พุทฺธวจนธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์

ขอสอบขอเขยี น/สมั ภาษณพ ระอภิธรรม ภาคเรยี นที่ ๑, ๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวิทยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย ช้ัน จฬู อาภธิ รรมิกะเอก สอบขอ เขียน ภาคเรียนท่ี ๑ วันเสารที่.......มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕.... สอบขอ เขยี น ภาคเรียนที่ ๒ วันเสารท่ี.......ธันวาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : ธัมมสังคณปี กรณ ๑๐ ขอ ๑๐๐ คะแนน เวลา ๔ ชม. สอบสัมภาษณ ภาคเรียนท่ี ๑ วนั อาทิตยท .ี่ ... มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕.... สอบสมั ภาษณ ภาคเรียนท่ี ๒ วันอาทติ ยท .่ี ... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : ธัมมสังคณปี กรณ ๕ ขอ ๒๕ คะแนน เวลา  ปล. ชัน้ จูฬ-เอกนเ้ี ปนคมั ภรี แ รก (สํ วิ ธา ปุ ก ย ป) และเปน พ้ืนฐานในการศกึ ษาชนั้ มชั -เอก (โดยตรง) อีกดวย สําเนาหรอื แจกได โดยไมตอ งขออนุญาต (สงวนสทิ ธิ์หากนาํ ไปจําหนา ย) ผดิ ตกขออภัยและกรณุ าแจง (จกั ขอบพระคณุ ) ท่ี 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอ มูลไดจ ากขอ ความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรือท่ี fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ขออนโุ มทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกุศลทท่ี านกระทาํ ไวด ีแลว และท่จี ะกระทาํ ในอนาคต ใหเรานัน้ มีปจ จัยถงึ พรอ มเพอ่ื การทาํ กุศลใหสําเรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเรว็ ไว จนถงึ มคั คกุศล โดยเรว็ พลันเทอญ

ธัมมสงั คณีปกรณ 1 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ขอ สอบขอเขียนพระอภธิ รรม ภาคเรียนที่ ๑, ๒ ปก ารศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภิธรรมโชติกะวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ชน้ั จฬู อาภธิ รรมิกะเอก สอบวนั เสารท ี่...... มถิ นุ ายน/ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๓-๒๕.. วชิ า : ธมั มสังคณีปกรณ ๑๐ ขอ ๑๐๐ คะแนน เวลา ๔ ชม. ขอ ๑ (ทีเ่ คยออกสอบขอ ๑ = ๑๐ คะแนน คราวนจี้ ะออกขอไหนดี) ๑. (ก) จงแสดงอารมั ภกถา แสดงเหตแุ หง การเกดิ ขน้ึ ของพระอภิธรรม ? 53/1(ก), 54/1(ก) พรอมท้งั บาลแี ละคาํ แปล ? 46/1, 52/1, 53/2, 56/2(ก), 58/2, 63/2 มาทั้งหมด ? 44/2 (ก), 48/1 มาทง้ั หมด ? (เฉพาะคาํ แปล) ? 43/1 (ก) ๑. ก. จงแสดงบาลี พรอ มทงั้ คําแปลใน อารมั ภกถา ดงั ตอ ไปนี้ ? 57/1 ๑. ก. แปลอารมั ภกถาแสดงเหตแุ หงการปรากฏเกดิ ขนึ้ ของพระอภธิ รรมตงั้ แต 61/1 จกกฺ วาฬสหสฺเสหิ ฯลฯ. เทวานํ สมปฺ วตตฺ ย.ิ 57/1, 61/1 ตอบ ก. แสดงคาถาอารมั ภบท พรอ มบาลแี ละคําแปล ๑. ปารจิ ฺฉตตฺ กมลู มหฺ ิ ปณฑฺ กุ มฺพลนามเก สลิ าสเน สนนฺ สิ นิ โฺ น อาทจิ ฺโจว ยุคนธฺ เร ฯ ๒. จกกฺ วาฬสหสฺเสหิ ทสหาคมมฺ สพพฺ โส สนฺนสิ นิ เฺ นน เทวานํ คเณน ปรวิ าริโต ฯ ๓. มาตรํ ปมขุ ํ กตฺวา ตสสฺ า ปฺ าย เตชสา อภธิ มมฺ กถามคฺคํ เทวานํ สมปฺ วตฺตยิ ฯ ๑. พระพทุ ธเจาประทับนั่งบนศิลาอาสน ซึ่งสาํ เรจ็ ดวยแกวมณชี ่ือปณฑุกัมพล ทีป่ ระดิษฐานอยู ใตร ม ไมทองหลาง ทรงพระศิริโสภาคย ประดุจหน่ึงวาพระอาทติ ยบ นยอดเขายคุ นั ธร (57/1, 61/1) ๒. เทวดาท้งั หลายทมี่ าจากหม่นื จกั รวาล ไดพากนั มาประชุมเฝาหอ มลอมพระพุทธองคอ ยู โดยรอบ ๓. พระพทุ ธองคท รงกระทาํ สนั ตุสิตเทวบุตร ซงึ่ เคยเปนพทุ ธมารดา ใหเปนประมุขในบรรดา เทวดาและพรหมท้ังหลายเหลานั้น แลวทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คมั ภีร แกเทพยดาและ พรหมเหลาน้นั ตดิ ตอ กนั ตลอดพรรษกาล ดวยเดชะแหง พระสพั พญั ตุ ญาณ ๑. ก. นบั จากพระชาตทิ เ่ี ปน พระสเุ มธดาบสเปน ตน มา จนถงึ พระชาตทิ เ่ี ปน พระเวสสนั ดรนน้ั พระองคไ ด ทรงกระทาํ ความดอี ะไรบา ง และการกระทาํ เชน นนั้ เพอ่ื ใหไ ดม าซงึ่ อะไร ? คอื อะไรบา ง ? 55/2(ก) ใหแ สดงมา(บอกมา)พรอ มความหมาย ? 43/2, 47/2, 48/2, 52/2, 56/2, 58/1, 59/1, 59/2, 60/1, 62/2 ๑. ก. ปญ จมหาบรจิ าค ๕ มอี ะไรบา ง ? แสดงพรอ มความหมาย ? 50/2 ๑. ก. มหาบรจิ าค ๕ และจรยิ ะ ๓ มอี ะไรบา ง ใหแ สดงมา พรอ มดว ยความหมาย.? 60/2 ตอบ ก. นับจากพระชาติที่เปน พระสุเมธดาบสเปนตนมาจนถึงพระชาตทิ ่เี ปน พระเวสสนั ดรนัน้ พระองคท รง ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ท่ี ขอ มูลเพมิ่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 2 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) สรางบารมี ๓๐ ทัศ มีทานบารมี ทานอุปบารมี ทานปรมตั ถบารมี เปน ตน ทรงมหาบรจิ าค ๕ ประการ คือ ตอบ ก. มหาบริจาค ๕ และจริยะ ๓ แสดงพรอมความหมายมีดงั น้ี [(50/2) ก. ปญจมหาบรจิ าค ๕ พรอ มความหมาย / (60/2) มหาบรจิ าค ๕ คอื ] ๑. ธนบริจาค การสละทรัพยส นิ เงินทอง และฐานะ ปเทสราชา เอกราชา จักรวรรดิราชา ๒. ปตุ ตบรจิ าค การใหบ ตุ รธิดาเปน ทาน ๓. ภริยบรจิ าค การใหภรยิ าเปนทาน ๔. องั คบริจาค การใหอวยั วะเปนทาน ๕. ชีวิตบรจิ าค การสละชีวติ ใหเ ปน ทาน เพอื่ ใหไ ดม าซงึ่ จรยิ ๓ คอื / (60/2) จรยิ ะ ๓ คอื ๑. โลกตั ถจรยิ การปฏบิ ัติเพ่ือใหสัตวท ัง้ หลายในโลกไดรับความสุข ๒. ญาตตั ถจรยิ การปฏิบัติเพือ่ ใหญาติท้งั หลายไดร ับความสขุ ๓. พุทธัตถจรยิ การปฏบิ ตั เิ พ่อื ใหไดมาซง่ึ สพั พญั ตุ ญาณ ๑. ข. พระอภธิ รรมท่ปี รากฏในโลกน้ี โดยอาศยั เหตทุ งั้ ๒ หรอื ๓ ทีช่ อ่ื วา นทิ าน อยากทราบวา เหตุ ๒ เหตุ ๓ นนั้ ไดแ กอ ะไรบา ง ? 56/2, 59/2, 60/1, 62/2 อยากทราบวา เหตุ ๓ นนั้ ไดแ กอะไรบา ง ?ใหแ สดงมาพรอ มความหมาย ? 61/1 ๑. ข. เหตปุ รากฏเกดิ ขน้ึ ของพระอภธิ รรม ๓ อยา งนนั้ คอื อะไรบา ง ? 44/2 ตอบ ข. พระอภธิ รรมทปี่ รากฏในโลกนีโ้ ดยอาศัย เหตุ ๒ หรือเหตุ ๓ ทีช่ ่ือวานทิ าน เหตุ ๒ อยา งน้ัน คอื ๑. อธคิ มนิทาน ไดแ ก บารมี ๓๐ ทัศ มหาบรจิ าค ๕ จรยิ ะ ๓ เม่ือวา โดยเวลานับตัง้ แตพระทีปง กร สัมมาสัมพทุ ธเจา ประทานพทุ ธพยากรณจ นถึงสาํ เร็จเปนสัมมาสัมพุทธเจา ขณะท่ี ประทบั อยูทโี่ พธบิ ัลลงั ก. ๒. เทศนานิทาน ไดแก การแสดงพระธมั มจักกปั วัตตนสตู ร. เหตุ ๓ อยา งนั้น คอื [44/2, 61/1 ตอบ ข. เหตปุ รากฏข้นึ ของพระอภธิ รรม ๓ อยางน้ี คอื ] ๑. ทูเรนทิ าน ตน เหตทุ ี่ไกล ไดแก การที่ไดพทุ ธพยากรณจ ากพระทีปง กร สัมมาสมั พทุ ธเจา จนถึงชาตทิ ่ีเปน เสตเกตเุ ทวบุตรในดสุ ติ เทวโลก ๒. อวิทูเรนทิ าน ตน เหตไุ มใ กลไมไกล ไดแ ก ชาติทเี่ ปนเสตเกตุเทวบุตรจนถงึ สาํ เรจ็ เปน พระสมั มาสัมพทุ ธ เจา ขณะท่ปี ระทับทโ่ี พธบิ ังลังก ๓. สนั ตเิ กนิทาน ตนเหตุท่ีใกล ไดแ ก การแสดงพระอภธิ รรมในเทวโลก ๑. ข. พระอภิธรรมทพี่ ระพธุ องคท รงแสดงตลอดพรรษากาลนนั้ แบง ออกเปน ก่ปี ระเภท? คอื อะไรบา ง ? 43/1ส(1), 43/2, 48/2, 52/2, 54/1, 55/2, 57/1, 58/1, 59/1 ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอมูลเพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 3 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. พระอภธิ รรมทีพ่ ระพทุ ธองคท รงแสดงตลอดพรรษากาลนั้น แบงออกเปน ๓ ประเภท คอื ๑. ท่พี ระพุทธองคทรงแสดงแกหมูเทพยดา อินทร พรหม ท้ังหลายน้ัน ช่ือวา วิตถารนัย เพราะการแสดงนั้น พสิ ดารมาก ๒. ทพ่ี ระพุทธองคท รงแสดงแกพ ระสารบี ุตร ท่ีปา ไมจ ันทนน ้ัน ชื่อวา สงั เขปนัย เพราะการแสดงนั้นยอ มาก ๓. พระอภิธรรมที่พระสารีบุตรแสดงแกศิษยานุศิษย ๕๐๐ องค ที่เคยเปนคางคาว มาแตอดีตชาตินั้น ชื่อวา นาติวิตถารนาติสังเขปนยั เพราะการแสดงนนั้ เปน กลางไมพสิ ดารและไมย อ ๑. ก. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา มาตกิ า และคําวา มาตกิ า หมายความวา อยางไร ไดแ กอ ะไรบา ง ? 45/1, 48/1(1ข) , 58/2(1ข) ตอบ ก. วจนัตถะของคําวา มาตกิ า คอื มาตา วิยาติ = มาตกิ า. บทเหลาใดเหมือนแม หรอื เหมือนคลองสงน้ํา ฉะน้นั บทเหลานั้น ชือ่ วา มาตกิ า ไดแก กุสลา ธมมา เปน ตน และ คําวา มาตกิ า หมายความวา อุทเทส เปนการแสดงโดยยอ เหมอื นกบั สารบาญ ไดแ ก ตกิ มาตกิ าบท ๖๖ ทุกมาตกิ าบท ๒๘๔ รวมเปน ๓๕๐ บท นัน้ เอง ๑. ก. คาํ วา มาตกิ า คอื อะไร ไดแ กอ ะไร และมกี อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง แสดงมาพรอ มดว ยความหมาย ? 50/1 ข. จงแสดง วจนตั ถะของ มาตกิ า และมาตกิ าโชตกิ ะ ฯ ? 50/1 ตอบ ก. คําวา มาตกิ า นัน้ คือ อุทเทส เปน การแสดงโดยยอ เหมอื นกับสารบาญ ไดแ ก ตกิ มาติกาบท ๖๖ ทกุ มาติกาบท ๒๘๔ รวมเปน ๓๕๐ บท นั้นเอง และ ข. วจนัตถะของคําวา มาตกิ า คือ มาตา วยิ าติ = มาตกิ า. บทเหลา ใดเหมือนแม หรอื เหมอื นคลองสงน้าํ ฉะน้นั บทเหลานนั้ ช่ือวา มาตกิ า ไดแ ก กสุ ลา ธมมา เปน ตน (*) วจนตั ถะของ มาติกาโชตกิ ะ คือ มาตกิ ํ โชเตตตี ิ = มาตกิ าโชตโิ ก คมั ภรี ใด........ ช่อื วา มาตกิ าโชตกิ ะ ๑. ข. จงแสดงวจนตั ถะของ มาตกิ าโชตกิ ะ และ มาตกิ าโชตกิ ะหมายความวา อยา งไร ? 45/1, 53/2, 55/2(2ก), 63/2 ตอบ ข. วจนัตถะของ มาตกิ าโชตกิ ะ คอื มาติกํ โชเตตตี ิ = มาติกาโชตโิ ก คัมภีรใ ด ยอ มทํามาตกิ าบทมี กุสลา ธมฺมา เปนตนใหสวา ง ฉะนัน้ คัมภรี น นั้ ช่อื วา มาตกิ าโชติกะ หรือ มาตกิ ายํ โชตโิ ก = มาติกาโชตโิ ก คัมภีรท ท่ี าํ ใหส วา งรงุ เรอื งในมาติกาบท มีกสุ ลา ธมฺมา เปน ตน ชือ่ วา มาตกิ าโชตกิ ะ และ มาตกิ าโชตกิ ะ หมายความวา เปนปกรณท ่ีแสดงการจําแนกเนือ้ ความพรอมท้งั อธบิ ายในมาติกาบทมี กุสลา ธมฺมา เปน ตน ใหส วา งนัน้ เอง ๒. ก. มาตกิ าโชตกิ ะ หมายความวา อยา งไร ใหอ ธบิ ายพรอ มกบั ยกวจนตั ถะขน้ึ แสดงดว ย ? 48/2 ตอบ ก. มาตกิ าโชตกิ ะ หมายความวา เปนปกรณท แ่ี สดงจําแนกเนอ้ื ความพรอ มทง้ั อธิบายในมาตกิ าบท มี กสุ ลา ธมมฺ า เปนตน ใหสวา ง อธิบายวา ตกิ บท ๖๖ บท มกี ุสลา ธมฺมา เปน ตน ทกุ บท ๒๐๐ บท มเี หตู ธมฺ มา เปน ตน เหลา นีช้ ื่อวา มาตกิ า แตผทู ไี่ ดฟง ไดอาน มาติกาเหลานี้ หาใชจ ะมคี วามรใู นมาติกาไม เพยี งแต เปนธัมมัสสวนากุศลเทานั้น ไมร ถู ึงรสธรรม แตผ ูที่ไดอา นและไดศ กึ ษาปกรณน ี้แลวยอมสามารถรูธ รรมรสที่ ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ที่ ขอมลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 4 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) เกยี่ วกบั มาตกิ า เหลา นี้ โดยชัดเจนได นแี้ หละทาํ ใหสวา ง ฉะน้นั ปกรณน ้จี งึ ชื่อวา มาตกิ าโชตกิ ะ ดังวจนัตถะของ มาตกิ าโชติกะ คือ  (*) ๑. คาํ วา มาตกิ า หมายความวา อยา งไร ไดแ กอ ะไร และ มาตกิ า มกี ีอ่ ยาง คอื อะไรบา ง [อธบิ ายมาดว ย] ? 44/1(1ก)] พรอ มทงั้ แสดง ตกิ มาตกิ า ๒๒ มาตามลาํ ดบั ? 55/1, 56/1 ๑. จงอธบิ ายคาํ วา ตกิ มาตกิ า และทกุ มาตกิ า ? 47/2(1ข) มาตามลาํ ดบั ? 45/1(1ค) พรอ มท้ังแสดงตกิ มาตกิ า ๒๒ มาตามลาํ ดบั ? 44/2(2), 45/2, 50/2(2), 51/1 ๑. ข. คาํ วา มาตกิ า หมายความวา อยา งไร ไดแ กอะไรบาง จงอธิบายคาํ วา ตกิ มาตกิ าและทกุ มาตกิ า ? 43/1 ๑. ข. มาตกิ า มกี อ่ี ยาง (มเี ทา ไร) คอื อะไรบา ง ? 43/2, 52/1, 52/2, 53/1, 57/2 จงแสดงมาตามลาํ ดบั ? 44/1(1ข), 46/2(1ค) 2. คาํ วา มาตกิ า นนั้ คอื อะไร ไดแ กอ ะไร และมาตกิ ามกี อ่ี ยาง คอื อะไรบา ง พรอ มทงั้ อธบิ าย ? 61/1 ตอบ ข. คาํ วา มาตกิ า คือ อทุ เทส เปน การแสดงโดยยอเหมอื นกับสารบาญ ไดแ ก ติกมาตกิ าบท ๖๖ ทุกมาติกาบท ๒๘๔ รวมเปน ๓๕๐ บท นน้ั เอง [(43/2, 44/1, 52/1, 52/2, 53/1, 55/1, 57/2, 61/1) ข. มาตกิ า มี ๒ อยา ง คอื (43/1) อธิบายคําวา ตกิ มาตกิ า และ ทุกมาติกา] (๑) ตกิ มาตกิ า เปน มาติกาทจ่ี าํ แนกปรมัตถธรรมทั้ง ๔ โดยแบง ออกเปน ๓ บท มี ๒๒ ติกะ คือ กสุ ลตกิ เปนตน จนถงึ สนิทฺสสนตกิ เปน ท่ีสดุ (๒) ทุกมาตกิ า เปน มาติกาที่จําแนกปรมตั ถธรรมทั้ง ๔ โดยแบงออกเปน ๒ บท มี ๒ อยา ง คอื อภธิ มั มทุกมาติกา มี ๑๐๐ ทุกะ คอื เหตทุ ุก เปน ตน จนถงึ สรณทุก เปนทสี่ ุด สตุ ตนั ตกิ ทกุ มาติกา มี ๔๒ ทุกะ คอื วิชชาภาคีทุก เปน ตน จนถงึ ขเยญาณทุก เปนท่สี ดุ [44/2(2), 45/2, 50/2(2), 51/1, 55/1, 56/1] แสดงตกิ มาตกิ า ๒๒ ตามลําดบั (46/2) ค. ติกมาตกิ า มี ๒๒ คือ ๑. กุสลตกิ ๒. เวทนาติก ๓. วปิ ากตกิ ๔. อุปาทินนฺ ตกิ ๕. สงกฺ ลิ ฏิ  ติก ๖. สวติ กกฺ ติก ๗. ปตติ ิก ๘. ทสสฺ นตกิ ๙. ทสสฺ นเหตตุ กิ ๑๐. อาจยคามติ กิ ๑๑. เสกขฺ ติก ๑๒. ปรติ ตฺ ติก ๑๓. ปรติ ตฺ ารมฺมณตกิ ๑๔. หีนติก ๑๕. มิจฉฺ ตตฺ ตกิ ๑๖. มคคฺ ารมฺมณตกิ ๑๗. อุปปฺ นฺนตกิ ๑๘. อตีตติก ๑๙. อตีตารมมฺ ณติก ๒๐. อชฌฺ ตตฺ ตกิ ๒๑. อชฌฺ ตตฺ ารมมฺ ณติก ๒๒. สนิทสสฺ นตกิ (ทองยอ : กุ เว วิ อุ สัง สวิ ป ทสั ทัส อาจย, เสก ปริต ปริต หี มิจ มัค อปุ อตี อตี อัช อัช สนิทัสสน) ๑. คาํ วา มาตกิ า หมายความวา อะไร ไดแกอ ะไร ? 46/1 ขอใหแ สดงความหมายของคาํ วา มาตกิ าโชตกิ ะ และธมั ม สงั คณปี กรณน ี้ เม่อื วา โดยกณั ฑแ ลว แบง ออกเปน กก่ี ณั ฑ คอื อะไรบา ง ใหอ ธิบายการแสดงปรมตั ถธรรมของพระพทุ ธองคใ นกณั ฑน น้ั ๆ ? 51/2, 54/2 ๑. ข. คําวา มาตกิ า หมายความวา อะไร?. ไดแ กอ ะไร?. และในธมั มสงั คณปี กรณน ี้ เมอ่ื วา โดยกณั ฑแ ลว แบง ออกเปน กกี่ ณั ฑ คืออะไรบา ง? ใหอ ธบิ ายการแสดงปรมตั ถธรรมของพระพทุ ธองคใ นกณั ฑน น้ั ๆ ? 60/2 ๑. คาํ วา มาตกิ าโชตกิ ะนนั้ หมายความวา อยา งไร และมาตกิ า คอื อะไร ไดแ กอ ะไร ในธมั มสงั คณปี กรณน ้ี เมอื่ วา ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆ ท่ี ขอมูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 5 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) โดยกณั ฑแ ลว มกี ก่ี ณั ฑ คอื อะไรบา ง ใหแ สดงปรมตั ถธรรมของพระพทุ ธองคใ นกณั ฑน น้ั ๆ ? 61/2, 62/1 ตอบ คาํ วา มาตกิ า คอื อทุ เทส เปนการแสดงโดยยอเหมอื นกบั สารบาญ ไดแ ก ติกมาตกิ าบท ๖๖ ทุกมาตกิ าบท ๒๘๔ รวมเปน ๓๕๐ บท นั้นเอง คาํ วา มาตกิ าโชตกิ ะ นน้ั หมายความวา ปกรณที่แสดงจําแนกเน้อื ความพรอ มทงั้ อธิบายใน มาตกิ าบท มกี สุ ลา ธมมฺ า เปนตน ใหสวาง นนั้ เอง และธัมมสงั คณีปกรณน ี้ เม่ือวา โดยกณั ฑแ ลว มี ๔ กัณฑ คอื  ๑. ในธมั มสงั คณปี กรณน ้ี เมอื่ วา โดยกณั ฑแ ลว แบง ออกเปน กี่กณั ฑ คอื อะไรบา ง ? 43/2(2ก), 52/2(2ก) ใหแ สดงมาพรอ มความหมาย ? 55/2(2ข) /ใหอ ธิบายการแสดงปรมตั ถธรรมของพระพทุ ธองคใ นกณั ฑนั้นๆ ดว ย ? 47/1(1ก), 50/2(1ข) และในสตุ ตนั ตกิ ทุกมาตกิ า (ในธมั มสงั คณปี กรณน นั้ ) นน้ั พระพทุ ธองค ทรง แสดงไวก ก่ี ณั ฑ ? คอื กณั ฑอ ะไรบา ง ? 46/1(2), 49/1(1) , 57/2(1ก) ตอบ ก. ในธัมมสังคณปี กรณนี้ เมือ่ วา โดยกณั ฑแ ลว แบง ออกเปน ๔ กัณฑ คือ ๑. จติ ตฺ ปุ ปฺ าทกณฺฑ เปน กณั ฑท ่แี สดงการจําแนกตกิ มาตกิ า และทุกมาตกิ า โดยปรมัตถธรรทั้ง ๔ ซึ่งมีจิตและเจตสกิ เปน ประธาน โดยพสิ ดาร ๒. รูปกณฑฺ เปน กัณฑท ีแ่ สดงการจาํ แนกรูป โดยเอกกนัยจนถงึ เอกาทสกนยั โดยพสิ ดาร ๓. นิกเฺ ขปกณฺฑ เปนกณั ฑท จี่ าํ แนกติกมาตกิ า และทุกมาตกิ าโดยปรมัตถธรรมทั้ง ๔ อยางกลาง ๆ ๔. อฏกถากณฺฑ เปนกณั ฑทน่ี าํ เนอ้ื ความของปฎ กท้ัง ๓ ซงึ่ เปน พุทธวจนะ แลว จาํ แนกโดยติกมาตกิ าและทกุ มาตกิ าอยางยอ [46/1, 49/1, 57/2] และในสุตตันติกทกุ มาตกิ าน้นั พระพุทธองคทรงแสดงไว ๑ กัณฑ คอื นิกฺเขปกณฺฑ (49/1) การแสดงสตุ ฺตนตฺ กิ ทกุ มาติกา ในธัมมสงั คณีปกรณน นั้ คงแสดงไวแ ตนกิ ฺเขปกณฑฺ กัณฑเดยี วเทาน้ัน ๑. ข. จงแสดงวจนตั ถะของ กสุ ล, อกสุ ล, อพยฺ ากต, วปิ าก ฯ ? 47/1 ตอบ ข. วจนัตถะของกสุ ล คือ กุจฉฺ ิเต ปาปธมเฺ ม สลยติ กมเฺ ปติ วิทฺธํ เสตตี ิ = กสุ ลํ ธรรมชาติใดยอ มทําให หวน่ั ไหว หรอื ยอ มทาํ ลายซ่งึ บาปธรรม อันบณั ฑิตท้ังหลายพึงเกลียด ฉะนน้ั ธรรมชาตนิ ้ัน ชื่อวา กุศล วจนัตถะของอกุสล คอื น กสุ ลํ = อกสุ ลํ ธรรมชาตทิ ไ่ี มใชก ศุ ล ช่อื วา อกศุ ล วจนตั ถะของอพฺยากต คอื น พฺยากโต = อพฺยากโต. ธรรมท่ีไมไดทรงแสดงโดยความเปนกุศล อกุศล ทรง แสดงเปนอยา งอ่นื ช่อื วา อพยากต วจนัตถะของวิปาก คือ อฺมฺ วิสิฏ านํ กุสลากุสลานํ ปากาติ = วิปากา ธรรมท้ังหลายท่ีเปนผลของ กศุ ลและอกุศล ท่ีพเิ ศษกวา กันและกันชื่อวา วบิ าก ขอ ๒/๓ (ทีเ่ คยออกสอบขอ ๒ = ๑๐ คะแนน คราวนีจ้ ะออกขอไหนดี) ๒. จงแปลและแสดงองคธรรม ในบทตอ ไปน้ี (ของบาลตี อ ไปนี้) ? (๕ ขอยอ ย ๒คะแนน/ขอ) ก. กสุ ลา ธมมฺ า 45/2, 49/1, 49/2, 50/1, 50/2, 51/1, 52/1, 52/2, 53/2, 54/2, 55/1, 56/1, 57/1, 57/2, 58/1, 59/1, 59/2, 60/2, 61/2, 62/1, 62/2, 63/2 ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอมลู เพมิ่ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 6 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ข. อกสุ ลา ธมมฺ า 50/1, 51/1, 56/2, 62/1 ค. อพฺยากตา ธมมฺ า.43/2, 44/1, 46/1, 48/1, 48/2, 51/1, 53/1, 54/1, 55/2, 58/2, 60/1, 61/1, 62/1 ตอบ ก. กสุ ลา ธมฺมา ธรรมทงั้ หลายท่ไี มใชส ตั ว ไมใ ชชวี ิต เปนแตส ภาวะ (นสิ ฺสตตฺ นิชชฺ วี สภาวา) ซง่ึ มี ลกั ษณะไมม โี ทษใหผ ลเปนความสขุ มีอยู (สวํ ชิ ฺชนฺต)ิ องคธรรมไดแก กุศลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ ข. อกุสลา ธมมฺ า ธรรมทง้ั หลายที่ไมใ ชสตั ว ไมใชชีวิต เปน แตสภาวะ (นิสฺสตฺต นชิ ชฺ วี สภาวา) ซ่ึงมีลักษณะเปน ไป พรอ มดว ยโทษ และใหผลเปนความทกุ ข มีอยู (สํวชิ ฺชนตฺ ิ) องคธรรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ค. อพยฺ ากตา ธมมฺ า ธรรมทง้ั หลายทไี่ มใ ชสัตวไ มใชช วี ติ เปนแตสภาวะ (นิสฺสตตฺ นิชชฺ วี สภาวา) ซงึ่ พระพุทธ องคไ มไ ดท รงแสดงโดยความเปน กุศล อกุศล แตไดทรงแสดงโดยความเปนอยางอื่น มอี ยู (สํวิชชฺ นฺต)ิ องคธรรมไดแ ก วิปากจิต ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ นิพพาน. สขุ าย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า 44/1, 47/1, 51/1, 51/2, 62/1 ทกุ ขฺ าย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า 45/2, 53/1, 54/2, 55/1, 60/1, 62/2 อทกุ ขฺ มสขุ าย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า 44/2(3ก), 48/1, 49/2, 51/1, 61/2, 62/1, 63/2 สขุ าย เวทนาย สมฺปยตุ ตฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายทีป่ ระกอบดว ยสุขเวทนา โดยลกั ษณะทงั้ ๔ มี เอกปุ ปฺ าทตา เปนตน มอี ยู องคธ รรมไดแ ก สขุ สหคตจิต ๖๓ เจตสิก ๔๖ (เวน เวทนา) ทุกขฺ าย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลาย ท่ีประกอบดว ยทกุ ขเวทนาโดยลกั ษณะท้ัง ๔ มี เอกุปปฺ าทตา เปน ตน มีอยู องคธรรมไดแ ก ทกุ ขสหคตจิต ๓ เจตสกิ ๒๑ (เวน เวทนา) อทกุ ฺขมสุขาย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายท่ีประกอบดวยอุเบกขาเวทนา ซ่ึงไมใชทกุ ข ไมใชส ุข โดยลักษณะท้งั ๔ มี เอกปุ ฺปาทตา เปน ตน มีอยู องคธ รรมไดแก อุเบกขาสหคตจติ ๕๕ เจตสิกท่ีประกอบ ๔๖ (เวนเวทนา) วปิ ากา ธมมฺ า. 44/2(3ข), 50/1, 50/2, 53/2, 53/1, 54/1, 56/1 วปิ ากธมมฺ ธมมฺ า 44/1, 44/2, 50/2, 56/1, 58/2, 59/2, 60/2 เนววปิ ากนวปิ ากธมมฺ ธมมฺ า ? 43/1ส(2ก), 43/2, 47/2, 49/1, 52/2, 57/2, 58/1, 59/1 วปิ ากา ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลายท่ีเปนผลของกุศลและอกศุ ล ซึ่งพิเศษกวากันและกนั มีอยู องคธ รรมไดแ ก วิบากจิต ๓๖ เจตสกิ ๓๘ วิปากธมฺมธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายทม่ี ีสภาพใหผลเกิดขึ้น มีอยู องคธ รรมไดแก อกุศลจิต ๑๒ กศุ ลจิต ๒๑ เจตสกิ ๕๒ เนววปิ ากนวปิ ากธมมฺ ธมมฺ า สภาวธรรมท้งั หลาย ท่ีไมเปนผลของกุศล และอกศุ ลซึง่ พิเศษกวากันและกัน และไมมีสภาพใหผลเกิดขึ้น มีอยู องคธ รรมไดแก กรยิ าจิต ๒๑ เจตสิก ๓๕ รูป ๒๘ นพิ พาน อุปาทนิ นฺ ปุ าทานิยา ธมมฺ า 43/2, 44/2, 54/1 อนปุ าทินนฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า 44/1, 44/2(3ค), 50/1, 53/2, 54/1, 56/2, 57/1, 61/2, 63/2 อนปุ าทนิ นฺ อนปุ าทานยิ า ธมมฺ า 47/2, 52/1, 59/2 ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ที่ ขอ มูลเพ่ิมเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 7 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) อปุ าทินฺนุปาทานิยา ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลายที่กรรม (อนั ตัณหาและทฏิ ฐเิ ขาไปติด โดยอาการกระทําให เปน อารมณน ั้น) ยึดไวโ ดยความเปน ผลและเปนอารมณข องอปุ าทานได มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกียวปิ ากจิต ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กัมมชรปู ๒๐ อนุปาทินนฺ ุปาทานยิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายทีก่ รรม (อันตัณหาและทฏิ ฐิเขาไปติด โดยอาการกระทาํ ให เปนอารมณนัน้ ) ไมไ ดย ดึ ไวโดยความเปนผล แตเปน อารมณของอุปาทานได มีอยู องคธรรมไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ โลกยี กศุ ลจิต ๑๗ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรปู ๑๗ อุตุชรูป ๑๕ อาหารชรูป ๑๔ อนปุ าทนิ นฺ อนปุ าทานยิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายที่กรรม (อันตณั หาและทิฏฐิเขา ไปตดิ โดยอาการกระทาํ ให เปนอารมณน ้นั ) ไมไดยดึ ไวโดยความเปนผลและไมเ ปนประโยชน คือไมเ ปน อารมณข องอุปาทาน มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นิพพาน. สงกฺ ลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสิกา ธมมฺ า 44/2(3ง), 54/1, 60/1 อสงกฺ ลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสกิ า ธมมฺ า 46/1 อสงกฺ ลิ ฏิ  อสงกฺ เิ ลสสกิ า ธมมฺ า? 47/2ส สงกฺ ลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสิกา ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายทถี่ ูกกิเลสทาํ ใหเศรา หมองเรา รอน และเปน ท่อี าศัยเกิดของ กเิ ลส หรอื เปนอารมณของกิเลส มีอยู องคธรรมไดแก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ อสงฺกลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสกิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายท่ีไมถ กู กิเลสทําใหเศราหมองเรารอน แตเปนที่อาศัยเกดิ ของกิเลส หรอื เปนอารมณของกิเลสได มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกยี กศุ ลจิต ๑๗ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ อสงกฺ ลิ ฏิ  อสงกฺ เิ ลสกิ า ธมฺมา สภาวธรรมทงั้ หลายทีไ่ มถูกกเิ ลสทาํ ใหเศราหมองเรา รอน และไมเ ปน ทีอ่ าศยั เกิดของกิเลส หรือไมเปนอารมณข องกเิ ลส มอี ยู องคธรรมไดแ ก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน สวติ กกฺ สวจิ ารา ธมมฺ า 43/2, 54/1 อวติ กฺกวจิ ารมตตฺ า ธมมฺ า 46/1, 47/1, 48/2, 50/1, 54/2, 56/2, 61/1 อวิตกฺกอวจิ ารา ธมมฺ า 44/2(3จ), 51/2, สวติ กกฺ สวจิ ารา ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลายท่ีเกดิ พรอ มดวยวิตกและวิจาร มีอยู องคธ รรมไดแ ก สวติ ักกสวิจารจติ ๕๕ คอื กามจติ ๔๔ (เวน ทวปิ ญ จวิญญาณจิต ๑๐) ปฐมฌานจิต ๑๑ เจตสกิ ๕๐ (เวน วิตก, วิจาร) อวิตกกฺ วิจารมตฺตา ธมมฺ า สภาธรรมท้งั หลายท่ไี มม ีวติ ก มแี ตว ิจารณเ ทา นัน้ มีอยู องคธ รรมไดแ ก ทุติยฌานจิต ๑๑ เจตสกิ ท่ปี ระกอบ ๓๖ (เวน วจิ าร) และวติ กเจตสิก ๕๕ ทใ่ี นสวติ กั กสวิจารจติ ๕๕ อวติ กกฺ อวจิ ารา ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลาย ทไ่ี มมวี ติ กและวิจาร มอี ยู องคธรรมไดแ ก อวติ ักกอวจิ ารจิต ๕๕ คอื ทวปิ ญจวิญญาณจิต ๑๐ ตตยิ ฌานจติ ๑๑ จตุตถฌานจติ ๑๑ ปญ จมฌานจิต ๒๓ เจตสกิ ๓๖ (เวนวจิ าร) และ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอมลู เพิม่ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 8 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) วจิ ารเจตสิก ๑๑ ท่ีในทุตยิ ฌานจติ ๑๑ รูป ๒๘ นิพพาน ปต สิ หคตา ธมมฺ า 47/1, 49/1, 52/2, 57/1, 57/2, 58/1, 59/1 สขุ สหคตา ธมมฺ า 53/2 อเุ ปกขฺ าสหคตา ธมมฺ า 45/2, 55/1, 62/2 ปต สิ หคตา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเกิดพรอ มดว ยปติ มอี ยู องคธรรมไดแ ก ปตสิ หคตจิต ๕๑ คอื กามโสมนสั สหคตจิต ๑๘ ปฐมฌานจติ ๑๑ ทตุ ยิ ฌานจิต ๑๑ ตติยฌานจติ ๑๑ เจตสิก ๔๖ (เวนปต )ิ สขุ สหคตา ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลาย ท่ีเกิดพรอมดวยสขุ เวทนา มีอยู องคธรรมไดแก สุขสหคตจิต ๖๓ เจตสกิ ๔๖ (เวนเวทนา) อุเปกขฺ าสหคตา ธมมฺ า สภาวธรรมท้งั หลาย ทเี่ กดิ พรอมดว ยอุเปกขาเวทนา มีอยู องคธ รรมไดแ ก อุเปกขาสหคตจิต ๕๕ เจตสกิ ๔๖ (เวนเวทนา) เนว ทสสฺ เนน น ภาวนาย ปหาตพพฺ า ธมมฺ า. 47/1, 60/1 เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพพฺ า ธมมฺ า. สภาวธรรมท้ังหลายทไี่ มพึงประหาณโดยโสดาปต ติมรรคและ อรยิ มรรคเบ้ืองบน ๓ มีอยู องคธ รรมไดแ ก กุศลจิต ๒๑ วิปากจติ ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ นพิ พาน ทสสฺ เนน ปหาตพพฺ เหตกุ า ธมมฺ า 50/1, 56/2 ทสสฺ เนน ปหาตพพฺ เหตกุ า ธมมฺ า สภาวธรรมทงั้ หลายทีม่ เี หตุอนั พึงประหาณโดยโสดาปต ติมรรค มอี ยู องคธ รรมไดแก ทิฏฐคิ ตสมั ปยตุ ตจติ ๔ วจิ กิ ิจฉาสัมปยุตตจติ ๑ เจตสิกท่ีประกอบ ๒๒ (เวน โมหเจตสกิ ท่ีในวจิ ิกิจฉาสัมปยตุ ตจติ ๑) อนั โสดาปตติมรรคพึงละไดเ ด็ดขาด (สมุจเฉทปหาน) ทิฏฐคิ ตวปิ ปยุตตจิต ๔ โทสมลู จติ ๒ เจตสิก ๒๕ ท่ีนําไปสูอบาย (อปายคมนิย) อันโสดาปตติมรรคพึงละไดโดยสามารถทําใหเ บาบางลง (ตนกุ รปหาน) อาจยคามโิ น ธมมฺ า. 43/1ส(2ข), 46/1, 47/1, 48/1, 52/1 อปจยคามโิ น ธมมฺ า 47/2, 58/2, 59/2 เนวาจยคามนิ าปจยคามโิ น ธมมฺ า 48/2, 52/1, 61/1 อาจยคามโิ น ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลายท่เี ปนเหตุใหถ งึ จตุ ิและปฏิสนธิ มอี ยู องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ โลกยี กุศลจติ ๑๗ เจตสกิ ทีป่ ระกอบ ๕๒. อปจยคามโิ น ธมมฺ า สภาวธรรมทงั้ หลาย ที่เปนเหตุใหถงึ พระนพิ พาน มีอยู องคธ รรมไดแก มคั คจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ เนวาจยคามนิ าปจยคามโิ น ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายทไี่ มเ ปนเหตุใหถ งึ จตุ ิ ปฏสิ นธิ และพระนพิ พาน มีอยู องคธ รรมไดแก วิปากจิต ๓๖ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ท่ีประกอบ ๓๘ รูป ๒๘ นพิ พาน เสกขฺ า ธมมฺ า 49/2, 50/1, 51/2, 54/2, 56/2 อเสกขฺ า ธมมฺ า 45/2, 55/1, 55/2, 62/2 เสกขฺ า ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายท่เี ปนของเสกขบุคคล ๗ หรือที่ชื่อวา เสกขธรรม มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกุตตรจิต ๗ (เวน อรหัตตผลจิต ๑) เจตสิก ๓๖ ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ที่ ขอมูลเพิม่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 9 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) อเสกขฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลาย ทเ่ี ปน ของอเสกขบุคคล หรือท่ีชื่อวาอเสกขธรรม มอี ยู องคธ รรมไดแก อรหัตตผลจิต ๑ เจตสกิ ๓๖ ปรติ ฺตา ธมมฺ า. 49/2, 53/1, 57/1 อปปฺ มาณา ธมมฺ า. 50/2, 56/1(ค), 60/2 ปรติ ตฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายทีม่ ีอานภุ าพนอยมีอยู องคธ รรมไดแ ก กามจติ ๕๔ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ อปปฺ มาณา ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลาย ทเี่ ปนปฏปิ กษตอกิเลสมรี าคะ เปน ตน ซึง่ ยอ มกระทาํ ใหมีประมาณ มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน หนี า ธมมฺ า. 52/1, 53/1, 59/2 มชฌฺ มิ า ธมมฺ า 47/2, 55/2 หนี า ธมมฺ า. สภาวธรรมทงั้ หลายที่เลวหรอื ทล่ี ามก มีอยู องคธรรมไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗. มชฌฺ มิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเปนอยา งกลาง หรอื สภาวธรรมทัง้ หลายทเี่ ปน ไปในระหวา งธรรมที่ลามกและทป่ี ระณตี มีอยู องคธ รรมไดแก โลกียกศุ ลจิต ๑๗ โลกียวิปากจิต ๓๒ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ สมมฺ ตตฺ นยิ ตา ธมมฺ า 48/1, 49/1, 50/2, 52/2, 56/1, 57/2, 58/1, 58/2, 59/1, 60/2, 61/2 สมฺมตตฺ นยิ ตา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลาย ท่มี ีสภาพเปน ความดี และใหผลแนน อนในลําดับแหงตน ตดิ ตอ กัน ไมม ีระหวา งคน่ั มีอยู องคธรรมไดแก มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ อุปปฺ นนฺ า ธมมฺ า 49/1, 52/2, 57/2, 58/1, 59/1 อนปุ ปฺ นนฺ า ธมมฺ า 51/2, 54/2 อปุ ฺปาทโิ น ธมฺมา. 48/1, 48/2, 58/2, 61/1 อปุ ปฺ นนฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมท้งั หลาย ท่กี ําลังถงึ ซึ่งขณะท้งั ๓ มอี ยู องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ที่กําลังเกิดข้ึนปรากฏ มอี ยู อนปุ ปฺ นฺนา ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลาย ที่ไมใ ชถ งึ แลว และกําลังถึงซงึ่ ขณะท้งั ๓ มอี ยู องคธรรมไดแก อกุศลจติ ๑๒ กศุ ลจติ ๒๑ กริยาจิต ๒๐ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรูป ๑๗ อุตุชรูป ๑๕ อาหารชรูป ๑๔ ทจ่ี ะเกดิ อปุ ปฺ าทโิ น ธมฺมา. สภาวธรรมทง้ั หลายทีจ่ ะเกิดโดยแนน อน เพราะมีเหตุทสี่ าํ เรจ็ แลว มีอยู องคธ รรมไดแก วปิ ากจติ ๓๖ เจตสิก ๓๘ กมั มชรปู ๒๐ ที่จะเกดิ พหทิ ธฺ า ธมมฺ า. 47/2, 49/2, 51/2 อชฺฌตตฺ พหทิ ธฺ า ธมมฺ า 53/2, 55/2, 57/1 พหทิ ธฺ า ธมมฺ า. สภาวธรรมทัง้ หลายที่เปน ภายนอกสันดานแหงตน มีอยู องคธรรมไดแก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นพิ พาน ทเ่ี ปน ภายนอกสันดานแหง ตน อชฌฺ ตตฺ พหิทธฺ า ธมฺมา สภาวธรรมท้ังหลายที่เปน ภายในและภายนอกสนั ดานแหงตน มอี ยู องคธ รรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ที่เปนภายในและภายนอกสนั ดานแหงตน สนทิ สสฺ นสปปฺ ฏิฆา ธมมฺ า 48/2, 61/1 อนทิ สสฺ นสปปฺ ฏฆิ า ธมมฺ า 45/2, 46/1, 50/2, 55/1, 62/2 อนทิ สสฺ นอปปฺ ฏฆิ า ธมมฺ า ? 43/1ส(2ค), 55/2, 56/1(จ), 60/1, 60/2, 61/2, 63/2 สนทิ สฺสนสปปฺ ฏฆิ า ธมฺมา สภาวธรรมทง้ั หลายที่มสี ภาพเปนไปพรอมดวยการเห็นไดและกระทบได มอี ยู ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ที่ ขอมูลเพิม่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 10 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) องคธ รรมไดแก รูปารมณ อนิทสฺสนสปปฺ ฏิฆา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายท่ีมีสภาพเห็นไมได แตมีสภาพเปนไปพรอมดวยกระทบได มอี ยู องคธ รรมไดแ ก โอฬาริกรปู ๑๑ (เวนรปู ารมณ) อนทิ สฺสนอปฺปฏฆิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายทีม่ ีสภาพเหน็ ไมไดแ ละกระทบไมไ ด มอี ยู องคธรรมไดแ ก จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ สขุ มุ รปู ๑๖ นิพพาน ๒. จงแปลและแสดงองคธ รรมในธรรมตอ ไปน้ี ? 45/1(3), 46/2 ก. สงกฺ เิ ลสธรรม ข. อสงกฺ เิ ลสธรรม ค. สวติ กกฺ อวิจารธรรม ง. อวจิ ารธรรม จ. นปิ ปฺ ต กิ สขุ 45/1 จ. นปิ ปฺ ต กิ ธรรม 46/2 ตอบ แปลและแสดงองคธ รรมในธรรมดงั นี้ ก. สงกฺ เิ ลสธรรม ธรรมท่ีทาํ ใหเศราหมองเรา รอ น องคธรรมไดแก กิเลส ๑๐ มโี ลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทฏิ ฐิ วิจิกจิ ฉา ถีนะ อทุ ธัจจะ อหริ ิกะ อโนตตปั ปะ ข. อสงกฺ ิเลสธรรม ธรรมทีไ่ มท าํ ใหเ ศรา หมองเรารอ น องคธ รรมไดแ ก จติ ๘๙ เจตสกิ ที่ประกอบ ๔๒ (เวน กเิ ลสองคธรรม ๑๐) รปู ๒๘ นิพพาน ค. อวจิ ารธรรม ธรรมท่ไี มเกดิ พรอ มดวยวจิ ารณ องคธรรมไดแก ทวปิ ญ จวิญญาณจติ ๑๐ ตตยิ ฌานจิต ๑๑ จตตุ ถฌานจิต ๑๑ ปญ จม ฌานจติ ๒๓ เจตสกิ ๓๖ และวจิ ารเจตสิก ๖๖ รูป ๒๘ นิพพาน ง. สวติ ักกอวจิ ารธรรม ธรรมทมี่ วี ติ ก ไมม วี จิ ารณ องคธรรมไดแก วิจารเจตสกิ ๕๕ ที่ในสวติ กั กจติ ๕๕ (46/2) จ. นปิ ปต กิ ธรรม ธรรมทไี่ มมีปติ องคธรรมไดแ ก อเุ บกขาสหคตจิต ๕ โทสมูลจิต ๒ กายวิญญาณจิต ๒ จตุตถฌานจติ ๑๑ เจตสกิ ๕๑ (เวนปติ) และปตเิ จตสิก ๕๑ รูป ๒๘ นพิ พาน (45/1) จ. นิปปต กิ สขุ ความสขุ ท่ไี มป ระกอบดวยปติ องคธรรมไดแ ก สขุ เวทนา ๑๒ ทอ่ี ยใู นสขุ สหคต กายวิญญาณจติ ๑ จตตุ ตถฌานจิต ๑๑ ขอ ๓/๔ (หาก จําแนกหมด มี ๒ ขอ ยอ ย ก.ข. หากแจกเฉพาะ ธาตกุ บั สจั จะ อาจมี ถงึ ๕ ขอ ยอ ย) ๓. จงแปลและแสดงองคธรรมพรอ มจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ และสจั จวมิ ตุ ตขิ องธรรมตอ ไปนี้ ? 46/2(3ก) ก. กสุ ลา ธมมฺ า ตอบ ก. กุสลา ธมฺมา ธรรมทัง้ หลาย ท่ไี มใ ชสัตวไ มใชช วี ิตเปน แตส ภาวะ (นิสสฺ ตตฺ นิสชฺ ีว สภาวา) ซง่ึ มลี กั ษณะไมมีโทษ ใหผลเปนความสขุ มอี ยู (สํวิชฺชนตฺ )ิ องคธ รรมไดแ ก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ ธรรมเหลา น้เี มอ่ื จาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลวได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสกิ ๓๘ น้นั เวทนาเจตสิก เปน เวทนาขันธ สัญญาเจตสิก เปน สญั ญาขนั ธ เจตสิกท่ีเหลอื ๓๖ เปน สังขารขนั ธ กุศลจิต ๒๑ เปน วญิ ญาณขันธ อายตนะ ๒ คือ กศุ ลจิต ๒๑ เปน มนายตนะ เจตสิก ๓๘ เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๒ คือ กศุ ลจติ ๒๑ เปน มโนวิญญาณธาตุ เจตสกิ ๓๘ เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๒ คอื โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ เจตสิก ๓๘ เปน ทุกสจั จ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 11 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) องคม รรค ๘ ทใ่ี นปฐมฌานมรรค หรือ องคมรรค ๗ (เวน สมั มาสงั กปั ปะ) ทใ่ี นทุตยิ ฌานมรรคขึ้นไป เปน มัคคสจั จ มคั คจติ ตุปปาททเ่ี หลอื ๒๙ เปน สจั จวิมุตติ ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมของบทตอไปน้ี โดย ธาตแุ ละสจั จะ โดยละเอียด ? 56/1, 57/1 ก. อพยฺ ากตา ธมมฺ า.? 56/1, 57/1 ตอบ ก. อพยฺ ากตา ธมมฺ า. องคธรรมไดแก วิปากจติ ๓๖ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ นพิ พาน ธรรมเหลา นเ้ี มื่อจําแนกโดยธาตุและสัจจะแลว ไดธ าตุ ๑๘ สจั จะ ๒......... ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโี้ ดยธาตุ และสจั จะ 47/1และสจั จวมิ ตุ ? 46/1 ก. วปิ ากจติ ๓๖ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ นิพพาน [=อพฺยากตา ธมฺมา, เนวาจยคามโิ น ธมมฺ า] 45/2, 46/1(4ก), 47/1, 52/1(3ข), 53/2, 54/2, 57/2, 59/1 ตอบ จาํ แนกองคธ รรมเหลา น้โี ดย ธาตุ และสจั จะ ดังนี้ ก. วปิ ากจิต ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ นิพพาน ธรรมเหลา น้ีเมื่อจําแนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลวได ธาตุ ๑๘ สัจจะ ๒ (53/2 แจกละเอยี ด) ธาตุ ๑๘ คอื ในวิปากจติ ๓๖ กริยาจติ ๒๐ นั้น ในรปู ๒๘ นน้ั จกั ขุปสาท เปน จักขุธาตุ จกั ขุวญิ ญาณจติ ๒ เปนจกั ขุวญิ ญาณธาตุ โสตปสาท เปน โสตธาตุ โสตวญิ ญาณจติ ๒ เปน โสตวิญญาณธาตุ ฆานปสาท เปนฆานธาตุ ฆานวญิ ญาณจติ ๒ เปน ฆานวญิ ญาณธาตุ ชิวหาปสาท เปน ชวิ หาธาตุ ชิวหาวญิ ญาณจติ ๒ เปน ชิวหาวิญญาณธาตุ กายปสาท เปน กายธาตุ กายวญิ ญาณจติ ๒ เปนกายวญิ ญาณธาตุ รูปารมณ เปนรปู ธาตุ สทั ทารมณ เปน สัททธาตุ ปญจทวาราวชั ชนจติ ๑ สัมปฏิจฉนจติ ๒ เปน มโนธาตุ คันธารมณ เปนคันธธาตุ วปิ ากจติ ท่เี หลือ ๒๔ กริยาจิตท่ีเหลอื ๑๙ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ รสารมณ เปน รสธาตุ เจตสกิ ๓๘ สุขุมรูป ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ (ปถว,ี เตโช,วาโย) โผฐพั พารมณ เปน โผฏฐพั พธาตุ (หรอื แจกปกต)ิ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ น้ัน โอฬารกิ รปู ๑๒ เปนโอฬารกิ ธาตุ ๑๐ ในวิปากจิต ๓๖ กรยิ าจิต ๒๐ นนั้ ทวปิ ญ จวิญญาณจิต ๑๐ เปนปญ จวญิ ญาณธาตุ ๕ สัมปฏจิ ฉนจติ ๒ ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๑ เปนมโนธาตุ วิปากจิตท่ีเหลือ ๒๔ กรยิ าจิตทเ่ี หลอื ๑๙ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสกิ ๓๘ สขุ ุมรูป ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๒ คอื โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๕ (เวนวริ ตี ๓) รูป ๒๘ เปน ทุกขสจั จ นพิ พาน เปน นิโรธสัจจ ผลจิตตุปบาท ๓๗ เปน สจั จวิมตุ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆ ที่ ขอมลู เพิม่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 12 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๓. ใหแ สดงการจําแนกธรรมเหลานี้ โดยธาตุ และสัจจะ ? 51/1, 52/1 [=สุขสหคตา ธมมฺ า] ก. สุขสหคตจติ ๖๓ เจตสกิ ๔๖ (เวน เวทนา) 51/1, 52/1 [=สขุ ายเวทนาย สมฺปยุตตา ธมฺมา] ตอบ แสดงการจําแนกธรรมเหลา นี้ โดยธาตุ และสจั จะดังน้ี ก. สุขสหคตจิต ๖๓ เจตสิก ๔๖ (เวนเวทนา) ธรรมเหลา นี้ เมอื่ จาํ แนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลวได ธาตุ ๓ สัจจะ ๓ ธาตุ ๓ คอื ในสขุ สหคตจิต ๖๓ น้นั สขุ สหคตกายวญิ ญาณจิต ๑ เปน กายวิญญาณธาตุ สุขสหคตจิตทเี่ หลอื ๖๒ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๔๖ เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๓ คอื โลกยี สุขสหคตจิต ๓๑ เจตสิก ๔๕ (เวน โลภะ) เปน ทุกขสจั จ, โลภเจตสกิ เปน สมุทัยสจั จ, องคมรรค ๘ หรือ ๗ ท่ีในมัคคสขุ สหคตจติ ๑๖ เปน มคั คสัจจ มคั คจิตตุปปาทที่เหลอื ๒๘ ผลจติ ตุปปาท ๓๖ เปน สจั จวมิ ตุ ๒. จงแสดงบาลี คาํ แปล พรอ มทงั้ องคธ รรมและจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ โดยละเอียด ในบทตอไปนี้ ? 45/1(2ก) ก. ปฐมบทของ วปิ ากตกิ ๓. จงแปล และแสดงองคธ รรม พรอ มจาํ แนก โดยเฉพาะ ธาตุ สจั จะ โดยละเอยี ด ในบทตอไปนี้ ? 55/1, 62/2 ก. วิปากา ธมมฺ า ตอบ แสดงบาลี คําแปล พรอมทง้ั องคธ รรมแและจําแนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ โดยละเอียด ในบทตอไปน้ี มดี งั นี้ ก. วปิ ากา ธมมฺ า สภาวธรรรมทัง้ หลายทเี่ ปน ผลของกุศลและอกุศล ซง่ึ พิเศษกวากนั และกนั มีอยู องคธ รรมไดแ ก วิปากจติ ๓๖ เจตสิก ๓๘ ธรรมเหลา น้ี เมอื่ จาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลว ได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๘ สจั จะ ๑ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสิก ๓๘ น้นั เวทนาเจตสกิ เปน เวทนาขันธ สัญญาเจตสิก เปน สัญญาขันธ เจตสกิ ทเี่ หลือ ๓๖ เปนสังขารขันธ วปิ ากจติ ๓๖ เปนวิญญาณขนั ธ อายตนะ ๒ คอื วิปากจติ ๓๖ เปน มนายตนะ เจตสกิ ๓๘ เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๘ คอื ในวปิ ากจิต ๓๖ นัน้ จกั ขวุ ญิ ญาณจิต ๒ เปน จกั ขุวิญญาณธาตุ, โสตวิญญาณจิต ๒ เปน โสต วญิ ญาณธาต,ุ ฆานวญิ ญาณจิต ๒ เปน ฆานวญิ ญาณธาต,ุ ชิวหาวญิ ญาณจิต ๒ เปน ชวิ หาวญิ ญาณธาตุ, กายวิญญาณจติ ๒ เปนกายวิญญาณธาตุ, สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ เปน มโนธาตุ, วปิ ากจติ ที่เหลือ ๒๔ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสกิ ๓๘ เปนธมั มธาตุ สจั จะ ๑ คอื โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ เจตสิก ๓๕ (เวนวริ ตี ๓) เปนทกุ ขสจั จ ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปน สัจจวมิ ตุ ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา น้ี โดยธาตุ สจั จะ? 44/2, 45/2 และสจั จวมิ ตุ ? 46/1, 53/1 ก. อกศุ ลจิต ๑๒ กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๕๒ 45/2(ค), 46/1, 48/2, 51/1, 53/1 [=วปิ ากธมมฺ ธมฺมา] ตอบ จาํ แนกองคธ รรมเหลา นี้ โดยธาตุ สัจจะ และสัจจวิมตุ ก. อกุศลจติ ๑๒ กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๕๒ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอ มูลเพ่ิมเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 13 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ธรรมเหลา นเ้ี มอื่ จําแนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลว ได ธาตุ ๒ สัจจะ ๓ ธาตุ ๒ คอื อกุศลจติ ๑๒ กุศลจติ ๒๑ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสกิ ๕๒ เปน ธมั มธาตุ สัจจะ ๓ คอื อกศุ ลจิต ๑๒ โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) เปน ทกุ ขสัจจ โลภเจตสกิ เปนสมุทยสจั จ องคมรรค ๘ หรอื ๗ ที่ในมัคคจิต ๔ เปน มัคคสัจจ มคั คจติ ตุปบาททีเ่ หลอื ๒๙ เปน สจั จวมิ ตุ ๓. จงแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปนี้ พรอมทงั้ แสดงการจาํ แนกองคธ รรมตามทรี่ ะบุไวใ นแตล ะขอ ? 47/2 ก. อปุ าทนิ นฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า (จาํ แนกโดยอายตนะ) ตอบ ก. องคธรรมไดแก โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กมั มชรปู ๒๐ ธรรมเหลานเ้ี มอ่ื จําแนกโดยอายตนะ แลว ได อายตนะ ๑๑, อายตนะ ๑๑ คอื ในกัมมชรูป ๒๐ น้ัน จกั ขุปสาท เปนจักขายตนะ, โสตปสาท เปนโสตายตนะ, ฆานปสาท เปนฆานายตนะ, ชิวหาปสาท เปน ชิวหายตนะ, กายปสาท เปนกายายตนะ, รูปารมณ เปนรปู ายตนะ, คนั ธารมณ เปน คนั ธายตนะ, รสารมณ เปน รสายตนะ, (ปถวี เตโช, วาโย) โผฏฐัพพารมณ เปน โผฏฐพั พายตนะ, โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ เปน มนายตนะ, เจตสกิ ๓๕ สขุ มุ รปู ๙ หรอื ๑๑ ไดแ ก อาโป อติ ถภี าวะ ปริสภาวะ หท ยะ ชีวิตะ อาหาระ ปรจิ เฉทะ อุปจ จยะ สนั ตติ หรือและ ชรตา อนจิ จตา เปนธัมมายตนะ ๓. จงแปลและแสดงองคธรรม พรอมทงั้ จําแนกโดยธาตุ และสัจจะ (โดยละเอียด) ? 44/1(3ก) ในบทตอ ไปน้ี ? 50/2(4ก), 51/2(3ก) ก. อปุ าทนิ นฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า ๓. จงจาํ แนกองคธรรมเหลา นโี้ ดย ธาตุ และสจั จะ ? 45/2 ข. โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กมั มชรปู ๒๐ ? 45/2 ตอบ แปลและแสดงองคธรรมพรอ มทัง้ จําแนกโดยธาตแุ ละสจั จะในบทตอไปน้ี ก. สภาวธรรมทัง้ หลายทกี่ รรม (อนั ตณั หาและทฏิ ฐิเขา ไปติด โดยอาการกระทําใหเ ปนอารมณน ัน้ ) ยดึ ไวโดยความเปนผล และเปน อารมณของอุปาทานได มีอยู องคธรรมไดแ ก โลกียวปิ ากจติ ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กมั มชรปู ๒๐ ธรรมเหลาน้ีเมือ่ จําแนกโดยธาตุ และสัจจะแลวไดธ าตุ ๑๗ สจั จะ ๑ ธาตุ ๑๗ คอื ในกัมมชรปู ๒๐ น้นั จักขุปสาท เปน จักขุธาตุ, โสตปสาท เปนโสตธาตุ, ฆานปสาท เปน ฆาน ธาตุ, ชวิ หาปสาท เปน ชวิ หาธาตุ, กายปสาท เปนกายธาตุ, รูปารมณ เปน รปู ธาตุ, คันธารมณ เปน คนั ธธาตุ, รสารมณ เปนรสธาต,ุ โผฏฐพั พารมณ คือ ปฐวี เตโช วาโย เปน โผฏฐัพพธาตุ ในโลกยี วปิ ากจติ ๓๒ น้ัน จักขุวญิ ญาณจติ ๒ เปน จักขวุ ิญญาณธาตุ, โสตวญิ ญาณจิต ๒ เปน โสตวญิ ญาณธาต,ุ ฆานวญิ ญาณจติ ๒ เปนฆานวญิ ญาณธาตุ, ชิวหาวิญญาณจิต ๒ เปนชวิ หา วิญญาณธาต,ุ กายวญิ ญาณจิต ๒ เปน กายวญิ ญาณธาต,ุ สมั ปฏิจฉนจติ ๒ เปนมโนธาตุ, โลกยี วปิ ากจิตที่เหลือ ๒๐ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๕ สขุ มุ รปู ๙ หรอื ๑๑ ไดแ ก อาโป อิตถีภาวะ ปรุ ิสภาวะ หทยะ ชีวิตะ อาหาระ ปรจิ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอ มูลเพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 14 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) เฉทะ อุปจยะ สนั ตติ หรือและ ชรตา อนิจจตา เปนธัมมธาตุ สจั จะ ๑ คอื โลกียวปิ ากจติ ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กัมมชรูป ๒๐ เปน ทกุ สัจจ ๓. จงแปลบาลใี นบทตอ ไปน้ี พรอ มทงั้ แสดงองคธ รรม แลว จาํ แนกตามทร่ี ะบไุ วใ นแตละขอ ? ก. อนปุ าทินนฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า (จําแนกโดยอายตนะ) ? 48/1(3ก) (จาํ แนกโดยธาต)ุ ? 47/2(3ข) ตอบ 48/1(3ก) ก. สภาวธรรมทั้งหลายที่กรรม (อันตณั หาและทิฏฐิเขาไปติดโดย อาการกระทําใหเปนอารมณน ้ัน) ไมไดยดึ ไวโดยความเปนผล แตเปน อารมณของอุปาทานได มีอยู องคธรรมไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ โลกียกุศลจติ ๑๗ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๕๒ จติ ตชรปู ๑๗ อตุ ชุ รปู ๑๕ อาหารชรปู ๑๔ [48/1(3ก)] ธรรมเหลานี้เม่ือ จาํ แนกโดยอายตนะแลว ไดอ ายตนะ ๗ คอื ในตชิ รปู นั้น รูปารมณเ ปน รปู ายตนะ, สัททารมณ เปนสัททายตนะ, คัน ธารมณ เปนคนั ธายตนะ, รสารมณ เปนรสายตนะ, (ปถว,ี เตโช, วาโย) โผฏฐัพพารมณ เปน โผฏฐพั พายตนะ, อกศุ ลจติ ๑๒ โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ กรยิ าจติ ๒๐ เปน มนายตนะ เจตสิก ๕๒ สขุ มุ รปู ๑๐ หรือ ๑๒ ไดแ ก อาโป อาหาระ ปริจเฉทะ กายวญิ ญตั ิ วจีวญิ ญตั ิ ลหุตา มุทตุ า กัมมญั ญตา อุปจจยะ สนั ตติ หรอื /และ ชรตา อนิจจตา เปน ธัมมายตนะ 47/2(3ข) ธรรมเหลานีเ้ มื่อจําแนกโดยธาตแุ ลว ไดธ าตุ ๘ คอื ในตชิ รูปนน้ั รปู ารมณ เปนรูปธาตุ, สัททารมณ เปน สทั ทธาตุ, คันธารมณ เปน คันธธาตุ, รสารมณเ ปน รส ธาตุ (ปถวี, เตโช, วาโย) โผฏฐพั พารมณ เปนโผฏฐพั พธาต,ุ ปญ จทวาราวัชชนจติ ๑ เปน มโนธาตุ, อกศุ ลจิต ๑๒ โลกียกศุ ลจติ ๑๗ กรยิ าจติ ที่เหลือ ๑๙ เปน มโนวิญญาณธาตุ, เจตสกิ ๕๒ สขุ มุ รปู ๑๐ หรือ ๑๒ ไดแ ก อาโป อาหาระ ปรจิ เฉทะ กายวิญญัติ วิจวี ญิ ญตั ิ ลหตุ า มทุ ตุ า กมั มัญญตา อุปจจยะ สนั ตติ หรอื /และ ชรตา อนิจจตา เปนธมั มธาตุ ๒. จงแสดงบาลี คําแปล พรอ มทัง้ องคธรรมและจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ โดยละเอียด ในบทตอ ไปนี้ ? 45/1(2ข) ข. ตตยิ บทของ อปุ าทนิ นฺ ตกิ ? ๓. จงแปล และแสดงองคธ รรม พรอ มจาํ แนก โดยเฉพาะ ธาตุ สจั จะ โดยละเอยี ด ในบทตอ ไปน้ี ? 55/1, 62/2 ข. อนปุ าทนิ นฺ อนปุ าทานยิ า ธมมฺ า ตอบ ข. อนปุ าทินฺนอนปุ าทานิยา ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายทกี่ รรม (อนั ตัณหาและทิฏฐิเขาไปตดิ โดยการ กระทาํ ใหเปน อารมณนั้น) ไมไดยึดไวโดยความเปนผลและไมเ ปน ประโยชน คือ ไมเ ปนอามรมณข องอปุ าทาน มีอยู องคธรรมไดแ ก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ธรรมเหลาน้ี เมื่อจําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะแลวได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 15 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสิก ๓๖ นน้ั เวทนาเจตสิก เปน เวทนาขนั ธ สญั ญาเจตสกิ เปน สัญญาขนั ธ เจตสกิ ที่เหลือ ๓๔ เปน สังขารขันธ โลกตุ ตรจติ ๘ เปน วญิ ญาณขนั ธ นพิ พาน เปน ขนั ธวิมุตติ อายตนะ ๒ คอื โลกตุ ตรจติ ๘ เปน มนายตนะ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๒ คอื โลกุตตรจติ ๘ เปน มโนวิญญาณธาตุ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ. สัจจะ ๒ คือ นิพพาน เปน นโิ รธสจั จ องคม รรค ๘ หรือ ๗ ทใ่ี นมัคคจิต ๔ เปน มคั คสัจจ มัคคจิตตุปบาททเี่ หลือ ๒๙ ผลจิตตปุ บาท ๓๗ เปนสจั จวิมุต. ๓. จงแปลและแสดงองคธรรม พรอมทงั้ จาํ แนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะในบาลตี อ ไปน้ี ? 50/1(3ข) ๓. จงจาํ แนกองคธ รรม ของบทตอ ไปนี้ โดย ธาตแุ ละสจั จะ โดยละเอียด ? 56/1 ข. ปณตี า ธมมฺ า ? ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นี้ โดยธาตุ สัจจะ? 44/2, 45/2 และสจั จวมิ ตุ ? 46/1, 53/1 ข. โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน 46/1, 48/2, 53/1, 54/2 (๔ บทในติกะ อนปุ าทินนฺ อนุปาทานยิ า ธมมา, อสงฺกิลฏิ ฐอสงกฺ ิเลสิกา ธมฺมา, อปฺปมาณา ธมมฺ า, ปณตี า ธมมฺ า) ตอบ แปลและแสดงองคธ รรม จําแนกขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ดงั น้ี ข. สภาวธรรมทง้ั หลายท่ปี ระเสริฐหรือท่ีประณตี มีอยู องคธรรมไดแ ก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ธรรมเหลา น้ี เมอ่ื จําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลว ไดขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ .... ข. โลกุตตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นิพพาน ธรรมเหลานเี้ ม่ือจําแนกโดยธาตแุ ละสัจจะ แลว ได ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ .... ๓.จงแปลและแสดงองคธรรมพรอ มจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ และสจั จวมิ ตุ ตขิ องธรรมตอ ไปน้ี ? 46/2(3ข) โดยละเอยี ดในบทตอ ไปนี้ ? 50/2(4ข), 51/2(3ข) ข. สงกฺ ลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสิกา ธมมฺ า ตอบ ข. สงกฺ ิลฏิ  สงกฺ ิเลสิกา ธมมฺ า สภาธรรมทงั้ หลายทถี่ ูกกิเลสทาํ ใหเ ศรา หมองเรารอน และเปนท่ีอาศยั เกดิ ของกิเลส หรอื เปนอารมณข องกิเลสได มีอยู องคธรรมไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ 46/2 ธรรมเหลา นี้เมอื่ จาํ แนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลวได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ 51/2 ธรรมเหลา น้ี เมื่อจําแนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลว ได ธาตุ ๒ สจั จะ ๒ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสิก ๒๗ น้ัน เวทนาเจตสกิ เปน เวทนาขันธ สัญญาเจตสกิ เปน สัญญาขันธ เจตสิกที่เหลอื ๒๕ เปน สงั ขารขันธ อกุศลจิต ๑๒ เปนวญิ ญาณขันธ อายตนะ ๒ คือ อกุศลจติ ๑๒ เปนมนายตนะ เจตสกิ ๒๗ เปน ธมั มายตนะ ธาตุ ๒ คอื อกศุ ลจติ ๑๒ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๒๗ เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๒ คือ อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๖ (เวนโลภะ) เปนทกุ สจั จ โลภเจตสกิ เปน สมทุ ัยสจั จ ๓. จงแปลและแสดงองคธรรม พรอ มทง้ั จําแนก โดยธาตุ และสัจจะ ? 44/1(3ข) โดยขันธ อายตนะ ธาตุ และสัจจะในบาลตี อ ไปนี้ ? 50/1(3ก) ก. อสงกฺ ลิ ฏิ  สงกฺ เิ ลสกิ า ธมมฺ า ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอมลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 16 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ แปลและแสดงองคธ รรม จําแนกขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ดังนี้ ก. สภาวธรรมทัง้ หลายที่ไมถูกกเิ ลสทาํ ใหเศรา หมองเรา รอ น แตเ ปน ท่ีอาศัยเกดิ ของกเิ ลส หรือเปนอารมณของกเิ ลสได มอี ยู องคธรรมไดแ ก โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ โลกียวปิ ากจติ ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ 50/1 ธรรมเหลานเี้ มอื่ จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได ขันธ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ สัจจะ ๑ 44/1 ธรรมเหลานี้ เมอ่ื จาํ แนกโดย ธาตุ และ สัจจะ แลวได ธาตุ ๑๘ สจั จะ ๑ ขนั ธ ๕ คอื รปู ๒๘ เปน รูปขนั ธ ในเจตสกิ ๓๘ นั้น เวทนาเจตสิก เปน เวทนาขันธ สัญญาเจตสิก เปน สัญญาขันธ เจตสิกที่เหลือ ๓๖ เปน สังขารขนั ธ โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ โลกียวิปากจิต ๓๒ กริยาจิต ๒๐ เปน วิญญาณขนั ธ อายตนะ ๑๒ คือ ในรูป ๒๘ นั้น โอฬารกิ รปู ๑๒ เปน โอฬาริกายตนะ ๑๐ โลกียกศุ ลจติ ๑๗ โลกยี วิ ปากจติ ๓๒ กริยาจิต ๒๐ เปน มนายตนะ เจตสกิ ๓๘ สุขมุ รูป ๑๖ เปน ธมั มายตนะ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ นน้ั โอฬารกิ รปู ๑๒ เปน โอฬารกิ ธาตุ ๑๐ ในโลกียวปิ ากจติ ๓๒ กริยาจติ ๒๐ นั้น ทวิปญจวิญญาณจิต ๑๐ เปน ปญจวิญญาณธาตุ ๕ สมั ปฏิจฉนจิต ๒ ปญจทวาราวัชชนจติ ๑ เปน มโนธาตุ โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ โลกียวปิ ากจิตทเ่ี หลือ ๒๐ กรยิ าจติ ท่ีเหลือ ๑๙ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๘ สุขุมรปู ๑๖ เปน ธมั มธาตุ สัจจะ ๑ คอื โลกยี กุศลจิต ๑๗ โลกียวปิ ากจติ ๓๒ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ เปน ทุกขสจั จ. ๓. จงแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปนี้ พรอ มทง้ั แสดงการจาํ แนกองคธ รรมตามทรี่ ะบไุ วใ นแตล ะขอ ? 47/2 ค. สวติ กกฺ สวจิ ารา ธมมฺ า (จาํ แนกโดยสจั จะ) ตอบ ค. ธรรมเหลานี้เมื่อจาํ แนกโดย สัจจะ แลวได สจั จะ ๓ คอื โลกยี สวติ กั กสวจิ ารจติ ๔๗ เจตสิก ๔๙ (เวนโลภะ) เปน ทกุ สัจจ โลภเจตสกิ เปนสมุทยสจั จ องคม รรค ๗ (เวน สมั มาสงั กัปปะ) ทีใ่ นมคั คสวิตกักกสวจิ ารจติ ๔ เปน มคั คสจั จ มคั คจิตตุปบาททเี่ หลือ ๒๘ ผลจติ ตุปบาท ๓๕ เปนสัจจวมิ ุต ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมพรอ มทงั้ จาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทดงั ตอ ไปนี้ (โดยละเอยี ด) อวติ กกฺ อวจิ ารา ธมมฺ า ? 55/2 ตอบ แปลและแสดงองคธรรมพรอ มท้ังจําแนกโดย ขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทนน้ั ดงั นี้ อวติ กกฺ อวจิ ารา ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลาย ทไี่ มม ีวิตกและวิจาร มอี ยู องคธรรมไดแก อวติ กฺกอวจิ ารจติ ๕๕ คือ ทวิปญ จวญิ ญาณจิต ๑๐ ตตยิ ฌานจติ ๑๑ จตตุ ถฌานจติ ๑๑ ปญ จมฌานจติ ๒๓ เจตสิกท่ีประกอบ ๓๖ และวจิ ารเจตสกิ ๑๑ ทใ่ี นทุติยฌานจิต ๑๑ รูป ๒๘ นิพพาน ธรรมเหลา น้ีเมอ่ื จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะแลว ได ขันธ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๗ สัจจะ ๓ ขนั ธ ๕ คอื รูป ๒๘ เปนรูปขนั ธ ในเจตสกิ ๓๖ นนั้ เวทนาเจตสกิ เปนเวทนาขันธ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอมูลเพมิ่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 17 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) สัญญาเจตสกิ เปน สญั ญาขันธ เจตสกิ ทเ่ี หลอื ๓๔ และวจิ ารเจตสกิ ๑๑ เปนสงั ขารขันธ อวิตกั กอวิจารจิต ๕๕ เปนวิญญาณขันธ นพิ พาน เปน ขนั ธวมิ ตุ อายตนะ ๑๒ คอื ในรูป ๒๘ นัน้ จักขปุ สาท เปน จักขายตนะ, โสตปสาท เปนโสตายตนะ, ฆานปสาท เปน ฆานายตนะ, ชวิ หาปสาท เปน ชิวหายตนะ, กายปสาท เปน กายายตนะ, รูปารมณ เปน รปู ายตนะ, สัททารมณ เปน สัททายตนะ, คันธารมณ เปนคนั ธายตนะ, รสารมณ เปน รสายตนะ, (ปถวี เตโช วาโย) โผฏฐัพพารมณเปน โผฏฐพั พายตนะ, อวติ กั กอวจิ ารจิต ๕๕ เปน มนายตนะ เจตสิก ๓๖ และวิจารเจตสิก ๑๑ สุขุมรปู ๑๖ นพิ พาน เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๑๗ คอื ในรปู ๒๘ น้ัน จักขุปสาท เปน จักขุธาตุ, โสตปสาท เปนโสตธาตุ, ฆานปสาท เปน ฆานธาต,ุ ชิวหาปสาท เปน ชิวหาธาต,ุ กายปสาท เปน กายธาตุ, รปู ารมณ เปนรปู ธาตุ, สัททารมณ เปน สทั ทธาตุ, คนั ธารมณ เปนคันธธาต,ุ รสารมณ เปนรสธาต,ุ (ปถวี เตโช วาโย) โผฏฐัพ พารมณ เปนโผฏฐัพพาธาตุ, ใน อวติ ักกอวจิ ารจิต ๕๕ นนั้ จกั ขวุ ญิ ญาณจิต ๒ เปนจักขุวิญญาณธาตุ, โสตวญิ ญาณจิต ๒ เปนโสตวญิ ญาณธาตุ, ฆานวิญญาณจิต ๒ เปน ฆานวิญญาณธาตุ, ชิวหาวิญญาณจติ ๒ เปนชิวหาวิญญาณธาต,ุ กายวิญญาณจติ ๒ เปน กายวิญญาณธาตุ, อวติ ักกอวจิ ารจิตทเ่ี หลอื ๔๕ เปน มโนวิญญาณธาตุ เจตสิก ๓๖ และวจิ ารเจตสกิ ๑๑ สขุ ุมรปู ๑๖ นิพพาน เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๓ คอื โลกยี อวติ กั กอวจิ ารจติ ๓๑ เจตสิก ๓๓ และโลกยี วจิ ารเจตสิก ๓ รูป ๒๘ เปนทุกขสัจจ นิพพาน เปนนโิ รธสจั จ องคมรรค ๗ (เวน สมั มาสังกัปปะ) ที่ในมคั คอวิตกั กอวิจารจติ ๑๒ เปนมัคคสจั จ มคั คจติ ตปุ บาททเี่ หลอื ๒๘ ผลจติ ตุปบาท ๓๕ และวจิ ารเจตสิก ๘ ทใ่ี นโลกุตตรทุติยฌานจติ ๘ เปนสจั จวมิ ุต ๓. จงแสดงการจาํ แนกองคธ รรมเหลา น้ี ตามท่ีไดร ะบไุ วใ นแตล ะขอ ? 53/2 [=อวติ กฺกอวิจารา ธมมฺ า] ข. อวิตกั กอวจิ ารจติ ๕๕ คอื ทวปิ ญ จวญิ ญาณจิต ๑๐ ตตยิ ฌานจติ ๑๑ จตตุ ถฌานจติ ๑๑ ปญ จมฌานจติ ๒๓, เจตสกิ ๓๖ และวจิ ารเจตสกิ ๑๑ ทีใ่ นทตุ ยิ ฌานจติ ๑๑, รูป ๒๘, นพิ พาน โดยสจั จะ ตอบ ข. ธรรมเหลา นี้เม่ือจําแนกโดยสัจจะแลวไดส จั จะ ๓ คอื ........ ๓. ใหแ สดงธรรมทม่ี สี ภาพดงั ตอ ไปนี้ ? 43/1 ก. ธรรมทเี่ ปน เหตใุ หเ กดิ ใหต าย ข. ธรรมทเี่ ปน เหตุใหไมเ กดิ ไมตาย ค. ธรรมทไี่ มใ ชเ ปนเหตใุ หเ กดิ ใหตาย และไมใชเปน เหตใุ หไมเ กิดไมต าย ตอบ ธรรมทมี่ ีสภาพดงั ตอไปน้ี มีดังนค้ี ือ ก. ไดแ ก อาจยคามิธรรม คอื อกศุ ลจิต ๑๒ โลกยี กุศลจติ ๑๗ เจตสกิ ๕๒ ข. ไดแก อปจยคามธิ รรม คือ มรรคจติ ๔ เจตสิก ๓๖ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ท่ี ขอมลู เพ่ิมเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 18 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ค. ไดแ ก เนวาจยคามนิ าปจยคามธิ รรม คอื วปิ ากจิต ๓๖ กริยาจิต ๒๐ เจตสิก ๓๘ รปู ๒๘ นิพพาน ๔. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา น้ี โดยธาตุ สจั จะและสจั จวมิ ตุ ? 48/2 ค. อรหตั ตผลจติ ๑ เจตสกิ ๓๖ (อเสกขา มมฺ า) ตอบ ค. จําแนกองคธรรมเหลา นี้ โดยธาตุ สัจจะ และสัจจวิมุต ของ อรหัตตผลจติ ๑ เจตสิก ๓๖ ดงั น้ี คือ ธรรมเหลานีเ้ ม่ือจําแนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลวได ธาตุ ๒ สจั จวิมุต ธาตุ ๒ คือ อรหัตตผลจติ ๑ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสกิ ๓๖ เปน ธัมมธาตุ ผลจิตตปุ บาท ๓๗ เปน สจั จวมิ ตุ ๔. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโี้ ดย ธาตุ และสจั จะ ? ก. กามจติ ๕๔ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ ? 44/2 [=ปรติ ตฺ า ธมมฺ า] ตอบ ก. กามจิต ๕๔ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ ธรรมเหลา นเี้ มอื่ จําแนกโดย ธาตุ และ สัจจะ แลวได ธาตุ ๑๘ สัจจะ ๒ ธาตุ ๑๘ คือ ในรูป ๒๘ น้ัน โอฬารกิ รปู ๑๒ เปน โอฬาริกธาตุ ๑๐ ในกามจติ ๕๔ นั้น ทวปิ ญ จวิญญาณจติ ๑๐ เปน ปญจวิญญาณธาตุ ๕ สมั ปฏิจฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวัชชนจติ ๑ เปน มโนธาตุ กามจติ ทเ่ี หลือ ๔๑ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๕๒ สุขุมรปู ๑๖ เปน ธัมมธาตุ สจั จะ ๒ คอื กามจติ ๕๔ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) รปู ๒๘ เปน ทกุ ขสัจจ โลภเจตสกิ เปน สมทุ ัยสัจจ ๓. ก. จงแปลและแสดงองคธ รรมในบทวา สมมฺ ตตฺ นยิ ตา ธมมฺ า พรอ มดว ยจาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 49/2, 63/2 ๔. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโ้ี ดย ธาตุ และสจั จะ ? 44/2 [=อปจยคามโิ น ธมมฺ า, สมมฺ ตฺตนยิ ตา ธมมฺ า] ค. มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ 44/2, 45/2(3ง), 51/1(3), 52/1(3) ตอบ ก. แปลดงั น้ี สภาวธรรมท้งั หลาย ท่มี ีสภาพเปน ความดี และใหผ ลแนน อนในลาํ ดบั แหงตน ติดตอ กันไมม ีระหวางค่ัน มีอยู องคธรรมไดแก มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ ธรรมเหลา น้เี ม่อื จําแนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๑ [(๔) ตอบ ค. มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ ธรรมเหลา น้ีเม่อื จาํ แนกโดยธาตุ และสัจจะแลว ได ธาตุ ๒ สัจจะ ๑ ..] ขนั ธ ๔ คือ ในเจตสกิ ๓๖ นนั้ เวทนาเจตสิก เปน เวทนาขนั ธ. สัญญาเจตสิก เปน สัญญาขันธ. เจตสกิ ทีเ่ หลอื ๓๔ เปน สงั ขารขนั ธ มคั คจิต ๔ เปน วญิ ญาณขนั ธ อายตนะ ๒ คอื มคั คจติ ๔ เปน มนายตนะ เจตสกิ ๓๖ เปน ธมั มายตนะ ธาตุ ๒ คอื มคั คจิต ๔ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ, เจตสิก ๓๖ เปน ธัมมธาตุ สจั จะ ๑ คอื องคธรรม ๘ หรอื ๗ ท่ใี นมคั คจติ ๔ เปน มัคคสัจจ, มัคคจิตตุปบาททีเ่ หลือ ๒๙ เปน สัจจวิมุต ๓. จงจําแนกองคธ รรมเหลา นโ้ี ดยธาตุ และสจั จะ ? 47/1และสจั จวมิ ตุ ? 46/1 ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ท่ี ขอ มูลเพ่มิ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 19 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ค. วิปากจิต ๓๖ เจตสกิ ๓๘ กมั มชรปู ๒๐ ทจ่ี ะเกดิ [=อุปปฺ าทิโน ธมมฺ า] ตอบ ค. วิปากจติ ๓๖ เจตสกิ ๓๘ กมั มชรปู ๒๐ ที่จะเกิด ธรรมเหลานี้ เมอ่ื จําแนกโดยธาตุและสัจจะแลวไดธ าตุ ๑๗ สจั จะ ๑ ธาตุ ๑๗ คอื ในกัมมชรูป ๒๐ นัน้ โอฬารกิ รูป ๑๑ (เวน สทั ทารมณ) เปนโอฬารกิ ธาตุ ๙ (เวน สทั ทธาต)ุ ในวปิ ากจิต ๓๖ น้นั ทวปิ ญ จวญิ ญาณจติ ๑๐ เปน ปญ จวิญญาณธาตุ ๕ สัมปฏิจฉนจิต ๒ เปนมโนธาตุ วิปากจติ ที่เหลือ ๒๔ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๘ กัมมชสขุ ุมรปู ๙-๑๑ เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๑ คอื โลกียวปิ ากจติ ๓๒ เจตสกิ ๓๕ (เวน วริ ตี ๓) กัมมชรปู ๒๐ เปนทุกขสจั จ ผลจิตตุปบาท ๓๗ เปน สจั จวิมุต ๓. จงแปลและแสดงองคธ รรมพรอมทงั้ จําแนกโดยธาตแุ ละสจั จะ ในบทตอ ไปนี้ อปุ ปฺ าทโิ น ธมมฺ า ? 61/2, 62/1(4) ตอบ แปลและแสดงองคธ รรมในบทตอไปน้ี พรอ มท้งั จาํ แนกโดยธาตุและสจั จะ อปุ ฺปาทโิ น ธมมฺ า. สภาวธรรมท้ังหลายทีจ่ ะเกิดโดยแนนอนเพราะมเี หตทุ ีส่ าํ เรจ็ แลว มอี ย.ู องคธ รรมไดแ ก วิปากจติ ๓๖ เจตสกิ ๓๘ กมั มชรูป ๒๐ ท่จี ะเกดิ . ธรรมเหลา น้ีเมอ่ื จําแนกโดยธาตแุ ละสัจจะแลว ได ธาตุ ๑๗ สัจจะ ๑. ธาตุ ๑๗ คอื ในกัมมชรูป ๒๐ น้นั โอฬาริกรปู ๑๑ (เวน สัททะ) เปน โอฬารกิ ธาตุ ๙ วปิ ากจิต ๓๖ เปน วญิ ญาณธาตุ ๗ เจตสกิ ๓๘ กัมมชสุขุมรูป ๙-๑๑ เปนธมั มธาตุ สัจจะ ๑ คือ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ เจตสิก ๓๕ กัมมชรปู ๒๐ เปนทุกขสจั จ ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปน สจั จวมิ ตุ ๓. จงแปลและแสดงองคธ รรม พรอมทง้ั จําแนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทบาลดี งั น้ี พหทิ ธฺ า ธมมฺ า ? 43/1, 49/1, 58/1, 60/1 ตอบ แปลและแสดงองคธ รรม พรอ มทง้ั จําแนก ขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ดงั น้ี พหิทธฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมทงั้ หลาย ที่เปน ภายนอกสันดานแหงตน มอี ยู องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ทีเ่ ปน ภายนอกสนั ดานแหงตน ธรรมเหลา นเี้ มอื่ จําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได ขันธ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ สจั จะ ๔ ขันธ ๕ คอื รูป ๒๘ เปน รูปขันธ ในเจตสกิ ๕๒ นั้น เวทนาเจตสิกเปนเวทนาขันธ, สญั ญาเจตสิกเปน สัญญาขันธ เจตสิกท่ีเหลือ ๕๐ เปน สงั ขารขันธ จติ ๘๙ เปนวญิ ญาณขันธ นพิ พาน เปนขันธวมิ ุต อายตนะ ๑๒ คอื ในรปู ๒๘ นนั้ โอฬารกิ รปู ๑๒ เปน โอฬาริกายตนะ ๑๐ จิต ๘๙ เปน มนายตนะ เจตสิก ๕๒ สขุ ุมรปู ๑๖ นพิ พาน เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๑๘ คอื ในรปู ๒๘ น้ัน โอฬารกิ รูป ๑๒ เปนโอฬารกิ ธาตุ ๑๐, ในจติ ๘๙ นั้น ทวปิ ญจวญิ ญาณจิต ๑๐ เปนปญ จวญิ ญาณธาตุ ๕ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆ ท่ี ขอมลู เพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 20 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) สัมปฏิจฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๑ เปนมโนธาตุ จติ ทเ่ี หลือ ๗๖ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๕๒ สุขุมรปู ๑๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๔ คอื โลกยี จิต ๘๑ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) รปู ๒๘ เปน ทกุ ขสจั จ, โลภเจตสกิ เปนสมุทยั สัจจ, นิพพาน เปน นิโรธสจั จ, องคม รรค ๘ หรือ ๗ ทีใ่ นมคั คจติ ๔ เปน มคั คสจั จ มคั คจิตตปุ บาทที่เหลอื ๒๙ ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปนสัจจวิมุต ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโ้ี ดยธาตุ และสจั จะ ? 47/1และสจั จวมิ ุต ? 46/1 [=อนปุ ปฺ นนฺ า ธมมฺ า] ข. อกศุ ลจติ ๑๒ กุศลจิต ๒๑ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๕๒ จติ ตชรูป ๑๗ อตุ ชุ รปู ๑๕ อาหารชรปู ๑๔ ทจี่ ะเกดิ ตอบ ข. อกศุ ลจติ ๑๒ กุศลจติ ๒๑ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสิก ๕๒ จติ ตชรปู ๑๗ อุตชุ รูป ๑๕ อาหารชรูป ๑๔ ที่จะเกิด ธรรมเหลา น้ีเมอ่ื จําแนกโดยธาตุ และสจั จะ แลว ได ธาตุ ๘ สัจจะ ๓ ธาตุ ๘ คอื ในตชิ รูปนนั้ รูปารมณ เปน รปู ธาตุ สทั ทารมณ เปน สทั ทธาตุ คนั ธารมณ เปนคันธธาตุ รสารมณ เปน รสธาตุ (ปถวี เตโช วาโย) โผฏฐพั พารมณ เปน โผฏฐัพพธาตุ ในกรยิ าจิต ๒๐ น้นั ปญจทวาราวชั ชนจิต ๑ เปนมโนธาตุ อกศุ ลจติ ๑๒ กุศลจิต ๒๑ กรยิ าจิตที่เหลอื ๑๙ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๕๒ สขุ ุมรปู ๑๐-๑๒ เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๓ คือ อกศุ ลจิต ๑๒ โลกยี กศุ ลจิต ๑๗ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ๕๑ (เวนโลภะ) และติชรปู เปน ทกุ ขสจั จ โลภเจตสกิ เปน สมุทัยสัจจ องคมรรค ๘ หรอื ๗ ทใ่ี นมัคคจิต ๔ เปน มคั คสัจจ มัคคจติ ตปุ บาที่เหลือ ๒๙ เปน สัจจวมิ ตุ ๓. ข. จงแสดงบาลี คาํ แปล องคธ รรมพรอ มทงั้ จาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ และสัจจะ ทตุ ยิ บทของ สนทิ สสฺ นตกิ ? 49/2, 63/2 ตอบ ข. แสดงบาลี คาํ แปล องคธ รรม พรอ มท้ังจําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะในทตุ ิยบทของ สนทิ สสฺ นตกิ ดังนี้ อนทิ สสฺ นสปฺปฏิฆา ธมฺมา สภาวธรรมทงั้ หลาย ท่มี ีสภาพเห็นไมได แตมสี ภาพเปน ไป พรอ มดว ยการกระทบไดมอี ยู องคธรรมไดแก โอฬารกิ รูป ๑๑ (เวนรปู ารมณ) ธรรมเหลา น้ีเมอ่ื จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลวได รปู ขันธ ๑ โอฬารกิ ายตนะ ๙ (เวน รูปายตนะ) โอฬาริกธาตุ ๙ (เวน รปู ธาต)ุ , ทกุ ขสัจจ ๑ ๓. จงแปลบาลใี นบทตอ ไปนี้ พรอ มทงั้ แสดงองคธ รรม แลว จําแนกตามทรี่ ะบไุ วใ นแตละขอ ? ข. อนทิ สฺสนอปฺปฏฆิ า ธมมฺ า (จาํ แนกโดยธาตแุ ละสัจจะ) 48/1(3ข), 57/1(3ข) ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา น้ี โดยธาตุ สจั จะ ? 44/2(4ง), 45/2 และสจั จวมิ ุต ? 46/1(3จ), 53/1(3จ), 54/2, 59/1(ข) ค. จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ สขุ มุ รปู ๑๖ นพิ พาน [=อนทิ สสฺ นอปปฺ ฏิฆา ธมฺมา] ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ท่ี ขอมลู เพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 21 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. สภาวธรรมท้งั หลายที่มีสภาพเหน็ ไมได และกระทบไมได มอี ยู องคธ รรมไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ สขุ ุมรูป ๑๖ นพิ พาน. ธรรมเหลาน้ี เมอื่ จาํ แนกโดย ธาตุ และสจั จะ แลว ได ธาตุ ๘ สัจจะ ๔ ธาตุ ๘ คือ ในจิต ๘๙ น้ัน ทวิปญ จวญิ ญาณจิต ๑๐ เปน ปญจวิญญาณธาตุ ๕ สมั ปฏิจฉนจติ ๒ ปญ จทวาราวัชชนจิต ๑ เปน มโนธาต,ุ จิตทเี่ หลือ ๗๖ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๕๒ สขุ ุมรปู ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๔ คอื โลกยี จิต ๘๑ เจตสกิ ๕๑ (เวนโลภะ) สุขมุ รปู ๑๖ เปนทุกขสัจจ โลภเจตสกิ เปน สมุทัยสจั จ นพิ พาน เปนนิโรธสัจจ องคมรรค ๘ หรือ ๗ ท่ใี นมคั คจิต ๔ เปน มัคคสจั จ มัคคจติ ตปุ บาทที่เหลอื ๒๙ ผลจติ ตุปบาท ๓๗ เปนสจั จวิมุต ๓. จงจาํ แนก องคธ รรมเหลา นี้ โดยธาตุ และสจั จะ? ก. จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ? 43/2(5), 52/2, 57/2 ตอบ ก. จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นิพพาน ธรรมเหลา นี้เมอื่ จําแนกโดยธาตุ และสัจจะแลว ไดธ าตุ ๑๘ สัจจะ ๔ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ นั้น โอฬารกิ รูป ๑๒ เปน โอฬาริกธาตุ ๑๐ ในจิต ๘๙ นน้ั ทวปิ ญจวญิ ญาณจติ ๑๐ เปน ปญ จวญิ ญาณธาตุ๕ สมั ปฎิจฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวัชชนจติ ๑ เปน มโนธาต,ุ จติ ทเี่ หลือ ๗๖ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๕๒ สุขุมรูป ๑๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ สจั จะ ๔ คอื โลกยี จติ ๘๑ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) รูป ๒๘ เปน ทุกขสัจจ โลภเจตสกิ เปนสมทุ ยั สจั จ นิพพาน เปน นิโรธสจั จ องคมรรค ๘ หรอื ๗ ทีใ่ นมรรคจิต ๔ เปนมัคคสจั จ มคั คจติ ตุปบาทท่เี หลือ ๒๙ ผลจิตตุปบาท ๓๗ เปน สัจจวมิ ตุ . ๓. จงจาํ แนก ปรมตั ถธรรมเหลาน้ี โดย ธาตุ และสจั จะ ? 54/1, 58/1, 60/2 ๘. จงจาํ แนก ปรมตั ถธรรมเหลา น้ี โดย ธาตุ สจั จะ และ สจั จวมิ ตุ ? 62/2 ก. จติ ๘๙ ข. เจตสกิ ๕๒ ค. รปู ๒๘ นพิ พาน ? 54/1 ตอบ จําแนกปรมตั ถธรรมเหลานี้ โดย ธาตุ และสจั จะ / โดย ธาตุ สจั จะ และ สจั จวิมตุ ก. จิต ๘๙ เม่ือจาํ แนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลว ได ธาตุ ๗ สจั จะ ๑ ธาตุ ๗ คอื ในจิต ๘๙ นัน้ ทวปิ ญ จวิญญาณจติ ๑๐ เปนปญจวิญญาณธาตุ ๕ สัมปฏิจฉนจิต ๒ ปญจทวาราวชั ชนจติ ๑ เปนมโนธาตุ จติ ทีเ่ หลือ ๗๖ เปน มโนวิญญาณธาตุ สัจจะ ๑ คอื โลกียจิต ๘๑ เปน ทกุ ขสัจจ โลกุตตรจิต ๘ เปน สจั จวิมุต ข. เจตสกิ ๕๒ ไดธาตุ ๑ สจั จะ ๓ ธาตุ ๑ คอื เจตสิก ๕๒ เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๓ คอื เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) ทใี่ น โลกยี จิต ๘๑ เปน ทกุ ขสจั จ โลภเจตสกิ เปนสมุทยั สจั จ ดาวนโหลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอ มลู เพิม่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 22 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) องคมรรค ๘ หรือ ๗ ที่ในมัคคจติ ๔ เปน มคั คสจั จ เจตสกิ ทเี่ หลือ ๒๘ (เวน องคม รรค๘) ท่ใี นมคั คจติ ๔ และเจตสิก ๓๖ ที่ในผลจติ ๔ เปนสัจจวิมตุ ค. รปู ๒๘ นพิ พาน เมื่อจําแนกโดยธาตุ และสจั จะ แลวไดธาตุ ๑๑ สจั จะ ๒ ธาตุ ๑๑ คอื ในรปู ๒๘ นั้น โอฬารกิ รปู ๑๒ เปนโอฬาริกธาตุ ๑๐ สขุ มุ รปู ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ สจั จะ ๒ คอื รูป ๒๘ เปน ทกุ ขสัจจ นิพพานเปน นโิ รธสจั จ ๔. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโ้ี ดย ธาตุ และสจั จะ ? 44/2 ข. โลกยี กุศลจิต ๑๗ โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ ตอบ ข. โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ โลกียวปิ ากจิต ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ ธรรมเหลา นีเ้ มอ่ื จาํ แนกโดยธาตุ และสัจจะแลว ไดธ าตุ ๘ สจั จะ ๑ ธาตุ ๘ คอื ในโลกียวิปากจิต ๓๒ กรยิ าจติ ๒๐ น้ัน ทวิปญจวิญญาณธาตุ ๑๐ เปน ปญ จวิญญาณธาตุ ๕ สมั ปฏจิ ฉนจติ ๒ ปญจทวาราวัชชนจิต ๑ เปนมโนธาตุ โลกียกศุ ลจติ ๑๗ โลกียวปิ ากจิตที่เหลอื ๒๐ กริยาจิตทเี่ หลอื ๑๙ เปนมโนวิญญาณธาตุ สัจจะ ๑ คือ โลกยี กุศลจติ ๑๗ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสิก ๓๘ เปน ทกุ ขสจั จ ๓. จงจาํ แนก องคธ รรมเหลา น้ี โดยธาตุ และสัจจะ ? 43/2(5), 52/2, 57/2 ข. วปิ ากจติ ๓๖ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ ตอบ ข. วปิ ากจิต ๓๖ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ ธรรมเหลา นเี้ มอื่ จําแนกโดยธาตุ และสัจจะแลว ได ธาตุ ๑๘ สจั จะ ๑ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ นั้น โอฬาริกรปู ๑๒ เปน โอฬาริกธาตุ ๑๐, ในวปิ ากจิต ๓๖ กริ ิยาจิต ๒๐ น้ัน ทวิปญจวญิ ญาณจิต ๑๐ เปน ปญจวญิ ญาณธาตุ ๕, สัมปฏิจฉนจติ ๒ ปญจทวาราวัชชนจติ ๑ เปนมโนธาตุ, วปิ ากจิตทีเ่ หลือ ๒๔ กรยิ าจติ ที่เหลือ ๑๙ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๘ สุขุมรูป ๑๖ เปนธมั มธาตุ สัจจะ ๑ คอื โลกยี วปิ ากจติ ๓๒ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๕ รูป ๒๘ เปน ทุกขสัจจ ผลจิตตปุ บาท ๓๗ เปน สัจจวิมตุ ๓. จงจาํ แนกองคธ รรมเหลา นโี้ ดย ธาตุ และสจั จะ ? 45/2 ง. มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ตอบ ง. มคั คจิต ๔ เจตสิก ๓๖ ธรรมเหลา นี้เมอ่ื จําแนกโดยธาตุและสจั จะแลว ไดธ าตุ ๒ สัจจะ ๒ ธาตุ ๒ คือ มคั คจิต ๔ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๒ คอื องคมรรค ๘ หรือ ๗ ทใี่ นมัคคจิต ๔ เปน มคั คสจั จ นพิ พาน เปน นิโรธสจั จ มคั คจิตตปุ ปาททีเ่ หลอื ๒๙ เปน สจั จวิมตุ ๓. จงจําแนกองคธ รรมเหลา น้ี โดยธาตุ สัจจะ ? 44/2, 45/2 และสจั จวมิ ตุ ? 46/1, 53/1 ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ท่ี ขอมูลเพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 23 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ง. ผลจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ ตอบ ง. ผลจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ ธรรมเหลา น้ีเมื่อจาํ แนกโดยธาตุและสจั จะแลว ได ธาตุ ๒ สัจจวมิ ตุ ธาตุ ๒ คอื ผลจติ ๔ เปนมโนวิญญาณธาตุ เจตสกิ ๓๖ เปนธมั มธาตุ, ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปนสจั จวมิ ตุ ๓. ก. จติ ทส่ี ามารถกระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณมกี ดี่ วง คอื อะไรบา ง ? 56/2ส ตอบ ก. จติ ที่สามารถกระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณไดม ี ๑๑ ดวงคือ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลญาณสมั ปยุตตจิต ๔ มหากรยิ าญาณสมั ปยุตตจิต ๔ อภญิ ญาจิต ๒ ขอ ๔ (ท่ีเคยออกสอบขอ ๔ = ๑๐ คะแนน คราวนจี้ ะออกขอไหนดี) ๔. ในเวทนาตกิ ะนนั้ รปู ๒๘ และนพิ พานเปน ตกิ วมิ ตุ นน้ั ไมม ปี ญ หา แตเ วทนาเจตสกิ ทง้ั หมดกเ็ ปน ตกิ วมิ ตุ ทเี่ ปน เชน น้ี เพราะเหตใุ ด จงอธบิ าย ? 57/1 ตอบ อธบิ ายวา ในเวทนาตกิ ะนี้ พระพุทธองคทรงแสดงวา สุขาย เวทนาย สมปฺ ยุตตฺ า ธมฺมา. ทกุ ขฺ าย เวทนาย สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า. อทกุ ขฺ มสุขาย เวทนาย สมปฺ ยตุ ฺตา ธมมฺ า. คอื ทรงมงุ หมายเอาธรรมท่ี ประกอบดวย สขุ เวทนา ทกุ ขฺ เวทนา อุเบกขาเวทนา เทา นัน้ ไมไดท รงแสดงวา สขุ เวทนา ธมมฺ า. ทกุ ขฺ เวทนา ธมมฺ า. อทกุ ขฺ มสุขเวทนา ธมมฺ า. และสุขเวทนาก็ประกอบกบั สุขเวทนาไมไ ด ทุกขเวทนากป็ ระกอบกับ ทุกขเวทนาไมได อเุ บกขาเวทนาก็ประกอบกบั อุเบกขาเวทนาไมได ฉะนน้ั เวทนาเจตสิกทงั้ หมด จงึ ไมเ ขาอยู ในบทท้ัง ๓ แหงติกะน.้ี ๔. เม่ือสรปุ ธรรม (เมอ่ื จาํ แนกธรรม)ใน สงกฺ ลิ ฏิ ตกิ แลว มกี ป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? แสดงความหมาย และองคธ รรมมาพรอ มดว ย ? 53/2, 44/1(2ส) ตอบ เมือ่ จาํ แนกธรรมใน สงกฺ ิลิฏ ติก แลว มี ๖ ประเภท คือ ๑. สงกฺ ิเลส ธรรมท่ีทาํ ใหเศราหมองเรารอน ไดแก กเิ ลส ๑๐ มโี ลภะ เปนตน ๒. สงกฺ ลิ ฏิ  ธรรมท่ีถูกกิเลสทําใหเ ศราหมองเรารอน ไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ๓. สงกฺ เิ ลสกิ ธรรมที่เปน อารมณข องกเิ ลส ไดแก โลกยี จติ ๘๑ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๔. อสงกฺ เิ ลส ธรรมทีไ่ มท ําใหเศรา หมองเรา รอน ไดแก จติ ๘๙ เจตสิก ๔๒ (เวนกเิ ลสองคธ รรม ๑๐) รูป ๒๘ นิพพาน ๕. อสงกฺ ลิ ฏิ  ธรรมท่ไี มถกู กิเลสทําใหเ ศรา หมองเรา รอน ไดแก กุศลจิต ๒๑ วปิ ากจิต ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ นพิ พาน ๖. อสงกฺ เิ ลสกิ ธรรมทไี่ มเ ปนอารมณของกิเลส หรือไมเ ปน ท่ีอาศัยเกิดของความเศรา หมองเรารอน ไดแ ก โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน ๔. เพราะเหตใุ ด อรยิ มรรคเบอื้ งบน ๓ จงึ ชอื่ วา ภาวนา ไมช อื่ วา ทสั สนะ จงอธบิ ายและใหแ สดงการประหาณ อกศุ ลธรรมของโสดาปต ติมรรควา มกี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? [(ไมต อ งยกองคธรรมที่ถกู ประหาณโดยเฉพาะๆ) 50/1] พรอ มทั้งยกองคธ รรมทถ่ี กู ประหาณโดยเฉพาะๆ ? 44/1(ก), 55/1 , 56/2(ก), 59/2, 60/1 ๔. ๕. ก. การประหาณอกศุ ลธรรมของโสดาปตตมิ รรคนนั้ มกี อ่ี ยา ง ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆ ที่ ขอมลู เพิม่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 24 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) คอื อะไรบา ง แสดงพรอ มดว ยความหมาย ? 46/1, 62/2 ตอบ (ก.) ในการท่อี ริยมรรคเบื้องบน ๓ ชื่อวา ภาวนา น้ัน เพราะเหตวุ าองคมรรค ๘ ท่ีอยูในอริยมรรค เบือ้ งบน ๓ นี้ มกี ารเจริญในการประหาณกเิ ลสยง่ิ กวาองคม รรค ๘ ท่อี ยูในโสดาปต ตมิ รรค ฉะนน้ั จึง ชือ่ วา ภาวนา สาํ หรับการเหน็ อารมณน ้ัน ไมไดเ ห็นอารมณทเ่ี ปน พิเศษไปจากอารมณข องโสดาปต ติ มรรค คงเหน็ แตอารมณ กลา วคอื นิพพานท่โี สดาปตติมรรคเห็นมาแลว ฉะนั้น จึงไมชอื่ วา ทัสสนะ (46/1, 62/2) การประหาณอกศุ ลธรรมของโสดาปต ติมรรคมี ๒ อยางคอื ๑. สมุทเฉทปหาณ = ละไดเดด็ ขาด ๒. ตนุกรปหาณ = ละไดโ ดยทําใหเบาบาง อกศุ ลธรรมทโ่ี สดาปตตมิ รรคประหาณไดเด็ดขาด ไดแ ก ทฏิ ฐคิ ตสัมปยตุ ตจติ ๔ วจิ กิ ิจฉาสมั ปยตุ ตจิต ๑ เจตสกิ ๒๒ อกุศลธรรมทโ่ี สดาปตตมิ รรคประหาณโดยทําใหเ บาบางลง ไดแก ทิฏฐคิ ตวิปปยุตตจติ ๔ โทสมลู จิต ๒ เจตสกิ ๒๕ ทน่ี ําไปสูอบาย (อปายคมนยิ ) ๔. ก. สภาวธรรมท่ี โสดาปต ตมิ รรคประหาณไดน นั้ ไดแ กอะไร ? 51/2 ข. สภาวธรรมท่ี อรยิ มรรคเบอื้ งบนประหาณไดนน้ั ไดแกอ ะไร ? 51/2 ตอบ ก. ไดแ ก ทฏิ ฐิคตสัมปยตุ ตจติ ๔ วจิ กิ จิ ฉาสัมปยตุ ตจิต ๑ เจตสกิ ๒๒ อันโสดาปตตมิ รรค พึงละไดเ ด็ดขาด ทฏิ ฐิคตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ โทสมูลจิต ๒ เจตสกิ ๒๕ ทีน่ ําไปสูอ บายอนั โสดาปต ติมรรค ละไดโ ดยทําใหเบาบางลง ข. ไดแ ก ทฏิ ฐิคตวปิ ปยุตตจิต ๔ โทสมลู จิต ๒ เจตสกิ ๒๕ ทเ่ี ปน อยา งหยาบ อันสกทาคามิมรรคพงึ ละไดโ ดย ทําใหเบาบางลง ทฏิ ฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ ทีเ่ กยี่ วดว ยกามราคะ โทสมูลจติ ๒ เจตสิก ๒๕ อนั อนาคามิมรรคพึงละไดเด็ดขาด ทฏิ ฐิคตวิปปยุตตจติ ๔ ท่เี กย่ี วดว ยรปู ราคะ อรูปราคะ อุทธจั จสัมปยุตตจติ ๑ เจตสิก ๒๑ อนั อรหตั ตมรรคพึงละไดเดด็ ขาด ๔. จงแสดงการประหาณอกศุ ลธรรมโดยมรรคทง้ั ๔ ? 58/2, 59/1, 61/2, 62/1 มาดู ? 47/1 ตอบ แสดงการประหาณอกศุ ลธรรมโดยมรรคทั้ง ๔ ดงั น้ี การประหาณอกุศลธรรมของโสดาปต ตมิ รรคมีอยู ๒ อยาง คือ สมุจเฉทปหาน ละไดเ ด็ดขาด ตนุกรปหาน ละไดโดยสามารถทําใหเ บาบางลง อกศุ ลธรรมท่ีโสดาปต ตมิ รรคประหาณไดเด็ดขาดนั้น ไดแก ทิฏฐิคตสมั ปยุตตจิต ๔ วจิ ิกิจฉาสมั ปยุตตจิต ๑ เจตสกิ ทีป่ ระกอบ ๒๒ อกศุ ลธรรมท่ีโสดาปต ติมรรคประหาณไดโดยสามารถทาํ ใหเบาบางลง ไดแ ก ทิฏฐิคตวิปปยตุ ตจิต ๔ โทสมูลจิต ๒ เจตสกิ ท่ปี ระกอบ ๒๕ ทีน่ ําไปสูอบาย (อปายคมนยิ ) การประหาณอกศุ ลธรรมของสกทาคามิมรรคนั้น มแี ตส ามารถทําใหเบาบางลง (ตนกุ รปหาน) ไดแ ก ทฏิ ฐคิ ตวิปปยุตตจิต ๔ โทสมูลจิต ๒ เจตสิกท่ีประกอบ ๒๕ ท่ีเปน อยา งหยาบ ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอ มูลเพม่ิ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 25 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) การประหาณอกศุ ลธรรมของอนาคามิมรรค มีแตส มุจฺเฉทปหานอยา งเดยี ว อกุศลธรรมน้นั ไดแก ทิฏฐคิ ตวปิ ปยุตตจิต ๔ ท่เี กี่ยวกบั กามราคะ และโทสมูลจิต ๒ เจตสกิ ทีป่ ระกอบ ๒๕ การประหาณอกุศลธรรมของอรหัตตมรรค มีแตส มจุ เฺ ฉทปหานอยา งเดียว อกศุ ลธรรมนนั้ ไดแก ทิฏฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจิต ๔ ที่เกยี่ วกบั รูปราคะ อรูปราคะ และอุทธจั จสมั ปยตุ ตจิต ๑ เจตสกิ ทีป่ ระกอบ ๒๑ ๔. ใหแ สดงการประหาณอกศุ ลธรรมของมรรคเบอ้ื งบน ๓ วา มกี อ่ี ยา ง คืออะไรบา ง ? พรอมท้งั ยกองคธ รรมทถ่ี กู ประหาณโดยเฉพาะ ๆ ? 51/1, 53/2(5) ตอบ การประหาณอกุศลธรรมของอรยิ มรรคเบอ้ื งบน ๓ นั้น มี ๒ อยางคอื :- ๑. สมจุ เฉทปหาณ = ละไดเ ดด็ ขาด ๒. ตนุกรปหาณ = ละไดโดยทําใหเบาบาง การประหาณอกุศลธรรม ของสกทาคามิมรรคน้ัน มีแตทําใหเบาบางลง (ตนกุ รปหาณ) ไดแ ก ทิฎฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจิต ๔ โทสมูลจติ ๒ เจตสิก ๒๕ ทเี่ ปนอยางหยาบ การประหาณอกุศลธรรม ของอนาคามิมรรคนนั้ มแี ตส มจุ เฉทปหานอยางเดยี ว อกุศลธรรมน้ันไดแ ก ทิฎฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ ทีเ่ ก่ยี วกบั กามราคะ และโทสมลู จิต ๒ เจตสิก ๒๕ การประหาณอกศุ ลธรรม ของอรหตั ตมรรคน้ัน มีแตส มจุ เฉทปหานอยา งเดยี ว อกุศลธรรมนนั้ ไดแก ทิฎฐคิ ตวิปปยตุ ตจติ ๔ ทีเ่ ก่ยี วกบั รูปราคะ อรปู ราคะ, และอทุ ธจั จสมั ปยตุ ตจติ ๑ เจตสกิ ๒๑ ๔. มจิ ฉตั ตธรรม หมายความวา อยา งไร ? มีก่อี ยา ง คอื อะไรบาง ? จงแสดงพรอ มดว ยความหมาย 61/1 ๔. ก. มจิ ฉตั ตธรรม ธรรมทม่ี สี ภาพเปน ความชว่ั มกี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? 43/2, 52/2(5ก) จงแสดงพรอ มดวยความหมาย ? 45/1, 52/1(5ก), 54/1, 54/2, 57/2 ตอบ (ก.) มจิ ฉัตตธรรม หมายความวา ธรรมทมี่ สี ภาพเปน ความชั่ว มี ๑๐ อยา ง คอื ๑. มจิ ฉาทฎิ ฐิ ความเหน็ ผดิ ๒. มิจฉาสงั กปั ปะ ความดําริผิด ๓. มิจฉาวาจา การกลา ววาจาผดิ ๔. มจิ ฉากัมมันตะ การประกอบการงานผดิ ๕. มิจฉาอาชีวะ การประกอบอาชพี ผิด ๖. มิจฉาวายามะ ความเพียรผิด ๗. มจิ ฉาสติ ความระลึกผิด ๘. มจิ ฉาสมาธิ การตั้งใจมั่นผดิ ๙. มจิ ฉาวิมุตติ มีความเห็นผิดอยูว า ความเปน ไปของอสญั ญสัตตพรหม และเนวสญั ญานาสญั ญายตนพรหมน้ี พน จากสงั ขารธรรม ๑๐. มิจฉาญาณะ ความรูท่ีเปน ไปโดยไมถ กู ตอ ง ๔. มจิ ฉตั ตธรรม หมายความวา อยา งไร มีกอี่ ยา ง คอื อะไรบา ง และจงแสดงการประหาณมจิ ฉตั ตธรรม โดยมรรคทง้ั ๔ ? 63/2 (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 47/2, 49/2 ๕. ก. มจิ ฉตั ตธรรม หมายความวา อยา งไร ? มกี อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ? จงแสดงพรอ มความหมาย ? 59/2 ๔. จงแสดงการประหาณมจิ ฉตั ตธรรมโดยมรรคทง้ั ๔ ? 56/1 ตอบ มจิ ฉตั ตธรรม ธรรมทีม่ ีสภาพเปนความช่วั มี ๑๐ อยาง คือ  แสดงการประหาณมิจฉัตตธรรม โดยมรรคทัง้ ๔ ในมจิ ฉัตตธรรมเหลา นนั้ ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอมลู เพมิ่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 26 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) มิจฉตั ตธรรม ๔ คือ มิจฉาทฏิ ฐิ มุสาวาท มจิ ฉากมั มันตะ มิจฉาอาชีวะ พึงประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค มจิ ฉตั ตธรรม ๓ คือ มจิ ฉาสังกปั ปะ ปสณุ วาจา ผรสุ วาจา พึงประหาณโดยอนาคามิมรรค การกลา ววาจา ในปสุณวาจา และผรุสวาจา เหลานี้ใหพึงเขาใจวา ตองมีเจตนาจะกลาวคําสอเสียด และกลาวคาํ หยาบเทา นั้น มิจฉัตตธรรม ๖ คือ สัมผัปปลาปะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาวมิ ุตติ มิจฉาญาณเหลาน้ี พึง ประหาณโดยอรหตั ตมรรค ๕. มจิ ฉัตตนยิ ตธรรมวา โดยประเภทใหญ (สามญั ) มเี ทา ไร อะไรบา ง ? และในแตล ะประเภทใหญน นั้ แบง เปน ประเภทยอ ยไดป ระเภทละเทาไร อะไรบา ง ? ใหแ สดงพรอ มทง้ั ความหมายดว ย ? 44/2 ๕. มจิ ฉตั ตนยิ ตธรรมนี้ เมอื่ วา โดยสามญั แลว มกี อี่ ยา ง (เทา ไร) คอื อะไรบา ง ? และใหอ ธบิ ายในนยิ ตมิจฉาทฏิ ฐิ กรรมทง้ั ๓ ? 49/1(5ก), 49/2(5ก), 54/1(5ข) (5ก), 57/2(5ก), 60/2, 62/2 และปญ จานนั ตรยิ กรรม ๕ ? 56/2 ตอบ เม่อื วาโดยประเภทใหญ (สามัญ) แลว มี ๒ อยา งคือ ๑. นิยตมิจฉาทฏิ ฐกิ รรม ๒. ปญจานนั ตริยกรรม และอธิบายในนยิ ตมจิ ฉาทิฏฐกิ รรมท้ัง ๓ คือ ๑. นตั ถิกทฏิ ฐิ มีความเหน็ วา สัตวท ้ังหลายท่จี ะไดรับความดีความช่ัว ความสุขความทกุ ขเ ปน ตน ในภพ ขา งหนา ไมไดเ ปน ผลท่ีเน่อื งไปจากการกระทําอนั เปนบญุ เปน บาป ในปจจุบันภพนี้ ๒. อเหตุกทฏิ ฐิ มีความเหน็ วา ความดีความชวั่ ความสุขความทกุ ขเปนตน อนั สัตวท ั้งหลายไดร บั อยูใน ปจจุบนั ภพน้ี ไมไดเปนผลสืบเนื่องมาจากการกระทาํ อนั เปน บญุ และบาปในภพกอ น ๓. อกริ ิยทฏิ ฐิ มีความเหน็ วา การกระทําของสตั วทั้งหลาย แมกระทําดีก็ไมช ือ่ วา เปนบุญ แมการกระทํา ช่วั กไ็ มช่อื วาเปนบาป การกระทําเหลา นนั้ ยอมเปนไปตามธรรมดา (44/2, 56/2) ปญจานนั ตรยิ กรรมแบง เปน ๕ คือ ๑. มาตุฆาต ฆา มารดา ๒. ปต ฆุ าต ฆาบิดา ๓. อรหนั ตฆาต ฆาพระอรหนั ต ๔. โลหิตปุ บาท ทํารา ยพระพทุ ธเจาจนถึงหอ พระโลหิต ๕. สงั ฆเภท ยุใหพระสงฆแ ตกหมูแ ตกคณะกนั ๕. จงแสดงการใหผ ลตามลาํ ดบั ของนยิ ตมิจฉาทฏิ ฐกิ รรม และปญจานนั ตรยิ กรรม ? หรอื ถา ทํากรรมทง้ั ๒ อยา ง กรรมชนดิ ไหนใหผ ลกอ น ? 44/1, 59/2(3) ตอบ การใหผ ลตามลําดบั ของนิยตมิจฉาทิฏฐกิ รรม และปญจานนั ตริยกรรมมดี ังน้ี คอื  การใหผลของนิยตมจิ ฉาทิฏฐกิ รรมทง้ั ๓ อยา งนี้ ผูใดผหู นึ่งจะกาวลว งอยางใดอยางหน่งึ หรือท้ัง ๓ อยา ง กด็ ี การใหผลของกรรมเหลาน้ันยอมเสมอกนั ไมจํากดั วา กรรมอยางใดอยางหนึ่งจะใหผ ลกอ นกนั แต ประการใด  สําหรับปญ จานนั ตริยกรรมนั้น สงั ฆเภทกรรมเปน กรรมที่ใหผลกอน ถา ไมมีสังฆเภทกรรม เหลือแตกรรม ทงั้ ๔ โลหติ ปุ บาทจะใหผลกอนถาไมม ีโลหิตปุ บาทเหลอื แตกรรมทั้ง ๓ อรหนั ตฆาตกรรมจะใหผลกอ นถา ไมมกี รรมท้งั ดังกลาวแลว ทั้ง ๓ มแี ตม าตุฆาตกรรมและปตฆุ าตกรรมแลว การใหผลยอ มแลวแตม ารดา หรอื บดิ าคือถา มารดาหรือบิดามีศลี ธรรม หรอื ไมมศี ลี ธรรมเสมอกนั มาตฆุ าตกรรมใหผ ลกอนถาบิดามี ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอ มูลเพ่ิมเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 27 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ศีลธรรมสงู กวา มารดา ปต ุฆาตกรรมใหก อน ถาผทู ก่ี าวลว งท้ังนิยตมิจฉาทิฏฐกิ รรมและปญจานันตริย- กรรมทงั้ ๒ อยางแลว นิยตมิจฉาทฏิ ฐิกรรมเปน ฝายมีโอกาสใหผลกอนในลําดบั แหงจตุ ิ ๔. จงแสดงการประหาณอคติ ๔ และอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ โดยมรรคทงั้ ๔ ? 45/2 ตอบ อคติ ๔ คือ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติเหลาน้ี พึงประหาณโดยมรรคท้งั ๔ ดงั ตอไปน้ี อคติทง้ั ๔ พึงประหารโดยโสดาปตตมิ รรคน่ันเอง (พึงสงั เกตวา อคติ เหลานี้ไมไ ดมงุ หมายเอาองคธ รรม ทเี่ ปน โลภะ โทสะ โมหะ โดยตรง คงมุง หมายแตเพยี งไดปฏิบตั ิกาย วาจา ผดิ จากศีลธรรมโดยอาศัย โลภะ โทสะ โมหะ เปน มลู เทา นั้น แตก ารปฏบิ ัตผิ ิดเหลา นี้นําไปสอู บายได ฉะนน้ั พึงประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค) (ข. การประหาณอกุศลกรรมบถ ๑๐ โดยมรรคท้ัง ๔ ดังนีค้ อื ) ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ เหลา นน้ั  ๔. ข. จงแสดงการประหาณอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ โดยมรรคทงั้ ๔ (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 43/2, 45/1, 52/2, 54/1, 54/2, 57/2 ตอบ ข. การประหาณอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ โดยมรรคทัง้ ๔ ดงั น้ี คอื ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ เหลานน้ั อกศุ ลกรรมบถ ๕ คือ ปาณาตบิ าต อทินนาทาน, กาเมสุมิจฉาจาร, มสุ าวาท, มิจฉาทิฏฐิ พึงประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค อกศุ ลกรรมบถ ๓ คอื ปสณุ าวาจา, ผรุสวาจา, พยาบาท พึงประหาณโดยอนาคามมิ รรค อกุศลกรรมบถ ๒ คอื สัมผัปปลาปะ และอภชิ ฌาท้ัง ๒ พึงประหาณโดยอรหตั มรรค ๔. จงแสดงการประหาณของมรรคทง้ั ๔ ในอกศุ ลธรรมดงั ตอ ไปนี้ (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 46/2 ก. อกศุ ลธรรมทเ่ี กดิ ขนึ้ โดยอาศยั โลกธรรม ๘ ? ข. อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ ? ตอบ แสดงการประหาณอกศุ ลธรรมของมรรคทั้ง ๔ ดังน้ี ก. อกศุ ลธรรมท่ีเกิดขึน้ โดยอาศยั โลกธรรม ๘ ในโลกธรรมเหลาน้ัน ปฏิฆะทีเ่ กดิ ขึ้นโดยอาศยั ความเสื่อมลาภเสอ่ื มยศ นินทาทุกข เหลานี้ พงึ ประหาณโดยอนาคามมิ รรค ตัณหาโลภะ ที่เกิดขนึ้ โดยอาศัยการไดล าภ ไดยศ สรรเสรญิ สุข เหลา นี้ พงึ ประหาณโดยอรหัตตมรรค อาจารยบางทางกลาววา พงึ ประหาณโดยอรหตั ตมรรค ตัณหาโลภะท่เี กิดข้ึนโดยอาศยั การไดย ศ ไดส รรเสรญิ ท้ัง ๒ เทา นัน้ สําหรบั ตัณหาโลภะ ที่เกดิ ขน้ึ โดยไดลาภ และไดม ีความสขุ นั้นประหาณโดย อนาคามมิ รรคกไ็ ด ข. การประหาณอกุศลกรรมบถ ๑๐ โดยมรรคทงั้ ๔ อกศุ ลกรรมบถ ๕ คอื ปาณาติบาต อทนิ นาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มสุ าวาท มจิ ฉาทิฏฐิ พงึ ประหาณโดยโสดาปตตมิ รรค อกศุ ลกรรมบถ ๓ คือ ปสณุ วาจา ผรุส- วาจา พยาบาท พึงประหาณโดยอนาคามิมรรค สมั ผปั ปลาปะ และอภิชฌาท้ัง ๒ พึงประหาณโดยอรหัตตมรรค ๔. จงแสดงการประหาณกิเลสโดยลาํ ดบั แหง มรรค และสงั โยชนโ ดยลาํ ดบั แหง กเิ ลส ๒๕ ธ.ค. ๖๓ ตามอฏั ฐสาลนิ อี รรถกถา (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 49/1, 58/1 ตอบ การประหาณกิเลสโดยลาํ ดับแหงมรรค ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอมูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

ธัมมสงั คณีปกรณ 28 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๑. ทิฏฐิ วิจกิ จิ ฉา พึงประหาณโดย โสดาปตตมิ ัคคจิต ๑ ๒. โทสะ พึงประหาณโดย อนาคามมิ คั คจติ ๑ ๓. กิเลสทีเ่ หลือ ๗ มี โลภะเปนตน พึงประหาณโดย อรหตั ตมัคคจติ ๑ การประหาณสงั โยชนโดยลาํ ดบั แหงกิเลส กามราคสังโยชน ปฏิฆสังโยชน พงึ ประหาณโดย อนาคามิมคั คจิต ๑ มานสังโยชน พึงประหาณโดย อรหตั ตมัคคจิต ๑ ทฏิ ฐิสงั โยชน วิจกิ จิ ฉาสงั โยชน สลี พั พตปรามาสสังโยชน พึงประหาณโดย โสดาปต ตมิ คั คจิต ๑ ภวราคสงั โยชน พงึ ประหาณโดย อรหัตตมัคคจิต ๑ อิสสาสงั โยชน มจั ฉริยสังโยชน พึงประหาณโดย โสดาปต ตมิ ัคคจติ ๑ อวชิ ชาสงั โยชน พึงประหาณโดย อรหตั ตมัคคจิต ๑ ๔. ข. จงแสดงการประหาณของมรรคทง้ั ๔ ในธรรมตอไปนี้ ? สญั โญชน ๑๐ ทวี่ าโดยสตุ ตันตนยั ? 50/1 ตอบ ข. การประหาณสัญโญชน ๑๐ ทีว่ าโดย (สุตตนั ตนยั ) โดยมรรคท้งั ๔ มีดงั นี้ ในสญั โญชน ๑๐ นั้น สญั โญชน ๕ คอื สักกายทฏิ ฐิ วิจกิ ิจฉา สลี ัพพตปรามาส และกามราคะ ปฏฆิ ะ ที่นาํ ไปสอู บายได พึงประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค กามราคะ ปฏฆิ ะ ทีเ่ ปน อยางหยาบ ที่นอกจากอปายคมนยิ ะน้ัน พึงประหาณโดยสกทาคามิมรรค กามราคะ ปฏิฆะ ทีล่ ะเอียด พึงประหาณโดยอนาคามมิ รรค รปู ราคะ อรูปราคะ มานะ อุธจั จะ อวชิ ชา พึงประหาณโดยอรหัตตมรรค ๔. จงแสดงการประหาณสงั โยชน โดยลาํ ดบั แหง มรรค (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 48/1(4ก), 53/1 ตอบ แสดงการประหาณสังโยชน โดยลาํ ดับแหง มรรค มีดงั น้ี ทฏิ ฐิสงั โยชน วจิ ิกิจฉาสงั โยชน สลี ัพพตปรามาสสงั โยชน พงึ ประหาณโดยโสดาปตตมิ คั คจิต ๑ อสิ สาสังโยชน มัจฉริยสังโยชน กามราคสังโยชน ปฎฆิ สงั โยชน พงึ ประหาณโดย อนาคามิมัคคจติ ๑ มานสังโยชน ภวราคสังโยชน อวชิ ชาสงั โยชน พึงประหาณโดยอรหตั ตมคั คจิต ๑ ๔. ข. การประหาณโลกธรรม โดยมรรคทงั้ ๔ นน้ั มีการประหาณกนั อยา งไร ? ใหแ สดงเฉพาะภาษาไทย ? 48/1 ตอบ ข. การประหาณโลกธรรม โดยมรรคทั้ง ๔ มกี ารประหาณ ดงั นี้ ในโลกธรรมเหลา นั้น ปฏฆิ ะท่เี กดิ ขนึ้ โดยอาศัยความเส่อื มลาภ เสื่อมยศ นนิ ทา ทกุ ข เหลาน้ี พงึ ประหาณโดย อนาคามมิ รรค ตณั หาโลภะท่ีเกิดข้นึ โดยอาศยั การไดลาภ ไดย ศ สรรเสริญ สุข เหลา น้ี พึงประหาณโดย อรหตั ตมรรค อาจารยบางทาน กลา ววา ตัณหา โลภะ ที่เกดิ ขน้ึ โดยอาศยั การไดย ศ ไดสรรเสรญิ ท้งั ๒ เทาน้ัน พงึ ประหาณโดย อรหัตตมรรค สาํ หรับตัณหา โลภะ ทเ่ี กิดขน้ึ โดยไดลาภและไดมคี วามสขุ น้นั ประหาณโดย อนาคามมิ รรคก็ได ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอมูลเพ่ิมเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 29 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ขอ ๕ (ที่เคยออกสอบขอ ๕ = ๑๐ คะแนน คราวนีจ้ ะออกขอไหนดี) ๕. จงแสดงการประหาณโลกธรรม ๘ และมจั ฉรยิ ะ ๕ โดยมรรคทง้ั ๔ (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? 57/1 ตอบ แสดงการประหาณอกุศลธรรมท่ีเกิดขึน้ โดยอาศัยโลกธรรม ๘ โดยมรรคท้ัง ๔ ดังน้ี  ปฏฆิ ะ ท่เี กดิ ขน้ึ โดยอาศัยความเสอื่ มลาภ เลือ่ มยศ นินทา ทกุ ข เหลานี้ พึงประหาณโดยอนาคามมิ รรค ตัณหาโลภะที่เกิดขน้ึ โดยอาศัยการไดล าภ ไดย ศ สรรเสริญ สขุ เหลา น้ี พงึ ประหาณโดยอนาคามิมรรค  แตอ าจารยบางทา นกลาววา ตัณหา โลภะ ทีเ่ กดิ ข้ึนโดยอาศัยการไดยศ ไดสรรเสรญิ ทง้ั ๒ เหลานนั้ พงึ ประหาณโดยอรหัตตมรรค สาํ หรบั ตณั หา โลภะ ทเี่ กิดขึ้นโดยอาศยั การไดล าภ และการไดความสขุ น้นั พึงประหาณโดยอนาคามมิ รรคกไ็ ด แสดงการประหาณมจั ฉรยิ ะ ๕ โดยมรรคทง้ั ๔ ดงั นี้ มัจฉริยะ ๕ อยา งคอื ๑. อาวาสมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนวดั วาอาราม ท่ีอยู ท่ีอาศัย ๒. กลุ มจั ฉรยิ ะ การหวงแหนญาตมิ ิตรศษิ ยานุศษิ ย ทายก ทายิกา ๓. ลาภมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนในลาภสกั การะ ๔. วรรณมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนความสวยงาม เกยี รติยศชอื่ เสยี ง ๕. ธรรมมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนในวชิ าความรูของตน มัจฉริยะทัง้ ๔ เหลาน้พี งึ ประหาณโดยโสดาปต ติมรรค ๕. ก. ใหแสดงองคธ รรมดงั ตอไปน้ี ? 54/1 ก. ธรรมที่เปน สงกฺ เิ ลส ได แตเปน สงกฺ ลิ ฏิ  ไมได ข. ธรรมท่ีเปน สงกฺ ลิ ฏิ  ได แตเ ปน สงกฺ เิ ลส ไมได ค. ธรรมที่เปน สงกฺ เิ ลส และ สงฺกลิ ฏิ  ไดท ง้ั ๒ ง. ธรรมทเี่ ปน สงกฺ เิ ลส และ สงฺกลิ ฏิ  ไมไ ดทั้ง ๒ ตอบ ก. แสดงองคธ รรมดังตอ ไปน้ี มีดังนี้ สงฺกิลฏิ ฐ อก.ุ ๑๒ เจ.๒๗ ก. ไมมี สงกฺ เิ ลส --- กิ.๑๐ ข. อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๑๗ (เวน กเิ ลสองคธ รรม ๑๐) อนื่ ๆ=กุ.๒๑ วิ.๓๖ กิ.๒๐ ค. องคธรรมไดแ ก กเิ ลสองคธรรม ๑๐ เจ.๓๘ รปู ๒๘ นพิ พาน ง. องคธ รรมไดแก กุศลจิต ๒๑ วปิ ากจิต ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ นิพพาน ๕. ใหแ สดงธรรมดงั ตอ ไปนี้ ? 47/1 ก. ธรรมทเ่ี ปน ปรติ ตฺ า ธมมฺ า ไดแตเ ปน หนี า ธมมฺ า ไมได ? 46/1, 47/1, 54/2 ข. ธรรมทเ่ี ปน หนี า ธมมฺ า ไดแ ตเ ปน ปรติ ตฺ า ธมมฺ า ไมไ ด ? 46/1, 47/1, 54/2 ค. ธรรมทเ่ี ปน ปรติ ตฺ า ธมมฺ า และหนี า ธมมฺ า ไดท งั้ ๒ ? 46/1, 47/1, 54/2 ง. ธรรมท่เี ปน ปรติ ฺตา ธมมฺ า และหีนา ธมมฺ า ไมไ ดท ้ัง ๒ ? 46/1, 47/1, 54/2 จ. ธรรมท่เี ปน มหคคฺ ตา ธมมฺ าได แตเ ปน มชฌฺ มิ า ธมมฺ า ไมได ? 47/1 ตอบ ก. องคธ รรมไดแ ก อเหตุกจติ ๑๘ กามาวจรโสภณจิต ๒๔ เจตสิก ๓๘ รูป ๒๘ ปรติ ตา กาม.๕๔ เจ.๕๒ รปู ๒๘ ข. ไมมี หีนา ธ อก.ุ ๑๒ เจ.๒๗ ---- ค. องคธรรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ อื่นๆ= มหัค.๒๗ โลกตุ .๘ เจ.๓๘ นพิ พาน ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ที่ ขอมูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 30 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ง. องคธ รรมไดแก มหคั คตจิต ๒๗ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสิก ๓๘ นพิ พาน จ. ไมม ี ๕. ข. ธรรมทไ่ี มกระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณน ัน้ มก่ี พี่ วกคืออะไรบา ง และองคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 46/2, 58/2(ก) ตอบ ข. ธรรมทไ่ี มก ระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณน น้ั มี ๒ พวกคอื โดยแนนอนพวกหนง่ึ ไมแนน อนพวกหน่งึ โดยแนน อน องคธ รรมไดแ กอ กุศลจติ ๑๒ อเหตุกจติ ๑๗ (เวน มโนทวาราวชั ชนจติ ๑) มหากุศลญาณวปิ - ปยุตตจติ ๔ มหาวิปากจิต ๘ มหากรยิ าญาณวิปปยตุ ตจติ ๔ รูปาวจรจติ ๑๕ (เวนอภิญญาจิต ๒) อรปู าวจรจติ ๑๒ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นพิ พาน ไมแนนอนนั้น องคธรรมไดแก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยุตตจติ ๔ มหากรยิ าญาณ สมั ปยุตตจติ ๔ อภญิ ญาจิต ๒ เจตสิก ๓๘ ขณะทไ่ี มไ ดกระทาํ มรรคใหเ ปนอารมณ ๕. ก. เพราะเหตุใด การแสดงองคธ รรมของปฐมบทใน มคคฺ ารมมฺ ณตกิ จงึ ตองแยกอรยิ บุคคลท้งั ๔ โดยเฉพาะ ๆ และอธบิ ายการเวน วิรตี อปั ปมญั ญา ในบทนดี้ ว ย ? 46/2 และจติ ทสี่ ามารถกระทาํ มรรคใหเปน อารมณไ ดม กี ดี่ วง คืออะไรบา ง ใหแ สดงจติ ของ ผลเสกขบุคคล ๓ และพระอรหนั ตบคุ คล พรอ มท้ังอธิบายในการเวน วริ ตี อปั ปมญั ญา ในบทนดี้ ว ย. ? 55/2 ตอบ การแสดงองคธ รรมในปฐมบท ทจ่ี ําตองแยกอรยิ บคุ คลท้ัง ๔ โดยเฉพาะๆ น้นั เพระเหตุวา พระอริยบุคคลเบอ้ื งตํา่ ไมส ามารถกระทําอริยมรรคเบอ้ื งบนใหเปน อารมณได สว นพระอรยิ บคุ คลเบ้อื งบน น้นั ยอมสามารถกระทําอรยิ มรรคเบื้องตํ่าใหเปน อารมณไ ด น้นั เอง (55/2) และจติ ที่สามารถกระทํามรรคให เปนอารมณไ ดน นั้ มี ๑๑ ดวง คือ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากุศลญาณสมั ปยุตตจิต ๔ มหากรยิ าญาณ สัมปยตุ ตจิต ๔ อภญิ ญาจิต ๒ ในจํานวนจิต ๑๑ ดวง ที่สามารถกระทาํ มรรคใหเปนอารมณไ ดนั้น จติ ของผล เสกขบุคคล ๓ ไดแ ก มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ กุศลอภิญญาจติ ๑ เจตสิกที่ ประกอบ ๓๓ (เวน วริ ตี อัปปมัญญา) จิตของพระอรหันตบุคคลนน้ั ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากริยา ญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ กริยาอภญิ ญาจิต ๑ เจตสกิ ที่ประกอบ ๓๓ (เวน อัปปมัญญา) ทก่ี ลาววา (และการท่ีเวน ) เวน วิรตี อปั ปมัญญา นน้ั เพราะวริ ตมี ีอารมณเปน วิรมิตัพพวตั ถุ ซึง่ เปน กามธรรมโดยแนนอน สว นอัปปมัญญานน้ั มีสตั วบญั ญัตเิ ปน อารมณแ นนอนเชน เดียวกัน ฉะน้ัน จึงไม สามารถกระทาํ มรรคใหเปน อารมณได โดยเหตุน้ี จงึ ตอ งเวน เสยี . ๕. ก. ใหแ สดงเหตผุ ลในการทน่ี ิพพานเปน ตกิ วมิ ตุ ในอปุ ปฺ นนฺ ตกิ ? 51/2, 55/1, 56/1, 58/1, 59/1, 60/1 ตอบ ก. ใน อปุ ปฺ นนฺ ตกิ ที่นิพพานเปน ตกิ วมิ ตุ น้นั เพราะนิพพานเปน กาลวมิ ตุ คอื พนจากกาลท้ัง ๓ หมายความวา สภาพของพระนพิ พานนี้ กาํ ลงั เกิดก็ไมใช จะเกดิ ก็ไมใ ช เกดิ แลว ก็ไมใ ช ทเี่ ปน เชน น้ีก็เพราะ สภาพของพระนพิ พานน้ัน กค็ อื ความดับแหงจติ , เจตสิก, รปู ของผใู ดผหู นง่ึ ซง่ึ เปนการดบั คร้ังสดุ ทา ย ไม เกดิ อีกตอไปน่นั เองดังพระพุทธองคท รงแสดงวา นิพพฺ านํ น วตตฺ พพฺ ํ อปุ ฺปนนฺ นตฺ ิ ป อนปุ ฺปนนฺ นตฺ ิ ป อุปปฺ าทตี ิ ป สภาพของพระนพิ พานนน้ั กลาวไมไดวา กําลงั เกดิ จะเกดิ หรือเกิดแลว ๕. ในตกิ มาตกิ านน้ั อารมณฺ ตกิ (ตกิ ะทแ่ี สดงเกี่ยวกบั อารมณ) มเี ทา ใด คืออะไรบา ง ? และบททมี่ อี งคธรรมเปน ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอ มูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 31 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) อเุ บกขาสหคตจติ เหมอื นกนั มกี บ่ี ท คอื อะไรบาง ? 45/2(5ก), 47/2, 51/1(5ก), 52/1(5ข), 59/2(5ข), 62/1(5ก) ตอบ ในติกมาตกิ านนั้ อารมมฺ ณติก มี ๔ คอื ๑. ปรติ ฺตารมฺมณตกิ ๒. มคคฺ ารมมฺ ณติก ๓. อตตี ารมมฺ ณตกิ ๔. อชฌฺ ตตฺ ารมมฺ ณตกิ และบททมี่ ีองคธ รรมเปน อุเบกขาสหคตจติ มี ๒ บท คอื ๑. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ในเวทนาติก ๒. อเุ ปกขฺ าสหคตา ธมฺมา ในปติตกิ ๕. ข. ใหแ สดงบทในตกิ มาตกิ า ทมี่ อี งคธ รรมเปน จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ เหมอื น ๆ กนั ? 48/2, , 58/2 ตอบ ข. บทในตกิ มาตกิ า ที่มีองคธ รรมเปน จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ เหมอื นกัน คือ ๑. อปุ ปฺ นฺนา ธมฺมา ๒. อตตี า ธมมฺ า ๓. อนาคตา ธมฺมา ๔. ปจจฺ ุปปฺ นนฺ า ธมฺมา ๕. อชฌฺ ตตฺ า ธมฺมา ๖. อชฺฌตตฺ พหิทธฺ า ธมมฺ า ๕. ข. จิต เจตสกิ รปู ทเี่ กดิ พน จากกาลทงั้ ๓ มหี รอื ไม ? ใหว ินจิ ฉยั โดยยกชือ่ ตกิ ะขนึ้ มาตดั สนิ ? 49/1, 50/2, 51/2, 53/1, 55/1, 56/1, 58/1, 59/1, 60/1, 61/2, 62/2(ก) ตอบ ข. จิต เจตสกิ รปู ทเี่ กิดพนจากกาลทัง้ ๓ น้ันไมมี ขอยก อตตี ติกะ ขึ้นตัดสนิ เพราะในอตีตติกะน้ี ในปฐมบท องคธรรมไดแก จิต เจตสิก รปู ท่ดี บั ไปแลว ในทตุ ิยบท องคธ รรมไดแก จิต เจตสกิ รูป ทจี่ ะเกิด ในตตยิ บท องคธ รรมไดแ ก จติ เจตสิก รูป ทกี่ ําลงั เกดิ อยู ฉะน้นั จติ เจตสกิ รปู ทเ่ี กิดพน จากกาลทัง้ ๓ จงึ ไมม ี ๕. ตกิ ะทม่ี อี งคธ รรมเหมอื นกนั ทงั้ ๓ บท มีหรอื ไม ถา มไี ดแ กต กิ ะใด องคธรรมไดแ กอ ะไร และบทท่มี อี งคธ รรม เปน อกศุ ลธรรมนน้ั มอี ยู ๘ บทในตกิ มาตกิ า อยากทราบวา ไดแ กบ ทไหนบา ง ? 50/1, 60/2, 61/1 ตอบ ตกิ ะทม่ี ีองคธ รรมเหมอื นกันทงั้ ๓ บทนั้น มี ไดแก อตตี ติก องคธรรมไดแ ก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ และบทที่มอี งคธ รรมเปนอกศุ ลธรรม ๘ บทในติกมาตกิ าน้นั คอื  ๕. ข. ในตกิ มาตกิ า (๒๒) นน้ั บททม่ี อี งคธ รรมเปน อกศุ ลธรรมฝา ยเดยี ว มกี บ่ี ท คอื อะไรบา ง ? 48/2(5ก), 53/1(5ก) และบททมี่ อี งคธ รรมเปน รปู ปรมตั ถฝายเดียว มกี บ่ี ท คอื อะไรบา ง ? 62/1 แสดงมาเฉพาะบาลี ? 45/2, 51/1 ๕. ก. ในตกิ มาตกิ า บททมี่ อี งคธ รรมเปนรปู ปรมตั ถธรรมจาํ พวกเดยี วน้นั ในปรมตั ถธรรมทงั้ ๔ นน้ั มกี ี่บท คอื อะไรบา ง ? 45/1 ตอบ ข. ในตกิ มาตกิ นั้น บทที่มอี งคธรรมเปน อกุศลธรรมฝายเดียวมี ๘ บท คือ (อกุ.๑๒+๒๗ อกุ.๑๒+๒๗ อกุ.๑๑+๒๗) ๑. อกุสลา ธมฺมา ๒. สงกฺ ลิ ิฏสงฺกิเลสิกา ธมฺมา ๓. ทสสฺ เนน ปหาตพฺพา ธมมฺ า (อกุ.๗+๒๕ อกุ.๑๑+๒๗-โม->วจิ ิสํ.๑ อกุ.๑๑+๒๗-โม->อุทสํ.๑) ๔. ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมมฺ า ๕. ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตกุ า ธมมฺ า ๖. ภาวนาย ปหาตพพฺ เหตกุ า ธมมฺ า (อกุ.๑๒+๒๗ อกุ.๖+๒๕=ช.๗..) ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอมูลเพม่ิ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 32 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๗. หีนา ธมมฺ า ๘. มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา และบททมี่ อี งคธ รรมเปนรูปปรมตั ถ ฝา ยเดยี ว มี ๒ บท คือ ตอบ (45/1) ก. ในติกมาตกิ า บททม่ี อี งคธ รรมเปน ปรมัตถธรรมจาํ พวกเดยี วน้นั มี ๒ บท คือ ๑. สนิทสสฺ นสปปฺ ฏฆิ า ธมฺมา (รปู ารมณ) ๒. อนทิ สฺสนสปปฺ ฏฆิ า ธมมฺ า (โอ.๑๑ เวน รูปา) ๕. ก. จงจาํ แนกตกิ ะ ๒๒ โดย สปปฺ เทสตกิ และ นปิ ปฺ เทสตกิ ? 45/1(5ข), 48/1(5ข), 50/2, 61/2, 62/2, 63/2 ๒. ข. จงจาํ แนกตกิ ะ ๒๒ โดย สปปฺ เทสตกิ ? 48/2 ตอบ ข. จาํ แนกตกิ ะ ๒๒ โดย สปปฺ เทสตกิ ในจํานวนตกิ ะ ๒๒ นัน้ สปฺปเทสตกิ มี ๙ คือ  ตอบ ก. ในติก ๒๒ นั้น เปน สปปฺ เทสตกิ มี ๙ คอื ๑. เวทนาติก ๒. สวติ กฺกติก ๓. ปติตกิ ๔. ปรติ ตฺ ารมฺมณติก ๕. มคคฺ ารมมฺ ณตกิ ๖. อุปปฺ นฺนติก ๗. อตตี ตกิ ๘. อตตี ารมมฺ ณตกิ ๙. อชฺฌตฺตารมฺมณตกิ เปนนปิ ปฺ เทสตกิ มี ๑๓ คอื ๑. กุสลติก ๒. วปิ ากตกิ ๓. อปุ าทินฺนติก ๔. สงกฺ ิลิฏติก ๕. ทสฺสนติก ๖. ทสสฺ นเหตุติก ๗. อาจยคามิติก ๘. เสกฺขติก ๙. ปรติ ฺตติก ๑๐. หีนติก ๑๑. มจิ ฺฉตตฺ ตกิ ๑๒. อชฺฌตฺตตกิ ๑๓. สนิทสสฺ นติก กุ ๒เว วิ อุ สงฺ ๖สวิ ๗ป ทสฺ ทสฺ อาจย, เสก ปรติ ฺ ๑๓ปรติ ฺ หี มิจ ๑๖มัค ๑๗อปุ ฺ ๑๘อตี ๑๙อตี อชฺ ๒๑อชฺ สนิ ทสสฺ น ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอมูลเพมิ่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 33 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ขอ ๖ (ทีเ่ คยออกสอบขอ ๖ = ๑๐ คะแนน คราวน้จี ะออกขอไหนดี) ๖. อภธิ มั มทกุ มาตกิ า มกี หี่ มวด (แบง ออกเปน กห่ี มวด) คอื อะไรบา ง ? 43/2(6ก), 45/1(6ก), 52/2(6ก) ในแตละหมวดมจี าํ นวนหมวดละกปี่ ระเภท (มจี าํ นวนหมวดละเทา ใด) และ จงแปล แสดงองคธ รรม พรอ มทงั้ จาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ ของ เหตู ธมมฺ า. ? 54/2, 55/2 และจงจาํ แนกองคธรรมของ เหตู ธมมฺ า โดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 47/1, 51/1, 52/1, 53/1, 53/2, 58/1, 59/2 และจงจาํ แนกองคธ รรมของ เหตสุ มปฺ ยตุ ตา ธมมฺ า โดย ธาตุ และ สจั จะ ? 60/1 ๖. ก. ทกุ มาตกิ า ทพ่ี ระพทุ ธองคท รงแสดงนนั้ แบง ออกเปนกี่หมวด คอื อะไรบา ง ? 57/1 ๖. ข. จาํ แนกเหตุ ๖ โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ และสจั จวมิ ุต ? 58/2 ตอบ (ก.) อภธิ มั มทุกมาติกา มี ๑๓ หมวด คอื (หมวดละกี่ประเภท ดดู านลาง ......) ๑. เหตุโคจฉฺ ก ๒. จูฬนตฺ รทุก ๓. อาสวโคจฉฺ ก ๔. สโฺ ชนโคจฉฺ ก ๕. คนถฺ โคจฉฺ ก ๖. โอฆโคจฺฉก ๗. โยคโคจฺฉก ๘. นวี รณโคจฺฉก ๙. ปรามาสโคจฉฺ ก ๑๐. มหนฺตรทกุ ๑๑. อุปาทานโคจฉฺ ก ๑๒. กิเลสโคจฉฺ ก ๑๓. ปฏ ทุก (เห จู อา สญั คนั โอ โย นี ป ม อุ กิ ปฏฐ)ิ (54/2, 55/2) และ เหตู ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายทีช่ ื่อวา เหตหุ รอื ทเ่ี ปนเหตุ มีอย.ู องคธ รรมไดแ ก เหตุ ๖ คือ โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ธรรมเหลา น้ีเมื่อจําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะแลว ได สังขารขันธ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ สจั จะ ๓ และ เหตู ธมมฺ า น้นั องคธ รรมไดแ ก เหตุ ๖ คอื โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ธรรมเหลาน้ีเมือ่ จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลว ได ขันธ ๑ อายตนะ ๑ ธาตุ ๑ สจั จะ ๓ ขนั ธ ๑ คอื เหตุ ๖ เปน สงั ขารขันธ อายตนะ ๑ คอื เหตุ ๖ เปน ธัมมายตนะ ธาตุ ๑ คอื เหตุ ๖ เปน ธมั มธาตุ (***) สจั จะ ๓ คอื เหตุทั้ง ๕ (เวนโลภเหต)ุ ทใ่ี นโลกียสเหตุกจติ ๖๓ เปนทกุ ขสัจจ โลภเหตุ เปน สมทุ ัยสัจจ สัมมาทิฏฐมิ รรค คือ อโมหเหตุ ทีใ่ นมคั คจิต ๔ เปนมัคคสจั จ อโลภะ, อโทสะ ที่ในมัคคจติ ๔ และ อโลภะ, อโทสะ, อโมหะ ที่ใน ผลจติ ๔ เปนสัจจวิมตุ (48/1, 48/2) และจาํ แนกเหตุ ๖ โดยสจั จะ ไดด งั นี้ สจั จะ ๓ คอื ...... (***) ธาตุ ๒ คือ เหตสุ มปฺ ยตุ ตา ธมมฺ า เมอื่ จําแนกโดย ธาตุ สัจจะ แลว ได ธาตุ ๒ สัจจะ ๓ สจั จะ ๓ คือ สเหตุกจติ ๗๑ เปน มโนวิญญาณธาตุ, เจตสิก ๕๒ (เวน โมหเจตสกิ ทใี่ นโมหมลู จิต ๒) เปน ธมั มายตนะ โลกยี สเหตุกจติ ๖๓ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ, โมหเจตสกิ ที่ในโมหมลู จิต ๒) เปน ทุกขสัจจ, โลภเจตสกิ เปน สมุทยสัจจ, องคมรรค ๘ หรือ ๗ (เวน สมั มาสังกัปปะ) ทใี่ นมคั คจิต ๔ เปน มรรคสัจจ มรรคจติ ตปุ บาททเ่ี หลือ ๒๙ ผลจิตตปุ บาท ๓๗ เปนสัจจวิมุต ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ที่ ขอมูลเพิม่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 34 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๖. ก. อภธิ ัมมทกุ มาตกิ า แบง ออกเปน กหี่ มวด คอื อะไรบา ง และแตล ะหมวดมจี ํานวนเทา ไร ? 43/144/2, 46/2, จงแสดงมาตามลําดบั และจงแสดงการจาํ แนกเหตุ ๖ โดยสจั จะ ? 48/1, 48/2(6), 50/1 ๗. อภธิ มั มทกุ มาตกิ า มกี ห่ี มวด คอื อะไรบาง ? ในแตล ะหมวดนนั้ มีจาํ นวนหมวดละเทาใด ? และจงแปล แสดงองคธ รรม พรอ มทงั้ จาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ เหตู ธมมฺ า. ? 57/2 ตอบ ก. อภธิ มั มทุกมาตกิ าแบงออกเปน ๑๓ หมวด แตล ะหมวดมีจาํ นวนดงั ตอ ไปน้ี คือ ๑. เหตุโคจฉฺ ก มีทกุ ะ ๖ ประเภท ๘. นวี รณโคจฉฺ ก มที กุ ะ ๖ ประเภท ๒. จูฬนฺตรทุก มีทุกะ ๗ ประเภท ๙. ปรามาสโคจฺฉก มีทุกะ ๕ ประเภท ๓. อาสวโคจฉฺ ก มที ุกะ ๖ ประเภท ๑๐. มหนตฺ รทุก มีทุกะ ๑๔ ประเภท ๔. สโฺ ชนโคจฺฉก มที กุ ะ ๖ ประเภท ๑๑. อุปาทานโคจฺฉก มที กุ ะ ๖ ประเภท ๕. คนถฺ โคจฉฺ ก มที ุกะ ๖ ประเภท ๑๒. กิเลสโคจฉฺ ก มที กุ ะ ๘ ประเภท ๖. โอฆโคจฉฺ ก มีทุกะ ๖ ประเภท ๑๓. ปฏทกุ มที ุกะ ๑๘ ประเภท ๗. โยคโคจฺฉก มีทุกะ ๖ ประเภท [โนต : (เห จู อา สญั คนั โอ โย นี ป ม อุ กิ ปฏ ฐ)ิ ทุกะ ๗ ๑๔ (๗+๗) ๑๘ (๑๔+๔) กอ น ๖ ๕ ๘ นอกนั้น ๖ หมด] ตอบ และแปลแสดงองคธ รรมจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ เหตู ธมฺมา ดังนี้ เหตู ธมมฺ า. สภาวธรรมทั้งหลายทชี่ ่ือวาเหตุหรอื ทีเ่ ปนเหตุ มอี ย.ู ธรรมเหลานี้เมือ่ จาํ แนกโดย ขันธ อายตนะ ธาตุ และสัจจะแลว ได สังขารขนั ธ ๑ ธมั มายตะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ สัจจะ ๓ สัจจะ ๓ คอื เหตุท้งั ๕ ( เวน โลภเหตุ ) ทใ่ี นโลกยี สเหตุกจติ ๖๓ เปน ทุกขสจั จ โลภเหตุ เปน สมทุ ยั สัจจ สมั มาทิฏฐมิ รรค คอื อโมหเหตุ ทีใ่ น มคั คจิต ๔ เปน มัคคสจั จ อโลภะ อโทสะ ทใี่ นมคั คจิต ๔ และ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ทใี่ นผลจติ ๔ เปน สจั จวิมุต ๖. พระพทุ ธองคทรงแสดงทกุ มาตกิ า เปน หมวดๆ อยากทราบวา หมวดทมี่ ชี อื่ วา โคจฉฺ ก นน้ั มจี ํานวนเทา ไร คอื อะไรบาง หมวดท่ชี ่ือวา ทกุ ะนนั้ มจี าํ นวนเทา ไร คืออะไรบา ง ? 47/2(6ก), 49/1, 47/2(6ก), 56/1(6ก) และในทกุ มาตกิ าบททีม่ อี งคธ รรม เปน รปู ปรมตั ถ อยา งเดยี ว หรอื บทท่มี ีองคธ รรม เปน นพิ พานปรมตั ถอยา ง เดยี ว มกี บ่ี ท คอื อะไรบาง ? 44/1, 50/2, 51/2, 54/1, 56/1(6ข), 56/2, 60/2, 61/1, 61/2, 62/1, 62/2 ๖. ข. ในทกุ มาตกิ านน้ั บททมี่ อี งคธรรมเปน รปู ปรมตั ถอ ยา งเดียว มีกบี่ ท คอื อะไรบา ง และบททมี่ อี งคธ รรมเปน นพิ พานปรมตั ถอ ยา งเดียวมกี ่ีบท คอื อะไรบา ง ? 49/1, 56/1 จงจาํ แนก อสงขฺ ตา ธมมฺ า โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ และสัจจะ ? 47/2 ตอบ (ก.) ในทุกมาติกาหมวดท่มี ีชื่อวา โคจฉฺ ก มีจํานวน ๑๐ หมวด คือ ๕. โอฆโคจฉฺ ก ๑. เหตุโคจฺฉก ๒. อาสวโคจฉฺ ก ๓. สโฺ ชนโคจฺฉก ๔. คนถฺ โคจฺฉก ๖. โยคโคจฉฺ ก ๗. นีวรณโคจฺฉก ๘. ปรามาสโคจฺฉก ๙. อุปาทานโคจฺฉก ๑๐. กิเลสโคจฺฉก และหมวดทม่ี ชี อ่ื วา ทุก มีจํานวน ๓ หมวด (ทุกะ) คอื ๑. จูฬนตฺ รทุก ๒. มหนตฺ รทุก ๓. ปฎ  ทุก ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพ่ิมเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 35 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. (และ) ในทุกมาติกา บทที่มอี งคธรรมเปนรูปปรมตั ถอ ยางเดยี ว มี ๔ บท คอื ๑. สนทิ สฺสนา ธมฺมา. ๒. สปฺปฎฆิ า ธมฺมา. ๓. รูปโ น ธมฺมา. ๔. อุปาทา ธมมฺ า. บทท่มี อี งคธรรมเปน นิพพานปรมัตถฝ า ยเดียว มี ๒ บท คือ ๑. อปฺปจฺจยา ธมฺมา. ๒. อสงฺขตา ธมมฺ า (47/2) จําแนก อสงฺขตา ธมมฺ า ได ขันธวมิ ตุ ธมั มายตนะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ นิโรธสจั จ ๑ ๖. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรม พรอ มทงั้ จาํ แนก ขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะในบทวา เหตู เจว ธมมฺ า สเหตุกา จ ? 43/1, 43/2, 52/2, 58/2 ตอบ ข. เหตู เจว ธมมฺ า สเหตกุ า จ แปลวา สภาวธรรมท้ังหลายที่ชอื่ วาเหตุ และท่มี ีเหตปุ ระกอบ มีอยู องคธ รรมไดแ ก เหตุ ๖ (เวนโมหเจตสิกท่ีในโมหมลู จติ ๒) ธรรมเหลานี้เมอื่ จําแนกโดยขนั ธ อายตะ ธาตุ สัจจะแลว ได สังขารขันธ ๑ ธมั มายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ สัจจะ ๓ (58/2) ข. เหตุ ๖ เปน สงั ขารขนั ธ ธัมมายตนะ ธมั มธาตุ สัจจะ ๓ คอื ธรรมเหลา น้ีเม่อื จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะแลว ได สงั ขารขนั ธ ๑ ธัมมายตะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ สจั จะ ๓ สจั จะ ๓ คือ เหตุทั้ง ๕ ( เวนโลภเหตุ ) ที่ในโลกยี สเหตุกจติ ๖๑ (เวน โมหมลู จิต ๒) เปน ทุกขสัจจ โลภเหตุ เปน สมทุ ัยสจั จ สัมมาทิฏฐมิ รรค คือ อโมหเหตทุ ่ีในมัคคจติ ๔ เปน มัคคสจั จ อโลภะ อโทสะท่ใี นมคั คจิต ๔ และ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ทใ่ี นผลจติ ๔ เปน สัจจวิมุต ๗. ในเหตโุ คจฉฺ ก มที กุ ะก่ปี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 44/2 (6ข) และจงแปลแสดงองคธ รรมจาํ แนกขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบาลวี า สเหตกุ า เจว ธมมฺ า น จ เหตู ? 44/1 ๖. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรมพรอ มทัง้ จาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทดังตอ ไปนี้ สเหตกุ า เจว ธมมฺ า น จ เหตู. ? 50/2(7ข), 59/1 ตอบ (ข) ในเหตุโคจฉฺ ก มีทกุ ะ ๖ ประเภทคือ ๑. เหตทุ ุก ๒. สเหตุกทกุ ๓. เหตสุ มฺปยุตฺทกุ ๔. เหตุสเหตุกทกุ ๕. เหตุเหตุสมปฺ ยุตทฺ ุก ๖.นเหตุสเหตุกทกุ และ สเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหต.ู แปลวา สภาวธรรมทงั้ หลายท่ีมเี หตปุ ระกอบ แตไมชื่อวาเหตุ มีอยู องคธรรมไดแก สเหตุกจิต ๗๑ เจตสกิ ๔๖ (เวนเหตุ ๖) ธรรมเหลาน้ีเมอื่ จําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได ขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จ ะ ๒ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสกิ ๔๖ นน้ั เวทนาเจตสกิ เปน เวทนาขันธ สญั ญาเจตสิก เปน สัญญาขันธ เจตสกิ ทีเ่ หลือ ๔๔ เปน สงั ขารขันธ สเหตุกจติ ๗๑ เปน วิญญาณขนั ธ อายตนะ ๒ คอื สเหตกุ จติ ๗๑ เปน มนายตนะ เจตสิก ๔๖ เปน ธมั มายตนะ ธาตุ ๒ คอื สเหตุกจติ ๗๑ เปน มโนวิญญาณธาตุ เจตสิก ๔๖ เปน ธมั มธาตุ สัจจะ ๒ คอื โลกียสเหตกุ จิต ๖๓ เจตสิก ๔๖ (เวน เหตุ ๖) เปน ทุกขสัจจ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 36 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) องคม รรค ๗ (เวน สัมมาทิฏฐ)ิ หรอื องคมรรค ๖ (เวน สัมมาทฏิ ฐิ และสัมมาสังกปั ปะ) ทใี่ นมัคคจติ ๔ เปนมคั คสัจจ มคั คจติ ตปุ บาททเ่ี หลอื ๒๗ ผลจติ ตุปบาท ๓๔ เปนสัจจวมิ ตุ . ๖. ก. ในเหตโุ คจฉฺ ก มกี บ่ี ท ? คืออะไรบา ง ? จงแสดงมาตามลําดบั ? 50/2(7ก), 59/1 ๖. จงแสดงบท ในเหตโุ คจฺฉก และชอื่ ทกุ ะ ในจูฬนตฺ รทกุ ตามลาํ ดบั 46/1, 57/1(6ข), , 58/2(6ก), 58/2(6ก) ตอบ ก. ในเหตุโคจฉฺ ก มี ๑๒ บท คือ // แสดงบทในเหตุโคจฺจฉก ๑๒ บท คอื ๑. เหตู ธมฺมา ๕. เหตสุ มปฺ ยุตตฺ า ธมฺมา ๙. เหตู เจว ธมฺมา เหตสุ มปฺ ยตุ ตฺ า จ ๒. น เหตู ธมฺมา ๖. เหตวุ ิปฺปยตุ ฺตา ธมมฺ า ๑๐. เหตสุ มฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา น จ เหตู ๓. สเหตุกา ธมฺมา ๗. เหตู เจว ธมมฺ า สเหตุกา จ ๑๑. น เหตู โข ปน ธมมฺ า สเหตุกาป ๔. อเหตุกา ธมมฺ า ๘. สเหตกุ า เจว ธมมฺ า น จ เหตู ๑๒. น เหตู โข ปน ธมมฺ า อเหตกุ าป [โนต เหตุฯ: ชอ่ื -ไมช ื่อ มี-ไมมี ประกอบ-ไม ชือ่ มี-มีไมชื่อ ชอื่ ประกอบ-ประกอบไมช่ือ ไมช่อื มี-ไมช ื่อ-ไมม ี] และชอื่ ทกุ ะ ในจฬู นตฺ รทกุ ๗ ทกุ ะ [โนต : สัป สัง สนิ สัป รู โล เก] ๑. สปปฺ จจฺ ยทกุ ๒. สงฺขตทกุ ๓. สนทิ สฺสนทุก ๔. สปปฺ ฏฆิ ทุก ๕. รปู ท กุ ๖. โลกยิ ทุก ๗. เกนจวิ ิฺเยฺยทุก ๖. จงแสดงทกุ มาติกาบททง้ั ๑๒ บทในเหตโุ คจฉฺ ก ของอภธิ มั มทกุ มาตกิ า (เฉพาะภาษาบาลี) และใหจ าํ แนกองคธ รรมของ เหตู ธมมฺ า โดยสจั จะ ? 55/1 ตอบ ทุกมาติกาบท ๑๒ บทในเหตโุ คจฉฺ ก มดี ังน้ี ...... และ เหตู ธมฺมา องคธรรมไดแ ก เหตุ ๖ คือ โลภเหต,ุ โทสเหต,ุ โมหเหตุ, อโลภเหต,ุ อโทสเหต,ุ อโมหเหตุ ธรรมเหลา นเี้ ม่อื จําแนกโดยสจั จะแลว ไดสจั จะ ๓ คือ ...... ๖. ก. พระพุทธองคท รงเทศนา เหตสุ เหตกุ ทกุ และนเหตสุ เหตกุ ทกุ นน้ั โดยทรงรวมบทใด ในทกุ ใดเขา ดว ยกนั ? 49/2, 63/2 ตอบ ก. พระพุทธองคทรงเทศนาเหตสุ เหตุกทกุ นน้ั ปฐมบททรงรวมเอาปฐมบทของเหตุทกุ กับปฐมบท ของสเหตกุ ทุก เขาดวยกัน สวนในทตุ ิยบทนนั้ ทรงรวมเอาปฐมบทของสเหตุกทุกกับทุตยิ บทของเหตทุ กุ เขา ดวยกัน และ ทรงเทศนา นเหตสุ เหตุกทกุ นั้น ปฐมบททรงรวมเอาทตุ ิยบทของเหตุทกุ กบั ปฐมบทของสเหตุก ทกุ เขา ดวยกนั สวนในทตุ ยิ บทนัน้ ทรงรวมเอา ทตุ ิยบทของเหตุทุกกับทุติยบทของสเหตุกทุกเขา ดวยกนั ๖. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรมของบาลบี ทดงั นี้ เหตู เจว ธมมฺ า สเหตกุ า จ, คนฺถา เจว ธมมฺ า คนถฺ สมปฺ ยตุ ตฺ า จ ปรามาสวปิ ปฺ ยตุ ตฺ า โข ปน ธมมฺ า ปรามฏ าป จ ? 46/2 ตอบ ข. เหตู เจว ธมฺมา สเหตกุ า จ สภาวธรรมทงั้ หลายที่ช่ือวาเหตุ และท่ีมีเหตุประกอบ มอี ยู องคธรรมไดแก เหตุ ๖ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมลู จิต ๒) คนฺถา เจว ธมฺมา คนฺถสมปฺ ยุตตฺ า จ สภาวธรรมทง้ั หลายท่ีช่ือวา คันถะ และทีป่ ระกอบดวยคนั ถะ มอี ยู องคธ รรมไดแก โลภะ ทิฏฐิ ทใ่ี นทิฏฐคิ ตสมั ปยุตตจิต ๔ ปรามาสวปิ ฺปยตุ ฺตา โข ปน ธมฺมา ปรามฏ าป สภาวธรรมทั้งหลายทีไ่ มประกอบดว ยปรามาส แตเ ปนอารมณของป ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอ มูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 37 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) รามาสะ มีอยู องคธรรมไดแก ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ โทสะมูลจิต ๒ โมหะมลู จิต ๒ โลกีย กุศลจติ ๑๗ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กริยาจิต ๒๐ เจตสิก ๕๑ (เวน ทิฏฐิ) รูป ๒๘ ๖. ใหแ สดงทกุ ในโคจฉฺ กตอ ไปน้ี ก. เหตโุ คจฉฺ ก ข. อาสวโคจฉฺ ก ค. ปรามาสโคจฉฺ ก และใหแ สดงองคธ รรมพรอ มคาํ แปลของ ปรามาสวปิ ปฺ ยตุ ฺตา โข ปน ธมมฺ า ปรามฏ าป, ปรามาสวิปปฺ ยตุ ตฺ า โข ปน ธมมฺ า อปรามฏ าป ? 45/2 ตอบ ก. เหตุโคจฉฺ ก มีทกุ ๖ ทกุ คอื ๑. เหตุทุก ๒. สเหตกุ ทกุ ๓. เหตุสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๔. เหตุสเหตกุ ทุก ๕. เหตเุ หตุสมปฺ ยตุ ตฺ ทุก ๖. นเหตสุ เหตกุ ทกุ ข. อาสวโคจฺฉก มีทุก ๖ ทุก คือ ๑. อาสวทุก ๒. สาสวทกุ ๓. อาสวสมปฺ ยตุ ฺตทกุ ๔. อาสวสาสวทกุ ๕. อาสวอาสวสมฺปยตุ ตฺ ทกุ ๖. อาสววปิ ปฺ ยตุ ตฺ สาสวทุก ค. ปรามาสโคจฺฉก มที กุ ๕ ทกุ คอื ๑. ปรามาสทกุ ๒. ปรามฏ ทุก ๓. ปรามาสสมฺปยตุ ฺตทุก ๔. ปรามาสปรามฏ ทุก ๕. ปรามาสวิปฺปยตุ ฺตปรามฏทุก [โนต เหตุโคจฉฺ ก : ชื่อ มี ประกอบ ชือ่ มี(๑+๒) ชอื่ ประกอบ(๑+๓) ไมชอื่ ม(ี น+๒)], ปรามาสมามี ๑+๓ [โนต อา/สัญ/คัน/โอ/โย/นี/อุ:ชื่อ อารมณ ประกอบ ชอื่ +อารมณ(๑+๒) ชอ่ื +ประกอบ(๑+๓) ไมประกอบ+อารมณ(วปิ +๒)] แสดงองคธ รรมพรอมคําแปล คือ สภาวธรรมทั้งหลายทไ่ี มป ระกอบดวยปรามาสะ แตเปน อารมณของปรามาสะ มีอยู องคธรรมไดแก ทิฏฐิคตวิปปยุตจิต ๔ โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒ โลกียกุศลจิต ๑๗ โลกียวบิ ากจิต ๓๒ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๕๑ (เวนทิฏฐ)ิ รูป ๒๘ สภาวธรรมทงั้ หลายทีไ่ มป ระกอบดว ยปรามาสะ และไมเ ปน อารมณของปรามาสะ มอี ยู องคธรรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ขอ ๗ (ท่ีเคยออกสอบขอ ๗ = ๑๐ คะแนน คราวน้จี ะออกขอ ไหนดี) ๗. จงแปลและแสดงองคธรรมในบทตอ ไปนี้ ? 47/2 ก. สปปฺ จจฺ ยา ธมฺมา ข. สาสวา เจว ธมมฺ า โน จ อาสวา ค. คนถฺ สมปฺ ยตุ ตฺ ตา เจว ธมมฺ า โน จ คนถฺ า ง. ปรามาสวิปปฺ ยตุ ตฺ า โข ปน ธมมฺ า ปรามฏ าป จ. โน จติ ตฺ สสํ ฏสมฏุ  านานปุ รวิ ตตฺ โิ น ธมมฺ า ตอบ ก. สภาวธรรมทง้ั หลายท่มี ปี จจัย ๔ คือ กรรม จติ อุตุ อาหาร ปรุงแตง มีอยู องคธ รรมไดแก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒, รูป ๒๘ ข. สภาวธรรมท้ังหลายที่เปน อารมณของอาสวะ แตไมชอื่ วา อาสวะ มอี ยู องคธ รรมไดแ ก โลกียจิต ๘๑ เจตสกิ ๔๙ (เวน อาสวะองคธรรม ๓) รูป ๒๘ ค. สภาวธรรมท้ังหลายทป่ี ระกอบดวยคนั ถะแตไ มชอ่ื วา คันถะมีอยู องคธรรมไดแ ก โลภมูลจติ ๘,โทสมลู จติ ๒, เจตสิก ๒๓ (เวนคนั ถะองคธ รรม ๓) ง. สภาวธรรมทั้งหลายทีไ่ มประกอบดวยปรามาสะ แตเปน อารมณข องปรามาสะมีอยู องคธรรมไดแก ทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔, โทสมูลจิต ๒, โมหมูลจิต ๒, โลกียกุศลจิต ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ท่ี ขอมลู เพิม่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 38 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๑๗, โลกียวปิ ากจิต ๓๒, กริยาจติ ๒๐, เจตสกิ ๕๑ (เวน ทิฏฐ)ิ รูป ๒๘ ๗. ในจฬู นตฺ รทกุ มีทกุ ะกปี่ ระเภทคอื อะไรบา ง ? 43/2ส(4ก) จงแสดงมาตามลําดบั พรอ มทง้ั แปล และแสดงองค ธรรมในบาลี ดงั ตอ ไปนี้ ? 53/1 ก. รปู โ น ธมมฺ า. ข. โลกตุ ตฺ รา ธมฺมา. ค. เกนจิ วิ เฺ ยฺยา ธมมฺ า. ตอบ ใน จูฬนตฺ รทกุ มี ทกุ ะ ๗ ประเภทคอื :- (สปั สัง สนิท สัป รู โล เกน) ๑. สปปฺ จฺจยทุก ๒. สงขฺ ตทุก ๓. สนทิ สสฺ นทกุ ๔. สปปฺ ฏิฆทกุ ๕. รปู ท ุก ๖. โลกิยทุก ๗. เกนจวิ ิเฺ ยฺยทุก ก. รูปโ น ธมมฺ า. สภาวธรรมท้งั หลายทมี่ ี รุปปนลกั ขณะ คือ ความสลายไป มอี ย.ู องคธรรมไดแก รปู ๒๘ ข. โลกตุ ฺตรา ธมมฺ า. สภาวธรรมทัง้ หลายที่พนจากสังขารโลกอนั เปน วฏั ฏทกุ ข ซึ่งมสี ภาพเกิดดบั มีอย.ู องคธ รรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน ค. เกนจิ วิ เฺ ยยฺ า ธมมฺ า. สภาวธรรมทง้ั หลายทีพ่ ึงรูไ ดโ ดยจติ บางอยางมี จกั ขวุ ญิ ญาณจติ เปนตน มีอยู. องคธ รรมไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน ท่ีพึงรไู ดโ ดยจิตบางอยางมีจกั ขุวญิ ญาณจติ เปนตน . ๖. ข. ในจูฬนตฺ รทกุ มีทุกะกป่ี ระเภทคอื อะไรบา ง ใหแ สดงชอื่ มาโดยลาํ ดับ และจงแปลแสดงองคธรรม จําแนกขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ ในบาลดี งั ตอ ไปน้ี โลกตุ ตฺ รา ธมมฺ า ? 49/2, 63/2 ตอบ ข. ในจูฬนฺตรทกุ มีทุกะ ๗ ประเภท คอื ...... โลกุตตฺ รา ธมฺมา แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายท่พี น จากสงั ขารโลกอันเปน วฏั ฏทุกข ซงึ่ มีสภาพเกิดดบั มีอยู องคธ รรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสิก ๓๖ นิพพาน ธรรมเหลาน้เี ม่ือจําแนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลวไดข นั ธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สัจจะ ๒ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสกิ ๓๖ นน้ั เวทนาเจตสกิ เปนเวทนาขนั ธ, สัญญาเจตสกิ เปน สญั ญาขันธ, เจตสิกที่ เหลอื ๓๔ เปนสังขารขนั ธ โลกตุ ตรจิต ๘ เปน วิญญาณขนั ธ นพิ พาน เปนขนั ธวมิ ุต อายตนะ ๒ คอื โลกุตตรจิต ๘ เปน มนายตนะ เจติสก ๓๖ นพิ พาน เปนธมั มายตนะ ธาตุ ๒ คอื โลกตุ ตรจิต ๘ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ สัจจะ ๒ คอื นพิ พาน เปน นิโรธสัจจ องคม รรค ๘ หรอื ๗ ท่ีในมรรคจิต ๔ เปนมัคคสจั จ มคั คจิตตุปบาททีเ่ หลอื ๒๙ ผลจิตตุปบาท ๓๗ เปนสัจจวิมตุ ๗. ก. เพราะเหตใุ ด องคธ รรมปฐมบท และทตุ ยิ บท ในเกนจวิ ิ ฺเยยฺ ทกุ จงึ เหมอื นกนั ให/ จงอธบิ าย ? 44/2, 47/1, 49/2, 51/2, 52/2, 54/2, 57/1, 58/1, 58/2, 60/1, 61/1 ๗. ก. ทกุ ะใดในทกุ มาตกิ าทม่ี อี งคธรรม ปฐมบท และทตุ ยิ บท เหมอื นกนั และทเี่ ปน เชน นเ้ี พราะเหตุใด จงอธบิ าย ?.59/1 ตอบ ก. การที่องคธรรมของ เกนจิวิ ฺเยฺยา ธมมฺ า และองคธรรมของ น เกนจิวิ ฺเยฺยา ธมฺมา เหมือนกันน้นั เพราะ ...... ตอบ ก. ในทกุ มาติกา ทุกะทีม่ ีองคธรรมของปฐมบท และทตุ ิยบทเหมอื นกนั คอื เกนจิวิ ฺเยยฺ ทุก ที่เปน เชนนก้ี ็ เพราะเพยี งแตแ สดงวา สภาวธรรมทจี่ ิตบางอยางรูได และจติ บางอยางรูไ มไดเ ทา นั้น เม่ือเปน เชนน้กี ็ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอ มูลเพ่ิมเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 39 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) อธิบายวา สภาวธรรมท้ังหลายท่จี ิตบางอยางรไู ดก็ตาม รูไ มไ ดก ็ตาม ก็ไดแ ก ปรมัตถธรรมทัง้ ๔ ทั้งสิ้น ดังจะ ยกอปุ มาใหเห็นวา บุคคลทง้ั หลายท่บี างคนรูจ ัก บุคคลท้งั หลายที่บางคนไมรจู ักทงั้ ๒ ขอนี้ ก็ไดแ ก บคุ คล ทงั้ หมดท่ีอยูในโลกนั้นเอง มิได แสดงเจาะจงวา ผูร ู และผูถูกรู เปน (คอื )ใคร ๗. จงแสดงองคธ รรมของ เกนจวิ ิ เฺ ยยฺ ทกุ ดังตอ ไปนี้ ๗. ข. ใหแสดงองคธ รรมใน เกนจวิ ิ ฺเยยฺ ทกุ ตามในท่ี ... แหง อฎั ฐสาลนิ อี รรถกถาและนยั ท่ี ... แหง มลู ฎีกา? ตามนัยอัฏฐสาลนิ อี รรถกถา นยั ท่ี ๑ 43/2, 50/1, 55/2 นยั ท่ี ๕ 44/1(8ก), 47/1, 50/1, 53/2 นยั ท่ี ๖ 43/1, 43/2, 45/1, 48/2, 50/1, 58/2, 59/1 นยั ท่ี ๗ 43/1(9ก), 46/1 นยั ที่ ๙ 46/1, 48./2 นยั ที่ ๑๐ 45/2, 47/1 นยั ที่ ๑๑ 48/2 นยั ที่ ๑๒ 43/1(9ก), 44/2, 45/2, 49/2, 51/2, 52/2, 57/1, 57/2, 58/1, 60/1 ตามนยั แหง มลู ฎกี า นยั ที่ ๒ 43/2 นยั ท่ี ๕ 43/1(9ข), 44/1(8ก), 50/1 นยั ท่ี ๖ 46/1, 47/1, 45/1, 53/2 นยั ที่ ๗ 43/2, 48/2 นยั ท่ี ๙ 47/1 นยั ที่ ๑๐ 44/1(8ข), 45/2, 46/1, 47/1, 48/2, 50/1, 57/2, 58/2, 59/1 นยั ที่ ๑๒ 45/2 นยั ท่ี ๑๔ 43/1(9ข), 47/1, 57/1, 60/1 นยั ท่ี ๑๕ 44/1(8ข), 44/2, 46/1, 49/2, 50/1, 52/2, 58/1 ตอบ แสดงองคธรรมในเกนจวิ ิ ฺเยยฺ ทกุ ตามนัยแหงอัฏฐสาลนิ อี รรถกถา นัยที่ ๑ องคธรรมของปฐมบท ไดแก รปู ารมณ ทพ่ี งึ รไู ดโ ดยจักขวุ ญิ ญาณจติ ๒ องคธ รรมของทุติยบทไดแ ก จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๗ (เวน รปู ารมณ) นิพพาน ทไี่ มพ ึงรไู ดโ ดยจกั ขวุ ญิ ญาณจติ ๒ (43/2, 50/1) นัยท่ี ๕ องคธรรมของปฐมบท ไดแ ก โผฏฐพั พารมณ ท่พี งึ รไู ดโ ดย กายวญิ ญาณจิต ๒ องคธ รรมของทตุ ิยบท ไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๕ (เวน ปถวี เตโช วาโย โผฏฐพั พารมณ) นิพพาน ทไี่ มพ ึงรไู ดโ ดย กายวญิ ญาณจิต ๒ (43/2, 50/1) นยั ที่ ๖ ปฐมบท องคธ รรมไดแ ก ปญจารมณ มีรูปารมณ เปน ตน ที่พงึ รูไ ดโ ดย มโนธาตุ ๓ ทตุ ยิ บท องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๑ (เวนวสิ ยรูป ๗) นิพพาน ที่ไมพ งึ รไู ดโ ดย มโนธาตุ ๓ นัยท่ี ๗ องคธ รรมของปฐมบท ไดแ ก กามจิต ๕๔ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ ทพี่ ึงรโู ดย สนั ตีรณจติ ๓ มหาวิปาก จิต ๘ (ตทารัมมณจิต ๑๑) หสติ ุปปาทจิต ๑ องคธรรมของทตุ ยิ บท ไดแก มหัคคตจิต ๒๗ โลกุตตรจติ ๘ เจตสิก ๓๘ นิพพาน ทไ่ี มพ งึ รไู ดโ ดย สันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจิต ๘ (ตทารมั มณจติ ๑๑) หสติ ปุ ปาทจิต ๑ ดาวนโหลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอ มูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 40 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) นยั ท่ี ๙ ปฐมบท ไดแก จิต ๘๗ (เวน อรหัตตมรรค, อรหัตตผล) เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ทตุ ิยบท ไดแ ก อรหัตตมรรคจติ ๑ อรหตั ตผลจติ ๑ เจตสกิ ๓๖ (46/1) นัยท่ี ๑๐ ปฐมบทองคธรรมไดแ ก อากาสานัญจายตนกศุ ลจิต ๑ กรยิ าจติ ๑ เจตสกิ ๓๐ ที่พงึ รไู ดโ ดย วิญญานัญจายตนะฌานจิต ๓ ทตุ ยิ บทองคธรรมไดแก จติ ๘๗ (เวน อากาสานัญจายตนกศุ ลจิต ๑ กริยาจิต ๑) เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นิพพาน ทไ่ี มพงึ รูไดโ ดย วิญญาณญั จายตนฌานจิต ๓ (45/2, 47/1) นัยที่ ๑๑ ปฐมบทองคธรรมไดแก อากิญจญั ญายตนกศุ ลจติ ๑, กรยิ าจติ ๑, เจตสกิ ๓๐ ที่พึงรไู ดโ ดย เนว สญั ญานาสัญญายตนฌานจิต ๓ ทตุ ิยบทองคธรรมไดแ ก จิต ๘๗ (เวน อากญิ จญั ญายตนกุศลจติ ๑, กริยาจติ ๑) เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน ท่ไี มพ งึ รไู ดโ ดย เนวสญั ญานาสญั ญายตนฌานจิต ๓ 48/2 นยั ท่ี ๑๒ ปฐมบทองคธ รรมไดแ ก นพิ พาน ท่ีพงึ รไู ดโ ดย โลกตุ ตรจติ ๘ ทตุ ิยบทองคธ รรมไดแก จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ ทไี่ มพ งึ รไู ดโดย โลกุตตรจิต ๘ (43/1, 45/2) แสดงองคธ รรมของเกนจวิ ิเฺ ยยฺ ทกุ ตามนยั แหง มลู ฎกี า นัยท่ี ๒ องคธ รรมของปฐมบท ไดแ ก สัททารมณ ท่พี งึ รไู ดโ ดยโสตวญิ ญาณจิต ๒ องคธรรมของทุติยบทไดแก สทั ทารมณ ทีไ่ มพ งึ รไู ดโ ดยจิต ๔๓ คือ จกั ขุวญิ ญาณจิต ๒, ฆาน วญิ ญาณจิต ๒, ชิวหาวิญญาณจิต ๒, กายวิญญาณจิต ๒, บัญญตั ตารมั มณกิ จิต เอกนั ตะ ๒๑, มหคั คตา-รัมมณิกจิตเอกนั ตะ ๖, นพิ พานารัมมณกิ จติ เอกันตะ ๘ (43/2) นัยท่ี ๕ องคธ รรมของปฐมบท ไดแก โผฏฐพั พารมณ ทีพ่ ึงรูไดโ ดย กายวิญญาณจิต ๒ องคธรรมของทุติยบทไดแก โผฏฐัพพารมณ ทไ่ี มพงึ รูไดโดย จิต ๔๓ คือ ทวิปญจวิญญาณจิต ๘ (เวนกายวญิ ญาณจิต ๒) บัญญัติตารมั มณกิ จติ เอกนั ตะ ๒๑ มหัคคตารัมมณิก จิตเอกนั ตะ ๖ นิพพานรัมมณกิ จิตเอกันตะ ๘ (43/1, 44/1, 50/1) นยั ท่ี ๖ ปฐมบท องคธ รรมไดแก ปญ จารมณ มีรูปารมณ เปนตน ท่พี ึงรูไดโ ดย มโนธาตุ ๓ ทุติยบท องคธ รรมไดแก ปญจารมณ ที่ไมพึงรูไดโดย จิต ๓๕ คือ บัญญัตตารมั มณกิ จิตเอกันตะ ๒๑ มหัคคตารัมมณจติ เอกันตะ ๖ นิพพานารัมมณกจิตเอกันตะ ๘ (46/1, 47/1) นัยที่ ๗ องคธ รรมของปฐมบทไดแ ก กามจิต ๕๔ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ท่ีพงึ รไู ดโ ดย ตทารัมมณจิต ๑๑ หสติ ุปปาทจติ ๑ องคธ รรมของทตุ ยิ บทไดแก กามจติ ๕๔ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ ที่ไมพ งึ รไู ดโ ดย จิต ๓๕ คือ บัญญตั ิตารมั มณกิ จิตเอกันตะ ๒๑, มหคั ค ตา-รัมมณิกจติ เอกนั ตะ ๖, นิพพานารมั มณกิ จติ เอกันตะ ๘ (43/2, 48/2) นัยท่ี ๙ ปฐมบทไดแก จติ ๘๗ (เวนอรหัตตมรรค อรหตั ตผล) เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน ทตุ ิยบทไดแ ก จติ ๘๗ (เวนอรหตั ตมรรค อรหตั ตผล) เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ นิพพาน (47/1) ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพ่มิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 41 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) นัยที่ ๑๐ องคธ รรมของปฐมบท ไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน ทพี่ งึ รไู ดโ ดย มโนทวาราวัชชน จิต ๑ มหากรยิ าญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ กรยิ าอภิญญาจิต ๑ องคธรรมของทตุ ยิ บทไดแ ก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ทไ่ี มพ งึ รไู ดโ ดย บญั ญัต ตารัมมณกิ จิตเอกนั ตะ ๒๑ (44/1, 45/2, 46/1, 47/1, 48/2, 50/1) นยั ท่ี ๑๒ ปฐมบท ไดแ ก อากาสานญั จายตนกศุ ลจิต ๑ กรยิ าจิต ๑ เจตสิก ๓๐ ที่พงึ รไู ดโ ดย วิญญาณญั จายตนกรยิ าจติ ๑ ทุติยบท ไดแ ก อากาสานัญจายตนกุศลจิต ๑ กริยาจติ ๑ เจตสิก ๓๐ ทีไ่ มพ ึงรไู ดโดย จิต ๕๗ คอื กามารัมมณิกจติ เอกนั ตะ ๒๕ บัญญัตตารมั มณิกจิต เอกันตะ ๒๑ นิพพา นารมั มณิกจิตเอกันตะ ๘ และเนวสญั ญานาสัญญายตนฌานจิต ๓ (45/2) นยั ที่ ๑๔ องคธ รรมของปฐมบท ไดแ ก อากิญจัญญายตนกศุ ลจิต ๑ กรยิ าจติ ๑ เจตสกิ ๓๐ ทพี่ งึ รไู ดโ ดย เนวสญั ญานาสัญญายตนกรยิ าจติ ๑ องคธรรมของทุติยบทไดแก อากิญจัญญายตนกุศลจิต ๑ กริยาจติ ๑ เจตสกิ ๓๐ ทไี่ มพ งึ รไู ดโ ดย จติ ๕๗ คือ กามารมั มณิกจิตเอกันตะ ๒๕ บญั ญตั ิตารัมมณกิ จติ เอกันตะ ๒๑ นพิ พานารัมมณิกจิตเอกันตะ ๘ และ วิญญาณญั จายตนฌานจติ ๓ (43/1, 47/1) นยั ที่ ๑๕ องคธ รรมของปฐมบท ไดแก นพิ พาน ทพี่ งึ รไู ดโ ดย โลกุตตรจติ ๘ องคธ รรมของทุติยบทไดแก นพิ พาน ทไ่ี มพ งึ รูไดโ ดย จิต ๗๒ คือ กามารมั มณกิ จิตเอกนั ตะ ๒๕ โลกียะและบัญญตั ติ ารัมมณกิ จิต ๒๐ บัญญตั ตารมั มณกิ จติ เอกันตะ ๒๑ มหคั คตารมั มณกิ จติ เอกนั ตะ ๖ (44/1, 44/2, 46/1, 49/2, 50/1) ๗. ใหแ สดงองคธ รรมใน เกนจวิ ิ ฺเยยฺ ทกุ ตามนยั อฏั ฐสาลนิ อี รรถกถา เฉพาะนยั ท่ี ๑๒ และมลู ฏกี านยั ที่ ๑๐ และใหแ สดงความตา งกนั ในการแสดงองคธ รรม ระหวา ง อฏั ฐสาลนิ ีอรรถกถาและมลู ฏกี าใน เกนจวิ ิ เฺ ยยฺ ทกุ ? 57/2 ตอบ แสดงองคธ รรมใน เกนจวิ ิ เฺ ยฺยทกุ ตามนัยอฏั ฐสาลินีอรรถกถา นัยท่ี ๑๒ และ มลู ฏีกานัยที่ ๑๐ ...... และความตา งกันในการแสดงองคธรรมระหวางอัฏฐสาลินีอรรถกถาและมลู ฏีกา คือ การแสดงองค ธรรมตามนยั แหงอฏั ฐสาลินีอรรถกถานัน้ องคธ รรมของ เกนจิ ทอ่ี ยใู นปฐมบทและทุตยิ บท ซึ่งเปนกตั ตบุ ท อารัมมณกิ บท วญิ ญาณบทนัน้ เหมือนกนั แตองคธ รรมของคาํ วา วิ เฺ ยฺยา ธมมฺ า. ทอ่ี ยใู นปฐมบท และ ทุติยบท ซ่ึงเปน กรรมบท อารมั มณบท วิญญาตัพพบท น้ัน ตางกัน สว นการแสดงองคธรรมตามนยั แหง มลู ฏีกานน้ั องคธ รรมของ เกนจิ ทอี่ ยูในปฐมบทและทตุ ิยบท ซ่งึ เปน กตั ตุบท อารมั มณกิ บท วญิ ญาณบท น้นั ตางกนั แตองคธรรมของคาํ วา วิฺเยยฺ า ธมมฺ า ทอ่ี ยูใน ปฐม บทและทุติยบท ซึ่งเปน กรรมบท อารัมมณบท วิญญาตัพพบท นัน้ เหมอื นกัน ๗. ในโคจฉฺ กอนื่ ๆ ทน่ี อกจาก กเิ ลสโคจฺฉก นน้ั ในโคจฉฺ กหนึง่ ๆ มี ๖ ทกุ ะแตใ นปรามาสโคจฺฉกมเี พยี ง ๕ ทกุ ะ เทา นน้ั อยากทราบวา ขาดทกุ ะใดและเปน เพราะเหตใุ ด ? จงอธบิ าย ? 51/1, 52/1, 55/1(7ก), 56/1, 62/1 ตอบ ในปรามาสโคจฉฺ ก มเี พยี ง ๕ ทุกะนน้ั เพราะขาด ปรามาสปรามาสสมฺปยตุ ฺตทกุ ท่เี ปนเชน น้ีก็เพราะ ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอมูลเพ่ิมเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 42 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) วา ปรามาสองคธ รรมมีแตเพียงทฏิ ฐเิ จตสกิ ดวงเดยี วน้ันเอง ฉะนน้ั ธรรมทช่ี ื่อวา ปรามาสและประกอบดว ย ปรามาสน้นั ยอมไมม ี เมือ่ เปน เชนนี้ ถึงแมว า องคธรรมของทุติยบท คอื ปรามาสสมปฺ ยตุ ตฺ า เจว ธมฺมา โน จ ปรามาสา มีไดก จ็ รงิ แตองคธรรมของปฐมบท คือ ปรามาสา เจว ธมฺมา ปรามาสสมปฺ ยตุ ตฺ า จ นนั้ ยอมไมมี ฉะนน้ั พระพุทธองคจ ึงไมท รงแสดง ปรามาสปรามาสสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๗. ก. ในมหนั ตรทกุ มที กุ กป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 46/2, 48/1, 50/1(8ก), 52/2, 54/2(ข), 60/2, 61/1(ข) ๗. มหนั ตรทุก มีทกุ กปี่ ระเภท คอื อะไรบา ง และบททม่ี อี งคธ รรมเปน นามปรมตั ถอ ยา งเดยี ว มก่ี บี่ ท คอื อะไรบา ง แสดงมาตามลาํ ดบั ? 62/2, 63/2 ตอบ ก. ในมหนตฺ รทกุ มีทกุ ะ ๑๔ ประเภท คอื ๑. สารมมฺ ณทกุ ๒. จิตฺตทุก ๓. เจตสกิ ทกุ ๔. จติ ตฺ สมฺปยุตตฺ ทุก ๕. จติ ฺตสสํ ฏ ทุก ๖. จิตฺตสมฏุ านทุก ๗. จิตฺตสหภูทกุ ๘. จติ ตฺ านปุ รวิ ตตฺ ทิ กุ ๙. จิตตฺ สสํ ฏ สมุฏฐ านทุก ๑๐. จิตตสสํ ฏ สมฏุ  านสหภทู ุก ๑๑. จติ ฺตสสํ ฏ สมฏุ  านุปริวตฺตทิ ุก ๑๒. อชฌฺ ตตฺ กิ ทกุ ๑๓. อุปาทาทุก ๑๔. อปุ าทินฺนทุก (ยอ : ๑สารมั มณ ๒จติ ต ๓เจตสิก ๔-สัมปยุตต ๕-สสํ ัฏ ๖-สมฏุ าน ๗-สหภู ๘–ตานุปรวิ ตั ติ ๙56 ๑๐567 ๑๑568 ๑๒อัช ๑๓อุ ๑๔อุ) และบทที่มีองคธ รรมเปน นามปรมัตถอยา งเดียว มี ๘ บท คือ ...... (ดูขอ ทมี่ โี จทยนี้) ๗. ในมหนั ตรทกุ มที กุ กปี่ ระเภท คอื อะไรบา ง ? และจาํ แนกสจั จะ สจั จวมิ ตุ ติ ในธรรมตอ ไปนี้ ? 45/1 ก. สภาวธรรมทงั้ หลายทไ่ี มเปน ไปพรอ มดว ยการรอู ารมณ มีอยู ข. สภาวธรรมทง้ั หลายทช่ี อื่ วา เจตสกิ มีอยู ตอบ ในมหันตรทกุ มี ทกุ ะ ๑๔ ประเภท คอื ...... และจําแนก สัจจะ สจั จวมิ ตุ ติ ในธรรมเหลา น้ี คอื ก. สภาวธรรมทั้งหลายที่ไมเ ปน ไปพรอ มดว ยการรบั รูอารมณมีอยู ธรรมเหลาน้ีเมือ่ จําแนกโดยสัจจะได ๒ คอื รูป ๒๘ เปน ทกุ ขสัจจ นพิ พาน เปนนิโรธสัจจ ข. สภาวธรรมทัง้ หลายทชี่ อ่ื วา เจตสกิ มอี ยู ธรรมเหลาน้เี มอื่ จําแนกโดยสจั จะได ๓ คือ เจตสิก ๕๑ เวน โลภะ ท่ใี นโลกียจิต ๘๑ เปนทกุ ขส จั จ โลภเจตสิก เปนสมทุ ยสจั จ องคม รรค ๘ หรอื ๗ ท่ีในมัคคจติ ๔ เปนมัคคสจั จ เจตสกิ ทเ่ี หลอื ๒๘ (เวน องคม รค ๘) ที่ในมคั คจติ ๔ และเจตสกิ ๓๖ ที่ในผลจติ ๔ เปนสจั จวมิ ตุ ติ ๗. ข. จงจาํ แนก เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 61/2 (โน จิตฺตา ธมฺมา) ตอบ ข. เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นิพพาน เมื่อจําแนกโดย ขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ไดขนั ธ ๔ อายตนะ ๑๑ ธาตุ ๑๑ สัจจะ ๔ ขนั ธ ๔ คือ รปู ๒๘ เปน รูปขันธ สญั ญาเจตสกิ เปน สัญญาขันธ ในเจตสิก ๕๒ น้นั เวทนาเจตสิก เปนเวทนาขนั ธ เจตสกิ ท่ีเหลือ ๕๐ เปน สังขารขันธ นพิ พาน เปน ขันธวมิ ตุ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอมูลเพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 43 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) อายตนะ ๑๑ คือ ในรปู ๒๘ นนั้ โอฬารกิ รูป ๑๒ เปนโอฬาริกายตนะ ๑๐ เจตสิก ๕๒ สุขมุ รปู ๑๖ นิพพาน เปนธมั มายตนะ ธาตุ ๑๑ คือ ในรูป ๒๘ นั้น โอฬาริกรปู ๑๒ เปนโอฬารกิ ธาตุ ๑๐ เจตสิก ๕๒ สขุ ุมรปู ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ สัจจะ ๔ คือ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) ทใี่ นโลกียจติ ๘๑ รูป ๒๘ เปนทุกขสจั จ โลภเจตสกิ เปน สมุทยสจั จ นพิ พาน เปนนโิ รธสจั จ องคม รรค ๘ หรือ ๗ ท่ใี นมคั คจิต ๔ เปน มคั คสัจจ เจตสิกทีเ่ หลือ ๒๘ (เวน องคมรรค ๘) ทใ่ี นมัคคจิต ๔ และเจตสกิ ๓๖ ที่ในผลจิต ๔ เปน สจั จวิมุต. ๘. ใน มหนตฺ รทกุ มีทกุ ะกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? และจงแปล พรอมทง้ั แสดงองคธ รรมของบทในทกุ ะตอ ไปนี้ ? จติ ตฺ สมฏุ  านทกุ , จติ ตฺ านุปรวิ ตฺตทิ กุ . ? 47/1 ตอบ ใน มหนฺตรทุก มีทกุ ะ ๑๔ ประเภท คอื ...... แปลและแสดงองคธ รรมของบทในทกุ ะตอ ไปนี้ จิตตฺ สมฏุ านทุก ปฐมบท จิตฺตสมฏุ  านา ธมฺมา สภาวธรรมท้ังหลาย ทีม่ ีจติ เปนสมุฏฐาน หรอื ที่เกิดจากจิต มอี ยู องคธ รรมไดแก เจตสิก ๕๒ จิตตชรปู ๑๗ ทตุ ยิ บท โน จิตฺตสมฏุ  านา ธมฺมา สภาวธรรมท้ังหลาย ที่ไมมีจิตเปนสมุฏฐาน หรอื ท่ีไมได เกดิ จากจิต มอี ยู องคธ รรมไดแกจติ ๘๙ กัมมชรปู ๒๐ อุตุชรูป ๑๕ อาหารชรูป ๑๔ นิพพาน จติ ตฺ านปุ รวิ ตฺตทิ ุก ปฐมบท จติ ฺตานุปรวิ ตฺตโิ น ธมฺมา สภาวธรรมทง้ั หลายที่เปน ไปตามกระแสจติ มีอยู องคธ รรมไดแก เจตสกิ ๕๒ วิญญัติรปู ๒ ทุติยบท โน จิตตฺ านุปรวิ ตตฺ ิโน ธมฺมา. สภาวธรรมทัง้ หลายท่ีไมเ ปนไปตามกระแสจติ มอี ยู องคธรรมไดแ ก จติ ๘๙ รปู ๒๖ (เวนวญิ ญัติรปู ๒) นิพพาน ๗. ข. อเจตสกิ า ธมมฺ า แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร จงจาํ แนกธรรมเหลา นนั้ มาโดยธาตแุ ละสจั จะ ? 46/2, 50/1(8ข), 55/1 ตอบ ข. อเจตสกิ า ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทงั้ หลาย ที่ไมช ื่อวา เจตสิก มอี ยู องคธ รรมไดแ ก จติ ๘๙ รปู ๒๘ นพิ พาน ธรรมเลานี้เมอ่ื จาํ แนกโดยธาตุและสจั จะแลวได ธาตุ ๑๘ สัจจะ ๒ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ นั้น โอฬาริกรูป ๑๒ เปน โอฬารกิ ธาตุ ๑๐, ในจิต ๘๙ น้นั ทวปิ ญจวญิ ญาณจติ ๑๐ เปน ปญ จวิญญาณธาตุ ๕, สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ เปน มโนธาตุ จิตที่เหลอื ๗๖ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ, สขุ ุมรปู ๑๖ นพิ พาน เปนธัมมธาตุ สจั จะ ๒ คอื โลกียจิต ๘๑ รปู ๒๘ เปนทกุ ขสัจจ, นิพพาน เปน นโิ รธสัจจ, โลกุตตรจิต ๘ เปน สัจจวมิ ุต ๗. ในมหนตฺ รทุกนนั้ บททม่ี อี งคธ รรมเปนนามปรมตั ถอ ยา งเดยี ว มกี บี่ ท คอื อะไรบา ง ? 61/2 และจงจาํ แนกเจตสกิ ๕๒ โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 49/1, 51/2 ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ท่ี ขอ มูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 44 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ในมหนฺตรทกุ นน้ั บทท่ีมีองคธรรมเปน นามปรมัตถอยา งเดยี วมี ๘ บท คอื ๑. สารมฺมณา ธมมฺ า. (จิต ๘๙+เจ.๕๒) ๕. จิตตฺ สสํ ฏา ธมมฺ า (เจ.๕๒) ๒. จิตตฺ า ธมมฺ า. (จิต ๘๙) ๖. จิตตฺ สสํ ฏสมุฏานา ธมมฺ า. (๕+๖) (เจ.๕๒) ๓. เจตสกิ า ธมมฺ า. (เจ.๕๒) ๗. จติ ตฺ สสํ ฏสมุฏานสหภโุ น ธมมฺ า. (๕+๖+๗) (เจ.๕๒) ๔. จิตฺตสมปฺ ยตุ ตฺ า ธมฺมา. (เจ.๕๒) ๘. จติ ฺตสํสฏสมุฎานานปุ ริวตฺติโน ธมมฺ า (๕+๖+๘) (เจ.๕๒) เจตสกิ ๕๒ เมื่อจําแนกโดย ขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ไดข นั ธ ๓ อายตนะ ๑ ธาตุ ๑ สจั จะ ๓ .... ๘. ก. จงจําแนกองคธ รรมของ จติ ตฺ สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 48/2, 54/2, 55/1 ตอบ ก. จติ ตฺ สมปฺ ยตุ ตฺ า ธมมฺ า องคธ รรมไดแก เจตสิก ๕๒ ธรรมเหลาน้เี มอ่ื จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได ขันธ ๓ อายตนะ ๑ ธาตุ ๑ สจั จะ ๓ ขนั ธ ๓ คอื ในเจตสิก ๕๒ นนั้ เวทนาเจตสกิ เปน เวทนาขันธ สญั ญาเจตสกิ เปนสญั ญาขันธ เจตสกิ ทเี่ หลือ ๕๐ เปน สังขารขนั ธ อายตนะ ๑ คอื เจตสกิ ๕๒ เปนธมั มายตนะ ธาตุ ๑ คือ เจตสิก ๕๒ เปนธมั มธาตุ สัจจะ ๓ คอื เจตสิก ๕๑ (เวนโลภะ) ที่ในโลกยี จติ ๘๑ เปนทุกขสจั จ, โลภเจตสิก เปนสมทุ ยั สจั จ องคมรรค ๘ หรือ ๗ ท่ีในมัคคจิต ๔ เปน มคั คสัจจ เจตสิกทเ่ี หลอื ๒๘ (เวนองคมรรค ๘) ทใี่ นมัคคจิต ๔ และเจตสกิ ๓๖ ท่ใี น ผลจิต ๔ เปนสจั จวมิ ตุ ๗. จงจาํ แนกองคธ รรมของบทดังตอไปน้ี โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 56/2, 59/2 ก. จติ ฺตสสํ ฏ า ธมมฺ า ตอบ ก. จติ ตฺ สสํ ฏา ธมฺมา องคธรรมไดแก เจตสกิ ๕๒ โดยขันธ ไดเจตสกิ ขันธ ๓ โดยอายตนะ ไดธมั มายตนะ โดยธาตุ ไดธ มั มธาตุ โดยสัจจะ ได ๓ สัจจะ คือ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) ทใี่ นโลกียจติ ๘๑ เปน ทุกขสจั จ โลภเจตสิก เปนสมุทยั สจั จ องคม รรค ๘ หรอื ๗ ทใี่ นมัคคจติ ๔ เปน มัคคสจั จ เจตสิกทีเ่ หลอื ๒๘ (เวน องคมรรค ๘) ทใี่ นมัคคจิต ๔ และเจตสกิ ๓๖ ที่ผลจิต ๔ เปนสัจจวิมุต ๗. จงจาํ แนกองคธรรมของบทดังตอไปนี้ โดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 56/2, 59/2 ข. อุปาทา ธมมฺ า ตอบ ข. อปุ าทา ธมมฺ า องคธรรมไดแก อปุ าทายรูป ๒๔ โดยขันธ ไดร ปู ขนั ธ โดยอายตนะ ได ๑๐ (เวน โผฏฐัพพายตนะ, มนายตนะ) โดยธาตุได ๑๐ (เวน โผฏฐพั พธาต,ุ วิญญาณธาตุ ๗) โดยสจั จะ เปนทกุ ขสัจจ ๗. ทกุ ะที่ทา นอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความในกเิ ลสโคจฉก มกี ่ที กุ ะคอื อะไรบาง ? และจงแปล แสดงองคธ รรมจาํ แนกขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทบาลีวา ? 43/1 ๗. ข. ในโคจฉฺ กอนื่ ๆ นอกจากปรามาสโคจฉฺ กนนั้ ในโคจฉฺ กหนง่ึ ๆ มี ๖ ทกุ ะ อยากทราบวา มโี คจฺฉกอะไรทมี่ ี ๘ ทกุ ะ/ประเภท ? จงบอกชื่อทุกะน้นั ๆ มาดว ย ? 45/1(8), 48/1(7ข), 52/2(8ข), 53/2(7ข), 54/2(8ข), 55/2(7ข) ๗. ข. ในทกุ ะมาติกา กเิ ลสโคจฉฺ ก มที กุ ะกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 60/2 ตอบ โคจฉฺ ก ทมี่ ี ๘ ทกุ ะน้นั มอี ยู ๑ โคจฉก คอื กิเลสโคจฉก กเิ ลสโคจฉก มที ุกะ ๘ ประเภท คือ ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ท่ี ขอ มูลเพิ่มเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 45 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. โคจฉฺ กทีม่ ี ๘ ประเภทนั้น คอื กิเลสโคจฺฉก และชื่อทุกะน้นั ๆ มดี ังน้ี คอื ตอบ (60/2) ข. ในทุกะมาติกา กเิ ลสโคจฉฺ กมีทกุ ะ ๘ ประเภท ดังนี้ ๔. กเิ ลสสมปฺ ยตุ ฺตทุก ๑. กิเลสทุก ๒. สงกฺ ิเลสิกทกุ ๓. สงฺกิลิฏ ทุก ๕. กเิ ลสสงฺกิเลสกิ ทุก ๖. กิเลสสงกฺ ิลิฏ ทกุ ๗. กิเลสกิเลสสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๘. กิเลสวิปฺปยตุ ตฺ สงฺกิเลสกิ ทกุ (โนต : ๑.ชือ่ , ๒.อารมณ, ๓.ถกู -ทํา, ๔.ประกอบ, ๑+๒, ๑+๓, ๑+๔, วปิ +๒ ) ขอ ๘ (ทเี่ คยออกสอบขอ ๘ = ๑๐ คะแนน คราวนี้จะออกขอไหนดี) ๘. ใหอ ธบิ าย คําวา โคจฉฺ ก ? 54/1 โดยสังเขป ? 43/1(10ก) ตอบ คาํ วา โคจฺฉก แปลวา เปน ชอ หรอื เปน พวง เชน ชอ ดอกไม หรอื พวงผลไม ธรรมดาดอกไมหรอื ผลไม ทอ่ี ยใู นชอ หรอื พวงเดยี วกัน ยอมมีการเก่ียวของคลายคลงึ กัน วาโดยศพั ทห รอื เนื้อความตองเกี่ยวเนอ่ื งกันจงึ จะเรยี กวา โคจฉฺ ก (54/1) เชน เหตุโคจฺฉก มีทุกะ ๖ ประเภท ใน ๖ ทกุ ะนั้น วา โดยศพั ท หรอื เนอ้ื ความยอมเกี่ยวขอ ง ซึง่ กันและกนั คอื สเหตุกทกุ และ เหตสุ มฺปยุตตฺ ทุก ทง้ั ๒ น้ี เกี่ยวของกบั ธรรมทเ่ี ปน เหตทุ ง้ั ๖ ในเหตุสเหตุกทกุ น้ี เก่ียวเนื่องกับ เหตุทกุ และ สเหตุทุก เหตุเหตุสมฺปยุตตฺ ทกุ น้ี เกีย่ วเนอ่ื งกับ เหตุทุก และ เหตสุ มปฺ ยตุ ฺตทกุ นเหตุสเหตุกทุก เก่ียวเนอ่ื งกับ เหตทุ ุก และ สเหตกุ ทุก ดังนี้ เปน ตน ๘. จงแสดงบททเี่ ปน ไปโดยอาศยั การประกอบกนั ของมลู ะ มลู ี พรอ มทง้ั แปลและแสดงองคธ รรม ดงั ตอ ไปนี้ ? 46/2 ก. ปฐมบทของ นวี รณยิ ทกุ เปน มลู ะ นวี รณสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เปน มลู ี อารมณ + ประกอบ ข. ทตุ ยิ บทของ กิเลสทกุ เปน มูละ สงกฺ ลิ ฏิ  ทกุ เปน มูลี (ป. ชื่อ) ไมช อ่ื + ถกู -ทาํ ตอบ แสดงบทที่เปนไปโดยอาศยั การประกอบกนั ของ มูละ มูลี พรอ มทัง้ แปลและแสดงองคธ รรม ดงั นี้ ก. นวี รนยิ า ธมมฺ า นีวรณสมปฺ ยตุ ตฺ าป เปน ปฐมบท สภาวธรรมทัง้ หลายท่ีเปน อารมณข องนวิ รณ และ ประกอบดวยนวิ รณม อี ยู องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ นวี รนิยา ธมมฺ า นวี รณวิปฺปยตุ ฺตาป เปน ทุตยิ บท สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเปนอารมณข องนิวรณ แตไ มประกอบดว ยนวิ รณม อี ยู องคธรรมไดแก โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ ข. โน กิเลสา ธมมฺ า สงกฺ ลิ ฏิ  าป เปนปฐมบท สภาวธรรมทั้งหลายทไ่ี มช ือ่ วา กเิ ลส แตถกู กเิ ลสทาํ ใหเศรา หมองเรา รอ น มีอยู องคธ รรมไดแ กอ กุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๑๗ (เวนกิเลสองคธ รรม ๑๐) โนกเิ ลสา ธมฺมา อสงกฺ ลิ ฏิ  าป เปนทุติยบท สภาวธรรมทง้ั หลายทไี่ มช ่ือวากิเลส และไมถ ูกกเิ ลสทาํ ใหเศรา หมองเรา รอ น มอี ยู องคธรรมไดแ ก กศุ ลจิต ๒๑ วปิ ากจติ ๓๖ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสิก ๓๘ รูป ๒๘ นพิ พาน ๘. ก. ในโคจฉฺ กอน่ื ๆ นอกจากปรามาสโคจฉฺ กนนั้ ในโคจฉฺ กหนงึ่ ๆ มที กุ ๖ ประเภท อยากทราบวา มี โคจฉฺ กอะไรทมี่ ที กุ ๘ ประเภท ? จงบอกชอื่ ทกุ ะนน้ั ๆ มาดว ย ? 58/2 ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอมลู เพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 46 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๘. ในกเิ ลสโคจฉฺ ก มีทกุ ะกปี่ ระเภท คืออะไรบา ง ? และจงแปลพรอ มทงั้ แสดงองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี ? 57/1 ก. กเิ ลสา เจว ธมมฺ า สงกฺ เิ ลสกิ า จ. ชื่อ + อารมณ ข. สงฺกลิ ฏิ  า เจว ธมมฺ า โน จ กิเลสา. ถูก-ทํา + ไมช ่อื ค. กเิ ลสวปิ ฺปยตุ ตฺ า โข ปน ธมมฺ า อสงกฺ เิ ลสิกาป. ไมป ระกอบ + ไมอารมณ ตอบ (ก) ในกิเลสโคจฺฉก มที กุ ะ ๘ ประเภทคือ :- ๑. กเิ ลสทกุ ๒. สงกฺ ิเลสิกทุก ๓. สงฺกิลิฏทุก ๔. กเิ ลสสมฺปยุตตฺ ทกุ ๕. กิเลสสงฺกิเลสิกทุก ๖. กิเลสสงกฺ ิลฏิ  ทกุ ๗. กิเลสกเิ ลสสมฺปยุตฺตทุก ๘. กเิ ลสวิปฺปยุตตฺ สงกฺ เิ ลสิกทุก. (โนต : ๑.ชือ่ ๒.อารมณ ๓.ถูก-ทาํ ๔.ประกอบ ๑+๒ ๑+๓ วปิ +๒ ) และแปลพรอ มทั้งแสดงองคธรรมในบทตอ ไปน้ี มีดังนี้ ก. สภาวธรรมท้ังหลายทช่ี ่ือวา กเิ ลส และเปนอารมณของกเิ ลสมีอยู. องคธรรม ไดแก กเิ ลสองคธ รรม ๑๐ คอื โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจกิ ิจฉา ถีนะ อุทธจั จะ อหิรกิ ะ อโนตตัปปะ. ข. สภาวธรรมทง้ั หลายทถี่ ูกกเิ ลสทําใหเศรา หมอง เรา รอน แตไมช อื่ วา กเิ ลสมีอย.ู องคธรรม ไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๑๗ (เวน กิเลสองคธ รรม ๑๐) ค. สภาวธรรมทัง้ หลายที่ไมประกอบดว ยกิเลสและไมเปน อารมณของกิเลสมีอย.ู องคธรรม ไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน. ๘. ใหแ สดงบทโดย อนโุ ลม ปฏโิ ลม โดยยกเอา ? 48/1, 50/2, 53/1, 55/2, 58/2(ข), 60/2, 61/1, 61/2, 63/2 ก. ปฐมบทของ สงฺกเิ ลสกิ ทกุ เขาใน กเิ ลสทุก ชอ่ื +อารมณ ๑+๒ ข. ปฐมบทของ สงฺกลิ ฏิ  ทกุ เขา ใน กเิ ลสทกุ ชื่อ+ถูก-ทาํ ๑+๓ ค. ปฐมบทของ กิเลสสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เขา ใน กเิ ลสทกุ ช่อื +ประกอบ ๑+๔ ตอบ แสดงบท โดย อนโุ ลม และปฏิโลม คือ ก. ปฐมบทของ สงฺกิเลสกิ ทกุ เขาใน กเิ ลสทกุ อนุโลม กิเลสา เจว ธมมฺ า สงกฺ ิเลสิกา จ ปฏโิ ลม สงฺกเิ ลสิกา เจว ธมฺมา โน จ กเิ ลสา. ข. ปฐมบทของ สงฺกลิ ฏิ  ทกุ เขาใน กเิ ลสทกุ อนโุ ลม กเิ ลสา เจว ธมฺมา สงกฺ ลิ ิฏา จ ปฏิโลม สงกฺ ิลิฏ า เจว ธมฺมา โน จ กิเลสา. ค. ปฐมบทของ กเิ ลสสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เขา ใน กิเลสทกุ อนโุ ลม กิเลสา เจว ธมฺมา กิเลสสมปฺ ยุตตฺ า จ ปฏิโลม กเิ ลสสมฺปยุตตฺ า เจว ธมมฺ า โน จ กเิ ลสา. ๘. ก. จงแสดงชอื่ ทกุ ท่ี ๑ ถงึ ทกุ ท่ี ๑๓ ในปฏ ทกุ มาตามลาํ ดบั ? 45/2 ๘. ก. ในปฏ ทกุ มีทุกะกปี่ ระเภท คอื อะไรบา ง ? 49/2, 51/1, 52/1, 56/1 ใหแ สดงมาโดยลาํ ดบั ? 48/2(8ข), 55/1(8ข), 60/1, 62/1 ตอบ (45/2) ก. แสดงชือ่ ทกุ ท่ี ๑ ถึงทุกท่ี ๑๓ ในปฏฐิทกุ มาตามลาํ ดับ ดงั นี้  (48/2) ข. ในปฏ ทุก มีทกุ ะ ๑๘ ประเภท คอื ๑. ทสเฺ นนปหาตพฺพทกุ ๖. สวิจารทกุ ๑๑. กามาวจรทกุ ๑๖. นิยตทกุ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิม่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 47 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๒. ภาวนายปหาตพพฺ ทุก ๗. สปฺปตกิ ทุก ๑๒. รปู าวจรทกุ ๑๗. สอุตฺตรทกุ ๓. ทสสฺ เนนปหาตพฺพเหตุกทุก ๘. ปต ิสหคตทกุ ๑๓. อรูปาวจรทุก ๑๘. สรณทุก ๔. ภาวนายปหาตพพฺ เหตุกทกุ ๙. สขุ สหคตทุก ๑๔. ปรยิ าปนฺนทกุ ๕. สวิตกฺกทกุ ๑๐. อุเปกฺขาสหคตทุก ๑๕. นิยฺยานิกทกุ (ทองยอ : ทัส ภา ทัส ภา สวติ กั กะ สวิจาร สปั ปต กิ ปต ิ สุข อุเบกขาสหคต กามาวจระ รูปาฯ อรูปาฯ ปป นน น ส ส) ๘. ในปฏ ทกุ มีทกุ ะกป่ี ระเภทคอื อะไรบา ง? 43/1ส(3) และจงแปลแสดงองคธ รรม จาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะในบาลดี งั ตอ ไปน้ี น กามาวจรา ธมมฺ า ? 44/2 ๘. ใน ปฏ  ท กุ มที กุ ะกป่ี ระเภท คืออะไรบา ง? ใหแสดงมาตามลาํ ดบั และ น กามาวจรา ธมฺมา แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ใหจ าํ แนกองคธ รรมเหลา นนั้ โดยสจั จะ ? 47/2 ตอบ ในปฏฐิทกุ มที ุกะ ๑๘ ประเภท คือ  แปลและแสดงองคธรรมจาํ แนกขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ ในบาลวี า น กามาวจรา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมท้งั หลายทไี่ มช ือ่ วา กามาวจร มีอยู องคธ รรมไดแ ก มหคั คตจติ ๒๗ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๘ นพิ พาน ธรรมเหลา นเ้ี มือ่ จําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลวไดขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สจั จะ ๓ ขันธ ๔ คอื ในเจตสิก ๓๘ นัน้ เวทนาเจตสิก เปนเวทนาขันธ สัญญาเจตสิก เปน สัญญาขันธ เจตสิกทเี่ หลือ ๓๖ เปนสังขารขันธ มหัคคตจติ ๒๗ โลกตุ ตรจติ ๘ เปนวญิ ญาณขนั ธ นิพพาน เปน ขันธวมิ ตุ อายตนะ ๒ คอื มหัคคตจติ ๒๗ โลกุตตรจิต ๘ เปน มนายตนะ เจตสิก ๓๘ นพิ พาน เปนธัมมายตนะ ธาตุ ๒ คอื มหคั คตจิต ๒๗ โลกตุ ตรจิต ๘ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๘ นิพพาน เปน ธัมมธาตุ สจั จะ ๓ คือ มหคั คตจิต ๒๗ เจตสกิ ๓๕ (เวน วริ ตี ๓) เปน ทกุ ขสจั จ, นิพพาน เปน นโิ รธสจั จ, องคม รรค ๘ หรอื ๗ ทใี่ นมคั คจติ ๔ เปน มัคคสัจจ, มคั คจิตตุปบาทที่เหลือ ๒๙ ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปนสัจจวิมุต (47/2) และ น กามาวจรา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายท่ีไมชอื่ วา กามาวจรมอี ยู องคธรรมไดแก มหคั คตจติ ๒๗ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๘ นพิ พาน ธรรมเหลา นีเ้ มือ่ จําแนกโดยสจั จะแลว ไดส จั จะ ๓, สัจจะ ๓ คือ  ๘. ใน ปฏ ฐ ทิ ุก มที กุ ะกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง? จงแปลและแสดงองคธ รรม จําแนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ สรณา ธมมฺ า. ? 57/2, 59/1 ๘. (ข) จงแปลและแสดงองคธ รรม จําแนก ขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ สรณา ธมมฺ า. ? 51/1, 52/1, 56/1 ๘. ข. สรณา ธมฺมา. แปลวาอยางไร? องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? จงจาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะ ? 56/1 และ อนตุ ฺตรา ธมมฺ า แปลวา อยา งไร องคธ รรม ไดแ กอ ะไร ใหจ าํ แนกมาโดย ธาตุ และสจั จะ ? 54/1 ๘. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี สรณา ธมมฺ า, อรณา ธมมฺ า ? 62/1 ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอ มูลเพิม่ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 48 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ในปฏฐิทุก มที กุ ะ ๑๘ ประเภทคอื  (51/1, 52/1) แปลและแสดงองคธ รรมจาํ แนก ขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ สรณา ธมฺมา. แปลวา สภาวธรรมท้ังหลายท่เี กิดพรอ มดวย กเิ ลส มีราคะ เปน ตน ทเ่ี ปนเหตุใหสตั วท ้ังหลายรองไห มอี ยู. องคธรรมไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ธรรมเหลานี้เม่ือจําแนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลวไดขันธ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ สัจจะ ๒ ขนั ธ ๔ คอื ในเจตสกิ ๒๗ นนั้ เวทนาเจตสกิ เปน เวทนาขันธ สญั ญาเจตสกิ เปนสัญญาขันธ เจตสกิ ที่เหลอื ๒๕ เปนสงั ขารขันธ อกศุ ลจิต ๑๒ เปนวิญญาณขนั ธ อายตนะ ๒ คอื อกุศลจติ ๑๒ เปน มนายตนะ เจตสกิ ๒๗ เปนธมั มายตนะ ธาตุ ๒ คอื อกุศลจติ ๑๒ เปนมโนวิญญาณธาตุ เจตสกิ ๒๗ เปน ธมั มธาตุ สัจจะ๒ คอื อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๖ (เวน โลภะ)เปนทกุ ขสัจจ โลภเจตสิก เปนสมุทัยสัจจ อรณา ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลายท่ีไมเกดิ พรอมกิเลส มีราคะ เปนตน มีอยู องคธรรมไดแ ก กศุ ลจิต ๒๑ วปิ ากจิต ๓๖ เจตสิก ๓๘ รูป ๒๘ นพิ พาน (54/1) และอนตุ ฺตรา ธมฺมา. แปลวา สภาวธรรมทัง้ หลายที่ไมมีภาวธรรมที่ยง่ิ กวา ตนมีอยู องคธรรม ไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน ธรรมเหลาน้ี เมอ่ื จาํ แนก โดยธาตแุ ละสจั จะแลว ไดธาตุ ๒ สจั จะ ๒ ธาตุ ๒ คอื โลกตุ ตรจิต ๘ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ, เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน เปน ธัมมธาตุ สจั จะ ๒ คอื นพิ พาน เปน นิโรธสจั จ องคมรรค ๘ หรอื ๗ ท่ีในมคั คจิต ๔ เปนมัคคสจั จ มคั คจติ ตุปบาทท่ีเหลือ ๒๙ ผลจิตตปุ บาท ๓๗ เปนสจั จวิมุต. ๘. ข. ปรยิ าปนนฺ า ธมฺมา, นยิ ฺยานกิ า ธมมฺ า, นยิ ตา ธมฺมา, สอุตตฺ รา ธมฺมา, สรณา ธมมฺ า ธรรมเหลา นม้ี ีความหมายวา อยางไร ? ไมต อ งแสดงองคธ รรม ? 45/2 ตอบ ข. แปลดังตอ ไปน้ี / แปลและแสดงองคธ รรมดังตอ ไปน้ี ปรยิ าปนฺนา ธมมฺ า / นิยยฺ านกิ า ธมมฺ า / นยิ ตา ธมฺมา สภาวธรรมท้ังหลาย ท่ี  มีอยู สอุตตฺ รา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลาย ทีย่ งั มีภาวธรรมที่ยงิ่ กวาตน มอี ยู สรณา ธมฺมา สภาวธรรมท้ังหลาย ทีเ่ กิดพรอ มดวยกเิ ลสมีราคะเปนตน ทเี่ ปนเหตุใหสตั วท ้ังหลายรอ งให มอี ยู ๘. จงแปลและแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี ? ก. ปรยิ าปนนฺ า ธมมฺ า.43/2, 46/1, 49/1, 53/2, 56/2, 59/2 ข. นยิ ฺยานกิ า ธมมฺ า.43/2, 46/1, 49/1, 53/2, 56/2, 59/2 ค. อนยิ ยฺ านกิ า ธมมฺ า 43/2, 46/1, 49/1, 53/2, 56/2, 59/2 ง. อนตุ ตฺ รา ธมฺมา.46/1, 49/1, 53/2, 56/2, 59/2 จ. สรณา ธมฺมา 46/1, 49/1, 53/2, 56/2, 60/1 จ. อรณา ธมมฺ า 59/2, 60/1 ง. นยิ ตา ธมมฺ า 43/2 ตอบ แปลและแสดงองคธ รรมในบทตอไปนี้ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอมลู เพมิ่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 49 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ก. ปรยิ าปนนฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลาย ที่นับเนือ่ งเขา ใน สังสารวฏั ฏ มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกยี จติ ๘๑ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ ข. นิยยฺ านิกา ธมมฺ า สภาวธรรมทงั้ หลาย ที่เปน เหตุใหออกจากสังสารวฎั ฎ มอี ยู องคธรรมไดแ ก มรรคจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ ค. อนิยฺยานกิ า ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลาย ที่ไมเ ปนเหตุใหอ อกจากสังสารวฏั ฏ มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกยี จิต ๘๑ ผลจติ ๔ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ง. อนตุ ฺตรา ธมมฺ า. สภาวธรรมทัง้ หลายที่ไมมภี าวธรรมทยี่ ง่ิ กวา ตน มอี ยู องคธรรมไดแก โลกุตตรจิต ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน ง. นิยตา ธมฺมา สภาวธรรมท้งั หลายทีใ่ หผลแนน อนในลําดับแหงจุติ หรอื ในลําดับแหงตน มีอยู (43/2) องคธรรมไดแก ชวนะดวงท่ี ๗ ของทฏิ ฐคิ ตสมั ปยุตตจติ ๔ ท่เี กดิ ขึน้ ดว ยอํานาจแหง นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม เจตสิก ๒๑ ชวนะดวงท่ี ๗ ของโทสมูลจติ ๒ ท่ีเกิดขึ้นดวย อาํ นาจแหงปญ จานนั ตรยิ กรรม เจตสกิ ๒๒ และมรรคจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ จ. สรณา ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายทเี่ กดิ พรอ มดวยกิเลสมีราคะเปนตน ท่ีเปนเหตุใหสัตวท ้ังหลายรอง ให มอี ยู องคธ รรมไดแก อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ จ. อรณา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายทไ่ี มเ กิดพรอมดว ยกเิ ลสมีราคะ เปน ตน มีอยู องคธ รรมไดแก กศุ ลจติ ๒๑, วิปากจิต ๓๖, กรยิ าจิต ๒๐ เจตสิก ๓๘, รปู ๒๘, นิพพาน ๘. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรมพรอ มทงั้ จาํ แนกโดยธาตุ และสจั จะใน นยิ ยฺ านิกทกุ ? 49/2 ตอบ ข. แปลและแสดงองคธ รรมพรอมท้งั จําแนก โดยธาตุ และสจั จะดังตอไปน้ี นยิ ยฺ านกิ ทุก ปฐมบท นิยยฺ านกิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทง้ั หลายที่เปนเหตุใหออกจากสังสารวฏั ฏมอี ยู องคธ รรมไดแ ก มคั คจิต ๔ เจตสิก ๓๖ ธรรมเหลานี้ เม่ือจําแนกโดยธาตุ และ สจั จะ แลวได ธาตุ ๒ สัจจะ ๑ ธาตุ ๒ คอื มคั คจติ ๔ เปนมโนวญิ ญาณธาตุ เจตสิก ๓๖ เปนธัมมธาตุ สจั จะ ๑ คอื องคม รรค ๘ หรือ ๗ ทใ่ี นมัคคจิต ๔ เปนมัคคสจั จ มคั คจติ ตปุ บาทที่เหลือ ๒๙ เปน สัจจวมิ ุต ทตุ ยิ บท อนยิ ยฺ านิกา ธมมฺ า. สภาวธรรมทง้ั หลายที่ไมเ ปนเหตุใหออกจากสังสารวัฏฏมอี ยู องคธรรมไดแก โลกยี จติ ๘๑ ผลจติ ๔ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ธรรมเหลาน้ีเมือ่ จําแนกโดย ธาตุ และ สจั จะ แลว ได ธาตุ ๑๘ สจั จะ ๓ ธาตุ ๑๘ คอื ในรูป ๒๘ นั้นโอฬารกิ รปู ๑๒ เปนโอฬารกิ ธาตุ ๑๐, ในโลกยี จติ ๘๑ น้ันทวปิ ญจวิญญาณจิต ๑๐ เปน ปญ จวิญญาณธาตุ ๕, สมั ปฏิจฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ เปนมโนธาตุ, โลกยี จิตท่ี เหลอื ๖๘ ผลจติ ๔ เปนมโนวิญญาณธาตุ, เจตสกิ ๕๒ สขุ ุมรปู ๑๖ นิพพาน เปนธมั มธาตุ สัจจะ ๓ คอื โลกียจติ ๘๑ เจตสิก ๕๑ (เวนโลภะ) รูป ๒๘ เปนทุกขสจั จ, โลภเจตสกิ เปน สมุทยั สจั จ, นพิ พานเปน นโิ รธสจั จ, ผลจิตตุปบาท ๓๗ เปนสัจจวมิ ตุ ขอ ๙ (ท่เี คยออกสอบขอ ๙ = ๑๐ คะแนน คราวน้จี ะออกขอ ไหนดี) ดาวนโหลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอมูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓