Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยจ๋าาาา เสร็จ

วิจัยจ๋าาาา เสร็จ

Published by ソソスィ一インカノックメ一ト, 2020-10-02 07:27:14

Description: วิจัยจ๋าาาา เสร็จ

Search

Read the Text Version

ภูมิทัศน์ภาษาศาสตร์ในโรงเรียน School landscape กนกนาถ สงค์ศรีอนิ ทร์1 อาอฉี ๊ะ สงบ บทคดั ย่อ การศึกษาในคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ (Linguistic Landscape) ที่ส่งเสริมการ เรียนรู้ในโรงเรียน ของจงั หวดั ภูเก็ต และเพ่ือศึกษาภาษาท่ีปรากฎบนป้ าย ขอ้ ความหรือส่ือต่างๆ กลุ่มตวั อย่างท่ีใช้ ในการศึกษาคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ ป้ ายขอ้ ความจานวนท้งั สิ้น 461 ป้ าย ที่ปรากฎในพ้ืนท่ีท้งั ภายในและภายนอกอาคารเรียน ของโรงเรียนในจงั หวดั ภูเก็ต เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวิจยั มี 2 ประภท ไดแ้ ก่ 1) แบบบนั ทึกการวิเคราะห์ป้ ายขอ้ ความ สื่อต่าง ๆ 2) กลอ้ งดิจิตอล ใชถ้ ่ายภาพขอ้ มูลเพื่อนามาวิเคราะห์ สาหรับการวิเคราะห์ขอ้ มูลกระทาท้งั ในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ โดยมีการวิเคราะห์เน้ือหา และการวิเคราะห์ทางสถิติ (ค่าความถี่ และค่าร้อยละ) ผลการวิจยั พบว่า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ในโรงเรียนท่ีมีผลต่อการเรียนรู้มีลักษณะ ดังน้ี ส่วนใหญ่เป็ นป้ ายที่มีการใช้ภาษาไทย รองลงมาจะเป็นภาษาองั กฤษ และภาษาจีนเป็นลาดบั ถดั ไป ตามลาดบั จากการศึกษาพบวา่ ป้ ายส่วนใหญ่ทาหนา้ ที่ใน การให้ขอ้ มูลและความรู้ นอกจากน้ีงานวิจยั ยงั พบ codemixing ในหลากหลายชนิดบนป้ ายขอ้ ความที่มีปรากฎซ่ึง เป็ นย้าให้เห็นถึงความสาคญั และอิทธิพลของภาษาองั กฤษในลกั ษณะที่เป็ นภาษาสากล งานวิจยั น้ีแสดงให้เห็นว่า อิทธิพลของภาษาองั กฤษมีส่วนเกี่ยวกบั การพฒั นาภาษาไทยไม่เพียงแต่ในรูปแบบของการยมื คาศพั ทแ์ ต่ยงั รวมถึง เร่ืองอกั ขระ การออกเสียงและวากยสัมพนั ธ์ คาสาคัญ: ภมู ิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ ,ป้ ายขอ้ ความ 1 นกั ศกึ ษาสาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ภเู ก็ต

6304329 Introduction to Research in Thai Language 2 1. บทนา ภาษาเป็ นเคร่ืองมือที่มนุษยใ์ ช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน อาจเป็ นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก หรือทศั นคติเพ่ือให้เกิดความเขา้ ใจกนั โดยภาษาท่ีใช้น้นั มีหลายภาษา เช่น ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน ภาษามลายู เป็นตน้ ท้งั น้ีการท่ีจะเลือกใช้ภาษาใดในการส่ือสารน้นั ข้ึนอยกู่ บั ว่าบุคคลท่ีจะสนทนาดว้ ย เขารู้ภาษาใด ถา้ หากเป็นคนในพ้ืนที่เดียวกนั อาจใชภ้ าษาท่ีพูดกนั ทว่ั ไป แต่ถา้ หากเป็นชาวต่างชาติ ตอ้ งใชภ้ าษาท่ี เขาเขา้ ใจหรือใชภ้ าษาท่ีเป็นภาษาหลกั ในการส่ือสาร เช่น ภาษาองั กฤษ ผทู้ ี่สามารถพดู ไดห้ ลายภาษาน้นั จะเรียกว่า เป็นผรู้ ู้หลายภาษา จึงทาใหเ้ กิดความหลากหลายทางภาษาข้ึน การศึกษาภูมิทศั น์ภาษาศาสตร์ เป็นการศึกษาภาษาที่ปรากฏตามป้ ายในสถานที่สาธารณะตา่ ง ๆ เช่น ป้ าย ถนน ป้ ายชื่อร้านคา้ เป็นตน้ (กฤตพล วงั ภษู ิต, 2555) โดยการศึกษาภมู ิทศั น์ภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่จะศึกษาเกี่ยวกบั ภาษาท่ีปรากฏตามป้ ายเป็นภาษาอะไร เป็นป้ ายภาษาเดียวหรือหลายภาษา แต่ละพ้ืนท่ีมีภาษาที่แตกต่างกนั เพียงใด และภาษาที่ปรากฏบนป้ ายทาหนา้ ที่อยา่ งไร จากการศึกษาเรื่องภาษาและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ภมู ิทศั น์ภาษาศาสตร์ขา้ งตน้ นามาสู่งานวจิ ยั เรื่อง การศึกษาภมู ิทศั นภ์ าษาศาสตร์ในโรงเรียน ซ่ึงเป็นการศึกษาภาษาที่ปรากฏตามพ้ืนท่ีต่าง ๆ ในบริเวณโรงเรียน เช่น ป้ ายหอ้ งเรียน ป้ ายนิเทศน์ ป้ ายบอกสถานท่ี เป็นตน้ ซ่ึงป้ ายตา่ ง ๆ เหล่าน้ี มีขอ้ ความปรากฏอยู่ บางคร้ังอาจเป็น ตวั อกั ษร รูปภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ โดยตวั อกั ษรก็อาจมีภาษาเดียว หรือหลายภาษา และตวั ภาษาที่ปรากฏน้นั มีหนา้ ท่ี ตา่ ง ๆ เช่น ทาหนา้ ที่เชิงใหข้ อ้ มลู ทาหนา้ ที่เชิงสัญลกั ษณ์และทาหนา้ ท่ีสื่อสารระหวา่ งผสู้ ่งสารกบั ผรู้ ับสาร ซ่ึง สามารถนาผลจากการศึกษามาวเิ คราะหถ์ ึง ความแตกต่างของภาษาท่ีปรากฏในโรงเรียน ระหวา่ งโรงเรียนที่มีการใช้ ภาษาไทยเป็นภาษาหลกั กบั โรงเรียนที่ใชท้ ้งั ภาษาไทย ภาษาองั กฤษและภาษาจีนเสริมอีกดว้ ย

6304329 Introduction to Research in Thai Language 3 2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพ่อื ศึกษาภมู ิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ในโรงเรียน 3. ขอบเขตของการวจิ ัย งานวิจยั น้ีเกบ็ ขอ้ มลู เฉพาะป้ ายตา่ งๆ ในโรงเรียนในจงั หวดั ภเู ก็ต 3 โรง ท้งั ที่เป็นโรงเรียนปกติและโรงเรียน นานาชาติ เท่าน้นั 4. ประโยชน์ของการวิจัย เพือ่ ใหไ้ ดท้ ราบถึงภมู ิทศั น์ภาษาศาสตร์ที่มีผลตอ่ การเรียนรู้ 5. วธิ ีการดาเนนิ การวิจยั 6.1 ศึกษาเอกสารงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ภมู ิทศั นภ์ าษาศาตร์ การจดั สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสมกบั การเรียนรู้ 6.2 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชศ้ ึกษาคือโรงเรียนในอาเภอเมือง จงั หวดั ภูเก็ต ซ่ึงคดั เลือกโรงเรียนที่เป็น โรงเรียนต้งั แตร่ ะดบั ช้นั อนุบาลจนถึงโรงเรียนท่ีเปิ ดสอนในระดบั มธั ยม จานวน 3 โรงเรียน และจานวนป้ ายขอ้ มูลที่ จะศึกษาท้งั หมด 461 ป้ าย ประกอบดว้ ย 6.2.1 ป้ ายขอ้ มลู ภายในอาคารเรียน จานวน 334 ป้ าย 6.2.2 ป้ ายขอ้ มูลภายนอกอาคารเรียน จานวน 127 ป้ าย 6.3 การเก็บรวบรวมป้ ายขอ้ มูลจากโรงเรียนในอาเภอเมืองโดยการถ่ายภาพป้ ายขอ้ มูล ท้งั ป้ ายขอ้ มูลภายใน และภายนอกโรงเรียน ต้งั แต่วนั ที่ 10 มกราคมจนถึง วนั ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563 จากการเก็บรวบรวมขอ้ มูลไดป้ ้ าย ขอ้ มูล จานวน 461 ป้ าย 6.4 การวิเคราะห์ขอ้ มูล ผูว้ ิจยั วิเคราะห์ภาษาที่ปรากฎในป้ ายขอ้ มูล โครงสร้างทางภาษาท่ีปรากฎในป้ าย ขอ้ มูล การจดั วางตวั อกั ษรและการใชส้ ัญญะของป้ ายขอ้ มูลภายในโรงเรียนในจงั หวดั ภูเก็ต 6.5 สรุป อภิปรายผล และนาเสนอผลการวจิ ยั โดยการเรียบเรียงแบบพรรณนาวิเคราะห์ 6. การทบทวนวรรณกรรมท่ีเกย่ี วข้อง ภาษาเป็ นเครื่องมือชนิดหน่ึงท่ีมนุษยใ์ ช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกนั เพ่ือถ่ายทอดและแลกเปลี่ยน ความรู้ ความคิด ทศั นคติ โดยมนุษยท์ ุกกลุ่มมีภาษาของตวั เอง ซ่ึงจะมีความแตกต่างกนั ไปตามพ้ืนที่น้นั ๆ ตวั ภาษา ของกลุ่มชุมชนท่ีอยู่บริเวณใกลเ้ คียงกัน อาจมีความเหมือนหรือคลา้ ยกนั ในบางส่วน และบางส่วนก็อาจมีความ แตกตา่ งกนั อยา่ งสิ้นเชิง เช่น คนในจงั หวดั สงขลา ก็อาจมีคาศพั ทบ์ างคา ที่เป็นภาษาเฉพาะของคนจงั หวดั สงขลา ซ่ึง มีความแตกต่างจากคาศพั ท์ของคนในจงั หวดั พทั ลุง โดยความแตกต่างของภาษาในแต่ละชุมชน มีสาเหตุมาจาก หลายสาเหตุ เช่น ลกั ษณะทางภูมิทศั น์ สภาพแวดลอ้ ม การศึกษา บรรพบุรุษ หรือจากการรับอิทธิพลของชุมชนอื่น เขา้ มา ทาให้ภาษาเดิมมีการเปล่ียนแปลงไป อาจเปลี่ยนแปลงไปบางส่วน หรือเปลี่ยนแปลงไปท้งั หมดก็เป็ นได้

6304329 Introduction to Research in Thai Language 4 หลงั จากที่มีการรับภาษาอื่นเขา้ มาแลว้ จะส่งผลให้เกิดความหลากหลายทางภาษาข้ึน โดยผูท้ ี่มีความรู้ หรือพูดได้ หลายภาษาน้นั จะเรียกวา่ ผรู้ ู้หลายภาษา และยงั ทาให้เกิดการถา่ ยทอดภาษาใหมท่ ี่รับเขา้ มาดว้ ย จึงส่งผลใหท้ ุกภาษา มีการแข่งขนั กนั มากข้ึน ภาษาใดที่มีผูค้ นใชเ้ ป็นจานวนมาก จะทาให้ภาษาน้นั มีความสาคญั และเป็นท่ียอมรับของ คนทวั่ ไป การศึกษาภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ เป็นการศึกษาตวั ภาษาที่ปรากฏตามสถานที่สาธารณะ หรือในชุมชนใด ชุมชนหน่ึง ผ่านตวั ป้ ายต่าง ๆ เช่น ป้ ายชื่อร้านคา้ ป้ ายช่ือถนน หรือป้ ายโฆษณา ที่สามารถพบเห็นไดท้ ว่ั ไป โดย ภาษาท่ีปรากฏตามสถานท่ีสาธารณะน้ัน (กฤตพล วงั ภูษิต, 2555) นอกจากจะใช้เพ่ือการส่ือสารระหว่างบุคคล ดว้ ยกนั แลว้ ก็ยงั ส่งผลให้เกิดความหลากหลายของภมู ิทศั น์ทางภาษาในพ้ืนที่น้นั ดว้ ย เช่น ถา้ หากไปเดินบริเวณหาด ป่ าตอง จะสงั เกตไดว้ ่า ป้ ายร้านคา้ มีหลายภาษา ท้งั ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน ภาษาอาหรับ หรือแมก้ ระทงั่ ภาษาไทย ซ่ึง ภาษาท่ีปรากฏเหล่าน้ันจะเป็นตวั สะทอ้ นความหลากหลายทางวฒั นธรรมและบ่งบอกถึงสภาพของชุมชนในพ้ืนที่ น้นั ไดอ้ ีกดว้ ย เน่ืองจากในพ้ืนท่ีน้นั มีผรู้ ู้หลายภาษา จึงทาใหป้ รากฏภาษาหลายภาษาเช่นกนั ภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ในโรงเรียน คือ การศึกษาสภาพของตวั ภาษาท่ีปรากฏบนป้ ายตามบริเวณต่าง ๆ ในพ้ืนที่ของโรงเรียน เช่น ป้ ายชื่ออาคาร ป้ ายตามห้องเรียน ป้ ายความรู้ หรือบอร์ดนิทรรศการต่าง ๆ ซ่ึงแต่ละ โรงเรียนก็มีความหลากหลายทางภาษาที่แตกต่างกนั เน่ืองจากในสังคมปัจจุบนั เป็ นสังคมพหุภาษา ที่ผคู้ นมีความรู้ หลายภาษา จนทาให้เกิดการแข่งขนั ทางภาษาข้ึน เช่น โรงเรียนรัฐบาลส่วนใหญ่ จะมีภูมิทศั น์ทางภาษาเพียงภาษา เดียว หรืออาจมีสองภาษา แต่จะมีไม่เกินสามภาษา ส่วนโรงเรียนเอกชนจะมีความหลากหลายทางภาษามากกว่า โรงเรียนรัฐบาล โดยอาจมีต้งั แต่สองภาษา สามภาษา หรือสี่ภาษา ซ่ึงการจดั ภูมิทศั น์ทางภาษาของแต่ละโรงเรี ยน ข้นึ อย่กู บั วา่ ในพ้ืนท่ีน้นั มีผคู้ นที่รู้หลายภาษามากนอ้ ยเพียงใด จึงทาใหเ้ กิดการปะปนของภาษาข้ึน และส่งผลให้แต่ ละโรงเรียนจดั ภมู ิทศั น์ทางภาษาท่ีแตกต่างกนั เพือ่ ใหเ้ หมาะสมกบั ผคู้ นท่ีอาศยั อยใู่ นพ้ืนที่น้นั จากการศึกษาภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ในภาษาไทย มีงานวิจยั หลายเรื่องท่ีให้ความสนใจเกี่ยวกบั ภูมิทศั น์ ทางภาษาศาสตร์ เช่น งานวิจยั ของจริยา เสียงเยน็ ( 2558 ) ที่ไดศ้ ึกษาเร่ือง ภมู ิทศั น์ทางภาษาจากป้ ายโฆษณาในเขต อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี ผลการวิจยั พบว่า ป้ ายโฆษณาส่วนใหญ่เป็ นป้ ายภาษาเดียว รองลงมาเป็ นป้ ายสอง ภาษา สามภาษา และส่ีภาษาตามลาดับ โดยภาษาท่ีพบจากป้ ายโฆษณามี 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทยมากที่สุด รองลงมา คอื ภาษาองั กฤษ ภาษาลาว และภาษาจีน โดยในการศึกษาคร้ังน้ีเก็บตวั อยา่ งจากป้ ายโฆษณา จานวน 100 ป้ าย ในเขตอาเภอเมือง จงั หวดั อดุ รธานี นอกจากน้ียงั มีงานวิจยั ของกฤตพล วงั ภูสิต ( 2555 ) ที่ไดศ้ ึกษาเร่ือง ช่ือธุรกิจการคา้ ในย่านสยามสแควร์ : การศึกษาตามแนวภูมิทัศน์เชิงภาษาศาสตร์ โดยใช้แนวคิด ทฤษฎีในด้านภูมิทัศน์เชิงภาษาศาสตร์ (Linguistic Landscape) และแนวคิดของทอม เฮอร์บเนอร์ ในการวิเคราะห์ เก็บขอ้ มูลจากป้ ายร้านค้าในย่านสยามสแควร์ ระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน 2554 ไดจ้ านวน 766 ป้ าย ผลการวิจยั พบวา่ ที่มาในการต้งั ช่ือธุรกิจการคา้ มี 3 ที่มา ไดแ้ ก่ 1. ที่มาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ช่ือเจา้ ของธุรกิจ 2. ที่มาที่เก่ียวขอ้ งกบั ชื่อสินคา้ /บริการ 3. ที่มาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ลกั ษณะเด่นของสินคา้ ส่วนภาษาท่ีใชใ้ นการต้งั ชื่อธุรกิจมากที่สุด คือ ภาษาองั กฤษ รองลงมา คือ ภาษาไทย และ ภาษาไทย-ภาษาองั กฤษ และยงั พบกลวิธีในการต้งั ช่ือธุรกิจแบบต่าง ๆ เช่น การเล่นคา การใชค้ วามเปรียบ เป็ นตน้ นอกจากน้ียงั พบวา่ รูปร่างป้ าย รูปลกั ษณ์ตวั อกั ษร และการจดั วางองค์ประกอบมีลกั ษณะท่ีโดดเด่นและเนน้ ความ

6304329 Introduction to Research in Thai Language 5 สะดุดตา จากการวิเคราะห์ท้ังหมดสามารถสรุปได้ว่า ย่านสยามสแควร์เป็ นชุมชนสองภาษา ที่ได้รับอิทธิพล ภาษาองั กฤษเขา้ มา และเกิดการแข่งขนั กนั ในการศึกษา ในต่างประเทศก็มีงานวิจยั ท่ีศึกษาในเร่ืองน้ี เช่นของ SUSAN FRESNIDO ASTILLERO ( 2017 ) ที่ศึกษา เ รื่ อ ง LINGUISTIC SCHOOLSCAPE: STUDYING THE PLACE OFENGLISH AND PHILIPPINE LANGUAGES OF IROSINSECONDARY SCHOOL ( โรงเรียนภาษาศาสตร์ : ศึกษาสถานที่ภาษาองั กฤษและ ฟิ ลิปปิ นส์ภาษา IROSIN มัธยมศึกษาตอนต้น ) ผลการวิจยั พบว่า ภาษาอังกฤษมีอิทธิพลต่อการใช้ภาษาในคา ปราศรัยที่เป็ นทางการและแบบตรงไปตรงมากบั นักเรียน ส่วนชาวฟิ ลิปปิ นส์จะใชภ้ าษาท่ีเป็นกนั เองมากข้ึน โดย นกั เรียนคุน้ เคยกบั การใชภ้ าษาองั กฤษและภาษาฟิ ลิปปิ นส์ในการส่งขอ้ มูลระหวา่ งกนั ซ่ึงภาษาที่ถูกนามาใช้อย่าง เด่นชัดในส่งมอบข้อมูล คือ ภาษาองั กฤษ เน่ืองจากภาษาองั กฤษเป็ นภาษาที่ทัว่ โลกใช้ในการสื่อสาร ทาให้มี อิทธิพลมากกวา่ ภาษาฟิ ลิปปิ นส์ จากการศึกษางานวิจยั ขา้ งตน้ นามาสู่งานวิจยั เร่ืองภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ในโรงเรียน ซ่ึงจะศึกษาเฉพาะ ภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ในโรงเรียนเท่าน้ัน โดยในงานวิจยั จะเนน้ ศึกษาเกี่ยวกบั ตวั ภาษาที่ปรากฏตามป้ ายต่าง ๆ ในบริเวณโรงเรียน วา่ ป้ ายท่ีพบในโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นภาษาอะไร มีภาษาอะไรบา้ ง การจดั เรียงภาษาในป้ ายส่วน ใหญ่ใช้ภาษาอะไรข้ึนก่อน โครงสร้างทางภาษาท่ีปรากฏบนป้ าย การเน้นของภาษา รูปแบบตวั อกั ษร และดูการ แขง่ ขนั ของภาษาท่ีปรากฏระหวา่ งโรงเรียนรัฐบาล กบั โรงเรียนเอกชน จานวน 3 โรงเรียน 7. ผลการวจิ ัย งานวิจยั น้ีมีวตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั เพื่อศึกษาภูมิทศั นท์ างภาษาศาสตร์ในโรงเรียนในจงั หวดั ภูเกต็ จานวน 3 โรง จากการเก็บขอ้ มูลการใชภ้ าษาในป้ ายต่าง ๆ ท้งั หมด 461 ป้ าย นามาสู่การวิเคราะห์ใน 3 ประเด็น อนั เป็นผล ของการวิจยั ในคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ 7.1 ภาษาท่ีใช้ในป้ ายต่าง ๆ 7.2 โครงสร้างของภาษาต่าง ๆ ที่ปรากฏในป้ าย และ 7.3 รูปลกั ษณ์ตวั อกั ษรของภาษาตา่ ง ๆ ในป้ าย ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 7.1 ภาษาที่ใช้ในป้ ายต่าง ๆ จากการวเิ คราะห์ภาษาท่ีปรากฏในป้ ายตา่ งๆ ท้งั หมด 461 ป้ าย พบป้ ายที่ใชภ้ าษาต่างๆ ท้งั หมด 268 ป้ าย และจากการวิเคราะห์พบการใชภ้ าษาต่าง ๆ ในป้ ายท้งั หมด 3 ภาษา ไดแ้ ก่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ และ ภาษาจีน ดงั ในตารางที่ 1 ตางรางที่ 1 ความถี่ของภาษาต่างๆ ท่ีปรากฏใชใ้ นป้ าย (เพ่ิมลาดบั ที่ และช่ือตาราง) ภาษาท่ปี รากฎในป้ าย ลาดบั ภาษา จานวน ร้อยละ 1 ภาษาไทย 142 52.99 2 ภาษาองั กฤษ 125 46.64 3 ภาษาจีน 1 0.37 รวม 268 100

6304329 Introduction to Research in Thai Language 6 จากตารางท่ี 1 พบว่า ภาษาท่ีปรากฏในป้ ายต่างๆ ในโรงเรียนท้งั 3 ภาษา น้ัน พบป้ ายท่ีใชภ้ าษาไทยมาก ที่สุด เป็นจานวน 142 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 52.99 รองลงมาเป็นป้ ายที่ใชภ้ าษาองั กฤษ ปรากฏ 125 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 46.64 อย่างไรก็ตาม เม่ือวิเคราะห์ภาษาที่ใช้ในป้ ายต่างๆ จานวน 268 ป้ าย โดยจาแนกตามโรงเรียนต่างๆ ท้งั 3 โรงเรียน พบวา่ แต่ละโรงเรียนมีการใชภ้ าษาในป้ ายมีความแตกตา่ งกนั สรุปดงั ตารางที่ 2 ตางรางท่ี 2 ความถี่ของภาษาต่างๆ ที่ปรากฏใชใ้ นป้ ายโดยจาแนกตามโรงเรียน ลาดับ ภาษา โรงเรียน ร้อยละ โรงเรียน ร้อยละ โรงเรียน ร้อยละ ก ข ค 1 ภาษาไทย 68 71.58 54 88.52 20 17.86 2 ภาษาองั กฤษ 27 28.42 7 11.48 91 81.25 3 ภาษาจีน - - - - 1 0.89 รวม 95 100 61 100 112 100 จากตารางที่ 2 พบวา่ ภาษาท่ีปรากฎในป้ าย ท้งั 3 โรงเรียน ปรากฎวา่ การใชภ้ าษาในการทาป้ ายขอ้ มูลที่นิยม มาก ในโรงเรียน ก คือ ภาษาไทย จานวน 68 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 71.58 รองลงมา คือ ภาษาองั กฤษ จานวน 27 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 28.42 ไม่พบป้ ายท่ีเป็ นภาษาจีน ส่วนในโรงเรียน ข คือ ภาษาไทยเป็ นภาษาที่นิยมมากท่ีสุด จานวน 54 ป้ าย คิดเป็ นร้อยละ 88.52 รองลงมา คือ ภาษาองั กฤษ จานวน 7 ป้ าย คิดเป็ นร้อยละ11.48 และไม่พบป้ ายท่ีเป็ น ภาษาจีน และในโรงเรียน ค ภาษาท่ีนิยมมากท่ีสุด คอื ภาษาองั กฤษ จานวน 91 ป้ าย คิดเป็ นร้อยละ 81.25 รองลงมา คือ ภาษาไทย จานวน 20 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ และภาษาจีน จานวน 1 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 7.2 โครงสร้างของภาษาต่าง ๆ ทป่ี รากฏในป้ าย จากการศึกษาป้ ายตา่ งๆ จานวน 461 ป้ าย พบโครงสร้างของภาษาต่าง ๆ ท่ีปรากฏในป้ าย ท้งั หมด 3 โครงสร้าง ไดแ้ ก่ โครงสร้างหน่ึงภาษา โครงสร้างสองภาษา และโครงสร้างสามภาษา ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 7.2.1 โครงสร้างหนง่ึ ภาษา โครงสร้างหน่ึงภาษา หมายถึง การเลือกใชภ้ าษาใดภาษาหน่ึงใน 3 ภาษา ไดแ้ ก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ในป้ าย จากการวิเคราะห์ป้ ายท้ังหมด 461 ป้ าย พบป้ ายท่ีเป็ นโครงสร้างหน่ึงภาษา ท้งั หมด 268 ป้ าย ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 1 ป้ ายบอกจดุ จอดรถรับส่งนกั เรียน ภาพที่ 2 ป้ ายคาเตือนหา้ มนาอาหารและน้ามารับประทาน

6304329 Introduction to Research in Thai Language 7 ภาพท่ี 3 ป้ ายคาขวญั ภาษาจีน จากการวิเคราะหค์ วามถี่การปรากฏของแต่ภาษาในโครงสร้างหน่ึงภาษาในป้ าย ไดผ้ ลดงั ในตารางที่ 3 ตางรางที่ 3 ความถ่ีของโครงสร้างหน่ึงภาษาท่ีใชใ้ นการทาป้ ายขอ้ มูลๆ ที่ปรากฏใชใ้ นป้ ายโดยจาแนกตามโรงเรียน โครงสร้างหน่ึงภาษาที่ใช้ในการทาป้ ายข้อมูล ลาดับ โครงสร้าง จานวน ร้อยละ 1 ภาษาไทยภาษาเดียว 142 52.99 2 ภาษาองั กฤษภาษาเดียว 125 46.64 3 ภาษาจีนภาษาเดียว 1 0.37 รวม 268 100 จากตารางที่ 3 พบวา่ ภาษาท่ีปรากฏในป้ ายต่างๆ ในโรงเรียนท้งั 3 ภาษา น้นั พบป้ ายท่ีใชภ้ าษาไทย มากท่ีสุด เป็นจานวน 142 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 52.99 รองลงมาเป็นป้ ายท่ีใชภ้ าษาองั กฤษ ปรากฏ 125 ป้ าย คดิ เป็น ร้อยละ 46.64 และลาดบั สุดทา้ ยคอื ภาษาจีน ปรากฎ 1 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 0.37 7.2.2 โครงสร้างสองภาษา หมายถึงการเลือกใช้ภาษาสองภาษาใน 3 ภาษาท่ีปรากฏ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ หรือภาษาจีน ในป้ าย จากการวิเคราะหป์ ้ ายท้งั หมด 190 ป้ าย พบโครงสร้างสองภาษา ใน 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี 7.2.2.1 โครงสร้างภาษาไทย + ภาษาอังกฤษ คือ ป้ ายที่ประกอบด้วยตัวอักษรท้ังที่เป็ น ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 4 ป้ ายแจง้ ให้ถอดรองเทา้ ก่อนเขา้ หอ้ งเรียน

6304329 Introduction to Research in Thai Language 8 7.2.2.2 โครงสร้างภาษาไทย + ภาษาจีน คือ ป้ ายท่ีประกอบดว้ ยตวั อกั ษรท้งั ที่เป็น ภาษาไทยและภาษาจีน ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 5 ป้ ายแจง้ ห้ามเปิ ดหนา้ ต่าง 7.2.2.3 โครงสร้างภาษาองั กฤษ + ภาษาจีน คือ ป้ ายที่ประกอบด้วยตัวอักษรท้ังท่ีเป็ น ภาษาองั กฤษและภาษาจีน ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 6 ป้ ายแจง้ กฎระเบียบท่ีทกุ คนตตอ้ งปฏิบตั ิร่วมกนั จากการวิเคราะห์ความถ่ีการปรากฏของแตล่ ะภาษาในโครงสร้างสองภาษาในป้ าย ไดผ้ ลดงั ในตารางที่ 4 ตางรางท่ี 4 ความถี่ของภาษาต่างๆ ท่ีปรากฏใชใ้ นป้ ายโดยจาแนกตามโรงเรียน โครงสร้างทางภาษาทีใ่ ช้ในการทาป้ ายข้อมูล 2 ภาษา ลาดบั โครงสร้างภาษา จานวน ร้อยละ 1 ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 185 97.37 2 ภาษาองั กฤษและภาษาจีน 3 1.58 3 ภาษาไทยและภาษาจีน 2 1.05 รวม 190 100 จากตารางท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์โครงสร้างทางภาษาที่ใชใ้ นการทาป้ ายขอ้ มูล 2 ภาษา ปรากฏโครงสร้าง ภาษาไทยและภาษาองั กฤษมากท่ีสุดบนป้ ายขอ้ มลู ที่ศึกษา กลา่ วคอื โครงสร้างภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เป็น จานวน 185 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 97.37 รองลงมาคือ โครงสร้างภาษาองั กฤษและภาษาจีน ปรากฏ 3 ป้ าย คดิ เป็นร้อย ละ 1.58 และลาดบั สุดทา้ ย คอื ภาษาไทยและภาษาจีน ปรากฎ 2 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 1.05

6304329 Introduction to Research in Thai Language 9 7.2.3 โครงสร้างสามภาษา หมายถึง การเลือกใชภ้ าษาสามภาษาที่ปรากฏ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ หรือภาษาจีนในป้ าย จากการวเิ คราะห์ป้ ายท้งั หมด 3 ป้ าย พบโครงสร้างสามภาษา ในป้ าย 1 ลกั ษณะ ดงั น้ี 7.2.3.1 โครงสร้างภาษาจีน ภาษาองั กฤษ + ภาษาไทย คือ ป้ ายที่ประกอบดว้ ยตวั อกั ษรท้งั ท่ี เป็นภาษาไทยภ ภาษาองั กฤษ และภาษาจีนดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 7 ป้ ายประกาศขอ้ ปฎิบตั ิและขอ้ ห้าม จากการวเิ คราะห์ความถ่ีการปรากฏของแตภ่ าษาในโครงสร้างสามภาษาในป้ าย ไดผ้ ลดงั ตารางท่ี 5 ตางรางท่ี 5 ความถ่ีของโครงสร้างภาษาท่ีใชใ้ นการทาป้ ายสามภาษา โครงสร้างภาษาทใี่ ช้ในการทาป้ ายสามภาษา ลาดับ ภาษา จานวน ร้อยละ 1 ภาษาจีนผสมภาษาองั กฤษและภาษาไทย รวม 3 100 3 100 จากตารางที่ 5 พบวา่ โครงสร้างทางภาษาท่ีใปรากฎอยใู่ นป้ ายขอ้ มูลสามภาษา ท่ีพบจากการศึกษาคร้ังน้ีมี เพยี งโครงสร้างเดียว กล่าวคือ โครงสร้างภาษาจีนผสมภาษาองั กฤษและภาษาไทย จานวน 3 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 100 7.2.4 รูปแบบการจัดวางภาษาท่ีปรากฏในป้ าย ภาษาที่พบในป้ ายขอ้ มลู พบวา่ มีการนาภาษาตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการทาป้ ายขอ้ มลู ท้งั หมด 13 รูปแบบ มี รายละเอียดดงั น้ี 7.2.4.1 รูปแบบการจัดวางภาษาไทยจัดวางด้านบน ภาษาองั กฤษจดั วางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 8 ป้ ายบอกจดุ เปิ ดประตู

6304329 Introduction to Research in Thai Language 10 7.2.4.2 รูปแบบการจดั วางภาษาองั กฤษจัดวางด้านบน ภาษาไทยจัดวางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพ 9 ป้ ายบอกลา 7.2.4.3 รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจัดวางด้านบน ภาษาจนี จัดวางด้านล่าง คอื ป้ ายที่ ประกอบดว้ ยตวั อกั ษรท้งั ที่เป็นภาษาไทยจดั วางอยดู่ า้ นบนภาษาจีน ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 8 ป้ ายสื่อและใบความรู้ 7.2.4.4 รูปแบบการจัดวางภาษาจีนจดั วางด้านบน ภาษาไทยจัดวางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 9 ป้ ายขอ้ ห้ามและพากระเป๋ าไทย 7.2.4.5 รูปแบบการจดั วางภาษาองั กฤษจัดวางด้านบน ภาษาจีนจดั วางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 10 ป้ ายบอกขอ้ ห้ามและขอ้ ปฏิบตั ร

6304329 Introduction to Research in Thai Language 11 7.2.4.6 รูปแบบการจดั วางภาษาจีนจดั วางด้านบน ภาษาองั กฤษจดั วางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพ 11 ภาพป้ ายที่ใชใ้ นการตอ้ นรับปี ใหม่ 7.2.4.7 รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นซา้ ย ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นขวา ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 12 ป้ ายรณรงคก์ ารประหยดั ไฟฟ้ า 7.2.4.8 รูปแบบการจัดวางภาษาองั กฤษจัดวางด้านซ้าย ภาษาไทยจดั วางด้านขวา ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 13 ป้ ายบอกข้นั ตอนการช่วยชีวิตคน 7.2.4.9 รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางด้านบน ภาษาจนี ภาษาองั กฤษจัดวางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 14 ป้ ายท่ีบ่งบอกว่าห้ามเสียงดงั

6304329 Introduction to Research in Thai Language 12 7.2.4.10 รูปแบบการจัดวางองั กฤษจดั วางด้านบน ภาษาไทย ภาษาจนี จัดวางด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 15 ป้ ายขอขอบพระคณุ 7.2.4.11 รูปแบบการจัดวางภาษาจีนจดั วางด้านบน ภาษาองั กฤษ ภาษาไทยจัดวาด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 16 ป้ ายการจดั ทากิจพิธี 7.2.4.12 รูปแบบการจัดวางภาษาจนี จดั วางด้านบน ภาษาไทย ภาษาองั กฤษจัดวาง ด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 17 ป้ ายเตือนห้ามรับประทานอาหาร

6304329 Introduction to Research in Thai Language 13 อยา่ งไรกด็ ี จากการวิเคราะหค์ วามถี่การปรากฏรูปแบบการจดั วางภาษาในป้ าย ไดข้ อ้ สรุปดงั ตารางท่ี 6 ดงั น้ี ตางรางท่ี 6 ความถ่ีของการจดั วางภาษาตา่ งๆ ท่ีปรากฏใชใ้ นป้ าย รูปแบบการจัดวางตัวอกั ษรท่ีปรากฎบนป้ าย ลาดับ ภาษา จานวน ค่าร้อยละ 1 ภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นล่าง 94 49.47 2 ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นบน ภาษาไทยจดั วางดา้ นล่าง 58 30.52 3 ภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาจีนจดั วางดา้ นล่าง 1 0.53 4 ภาษาจีนจดั วางดา้ นบน ภาษาไทยจดั วางดา้ นล่าง 1 0.53 5 ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นบน ภาษาจีนจดั วางดา้ นลา่ ง 2 1.05 6 ภาษาจีนจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นลา่ ง 3 1.58 7 ภาษาไทยจดั วางดา้ นซา้ ย ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นขวา 21 11.05 8 ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นซา้ ย ภาษาไทยจดั วางดา้ นขวา 8 4.21 9 ภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาจีน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นล่าง 1 0.53 10 องั กฤษจดั วางดา้ นบน ภาษาไทย ภาษาจีนจดั วางดา้ นลา่ ง 1 0.53 11 ภาษาจีนจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษ ภาษาไทยจดั วางดา้ นล่าง 1 0.53 12 ภาษาจีนจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษ ภาษาไทยจดั วางดา้ นลา่ ง 1 0.53 รวม 190 100 จากตารางที่ 6 ผลการวเิ คราะหร์ ูปแบบการจดั วางภาษาท่ีใชท้ าป้ ายขอ้ มูล มีท้งั หมด 12 รูปแบบ ปรากฏ รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นลา่ งมากท่ีสุด กล่าวคือ รูปแบบการจดั วาง ภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นล่าง จานวน 94 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 49.47 รองลงมารูปแบบการจดั วางภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นบน ภาษาไทยจดั วางดา้ นลา่ ง จานวน 58 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 30.52 และลาดบั ท่ี 3 คอื รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นซา้ ย ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นขวา จานวน 21 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 11.05 จากตารางท่ีปรากฏรูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นลา่ งมากท่ีสุด เน่ืองจากในทกุ ๆ โรงเรียนยงั คงใหค้ วามสาคญั กบั ภาษาไทยมากที่สุดเช่นเดิม และตามมาดว้ ยภาษารองที่จะจดั อยู่ นาดบั ความสาคญั ถดั ไป

6304329 Introduction to Research in Thai Language 14 7.3 รูปลกั ษณ์ตวั อกั ษรทีใ่ ช้ในการทาป้ าย 7.3.1 การเน้นขนาดตวั อกั ษรของภาษาที่ปรากฏในป้ าย จากภาษาท้งั 3 ภาษาที่พบในป้ ายขอ้ มลู จานวน 190 ป้ าย พบวา่ มีการเนน้ ขนาดตวั อกั ษรของ ภาษาในการทาป้ าย ท้งั หมด 3 รูปแบบ มีรายละเอียดดงั น้ี 7.3.1.1 การเน้นขนาดตัวอกั ษรของภาษาไทยที่ปรากฏในป้ าย คือ ป้ ายที่ประกอบดว้ ยตวั อกั ษรท้งั ท่ีเป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ แตจ่ ะมีการสร้างจุดเด่นใหแ้ ก่ภาษาไทยมากกวา่ ภาษาอื่นๆ ดงั ตวั อยา่ ง ภาพท่ี 18 ป้ ายบอกจุดถอดรองเท้า 7.3.1.2 การเน้นขนาดตัวอกั ษรของภาษาองั กฤษทป่ี รากฏในป้ าย คือ ป้ ายที่ประกอบดว้ ยตวั อกั ษร ท้งั ที่เป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ แต่จะมีการสร้างจุดเด่นใหแ้ ก่ภาษาองั กฤษมากกวา่ ภาษาอ่ืนๆ ดังตัวอย่าง ภาพท่ี 19 ป้ ายบแกข้ันตอนการช่วยชีวิตคน 7.3.1.3 การเน้นขนาดตวั อกั ษรของภาษาภาษาจนี ทปี่ รากฏในป้ าย คือ ป้ ายที่ประกอบดว้ ย ตวั อกั ษรท้งั ท่ีเป็ นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ แต่จะมีการสร้างจุดเด่นให้แก่ภาษาองั กฤษมากกว่าภาษาอ่ืนๆ ดัง ตัวอย่าง ภาพที่ 20 ป้ ายต้อนรับภาษาจีน

6304329 Introduction to Research in Thai Language 15 อยา่ งไรก็ดี จากการวิเคราะห์ความถ่ีการปรากฏการเนน้ ขนาดตวั อกั ษรของภาษาท่ีปรากฏในป้ าย ไดข้ อ้ สรุปดงั ตารางท่ี 7 ดงั น้ี ตางรางที่ 7 ความถ่ีของการเนน้ ภาษาตา่ งๆ ท่ีปรากฏใชใ้ นป้ ายโดยจาแนกตามโรงเรียน การเน้นขนาดตัวอกั ษรของภาษาทปี่ รากฏในป้ าย ลาดบั ภาษา จานวน ค่าร้อยละ 1 ภาษาไทย 108 56.84 2 ภาษาองั กฤษ 76 40 3 ภาษาจีน 6 3.16 รวม 190 100 จากตารางที่ 7 ผลการวิเคราะหก์ ารเนน้ ขนาดตวั อกั ษรของภาษาท่ีปรากฏในป้ ายขอ้ มูล มีท้งั หมด 3 รูปแบบ ปรากฏมีการเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาไทยมากที่สุด กล่าวคอื การเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาไทย จานวน 108 ป้ าย คิด เป็นร้อยละ 56.84 รองลงมา คือ การเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ จานวน 76 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 40 และลาดบั ที่ 3 คือ การเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาจีน จานวน 6 ป้ าย คดิ เป็นร้อยละ 3.16 จากตารางที่ปรากฏการเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาไทยมากท่ีสุด เน่ืองจากจะทาใหต้ วั อกั ษรท่ีมีการเนน้ ขนาด น้นั ใหเ้ ป็นตาแหน่งจุดเด่นท่ีดึงดูดความสนใจของผอู้ า่ น และที่พบการเนน้ ขนาดตวั อกั ษรภาษาไทยมากท่ีสุด เน่ืองจากในทกุ ๆ โรงเรียนยงั คงใหค้ วามสาคญั กบั ภาษาไทยและตอ้ งการใหผ้ อู้ ่านน้นั ไดเ้ กิดการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นลาดบั แรก และภาษาอ่ืนถดั ไป 7.3.2 รูปแบบตัวอกั ษรทป่ี รากฎบนป้ าย จากการศึกษาภาษาท่ีพบในป้ ายขอ้ มลู จานวน 461 ป้ าย พบวา่ มีรูปแบบตวั อกั ษรของภาษาตา่ ง ๆ ในการทา ป้ ายขอ้ มลู ท้งั หมด 2 รูปแบบ คือรูปแบบตวั อกั ษรแบบทางการ และรูปแบบตวั อกั ษรแบบไมเ่ ป็นทางการ มี รายละเอียดดงั น้ี 7.3.2.1 รูปแบบตวั อกั ษรแบบทางการท่ปี รากฏบนป้ าย คือ ป้ ายที่ประกอบดว้ ยตวั อกั ษรท้งั ท่ีเป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ แต่จะมีรูปแบบตวั อกั ษรที่เป็นทางการ ดงั ตัวอย่าง ภาพที่ 21 ป้ ายบอกททางไปห้องนา้

6304329 Introduction to Research in Thai Language 16 7.3.2.2 รูปแบบตัวอกั ษรแบบไม่เป็ นทางการทป่ี รากฏบนป้ าย คอื ป้ ายท่ีประกอบดว้ ย ตวั อกั ษรท้งั ที่เป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ แต่จะมีรูปแบบตวั อกั ษรที่เป็นไม่เป็นทางการ ดงั ตวั อยา่ ง ภาพที่ 22 ป้ ายยินดีต้อนรับ จากการวิเคราะหค์ วามถ่ีการปรากฏรูปแบบตวั อกั ษรท่ีปรากฏบนป้ าย ไดข้ อ้ สรุปดงั ตารางที่ 8 ดงั น้ี ตางรางท่ี 8 ความถ่ีของรูปแบบตวั อกั ษรในภาษาตา่ งๆ ท่ีปรากฏใชใ้ นป้ ายโดยจาแนกตามโรงเรียน รูปแบบตัวอกั ษรทปี่ รากฎบนป้ าย ลาดับ ภาษา จานวน ค่าร้อยละ 1 ตวั อกั ษรแบบทางการ 251 54.44 2 ตวั อกั ษรแบบไมเ่ ป็นทางการ 210 45.55 รวม 461 100 จากตารางท่ี 8 พบวา่ มีการใชร้ ูปแบบตวั อกั ษรในการทาป้ ายขอ้ มลู มีท้งั หมด 2 รูปแบบ กลา่ วคอื การใช้ ตวั อกั ษรแบบทางการมมากท่ีสุด จานวน 251 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 54.44 รองลงมาคือ ตวั อกั ษรแบบไมเ่ ป็นทางการ จานวน 210 ป้ าย คิดเป็นร้อยละ 45.55 จากตารางที่ปรากฏการใชร้ ูปแบบตวั อกั ษรแบบทางการมากที่สุด เน่ืองจากป้ ายขอ้ มูลเหล่าน้ีปรากฎให้ ผอู้ ่านในสถานศึกษาจึงมีการใชร้ ูปแบบตวั อกั ษรท่ีเป็นทางการเพ่ือความเหมาะสมและเพ่ือการง่ายในการอ่านป้ าย ขอ้ มลู 8. สรุปและอภิปรายผลการวิจัย 8.1 สรุปผลการวิจัย โดยภาพรวมของการศึกษาภูมิทศั น์ภาษาศาสตร์ในโรงเรียน ผลการวิจยั พบว่าผลของการวิจยั ในคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ 1. ภาษาท่ีใชใ้ นป้ ายต่าง ๆ 2. โครงสร้างของภาษาต่าง ๆ ที่ปรากฏในป้ าย และ 3. รูปลกั ษณ์ตวั อกั ษรของภาษา ต่าง ๆ ในป้ าย ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 1. ภาษาที่ใชใ้ นป้ ายตา่ ง ๆ มีท้งั หมด 3 ภาษา และจากการศึกษาพบวา่ ภาษาไทย ยงั คงมีจานวน มากท่ีสุด (142 ป้ าย ) รองลงมาจะเป็นภาษาองั กฤษ ( 125 ป้ าย ) และถดั ไปคือ ภาษาจีน ( 1 ป้ าย )

6304329 Introduction to Research in Thai Language 17 2. โครงสร้างของภาษาต่าง ๆ ที่ปรากฏในป้ าย จากการศึกษาพบวา่ มีท้งั หมด 3 โครงสร้าง ไดแ้ ก่ โครงสร้างหนึ่งภาษา พบวา่ โครงสร้างหน่ึงภาษาท่ีใชท้ าป้ ายขอ้ มูล มีท้งั หมด 3 ภาษา ผลปรากฎวา่ ภาษาไทย มี จานวนมากท่ีสุด (142 ป้ าย ) รองลงมาจะเป็นภาษาองั กฤษ (125 ป้ าย ) และภาษาจีน ( 1 ป้ าย ) โครงสร้างสองภาษา ผลการวิเคราะห์ ปรากฏโครงสร้างสองภาษา ไดแ้ ก่ โครงสร้างภาษาไทยและภาษาองั กฤษมากท่ีสุด (185 ป้ าย) รองลงมาคอื โครงสร้างภาษาองั กฤษและภาษาจีน (3 ป้ าย ) และภาษาไทยและภาษาจีน ( 2 ป้ าย ) ในส่วนของ โครงสร้างสามภาษา พบวา่ โครงสร้างทางภาษาที่ใชท้ าป้ ายขอ้ มลู สามภาษา ท่ีพบจากการศึกษาคร้ังน้ีมีเพยี ง โครงสร้างเดียว กล่าวคอื โครงสร้างภาษาจีนผสมภาษาองั กฤษและภาษาไทย ( 3 ป้ าย ) และรูปแบบการจดั วางภาษา ที่ปรากฏในป้ าย พบวา่ มีการนาภาษาต่าง ๆ มาใชใ้ นการทาป้ ายขอ้ มลู ท้งั หมด 13 รูปแบบ ปรากฏรูปแบบการจดั วาง ภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นลา่ งมากท่ีสุด กล่าวคือ รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นบน ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นล่าง (94 ป้ าย ) รองลงมารูปแบบการจดั วางภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นบน ภาษาไทยจดั วาง ดา้ นล่าง (58 ป้ าย) และลาดบั ที่ 3 คอื รูปแบบการจดั วางภาษาไทยจดั วางดา้ นซา้ ย ภาษาองั กฤษจดั วางดา้ นขวา ( 21 ป้ าย ) 3. รูปลกั ษณ์ตวั อกั ษรของภาษาตา่ ง ๆ ในป้ าย จากการศึกษาภาษาท่ีพบในป้ ายขอ้ มลู จานวน 458 ป้ าย พบวา่ มีรูปแบบตวั อกั ษรแบบทางการมากท่ีสุด ( 248 ป้ าย ) และรูปแบบตวั อกั ษรแบบไมเ่ ป็นทางการ ( 210 ป้ าย ) 8.2 อภปิ รายผลการวจิ ัย จากการวิเคราะห์ขอ้ มูลพบว่า โดยภาพรวมแลว้ ภาษาไทยก็ยงั คงเป็นภาษาหลกั ท่ียงั คงมีบทบาทสาคญั และ เป็นภาษามาตรฐานหรือภาษาราชการในสังคมไทย อีกท้งั ยงั ทาหนา้ ที่เป็นภาษาหลกั ในการทาป้ ายหรือส่ือต่าง ๆ ใน โรงเรียน กล่าวคือ การทาป้ ายต่าง ๆ ในโรงเรียนท้งั 3 โรงเรียน โดยส่วนใหญ่มีการเลือกใช้ภาษาไทยมากกว่า ภาษาองั กฤษและภาษาจีนอยา่ งชดั เจน คือ เลือกภาษาไทยร้อยละ 52.99 ของจานวนป้ ายท้งั หมด ป้ ายในโรงเรียนแบ่งออกไดเ้ ป็นป้ ายที่มีภาษาไทยเป็นภาษาหลกั และบางโรงเรียนจะเป็ นป้ ายภาษาองั กฤษ กล่าวคือ โรงเรียนแต่ละโรงเรียนจะเลือกใช้ภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษ ภาษาใดภาษาหน่ึงและจะใชภ้ าษาน้ันทา ป้ ายต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่จากป้ ายกลุ่มตวั อยา่ งที่นามาวิเคราะหพ์ บว่ามีการใชภ้ าษาไทยในการจดั ทาป้ ายจานวนมาก ท่ีสุด แมว้ ่าจะพบป้ ายท่ีมีโครงสร้างทางภาษาสองภาษาและโครงสร้างสามภาษา แต่ในเชิงปริมาณแลว้ ป้ ายต่างๆ จากท่ีศึกษากพ็ บวา่ มีการใชภ้ าษาไทยมากกวา่ ภาษาองั กฤษและภาษาจีน ในดา้ นการจดั วางภาษาจะเห็นไดว้ ่าขอ้ ความส่วนที่เป็ นภาษาไทยจะอยู่ก่อนส่วนที่เป็ นภาษาองั กฤษ และ ส่วนที่เป็นภาษาไทยอยทู่ างซา้ ยส่วนที่เป็นภาษาองั กฤษอย่ทู างขวา และส่วนที่เป็นภาษาไทยอย่ดู า้ นบนแลว้ ต่อดว้ ย ส่วนที่เป็ นภาษาองั กฤษอย่ดู า้ นล่าง ป้ ายใดท่ีมีการนาเสนอเน้ือหาขอ้ มูลโดยใชส้ องภาษาควบคู่กนั ก็จะมีลกั ษณะ เช่นน้ีท้งั หมด ดงั น้นั หากพิจารณาท้งั ในแง่มุมรูปแบบการนาเสนอขอ้ มูลและปริมาณในการใชภ้ าษาสองภาษาแลว้ พบว่าโรงเรียน ข. และโรงเรียน ค. จะระบุเป็ นโรงเรียนสองภาษาแต่ก็จะให้ความสาคญั กับภาษาไทยมากกว่า ภาษาองั กฤษจะเห็นไดจ้ ากปริมาณการใชภ้ าษาไทยมีมากกวา่ ภาษาองั กฤษและภาษาจีนและการนาเสนอภาษาไทย ไวก้ ่อนภาษาองั กฤษและภาษาจีนเสมอ จากการศึกษาป้ ายในโรงเรียนท้งั 3 โรงเรียน จะเห็นไดว้ ่าภาษาองั กฤษถูกใชค้ วบคู่กบั ภาษาไทยในการทา ป้ ายตา่ ง ๆ ภายในโรงเรียน ลกั ษณะดงั กล่าวอาจจะถูกนามาใชเ้ พื่อดึงดูดความสนใจของผอู้ ่านและเพื่อตอ้ งการใหผ้ ู้

6304329 Introduction to Research in Thai Language 18 ท่ีอ่านน้ันสามารถเรียนรู้ไดห้ ลายภาษา ซ่ึงการเรียนรู้ของมนุษยน์ ้ันสามารถเรียนรู้ไดห้ ลายภาษาน้ันภูมิทศั น์ทาง ภาษาก็มีความจาเป็ น โดยมนุษยส์ ามารถเรียนรู้จากภูมิทศั น์ทางภาษา และส่ิงแวดลอ้ มเพิ่มเติมจากการเรียนรู้ใน หอ้ งเรียน ซ่ึงจะพบป้ ายดงั กล่าวในโรงเรียน ข. และโรงเรียน ค. มากกวา่ โรงเรียน ก. เนื่องจากท้งั สองโรงเรียนน้ีจะมี ความเขม้ ขน้ ของภาษาองั กฤษและมงุ่ เนน้ ใหบ้ ุคลากรและผเู้ รียนเป็นผรู้ ู้หลายภาษา นอกจากน้ีการเลือกใช้ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยในป้ ายต่างๆ อาจจะเกิดจากคุณค่าที่สังคมให้แก่ ภาษาองั กฤษ กลา่ วคอื ในสังคมไทย ภาษาองั กฤษเป็นสัญลกั ษณ์ของความทนั สมยั การที่โรงเรียนใดมีการจดั ทาป้ าย หรือส่ือท่ีมีการใชภ้ าษาองั กฤษ จึงมีส่วนช่วยเสริมใหโ้ รงเรียนน้นั ดูทนั สมยั และเป็นสากลมากข้ึน โดยในปัจจุบนั ก็ มีการแข่งขนั กนั ทางดา้ นภาษาเช่นกนั ซ่ึงการนาไปใชใ้ นการบริหารจดั การ ทางผบู้ ริหารและโรงเรียนควรจดั ให้มี ภูมิทศั น์ทางภาษาศาสตร์ที่หลากหลายเพ่ือให้ผูเ้ รียนน้นั ไดเ้ รียนรู้หลายภาษา และสามารพฒั นาตนเองเป็นผรู้ ู้หลาย ภาษาเช่นกนั 10. บรรณานุกรม กฤตพล วงั ภูสิต. (2555). ช่ือธุรกิจการคา้ ในยา่ นสยามสแควร์ : การศึกษาตามแนวภมู ิทศั น์เชิงภาษาศาสตร์. วิทยา นิพนธ.์ (ภาษาไทย). กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวิทยาลยั จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สืบคน้ เม่ือ 10 มกราคม 2563, จาก http://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/42468/1/krittaphon_wa.pdf จริยา เสียงเยน็ . (2558, กรกฎาคม - ธนั วาคม ). ภมู ิทศั น์ทางภาษาจากป้ ายโฆษณาในเขตอาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี. วารสารพ้ืนถิ่นโขง ชีมลู . 1(2). สืบคน้ เมื่อ 8 มกราคม 2563, จาก https://mcmac.udru.ac.th/mcmac_files/vol1_2_2.pdf Susan Fresnido Astillero. (2017, October). Linguistic Schoolscape: Studying the Place of English and Philippine Languages of Irosin Secondary School. Asia Pacific Journal of Education, Arts and Sciences. 4(4). สืบคน้ เม่ือ 20 มกราคม 2563, จาก http://apjeas.apjmr.com/wp-content/uploads/2017/11/APJEAS-2017.4.4.04.pdf


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook