\"การใชจายโดยประหยัดนั้น จะเปนหลักประกันความสมบูรณพูนสุขของผู ประหยัดเองและครอบครัว ชวยปองกันความขาดแคลนในวันขางหนา การประหยัดดังกลาว นี้ จะมีผลดีไมเฉพาะแกผูประหยัดเทานั้น ยังจะเปนประโยชนแกประเทศชาติดวย\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันขึ้นปใหม ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒
\"...การพัฒนาประเทศ จําเปนตองทําตามลําดับขั้น ตอง สรางพื้นฐานคือ ความพอมี พอ กิน พอใชของประชาชนสวนใหญ เบื้องตนกอน โดยใชวิธีการและ อุปกรณที่ประหยัดแตถูกตองตาม หลักวิชาการ เมื่อไดพื้นฐานความ มั่นคงพรอมพอสมควร และปฏิบัติ ไดแลว จึงคอยสรางคอยเสริม ความเจริญ และฐานะทาง เศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลําดับ ตอไป...\" พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบ ศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธี พระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร เมื่อ วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗
\"...คนอื่นจะวาอยางไรก็ชางเขา จะวาเมืองไทยลาสมัย วา เมืองไทยเชย วาเมืองไทยไมมีสิ่งที่สมัยใหม แตเราอยู พอมีพอกิน และขอใหทุกคนมีความปรารถนาที่จะใหเมืองไทย พออยูพอกิน มีความสงบ และทํางานตั้งจิตอธิษฐานตั้งปณิธาน ในทางที่จะใหเมืองไทยอยูแบบพออยูพอกิน ไมใชวาจะรุงเรือง อยางยอด แตวามีความพออยูพอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบ กับประเทศอื่น ๆ ถาเรารักษาความพออยูพอกินนี้ได เราก็จะ ยอดยิ่งยวดได...\" \"...ฉะนั้น ถาทุกทานซึ่งถือวาเปนผูที่มีความคิด และมี อิทธิพล มีพลังที่จะทําใหผูอื่นซึ่งมีความคิดเหมือนกัน ชวยกัน รักษาสวนรวมใหอยูดีกินดีพอสมควร ขอย้ํา พอควร พออยูพอ กิน มีความสงบ ไมใหคนอื่นมาแยงคุณสมบัตินี้จากเราไปได ก็ จะเปนของขวัญวันเกิดที่ถาวร ที่จะมีคุณคาอยูตลอดกาล...\" \"...ถาทานทั้งหลายชวยกันคิด ชวยกันทํา แมจะมีการเถียงกันบาง แตเถียงดวยรากฐานของเหตุผล และเมตตาซึ่งกัน และกัน และสิ่งที่สูงสุด ที่สุดก็คือประโยชนรวมกัน คือ ความพอมีพอกิน พออยู ปลอดภัยของประเทศชาติ...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันเฉลิมพระ ชนมพรรษา วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๑๗
\"...วิถีทางดําเนินของบานเมืองและ ประชาชนโดยทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมา ตลอด เนื่องมาจากความวิปริตผันแปรของ วิถีแหงเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงใหพนได จึงตองระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามาก ขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเปนอยูโดย ประหยัด เพื่อที่จะอยูใหรอดและกาวหนา ตอไปไดโดยสวัสดี...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระ บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวัน ขึ้นปใหม วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๑
\"...เศรษฐศาสตรเปนวิชาของเศรษฐกิจ การที่ตองใชรถไถตองไปซื้อ เราตองใชตองหาเงินมาสําหรับ ซื้อน้ํามันสําหรับรถไถ เวลารถไถเกาเราตองยิ่งซอมแซม แตเวลาใชนั้นเราก็ตองปอนน้ํามันใหเปนอาหาร เสร็จแลวมันคายควัน ควันเราสูดเขาไปแลวก็ปวดหัว สวนควายเวลาเราใชเราก็ตองปอนอาหาร ตองให หญา ใหอาหารมันกิน แตวามันคายออกมา ที่มันคายออกมาก็เปนปุย แลวก็ใชไดสําหรับใหที่ดินของเราไม เสีย...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๖
\"...ในทุกวันนี ประเทศไทยยัง มีทรัพยากรพร้อมมูล ทั ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากร บุคคล ซึงสามารถนํามาใช้เสริมสร้าง ความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพ อันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสําคัญ ต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั น อย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์ แท้จริงทีจะเกิดแก่ประเทศชาติ...\" พระราชดํารัสพระบาทสพระ บาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา วันที ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
\"...เราไมเปนประเทศร่ํารวย เรามีพอสมควร พออยูได แตไมเปนประเทศที่กาวหนาอยางมาก เราไมอยากจะเปนประเทศกาวหนาอยางมาก เพราะถาเราเปนประเทศกาวหนาอยางมากก็จะมีแต ถอยกลับ ประเทศเหลานั้นที่เปนประเทศอุตสาหกรรมกาวหนา จะมีแตถอยหลังและถอยหลังอยางนา กลัว แตถาเรามีการบริหารแบบเรียกวาแบบคนจน แบบที่ไมติดกับตํารามากเกินไป ทําอยางมีสามัคคี นี่แหละคือเมตตากัน จะอยูไดตลอดไป...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔
\"... ตามปกติคนเราชอบดูสถานการณ์ ในทางดี ที เขาเรียกว่าเล็งผลเลิศ ก็เห็นว่า ประเทศไทยเรานี ก้าวหน้าดี การเงินการ อุตสาหกรรมการค้าดี มีกําไร อีกทางหนึ งก็ ต้องบอกว่าเรากําลังเสื อมลงไปส่วนใหญ่ ทฤษฎีว่าถ้ามีเงินเท่านั น ๆ มีการกู้เท่านั น ๆ หมายความว่าเศรษฐกิจก้าวหน้า แล้วก็ ประเทศก็เจริญมีหวังว่าจะเป็นมหาอํานาจ ขอโทษเลยต้องเตือนเขาว่า จริงตัวเลขดี แต่ ว่าถ้าเราไม่ระมัดระวังในความต้องการ พื นฐานของประชาชนนั นไม่มีทาง...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระ บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๕ ธันวาคม ๒๕๓๖
\"... ที เป็นห่วงนั น เพราะแม้ในเวลา ๒ ปี ที เป็นปีกาญจนาภิเษกก็ได้เห็นสิ งที ทําให้เห็นได้ว่า ประชาชนยังมีความ เดือดร้อนมาก และมีสิ งที ควรจะแก้ไขและดําเนินการต่อไปทุกด้าน มีภัยจากธรรมชาติกระหนํ า ภัยธรรมชาตินี เราคงสามารถที จะบรรเทาได้หรือแก้ไขได้ เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาพอใช้ มีภัยที มาจากจิตใจของคน ซึ งก็แก้ไขได้เหมือนกัน แต่ว่ายากกว่าภัย ธรรมชาติ ธรรมชาตินั นเป็นสิ งนอกกายเรา แต่นิสัยใจคอของคนเป็นสิ งที อยู่ข้างใน อันนี ก็เป็นข้อหนึ งที อยากให้จัดการให้มี ความเรียบร้อย แต่ก็ไม่หมดหวัง...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
\"... ความจริงเคยพูดเสมอในที ประชุมอย่างนี ว่า การจะเป็นเสือนั นไม่สําคัญ สําคัญอยู่ที เรามีเศรษฐกิจแบบ พอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั นหมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง อันนี ก็เคยบอกว่า ความพอเพียงนี ไม่ได้ หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอําเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ งบางอย่างที ผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที ไม่ห่างไกลเท่าไร ไม่ ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก อย่างนี ท่านนักเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็มาบอกว่าล้าสมัยจริง อาจจะล้าสมัย คนอื นเขาต้องมีเศรษฐกิจ ที ต้อง มีการแลกเปลี ยน เรียกว่าเศรษฐกิจการค้า ไม่ใช่เศรษฐกิจความพอเพียง เลยรู้สึกว่าไม่หรูหรา แต่เมืองไทยเป็นประเทศที มีบุญ อยู่ว่า ผลิตให้พอเพียงได้ …\"
\"... การกู้เงินนี นํามาใช้ในสิ งที ไม่ทํารายได้นั นไม่ดี อันนี เป็นข้อสําคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินและ ทําให้มีรายได้ก็เท่ากับจะใช้หนี ได้ ไม่ต้องติดหนี ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ กู้เงิน นั น เงินจะต้องให้เกิดประโยชน์ มิใช่กู้สําหรับไปเล่นไปทําอะไรที ไม่เกิดประโยชน์...\" \"... เมื อปี ๒๕๑๗ ถึง ๒๕๔๑ ก็ ๒๔ ปีใช่ไหม วันนั นได้พูดว่า เราควรจะปฏิบัติให้ พอมีพอกิน พอมีพอกินก็แปลว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั นเอง ถ้าแต่ละคนมีพอมีพอกินก็ ใช้ได้ ยิ งถ้าทั งประเทศพอมีพอกินก็ยิ งดีใหญ่ …\" \"… สมัยก่อนนี พอมีพอกิน มาสมัยนี ชักจะไม่พอมีพอกิน จึงต้องมีนโยบายที จะทํา เศรษฐกิจพอเพียง เพื อที จะให้ทุกคนพอเพียงได้ ให้พอเพียงนี ก็หมายความว่า มีกิน มีอยู่ ไม่ ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ แม้ว่าบางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทําให้มีความสุข ถ้า ทําได้ก็สมควรที จะทํา สมควรที จะปฏิบัติ อันนี ก็ความหมายอีกอย่างของเศรษฐกิจพอเพียง หรือระบบพอเพียง …\"
\"... แต่ว่าพอเพียงนี มีความหมายกว้างขวางยิ งกว่านี อีก คือ คําว่าพอ ก็เพียงพอเพียงนี ก็พอ ดังนั นเอง คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียน ผู้อื นน้อย...\" \"... มีความคิดว่าทําอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไป เบียดเบียนคนอื น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทําอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติ ตนก็พอเพียง...\" \"… ความพอเพียงนี ก็แปลว่าความพอประมาณ และความมีเหตุผล …\" พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐
\"... เศรษฐกิจ พอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy…\" \"... คําว่า Sufficiency Economy นี ไม่มีใน ตําราเศรษฐกิจ จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็น ทฤษฎีใหม่...\" \"...Sufficiency Economy นั น ไม่มีในตํารา เพราะหมายความว่าเรามีความคิดใหม่ …\" \"... และโดยที ท่านผู้เชี ยวชาญสนใจ ก็ หมายความว่าเราก็สามารถที จะไปปรับปรุง หรือ ไปใช้หลักการ เพื อที จะให้เศรษฐกิจของประเทศ และของโลกพัฒนาดีขึ น...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระ ชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
\"... คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด อันนี ไม่ใช่เศรษฐกิจ มีความคิดว่าทําอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข...\" \"... ให้พอเพียงนี ก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ ่ มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ แม้บางอย่าง อาจจะดูฟุ ่ มเฟือย แต่ถ้าทําให้มีความสุข ถ้าทําได้ก็สมควรที จะทํา สมควรที จะปฏิบัติ อันนี ก็หมายความ อีกอย่างของเศรษฐกิจ หรือระบบพอเพียง...พอเพียงนี อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้อง ไม่เบียดเบียนคนอื น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทําอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็ พอเพียง...\" \" เศรษฐกิจพอเพียง...จะทําความเจริญให้แก่ประเทศได้ แต่ต้องมีความเพียร แล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจ ร้อน ต้องไม่พูดมาก ต้องไม่ทะเลาะกัน ถ้าทําโดยเข้าใจกัน เชื อว่าทุกคนจะมีความพอใจได้...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
\"... คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ ๆ เหมือนการสร้างเขื อนป่ าสัก ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน เขานึกว่าเป็น เศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจที ห่างไกลจากเศรษฐกิจพอเพียง แต่ที จริงแล้วเป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน...\" \"... ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ งที จะเห็นชาวไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือให้ความรัก ความเมตตากัน ให้ นํ าใจไมตรีกัน ให้อภัย ไม่ถือโทษ โกรธเคืองกัน ให้การสงเคราะห์ อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ และจริงใจ...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื อวันที ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒
\" เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั นคงของแผ่นดิน เปรียบเสมือน เสาเข็ม ที ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั นเอง สิ งก่อสร้างจะมั นคงได้ก็อยู่ที เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่ เห็นเสาเข็มและลืมเสาเข็มเสียด้วยซํ าไป\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จาก วารสารชัยพัฒนาประจําเดือนสิงหาคม ๒๕๔๒
\"... ไฟดับถ้ามีความจําเป็น หากมี เศรษฐกิจพอเพียงแบบไม่เต็มที เรามีเครื องปั น ไฟก็ใช้ปั นไฟ หรือถ้าขั นโบราณกว่า มืดก็จุด เทียน คือมีทางที จะแก้ปัญหาเสมอ ฉะนั น เศรษฐกิจพอเพียงก็มีเป็นขั น ๆ แต่จะบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียงนี ให้พอเพียงเฉพาะตัวเอง ร้อยเปอร์เซ็นต์นี เป็นสิ งทําไม่ได้ จะต้องมีการ แลกเปลี ยน ต้องมีการช่วยกัน ถ้ามีการช่วยกัน แลกเปลี ยนกัน ก็ไม่ใช่พอเพียงแล้ว แต่ว่า พอเพียงในทฤษฎีในหลวงนี คือให้สามารถที จะ ดําเนินงานได้...\" พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒
\"... แต่ว่าพอเพียง ในทฤษฎีหลวงคือ ให้สามารถดําเนินงานได้ แต่ที ว่าเมืองไทยไม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียง นี ไม่ได้ตําหนิ ไม่เคย พูด นี พูดในตอนนี พูดเวลานี ขณะนี ว่าประเทศไทย ไม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ค่อนข้างจะแย่ เพราะว่าจะทําให้ล่มจม...\" \"... เศรษฐกิจพอเพียงที หมายถึงนี คือว่าอย่างคนที ทําธุรกิจ ก็ย่อมต้องไปกู้เงิน เพราะว่าธุรกิจ หรือกิจการอุตสาหการ สมัยใหม่นี คนเดียวไม่สามารถที จะรวบรวมทุนมาสร้างกิจการ กิจกรรมที ใหญ่ ซึ งจําเป็นที จะต้องใช้กิจกรรมที ใหญ่ …\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๓
\"… ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมายคือ ทําอะไรให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทําจากรายได้ 200-300 บาท ขึ นไปเป็นสองหมื น สามหมื นบาท คนชอบเอาคําพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกันเลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือ ทําเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมาย ไม่ใช่แบบที ฉันคิด ที ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขา ต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจํากัดเขาไม่ให้ซื อทีวีดู เขาต้องการดูเพื อความสนุกสนาน ในหมู่บ้านไกล ๆ ที ฉันไป เขามี ทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั น มีทีวีเขาฟุ ่ มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มีสตางค์ไปตัดสูทใส่ และยังใส่ เนคไทเวอร์ซาเช่ อันนี ก็เกินไป … “ พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ พระ ตําหนักเปี ยมสุข วังไกลกังวล วันที ๒๑ มกราคม ๒๕๔๔
\"… การอยู่พอมีพอกิน ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีความก้าวหน้า มันจะมีความก้าวหน้าแค่พอประมาณ ถ้า ก้าวหน้าเร็วเกินไป ไปถึงขึ นเขายังไม่ถึงยอดเขา หัวใจวาย แล้วก็หล่นจากเขา ถ้าบุคคลหล่นจากเขา ก็ไม่เป็นไร ช่างหัวเขา แต่ว่าถ้าคนคนเดียวขึ นไปวิ งบนเขา แล้วหล่นลงมา บางทีทับคนอื น ทําให้คนอื นต้องหล่นไปด้วย อันนี เดือดร้อน …\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๔๔
\"… เศรษฐกิจพอเพียงที ได้ยํ าแล้วยํ าอีกแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า sufficiency economy ใครต่อใครก็ ต่อว่า ว่า ไม่มี sufficiency economy แต่ว่าเป็นคําใหม่ของเราก็ได้ก็หมายความว่า ประหยัด แต่ไม่ใช่ขี เหนียว ทําอะไร ด้วยความอะลุ้มอล่วยกัน ทําอะไรด้วยเหตุและผล จะเป็นเศรษฐกิจพอเพียง แล้วทุกคนจะมีความสุข แต่ เศรษฐกิจพอเพียงนี เป็นสิ งที ปฏิบัติยากที สุด …\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ธันวาคม 4 2544
\"… เมืองไทยเนี ยมีทรัพยากรดี ๆ ไม่ทําไม่ใช้ เดี ยวต้องไปกู้เงินอะไรที ไหนมา มาพัฒนาประเทศ จริง ๆ สุนัขฝรั งก็ ต้องซื อมา ต้องมี แต่ว่าเรามีของมีทรัพยากรที ดี เราต้องใช้ ไม่ใช่สุนัขเท่านั น อื น ๆ ของอื นหลายอย่าง แล้วที นายกฯ พูด ถึงทฤษฎีใหม่ พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไอ้เนี ยเราไม่ได้ซื อจากต่างประเทศ แต่ว่าเป็นของพื นเมืองแล้วก็ไม่ได้ อาจจะ อ้างว่าเป็นความคิดพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทํามานานแล้ว ทั งราชการ ทําราชการ ทั งพลเรือน ทั งทหาร ทั งตํารวจ ได้ใช้ เศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว …\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื องใน โอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
\"… ความสะดวกจะสามารถสร้างอะไรได้มาก นี คือเศรษฐกิจพอเพียง สําคัญว่าต้องรู้จักขั นตอน ถ้านึกจะทําอะไรให้เร็วเกินไป ไม่พอเพียง ถ้าไม่เร็ว ช้าไป ก็ไม่พอเพียง ต้องให้รู้จักก้าวหน้า โดยไม่ทําให้คน เดือดร้อน อันนี เศรษฐกิจพอเพียงคงได้ศึกษามานานแล้ว เราพูดมาแล้ว ปีต้องปฏิบัติด้วย 10 …\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื อง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖
\"... ในเรื องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่ เพียงพอ คือว่า ไม่ได้หมายความว่า ให้ทํากําไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั นเอง ทํากําไรก็ทํา ถ้าเราทํากําไรได้ดี มันก็ดี แต่ว่า ขอให้มันพอเพียง ถ้าท่านเอากําไรหน้าเลือดมากเกินไป มัน ไม่ใช่พอเพียง …\" \"... ฟังว่ารัฐบาลหรือเมืองไทย ประชาชน มีเงินเยอะ มีเงินเกิน ก็ใช้สิ เขาหาว่าเราเศรษฐกิจพอเพียง คําว่า พอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี เหนียว ถ้ามีเงินไม่ต้องขี เหนียว ซื อไปเถอะ อะไรก็ตาม เครื องบิน เรือ รถถัง ซื อ ถ้า มีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย เดี ยวนี เขาบอกว่า ใน หนังสือพิมพ์เห็นรึเปล่า ว่าเขาสนับสนุนให้จ่าย ถ้ามีก็จ่าย แต่ถ้าไม่มีก็ระงับหน่อย ...\" พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร เนื องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อําเภอ เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: