Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษีมูลค่าเพิ่มม

ภาษีมูลค่าเพิ่มม

Published by Naruemon _woon, 2022-08-15 09:03:27

Description: ภาษีมูลค่าเพิ่มม

Search

Read the Text Version

ภาษมี ูลค่าเพม่ิ

แบบทดสอบก่อนเรียน คาชี้แจง จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ ง 1.ภำษีมลู คำ่ เพ่ิม หมำยถึงอะไร ก. ภำษที ่ีเก็บจำกกำรขำยสินคำ้ และบริกำรของผผู้ ลิตสินคำ้ ข. เงินตรำหรือทรัพยท์ ่ีประชำชนตอ้ งงนำไปส่งใหก้ บั รัฐหรือสถำบนั ท่ีมีหนำ้ ท่ีเทียบเท่ำกบั รัฐท้งั บุคคลธรรมดำและนิติบคุ คล ค. ภำษีท่ีเกบ็ ขอ้ มูลส่วนท่ีเพ่ิมข้นึ จำกคนทำธุรกิจขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรประเภทต่ำงๆ ง. ถกู ท้งั ขอ้ ก. และ ค. 2.ใบกำกบั ภำษมี ีก่ีประเภท ก. 1 ประเภท ข. 2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 3.กำรยกเวน้ ภำษีมลู คำ่ เพ่มิ ตำมมำตรำใด ก. มำตรำ 80 ข. มำตรำ 81 ค. มำตรำ 85 ง. มำตรำ 86 4.คำขอจดทะเบียนภำษมี ูลคำเพ่มิ ตำมแบบ ภ.พ..01 ใชก้ ี่ฉบบั ก. 5ฉบบั ข. 4ฉบบั ค. 3ฉบบั ง. 1ฉบบั 5.ขอ้ ใดไม่ใช่เอกสำรที่ถือเป็นใบกำกบั ภำษี ก. ใบแจง้ ยอดหน้ี ข.ใบเพิ่มหน้ี ค.ใบลดหน้ี

ง.ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนรำชกำรออกให้ 6.กำรประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หมำยถึงขอ้ ใด ก.กำรจำหน่ำย จ่ำย โอนสินคำ้ ข.กำรกระทำใดๆ อนั อำจหำประโยชน์ ค.กำรนำเงินไปหำประโยชน์โดยกำรฝำกธนำคำร ง.กำรใชบ้ ริกำรเพอ่ื ประกอบกิจกำร 7.วธิ ีกำรคำนวณขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก.ภำษีซ้ือ=ภำษีขำย-ภำษที ี่ตอ้ งชำระ ข.ภำษที ่ีตอ้ งชำระ=ภำษขี ำย-ภำษซี ้ือ ค.ภำษขี ำย=ภำษซี ้ือ-ภำษีท่ีตอ้ งชำระ ง.ภำษที ี่ตอ้ งชำระ=ภำษขี ำย+ภำษีซ้ือ 8.ขอ้ ใดไมใ่ ช่เเบบเเสดงรำยกำรที่ใช้ ก.เเบบ ภ.พ.01 ข.เเบบ ภ.พ.02 ค.เเบบ ภ.พ 03 ง.เเบบ ภ.พ.04 9.ผปู้ ระกอบกำรตอ้ งมีรำยรับไม่เกิน ก่ีบำทต่อปี ก.3.8 ลำ้ นบำทตอ่ ปี ข.5.8 ลำ้ นบำทต่อปี ค.2.8 ลำ้ นบำทตอ่ ปี ง.1.8 ลำ้ นบำทตอ่ ปี 10.VAT ยอ่ มำจำกอะไร ก.Valoe Adred Tax ข.Value Added Tax ค.Velue Added Tex ง.Valtue Adided Tax

ภาษมี ูลค่าเพม่ิ 1. ความหมายของภาษีมูลค่าเพมิ่ ภำษีมูลค่ำเพ่ิม (Value Added Tax หรือใช้ตวั ย่อว่ำ VAT) คือภำษีท่ีรัฐบำลเรียกเก็บจำก มูลค่ำส่วนท่ีเพิ่มข้ึนในแต่ละข้นั ตอนกำรผลิตสินคำ้ หรือบริกำร และกำรจำหน่ำยสินคำ้ หรือบริกำร ชนิดต่ำง ๆ โดยผูป้ ระกอบกำรเป็ นผูม้ ีหน้ำท่ีเก็บจำกลูกคำ้ แลว้ นำภำษีมูลค่ำเพิ่มไปชำระให้แก่ รัฐบำล ผกำพรรณ พรหมสำขำ ณ สกลนคร ให้ควำมหมำยภำษีมูลค่ำเพิ่มว่ำภำษีมลู ค่ำเพิ่ม หมำยถึง ภำษีท่ีเกบ็ จำกกำรขำยสินคำ้ และบริกำรของผผู้ ลิตสินคำ้ หรือผบู้ ริกำร ผนู้ ำเขำ้ โดยจดั เกบ็ เฉพำะมูล ค่ำท่ีเพิ่มข้ึน กำรจดั เก็บภำษีมูลค่ำเพิ่มมีขอบเขตกวำ้ งขวำง และครอบคลุมทุกข้นั ตอนในกำรผลิต กำรจำหน่ำยและให้บริกำร เบญจมำศ อภิสิทธ์ิภิญโญ และคณะ กล่ำวถึงภำษีมูลค่ำเพิ่มว่ำ ภำษีมูลค่ำเพิ่ม เป็นกำรเก็บภำษีจำกกำรขำยสินคำ้ หรือกำรให้บริกำรในแต่ละข้นั ตอน กำรผลิตและ จำหน่ำยสินคำ้ หรือบริกำรเหล่ำน้นั ท้งั ที่ผลิตภำยในประเทศและนำเขำ้ จำกต่ำงประเทศ โดยส่วนท่ี เก็บเพม่ิ น้นั เรียกวำ่ “มูลค่ำเพิ่ม” ภำษมี ลู คำ่ เพ่ิมจึงเป็นภำษที ่ีผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียนภำษีมลู ค่ำเพ่ิม จะทำกำรเรียกเก็บจำกผูซ้ ้ือสินคำ้ หรือรับบริกำรต่ำง ๆ ท่ีเป็ นคนสุดทำ้ ย รวมถึงกำรเก็บภำษีทุก ข้นั ตอนของกำรผลิตหรือกำรขำยสินคำ้ หรือกำรใหบ้ ริกำร จำกน้นั ผปู้ ระกอบกำรจะนำภำษที ่ีเก็บได้ ส่งใหก้ บั สรรพำกรทุกเดือน ภำษีมูลค่ำเพิ่ม (องั กฤษ: Value Added Tax หรือ VAT) หรือที่เรียกกนั ทวั่ ไปว่ำ แวต เป็ น ภำษีทำงออ้ มประเภทหน่ึงที่เรียกเก็บจำกบุคคลท่ีซ้ือสินคำ้ หรือรับบริกำร โดยจดั เก็บเฉพำะจำก มูลค่ำส่วนที่เพิ่มข้ึนในแต่ละข้นั ผลิต กำรจำหน่ำยหรือกำรให้บริกำร ตวั อย่ำงเช่น สมมติว่ำอตั รำ ภำษีมูลค่ำเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ซ้ือวตั ถุดิบ วสั ดุอุปกรณ์มำ 100 บำท และมีภำษีซ้ือ 10 บำท เมื่อผลิต เป็นสินคำ้ ขำยในรำคำ 150 บำท ตอนขำยไปจะตอ้ งคิดภำษขี ำย 15 บำท ดงั น้ี ก็จะเสียภำษมี ูลค่ำเพ่ิม เฉพำะผลต่ำงจำนวน 15-10 = 5 บำท เท่ำน้ัน ถำ้ กำรซ้ือ และขำยเกิดข้ึนภำยในรอบกำรจ่ำยภำษี เดียวกนั ในประเทศไทยไดก้ ำหนดอตั รำภำษีมูลค่ำเพ่ิมไวท้ ี่ 10% แต่ท้งั น้ี ต้งั แต่ พ.ศ. 2540 เป็นตน้ มำ คณะรัฐมนตรีจะออกพระรำชกฤษฎีกำลดภำษีมูลค่ำเพ่ิมเหลือ 7% เป็ นประจำทุกปี โดยที่ ภำษีมูลค่ำเพ่ิม 1 ใน 9 ที่เก็บได้ จะถูกโอนใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน และท่ีเหลืออีก 8 ส่วน จะถกู โอนใหแ้ ก่รัฐบำลกลำง

ภำษีมูลค่ำเพิ่ม หมำยถึง ภำษีที่เก็บจำกกำรขำยสินคำ้ และบริกำรของผูผ้ ลิตสินคำ้ หรือผู้ บริกำร ผนู้ ำเขำ้ โดยจดั เก็บเฉพำะมลู ค่ำที่เพิม่ ข้ึน กำรจดั เกบ็ ภำษมี ลู คำ่ เพมิ่ มีขอบเขตกวำ้ งขวำง และ ครอบคลมุ ทุกข้นั ตอนในกำรผลิตกำรจำหน่ำยและใหบ้ ริกำร ภำษีมูลค่ำเพิ่ม คือ ภำษีท่ีเก็บจำกมูลค่ำส่วนที่เพิ่มข้ึน จำกคนทำธุรกิจขำยสินค้ำหรือ ใหบ้ ริกำรประเภทต่ำงๆ โดยผทู้ ่ีมีหนำ้ ที่เสียภำษมี ลู คำ่ เพ่ิมคอื ผปู้ ระกอบกำร และผนู้ ำเขำ้ ซ่ึงรวมไป ถึงผูผ้ ลิต ผใู้ หบ้ ริกำรผขู้ ำยส่ง ผูข้ ำยปลีก ส่งออก ผนู้ ำเขำ้ ซ่ึงมีรำยไดต้ ่อปี ต้งั แต่ 1,800,000 บำทข้ึน ไป ไมว่ ำ่ จะเป็นบคุ คลธรรมดำหรือนิติบุคคลก็ตำม ภำษีมูลค่ำเพ่ิม เป็ นภำษีท่ีเรียกเก็บจำกผูบ้ ริโภคที่เป็ นผซู้ ้ือสินคำ้ ท้งั ท่ีผลิตในประเทศและ ตำ่ งประเทศหรือเป็นผไู้ ดร้ ับบริกำรคนสุดทำ้ ย ผปู้ ระกอบกำรท่ีไมใ่ ช่ผบู้ ริโภคคนสุดทำ้ ยจะจ่ำยภำษี ซ้ือ 7% ในตอนซ้ือสินคำ้ และเรียกเก็บภำษีขำย 7% ในตอนขำยสินคำ้ เม่ือสิ้นเดือนจะนำภำษีซ้ือ และภำษีขำยมำหกั ลบกนั ผลต่ำงหำกภำษีซ้ือมำกกวำ่ ภำษขี ำยจะเป็น ลูกหน้ี-สรรพำกร หรือ ภำษี ขำยมำกกวำ่ ภำษีซ้ือ จะเป็น เจำ้ หน้ี-สรรพำกร การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพมิ่ 1.ผู้มีหน้าที่ย่ืนแบบ ผู้ประกอบกำรจดทะเบียนที่เสียภำษีมูลค่ำเพ่ิมในอัตรำร้อยละ 10 (ปัจจุบัน อัตรำ ภำษีมูลค่ำเพิ่มลดลงเหลืออตั รำร้อยละ 7.0 ตำมพระรำชกฤษฎีกำฯ (ฉบบั ท่ี 440) พ.ศ. 2548 มีผลใช้ บงั คบั จนถึงวนั ท่ี 30 กนั ยำยน 2550) หรือผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียนภำษีมลู ค่ำเพม่ิ ในอตั รำร้อยละ 0 โดยคำนวณภำษีมูลค่ำเพ่ิมจำกภำษขี ำยหักดว้ ยภำษีซ้ือในแต่ละเดือนภำษี ท้งั น้ี ไม่วำ่ ผูป้ ระกอบกำร ดงั กล่ำวจะประกอบกำรในรูปของบคุ คลธรรมดำ คณะบุคคล หำ้ งหุน้ ส่วนสำมญั กองมรดก บริษทั หรือหำ้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล องคก์ ำรของรัฐบำล หรือนิติบุคคลในรูปแบบใดก็ตำม 2. แบบแสดงรายการท่ใี ช้ (1) แบบ ภ.พ.01 แบบคำขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพ่ิม (2) แบบ ภ.พ.02 แบบคำขอยน่ื แบบแสดงรำยกำรภำษีมลู ค่ำเพิ่มรวมกนั (3) แบบ ภ.พ.02.1 แบบคำขอยกเลิกกำรยนื่ แบบแสดงรำยกำรภำษมี ูลคำ่ เพิ่มรวมกนั (4) แบบ ภ.พ.04 แบบคำขอรับใบแทนใบทะเบียนภำษมี ลู คำ่ เพ่มิ (5) แบบ ภ.พ.08 แบบคำขอถอนทะเบียนภำษมี ูลค่ำเพม่ิ (6) แบบ ภ.พ.09 แบบคำขอแจง้ กำรเปลี่ยนแปลงทะเบียนภำษีมูลคำ่ เพมิ่ (7) แบบ ภ.พ. 30 ใช้สำหรับผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนที่เสียภำษีมูลค่ำเพิ่ม โดยคำนวณ ภำษีมูลค่ำเพ่ิมจำกภำษีขำยหักดว้ ยภำษีซ้ือในแต่ละเดือนภำษี กรณีเดือนภำษีใดมีจำนวนภำษีซ้ือ

มำกกว่ำภำษีขำย ผูป้ ระกอบกำรจะได้รับคืนภำษี และสำมำรถใช้แบบ ภ.พ. 30 น้ีเป็ นคำขอคืน ภำษมี ลู คำ่ เพิ่ม (8) แบบ ภ.พ.30.2 แบบแสดงรำยกำรภำษีมูลค่ำเพิ่ม ในกรณีปรับปรุงภำษีซ้ือที่เฉลี่ยตำม ส่วน ของรำยได้ (9) แบบ ภ.พ.30.3 แบบแสดงรำยกำรภำษีมูลค่ำเพิ่ม ในกรณีปรับปรุงภำษีซ้ือที่เฉล่ียตำม ส่วน ของกำรใชพ้ ้นื ท่ีอำคำร (10) แบบใบขนสินคำ้ ขำเขำ้ ใช้สำหรับผูม้ ีหน้ำท่ีเสียภำษีมูลค่ำเพ่ิมท่ีเป็ นผูน้ ำเขำ้ ไม่ว่ำจะ เป็ นผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนหรือไม่ก็ตำม ผูน้ ำเขำ้ ตอ้ งชำระภำษีพร้อมกบั กำรชำระอำกรขำเขำ้ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยศุลกำกร (11) แบบ ภ.พ.36 ใชส้ ำหรับผมู้ ีหนำ้ ท่ีนำส่งภำษีมูลคำ่ เพม่ิ กรณีดงั ต่อไปน้ี (ก) ผจู้ ่ำยเงินท่ีจ่ำยคำ่ ซ้ือสินคำ้ หรือค่ำบริกำรใหแ้ ก่ – ผูป้ ระกอบกำรที่อยู่นอกรำชอำณำจักร ซ่ึงได้เข้ำมำประกอบกิจกำรขำยสินค้ำหรือ ใหบ้ ริกำรในรำชอำณำจกั รเป็นกำรชวั่ ครำว และไม่ไดจ้ ดทะเบียนภำษมี ลู ค่ำเพิ่มเป็นกำรชวั่ ครำว – ผปู้ ระกอบกำรที่ไดใ้ หบ้ ริกำรในตำ่ งประเทศและไดม้ ีกำรใชบ้ ริกำรน้นั ในรำชอำณำจกั ร (ข) ผรู้ ับโอนสินคำ้ หรือผูร้ ับโอนสิทธิในบริกำรท่ีไดเ้ สียภำษีมูลค่ำเพิ่มไปแลว้ ใน อตั รำร้อยละ 0 ไดแ้ ก่ กำรรับโอนสินคำ้ หรือรับโอนสิทธิในบริกำร ท่ีไดม้ ีกำรขำยหรือใหบ้ ริกำรกบั องค์กำรสหประชำชำติ ทบวงกำรชำนญั พิเศษของสหประชำชำติ สถำนเอกอคั รรำชทูต สถำนทูต สถำนกงสุลใหญ่ สถำนกงสุล ท้งั น้ีเฉพำะกำรขำยสินคำ้ หรือกำรให้บริกำรที่เป็นไปตำมหลกั เกณฑ์ วธิ ีกำร และเง่ือนไขท่ีอธิบดีกำหนด (ค) ผทู้ อดตลำดซ่ึงขำยทรัพยส์ ินของผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียน กาหนดเวลา สถานทีย่ ื่นแบบและการชาระภาษี กำหนดเวลำยน่ื แบบ (1) ผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียนตอ้ งย่ืนแบบ ภ.พ.30 พร้อมชำระภำษีมูลค่ำเพ่ิม (ถำ้ มี) เป็ น รำยเดือนทุกเดือนภำษี ไม่วำ่ จะมีกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรในเดือนภำษีน้นั หรือไม่ก็ตำม โดยให้ ยนื่ แบบภำยในวนั ที่ 15 ของเดือนถดั ไป ในกรณีผูป้ ระกอบกำรมีสถำนประกอบกำรหลำยแห่ง ให้แยกยื่นแบบแสดงรำยกำรภำษี และชำระภำษีเป็นรำยสถำนประกอบกำร เวน้ แต่ไดย้ ่ืนคำร้องขออนุมตั ิย่ืนแบบแสดงรำยกำรภำษี และชำระภำษีรวมกนั (ภ.พ.02) เม่ือไดร้ ับอนุมตั ิจำกอธิบดีกรมสรรพำกรแลว้ ก็สำมำรถย่ืนแบบ ภ.พ.30 รวมกนั ไดต้ ้งั แตเ่ ดือนภำษที ่ีอธิบดีกำหนดเป็นตน้ ไป

(2) กำรนำเขำ้ สินคำ้ ผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียนหรือผนู้ ำเขำ้ ตอ้ งยื่นแบบใบขนสินคำ้ ขำเขำ้ และชำระภำษมี ูลค่ำเพิ่มพร้อมกบั กำรชำระอำกรขำเขำ้ ตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยศุลกำกร ณ ด่ำนศุลกำกร ท่ีมีกำรนำเขำ้ สินคำ้ (3) ผมู้ ีหนำ้ ท่ีนำส่งภำษีมลู คำ่ เพิ่ม กรณีผปู้ ระกอบกำรท่ีให้บริกำรในต่ำงประเทศและไดม้ ี กำรใชบ้ ริกำรน้นั ในรำชอำณำจกั ร หรือผทู้ อดตลำดซ่ึงขำยทอดตลำดทรัพยส์ ินของผูป้ ระกอบกำร จดทะเบียน ตอ้ งย่นื แบบนำส่งภำษีมูลค่ำเพ่ิมภำยใน 7 วนั นบั แต่วนั ท่ีจ่ำยเงินหรือวนั รับเงินจำกกำร ขำยทอดตลำดแลว้ แต่กรณี ปัจจุบนั ไดม้ ีประกำศกระทรวงกำรคลงั ขยำยกำหนดเวลำกำรนำส่งเงิน ภำษีมูลค่ำเพ่ิมโดยให้นำส่งภำยใน 7 วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือนของเดือนท่ีจ่ำยเงินให้แก่ผูป้ ระกอบกำร จดทะเบียน หรือผปู้ ระกอบกำร และยนื่ รำยกำร แลว้ แต่กรณี (4) กรณีผูร้ ับโอนสินคำ้ หรือผรู้ ับโอนสิทธิในบริกำรท่ีไดเ้ สียภำษีมูลค่ำเพ่ิมในอตั รำร้อย ละ 0 ให้นำส่งภำษีมูลค่ำเพิ่มภำยใน 30 วนั นับแต่วนั ควำมรับผิดในกำรเสียภำษีมูลค่ำเพ่ิมเกิดข้ึน ปัจจุบนั ไดม้ ีประกำศกระทรวงกำรคลงั ขยำยกำหนดเวลำกำรนำส่งเงินภำษีมูลค่ำเพ่ิม โดยให้นำส่ง และยนื่ รำยกำรภำยใน 7 วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือนของเดือนท่ีครบกำหนด 30 วนั ที่ควำมรับผิดในกำร เสียภำษมี ูลคำ่ เพิม่ เกิดข้นึ (5) กรณีท่ีผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนยื่นแบบแสดงรำยกำรภำษีมูลค่ำเพ่ิมไวไ้ ม่ถูกต้อง ครบถว้ น ไม่ว่ำกำรคลำดเคลื่อนน้นั จะเป็นเหตุใหจ้ ำนวนภำษีในเดือนภำษีเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ก็ ตำม จะยื่นแบบแสดงรำยกำรภำษีมูลค่ำเพ่ิม เพ่ิมเติมไดอ้ ีกพร้อมกบั ชำระภำษี (ถำ้ มี) ให้ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ณ หน่วยงำนท่ีไดย้ นื่ แบบแสดงรำยกำรภำษีมูลค่ำเพม่ิ ไวก้ ่อน สถานทยี่ ่ืนแบบ (1) กรณีสถำนประกอบกำรต้งั อยู่ในเขตกรุงเทพมหำนคร ให้ย่ืน ณ สำนกั งำนสรรพำกร พ้นื ท่ีสำขำ(เขต/อำเภอ) ในทอ้ งท่ีท่ีสถำนประกอบกำรต้งั อยู่ (2) กรณีสถำนประกอบกำรต้งั อยู่นอกเขตกรุงเทพมหำนคร ใหย้ น่ื ณ สำนกั งำนสรรพำกร พ้นื ที่สำขำ(อำเภอ) ในทอ้ งท่ีที่สถำนประกอบกำรต้งั อยู่ การชาระภาษี (1) ชำระเป็นเงินสด (2) ชำระด้วยเช็คขีดคร่อม ส่ังจ่ำยแก่กรมสรรพำกร โดยขีดฆ่ำคำว่ำ ผูถ้ ือและหรือตำม คำสั่ง

หมำยเหตุ กำรยื่นแบบแสดงรำยกำรและชำระภำษี สำมำรถย่ืนผ่ ำนเว็บไซต์ของ กรมสรรพำกรได้ การคานวณภาษมี ูลค่าเพมิ่ การคานวณภาษีมูลค่าเพมิ่ มวี ธิ ีการคานวณดังนี้ ผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนที่เสียภำษีมูลค่ำเพิ่มในอตั รำร้อยละ 7 ถือเป็ นผูป้ ระกอบกำรจด ทะเบียนแบบเตม็ รูป กำรคำนวณภำษีมูลค่ำเพม่ิ ท่ีตอ้ งชำระแต่ละเดือนเป็นดงั น้ี ภาษีท่ตี อ้ งชาระ = ภาษีขาย – ภาษีซือ้ อตั ราภาษมี ูลค่าเพม่ิ อตั รำภำษมี ูลคำ่ เพิม่ มี 2 อตั รำ คอื 1.ร้อยละ 7 เป็ นอตั รำภำษีมูลค่ำเพิ่มสำหรับกำรขำยสินคำ้ หรือบริกำรทุกประเภท รวมท้งั กำรนำเขำ้ ซ่ึงไม่อยู่ในข่ำยยกเวน้ ภำษีมูลค่ำเพ่ิมตำมประมวลรัษฏำกร อตั รำน้ีไดร้ วมภำษีทอ้ งถ่ิน แลว้ (อตั รำภำษีมูลค่ำเพิ่มสำหรับประเทศไทยเดิมใชอ้ ตั รำร้อยละ 10 ปัจจุบนั อตั รำภำษีมูลค่ำเพ่ิม ลดลงเหลือร้อยละ 7 เป็นกำรชว่ั ครำว 2.ร้อยละ 0 เป็ นอัตรำภำษีมูลค่ำเพ่ิมสำหรับกำรขำยสินค้ำหรื อบริ กำรสำหรับกำร ประกอบกำรดงั ต่อไปน้ี 2.1 กำรส่งออกสินคำ้ ตำมมำตรำ 81 (3) และตำมคำส่ังกรมสรรพำกรที่ ป.33/2536 ลงวนั ที่ 24 มิถุยน 2536 2.2 กำรใหบ้ ริกำรขนส่งระหวำ่ งประเทศโดยอำกำศยำนหรือเรือเดินทะเลท่ีกระทำ โดยผปู้ ระกอบกำรท่ีเป็นนิติบุคคลที่จดั ต้งั ข้นึ ตำมกฎหมำยไทย 2.3 กำรขำยสินคำ้ หรือกำรให้บริกำรส่วนรำชกำรหรือรัฐวิสำหกิจ ตำมโครงกำร เงินกหู้ รือเงินช่วยเหลือจำกต่ำงประเทศ 2.4 กำรขำยสินคำ้ หรือกำรให้บริกำรกบั องค์กำรสหประชำชำติ ทบวงกำรชำนญั พเิ ศษของสหประชำชำติ สถำนอคั รรำชทูต สถำนกงสุลใหญ่ สถำนกงสุล ตำมท่ีอธิบดีกำหนด 2.5 กำรขำยสินคำ้ หรือกำรให้บริกำรระหว่ำงคลังสินค้ำทัณฑ์บนด้วยกันหรือ ระหว่ำงผูป้ ระกอบกำรท่ีประกอบกำรอยู่ในเขตอุตสำหกรรมส่งออก รวมท้งั กำรขำยสินคำ้ หรือ ใหบ้ ริกำรระหวำ่ งคลงั สินคำ้ ทณั ฑก์ บั ผปู้ ระกอบกิจกำรอยใู่ นเขตอุตสำหกรรมส่งออก ใบกากบั ภาษี ใบกำกบั ภำษแี บ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี

1.ใบกำกับภำษีแบบเต็มรูป (Tax Invoice) คือเอกสำรหลักฐำนสำคัญที่ผูป้ ระกอบกำรจด ทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่ม ออกให้แก่ผูซ้ ้ือสินคำ้ หรือผูร้ ับบริกำร ใบกำกับภำษีแบบน้ีตอ้ งมีรำยกำร ครบถว้ นตำมที่กรมสรรพำกรกำหนด (มำตรำ 86/4) และใชเ้ ป็นหลกั ฐำนในกำรชำระหรือเรียกคืน ภำษีมูลคำ่ เพม่ิ 2.ใบกำกบั ภำษีอยำ่ งยอ่ ย (Abbreviation Tax Invoice) หรือเรียกยอ่ ๆว่ำ ABB Tax Invoice คือ ใบกำกับภำษีท่ีออกโดยผูป้ ระกอบกำรที่จำหน่ำยสินคำ้ ในลกั ษณะขำยปลีกให้บริกำรรำยย่อยแก่ บุคคลจำนวนมำก ใบกำกบั ภำษีอย่ำงย่อยน้ีอำจจะออกดว้ ยมือหรือออกด้วยเครื่องบนั ทึกเงินสด ใบกำกบั ภำษีแบบน้ีใชเ้ ป็นหลกั ฐำนในกำรชำระหรือเรียกคืนภำษีมูลค่ำเพิ่มไม่ได้ ดงั น้นั ผซู้ ้ือสินคำ้ หรือผรู้ ับบริกำรตอ้ งแจง้ ควำมประสงคต์ อ้ งกำรใบกำกบั ภำษีแบบเตม็ รูป เอกสารทถี่ ือเป็ นใบกากบั ภาษี 1.ใบเพิ่มหน้ี 2.ใบลดหน้ี 3.ใบเสร็จรับเงินท่ีส่วนรำชกำรออกใหใ้ นกำรขำยทอดตลำด 4.ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพำกร กรมศุลกำกร หรือกรมสรรพสำมิต เฉพำะส่วนที่เป็ น ภำษมี ูลคำ่ เพ่มิ การคานวณภาษมี ูลค่าเพม่ิ กำรคำนวณภำษีมลู ค่ำเพิ่มแยกเป็น 2 กรณี ดงั น้ี 1.กรณีผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพ่ิมในอตั รำร้อยละ 7 ให้คำนวณภำษีซ้ือและ ภำษีขำยประจำเดือน โดยดูจำกบญั ชีภำษีซ้ือและภำษีขำยหรือจำกรำยงำนภำษีซ้ือและภำษีขำยและ หำผลตำ่ ง 2.กรณีผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพ่ิมในอตั รำร้อยละ 0 ให้คำนวณภำษีขำยใน อตั รำร้อยละ 0 ซ่ึงจะมีผลทำให้ภำษีขำยเท่ำกบั 0 และคำนวณภำษีซ้ือในอตั รำร้อยละ 7 ดงั น้นั ภำษี ซ้ือจะมียอดมำกกวำ่ ภำษขี ำย ซ่ึงมีผลทำใหผ้ ปู้ ระกอบกำรไดร้ ับคนื ภำษี 2. การประกอบกจิ การท่ีต้องเสียภาษีมูลค่าเพม่ิ กำรประกอบกิจกำรท่ีตอ้ งเสียภำษมี ูลคำ่ เพม่ิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคอื 1. กำรประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ กำรขำยสินคำ้ หมำยถึง กำรจำหน่ำย จ่ำย โอนสินคำ้ ไม่ วำ่ จะมีประโยชน์หรือค่ำตอบแทนหรือไม่ เช่น กำรขำยสินคำ้ กำรแจกสินคำ้ กำรแถม กำรใหส้ ินคำ้ เป็นรำงวลั กำรใหโ้ ดยเสน่หำ เป็นตน้ ถือเป็นกำรขำยในระบบภำษีมลู ค่ำเพม่ิ ท้งั สิ้น

กำรขำยสินคำ้ ในระบบภำษีมลู คำ่ เพม่ิ ยงั รวมถึงกิจกรรมดงั น้ีดว้ ย 1.1 กิจกำรที่มีกำรใหเ้ ช่ำซ้ือสินคำ้ 1.2 กิจกำรท่ีมีกำรส่งมอบสินคำ้ ใหต้ วั แทนเพื่อขำย 1.3 กิจกำรที่มีกำรนำสินคำ้ ไปใชไ้ มว่ ำ่ เพ่อื กำรใดๆ เช่น นำสินคำ้ ของกิจกำรไปบริจำค 1.4 กิจกำรท่ีมีสินคำ้ ขำดจำกรำยกำรสินคำ้ และวตั ถุดิบ 1.5 กิจกำรท่ีมีมีสินคำ้ คงเหลือและหรือทรัพยส์ ินท่ีผปู้ ระกอบกำรมีไวใ้ ห้ในกำร ณ วนั เลิกประกอบกำร 2. กำรประกอบกิจกำรให้บริกำร กำรให้บริกำร หมำยถึงกำรกระทำใดๆ อันอำจหำ ประโยชน์ไดอ้ นั มีมูลค่ำซ่ึงมิใช่กำรขำยสินคำ้ เช่น กำรรับจำ้ งทำของ กำรรับจำ้ งบริกำร กำรรับ ซ่อมแซม นอกจำกน้ีกำรใหบ้ ริกำรดงั ตอ่ ไปน้ี ไดร้ ับยกเวน้ ไมต่ อ้ งเสียมูลคำ่ เพ่มิ ไดแ้ ก่ 2.1. กำรใช้บริกำรเพ่ือประกอบกิจกำรของตนเองโดยตรง ท้งั น้ี ตอ้ งเป็ นกำรใช้ใน กิจกำรท่ีอยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภำษมี ูลค่ำเพ่มิ ซ่ึงบริกำรดงั กลำ่ วตอ้ งมิใช่กำรใชบ้ ริกำรดงั ต่อไปน้ี เช่น บริกำรท่ีนำไปใชเ้ พ่ือกำรรับรอง หรือ บริกำรที่นำไปใชก้ บั รถยนตน์ ง่ั และรถโดยสำรที่มีที่นง่ั ไม่เกิน 10 คน ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยพกิ ดั อตั รำภำษสี รรพสำมิต 2.2 กำรนำเงินไปหำประโยชน์โดยกำรฝำกธนำคำร หรือซ้ือพนั ธบตั รหรือหลกั ทรัพย์ 2.3 กำรกำระทำอ่ืนตำมที่อธิบดีกรมสรรพำกรกำหนด 3. ผู้มีหน้าทีเ่ สียภาษมี ูลค่าเพมิ่ ผูป้ ระกอบกำรที่ขำยสินคำ้ หรือให้บริกำรในทำงธุรกิจหรือวิชำชีพเป็ นปกติธุระ ไม่ว่ำจะ ประกอบกิจกำรในรูปของบุคคลธรรมดำ คณะบุคคลหรือห้ำงหุ้นส่วนสำมญั ที่มิใช่นิติบุคคล หรือ นิติบคุ คลใด ๆ หำกมีรำยรับจำกกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรเกินกวำ่ 1.2 ลำ้ นบำทต่อปี มีหนำ้ ท่ีตอ้ ง ยน่ื คำขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพม่ิ เพื่อเป็นผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียน โดยคำนวณภำษที ี่ตอ้ งเสียจำก ภำษีขำยหกั ดว้ ยภำษซี ้ือ ผู้ประกอบการที่ไม่ต้องจดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพมิ่ 1. ผปู้ ระกอบกำรท่ีมีรำยรับจำกกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรไม่เกิน 1.2 ลำ้ นบำทต่อปี 2. ผปู้ ระกอบกำรที่ขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรที่ไดร้ ับยกเวน้ ภำษมี ูลค่ำเพิม่ ตำมกฎหมำย 3. ผปู้ ระกอบกำรที่ใหบ้ ริกำรจำกตำ่ งประเทศ และไดม้ ีกำรใชบ้ ริกำรน้นั ในรำชอำณำจกั ร 4. ผูป้ ระกอบกำรท่ีอยู่นอกรำชอำณำจักรและเข้ำมำประกอบกิจกำรขำยสินค้ำหรือ ให้บริกำรในรำชอำณำจกั รเป็ นคร้ังครำว ท้งั น้ี ตอ้ งเป็ นไปตำมหลกั เกณฑ์ วิธีกำรและเง่ือนไข ท่ี

กำหนดไวใ้ นประกำศอธิบดีกรมสรรพำกร เก่ียวกบั ภำษีเงินได้ (ฉบบั ท่ี 43)ฯ ลงวนั ท่ี 29 มกรำคม พ.ศ. 2536 5. ผปู้ ระกอบกำรอ่ืนตำมท่ีอธิบดีจะประกำศกำหนดเม่ือมีเหตุอนั สมควร ผู้ประกอบการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย แต่สามารถขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพมิ่ ได้ 1. ผปู้ ระกอบกิจกำร ขำยพืชผลทำงกำรเกษตร สัตว์ ไม่วำ่ มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ป๋ ุย ปลำป่ น อำหำรสตั ว์ ยำหรือเคมีภณั ฑท์ ี่ใชส้ ำหรับพืชหรือสัตว์ หนงั สือพิมพ์ นิตยสำร หรือตำรำเรียน ฯลฯ 2. ผปู้ ระกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรซ่ึงไม่ไดร้ ับยกเวน้ ภำษมี ลู ค่ำเพมิ่ ตำมกฎหมำย และมีรำยรับไม่เกิน 1.2 ลำ้ นบำทตอ่ ปี 3. กำรใหบ้ ริกำรขนส่งในรำชอำณำจกั ร โดยอำกำศยำน 4. กำรส่งออกของผปู้ ระกอบกำรในเขตอุตสำหกรรมส่งออกตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรนิคม อตุ สำหกรรมแห่งประเทศไทย 5. กำรใหบ้ ริกำรขนส่งน้ำมนั เช้ือเพลิงทำงท่อในรำชอำณำจกั ร 4. การยกเว้นภาษีมูลค่าเพมิ่ มำตรำ 81 ใหย้ กเวน้ ภำษีมลู คำ่ เพิม่ สำหรับกำรประกอบกิจกำรประเภทต่ำง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. กำรขำยสินคำ้ ที่มิใช่กำรส่งออก หรือกำรใหบ้ ริกำรดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) กำรขำยพืชผลทำงกำรเกษตร ไม่วำ่ จะเป็นลำตน้ กิ่ง ใบ เปลือก หน่อ รำกเหงำ้ ดอก หัว ฝัก เมล็ด หรือส่วนอื่น ๆ ของพืช และวตั ถุพลอยได้จำกพืช ท้งั น้ี ท่ีอยู่ในสภำพสดหรือ รักษำสภำพไวเ้ พือ่ มิใหเ้ สียเป็นกำรชวั่ ครำวในระหวำ่ งขนส่งดว้ ยกำรแช่เยน็ แช่เยน็ จนแขง็ หรือดว้ ย กำรจดั ทำหรือปรุงแต่งโดยวิธีกำรอ่ืน หรือรักษำสภำพไวเ้ พื่อมิให้เสียเพื่อกำรขำยปลีกหรือขำยส่ง ด้วยวิธีกำรแช่เย็น แช่เย็นจนแข็ง ทำให้แห้ง บด ทำให้เป็ นชิ้น หรือด้วยวิธีอ่ืน ข้ำวสำรหรือ ผลิตภัณฑ์ท่ีได้จำกกำรสีข้ำว แต่ไม่รวมถึงไมซ้ ุง ฟื น หรือผลิตภณั ฑ์ที่ได้จำกกำรเลื่อยไม้ หรือ ผลิตภณั ฑอ์ ำหำรท่ีบรรจุกระป๋ อง ภำชนะ (ข) กำรขำยสัตวไ์ ม่ว่ำจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต และในกรณีสัตวไ์ ม่มีชีวิตไม่ว่ำจะ เป็นเน้ือ ส่วนต่ำง ๆ ของสัตว์ ไข่ น้ำนม และวตั ถพุ ลอยไดจ้ ำกสตั ว์ ท้งั น้ี ที่อยใู่ นสภำพสดหรือรักษำ สภำพไวเ้ พื่อมิใหเ้ สียเป็นกำรชวั่ ครำวในระหว่ำงขนส่งดว้ ยกำรแช่เยน็ แช่เยน็ จนแขง็ หรือดว้ ยกำร จดั ทำหรือปรุงแต่งโดยวิธีกำรอื่น หรือรักษำสภำพไวเ้ พ่ือมิให้เสียเพื่อกำรขำยปลีกหรือขำยส่งดว้ ย วิธีกำรแช่เยน็ แช่เยน็ จนแข็ง ทำให้แห้ง บด ทำให้เป็ นชิ้น หรือดว้ ยวิธีอ่ืน แต่ไม่รวมถึงผลิตภณั ฑ์

อำหำรท่ีบรรจุกระป๋ อง ภำชนะ หรือหีบห่อที่ทำเป็นอุตสำหกรรมตำมลกั ษณะและเง่ือนไขที่อธิบดี กำหนด (ค) กำรขำยป๋ ยุ (ง) กำรขำยปลำป่ น อำหำรสตั ว์ (จ) กำรขำยยำหรือเคมีภณั ฑท์ ่ีใชส้ ำหรับพืชหรือสัตวเ์ พอ่ื บำรุงรักษำป้องกนั ทำลำย หรือกำจดั ศตั รูหรือโรคของพชื และสตั ว์ (ฉ) กำรขำยหนงั สือพมิ พ์ นิตยสำร หรือตำรำเรียน (ช) กำรให้บริกำรกำรศึกษำของสถำนศึกษำของทำงรำชกำร สถำนศึกษำตำม กฎหมำยวำ่ ดว้ ยสถำบนั อดุ มศึกษำเอกชน หรือโรงเรียนเอกชนตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน (ซ) กำรให้บริกำรท่ีเป็ นงำนทำงศิลปะและวฒั นธรรมในสำขำ และลกั ษณะกำร ประกอบกิจกำรที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี (ฌ) กำรให้บริกำรกำรประกอบโรคศิลปะ กำรสอบบญั ชี กำรว่ำควำม หรือกำร ประกอบวิชำชีพอิสระอื่นตำมที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี ท้งั น้ี เฉพำะวิชำชีพอิสระที่มี กฎหมำยควบคมุ กำรประกอบวชิ ำชีพอิสระน้นั (ญ) กำรให้บริ กำรรักษำพยำบำลของสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้วย สถำนพยำบำล (ฎ) กำรให้บริกำรวิจยั หรือกำรให้บริกำรทำงวิชำกำร ท้งั น้ี ในสำขำและลกั ษณะ กำรประกอบกิจกำรที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี (ฏ) กำรใหบ้ ริกำรหอ้ งสมดุ พพิ ธิ ภณั ฑ์ สวนสตั ว์ (ฐ) กำรใหบ้ ริกำรตำมสัญญำจำ้ งแรงงำน (ฑ) กำรใหบ้ ริกำรจดั แขง่ ขนั กีฬำสมคั รเล่น (ฒ) กำรให้บริกำรของนักแสดงสำธำรณะ ท้ังน้ี เฉพำะบริกำรในสำขำและ ลกั ษณะกำรประกอบกิจกำรตำมที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี (ณ) กำรใหบ้ ริกำรขนส่งในรำชอำณำจกั ร (ด) กำรใหบ้ ริกำรขนส่งระหวำ่ งประเทศซ่ึงมิใช่เป็นกำรขนส่งโดยอำกำศยำนหรือ เรือเดินทะเล (ต) กำรใหบ้ ริกำรเช่ำอสงั หำริมทรัพย์ (ถ) กำรให้บริกำรของรำชกำรส่วนท้องถ่ิน ท้ังน้ี ไม่รวมถึงบริกำรที่เป็ นกำร พำณิชยข์ องรำชกำรส่วนท้องถิ่น หรือเป็ นกำรหำรำยได้หรือผลประโยชน์ไม่ว่ำจะเป็ นกิจกำร สำธำรณูปโภคหรือไมก่ ต็ ำม

(ท) กำรขำยสินคำ้ หรือกำรใหบ้ ริกำรของกระทรวง ทบวง กรม ซ่ึงส่งรำยรับท้งั สิ้น ใหแ้ ก่รัฐโดยไมห่ กั รำยจ่ำย (ธ) กำรขำยสินคำ้ หรือกำรใหบ้ ริกำรเพื่อประโยชน์แก่กำรศำสนำหรือกำรสำธำรณ กศุ ลภำยในประเทศซ่ึงไมน่ ำผลกำไรไปจ่ำยในทำงอ่ืน (น) กำรขำยสินคำ้ หรือกำรใหบ้ ริกำรตำมที่กำหนดโดยพระรำชกฤษฎีกำ 2. กำรนำเขำ้ สินคำ้ ดงั ต่อไปน้ี (ก) สินคำ้ ตำม (1) (ก) ถึง (ฉ) (ข) สินคำ้ จำกตำ่ งประเทศท่ีนำเขำ้ ไปในเขตปลอดอำกร ท้งั น้ี เฉพำะสินคำ้ ที่ไดร้ ับ ยกเวน้ อำกรขำเขำ้ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรน้นั (ค) สินคำ้ ท่ีจำแนกประเภทไวใ้ นภำควำ่ ดว้ ยของที่ไดร้ ับยกเวน้ อำกรตำมกฎหมำย วำ่ ดว้ ยพกิ ดั อตั รำศลุ กำกร (ง) สินค้ำซ่ึงนำเข้ำและอยู่ในอำรักขำของศุลกำกร แล้วได้ส่งกลับออกไป ตำ่ งประเทศ โดยไดค้ นื อำกรขำเขำ้ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยศลุ กำกร (3) กำรส่งออกซ่ึงสินคำ้ หรือบริกำรของผูป้ ระกอบกำรจดทะเบียนซ่ึงตอ้ งเสีย ภำษมี ูลคำ่ เพม่ิ ตำมมำตรำ 82/16 กำรยกเวน้ ภำษีมูลค่ำเพ่ิมสำหรับกำรประกอบกิจกำรตำมมำตรำน้ี อธิบดีจะเสนอให้ คณะกรรมกำรวินิจฉัยภำษีอำกรพิจำรณำกำหนดลกั ษณะของกิจกำรและเงื่อนไขในกำรประกอบ กิจกำรที่ไดร้ ับกำรยกเวน้ ตำมมำตรำน้ีก็ได้ และเม่ือคณะกรรมกำรวินิจฉยั ภำษีอำกรไดว้ ินิจฉัยแลว้ ให้ประกำศคำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรดังกล่ำวในรำชกิจจำนุเบกษำ และหำกกิจกำรน้ันมิได้ เป็นไปตำมลกั ษณะและเง่ือนไขที่กำหนด กิจกำรน้นั จะไมไ่ ดร้ ับยกเวน้ ภำษมี ูลคำ่ เพิ่มตำมมำตรำน้ี มำตรำ 81/1 ผปู้ ระกอบกำรซ่ึงประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรท่ีอย่ใู นบงั คบั ตอ้ ง เสียภำษีมูลค่ำเพ่ิม และกิจกำรดงั กล่ำวมีมูลค่ำของฐำนภำษีไม่เกินมูลค่ำของฐำนภำษีของกิจกำร ขนำดยอ่ มตำมที่กำหนดโดยพระรำชกฤษฎีกำ ใหไ้ ดร้ ับยกเวน้ ไมต่ อ้ งเสียภำษีมูลคำ่ เพมิ่ พระรำชกฤษฎีกำตำมวรรคหน่ึงจะกำหนดจำนวนมูลค่ำของฐำนภำษีของกิจกำรขนำดย่อม ให้แตกต่ำงกนั ในกิจกำรแต่ละประเภทไม่ได้ แต่จำนวนมูลค่ำของฐำนภำษีท่ีกำหนดจะตอ้ งไม่นอ้ ย กวำ่ 600,000 บำทต่อปี มำตรำ 81/2 กิจกำรใดได้รับยกเวน้ ภำษีมูลค่ำเพิ่มตำมส่วนน้ีหรือตำมกฎหมำยอื่นให้ ผูป้ ระกอบกำรไดร้ ับยกเวน้ กำรปฏิบตั ิตำมหมวดน้ี แต่อธิบดีจะกำหนดใหผ้ ปู้ ระกอบกำรตอ้ งจดั ทำ รำยงำนตำมส่วน 11 ก็ได้

มำตรำ 81/3 ผปู้ ระกอบกำรซ่ึงประกอบกิจกำรที่ไดร้ ับยกเวน้ ภำษีมูลค่ำเพ่ิมดงั ต่อไปน้ี มี สิทธิแจง้ ต่ออธิบดีตำมแบบท่ีอธิบดีกำหนดเพ่ือขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพ่ิมและเสียภำษีมูลค่ำเพ่ิม ตำมหมวดน้ีไดโ้ ดยตอ้ งคำนวณภำษีมูลค่ำเพมิ่ ตำมมำตรำ 82/3 (1) กิจกำรขำยสินคำ้ ตำมท่ีระบไุ วใ้ นมำตรำ 81 (1) (ก) ถึง (ฉ) (2) กิจกำรขนำดยอ่ มตำมมำตรำ 81/1 (3) กิจกำรอ่ืนตำมที่กำหนดโดยพระรำชกฤษฎีกำ เม่ือผูป้ ระกอบกำรตำมวรรคหน่ึงไดจ้ ดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่มตำมมำตรำ 85/1 (2) แลว้ ผูป้ ระกอบกำรดงั กล่ำวจะเลิกเสียภำษีมูลค่ำเพิ่มไดต้ ่อเมื่อไดใ้ ชส้ ิทธิขอถอนทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่ม ตำมมำตรำ 85/10 (3) และอธิบดีไดส้ ง่ั ถอนทะเบียนภำษมี ูลคำ่ เพม่ิ แลว้ 5. การจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพม่ิ วิธีกำรจดทะเบียนภำษมี ลู คำ่ เพิม่ 1. แบบคำขอจดทะเบียนภำษมี ูลค่ำเพมิ่ แบบคำขอท่ีใชใ้ นกำรขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพ่ิม ไดแ้ ก่ แบบ ภ.พ.01 ซ่ึงในเขต กรุงเทพมหำนครขอรับไดท้ ี่สำนกั งำนสรรพำกรพ้ืนท่ีสำขำ(เขต/อำเภอ) หรือสำนักงำนสรรพำกร พ้นื ท่ี สำหรับในจงั หวดั อ่ืนขอรับไดท้ ี่สำนกั งำนสรรพำกรพ้ืนท่ีสำขำ(อำเภอ) ทุกแห่ง 2. เอกสำรท่ีตอ้ งใชใ้ นกำรจดทะเบียนภำษีมูลคำ่ เพ่มิ (1) คำขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่มตำมแบบ ภ.พ.01 จำนวน 3 ฉบบั (2) สำเนำทะเบียนบำ้ นหรือหลกั ฐำนแสดงกำรอยอู่ ำศยั จริง พร้อมภำพถำ่ ยสำเนำ (3) บตั รประจำตวั ประชำชนและบตั รประจำตวั ผูเ้ สียภำษีอำกร พร้อมภำพถ่ำย บตั รดงั กล่ำว (4) สัญญำเช่ำอำคำรอันเป็ นที่ต้งั สถำนประกอบกำร (กรณีเช่ำ) หรือหนังสือ ยนิ ยอมใหใ้ ชส้ ถำนประกอบกำร และหลกั ฐำนแสดงกรรมสิทธ์ิ เช่น เป็นเจำ้ บำ้ น, สัญญำซ้ือขำย, คำ ขอหมำยเลขบำ้ น, ใบโอนกรรมสิทธ์ิ, สัญญำเช่ำช่วง พร้อมสำเนำทะเบียนบำ้ นอนั เป็ นท่ีต้งั สถำน ประกอบกำรและภำพถำ่ ยเอกสำรดงั กลำ่ ว (5) หนังสือจดั ต้งั ห้ำงหุ้นส่วน พร้อมภำพถ่ำยหนังสือดังกล่ำว (กรณีเป็ นห้ำง หุน้ ส่วนสำมญั หรือคณะบคุ คล). (6) หนังสือรับรองของนำยทะเบียนห้ำงหุ้นส่วน บริษทั พร้อมวตั ถุประสงค์ หนงั สือบริคณห์สนธิและขอ้ บงั คบั และใบทะเบียนพำณิชยพ์ ร้อมภำพถ่ำยหนังสือดงั กล่ำว (กรณี เป็ นนิติบุคคล)

(7) บตั รประจำตวั ประชำชนของกรรมกำรผูจ้ ดั กำร หรือหุ้นส่วนผูจ้ ดั กำร และ สำเนำทะเบียนบำ้ น พร้อมภำพถ่ำยเอกสำรดงั กล่ำว (8) แผนที่ซ่ึงแสดงท่ีต้งั ของสถำนประกอบกำรโดยสังเขป และภำพถ่ำยสถำน ประกอบกำรจำนวน 2 ชุด (9) กรณีมอบอำนำจให้ผูอ้ ื่นทำกำรแทน ตอ้ งมีหนังสือมอบอำนำจปิ ดอำกร แสตมป์ 10 บำท บตั รประจำตวั ประชำชนของผมู้ อบอำนำจและผรู้ ับมอบอำนำจพร้อมภำพถ่ำยบตั ร ดงั กลำ่ ว โดยผรู้ ับมอบอำนำจตอ้ งมีอำยุ 20 ปี ข้ึนไป กาหนดเวลาจดทะเบยี น 1. ผปู้ ระกอบกำรตอ้ งยนื่ คำขอจดทะเบียนภำษมี ลู ค่ำเพมิ่ เม่ือเริ่มประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หรือให้บริกำร เวน้ แต่กรณีท่ีผูป้ ระกอบกำรมีแผนงำนท่ีสำมำรถพิสูจน์ได้ว่ำได้เตรียมกำรเพ่ือ ประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หรือให้บริกำรท่ีอยู่ในบงั คบั ตอ้ งเสียภำษีมูลค่ำเพ่ิมและมีกำรดำเนินกำร เพ่ือเตรียมประกอบกิจกำรอนั เป็ นเหตุให้ตอ้ งมีกำรซ้ือสินคำ้ หรือรับบริกำรท่ีอยู่ในบงั คบั ตอ้ งเสีย ภำษีมูลค่ำเพิ่ม เช่น กำรก่อสร้ำงโรงงำน กำรสร้ำงอำคำรสำนักงำนหรือกำรติดต้งั เครื่องจกั ร ให้ ผูป้ ระกอบกำรมีสิทธิย่ืนคำขอจดทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่มได้ภำยในกำหนด 6 เดือนก่อนวนั เริ่ม ประกอบกิจกำรขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำร 2. ผูป้ ระกอบกำรท่ีมีรำยรับเกินกว่ำ 1.8 ลำ้ นบำทต่อปี ตอ้ งย่ืนคำขอจดทะเบียนภำษี - มูลคำ่ เพิม่ ภำยใน 30 วนั นบั แต่วนั ท่ีมีมูลคำ่ ของฐำนภำษี (รำยรับ) เกินกวำ่ 1.8 ลำ้ นบำทตอ่ ปี สถานที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมของผู้ประกอบการให้ยื่นคาขอจด ทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ ตามแบบ ภ.พ.01 ณ สถานทดี่ ังต่อไปนี้ 1. กรณีสถำนประกอบกำรต้งั อยู่ในเขตกรุงเทพมหำนคร ให้ยื่น ณ สำนกั งำนสรรพำกร พ้ืนที่ หรือ สำนกั งำนสรรพำกรพ้ืนท่ีสำขำในเขตทอ้ งท่ีที่ สถำนประกอบกำรต้งั อยู่ 2. กรณีสถำนประกอบกำรต้งั อย่นู อกเขตกรุงเทพมหำนคร ให้ยน่ื ณ สำนกั งำนสรรพำกร พ้ืนที่สำขำ(อำเภอ) ในเขตทอ้ งท่ีที่สถำนประกอบกำรต้งั อยู่ และกรณีสถำนประกอบกำรต้งั ในทอ้ งท่ี อำเภอหรือกิ่งอำเภอต้งั ใหม่ท่ีกรมสรรพำกรมิไดจ้ ดั อตั รำกำลงั ไว้ ให้ยื่น ณ สำนักงำนสรรพำกร พ้ืนท่ีสำขำ(อำเภอ) ท่ีเคยควบคมุ พ้นื ที่เดิมของอำเภอหรือก่ิงอำเภอต้งั ใหม่น้นั กรณีสถำนประกอบกำรหลำยแห่ง ใหย้ น่ื คำขอจดทะเบียนไดท้ ี่ สำนกั งำนสรรพำกรพ้ืนท่ี หรือ สำนกั งำนสรรพำกรพ้ืนท่ีสำขำ ในทอ้ งที่ท่ีสถำนประกอบกำรอนั เป็นที่ต้งั ของสำนกั งำนใหญ่ เพียงแห่งเดียว

3. กรณีสถำนประกอบกำรที่อยใู่ นควำมดูแลของสำนกั บริหำรภำษีธุรกิจขนำดใหญใ่ หย้ นื่ ณ สำนักบริหำรภำษีธุรกิจขนำดใหญ่ หรือจะย่ืนผ่ำนสำนักงำนสรรพำกรพ้ืนท่ี หรือสำนักงำน สรรพำกรพ้นื ที่สำขำที่สถำนประกอบกำรต้งั อยกู่ ็ได้ หน้าทขี่ องผ้ปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพมิ่ 1. เรียกเก็บภำษีมูลค่ำเพ่ิมจำกผซู้ ้ือสินคำ้ หรือผูร้ ับบริกำร และออกใบกำกบั ภำษีเพ่ือเป็ น หลกั ฐำนในกำรเรียกเกบ็ ภำษมี ลู คำ่ เพ่มิ 2. จดั ทำรำยงำนตำมท่ีกฎหมำยกำหนด ซ่ึงไดแ้ ก่ (1) รำยงำนภำษซี ้ือ (2) รำยงำนภำษขี ำย (3) รำยงำนสินคำ้ และวตั ถดุ ิบ 3.ยน่ื แบบแสดงรำยกำรเพื่อเสียภำษีตำมแบบ ภ.พ.30

แบบทดสอบหลงั เรียน คาชี้แจง จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ ง 1. ภำษมี ูลคำ่ เพ่มิ หมำยถึงอะไร ก. ภำษที ี่เก็บจำกกำรขำยสินคำ้ และบริกำรของผผู้ ลิตสินคำ้ ข. เงินตรำหรือทรัพยท์ ี่ประชำชนตอ้ งนำส่งใหก้ บั รัฐหรือสถำบนั ที่มีหนำ้ ท่ีเทียบเท่ำกบั รัฐ ท้งั บุคคลธรรมดำและนิติบุคคล ค. ภำษที ี่เกบ็ จำกมูลคำ่ ส่วนท่ีเพมิ่ ข้ึน จำกคนทำธุรกิจขำยสินคำ้ หรือใหบ้ ริกำรประเภทต่ำง ๆ ง. ถกู ท้งั ขอ้ ก. และ ค. 2. คำขอจดทะเบียนภำษมี ลู ค่ำเพิม่ ใชแ้ บบภ.พ.ตำมขอ้ ใด ก. แบบ ภ.พ. 04 ข.แบบ ภ.พ. 03 ค.แบบ ภ.พ. 02 ง.แบบ ภ.พ. 01 3. กำรนำเขำ้ สินคำ้ ผปู้ ระกอบกำรจดทะเบียนหรือผนู้ ำเขำ้ ตอ้ งยน่ื แบบอะไร ก.แบบใบขนสินคำ้ ข.แบบแสดงรำยกำรภำษี ค.แบบใบขนสินคำ้ และชำระภำษีมูลคำ่ เพิ่ม ง.แบบใบทะเบียนภำษีมลู ค่ำเพิ่ม 4.กำรยกเวน้ ภำษีมลู ค่ำเพ่มิ ตำมมำตรใด ก.มำตรำ 80 ข.มำตรำ 81

ค.มำตรำ 82 ง.มำตรำ 83 5.คำขอจดทะเบียนภำษมี ลู ค่ำเพิ่มตำมแบบ ภ.พ.01ใชก้ ี่ฉบบั ก. 5 ฉบบั ข. 4 ฉบบั ค. 3 ฉบบั ง. 1 ฉบบั 6.ผปู้ ระกอบกำรตอ้ งมีรำยรับไมเ่ กิน กี่บำทต่อปี ก. 3..8 ลำ้ นบำทต่อปี ข. 5.8 ลำ้ นบำทต่อปี ค. 2.8 ลำ้ นบำทตอ่ ปี ง. 1.8 ลำ้ นบำทต่อปี 7.กำรจดั ทำรำยงำนตำมที่กฎหมำยกำหนด มีก่ีรำยงำน ก. 3 ข. 4 ค. 2 ง. 1 8.VAT ยอ่ มำจำกอะไร ก. Valoe Adred Tax ข. Value Added Tax ค. Velue Added Tex ง. Valtue Adided Tax 9.อตั รำภำษมี ูลค่ำเพิ่มลดลงเหลืออตั รำร้อยละ 7.0 ตำมพระรำชกฤษฎีกำฯ ฉบบั ที่เทำ่ ใด ก. ฉบบั ที่ 390 ข. ฉบบั ที่ 400 ค. ฉบบั ที่ 440 ง. ฉบบั ท่ี 480

10.อตั รำภำษมี ูลคำ่ เพิม่ มีก่ีอตั รำ ก.4 ข.3 ค.2 ง.1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook