6 บรรณานกุ รม ภาษาไทย TDRI. (2561). การประชุมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง แนวทางการสร้างกำลังคนด้านดิจิทัลของไทย: จาก ปรมิ าณสูค่ ณุ ภาพ. วนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2561 ณ หอ้ งครสิ ตัล บอลรมู โรมแรมฮอลิเดย์ อินน์ สลี ม จิรประภา อัครบวร และประยรู อคั รบวร. (2552). การบริหารงานภาครัฐในรูปแบบเครอื ข่าย (Governing by Network). กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ. น. 85 – 87. วิริยา วิจิตรวาทการ. (2018). Creating Teacher of Tomorrow. Retrieved https:// www.youtube.com/watch?v=6RM3xGo7tUo สถาบันเพ่ิมผลผลิตแห่งชาติ. (2558). PDCA หัวใจสำคัญของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง. Retrieved https:// www.ftpi.or.th/2015/2125 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน). (2561). Thailand Internet User Profile 2018. Retrieved https://www.etda.or.th/app/webroot/content_files/13/files/ Slide_for_Stage%281%29.pdf ภาษาองั กฤษ Churches, A. (2008). Bloom’s Digital Taxonomy. Retrieved http://burtonslifelearning.pbworks.com/f/BloomDigitalTaxonomy2001.pdf DQ Institute. What is DQ?. (Website). Retrieved https://www.dqinstitute.org/what-is-dq/ EY (n.d.). Digital disruption and transformation. Retrieved https://webforms.ey.com/Publication/vwLUAssets/Does_your_business_strategy_ work_in_the_digital_world/$FILE/Does%20your%20business%20strategy%20 work%20in%20the%20digital%20world.pdf Accessed 9 June 2018 Forbes. (2018). EdTech Investments Rise To A Historical $9.5 Billion : What Your Startup Needs to Know. (Website). Retrieved from https://www.forbes.com/sites/robynshulman/2018/01/26/edtech-investments-rise-to- a-historical-9-5-billion-what-your-startup-needs-to-know/#216aec2b3a38 Gartner. (2017). Top Trends in the Gartner Hype Cycle for Emerging Technologies, 2017. (Website). Retrieved https://www.gartner.com/smarterwithgartner/top-trends-in-the- gartner-hype-cycle-for-emerging-technologies-2017/ 42
รายงานการศกึ ษา แนวปฏิบตั ิของการสร้างและสง่ เสริมการรูด้ ิจิทัลสำหรบั คร ู Gartner. (2018). 5 Trends Emerge in the Gartner Hype Cycle for Emerging Technologies, 2018. (Website). Retrieved https://www.gartner.com/smarterwithgartner/5-trends- emerge-in-gartner-hype-cycle-for-emerging-technologies-2018/ HBR. (1995). Disruptive Technologies: Catching the Wave. Retrieved https://hbr.org/1995/01/disruptive-technologies-catching-the-wave Accessed on 9 June 2018 HBR. (2016). Kodak’s Downfall Wasn’t About Technology. (Website) Retrieved https://hbr.org/2016/07/kodaks-downfall-wasnt-about-technology Independent. (2012). The moment it all went wrong for Kodak. (Website). Retrieved https://www.independent.co.uk/news/business/analysis-and-features/the-moment-it- all-went-wrong-for-kodak-6292212.html Koehler, M. (2012). TPACK Explained. (Website) Retrieved http://matt-koehler.com/tpack2/ tpack-explained/ Marc Prensky. (2001). “Digital Natives, Digital Immigrants” (PDF). Marcprensky.com. Retrieved 30 September 2017. McKinsey&Company. (2017). Harnessing automation for a future that works. (Website). Retrieved https://www.mckinsey.com/featured-insights/digital-disruption/harnessing- automation-for-a-future-that-works OECD. (2018). Automation, skills use and training. (Website). Retrieved https://www.oecd- ilibrary.org/employment/automation-skills-use-and-training_2e2f4eea-en Osborne, M. and Frey, C. B. (2013). The Future of Employment: How Susceptible are Jobs to Computerisation. Retrieved https://www.oxfordmartin.ox.ac.uk/downloads/ academic/The_Future_of_Employment.pdf Puentedura, R. (2015). SAMR: A Brief Introduction. (Website). Retrieved http://hippasus.com/ blog/archives/227 UNDG (2011). Results-based Management handbook. Retrieved https://undg.org/wp- content/uploads/2016/10/UNDG-RBM-Handbook-2012.pdf UNESCO. (2011). UNESCO ICT Competency Framework for Teachers. Retrieved http://unesdoc.unesco.org/images/0021/002134/213475e.pdf 43
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ิของการสร้างและสง่ เสรมิ การรู้ดจิ ทิ ลั สำหรบั คร ู 44
รายงานการศกึ ษา แนวปฏิบตั ิของการสรา้ งและสง่ เสรมิ การรู้ดจิ ิทัลสำหรับครู ภาคผนวก 45
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ิของการสร้างและสง่ เสรมิ การรู้ดจิ ทิ ลั สำหรบั คร ู 46
รายงานการศึกษา แนวปฏิบัตขิ องการสร้างและสง่ เสริมการร้ดู ิจทิ ลั สำหรบั คร ู รายงานผลการตดิ ตามการนำความรู้จากการประชมุ เชิงปฏิบัติการ เรอื่ ง แนวปฏิบัตขิ องการสรา้ งและสง่ เสรมิ การร้ดู ิจิทลั สำหรบั ครู 1. ความเปน็ มา เทคโนโลยีดิจิทัลมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก สามารถเช่ือมต่อและเชื่อมโยงอุปกรณ์และข้อมูลมหาศาล ให้สามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งหลากหลายและตรงตามความต้องการมากขนึ้ ตลอดจนรูปแบบที่ใช้งานงา่ ย ทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ใช่เรื่องยากหรือไกลตัวอีกต่อไป หากแต่จะหลอมรวมเข้ากับร่างกายและชีวิตประจำวัน มากขนึ้ อทิ ธพิ ลของเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องครแู ละนกั เรยี น เมอ่ื นกั เรยี นสามารถปรบั ตวั เรียนรู้และสรา้ งความคนุ้ เคยกบั เทคโนโลยีดิจิทัลไดเ้ รว็ กวา่ ครู วิธกี ารเข้าถงึ องค์ความรู้และรูปแบบการเรยี นรขู้ อง นักเรียนเปล่ียนแปลงไป ซ่ึงอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียนได้ หากครูไม่สามารถปรับบทบาท และปรบั วธิ ีการจัดการเรียนการสอนให้สามารถอำนวยการเรยี นรู้ใหเ้ หมาะสมกับนักเรยี นได ้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) อยู่ระหว่างการขับเคล่ือนแผนการศึกษาแห่งชาต ิ พ.ศ. 2560 – 2579 ในประเด็นการจัดการศึกษาเพ่ือรองรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีต่อการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของครู จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวปฏิบัติของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับครู ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน (สพฐ.) ระหว่างวันท่ี 19 – 22 มีนาคม 2561 ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือ จากหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต 1 และสำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 เปน็ อย่างดียิง่ 2. รายละเอยี ดของการประชุม การประชุมเชิงปฏิบัติการ เร่ือง แนวปฏิบัติของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับครู มีเป้าหมาย 3 ระดับ คือ 1) ครูมีความรู้ ความตระหนัก และทักษะการรู้ดิจิทัลและสามารถนำไปใช้พัฒนากระบวนการ ทำงานได้ 2) ผู้บริหารตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลกับการศึกษา โดยเฉพาะการพัฒนาครูให้ สามารถผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลกับการจัดการเรียนรู้ (Blended Learning) และ 3) หน่วยงานในภูมิภาค มคี วามเขา้ ใจและตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของประเดน็ ดงั กลา่ ว พรอ้ มทงั้ รว่ มขบั เคลอื่ นประเดน็ ตามแผนการศกึ ษา แหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 โดยมกี ารดำเนินการประชมุ ฯ เปน็ ระยะเวลา 4 วนั มีรายละเอยี ด ดงั น ้ี 47
รายงานการศึกษา แนวปฏบิ ัติของการสรา้ งและส่งเสริมการรู้ดจิ ทิ ัลสำหรบั ครู การเสวนา เรอื่ ง เดก็ ไทยกบั ความฉลาดทางดจิ ิทลั การเสวนา เรอื่ ง เดก็ ไทยกบั ความฉลาดทางดิจทิ ลั ไดร้ บั ความอนเุ คราะห์จากผู้รว่ มเสวนา 4 ทา่ น ได้แก่ 1) ดร.ชัยยศ อ่ิมสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา 2) นายพงษ์ชัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 3) ดร.สุวิทย ์ บึงบัว รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาคุณภาพ การศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 4) นายบุญเลิศ อรุณพิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ และดำเนินรายการ โดย นางสาวสมรัชนีกร อ่องเอิบ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและ แผนการศึกษา สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา สรุปสาระสำคญั ได้ ดังน ้ี เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ทำใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ การจดั การเรยี นการสอนของครตู อ้ งปรบั เปลยี่ น ให้ทันยุคดิจทิ ัล โดยจะตอ้ งมีการพฒั นาความคดิ ใหม่ บนฐานความรใู้ หม่ เนน้ การเรียนร้ตู ลอดชวี ติ ท่ีเน้น Active Learning สร้างส่ิงแวดล้อมในการเรียนรู้ผ่านการใช้อุปกรณ์ทั้ง online และ offline ให้กับนักเรียนได้ และสิง่ สำคญั คอื ต้องสรา้ งภมู ิคุม้ กนั ให้กับเด็ก ให้มีความฉลาดทางดจิ ทิ ลั (Digital Intelligence: DQ) ทีร่ ้เู ท่าทนั การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตระหนักถึงความปลอดภัย (Security Awareness) และใช้อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักวางทา่ ทางของตนเองในโลกดจิ ิทลั (Digital footprint) การเสวนา เรอื่ ง จากบางระกำสแู่ ผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 การเสวนา เรอื่ ง จากบางระกำสแู่ ผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 โดย นางรชั น ี พงึ่ พาณชิ ยก์ ลุ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนการศึกษามหภาค กล่าวถึงที่มาและภาพรวมของแผนการศึกษาแห่งชาต ิ พ.ศ. 2560 – 2579 ดร.สายรุ้ง แสงแจ้ง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ รับผิดชอบประเด็นขับเคลื่อน ยุทธศาสตรท์ ี่ 5 การจดั การศกึ ษาเพื่อสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชวี ิตท่เี ปน็ มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม และ ดร.จอมหทยาสนิท พงษเ์ สฐยี ร นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการ รบั ผดิ ชอบประเดน็ การจดั การศกึ ษาเพอื่ รองรบั เศรษฐกจิ และสงั คมดจิ ทิ ลั สาระสำคัญสรปุ ได้ ดงั น ้ี หลังจากท่ีคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 เม่ือวันท่ี 14 มีนาคม 2560 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะผู้มีหน้าที่หลักในการจัดทำและขับเคล่ือนแผน การศึกษาแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการขับเคล่ือนแผนการศึกษาแห่งชาติในรายประเด็น เพื่อเพื่อช้ีแจงและ ทำความเข้าใจแก่ผู้ที่เก่ียวข้องต่อบทบาทในการขับเคล่ือนแผนฯ สู่การปฏิบัติของหน่วยนโยบายและปฏิบัต ิ ในส่วนภูมิภาค ท้ังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เขตพ้ืนท่ีการศึกษาท้ังประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ผู้บริหาร สถานศึกษาและคร ู ตลอดจนประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับบริบทของพ้ืนท่ี ซึ่งโครงการน้ีมุ่งเน้นพื้นท่ีอำเภอ บางระกำท่ีมีประเด็นสิ่งแวดล้อม การประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซ้อน เป็นการเลือกประเด็นสำคัญที่คนในชุมชน จะสามารถเรยี นร้รู ่วมกนั ได้ โดยใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ลั เป็นเครอื่ งมอื ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรทู้ ีเ่ หมาะสม การบรรยาย เร่ือง นานาชีวติ ณ บางระกำ การบรรยาย เรอ่ื ง นานาชวี ติ ณ บางระกำ โดย ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พีระศกั ดิ ์ ฉายประสาท คณบดี คณะเกษตรศาสตร์ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม มหาวทิ ยาลยั นเรศวร สรุปสาระสำคญั ได้ ดังนี้ 48
รายงานการศึกษา แนวปฏิบตั ขิ องการสรา้ งและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับคร ู การวจิ ัยเชงิ พื้นทีด่ า้ นความหลากหลายทางชวี ภาพ จำเปน็ ต้องใชว้ ิธวี ิจยั และเคร่อื งมือทีห่ ลากหลาย โดย สามารถบูรณาการศาสตร์พระราชา เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา อีกทั้งต้องมีความเช่ือมโยง ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม การศึกษา เทคโนโลยีพ้ืนบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีนิเวศน์ (Eco-technology) ตลอดจนมีการใช้เทคโนโลยีแผนท่ี การจัดเก็บข้อมูลและเผยแพร่ ในรปู ของดจิ ทิ ลั ตวั อยา่ งโครงการวจิ ยั อาทิ การอนรุ กั ษแ์ ละขยายพนั ธกุ์ ลว้ ยไมส้ กลุ หวายในเขตภาคเหนอื (ภายใต้ โครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) โดยมี การนำเทคโนโลยี เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาใช้ทำให้ทราบจำนวน ชนิด และระบุ ตำแหน่งท่ีพบกล้วยไม้ดินในพ้ืนที่เขตภาคเหนือไม่น้อยกว่า 20 ชนิด นำมาเป็นข้อมูลในการอนุรักษ์กล้วยไม้ พรอ้ มทงั้ มกี ารจัดทำฐานข้อมลู วธิ กี ารขยายพันธุ์ การปลกู รกั ษา และแผนการพัฒนากล้วยไมด้ ินดว้ ย การบรรยายทางวิชาการ เรื่อง ทิศทางการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลและทักษะการรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) ก้าวสำคญั ของสงั คมดจิ ิทลั การบรรยายทางวิชาการ เร่ืองทิศทางการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลและทักษะการรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) ก้าวสำคญั ของสงั คมดจิ ทิ ลั โดย นายบญุ เลศิ อรณุ พิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่าย ฝา่ ยบรกิ ารความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีเป้าหมายเพื่อให้ครูได้ตระหนัก ถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีที่มีผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน ภัยออนไลน์ และตระหนักเร่ืองลิขสิทธ์ิใน การใชท้ รพั ยากรบนอินเทอร์เนต็ สำหรบั การพฒั นาส่อื การเรยี นรู้ สาระสำคัญสรุปได้ ดังน้ี เม่ือโลกถูก disrupt ด้วยเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกกันว่า Digital disruption ที่ก่อให้เกิด การเปลยี่ นแปลงอยา่ งฉบั พลนั ทหี่ ากไมร่ เู้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นน้ี อาจไดร้ บั ผลกระทบมหาศาล ดงั เชน่ บรษิ ทั กลอ้ งและ ฟิลม์ ถ่ายภาพ Kodak ท่ีตอ้ งปดิ ตัวลง เมือ่ ผ้บู ริโภคใช้กล้องดิจทิ ลั แทนกลอ้ งฟลิ ์ม ในยุคดิจทิ ลั ไดแ้ บง่ คนออกเปน็ 2 กลุ่ม คือ Digital Natives และ Digital Immigrants ที่มีพฤติกรรมเรียนรู้แตกต่างกันโดยส้ินเชิง สำหรับ Digital Natives โทรศัพท์มือถือเป็นอวัยวะ ชีวิตรายล้อมด้วยอุปกรณ์ดิจิทัล ชอบทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน มีความม่ันใจ และคาดหวังสูง ชอบความรวดเร็ว หาความรู้ได้จากทุกท่ี ทุกเวลา ชอบสื่อดิจิทัลและมัลติมีเดีย ชอบเรียนและค้นหาความรู้เมื่อถึงเวลา และชอบสร้างเครือข่าย ซึ่งเป็นคุณสมบัติท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้เป็นอย่างดี ความท้าทายจึงตกมาอยู่ที่ครู ที่เป็น Digital Immigrants ว่าจะสามารถปรับบทบาทของตนเอง ให้สามารถสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนในยุคดิจิทัลได้ อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างในการเป็นพลเมืองโลกดิจิทัล ท่ีสามารถปกปอ้ งตนเองจากภยั ไซเบอร์ได ้ ความฉลาดทางดิจิทัล (Digital Intelligence: DQ) จงึ มีความสำคญั มากในการดำรงชวี ิตในยคุ ดจิ ิทัล การเรียนรู้และคอร์สการเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น Khan Academy Coursera Udemy เปน็ ตน้ ทคี่ รแู ละนกั เรยี น ตลอดจนบคุ คลทว่ั ไปสามารถเขา้ ถงึ องคค์ วามรไู้ ดท้ กุ ที่ ทกุ เวลา ในประเทศไทย มีโครงการระบบสื่อสาระออนไลน์ เพื่อการเรียนรู้ทางไกล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี ที่เป็นส่ือสาระออนไลน์แบบเปิด ท่ีเป็นคลังความรู้และทรัพยากรที่หลากหลายสำหรับการ ผลติ ส่อื การเรียนการสอน ทถ่ี กู ลขิ สทิ ธ์ใิ หค้ รไู ด้นำไปใชป้ ระโยชน์โดยไมล่ ะเมิดลิขสิทธ์ิผอู้ ่นื โดยครจู ะตอ้ งเขา้ ใจถึง สัญญาอนญุ าตแบบต่างๆ ทกี่ ำหนดโดยเจา้ ของลขิ สทิ ธ์ ิ 49
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ขิ องการสรา้ งและส่งเสรมิ การรดู้ ิจทิ ัลสำหรับครู การประชมุ เชิงปฏบิ ตั กิ าร เรือ่ ง ทกั ษะการรดู้ ิจทิ ัล (Digital Literacy) การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ทักษะการรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) โดย ดร.ฐิติมา ธรรมบำรุง นางสาวกรณ์กรว ี ช่างคดิ และนางสาววนัทวริ า ฉันทะจำรัสศลิ ป์ เจา้ หนา้ ทีส่ ารสนเทศ ฝา่ ยบรกิ ารความรู้ทาง วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สาระสำคัญสรุปได้ ดงั น้ี ในห้องท่ี 1 ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ได้เรียนรู้เทคนิคการใช้ประโยชน์โปรแกรม Microsoft Word ที่สามารถจัดการงานได้อย่างเป็นระบบและประหยัดเวลา เช่น การ embedded font ในเอกสาร เพ่ือง่าย ต่อการเปดิ ใชง้ าน และไมม่ กี ารเปลี่ยนแปลงหรอื ตวั หนังสือเพี้ยนไปจากเดมิ เมื่อเปดิ เอกสารจากคอมพวิ เตอร์อืน่ การจดั การสารบัญอัตโนมตั ิสำหรบั การทำผลงาน เปน็ ตน้ ในห้องที่ 2 ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ได้เรียนรู้วิธีการใช้งานคลังทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด https:// oer.learn.in.th การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการ เรื่อง การผลติ สอื่ ดจิ ทิ ัลเพ่อื การเรยี นร ู้ การประชมุ เชิงปฏิบัตกิ าร เรอื่ ง การผลิตส่อื ดจิ ิทลั เพ่อื การเรยี นรู้ โดย ดร.สุวทิ ย์ บงึ บวั รองผอู้ ำนวยการ ศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และคณะครผู ูเ้ ช่ียวชาญในการผลติ สือ่ ดจิ ิทลั สาระสำคัญสรปุ ได้ ดงั น ้ี การประชุมฯ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงที่ 1 จะเป็นการฝึกปฏิบัติการ การตัดต่อส่ือวิดีโอด้วย โทรศัพท์มอื ถือ และ ชว่ งท่ี 2 เปน็ การฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร การผลติ สอ่ื ความเป็นจริงเสรมิ (Augmented Reality: AR) 50
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ขิ องการสร้างและส่งเสรมิ การรู้ดิจทิ ัลสำหรบั ครู 3. ผลการตดิ ตามและประเมนิ ผล การติดตามและประเมินผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ เร่ือง แนวปฎิบัติของการสร้างและส่งเสริมการร ู้ ดิจทิ ัลสำหรบั ครู แบง่ เป็น 3 ระยะ คอื 1) การประเมินหลังเสรจ็ สิ้นการประชมุ 2) การตดิ ตามการใช้ประโยชน์ ด้วยแบบการติดตาม และ 3) การติดตามการใช้ประโยชน์เป็นรายกรณีศึกษา โดยจะเว้นระยะเวลาแต่ละระยะ ประมาณ 1 เดือนคร่งึ 3.1 ผลการประเมนิ หลงั การประชมุ ใชก้ ารประเมนิ 2 วธิ กี าร คือ 1) การประเมนิ การนำเสนอผลงานโดยผู้ทรงคณุ วุฒ ิ จากการนำเสนอผลงานของทั้ง 9 กลุ่ม พบว่า ครูสามารถผลิตส่ือดิจิทัลตามท่ีได้รับการอบรมได ้ แต่ยงั ไม่สามารถผสมผสานเขา้ กบั วธิ ีการจดั การเรียนการสอนได้ ยังติดกรอบของการสอนหนา้ หอ้ งเรยี น มากกว่า วิธีการสอนอ่ืน เช่น การใช้การเล่นเกมผ่านส่ือดิจิทัลประกอบการเรียนการสอน การแข่งแรลลี่โดยใช้สื่อ ที่สรา้ งเป็นตวั บอกคำใบ้/RC เปน็ ตน้ ซึง่ ทำให้การนำไม่นา่ สนใจ ไม่ส่งเสรมิ /กระตนุ้ การเรยี นรู้ ตลอดจนทำให้ครู รู้สึกว่ายากและเป็นภาระ อีกท้ัง ครูยังไม่ได้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าท่ีเกิดจากเทคโนโลยีได้ เช่น ความชดั ของภาพเปน็ ข้อจำกดั ทำให้สอ่ื ท่ผี ลติ ขนึ้ ไมส่ ามารถใช้ได้ เป็นต้น 2) การประเมินตนเอง (ออนไลน์) เรอ่ื งท่ี 1 ลิขสิทธ์ิและการใช้งานสิทธ์ิที่เป็นธรรม ผู้เข้าร่วมประชุมยังขาดความรู้เร่ืองลิขสิทธิ์ และการใช้งานอันมลี ขิ สทิ ธิอ์ ยา่ งเป็นธรรมเพ่ือการเรยี นการสอน เรือ่ งท่ี 2 แหลง่ ทรพั ยากรการศกึ ษาแบบเปดิ (Open-Educational Resource: OER) - ร้อยละ 50 ของผรู้ ว่ มประชมุ รูจ้ ัก OER แต่มีเพียง 2 ใน 3 เทา่ นนั้ ท่ีใช้ OER และ มไี ม่ถงึ 1 ใน 4 ของผรู้ ว่ มประชมุ สรา้ งหรือมสี ว่ นรว่ มในการสรา้ ง OER - จากการประชมุ ฯ พบวา่ ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ มคี วามตอ้ งการส่อื การเรียนการสอนท ี่ เจ้าของผลงานอนญุ าตให้ใช้ แก้ไข ดัดแปลง ทำซำ้ ถึงรอ้ ยละ 78.7 และเห็นว่า รฐั บาลควรสรา้ งแหล่งทรัพยากรการศกึ ษาแบบเปิด ร้อยละ 89.3 - ครมู ีความตอ้ งการส่ือการเรียนการสอนในรูปแบบของวดิ ีโอคลปิ มากที่สดุ ร้อยละ 58 รองลงมาคือ หนงั สือ รอ้ ยละ 21 51
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ัติของการสร้างและส่งเสรมิ การรู้ดิจิทัลสำหรบั คร ู - อุปสรรคที่สำคัญของการผลิตและใช้สื่อการเรียนการสอน (เรียงลำดับตาม ความสำคัญ) คือ 1) ขาดความรู้และความเข้าใจในการผลิต และการใช้ส่ือ เฉพาะเทคโนโลยีท่ีเกี่ยวข้อง 2) ขาดแคลนงบประมาณในการผลิตสื่อฯ 3) ขาดเคร่ืองมือในการผลติ และการใช้สอ่ื ฯ 4) ประเดน็ เกยี่ วกับลขิ สทิ ธิ์ของสื่อ ทใ่ี ชอ้ ยู่ เชน่ ขาดความรเู้ รอื่ งลขิ สทิ ธ์ิ และสอ่ื ทตี่ อ้ งการใชอ้ ยภู่ ายใตก้ ฎหมายลขิ สทิ ธ ิ์ 5) ขาดความร้เู รือ่ งแหล่งทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด 6) ประเภทสอื่ ที่ใช้ และ เผยแพรไ่ มต่ รงกบั ความตอ้ งการ และ 7) ไมม่ เี วลาในการผลิตส่อื เรื่องที่ 3 การจัดทำสอ่ื การเรียนรดู้ ้วยโทรศัพท์มือถือ ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถตัดต่อวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ และสามารถทำสื่อความเป็นจริงเสริม (AR) ได้ แตย่ งั ไมค่ ลอ่ งเทา่ ทคี่ วร ซึ่งแม้วา่ จะมีคมู่ ือประกอบโดยละเอยี ดแลว้ ก็ตาม แต่ยงั ตอ้ งการการอธิบายโดย ละเอียดอย่างช้าๆ อีกทั้ง ยังมีปัญหาเก่ียวกับการนำไปประกอบการสอน โดยยังไม่สามารถผสมผสานสื่อเข้ากับ บทเรียนได้ ในขณะเดยี วกนั ยงั มคี วามเปน็ ห่วงในเรื่องการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสผู่ ู้เรยี นและเพ่อื นร่วมงาน และ ความพร้อมดา้ นโครงสร้างพ้ืนฐานของโรงเรยี นวา่ จะสามารถนำสื่อดจิ ิทัลดงั กล่าวไปใช้ได ้ 3.2 ผลการตดิ ตามการนำไปใช้ประโยชนด์ ว้ ยแบบการตดิ ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้ติดตามการนำไปใช้ประโยชน์ เม่ือวันท่ี 15 มิถุนายน 2561 หรือ ประมาณ 1 เดือนคร่ึงหลังจากการประชมุ ฯ โดยไดร้ ับความอนเุ คราะห์จากเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 1 ในการประสานโรงเรียน และติดตามการนำความรู้จากการประชุมฯ ไปใช้ประโยชน์ตามแบบ การตดิ ตามของสำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา สามารถสรปุ การติดตามได้ ดังน้ี การนำองค์ความรทู้ ่ไี ด้จากการประชมุ ฯ ไปใชป้ ระโยชน ์ ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ได้นำองค์ความรู้จากการประชุมไปใช้ประโยชน์ในด้านการค้นคว้าการใช้สื่อเพ่ิมเติม จากหลากหลายแหล่งร้อยละ 26 รองลงมาคือ ใช้ส่ือจากคลังทรัพยากร OER ร้อยละ 21 และนำเสนอผลงาน รอ้ ยละ 19 อีกทง้ั มกี ารนำไปขยายผลให้กบั คณะครใู นสถานศึกษาด้วย 52
รายงานการศึกษา แนวปฏบิ ัติของการสรา้ งและสง่ เสริมการรูด้ จิ ิทลั สำหรบั คร ู ปัญหาทพี่ บ ผู้เข้าร่วมประชุมสะท้อนปัญหาที่พบจากการนำไปปฏิบัติ อันดับ 1 คือ ความเสถียรของอินเทอร์เน็ต ข้อมูลจากการติดตามพบว่า โรงเรียนกลุ่มเป้าหมายสามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตได้เกือบร้อยละ 100 มีเพียง โรงเรียนบ้านหนองแขมเท่าน้ัน ท่ีกำลังอยู่ระหว่างการเช่ือมต่อ แสดงให้เห็นว่า แม้โรงเรียนจะสามารถเข้าถึง อินเทอร์เน็ตได้แล้ว แต่ยังติดปัญหาเร่ืองคุณภาพและความเสถียรของอินเทอร์เน็ต เป็นอุปสรรคสำคัญของ การเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ปัญหาอันดับที่ 2 คือ ครูมีความกังวลในเรื่องลิขสิทธ์ิ และ อันดับที่ 3 คือ การขาด การฝึกฝน เมื่อกลับไปท่ีโรงเรียน จึงไม่สามารถผลิตส่ือตามที่ได้เรียนรู้มาได้ ก่อให้เกิดความรู้สึกว่า ใช้ไม่คล่อง และเสียเวลามาก นอกจากน้ี ยังพบว่า การขาดเคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่รองรับความทันสมัยของเทคโนโลย ี เป็นปญั หาสำคัญต่อการเปล่ยี นแปลงการจัดการเรียนการสอนท่ผี สมผสานเทคโนโลยี การตอ้ งการความชว่ ยเหลือ จากการติดตามพบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ต้องการให้มีการรวบรวมสื่อดิจิทัลท่ีสามารถนำไปใช้ใน การจัดการสอนไดเ้ ลยรอ้ ยละ 26 รองลงมาคือ ตวั อยา่ งกิจกรรมการจดั การสอนทผี่ สมผสานส่อื ดจิ ทิ ัลรอ้ ยละ 23 และต้องการให้มีการอบรมทักษะดิจิทัลอย่างต่อเน่ือง ร้อยละ 16 โดยจะเห็นได้ว่า ความต้องการให้มี ศึกษานเิ ทศก์ตดิ ตามและให้คำแนะนำเพยี งร้อยละ 5 เท่าน้ัน ซึ่งอาจเปน็ เพราะปัจจุบนั ครูมีพฤติกรรมการเรยี นรู้ ทเี่ ปล่ียนไป สามารถค้นคว้า หาความรู้ผา่ นสอื่ อ่ืน ๆ ได้ โดยไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งรอศกึ ษานิเทศก์เหมอื นในอดีต 53
รายงานการศึกษา แนวปฏบิ ตั ขิ องการสร้างและสง่ เสริมการรดู้ จิ ทิ ลั สำหรบั ครู 3.3 ผลการติดตามการนำไปใชป้ ระโยชน์ (กรณศี กึ ษา) จากขอ้ มลู การตดิ ตามการนำไปใชป้ ระโยชน์ เมอ่ื วนั ท่ี 15 มถิ นุ ายน 2561 ผวู้ จิ ยั ไดค้ ดั เลอื ก 2 โรงเรยี น เพ่ือติดตามการนำองค์ความรู้จากการประชุมฯ ไปใช้ประโยชน์เชิงลึกเป็นรายกรณีศึกษา ได้แก่ โรงเรียน บ้านหนองกลุ า และโรงเรียนบ้านทา่ ไมง้ าม โรงเรยี นบ้านหนองกุลา ข้อมูลท่ัวไป โรงเรียนบ้านหนองกุลา ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เป็น โรงเรียนขนาดกลาง ที่มีนักเรียน 548 คน ครู 29 คน โรงเรียนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในระดับดี และมี คอมพวิ เตอรส์ ำหรับใชใ้ นการเรยี นการสอน 30 เคร่ือง การนำไปใชป้ ระโยชน ์ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกุลา เป็นผ้บู ริหารร่นุ ใหม่ (อายุ 43) ทมี่ ีเข้าใจและเล็งเห็นถงึ ความสำคัญ ของการจัดการศึกษาที่ผสมผสานเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล และส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนมีการนำองค์ความรู้มาใช้ ทั้งในห้องเรียนและการพัฒนาครู โดยจะใส่ใจต่อความเพียงพอในเร่ืองอุปกรณ์ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มี เสถียรภาพสูง ครูท่ีเข้าร่วมการประชุมฯ ได้มีการนำองค์ความรู้ท่ีได้จากการประชุมฯ ไปเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษา เพ่ิมเติมและพัฒนาสื่อการสอนท้ังในรูปแบบ video clip และ AR ในวิชาวิทยาศาสตร์ โดยในการพัฒนา สอ่ื การสอน AR ครูได้เลอื ก application Zappar ที่แมจ้ ะไม่ไดเ้ ป็น application ท่ไี ด้จากการประชมุ ฯ แตจ่ าก การฝกึ ฝนและทดลอง เป็น application ทีเ่ ขา้ ใจง่ายและเหมาะสมกบั การสอนของครู โดยไดม้ กี ารขยายผลไปสู่ ครทู า่ นอน่ื ในหมวดวิชาเดยี วกัน แตค่ นละระดับ ทำใหส้ ามารถแลกเปล่ยี นเรยี นรู้สำหรบั การพฒั นาส่อื ดิจทิ ัล และ เพ่มิ ศกั ยภาพการเรียนรู้แบบบรู ณาการในวชิ าวทิ ยาศาสตรผ์ สมผสานทักษะดจิ ิทัล อกี ท้งั ยงั ไดม้ กี ารนำ Tablet ตามนโยบายแท็บเล็ตเพ่ือการศึกษาเมื่อปี 2554 มาปัดฝุ่น นำกลับมาใช้ใหม่ แม้ว่าเคร่ืองแท็บเล็ตจะตกรุ่นไป มากแล้ว และมีศักยภาพไม่เพียงพอสำหรับการใช้ application ใหม่ๆ แต่ทางโรงเรียนได้นำมาให้นักเรียนได้ใช้ สำหรบั การสืบคน้ ขอ้ มลู และเขา้ ใช้สื่อจากคลังทรพั ยากรการศึกษาแบบเปดิ (OER) 54
รายงานการศกึ ษา แนวปฏิบัตขิ องการสร้างและส่งเสริมการรู้ดจิ ทิ ลั สำหรับครู ครูได้ทำการสะท้อน ผลของการนำส่ือดิจิทัลเข้ามาผสมผสานกับการเรียนการสอนว่า นักเรียนมี ความกระตือรือล้นมาก โดยจะคอยถามครูถึงการอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือมาใช้ในโรงเรียน แต่เนื่องจาก โทรศัพท์มือถือมีราคาสูงและนักเรียนไม่ได้มีทุกคน คุณครูจึงได้กำหนดกติการ่วมกับนักเรียนถึงการนำ โทรศัพท์มือถือมาท่ีโรงเรียนและการใช้งานในห้องเรียน โดยนักเรียนจะต้องนำโทรศัพท์มือถือมาฝากไว้กับคุณครู ในตอนเช้า และเม่อื ถึงช่ัวโมงเรยี น จะเป็นการใช้งานเป็นกล่มุ ขอ้ จำกัด 1) ความเสถียรของอินเทอรเ์ นต็ แม้ว่าโรงเรียนบ้านหนองกุลาจะเป็นโรงเรียนขนาดกลางที่มีความพร้อม แต่ในการผสมผสาน การจัดการเรียนการสอนกบั เทคโนโลยีดิจิทัล ยังมีขอ้ จำกดั ในเรือ่ งความเสถยี รของโครงขา่ ยอินเทอร์เน็ต ปัจจบุ นั โรงเรียนใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตของ UniNet เป็นหลัก และสำรองด้วยโครงข่ายของ TOT ซ่ึงโรงเรียนจะต้อง แบกรับภาระค่าใช้จ่ายอินเทอร์เน็ตจาก TOT โดยสาเหตุสำคัญที่ต้องใช้ 2 โครงข่ายมาจากความไม่เสถียรและ การบริการท่ลี ่าชา้ นอกจากนี้ เน็ตประชารัฐเป็นความหวังหน่ึงของโรงเรียนและชุมชน เนื่องจากอินเทอร์เน็ตม ี ความเสถียรค่อนข้างสูงและมีเจ้าหน้าท่ี IT แก้ปัญหาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด แต่โรงเรียนและชุมชน ไม่ไดเ้ ป็นหน่วยบริการ จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการเน็ตประชารัฐได ้ 2) ความเป็นอิสระ แม้ว่าโรงเรียนจะได้รับอิสระในการจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับโรงเรียน แต ่ ในการใชง้ บประมาณของระบบราชการยงั เปน็ ขอ้ จำกดั ทำใหโ้ รงเรยี นไมส่ ามารถจดั ซอ้ื สอ่ื การเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งอสิ ระ ผู้บริหารและครูสะท้อนว่า หนังสือรุ่นใหม่ของบางสำนักพิมพ์มีเน้ือหาท่ีน้อยเกินไป และบางสำนักพิมพ์ มีการผสมผสานส่ือ AR ไว้ให้ แต่ตามนโยบายระบุการใช้ตำราของสำนักพิมพ์ในแต่ละวิชา หรือตำราเรียนของ โครงการปลูกปัญญาของครูดีมาก แต่ถ้าเข้าร่วมโครงการก็จะต้องใช้ท้ังหลักสูตร เหล่าน้ีล้วนเป็นข้อจำกัดด้าน ความเป็นอิสระของโรงเรียนในการบริหารจัดการ และการจัดการเรียนการสอน ที่เหมาะสมกับบริบทเฉพาะ โรงเรยี น 55
รายงานการศกึ ษา แนวปฏิบัตขิ องการสร้างและสง่ เสริมการรดู้ ิจิทัลสำหรับครู โรงเรียนบ้านทา่ ไม้งาม ขอ้ มูลท่ัวไป โรงเรียนบ้านท่าไม้งาม ตั้งอยู่ที่ หมู่ท่ี 12 บ้านท่าไม้งาม ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัด พษิ ณุโลก เปน็ โรงเรยี นขนาดเล็ก มีนักเรยี น 80 คน และครู 7 คน โรงเรียนสามารถเขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ น็ตได้ในระดับ ดีมาก และมีคอมพิวเตอร์/โน้ตบุค 7 เคร่ือง ให้นักเรียนไว้ใช้เรียน 6 เคร่ืองและโน้ตบุคของครู 1 เคร่ือง การจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นบา้ นทา่ ไมง้ าม จดั การศกึ ษาตง้ั แตร่ ะดบั อนบุ าล – ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ซง่ึ ครแู ตล่ ะคน ทำหน้าที่ประจำในแต่ละชั้น โดยครูประจำชั้นอนุบาล 1 คนจะดูแลเด็กอนุบาล 30 คน ครูระดับประถมศึกษา จะดูแลนักเรยี นเปน็ สดั สว่ น ครู 1 คน ต่อนกั เรยี นประมาณ 8 คน ธุรการโรงเรียน 1 คนจะดูแลเรอ่ื งเอกสารงาน ธุรการต่างๆ ของโรงเรียนบ้านท่าไม้งามและกลุ่มโรงเรียนในพื้นท่ีอีก 2 โรงเรียน ด้วยภาระงานท่ีค่อนข้างมาก ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นจึงช่วยในงานธรุ การต่างๆ ดว้ ย 56
รายงานการศึกษา แนวปฏิบตั ิของการสร้างและส่งเสรมิ การรูด้ ิจทิ ัลสำหรบั ครู การนำไปใช้ประโยชน ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าไม้งาม เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ (อายุ 38 ปี) ที่มีความทุ่มเทและเล็งเห็นถึง ความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลกับการศึกษา ทำให้แม้ว่าโรงเรียนบ้านท่าไม้งามจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กท่ีพ้ืน แผ่นกระดานในอาคารเรียนจะผุผัง ต้องรับบริจาคความช่วยเหลือในเร่ืองโต๊ะเรียนของนักเรียนและห้องน้ำที่ถูก สุขลักษณะ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการโรงเรียนจึงได้มีการทำงานร่วมกับชุมชน แม้โครงข่ายของ UniNet จะไม่เข้ามาถึงพื้นที่ โรงเรียนไม่มีโทรศัพท์พื้นฐาน แต่สามารถทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตดำเนินการวางสาย โครงข่ายอินเทอร์เน็ตมาถึงโรงเรียนได้ และด้วยการเป็นผู้ให้บริการเดียวในพ้ืนที่จึงเป็นข้อดีที่ทำให้อินเทอร์เน็ต ค่อนข้างมีความเสถียรและบรกิ ารในการแกป้ ัญหารวดเรว็ ครูท่ีเข้าร่วมการประชุมฯ ได้นำองค์ความรู้ท่ีได้มาถ่ายทอดต่อให้เพ่ือนครู แต่ยังไม่ได้เร่ิมในการผลิต ส่ือดิจิทัล เนื่องจากแม้จะมีความสนใจเร่ืองดิจิทัลแต่ยังขาดทักษะอยู้ค่อนข้างมาก การถ่ายทอดจึงพอได้แต ่ ไม่สมบูรณ์ และเม่ือประสบปัญหาก็ไม่มีท่ีปรึกษา แต่โรงเรียนบ้านท่าไม้งามมีการนำ DLTV มาใช้ประกอบ การจัดการเรียนการสอน นักเรียนเรียนตามตารางเรียนของ DLTV นอกจากนี้ จากการเห็นความสำคัญของ เทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ผู้บริหารและครูมีการนำ Tablet ท่ีมีอยู่ท้ังหมด 10 เครื่อง แต่ไม่ได้ใช้ มาทดสอบและ เร่ิมให้นักเรียนระดับชั้น ป.4 – ป.6 แทนนักเรียนระดับชั้น ป.1 เนื่องจากเด็กเกินไป ได้ใช้ในการสืบค้นข้อมูล ให้มคี วามคนุ้ ชินกับเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะดจิ ิทัลแก่นักเรยี น อย่างไรกด็ ี ผบู้ ริหารและครไู ดส้ ะท้อนข้อคิดว่า DLTV หรือ สอื่ ดจิ ิทัลอ่นื สามารถนำมาใชก้ ับการศึกษา แต่ทดแทนครูไม่ได้ การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนจึงเป็นการเรียน DLTV ในช่วงเช้าและให้นักเรียนฝึก ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในช่วงบา่ ย ขอ้ จำกัด 1) ดา้ นทกั ษะดิจทิ ัล ครูและนักเรียนขาดทักษะดิจิทัล ทำให้เม่ือผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน ์ ได้ค่อนข้างน้อย มีการถ่ายทอดขยายผลสู่เพ่ือนครูเป็นไปด้วยความลำบาก ทางโรงเรียนต้องการให้มีทีมที่คอย ให้คำแนะนำ/ปรึกษาต่อการผลิตสื่อดิจิทัล หรือนำส่ือดิจิทัลไปใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ การพัฒนาทักษะเป็นไปอย่างต่อเน่ือง อีกทั้ง ทีมให้คำปรึกษานี้ยังจะเป็นพลังเสริมให้กับครู ให้มีความมั่นใจว่า ส่ิงที่ครูถ่ายทอดให้กับนักเรียนนั้นเป็นส่ิงท่ีถูกต้องและเหมาะสมอย่างแท้จริง เพราะดิจิทัลแม้จะมีประโยชน์ มหาศาลก็มภี ยั อนั ตรายเชน่ เดยี วกนั 2) ดา้ นการใช้งบประมาณ การใชง้ บประมาณ/ของบประมาณของโรงเรียนขนาดเล็กจะมขี อ้ จำกัด ซ่งึ ส่ิงทีโ่ รงเรียนตอ้ งการกลบั ไมส่ ามารถจัดซ้อื จดั จา้ งได้ แต่กลบั ได้ของทก่ี ำหนดไว้ โดยไมต่ รงกับความตอ้ งการของโรงเรยี นหรือบริบทในพนื้ ที่ โรงเรียนบ้านท่าไม้งามต้องการใช้ Multi-pointed mouse ซ่ึงผู้บริหารและครูเห็นว่า เหมาะสมกับบริบทของ โรงเรยี น โดยท่ีนกั เรยี นสามารถเรียนร้ดู ว้ ยสอื่ เทคโนโลยี โดยพึง่ พาอนิ เทอรเ์ น็ตและจำนวนคอมพิวเตอร์ หรอื แม้ กระท่ังโทรศพั ท์มือถือให้น้อยทีส่ ุด แตท่ างโรงเรียนไม่สามารถจัดซื้อได้ เนื่องจากตดิ กรอบขอ้ จำกดั ของการจดั ซ้อื จดั จ้างสำหรับโรงเรียนขนาดเลก็ และ Multi-pointed mouse ไม่ไดอ้ ยูใ่ นรายการจัดซอ้ื ของโรงเรียน สพฐ. แลว้ ซ่ึงจะถือว่าทุกโรงเรียนต้องใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีทันสมัยมาก ตามยุค 4.0 เหมือนกันหมดไม่ได้ เพราะยังมี โรงเรียนขนาดเลก็ ท่มี ีบรบิ ทแตกต่างอย่างมากกบั โรงเรียนอนื่ ๆ ที่พรอ้ มกว่าอย่มู าก 57
รายงานการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ิของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดจิ ทิ ัลสำหรับครู บทสรุป การประชุมเชิงปฏบิ ัติการ เรือ่ ง แนวปฏิบตั ขิ องการสร้างและสง่ เสรมิ การรู้ดจิ ทิ ลั สำหรับครู เปน็ ตวั อยา่ ง สำคญั ทแี่ สดงให้เหน็ ว่า ทกั ษะการรดู้ จิ ิทลั ของครสู ามารถพัฒนาได้ บนพ้ืนฐานของการมีระบบนเิ วศนท์ ี่เหมาะสม ตอ่ การพฒั นา อาทิ 1) ความเสถยี รของอนิ เทอรเ์ นต็ ทจ่ี ะสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การใชป้ ระโยชน์ และความถข่ี องการใชง้ าน จะทำให้การพัฒนารวดเร็วและดียิ่งขึ้น ครูและนักเรียนจะเกิดความคุ้นชินต่อการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ก่อให้เกิด การแสวงหาความรู้ท่ีหลากหลายตามความสนใจ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อยอดอย่างไม่ส้ินสุด ดังเช่น โรงเรียนบ้านหนองกุลา ที่ได้มีการบูรณาการการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่หลากหลายบทเรียน ไม่เฉพาะ วิทยาศาสตร์ตามที่ได้รับการฝึกอบรมเท่าน้ัน 2) การออกแบบระบบการให้ความช่วยเหลือ/คำแนะนำในเรื่อง ดิจิทัลโดยเฉพาะ ดังเช่น โรงเรียนบ้านหนองกุลาท่ีเห็นว่า การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเน็ตประชารัฐ จะได ้ เจ้าหน้าที่/ผู้เช่ียวชาญทางด้าน IT คอยดูแลระบบและให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับโรงเรียน บ้านท่าไม้งาม ที่ต้องการทีมม้าเร็วท่ีคอยให้คำปรึกษาหรือติดตามการนำไปใช้อย่างใกล้ชิดเพ่ือการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง 3) ความเป็นอิสระของโรงเรยี นทีส่ ามารถเลอื กตำราแบบเรยี น หรือ สื่อการเรียนท่ีเหมาะสมกับบริบท ของโรงเรยี นไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ โดยไมต่ ดิ กรอบของการใชง้ บประมาณและการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ดงั เชน่ นโยบายการเลอื ก เครือข่ายการให้บริการอินเทอร์เน็ต ท่ีโรงเรียนสามารถเลือกผู้ให้บริการได้เอง หากไม่อยู่ในพ้ืนท่ีให้บริการของ UniNet จึงเป็นประโยชน์และความคล่องตัวอย่างมากต่อโรงเรียนบ้านท่าไม้งาม ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ถูกละเลย อย่างไรก็ดี นโยบายยังมีข้อจำกัดและเป็นดาบสองคมให้กับโรงเรียนบ้านหนองกุลา โรงเรียนขนาดกลางที่มี ความพร้อม ทำให้อยู่ในพื้นท่ีบริการของ UniNet และ TOT แต่อินเทอร์เน็ตขาดความเสถียร การบริการเม่ือ ประสบปญั หาลา่ ชา้ และเพิ่มภาระคา่ ใช้จ่ายใหก้ บั ทางโรงเรยี น แสดงใหเ้ หน็ ว่า ยงั ไมเ่ กิดกลไกตลาดอย่างแทจ้ ริง เมื่อทุกโรงเรียนในพ้นื ที่บรกิ าร UniNet ยังต้องใช้บริการของ UniNet ก่อน 58
รายงานการศึกษา แนวปฏิบัติของการสร้างและสง่ เสริมการรดู้ ิจทิ ลั สำหรับครู คณะผู้ดำเนินการ ทปี่ รึกษา ดร.ชยั พฤกษ์ เสรรี ักษ ์ เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา (มกราคม – กันยายน 2561) ดร.สุภทั ร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศกึ ษา (ตุลาคม 2561 – ปจั จุบนั ) ดร.ชัยยศ อิม่ สุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศกึ ษา (มกราคม – กันยายน 2561) ดร.สมศักด ์ิ ดลประสทิ ธ ์ิ รองเลขาธกิ ารสภาการศึกษา (ตลุ าคม 2561 – ปจั จบุ ัน) นางสาวสมรัชนีกร ออ่ งเอิบ ผอู้ ำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศกึ ษา พิจารณารายงาน ฝา่ ยบริการความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย ี ดร.ฐิติมา ธรรมบำรงุ สำนกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) รองผู้อำนวยการศูนย์พฒั นาคุณภาพการศึกษาดว้ ย ดร.สวุ ิทย์ บึงบัว เทคโนโลยกี ารศกึ ษาทางไกล สำนกั งานคณะกรรมการ การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนการศกึ ษาแห่งชาติ นางรชั น ี พึ่งพาณิชย์กุล ผู้วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เรยี บเรยี ง จัดทำรายงานและบรรณาธกิ าร นางสาวจอมหทยาสนทิ พงษ์เสฐยี ร นกั วิชาการศึกษาชำนาญการ ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศกึ ษา นางสาวสมรชั นีกร อ่องเอบิ นางรชั น ี พึง่ พาณชิ ย์กุล ผอู้ ำนวยการกลมุ่ นโยบายและแผนการศึกษาแหง่ ชาต ิ นางสาวสายรงุ้ แสงแจง้ นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการพเิ ศษ นางสาวชลาลยั ทรัพย์สัมพนั ธ์ นักวิชาการศกึ ษาชำนาญการ นางสาวตวงดาว ศลิ าอาศน ์ นักวชิ าการศกึ ษาชำนาญการ นางสาวจอมหทยาสนิท พงษเ์ สฐียร นกั วิชาการศึกษาชำนาญการ นางสาวพรรณงาม ธีระพงศ์ นกั วิชาการศึกษาชำนาญการ นายวิทยาศาสตร์ ดลประสทิ ธ ์ิ นกั วิชาการศกึ ษาชำนาญการ หน่วยงานรับผดิ ชอบ กลุม่ นโยบายและแผนการศกึ ษาแห่งชาต ิ สำนกั นโยบายและแผนการศกึ ษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 59
Search