ผลงานเด่นด้านวิชาการวิชาชีพและนวัตกรรม

OBEC AWARDS ผลงานเดน่ ด้านวิชาการ บริหาร และนวตั กรรม 1. ชนะเลศิ ระดบั เหรยี ญทอง OBEC AWARDS รางวลั สถานศกึ ษายอดเยย่ี มประเภทโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ด้านวิชาการ ประจ�ำปี พุทธศักราช 2556 ชื่อหน่วยงานที่ให้รางวัล ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ปี พ.ศ. ทีไ่ ด้รบั รางวัล 2557 ผลงานดีเด่นทปี่ ระสบผลส�ำเร็จเปน็ ทีป่ ระจกั ษด์ า้ นวชิ าการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มดี งั นี้ 1. ด้านหลักสูตร โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มีจุดเน้นการจัดการศึกษาคือ ต้องให้นักเรียนมี พน้ื ฐานดา้ นงานอาชพี เพอื่ เปน็ แนวทางในการไปประกอบสมั มาชพี หลงั จากจบการศกึ ษาดงั นน้ั หลกั สตู ร ทนี่ อกเหนอื จากหลกั สตู รของโรงเรยี นแลว้ ยงั มหี ลกั สตู รทเ่ี นน้ ดา้ นงานอาชพี ทโี่ ดดเดน่ ไดแ้ ก่ หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลกั สตู รนกั ธุรกิจน้อยมีคุณธรรมนำ� สเู่ ศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ 2. ศูนย์ขยายเครือข่ายนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม น�ำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นโครงการเกิดขึ้น เพ่ือสนองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 11 และการปฏิรูปการศึกษาเพื่อสร้างทักษะ เยาวชน ท่ีสอดคล้องกับคนยุคใหม่ในศตวรรษท่ี 21 โดยการสร้างแนวคิดใหม่ให้กับครู ปลูกฝังทัศนคติ ที่ดีตอ่ อาชพี อสิ ระ ให้กบั นกั เรยี น เรียนรู้ดา้ นธรุ กิจหรอื การเปน็ ผปู้ ระกอบการตามความเหมาะสมกับวัย สามารถคดิ เป็น ท�ำได้ ขายเป็น อย่างมีคุณธรรม 3. เครือข่ายระหว่างโรงเรียนและชุมชนในการพัฒนาการศึกษา เช่น เครือข่ายโรงเรียนพ่ีโรงเรียนน้องกับ โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดนเบญจมะ 1 โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าข้าวหลาม และ เครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ กับโรงเรียนร่มเกล้าปางตอง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 และโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงดาว 2. ชนะเลศิ ระดบั เหรยี ญทอง OBEC AWARDS ผอู้ ำ� นวยการสถานศกึ ษายอดเยยี่ ม โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยเี พอื่ การเรยี นการสอน ประจำ� ปี พทุ ธศกั ราช2557 ชอื่ หนว่ ยงานทใี่ หร้ างวลั สำ� นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ปี พ.ศ. ท่ีได้รับรางวัล 2558 ช่ือผลงาน “การพัฒนานักเรียนให้เป็นมนุษย์ ท่สี มบรู ณ์โดยใช้ 4H Model ศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่” 3. ชนะเลศิ ระดบั เหรยี ญทอง OBEC AWARDS รางวลั สถานศกึ ษายอดเยยี่ มประเภทโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ประจ�ำปี พุทธศักราช 2558 จากส�ำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาข้ันพื้นฐาน ชื่อผลงาน “การน้อมน�ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในวิถีชีวิตด้วย LCEN Model โรงเรียน ศึกษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่” เวดาอร ะสมา้งร 21

ผลงานดา้ นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพอื่ การเรียนการสอน การพัฒนานักเรียนใหเ้ ปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์โดยใช้ 4H Model ศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ นายสุมนต์ มอนไข่ ผูอ้ านวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ หลักสตู รกำรศึกษำขั้น แนวคิดปรชั ญาพทุ ธศาสนาพทุ ธทาส 1. พัฒนาทักษะการดารงชีวิต พน้ื ฐำน ภิกขุ 2. ยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน การพฒั นานักเรียนใหเ้ ป็นมนุษยท์ ่ีสมบรู ณ์โดยใช้ 4H Model 3. ความพงึ พอใจของนักเรยี น ครู หลักปรัชญาเศรษฐกจิ และผปู้ กครอง พอเพยี ง แนวคดิ การจดั การศกึ ษา 4 H 4H Model ศึกษำสงเครำะหเ์ ชียงใหม่ หมำยถงึ รปู แบบใน การพัฒนานักเรียนให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ หมายถึง การทาให้ กำรจัดกจิ กรรมเพ่อื พฒั นำนกั เรียนในโรงเรียนศึกษำ นักเรียนในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เป็นคนเก่ง เปน็ คนดี สงเครำะห์เชยี งใหม่ ใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ทีส่ มบรู ณ์ มีความสุข มีทกั ษะในการดารงชีวติ มผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นสูงข้นึ H– Head สติสปิปญั ัญญญา ำ (พุทธิศึกษำ) หลกั ไตรรงค์ กำรเรียนรู้ทำง สมรรถภำพทำงกำย H – Heart คณุ ธรรม จริยธรรม (จริยศึกษำ) สตปิ ญั ญำ ส่งเสริมสขุ นสิ ยั H- Hands งำนอำชีพ งำนศลิ ปะ (หตั ถศกึ ษำ) H– Health สุขภำพและสุขนสิ ัย (พลศกึ ษำ) สุนทรียภำพ กกิจจิ กมกรรรรม หลักโภชนำกำร สรำ้ งเสริมภำวะผนู้ ำ การดาเนินงานพัฒนานวตั กรรม ใช้วงจร เดมมิ่ง PDCA 1. Plan - ประชมุ กำหนดกจิ กรรม กำรวดั ผลประเมนิ ผล อนรุ ักษพ์ ลังงำนและสิง่ แวดลอ้ ม สง่ เสรมิ อำชพี ท้องถนิ่ และผูร้ บั ผดิ ชอบ 2. Do - ดำเนินจดั กิจกรรม ครู นกั เรียน ผปู้ กครอง วดั 3. Check - ตรวจสอบกำกับ ติดตำม ประเมินบริบท ปจั จยั นำเขำ้ กระบวนกำร ผลผลติ ผมู้ สี ่วนร่วมพฒั นานวตั กรรม 4. Action - กำหนดเป็นมำตรฐำน และปรับปรงุ ให้ดยี ิ่ง ชมุ ชน สมาคมศิษย์เก่า ผลกำรใช้นวัตกรรม 1. นกั เรียน เก่ง ดี มีสขุ O-NET สูงข้นึ เกง่ กีฬำและมคี ุณธรรม 1. ได้รบั การคดั สรรเป็นผลงานหนง่ึ โรงเรียน หนง่ึ นวตั กรรม 2. ครไู ดร้ บั รำงวัล ผสู้ อนยอดเย่ียมกีฬำ ประเภทลู่ ยกนำ้ หนกั “ระดับเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา” OBEC AWARDS 3. ผ้อู ำนวยกำรได้รบั รำงวลั “คนดีศรดี อนแก้ว” และศิษย์เก่ำ 2. เปน็ ศนู ย์บ่มเพาะความเปน็ เลิศด้านกีฬา ยกน้าหนัก มวย กรฑี า ดีเดน่ มหำวิทยำลัยรำชภฎั เชียงใหม่ 3. เปน็ ศนู ยน์ กั ธรุ กิจน้อยมคี ุณธรรมน้าสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 4. โรงเรยี นผำ่ นกำรประเมินรอบสำม 5. โรงเรียนได้รบั รำงวลั OBEC AWARDS และโรงเรยี น 4.เผยแพรผ่ ลงานในเวบ็ ไซด์ สง่ เสรมิ คุณภำพระดบั เหรียญทอง http://www.youtube.com/watch?v=D1RiICkMMvA&feature 6.โรงเรียนส่งเสรมิ สขุ ภำพระดับทองอย.นอ้ ยชมรมเด็กไทยดเี ยย่ี ม =youtu.be 7. โรงเรยี นชนะเลศิ กำรประกวดกลุ่มยวุ เกษตรกรดีเดน่ ระดบั ภำค ปี 2557 22 เวดาอร ะสมา้งร

4. ชนะเลิศระดับเหรียญทอง OBEC AWARDS รางวัล ผู้อ�ำนวย การสถานศึกษายอดเย่ียมประเภทโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ด้านบริหาร จัดการ ประจ�ำปี พุทธศักราช 2558 ช่ือหน่วยงานที่ให้รางวัล ส�ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ปี พ.ศ. ทไี่ ดร้ บั รางวลั 2558 ผอู้ ำ� นวย การสุมนต์ มอนไข่ ได้ ด้านบริหารจดั การ โดยใช้ SUMON Model 3. ชนะเลศิ ระดบั เหรียญทอง OBEC AWARDS รางวลั สถานศกึ ษายอดเยย่ี มประเภทโรงเรียน ศึกษาสงเคราะห์ ดา้ นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพอื่ การเรียนการสอน ประจาปี พทุ ธศักราช 2558 จากสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พนื้ ฐำน ชอ่ื ผลงำน “กำรน้อมนำหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในวิถีชีวติ ด้วย LCEN Model โรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชยี งใหม่” 4. ชนะเลิศระดับเหรียญทอง OBEC AWARDS รางวลั ผู้อานวยการสถานศึกษายอดเยี่ยมประเภทโรงเรยี น ศึกษาสงเคราะห์ ด้านบริหารจัดการ ประจาปี พุทธศักราช 2558 ช่อื หน่วยงานทใ่ี ห้รางวลั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำน ปี พ.ศ. ทไ่ี ดร้ ับรางวัล 2558 ผ้อู านวยการสุมนต์ มอนไข่ ได้ ดำ้ นบริหำรจัดกำร โดยใช้ SUMON Model เวดาอร ะสมา้งร 23

ผลสำ� เรจ็ น�ำ P L C สู่สถานศกึ ษา ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ แนวคดิ การสรา้ งชมุ ชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพ “การยอมรบั ซง่ึ กนั และกนั นำ� มาซงึ่ ความสำ� เรจ็ ของการเปน็ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรใู้ นโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม”่ PLC ในโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหมม่ งุ่ ความสำ� คญั ในการสรา้ งวฒั นธรรมรว่ มกนั ความจรงิ ใจของสมาชกิ และการดำ� เนินการอยา่ งต่อเนอ่ื ง มุ่งเนน้ สะทอ้ นผลการปฏบิ ัติร่วมกัน เสนอแนะแนวทาง เพ่ือพฒั นาผู้เรียน บทบาท ของครู PLC เปลี่ยนจากการท่ีเน้นการสอนของครูเป็นเน้นท่ีการเรียนรู้ของผู้เรียน สมาชิกใน PLC จึงต้องร่วมกันคิด หาวธิ กี ารใหมๆ่ แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั โดยทกุ คนมคี วามเชอื่ มน่ั ในตนเอง เชอ่ื มน่ั ซง่ึ กนั และกนั มบี รรทดั ฐาน คา่ นยิ ม ร่วมกัน ร่วมกันรบั ผดิ ชอบตอ่ การเรียนรู้ของผเู้ รียน “การรวมตวั รวมใจ รวมพลงั เรียนรูร้ ่วมกนั ของบคุ ลากร” PLC ในโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ประกอบดว้ ย 3 กลุ่มงาน ดงั นี้ 1. กลุ่มทักษะด�ำรงชีวิต ได้ใช้กระบวนการ Coaching and Mentoring เป็นการจับคู่ครูเรือนนอนท่ีมี ประสบการณ์ในการบรหิ ารจัดการนกั เรยี นเรอื นนอน กับครูที่อายุน้อยยงั ไม่มีประสบการณ์ 2. กล่มุ งานวิชาการ ได้ใชก้ ระบวนการ Lesson Study เป็นการจบั คบู่ ดั ด้ี โดยครูในกลุม่ สาระ หรอื สอนระดบั ชนั้ เดยี วกนั รว่ มพจิ ารณาแผนการจดั การเรยี นรู้ สงั เกตชน้ั เรยี น สะทอ้ นผลการสงั เกตชนั้ เรยี น ปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรยี นรู้ และไดแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ทเี่ ป็นผลผลติ 3. กลุ่มงานอาชีพ ได้ใช้กระบวนการ Coaching and Mentoring เป็นการจับคู่ครูที่มีประสบการณ์ในการ บริหารจัดการงานอาชีพในโรงเรียน กับครูที่อายุน้อยยังไม่มีประสบการณ์ โดยใช้กระบวนการ Coaching and Mentoring โดยได้จัดใหม้ กี ารสะทอ้ นประสบการณ์จากเรือ่ งเลา่ ในการฝกึ งาน สร้างสรรคง์ านอาชพี รว่ มกับนักเรียน แนวคิดการสร้างชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวชิ าชพี “การยอมรบั ซง่ึ กนั และกนั นำ� มาซงึ่ ความสำ� เรจ็ ของการเปน็ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรใู้ นโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ ใชกระบวนการ Lesson study Coaching and Mentoring มขี ั้นตอนการท�ำงานตามแผนภาพดังน้ี • ชแ้ี จงครู PLAN • Lesson Study • ครสู มคั รใจเข้ารว่ ม • Coaching • ให้ความรู้ • Mentoring • กำ� หนดรปู แบบ DO การพฒั นา ACTION CHECK • ปรบั ปรุงข้อบกพร่อง • สอบถามปัญหา 24 เวดาอร ะสมา้งร

1. Lesson Study เป็นการจับคู่บัดด้ีในการจัดท�ำแผนการจัดการเรียนรู้ ท้ังในกลุ่มสาระเดียวกัน ระดับช้ัน เดียวกัน ร่วมกันประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ สังเกตช้ันเรียน พร้อมกับการสะท้อนผลการประเมิน การสังเกตช้ัน เรียน จนได้มีการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ และได้แผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำ� สู่เศรษฐกจิ สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลผลิต 2. การช้แี นะ (Coaching) เปน็ การดำ� เนินการท่ใี ช้ความสัมพันธแ์ บบรายบุคคลหรือกลุม่ ย่อยทีม่ ี ผทู้ ำ� หนา้ ทช่ี แี้ นะ (Coach) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผรู้ บั การชแ้ี นะ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายการทำ� งาน แกป้ ญั หาการทำ� งาน พฒั นา ความรู้ความสามารถ โดยครูท่ีจับคู่หรือจับกลุ่มกันน�ำชิ้นงานที่สร้างข้ึนมารับการชี้แนะแบบเพื่อนช้ีแนะ ผลัดกันท�ำ หน้าท่ีเป็นผู้ช้ีแนะและผู้รับการชี้แนะ ร่วมกันวิเคราะห์และให้ข้อมูลย้อนกลับเพ่ือให้ครูตัดสินใจในการปรับปรุงการ สร้างสรรค์ผลงาน การตลาด การบรรจุภัณฑ์ หาแนวทางในการต่อยอดผลงาน หรือใช้การชี้แนะแบบสะท้อนคิดซึ่ง เป็นการชี้แนะที่ให้ครูสะท้อนความสามารถของตนเพ่ือหาจุดที่ต้องการความช่วยเหลือในการน�ำความรู้ไปใช้ในการ สรา้ งสรรคผ์ ลงาน แก้ปัญหาผลงาน และพัฒนาความสามารถในการปฏบิ ัติงาน 3. ระบบพ่ีเลี้ยง (Mentoring) เป็นการพัฒนาครูโดยผู้มีประสบการณ์ มีความสามารถหรือผู้ท่ีได้รับความ นับถือ เรียกว่าพี่เลี้ยง (mentor) พัฒนาผู้ที่เข้ามาท�ำงานใหม่หรือมีประสบการณ์น้อยกว่า เรียกว่า mentee อาจจับคู่ เป็นรายบุคคล หรือกลุ่มย่อย มาท�ำงานร่วมกัน ปรึกษาหารือกันทางด้านวิชาการ การสร้างผลงาน การผลิตชิ้นงาน ของนักเรยี น การจัดการเรยี นการสอน การดำ� เนนิ ชีวิต แลกเปล่ียนข้อมูลความรู้ การปฏบิ ัติงาน จากเทคนิคกระบวนการขยายผลภายในและภายนอกโรงเรียน ของธุรกิจน้อยมีคุณธรรมน�ำสู่เศรษฐกิจ สร้างสรรค์ โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือ PLC (Professional Learning Community) ท�ำให้นักเรียนได้รับ ความรแู้ ละประสบการณโ์ ดยตรง จากการฝกึ ฝนประกอบอาชพี ตง้ั แตก่ ารวางแผน กระบวนการผลติ การแกป้ ญั หา ตลอดจนถึงกระบวนการจัดจ�ำหน่าย นักเรียนสามารถ “คิดเป็น ท�ำได้ ขายเป็น” อย่างมีคุณธรรม มีทัศนคติท่ีดีต่อ งานอาชพี ซ่ึงเป็นไปตามปรชั ญาของโรงเรยี นทก่ี ล่าววา่ “ ความรู้คู่คณุ ธรรม น�ำอาชีพ ” PLC เปรยี บเสมอื นเครอ่ื งมอื สำ� หรบั ครใู หร้ วมตวั กนั เปน็ ชมุ ชน (community) และกอ่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง ในระดบั การปฏริ ูปการเรยี นรู้ เพ่ือพฒั นาการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นและพฒั นาวิชาชพี ครู จากการที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่เป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ก่อให้เกิด ฐานการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การบูรณาการ STEM ศึกษาเพ่ือการพัฒนาอาชีพเชิงพาณิชย์ มโี รงเรียนเครือข่ายชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ เวดาอร ะสมาง้ ร 25

26 เวดาอร ะสมาง้ ร

ศูนย์แกนนำ� ขยายเครือข่ายนักธรุ กจิ น้อย มคี ณุ ธรรมน�ำสู่เศรษฐกจิ สร้างสรรคผ์ นู้ ำ� คุณภาพอาชีพสอู่ าเซยี น “จากการเดินทางหลายพันไมล์เพือ่ ไปเผยแพร่ผลงานทเ่ี กิดจากการสั่งสมประสบการณ์การสอนงานอาชพี ท้ังในและ ตา่ งประเทศเพ่ือนำ� มาขยายผลสรา้ งเครอื ข่ายพฒั นาการสง่ เสรมิ การสอนด้านอาชพี ” โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มีนักเรียนตั้งแต่ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 เปน็ โรงเรยี นประเภทอยปู่ ระจำ� และไป-กลบั ตามนโยบายของสำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวง ศกึ ษาธกิ าร ทใี่ หโ้ อกาสสำ� หรบั เดก็ ดอ้ ยโอกาส 10 ประเภท จดั การศกึ ษาตามปรชั ญาของโรงเรยี น “ ความรคู้ คู่ ณุ ธรรม นำ� อาชพี ” เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ดอ้ ยโอกาสในเขตพนื้ ทบ่ี รกิ ารทางการศกึ ษาไดร้ บั โอกาสทางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน มคี ณุ ธรรม และดำ� รงชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรยี นจดั การศกึ ษาตามหลกั สตู ร แกนกลาง และมุ่งเน้นการส่งเสริมงานอาชีพอย่างหลากหลาย เพ่ือให้นักเรียนสามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียน ได้เรียนรู้ด้านธุรกิจ สร้างสรรค์ช้ินงาน ให้นักเรียนมีความสามารถ “คิดเป็น ท�ำได้ ขายเป็น” อย่างมีคุณธรรม โดยปลูกฝังให้ผู้เรียนยึดหลักคุณธรรม 5 ประการคือ ขยัน ซ่ือสัตย์ อดทน มุ่งมั่น และกตัญญู มีทัศนคติท่ีดีต่อ งานอาชีพ และเป็นการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนท่ีสอดคล้องกับแนวคิดของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และการเตรยี มเยาวชนในการกา้ วสปู่ ระชาคมอาเซยี นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และตามวสิ ยั ทศั นข์ องโรงเรยี น “จดั การศกึ ษาให้ ผเู้ รยี นมคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา มที กั ษะการดำ� รงชวี ติ พรอ้ มกา้ วสปู่ ระชาคมอาเซยี น” เกดิ ความตระหนกั รู้ เก่ียวกับ ความถนัด และศักยภาพของตนเอง สามารถมองเห็นภาพอนาคตเก่ียวกับอาชีพของตน โดยปรับการเรียน เวดาอร ะสมา้งร 27

การสอน ให้นักเรียนได้รับโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์ในวิชาชีพต่างๆ อย่างหลากหลาย ฝึกทักษะท่ีจ�ำเป็น และเตรียมคุณลักษณะท่ีดี เพื่อการประกอบอาชีพได้สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจและศักยภาพของตนเอง ศูนย์แกนน�ำขยายเครือข่ายนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรมน�ำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ “ผลิตภัณฑ์เด็กดอย” ถือเป็นศูนย์บ่ม เพาะความเปน็ เลศิ ทางดา้ นงานอาชพี เนอื่ งจากประสบผลสำ� เรจ็ ในดา้ นการฝกึ ทกั ษะอาชพี ใหแ้ กน่ กั เรยี น เปน็ การ สร้างวัคซีนเพ่ือเป็นภูมิคุ้มกันในเร่ืองของ ทักษะฝีมือความช�ำนาญการในด้านงานอาชีพ ท่ีนักเรียนสามารถน�ำไป ตอ่ ยอดสรา้ งอาชพี หรอื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั สามารถดำ� รงชวี ติ อยไู่ ดใ้ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ และมคี ณุ ภาพ แมโ้ ดยพน้ื ฐานทางสงั คมจะมคี วามแตกตา่ ง ภายใตเ้ งอื่ นไขคณุ ธรรม 5 ประการคอื ซอ่ื สตั ย์ ขยนั อดทน มงุ่ มนั่ กตญั ญู ส่งเสริมในเร่ืองการน้อมน�ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การออกแบบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบรรจุภัณฑ์ การสร้างแบรนด์สินคา้ การเขยี นstory telling และการสรา้ งความตระหนักในเร่อื งของทรัพยส์ นิ ทางปัญญา โรงเรยี นไดเ้ รม่ิ ดำ� เนนิ งานโครงการนกั ธรุ กจิ นอ้ ยมคี ณุ ธรรม นำ� สเู่ ศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ ตงั้ แตป่ กี ารศกึ ษา 2553 โดยจัดงานอาชีพเป็นรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมชุมนุม กิจกรรม สอร. กิจกรรมทักษะการด�ำรงชีวิต กิจกรรมลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้ บูรณาการหลักการของโครงการนักธุรกิจน้อยฯ ลงในค�ำอธิบายรายวิชาในโครงสร้างรายวิชาและ ในกิจกรรมการเรียนการสอน ปัจจุบันศูนย์ฯ สามารถสร้างเครือข่าย ภายในโรงเรียนเริ่มต้ังแต่ นักเรียน ฝึกทักษะ สร้างนักเรียนแกนน�ำสามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ด้านงานอาชีพ ครูแกนน�ำ พัฒนาความรู้ความสามารถ ด้านทักษะอาชีพและการสร้างหลักสูตร จนมีความสามารถทางด้านการเป็นวิทยากรอบรมหลักสูตรงานอาชีพ การน�ำหลักการของโครงการนักธุรกิจน้อยฯ ลงสู่การจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบมีการจัดแบ่งงานอาชีพ ออกเป็นกลุ่มงาน แต่ละกลุ่มงานมีฐานฝึกของแต่ละอาชีพ ขณะนี้มีกลุ่มงานอาชีพท้ังหมด 6 กลุ่มงาน 23 ฐานฝึก อาชีพ ได้แก่ 1. กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม จ�ำนวน 6 ฐานการเรยี นรู้ ได้แก่ 1) เกษตรผสมผสาน 2) เกษตรอนิ ทรยี ์ 3) โรงสีขา้ วพระราชทาน 4) การเลย้ี งไก่เนอื้ 5) การเล้ียงปลา 6) การเลย้ี งกบ 2. กลมุ่ อาชพี คหกรรม จำ� นวน 6 ฐานการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ 1) การแปรรปู ผลผลิตการเกษตร 2) อาหารและเครอ่ื งดืม่ 3) การผลติ นมถ่วั เหลอื ง 4) ผลิตภัณฑ์ลายปกั ชาวเขา 5) หัตถกรรมเสน้ เชือก 6) เสน้ ฝา้ ยลายปกั 3. กลุม่ อาชพี พาณิชยกรรม จำ� นวน 5 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ 1) ศนู ย์นกั ธุรกิจน้อย มีคุณธรรม น�ำสเู่ ศรษฐกิจ สรา้ งสรรค์ 2) กิจกรรมโรงเรียนธนาคาร 3) ผลติ ภณั ฑ์ท�ำความสะอาด 4) เดก็ ดอยรสี อรท์ 5) การเรยี นรู้ เด็กดอยสปา 4. กลมุ่ อาชีพอตุ สาหกรรม จำ� นวน 3 ฐานการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ เดอะม้ง28 ว า ร ส1)ากรารผลิตกระเบือ้ งซเี มนต์

2) การผลติ ไมเ้ ทยี มหนิ เทียม 3) ช่างเช่อื มโลหะ 5. กลุ่มอาชีพความคดิ สรา้ งสรรค์ จำ� นวน 3 ฐานการเรยี นรู้ ได้แก่ 1) งานศลิ ปส์ รา้ งสรรค์ 2) นาฏศลิ ป์สัมพนั ธ์ 3) กจิ กรรมดนตรเี ดอะม้ง โดยโรงเรยี นมกี ระบวนการดำ� เนนิ งาน การขยายผลภายในและภายนอกโรงเรยี น ของนกั ธรุ กจิ นอ้ ยมคี ณุ ธรรม น�ำสู่เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ โดยการสรา้ งชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี หรือ PLC เครือขา่ ยภายนอก ชมุ ชน เปน็ แหลง่ ศกึ ษาดงู านและเปน็ ศนู ยใ์ หค้ ำ� ปรกึ ษา ดา้ นการพฒั นารวมไปถงึ เปน็ วทิ ยากรทป่ี รกึ ษาใหก้ บั วสิ าหกจิ ชุมชนในจงั หวดั เชยี งใหม่ หนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน เปน็ แหลง่ ศกึ ษาดงู านของมหาวทิ ยาลยั ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศในภาค พื้นเอเชยี รวมเป็นศูนย์ประสานงานทางด้านการพฒั นาทกั ษะอาชพี แกผ่ ้สู นใจ นอกจากนี้ยังสร้างเครือข่ายให้กับโรงเรียนในส�ำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษจ�ำนวน 21 โรงเรียน 17 จงั หวดั ภาคเหนอื โดยศนู ยแ์ กนนำ� ขยายเครอื ขา่ ยมหี นา้ ทก่ี ำ� กบั นเิ ทศตดิ ตามการดำ� เนนิ งานของศนู ยเ์ ครอื ขา่ ย ในเรอื่ ง ของการจัดการเรียนการสอนการสร้างหลักสูตรอาชีพรวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อันเกิดมาจากการจัดกิจกรรม การเรยี นการสอน และในปจั จุบนั ยังสามารถขยายเครอื ข่ายไปสู่ สพม. 34 สพป. เชียงใหม่เขต 2 ซ่งึ ให้ความสนใจ ในเรื่องของหลักสูตรงานอาชีพมากขึ้นหลายหลายโรงเรียนสนใจขอเข้าเป็นโรงเรียนเครือข่ายเพ่ือที่จะให้ศูนย์ของ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ เขา้ ไปกำ� กบั นเิ ทศตดิ ตามดผู ลการดำ� เนนิ งานรวมถงึ ผลสำ� เรจ็ ของศนู ยเ์ ครอื ขา่ ย นอกจากน้ีศูนย์นักธุรกิจน้อย ยังประสบผลส�ำเร็จในการด�ำเนินงานของศูนย์ ได้รับโล่รางวัลเกียรติบัตรรวมถึง เงินมูลค่า 50,000 บาท ในงาน “ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมเยาวชนไทย ปี 2558 : THTA-OBEC Craft Fair 2015” เพื่อเป็นการเผยแพร่และส่งเสริมการจัดการศึกษาด้านงานอาชีพของนักเรียนในโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม น�ำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของ สพฐ. ต่อสาธารณชน ทั้งน้ีเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ครูผู้สอนสามารถพัฒนาการเรียน การสอนงานอาชพี ใหม้ คี ณุ ภาพสงู ขนึ้ และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดฝ้ กึ ประสบการณก์ ารทำ� งาน การเปน็ ผปู้ ระกอบการ ในสถานท่ีจริง นักเรียนได้เรียนรู้การท�ำงานเป็นทีม ฝึกความอดทน ตรงต่อเวลา เกิดความมั่นใจในตนเอง สามารถ น�ำประสบการณ์และความรู้ท่ีได้รับไปปฏิบัติเกิดผลได้จริงในการสร้างงานสร้างอาชีพและมองเห็นแนวทาง การประกอบอาชีพในอนาคตได้ ณ ศูนยก์ ารค้าอัมรินทรพ์ ลาซ่า เวดาอร ะสมาง้ ร 29

จากผลการด�ำเนินงานของศูนย์ขยายเครือข่ายฯ ประสบผลส�ำเร็จสร้างช่ือเสียงไปไกลถึงระดับนานาชาติ ไดน้ ำ� ผลงานไปจดั แสดงและนำ� เสนอการจดั การเรยี นการสอนในหลายประเทศ อาทเิ ชน่ ประเทศเกาหลใี ต้ ประเทศ ภูฏาน และประเทศลาว นอกเหนือจากการเป็นเป็นศูนย์ฝึกงานอาชีพให้กับเครือข่ายในประเทศแล้วยังขยาย ไปสู่กลุ่มประเทศอาเซียนโดยผ่านทาง สมาคม YMCA ในลักษณะของการน�ำเอาบุคลากร ประเทศต่างๆ เช่น พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาฝึกทักษะอาชีพในโรงเรียน หรือแม้แต่การเชิญวิทยากรคุณครูวิทยากรไปสอนยังประเทศ ท่มี คี วามตอ้ งการพฒั นาคณุ ภาพของผลิตภัณฑ์ในชุมชนของประเทศนั้นน้นั 30 เวดาอร ะสมาง้ ร