พระราชาไดฟ้ ังดงั น้นั กต็ รัสเรียกนายคลงั ใหไ้ ปขนผลไมม้ า ท้งั สิ้น คร้ันขนมาแลว้ กต็ รัสใหผ้ า่ ออกดูพบทบั ทิมผลละเมด็ ขนาดใหญ่ แลน้างามเสมอกนั ทุก ๆ เมด็ พระวกิ รมาทิตยท์ อดพระเนตรเห็นกท็ รง โสมนสั จึงตรัสใหต้ ามพอ่ คา้ พลอยเขา้ มาแลว้ ตรัสวา่ \" มนุษยเ์ ราเมื่อ สิ้นชีวติ แลว้ จะพาสิ่งใดจากโลกน้ีไปสู่โลกหนา้ ไดน้ ้นั ไม่มี ความทรง ธรรมเป็นคุณวเิ ศษยงิ่ ส่ิงอ่ืนในโลกน้ี เพราะฉะน้นั เจา้ จงบอกแก่เราวา่ ทบั ทิมเหล่าน้ีเมด็ หน่ึงๆ มีค่าเท่าไร\"
พอ่ คา้ พลอยทูลตอบวา่ \"พระราชารับสงั่ ถูกตอ้ งทุกประการ ผใู้ ดมี ธรรมในใจ ผนู้ ้นั เป็นเจา้ ของส่ิงท้งั ปวงในโลกธรรมยอ่ มจะเป็นเพอ่ื นไปในที่ ท้งั ปวง มีประโยชนท์ ้งั ในโลกน้ีแลโลกหนา้ อนั ทบั ทิมเหล่าน้ีถา้ ขา้ พเจา้ ทูลวา่ แต่ละเมด็ มีราคาถึงสิบลา้ นเหรียญสุวรรณ (๑๐,๐๐๐,๐๐๐) พระองคก์ ย็ งั ไม่ ทรงทราบราคาจริงของทบั ทิมเมด็ หน่ึง อนั ที่จริงราคาทบั ทิมเหลา่ น้ีแต่ละเมด็ อาจซ้ือทวีปไดท้ วีปหน่ึง จากจานวน ๗ ทวปี ซ่ึงรวมกนั เป็นโลกน้ี\" พระราชา ไดฟ้ ังกท็ รงสาราญพระหฤทยั ประทานรางวลั แก่พอ่ คา้ พลอย แลว้ ตรัสให้ พอ่ คา้ ผถู้ วายทบั ทิมตามเสดจ็ คืนเขา้ ทอ้ งพระโรง รับสงั่ ใหน้ งั่ ในที่อนั ควรแลว้ ตรัสวา่ \"ราชยั ไอศวรรยข์ องเราท้งั หมดไม่มีราคาคร่ึงค่อนราคาแห่งทบั ทิมน้ี เมด็ หน่ึงๆ ท่านเป็นคนหาประโยชน์ในการคา้ ขาย เหตุไรท่านจึงใหท้ บั ทิมแก่ เราถึงเท่าน้ี\"
พอ่ คา้ ทูลตอบวา่ \"ขา้ แต่พระราชาผปู้ ระเสริฐ คมั ภีร์โบราณกล่าววา่ ขอ้ ความบางอยา่ งไม่ควรกล่าวในท่ีชุมนุมคือ การขอพร ๑ การร่ายมนตร์ ๑ การวางยา ๑ การกล่าวคุณความดี ๑ การในเรือน ๑ การกินอาหารท่ีหา้ ม ๑ การ กล่าวลบหลู่เพื่อนบา้ น ๑ ถา้ ขา้ พเจา้ ไดเ้ ฝ้าเฉพาะพระองค์ ขา้ พเจา้ จะทลู ความ ประสงคข์ องขา้ พเจา้ การอนั ใดในโลกน้ีถา้ ไดย้ นิ ถึง ๖ หู กส็ ิ้นเป็นความลบั ถา้ ไดย้ นิ เพยี ง ๔ หู บางทีจะไม่มีใครทราบต่อไป ถา้ ไดย้ นิ แต่ ๒ หู แมพ้ ระ พรหมกไ็ ม่ทราบได ้้\" (ตรงน้ีเราท่านสมยั น้ีควรเห็นวา่ ถา้ ๒ หูน้นั เป็นหู พระพรหม พระพรหมกอ็ าจทราบไดบ้ า้ งกระมงั ) พระวกิ รมาทิตยท์ รงฟัง ดงั น้นั กร็ ับสง่ั ใหพ้ อ่ คา้ เขา้ ไปเฝ้าในท่ีลบั แลว้ ตรัสวา่ \"ท่านไดใ้ หท้ บั ทิมแก่เรา มากมายฉะน้ี เรายงั มิไดท้ าอนั ใดตอบแทนท่านเลย แมจ้ ะไดเ้ ล้ียงอาหารจน คร้ังหน่ึงกห็ ามิได้ ท่านจะประสงคส์ ิ่งใดกจ็ งบอกเราเถิด\"
พอ่ คา้ ทูลตอบวา่ \"ขา้ พเจา้ มิใช่พอ่ คา้ ขา้ พเจา้ เป็นโยคี ชื่อ ศานติศีล ขา้ พเจา้ กาลงั จะกระทาพิธีอนั หน่ึงในป่ าชา้ ริมฝ่ัง แม่น้าโคทาวรี เมื่อขา้ พเจา้ ทาสาเร็จแลว้ จะไดค้ วามเป็นใหญ่ ในโลก ขา้ พเจา้ ขอเชิญพระองคแ์ ละพระธรรมธวชั ผพู้ ระราช บุตรช่วยขา้ พเจา้ ในการน้ี เชิญเสดจ็ ไปท่ีป่ าชา้ คืนหน่ึง และ กระทาการตามสง่ั ขา้ พเจา้ ทุกประการ ถา้ พระองคโ์ ปรดขา้ เจา้ เช่นน้ี การพิธีของขา้ พเจา้ จะสาเร็จ\"
พระวกิ รมาทิตยไ์ ดย้ นิ กล่าวถึงป่ าชา้ กส็ ะดุง้ พระหฤทยั ดว้ ย ระลึกถึงคาท่ียกั ษท์ ูลไว้ แต่พระองคเ์ ป็นพระมหากษตั ริยท์ รงราบวธิ ี ซ่อนความรู้สึกมิใหป้ รากฏในกิริยาอาการ โยคีศานติศีลจะไดท้ ราบ วา่ ทรงระแวงน้นั หามิได้ พระวกิ รมาทิตยท์ รงนิ่งตรึกตรองอยคู่ รู่หน่ึง ทรงดาริวา่ ไดล้ น่ั พระโอษฐแ์ ลว้ ถา้ ไม่ทาตามจะเสียคาไป จึงตรัสวา่ \"เราจะไปยงั ป่ าชา้ แลช่วยท่านในพธิ ีที่กล่าวน้นั ท่านจงบอกกาหนด วนั แลเวลาเถิด\" โยคีทูลวา่ \"เชิญเสดจ็ ไปท่ีป่ าชา้ จาเพาะแต่พระองค์ กบั พระราชบุตร มิใหม้ ีคนตามเสดจ็ แต่ใหท้ รงถืออาวธุ ไปดว้ ย กาหนดวนั จนั ทร์แรม ๑๔ ค่าเดือนน้ี\" พระราชาทรงรับแม่นมน่ั แลว้ โยคีกท็ ูลลาจากวงั ไปเตรียมการสาหรับพธิ ีท่ีกล่าวน้นั
ฝ่ ายพระวกิ รมาทิตย์ คร้ันโยคีทูลลาไปแลว้ กเ็ สดจ็ ข้ึน ขา้ งใน ทรงดาริขอ้ ความซ่ึงประทานคามนั่ แกโยคีไมม่ ีทางจะ ถอยได้ แต่การอนั น้ีเป็นเครื่องซ่ึงอาจใหไ้ ดอ้ าย จึงมิไดร้ ับสง่ั แพร่งพรายแก่ใคร แมอ้ ามาตยท์ ่ีสนิทกม็ ิไดต้ รัสใหร้ ู้เรื่อง
คร้ันถึงกาหนดกลางคืนแรม ๑๔ ค่า พระราชากบั พระราชบุตรกเ็ ตรียมพระองค์ ทรงผา้ โพกพนั ไปใตค้ าง ทรงถือดาบอนั เป็นอาวธุ คู่พระหตั ถ์ สามารถสู้อริท้งั ท่ี เป็นมนุษยแ์ ลอมนุษย์
สององคพ์ ากนั เสดจ็ ออกจากวงั ดาเนินไปตามถนน บ่ายพระพกั ตร์สู่ป่ าชา้ ซ่ึงอยรู่ ิมแม่น้าโคทาวรี คืนน้นั มืดนกั พายพุ ดั ฝนตกเยอื กเยน็ ผคู้ นไม่มีเดินไปมาในถนน พระราชา แลพระราชบุตรต้งั พระพกั ตร์รีบดาเนินไปจนเห็นแสงไฟอยู่ กลางป่ าชา้ กเ็ สดจ็ ตรงเขา้ ไปหาแสงไฟ เม่ือถึงขอบป่ าชา้ พระราชาหยดุ ชะงกั เพราะรังเกียจเหยยี บพ้ืนดินโสโครกดว้ ย ซากศพ ทรงเหลียวดูพระราชบุตรเห็นมิไดค้ ร้ันคร้ามเลย
สององคก์ ท็ รงดาเนินตรงเขา้ ไป สกั ครู่หน่ึงถึงกลางป่ าชา้ พระราชาทอดพระเนตรเห็นส่ิงที่น่าเป็นที่รังเกียจต่าง ๆ อยลู่ อ้ มกอง ไฟซ่ึงไดเ้ ผาศพใหม่ ๆ ภูตผปี ิ ศาจปรากฏแก่ตารอบขา้ ง เสือคารามอยู่ กม็ ี ชา้ งฟาดงวงอยกู่ ม็ ี หมาในซ่ึงขนเรืองๆ อยใู่ นท่ีมืดกก็ ินซากศพซ่ึง กระจดั กระจายเป็นชิ้นเป็นท่อน หมาจิ้งจอกกต็ ่อสู้กนั แยง่ อาหาร คือ เน้ือแลกระดูกมนุษย์ หมีกย็ นื เค้ียวกินตบั แห่งทารก ในท่ีใกลก้ องไฟ เห็นรูปผนี งั่ ยนื แลลอยอยเู่ ป็นอนั มาก ท้งั มีเสียงลมแลฝน เสียงสุนขั เห่าหอน เสียงนกเคา้ แมวร้องแลเสียงกระแสน้าไหลกลบกนั ไป ใน ท่ามกลางส่ิงน่าเกลียดน่ากลวั เหล่าน้ี โยคีศานติศีลนง่ั อยใู่ กลก้ องไฟ มี กะโหลกศีรษะวางอยบู่ นเขา่ มือถือกระดูกแขง้ มือละท่อน เคาะ กะโหลกเป็นเพลงใหภ้ ูตต่างๆ ราแลโลดไปมาอยรู่ อบขา้ ง
พระวกิ รมาทิตยท์ รงความกลา้ อยา่ งที่สุด ดงั จะเห็นได้ ในเวลาท่ีรบยกั ษน์ ้นั แลว้ แต่ความกลา้ น้นั ประกอบดว้ ย ความระมดั ระวงั พระองค์ คร้ันเห็นมนุษยแ์ วดลอ้ มดว้ ยผี ดงั น้นั กซ็ ้าคิดถึงยกั ษ์ เห็นเป็นช่องอนั ดีที่จะทาลายศตั รูซ่ึง มุ่งร้ายต่อพระองค์ ทรงคิดวา่ ในขณะน้นั ถา้ ตรงเขา้ ไปฟัน ดว้ ยพระแสงดาบอนั คมกลา้ ใหห้ วั โยคีขาดไป กจ็ ะทาได้ สาเร็จประสงคโ์ ดยง่าย แต่ทรงราลึกวา่ ไดท้ รงสญั ญาเสีย แลว้ วา่ จะมารับใชโ้ ยคีในคืนวนั น้นั จาตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ สญั ญา แลระวงั พระองคค์ อยหาโอกาสในเวลาขา้ งหนา้ ต่อไป
พระราชาทรงดาริฉะน้ีแลว้ จึงเสดจ็ ทรงนาพระราช บุตรเขา้ ไปทากิริยาเคารพโยคีเป็นอนั ดี แลว้ ทรงนงั่ ลงบน พ้ืนดินตามคาโยคีทูลเชิญ สกั ครู่หน่ึงพระราชาตรัสวา่ \"เรา มาท้งั น้ีโดยสญั ญาจะปฏิบตั ิคาสง่ั แห่งท่าน ท่านจะใหเ้ รา ทาอนั ใดจงวา่ ไปเถิด\" โยคีทูลตอบวา่ \"พระองคเ์ สดจ็ มาถึง แลว้ กจ็ งปฏิบตั ิตามประสงคข์ อ้ หน่ึงของขา้ พเจา้ ก่อน คือ ในทิศใตม้ ีป่ าชา้ เช่นเดียวกนั น้ีอีกแห่งหน่ึง ในป่ าชา้ น้นั มี ตน้ อโศก บนตน้ อโศกน้นั มีศพแขวนอยศู่ พหน่ึง พระองค์ จงไปพาศพน้นั มาใหข้ า้ พเจา้ โดยเร็ว\"
พระราชาทรงฟังดงั น้นั กจ็ บั พระหตั ถพ์ ระราชบุตรพากนั เดินไปในทิศใต้ ทรงทราบในพระทยั วา่ ศานติศีลกาลงั ต้งั พิธีจะทา ร้ายพระองคแ์ ลพระราชวงศข์ องพระองค์ จาเป็นพระราชาตอ้ งคิด อบุ ายป้องกนั มิใหโ้ ยคีกระทาการเป็นภยั แก่พระองคไ์ ด้ ทรง พระราชดาริเช่นน้ีพลางดาเนินไป ไดย้ นิ เสียงดนตรีของโยคีแล เสียงภูตผปี ิ ศาจต่างๆ เตน้ ราทาเพลงอ้ืออึงในป่ าชา้ ทางที่เดินน้นั มืด ถึงแก่จะเดินใหต้ รงมิได้ ท้งั มีภูตตามลอ้ หลอกใหต้ กใจ บา้ งกแ็ กลง้ ขวางจะใหส้ ะดุดลม้ บา้ งกเ็ ป็นงูมาพนั พระชงฆ์ บา้ งกท็ าแสงวบู วาบขา้ งๆ ทางเดิน บา้ งกท็ าเสียงดงั ลนั่ ใกลๆ้ พระองค์ แมค้ นที่กลา้ กน็ ่าหวาดเสียว ไม่อาจดาเนินต่อไปได้
แต่พระราชากบั พระราชบุตรกม็ ิไดถ้ อย พากนั ทรงดาเนินไปจนถึง ป่ าชา้ ซ่ึงโยคีทูลน้นั สกั ครู่หน่ึงเห็นตน้ อโศกตน้ ใหญ่ลุกเป็นไฟแดงไปท้งั ตน้ พระราชาไม่ทรงยอ่ ทอ้ กเ็ ดินตรงเขา้ ไปประเดี๋ยวไดย้ นิ เสียงผรี ้องบอก วา่ \"ฆ่าเสีย ฆ่าเสียท้งั สองคน จบั ตวั ใหไ้ ด้ ช่วยกนั จบั ตวั เผาในไฟบนตน้ ไม้ ใหไ้ หมเ้ ป็นจุณไป ทาใหร้ ู้สึกพษิ ไฟแห่งบาดาล\" พระราชาไม่ทรงคร่ัน คร้าม กต็ รงเขา้ ไปถึงตน้ ไม้ แต่เปลวไฟบนตน้ อโศกน้นั มิไดร้ ้อน เพราะ เป็นไฟท่ีปิ ศาจสาแดงหลอกเท่าน้นั เมื่อเขา้ ไปถึงโคนตน้ ไมพ้ ระราชากห็ ยดุ พศิ ดูศพซ่ึงแขวนอยบู่ นกิ่งอโศก ศพน้นั ลืมตาโพลง ลูกตาสีเขียวเรือง ๆ ผม สีน้าตาล หนา้ สีน้าตาล ตวั ผอมเห็นซี่โครงเป็นซี่ ๆ หอ้ ยเอาหวั ลงมาทานอง คา้ งคาว แต่เป็นคา้ งคาวตวั ใหญ่ที่สุด เม่ือจบั ถูกตวั กเ็ ยน็ ชืดเหนียว ๆ เหมือนงู ปรากฏเหมือนหน่ึงไม่มีชีวติ แต่หางซ่ึงเหมือนหางแพะน้นั กระดิกได้
พระวิกรมาทิตยท์ อดพระเนตรเห็นเช่นน้ี กท็ รงคิดวา่ ศพน้ี คือศพลูกชายของพอ่ คา้ น้ามนั ซ่ึงยกั ษไ์ ดท้ ูลไวว้ า่ โยคีเอาไปแขวน ไวท้ ่ีตน้ ไม้ คร้ันเมื่อเห็นเป็นเวตาลเช่นน้ีกท็ รงพิศวง แต่ทรงดาริวา่ ชะรอยโยคีจะแกลง้ เปล่ียนศพลูกชายพอ่ คา้ น้ามนั ใหม้ ีรูปเป็น เวตาลเพื่อจะลวงใหส้ นิทดอกกระมงั ทรงคิดเช่นน้ีแลว้ พระราชาก็ ทรงปี นข้ึนไปบนตน้ ไม้ ตรัสใหพ้ ระราชบุตรยนื หลีกใหห้ ่าง ออกไป แลว้ ทรงพระแสงดาบฟันก่ิงไมซ้ ่ึงเวตาลหอ้ ยอยนู่ ้นั ขาดตก ลงยงั ดินท้งั เวตาลดว้ ย
ฝ่ ายเวตาลเม่ือตกถึงพ้ืนดินกก็ ดั ฟันร้องเสียงเหมือน ทารกซ่ึงไดร้ ับความเจบ็ พระราชาตรัสวา่ \"อา้ ยตวั น้ีมีชีวติ \" แลว้ เสดจ็ โจนลงจากตน้ ไม้ ตรัสถามเวตาลวา่ \"เอง็ น้ีอะไร\" ตรัสแทบจะยงั ไม่ทนั ขาดคา เวตาลหวั เราะดว้ ยเสียงอนั ดงั แลว้ กลบั ข้ึนไปหอ้ ยเกาะก่ิงไมก้ ่ิงอ่ืนอยบู่ นตน้ ไมอ้ ยา่ งเก่า หอ้ ยพลางหวั เราะจนตวั แกวง่ ไปมา
ฝ่ ายพระราชาทรงคิดวา่ เวตาลน้ีคงจะเป็นบุตรพอ่ คา้ น้ามนั เป็นแน่ จาจะตอ้ งปี นข้ึนไปตดั ก่ิงไมล้ งมาอีกคร้ังหน่ึง จึงตรัสแก่ พระราชบุตรวา่ คราวหนา้ เม่ือเวตาลตกลงมาถึงพ้ืนดิน กใ็ หจ้ บั ไวใ้ ห้ จงได้ ตรัสสงั่ แลว้ พระราชาทรงปี นข้ึนบนตน้ ไม้ ตดั กิ่งตกลงมาอีก กิ่งหน่ึงพร้อมกบั เวตาล พระราชบุตรคอยอยขู่ า้ งล่างกต็ รงเขา้ จบั เวตาลไวแ้ น่น พระราชาเสดจ็ รีบลงจากตน้ ไมเ้ ขา้ ช่วยพระราชบุตร ยดึ แลว้ ตรัสถามวา่ \"เอง็ น้ีคือใคร\" ทนั ใดน้นั เวตาลกห็ วั เราะดว้ ย เสียงอนั ดงั แลว้ ล่ืนหลุดลอยข้ึนไปเกาะอยบู่ นตน้ ไมอ้ ยา่ งเก่า หอ้ ย พลางหวั เราะเยย้ อยบู่ นก่ิงไมอ้ นั สูง
ฝ่ ายพระราชาเม่ือเวตาลหลุดไปไดถ้ ึงสองคร้ังเช่นน้ี กท็ รงพิโรธ ตรัสสงั่ พระราชบุตรวา่ เมื่อเวตาลตกลงมาถึงพ้ืนดินใหฟ้ ันหวั ใหข้ าดออกไป แลว้ ทรง ปี นข้ึนตน้ ไมจ้ บั ผมเวตาลกระชากจนหลุดจากก่ิงไมเ้ กาะแลว้ ทิ้งลงมาถึงพ้นื ดิน พระราชบุตรคอยอยขู่ า้ งล่างกฟ็ ันดว้ ยพระแสงดาบถูกหวั เวตาลดาบบิ่นไป ปรากฏเหมือนหน่ึงฟันหิน พอพระราชาเสดจ็ ลงจากตน้ ไมม้ าถึงดินตรัสถามวา่ \" เอง็ คือใคร\" แทบจะยงั ไม่ทนั สุดสาเนียง เวตาลกห็ วั เราะไปเกาะอยบู่ นตน้ ไมอ้ ยา่ ง เก่า พระวิกรมาทิตยเ์ สดจ็ ปี นข้ึนไป แลลงหลายคร้ังกไ็ ม่ยอ่ ทอ้ ปรากฏความเพียร เหมือนหน่ึงวา่ จะยอมปี นข้ึนปี นลงอยจู่ นสิ้นยคุ แต่ไม่จาเป็นตอ้ งเพยี รนานถึง เท่าน้นั เพราะเวตาลยอมใหจ้ บั ในคร้ังท่ีเจด็ แลกล่าววา่ แมเ้ ทวดากข็ ืนใจคนหวั ด้ือไม่ได ้้ ฝ่ ายพระราชาเม่ือจบั เวตาลไวแ้ ลว้ กป็ ลดผา้ ผนื หน่ึงออกจากพระองค์ ผกู เป็นยา่ มจะใส่เวตาล เวตาลน่ิงดูอยคู่ รู่หน่ึงแลว้ ถามวา่ \"ท่านน้ีคือใคร ท่านจะ ทาอะไร\" พระราชาตรัสตอบวา่ \"เอง็ จงรู้วา่ ขา้ คือพระวิกรมาทิตยพ์ ระราชากรุงอุช ชยนิ ี ขา้ จะจบั ตวั เอง็ ไปใหค้ น ๆ หน่ึง ซ่ึงเห็นสนุกในการเคาะกะโหลกหวั ผเี ป็น เพลงใหผ้ ฟี ัง\"
เวตาลทูลตอบวา่ \"พระองคผ์ เู้ ป็นราชา จงจาภาษิตโบราณไวว้ า่ ลิ้น คนน้นั ตดั คอคนเสียมากต่อมากแลว้ ขา้ พเจา้ จะยอมตามพระหฤทยั พระองค์ แลตามเสดจ็ ไปหาบุรุษที่ทาดนตรีดว้ ยกะโหลกหวั ผี พระองคจ์ ะ ผกู ขา้ พเจา้ สะพายหลงั เหมือนยา่ มคนขอทานกต็ ามพระประสงค์ แต่ พระองคจ์ งฟังคาขา้ พเจา้ ใส่พระหฤทยั ไปตลอดทาง คือขา้ พเจา้ เป็นผชู้ ่าง พดู แลทางเดินต้งั แต่ท่ีน้ีไปถึงป่ าชา้ ซ่ึงเพอ่ื นของพระองคน์ ง่ั ทาดนตรีอยู่ น้นั กินเวลาชว่ั โมงเศษ ในเวลาเดินทางขา้ พเจา้ จะเล่านิทานเล่น เพราะ ปราชญผ์ มู้ ีความรู้ยอ่ มใชเ้ วลาของตนในเรื่องหนงั สือมิใช่ใชเ้ วลาในการ นอนแลการข้ีเกียจอยา่ งคนโง่
ในเวลาเล่านิทานน้นั ขา้ พเจา้ จะต้งั ปัญหาถามพระองค์ แล พระองคต์ อ้ งสญั ญาขอ้ น้ีเสียก่อน ขา้ พเจา้ จึงจะยอมไปดว้ ย คือเม่ือ ขา้ พเจา้ ต้งั ปัญหาถา้ พระองคต์ อบ จะเป็นดว้ ยกรรมในปางก่อนบนั ดาล ใหต้ อบหรือดว้ ยแพค้ วามฉลาดของขา้ พเจา้ เพราะขา้ พเจา้ ล่อใหท้ รง แสดงความเยอ่ หยงิ่ วา่ มีความรู้กต็ าม ถา้ ตรัสตอบปัญหาขา้ พเจา้ เม่ือใด ขา้ พเจา้ จะกลบั ไปที่อยขู่ องขา้ พเจา้ ต่อเมื่อพระองคไ์ ม่ตอบปัญหาเพราะ ไดส้ ติหรือดว้ ยความโง่เขลาของพระองคก์ ต็ าม ขา้ พเจา้ จึงจะยอมไปดว้ ย ขา้ พเจา้ ขอทูลแนะนาเสียแต่ในบดั น้ีวา่ พระองคจ์ งสงบความหยง่ิ ในพระ หฤทยั วา่ เป็นผมู้ ีความรู้ เมื่อเกิดมาเป็นคนโง่แลว้ กจ็ งยอมโง่เสียเถิด มิฉะน้นั พระองคจ์ ะไม่ไดป้ ระโยชนซ์ ่ึงนอกจากขา้ พเจา้ แลว้ ไม่มีใครจะ อานวยได\"้
พระวิกรมาทิตยไ์ ดท้ รงฟังดงั น้นั กค็ ิดขดั เคืองในพระหฤทยั เพราะ พระราชาไม่เคยฟังใครดูหม่ินวา่ โง่ แต่คร้ันจะไม่ยอมสญั ญาตาม คาเวตาลกจ็ ะไม่ไดต้ วั ไปดงั ประสงค์ ทรงดาริเช่นน้ีแลว้ มิไดต้ รัสตอบ ประการใด ทรงจบั เวตาลใส่ลงในยา่ มยกข้ึนสะพาย แลว้ ตรัสใหพ้ ระ ราชบตุ รรีบตามใหท้ นั พลางเสดจ็ ออกรีบทรงดาเนินไป ฝ่ ายเวตาลคร้ัน ออกเดินไดส้ กั ครู่หน่ึง กท็ ูลถามปัญหาส้นั ๆ กล่าวดว้ ยลมแลฝนแล โคลนในถนน พระราชามิไดต้ รัสตอบประการใด เวตาลจึงทูลวา่ \"ขา้ พเจา้ จะเล่านิทานซ่ึงเป็นเรื่องจริงถวายในบดั น้ี พระองคจ์ งฟังเถิด\"
Search