หน่วยที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์

ความรูเ้ กียวกับ สอื สงิ พมิ พ์ หนว่ ยที 1 วชิ าการผลิตสอื สงิ พมิ พ์ ครูอรนิ ทยา ใจเอ แผนกวชิ าการจดั การสาํ นกั งาน วอศ.เชยี งใหม่

ความหมายและความสาํ คัญของสอื สงิ พมิ พ์ สอื :- ก. (กรยิ า) ทําการติดต่อใหถ้ ึงกัน เชน่ สอื ความหมาย ชกั นาํ ใหร้ จู้ กั กัน สอื :- น. (นาม) ผหู้ รอื สงิ ทีทําการติดต่อใหถ้ ึงกัน หรอื ชกั นาํ ใหร้ จู้ กั กัน เชน่ กหุ ลาบแดงเปนสอื ของความรกั พอ่ สอื หรอื แมส่ อื เปนผทู้ ีชกั นาํ ใหห้ ญงิ ชายไดแ้ ต่งงานกัน พมิ พ์ :- ก. (กรยิ า) ถ่ายแบบ ใชเ้ ครอื งจกั รกดตัวหนงั สอื หรอื ภาพ ใหต้ ิดบนวตั ถุ พมิ พ์ :- น. (นาม) รปู รปู รา่ ง แบบ เชน่ หยอดวุน้ ลงในพมิ พ์ หนา้ ตาเปน พมิ พเ์ ดยี วกัน

พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถานไดใ้ ห้ ความหมายคําทีเกียวกับ “สอื สงิ พมิ พ”์ ดงั นี “สงิ พมิ พ”์ หมายถึง สมุด แผนกระดาษหรอื วตั ถใุ ด ๆ ทีพมิ พข์ นึ รวมตลอดทังบทเพลง แผนที แผนผงั ภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผน่ เสยี ง หรอื สงิ อืนใดอันมลี ักษณะ เชน่ เดยี วกัน “สงิ พมิ พ”์ หมายถึง ขอ้ ความ ขอ้ เขยี น หรอื ภาพทีเกียวกับแนวความคิด ขอ้ มูล สารคดี บนั เทิง ซงึ ถ่ายทอดดว้ ยการพมิ พล์ งบนกระดาษ ฟล์ม หรอื วสั ดพุ นื เรยี บ

ดงั นนั “สอื สงิ พมิ พ”์ จงึ มคี วามหมายวา่ จะเปน แผน่ กระดาษหรอื วตั ถใุ ด ๆ ดว้ ยวธิ ตี ่าง ๆ อันเกิดเปน ชนิ งาน ทีมลี ักษณะเหมอื นต้นฉบบั ขนึ หลายสาํ เนา ในปรมิ าณมากเพอื เปนสงิ ทีทําการติดต่อหรอื ชกั นาํ ใหบ้ ุคคลอืนใหเ้ หน็ หรอื ทราบขอ้ มูลต่าง ๆ สงิ พมิ พม์ หี ลายชนดิ ไดแ้ ก่ หนงั สอื เรยี น เอกสาร หนงั สอื พมิ พ์ นติ ยสาร วารสาร บนั ทึก รายงาน ฯลฯ

ประวตั ิการพมิ พ์ การพมิ พม์ ตี ้นกําเนดิ ในแถบเอเชยี กลางและจนี เรมิ แรก ชาวจนี นยิ มแกะสลักชอื หรอื สญั ลักษณต์ ่าง ๆ ลงบนแผน่ หนิ หรอื กระดกู สตั ว์ ประมาณป ค.ศ. 1000 ชาวจนี ไดป้ ระดษิ ฐ์ แท่นพมิ พเ์ พอื ใชก้ ับแมพ่ มิ พผ์ วิ นนู โดยแกะแมพ่ มิ พจ์ าก บล๊อกไมแ้ ล้วนาํ มาเรยี งต่อกันเปนคําหรอื ประโยค ใชค้ รงั เดยี วแล้วทิง ยุง่ ยากและเสยี เวลามาก ต่อมาจงึ นาํ ดนิ เหนยี ว มาทําเปนแมพ่ มิ พแ์ ล้วเผาไฟ จนพฒั นามาถึงการใชต้ ัวพมิ พ์ ทีหล่อจากโลหะ คิดค้นโดยชาวเกาหลี

สว่ นววิ ฒั นาการการพมิ พข์ องชนชาติ ตะวนั ตกนนั ไดร้ บั อิทธพิ ลมาจากชนชาติ จนี โดย Johann Gutenberg เปนผพู้ ฒั นาระบบการพมิ พข์ นึ ในป ค.ศ. 1440 ดว้ ยการประดษิ ฐต์ ัวพมิ พ์ โลหะทีมสี ว่ นผสมของตะกัว ดบี ุก และ พลวง ซงึ สามารถถอดเก็บและนาํ กลับมา ใชใ้ หม่

ประวตั ิการพมิ พใ์ นไทย เรมิ ต้นในสมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช โดยในขนั ต้นยงั ไมม่ ี การพมิ พห์ นงั สอื ทีเปนภาษาไทย จนกระทัง ป พ.ศ.2378 Dr. Dan Beach Bradlley M.D. หรอื หมอบลัดเลย์ ไดน้ าํ แมพ่ มิ พภ์ าษาไทยเขา้ มาในประเทศไทย ตรงกับรชั สมยั ร.3 ระยะแรกเปนการพมิ พเ์ อกสารเผยแพรศ่ าสนาของมชิ ชนั นารี ต่างชาติ ต่อมาไดโ้ ปรดใหห้ มอบลัดเลยจ์ ดั พมิ พ์ \"พระราชโองการ ประกาศหา้ มสบู ฝน\" 9,000 แผน่ เมอื 27 เม.ย. 2382 ถือเปนเอกสารของทางราชการไทยฉบบั แรก

พ.ศ. 2401 พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้า เจา้ อยูห่ วั โปรดเกล้าใหจ้ ดั ตังโรงพมิ พข์ นึ ใน พระบรมมหาราชวงั พระราชทานชอื วา่ \"โรงพมิ พอ์ ักษรพมิ พการ\" ทําหนา้ ทีผลิต ขา่ วสารของทางราชการแก่ราษฎรทราบทัวกัน เรมิ พมิ พห์ มายประกาศ ขอ้ กฎหมายต่าง ๆ มลี ักษณะคล้ายกับหนงั สอื พมิ พข์ า่ ว โดย พระราชทานนามวา่ \"ราชกิจจานเุ บกษา\" ฉบบั แรกพมิ พอ์ อกมาเมอื วนั ที 15 ม.ี ค. 2401

ประเภทของสอื สงิ พมิ พ์ 1.สงิ พมิ พป์ ระเภทหนงั สอื พมิ พ์ 2.สงิ พมิ พป์ ระเภทนติ ยสารและวารสาร 3.สงิ พมิ พป์ ระเภทหนงั สอื เล่ม 4.สงิ พมิ พเ์ ฉพาะกิจ 5.สงิ พมิ พอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์

สงิ พมิ พป์ ระเภทหนงั สอื พมิ พ์ เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีเนน้ ดา้ นการรายงานขา่ วสาร เพอื ให้ ความรู้ ความบนั เทิง และสงิ ทีนา่ สนใจประจาํ วนั ผลิต ตามระยะเวลาทีกําหนดอยา่ งต่อเนอื งสมาํ เสมอ เนอื หา มคี วามหลากหลายของขา่ วสารประเภทต่าง ๆ เชน่ ขา่ วสงั คม ขา่ วเศรษฐกิจ ขา่ วการเมอื ง ขา่ วการศึกษา ขา่ วกีฬา ขา่ วบนั เทิง รวมทังโฆษณาต่าง ๆ

ประเภทของหนงั สอื พมิ พ์ แบง่ ได้ 2 ประเภท หนงั สอื พมิ พป์ ระชานยิ ม Popular Newspaper เรยี กอีกชอื หนงึ วา่ \"หนงั สอื พมิ พป์ รมิ าณ\" Quantity Newsaper เปนหนงั สอื พมิ พท์ ีคนทัวไปนยิ มอ่าน จุด เดน่ คือ เนน้ การเสนอขา่ วทีเรา้ อารมณ์ เชน่ ขา่ ว อาชญากรรม ขา่ วความขดั แยง้ ขา่ วภัยพบิ ตั ิต่าง ๆ เปนต้น

หนงั สอื พมิ พค์ ณุ ภาพ Quality Newspaper เปนหนงั สอื พมิ พท์ ีเนน้ การนาํ เสนอเนอื หาไปใน ทางหนกั สมอง หรอื เรยี กวา่ ขา่ วหนกั Hard News เชน่ ขา่ วเศรษฐกิจ การศึกษา สงั คม การเมอื ง เปนต้น

องค์ประกอบ หัวหนังสือพิมพ์ ของ หนงั สอื พมิ พ์ ชอื หนงั สอื พมิ พ์ สญั ลักษณ์ วนั เดอื นปทีออก ข่าว เปนหวั ใจสาํ คัญของ นสพ. ขา่ วทีใชพ้ าดหวั จะเปนทีสนใจและมภี าพถ่ายประกอบ คอลัมน์ประจาํ บทความทีตีพมิ พเ์ ปนประจาํ มชี อื คอลัมน์ และ ชอื ผเู้ ขยี นกํากับ โฆษณาสินค้า เปนรายไดท้ ีสาํ คัญของ นสพ. จะแทรกกระจาย อยูท่ ัวทังฉบบั

สงิ พมิ พป์ ระเภทนติ ยสารและวารสาร วารสาร Journal เปนสงิ พมิ พท์ ีมกี ําหนดออกเปนประจาํ สมาํ เสมอ ถ้ามเี นือหาเน้นหนกั ในทาง วชิ าการ เรยี กวา่ วารสารวชิ าการ ต้องผา่ นการตรวจสอบจากผเู้ ชยี วชาญในสาขา นัน ๆ ก่อน นอกจากนันยงั มวี ารสารของสมาคม สถาบนั หรอื หนว่ ยงานทีจดั ทํา ขนึ โดยไมห่ วงั ผลกําไร นติ ยสาร Magazine เปนสงิ พมิ พท์ ีมกี ําหนดออกเปนประจาํ ตามระยะเวลาทีกําหนด เชน่ รายสปั ดาห์ รายปกษ์ รายเดอื น เปนต้น นําเสนอเนือหาทีหลากหลาย ทังความรูค้ วามบนั เทิง บทวเิ คราะห์ บทความต่าง ๆ นาํ เสนอในลักษณะการเล่าเรอื ง ไมน่ ยิ มเขยี นใน ลักษณะตําราวชิ าการ

ตัวอยา่ งวารสาร

ประเภทของนติ ยสาร นติ ยสารเฉพาะกล่มุ ผบู้ รโิ ภคหรอื เฉพาะด้าน นติ ยสารวชิ าชพี นติ ยสารการประชาสมั พนั ธ์

นติ ยสารเฉพาะกล่มุ ผบู้ รโิ ภคหรอื เฉพาะดา้ น Specialized Magazine นติ ยสารขา่ ว General Magazine นาํ เสนอขา่ วทัวไป บทวเิ คราะห์ บทสมั ภาษณ์ นติ ยสารผหู้ ญงิ Woman Magazine นาํ เสนอเนอื หาเกียวกับแฟชนั ตําราอาหาร การฝมอื นวนยิ าย นติ ยสารธุรกิจ Business Magazine นาํ เสนอเนอื หาเกียวกับธุรกิจ การเงิน อุตสาหกรรม การบรหิ าร และการจดั การ นติ ยสารเฉพาะดา้ นอืน ๆ เชน่ นติ ยสารครอบครวั นิตยสารวยั รนุ่ นติ ยสารเดก็ และเยาวชน นติ ยสารท่องเทียว นิตยสารถ่ายภาพ

ตัวอยา่ งนติ ยสารเฉพาะกล่มุ ผบู้ รโิ ภค

นติ ยสารวชิ าชพี Professional Magazine

นติ ยสารประชาสมั พนั ธ์ หน้าปก ออกโดยบรษิ ัทหรอื หนว่ ยงาน เปนจุดสาํ คัญทีดงึ ดดู ผอู้ ่าน สสี นั สวยงาม ใชบ้ ุคคล มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอื เผยแพร่ มชี อื เสยี งมาเปนแบบ มชี อื นติ ยสาร วนั เดอื นปทีออก ประชาสมั พนั ธห์ นว่ ยงาน หรอื บรษิ ัทนนั ๆ สารบัญ บอกชอื คอลัมนป์ ระจาํ นา่ สนใจและภาพประกอบบางสว่ น บทบรรณาธิการ ขอ้ เขยี นของบรรณาธกิ ารเพอื ทักทายผอู้ ่าน และ แนะนาํ คอลัมนท์ ีนา่ สนใจภายในเล่ม เนือหาและคอลัมน์ เนอื หา บทความทีนา่ สนใจ มภี าพประกอบ โฆษณาสินค้า นยิ มแทรกไวต้ รงสว่ นล่างหรอื พมิ พเ์ ต็มหนา้ กระดาษ

ตัวอยา่ ง นติ ยสาร ประชาสมั พนั ธ์

สงิ พมิ พป์ ระเภทหนงั สอื เล่ม เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีมเี นอื หาเฉพาะหรอื เปนเรอื งเดยี วกันทังเล่ม ไมม่ กี ารแบง่ เปนคอลัมน์ และไมไ่ ดอ้ อกตามระยะเวลาทีกําหนด แบบสมาํ เสมอ เหมอื นหนงั สอื พมิ พห์ รอื นติ ยสาร สว่ นการจดั พมิ พจ์ ะเยบ็ เปนรปู เล่มถาวร ความหนา และขนาด แตกต่างกันไป แล้วแต่จะกําหนด แบง่ ได้ 3 ประเภท หนงั สอื สารคดี Non-fiction หนงั สอื บนั เทิงคดี Fiction หนงั สอื อ้างอิง Reference

ตัวอยา่ งหนงั สอื เล่ม

องค์ประกอบของหนงั สอื เล่ม ส่วนปก ส่วนประกอบตอนต้น ใบหมุ้ ปก ปก สนั หนงั สอื ใบรองปก หนา้ ชอื เรอื ง ปกใน หน้าลิขสทิ ธิ หน้าคําอุทิศ คํานํา บทนาํ ใบติดปก สารบญั สารบญั ภาพ แผนที ตาราง ส่วนเนือเรือง ส่วนประกอบตอนท้าย เนือเรอื ง เชงิ อรรถ ภาคผนวก บรรณานุกรม ดัชนี

สงิ พมิ พเ์ ฉพาะกิจ เปนสอื สงิ พมิ พท์ กุ ชนดิ ทีใชใ้ นกิจกรรมใด กิจกรรมหนงึ ทังของภาครฐั และเอกชน หนว่ ยงาน สมาคมต่าง ๆ แบง่ ไดค้ รา่ ว ๆ ดงั นี 1. จุลสาร 2. จดหมายขา่ ว 3. แผน่ พบั 4. ใบปลิว 5. โปสเตอร์

จุลสาร Booklet เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีไมม่ กี ําหนดระยะเวลาออกที แนน่ อน จดั ทําโดยหนว่ ยงานราชการ องค์กร สถาบนั ต่าง ๆ เนอื หาขนึ อยูก่ ับจุดประสงค์การใชง้ าน เชน่ เพอื เผยแพรเ่ รอื งทีเกียวกับหนว่ ยงาน ใหค้ วามรู้ หรอื ประชาสมั พนั ธ์ สว่ นมากเนอื หามกั เปนเรอื งทีอยู่ ในความสนใจ ความหนาประมาณ 5-48 หนา้ ไมเ่ นน้ เรอื งความ แขง็ แรงของรปู เล่ม

จดหมายขา่ ว Newsletter เปนหนงั สอื พมิ พท์ ีจดั ทําขนึ ภายในองค์กร จุดประสงค์เพอื ประชาสมั พนั ธข์ า่ วสารและเปนสอื กลางแลกเปลียนความคิดเหน็ ของผปู้ ฏิบตั ิงาน รวมทังประสานความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งในและนอก องค์กร ขนาดและการจดั หนา้ จะเหมอื นกับ หนงั สอื พมิ พท์ ัวไป

แผน่ พบั Folder เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีใชก้ ระดาษแผน่ เดยี ว มกี ารพบั กระดาษทบกันตังแต่ 2 ทบขนึ ไป จุดประสงค์เพอื เผยแพรข่ อ้ มูลขา่ วสารเกียวกับองค์กร มกั เสนอ ขา่ วสารเฉพาะกิจ สรปุ เฉพาะใจความสาํ คัญ

ใบปลิว Leaflet เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีใชก้ ระดาษแผน่ เดยี ว เชน่ เดยี ว กับแผน่ พบั แต่จะไมม่ กี ารพบั ทบกระดาษ จุด ประสงค์เพอื นาํ เสนอเนอื หาเพยี งเรอื งใดเรอื งหนงึ โนม้ นา้ ว ชกั จูง ประชาสมั พนั ธ์ เพอื ใหส้ นใจใน ประเดน็ ใดประเดน็ หนงึ เชน่ การโฆษณาสนิ ค้า ประกาศ เปนต้น

โปสเตอร์ Poster เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีมลี ักษณะเปนกระดาษแผน่ เดยี ว ขนาดใหญ่ จุดประสงค์เพอื โฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ ใหค้ นสนใจสงิ ทีนาํ เสนอ ซงึ มกั นาํ เสนอเพยี ง แนวคิดเดยี ว

จุดประสงค์ของโปสเตอร์ เพือเปาหมายเฉพาะ เพือการค้า ชกั จูงใหผ้ อู้ ่านเหน็ ดว้ ย หรอื ชกั จูงให้สนใจสนิ ค้า และ ดาํ เนนิ การอยา่ งใดอยา่ งหนงึ บรกิ ารทีปรากฏอยูบ่ น เชน่ โปสเตอรร์ ณรงค์ให้ โปสเตอร์ เชน่ โปสเตอร์ ประหยดั พลังงาน โปสเตอร์ ภาพยนตร์ โปสเตอรอ์ าหาร ชกั ชวนใหอ้ อกกําลังกาย

สอื สงิ พมิ พอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีผลิตขนึ เพอื ใชง้ านใน คอมพวิ เตอร์ หรอื บนระบบเครอื ขา่ ย อินเทอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่ E-Book Document Formats

บทบาทของสอื สงิ พมิ พ์ ปจจุบนั เทคโนโลยที างการพมิ พม์ กี ารพฒั นาไปอยา่ งมาก มกี ารนําเครอื งจกั รและ ระบบคอมพวิ เตอรท์ ีทันสมยั มาใชใ้ นการผลิต ทําใหส้ ามารถผลิตสงิ พมิ พท์ ีมี ประสทิ ธภิ าพสงู ได้ในเวลาอันรวดเรว็ สง่ ผลใหส้ อื สงิ พมิ พ์ เขา้ มามบี ทบาทกับ การใชช้ วี ติ ประจาํ วนั อยา่ งหลีกเลียงไมไ่ ด้

บทบาทดา้ นงานสอื มวลชน การจดั ทําสอื สงิ พมิ พถ์ ือเปนอีกหนงึ ชอ่ งทางสาํ คัญของสอื มวลชนในการนาํ เสนอ ขอ้ มูล ขา่ วสาร สาระ และความบนั เทิง โดยสอื มวลชนมหี นา้ ทีคัดกรองขอ้ เท็จจรงิ และสรุปขอ้ มูลก่อนนาํ เสนอ ได้แก่ หนังสอื พมิ พ์ วารสาร นติ ยสาร เปนต้น

บทบาทดา้ นการศึกษา หนังสอื เรยี น จดั วา่ เปนสอื สงิ พมิ พท์ ีมบี ทบาทในการพฒั นาการศึกษาอยา่ งมาก เนืองจากมรี าคายอ่ มเยา สะดวกในการใชง้ าน สามารถสอื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจเนอื หาได้ ง่าย ได้แก่ ตํารา แบบเรยี น พจนานุกรม เปนต้น

บทบาทดา้ นการดาํ เนนิ งานของรฐั สอื สงิ พมิ พม์ บี ทบาทอยา่ งมากในการชกั จูง ชชี วน ขอความคิดเหน็ หรอื ทําความ เขา้ ใจระหวา่ งรฐั กับประชาชน ในการชแี จงนโยบาย แถลงผลการดําเนินงาน และ การวางแผนบรหิ ารประเทศ ได้แก่ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสมั คมแหง่ ชาติ นโยบายสาธารณะ เปนต้น

บทบาทดา้ นการพฒั นาเศรษฐกิจ สอื สงิ พมิ พไ์ ด้ถกู นําไปใชเ้ พอื พฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งกวา้ งขวาง เชน่ การโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ การผลิตบรรจุภัณฑ์ ซงึ เมอื ธุรกิจมกี ารเติบโตก็จะสง่ ผลใหค้ วาม ต้องการผลิตภัณฑ์ทางการพมิ พเ์ พมิ ขนึ ตามไปด้วย ไดแ้ ก่ แผน่ พบั ใบปลิว นามบตั ร ฉลากบรรจุภัณฑ์ ใบเสรจ็ กระดาษจดหมาย และซองจดหมาย เปนต้น

ขอ้ ดีของสอื สงิ พมิ พ์ กระบวนการในการผลิตสอื สงิ พมิ พส์ ามารถจะทําไดห้ ลายแบบ เปดโอกาสใหเ้ ลือกในรปู แบบที เหมาะสมกับสถานการณ์ จดั พมิ พไ์ ดห้ ลายรปู แบบตามวตั ถปุ ระสงค์ทีจะนาํ ไปใช้ ใชเ้ ปนสอื ในการศึกษาโดยตรงหรอื ใชส้ นบั สนนุ สอื อืน ๆ เลือกจดั พมิ พใ์ หม้ รี ะยะเวลาการใชง้ านต่าง ๆ กัน ระยะสนั ระยะยาว เฉพาะกล่มุ บุคคล ผลิตเพอื ใชใ้ หเ้ หมาะกับกล่มุ เปาหมายเฉพาะดา้ นได้ เขา้ ถึงกล่มุ เปาหมายไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางในทกุ ระดบั ของสงั คม ปรบั ใชใ้ หเ้ หมาะสมกับกระบวนการใชแ้ ละผลลัพธท์ ีต้องการตามสภาพของเครอื งอํานวย ความสะดวกทีมอี ยู่ การศึกษาสงิ พมิ พไ์ มจ่ าํ เปนต้องใชว้ ธิ พี เิ ศษหรอื เครอื งอํานวยความสะดวกอยา่ งอืนเขา้ มาชว่ ย สอื สงิ พมิ พใ์ ชเ้ รยี นรแู้ ละอ่านซาํ ๆ กันไดห้ ลาย ๆ ครงั ราคาถกู หาซอื ไดง้ ่าย อายุยาว คงทนถาวร เก็บรกั ษาไดน้ าน

ขอ้ จาํ กัดของสอื สงิ พมิ พ์ ไมส่ ามารถเขา้ ถึงผอู้ ่านทีอ่านหนงั สอื ไมอ่ อก และผทู้ ีมปี ญหาทางด้านสายตา วสั ดทุ ีใชผ้ ลิตมคี วามบอบบางและฉีกขาดได้ง่าย เก็บรกั ษายากเนอื งจากมลี ักษณะ รูปทรง และขนาดแตกต่างกัน การเก็บรกั ษาในระยะยาว ต้องมคี วามระมดั ระวงั ในการเก็บ เชน่ ควรระวงั ความชนื ความรอ้ นและฝุนละออง การพมิ พใ์ นระบบทีมคี ณุ ภาพต้องใชก้ ารลงทนุ สงู มาก โดยเฉพาะการพมิ พใ์ น ระบบสสี ี ปญหาในการเผยแพรแ่ จกจา่ ย เนอื งจากต้องมกี ารขนสง่ ถ้าหากการขนสง่ ไมส่ ามารถ สง่ ถึงกล่มุ เปาหมายได้ การรบั รูข้ า่ วสารต่าง ๆ ก็จะขาดตอนลง

CREATET BY ARINTAYA JAIAYE