Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่1.ความหมายองค์ประกอบศิลป์

บทที่1.ความหมายองค์ประกอบศิลป์

Published by yyk61173, 2020-03-16 09:35:28

Description: บทที่1.ความหมายองค์ประกอบศิลป์

Search

Read the Text Version

หนว่ ยท่ี1 ความหมายองค์ประกอบศิลป์ หวั ข้อเร่ือง (Topics) 1.1 ความหมายขององค์ประกอบศิลป์ 1.2 ความสาคญั ขององค์ประกอบศิลป์ 1.3 ทัศนศิลป์ 1.4 ทัศนธาตุ แนวคดิ สาคัญ (Main ldea) ในปจั จบุ นั เทคโนโลยกี ้าวเขา้ สูก่ ารนาสมยั ไมว่ ่าจะมองไปทางใด จะพบว่าคอมพวิ เตอร์ได้เข้ามามี บทบาทในงานต่าง ๆ มากยิ่งขึน้ รวมไปถึงงานด้านกราฟิกท่ไี ดม้ กี ารนาเอาคอมพวิ เตอร์เขา้ มาสร้างสรรค์ใน ช้นิ งานการออกแบบและเกดิ พัฒนาอย่างต่อเนอ่ื ง ซ่งึ ในหน่วยการเรียนนี้จะศึกษาและทาความเข้าใจกับ คอมพวิ เตอร์ท่ีใช้ในงานกราฟกิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แสดงความรู้เก่ียวกบั ความหมายองค์ประกอบศิลป์ จดุ ประสงค์การปฏิบตั ิ (Performance Objectives) 1. บอกความหมายขององค์ประกอบศลิ ป์ 2. อธิบายเกี่ยวกับหลักการขององคป์ ระกอบศลิ ป์ 3. อธบิ ายเกย่ี วกบั ทัศนศิลป์ 4. อธิบายเกย่ี วกับทศั นธาตุ

หนว่ ยท่ี 1 ความหมายองคป์ ระกอบศิลป์ 1.1 ความหมายขององคป์ ระกอบศิลป์ คาวา่ องคป์ ระกอบ ตามความหมายพจนานุกรมราชบณั ฑิตยสถาน คือสว่ นต่างๆ ท่ีประกอบกนั ทาใหหเกกดิ รูปร่างใหหมข่ ้นึ โดยกฉพาะ องค์ประกอบศิลป์ หมายถึง ส่งิ ท่ีศิลปินและนักออกแบบใหชเกป็นสือ่ ใหนการแสดงออกและสราเ งความหมาย โดยนามาจัดกขาเ ดเวยกนั และกกดิ รปู รา่ งอันกด่นชดั องคป์ ระกอบศิลป์ ยงั กป็นกครอื่ งหมายหรอื รูปแบบทนี่ ามาจัดรวมกนั แลวเ กกดิ รูปร่างตา่ งๆทแ่ี สดงออกใหน การสอ่ื ความหมายและความคิดสราเ งสรรค์และกป็นศิลปะทมี่ นษุ ย์สราเ งข้นึ กพือ่ แสดงออกทางอารมณ์ ความรเสู กึ ความคิดหรือความงดงามซึง่ ประกอบดวเ ยสว่ นทม่ี นษุ ยส์ ราเ งขึ้นและส่วนที่กปน็ การแสดงงออกอนั กปน็ ผลท่กี กิดจาก โครงสราเ งทางวัตถตุ ่างๆสว่ นประกอบต่างๆของศิลปะ กช่น จุด กสเน รูปรา่ ง ขนานสัดส่วน นา้ หนัก แสงกงา ลกั ษณะ พ้นื ผิว ท่ีวา่ ง และสี 1.2 ความสาคญั ขององค์ประกอบศลิ ป์ ใหนการสรเางสรรค์ผลงานศิลปะใหนสาขาตา่ งๆไม่วา่ จะกป็นสาขาวิจิตรศิลปห์ รือประยกุ ตศ์ ลิ ป์ผเูสรเางสรรค์ตอเ งมคี วามรูเ กบอื้ งตเนดเานศิลปะมากอ่ น และศึกษาถึงหลกั การองค์ประกอบพน้ื ฐาน 1.2.1 องค์ประกอบท่สี าคัญ การจัดวางองค์ประกอบกหลา่ นีน้ ัน้ รวมถึงการกาหนดสี ใหนลกั ษณะตา่ งๆ กพ่ิมกติมใหหกเ กิดความกขาเ ใหจ กพอื่ กวลาที่สรเางผลงานศิลปะจะไดผเ ลงานทม่ี ีคุณค่าความหมายและความงามกป็นท่ีน่าสนใหจแกผ่ พเู บกหน็ หากสราเ งสรรค์ ผลงานโดยขาดองค์ประกอบศิลป์ ผลงานน้ันอาจดดู เอยค่า หมดความหมายหรือไม่หนาเ สนใหจไปกลย ดังนั้นจะกห็นไดเ วา่ องคป์ ระกอบศลิ ปน์ น้ั มีความสาคัญอย่างมากใหนการสราเ งงานศลิ ปะ องค์ประกอบศลิ ป์ กป็นกสมือนหวั ใหจดวงหนึ่งของการทางานศิลปะ กพราะใหนงานองค์ประกอบศลิ ป์หนึ่งชิน้ จะประกอบไปดเวย การรา่ งภาพ(วาดกสนเ ) การจัดวางใหหกเ กดิ ความงาม (จดั ภาพ) และการใหชเส(ี ทฤษฎีส)ี ซึง่ แต่ละ อย่างจะตอเ งกรียนรเูสูร่ ายละกอยี ดลกึ ลงไปอีก องคป์ ระกอบศลิ ปจ์ งึ กปน็ พื้นฐานสาคัญท่ีรวบรวมความรเหู ลายๆอย่าง ไวดเ วเ ยกัน จงึ ตอเ งกรยี นรเกู ่อนท่จี ะศึกษาใหนกรอื่ งอน่ื ๆ (อนนั ต์ ประภาโส) องคป์ ระกอบศลิ ป์ จัดเปน็ วิชาทมี่ ีความสาคัญสาหรับผศู้ กึ ษางานศลิ ปะ หากว่าความรู้ความเข้าใจในวชิ าน้ี แลเว ผลงานท่ีสรเางขึ้นมากย็ ากท่ปี ระสบความสากรจ็ โดยกฉพาะอย่างยงิ่ งานศิลปะสมัยใหหม่ทมี่ ีการแสดงกฉพาะ กสเน สี แสง กงา น้าหนกั พืน้ ผวิ จงั หวะ และบริกวณที่ว่าง มคี วามจากป็นอย่างยงิ่ ตอเ งนาหลักกรองคป์ ระกอบศิลป์มาใหชเ

1.2.2 หลกั การจัดองคป์ ระกอบพ้ืนฐาน 1. เอกภาพ(Unity) หมายถึง ความกปน็ อนั หนึง่ อนั กดียวกนั ความสอดคลอเ งกลมกลืน กปน็ หนว่ ย กดียวกนั ดเวยการจดั องคป์ ระกอบใหหเมคี วามสมั พันธก์ ก่ียวขอเ งกนั กป็นกลุม่ กเอนไมก่ ระจัดกระจาย โดยการจดั ระกบียบของรูปทรง จังหวะ กนือ้ หาใหหกเ กิดดุลยภาพจะไดสเ ่อื อารมณ์ ความรสูเ กึ ความหมายไดเง่ายและรวดกร็ว ภาพท่ีมเี อกภพ ภาพท่ีไม่มเี อกภาพ รูปที่ 1.1 การจัดองคป์ ระกอบ 2. ดลุ ยภาพ (Balance) ความสมดุลหรือดุลยภาพ หมายถึง ความกท่ากันกสมอกัน มนี า้ หนกั หรือความ กลมกลนื พอกหมาะพอดี โดยมแี กนสมมติทาหนเาท่แี บ่งภาพใหหซเ าเ ยขวา บน ลา่ ง ใหหเกท่ากัน การกทา่ กันอาจไม่ กท่ากันจรงิ ๆ ก็ไดเ แต่จะกท่ากันใหนความรเูสึกตามที่ตามองกหน็ ความสมดุลแบ่งกปน็ 2 ประกภท ดังน้ี (1) ความสมดลุ 2 ขาเ งกท่ากัน (Symmetrical Balance) หมายถึง การจัดวางองค์ประกอบตา่ ง ๆ ของ ศลิ ปะใหหเท้งั 2 ขาเ งแกนสมมตมิ ขี นาด สัดส่วน และนา้ หนักกทา่ กนั หรอื มรี ปู แบบกหมือนกันคลาเ ยกนั (2) ความสมดุล 2 ขเางไมก่ ทา่ กนั (Asymmetrical Balance) หมายถึง การจดั องคป์ ระกอบของศลิ ปะ ท้ัง 2 ขเางแกนสมมตมิ ีขนาดสัดสว่ นนา้ หนักไมก่ ท่ากนั ไมก่ หมอื นกนั ไม่กสมอกัน แต่สมดุลกันใหนความรเสู ึกความ สมดุล 2 ขาเ งไม่กทา่ กัน คือภาพมคี วามสมดุลของกนือ้ หาและกร่ืองราวแต่ไม่กท่ากันใหนกร่ืองขนาด นา้ หนกั 3. จุดเดน่ (Dominance) หมายถึงสว่ นสาคัญที่ปรากฏชดั สะดุดตาท่ีสุดใหนงานศิลปะ จุดกด่นจะชว่ ย สรเางความน่าสนใหจใหนผลงานใหหภเ าพกขียนมีความสวยงาม มีชวี ติ ชวี ายิ่งขึน้ จดุ กด่นกกิดจากการจัดวางท่ี กหมาะสม และรูเจักการกนนเ ภาพ (Emphasis) ที่ดี จุดกดน่ มี 2 แบบ คือ (1) จุดกดน่ หลัก กปน็ ภาพท่ีมีความสาคญั มากท่ีสุดใหนกร่อื งที่จะกขยี น แสดงออกถงึ กรื่องราวท่ี ชัดกจน กด่นชดั ท่สี ุดใหนภาพ (2) จดุ กด่นรอง กป็นภาพประกอบของจุดกด่นหลัก ทาหนเาท่ีสนับสนนุ จดุ กด่นหลกั ใหหภเ าพมีความสวยงาม ยง่ิ ขน้ึ กชน่ ใหนภาพจดุ กด่นรองไดเแก่ รปู กรอื 4. ความขัดแยง้ (Contrast) ขัดแยงเ ดเวยรปู ทรงขดั แยงเ ดวเ ยขนาดขัดแยเงดเวยกสนเ ขัดแยเงดเวยผิวขดั แยเง ดวเ ยสคี วามขัดแยเงท่ีกลา่ วมาถูกจัดวางกพอ่ื ใหหเกกิดความงามทางศิลปะ 5. ความกลมกลนื (Harmony) ภาพดาเ นล่างกป็นความกลมกลืนดเานกรอ่ื งราวท่ีสอดคลอเ งกป็นกรอื่ งราว กกี่ยวกบั ธรรมชาติ และกป็นความกลมกลืนใหนกรื่องสวี รรณะกดียวกนั

1.3 ทัศนศลิ ป์ ทศั นศลิ ป์ คือ กระบวนการถา่ ยทอดผลงานทางศิลปะ การทางานศิลปะอย่างมจี ติ นาการความคิด สราเ งสรรคม์ ีระบบระกบยี บกปน็ ข้ันกป็นตอนการสราเ งสรรคง์ านอย่างมีประสทิ ธิภาพสวยงาม มกี ารปฏิบัติงานตาม แผนและมกี ารพัฒนาผลงานใหหเดขี ึ้นตอ่ กน่ือง ทัศนศลิ ป์ คอื การรับรเทู างจักษปุ ระสาท โดยการมองกหน็ สสาร วัตถุ และสรรพสง่ิ ต่าง ๆ ท่ีกขเามากระทบ รวมถงึ มนุษย์ และสัตว์ จะดวเ ยการหยุดน่ิง หรอื กคลื่อนไหวกต็ าม หรอื จะดเวยการปรงุ แตง่ หรือไมป่ รงุ แตง่ กต็ าม กอ่ ใหหเกกดิ ปจั จัยสมมตุ ิต่อจิตใหจ และอารมณ์ของมนษุ ย์ อาจจะกป็นไปใหนทางกดยี วกนั หรือไมก่ ต็ าม ทัศนศลิ ป์ กปน็ การแปลความหมายทางศิลปะ ทแี่ ตกต่างกันไปแตล่ ะมมุ มอง ของแต่ละบุคคล ใหนงาน ศิลปะช้นิ กดยี วกัน ซ่ึงไรเขอบกขตทางจินตนาการ ไม่มกี รอบที่แนน่ อน ข้ึนกับอารมณ์ของบคุ คลใหนขณะทศั นศ์ ลิ ป์น้นั แนวคดิ ทศั นศิลปก์ ปน็ ศิลปะทร่ี ับรูเไดเดวเ ยการมอง ไดแเ กร่ ปู ภาพววิ ทิวทัศนท์ ่ัวไปกปน็ สาคญั อันดบั ตนเ ๆ รูปภาพคน กหมือน ภาพลเอ ภาพส่ิงของต่างๆกล็ วเ นแลเวแตก่ ป็นกรอื่ งของทศั นศิลปด์ วเ ยกันทั้งสิน้ ซึ่งถาเ กล่าวว่าทัศนศลิ ปก์ ปน็ ความงามทางศิลปะท่ีไดเจากการมอง หรือ ทัศนา นั่นกอง รูปที่ 1.3 ภาพทศั นศลิ ปแ์ บบไทย

1.4 ทศั นธาตุ 1. จดุ (Dot) หมายถึง รอยหรือแตมเ ท่ีมลี กั ษณะกลมๆ ปรากฏที่ผิวพ้ืน ไม่มีขนาด ความกวเาง ความยาว ความหนา กปน็ สง่ิ ที่กลก็ ท่ีสุดและกป็นธาตกุ ริ่มแรกท่ที าใหหเกกิดธาตอุ น่ื ๆ ขน้ึ จุด กป็นตนเ กากนิดของกสเน รปู ร่าง รปู ทรง แสงกงา พน้ื ผิว ฯลฯ กชน่ นาจุดมาวางกรยี งตอ่ กนั จะกกิดกป็น กสนเ และการนาจดุ มาวางใหหเกหมาะสมก็จะกกิดกป็นรูปร่าง รูปทรง และลกั ษณะผวิ ไดเ 2. เสน้ (Line) คือ จดุ หลาย ๆ จดุ ตอ่ กนั กป็นสาย กปน็ แถวแนวไปใหนทศิ ทางใหดทิศทางหนึ่งกป็นทางยาว หรอื จดุ ทีก่ คลอ่ื นท่ีไปใหนทิศทางใหดทศิ ทางหนงึ่ ดเวยแรงผลักดนั หรอื รอยขดู ขีดกขยี นของวตั ถกุ ป็นรอยยาว กสเนนอน ใหหเความรูเสกึ กวเางขวาง กงยี บสงบนิ่ง ราบกรียบ ผอ่ นคลายสายตา กสเนตง้ั ใหหเความรสูเ ึกสูงสงา่ มนั่ คง แข็งแรง ร่งุ กรอื ง กสเนกฉยี ง ใหหเความรเูสึกไม่ม่นั คง กคลอื่ นไหวรวดกรว็ แปรปรวน กสเนโคงเ ใหหเความรเูสกึ ออ่ นไหว สุภาพอ่อนโยน สบาย นุ่มนวล กยาเ ยวน กสเนประ ––––––– ใหหคเ วามรูเสกึ ไม่ต่อกน่ือง ไมม่ ่ันคง ไมแ่ น่นอน 1.4.2 รปู รา่ งและรปู ทรง รูปรา่ ง (Shape) หมายถงึ กสเนรอบนอกทางกายภาพของวตั ถุ ส่งิ ของกคร่อื งใหชเ คน สตั ว์ และ พชื มี ลกั ษณะกปน็ 2 มติ ิ มคี วามกวเางและความยาว รูปรา่ ง แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คอื 1.รูปร่างธรรมชาติ (Natural Shape) หมายถงึ รูปร่างทกี่ กดิ ขึน้ กองตามธรรมชาติ กช่น คน สตั ว์ และ พชื กปน็ ตเน 2.รูปร่างเรขาคณิต (Geometrical Shape) หมายถงึ รปู รา่ งท่มี นษุ ยส์ รเางขนึ้ มีโครงสราเ ง แน่นอน กชน่ รูปสามกหล่ียม รูปสีก่ หล่ยี ม และรปู วงกลม กปน็ ตเน

3.รปู รา่ งอิสระ (Free Shape) หมายถงึ รปู ร่างทีก่ กดิ ขึ้นตามความตอเ งการของผูเสรเางสรรค์ ใหหเ ความรูสเ กึ ทีก่ ปน็ กสรี ไม่มีโครงสราเ งทแี่ นน่ อนของตวั กอง กป็นไปตามอทิ ธิพลของส่ิงแวดลเอม กช่น รปู ร่างของหยด น้า กมฆ และควนั กปน็ ตเน รปู ที่ 1.4 รูปรา่ งและรูปทรงเลขาคณิต รปู ทรง (Form) หมายถึง โครงสรเางทงั้ หมดของวัตถทุ ีป่ รากฎแก่สายตาใหนลกั ษณะ 3 มติ ิ คอื มที ้งั สว่ นกวาเ ง ส่วนยาว ส่วนหนาหรอื ลกึ คือ จะใหหคเ วามรเูสกึ กป็นแท่ง มีกน้อื ท่ีภายใหน มี ปริมาตร และมนี ้าหนัก รปู ที่ 1.5 รูปมติ ิและเงา 1.4.3 สี พน้ื ผิว การใช้ผิว นา้ หนกั อ่อน-แก่ (Value) หมายถงึ จานวนความกขมเ ความออ่ นของสตี ่าง ๆ และแสงกงาตามที่ ประสาทตารบั รูเ กม่อื กทยี บกบั น้าหนักของสีขาว-ดา ความอ่อนแกข่ องแสงกงาทาใหหเกกดิ มิติ กกดิ ระยะใหกลไเ กลและ สมั พันธก์ บั กรือ่ งสโี ดยตรง สี (Color) หมายถึง สงิ่ ทป่ี รากฏอยทู่ วั่ ไปรอบ ๆ ตวั กรา ไมว่ า่ จะกป็นสที ก่ี กดิ ข้นึ กองใหนธรรมชาติ หรอื สงิ่ ท่ีมนษุ ยส์ ราเ งขึ้น สที าใหหกเ กิดความรสเู กึ แตกตา่ งมากมาย กช่น ทาใหหรเ เูสกึ สดใหส รา่ กรงิ ต่นื กตเน หม่นหมอง หรอื กศราเ ซึมไดเ กปน็ ตเน

สแี ละการนาไปใช้ 1.วรรณะของสี (Tone) จากวงจรสธี รรมชาติ ใหนทางศิลปะไดมเ ีการแบง่ วรรณะของสอี อกกป็น 2 วรรณะ คือ สวี รรณะรเอน ไดเแก่สที ่ีใหหเความรเสู ึกอบอ่นุ หรอื รเอน กช่น สกี หลือง สเมกหลอื ง สเม สเม แดง แดง มว่ งแดง กปน็ ตนเ สว่ นสีวรรณะกยน็ ไดแเ ก่ สที ี่ใหหเความรเูสึกกย็น สงบ สบาย กช่น สีกขียว กขยี ว กหลอื ง กขียวน้ากงนิ น้ากงิน ม่วงน้ากงนิ มว่ ง กป็นตเน 2.คา่ ของสี (Value of color) หมายถึง สใี หดสหี น่งึ ทาใหหคเ ่อย ๆ จางลงจนขาวหรือสวา่ งและทาใหหเ คอ่ ย ๆ กขมเ ขึน้ จนมดื 3.สเี อกรงค์ (Monochrome) หมายถงึ สีทีแ่ สดงอทิ ธิพลกดน่ ชัดออกมากพียงสีกดียว หรือใหชกเ พยี ง สกี ดยี วใหนการกขยี นภาพโดยใหหเค่าของสีออ่ น กลาง แก่ คลาเ ยกบั ภาพถ่าย ขาว ดา 4.สสี ่วนรวม (Tonality) หมายถงึ สใี หดสหี นึ่งทใ่ี หหเอิทธพิ ลกหนือสอี ื่นทัง้ หมด กชน่ การกขียนภาพ ทิวทัศน์ ปรากฏสีสว่ นรวมกปน็ สีกขยี ว สีนา้ กงนิ กป็นตเน 5.สีทป่ี รากฏเด่น (Intensity) 6.สตี รงข้ามกนั หรอื สตี ัดกนั (Contrast) หมายถึง สีท่ีอยตู่ รงกันขเามใหนวงจรสธี รรมชาติ กช่นสี แดงกับสกี ขียว สนี า้ กงนิ กบั สสี มเ สมี ว่ งกับสกี หลอื ง 1.4.4 บรเิ วณวา่ ง (Space) หมายถงึ บรกิ วณทีก่ ปน็ ความว่างไม่ใหช่สว่ นทกี่ ปน็ รูปทรงหรือ กน้อื หาใหนการจดั องค์ประกอบใหดกต็ ามถาเ ปล่อยใหหเมพี ื้นทวี่ า่ งมากและใหหมเ รี ปู ทรงนเอย การจดั นน้ั จะใหหเ ความรเสู กึ อเางอาเ ง โดดกดี่ยว 1.4.5 พื้นผิว (Texture) หมายถึง พื้นผวิ ของวตั ถตุ า่ ง ๆ ทกี่ กดิ จากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์สรเางสรรค์ขนึ้ พื้นผิวของวตั ถทุ แี่ ตกตา่ งกนั ย่อมใหหคเ วามรูเสกึ ทแี่ ตกตา่ งกันดเวย สรปุ สาระสาคญั การจดั องค์ประกอบศลิ ป์ การจะวางวัตถุ การใหชเพนเ ท่ี สัดสว่ น การกาหนดกสนเ สี แสง กงา การจัดวาง ตาแหนง่ วตั ถุ และการใหชชเ นดิ ของการจัดวตั ถแุ บบตา่ ง ๆ ลวเ นแลวเ แต่กป็นองค์ประกอบศลิ ป์ก่อใหหเกกิดการลงตัวของ ชนิ้ งาน

แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 1 ความหมายองคป์ ระกอบศลิ ป์ คาสง่ั จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้สมบูรณ์ 1. ธาตุหมายถงึ อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ทศั นศลิ ป์หมายถึงอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.องค์ประกอบศลิ ป์คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. กอกภาพหมายถงึ อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.ทัศนศลิ ปก์ บั ทัศนธาตุต่างกันอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยหน่วยที่ 1 ความหมายองคป์ ระกอบศิลป์ คาสัง่ จงทาเครือ่ งหมายกากบาท (×) ทบั ขอ้ ท่ถี ูกต้องทสี่ ุด 1. ขเอใหดกป็นหลกั การออกแบบใหนงานกราฟกิ ก. มกี อกภาพ ข. ความกปน็ ปัจจุบัน ค. ความทันสมยั ง. ความลา้ ลึก 2. ขอเ ใหดไมใหชห่ ลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ก. จุดกด่น ข. กอกภาพ ค. จุดสมดุล ง. จดุ รอง 3. หลกั องค์ประกอบศิลป์หมายถงึ ขอเ ใหด ก. การนาองคป์ ระกอบต่างๆ ของศลิ ปะมาแยกกพื่อสราเ งคณุ ค่า ข. การนาองคป์ ระกอบตา่ งๆ ของศลิ ปะมาสัมพนั ธก์ ันกพอ่ื ใหหกเ กดิ คุณค่าทางความงาม ค. ผสมกลมกลนื ใหหเกกดิ มติ ิใหหม่ ง. ถกู ทงั้ ขเอ ข. และ ค. 4. จดุ กดน่ ตรงกับขอเ ใหด ก. Harmony ข. Contrast ค. Dominance ง. Unity 5. ความกลมกลนื ตรงกบั ขอเ ใหด ก. Harmony ข. Contrast ค. Dominance ง. Unity

6. ความสมดุลตรงกับขเอใหด ก. Harmony ข. Contrast ค. Dominance ง. Unity 7. ลักษณะโดดกดน่ ของกอกภาพคืออะไร ก. ความกด่นชัด ข. ปรากฏชัด ค. ความกป็นหน่งึ กดยี ว ง. สรเางจดุ สนใหจ 8. Contrast ตรงกบั ขอเ ใหด ก. ความขัดแยเง ข. กอกภาพ ค. ความสมดุล ง. ความกลมกลนื 9. สมดุลแบง่ ออกไดทเ ง้ั หมดกป่ี ระกภท ก. 2 ประกภท ข. 3 ประกภท ค. 4 ประกภท ง. 5 ประกภท 10. จุดกดน่ แบ่งไดกเ ปน็ กีป่ ระกภท ก. 2 แบบ ข. 3 แบบ ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook