สรุปการบรรยาย ครั้งที่ 1

ส า รั ต ถ ะ พุ ท ธ ป รั ช ญ า ใ น พ ร ะ ไตรปฎก ส รุ ป ก า ร บรรยาย ค รั ง ที 1 ป ริ ญ ญ า โ ท ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร์ เสนอ

ชอื่ ......นางมนี า สุขชมุ่ ............... รหสั ........... 6420140432023.........................คะแนน............. สรปุ ใจความสำคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้อื หา (ไมเ่ กนิ ๓ บรรทัด) ในการบรรยายชใี้ ห้เหน็ วา่ เหตุใดพุทธศาสนาจงึ สำคัญในความรู้สกึ ของคนตา่ งประเทศ โดยหัวใจของ พุทธศาสนาท่ีพระพุทธเจ้าทรงสอนคือเร่อื งทกุ ขแ์ ละการดบั ทุกข์ การยึดหลักคำสอน ไตรลกั ษณ์ และ อรยิ สัจ จะนำเราไปสู่ความเข้าใจเรือ่ งทกุ ขแ์ ละหนทางไปสู่การดับทุกข์ ๒. เนือ้ หาใจความสำคญั ๒.๑ (ก.จรยิ ศาสตร์) จรยิ ศาสตร์ ส่งิ ที่พระพุทธเจ้าไดส้ อน คอื เร่ืองความทกุ ข์ และการดับทุกข์ พระสตู รของพระพุทธเจ้า ที่เกี่ยวกับเร่ืองความทกุ ข์ และการดับทกุ ข์ คอื อนัตตลักขณสตู ร ซึง่ กล่าววา่ “คนเรา เกิดมาถูกธรรมชาตสิ รา้ ง ใหช้ นิ กับการเปน็ เรา” เพราะคนเราจะเป็นทกุ ข์ด้วยความเคยชนิ กับสงิ่ ทค่ี ิดว่าเราเป็นเรา ฉันเป็นฉัน กคู ือกู ส่งิ ใดท่เี รามีหรือหามาไดก้ ็จะถูกผนวกว่าเปน็ ของเรา วิธีทจ่ี ะทำใหเ้ ราไม่ทุกข์ในทางทฤษฎคี ือเตือนตนเองว่า เรา ไมใ่ ช่เรา ไมม่ ีสง่ิ ใดยึดได้ว่าเป็นของเรา ๒.๒ (ข.ปรัชญาธรรมชาติ) ปรัชญาธรรมชาติ หรือ ปรชั ญาแห่งธรรมชาติ คอื การศกึ ษาของโลก ธรรมชาติ และทางกายภาพ จกั รวาล ว่าเป็นยังไง ชีวติ เราเป็นยงั ไง วธิ กี ารที่จะไปดบั ทกุ ข์ว่าเราเปน็ เราจรงิ ๆแลว้ เราไม่ใช้เรา ความรูท้ าง ปรัชญาและวทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาติ ทส่ี อดคล้องเข้ากับพุทธศาสนา คอื ไตรลักษณ์ และอริยสจั มีดังนี้ ๑. ไตรลกั ษณ์ ประกอบด้วย อนิจจงั ทกุ ขงั อนตั ตา - อนิจจัง สง่ิ ตา่ งๆ ในโลกธรรมชาตทิ ุกอยา่ ง คือ ความไมเ่ ที่ยง ไม่มสี ิ่งใดเคยเปน็ อยา่ งไรแล้ว ต้องเปน็ อยา่ งนนั้ - ทกุ ขงั คือ ความเป็นทุกข์ คือ อาการที่ถูกบบี คั้นซึง่ อยู่ภายในจติ ใจของตนเอง - อนัตตา คอื ความไมใ่ ชต่ วั ตน ความไม่มีตัวตนท่ีแทจ้ ริงของมันเอง ไมใ่ ช่ของใคร ไมอ่ ยใู่ น อำนาจควบคุมของใคร 2. อริยสัจ ประกอบด้วย ทุกข์ สมทุ ัย นโิ รธ และมรรค แนวปฏบิ ัติที่นำไปส่คู วามดับทุกข์ ซง่ึ คอื มรรค ๘ แบ่งออกเป็น 3 สว่ น ไดแ้ ก่ - ศีล คอื การฝกึ กายและวาจา พยายามเป็นคนทีม่ ีสติ คอยยับยง้ั ชั่งใจ ไม่ให้กระทำการ ใดๆ ท่ีไม่ดี โกรธกค็ วรระงับไว้ในใจ กลัน้ ใจอยา่ ทำร้ายท้ังทางกาย และวาจา - สมาธิ คือ การฝกึ จติ ใจของเราให้มสี ติไว ข่มใจตอ่ สิง่ ต่าง ๆ สกัดกลัน้ ความรุนแรงได้ - ปัญญา คอื การพฒั นาความรใู้ ห้เกิดการรู้แจ้งตามหลักความจรงิ มีเหตุ มีผล

ชื่อ นางสาวสาวิตรี นามสกุล เชี่ยวชาญ รหสั ๖๔๒๐๑๔๐๔๓๒๐๑๕ สรปุ ใจความสาคัญของพุทธปรัชญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนอื้ หา (ไม่เกนิ ๓ บรรทัด) ทุกข์ มักจะเกิดจากการยึดมั่นถือมั่น เพราะเม่ือลองพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ปัญหาในสังคมมักจะ เกิดจาก การมีอัตตา (ยึดม่ันถือม่ัน) ซึ่งการดับทุกข์ คือการมองเห็นว่าไม่มีอะไรบนโลกท่ีเป็นของเรา เราก็จะ เข้าใจในความเปล่ียนแปลงหรือสิ่งที่มากระทบต่อตัวเราได้ ซ่ึงหลักไตรลักษณ์และอริยสัจ จะทาให้เราเข้าใจใน ความเป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ไดด้ ี ๒. เน้ือหาใจความสาคญั ๒.๑ (จริยศาสตร์) ทุกข์และการดับทุกข์ คือหัวใจสาคัญท่ีพระพุทธเจ้าทรงสอน เพื่อให้เข้าใจความเป็นไปของมนุษย์ เพราะคนส่วนใหญ่ท่ีเกิดความทุกข์ มักจะมาจากการยึดมั่นถือมั่น ว่าตัวกูเป็นของกู ปัญหาท่ีเกิดขึ้นในสังคม ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่ยึดมั่นถือมั่น เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ดังนั้นการไม่ยึดม่ันถือม่ัน จึงถือเป็นเร่ืองสาคัญ เพราะไมม่ อี ะไรทีเ่ ป็นของเรา แม้กระทงั่ ร่างกายของเรา ๒.๒ (ไตรลกั ษณ)์ อนิจจัง คือ สิ่งท่ีทาให้เรารู้ตวั เองว่า ทุกอย่างล้วนเปล่ยี นแปลง ไมส่ ามารถคงสภาพอยู่ได้ เช่นเมื่ออายุ เปลี่ยนไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ความสวยความหล่อ ก็เปล่ียนไปตามกาลเวลาตามอายุของเราท่ี เพิ่มขึ้น เปน็ ต้น ทุกขัง คือ ให้เราเข้าใจในโลกธรรมชาติว่าบางสิ่งบางอย่างที่มันมีความเคลื่อนไหวมาก ข้างในมักจะมี ความทกุ ข์ ท่ที าใหเ้ กดิ การขบั เคลอ่ื น สภาพที่ทนอยแู่ บบเดิมไม่ได้ อนัตตา คือ การไม่ใช่ตัวตน หรือการไม่มีตัวตนของสรรพส่ิงทั้งหลาย เช่น ตัวเราไม่ใช่ตัวเรา เพราะมีสิ่งอน่ื ประกอบอยู่ดว้ ย เปน็ ตน้ ๒.๓ (อรยิ สัจ ๔) คือคาสอนท่ีประมวลเกี่ยวกับ ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค ซ่ึงข้อที่สาคัญคือ มรรค มีท้ังหมด ๘ ข้อ แตส่ ามารถสรปุ ได้ ๓ สว่ น คอื ศลี สมาธิ และปญั ญา ศลี คือ การฝกึ หดั ตนใหย้ บั ย้ังช่ังใจทางกายและวาจา ไมใ่ หแ้ สดงกริ ยิ าออกมาในทางที่ไมด่ ี สมาธิ คอื การพยายามทาให้ตนมีสติอยู่กับตวั เสมอ การรูต้ ัวเองอยู่เสมอ สมาธจิ ะเกิดขึน้ ภายหลังของ การมีศีล ปญั ญา คือ การฝึกตนให้คดิ รอบครอบ พินจิ พิจารณาสง่ิ รอบกายอย่างละเอยี ด

ชื่อ นางสาวอภิญญา นามสกุล ไชยเบา้ รหสั 6420140432013 สรุป ใจความสาคัญของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา 1. ภาพรวมของเนื้อหา (ไมเ่ กิน 3 บรรทดั ) พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนเรอื่ งการดบั ทกุ ข์ กลา่ วถงึ สาเหตทุ ่ีมนุษยท์ ี่เราเปน็ ทุกข์เพราะเราปรุงแตง่ ขน้ึ มา ยึดตดิ วา่ อันน้ีของเรา ตัวเรา ซงึ่ ในความเป็นจริงแลว้ ไม่มีอะไรเป็นของเรา กระทงั้ ตวั ของเราเอง 2. เน้อื หาใจความสาคัญ - ศาสนาพุทธมีพระไตรปิฎก(ภาษาบาลี)ให้ศกึ ษาต้ังแตส่ มยั สโุ ขทัย - พ.ศ.2500 มพี ระไตรปฎิ กภาษาไทยฉบับหลวง 2.1 จริยศาสตร์ ทกุ ข์และการดบั ทกุ ข์ เกิดจากอะไรและเราจะสามารถดบั ทุกข์ได้อย่างไร? การทุกขเ์ กดิ จากการยึดตดิ ตา่ ง ๆ ว่าเป็นของเรา โดยวธิ กี ารดับทกุ ข์คือลดการยึดตดิ ไดม้ าก เท่าไหร่ ความทุกข์ก็จะลดลงมากเทา่ นน้ั เพราะไมม่ อี ะไรเปน็ ของเราแม้กระทั้งตัวเราเอง 2.2 ปรัชญาธรรมชาติ ไตรลักษณ์ 3 ประการ 1. อนิจจงั : ความไมเ่ ทยี่ ง แปลว่าเคยเป็นอยา่ งนใี้ นวันนี้ วันหน้าไมไ่ ด้เปน็ แบบนนั้ แลว้ 2. ทกุ ขัง: ความเป็นทกุ ข์ 3. อนัตตา: ความเป็นอนัตตา ความไม่ใชต่ ัวตน อรยิ สัจ 4 1. ทกุ ข์: เข้าใจปญั หาคอื อะไร 2. สมทุ ยั : สาเหตุของทุกข์ (การยดึ มั่นวา่ เปน็ ของเรา ตัวเรา) 3. นิโรธ: ภาวะดบั ทกุ ข์ 4. มรรค: วิธกี ารดบั ทกุ ข์ 2.3 มรรค 8 ยอ่ ลงมาได้คอื ไตรสกิ ขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) ศีล: การฝึกหดั ตนท่ีไม่ประพฤตผิ ิดทางกาย วาจา คือหลกั สอนตวั เองให้มกี ารยบั ย้ังชง่ั ใจเวลา ทถี่ ูกกระทบ สมาธิ: ฝกึ บอ่ ยๆจะชว่ ยยับยงั้ อารมณ์ กิเลส ปัญญา: ฝึกตนใหค้ ดิ รอบครอบ

ช่อื นางสาวลัดดาวลั ย์ นามสกุล ทองแก้ว รหสั ๖๔๒๐๑๔๐๓๒๐๑๖ สรปุ ใจความสาคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนือ้ หา (ไมเ่ กิน ๓ บรรทดั ) หัวใจของศาสนาพุทธ พระพทุ ธเจา้ สอนไวว้ า่ ชวี ิตมันเป็นทกุ ขแ์ ล้วจะเลิกเป็นทกุ ขไ์ ด้อย่างไร สาระสาคัญของศาสนาพทุ ธ พระพทุ ธเจ้าสอนไว้ ๒ เรื่อง คือ ทกุ ขแ์ ละการดบั ทกุ ข์ ทกุ ข์มักเกิดจากการ ยดึ ม่ัน ถอื ม่ัน คิดวา่ ทุกสิ่งทุกอยา่ งเปน็ ของตน แตเ่ มอื่ พิจารณาแลว้ จะรวู้ า่ ทุกส่ิงทุกอย่างบนโลกไมใ่ ช่ของเรา ๒. เน้อื หาใจความสาคญั ๒.๑ (ก.จรยิ ศาสตร)์ พระพทุ ธเจ้าสอนเรอ่ื งทุกขแ์ ละการดบั ทุกข์ ธรรมท่พี ระองคท์ รงรู้มีมาก เหมือนใบไมท้ ม่ี ใี นปา่ ซึ่ง พระองคไ์ มท่ รงนามาสอน เพราะไมม่ ปี ระโยชน์ ไม่นาไปสู่ความพน้ ทุกข์ เพราะมนษุ ยเ์ ราเคยชินของธรรมชาติ ที่ว่าน่คี อื เรา อะไรทเี่ ก่ียวข้องกบั ตัวเราคอื ของเรา แลว้ อะไรก็แล้วแต่ท่ีโดนกระทากจ็ ะเสมอื นวา่ ทากับเรา นคี่ ือ สาเหตุของการเกิดทกุ ข์ เพราะเราถูกสรา้ งมาใหม้ ีความรสู้ ึกแบบนตี้ ามธรรมชาติ แต่พระพทุ ธเจา้ ใหเ้ ราทาใจให้ ชีวิตมันว่างปา่ วว่าของเหลา่ นไี้ มใ่ ชข่ องเรา เราจะได้ไม่ทุกข์ ๒.๒ (ข.ปรัชญาธรรมชาติ) ปรชั ญาธรรมชาติ คอื พดู ถงึ โลกเป็นอยา่ งไง มีธรรมชาติอย่างไง ชวี ิตเราเขาสรา้ งมาให้เปน็ อย่างไร เปน็ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการกรองใหเ้ ราพินจิ พจิ ารณา ใหค้ นุ้ เคยกับการคิดว่าเราไมใ่ ชเ่ รา ไตรลกั ษณ์ มีคาสอน ๓ ข้อ อนจิ จงั คอื ส่ิงตา่ ง ๆ ในโลกธรรมชาตทิ ี่ประกอบด้วยความไมเ่ ที่ยง ทุกขงั คือ เปน็ การมองลึกให้เปน็ ประโยชน์ มองเห็นถงึ ความไม่ใช่ตัวตนของเรา อนัตตา คือ ในโลกนไ้ี ม่มีสงิ่ ใดเป็นของเรา ทุกอยา่ งคอื สง่ิ สมมุติ ถา้ มมี นษุ ยม์ ไี ตรลกั ษณ์ ๓ ข้อนจี้ ะทาให้มองความเป็นเรา น้อยลง จางลง อรยิ สจั มีคาสอน ๔ ข้อ ๑. ทกุ ข์ คือ ความทกุ ข์ ๒. สมทุ ยั คอื เหตใุ หเ้ กดิ ทกุ ข์ ๓. นโิ รธ คือ ความดบั ทกุ ข์ ๔. มรรค คือ ทางแห่งความดบั ทกุ ข์

ชื่อ นายวิชยั นามสกุล พรหมสุรนิ ทร์ รหสั 6320140432002 คะแนน............. สรุป ใจความสำคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนอ้ื หา การเรยี นปริญญาเอกทางพุทธศาสนาแต่ก่อนตอ้ งไปเรียนที่ต่างประเทศ เราได้อา่ นพระไตรปิฎกฉบับ ภาษาไทยในปพี ุทธศกั ราช 2500 ฉลอง 25 พทุ ธศตวรรษพระพทุ ธเจ้าสอนเรอ่ื งทกุ ข์และการดบั ทุกขไ์ ตรลกั ษณ์ ประกอบด้วย 3 ขอ้ อนจิ จงั ทุกขงั อนัตตา อริยสจั ประกอบด้วย ทกุ ข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค ๒. เน้อื หาใจความสำคญั ๒.๑ (การศกึ ษาพุทธศาสนา) เมื่อก่อนพระไทยถ้าอยากได้ปริญญาเอกทางพุทธศาสนา ต้องไปเรียนต่างประเทศยุโรป เยอรมัน อังกฤษ รสั เซยี ประเทศเหล่านี้ศึกษาศาสนาพุทธในแง่ เป็นวิชาการมากกว่าเราพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลีคน ทอี่ ่านพระไตรปฎิ กได้ต้องเรยี นภาษาบาลี การเรียนในวัดที่มีมาตัง้ แต่สมัยสโุ ขทยั สำหรับคนทีไ่ มร่ ู้ภาษาบาลีต้อง ฟังจากพระเทศน์อย่างเดียวปีพุทธศักราช 2500 ฉลอง 25 พุทธศตวรรษ รัฐบาลช่วยให้คณะสงฆ์แปลภาษา บาลีจากพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยใช้เวลา 3-4 ปีระดมพระท่ีมีความรู้ความสามารถทางบาลีเสร็จแล้ว รัฐบาลจัดพิมพ์ เรียกว่า “พระไตรปิฎกฉบับหลวง” ประมาณปี พุทธศักราช 2450 คนอังกฤษอ่าน พระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษก่อนเราประมาณ 50 ปีท้ังที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่ได้อ่านก่อนคนไทย ประมาณ 50 ปี คนไทยอยากได้ปริญญาเอกทางพุทธศาสนาต้องไปเรียนกบั ชาวต่างชาติเป็นเรอ่ื งแปลกมาก ท่ี เรานบั ถอื ศาสนาพุทธแตต่ ้องไปเรยี นกับต่างชาติที่ไม่ได้นบั ถือศาสนาพุทธปัจจบุ ันเรยี นที่ไทยไดแ้ ลว้ ๒.๒ (ปรัชญาธรรมชาติ) พระพุทธเจา้ สอนเร่อื งทุกข์และการดับทุกขพ์ ระพุทธเจา้ ทรงสอนสาวกได้กำไรไมใ้ นมอื และถามวา่ ที่อยู่ ในมือกับในป่าอันไหนมากหรือน้อยกว่ากัน ทท่ี ำใหด้ ูจะบอกว่าความรู้ในโลกมากมายเหมือนใบไม้ในป่าความรู้ เราที่เลือกจะเอามาสอนเหมือนใบไม้ในกำมือ ปรัชญาธรรมชาติลึก ๆ พูดถึงโลกเป็นอย่างไร ธรรมชาติเป็น อย่างไร ชีวติ เราสร้างมาอย่างไร ท้ังหมดน้ีเรยี กว่าปรัชญาธรรมชาติ หลักการในการดบั ทุกข์ พระพุทธเจ้าสอน เรื่องไตรลักษณ์ ประกอบด้วย 3 ข้อ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อนิจจังบอกว่าโลกธรรมชาติประกอบด้วยความ ไมเ่ ท่ียง เที่ยงไม่ใชแ่ ปลว่าเช้าหรือบ่าย หมายถึง เป็นอยา่ งไรกเ็ ป็นอย่างน้นั อนจิ จงั คอื สิ่งต่างๆ ในโลกไมม่ ีสง่ิ ใด ทเี่ ป็นอย่างไรกเ็ ป็นอยา่ งนั้นตลอดไป อริยสัจ ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค มรรคมี 8 ข้อสรุปง่ายๆ มี 3 ส่วนศีล สมาธิ ปัญญา ศีล เป็นเร่ืองของกายและวาจาไม่เก่ียวกับเร่ืองของใจ สอนตนเองให้มีความยับย้ังชั่งใจ สมาธิ เป็นการ พัฒนาใจให้มีความต้ังม่ัน มีสติสัมปชัญญะ หมายถึง การทำความดี ปัญญา เป็นการพัฒนาความรู้ให้เกิดการรู้ แจง้ ตามหลกั ความจรงิ มเี หตุ มีผล ศาสนาพทุ ธสอนในแง่ของการให้อภัยคือการยอม ต้องเปน็ คนมสี มาธิ

สรปุ ใจความสำคญั ของพุทธปรัชญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้อื หา (ไม่เกนิ ๓ บรรทัด) หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาในเรื่องของทุกข์และการดับทุกข์ ชีวิตเป็นทุกจะดับทุกข์เพราะว่า ธรรมชาติสร้างเรามาให้มีความรู้สกึ เราคือเรา วิธีทำใหช้ ีวิตไม่ทุกขใ์ ห้เตือนตวั เราว่าเราไม่ใช้เรา เพราะในตัวเรา มอี ะไรแฝงอยู่เยอะการยดึ หลกั คำสอน ไตรลกั ษณ์ และ อริยสจั 4 ทำใหค้ วามรู้สึกว่าเราเป็นเราจางลง ๒. เนอื้ หาใจความสำคญั ๒.๑ (จริยศาสตร์) ในศาสนาพทุ ธ และพระพุทธเจ้าทา่ นสอนเรือ่ ง ทกุ ขแ์ ละการดับทุกข์ ชีวติ เป็นทกุ จะดบั ทุกข์อยา่ งไร สาเหตทุ ีม่ นุษยเ์ ราเปน็ ทกุ ข์กเ็ พราะวา่ ธรรมชาติสรา้ งเรามาให้มคี วามรสู้ กึ เราคือเรา วิธที ำให้ชวี ิตไม่ทกุ ข์ให้ เตอื นตวั เราว่าเราไมใ่ ชเ้ รา ส่ิงเหลา่ น้ันไม่ ๒.๒ (ปรชั ญาธรรมชาติ) ปรัชญาธรรมชาติ หรือ ปรัชญาแห่งธรรมชาติ คือ การศึกษาของโลก ธรรมชาติ และทางกายภาพ จักรวาล ว่าเป็นยังไง ชีวิตเราเป็นยังไง วิธีการที่จะไปดับทุกข์ว่าเราเป็นเราจริงๆแล้วเราไม่ใช้เรานั้นไม่ง่าย พระพุทธเจา้ กต็ ้องสอนสิง่ อืน่ ด้วยในทีน่ ี้คอื ปรัชญาธรรมชาติ โดยจะพูด 2 เรอ่ื ง ไตรลกั ษณแ์ ละอรยิ สจั ดงั นี้ • ไตรลักษณ์ ลกั ษณะ ๓ ประการ 1. อนิจจัง - ความไม่เท่ียง 2. ทกุ ขงั - ความเปน็ ทกุ ข์ 3. อนตั ตา - ความเปน็ อนัตตา ความไมใ่ ชต่ ัวตน ความไมม่ ีตวั ตนท่แี ท้จรงิ ของมนั เอง ไมใ่ ช่ของใคร ไมอ่ ยู่ในอำนาจควบคมุ ของใคร ในตวั เรามีอะไรแฝงอยู่เยอะหลกั ไตรลักษณท์ ำให้ความรสู้ ึกว่าเราเปน็ เราจางลง • อริยสจั 4 1) ทุกข์ คอื ความทกุ ข์ 2) สมทุ ยั คอื เหตใุ ห้เกดิ ทกุ ข์ 3) นโิ รธ คือ ความดับทุกข์ 4) มรรค คือ ทางแห่งความดับทกุ ข์ ๒.๓ (มรรค) มรรค 8 ยอ่ ลงมาได้ 3 ข้อ คอื ศีล สมาธิ ปัญญา (ไตรสกิ ขา) ศลิ คือ ควบคุมความประพฤตทิ างกาย และวาจาใหต้ ัง้ อยู่ในความดีงามมคี วามปกตสิ ขุ , สมาธิ คือ การตระหนกั รู้ตนเอง และจิตสำนกึ ต่อการทำงาน คนมีสมาธิเป็นคนมที ักษะ ,ปญั ญา คือ ฝึกตนใหเ้ ป็นคนคดิ รอบครอบ

ช่ือ นางสาวสพุ รรษา นามสกุล โล่หค์ า รหัส๖๔๒๐๑๔๐๔๓๒๐๑๒ คะแนน............. สรุป ใจความสาคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้ือหา (ไมเ่ กนิ ๓ บรรทดั ) ในประเทศไทยมีการการศึกษาพระไตรปิฎกมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และจัดให้มีการแปลพระไตรปิฎก เป็นภาษาไทยฉบับหลวงเพ่ือให้ประชนชนที่มีความสนใจได้ศึกษาคาสอนของพระพุทธเจ้าหลักคาสอนทางใน เร่ืองของทุกขแ์ ละการดับทุกขช์ วี ติ เป็นทกุ ข์จะดับทกุ ข์เพราะว่า ทกุ ข์มักจะเกิดจากการยดึ มั่นถอื ม่นั ๒. เนอ้ื หาใจความสาคญั ๒.๑ จริยศาสตร(์ ความทกุ ข์ และการดับทกุ ข์) หัวใจของศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าท่านสอนเร่ือง ทุกข์และการดับทุกข์ชีวิตเป็นทุกข์จะดับทุกข์ อย่างไร สรุปส้ันๆ ได้ ๒ ประโยค คือ เรื่องความทุกข์ และการดับทุกข์ คือการดับทุกข์และต้องรู้สาเหตทุ ี่ทาให้ เกิดทุกข์ พร้อมทั้งหนทางไปสู่การดับทุกข์ หากบุคคลใดเข้าใจในสาเหตุของการเกิดทุกข์และสามารถดับทุกข์ โดยปฏบิ ัติตามคาสอนของพระพทุ ธเจ้า บคุ คลน้ันถอื วา่ ไดเ้ ข้าถงึ แกน่ แทข้ องพระพุทธศาสนาแลว้ ๒.๒ ไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ แปลว่า \"ลักษณะ ๓ อย่าง\" หมายถึงสามัญลักษณะ หรือลักษณะที่เสมอกัน หรือ ขอ้ กาหนด หรอื สงิ่ ทม่ี ปี ระจาอยใู่ นตัวของสงั ขารทงั้ ปวงเปน็ ธรรมท่ีพระพทุ ธเจ้าได้ตรสั รู้ ๓ อย่าง ไดแ้ ก่ อนิจจัง คอื สิง่ ทีท่ าให้เรารู้ตวั เองวา่ ทกุ อยา่ งล้วนเปล่ยี นแปลง ไมส่ ามารถคงสภาพอยไู่ ด้ ทุกข์ขัง คือ ให้เราเข้าใจในโลกธรรมชาตวิ ่าบางสิ่งบางอย่างที่มนั มคี วามเคลอ่ื นไหวมาก ข้าง ในมักจะมคี วามทุกข์ ทที่ าใหเ้ กิดการขับเคลือ่ น สภาพทีท่ นอยู่แบบเดิมไม่ได้ อนตั ตา คือ การไมใ่ ชต่ วั ตน หรือการไม่มตี วั ตนของสรรพส่งิ ทัง้ หลาย ๒.๓ อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ความจริงแห่งพระอริยะ สาหรับการดับทุกข์ เพื่อให้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงอัน ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ๑. ทุกข์ คือ ความทุกข์ เป็นส่ิงท่ีไมพ่ งึ ปรารถนา เป็นความจรงิ ท่ีพระอรยิ ะรแู้ จ้ง (ตรัสรู้) ๒. สมทุ ัย คอื มลู เหตุหรือต้นเหตแุ ห่งทุกขน์ ัน้ เป็นความจรงิ ท่พี ระอริยะพงึ มี ๓.นโิ รธ คือ สิ่งที่ใชด้ บั ทุกข์เปน็ ความจริงทที่ าใหเ้ ปน็ อรยิ ะ ๔. มรรค คือ แนวทางแห่งการดบั ทุกข์เปน็ ความจริงทพ่ี สิ จู นไ์ ด้ และไม่มีวนั หกั ล้างได้ ศลี สมาธิ ปัญญา จงึ เปน็ การเจริญ อรยิ มรรค เจริญสติปฏั ฐาน ทป่ี ระกอบดว้ ยศีล สมาธิ และ ปญั ญา พรอ้ มกันในขณะนนั้ แตกต่างจาก ทาน ศีล ภาวนา ที่เปน็ กุศลท่ีเกดิ แยกกัน ไม่พร้อมกนั เหมอื น กบั ศีล สมาธิ ปญั ญา ท่ีเกดิ พร้อมกนั

ช่ือ วา่ ที่ ร.ต.หญงิ ศิริลักษณ์ นามสกุล สมพงศ์ รหัส ๖๔๒๐๑๔๐๔๓๒๐๐๔ คะแนน............. สรุป ใจความสำคญั ของพทุ ธปรัชญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้อื หา (ไมเ่ กนิ ๓ บรรทัด) หลักคำสอนทางพระพทุ ธศาสนาในเร่อื งของทกุ ข์และการดบั ทกุ ข์ ชวี ติ เป็นทุกข์จะดบั ทุกข์เพราะว่า ทุกขม์ ักจะเกดิ จากการยึดมั่นถือม่นั เพราะเมอื่ ลองพิจารณาอยา่ งละเอียดแลว้ ปัญหาในสังคมมักจะ เกดิ จาก การมีอัตตา (ยึดม่นั ถอื มัน่ ) ซง่ึ การดับทกุ ข์ คอื การมองเหน็ ว่าไม่มอี ะไรบนโลกท่เี ป็นของเรา ๒. เนอื้ หาใจความสำคญั ๒.๑ (จรยิ ศาสตร)์ ในศาสนาพุทธ และพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่อง ทุกขแ์ ละการดับทกุ ข์ชวี ิตเปน็ ทุกข์จะดับทุกขอ์ ย่างไร สรปุ ส้นั ๆ ได้ 2 ประโยค คือ เรื่องความทุกข์ และการดับทุกข์ ธรรมท่พี ระองคท์ รงรู้มมี าก เหมือนใบไมท้ ม่ี ใี น ป่า ซ่ึงพระองคไ์ มท่ รงนำมาสอน เพราะไม่มปี ระโยชน์ ไมน่ ำไปสูค่ วามพ้นทุกข์ ส่วนธรรมทที่ รงนำมาสอนคือ เรื่องทุกข์ซึ่งมีประโยชน์ นำไปสคู่ วามพ้นทกุ ข์” ธรรม ทที่ รงนำมาสอนเทา่ กบั ใบไมก้ ำมอื เดยี ว พระสูตรของ พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดต้ รงๆ ถา้ พูดแบบนักปรัชญา “คนเราเกิดมาถกู ธรรมชาตสิ รา้ งให้ชินกับการเปน็ เรา” คนทุกข์ เกิดดว้ ยความเคยชนิ อะไรเก่ยี วกบั ตัวเราเป็นของเรา เป็นต้นตอความทกุ ข์ ทฤษฎใี หพ้ ยายามเตอื นตัววา่ เรา ไมใ่ ชเ่ รา ๒.๒ (ไตรลักษณ)์ อนจิ จงั คือ ส่งิ ท่ีทำให้เรารูต้ วั เองว่า ทกุ อย่างล้วนเปลย่ี นแปลง ไม่สามารถคงสภาพอยูไ่ ด้ ทุกข์ขัง คอื ใหเ้ ราเขา้ ใจในโลกธรรมชาตวิ า่ บางสง่ิ บางอยา่ งทมี่ นั มีความเคลื่อนไหวมาก ข้างในมักจะมี ความทกุ ข์ ทีท่ ำใหเ้ กิดการขับเคลือ่ น สภาพทที่ นอยู่แบบเดมิ ไมไ่ ด้ อนตั ตา คือ การไม่ใช่ตวั ตน หรือการไม่มตี วั ตนของสรรพสง่ิ ทั้งหลาย ๒.๓ (อรยิ สัจ ๔) คอื คำสอนทปี่ ระมวลเก่ียวกบั ทุกข์ สมทุ ัย นิโรจ มรรค ซ่งึ ขอ้ ทสี่ ำคญั คือ มรรค มที ง้ั หมด ๘ ขอ้ แตส่ ามารถสรปุ ได้ ๓ สว่ น คอื ศีล สมาธิ และปญั ญา ศลี คอื การฝกึ หัดตนให้ยับยัง้ ชั่งใจทางกายและวาจา ไม่ให้แสดงกิริยาออกมาในทางที่ไม่ดี สมาธิ คือ การพยายามทำใหต้ นมีสติอยู่กับตวั เสมอ การรู้ตวั เองอยูเ่ สมอ สมาธิจะเกดิ ข้ึนภายหลงั ของ การมีศลี ปัญญา คอื การฝกึ ตนให้คดิ รอบครอบ พินจิ พจิ ารณาส่ิงรอบกายอย่างละเอยี ด

ชื่อ วา่ ท่ี ร.ต.หญิงนันทช์ ณัฐพร นามสกุล นาคพล้ัง รหัส 6420140432006 คะแนน............. สรปุ ใจความสำคัญของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนอ้ื หา (ไม่เกนิ ๓ บรรทดั ) การศึกษาหลักธรรมคำสงั่ สอนของพระพทุ ธศาสนาในประเทศไทย และท่วั โลก โดยเนื้อหาหลักจะเน้น ถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา คือหลักของไตรลักษณ์ และเร่ืองของอริยสัจ เพราะทุกสิ่งบนโลกล้วนมีทุกข์ การใช้หลักของไตรลกั ษณ์ และเร่อื งของอรยิ สัจน้ันในการดบั ทุกข์ ๒. เนอ้ื หาใจความสำคญั ๒.๑ จรยิ ศาสตร์ พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องทุกข์ และการดับทุกข์ โดยหยิบยกเอาส่ิงของมาเป็นเครื่องส่ังสอนให้เกิด ปัญญาหยั่งรู้ในเร่ืองของทุกข์ ๒.๒ อนัตตลักขณสูตร เครื่องกำหนดหมายว่าเป็นอนัตตา มิใช่อัตตาตัวตน ซ่ึงการยึดถือในตัวตน ยึดในความคิดเราเป็น สาเหตหุ นึ่งทีท่ ำใหเ้ ราเป็นทุกข์ แตเ่ ม่ือเราทำใจให้ว่างเปล่า เราก็จะรเู้ องว่าทกุ สิ่งทกุ อย่างไมใ่ ช่ของเรา ๒.๓ ปรชั ญาธรรมชาติ คือ การศึกษาแก่นของทุกสรรพส่งิ บนโลก โดยพระพุทธองค์ทรงได้กล่าวถึงปรัชญาธรรมชาติ เก่ียวกับ ความทกุ ๒ เรอ่ื ง คอื ๒.๓.๑ เรื่องไตรลกั ษณ์ - อนิจจัง (ความไมเ่ ท่ียง) - ทกุ ขัง (ความเปน็ ทกุ ข์) - อนัตตา (ความไม่จีรังในชวี ติ ทกุ ส่ิงลว้ นไม่ใชข่ องตน) 2.3.2 เร่อื งอริยสัจ - ทกุ ข์ (ความทกุ ข์) - สมุทยั (สาเหตุของการเกิดทกุ ข)์ - นโิ รธ (ความดบั ทุกข์) - มรรค (วธิ ีการดับทกุ ข)์

ชอ่ื ......นางสาวสุธรี า......นามสกลุ ......บญุ สง่ ....... รหัส.....6420140432008.....คะแนน............. สรปุ ใจความสำคัญของพทุ ธปรัชญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ---------------------------- ๑. ภาพรวมของเนื้อหา (ไมเ่ กิน ๓ บรรทัด) ศาสนาพุทธมพี ระไตรปิฎกเปน็ ภาษาบาลีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ประเทศไทยได้แปลภาษาบาลี เป็นภาษาไทยในปี 2,500 รัฐบาลไทยทำการฉลอง 25 พุทธศตวรรษ รัฐบาลไทยขอให้พระสงฆ์แปล พระไตรปฎิ กจากภาษาบาลเี ป็นภาษาไทย รัฐดำเนนิ การจดั พมิ พพ์ ระไตรปิฎก ชือ่ พระไตรปิฎกฉบบั หลวง ๒. เนื้อหาใจความสำคญั ๒.๑ (ก.จริยศาสตร์) จริยศาสตร์ สิ่งที่พระพุทธเจา้ ได้สอน สรุปสั้นๆ ได้ 2 ประโยค คือ เรื่องความทุกข์ และการ ดับทุกข์ ธรรมที่พระองค์ทรงรูม้ มี าก เหมือนใบไม้ทีม่ ีในป่า ซึ่งพระองค์ไม่ทรงนำมาสอน เพราะไม่มปี ระโยชน์ ไม่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ ส่วนธรรมที่ทรงนำมาสอนคือ เรื่องทุกข์ ซึ่งมีประโยชน์ นำไปสู่ความพ้นทุกข”์ ธรรม ที่ทรงนำมาสอนเท่ากับใบไม้กำมือเดียว พระสูตรของพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรงๆ ถ้าพูดแบบนักปรัชญา “คนเรา เกิดมาถูกธรรมชาติสร้างให้ชินกับการเป็นเรา” คนทุกข์เกิดด้วยความเคยชินอะไรเกี่ยวกบั ตัวเราเป็นของเรา เป็นตน้ ตอความทุกข์ ทฤษฎใี หพ้ ยายามเตือนตวั วา่ เราไม่ใช่เรา ๒.๒ (ข.ปรัชญาธรรมชาติ) ปรชั ญาธรรมชาติ โลกเปน็ อย่างไร มธี รรมชาติอยา่ งไร ดับทกุ ข์โดยจดั การความรู้สกึ ที่เราเป็น เรา เราไม่ใช่เรา พระพทุ ธเจา้ จงึ สอนปรัชญาธรรมชาติ พูดถึง 2 เรื่องในพระไตรปิฎก สอนเพ่อื นำไปใช้เลิกคิด ว่าเราเป็นเรา ไม่ใช่ของเรา จึงทำให้ความรู้ทางปรัชญาและวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มาประสานสอดคล้อง เขา้ กับพุทธศาสนา คอื ไตรลักษณ์ และอรยิ สัจ มดี งั น้ี 1. ไตรลักษณ์ ประกอบด้วย อนจิ จัง ทกุ ขัง อนัตตา อนิจจัง คือ โลกธรรมชาติประกอบด้วยความไม่เที่ยง ความไม่คงที่ ความไม่ยั่งยืน ภาวะทเ่ี กิดขน้ึ แลว้ เส่อื มและสลายไป ทุกขัง คือ ความเป็นทุกข์ ภาวะที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายตัว ภาวะ ทกี่ ดดนั ฝืนและขัดแย้งอยู่ในตัว เพราะปจั จัยท่ีปรุงแตง่ ให้มีสภาพเปน็ อย่างน้ันเปลีย่ นแปลงไป จะทำให้คงอยู่ ในสภาพน้นั ไมไ่ ด้ ภาวะทไ่ี มส่ มบูรณม์ คี วามบกพร่องอยูใ่ นตัว อนัตตา คอื ความเป็นอนัตตา ความไม่ใชต่ วั ตน ความไม่มตี วั ตนท่แี ท้จริงของตัวเอง ไมใ่ ชข่ องใคร ไมอ่ ยใู่ นอำนาจควบคุมของใคร 2. อริยสัจ ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นสภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทน อยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่บีบคั้น สาเหตุของทุกข์ การมีอยู่ของทุกข์ แนวปฏิบัติที่นำไปสู่หรือนำไปถึง ความดับทกุ ข์ ซ่ึงมรรครวมกนั แล้วเหลอื เพยี ง คอื ศลี สมาธิ ปัญญา ซ่ึงศลี คือการปฏบิ ัตติ นให้อยู่ในระเบียบ วินัย สำรวมกาย วาจา ใจ หมายถึง การละเว้นการทำความชั่ว สมาธิ คือ การพัฒนาใจให้มีความตั้งม่ัน มีสติสัมปชัญญะ หมายถึง การทำความดี ปัญญา คือ การพัฒนาความรู้ให้เกิดการรู้แจ้งตามหลักความจริง มีเหตุ มผี ล

ชื่อ นางสาวจุฑามาศ นามสกุล ฉมิ พาลี รหัส 6420140432014 คะแนน............. สรุป ใจความสำคัญของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนอ้ื หา (ไม่เกิน ๓ บรรทัด) ทุกข์ เปน็ หลักธรรมสำคญั ในศาสนาพุทธ โดยทั่วไปหมายถึง สงั ขารท้งั ปวง อนั ไดแ้ ก่ ขนั ธ์ 5 ซึง่ เปน็ ทต่ี ้ังของกองทุกข์ในทางพระพุทธศาสนา การกำหนดทกุ ขถ์ อื เป็นกจิ ในอริยสัจ 4 ที่ชาวพุทธตอ้ งทำเพ่อื ละและ ปล่อยวางในลำดับตอ่ ไปในกจิ ทัง้ สใี่ นอรยิ สัจ เพือ่ ในการดับทุกข์ ๒. เนอ้ื หาใจความสำคัญ ๒.๑ จริยศาสตร์ ในหลกั พระพุทธศาสนา สอนในเรื่อง ทกุ ข์และการดบั ทุกข์ พทุ ธศาสนาไมส่ อนให้คนพน้ ทกุ ข์ด้วยการ แกป้ ญั หานอกกาย คอื หนีความทุกข์ด้วยการแสวงหาความสขุ หรอื หาทางพ้นทกุ ขด์ ว้ ยการทำให้ตนลำบาก แต่ทรงสอนใหแ้ ก้ทุกข์ด้วยการ “แก้ทใี่ นจติ ใจของเราเอง” ๒.๒ ไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ แปลว่า \"ลักษณะ ๓ อย่าง\" หมายถึงสามัญลักษณะ หรือลักษณะท่ีเสมอกนั หรอื ขอ้ กำหนด หรือสง่ิ ทมี่ ีประจำอยู่ในตวั ของสังขารทั้งปวงเป็นธรรมทพี่ ระพุทธเจา้ ได้ตรสั รู้ ๓ อย่าง ได้แก่ 1. อนจิ จตา (อนิจจงั ) - ความไมเ่ ท่ียง ความไมค่ งที่ ความไม่ย่ังยนื ภาวะทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ เส่อื มและสลายไป 2. ทุกขตา (ทุกขัง) - ความเปน็ ทุกข์ ภาวะที่ถกู บีบคัน้ ดว้ ยการเกิดขนึ้ และสลายตวั ภาวะทก่ี ดดัน ฝืนและ ขัดแยง้ อยู่ในตัว เพราะปัจจยั ท่ีปรุงแตง่ ให้มีสภาพเปน็ อยา่ งน้ันเปลย่ี นแปลงไป จะทำให้คงอยใู่ นสภาพนัน้ ไมไ่ ด้ ภาวะที่ไมส่ มบูรณ์มีความบกพรอ่ งอยู่ในตวั 3. อนัตตตา (อนตั ตา) - ความเปน็ อนัตตา ความไมใ่ ช่ตวั ตน ความไม่มีตวั ตนที่แทจ้ รงิ ของมนั เอง ไมใ่ ชข่ องใคร ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใคร ๒.๓ อริยสจั 4 อริยสัจ 4 คือ ความจริงอนั ประเสริฐ 4 ประการ อนั เปน็ หลักคำสอนสำคัญของพระพทุ ธศาสน ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ มนษุ ยท์ ุกคนไมว่ ่าจะเปน็ เด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างกม็ ีความทกุ ข์ด้วยกนั ท้ังนนั้ ความทกุ ข์จงึ เกดิ ข้ึนกบั ใครก็ไดท้ กุ ขณะ เราจึงไมค่ วรประมาทและพร้อมทจี่ ะเผชิญหน้ากบั ความจรงิ ของ ทุกข์นน้ั ๆ ศลี สมาธิ ปญั ญา จงึ เป็นการเจรญิ อริยมรรค เจริญสติปฏั ฐาน ทีป่ ระกอบดว้ ยศลี สมาธิ และ ปัญญา พร้อมกนั ในขณะนน้ั แตกต่างจาก ทาน ศลี ภาวนา ท่ีเป็นกุศลท่เี กิดแยกกนั ไมพ่ ร้อมกนั เหมอื น กบั ศลี สมาธิ ปัญญา ทเี กดิ พร้อมกัน เช่น ขณะที่รู้ความจริงของสภาพธรรม ทีเปน็ กศุ ลขั้นภาวนา ขณะนน้ั มศี ีล มี สมาธิ มี ปัญญาดว้ ย ครับ ดังนั้น กุศลขนั้ ภาวนา ทเี่ ป็น วปิ ัสสนาภาวนา มี ศีล สมาธิ ปญั ญาด้วยครับ นี่คอื ข้อแตกตา่ ง และความเก่ียวขอ้ งกนั

ชอ่ื นายวุฒกิ ร นามสกุล ออ๋ งมณี รหัส ๖๔๒๐๑๔๐๔๓๒๐๐๑ คะแนน............. สรปุ ใจความสำคัญของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้อื หา (ไมเ่ กนิ ๓ บรรทดั ) ศาสนาพุทธมีความสำคัญ อันเนื่องมาจากแนวคิด จริยศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องของ “ความทุกข์”และ “การดบั ทุกข”์ พระพทุ ธองค์ทรงพ้นทุกข์ด้วยปัญญา ซง่ึ ละความเป็น “อตั ตา” คือ “ตัวเราของเรา” ความเป็น ตวั ตน คือ สาเหตุของทกุ ข์ โดยใชเ้ คร่ืองมือกรองความรู้สึกเพื่อช่วยพิจารณาความเปน็ จริง คือ ปรัชญาธรรมชาติ ๒. เน้อื หาใจความสำคญั ๒.๑ จริยศาสตร์ หลักสำคญั ของความมุ่งหมายในพระพุทธศาสนา คือการดับทุกข์ พระพุทธเจา้ จึงทรงสั่งสอนใน เรื่องของ ทุกข์ และการดับทุกข์ เป็นหลักสำคัญ ซึ่งทรงเปรียบเทียบให้เห็นว่า “ความรู้ในโลกเปรียบเสมือน ใบไม้ที่ร่วงลงมาเต็มป่า แต่ความรู้ที่เราเอามาสอนมันนิดเดียวเท่ากับใบไม้ในกำมือที่เราถืออยู่ ” ซึ่งเราจะ หาทางดบั ทุกข์ได้อย่างไร หากศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์ตามพระไตรปิฎกจะพบว่า การไม่ยึดติดในตัวตน ตามหลัก อนัตตลักขณสูตร เป็นแนวทางในการดับทุกข์ เพราะเราจะถูกธรรมชาติสร้างให้ชินกับการยึดติด ตัวตน “เราเป็นเรา” จึงพยายามเตือนตัวเราเองว่า (“เราไม่ใช่เรา” = ความว่างเปล่า = ปัญญา = ดับทุกข์ ) โดยใช้เครื่องมือกรองความรู้สึกเพื่อช่วยพิจารณาความเป็นจริงตามธรรมชาติ คือ ปรัชญาธรรมชาติ ประกอบดว้ ย ไตรลกั ษณ์ และอรยิ สจั นั่นคอื แนวทางการดบั ทกุ ข์ ๒.๒ ปรชั ญาธรรมชาติ ปรัชญาธรรมชาติ พูดถึงโลกพิจารณาความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างไร ชีวิตสร้างมาให้เป็นอย่างไร การดบั ทุกขใ์ นการจัดการความรสู้ ึกตัวเองจากความทว่ี ่า เราเปน็ เรานนั้ เปน็ ส่ิงไม่ง่ายเลย พระพุทธเจ้าจึงสอน ปรัชญาธรรมชาติประกอบ เพื่อเป็นเครื่องมือ เป็นแนวทางในการพินิจ พิจารณา กรองความรู้สึกตนเอง ให้ คนุ้ เคยกบั ความรู้สึกตนเองว่า “เราไมใ่ ช่เรา” ในท่นี พ้ี ดู ถึง 2 เรือ่ ง คอื ๑. ไตรลักษณ์ ประกอบด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา - อนจิ จัง โลกธรรมชาติ ส่งิ ตา่ ง ๆ ประกอบด้วยความไม่เที่ยง ไมค่ งที่ (การมองโลกด้วยความไม่เที่ยง) มเี กดิ ขนึ้ คงอยู่ ดับไป ไม่มีส่ิงใดอยตู่ ลอดไป - ทุกขงั การมองอย่างลกึ ซ้ึงในเร่ืองของการเคล่ือนไหวของความเป็นทุกข/์ กดดัน /อาการทถ่ี กู บีบ ค้นั ในใจ - อนัตตา ในโลกไม่มอี ะไรเป็นสง่ิ นัน้ ทกุ อย่างคือส่ิงสมมุติ ความไม่ใช่ตวั ตน ไม่ใช่ของใคร จงึ ไม่ยึดติด ๒. อรยิ สัจ ประกอบด้วย ทุกข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค ซง่ึ จะเจาะจงไปในข้อท่ี ๔ คือ มรรคมีองค์ ๘ โดยสรปุ ในภาพรวมเป็น ๓ ส่วน คอื - ศีล คือ การฝึกหัดตนที่จะไม่กระทำความรุณแรงการทางกาย วาจา ให้ยับยั้งชัง่ ใจกับสิ่งที่จะมากระทบ - สมาธิ คอื การพัฒนาใจให้มีความต้งั ม่นั โดยมสี ติสมั ปชญั ญะเปน็ ตัวควบคุม - ปญั ญา คือ เป็นวิธีฝึกตนให้คดิ รอบคอบ มเี หตผุ ล คนมีปัญญาเหน็ อะไรจะไม่ด่วนตดั สิน คอ่ ย ๆ ฟงั ค่อย ๆ คดิ หาความเป็นไปได้ จะมีความยับยงั้ ช่งั ในไม่พพิ ากษาเพอื่ นมนษุ ย์

ช่ือ นายอธพิ นั ธุ นามสกุล ทองรตั น รหัส 6420140432011 คะแนน............. สรปุ ใจความสำคัญของพทุ ธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนอ้ื หา (ไมเกนิ ๓ บรรทัด) การศึกษาเรื่องพระพุทธศาสนาไมวาจะเรียนที่ในหรือตางประเทศ หรือที่เราไดศึกษามาต้ังแตอดีต จนถึงปจจบุ ัน หัวใจสำคัญของคำสอนที่พระพุทธเจาไดสั่งสอนไว มีอา งอิงในพระสูตรคือความทกุ ขและการดับ ทุกข เปนการเตือนตนเองใหรวู า “เราไมใ ชเรา” ทำใจใหวา งเปลาอยายึดตดิ กับทกุ สิง่ ที่มี ๒. เนอ้ื หาใจความสำคญั ๒.๑ (จริยศาสตร) ความทุกขแ ละการดบั ทกุ ข เปนหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจาสอนวา “ความรูในโลก เหมอื นใบไมทร่ี วงลงมาเต็มปาในเวลาน้ี แตค วามรูท เี่ ราสนใจเอามาสอนพวกเธอมันนดิ เดียวเทานน้ั ทอ่ี ยกู ำมอื ” เปรียบเสมือนความทกุ ขและการดับทกุ ข ชีวติ ที่เปนทุกขเราจะหาหนทางดับทุกขไ ดอ ยางไร สาเหตุทมี่ นุษยเรา เปนทุกข เราเกิดมาและธรรมชาติสรางใหเรามีความรูสึก เราคือเรา ฉันเปนฉัน กูคือกู สิ่งใดที่เรามีหรือ หามาไดก็จะถูกผนวกวาเปนของเรา วิธีท่ีจะทำใหเราไมทุกขในทางทฤษฎีคือเตือนตนเองวา เราไมใชเรา ไมมีส่งิ ใดเปน ของเรา ๒.๒ (ปรชั ญาธรรมชาต)ิ ๑.ไตรลกั ษณ ประกอบดวย อนจิ จัง ทกุ ขงั อนัตตา อนิจจงั ส่งิ ตาง ๆ ในโลกธรรมชาติทกุ อยาง คือ ความไมเที่ยง ไมมีสิ่งใดเคยเปนอยา งไรแลวตองเปน อยางน้ัน เชน คนเราเกดิ มาสวยหลอ อยางไรสุดทา ยก็ตอ งแกลงเหมอื นกนั เสมอภาคกัน ทุกขัง คอื ความทกุ ข อาการท่ีถกู บบี ค้นั ซึง่ อยูภายในจติ ใจของตนเอง ทุกขงั จึงเปนการสอนใหสงั เกต พฤตกิ รรมของตนเองและเพ่ือนมนุษย รวมถงึ สรรพสตั วท้งั หลาย อนัตตา ในโลกธรรมชาตไิ มม อี ะไรเปนส่ิงน้นั ๆ ทุกอยา งเปน ส่งิ สมมติ ตวั เราไมใชข องเรา ๒.อรยิ สัจ เปนคำสอนท่ีประมวลดวยเรื่องของ ทุกข สมุทัย นิโรธ มรรค ซงึ่ สง่ิ ทสี่ ำคญั และเปน วิธีของ การดับทุกข มรรค ๘ แบงออกเปน ๓ สวน ไดแก ศีล คือ การฝกกายและวาจา พยายามเปนคนท่ีมีสติ คอยยับยั้งช่ังใจ ไมใหกระทำการใด ๆ ที่ไมดี โกรธก็ควรระงบั ไวใ นใจ กลัน้ ใจอยาทำรา ย หรือแสดงการกระทำออกมา สมาธิ คอื การฝก จิตใจของเราใหมีสตติ ัง้ ม่ัน ขมใจตอสง่ิ ตาง ๆ สกัดกลนั้ ความรุนแรงได ปญญา คือ การตนเองใหเปนคนมีความคดิ รอบคอบ คิดหาความเปนไปได มเี หตุผล

ชื่อ นายทศวรรษ นามสกุล พมุ่ ศรีชาย รหัส 6420140432007 คะแนน............. สรุป ใจความสำคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเน้อื หา (ไมเ่ กนิ ๓ บรรทัด) หลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก ท่ีได้รับการแปลและศึกษากันท่ัวโลก รวมท้ังในประเทศไทย ความสำคัญของพระไตรปิฎก เปรียบเป็นหัวใจของศาสนาพุทธท่ีพระพุทธเจ้าได้สอนไว้ โดยเฉพาะเร่ืองทุกข์ และการดับทกุ ข์ การไม่ยึดถือตวั ตนเปน็ ทต่ี ั้ง ใช้พทุ ธปรชั ญาอยู่ร่วมกันอยา่ งมปี ัญญาโดยไมพ่ พิ ากษาคนอ่ืน ๒. เนือ้ หาใจความสำคญั ๒.๑ อนัตตลักขณสูตร คือ เครื่องกำหนดหมายว่าเป็นอนัตตา มิใช่อัตตาตัวตน ซ่ึงการยึดถือใน ตัวตน ยึดในความคิดท่ี เราเป็นเรา เป็นสาเหตุหนงึ่ ทท่ี ำให้เราเปน็ ทุกข์ เพราะ หากเรายึดตวั ตนว่า เราคอื เรา ฉนั คือฉัน ก็จะเกิดความคิดไม่รับฟัง หรือตัดสินทุกอย่างด้วยตัวเรา พอไม่ได้ด่ังใจด่ังท่ีเราต้องการ ก็จะเกิดการ บาดหมางในใจ ดังน้ัน วิธีท่ีทำให้ไม่ถูกครอบตัวตน คือ พยายามเตือนตัวเราเองว่าเราไม่ใช่เรา เม่ือชีวิตมัน ว่างเปล่าทุกอย่างยึดไม่ได้ เป็นปรัชญาธรรมชาติ ที่พูดถึงโลก ธรรมชาติและส่ิงที่เป็นจริงของโลกมนุษย์ ดังนนั้ การดบั ทกุ ขท์ ่ดี ี กเ็ พ่อื จดั การความรูส้ กึ เราเป็นเรา ไมย่ ึดติดในตัวตน ๒.๒ ไตรลักษณ์ ประกอบด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นลักษณะสามัญ ๓ ประการ ได้แก่ อนิจจัง คือ การสังเกต เห็นการเปลี่ยนแปลง การเข้าใจว่า ทุกส่ิงทุกอย่างบนโลกน้ี ไม่เท่ียง คือ ไม่แน่นอน ทุกขัง คือ การมองเห็น สังเกตพฤติกรรมของตัวเองหรือเพ่ือนมนุษย์ และอนัตตา ในโลกธรรมชาติไม่มีสิ่งใด เป็นส่ิงน้ัน ๆ ทุกอย่างคือเรือ่ งสมมติ ๒.๓ อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค พระพุทธเจ้าไม่ได้หยุดท่ีการเข้าใจว่า ชีวิตเป็น ทกุ ข์ แต่ได้พยายามหาทางวิธีดับทุกข์ น่นั ก็คอื มรรค ๘ อยา่ ง ซ่ึงเมอ่ื ย่อมาแล้วกห็ มายถงึ ศีล สมาธิ ปญั ญา ศีล คือ หลักสำเร็จรูป มีหลักการคือการฝึกหัดตน ที่จะไม่กระทำการทางกายและทางวาจา เป็นหลักในการ สอนตวั เอง ยับย้ังชัง่ ใจเมือ่ ถูกกระทบทางกายและใจ ศีลมีหลายระดับ ศีลเบื้องตน้ คือ การกล้ันใจ ระดับสูง กล้ันใจน้อยลง คือ การเขา้ ใจส่งิ ท่ีเกิดข้ึนมากข้ึน ศีลจะพยายามให้มีสตทิ ี่ไว หยุดความรุนแรงท้งั ทางกายและ วาจา ส่วนสมาธิ ซึ่งจะมี สมาธิสำเร็จรูป เช่น การยุบหนอ พองหนอ สมาธิในพระไตรปิฎกจริง ๆ ไม่มี รปู แบบ ศาสนาพทุ ธสอนว่า คนประเสริฐ คือ การยอมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่รุนแรง นัน่ หมายถงึ การให้อภัย ตัวที่จะทำให้ “อภยั ” เกดิ ได้ คือ สมาธิ และปัญญา เปน็ วธิ ีฝึกตนใหค้ ิดรอบคอบ คนมีปัญญาเห็นอะไรจะไม่ ด่วนตดั สนิ เจอข้อมูลขา่ วสารคอ่ ย ๆ ฟัง คอ่ ย ๆ คิด หาความเปน็ ไปได้ จะทำให้เรามคี วามยบั ยั้งช่งั ใจไมด่ ว่ น พพิ ากษาเพ่ือนมนุษย์ คนท่ีตัดสินคนอ่ืนไว คอื คนท่ีค่อนข้างมอี ีโก้สูง ดังนั้น เราจึงควรเป็นคนดี ที่ต้อง ไมป่ ระณามหรือพิพากษาคนอนื่ โดยขาดปัญญา

ช่ือ จกั รพนั ธ์ วจิ ิตรบรรจง รหัส 6420140432018 คะแนน............. สรุปใจความสำคญั ของพุทธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนือ้ หา (ไมเ่ กิน ๓ บรรทัด) ศาสนาทุกศาสนามีหลักธรรมคำสอนเปน็ เครอ่ื งยึดเหนยี่ วจิตใจของศาสนิกชน โดยทกุ ศาสนามี เปา้ หมายเดยี วกันคอื “ม่งุ ให้ทุกคนมีธรรมะ มีคุณธรรม และสอนให้คนเป็นคนด”ี ดงั นัน้ ศาสนาแต่ละศาสนา จึงมหี ลักธรรมคำสอนของตนเอง เปน็ แนวทางในการประพฤติปฏิบัติ ๒. เนื้อหาใจความสำคญั ๒.๑ จรยิ ศาสตร์ ความทุกข์ เป็นสภาพที่ทนไดย้ าก แยง้ ตอ่ ความสุข ถกู บบี ค้ันอยู่ตลอดเวลาทั้งกาย และใจ ด้วยภาวะท่ี เป็นไปตามธรรมชาตทิ ี่ครอบคลุมสรรพส่ิง ไมส่ ามารถทจ่ี ะรักษาสภาพเดมิ ไว้ ได้ เน่อื งจากสง่ิ ตา่ ง ๆ เหล่าน้ไี ม่มี ความเปน็ ใหญข่ องตนเอง ตอ้ งอาศัยปจั จยั อื่นเกิดขนึ้ ในรปู ของกระแสต่อเนื่อง การยึดมั่นในขนั ธห์ า้ จึงมสี ภาพ เปน็ ทีต่ ้งั แห่งทุกข์โดยแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื ทกุ ขท์ างกาย และทกุ ขท์ างใจ ๒.๒ ปรัชญาธรรมชาติ ไตรลกั ษณ์ แปลวา่ \"ลกั ษณะ ๓ อย่าง\" หมายถงึ สามญั ลักษณะ หรอื ลักษณะท่ีเสมอกนั หรือ ขอ้ กำหนด หรือสงิ่ ทม่ี ปี ระจำอย่ใู นตัวของสงั ขารท้ังปวงเป็นธรรมที่พระพุทธเจา้ ได้ตรัสรู้ ๓ อยา่ ง ไดแ้ ก่ 1. อนจิ จตา (อนจิ จัง) ความไมเ่ ทย่ี ง ความไม่คงที่ ความไมย่ งั่ ยืน ภาวะที่เกิดข้ึนแลว้ เส่ือมและสลายไป 2. ทุกขตา (ทกุ ขัง) ความเป็นทุกข์ ภาวะที่ถกู บบี คั้นด้วยการเกิดข้นึ และสลายตัว ภาวะท่กี ดดัน ฝนื และ ขดั แย้งอยู่ในตวั เพราะปัจจัยท่ีปรุงแต่งให้มสี ภาพเป็นอยา่ งนั้นเปล่ียนแปลงไป จะทำให้คงอย่ใู นสภาพน้ันไม่ได้ ภาวะทไ่ี มส่ มบูรณม์ คี วามบกพร่องอยูใ่ นตวั 3. อนตั ตตา (อนตั ตา) ความเป็นอนตั ตา ความไม่ใชต่ วั ตน ความไม่มตี ัวตนท่แี ท้จรงิ ของมันเอง ไม่ใช่ของ ใคร ไมอ่ ยู่ในอำนาจควบคุมของใคร ลกั ษณะ ๓ อย่างน้ี เรยี กอีกอย่างหนงึ่ วา่ สามญั ลักษณะ คอื ลักษณะทีม่ ีเสมอกันแกส่ งั ขารทงั้ ปวง และเรียกอีกอยา่ งหนึง่ วา่ ธรรมนิกาย คือกฎธรรมดาหรอื ขอ้ กำหนดที่แนน่ อนของสงั ขาร หลักอริยสจั ๔ เปน็ ธรรมเคร่ืองดบั ทุกข์เปน็ ไปในลักษณะของการวิเคราะห์ของการแก้ไขปัญหา ให้ ถูกตอ้ งด้วยวธิ กี ารและถูกจดุ คือ การรเู้ ท่าทันปญั หามี๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ ๑) ทุกข์ ๒) สมุทัย ๓) มรรค และ ๔ นโิ รธ ทุกข์คอื ความไมส่ บายกาย ไม่สบายใจมีลกั ษณะบีบคนั้ ทนไดย้ าก สมุทัย เหตใุ ห้เกิดทกุ ข์ ไดแ้ กต่ ัณหา ๓ มรรคเปน็ ขอ้ ปฏิบัติใหถ้ ึงความดบั ทุกขค์ วามดบั ทุกขไ์ ดแ้ ก่ มรรค ๘ ประการ เปน็ หนทาง การ ดับทุกข์และ นโิ รธ คอื การดบั ทุกข์

ชอ่ื ....นายคุณากรณ์...นามสกุล...พงษายอยคา.... รหสั .. 6420140432007 คะแนน............. สรปุ ใจความสาคญั ของพทุ ธปรชั ญา บรรยาย โดยสมภาร พรมทา ------- ๑. ภาพรวมของเนื้อหา (ไมเ่ กิน ๓ บรรทดั ) การจัดระบบความคิดทางพระพุทธศาสนาจากคาสอนของพระพุทธเจ้า โดยการศึกษาใน พระไตรปิฎก การศึกษาพระไตรปิฎกในประเทศไทยมีมาตัง้ แต่สมัยสุโขทัย และจัดให้มีการแปล พระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยฉบบั หลวงเพอ่ื ใหป้ ระชนชนทม่ี คี วามสนใจไดศ้ กึ ษาคาสอนของพระพทุ ธเจา้ ๒. เนื้อหาใจความสาคญั ๒.๑ จริยศาสตร์ (ความทกุ ข์ และการดบั ทกุ ข)์ หัวใจของศาสนาพุทธ คือการดับทุกข์ และต้องรู้สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ พร้อมทั้งหนทางไปสูก่ ารดบั ทุกข์ หากบุคคลใดเข้าใจในสาเหตุของการเกิดทุกข์ และสามารถดับทุกข์โดยปฏิบัติตามคำสอนของ พระพทุ ธเจา้ บคุ คลน้ันถอื ว่าไดเ้ ขา้ ถงึ แก่นแทข้ องพระพทุ ธศาสนาแล้ว ๒.๒ ไตรลกั ษณ์ ไตรลกั ษณ์ แปลวา่ \"ลักษณะ ๓ อย่าง\" หมายถึงสามัญลักษณะ หรือลักษณะที่เสมอกนั หรือ ข้อกำหนด หรือส่งิ ทีม่ ีประจำอยใู่ นตวั ของสังขารทั้งปวงเปน็ ธรรมทีพ่ ระพทุ ธเจ้าได้ตรสั รู้ ๓ อยา่ ง ได้แก่ 1. อนิจจตา (อนิจจงั ) - ความไมเ่ ทีย่ ง ความไม่คงที่ ความไมย่ ั่งยืน ภาวะทีเ่ กิดขนึ้ แล้วเสอ่ื มและ สลายไป 2. ทกุ ขตา (ทุกขงั ) - ความเปน็ ทกุ ข์ ภาวะที่ถูกบีบค้ันดว้ ยการเกิดขนึ้ และสลายตัว ภาวะที่กดดนั ฝืนและขดั แยง้ อยู่ในตัว เพราะปัจจัยทีป่ รุงแต่งให้มีสภาพเปน็ อยา่ งน้ันเปลย่ี นแปลงไป จะทำให้คงอยใู่ น สภาพน้ันไม่ได้ ภาวะที่ไม่สมบูรณ์มีความบกพร่องอย่ใู นตวั 3. อนตั ตตา (อนตั ตา) - ความเปน็ อนตั ตา ความไมใ่ ช่ตวั ตน ความไมม่ ีตวั ตนทีแ่ ท้จริงของมันเอง ไม่ใช่ของใคร ไมอ่ ยใู่ นอำนาจควบคมุ ของใคร ลกั ษณะ ๓ อย่างน้ี เรียกอีกอยา่ งหนึง่ วา่ สามญั ลักษณะ คือ ลักษณะที่มีเสมอกันแก่สังขารทั้ง ปวง และเรียกอีกอยา่ งหนึง่ ว่า ธรรมนิกาย คือกฎธรรมดาหรือข้อกำหนดทแ่ี นน่ อนของสงั ขาร ๒.๓ อรยิ สัจ ๔ อรยิ สัจ 4 ความจรงิ แห่งพระอริยะ สำหรบั การดับทุกข์ เพื่อให้หลดุ พ้นจากกเิ ลสทั้งปวงอัน ประกอบดว้ ยธรรม 4 ประการ คือ 1. ทุกข์ คอื ความทุกข์ เปน็ สิง่ ที่ไมพ่ ึงปรารถนา เป็นความจริงที่ พระอริยะรแู้ จ้ง (ตรสั รู้)2. สมุทยั คือ มูลเหตหุ รือตน้ เหตแุ ห่งทกุ ขน์ ้ัน เปน็ ความจริงที่พระอริยะพึงมี 3. นิโรธ คือ ส่งิ ทีใ่ ช้ดับทุกข์ เปน็ ความจริงที่ทำใหเ้ ป็นอรยิ ะ 4. มรรค คอื แนวทางแหง่ การดบั ทกุ ข์ เปน็ ความจรงิ ทีพ่ ิสูจนไ์ ด้ และไม่มวี นั หกั ล้างได้