Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พินิจพิจารณ์

พินิจพิจารณ์

Published by Aunlee Ch, 2021-08-20 11:02:40

Description: พินิจพิจารณ์

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ พนิ จิ พิจารณ์ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ เวลา ๑ ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวธรี พร บุตราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวิต และมีนสิ ัยรักการอา่ น ตวั ชวี้ ดั ม.๑/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้องเหมาะสมกับเร่อื งที่อ่าน ๒. สาระสาคัญ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลิน ซาบซึ้งในรสของบท ประพันธ์ ซึ่งต้องอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทานองตามลักษณะคาประพันธ์แต่ละชนิด มีวิธีออกเสียงได้ ๒ อย่าง คอื ออกเสียงการอา่ นร้อยแก้วและการอา่ นทานองเสนาะ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ (K) นกั เรียนสามารถอธบิ ายหลักการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง ๓.๒ งานทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพไดถ้ ูกตอ้ ง ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ๑. มมี ารยาทในการอ่าน ๒. มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) หลักการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง

๔.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process) อ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ ๔.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  ซอื่ สตั ย์ สุจรติ  มีวินัย  ใฝเ่ รยี นรู้  อยูอ่ ย่างพอเพยี ง  มุง่ ม่นั ในการทางาน  รักความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ ๔.๔ ด้านสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๔.๕ ดา้ นคุณลักษณะของผู้เรยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล  เปน็ เลศิ วชิ าการ  สอ่ื สารสองภาษา  ลา้ หนา้ ทางความคดิ  ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์  ร่วมกันรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมโลก ๔.๖ บูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑. หลักความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลกั ความมเี หตุผล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลักภมู คิ ุ้มกนั : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เงื่อนไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงอื่ นไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแต่ละด้านไม่จาเปน็ ตอ้ งมคี รบทุกข้อในทุกแผนการจัดการเรียนร)ู้ ๕. ชน้ิ งาน/ภาระงาน การฝกึ อ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๖. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ๖.๑ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ ขนั้ นา ๑. ครใู ห้นักเรยี นดูบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ เร่อื งนริ าศภเู ขาทอง ครูซักถามนักเรยี นเกี่ยวกับ บทอาขยานขา้ งต้นว่าเปน็ บทร้อยกรองประเภทใด และมวี ธิ กี ารแบ่งวรรคตอนในการอา่ นที่ถกู ต้องอย่างไร ซง่ึ มีเนอื้ หาดงั นี้

มาถงึ บางธรณที วโี ศก ยามวโิ ยคยากใจให้สะอนื้ โอส้ ธุ าหนาแนน่ เป็นแผ่นพน้ื ถึงสี่หม่ืนสองแสนท้งั แดนไตร เมอ่ื เคราะหร์ า้ ยกายเราก็เท่าน้ี ไมม่ ีท่ีพสธุ าจะอาศัย ลว้ นหนามเหน็บเจ็บแสบคบั แคบใจ เหมอื นนกไรร้ ังเรอ่ ย่เู อกา ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแตก่ อ่ นเกา่ ผหู้ ญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดย๋ี วน้ีมอญถอนไรจุกเหมอื นตุ๊กตา ทั้งผดั หน้าจบั เขม่าเหมอื นชาวไทย โอ้สามัญผันแปรไมแ่ ทเ้ ทีย่ ง เหมอื นอย่างเยยี่ งชายหญงิ ทง้ิ วิสัย นี่หรอื จิตคิดหมายมีหลายใจ ท่จี ติ ใครจะเป็นหนงึ่ อย่าพงึ คดิ ถึงบางพดู พูดดีเป็นศรีศกั ดิ์ มคี นรักรสถอ้ ยอรอ่ ยจิต แมพ้ ดู ช่วั ตวั ตายทาลายมิตร จะชอบผดิ ในมนษุ ยเ์ พราะพูดจา ๒. ครูให้นักเรียนอ่านบทอาขยานข้างต้นพร้อมกัน จากน้ันครูเชื่อมโยงถึงความรู้เร่ือง การอ่านออก เสียงรอ้ ยกรองประเภทกลอนสภุ าพ ขนั้ สอน ๑. ครูสุ่มนักเรียน ๑-๒ คน ออกมาช่วยกันแบ่งวรรคตอนในการอ่านบทอาขยานจากเร่ือง นิราศภูเขา ทองให้ถกู ตอ้ ง ครจู ึงเฉลยคาตอบท่ีถูกตอ้ ง มาถึงบาง/ธรณ/ี ทวโี ศก ยามวิโยค/ยากใจ/ให้สะอื้น โอส้ ุธา/หนาแนน่ /เปน็ แผน่ พืน้ ถึงสี่หมน่ื /สองแสน/ทั้งแดนไตร เม่อื เคราะห์รา้ ย/กายเรา/ก็เท่านี้ ไม่มีท/่ี พสธุ า/จะอาศัย ลว้ นหนามเหน็บ/เจบ็ แสบ/คบั แคบใจ เหมอื นนกไร/้ รังเร/่ อยู่เอกา ถึงเกร็ดยา่ น/บา้ นมอญ/แต่ก่อนเก่า ผู้หญงิ เกล้า/มวยงาม/ตามภาษา เด๋ยี วนม้ี อญ/ถอนไรจกุ /เหมอื นตุ๊กตา ทัง้ ผดั หนา้ /จบั เขม่า/เหมอื นชาวไทย โอส้ ามญั /ผันแปร/ไมแ่ ท้เทีย่ ง เหมอื นอยา่ งเย่ียง/ชายหญงิ /ทิง้ วสิ ยั นีห่ รือจิต/คิดหมาย/มีหลายใจ ทจ่ี ติ ใคร/จะเป็นหนึ่ง/อย่าพงึ คดิ ถึงบางพดู /พูดดี/เปน็ ศรีศักด์ิ มีคนรกั /รสถ้อย/อร่อยจติ แม้พดู ช่ัว/ตวั ตาย/ทาลายมติ ร จะชอบผิด/ในมนุษย์/เพราะพูดจา ๒. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ละ ๔ คน จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาใบความรู้เรื่อง การอา่ นออก เสียงบทร้อยกรองประเภทกลอน แล้วบันทึกสรุปความรู้ลงในสมุดบันทึกของนักเรียน เมื่อแต่ละกลุ่มศึกษาใบ ความรู้เรยี บรอ้ ยแลว้ ใหน้ กั เรียนกลบั เขา้ ทน่ี ั่งเดิมของตน

๓. ครูเปิดแผ่นดีวีดีการออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพให้นักเรียนฟัง (บทอาขยานเรื่อง นริ าศภเู ขาทอง) จากนัน้ ใหน้ ักเรียนฝึกอา่ นพร้อมกันท้ังห้อง ๔. บทร้อยกรองให้เพอ่ื นในหอ้ งฟงั เป็นตัวอย่าง โดยครเู ป็นผ้แู นะนาแก้ไขใหน้ ักเรียนอ่านให้ถูกตอ้ ง ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และหลักในการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ และนดั หมายเพอื่ ประเมินผลการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเป็นรายบุคคล ๖.๒ กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบออนไลน์ ๑. นักเรียนศึกษาเร่ือง การอ่านออกเสียงร้อยกรอง ผ่านการสอนสด (live) ของครูทางช่องทาง line meeting ๒. นักเรียนศึกษาวิธีการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง จากส่ือประกอบการสอนและใบความรู้ จากนั้นครู และนกั เรียนรว่ มกนั สนทนาถึงวิธีการอ่านที่ดีและถกู ต้อง ๓. นักเรียนทาใบงาน เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยกรอง ที่อยู่ในเอกสารประกอบการเรียน แล้วเฉลย รว่ มกนั ๔. นักเรียนศึกษาวิดทิ ศั น์ เรอื่ ง การอา่ นทานองเสนาะ จาก google classroom ๕. นักเรียนถ่ายคลิปวิดีโอการอ่านออกเสียงร้อยกรองของตนเอง แล้วส่งงานในอัลบ้ัมทาง Line ห้อง ของตนเอง โดยครูจะสร้างอลั บั้มไวใ้ หน้ ักเรียนส่งงานในหัวขอ้ เรื่อง “การอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรอง” ๗. สือ่ /วัสดอุ ุปกรณ/์ แหลง่ เรียนรู้ ๑. สือ่ ประกอบการสอน เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ ๒. ใบความรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ๓. วิดีทัศน์การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง (บทอาขยานจากเรอื่ ง นริ าศภเู ขาทอง) ๘. การวดั ผลและประเมินผลการเรยี นรู้ ๘.๑ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๘.๑.๑ ดา้ นความรู้ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใช้เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล มีดงั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินผล

๘.๑.๒ ด้านทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใช้เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล มดี งั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา ๙-๑๐/ดมี าก นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ผล ๘.๑.๓ ด้านคุณลักษณะ เกณฑก์ ารพจิ ารณาโดยใช้เครื่องมือวัดและประเมินผล มดี ังน้ี คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา ๙-๑๐/ดีมาก นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรุง นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินผล ๘.๒ การประเมินผล คะแนน วธิ วี ดั ผล-ประเมินผล เคร่ืองมือวดั ๑๐ ตรวจใบงาน ผลการเรยี นรู/้ ประเมินการอา่ นออกเสียง แบบประเมนิ ผลงาน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี น ๑. อ่านออกเสียงบทร้อย กรองประเภทกลอน แบบประเมนิ การอา่ น สุภาพไดถ้ ูกต้อง ออกเสยี ง ๒. อธบิ ายหลักการอา่ น ออกเสียงบทร้อยกรอง ได้ถูกต้อง ๓. มีมารยาทในการอา่ น ๔. มคี วามมุ่งม่นั ในการ ทางาน รวม เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรอื ที่มอบหมาย ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวธีรพร บตุ ราช แล้วมคี วามเหน็ ดังน้ี ๑. เปน็ แผนจดั การเรียนร้ทู ี่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นาเอากระบวนการเรยี นรู้  ทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนไดเ้ หมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ควรพัฒนาปรบั ปรุง ๓. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. . .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ .............. ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศพ์ ทุ ธา) รองผอู้ านวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ

รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๒ บนั ทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ รายวิชาภาษาไทย ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .............................................................................. .............. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .............................................................................. .............. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .............................................................................. .............. ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ลงชอ่ื ............................................ผสู้ อน (นางสาวธีรพร บุตราช) ครู

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ พินจิ พิจารณ์ เร่ือง นริ าศภูเขาทอง เวลา ๓ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธรี พร บุตราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ไขปัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอา่ น ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่าและ นามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ม.๑/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อา่ น ท ๑.๑ ม.๑/๔ ระบุและอธบิ ายคาเปรียบเทยี บ และคาทีม่ หี ลายความหมายในบรบิ ทตา่ ง ๆ จากการ อ่าน ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรปุ เน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่าน ท ๕.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรม ท่ีอ่านพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ ท ๕.๑ ม.๑/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี า่ น ท ๕.๑ ม.๑/๔ สรปุ ความรูแ้ ละข้อคดิ เหน็ จากการอา่ นเพ่อื ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ท ๕.๑ ม.๑/๕ ทอ่ งบทอาขยานตามทีก่ าหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจ ๒. สาระสาคญั การถอดคาประพันธ์ของวรรณคดี เร่ือง นิราศภูเขาทอง ซ่ึงเป็นการพรรณนาเรื่องราวในช่วงเวลา หลังจากบวชมาหลายพรรษาแล้ว และอยู่ในระหว่างการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัด พระนครศรอี ยธุ ยา ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ (K) ๑. นกั เรียนสามารถบอกหลักการถอดคาประพันธ์ได้ ๒. นักเรียนสามารถสามารถถอดคาประพันธไ์ ด้ถกู ต้อง

๓.๒ งานทกั ษะ/กระบวนการ (P) วเิ คราะหค์ าประพนั ธว์ รรณคดี เร่ือง นริ าศภูเขาทอง ๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) คุณคา่ ของวรรณคดีเรื่อง นิราศภูเขาทอง ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge) ๑. หลักการถอดคาประพันธ์ ๒. ถอดคาประพนั ธ์ ๔.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process) ถอดคาประพนั ธ์วรรณคดี ๔.๓ ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ซอื่ สัตย์ สจุ ริต  มีวินัย  ใฝ่เรียนรู้  อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมน่ั ในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ ๔.๔ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๔.๕ ด้านคุณลักษณะของผเู้ รียนตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล  เปน็ เลศิ วิชาการ  สื่อสารสองภาษา  ลา้ หน้าทางความคดิ  ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์  รว่ มกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก ๔.๖ บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑. หลกั ความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลกั ความมีเหตผุ ล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลกั ภมู ิคุม้ กัน : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เงื่อนไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงอ่ื นไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแต่ละด้านไม่จาเปน็ ต้องมีครบทกุ ข้อในทุกแผนการจัดการเรียนร้)ู

๕. ชิน้ งาน/ภาระงาน ใบงานเรอ่ื ง การสรุปความรู้เบ้ืองต้นเรื่อง นริ าศภเู ขาทอง ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๖.๑ กระบวนการจดั การเรียนรแู้ บบปกติ (ชั่วโมงท่ี ๑) ขั้นนา ๑. ครูให้นักเรียนดูรูปเจดีย์ภูเขาทองจากจังหวัดอยุธยา แล้วสนทนาว่านักเรียนรู้จักสถานที่ในภาพ หรอื ไม่ และเพราะเหตใุ ดนกั เรยี นจงึ รจู้ ัก ๒. ครกู ล่าวเช่อื มโยงเข้าสบู่ ทเรียนวา่ สถานท่ีในภาพคือ เจดยี ์ภเู ขาทอง ท่ีตงั้ อยู่ในวดั ภเู ขาทองเป็นวัด โบราณในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเก่ียวข้องกับวรรณคดีนิราศท่ีมีช่ือเสียงของสุนทรภู่ก็คือ นิราศภูเขาทอง (ภาพสุนทรภู่) ขั้นสอน ๑. แบ่งกลุ่มนักเรยี นเปน็ ๔ กลุม่ ส่งตวั แทนออกมาจับสลากเลือกเร่ืองเพ่ือศึกษาใบความรู้เรื่อง นิราศ ภเู ขาทอง (ซองนกั ปราชญ์) ตามลาดบั ตอ่ ไปนี้ ๑) ทีม่ าและจุดประสงค์ในการแต่งนริ าศภูเขาทอง ๒) ประวตั สิ ุนทรภู่ ๓) ลักษณะคาประพนั ธ์ ๔) เนอ้ื หาและเรื่องย่อนิราศภูเขาทอง เม่ือนักเรียนศึกษาใบความรู้เร่ือง นิราศภูเขาทอง (ซองนักปราชญ์) แล้วให้เขียนสรุปความร้ทู ่ีได้จากการศึกษา ขอ้ มลู ลงในกระดาษที่ครแู จกให้ จากนั้นใหน้ กั เรียนเปลี่ยนซองกบั เพ่ือนกลุ่มอ่ืน เพ่ือศึกษาความรู้เร่ืองต่อไปจน ครบทุกเรอื่ ง และเขียนสรุปความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษาโดยกาหนดเวลาในการสรปุ ความรู้แตล่ ะกลุ่ม ครั้งละ ๕-๗ นาที ๒. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลการศกึ ษาใบความร้เู รื่อง นิราศภเู ขาทอง (ซองนกั ปราชญ)์ ๓. นักเรยี นทาใบงานเรือ่ ง การสรุปความรเู้ บือ้ งต้นเรอ่ื งนริ าศภเู ขาทอง ขน้ั สรุป ครูใช้คาถามเพื่ออภิปรายสรุปความรู้เก่ียวกับนิราศภูเขาทองท่ีมาจุดประสงค์ในการแตง่ นิราศภเู ขาทอง ประวัติผแู้ ตง่ ลักษณะคาประพันธ์ เนอื้ หาและเรอ่ื งย่อนริ าศภูเขาทองและประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จากการเรยี น ๖.๒ กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบออนไลน์ (ชัว่ โมงท่ี ๑) ๑. นักเรียนดภู าพเจดียภ์ ูเขาทองจากจังหวัดอยธุ ยาจากสื่อประกอบการสอน เรื่อง นริ าศภูเขาทอง แล้ว สนทนากันว่านักเรียนรู้จักสถานท่ีแห่งน้ีหรือไม่ อย่างไร ผ่านการสอนสด (live) ของครูทางช่องทาง line meeting

๒. ครูกล่าวเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า สถานที่ในภาพคือ เจดีย์ภูเขาทอง ที่ตั้งอยู่ในวัดภูเขาทองเป็นวัด โบราณในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกี่ยวข้องกับวรรณคดีนิราศท่ีมีช่ือเสียงของสุนทรภู่ก็คือ นิราศภูเขาทอง (ภาพสนุ ทรภู่) ๓. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เรอ่ื ง นริ าศภูเขาทอง จาก google classroom ๔. นักเรยี นทาใบงานเรือ่ ง การสรปุ ความรู้เบ้อื งต้น เรอื่ ง นิราศภูเขาทอง ๖.๓ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ (ช่ัวโมงท่ี ๒-๓) ขั้นนา ๑. นกั เรียนดภู าพแผนทกี่ ารเดินทางของสนุ ทรภวู่ า่ ผา่ นสถานทใ่ี ดบา้ ง ๒. ครูเล่าเร่อื งยอ่ ใหน้ กั เรยี นฟงั ขน้ั สอน ๑. นักเรียนร่วมกันทบทวนหลักการถอดคาประพันธ์ ซึ่งจะต้องแปลคาศัพท์ที่ยังไม่รู้ความหมายก่อน และเรยี บเรยี งเปน็ ร้อยแก้วให้สละสลวยโดยท่ยี ังคงเคา้ ความเดิมของคาประพันธไ์ ว้ ๒. นกั เรียนและครูรว่ มกันถอดคาประพนั ธ์ทลี ะหน้า ขน้ั สรปุ นักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ ก่ียวกับหลักการถอดคาประพันธแ์ ละสรุปเนื้อหาจากการถอดคาประพันธ์ วรรณคดี เรอ่ื ง นิราศภูเขาทอง ๖.๔ กระบวนการจดั การเรียนรแู้ บบออนไลน์ (ช่วั โมงที่ ๒-๓) ๑. นักเรียนศึกษาแผนที่การเดินทางของสุนทรภู่จากสื่อประกอบการสอน เร่ือง นิราศภูเขาทอง ผ่าน การสอนสด (live) ของครทู างช่องทาง line meeting ๒. นักเรียนศึกษาวิดิทัศน์การเล่าเรื่องย่อและการถอดคาประพันธ์เร่ือง นิราศภูเขาทอง ของครู จาก google classroom ๓. นกั เรยี นจดบนั ทกึ การถอดคาประพนั ธ์ลงสมุดหรอื ในหนงั สือเรยี นของตนเอง ๗. สือ่ /วัสดอุ ปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ ๑. ภาพสนุ ทรภู่ ๒. ภาพเจดีย์ภูเขาทอง ๓. ใบความรเู้ รอื่ ง นิราศภเู ขาทอง(ซองนกั ปราชญ์) ๔. ใบงานเรอ่ื ง การสรุปความรเู้ บอ้ื งตน้ เร่อื ง นิราศภูเขาทอง ๕. สื่อประกอบการสอน เรอ่ื ง นริ าศภูเขาทอง ๖. วดิ ทิ ัศนก์ ารเลา่ เร่อื งย่อและการถอดคาประพันธ์ เร่ือง นิราศภเู ขาทอง ๗. หนังสือเรยี น วรรณคดีวิจักษ์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑

๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๘.๑ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๘.๑.๑ ด้านความรู้ เกณฑก์ ารพจิ ารณาโดยใชเ้ ครอ่ื งมือวดั และประเมินผล มีดังนี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดีมาก นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นักเรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๘.๑.๒ ด้านทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใชเ้ ครื่องมือวัดและประเมนิ ผล มีดงั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินผล ๘.๑.๓ ด้านคณุ ลักษณะ เกณฑก์ ารพิจารณาโดยใชเ้ คร่ืองมือวดั และประเมินผล มดี ังนี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรงุ นักเรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผล

๘.๒ การประเมินผล ผลการเรียนร/ู้ คะแนน วิธวี ดั ผล-ประเมินผล เครอื่ งมือวดั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตรวจใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ๑. นักเรียนสามารถบอก นักเรียน ห ลั ก ก า ร ถ อ ด ค า ประพนั ธไ์ ด้ ๒. นักเรียนสามา รถ สามารถถอดคาประพันธ์ ไดถ้ ูกต้อง ๓. วิเคราะห์คาประพนั ธ์ จากวรรณคดี เรือ่ ง นิราศภเู ขาทอง ๔. คุณคา่ ของวรรณคดี เร่ือง นิราศภูเขาทอง รวม ๑๐ เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล คุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ท่ีมอบหมาย ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวธรี พร บุตราช แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ ๑. เป็นแผนจดั การเรียนรทู้ ่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้  ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดเ้ หมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ควรพัฒนาปรับปรงุ ๓. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. . ลงช่ือ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศ์พทุ ธา) รองผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ

รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๒ บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ รายวชิ าภาษาไทย ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ............................................ผู้สอน (นางสาวธรี พร บุตราช) ครู

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนมธั ยมวดั หนองแขม ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ พินจิ พจิ ารณ์ เรอ่ื ง นริ าศภเู ขาทอง เวลา ๒ ชวั่ โมง ผูส้ อน นางสาวธีรพร บตุ ราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่ และ นามาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจริง ตวั ชวี้ ัด ม.๑/๓ อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๒. สาระสาคญั หลกั การอธิบายคณุ ค่าของวรรณกรรมและวรรณคดี ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ (K) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่อง นิราศภูเขาทองได้ ๓.๒ งานทกั ษะ/กระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถวิเคราะหค์ ณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่อง นิราศภูเขาทองได้ ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) มคี วามมุ่งมนั่ ในการทางาน ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) คุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมเร่อื ง นริ าศภูเขาทอง ๔.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process) วิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดี เร่อื ง นริ าศภูเขาทอง ๔.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซ่ือสัตย์ สุจริต  มีวนิ ัย  ใฝ่เรียนรู้  อยู่อยา่ งพอเพยี ง  มงุ่ ม่ันในการทางาน

 รักความเป็นไทย  มจี ติ สาธารณะ ๔.๔ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๔.๕ ดา้ นคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล  เปน็ เลศิ วิชาการ  สอ่ื สารสองภาษา  ลา้ หน้าทางความคดิ  ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์  ร่วมกันรับผิดชอบตอ่ สังคมโลก ๔.๖ บรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑. หลักความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลกั ความมเี หตุผล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลักภมู ิคมุ้ กัน : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เงื่อนไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงอ่ื นไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแตล่ ะด้านไม่จาเป็นต้องมคี รบทกุ ข้อในทุกแผนการจดั การเรยี นรู้) ๕. ชิ้นงาน/ภาระงาน สรุปความรู้เกยี่ วกบั เรือ่ ง นิราศภูเขาทอง ในรูปแบบของแผนภาพความคดิ ๖. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ๖.๑ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ (ช่ัวโมงท่ี ๑) ขัน้ นา ๑. ครยู กตวั อย่างคาประพนั ธ์ “ทั้งองคฐ์ านรานร้าวถงึ เกา้ แฉก เผยอแยกยอดทรดุ กห็ ลดุ หกั โอเ้ จดีย์ที่สร้างยงั ร้างรัก เสียดายนักนกึ หน้าน้าตากระเดน็ กระนหี้ รือชอ่ื เสยี งเกยี รติยศ จะมิหมดลว่ งหน้าทนั ตาเหน็ เป็นผ้ดู ีมีมากแลว้ ยากเย็น คิดกเ็ ป็นอนิจจงั เสียทง้ั น้ัน” ๒. ครูถามนักเรียนว่าคาประพันธข์ ้างต้นมีคุณค่าดา้ นเนื้อหาในประเด็นใดบ้าง (คุณค่าด้านเน้ือหาหรือ คุณค่าดา้ นสังคม คอื ความไม่แนน่ อน)

ขั้นสอน ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่ม ให้นักเรียนช่วยหันศึกษาว่าในเร่ือง นิราศภูเขาทอง พบคุณค่า ดา้ นเนอ้ื หาในเร่อื งใดบ้าง ๒. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงานการศกึ ษาตามประเดน็ ท่ีพบเจอ ครซู ักถามนกั เรยี น พร้อมให้ ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ และชมเชยผลงานของนักเรียน ๓. นักเรยี นทาแบบทดสอบเรือ่ ง คุณค่าดา้ นเน้อื หา เรอื่ ง นิราศภูเขาทอง ๔. ครแู นะนานักเรียนเลอื กคาประพันธ์ทนี่ ักเรยี นชอบพร้อมอธบิ ายเหตผุ ลว่าชอบเพราะอะไร ขน้ั สรปุ ครูและนักเรียนสรุปคณุ คา่ ดา้ นเน้อื หาทไ่ี ด้จากเร่ือง นริ าศภเู ขาทอง ๖.๒ กระบวนการจดั การเรียนรแู้ บบออนไลน์ (ช่วั โมงท่ี ๑) ๑. นกั เรียนศกึ ษาเรอื่ ง คุณคา่ ดา้ นเน้อื หาจากนิราศภเู ขาทอง จากการสอนสด (live) ของครูผ่าน ชอ่ งทาง line Meeting ๒. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เร่ือง คุณค่าดา้ นเนอื้ หาจากนิราศภูเขาทอง จาก google classroom ๓. นักเรยี นทาใบงานเร่ือง คุณคา่ ดา้ นเนื้อหาจากนิราศภเู ขาทอง แลว้ เฉลยร่วมกัน ๔. นกั เรียนทาแบบทดสอบเร่ือง คุณค่าดา้ นเนื้อหาจากนิราศภเู ขาทอง จาก google form ๕. นักเรียนที่ทุกคนเลือกคาประพันธ์ที่นักเรียนเห็นว่ามีคุณค่าด้านเน้ือหา พร้อมอธิบายเหตุผลลงใน สมดุ ของตนเอง ๖. นักเรียนส่งงานโดยการอัปโหลดรูปภาพงานท่ีตนเองทาเสร็จแล้วส่งใน line ห้องของตนเอง ซึ่งครู จะสรา้ งอัลบม้ั ไว้ชอ่ื วา่ “คุณคา่ ด้านเนือ้ หาจากเร่อื ง นิราศภเู ขาทอง” ๖.๓ กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบปกติ (ช่ัวโมงที่ ๒) ขัน้ นา ๑. ครยู กตวั อยา่ งคาประพนั ธ์ “ดนู ้าวิง่ กลิง้ เกลีย้ วเปน็ เกลยี วกลอก กลบั กระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวยี น บ้างพลงุ่ พลุ่งวุง้ วงเหมือนกงเกวยี น ดูเวยี นเวียนคว้างคว้างเป็นหวา่ งวน” ๒. นักเรียนศึกษาว่าคาประพันธ์ข้างต้นมคี ุณคา่ ดา้ นเน้ือหาในประเดน็ ใด (ดา้ นวรรณศลิ ป์) ขั้นสอน ๑. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ออกเป็น ๕ กลุ่ม ศึกษาคุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ในวรรณคดี เรอ่ื นริ าศภูเขาทอง ๑) คาสมั ผัสพยัญชนะ ๒) คาสัมผสั สระ ๓) การซา้ คา

๔) การใช้คาน้อยแตก่ ินความมาก ๕) ใช้คาศัพทค์ าเดียว ๒. นักเรยี นแต่ละกลุ่มวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ในประเด็นตา่ ง ๆ พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ๓. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงานการศึกษาตามประเด็นทรี่ ับผิดชอบ ครซู ักถามนกั เรยี น พรอ้ มให้ ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ และชมเชยผลงานของนกั เรียน ๔. นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบงาน ๕. ครแู นะนานักเรยี นเลือกคาประพันธท์ ่นี ักเรยี นเห็นว่ามีความไพเราะ พรอ้ มอธิบายเหตุผลวา่ ไพเราะ อย่างไร ข้นั สรุป ครูและนกั เรยี นสรุปคุณค่าด้านวรรณศิลปท์ ่ีไดจ้ ากเรือ่ ง นิราศภูเขาทอง ๖.๔ กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบออนไลน์ (ช่ัวโมงท่ี ๒) ๑. นกั เรียนศกึ ษาเรอ่ื ง คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์จากนิราศภเู ขาทอง จากการสอนสด (live) ของครูผา่ น ชอ่ งทาง line Meeting ๒. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เร่อื ง คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์จากนิราศภเู ขาทอง จาก google classroom ๓. นักเรียนทาใบงานเรือ่ ง คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ปจ์ ากนริ าศภูเขาทอง แล้วเฉลยรว่ มกนั ๔. นกั เรียนทาแบบทดสอบเรอื่ ง คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์จากนิราศภเู ขาทอง จาก google form ๕. นักเรียนที่ทุกคนเลือกคาประพันธ์ท่ีนักเรียนเห็นว่ามีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ จากเร่ือง นิราศภูเขา ทอง พรอ้ มอธิบายเหตุผลลงในสมุดของตนเอง ๖. นักเรียนส่งงานโดยการอัปโหลดรูปภาพงานที่ตนเองทาเสร็จแล้วส่งใน line ห้องของตนเอง ซ่ึงครู จะสรา้ งอัลบม้ั ไว้ชือ่ วา่ “คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ปจ์ ากเรือ่ ง นริ าศภูเขาทอง” ๗. สอ่ื /วัสดุอุปกรณ/์ แหลง่ เรียนรู้ ๑. หนังสือวรรณคดวี ิจกั ษณ์ ม. ๑ ๒. ใบงานเรือ่ ง คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์จากนิราศภูเขาทอง ๓. แบบทดสอบ เรือ่ ง คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ปจ์ ากนิราศภูเขาทอง ๔. ใบความรู้ เรอื่ ง คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ปจ์ ากนิราศภูเขาทอง ๕. ส่ือประกอบการสอน เร่ือง คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ปจ์ ากนิราศภเู ขาทอง ๖. ใบงานเรื่อง คณุ คา่ ดา้ นเนื้อหาจากนริ าศภูเขาทอง ๗. แบบทดสอบ เรอื่ ง คุณคา่ ด้านเนอ้ื หาจากนริ าศภเู ขาทอง ๘. ใบความรู้ เรือ่ ง คุณค่าด้านเน้ือหาจากนริ าศภูเขาทอง ๙. ส่อื ประกอบการสอน เร่ือง คุณค่าดา้ นเน้ือหาจากนิราศภูเขาทอง

๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๘.๑ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๘.๑.๑ ด้านความรู้ เกณฑก์ ารพจิ ารณาโดยใชเ้ ครอ่ื งมือวดั และประเมินผล มีดังนี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดีมาก นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นักเรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๘.๑.๒ ด้านทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใชเ้ ครื่องมือวัดและประเมนิ ผล มีดงั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินผล ๘.๑.๓ ด้านคณุ ลักษณะ เกณฑก์ ารพิจารณาโดยใชเ้ คร่ืองมือวดั และประเมินผล มดี ังนี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรงุ นักเรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผล

๘.๒ การประเมนิ ผล คะแนน วิธีวดั ผล-ประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั ๑๐ ตรวจใบงาน ผลการเรียนรู้/ แบบประเมินผลงาน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียน ๑. นักเรียนสามา รถ อ ธิ บ า ย คุ ณ ค่ า ข อ ง ว ร ร ณ ค ดี แ ล ะ วรรณกรรมเร่ือง นิราศ ภูเขาทองได้ ๒. นกั เรียนสามารถ วเิ คราะหค์ ุณค่าของ วรรณกรรมเร่อื ง นริ าศ ภูเขาทองได้ ๓. มีความมุ่งม่นั ในการ ทางาน รวม เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือที่มอบหมาย ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางสาวธีรพร บตุ ราช แล้วมีความเห็นดังนี้ ๑. เป็นแผนจดั การเรียนรทู้ ่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นาเอากระบวนการเรียนรู้  ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนไดเ้ หมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรพัฒนาปรบั ปรงุ ๓. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศพ์ ุทธา) รองผ้อู านวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๒ บันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ รายวชิ าภาษาไทย ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. ปญั หา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๓. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ..................................................................................................... ......................................................................... ลงชื่อ............................................ผสู้ อน (นางสาวธรี พร บตุ ราช) ครู

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๒๑๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นมัธยมวดั หนองแขม ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๓ พินจิ พิจารณ์ เรือ่ ง ระบุเหตแุ ละผล และข้อเท็จจริงข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีอา่ น เวลา ๒ ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวธีรพร บตุ ราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรือ่ งราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตัวชว้ี ัด ม.๑/๖ เขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั สาระจากส่อื ทไี่ ด้รบั ม.๑/๙ มมี ารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคัญ การเขียนแสดงความคิดเห็น คือ การเขียนท่ีประกอบด้วยข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงกับการแสดง ความ คดิ เหน็ ต่อเรื่องใดเรื่องหนง่ึ ความคิดเห็นควรจะมเี หตุผลและเปน็ ไปในทางสร้างสรรค์ ผู้รบั สารเรอื่ งเดยี วกัน ไม่ จาเปน็ ต้องมคี วามเหน็ เหมอื นกนั เปน็ การมองต่างมุมและเปน็ ความคิดเห็นเฉพาะบุคคล การแสดงความคดิ เห็น มักปรากฏในรปู ของบทความสื่อสง่ิ พมิ พ์ตา่ ง ๆ เชน่ หนังสอื พมิ พ์ วารสาร นติ ยสาร เปน็ ต้น ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ (K) ๑. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายการเขียนความคิดเหน็ ได้ ๒. นักเรียนสามารถอธิบายหลกั การเขยี นแสดงการคิดเห็นได้ ๓.๒ งานทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. นกั เรียนสามารถเขยี นแสดงความคดิ เห็นได้ถกู ตอ้ งตามหลักการเขยี น ๒. นักเรยี นต้องเขยี นอยา่ งมมี ารยาทในการเขียน ๓.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) มมี ารยาทในการเขียน มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. ความหมายของการเขยี นแสดงความคดิ เห็น ๒. หลกั การเขียนแสดงความคิดเหน็ ๔.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process) ๑. นักเรียนสามารถเขียนแสดงความคิดเห็นได้ถกู ตอ้ งตามหลักการเขียน ๒. นกั เรยี นต้องเขยี นอยา่ งมมี ารยาทในการเขียน ๔.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซื่อสตั ย์ สุจริต  มีวนิ ยั  ใฝเ่ รยี นรู้  อยอู่ ย่างพอเพียง  มุ่งม่นั ในการทางาน  รกั ความเปน็ ไทย  มจี ติ สาธารณะ ๔.๔ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๔.๕ ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรยี นตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล  เปน็ เลิศวิชาการ  สือ่ สารสองภาษา  ลา้ หนา้ ทางความคดิ  ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์  รว่ มกนั รับผดิ ชอบต่อสังคมโลก ๔.๖ บูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑. หลกั ความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลักความมีเหตผุ ล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลักภูมคิ มุ้ กนั : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เง่อื นไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงอ่ื นไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแต่ละด้านไม่จาเป็นต้องมีครบทุกข้อในทุกแผนการจดั การเรียนร)ู้ ๕. ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ผลงานการเขียนแสดงความเห็นจากบทความ ๒. ศึกษาค้นคว้างานเขยี นเก่ยี วกบั การแสดงความคิดเห็น

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๖.๑ กระบวนการจดั การเรียนรูแ้ บบปกติ (ชว่ั โมงท่ี ๑) ขน้ั นา ครูซักถามกระตุ้นความสนใจนักเรียนเรื่องการเขียนแสดงความคิดเห็น โดยถามความหมาย หลักการ และมารยาทในการเขยี นนกั เรยี นตอบคาถามครอู ธิบายเพ่ิมเติม ขน้ั สอน ๑. ครูแจกใบความรู้เร่ือง การเขียนแสดงความคิดเห็น นักเรียนศึกษาใบความรู้ แล้วครูอธิบายสรุป ความรู้ นกั เรยี นจดบันทกึ ลงสมุด ๒. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม ให้นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็น จากหนังสืออ่านนอก เวลา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ โดยให้นักเรยี นทุกคนเขียนแสดงความคิดเห็นตามหลักการเขยี นแสดงความคิดเห็น แลว้ นาเสนอภายในกลุ่มของตนเอง ครสู งั เกต แล้ววพิ ากษผ์ ลงานรว่ มกัน ๓ . ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทุกคนเขียนแสดงความคดิ เหน็ บทความท่นี ักเรียนสนใจ สง่ ครตู ามกาหนด ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนสรุปหลักการเขียนแสดงความคดิ เหน็ แลว้ บนั ทึกลงสมดุ ๖.๒ กระบวนการจัดการเรียนรแู้ บออนไลน์ (ชั่วโมงท่ี ๑) ๑. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็น จากใบความรู้และสื่อประกอบการสอน ผา่ นการสอนสด (live) ของครู ดว้ ยช่องทาง line meeting ๒. นักเรยี นเขียนแสดงความคดิ เห็น จากหนงั สอื อ่านนอกเวลา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ๓. นกั เรยี นทกุ คนเขียนแสดงความคิดเหน็ บทความทีน่ ักเรยี นสนใจ จากนน้ั อปั โหลดผลงานลงใน line ห้องของตนเอง โดยครูจะต้งั ช่อื อัลบ้ัมไว้วา่ “การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนังสอื อา่ นนอกเวลา” ๖.๓ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ (ชว่ั โมงท่ี ๒) ขัน้ นา ครูและนักเรียนสนทนาถึงงานเขียนแสดงความคิดเห็น โดยยกตัวอย่างงานเขียนเกี่ยวกับคติธรรมมา อา่ นให้นกั เรียนฟัง แลว้ ให้นักเรียนวิพากษง์ านเขยี น ขน้ั สอน ๑. ครูให้นักเรียนสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ “โรคอ้วน” “ของขวัญปีใหม่” จาก การแสดงความคิดเหน็ ใหน้ ักเรียนถา่ ยทอดและส่ือสารเป็นภาษาเขียน ๒. ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่อง การเขียนแสดงความคดิ เหน็ แลว้ ซกั ถามอภิปราย ๓. นักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เรื่อง “สมนุ ไพรรักษาโรค” ลงในสมดุ

ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนสรปุ ความรู้ที่รบั ในชวั่ โมงนี้ ๖.๔ กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบออนไลน์ (ช่วั โมงที่ ๒) ๑. นกั เรยี นร่วมกันวพิ ากษง์ านเขียนเกยี่ วกับคติธรรม ผ่านการสอนสด (live) ของครูทางช่องทาง line meeting ๒. ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็น จาก google classroom แล้ว ซักถามอภปิ ราย ๓. นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นเรื่อง “สมุนไพรรักษาโรค” ลงในสมุด จากน้ันอัปโหลดผลงานลง ใน line ห้องของตนเอง โดยครูจะต้ังช่อื อลั บัม้ ไว้วา่ “การเขียนแสดงความคดิ เห็น เรื่อง สมนุ ไพรรักษาโรค” ๗. สื่อ/วสั ดอุ ุปกรณ/์ แหลง่ เรียนรู้ ๑. สื่อประกอบการสอนเร่ือง การเขยี นแสดงความคดิ เห็น ๒. ใบความรู้ เร่อื ง การเขียนแสดงความคิดเหน็ ๓. ตัวอย่างงานเขยี นแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับคตธิ รรม ๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๘.๑ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๘.๑.๑ ดา้ นความรู้ เกณฑก์ ารพิจารณาโดยใชเ้ คร่ืองมอื วัดและประเมินผล มีดงั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดีมาก นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรงุ นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินผล ๘.๑.๒ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพิจารณาโดยใช้เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล มดี ังน้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา ๙-๑๐/ดีมาก นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรงุ นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ผล

๘.๑.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใชเ้ ครื่องมือวัดและประเมินผล มดี ังน้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรุง นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ผล ๘.๒ การประเมินผล ผลการเรียนรู้/ คะแนน วธิ ีวัดผล-ประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตรวจใบงาน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ ผลงาน ๑. นักเรียนสามา รถ นักเรียน อธิบายความหมายการ แบบสงั เกตพฤติกรรม เขียนความคดิ เหน็ ได้ ๒. นักเรียนสามา รถ อธิบายหลักการเขียน แสดงการคิดเหน็ ได้ ๓. นักเรียนสามา รถ เขียนแสดงความคิดเห็น ได้ถูกต้องตามหลักการ เขียน ๔. มมี ารยาทในการ เขียน รวม ๑๐ เกณฑก์ ารวดั ผลและประเมินผล คุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรอื ที่มอบหมาย ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวธีรพร บตุ ราช แล้วมีความเห็นดงั น้ี ๑. เป็นแผนจดั การเรียนร้ทู ่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นาเอากระบวนการเรียนรู้  ทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้เหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรพัฒนาปรับปรงุ ๓. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ............................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศพ์ ุทธา) รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

รหัสวชิ า ท ๒๑๑๐๒ บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาภาษาไทย ๑. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................ ...................................... ๒. ปญั หา/อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ............................................ผ้สู อน (นางสาวธรี พร บุตราช) ครู

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวดั หนองแขม ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ พินิจพิจารณ์ เรื่อง การเขียนแสดคงความคดิ เห็น เวลา ๒ ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวธีรพร บตุ ราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่อื งราวในรปู แบบ ต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ ตวั ช้ีวัด ม.๑/๒ เขียนสื่อสารโดยใช้ถอ้ ยคาถกู ตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคญั การเขียนเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรสู้ ึก และความต้องการของผ้เู ขยี นให้ผู้อ่ืนทราบเป็น ลายลักษณ์อักษร การเขียนจะประสบผลสาเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับความมุ่ง หมายของการเขียน หลักในการเขียน วิธีการเขียน การใช้ภาษาในการเขียนตลอดจนเนื้อหาท่ีเหมาะสมกับ ผอู้ ่านเปน็ สาคญั ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ (K) ๑. รูแ้ ละเข้าใจเก่ียวกับหลกั การเขียนแสดงความคิดเห็น ๒. อธิบายความหมายและประโยชน์ของการเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ได้ ถูกต้อง ๓.๒ งานทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถเขยี นแสดงความคดิ เห็นไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการเขยี น ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) มมี ารยาทในการเขยี น

๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. ความหมายของการเขียนแสดงความคดิ เห็น ๒. หลกั การเขยี นแสดงความคิดเหน็ ๔.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process) เขียนแสดงความคดิ เห็น ๔.๓ ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ  มีวินัย  ใฝเ่ รยี นรู้  อยอู่ ย่างพอเพียง  มงุ่ มนั่ ในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มจี ิตสาธารณะ ๔.๔ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๔.๕ ด้านคุณลกั ษณะของผู้เรียนตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล  เป็นเลศิ วิชาการ  ส่อื สารสองภาษา  ล้าหนา้ ทางความคิด  ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์  รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก ๔.๖ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๑. หลักความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลักความมเี หตผุ ล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลกั ภูมิคุ้มกัน : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เง่ือนไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงื่อนไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแต่ละดา้ นไม่จาเป็นต้องมคี รบทกุ ข้อในทุกแผนการจัดการเรียนร)ู้ ๕. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๖.๑ กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบปกติ (ชว่ั โมงที่ ๑)

ขั้นนา นักเรยี นและครูรว่ มกันสนทนาเร่ือง การเขยี นแสดงความคดิ เห็น ขั้นสอน ๑. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้เรื่อง การเขียนแสดงความคดิ เห็น จากใบความร้แู ละสอ่ื ประกอบการสอน ๒. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ๖ กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั ๓. นกั เรยี นทากจิ กรรม “คิดอย่างไรให้บอกมา” โดยใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ดูวีดีโอเรื่อง “Thank you for sharing” แล้วเขยี นแสดงความคดิ โดยใช้เหตุผลหรือข้อสนับสนุนประกอบลงในกระดาษที่ครูแจกให้ ๔. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี น ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้ และช่วยกันตัดสินว่าความคิดเห็นของกลุ่มใดมีน้าหนักและ นา่ เชื่อถือมากท่ีสุด ๖.๒ กระบวนการจัดการเรียนรแู้ บบออนไลน์ (ช่วั โมงที่ ๑) ๑. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็น จากใบความรู้และสื่อประกอบการสอน ผา่ นช่องทาง line meeting ๒. นักเรียนร่วมกันดูวิดิทัศน์เร่ือง “Thank you for sharing” แล้วเขียนแสดงความคิดโดยใช้เหตุผล หรอื ข้อสนับสนนุ ประกอบลงในสมดุ ของตนเอง ๓. สมุ่ นกั เรียนออกมานาเสนอผลงานของตนเองผ่านช่องทาง line meeting ๔. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ท่ีได้ และช่วยกันตัดสินว่าความคิดเห็นของใครมีน้าหนักและ น่าเชือ่ ถอื มากทส่ี ุด ๖.๓ กระบวนการจัดการเรียนรูแ้ บบปกติ (ชวั่ โมงที่ ๒) ขั้นนา นักเรยี นและครูร่วมกนั ทบทวนเร่อื ง การเขยี นแสดงความคิดเหน็ ทเ่ี รียนไปในชวั่ โมงท่แี ลว้ ข้นั สอน ๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับหนังสือนอกเวลาที่ได้อ่านจบแล้ว โดยให้แสดงความ คิดเหน็ ว่า หนังสือมีขอ้ ดี ขอ้ เสยี อย่างไร นกั เรยี นชอบหรอื ไม่ชอบหนงั สือเลม่ น้ี ๒. นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นลงในใบงาน เร่ือง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนังสือนอก เวลา ๓. ครสู ุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น ข้นั สรุป นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ท่ไี ด้

๖.๔ กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ บบออนไลน์ (ชว่ั โมงท่ี ๒) ๑. นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง การแสดงความคิดเห็นท่ีได้เรียนไปในชั่วโมงท่ีแล้ว ผ่าน line meeting ๒. นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นลงในใบงาน เร่ือง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนังสือนอก เวลา ๓. ครสู มุ่ นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนผา่ น line meeting ๗. สอื่ /วสั ดอุ ุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้ ๑. สือ่ ประกอบการสอนเรอื่ ง การเขียนแสดงความคดิ เห็น ๒. ใบความรู้ เรือ่ ง การเขียนแสดงความคิดเหน็ ๓. หนังสืออ่านนอกเวลา ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ๔. วดิ ทิ ศั นเ์ รอ่ื ง “Thank you for sharing” ๘. การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ ๘.๑ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๘.๑.๑ ดา้ นความรู้ เกณฑ์การพิจารณาโดยใชเ้ คร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล มดี งั น้ี คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา ๙-๑๐/ดีมาก นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรุง นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินผล ๘.๑.๒ ด้านทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใช้เคร่ืองมือวดั และประเมินผล มดี ังน้ี คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๙-๑๐/ดีมาก นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรงุ นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินผล

๘.๑.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะ เกณฑ์การพิจารณาโดยใช้เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล มดี งั น้ี คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรุง นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๘.๒ การประเมนิ ผล ผลการเรียนรู้/ คะแนน วธิ ีวดั ผล-ประเมนิ ผล เครื่องมอื วัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. รู้และเข้าใจเก่ียวกับ ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น แ สดง ความคิดเห็น ๒. อธิบายความหมาย และประโยชน์ของการ เขียนแสดงความคิดเห็น ตรวจใบงาน แบบประเมินผลงาน อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ไ ด้ นักเรยี น ถกู ตอ้ ง ๓. นักเรียนสามา รถ เขียนแสดงความคิดเห็น ได้ถูกต้องตามหลักการ เขยี น ๔. มมี ารยาทในการ สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม เขยี น รวม ๑๐ เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ที่มอบหมาย ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางสาวธีรพร บุตราช แลว้ มคี วามเห็นดงั นี้ ๑. เป็นแผนจดั การเรียนรทู้ ่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นาเอากระบวนการเรยี นรู้  ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการสอนไดเ้ หมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคญั ควรพัฒนาปรบั ปรุง ๓. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศ์พุทธา) รองผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารวชิ าการ

รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๒ บันทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ รายวชิ าภาษาไทย ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. ปญั หา/อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................... ............................................... .................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ............................................ผูส้ อน (นางสาวธรี พร บตุ ราช) ครู

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โรงเรียนมัธยมวดั หนองแขม ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ พนิ จิ พจิ ารณ์ เร่อื ง การพูดแสดงความคิดเหน็ เชิงสร้างสรรค์ เวลา ๒ ชัว่ โมง ผูส้ อน นางสาวธีรพร บุตราช *********************************************************************************************** ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกใน โอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวช้วี ดั ม.๑/๓ พดู แสดงความคดิ เห็นอย่างสรา้ งสรรค์เก่ียวกบั เรื่องที่ฟงั และดู ม.๑/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู ๒. สาระสาคญั การพูดแสดงความคิดเห็น หมายถึง การพูดเพื่อแสดงความรู้สึก หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ือง ใด เรื่องหนึ่งอย่างมีเหตุผล มีความสอดคล้องกับเรื่องท่ีพูด ในการพูดแสดงความคิดเห็น ผู้พูดอาจแสดงความ คิดเห็นที่เก่ียวกับเร่ืองทางวิชาการ เศรษฐกิจหรือสังคมก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโอกาสในการพูด เช่น การให้ สมั ภาษณ์ การประชมุ การสมั มนา การอภปิ ราย การบรรยาย ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ (K) ๑. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายการพูดแสดงความคดิ เห็นได้ ๒. นกั เรยี นสามารถอธิบายหลกั การพูดแสดงความคิดเห็นได้ ๓.๒ งานทกั ษะ/กระบวนการ (P) นกั เรยี นสามารถพูดแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อทไ่ี ดร้ ับได้ถูกต้องตามหลักเกณฑท์ างภาษา ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มีความมุ่งมนั่ ในการทางาน ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge) ๑. ความหมายการพูดแสดงความคดิ เห็น

๒. หลกั การพูดแสดงความคดิ เห็น ๔.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process) พดู แสดงความคิดเหน็ จากสื่อ ๔.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)  รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต  มีวินยั  ใฝ่เรยี นรู้  อยอู่ ย่างพอเพยี ง  มุ่งม่นั ในการทางาน  รกั ความเปน็ ไทย  มจี ิตสาธารณะ ๔.๔ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๔.๕ ดา้ นคุณลกั ษณะของผเู้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล  เปน็ เลศิ วิชาการ  สื่อสารสองภาษา  ล้าหนา้ ทางความคิด  ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์  รว่ มกนั รบั ผิดชอบตอ่ สงั คมโลก ๔.๖ บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑. หลักความพอประมาณ: ……………………………………………………………………………................ ๒. หลักความมเี หตผุ ล : ………………………………………………………………………………….......... ๓. หลักภมู ิคมุ้ กนั : ………………………………………………………………………………….......... ๔. เงอ่ื นไขความรู้ : ………………………………………………………………………………….......... ๕. เงอื่ นไขคุณธรรม : ………………………………………………………………………………….......... (หมายเหตุ ในแต่ละดา้ นไม่จาเปน็ ต้องมคี รบทกุ ข้อในทุกแผนการจดั การเรยี นร)ู้ ๕. ชนิ้ งาน/ภาระงาน นกั เรียนศกึ ษาขอ้ มลู เกี่ยวกบั การพูดลักษณะตา่ ง ๆ ๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๖.๑ กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบปกติ (ชวั่ โมงท่ี ๑)

ข้นั นา ครูเล่านิทานเร่ือง กบหูหนวก จากน้ันครูสุ่มถามนักเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาและข้อคิดท่ีได้จากการชมวิดิ ทัศน์ และสอบถามนักเรียนว่า วิดิทัศน์ท่ีชมไปดีหรือไม่ดีอย่างไรบ้าง จากน้ันครูเช่ือมโยงเข้าสู่เรื่อง การพูด แสดงความคิดเหน็ ขั้นสอน ๑. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง การพูดแสดงความคดิ เหน็ ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ ๒. นักเรียนศึกษาใบงานนิทานชาดก เรื่อง กกัณฏกชาดก ว่าด้วยกิ้งก่าได้ทรัพย์ โดยมีการสนทนา แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ จากเนอื้ หาของนทิ านในเชิงสรา้ งสรรค์ ๓. ครูให้นักเรียนทุกคนเขียนแสดงความคิดเห็นจากการอ่านนิทานชาดกเร่ือง กกัณฏกชาดก ว่าด้วย กงิ้ ก่าไดท้ รัพย์ ลงในใบงานเร่อื ง การพดู แสดงความคิดเหน็ ๔. ครูสุ่มนักเรียน ๑ - ๒ คนออกมาพูดแสดงความคิดเห็นจากนิทานชาดกเรื่อง กกัณฏกชาดก ท่ีได้ดู หน้าชั้นเรียน เพ่ือเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนได้เห็นหลักและวิธีการพูดแสดงความคิดเห็น โดยครูเป็น ผู้ให้ข้อเสนอแนะในสิง่ ทีถ่ กู ตอ้ ง ข้ันสรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ เร่ือง การพูดแสดงความคิดเห็น และนัดหมายนักเรียนท่ีเหลือพูด แสดงความคิดเห็นในชั่วโมงถัดไป ๖.๒ กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบออนไลน์ (ชั่วโมงท่ี ๑) ๑. นักเรียนศึกษาเรื่อง การพูดแสดงความคิดเห็น จากการสอนสด (live) ของครูผ่านช่องทาง line meeting ๒. นักเรียนศึกษาใบความรู้เร่ือง การพูดความคิดเห็น จาก google classroom แล้วซักถามอภิปราย ร่วมกัน ๓. นกั เรียนทาใบงานเรอื่ ง การพดู แสดงความคิดเห็น แลว้ เฉลยรว่ มกัน ๖.๓ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ (ช่วั โมงท่ี ๒) ขั้นนา นกั เรยี นทบทวนความรเู้ กยี่ วกับการพดู แสดงความคิดเห็น ขนั้ สอน นักเรียนพูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเรือ่ งหรือประเดน็ ทต่ี นเองสนใจ ข้ันสรปุ ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้ เรอ่ื ง การพูดแสดงความคดิ เห็น ๖.๔ กระบวนการจดั การเรียนร้แู บบออนไลน์ (ชัว่ โมงที่ ๒)

นักเรียนอัดคลิปวิดิโอการพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองสนใจ แล้วอัปโหลดผลงานส่งใน กลุม่ line หอ้ งของตนเอง โดยครจู ะตง้ั ชอ่ื อลั บั้มไว้วา่ “การพูดแสดงความคดิ เห็น” ๗. สือ่ /วสั ดุอปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ ๑. นิทาน เร่อื ง กบหหู นวก ๒. นทิ านชาดก เรื่อง กกัณฏกชาดก วา่ ดว้ ยกง้ิ ก่าไดท้ รัพย์ ๓. ใบความรู้ เร่อื ง การพูดแสดงความคดิ เห็น ๔. ใบงาน เร่อื ง การพดู แสดงความคิดเหน็ ๕. สื่อประกอบการสอน เรอื่ ง การพูดแสดงความคิดเหน็ ๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๘.๑ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๘.๑.๑ ดา้ นความรู้ เกณฑ์การพจิ ารณาโดยใช้เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล มดี งั นี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรับปรุง นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๘.๑.๒ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เกณฑ์การพิจารณาโดยใช้เครื่องมือวัดและประเมินผล มดี งั นี้ คะแนน/คุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรงุ นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ผล ๘.๑.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะ เกณฑก์ ารพจิ ารณาโดยใช้เคร่ืองมือวัดและประเมินผล มดี งั นี้ คะแนน/คณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๙-๑๐/ดมี าก นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินมากกวา่ ร้อยละ ๙๐ ๗-๘/ดี นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๗๐-๘๐ ๕-๖/พอใช้ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินมากกว่าร้อยละ ๕๐-๖๐ ๑-๔/ปรบั ปรงุ นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผล

๘.๒ การประเมินผล ผลการเรียนร้/ู คะแนน วิธวี ัดผล-ประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตรวจใบงาน สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ ผลงาน ๑. อธิบายความหมาย นกั เรยี น ก า ร พู ด แ ส ด ง ค ว า ม แบบสงั เกตพฤติกรรม คดิ เห็น ๒. อธิบายหลักการพูด แสดงความคิดเหน็ ๓. พดู แสดงความคดิ เห็น ได้ถูกต้องตามหลักการ เกณฑท์ างภาษา ๔. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ๕. มีความมุ่งมั่นในการ ทางาน รวม ๑๐ เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๔ ๙-๑๐ ๗-๘ ๕-๖

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรอื ที่มอบหมาย ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวธีรพร บตุ ราช แล้วมีความเห็นดงั น้ี ๑. เป็นแผนจดั การเรียนร้ทู ่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นาเอากระบวนการเรียนรู้  ทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ในการสอนได้เหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรพัฒนาปรับปรงุ ๓. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้  นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ๔. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ............................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวนภาพร วงศพ์ ุทธา) รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

รหสั วชิ า ท ๒๑๑๐๒ บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวชิ าภาษาไทย ๑. ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................ ...................................... ๒. ปัญหา/อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๓. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ............................................ผสู้ อน (นางสาวธรี พร บุตราช) ครู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook