Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ilovepdf_merged ดิน

ilovepdf_merged ดิน

Published by mans251472, 2021-04-29 01:08:49

Description: ilovepdf_merged ดิน

Search

Read the Text Version

แนวพระราชดําริด้าน การพัฒนาดิน การสร้างดินใหม้ ชี ีวิต     \"ดิน” เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสําคัญต่อความคงอยู่ของ ส่ิงมีชีวิตทุกชนิด และยังเป็นปัจจัยการผลิตที่สําคัญเคียงคู่กับ \"น้ํา” ในการทํา เกษตรกรรม เพราะต่อให้มนี ้ําอุดมสมบูรณ์ดเี พยี งใด แต่ถ้าสภาพดินไม่ดี ปราศจาก ธาตุอาหารท่ีจําเป็นต่อการเติบโตของพืช ก็ยากต่อการปลูกพืชพรรณชนิดใดให้ เติบโตแข็งแรงดอกดอกออกผลตามที่ต้องการได้ การอนุรักษ์ทรัพยากรดินจึงมี ความจําเป็นต่อความเป็นอยู่และความม่ันคงของประเทศชาติ ด้วยเหตุน้ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงให้ความสําคัญกับดินทั้ง การปรับปรุงบํารุงดินและการจัดสรรท่ีดิน ซึ่งเป็นหัวใจสําคัญของประเทศที่ทํา การเกษตรเป็นหลักอย่างประเทศไทย จึงนํามาสู่แนวพระราชดําริในการแก้ไข ปญั หาดินซง่ึ เปน็ ทรัพยากรธรรมชาติที่สําคญั ยง่ิ

  25 การพัฒนาดนิ : การสร้างดนิ ใหม้ ชี ีวติ ครั้ง โดยแนวพระราชดําริในด้านการอนุรักษ์และ ฟืน้ ฟูดนิ ทสี่ ําคญั แบ่งเปน็ 4 ส่วน คือ พระราชกรณียกิจเก่ียวกับการพัฒนาที่ดิน ของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรามหภูมิพลอดุลย 1. การสร้างแบบจําลองการพัฒนาพื้นที่ที่ เดชนั้น ทรงปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นที่ มสี ภาพขาดความสมบูรณ์ ดินปนทราย และปัญหา ประจักษ์และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้ง การชะล้างพังทลาย โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ในประเทศและต่างประเทศ ทางองค์การอาหาร ฯ ให้จัดต้ังศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจาก แ ล ะ เ ก ษ ต ร แ ห่ ง ส ห ป ร ะ ช า ช า ติ ( FAO) จึ ง พ ร ะ ร า ช ดํ า ริ 6 แ ห่ ง ท่ั ว ป ร ะ เ ท ศ ร ว ม ทั้ ง เทิดพระเกียรติพระองค์ท่านโดยกําหนดให้วันที่ 5 พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ธันวาคมของทุกปี ซ่ึงตรงกับวันคล้ายวันพระราช เพื่อเป็นแหล่งศึกษาวิจัยการแก้ไขปัญหาและ สมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น \"วัน พัฒนาพ้ืนท่ีท่ีมีสภาพปัญหาต่างกันตามภูมิสังคม ดินโลก\" (World Soil Day) ยิ่งกว่านั้น ยังประกาศ ตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาดูงานและนําความรู้ไป ให้ ปี 2558 เปน็ \"ปดี นิ สากล\" หรือ International ปรบั ใช้ตามสภาพปญั หาของพืน้ ที่ Year of Soils นับได้ว่าพระเกียรติยศที่นานาชาติ ให้การแซ่ซ้องสรรเสริญนี้ล้วนมาจากพระจริยวัตร 2. การแก้ปัญหาดินเปร้ียวโดยทฤษฎี ด้านการพัฒนาซึ่งออกมาจากความหมายของพระ แกล้งดิน เริ่มจากวิธีการแกล้งดินให้เปรี้ยว ด้วย นาม “ภูมิพลอดุลยเดช” ที่สมเด็จย่าเคยมีรบั สั่งกับ การทําให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไปเพ่ือเร่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ว่า “อันท่ีจริงเธอ ปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพ กช็ อื่ ภูมพิ ล ที่แปลวา่ กําลงั ของแผ่นดนิ ” โดยแท้ ไรต์ทําปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วปลดปล่อยกรด กํามะถันออกมา ทําให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงข้ัน ก า ร อ นุ รั ก ษ์ แ ล ะ ฟื้ น ฟู ดิ น ที่ มี ส ภ า พ \"แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด” จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่ ธรรมชาติ และปัญหาท่ีแตกต่างกันไปในแต่ละ สามารถเจริญงอกงามได้ จากน้ันจึงหาวิธีการ ภูมิภาค จึงทําให้การแก้ไขปัญหาดินในแต่ละพื้นที่ ปรับปรงุ ดนิ ดงั กล่าวให้สามารถปลูกพืชได้ มีความเฉพาะเจาะจงมากข้ึน เช่น การศึกษาวิจัย เพื่อแก้ไขปัญหาดินเค็ม ดินเปร้ียว ดินทราย ใน 3. การอนุรักษ์ดินโดยหญ้าแฝก ซ่ึงเป็น ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัญหาดิน วัชพืชที่มีคุณสมบัติพิเศษไม่ว่าจะเป็นการช่วย พรุในภาคใต้ และท่ีดินชายฝั่งทะเล รวมถึงการ ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ช่วยเก็บ แก้ไขปรับปรุงและฟ้ืนฟูดินที่เส่ือมโทรมพังทลาย กักรักษาความชุ่มชื้นใต้ดินไว้ นอกจากนี้หญ้าแฝก จากการชะล้างหน้าดิน ตลอดจนการทําแปลง ยังช่วยกรองนําเสียให้กลายเป็นนํ้าใส ท้ังยังใช้เป็น สาธิตการพัฒนาท่ีดินเพ่ือการเกษตรกรรมในพื้นท่ี กําแพงสีเขียวกันไฟป่าลุกลามเพราะแม้ในฤดูแล้ง ท่ีมีปัญหาดินเสื่อมโทรม เพื่อให้พื้นที่ที่มีปัญหา หญา้ แฝกกย็ ังคงเขียวชะอมุ่ ไวไ้ ด้ เรื่องดินกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีก 4. การห่มดิน เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น จุลินทรีย์ทํางานได้ดี อันจะส่งผลให้ดินบริเวณน้ัน ทําการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการ ชะล้างพังทลายของดินและพัฒนาทรัพยากรดินให้ เกดิ แรธ่ าตุ ท้ังนกี้ ารห่มดินมอี ยู่ดว้ ยกันหลายวธิ ีการ เช่น ใช้ฟางและเศษใบไม้มาห่มดินหรือวัสดุอ่ืน ตามที่หาได้ตามสภาพทั่วไปของพ้ืนท่ี การใช้พรม

  26 ใยปาล์มเป็นผ้าห่มดิน นอกจากน้ัน การห่มดินยัง ของผู้อ่านหลายๆท่านอาจเช่ือมโยงไปไกลในพื้นท่ี จะช่วยคลุมหน้าดินปอ้ งกนั วชั พืชได้อกี ดว้ ย หลายรอ้ ยเมตร โดยการทาํ หนา้ ทข่ี องไมซีเลียม จะเห็นได้ว่าแนวพระราชดําริด้านการ ยิง่ มีการศึกษาเรียนรู้เก่ียวกับเครือขา่ ยใต้ ฟ้ืนฟูและพัฒนาดินน้ันสอดคล้องกับหลักการทาง ดินของพืชมากเท่าไหร่ ก็ย่ิงมีการเปลี่ยนแปลง วิทยาศาสตร์ที่ให้ความสําคัญกับสิ่งมีชีวิตใต้ดิน ความเข้าใจในเร่ืองของพืชข้ึนมาเท่าน้นั ต้นไมไ้ ม่ใช่ แค่การเจริญเติบโตเฉพาะจุดใดจุดหน่ึง แต่ภายใต้ พ้ืนดินที่มองไม่เห็นมีการเช่ือมโยงกันโดยเครือข่าย เชื้อรา พวกมันมีการแลกเปลี่ยนสารอาหารและ ข้อมูล หรือการก่อวินาศกรรมโดยการแพร่สารเคมี ท่ีเป็นพิษเข้าสู่เครือข่าย \"Wood wide web\" เปรียบได้กับการก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่งของพืช เชน่ การติดโรค การยืนตน้ ตายของต้นไมบ้ างสายพนั ธุ์ ทางผู้จัดทํา (สํานักส่งเสริมและประสาน ภาพการชอนไชของไมซีเรียมในดิน (Credit: Nigel Cattlin / Alamy) มวลชน) ได้ค้นคว้าเพ่ิมเติมในเร่ืองสิ่งมีชีวิตใต้ดิน พบเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายในงานวิชาการทาง ประมาณร้อยละ 90 ของพันธุ์พืชบนโลก ธรนีวิทยา ได้เผยแพร่การศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ผืนดิน มีความสัมพันธ์แบบพ่ึงพาอาศัยกันกับเช้ือรา ของเรานั้นไว้อย่างน่าสนใจดังน้ี จากการวิจัยเรื่อง (Mutually-beneficial relationships) การค้นพบ ดินในช่วงสองปีมาน้ีพบว่า มีโครงข่ายการขนย้าย ในศตวรรษท่ี 19 โดยนักชีววิทยาชาวเยอรมัน ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเส้นทางนี้อนุญาตให้มีการ Albert Bernard Frank เป็นผู้ตั้งช่ือเรียกพ้ืนที่ สื่อสารและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โครงข่ายน้ีถูก บริเวณของโพรงเช้ือราที่ฝังรากลงดินเป็นตัวเชื่อม สร้างขน้ึ โดย “รา” (Fungi) ระหว่างรากของต้นไม้กับดินว่า ไมคอร์ไรซ่า (Mycorrhiza) การเช่ือมโยงข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่าย ขนาดใหญ่นี้ มีความหลากหลายของประชากรที่มี ในบริเวณท่ีช่ือว่าไมคอร์ไรซ่า พืชได้ผลิต ลักษะพิเศษ มีการส่ือสารกับกลุ่มที่แตกต่าง ๆ มี อาหารให้กับราในรูปแบบของคาร์โบไฮเดรต ลักษณะเฉพาะที่เอื้อประโยชน์แบบพึ่งพาระหว่าง ขณะเดียวกันราได้ทําหน้าที่ในการดูดน้ําและ ส่งิ มชี วี ติ ดว้ ยกนั ขณะเดียวกันกม็ กี ารส่ือสารในทาง สารอาหารได้แกฟ่ อสฟอรัสและไนโตรเจนให้กบั พืช ลับท่ีก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิตอ่ืน ๆ ผ่านไมซีเลีย (ไมซีเลียต้ังแต่หนึ่งเส้นใยข้ึนไปจะ ลักษณะความสัมพันธ์ท่ีเหมือนกับอินเทอร์เน็ตน้ี มี เรียกว่าไมซีเลียม) การค้นพบเม่ือปี 1960 เป็นท่ี อยู่ในส่ิงมีชีวิตที่เรารู้จักกันว่า “รา” องค์ประกอบ แน่ชัดแล้วว่า บริเวณส่วนของไมคอร์ไรซ่ามีส่วนช่วย ของสิ่งมีชีวิตชนิดน้ี ประกอบขึ้นมาจากเส้นใยบาง ใหต้ ้นไมแ้ ตล่ ะชนิดเจรญิ เติบโต ๆ รู้จักในชื่อไมซีเลียม (Mycelium) เส้นใยเหล่าน้ี ทําหน้าท่ีเหมือนกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ตใต้ดิน เครือข่ายของเห็ดราช่วยให้เกิดการสร้าง เช่ือมโยงระหว่างรากต้นไม้และพันธุ์พืชตา่ ง ๆ ตาม ระบบภูมิต้านทาน ป้องกันการกลายพันธุ์ของพืช ธรรมชาติเข้าด้วยกัน และไม่แน่ว่าต้นไม้ในสวน เมื่อราได้สร้างอาณานิคมในบรเิ วณส่วนรากของพืช

  27 มันได้สร้างกลไกเพ่ือผลิตสารเคมีที่ใช้ในการ (The Forest Moon) เป็นจุดท่ีสิ่งมชี ีวิตเช่ือมโยงกัน ป้องกันโรคตามธรรมชาติ ระบบภูมิต้านทานท่ี สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะทําการติดต่อส่ือสารกันเพ่ือ ทํ า ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ จัดการทรัพยากรต่าง ๆ ของดวงดาว ผ่านทางเส้น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า ไพรมมิ่ง ใยที่มีลักษณะคล้ายเต้าเสียบและเต้ารับซ่ึงเป็น (Priming) ยิ่งมีการเพิ่มไมซีเลียมลงในระบบ อวัยวะของสิ่งมีชีวิตที่ใช้เช่ือมโยงถ่ายทอดข้อมูลกัน โครงข่ายเท่าไหร่ก็จะย่ิงสร้างภูมิต้านทานท่ีมี ดูเหมือนว่าดาวดวงนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันการ ประสิทธิภาพเพิ่มข้ึนให้กับพืชในการต้านทานโรค ค้นพบที่เกิดข้นึ ในโลกแหง่ น้ี ตามธรรมชาติเท่าน้นั อย่างไรก็ตามการศกึ ษาท่ผี ่านมาอาจจะไม่ ภาพการประมวลผลของตน้ ไมใ้ นภาพยนตร์ฟเรอื่ ง Avatar: (Credit: Photos 12 สามารถอธิบายภาพทั้งหมดเก่ียวกับความสัมพันธ์ / Alamy) ของพืชและราในพ้ืนท่ีไมคอร์ไรซ่าได้ การศึกษาใน ปัจจุบันรู้เพียงว่า ไมคอร์ไรซ่า สามารถเช่ือมต่อไป นักชีววิทยาใช้เวลาหลายสิบปีเพ่ือศึกษา ในพื้นที่กว้างๆ ท่ีแยกเป็นส่วนๆ ได้ ผู้เช่ียวชาญ เรื่องของโครงข่ายเห็ดราและความสามารถของ ด้านเห็ดราโดย Stamets ได้เรียกช่ือโครงข่ายใต้ โครงข่ายของมันว่าสามารถทาํ อะไรได้บ้าง จากการ ดินนี้ว่า “Earth's natural internet\" (รายการ ศึกษาวิจัยของ Simard มหาวิทยาลัย British Ted Talk, 2008) ซ่ึงเขาได้แนวคิดน้ีมาจาก Columbia แห่งเมืองแวนคูเวอร์ ในปี 1997 พบ ก า ร ศึ ก ษ า เ รื่ อ ง ข อ ง เ ห็ ด ร า โ ด ย ก า ร ใ ช้ ก ล้ อ ง หลักฐานสําคัญท่ีแสดงให้เห็นว่าต้นสนดักกลาส Electron Microscope ในช่วงปี 1970 Stamets (Douglas Fir) และต้นเบิชร์กระดาษ (Paper ได้สังเกตเห็น ความคล้ายคลึงกันระหว่างเส้นใย Birch: ไม้พลัดใบชนิดหนึ่งในเมืองหนาวมักขึ้น โครงข่ายไมซีเลียม และ เครือข่ายป้องกันตนเอง หนาแน่นกันเป็นกลุ่มมักเรียกว่า ป่าเบิชร์เมื่อผลัด ของทางอินเตอร์เน็ตของอเมริการในยุคแรก ใบจะเปลี่ยนภูเขาเป็นสีเหลือง) สามารถโอนถ่าย (ARPANET) สาร Carbon ระหวา่ งไมซเี ลียไดแ้ ละจากการศึกษา เพิ่มเติมพบว่ามีการแลกเปล่ยี นไนโตรเจน และสาร ภาพยนตร์ท่ีสร้างโดย James Cameron ฟอสฟอรสั ผ่านชอ่ งทางเดียวกนั เรื่อง Avatar เข้าฉายในปี 2009 ภาพยนตร์เรื่อง นี้มีฉากหน่ึงที่จําลองสถานที่ดวงจันทร์แห่งป่า จากการวิจัยของ Simard ยังเช่ือได้ว่า ต้นไม้ต้นใหญ่จะช่วยเหลือต้นไม้ต้นท่ีเล็กกว่าโดย การเชื่อมโยงผ่านโครงข่ายของเชื้อราใต้ดิน หาก ปราศจากความช่วยเหลือเหล่าน้ี เมล็ดพันธ์ุหลาย เมล็ดจะไม่สามารถรอดชีวิตและเจริญเติบโตได้ จากการศึกษาในปี 1997 พบว่าเมล็ดพันธ์ุท่ีอยู่ ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่จะมีอาหารไม่เพียงพอ ต่อการเจริญเติบโต เมล็ดพันธ์ุดังกล่าวจะได้รับ อาหารโดยตน้ ไม้ใหญท่ ่ีโอบอุ้มมัน (Donor trees) ต้นไม้เหล่านี้ไม่ได้โตแบบตัวใครตัวมัน ซึ่ง ตรงกันข้ามกับทฤษฎีของ Darwin ที่ได้กล่าวถึง

  28 การแย่งชิงกันโดยการปรับตัวให้มีความเหมาะสม ผลปรากฏว่าต้นมะเขือเทศที่มีการเชื่อมโยงของ กับธรรมชาติเพ่ือการมีชีวิตรอด (Simard, 2011) ไมซีเลียในโพรงไมคอร์ไรซ่า มีความเสียหายของใบ ข้อเท็จจริงคือพืชเหล่าน้ีมีการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง น้อยมาก มีระดับการติดเช้ือของใบในระดับตํ่า กนั เพ่อื ชว่ ยใหแ้ ตล่ ะตน้ น้ันมีชวี ิตอยู่ได้ อย่างมนี ยั สาํ คัญ ต้นมะเขือเทศสามารถรับรู้ข้อมูลจากต้นท่ีท่ีอยู่ติดกัน (Credit: Tracy Gunn / ผลการทดลองดังกล่าวผู้ทดลองได้ให้ Alamy) ข้อเสนอแนะว่า ต้นมะเขือเทศมีการดักฟังหรือสืบ ทราบ (Eavesdrop) เพื่อการตอบโต้ป้องกัน และ ยังมีข้อโต้แย้ง ในเร่ืองของประโยชน์ของ เพิ่มระดับการป้องกันการติดโรคจากเช้ือโรคท่ีมี การเคลื่อนย้ายสารอาหารเหล่านี้ถูกนํามาใช้ แนวโน้มก่อโรค (Pathogen) อย่างไร และจริงๆ แล้วจะถูกนํามาใช้ใน สถานการณ์ไหน มีวิธีการส่งสัญญาณอย่างไร นัก ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่าไมคอร์ไรซ่าไม่ ชี ว วิ ท ย า รู้ เ พี ย ง ว่ า มี ก า ร เ ค ลื่ อ น ย้ า ย ธ า ตุ แ ล ะ เพียงแต่เป็นส่วนท่ีใช้สําหรับแลกเปล่ียนอาหาร สารอาหารระหวา่ งตน้ ไม้ เท่านั้นแต่ยังมีส่วนสําคัญท่ีช่วยป้องกันอันตราย จากภยั คุกคามภายนอกอีกดว้ ย ขณะที่ข้อโต้เถียงในเรื่องดังกล่าวเกิดข้ึน นักวิจัยหลายหน่วยงานได้ค้นพบหลักฐานบาง เพลียตัวอ่อนกําลังดูดน้ําเลี้ยงจากต้นถั่วปากอ้า (Credit: Bildagentur-online / ประการทบ่ี ่งชวี้ า่ พชื สามารถสอ่ื สารผา่ น ไมซีเลยี ได้ McPhoto-Weber / Alamy Ren Sen Zeng (2010) ค้นพบว่าเมื่อพืชได้รับเชื้อ ราท่ีเป็นอันตราย พืชจะปล่อยสารเคมีเข้าไปในไมซี และนอกเหนือจากต้นมะเขือเทศ จาก เลยี เพ่ือท่ีจะทาํ การเตือนไปสพู่ ชื อ่ืน ๆ การศกึ ษาของ Johnson และคณะ (2013) พบวา่ ถ่ัวปากอ้า มีการใช้โครงข่ายใต้ดินของราในการ ทีมวิจัยของ Zing ได้ทําการทดลองเพื่อ เตือนภัยท่ีกําลังเข้ามาทําลาย ในท่ีน้ีก็คือเพลี้ยตัว พิสูจน์ขอสงสัยในเร่ืองน้ีด้วยการออกแบบการ ออ่ นทกี่ ําลังหิวกระหาย ทดลองปลูกต้นมะเขือเทศลงในภาชนะหลายใบ ใกล้ๆ กัน ต้นมะเขือเทศกลุ่มหนึ่งมีการก่อรูปแบบ การค้นพบของ Johnson เก่ียวกับต้นถั่ว ไมคอร์ไรซ่าเป็นรังใต้ดินที่มีการเช่ือมโยงกันของ ปากอ้า (Broad bean) ท่ีไม่ถูกกัดกินโดยเพล้ียตัว รากตน้ ไม้ ไมซีเลียมของรา อ่อน ส่วนใหญ่จะเป็นต้นถ่ัวท่ีมีการเช่ือมโยงของ ไมซีเรียในโพรงไมคอร์ไรซ่า พบว่ามีการกระตุ้น เมื่อเกิดโครงข่ายเชื้อราใต้ดินแล้ว ผู้ทํา ระบบปอ้ งกันภยั จากเพลี้ยตัวออ่ น ส่วนตน้ ที่ถูกกัดกิน การทดลองได้ฉีดพน่ เชอ่ื Alternaria Salani ลงไป จะเปน็ ตน้ ทไี่ ม่มีการเช่อื มโยงเครอื ข่ายใต้ดนิ ที่ใบของต้นมะเขือเทศต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเชื้อราที่ ก่อให้เกิด “โรคใบไหม้” และผูกถุงไว้แน่นเพ่ือ รูปแบบสัญญาณที่ก่อตัวข้ึน จะส่งถ่าย ป้องกันการส่งถ่ายข้อมูลทางเคมีผ่านอากาศของต้น สัญญาณเคมีจากพืชต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งเพื่อแจ้ง มะเขอื เทศ ก า ร รุ ก ร า น ข อ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ กิ น พื ช เ ป็ น อ า ห า ร (Herbivory) รูปแบบสัญญาณดังกล่าวถูกถ่ายทอด หลังจากผ่านไป 65 ชั่วโมง ทีมทดลองได้ ผ่านโครงข่ายภายในรงั หรือโพรงไมคอร์ไรซา่ พยายามทําให้ต้นมะเขือเทศต้นอื่นติดเชื้อด้วย

  29 โครงข่ายใต้ดินมีความพ้องกันกับรูปแบบ อัลลีโลพาธี (Allelopathy) เป็นปรากฏ อินเตอร์เน็ตของมนุษย์โลกคือ โครงข่ายรามีด้าน การณ์ทางธรรมชาติของต้นไม้ในการปลดปล่อย ท่ี ไ ม่ ดี ห า ก พิ จ า ร ณ า ด้ า น ไ ม่ ดี ข อ ง ร ะ บ บ สารเคมีท่ีเป็นพิษออกมาเพื่อป้องกันตนเอง เช่น อินเตอร์เน็ตทั่วไปคือการไม่มีความเป็นส่วนตัว ต้นไม้จําพวกกระถิน (Acacias) หรือไม้ผลประเภท และการอาชญากรรมต่าง ๆ ในระบบไฟเบอร์ เบอร่ี (Sugarberries) ต้นไม้พวกน้ีจะปล่อยสาร โดยเฉพาะส่ิงท่ีมนุษย์ต้องเผชิญอยู่บ่อยคร้ัง น่ันก็ บางอย่างที่จะช่วยลดการเจริญเติบโตของพืชที่อยู่ คือการแพร่ของไวรัสคอมพิวเตอร์ ระบบ ใกล้ๆ หรอื ลดการเจริญเติบโตของเซลลบ์ รเิ วณส่วน อินเตอร์เน็ตของพืชก็เช่นกัน ต้นไม้ไม่ได้อยู่แค่ต้น รากของพืชต้นอ่ืน เดียว ต้นข้างๆ ก็สามารถทําร้ายต้นท่ีอยู่ใกล้เคียง ไดเ้ หมอื นกนั นักชีววิทยาได้ต้ังข้อสงสัยเก่ียวกับการ ทํางาน สารอลั ลีโลพาธี โดยมีสมมติฐานเบื้องต้นว่า ในบางกรณีพืชบางชนิดขโมยวัตถุดิบและ สารเคมีจากพืชเหล่าน้ีจะถูกดูดซับโดยดินและถูก อาหารจากพืชอีกชนิดโดยการใชโ้ ครงขา่ ยไมซเี ลียม ทําลายลงโดยอนนิ ทรยี ์อ่ืน กอ่ นท่จี ะกระจายไปไกล ด้วยเช่น การดึงเอาโคลโรฟิลล์จากพืชต้นที่ไปใช้ใน กระบวนการสังเคราะห์แสงอย่างเช่น ต้นกล้วยไม้ พืชที่เติบโตและอยู่ในพื้นที่โดยรอบของ “แฟนทอม” จะดึงเอาสารคาร์บอนจากต้นไม้ท่ีตน ต้นไม้ที่ปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษพวกนี้อาจเจอ เกาะอยู่ไปใช้ ผา่ นไมซีเลยี มของราที่เชอื่ มต่อกันกับ ปัญหา จากการเชือ่ มต่อโครงขา่ ยของราใต้ดิน ตน้ ไม้อีกตน้ ในปี 2011 Morris และทมี นักนเิ วศวิทยา กล้วยไม้อื่นบางชนิดอาจดึงสารอาหารที่ ทางเคมีได้มีความพยายามท่ีจะทดสอบทฤษฎีนี้ จะเป็นจากต้นไม้ใหญ่ แต่กล้วยไม้บางชนิดจะ โดยการปลูกต้นดาวเรืองในภาชนะท่ีมีไมคอร์ไรซ่า สามารถรับสารอาหารได้สองทาง (Mixotrophs) โดยในภาชนะดังกล่าวมีกระบอกทรงกรมที่มีตาข่าย มั น ส า ม า ร ถ ดึ ง ส า ร อ า ห า ร ข อ ง พื ช ไ ด้ จ า ก ขนาดที่รากสามารถออกมาได้ และไมซีเลียของรา กระบวนการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) สามารถเขา้ มาได้ โดยครงึ่ หนึ่งของท่อกระบอกทรง และยังสามารถขโมยเอา สารคาร์บอน ไปจากพืช กลมเหล่านี้ ออกแบบมาไม่ให้มีการเจริญเติบโต ตน้ แม่ได้อีกด้วย อยา่ งไรกต็ ามกย็ ังถือว่าเป็นเรื่องท่ี ของโครงขา่ ยราภายในท่อได้ ยอมรับได้ในกระบวนการทางธรรมชาติท่ีส่ิงมีขีวิต ล้วนแล้วแตพ่ ง่ึ พาอาศยั กนั ต้นดาวเรือง (Credit: blickwinkel / Alamy) พืชมีการแข่งขันกันเพ่ือแย่งชิงทรัพยากร ทีมงานได้ทดลองทดสอบดินในท่อท้ังสอง อย่างเช่น นํ้า และแสง เปรียบเป็นส่วนหนึ่งของ ภาชนะท่ีปลูกต้นดาวเรืองไว้ พบว่าดินดังกล่าว สงคราม สารเคมีจากระบบป้องกันของพืชต้นหน่ึง สามารถลดการเจริญเติบโตของพชื และฆ่าพยาธิตัว ก็อาจทําลายอีกต้นหน่งึ เสยี หายได้ กลมได้ ในภาชนะท่ีมีรา ตรวจพบสารพิษใน ระดับสูงกว่าอีกภาชนะท่ีไม่มีราอย่างชัดเจน ซึ่ง ต้นกล้วยไม้แฟนทอม (Cephalanthera austiniae) (Credit: Tom Hilton, CC เป็นข้อแนะนําว่าไมซีเรียสามารถโอนถ่ายสารพิษ ได้อีกด้วย by 2.0)

  30 หลังจากน้ันทีมทดลองได้ทําการทดสอบ พื ช บ า ง ช นิ ด นั้ น ไ ด้ ผ ลิ ต ส า ร เ ค มี ท่ี ส า ม า ร ถ ดึ ง เพิ่มเติมโดยการปลูกต้นกระบองเพชรลงในดินจาก แบคทีเรียท่ีดีและราเข้าสู่รากได้เอง แต่บางคร้ัง ภาชนะท่ีทําการทดลองการหน้าน้ี หลังจากผ่านไป สัญญาณท่ีส่งไปนั้นกลับไปดึง แมลงและตัวหนอน 25 วันพบว่า ต้นกระบองเพชรท่ีปลูกในดินที่มี ทีก่ ําลงั มองหารากออ่ นเป็นอาหาร สารพิษจากต้นดาวเรืองมีการเจริญเติบโตโดยวัด จากนํา้ หนัก น้อยกว่าต้นกระบองเพชรท่ีปลูกในดิน Morris ( 2012) ไ ด้ ใ ห้ ข้ อ เ ส น อ แ น ะ ท่ีไม่มีสารพษิ ถึงร้อย 40 การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า เก่ียวกับการเคลื่อนไหวของสัญญาณทางเคมีผ่าน โครงข่ายของรา สามารถโอนถ่ายสารเคมีในระดับ โครงข่ายรา จะส่งผลต่อการดึงดูดสัตว์ต่าง ๆ มาสู่ เพยี งพอท่จี ะสง่ ผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื บริเวณรากของต้นไม้ แต่ยังไม่มีการทดลองเพื่อ ทดสอบกรอบความคดิ ดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังมีข้อโต้แย้งอีกหลายข้อ จากนักชีววิทยาและนักนิเวศวิทยาว่าการทดลอง จากผลการศึกษามากมายที่ผา่ นมาของนัก ดังกล่าวจะไม่เป็นจริงในธรรมชาติ เพ่ือหาข้อสรุป ชีววิทยาหลายท่าน ได้เร่ิมมีการใช้ศัพท์ท่ีเรียกว่า ในข้อโต้แย้งดังกล่าวนักชีววิทยาจากเยอรมัน “Wood wide web” มาอธิบายโครงข่ายการ Achatz และทีมงานได้มองหาสถานการณ์ท่ี สื่อสารของราใต้ดินท่ีเป็นประโยชน์กับต้นไม้และ ใกล้เคียงกันที่เกิดข้ึนจริงตามธรรมชาติมาอธิบาย สิง่ มีชวี ิตต่าง ๆ ขอ้ โตแ้ ยง้ ดงั กล่าว โครงข่ายของราสามารถส่ือสารระหว่าง ตน้ วอนทั ดาํ (Juglans nigra) (Credit: foto-zone / Alamy) พืชชนิดเดียวกัน จนไปถึงต่างชนิดกัน ได้อย่าง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยปกติมนุษย์มองมัก กรณีตัวอย่างท่ีดีท่ีสุดคือต้นวอนัทดําของ เห็นแค่ภาพบนพื้นดิน แต่การเช่ือมโยงส่วนใหญ่ อเมริกา ต้นไม้ชนดิ น้ีสามารถยับยั้งการเจริญเติบโต ของต้นไม้อยู่ใต้ดิน และไม่ได้เชื่อผ่านทางราก แต่ ของพืชในดิน เช่น มันฝร่ังและแตงกวา โดยปล่อย เชอ่ื มผ่าน ไมซีเลียมของรา สารเคมชี ่อื Jagalone ตัวอย่างอินเตอร์เน็ตแห่งรา เป็นบทเรียน ทีมทําลองของ Achatz ได้ทําการทําลอง ที่สําคัญทาง นิเวศวิทยา ที่แสดงให้เห็นว่าทุกชีวิต โดยการวางกระถางต้นมะเขือเทศไว้รอบ ๆ ต้น ล้วนมคี วามเชื่อมโยงกัน และพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและ วอนัทดํา โดยกระถางเหล่านี้มีช่องให้มีการแทรก กัน การศึกษาในอนาคตของนักนิเวศวิทยาได้ ซึมเชื่อมโยงเครือข่ายใต้ดินกับต้นวอนัทดําได้ จาก เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สักวันหนึ่งอาจจะมีคําตอบ การทดลองพบว่านํ้าหนักโดยเฉล่ียของต้นมะเขือ ในเร่ือง การเช่ือมโยงของสิ่งมีชีวิตระหว่างกัน และ เทศที่อยู่บริเวณรอบต้นวอนัทดํา น้อยกว่าต้น ความเปน็ เอกเทศของส่งิ มีชีวิตทีแ่ ยกตวั ออกมาจาก มะเขือเทศที่ไม่มีการเช่ือมโยงกับเครือข่ายใต้ดิน ระบบนิเวศดั่งเดิม จะสามารถดํารงอยู่ได้หรือไม่ ถึงรอ้ ยละ 36 อย่างไร การศึกษาด้านโครงข่ายใต้ดินของรา แหล่งทมี่ าของขอ้ มูล ครอบคลุมไปถึงการเชื่อมโยงการส่ือสารของสัตว์ท่ี เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากโครงข่ายของรา Flaming N., (Nov 11, 2014) Plant talk to each other using an internet of fungus., BBC-Earth, retrieved from http://www.bbc.com/earth/story/20141111- plants-have-a-hidden-internet Morris, R. J., Gripenberg, S., Lewis, O. T. & Roslin, T., (2014) Antagonistic interaction networks are structured independently of latitude and host guild. Ecol. Lett. 17,


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook