Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3 เครื่องเจาะ

บทที่ 3 เครื่องเจาะ

Published by seksan sriyos, 2019-08-29 23:35:43

Description: เครื่องเจาะ

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการจดั การเรยี นการสอน ช่อื วิชา : ทฤษฎเี ครอื่ งมอื กล รหัสวิชา : 2102-2003 บทท่ี 3 เครอ่ื งเจาะ (Drilling Machine) ตรงตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 สาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เรยี บเรียงโดย นายเสกสรร ศรยี ศ

บทที่ 3 เครื่องเจาะ (Drilling Machine) สาระสาํ คัญ เคร่ืองเจาะ (Drilling Machine) เปนเครื่องมือกลที่ใชงานกันอยางแพรหลายในงานอุตสาหกรรม การผลิตช้ินสวน งานซอมบํารุง เปนตน การใชเคร่ืองเจาะโดยท่ัวไปมีวัตถุประสงคหลัก คือ ใชเจาะเพื่อทํา ใหเ กิดรูเจาะท่ชี น้ิ งาน ซ่งึ บทเรียนน้จี ะศกึ ษาเก่ยี วกับลกั ษณะการทํางานของเคร่ืองเจาะชนิดหลักการทํางาน สวนประกอบและหนาท่ีท่ีสําคัญของเครื่องเจาะ เครื่องมือตัดสําหรับเคร่ืองเจาะ อุปกรณท่ีใชรวมกับเคร่ือง เจาะ การคํานวณความเร็วรอบ ความเร็วตัด และอัตราปอนในงานเจาะ วิธีการเจาะรูดวยเคร่ืองเจาะ ขั้นตอนการใชและการบํารุงรักษาเคร่ืองเจาะ เพื่อใหผูศึกษามีความรู ความเขาใจ สามารถใชเคร่ืองเจาะได อยางถกู ตอ งและปลอดภัย เนื้อหา 1. ลักษณะการทาํ งานของเคร่อื งเจาะ 2. ชนดิ ของเครื่องเจาะ 3. เครอื่ งเจาะต้ังโตะ 4. เครอื่ งเจาะตั้งพ้ืน 5. เครอื่ งเจาะรศั มี 6. เครอ่ื งเจาะเพลานอน 7. เคร่อื งเจาะหลายเพลา 8. เครอ่ื งมือตัดสาํ หรับเคร่ืองเจาะ 9. อุปกรณที่ใชก บั เคร่ืองเจาะ 10. ความเร็วรอบ ความเร็วตัดและอัตราปอ นในงานเจาะ 11. วิธีการเจาะรดู วยเครือ่ งเจาะ จุดประสงคข องบทเรียน 1. อธิบายลกั ษณะการทํางานของเครื่องเจาะได 2. ระบชุ นดิ ของเครื่องเจาะได 3. บอกชื่อและหนา ทข่ี องสว นประกอบที่สําคัญของเคร่ืองเจาะได 4. บอกชื่อและหนา ท่ีของเคร่อื งมือตดั สําหรับงานเจาะได 5. บอกช่ือและหนา ที่ของอปุ กรณจ บั ยึดและถอดเครอ่ื งมือตัดได 6. คํานวณความเร็วรอบ ความเร็วตัด และอัตราปอ นในงานเจาะได 7. อธิบายขั้นตอนการใชงานของเคร่ืองเจาะได 8. อธิบายวิธกี ารเจาะรดู วยเครอ่ื งเจาะได 9. บอกวธิ ีการบาํ รงุ รกั ษาเครอ่ื งเจาะได

2 1. ลกั ษณะการทาํ งานของเคร่อื งเจาะ เครื่องเจาะที่ใชง านโดยทว่ั ไปมลี ักษณะการทํางานคลายคลึงกัน คือ ใชดอกสวานหมุนและเคล่ือนท่ี ตดั ลงไปในวัสดชุ ิน้ งานเพือ่ ทําใหเ กิดรหู รือเรียกวาการเจาะรู ดังภาพที่ 3.1 ทศิ ทางการหมนุ ดอกสวาน ปากกาจบั งาน ทิศทางการ ปอ นเจาะ ดอกสวาน ชิ้นงาน ภาพที่ 3.1 ลักษณะการทาํ งานของเครอื่ งเจาะ ในการเจาะงานมีลักษณะของการเจาะ 2 ลักษณะ คือ การเจาะทะลุ และการเจาะไมทะลุ ดังภาพ ที่ 3.2 (ก) การเจาะทะลุ (ข) การเจาะไมท ะลุ (ก) การเจาะทะลุ (ข) การเจาะไมท ะลุ ภาพที่ 3.2 ลกั ษณะของการเจาะ นอกเหนือจากการเจาะดวยดอกสวานแลว เครื่องเจาะยังสามารถทํางานไดอีกหลายรูปแบบ ดัง ภาพท่ี 3.3 (ก) การควานเรียบ (Reaming) (ข) การตาปเกลียว (Tapping) (ค) การเจาะฝงหัวสกรู (Counterboring) (ง) การผายปากรู (Countersinking) (จ) การเจาะนําศูนย (Centering) และ (ฉ) การ ทําใหผวิ หนา เฉพาะตาํ แหนงเรยี บ (Spot Facing)

3 (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฉ) ภาพท่ี 3.3 การปฏบิ ตั ิงานบนเครื่องเจาะ 2. ชนิดของเครอื่ งเจาะ เครื่องเจาะท่ีใชในงานอุตสาหกรรมมีหลายชนิด เชน เครื่องเจาะต้ังโตะ เคร่ืองเจาะต้ังพ้ืน เคร่ือง เจาะรัศมี เครือ่ งเจาะหลายเพลา และเครอ่ื งเจาะแนวนอน ดงั ภาพท่ี 3.4 (ก) เครือ่ งเจาะตัง้ โตะ (ข) เครือ่ งเจาะต้ังพื้น

4 (ค) เครอ่ื งเจาะรศั มี (ง) เครื่องเจาะหลายเพลา (จ) เคร่ืองเจาะแนวนอน ภาพท่ี 3.4 ชนิดของเคร่อื งเจาะแบบตา ง ๆ 3. เคร่ืองเจาะตัง้ โตะ (Bench Drilling Machine) 3.1 หลกั การทาํ งานของเคร่ืองเจาะตง้ั โตะ เคร่ืองเจาะตั้งโตะเปนเคร่ืองเจาะที่มีขนาดเล็ก เจาะรูขนาดไมเกิน 13 มม. จะมีความเร็ว รอบสูงใชเ จาะงานท่มี ขี นาดเล็กทั่วๆ ไป เคร่อื งเจาะตง้ั โตะ มีหลกั การทํางาน คอื เม่ือเปดสวติ ชใหม อเตอรขบั ทาํ งาน มอเตอรก จ็ ะหมุนและสง กําลังไปยงั เพลาขับของลอสายพานทป่ี ระกอบอยกู บั ชดุ หัวเคร่ือง และจะทํา ใหส ายพานหมนุ พรอ มกบั ขับใหล อสายพานตวั ตามซึง่ ตอ ตรงกบั แกนเพลาเครื่องเจาะหมุนไปพรอมกับหัวจับ ดอกสวานที่จับยึดดอกสวานดวย จากน้ันหมุนแขนของมือหมุนปอนเจาะลงเพื่อใหดอกสวานหรือเคร่ืองมือ ตัดเจาะช้ืนงาน เครื่องเจาะต้ังโตะโดยทั่วไปจะมี 2 แบบ คือ เครื่องเจาะตั้งโตะแบบไมมีโตะงาน และเครื่อง เจาะต้ังโตะแบบมีโตะ งาน ดังภาพที่ 3.5

5 (ก) แบบไมมโี ตะ งาน (ข) แบบมีโตะ งาน ภาพที่ 3.5 เครือ่ งเจาะต้ังโตะ 3.2 สวนประกอบและหนาท่ที ีส่ ําคัญของเครื่องเจาะตั้งโตะ เครอ่ื งเจาะต้งั โตะ มสี วนประกอบและหนาทท่ี ี่สําคญั ดงั ภาพท่ี 3.6 โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ ชุดหัวเครื่อง โตะ งาน เสาเครื่อง ฐานเครอื่ ง แขนจับยึดโตะงาน แกนเพลาขบั โตะงานขึน้ -ลง ภาพที่ 3.6 สวนประกอบของเครื่องเจาะตั้งโตะ 3.2.1 ชุดหัวเคร่ือง (Drilling Head) ติดตั้งอยูบนสุดของเสาเครื่องเจาะมีสวนประกอบ ตา งๆ ทีส่ าํ คัญดงั ภาพท่ี 3.7 ดังนี้ ฝาครอบสายพาน มอเตอร สวิตชเปด -ปด มือหมุนปอ นเจาะ แกนเพลาหมุน หัวจบั ดอกสวา น ภาพที่ 3.7 สวนประกอบของชดุ หวั เครอื่ งเจาะต้งั โตะ

6 1) ฝาครอบลอสายพาน (Pulley Guard) ทําหนาท่ีครอบลอสายพานและ สายพานทใ่ี ชในการสงกาํ ลังเพือ่ ปองกันไมใหเ กดิ อนั ตรายจากการทาํ งานของเครอื่ งเจาะ 2) หัวจับดอกสวาน (Drill Chuck) ทําหนาท่ีจับดอกสวานกานตรง สวนใหญใช จบั ดอกสวา นทม่ี ขี นาดไมเกิน 1/2 นิว้ หรือ 12.7 มิลลิเมตร 3) มอเตอร (Motor) ทําหนาที่เปนตนกําลังของเคร่ืองเจาะโดยสงกําลังผาน สายพานไปยงั แกนเพลาหมุน 4) แกนเพลาหมุน (Spindle) ภายในเปนรูเรียวใชจับยึดกานเรียวของหัวจับดอก สวานหรือจบั กานเรยี วของดอกสวา นทมี่ ีขนาดโตกวา 1/2 นิว้ หรอื 12.7 มิลลิเมตร 5) มือหมุนปอ นเจาะ (Hand Feed Level) ใชหมนุ เพอื่ ปอนเจาะรูชิ้นงาน 6) สวิตชเปด -ปด (Switch ON-OFF) ทาํ หนาท่เี ปด-ปดการทํางานของมอเตอร 3.2.2 โตะ งาน (Table) สวนใหญท ําจากเหล็กหลอ ทําหนา ทรี่ องรับชิ้นงานท่ีจะนํามาเจาะ หรืออุปกรณสําหรับจับยึดชิ้นงาน เชน ปากกาจับงาน เปนตน นอกจากนี้โตะงานสามารถเล่ือนขึ้น-ลงได ตามเสาเคร่ืองโดยการหมนุ แขนสงกาํ ลงั ดว ยชดุ เฟอ งสะพาน (เครอ่ื งเจาะตัง้ พื้นบางรุนอาจไมม ีโตะงาน) 3.2.3 เสาเคร่ือง (Column) ทําจากเหล็กหลอ มีลักษณะเปนทรงกระบอกกลวงยึดติดกับ ฐานเคร่อื งเจาะ ทําหนา ทรี่ องรับชุดหัวเครือ่ งเจาะและโตะงาน 3.2.4 ฐานเคร่ือง (Base) ทําจากเหล็กหลอ ทําหนาท่ีรองรับนํ้าหนักท้ังหมดของเคร่ือง เจาะและใชส าํ หรบั ยึดตดิ กับโตะ เพื่อเพิม่ ความสูงใหเหมาะสมสาํ หรับการปฏิบัติงาน 3.3 ขัน้ ตอนการใชงานเคร่อื งเจาะตง้ั โตะ 3.3.1 เตรียมเครอื่ งมอื และอปุ กรณป ระจําเครื่องเจาะใหพรอ ม 3.3.2 ตรวจสอบสภาพความพรอมของเครื่องเจาะกอนปฏิบัติงานหากพบขอผิดพลาดให แจง ครผู คู วบคมุ ทราบทันที เพ่ือทาํ การซอ มบาํ รงุ กอนใชง าน 3.3.3 รางแบบชิ้นงานเพื่อหาจุดศูนยกลางของรูเจาะจากน้ันตอกนําศูนยลงบนชิ้นงาน ตรงตําแหนงจดุ ศูนยกลางของรเู จาะทรี่ า งแบบไว 3.3.4 จับยึดชิ้นงานบนเคร่ืองเจาะใหแนนมั่นคงและแข็งแรง โดยเลือกอุปกรณจับยึดที่ เหมาะสมกบั รปู ทรงของชน้ิ งาน 3.3.5 ประกอบหัวจับดอกสวานเขากับแกนเพลาของเคร่ืองเจาะ แลวจับยึดดอกเจาะนํา ศูนยเ ขา กบั หวั จบั ดอกสวา นใหแนน 3.3.6 ปรบั ความเรว็ รอบใหถ กู ตอง ซ่ึงไดจ ากการคาํ นวณหรือจากตารางความเร็วรอบ 3.3.7 เปด สวิตชเคร่ืองเจาะ แลวเจาะนําศูนยลงบนตาํ แหนง ท่ตี อกนําศูนยไว 3.3.8 ปดสวิตชเคร่ืองเจาะแลวเปล่ียนดอกสวานที่ตองการเจาะรู (ในการเจาะรูควรเจาะ จากดอกสวา นขนาดเลก็ ไปหาดอกสวานขนาดใหญ) 3.3.9 ปรับความเร็วรอบใหถกู ตอง 3.3.10 เปดสวิตชเครื่องเจาะแลวทําการเจาะรูชิ้นงานตามความลึกท่ีตองการ (ขณะเจาะ ใหหลอเย็นเพ่ือระบายความรอ นใหกบั ชิ้นงานและดอกสวา น) 3.3.11 ปด สวิตชเ ครือ่ งเจาะแลว ถอดชิ้นงานและดอกสวานออกจากเครือ่ งเจาะ 3.3.12 ทําความสะอาดเครือ่ งเจาะ เครือ่ งมือ อปุ กรณแ ละชโลมนํา้ มนั ปอ งกันสนมิ

7 3.4 การบํารงุ รกั ษาเครือ่ งเจาะต้งั พ้นื 3.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จุดตอ สายไฟฟา ใหอ ยูในสภาพทส่ี มบรู ณตลอดเวลา 3.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟงเสียงของมอเตอรขณะหมุนมเี สยี งดงั ผิดปกตหิ รือไม 3.4.3 ทาจาระบีท่ีเฟองสะพานและแกนเพลาทกุ หกเดือน 3.4.4 ตรวจสอบการคลายตัวของสกรตู าํ แหนง ทีม่ กี ารจบั ยดึ ทุกหกเดอื น 3.4.5 หลังเลกิ ใชงานใหทําความสะอาดและชโลมน้ํามันบางๆ ตามเสาเคร่ืองเจาะ โตะงาน และแขนหมุนตางๆเพื่อปอ งกันสนิมเปนตน 4. เคร่อื งเจาะต้งั พ้ืน (Floor Drilling Machine) เครอื่ งเจาะตง้ั พนื้ เปนเคร่อื งเจาะที่มขี นาดใหญกวาเคร่ืองเจาะต้ังโตะ บริเวณฐานของเคร่ืองเจาะตั้ง พ้ืนจะยาวและใหญกวาเครื่องเจาะแบบต้ังโตะ โดยฐานเคร่ืองเจาะจะถูกติดต้ังบนพื้นโรงงาน เคร่ืองเจาะ ชนิดนี้ใชระบบสงกําลัง 2 ระบบ คือ สงกําลังดวยระบบพูเลหสายพาน และสงกําลังดวยระบบชุดเฟองทด ดังภาพท่ี 3.8 (ก) สงกําลงั ดว ยระบบพเู ลห สายพาน (ข) สง กาํ ลงั ดว ยระบบชดุ เฟอ งทด ภาพที่ 3.8 เครื่องเจาะแบบตง้ั พ้นื 4.1 หลกั การทํางานของเครอื่ งเจาะต้ังพ้นื เคร่ืองเจาะต้ังพื้นมีหลักการทํางาน คือเมื่อเปดสวิตชใหมอเตอรขับทํางาน มอเตอรก็จะ หมุนและสงกําลังขับไปยังชุดเฟองทดท่ีประกอบอยูในชุดหัวเครื่อง และชุดเฟองทดก็จะสงกําลังไปยัง แกนเพลาของเครื่องเจาะหมุนไปพรอมกับหัวจับดอกสวานที่จับยึดดอกสวานดวย จากนั้นหมุนแขนของมือ หมุนปอ นเจาะลงเพอ่ื ใหดอกสวานหรอื เคร่อื งมือตดั เจาะชืน้ งาน

8 4.2 สว นประกอบและหนาทีท่ ีส่ ําคญั ของเครอ่ื งเจาะตั้งพนื้ เครอ่ื งเจาะต้ังพืน้ มสี วนประกอบและหนา ท่ีทสี่ าํ คญั ดังภาพที่ 3.9 โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ชุดหวั เคร่ือง คนั ปอน เสาเครอื่ ง เพลา มอื หมนุ ปรบั ระดบั โตะรองรบั โตะ รองรับงาน ฐานเครอ่ื ง ภาพที่ 3.9 สวนประกอบของเครอ่ื งเจาะตง้ั พ้นื 4.2.1 ชุดหัวเคร่ือง จะติดตั้งอยูบนสุดของเสาเคร่ืองเจาะ โดยเคร่ืองเจาะแบบตั้งพ้ืนน้ีจะมี ชุดหัวเคร่ืองอยู 2 แบบ คือ แบบสงกําลังดวยระบบพูเลหสายพาน และแบบสงกําลังดวยระบบชุดเฟองทด โดยแตล ะชุดมีสว นประกอบทส่ี ําคญั เหมอื นกัน คือ ชดุ สงกําลงั และชุดปอน ดังภาพที่ 3.10 ชุดสง กําลงั ชุดปอน เจาะ (ก) ชดุ หวั เครอื่ งสงกาํ ลงั ดวยระบบพูเลหส ายพาน

9 ชุดสงกําลงั ชุดปอ นเจาะ (ข) ชดุ หัวเครือ่ งสง กาํ ลังดว ยระบบเฟอ งทด ภาพที่ 3.10 สว นประกอบของชุดหวั เครอ่ื งเจาะตง้ั พ้นื 4.2.1.1 ชดุ สง กําลงั หรือระบบสง กาํ ลัง (Power Transmission) เครือ่ งเจาะชนิด นี้จะมีระบบสงกําลังอยู 2 แบบ คือ ระบบสงกําลังดวยสายพาน และระบบสงกําลังดวยเฟอง ดังภาพท่ี 3.11 (ก) ชุดหัวเครื่องสง กําลังดว ยระบบพูเลห สายพาน (ข) ชดุ หวั เครื่องสงกาํ ลงั ดวยระบบเฟอ งทด ภาพท่ี 3.11 ชุดสงกําลังเครือ่ งเจาะตง้ั พื้น 4.2.1.2 ชุดปอนเจาะ (Feed Unit) เปนชุดท่ีจะทําใหการเจาะลงไปในเน้ืองาน โดยการควบคุมชดุ ปอ นเจาะซ่ึงชดุ ปอ นเจาะนแ้ี บง ออกเปน 2 ระบบ คอื การปอนเจาะดวยมือ และการปอน เจาะดว ยระบบอตั โนมัติ ดงั ภาพท่ี 3.12

10 สายพานสงกําลัง คนั ปอนเจาะ เฟองตรง เพลาจับดอกสวาน เฟองสะพาน ทิศทางการปอ นเจาะ (ก) ชุดปอ นเจาะดวยมอื ชุดปอ นเจาะอัตโนมตั ิ (ข) ชดุ ปอ นเจาะอัตโนมัติ ภาพท่ี 3.12 ชุดปอ นเจาะของเคร่อื งเจาะ 4.2.2 โตะงาน สวนใหญทําจากเหล็กหลอ ทําหนาที่รองรับชิ้นงานที่จะนํามาเจาะหรือ อุปกรณสําหรับจับยึดช้ินงาน เชน ปากกาจับงาน เปนตน โตะรองรับงานของเครื่องเจาะชนิดต้ังพื้นจะมีอยู 2 แบบ คือ แบบกลมและแบบสี่เหลี่ยม ดังภาพท่ี 3.13 แทนรองรับงานจะทําหนาท่ีรองรับช้ินงานเจาะ สามารถเลอื่ นข้นึ - ลง ตามแนวขนานกบั เสาของเคร่ืองเจาะดว ยชดุ เฟอ งสะพาน นอกจากนั้นยังสามารถปรับ หมนุ ซาย-ขวา หรอื อาจปรับหมนุ ได ดงั ภาพท่ี 3.14

11 (ก) โตะจบั ชิน้ งานชนิดกลม (ข) โตะจบั ชิน้ งานชนิดสเี่ หล่ียม ภาพท่ี 3.13 ชนิดของโตะ จบั ช้ินงานของเคร่ืองเจาะตั้งพ้ืน (ก) ทศิ ทางการเคลือ่ นของโตะชนิดกลม (ข) ทศิ ทางการเคล่ือนทขี่ องโตะ ชนดิ สเ่ี หลย่ี ม ภาพที่ 3.14 แสดงทศิ ทางการเคลอื่ นทขี่ องโตะจับชิ้นงาน 4.2.3 เสาเคร่ือง ทําจากเหล็กหลอ มีลักษณะเปนทรงกระบอกกลวงยึดติดกับฐานเครื่อง ทําหนาที่รองรับชุดหัวเคร่ืองเจาะและโตะงาน ระหวางกลางเสาจะมีแทนรองรับงาน เสาเคร่ืองจะทําหนาท่ี ประคองใหแ ทนรองรบั งานเลื่อนขน้ึ -ลง ดวยชุดเฟอ งสะพาน (Rack Gear) ดังภาพที่ 3.15 เสาเครอื่ ง เฟองสะพาน ภาพที่ 3.15 เสาเครอื่ งเจาะ

12 4.2.4 ฐานเครื่อง มีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมผืนผา ทําจากเหล็กหลอ ทําหนาที่รองรับ น้ําหนักทั้งหมดของเครื่องเจาะและสําหรับยึดติดกับพ้ืนโรงงาน ที่ฐานจะมีรองรูปตัวที่ (T-Slot) ไวสําหรับ จบั ยึดงานท่ีมคี วามสงู มากๆ ดงั ภาพที่ 3.16 รอ งรูปตัวที ฐานเครือ่ ง (ก) ฐานเคร่ืองเจาะ ดอกสวาน ช้นิ งาน ฐานเคร่ืองเจาะ (ข) การจบั ยดึ ชิ้นงานบนฐานเครอื่ ง ภาพที่ 3.16 แสดงฐานเครอ่ื งเจาะและการยดึ งานกบั ฐานเครือ่ งเจาะ 4.3 ขั้นตอนการใชง านเครอื่ งเจาะตง้ั พืน้ 4.3.1 เตรยี มเคร่อื งมอื และอปุ กรณป ระจาํ เคร่ืองเจาะใหพ รอม 4.3.2 ตรวจสอบสภาพความพรอมของเครื่องเจาะกอนปฏิบัติงานหากพบขอผิดพลาดให แจง ครูผูค วบคุมทราบทนั ที เพื่อทําการซอ มบํารุงกอ นใชง าน 4.3.3 รางแบบชิ้นงานเพ่ือหาจุดศูนยกลางของรูเจาะจากน้ันตอกนําศูนยลงบนชิ้นงาน ตรงตําแหนง จดุ ศนู ยกลางของรูเจาะที่รา งแบบไว

13 4.3.4 จับยึดช้ินงานบนเครื่องเจาะใหแนนม่ันคงและแข็งแรง โดยเลือกอุปกรณจับยึดท่ี เหมาะสมกับรูปทรงของชนิ้ งาน 4.3.5 ประกอบหัวจับดอกสวานเขากับแกนเพลาของเคร่ืองเจาะ แลวจับยึดดอกเจาะนํา ศนู ยเขา กบั หัวจับดอกสวา นใหแนน 4.3.6 ปรับความเร็วรอบใหถ ูกตอ ง ซ่ึงไดจ ากการคํานวณหรอื จากตารางความเร็วรอบ 4.3.7 เปด สวิตชเคร่อื งเจาะ แลวเจาะนาํ ศนู ยล งบนตําแหนง ท่ตี อกนําศนู ยไว 4.3.8 ปดสวิตชเครื่องเจาะแลวเปล่ียนดอกสวานท่ีตองการเจาะรู (ในการเจาะรูควรเจาะ จากดอกสวานขนาดเลก็ ไปหาดอกสวา นขนาดใหญ) 4.3.9 ปรบั ความเร็วรอบใหถ ูกตอ ง 4.3.10 ปรบั แกนตัง้ ความลกึ ในการเจาะ 4.3.11 เปดสวิตชเครื่องเจาะแลวทําการเจาะรูช้ินงานตามความลึกท่ีตองการ (ขณะเจาะ ใหห ลอเยน็ เพอื่ ระบายความรอ นใหก บั ช้นิ งานและดอกสวาน) 4.3.12 ปด สวิตชเครอ่ื งเจาะแลว ถอดช้ินงานและดอกสวานออกจากเครื่องเจาะ 4.3.13 ทําความสะอาดเครอื่ งเจาะ เครื่องมือ อปุ กรณแ ละชโลมนํา้ มันปองกนั สนมิ 4.4 การบาํ รงุ รกั ษาเคร่อื งเจาะตง้ั พ้ืน 4.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จดุ ตอสายไฟฟา ใหอยูในสภาพท่ีสมบูรณต ลอดเวลา 4.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟงเสยี งของมอเตอรข ณะหมุนมเี สยี งดังผดิ ปกติหรือไม 4.4.3 ทาจาระบีที่เฟอ งสะพานและแกนเพลาทุกหกเดือน 4.4.4 เปลีย่ นถา ยนา้ํ มนั หลอ ล่ืนชดุ เฟอ งทดทุกหกเดอื น 4.4.5 ตรวจสอบการคลายตวั ของสกรูตาํ แหนงที่มกี ารจบั ยึดทุกหกเดือน 4.4.6 หลังเลิกใชงานใหท าํ ความสะอาดและชโลมนํ้ามันบางๆ ตามเสาเคร่ืองเจาะ โตะงาน และแขนหมุนตา งๆเพ่ือปอ งกันสนิม 5. เครื่องเจาะรัศมี (Radial Drilling Machine) 5.1หลักการทาํ งานของเคร่อื งเจาะรัศมี เคร่ืองเจาะรัศมีมีหลักการทํางาน คือเมื่อเปดสวิตชใหมอเตอรขับทํางาน มอเตอรก็จะหมุนและสง กําลังขับไปยังชุดเฟองทดท่ีประกอบอยูในชุดหัวเครื่อง และชุดเฟองทดก็จะสงกําลังไปยังแกนเพลาของ เคร่ืองเจาะหมุนไปพรอมกับหัวจับดอกสวานท่ีจับยึดดอกสวานดวย จากน้ันหมุนแขนของมือหมุนปอนเจาะ ลงเพ่ือใหดอกสวานหรือเคร่ืองมือตัดเจาะช้ืนงาน ลักษณะพิเศษของเครื่องเจาะรัศมีชุดหัวเคร่ืองสามารถ เลือ่ นไป-มา ตามความยาวของแขนรศั มีเพื่อใหด อกสวา นหรือเครื่องมือตดั ไดต าํ แหนง ทตี่ อ งการเจาะ 5.2 สวนประกอบและหนาที่ท่ีสาํ คัญของเคร่อื งเจาะรศั มี เคร่ืองเจาะรศั มี มสี วนประกอบท่สี ําคัญดงั ภาพที่ 3.17 โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้

เสาเคร่ือง 14 ชดุ หัวเครือ่ ง แขนรศั มี โตะงาน ฐานเคร่ือง ภาพท่ี 3.17 สวนประกอบของเครอ่ื งเจาะรัศมี 5.2.1 เสาเครื่อง ทําจากเหล็กหลอ มีลักษณะเปนทรงกระบอกกลวงยึดติดกับฐานเครื่อง ทาํ หนาท่ีจับยดึ แขนรัศมีและสามารถเลือ่ นข้นึ -ลงไดต ามเสาเครอื่ งเจาะ 5.2.2 ฐานเคร่ือง ทําจากเหล็กหลอ เปนสวนท่ีติดต้ังอยูกับพ้ืนโรงงาน ทําหนาที่รองรับ นํ้าหนักทัง้ หมดของเครื่องเจาะและใชส าํ หรบั จับยดึ โตะ งาน ที่ฐานจะมีรองรูปตัวท่ี (T-Slot) ไวสําหรับจับยึด งานทีม่ คี วามสูงมากๆ อกี ดว ย 5.2.3 แขนรัศมี (Radial Arm) ทําหนาท่ีรองรับชุดหัวเครื่องเจาะ สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได และหมุนรอบเสาเครอื่ งเจาะเพื่อหาตําแหนง เจาะรบู นชิน้ งานได 5.2.4 โตะงาน ยึดติดอยูบนฐานเครื่องเจาะและมีรองรูปตัวที (T-Slot) เพ่ือใชสําหรับจับ ยดึ ชิ้นงานโดยตรงหรือใชสําหรับจับยึดปากกาจบั ชิน้ งานหรืออุปกรณช วยจับยึดอยางอนื่ 5.2.5 ชุดหัวเครื่อง ติดต้ังอยูบนแขนรัศมีสามารถเล่ือนไป-มา ตามความยาวของแขนรัศมี เพือ่ หาตําแหนง เจาะรบู นชนิ้ งานโดยมีสว นประกอบตา งๆ ท่ีสําคัญดังภาพที่ 3.18 และมีรายละเอยี ดดังน้ี

15 สวิตซเ ปด-ปด ชดุ สง กาํ ลัง ชดุ ปอ นเจาะ แขนปรบั ตั้ง ความเรว็ รอบ มือหมนุ ชุดหวั เครือ่ ง แกนเพลา ภาพท่ี 3.18 สว นประกอบของชุดหัวเครอื่ งเจาะรศั มี 1) มือหมุนชุดหัวเครื่อง (Drilling Head Wheel) ทําหนาท่ีหมุนใหชุดหัวเคร่ือง เลือ่ นไป-มา ตามความยาวของแขนรัศมี 2) แกนเพลา ภายในเปนรูเรียวใชจับยึดกานเรียวของหัวจับดอกสวานหรือจับ กานเรียวของดอกสวา นท่ีมีขนาดโตกวา 1/2 นว้ิ หรอื 12.7 มลิ ลเิ มตร 3) มอเตอร ทําหนาที่เปนตนกําลังของเคร่ืองเจาะโดยสงกําลังผานชุดเฟองทดไป ยังแกนเพลาหมนุ 4) แขนปรับความเร็วรอบ ทําหนาท่ีโยกชุดเฟองทดภายในหัวเคร่ืองใหขบกันเพ่ือ ปรบั เปล่ียนความเรว็ รอบ 5) สวิตชเปด -ปด ทาํ หนา ทเ่ี ปด -ปด การทาํ งานของมอเตอรส ง กาํ ลงั 6) มอื หมนุ ปอ นเจาะ ใชหมุนเพือ่ ปอ นดอกสวานลงเจาะชิน้ งาน 5.3 ขัน้ ตอนการใชงานเครื่องเจาะรศั มี 5.3.1 เตรียมเคร่ืองมือและอปุ กรณประจาํ เคร่ืองเจาะใหพ รอม 5.3.2 ตรวจสอบสภาพความพรอมของเคร่ืองเจาะกอนปฏิบัติงานหากพบขอผิดพลาดให แจงครผู คู วบคมุ ทราบทนั ที เพ่อื ทาํ การซอมบาํ รุงกอ นใชงาน 5.3.3 รางแบบชิ้นงานเพ่ือหาจุดศูนยกลางของรูเจาะจากนั้นตอกนําศูนยลงบนช้ินงาน ตรงตําแหนงจดุ ศนู ยกลางของรูเจาะทร่ี างแบบไว 5.3.4 จับยึดชิ้นงานบนเครื่องเจาะใหแนนม่ันคงและแข็งแรง โดยเลือกอุปกรณจับยึดท่ี เหมาะสมกบั รปู ทรงของช้นิ งาน 5.3.5 ประกอบหัวจับดอกสวานเขากับแกนเพลาของเคร่ืองเจาะ แลวจับยึดดอกเจาะนํา ศูนยเ ขากับหวั จับดอกสวานใหแ นน 5.3.6 ปรับความเรว็ รอบใหถูกตอง ซง่ึ ไดจ ากการคํานวณหรอื จากตารางความเร็วรอบ

16 5.3.7 เปดสวิตชเคร่ืองเจาะ แลวเจาะนาํ ศูนยลงบนตําแหนงท่ตี อกนําศูนยไว 5.3.8 ปดสวิตชเคร่ืองเจาะแลวเปล่ียนดอกสวานท่ีตองการเจาะรู (ในการเจาะรูควรเจาะ จากดอกสวา นขนาดเล็กไปหาดอกสวานขนาดใหญ) 5.3.9 ปรบั ความเรว็ รอบใหถูกตอง 5.3.10 เปดสวิตชเครื่องเจาะแลวทําการเจาะรูชิ้นงานตามความลึกท่ีตองการ (ขณะเจาะ ใหห ลอเย็นเพอื่ ระบายความรอ นใหก บั ชนิ้ งานและดอกสวาน) 5.3.11 ปดสวติ ชเครือ่ งเจาะแลว ถอดชนิ้ งานและดอกสวา นออกจากเครื่องเจาะ 5.3.12 ทาํ ความสะอาดเครอ่ื งเจาะ เครื่องมือ อปุ กรณแ ละชโลมนํ้ามนั ปองกันสนิม 5.4 การบาํ รงุ รักษาเคร่ืองเจาะรัศมี 5.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จดุ ตอสายไฟฟา ใหอ ยใู นสภาพที่สมบูรณต ลอดเวลา 5.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟง เสยี งของมอเตอรข ณะหมุนมีเสยี งดังผิดปกตหิ รือไม 5.4.3 เปลี่ยนถา ยน้าํ หลอเย็นทุกสัปดาห 5.4.4 ทาจาระบที ีแ่ กนเพลา และเกลยี วทกุ หกเดือน 5.4.5 เปลย่ี นถา ยนํา้ มนั หลอ ลื่นชุดเฟอ งทดทกุ หกเดอื น 5.4.6 ตรวจสอบการคลายตัวของสกรตู ําแหนง ทม่ี ีการจับยึดทกุ หกเดอื น 5.4.7 หลังเลิกใชงานใหทําความสะอาดและชโลมนํ้ามันบางๆ ตามเสาเคร่ืองเจาะ โตะงาน รางเลอื่ นและแขนหมุนตา งๆเพ่ือปองกันสนิม 6. เคร่อื งเจาะเพลานอน (Horizontal Drilling Machine) เคร่ืองเจาะเพลานอน หรือเคร่ืองควานเพลานอน (Horizontal Boring Machine) เปนเครื่องที่ ออกแบบมาเพื่อใหสามารถทํางานไดหลายลักษณะ ท้ังการเจาะรู และการควานรู มักจะพบในโรงงาน อุตสาหกรรมขนาดใหญ สําหรับหลักการทํางานของเคร่ืองเจาะเพลานอน ช้ินงานจะยึดอยูกับโตะงานและ จะเคล่ือนที่หาตําแหนงท่ีจะทําการเจาะ และเคล่ือนท่ีเขาหาดอกสวานเพ่ือทําการตัดเฉือน สวนดอกสวาน สําหรับเจาะจะหมุนอยูกับที่โดยยึดอยูกับเพลาหัวเครื่อง สวนงานที่จะตองทําการควาน มีดควาจะยึดอยูกับ เพลาควา นซึง่ สวมอยกู บั เพลาหวั เครื่องและทีร่ อบรับเพลาควาน

17 เสารองรบั หวั เครื่อง เสารองรบั เพลาหัวเครือ่ ง เพลาควา น โตะงาน ฐานเครือ่ ง สวติ ซเ ปด -ปด หวั เครอ่ื ง แทน เล่อื นขวาง ภาพที่ 3.19 สวนประกอบของเครื่องเจาะเพลานอน 7. เครื่องเจาะหลายเพลา (Multiple Spindle or Gang Drilling Machine) เคร่ืองเจาะหลายเพลา เปนเคร่ืองเจาะท่ีออกแบบมาสําหรับการทํางานอุตสาหกรรมท่ีตองการ ทํางานเจาะคร้ังละหลายๆ รู เน่ืองจากเคร่ืองเจาะมีหลายหัวจับ หรืออยูในลักษณะของเคร่ืองเจาะแบบ อนุกรม ดังนั้นจึงสามารถจับดอกสวานไดหลายขนาด หรือสามารถเจาะงานหลาย ๆ รู ใน 1 คร้ัง หรือจับ เคร่ืองมือตัดอ่ืน ๆ เชน รีมเมอร หรือหัวจับทําเกลียวใน จึงทํางานไดอยางรวดเร็ว สวนมากจะใชในโรงงาน อตุ สาหกรรมสายงานการผลติ (ก) เครอ่ื ง Multiple Spindle Drilling Machine (ข) เครอื่ ง Gang Drilling Machine ภาพท่ี 3.20 เครอื่ งเจาะหลายเพลา

18 8. เคร่อื งมือตัดสําหรบั เคร่อื งเจาะ เคร่ืองมอื ตดั ที่สาํ คัญและใชก ับเคร่อื งเจาะแบง ออกเปน หลายชนิดดงั นี้ 8.1 ดอกสวา น (Drill) เปน เครือ่ งมอื ตัดท่ีใชในการเจาะรูบนช้นิ งานดอกสวานท่ีใชในการเจาะโลหะโดยท่ัวไป คือ ดอกสวานรองเกลียว (Twist Drill) ดอกสวานชนิดนี้ลําตัวจะมีรองเกลียวสองรองรอบแกนของดอกสวาน และมีคมตดั สองคมโดยมรี ายละเอียดดงั ภาพที่ 3.21 และมรี ายละเอียดดงั น้ี ก่ัน กา นเรยี ว คอดอกสวา น สนั คม รองเกลยี วดอกสวา น ขอบคม มมุ บิด แกน มมุ จิก ความยาวกาน ความยาวรองดอกสวาน ความยาวลําตัวดอกสวาน ความยาวทง้ั หมด ภาพท่ี 3.21 สว นประกอบของดอกสวาน 8.1.1 กัน่ (Tang) มีเฉพาะดอกสวา นชนิดกานเรยี วเทา น้ันอยสู ว นปลายสดุ ของกา นเรียวใช สาํ หรับถอดดอกสวา นออกจากแกนเพลา (Spindle) ของเครือ่ งเจาะหรอื ถอดออกจากปลอกเรยี ว 8.1.2 กาน (Shank) มีท้ังดอกสวานชนิดกานตรงและดอกสวานชนิดกานเรียวถาเปนดอก สวานชนิดกานตรงจะกับใชหัวจับดอกสวานจับสวนดอกสวานชนิดกานเรียวจะใชสวมเขากับแกนเพลา ของเครื่องเจาะหรือใชสวมเขากับปลอกเรยี วอกี ครัง้ หน่ึง 8.1.3 รองเกลียวดอกสวาน (Flutes) โดยทั่วไปมีสองรองการกัดรองดอกสวานจะทําให เกดิ คมตดั ของดอกสวานและเปน รอ งคายเศษโลหะ 8.1.4 สันคม (Land) คือผิวสวนท่ีอยูติดกับขอบคม แตอยูตํ่ากวาขอบคมเล็กนอยเพื่อลด การเสยี ดสรี ะหวางผิวดอกสวานกบั ชิ้นงาน 8.1.5 ขอบคม (Margin) มีลักษณะเปน สนั นนู ออกมาจากผิวดอกสวานเล็กนอยเพ่ือลดการ เสยี ดสรี ะหวา งผวิ ของดอกสวานกับชนิ้ งาน 8.1.6 มุมบิด (Helix or Rake Angle) คือ มุมที่รองดอกสวานบิดทํามุมกับแกนกลางของ ดอกสวา น ดอกสวานรองเกลียว แบงออกเปนสองชนิด คือ ดอกสวานชนิดกานตรงและดอกสวาน ชนิดกา นเรยี วดงั ภาพที่ 3.22

19 (ก) ดอกสวา นชนิดกานตรง (ข) ดอกสวานชนิดกานเรยี ว ภาพที่ 3.22 ชนดิ ของดอกสวานรอ งเกลยี ว 8.2 ดอกควา นเรยี บ (Reamer) เปนเครื่องมือตัดท่ีใชสําหรับควานรูใหมีผิวเรียบหรือใชสําหรับควานรูเจาะท่ีเจาะดวยดอก สวานมาแลว ใหไ ดข นาดตามตอ งการ ภาพท่ี 3.23 ดอกควา นเรยี บ 8.3 ดอกผายปากรู (Counter Sink) เปนเครื่องมือตัดที่ใชสําหรับผายปากรูเจาะภายหลังจากเจาะรูดวยดอกสวาน ซึ่งจะทําให ปากรเู จาะเปน รปู ทรงกรวย

20 ภาพที่ 3.24 ดอกผายปากรู 8.4 ดอกเจาะฝงหัวสกรู (Counter Bore) เปนเครือ่ งมอื ตัดทใี่ ชส าํ หรบั เจาะและควา นรใู หโ ตขน้ึ เพือ่ ฝง หวั สกรูเขา ไปในชน้ิ งาน ภาพท่ี 3.25 ดอกเจาะฝงหวั สกรู 9.อปุ กรณท่ีใชกับเครื่องเจาะ 9.1 เครอื่ งมือและอุปกรณจ บั ยึดและถอดเครอ่ื งมือตัด 9.1.1 หัวจับดอกสวาน (Drill Chuck) ใชสําหรับจับดอกสวานกานตรงกอนนําไปสวมเขา กับรูในแกนเพลาของเครื่องอีกคร้ังในการขันยึดหรือคลายดอกสวานหรือดอกเจาะนําศูนยเขากับ หัวจับจะ ใชจาํ ปาขนั หวั จบั ดอกสวาน (Chuck Key)

21 จาํ ปาขันหวั จับดอก  หัวจับดอกสวาน ภาพท่ี 3.26 หวั จบั ดอกสวา นและจําปาขนั 9.1.2 ปลอกเรียว (Taper Sleeve) ใชสวมเขากับแกนเพลาของเคร่ืองเจาะหรือใชจับยึด ดอกสวานกานเรียว ภาพท่ี 3.27 ปลอกเรียว 9.1.3 เหล็กถอดดอกสวาน (Drill Drift) รูปทรงแบนโดยมีปลายดานหนึ่งเรียวใชสอดเขา ไปในรอ งแกนเพลาของเครื่อง เพือ่ ถอดดอกสวา นกานเรยี วหรือปลอกเรยี วออกจากแกนเพลาของเคร่ือง

22 เหลก็ ถอด คอนตอกเบาๆ ภาพที่ 3.28 เหลก็ ถอดดอกสวาน 9.2 อปุ กรณจ ับยดึ ช้นิ งานบนเคร่ืองเจาะ 9.2.1 ปากกาจับงาน เปนอุปกรณท ใ่ี ชส ําหรบั จบั ยึดชิ้นงาน โดยปากกาจับงานจะถูกจับยึด บนโตะ งานของเคร่อื งเจาะอกี ครัง้ หนึ่งปากกาจบั งานที่ใชก บั เคร่ืองเจาะมีหลายแบบดังภาพท่ี 3.29 (ก) ปากกาแบบมาตรฐาน (Standard vise) (ข) ปากกาแบบฐานหมนุ (Swivel vise) (ค) ปากกาแบบเอยี งมุม (Angle vise) ภาพที่ 3.29 ปากกาจับงานเจาะแบบตางๆ 9.2.2 โบลท ที-สล็อต เปนอุปกรณที่ใชสําหรับจับยึดชิ้นงานบนโตะงานของเคร่ืองเจาะ วิธีการใชงานจะสวมโบลท ที-สลอตลงในรอ งทีของโตะงานและใชงานรวมกบั แผน กดและแทง ระดบั

23 โบลท ท-ี สล็อต ภาพที่ 3.30 โบลทท -ี สลอต 9.2.3 ซี-แคล็มป เปนอุปกรณที่ใชสําหรับจับยึดช้ินงาน ซึ่งจะจับยึดใหติดแนนกับปากกา จับชิน้ งานโดยตรงหรือยึดจับชิ้นงานกบั แทงฉาก ซ-ี แคลม็ ป ภาพที่ 3.31 ซ-ี แคลม็ ปและการใชงาน 9.2.4 แทงขนาน เปนอุปกรณที่ใชสําหรับรองรับช้ินงานเจาะเพ่ือใหช้ินงานขนานหรือย่ืน เลยออกมาจากปากของปากกาจับงาน

24 แทง ขนาน ภาพที่ 3.32 แทง ขนาน 9.2.5 แผนกดช้ินงาน เปนอุปกรณที่ใชสําหรับจับยึดชิ้นงานซึ่งจะใชงานรวมกับโบลทที- สลอตและแทงระดับ วิธีการจับยึดจะสวมแผนกดช้ินงานในโบลทที-สลอตแลวใชแทงระดับรองรับแผนกด ช้นิ งานดังภาพท่ี 3.33 แผน กดชน้ิ งาน ภาพท่ี 3.33 การจบั ยึดชน้ิ งานดว ยแผนกดชน้ิ งานโบลทท-ี สลอตและแทง ระดับ 9.2.6 แทงระดับ เปนอุปกรณท่ีใชเปนฐานรองแผนกดชิ้นงาน โดยใชงานรวมกับโบลท ที- สลอตและแผน กดชนิ้ งานดังท่ไี ดกลา วมาแลว แทง ระดบั ภาพท่ี 3.34 แทง ระดบั

25 9.2.7 วี-บล็อก เปนอุปกรณที่ใชสําหรับรองรับชิ้นงานรูปทรงกระบอก ใชงานรวมกับ อุปกรณจับยึดอนื่ ๆ เชน ยแู คลมปโ บลทเปน ตน ช้ินงาน ย-ู แคลมปโบลท วี-บลอ็ ก ยูแคลมปโบลท วี-บลอ็ ก วี-บล็อก ช้ินงาน ภาพท่ี 3.35 วี-บลอ็ กและการใชง าน 9.2.8 แทงฉาก (Angle Plate) มีรูปรางเปนเหล็กแทงฉากที่มีรองสลอตยาวประมาณ 3-4 รอ ง ใชสําหรับจับยึดชิ้นงานท่ีมรี ูปทรงสเี่ หลีย่ มหรอื ที่ไมสามารถจบั ดวยอปุ กรณท ีก่ ลา วมาแลว ขา งตน ได

26 แทงฉาก ภาพท่ี 3.36 แทง ฉากและการใชง าน 10. ความเร็วรอบ ความเรว็ ตัด และอตั ราปอ นในงานเจาะ 10.1 ความเรว็ รอบ (Revolution Per Minute) ความเร็วรอบ คือ ความเร็วที่วัดตามแนวเสนรอบวงของดอกเจาะท่ีหมุนไปไดภายในหนึ่ง หนว ยเวลา (นาที) โดยมสี ตู รในการคํานวณดังน้ี N = V ×1,000 เม่อื π×D N = ความเร็วรอบ (รอบ/นาท)ี V = ความเรว็ ตดั (เมตร/นาที) D = ขนาดเสนผา นศนู ยก ลางของดอกเจาะ (มิลลิเมตร) ตัวอยางท่ี 3.1 จงคํานวณหาความเร็วรอบในการเจาะชิ้นงานดวยดอกสวานที่มีขนาดเสนผาน ศนู ยก ลาง 12 มิลลเิ มตร ถา ใชค วามเร็วตัด 35 เมตรตอนาที จากสตู ร N = V×1,000 π×D 35×1,000 = 3.14×12 = 928.87 รอบ/นาที

27 10.2 ความเรว็ ตดั (Cutting Speed) ความเร็วตัด คือ ความเร็วที่วัดตามแนวเสนรอบวงของดอกเจาะท่ีหมุนตัดเฉือนวัสดุออก ไดเปนระยะทางภายในหนึ่งหนวยเวลา โดยมสี ูตรในการคาํ นวณดังนี้ V = π×D×N เม่อื 1,000 V = ความเรว็ ตัด (เมตร/นาที) N = ความเร็วรอบของมีดกดั (รอบ/นาท)ี D = ขนาดเสนผานศูนยก ลางของดอกสวา น (มิลลิเมตร) ตัวอยา งท่ี 3.2 ตอ งการเจาะรชู ้นิ งานดว ยดอกสวานที่มีขนาดเสนผานศูนยกลาง 15 มิลลิเมตร โดย ใชความเร็วรอบ 650 รอบตอนาที จงคาํ นวณหาความเรว็ ตัดท่ใี ชในการเจาะงานชนิ้ น้ี จากสูตร V = π×D×N 1,000 = 3.14×15×650 = 30.611,500เม0ตร/นาที จากตัวอยางท่ี 3.1 และ 3.2 ถาผูปฏิบัติงานไมสะดวกในการคํานวณหาคาความเร็วรอบและ ความเร็วตัด ก็สามารถเลือกใชความเร็วรอบและความเร็วตัดไดจากตาราง ซ่ึงไดมีการทดลองใชมาอยาง เหมาะสมแลว และเปนคาที่แนะนาํ ใหสามารถนําไปใชได ดงั ตวั อยางในตารางที่ 3.1 ตารางที่ 3.1 ความเรว็ รอบสาํ หรับดอกสวา นเหลก็ รอบสงู ความเร็วตัด (เมตร/นาท)ี เหล็กกลา เหลก็ กลา ทองเหลอื ง ขนาดดอกสวา น เหลก็ กลา เครื่องมอื เหลก็ หลอ ใชง านทวั่ ไป และ หลอ อะลูมิเนยี ม มลิ ลเิ มตร นิ้ว 12 18 24 30 60 3 1/8 1275 ความเร็วรอบ (รอบ/นาที) 6365 4 3/16 955 4775 5 ¼ 765 1910 2545 3185 3820 6 5/16 635 1430 1910 2385 3180 7 3/8 545 1145 1530 1910 2730 8 7/16 475 955 1275 1590 2390 9 ½ 425 820 1090 1365 2120 10 5/8 350 715 955 1195 1735 635 850 1060 520 695 870

28 15 ¾ 255 380 510 635 1275 20 7/8 190 285 380 475 955 25 1 150 230 305 380 765 (ที่มา : อํานาจ ทองแสน, 2556) 10.3 อัตราปอนในงานเจาะ อัตราปอน คือ ความลึกที่ดอกสวานเคลื่อนท่ีลงตัดเฉือนวัสดุช้ินงานเม่ือดอกสวานหมุน ครบหน่งึ รอบ อตั ราปอ นนต้ี อ งเลอื กใชใหเ หมาะสมกับขนาดของดอกสวาน ดังตารางท่ี 3.2 ตารางท่ี 3.2 อัตราปอนเจาะของดอกสวา นขนาดตางๆ ขนาดดอกสวา น อตั ราปอ นตอ รอบ มลิ ลเิ มตร นิ้ว มลิ ลเิ มตร นิ้ว เล็กกวา ถงึ 3 เล็กกวา ถึง 1/8 0.02-0.05 0.001-0.002 3-6 1/8-1/4 0.05-0.10 0.002-0.004 6-13 1/4-1/2 0.10-0.18 0.004-0.007 13-25 1/2-1 0.18-0.38 0.007-0.015 25-38 1-1/2 0.35-0.63 0.015-0.025 (ทมี่ า : อาํ นาจ ทองแสน, 2556) 11.วิธีการเจาะรดู วยเครื่องเจาะ การเจาะรูดวยเครือ่ งเจาะเกือบทกุ ชนดิ มวี ธิ ีทาํ งานใกลเคียงกนั ดงั นี้ 11.1 การจบั ยึดช้ินงาน ในการเจาะรูดวยเคร่ืองเจาะ การจับยึดชิ้นงานจะมีลักษณะแตกตางกันท้ังน้ีข้ึนอยูกับ รปู รางของชน้ิ งาน ดังนน้ั ผปู ฏบิ ัตงิ านจะตองเลือกใชเครื่องมือและอุปกรณชวยยึดใหถูกตองและเหมาะสมดัง ตัวอยา งในภาพที่ 3.37-3.39 ดอกสวาน ช้ินงาน ปากกาจับงาน โตะงาน ภาพท่ี 3.37 การจบั ยึดชนิ้ งานเจาะดว ยปากกา

29 ชิน้ งาน ดอกสวาน วี-บลอ็ ก โบลทแ บบท-ี สลอต แผนกดชิน้ งาน แทงระดบั โตะรองรบั ชิน้ งาน ภาพที่ 3.38 การจับยึดชิ้นงานกลมดวยวี-บล็อกและอุปกรณช ว ยจบั ยึดงานเจาะ ดอกสวา น โบลทแบบท-ี สลอต ชิน้ งาน แผน กดงาน โบลทแบบท-ี สลอต แทง ระดับ แผน กดงาน โตะรองรบั ชิ้นงาน แทง ขนาน แทงระดับ ภาพที่ 3.39 การจบั ยึดชนิ้ งานดวยอปุ กรณชวยจบั ยดึ งานเจาะ 11.2 ขั้นตอนการเจาะรู การเจาะรดู วยเคร่อื งเจาะมขี นั้ ตอนดังนี้ 8.2.1 เตรียมเครอ่ื งมือ อปุ กรณประจาํ เครือ่ งเจาะ เครื่องมือวัดและตรวจสอบ ชิ้นงานและ อุปกรณอืน่ ๆ ที่จําเปนใหพรอมตรวจสอบสภาพความพรอ มของเครื่องเจาะกอ นปฏบิ ัติงาน 8.2.2 รางแบบช้ินงานเพื่อหาจุดศูนยกลางของรูเจาะตามแบบส่ังงานแลวตอกนําศูนยตรง ตาํ แหนง จุดศนู ยกลางของเจาะรทู ี่รา งแบบไว

30 (ก) การรา งแบบ (ข) การตอกนาํ ศนู ย ภาพที่ 3.40 การรา งแบบและการตอกนําศูนย 8.2.3 จับยึดชิ้นงานบนเครื่องเจาะใหแนนและม่ันคง โดยเลือกอุปกรณจับยึดท่ีเหมาะสม กับรูปทรงของชนิ้ งาน ชนิ้ งาน ปากกาจับชน้ิ งาน แทงขนาน ภาพท่ี 3.41 การจับยดึ ช้ินงานดวยปากกาของเครอ่ื งเจาะ 8.2.4 ประกอบหัวจับดอกสวานเขากับแกนเพลาของเครื่องเจาะ แลวจับยึดดอกเจาะนํา ศนู ยเขา กบั หวั จบั ดอกสวานใหแนน หัวจับดอกสวา น หวั จับดอกสวา น ประแจขันหัวจบั (ก) การประกอบหวั จบั ดอกสวา นเขา กบั แกนเพลา (ข) การจับยึดดอกเจาะนาํ ศูนย ภาพท่ี 3.42 การประกอบหวั จับดอกสวา นและการจบั ยดึ ดอกเจาะนําศูนย

31 8.2.5 ปรบั ความเร็วรอบตามทค่ี าํ นวณไดหรือใชค า จากตารางจากนั้นเปดสวิตชเครื่องเจาะ แลวเจาะนําศูนยชิน้ งานที่ตําแหนง ทตี่ อกนําศูนยไ ว ภาพที่ 3.43 การเจาะรนู าํ ศนู ยท ี่ตําแหนงตอกนําศูนย 8.2.6 ปดสวิตชเครื่องเจาะแลวถอดดอกเจาะนําศูนยออก จากนั้นจับยึดดอกสวานท่ี ตอ งการเจาะรเู ขากับหวั จับดอกสวา น ภาพที่ 3.44 การจับยดึ ดอกสวานเขากับหวั จับดอกสวา น 8.2.7 เจาะรูท่ีตําแหนงเจาะนําศูนยไว โดยในขณะเจาะใหหลอเย็นเพ่ือระบายความรอน ใหก บั ดอกสวานและช้นิ งานดวย

32 ภาพท่ี 3.45 การเจาะรนู ําศนู ยท ่ีตําแหนง ตอกนําศูนย 8.2.8 หลงั เลกิ ปฏบิ ัตงิ านใหทาํ ความสะอาดเครื่องเจาะและชโลมนํ้ามันชิ้นสวนของเครื่อง เจาะท่ีเปนเหล็กกลาเพ่ือปองกันสนิม จากนั้นทําความสะอาดเครื่องมือ อุปกรณ แลวจัดเก็บใหเปนระเบียบ เรียบรอย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook