ยวกับการฟอ้ งโจทก์เป็น บคุ คลลม้ ละลายไปลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์น้นั เมือ่ ข้อความที่ลงในหนงั สือพมิ พ์เป็นข้อความท่ตี รงกับท่ีจาเลยฟ้องโจทก์ มไิ ด้ มขี อ้ ความอื่นนอกเหนือไปจากน้นั อนั จะส่อให้เหน็ เจตนาไม่สจุ ริตของจาเลย การทหี่ นงั สือพมิ พเ์ สนอข้อความดังกล่าวจึงเป็น การรายงานเรื่องท่ีโจทก์ถูกฟ้องตอ่ ศาลเปน็ คดีล้มละลายถือได้ว่าจาเลยไดแ้ จง้ ขา่ วด้วยความเป็นธรรมเรือ่ งการดาเนินการอนั เปิดเผยในศาล จาเลยยอ่ มได้รบั ความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4)จึงไม่มคี วามผิดฐานหม่ินประมาท
มาตรการบงั คบั ทางกฎหมาย มาตรา 332 ในคดหี มิ่นประมาทซึง่ มคี าพิพากษาวา่ จาเลยมีความผิดศาลอาจสั่ง (1) ให้ยดึ และทาลายวัตถุหรือส่วนของวตั ถุทม่ี ีข้อความหมิ่นประมาท (2) ใหโ้ ฆษณาคาพพิ ากษาทั้งหมด หรือแต่บางส่วนในหนังสือพมิ พห์ นึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ครง้ั เดยี วหรือหลายครงั้ โดยให้จาเลยเป็นผู้ชาระค่าโฆษณา คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ีเกี่ยวขอ้ ง คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 3/2542 กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามตรา332 (2) บญั ญัติวา่ ในคดีหมิ่นประมาทซง่ึ มคี าพิพากษาว่าจาเลยมคี วามผิด ศาลอาจสั่งใหโ้ ฆษณาคาพพิ ากษาท้ังหมด หรือแต่บางส่วนในหนังสือพมิ พ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ คร้งั เดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จาเลยเป็นผ้ชู าระค่าโฆษณา เหน็ ได้วา่ ให้อานาจศาลส่ังใหโ้ ฆษณาคาพพิ ากษาเท่านนั้ มิได้มกี ฎหมายให้อานาจศาลส่ังให้ โฆษณาคาขออภัยด้วย การทศี่ าลลา่ งทั้งสองส่งั ให้จาเลยท่ี 1 โฆษณาคาขออภัยตอ่ โจทก์ด้วย จึงเป็นการลงโทษจาเลยท่ี 1 นอกเหนือจากโทษทบ่ี ัญญัตไิ ว้ในกฎหมายต้องห้ามตาม ป.อ.มาตรา 2 วรรคหนึ่ง จึงไม่ชอบ คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 2414/2530 กฎหมายที่เก่ียวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 328 329 332 จาเลยทั้งสองมจี ดหมายแจ้งไปถงึ เอกอัครราชทูตสาธารณรฐั ประชาชนฮังการี เพื่อขอความรว่ มมือจากสมาชิกคนหนง่ึ ใน สมาคมจาเลยที่ 1 ให้ยกเลิกการสง่ั จองห้องพักที่ทาไว้กับโจทกท์ ี่ 1มขี ้อความว่า \"...เมือ่ เร็ว ๆ นี้ทางสมาคมของเรา ได้ ดาเนนิ คดตี ่อผู้บริหารกิจการโรงแรมเพรสิเดนทค์ ือบริษัทรีเจนท์ไทยแลนด์จากัด เรา หวังเปน็ อย่างย่ิงว่าทา่ นคงจะไมต่ ้องมี ประสบการณก์ บั ความกลับกลอกดัง ที่เรา ได้ประสบติดต่อกันมา...เจ้าของโรงแรมได้ฟ้องรอ้ งดาเนินคดีต่อบริษทั รเี จนท์ไทย แลนด์ จากดั เปน็ อกี คดีหนึ่งตา่ งหากเมือ่ ปีที่แล้วน้ี ด้วยเหตทุ ่ีบรษิ ัทผิดนัดไม่จดทะเบียนการเช่า ภายในระยะเวลาท่กี าหนด...\" คาว่ากลบั กลอกมคี วามหมายในทางกลา่ วหาว่าโจทกท์ ี่ 1 ไม่นา่ เชือ่ ถือไว้วางใจเปน็ ผู้ประพฤตผิ ดิ สัญญาทง้ั โจทก์ท่ี 1 ยงั ถูกฟอ้ ง ฐานผดิ สัญญา ทาให้ผ้อู ่านเกดิ ความร้สู ึกขาดความเชื่อ มัน่ ในการรกั ษาคามัน่ สัญญาของโจทก์ท่ี 1เปน็ การทาให้โจทก์ท่ี 1 ใน ฐานะผู้ประกอบธรุ กิจการคา้ ได้รับความเสื่อมเสียในชือ่ เสยี งและเกียรตคิ ุณ หาใชเ่ ป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสจุ ริต เพื่อ ปอ้ งกันตน หรือส่วนได้เสียตามคลองธรรมแต่อย่างใดไม่ การกระทาของจาเลยท้ังสองเป็นการใส่ความให้โจทก์ที่ 1เสื่อมเสียชือ่ เสยี งทางการประกอบกจิ การค้า แตก่ ารกระทาของจาเลยทงั้ สองเปน็ ลกั ษณะแจง้ หรือไขข่าวไปยังสมาชิกของสมาคมเท่านัน้ ไม่ ถึงกับกระจายขา่ วไปสู่สาธารณชนทั่วไป ทั้งไม่ปรากฏวา่ จาเลยท่ี 2กระทาผิดมาก่อน จงึ ควรลงโทษสถานเบา.
พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยการกระทาความผดิ เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ. ดอมฯ ซ่ึงถูกประกาศใช้เมื่อปีพ.ศ. 2550 และถูกแก้ไขเมื่อปีพ.ศ. 2560 บรรจุบทบัญญัติหลายข้อทถี่ กู ใช้ในการเอาผิดเนื้อหาท่ีถือว่าหม่ินประมาท มาตรา 14(1) ของพ.ร.บ. คอมฯ เอาผิดการกระทา \"โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง [ในการ]นาเข้าสรู่ ะบบคอมพิวเตอรซ์ ่งึ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ทบี่ ิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วนหรือขอ้ มูลคอมพิวเตอรอ์ นั เป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายแก่ประชาชนอนั มใิ ช่การกระทาความผดิ ฐานหม่ินประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา\" ผูก้ ระทาผิดตอ้ งระวาง โทษจาคุกไม่เกิน 5ปี หรือปรับไมเ่ กนิ 100,000 บาท หรือท้ังจาทัง้ ปรับ การกระทาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกบั ความผิดข้างต้นตอ่ บุคคลใดบคุ คลหน่ึง มิได้กระทาตอ่ ประชาชนต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไมเ่ กิน 60,000 บาท หรือทง้ั จาท้ังปรับ กอ่ นการแกไ้ ขในปี 2560 น้นั กฎหมายไมไ่ ดก้ าหนดความแตกตา่ งระหว่างการกระทาตอ่ บุคคลกับตอ่ ประชาชนโดยการกระทา ทัง้ สองมรี ะวางโทษจาคกุ 5 ปีเท่ากัน นอกจากนัน้ กฎหมายฉบับเกา่ ยังขาดข้อกาหนดเกี่ยวกบั เจตนาและไม่ได้จากัดการใช้ บทบญั ญัตใิ นคดีท่ีเขา้ ข่ายการหนประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาอกี ด้วย หลังจากพ.ร.บ. คอมฯ ฉบับแกไ้ ข พ.ศ. 2560 มีผลบังคบั ใช้ ศาลอุทธรณ์วนิ จิ ฉัยว่า มาตรา 14(1) ไมค่ รอบคลมุ ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทอกี ต่อไป แต่แม้จะมีการตัดสินดังกลา่ วก็ยังมกี ารใช้ขอ้ กฎหมายน้ีในการฟ้องดาเนินคดนี ักปกปอ้ งสิทธิมนษุ ยชนและประชาชน อยา่ งต่อเนือ่ งจากการแสดงออกท่ที าให้เสือ่ มเสยี ชื่อเสยี ง มาตรา 15 ของพ.ร.บ. คอมฯ เอาผิดผู้ให้บรกิ ารทใี่ หค้ วามร่วมมือ ยินยอม หรือรเู้ ห็นเป็นใจให้มกี ารกระทาความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ท่ีอยใู่ นความควบคุมของตน ความผิดตามมาตรา 15 น้มี รี ะวางโทษเช่นเดียวกบั ผู้กระทาความผดิ ตามมาตรา 14 มาตรา 16 ของพ.ร.บ. คอมฯ เอาผิดการนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทปี่ ระชาชนทั่วไปอาจเข้าถงึ ไดซ้ ่ึง \"ข้อมูลคอมพวิ เตอรท์ ี่ปรากฎเป็นภาพของผู้อืน่ [...] ทเี่ กดิ จากการสร้างขน้ึ ตัดต่อ เติมหรือตดั แปลงด้วยวิธกี ารทาง อิเลก็ ทรอนิกส์หรือวธิ ีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทาให้ผอู้ ืน่ นั้นเสยี ชือ่ เสียง ถกู ดูหมิน่ ถกู เกลยี ดชัง หรือไดร้ ับความอับอาย\" มาตราน้ีถูกแก้ไขในปี 2560 เพื่อให้ข้อยกเวน้ แก่การนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยสุจริต \"อันเป็นการติชมด้วยความเปน็ ธรรมซ่งึ บุคคลหรือส่ิงใดอนั เป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทา\" ความผิดตามมาตรา16 ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 3 ปี และปรบั ไม่เกิน 200,000 บาท โดยรวมแล้ว พ.ร.บ. คอมฯมีขอ้ บกพร่องและไมส่ อดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศในประเด็นท่ีเกี่ยวกับเสรภี าพในการ แสดงออกเปน็ อย่างยิง่
การคมุ้ ครองทางกระบวนการจากการฟอ้ งดาเนนิ คดที างอาญาโดยไม่สจุ รติ หรอื ไม่มมี ูล บคุ คลทที่ าการฟ้องร้องในประเทศไทยโดยเฉพาะบรษิ ัท ได้ใชก้ ฎหมายหมนิ่ ประมาทในทางที่ผิดเพือ่ ปิดปากนักขา่ ว นักปกปอ้ งสิทธมิ นษุ ยชน และประชาชนท่ีแสดงความกังวลตอ่ การละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน รฐั บาลไทยไดเ้ หน็ ว่าคดีดังกลา่ วมจี านวนสูงข้ึนจงึ ได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการฟอ้ งคดีหมิ่นประมาทเพื่อกลั่นแกลง้ 11 ในเดือนธันวาคม 256 1 สภานติ ิบญั ญัติแห่งชาตไิ ด้ดาเนินการแกไ้ ขประมวลฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา โดยเพิ่มบทบัญญตั ิ 2 ข้อ ได้แก่ มาตรา 161/1 และ 165/2 เพื่อใช้ในการปฏเิ สธการดาเนินคดีอาญาต่อบุคคลที่กระทาเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม มาตรา 161/1 ระบุวา่ \"ในคดรี าษฎรเปน็ โจทก์ หากความปรากฏต่อศาลเองหรือมีพยานหลกั ฐานท่ีศาลเรียกมาว่าโจทก์องคดโี ดยไม่สจุ ริตหรือโดยบิดเบือนขอ้ เท็จจริง เพือ่ กลน่ั แกล้งหรือเอาเปรยี บจาเลยหรือโดยมุ่งหวังผลอยา่ งอืน่ ยิง่ กวา่ ประโยชน์ที่พงึ ได้โดยชอบ ใหศ้ าลยกฟ้องและห้ามมใิ ห้โจทก็ ยื่นฟอ้ งในเรื่องเดียวกนั นน้ั อีก การฟอ้ งคดีโดยไม่สุจรติ ตามวรรคหนึ่งใหห้ มายความรวมถึงการทโ่ี จทก์จงใจฝา่ ฝืนคาสง่ั หรือดาพิพากษาของศาลในคดี อาญาอืน่ ซ่ึงถึงท่ีสุดแล้วโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรด้วย\" มาตรา 165/2 ระบวุ า่ \"ในการไต่สวนมูลฟอ้ ง จาเลยอาจแถลงใหศ้ าลทราบถึงขอ้ เทจ็ จรงิ หรือข้อกฎหมายอันสาคัญที่ศาลควรสัง่ ว่าคดีไม่มมี ูล และจะระบใุ นคาแถลงถึงตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุทจี่ ะสนับสนุนขอ้ เทจ็ จริงตามคาแถลงของจาเลยด้วยก็ได้ กรณีเช่นว่าน้ี ศาลอาจเรียกบุคคล เอกสาร หรือวตั ถุดังกลา่ วมาเป็นพยานศาลเพือ่ ประกอบการวินิจฉยั สัง่ คดีไดต้ ามท่ีจาเป็น และสมควร โดยโจทก์และจาเลยอาจถามพยานศาลได้เม่อื ไดร้ ับอนญุ าตจากศาล\" การประกาศใช้มาตรา 161/1 และ 165/2 นี้ถกู อา้ งอยู่ในแผนปฏิบตั กิ ารแหง่ ชาติว่าด้วยธรุ กิจกับสิทธมิ นษุ ยชนของรฐั บาลซึ่งเป็นหลักฐานทีช่ ้ีให้เห็นถึงความพยายามของ รฐั บาลในการปกป้องไมใ่ ห้บุคคลทกี่ ระทาการเพื่อประโยชน์ส่วนรวมตกเป็นเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จนถึงปจั จุบนั น้ี ผ้พู พิ ากษาก็ยงั ไม่มกี ารใช้บทบญั ญตั ิดงั กล่าวในการพิจารณาคดีอาญาอนั ไม่มมี ูลตอ่ นกั กจิ กรรม นกั ขา่ ว นักปกปอ้ งสิทธิ มนุษยชน และประชาชน อย่างเปน็ รปู ธรรม
แนวโน้มในการดาเนินคดหี มน่ิ ประมาททางอาญาในประเทศไทย คดีหมน่ิ ประมาททางอาญามีจานวนเพม่ิ สูงข้ึนอย่างตอ่ เนือ่ ง สถิตขิ องสานักงานอัยการสูงสดุ ระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคม 2558 ถึงเดือนกนั ยายน 2563 เจา้ หน้าที่ตารวจไดย้ ื่นฟ้องคดใี นขอ้ หามาตรา 322 - 328 ของประมวลกฎหมายอาญาจานวน 16,807 คดตี ่อพนักงานอยั การ โดยมาตรา 322 - 325 ดรอบคลุมความผิดเกย่ี วกับการเปิดเผยความลับ ส่วนมาตรา 326 -328 ครอบคลุมความผดิ ฐานหม่ินประมาท แม้ว่าสานกั งานอัยการสูงสดุ ไม่สามารถให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั จานวนคดีหมน่ิ ประมาทโดยเฉพาะได้ แต่ขอ้ มูลชดุ นซ้ี ีใ้ ห้เหน็ วา่ คดีใน ขอ้ หาตามมาตราข้างตนั มจี านวนเพ่มิ สงู ขนึ้ เรือ่ ยๆ อย่างตอ่ เนือ่ งทกุ ปี ข้อมูลจากสานักงานอัยการสูงสดุ ยงั รวมถึงจานวนคดีในขอ้ หามาตรา322 - 328 ของประมวลกฎหมายอาญาท่ีพนกั งานอัยการ สง่ั ฟ้องตอ่ ศาลช้ันต้นในแต่ละปี พร้อมผลลัพธข์ องคดีเหลา่ น้ัน (ดตู ารางที่ 1) ระหว่างปี 2558 ถงึ 2562 ดที ี่สง่ั ฟอ้ งตอ่ ตาลช้ันตนั เพิ่มขึน้ จาก 1,386 คดเี ปน็ 2.023 คดี ระหว่างเดือนมกราคม 2558 ถงึ เดือนกันยายน 2563 มีคดีท่ีถกู พพิ ากษาลงโทษจานวน 8,397 คดี ซ่งึ คิดเป็นร้อยละ 83 ของคดที ั้งหมด คดจี านวนต่ากว่ารอ้ ยละ 3 จบลงด้วยการยกฟ้อง ส่วนคดที เ่ี หลือสิ้นสุดลงเนื่องจากมีการถอนฟอ้ งหรือเหตุอื่น ๆ เช่น จาเลยเสียชีวติ ซ่ึงทาใหไ้ ม่สามารถปิดคดีได้ เพ่มิ เตมิ ซ่ึงระบบกฎหมายไทยระบุวิธีในการยนื่ ฟอ้ งคดหี ม่ินประมาททางอาญาด้วยกนั 2 แนวทาง ได้แก่ การแจ้งความกับตารวจเพื่อขอใหพ้ นกั งานอัยการสง่ั ฟอ้ งตอ่ ศาล หรือโจทก็ยื่นฟ้องตอ่ ศาลชน้ั ตนั โดยตรง
แม้ว่าจานวนคดีที่ถกู พพิ ากษาลงโทษต่อปเี พิ่มสงู ขน้ึ ระหว่างปี2558 ถงึ 2563 แต่เป็นทีน่ ่าสังเกตวา่ อัตราการถูกพิพากษา ลงโทษกลับลดลง (ดตู ารางท่ี2) อย่างทกี่ ล่าวไปขา้ งตน้ ผฟู้ อ้ งรอ้ งเอกชนสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้โดยตรง สานักงานศาลยตุ ธิ รรมเผยว่า จานวนคดีหม่นิ ประมาททางอาญารวมทง้ั หมดทพ่ี นักงานอัยการและเอกชนสง่ั ฟ้องต่อศาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างตอ่ เนือ่ งในเวลา 5 ปที ี่ผ่านมา คดีท่ี ถูกยื่นในปี2563 มจี านวนสูงกว่าคดีที่ถกู ยื่นในปี2558 จานวน 1,730 คดี ซึง่ คิดเป็นอตั ราการเพิ่มร้อยละ 50
พ.ร.บ.คอมฯ ยังคงถูกใช้เพือ่ ระงับการวพิ ากษว์ จิ ารณ์ ก่อนทจ่ี ะมกี ารแก้ไขในปี2560 พ.ร.บ.คอมฯ มกั ถกู ใชร้ ่วมกับขอ้ หาหม่ินประมาทในประมวลกฎหมายอาญา เพือ่ เพ่ิมภาระทาง กฎหมายและสรา้ งความหวาดกลัวด้วยระวางโทษที่สงู ข้นึ คดีระหวา่ งกองทัพเรือไทยกับนกั ข่าวภูเกต็ หวาน เมื่อวันท่ี 16 ธนั วาคม 2556 กองทพั เรือได้ยืน่ ฟ้องตอ่ นายอลัน มอริสนั และน.ส. ชตุ ิมา สีดาเสถียร นักข่าวของภเู กต็ หวาน สานักข่าวออนไลน์ทอ้ งถิ่น เนื่องจากการเผยแพร่ยอ่ หน้าหนงึ่ จากบทดวามของสานกั ข่าวรอยเตอรส์ ที่ได้รบั รางวัลลิตเซอร์ ซ่ึงระบุว่า เจ้าหน้าที่ทางการไทยมีส่วนข้องเกี่ยวในขบวนการดา้ มนุษย์ชาวโรฮิงญาบริเวณชายฝงั่ ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 นกั ขา่ วทงั้ สองรายถูกแจ้งข้อหาฐานหมิน่ ประมาทในมาตรา 326 และ 328 ของประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14(1) ของพ.ร.บ. คอมฯ พ.ศ. 2550 ในวันที่ 1 กันยายน 2558 ศาลจงั หวัดภเู ก็ตมีคาพิพากษายกฟ้องนายอลนั มอรสิ ัน และน.ส. ชตุ ิมา สีดาเสถียร ในทกุ ข้อหา ตามท่ีกลา่ วไปข้างตน้ ในการแก้ไขกฎหมายในปี 2560 ไดม้ กี ารใส่ข้อความเพือ่ ปอ้ งกันไม่ใหม้ าตรา 14(1) ถกู ใชค้ วบคู่กับข้อหาหมนิ่ ประมาทในประมวลกฎหมายอาญา แต่แม้จะมีการแกักฎหมายเรียบร้อยแล้ว ก็ยังปรากฏวา่ ท้งั เอกชนและองคก์ รมีการฟ้องดาเนินคดตี อ่ บุคคลด้วยข้อหามาตรา 14(1) ของพ.ร.บ. คอมฯ เนือ่ งจากความเสียหายต่อชื่อเสียงต่อไปอยูด่ ี
สรุป ความผิดฐานหมิ่นประมาท คาว่าหม่ินประมาทนน้ั ในประมวลกฎหมายอาญาโดยหลกั จะมกี ารกาหนดความผดิ แบง่ ได้ ออกเป็น 3 ลกั ษณะ คือ 1) ความผดิ ฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา (มาตรา 326) 2) ความผิดฐานหมน่ิ ประมาทผตู้ าย (มาตรา 327) 3) ความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท ด้วยการโฆษณา (มาตรา 328) ซงึ่ สามารถอธิบายได้ดงั น้ี 1) ความผิดฐานหม่ินประมาทบุคคลธรรมดา พืน้ ฐานของความผิดปรากฏอยใู่ นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ซึ่งความผิดฐานหมน่ิ ประมาทน้นั จะตอ้ งมี องค์ประกอบเป็นการกระทาทใ่ี ส่ความผู้อืน่ ซงึ่ มีลกั ษณะยืนยันขอ้ เทจ็ จริงต่อบคุ คลที่ สาม ในประการทที่ าให้บุคคลท่ีถูกหมิ่นประมาทเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ โดยคากลา่ วทเ่ี ป็นหมน่ิ ประมาท ก็คือการใส่ความ โดยการ ใส่ความน้นั คือ แสดงพฤตกิ ารณ์ในข้อเทจ็ จรงิ ท่เี ป็นการยืนยนั ข้อเท็จจริงถึงพฤตกิ รรมของบุคคลในทางเสื่อมเสีย หรือในทาง ที่ชั่ว หรือมคี วามไม่นา่ เชื่อถือ โดยไม่คานึงขอ้ เทจ็ จริงดงั กลา่ วจะเป็นการพดู ใหร้ า้ ยหรือกล่าวหาใหผ้ อู้ ื่นได้รบั ความเสียหายใน ด้านตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นเรื่องจริงหรือเรือ่ งเทจ็ ก็ตาม วิธีการในการใสค่ วามน้นั ก็มีหลายวิธี อาทเิ ช่น การพูดด้วยวาจา การเขียนเปน็ หนังสือ วาดภาพ ปน้ั รูป ทากริยา ทา่ ทาง ๆ ต่าง หรือด้วยวธิ ีใด ๆ อันเปน็ การแสดงขอ้ ความ ใหป้ รากฏ ยกตัวอยา่ งเช่น ทาเครือ่ งแขวนคอคนไว้แล้วไปวางที่หน้า บา้ นเขา หรือ แขวนโคมเขียว ทหี่ น้าบ้านเขาเพื่อแสดงว่าเป็นโสเภณี หรือ “เขยี นและกล่าวข้อความเทจ็ ว่าตุลาการ ศาล รัฐธรรมนญู วางตนไมเ่ ป็นกลางทาหนา้ ท่ีไม่ยุตธิ รรม” หากเป็นนติ ิบุคคลนนั้ จะสามารถหมิ่นประมาทหรือถกู หม่ินประมาทได้หรือไม่ เมือ่ พจิ ารณาถงึ กฎหมายได้อธบิ ายถงึ นิตบิ คุ คลในประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์มาตรา 67 ท่ีบญั ญตั ิไว้วา่ “ภายใตบ้ ังคับมาตรา 66 นิติบคุ คลย่อมมีสิทธิและ หน้าที่ เช่นเดยี วกับบคุ คลธรรมดา เว้นแตส่ ิทธิและหน้าทซ่ี ่ึงโดยสภาพจะพึงมีพงึ เปน็ ไดเ้ ฉพาะแกบ่ ุคคล ธรรมดาเทา่ นั้น” ดังนัน้ จากกฎหมายทไ่ี ด้อธิบายจะเหน็ ได้วา่ นติ ิบุคคลก็อยูใ่ นความหมาย ของคาว่าบคุ คลธรรมดาของคาวา่ “ผู้อืน่ ” และการ หม่นิ ประมาทนิตบิ ุคคลก็เป็นความผิด เหมือนหม่ินประมาทบุคคลธรรมดานั่นเอง นิติบคุ คลสามารถกระทาคาามผิฐาานมมินนประมาทไฐม้ รอื ไมน่ นั้ มากพจิ ารณาถึงแนาคาพพิ ากาาอองาาลีกก า ไทยพบาา่ าาลีกกาเคยตฐั สินใมน้ ิติบคุ คลรบั ผิฐทางอาญาในคฐกมมินน ประมาทคาามาา่ “ออ้ คาามทลนก งนนั้ มมนนิ ประมาท โจทก์ ถึงแมจ้ ะเป็นจรงิ มากจะทาใมค้ นทงั้ มลายฐมู มนินโจทก์แลา้ ก็เรยก กาา่ ใส่คาามทจกน าเลยโษาณา ภายมลงั จะอา้ ง ออ้ ยกเาน้ ไม่ไฐ้ เพราะเป็นอา่ าติเตกยนและททนก าการตาราจไม่ใ่โ่ รงาาล สา่ นจาเลยทนก 2 เป็นบคุ คลนติ ิสมมตกิ ็ถกู ฟอ้ งทาง อาญาใมป้ รบั ไฐ”้ ตามคาพพิ ากาาีกก า ทกน 265/2473 ฐงั นนั้ ในคาามผฐิ าานมมินน ประมาทในกีมมาย อาญาจะเมน็ ไฐา้ า่ นติ ิบคุ คลถือาา่ เป็น “ผใู้ ฐ” เ่น่ เฐยก ากับบคุ คลธรรมฐา ทนกสามารถเป็นทงั้ ผทู้ มนก มนนิ ประมาทและถกู มมนนิ ประมาทไฐน้ นนั เอง 2) ความผดิ ฐานหม่นิ ประมาทผ้ตู าย การหมน่ิ ประมาทบคุ คลธรรมดาจะเป็นความผิดแล้ว การใสค่ วามผู้ตายในบางกรณี กฎหมายกก็ าหนดวา่ เป็นความผดิ แม้วา่ คาว่า “ผอู้ ืน่ ” จะต้องหมายถึงผู้มีชีวติ อยตู่ ามวรรคแรกของมาตรา 15 ในประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา327 การหม่นิ ประมาทผตู้ ายยอ่ มทาให้ชื่อเสยี งของผู้ตาย เสื่อมเสียและยังกระทบและสร้างความเสื่อมเสียต่อบุคคลทีย่ ังมีชีวิตอยตู่ ามไปด้วย โดยกฎหมายก็มีขอบเขตดงั ท่ีได้บัญญัตไิ ว้ โดยคาวา่ “บดิ า” “มารดา” “คู่สมรส” และ “บตุ ร” จะต้องเป็นบคุ คลที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์เทา่ น้นั โดยในกรณดี งั กล่าวก็มีข้อสังเกตว่าการทก่ี ฎหมายกาหนดใหเ้ พียง บดิ า มารดา คู่สมรสและบตุ รทีช่ อบด้วยกฎหมายเท่านั้น ท่ี กาหนดเช่นนีก้ ็เพือ่ ท่จี ะปอ้ งกันปัญหาการฟ้องคดีที่ไม่ส้นิ สุด ดังน้ันจึงเห็นได้วา่ ในความผดิ ฐานหม่ินประมาทผู้ตายแม้กฎหมาย
ตามตัวบทจะอธิบายถึงความผิดในการหม่ินประมาทผตู้ ายก็ตาม แตเ่ มื่อพิจารณาตามความมุง่ หมายของกฎหมายกจ็ ะเหน็ ได้วา่ กฎหมายมุ่งคุ้มครองบุคคลใกล้ชดิ ทม่ี ีชีวิตอยนู่ น่ั เอง 3) ความผดิ ฐานหมิน่ ประมาทดว้ ยการโฆษณา ในเรือ่ งหมิ่นประมาทนั้น กฎหมายได้กาหนดโทษท่ีหนักขน้ึ หากเป็นการ กระทาโดยวธิ ีที่แพรห่ ลายไปยงั คนจานวนมาก โดยไม่มกี ารจากดั บคุ คล ซง่ึ ถือวา่ เปน็ การหมน่ิ ประมาทด้วยการโฆษณา โดย กฎหมายกาหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ซ่ึงการหม่นิ ประมาทด้วยการโฆษณาจึงหมายความถงึ การกระทา การใดๆ โดยการเผยแพร่ไปสู่สาธารณะทีไ่ มจ่ ากัดบคุ คล ไม่ว่าด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพยนตร์ ฯลฯ การกระทาการมมินน ประมาทฐา้ ยาธิ กการโษาณาฐงั กลา่ า กีมมาย ไฐก้ ามนฐโทาไาส้ งู อนึ้ กาา่ การมมนนิ ประมาททานั ไป โฐยจะมโก ทาจาคกุ ไม่ เกินสองปก และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท ซึนงมนกั กาา่ มมนนิ ประมาทตามมาตรา 326 คอื จาคกุ ไม่เกินมนึนงปก มรือ ปรบั ไมเ่ กิน สองมมนนื บาทมรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั เนอนื งจากคานงึ ถึงผลอองคาามเสยก มายทเกน กิฐอนึ้ อองผถู้ กู มมนนิ ประมาทจากการทนกถกู แพรม่ ลายไปยงั บคุ คลมลายคนเกิฐคาามเสกยมาย มากกา่าการถกู มมนินประมาทฐา้ ยาธิ กก ารธรรมฐา แตอ่ ย่างไรกด็ ีการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้นมขี ้อสังเกตท่ีนา่ สนใจวา่ แม้ว่าผหู้ ม่นิ ประมาทจะให้สัมภาษณผ์ ู้สือ่ ขา่ ว หนังสือพมิ พใ์ นเชงิ ท่ีใส่ความผูอ้ ื่น แล้วหนังสือพิมพ์นาขอ้ ความน้นั ไปลงพิมพ์โฆษณาเอง โดยที่ผหู้ มนิ่ ประมาทไม่ทราบเรือ่ ง เชน่ นี้ผู้หม่ินประมาทจะมีความผิดฐานหม่ินประมาทโดยการโฆษณาหรือไมน่ ้ัน เมื่อพจิ ารณาตาม
บรรณานุกรม รองศาสตราจารย์ ดร.คณพล จันทน์หอม. (2563). คาอธบิ ายกฎหมายอาญาภาคความผิด เลม่ 3 (พมิ พค์ ร้ังท่ี5). กรงุ เทพฯ : วิญญูชน พิชยั พืชมงคล สืบค้น 12 กันยายน 2564,จาก https://www.dlo.co.th/legal-articles/2153 กล่มุ งานนิตกิ าร สานักอานวยการ สืบค้น 12 กันยายน 2564,จาก https://www.hrdi.or.th/InternalRules/Detail/1468 เฉลมิ วุฒิ สาระกิจ อาจารย์ประจาคณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา สืบค้น 18 กนั ยายน 2564, จาก https://sites.google.com/view/chalermwut/กฏหมายอาญาภาคความผดิ /ความผิดตอ่ ชอื่ เสียง ARTICLE 19 สืบค้น 20 กันยายน 2564,จาก https://www.article19.org/wp- content/uploads/2021/03/Thailand_Truth_be_told_decriminalise_defamation_THAI.pdf
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: