ความสัมพนั ธ์ระหว่างวรรณคดกี ับจิตรกรรมไทย จิตรกรรมไทย หมายถึง ภาพเขียนที่มลี กั ษณะเป็นแบบอย่างของไทยท่แี ตกต่างจากศลิ ปะของชนชาติอืน่ อย่าง ชดั เจน ถงึ แม้จะมอี ทิ ธิพลศิลปะของชาตอิ ่ืนอยูบ่ ้าง แตส่ ามารถดดั แปลง คลี่คลาย ตดั ทอนหรือเพิม่ เตมิ จนเป็นเอกลกั ษณ์ เฉพาะของตนเองได้อย่างสวยงาม ลงตวั นา่ ภาคภูมิใจและมวี ิวฒั นาการทางด้านรูปแบบ และวิธีการมาตลอดจนถึงปัจจบุ นั ซงึ่ สามารถพฒั นาตอ่ ไปอกี ในอนาคต จิตรกรรมไทยเป็นลกั ษณะอดุ มคตเิ ป็นภาพ ๒ มติ ิ โดยนาส่งิ ใกล้ไว้ตอนลา่ งของภาพ สิ่งไกลไว้ตอนบนของภาพ ใช้สีแบบเอกรงค์ คือ ใช้หลากสี แต่มีสีท่ีโดดเดน่ เพยี งสีเดยี ว ลายไทย ส่งิ ของ เครื่องใช้ตา่ งๆ เคร่ืองประดบั ฯลฯ เป็นลวดลายทมี่ ีชอ่ื เรียกต่างกนั ซ่งึ นาเอารูปร่างจากธรรมชาติมาประกอบ เช่น ลายกระหนก ลายกระจงั ลายประจายาม ลายเครือเถา เป็นต้น หรือเป็นรูปท่มี าจากความเชือ่ และคตินิยม เชน่ รูปคน รูป เทวดา รูปยกั ษ์ รูปสตั ว์ เป็นต้น จติ รกรรมไทย เป็นวิจิตรศิลป์ อย่างหน่ึง ซึ่งสง่ ผลสะท้อนให้เหน็ วฒั นธรรมอนั ดีงามของชาติ มคี ณุ คา่ ทางศิลปะและเป็นประโยชน์ตอ่ การศกึ ษาค้นคว้า เรื่องที่เกยี่ วกับ ศาสนา ประวตั ศิ าสตร์ โบราณคดี ชวี ติ ความเป็นอยู่ วฒั นธรรมการแตง่ กาย ตลอดจนการ แสดงการละเล่นพนื ้ เมืองตา่ งๆ ของแต่ละยุคสมยั และสาระอืน่ ๆ ท่ปี ระกอบกันเป็นภาพจิตรกรรมไทย งานจติ รกรรมให้ ความรู้สึกในความงามอนั บริสทุ ธิ์น่าชน่ื ชม เสริมสร้างสนุ ทรียภาพขนึ ้ ในจติ ใจมวลมนุษยช์ าติได้โดยทวั่ ไป :: ววิ ฒั นาการของงานจิตรกรรมไทย แบง่ ออกตามลกั ษณะรปู แบบทางศลิ ปกรรม ท่ีปรากฏในปัจจบุ นั มีอยู่ ๒ แบบ ::
๑.จติ รกรรมในสมัยอยธุ ยา สว่ นใหญเ่ กยี่ วเนื่องกบั พระพุทธศาสนา ในระยะแรกได้รับอทิ ธพิ ลมาจากศลิ ปะแบบลพบรุ ี สโุ ขทยั และลงั การวมอยู่ ด้วย โดยจะมีภาพทมี่ ีลกั ษณะแข็งและหนกั ใช้สดี า ขาว และแดง มีการปิดทองบนภาพบ้างเลก็ น้อย เช่น ภาพเขยี นบนผนงั ในกรุพระปรางคว์ ดั ราชบรู ณะ ซ่ึงสร้างขนึ ้ สมยั สมเดจ็ พระบรมราชาธริ าชท่ี ๒ (เจ้าสามพระยา) แตร่ ะยะหลงั จิตรกรรมใน สมยั อยุธยามกั เป็นภาพวาดเกย่ี วกับเรื่องไตรภมู ิ ซงึ่ มภี าพพทุ ธประวตั ิประกอบ ตงั้ แตส่ มยั สมเด็จพระเชษฐาธิราชจนถึงสิน้ สดุ สมยั อยุธยาจติ รกรรมอยธุ ยาแสดงให้เหน็ ถงึ ลกั ษณะของจิตรกรรมไทย บริสทุ ธอ์ิ ย่างสมบูรณ์ สที ี่วาดนิยมใช้หลกั สี นยิ มปิดทองลงบนรูปและลวดลาย เเต่การเขียนภาพต้นไม้ ภูเขา และนา้ แสดง ให้เหน็ อิทธิพลของศลิ ปะจีนอย่บู ้าง ๒.จิตรกรรมไทยแบบร่ วมสมยั เห็นผลมาจากความเจริญก้าวหน้าทางวทิ ยาการของโลก ความเจริญทางการศกึ ษา การคมนาคม การพาณิชย์ การ ปกครอง การรับรู้ข่าวสารความเป็นไปของโลกที่อยู่ห่างไกล ฯลฯ เหลา่ นลี ้ ้วนมผี ลต่อความรู้สกึ นกึ คดิ และแนวทางการ แสดงออกของศิลปินในยคุ ตอ่ ๆมาซึง่ ได้พฒั นาไปตามสภาพแวดล้อมความเปล่ียนแปลงของชวี ิต ความเป็นอยู่ ความรู้สกึ นกึ คิด และความนิยมในสงั คม สะท้อนให้เห็นถงึ เอกลกั ษณ์ใหม่ของวฒั นธรรมไทยอีกรูปแบบหน่งึ อยา่ งมคี ณุ ค่าเชน่ เดียวกนั สาหรบั ลกั ษณะเกีย่ วกบั จิตรกรรมไทยร่วมสมยั นนั้ สว่ นใหญ่เป็นแนวทางเดียวกบั ลกั ษณะศิลปะแบบตะวนั ตกในลทั ธิต่างๆ ตามความนยิ มของศิลปินแต่ละคน
จติ รกรรมไทยแบบประเพณี จิตรกรรมไทยแบบประเพณ(ี Thai Traditional Painting) เป็นศลิ ปะทีม่ ีความประณตี สวยงามแสดง ความรู้สกึ ชีวิตจติ ใจและความเป็นไทย มคี วามออ่ นโยน ละมนุ ละไม สร้างสรรค์สบื ต่อกนั มาตงั้ แต่อดตี จนได้ลกั ษณะประจา ชาติ มลี กั ษณะประจาชาติท่มี ีลกั ษณะแบบรูปแบบเป็นพิเศษ นิยมเขยี นบนฝาผนงั ภายในอาคารท่เี กยี่ วกับพระพุทธศาสนา และอาคารท่เี ก่ียวกับบุคคลชนั้ สงู เชน่ โบสถ์ วหิ าร พระท่นี ง่ั วงั บนผนื ผ้า บนกระดาษ และบนส่งิ ของเคร่ืองใช้ตา่ งๆโดย เขียนด้วยสฝี ุ่น ตามกรรมวิธีของชา่ งเขยี นไทยแตโ่ บราณ เนอื ้ หาทเ่ี ขียนมาเป็นเรื่องราวเกีย่ วกบั อดตี พทุ ธ พทุ ธประวตั ิ ทศ ชาติชาดก ไตรภูมิ วรรณคดแี ละชีวติ ไทย พงศาวดารตา่ งๆ ส่วนใหญ่นยิ มเขียนประดบั บนผนงั พระอโุ บสถ วิหารอนั เป็นสถานที่ศกั ด์สิ ทิ ธิป์ ระกอบพิธีทางศาสนา ลกั ษณะ จิตรกรรมไทยแบบประเพณี เป็นศิลปะแบบอดุ มคติ(Idealistic)ผนวกเข้ากับเร่ืองราวที่กงึ ลกึ ลบั มหศั จรรย์ ซึ่งคล้ายกบั งานจติ รกรรมในประเทศแถบตะวนั ออกหลายๆประเทศ เชน่ อินเดยี ศรีลงั กา จีนและญ่ีป่นุ เป็นต้น เป็นภาพทร่ี ะบายสีแบบ เรียบด้วยสคี อ่ นข้างสดใส ร้านมีการตดั เส้นภาพเป็น ๒ มิติ ให้ความรู้สึกเพยี งด้านกว้างและด้านยาว ไมม่ คี วามลกึ ไม่มกี าร ใช้แสงและเงามาประกอบ จติ รกรรมไทยแบบประเพณมี ลี กั ษณะพิเศษในการจดั วางภาพแบบเลา่ เรื่องเป็นตอนๆตามผนงั ชอ่ งหน้าต่างโดยรอบ โบสถ์ วหิ าร และผนงั ด้านหน้าและหลงั พระประธาน ภาพจิตรกรรมไทยมีการใช้สแี ตกต่างกันออกไปตามยคุ สมยั ทางเอก รงคแ์ ละพระหุรงค์ โดยเฉพาะการใช้สหี ลกั ๆสแี บบพหุรงค์นยิ มมากในสมยั รตั นโกสินทร์ เพราะได้สจี ากต่างประเทศทีเ่ ข้ามา ตดิ ต่อค้าขายด้วย ทาให้ภาพจติ รกรรมไทยมคี วามสวยงามและสสี นั ที่หลากหลายมากขนึ ้ รูปแบบลกั ษณะตวั ภาพในจิตรกรรมไทย ซึง่ จติ รกรไทยได้สร้างออกแบบไว้เป็นรูปอดุ มคติทแ่ี สดงออกทางความคิดให้ สมั พนั ธ์กบั เนอื ้ เรื่องและความสาคญั ของภาพ เช่น รูปเทวดา นางฟ้า กษตั ริย์ นางพญา นางรา จะมีลกั ษณะเด่นงามสง่าด้วย ลลี าอนั ชดช้อย แสดงอารมณ์ความรู้สกึ ปิตยิ ินดี หรือโศกเศร้าเสียใจด้วยอากัปกิริยาทา่ ทาง ถ้าเป็นรูปยกั ษ์ มาร ก็แสดงออกด้วยท่าทางที่บึกบึน แขง็ ขนั สว่ นพวกวานรแสดงความลงิ โลด คลอ่ งแคล่วว่องไวด้วย ลีลาทว่ งท่าและหน้าตาสาหรบั พวกชาวบ้านธรรมดาสามญั กจ็ ะเห็นความตลกขบขนั สนุกสนานร่าเริงหรือเศร้าเสียใจออก ทางใบหน้า สว่ นช้าง ม้าเหล่าสตั วท์ งั้ หลายก็มีรูปแบบแสดงชวี ิตเป็นธรรมชาติ ซงึ่ จิตรกรไทยได้พยายามศกึ ษา ถา่ ยทอดอารมณ์ สอดแทรกความรู้สกึ ในรูปแบบได้อย่างลกึ ซงึ ้ เหมาะสม สวยงาม เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของชนชาติไทยท่นี ่าภาคภมู ใิ จ สมควรจะได้อนุรกั ษ์สืบทอดให้เป็นมรดกของชาติสบื ไป
ความสาคญั ของจิตรกรรมไทย จิตรกรรมไทย เป็นแหล่งรวบรวมข้อมลู แบบสหวทิ ยาการ ถอื ได้ว่าเป็นแหล่งขุมความรู้โดยเฉพาะเร่ืองราวจากอดีตท่ี สาคญั ย่งิ แสดงให้เห็นถึงความเป็นชนชาตทิ ่ีมอี ารยธรรมอนั เก่าแกย่ าวนาน ประโยชน์ของงานจติ รกรรมไทย นอกจากจะให้ความสาคญั ในเรื่องคณุ คา่ ของงานศิลปะแล้วยงั มีคณุ คา่ ในด้าน อน่ื ๆอีกมากมาย ดงั นี ้ ๑.คณุ ค่าในทางประวตั ิศาสตร์ ๗.คณุ คา่ ในการศกึ ษาประเพณแี ละวฒั นธรรม ๒.คณุ ค่าในทางศิลปะ ๘.คณุ ค่าในการศกึ ษาเรื่องทศั นคติคา่ นิยม ๓.คณุ คา่ ในเรื่องการแสดงเชอื ้ ชาติ ๙.คณุ คา่ ในการศกึ ษานิเวศวิทยา ๔.คณุ ค่าในทางสถาปัตยกรรม ๑๐.คณุ ค่าในการศกึ ษาเร่ืองราวทางพทุ ธศาสนา ๕.คณุ ค่าในเชิงสงั คมวิทยา ๑๑.คณุ ค่าในทางเศรษฐกจิ การท่องเทย่ี ว ๖.คณุ คา่ ในด้านโบราณคดี วเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่างวรรณคดกี บั จติ รกรรมไทย จติ รกรรมได้ทาให้เกิดความช่นื ชมและความประทบั ใจต่อกวี กวีได้ถา่ ยทอดความชืน่ ชมนนั้ ลงในวรรณคดีอย่างแจ่ม ชดั เเละได้รบั ความรู้และความบนั ดาลใจจากวรรณคดีไปสร้างสรรค์งานของตนอยา่ งมากมาย วิธีการอนุรักษ์ สืบสาน และเผยแพร่ ส่งเสริมให้ทกุ คนเหน็ คณุ ค่าร่วมกนั รกั ษาเอกลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมของชาตแิ ละของท้องถน่ิ สร้างทศั นคติ ความรู้ ความเข้าใจว่าทกุ คนมีหน้าทเี่ สริมสร้าง ฟืน้ ฟู เเละการดแู ลรกั ษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เเละทางวฒั นธรรมทีเ่ ป็น สมบตั ิของชาติ และมผี ลโดยตรงของความเป็นอยู่ของทุกคน จดั ทาโดย นางสาวพมิ พ์วไิ ล สาธติ พทิ กั ษ์ ม.4/6 เลขท่ี 17
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: