Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2 เครื่องเลื่อย

บทที่ 2 เครื่องเลื่อย

Published by seksan sriyos, 2019-08-29 23:32:44

Description: เครื่องเลือย

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการจดั การเรยี นการสอน ชือ่ วิชา : ทฤษฎเี ครอ่ื งมอื กล รหัสวิชา : 2102-2003 บทท่ี 2 เคร่อื งเลอ่ื ย (Sawing Machine) ตรงตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 สํานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เรยี บเรียงโดย นายเสกสรร ศรยี ศ

บทที่ 2 เครือ่ งเลือ่ ย (Sawing Machine) สาระสําคญั เครอื่ งเล่ือยกล (Sawing Machine) เปนเครื่องมือกลทใ่ี ชในการตัดเพื่อใหวัสดุแยกขาดออกจากกัน โดยมีวัตถุประสงคหลายประการ ไดแก เพ่ือใหสามารถจัดเก็บวัสดุไดงาย นําไปใชแปรรูปดวยเคร่ืองมือกล ประเภทอื่นๆ และตัดเซาะรองเปนช้ินงานรูปทรงตางๆ ตามความตองการ เปนตน ในบทเรียนนี้จะไดศึกษา เกย่ี วกับชนดิ ของเครื่องเลือ่ ย ลกั ษณะการทํางานของเครอื่ งเลอื่ ยกลชนดิ หลักการทํางาน สวนประกอบและ หนาท่ีท่ีสําคัญของเครื่องเล่ือยกลแตละชนิด ข้ันตอนการใชและการบํารุงรักษาเครื่องเลื่อยกล เพ่ือใหมี ความรู ความเขาใจ สามารถใชเครอื่ งเล่ือยกลไดอ ยา งถูกตอ งและปลอดภยั เนือ้ หา 1. ลักษณะการทาํ งานของเครื่องเล่อื ยกล 2. เคร่ืองเลอ่ื ยกลชัก (Power Hack Saw) 3. เครือ่ งเล่ือยกลสายพานนอน (Horizontal Band Saw) 4. เครอ่ื งเลอ่ื ยกลสายพานต้ัง (Vertical Band Saw) 5. เคร่อื งเล่ือยวงเดือน (Circular Saw) จดุ ประสงคของบทเรียน 1. อธิบายลกั ษณะการทาํ งานของเครื่องเล่ือยกลได 2. ระบชุ นดิ ของเคร่ืองเลอื่ ยกลได 3. อธบิ ายหลกั การทํางานของเครอื่ งเลือ่ ยกลได 4. บอกช่ือและหนาท่ขี องสวนประกอบทสี่ าํ คัญของเครื่องเลอื่ ยกลได 5. บอกช่ือเครอ่ื งมือและอปุ กรณทใ่ี ชกับเคร่อื งเลอ่ื ยกลชักได 6. อธบิ ายวิธกี ารกําหนดความหยาบความละเอียดของฟน เลื่อยได 7. อธิบายวิธกี ารเลือกใชใบเล่ือยใหเหมาะสมกบั วสั ดุทใี่ ชเ ลอื่ ยได 8. อธบิ ายมุมของฟน เลอ่ื ยได 9. อธิบายวิธกี ารจดั ฟนใบเลื่อยกลได 10. อธิบายวิธกี ารจับชน้ิ งานรปู ทรงตางๆ ดวยปากกาจับงานของเครอ่ื งเล่ือยกลแบบชกั ได 11. อธบิ ายข้ันตอนการใชง านของเครอ่ื งเล่ือยกลได 12. บอกวิธีการบาํ รงุ รักษาเครือ่ งเลอ่ื ยกลได

2 1. ลกั ษณะการทาํ งานของเครื่องเล่ือย งานเลื่อย คือ กระบวนการตัดเฉือนเนื้อวัสดุท่ีทําใหช้ินงานแยกหรือขาดออกจากกัน ดวยใบเล่ือยที่มี คมตัดหลายๆ คม เรียงกันเปนแถวๆ โดยฟนใบเล่ือยจะกัดชิ้นงานพรอมๆ กันทีละหลายฟนใหเปนรอง หรือจนขาดออกจากกัน ซ่ึงแบงออกไดเปนหลายลักษณะตามวัตถุประสงค ไดแก การตัดเพื่อแยกโดย ชิ้นงานขาดออกจากกัน การตัดขึ้นรูปแบบตางๆ และการตัดเพื่อทํารองหรือการตัดเซาะรอง เปนตน ตัวอยา งดงั ภาพท่ี 2.1 ภาพท่ี 2.1 ตัวอยางลักษณะการทํางานของเคร่อื งเลอ่ื ยโดยการตดั แยกชิ้นงานออกจากกนั 2. เครือ่ งเล่ือยกลชัก (Power Hack Saw) 2.1หลักการทาํ งานของเครอื่ งเลอื่ ยกลชกั เครื่องเล่ือยกลชักนิยมใชงานอยางแพรหลายในโรงงานฝกงานในสถานศึกษาดานชาง อุตสาหกรรมและโรงงานอุตสาหกรรม ใชสําหรับเลื่อยช้ินงานที่มีหนาตัดรูปพรรณตางๆไดแก งานหนาตัด กลม หกเหล่ยี ม สี่เหลี่ยม เหล็กฉากและเหลก็ ตัวซี ฯลฯ หลักการทาํ งานของเครอ่ื งเล่ือยกลชนิดนี้อาศัยโครง เลอื่ ยโยกไปดา นหนาแลวกดใบเลื่อยใหตัดเฉือนช้ินงานและขณะโยกกลับจะยกใบเล่ือยข้ึนเล็กนอยเพื่อไมให เกิดการตัดเฉือนช้ินงาน เคร่ืองเลื่อยกลชักสามารถปรับระยะชักของใบเลื่อยและตั้งระยะการปดเครื่อง อตั โนมตั ิเมื่อตัดชนิ้ งานขาดออกจากกนั ได 2.2 สว นประกอบและหนา ท่ีท่สี าํ คญั ของเคร่อื งเล่ือยกลชัก เคร่อื งเลือ่ ยกลชกั มีสวนประกอบทีส่ ําคัญดงั ภาพที่ 2.2 โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี

3 โครงเล่ือย ระบบสง กาํ ลัง ใบเลอื่ ย ปากกาจับงาน ฐานเครอ่ื ง ระบบไฟฟา ภาพที่ 2.2 สว นประกอบท่ีสําคญั ของเครอ่ื งเล่ือยกลชกั 2.2.1 โครงเลื่อย (Frame) ทํามาจากเหล็กหลอ ใชสําหรับยึดใสใบเล่ือย โครงเลื่อยมี ลกั ษณะเหมือนตัวยคู ว่ํา และจะเคลื่อนทไี่ ป–มาในรอ งหางเหยี่ยว โดยสงกําลงั มาจากมอเตอรไฟฟา 2.2.2 ฐานเครอื่ ง (Base) ทําจากเหล็กหลอ มีหนา ทีร่ องรับสวนตางๆ ของเลอื่ ยชักทงั้ หมด 2.2.3 ระบบสงกําลัง (Motor Drive) ระบบสงกําลังเคร่ืองเลื่อยกลแบบชักมีมอเตอรทํา หนา ทเี่ ปนตนกาํ ลังขบั ใชกระแสไฟฟา 220 โวลตหรอื 380 โวลท 2.2.4 ชุดปอนตัด ทําหนาที่สงกําลังจากระบบสงกําลังไปยังโครงเล่ือยเพื่อเล่ือยชิ้นงาน โดยชดุ ปอนตดั ของเคร่ืองเล่อื ยกลแบบชกั มี 2 แบบ คอื แบบใชล กู ถว งนํ้าหนักและแบบใชระบบไฮดรอลิก 2.2.5 ระบบไฟฟา ทําหนาที่ควบคุมการทํางานของมอเตอรไฟฟาของเครื่องเลื่อย ควบคุม การปอนตัด และควบคุมน้ําหลอเย็นในการเลื่อย 2.2.6 ปากกาจับช้ินงาน (Vise) ของเคร่ืองเลื่อยกลแบบชัก ทําหนาที่จับยึดช้ินงานสําหรับ เล่ือย แบงออกเปน 2 สวน คือปากกาดานคงที่ซ่ึงไมสามารถเลื่อนไปมาไดและปากกาดานเคลื่อนที่ได นอกจากนี้ปากกาของเคร่ืองเลื่อยกลแบบชักยังสามารถจับช้ินงานเล่ือยตรง หรือปรับเอียงเพ่ือตัดเฉียงเปน มมุ ตางๆ ได ดังภาพท่ี 2.3

4 สลกั เกลียวยดึ ปากกา สลักเกลียวขันยึด สลกั เกลยี วปรบั ปากกา (เคลอื่ นท)่ี ปากกา (คงที)่ ภาพท่ี 2.3 ปากกาจบั ช้นิ งานของเครอ่ื งเลื่อยกลแบบชกั 2.2.7 ใบเล่ือย (Saw Blade) ทาํ หนา ท่ตี ดั ช้ินงานใหแ ยกหรอื ขาดออกจากกัน ใบเลื่อยของ เครื่องเล่ือยกลชักสวนใหญผลิตจากเหล็กกลารอบสูง (High Speed Steel: HSS) หรือเหล็กเครื่องมือ (Tool Steel) มคี วามเข็งแตเปราะ มรี ูปรางแสดงดังภาพท่ี 2.4 โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ ความโตรยู ึดใบเลือ่ ย ความกวา งใบเล่อื ย ความยาวใบเลอื่ ย ภาพท่ี 2.4 สว นประกอบของใบเล่ือยกล จากภาพท่ี 2.4 สวนประกอบของใบเลื่อยกล ประกอบดวย ความกวาง ความยาว ความ หนา ความโตรูยดึ ใบเลอื่ ย และจาํ นวนฟน ใบเลอื่ ย โดยมรี ายละเอียดดังน้ี 1) ความหยาบและความละเอียดของฟน ใบเล่ือย รูปรางของใบเลื่อยกลมีลักษณะ การจัดเรียงกันในแนวเสนตรงโดยมีการกําหนดความหางระหวางยอดฟนเรียกวา “พิตช” (Pitch) ซึ่งพิตชน้ี จะกําหนดความหยาบความละเอยี ดของฟน ใบเลือ่ ย นอกจากนกี้ ารกาํ หนดความหยาบความละเอยี ดของฟน ใบเลอ่ื ยยงั ใชวิธกี ารนบั จาํ นวนฟน ตอ ความยาว 1 น้ิว เชน ใบเล่ือยจาํ นวน14 ฟน/นว้ิ เปน ตน

5 ระยะพิตช จาํ นวนพนั ตอ่ 1 นิ้ว ก) ระยะพิตชข องฟน เล่ือย ข) จํานวนฟนเล่ือยตอความยาว 1 น้วิ ภาพที่ 2.5 การกําหนดความหยาบและความละเอียดของใบฟนเล่อื ย ในการใชใ บเล่ือยนต้ี อ งเลอื กใหเหมาะสมกับชนิดของวสั ดุทีใ่ ชเ ลื่อย ดงั ตารางที่ 2.1 ตารางที่ 2.1 การเลอื กใชใ บเล่อื ยใหเ หมาะสมกับชนดิ ของวสั ดุท่ีใชเลอ่ื ย จาํ นวนฟน/น้ิว วัสดทุ ่ใี ชเ ลือ่ ย 14, 16, 18 วสั ดอุ อ น เชน ดีบกุ ทองแดง ตะก่วั อะลมู เิ นียม พลาสติก เหลก็ เหนยี ว เปน ตน 22, 24 วสั ดแุ ขง็ ปานกลาง เชน เหล็กหลอเหลก็ โครงสรา ง เหลก็ กลา คารบอน เปน ตน 32 วัสดุแข็งมาก เชน เหลก็ ทําเครอ่ื งมอื เหลก็ กลาผสม เปนตน (ทม่ี า: อาํ นาจ ทองแสน, 2556) 2) ความยาวของใบเล่ือยในการวัดความยาวของใบเล่ือยกลจะวัดระหวาง ศูนยกลางของรูเจาะที่ใชสําหรับประกอบใบเล่ือยเขากับโครงเลื่อย โดยความยาวใบเลื่อยท่ีนิยมใชท่ัวไปมี หลายขนาด เชน 450 500 และ 600 มลิ ลเิ มตร เปน ตน 3) มุมของฟนเล่ือยกลในขณะเล่ือยช้ินงานฟนเลื่อยจะทําหนาท่ีตัดเฉือนและคาย เศษวัสดุ โดยเศษวัสดุจะอยูในรองฟนเล่ือยและหลุดออกไปตามคลองเล่ือย ดังน้ันในการผลิตใบเล่ือยกลจึง ประกอบดว ยมมุ ตางๆ ทีส่ ําคญั ดงั ภาพที่ 2.6 โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี γ δ β α ภาพที่ 2.6 มุมของใบเลื่อยกล

6 • มุมล่ิม (β)ทําหนาท่ีขูดตัดกับเน้ือช้ินงานโดยตรง ถามุมล่ิมมากจะทําใหฟน เล่ือยมีความแข็งแรงเหมาะสําหรับวัสดุชิ้นงานที่มีความแข็ง แตถามุมล่ิมนอยความแข็งแรงก็จะลดลงและ เหมาะสาํ หรบั วัสดชุ ้นิ งานทอี่ อ น • มุมหลบหรือมุมฟรี (α) ทําหนาที่ชวยใหฟนเลื่อยลดการเสียดสีกับช้ินงานโดย ใหคมฟน เลื่อยตดั ชิ้นงานเพยี งจุดเดยี วและทําใหสว นอื่นๆ ของฟนเลื่อยไมเ สียดสกี ับผิวของวสั ดุชิ้นงาน • มมุ คายเศษ (γ)ทาํ หนาท่ชี วยใหใบเล่อื ยคายเศษออกไดง า ยขนึ้ • มุมตัด (δ) เปนการรวมกันของมุมหลบและมุมลิ่ม (β+α) ซ่ึงมุมน้ีจะทําใหใบ เลือ่ ยเกดิ การตดั เนอ้ื ช้นิ งานในขณะเลอ่ื ย ในการใชมมุ ของใบเลื่อยนีต้ องเลอื กใหเหมาะสมกับชนิดของวสั ดุท่ีใชเ ลอื่ ย ดังตารางท่ี 2.2 ตารางที่ 2.2 การเลอื กใชมุมใบเลื่อยใหเหมาะสมกบั ชนดิ ของวสั ดุที่ใชเลอื่ ย ตัวอยางวสั ดชุ น้ิ งาน มมุ ใบเลื่อย วสั ดุออ น วสั ดุแขง็ 40 องศา มมุ ฟรี (α) 40 องศา 50 องศา มุมลิม่ (β) 45 องศา 0 องศา มมุ คาย (γ) 5 องศา (ที่มา: อํานาจ ทองแสน, 2556) 4) การจัดฟนใบเลื่อยกล เกิดจากการจัดฟนของใบเล่ือยใหกวางกวาใบเล่ือย เพื่อ ลดแรง เสียดทานขณะเล่ือย การจัดฟนใบเลื่อยมีอยูสามแบบ คือ แบบคลื่น (Wave Tooth) แบบตรง (Straight Tooth) และแบบเล้ือย (Raker Tooth) โดยแบบเลื้อยน้ีใชสําหรับจัดฟนใบเลื่อยท่ีใชกับเคร่ือง เลื่อยกล สวนแบบคล่นื และแบบตรงใชสําหรบั จัดฟนใบเล่ือยทีใ่ ชกบั งานเลอื่ ยดว ยมือ ฟนเลอ่ื ยแบบเลื้อย ฟน เลื่อยแบบคลื่น (ก) ลักษณะของใบเล่อื ย ฟนเลื่อยแบบตรง (ข) ลักษณะของฟนเล่อื ย ภาพที่ 2.7 รูปแบบการจัดฟน ใบเลอื่ ย

7 5) การจับยึดใบเล่ือยกลเขากับโครงของเคร่ืองเล่ือย ผูปฏิบัติงานจะตองทราบทิศ ทางการเดินตดั ของเคร่ืองเลื่อยเคร่ืองน้ันกอนซ่ึงในการจับยึดใบเลื่อยที่ถูกตอง คือตองใหฟนเลื่อยเอียงไปใน ทิศทางที่เครื่องเลื่อยจะกดใบเล่ือยใหตัดเฉือนช้ินงาน และหลังจากประกอบใบเลื่อยกลแลวใหขันสกรูยึดใบ เลอื่ ยใหต งึ พอดี ทิศทางการตดั ทิศทางการตดั โครงเล่ือย ใบเลื่อย สกรูขนั ยดึ รูสลกั คอ้ นเคาะเบาๆ ภาพท่ี 2.8 การจบั ยดึ ใบเลอื่ ยเขา กบั โครงของเครอื่ งเลอ่ื ยกลชัก 2.3 ข้ันตอนการใชงานเคร่ืองเลอ่ื ยกลชกั 2.3.1 เตรยี มเครอ่ื งมอื และอปุ กรณป ระจาํ เครอ่ื งใหพ รอ ม 2.3.2 ตรวจสอบความพรอมของเคร่ืองเล่ือยกลเบื้องตนกอนปฏิบัติงาน และหากพบ ขอ ผดิ พลาดใหแจง ครูผคู วบคมุ ทราบเพื่อดําเนินการซอ มบํารุงกอ นใชงาน 2.3.3 ยกโครงเลอ่ื ยขน้ึ และคา งไวกอ น 2.3.4 จับยึดชิ้นงานโดยจะตองคํานึงถึงรูปรางหนาตัดของชิ้นงานท่ีจะตัดเพ่ือใหจับชิ้นงาน ไดมั่นคง เพราะถาหากจับช้ินงานไมมั่นคงแข็งแรงแลว ช้ินงานจะหลุดจากปากกาจับงานและทําใหใบเลื่อย หกั ได ตัวอยางวธิ ีการจบั ยึดชนิ้ งานรูปทรงตา งๆแสดงดังภาพท่ี 2.9

8 (ก) เหล็กแผนหนา (ข) เหลก็ ฉาก (ค) เหลก็ สเ่ี หลย่ี มจัตรุ สั (ง) เหล็กตัวซี (จ) เหล็กหกเหลี่ยม (ฉ) เหล็กตวั ที (ช) เหล็กเพลากลม (ซ) เหลก็ ตวั ไอ ภาพท่ี 2.9 การจับยึดชิ้นงานรูปพรรณตา งๆ ดวยปากกาจับงาน ในการจับยึดช้ินงานท่ีมีความยาวของชิ้นงานที่สั้นกวาปากของปากกาจับงานใหใชวัสดุท่ีมี ความกวา งเทา กับช้นิ งานเสรมิ เขา อกี ดานของปากกาจับงาน ซึง่ จะทาํ ใหจบั ชน้ิ งานไดม น่ั คงมากยิ่งข้นึ

ช้นิ งาน 9 วัสดเุ สรมิ ชนิ้ งาน ปากกา ปากกา ก) วธิ ีจบั ช้ินงานทผ่ี ดิ ข) วธิ ีจับช้นิ งานทถ่ี กู ตอง ภาพท่ี 2.10 การจับยดึ ช้นิ งานท่สี นั้ กวา ปากของปากกาจับงาน 2.3.5 ปรับโครงเล่ือยลงมา โดยใหฟ น ของใบเล่ือยหา งจากช้ินงานประมาณ 25 มลิ ลเิ มตร 2.3.6 ปรับตั้งความยาวชิ้นงานท่ีจะตัด โดยใชบรรทัดเหล็กวัดความยาว จากนั้นจับยึด ช้นิ งานดวยปากกาจบั งานใหแนน มั่นคง และแข็งแรง ใบเลอ่ื ย ช้ินงาน บรรทัดเหลก็ ภาพท่ี 2.11 ปรบั ต้ังความยาวช้นิ งานกอนตัด 2.3.7 ปรบั อุปกรณต ้ังความยาวตดั ใหไ ดความยาวเทา กบั ความยาวของชิน้ งาน

10 ช้ินงาน แขนตัง้ ระยะ ภาพท่ี 2.12 การใชอ ุปกรณต้ังความยาวชิน้ งานกอ นตัด 2.3.8 เปดสวิตชควบคุมเพื่อใหเครื่องเลื่อยเริ่มทํางานจากน้ันปรับระบบปอนตัดไฮดรอลิก ใหโครงเล่ือยเลื่อนลงหาชนิ้ งานอยางชา ๆ สวติ ชปอ นไฮดรอลิก สวติ ชควบคมุ ภาพท่ี 2.13 ปรบั ตั้งความยาวช้นิ งานกอ นตัด 2.3.9 ปรับทอนํ้าหลอเย็นใหนํ้าฉีดบริเวณคลองเลื่อยเพื่อระบายความรอนใหใบเลื่อยและ ชนิ้ งานขณะทําการเล่อื ย 2.3.10 เมื่อช้ินงานขาดออกจากกันแลวใหยกโครงเล่ือยขึ้นดานบน แลวปดสวิตชควบคุม จากน้ันทําความสะอาดเครื่องเลื่อย เคร่ืองมือ-อุปกรณ พื้นท่ีบริเวณปฏิบัติงานโดยรอบ และจัดเก็บ เครือ่ งมือ-อุปกรณใหเรียบรอย 2.4 การบํารงุ รกั ษาเครอ่ื งเลื่อยกลชกั 2.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จุดตอสายไฟฟาใหอ ยูในสภาพท่สี มบรู ณตลอดเวลา 2.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟงเสยี งของมอเตอรขณะหมุนมีเสยี งดงั ผดิ ปกติหรอื ไม 2.4.3 หยอดนาํ้ มนั หลอล่ืนตามจดุ ตางๆ ทม่ี กี ารเคล่อื นทข่ี องช้ินสว นทุกคร้ังกอนใชง าน 2.4.4 เปล่ียนถายนํ้าหลอเย็นทุกสัปดาห

11 2.4.5 ตรวจสอบระดับนํา้ มันในกระบอกลูกสบู ไฮดรอลกิ ทกุ สปั ดาห 2.4.6 อัดจาระบีเพ่ือหลอ ล่นื ตามจุดตางๆ ที่มีการหมุนของชิ้นสว นทกุ เดือน 2.4.7 หลังจากเลิกใชงานเคร่ืองเลื่อยกลชักใหทําความสะอาดและชโลมนํ้ามันบางๆ ตาม ช้นิ สว นท่ที าํ จากเหล็กกลา เชน ปากกาจับงานและโครงของเครอื่ งเพื่อปอ งกนั สนมิ เปน ตน 3. เครอื่ งเล่ือยสายพานนอน (Horizontal Band Saw) เครื่องเล่ือยสายพานนอน เปนเครื่องเล่ือยท่ีมีความเร็วในการตัด และมีความแมนยําท่ีสูง สามารถ ตัดท้ังเหล็กตัน เหล็กฉาก เหล็กกลอง หรือทอ มีใบเลื่อยยาวติดตอกันเปนวงกลม การเคล่ือนท่ีของใบเลื่อย มีลักษณะแบบเดียวกับสายพาน คือ มีลอขับและลอตาม ทําใหมีความรวดเร็วในการทํางาน คมตัดของใบ เลื่อยสามารถเลื่อยตดั งานไดต อ เนื่องท้ังใบ ชวยลดตน ทนุ ในการผลติ 3.1 ชนดิ ของเครือ่ งเลอ่ื ยสายพานนอน เครอื่ งเลอ่ื ยสายพานนอนมีหลายรนุ หลายขนาด ดังน้ี เคร่ืองเลอื่ ยสายพานนอนมือถอื เครื่องเล่ือยสายพานนอนตง้ั โตะ เครอ่ื งเลอ่ื ยสายพานนอนตงั้ พืน้ เคร่อื งเลอื่ ยสายพานนอนกง่ึ อตั โนมัติและ อตั โนมตั ิ ดงั ภาพที่ 2.14 (ก) เครอ่ื งเลอื่ ยสายพานนอนมือถือ (ข) เคร่ืองเลอื่ ยสายพานนอนตงั้ โตะ

12 (ค) เครือ่ งเลอ่ื ยสายพานนอนต้งั พนื้ (ง) เคร่อื งเลื่อยสายพานนอนก่ึงอตั โนมัติ (จ) เคร่ืองเลอ่ื ยสายพานนอนอตั โนมัติ ภาพที่ 2.14 ชนิดของเครอ่ื งเล่อื ยสายพานนอน 3.2 หลกั การทํางานของเครอ่ื งเลือ่ ยสายพานนอน เครื่องเล่ือยสายพานนอนนี้มีหลักการทํางาน คือ ใบเลื่อยหมุนวนรอบตัวเองในแนวนอน เพื่อตัดชิ้นงานไดอยางตอเน่ือง โดยมอเตอรจะสงกําลังใหลอขันหมุนและพาสายพานหมุนเคล่ือนที่ผาน ชิ้นงานไปยังลอตาม ดงั ภาพที่ 2.15 ลอ ตาม ลอ ขับ ใบเลื่อยสายพาน มอเตอรขบั เคลอ่ื น

13 ภาพที่ 2.15 หลักการทาํ งานของเครื่องเล่ือยสายพานนอน 3.3 สว นประกอบและหนา ทท่ี ีส่ าํ คัญของเครอ่ื งเล่ือยสายพานนอน เคร่อื งเลอื่ ยกลสายพานนอนมสี ว นประกอบทสี่ าํ คัญดังภาพที่ 2.16 โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ มอื หมุนปรบั ใบเล่ือยสายพาน สวติ ชค วบคุม ใบเล่อื ย มอเตอร โครงเลื่อย อปุ กรณตัง้ ปากกาจบั ชิน้ งาน ความยาวตดั มอื หมนุ ปากกา จบั ช้นิ งาน ฐานเครอ่ื ง ภาพที่ 2.16 สว นประกอบของเครื่องเล่อื ยสายพานนอน 3.3.1 มือหมุนปรับใบเลื่อย (Hand Wheel) ทําหนาที่หมุนปรับใบเล่ือยสายพานนอนให ตึงหรือหยอน 3.3.2 ใบเลอื่ ยสายพาน (Saw Blade) ทาํ หนา ที่ตดั ชิ้นงานใหขาดออกจากกัน 3.3.3 ปากกาจับชนิ้ งาน ทําหนา ท่ีจับยึดชิน้ งานท่ีจะทําการตดั 3.3.4 สวติ ชควบคมุ ทําหนาทค่ี วบคมุ การเปด-ปด การทาํ งานของเครอื่ งเล่ือยกลสายพาน 3.3.5 มอเตอร ทาํ หนา ท่เี ปนตนกาํ ลงั ของเคร่อื งเลื่อยกลสายพาน โดยใชก ระแสไฟฟา 220 โวลต หรอื 380 โวลต 3.3.6 โครงเลื่อย ทาํ หนา ท่จี ับยดึ ใบเลื่อยกลสายพานนอน 3.3.7 อุปกรณตั้งความยาวตัด (Equipment Set) ทําหนาท่ีตั้งระยะชิ้นงานท่ีตองการตัด ความยาวเทาๆ กันจาํ นวนหลายชิ้น 3.3.8 ฐานเครื่อง ทําจากเหล็กหลอหรือเหล็กเหนียวท่ีมีความแข็งแรงสูงทําหนาท่ีรองรับ สว นตา งๆของเคร่ืองเลอ่ื ยกลสายพานนอนทัง้ หมด 3.3.9 มอื หมนุ ปรับปากกาจบั ชิน้ งาน ใชห มนุ ใหป ากของปากจับช้นิ งานเคล่ือนทเี่ ขา -ออก เพื่อจบั ยึดหรือคลายช้นิ งาน

14 3.3.10 ใบเลื่อยสายพาน ทําหนาท่ีตัดช้ินงานมีลักษณะเปนวงกลม สามารถตัดหรือตอใบ เล่ือยได ในการใชงานจะใสใบเล่ือยเขากับชุดปรับจับใบเลื่อยแลวปรับใหใบเลื่อยมีความตึงท่ีเหมาะสมกับ การใชงานในกรณีที่ใบเล่ือยสายพานหักและขาดออกจากกัน สามารถเชื่อมตอกันใหสามารถนํากลับมาใช งานใหมไ ดอ กี คร้งั โดยใชชุดตดั หรือตอและอบออ นใบเลอ่ื ย (ก) ใบเลอื่ ยสายพาน (ข) ฟน ของใบเล่อื ยสายพาน ภาพท่ี 2.17 ใบเลื่อยสายพานนอน สาํ หรับการเลอื กใชใบเลือ่ ยสายพาน สามารถเลือกใชไดต ามตารางท่ี 2.3 และภาพที่ 2.18 ดังน้ี ตารางที่ 2.2 การเลอื กใชใบเล่อื ยสายพาน เสน ผา ศนู ยกลาง (L , mm) จาํ นวนฟน (Z) ความหนา (S , mm) จาํ นวนฟน (Z) ต่ํากวา 40 ตาํ่ กวา 1.5 10/14 ระหวา ง 40-80 8/12 ระหวาง 1.5 ถงึ 3 ระหวา ง 80 ถงึ 150 4/6 ระหวาง 3 ถึง 6 8/12 ระหวา ง 150 ถึง 400 ¾ 2/3 ระหวา ง 4 ถึง 10 6/10 - - - - ระหวาง 6 ถงึ 12 5/8 มากกวา 12 4/6 ¾ ภาพที่ 2.18 ขนาดของวสั ดุในการเลอื กใชใบเล่อื ยสายพาน

15 3.4 ขนั้ ตอนการใชง านเคร่อื งเลอื่ ยสายพานนอน 3.4.1 เตรยี มเครอื่ งมือและอุปกรณประจําเครอื่ งใหพ รอ ม 3.4.2 ตรวจสอบความพรอ มของเครอื่ งเลอื่ ยกอนปฏิบัติงาน หากพบขอผิดพลาดใหแจงครู ควบคมุ ทราบเพอ่ื ทําการซอมบํารงุ กอนใชง าน 3.4.3 ยกโครงเลื่อยขึ้นคางไว แลวจับยึดช้ินงานดวยปากกาจับงานใหถูกตองตามรูปทรง ของช้ินงานแตล ะชนิด โดยที่ยงั ไมตอ งขนั แนนเพือ่ ใหชิ้นงานสามารถเล่อื นไป-มาได 3.4.4 ปรับโครงเลื่อยลงมา โดยใหฟ นของใบเล่ือยหา งจากชิ้นงานประมาณ 25 มิลลเิ มตร 3.4.5 ปรับต้ังความยาวช้ินงานท่ีจะตัดโดยใชบรรทัดเหล็กวัดความยาวแลวจับยึดชิ้นงาน ดวยปากกาจบั งานใหแ นน มน่ั คง และแขง็ แรง 3.4.6 ถาตองการตัดช้ินงานท่ีมีความยาวเทากันจํานวนหลายๆ ชิ้น ใหใชอุปกรณตั้งความ ยาวชว ยในการตัด 3.5 การบํารงุ รกั ษาเครอื่ งเลอื่ ยสายพานนอน 3.5.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จดุ ตอสายไฟฟาใหอ ยูใ นสภาพท่สี มบรู ณตลอดเวลา 3.5.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟง เสยี งของมอเตอรข ณะหมนุ มีเสยี งดงั ผิดปกตหิ รอื ไม 3.5.3 ตรวจสอบระดับน้ํามันในกระบอกสูบไฮดรอลกิ สทกุ สัปดาห 3.5.4 เปลย่ี นถายนา้ํ หลอเยน็ ทกุ สัปดาห 3.5.5 อัดจาระบีเพอ่ื หลอลืน่ ตามจุดตา งๆ ทมี่ กี ารหมุนของช้ินสวนทกุ เดือน 3.5.6 หลังจากเลิกใชงานเครื่องเล่ือยสายพานนอนใหทําความสะอาดและชโลมนํ้ามัน บางๆ ตามชน้ิ สวนท่ที าํ จากเหลก็ กลา เชน ปากกาจบั งานและโครงของเคร่อื งเพอ่ื ปอ งกันสนิม เปน ตน 4. เครอ่ื งเลื่อยสายพานตั้ง (Vertical Band Saw) เครื่องเล่ือยสายพานแนวตั้ง มีความคลองตัวในการตัดชิ้นงาน ซึ่งจะหมุนตัดชิ้นงานอยางตอเน่ือง จุดเดน ใชตัดงานเบา ตัดเปนรูปทรงตางๆ ไดอิสระ ตัดเหล็กแบน หรือเหล็กบางใหขาด ซ่ึงเคร่ืองเล่ือยแบบ อ่ืนๆ ไมสามารถทําได จะเห็นบอยไดจากอุตสาหกรรม เฟอรนิเจอร ใชเคร่ืองเลื่อยสายพานแนวต้ังตัดแตง ขน้ึ รปู ชิ้นงาน 4.1 หลกั การทาํ งานของเครือ่ งเล่อื ยสายพานต้ัง หลักการทํางานของเคร่ืองเล่ือยสายพานตั้ง จะทํางานดวยมอเตอรสงกําลังขับไปยังลอขับ ในแนวด่ิง ทําใหเกิดการหมุนกับ ลอตาม โดยมีใบเลื่อยสายพานอยูท่ีลอขับลอตามหมุนเปนวงกลม ใบเลื่อย จึงเปนแนวต้ังฉาก ตางกับเครื่องเลื่อยสายพานแนวนอน การปอนตัดจะใชวิธีการปอนตัดดวยมือและปอน ช้นิ งานเขาหาใบเลือ่ ย ดงั ภาพท่ี 2.19

16 มอเตอรข บั เคลอ่ื น ลอ ตาม ใบเล่ือยสายพาน ลอ ขบั ภาพท่ี 2.19 หลกั การทํางานของเครือ่ งเลอ่ื ยสายพานตัง้ 4.2 สว นประกอบและหนา ทท่ี ส่ี ําคญั ของเครอื่ งเลื่อยสายพานตั้ง เครอื่ งเลื่อยสายพานตง้ั มสี ว นประกอบท่ีสาํ คญั ดังภาพท่ี 2.20 โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ สวิตชค วบคมุ หวั เครือ่ ง โคมไฟ แขนปรับ ความเรว็ รอบ ชดุ ประคอง ชุดตดั ตอใบเลือ่ ย ใบเล่อื ย โตะงาน เสาเครอ่ื ง ฐานเครื่อง ภาพที่ 2.20 สวนประกอบของเครือ่ งเลื่อยสายพานต้งั 4.2.1 สวิตชควบคมุ ทําหนาที่ควบคมุ การเปด -ปด การทํางานของเครอ่ื ง 4.2.2 แขนปรับความเร็วรอบ (Spindle Speed Selector) ทําหนาท่ีปรับความเร็วรอบ ของใบเลื่อย 4.2.3 เสาเครื่อง (Column) เปน สว นทต่ี อจากฐานเครอื่ งซ่ึงวางในแนวตั้ง ทําหนาที่รองรับ หัวเคร่ืองและลอตามภายในหัวเครื่องของเคร่ืองเลื่อย ท่ีดานหนาของเสาเครื่องจะติดต้ังชุดตัดชุดเช่ือมและ ชุดอบอนุ ใบเล่ือย 4.2.4 หัวเคร่ือง (Head) ประกอบดว ย ตัวยึดลอตาม ตัวประคองใบเล่ือยและโคมไฟ 4.2.5 ชุดประคองใบเล่ือย (Saw Guides) ทําหนาท่ีประคองใบเลื่อยใหตรง ไมทําใหฟน ของใบเล่อื ยเอนเอียงขณะหมุนตดั

17 4.2.6 โตะงาน (Table) ทําหนา ท่รี องรับชิ้นงาน สามารถปรับเอียงได 4.2.7 ฐานเครื่อง เปนสวนที่ยึดติดอยูกับพ้ืนโรงงาน ทําหนาท่ีรองรับนํ้าหนักทั้งหมดของ เครื่อง ภายในประกอบดวยระบบสงกําลังขับเคล่ือนใบเลื่อยและปมลม ซ่ึงทําหนาท่ีระบายความรอนให ช้ินงานและใบเลื่อยและใชเปาเศษโลหะออกจากแนวเล่ือยทําใหมองเห็นแนวเลื่อยไดชัดเจนย่ิงข้ึน ขณะทํา การเล่อื ย 4.2.8 ชุดตดั ตอ ใบเล่ือย ใบเลอ่ื ยสายพานเมือ่ ใชงานไปในชวงเวลาหน่ึงจะทําใหฟนใบเลื่อย ทื่อหรือคมตัดสึกหรอ และอาจทําใหใบเลื่อยหักและขาดออกจากกันได อยางไรก็ตามใบเลื่อยสายพานก็ สามารถเชอ่ื มตอ กนั ใหสามารถนาํ กลบั มาใชงานใหมไดอ ีกคร้ังโดยใชชดุ ตดั หรือตอและอบออนใบเลอ่ื ย 4.3 ขัน้ ตอนการใชง านเครื่องเล่อื ยสายพานต้งั 4.3.1 เตรียมเครื่องมือและอุปกรณป ระจาํ เคร่ืองใหพรอ ม 4.3.2 ตรวจสอบความพรอ มของเคร่อื งเลื่อยกอนปฏิบัติงาน หากพบขอผิดพลาดใหแจงครู ผูควบคุมทราบเพือ่ ทาํ การซอ มบํารงุ กอนใชง าน 4.3.3 เลอื กขนาดใบเลื่อยใหเ หมาะสมกบั ช้นิ งานที่ตอ งการตัด 4.3.4 ตรวจสอบความตึงของใบเลือ่ ย และปรับความเร็วรอบของใบเลือ่ ย 4.3.5 รา งแบบชิน้ งานตามแบบงานทีต่ องการตดั 4.3.6 เปด สวิตชใ หเ ครอื่ งเล่ือยทํางาน 4.3.7 วางชน้ิ งานบนโตะงาน แลวปอ นชนิ้ งานเขา หาใบเลือ่ ยตามแนวเสนรางแบบจนเสร็จ 4.3.8 ปดสวติ ชค วบคุม 4.3.9 ทําความสะอาดเครอ่ื งเลอ่ื ย และชโลมนํ้ามันเพอ่ื ปอ งกันสนิม 4.4 การบาํ รงุ รักษาเครอื่ งเลือ่ ยสายพานตง้ั 4.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟาจุดตอสายไฟฟา ใหอยูใ นสภาพท่ีสมบูรณต ลอดเวลา 4.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟงเสยี งของมอเตอรขณะหมุนมเี สียงดังผิดปกตหิ รอื ไม 4.4.3 หลงั เลิกใชงานเคร่ืองเล่ือยสายพานต้ังใหทําความสะอาดและชโลมน้ํามันบางๆ ตาม ชน้ิ สวนทท่ี าํ จากเหลก็ กลา เชน โตะ งานเพ่ือปองกันสนมิ เปนตน 4.4.4 อดั จาระบเี พ่อื หลอลื่นตามจดุ ตางๆ ท่ีมีการหมุนของชนิ้ สวนทกุ เดอื น 5. เคร่อื งเลื่อยวงเดอื น (Circular Saw) เคร่อื งเลื่อยวงเดือน ลักษณะใบเลื่อยจะเปนวงกลม มีฟนรอบวง สามารถตดั ชิ้นงานไดอยางตอเนื่อง มักเปนชิ้นงานบางๆ เชน ไม อลูมิเนียม สามารถตัดงานไดทุกลักษณะขึ้นอยูกับจํานวนฟนของใบเล่ือย เชน 30 ฟน 40 ฟน 80 ฟน ถาตัดช้ินงานท่ีตัดงาย ควรเลือกฟนลักษณะหาง สวนช้ินงานที่มีความแข็งสูงควร เลือกฟนลักษณะถี่ ขนาดใบเลื่อย 1ใ9 บเล่ือยวงเดือนมีขนาดตั้งแต 4” 7” 8” 9” และใหญกวานั้น โดยจะ ขน้ึ อยูก ับเครื่องเลอ่ื ย 19การตัดสามารถตัดตรงและเอียงเปน มุม สามารถทาํ งานไดห ลากหลายอยาง เชน เลือ่ ยตัด เลอื่ ย ซอย บงั ใบ ตดั เขา มุม ตดั เรยี วและทําเดอื ยแบบตา งๆ0 มีขายทง้ั แบบตัวเครือ่ งเล่ือยวงเดอื นแลวนํามาตดิ กบั โตะ เล่ือย และมาเปน ชดุ โตะเลื่อยหรอื แทนเลือ่ ยก็มี สวนกาํ ลังข้นึ อยกู ับขนาดมอเตอร

18 5.1 หลกั การทาํ งานของเคร่อื งเล่อื ยวงเดือน เครื่องเลื่อยวงเดือนมีหลักการทํางาน คือ ใบเล่ือยเปนรูปวงกลมมีฟนเลื่อยอยูรอบเสนรอ บวงของใบเลอ่ื ยและใชม อเตอรเปน ตน กําลังขับใหใบเล่ือยหมุนตัดช้ินงานดวยความเร็วสูงคลายกับเครื่องตัด ไฟเบอรส ามารถตดั ช้นิ งานตรงและเอยี งเปนมุมได 5.2 สวนประกอบและหนาทีท่ ่ีสาํ คัญของเครื่องเลื่อยวงเดือน เครื่องเล่ือยวงเดอื นมสี ว นประกอบท่ีสําคญั ดงั ภาพที่ 2.21 โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ดา มกด สวติ ชเ ปด-ปด ปุมล็อคใบเลอื่ ย มอเตอร ฝาครอบใบเลอ่ื ยชน้ั นอก ฝาครอบใบเลอ่ื ยชั้นใน แขนล็อค ท่บี ังสะเก็ดโลหะ ใบตัง้ มมุ ใบเลอ่ื ยวงเดอื น ฐานเคร่ือง ปากกาจับงาน มอื หมุนปากกาจับงาน ทีล่ อ็ ค/ปลดล็อคเกลียวจบั ยดึ ชิน้ งาน ภาพที่ 2.21 สว นประกอบของเครือ่ งเล่ือยวงเดือน 5.2.1 ฝาครอบใบเล่ือย (Circular Saw Guard) มีสองชั้นทําหนาที่ครอบใบเลื่อยวงเดือน เพ่อื ปอ งกนั อันตรายในขณะใบเลือ่ ยหมุนตัดชิน้ งาน 5.2.2 มอเตอร ทําหนาท่เี ปน ตนกําลังของเครอ่ื งเล่ือยวงเดอื น 5.2.3 ปากกาจบั งาน ทาํ หนาที่จับยดึ ชน้ิ งานทจ่ี ะทําการตดั 5.2.4 ใบต้งั มุมตัด (Angle Plate) ใชปรบั ตงั้ มุมเพื่อใหป ากของปากกาเอียงทํามุมตางๆ ใน การตัดเฉียง 5.2.5 ดา มกดตดั ใชกดใหใ บเลอ่ื ยเคล่อื นทลี่ งตดั ชนิ้ งาน 5.2.6 มอื หมนุ ปากกาจับงาน ใชห มุนใหป ากของปากกาจบั งานเล่อื นเขา จบั ยดึ ช้นิ งาน

19 5.2.7 ท่ีลอ็ คและปลดล็อคเกลียวยึดชิ้นงาน ใชสําหรับล็อค/คลายล็อคเกลียวจับยึดช้ินงาน ของปากกาจับงาน 5.2.8 สวติ ชเปด-ปด ทาํ หนา ท่เี ปด -ปด การทํางานของเครอ่ื งเลอ่ื ยวงเดือน 5.2.9 ฐานเครื่อง ทําหนาท่ีรองรับสวนตา งๆ ของเครอื่ งเล่ือยวงเดือนทั้งหมด 5.2.10 แขนลอ็ ค ทาํ หนาทลี่ อ็ ค/คลายล็อคปากกาจับงานในการปรับมมุ ตางๆ 5.2.11 ใบเล่อื ยวงเดอื น ทาํ หนาทีต่ ัดชน้ิ งานใหแยกหรือขาดออกจากัน 5.3 ขน้ั ตอนการใชง านเครอ่ื งเลื่อยวงเดือน 5.3.1 เตรียมเคร่ืองมอื และอปุ กรณป ระจําเครื่องใหพ รอ ม 5.3.2 ตรวจสอบความพรอมของเครือ่ งเล่อื ยกอ นปฏิบัติงาน หากพบขอผิดพลาดใหแจงครู ผูควบคุมทราบเพือ่ ทาํ การซอ มบํารุงกอ นใชงาน 5.3.3 จับยึดช้ินงานดวยปากกาจับงานใหถูกตองตามรูปทรงของชิ้นงานแตละชนิด โดยท่ี ยังไมตอ งขนั แนน เพือ่ ใหส ามารถเลื่อนไป-มาได 5.3.4 ปรับตั้งความยาวชิ้นงานท่ีจะตัด โดยใชอุปกรณตั้งความยาว แลวจับยึดช้ินงานดวย ปากกาจับงานใหแนน มน่ั คง และแขง็ แรง 5.3.5 เปดสวิตชเครื่องเล่ือยทํางานและเปดน้ําหลอเย็นเพื่อระบายความรอนใหใบเลื่อย และช้ินงาน 5.3.6 กดแขนโยกปอ นตดั ใหใบเลอื่ ยตัดช้นิ งานจนขาดออกจากกัน 5.3.7 ปด สวิตชค วบคมุ 5.3.8 ทาํ ความสะอาดเคร่อื งเลอื่ ย และชโลมนา้ํ มันเพอ่ื ปอ งกนั สนิม 5.4 การบํารุงรักษาเคร่ืองเลอื่ ยวงเดอื น 5.4.1 ตรวจสอบระบบไฟฟา จดุ ตอสายไฟฟาใหอยูในสภาพที่สมบรู ณตลอดเวลา 5.4.2 ตรวจสอบมอเตอร โดยการฟงเสยี งของมอเตอรขณะหมนุ มีเสียงดงั ผดิ ปกติหรอื ไม 5.4.3 เปล่ยี นถา ยนํา้ หลอ เย็นทุกสปั ดาห 5.4.4 อัดจาระบีเพื่อหลอ ล่ืนตามจุดตา งๆ ทีม่ กี ารหมนุ ของชนิ้ สวนทกุ เดอื น 5.4.5 หลังเลิกใชงานเครื่องเล่ือยวงเดือนใหทําความสะอาดและชโลมน้ํามันบางๆ ตาม ชน้ิ สวนทที่ าํ จากเหล็กกลา เชน ปากกาจับงานเพอื่ ปองกนั สนมิ เปนตน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook