Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e bookอาหาร

e bookอาหาร

Published by punnawat_p, 2021-11-29 17:05:28

Description: e bookอาหาร

Search

Read the Text Version

ข้าวผดั เป็นอาหารจานเดียวแบบพ้ืนฐานของเอเชีย เป็นการนา ขา้ วสวยลงไปผดั คลุกกบั ซอส หรือน้าพริก หรือเคร่ืองปรุงรสต่างๆ เพ่อื ใหไ้ ดร้ สชาติ เช่น ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก, ซีอว๊ิ ดา หรือซอส ถวั่ เหลือง และมีการใส่เน้ือสัตวช์ นิดต่างๆ ลงไป เช่น หม,ู ไก,่ ปลาหมึก, ปู และกงุ้ เป็นตน้ โดยเรียกช่ือขา้ วผดั ชนิด น้นั ๆ ตามชื่อเน้ือสตั วท์ ่ีใส่ลงไป และอาจใส่ไขล่ งไปผสมดว้ ย หรือ อาจโปะไข่ดาวแต่งหนา้ เพ่มิ เติม สาหรับผกั ท่ีใชน้ ิยมใชผ้ กั คะนา้ และ โรยหนา้ ดว้ ยตน้ หอมสบั แตส่ าหรับขา้ วผดั ปูจะไม่ใส่คะนา้ นอกจากน้ีขา้ วผดั ที่ผดั กบั น้าพริกชนิดต่างๆ กอ็ าจเรียกชื่อตาม น้าพริกน้นั ๆ เช่น ขา้ วผดั น้าพริกนรก เป็นตน้ ขา้ วผดั นิยมปรุงรสดว้ ยพริกน้าปลา และน้ามะนาวบีบ

ลาบ เป็นอาหารทอ้ งถ่ินทางภาคเหนือและภาคอีสาน (รวมถึงประเทศลาวและสิบสองปันนา) โดยนาเน้ือ เคร่ือง ใน และหนงั มาสบั ใหล้ ะเอียดแลว้ คลุกกบั เคร่ืองปรุง ซ่ึง เน้ือท่ีมาทาลาบเป็นเน้ือหลายชนิด เช่น เน้ือไก่ เน้ือ เป็ด เน้ือววั เน้ือควาย เน้ือปลา เน้ือหมู และเน้ือนก นอกจากน้ียงั สามารถลาบสตั ว์ จาพวก กวาง เช่น ละมงั่ กระจง เกง้ หรือแมแ้ ต่บ้ึง [1]ก็ นามาลาบไดเ้ ช่นกนั ลาบนิยมกินคู่กบั ขา้ วเหนียว

แกงส้ม หรือ อาซัมเรอบซุ (มลาย:ู Asam rebus) หรือ แกงเปรี้ยวไทย/ลาว/มาเลเซีย[1] เป็นอาหารประเภทแกงท่ี เป็นท่ีนิยมในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต[้ 2] ซ่ึงครบรสโดยมีรส เปร้ียวนา ตามดว้ ยเผด็ หวาน เคม็ ใส่น้าพริกแกงส้ม ผกั และ เน้ือสัตว์ ทาโดยใช้ น้าพริกแกงส้มละลายน้า ตม้ ใหเ้ ดือด ใส่ผกั และ เน้ือสตั ว์ ปรุงรสดว้ ย น้ามะขาม น้าตาลป๊ี บ เกลือ และวตั ถดุ ิบ พ้นื บา้ นท่ีใหร้ สเปร้ียว

การน่ึง หรือ การอบไอนา้ เป็นกระบวนการทาอาหารให้ สุกโดยการผา่ นความร้อนจากไอน้า[1] จากการตม้ น้าใหถ้ ึง จุดเดือด การน่ึงเป็นกระบวนการทาอาหารที่เหมาะสมกบั อาหารเกือบทุกชนิด ซ่ึงสามารถรักษาและคงความช้ืนไวใ้ น อาหารไดเ้ ป็นอยา่ งดี ปลาน่ึงซีอิ๋วคือการใชป้ ลานามาทาการ อบไอน้าให้เน้ือนุ่ม แลว้ ราดดว้ ยซอสซีอิ๋ว

ปลาทรายทอดขมิ้น เป็นอาหารพ้นื บา้ นทางภาคใต้ แต่ที่ไดร้ ับความนิยมจะ เป็นเมนูปลาทรายทอดขมิ้น โดยใชว้ ตั ถุดิบหลกั เป็นขมิน้ ซ่ึงมีสารตา้ น อนุมูลอิสระ ฆา่ เช้ือแบคทีเรีย ป้องกนั และรักษาโรคกระเพาะอาหาร ขบั ลมทอ้ งอืด วิธีการทาจะนาขมิ้นมาโขลกรวมกบั พริกไทย กระเทียม กะปิ และ ใส่เกลือเลก็ นอ้ ยแลว้ นามาหมกั ปลาทรายไวส้ กั ครู่ นาไปทอดดว้ ยใหห้ นงั ปลากรอบและแตเ่ น้ือดา้ นในสุกนุ่ม ทานกบั ขา้ วสวยร้อนๆและน้าจิ้มซีฟู้ด

ไตปลา (ภาคกลาง) หรือ พุงปลา (ภาคใต)้ เป็นการถนอม อาหารแบบหมกั ดองชนิดหน่ึง โดยใชก้ ระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลงั ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่น ๆ มาหมกั กบั เกลือ โดยนาข้ีและดีออกจากกระเพาะกอ่ น หมกั ไว้ 10 - 30 วนั กใ็ ชไ้ ด้ ไตปลาท่ีหมกั ไดท้ ่ีจะเหลวและมีมนั ไหลออกมา นาไปทาเป็นอาหารไดห้ ลายชนิด เช่น ไตปลาที่เป็นเคร่ืองจิ้ม คลา้ ยน้าพริกของทางภาคกลาง หรือแกงพงุ ปลาท่ีเป็นอาหารท่ีมี ชื่อเสียงของจงั หวดั พทั ลุง นอกจากน้นั ยงั นาไตปลาไปผดั กบั น้าพริกแกง ใส่ปลาจิ้งจา้ งและผกั เรียกไตปลาแหง้ [1]

ก๋วยเตีย๋ วเรือ หรือ ก๋วยเตยี๋ วนา้ ตก คือก๋วยเต๋ียวแบบไทยชนิด หน่ึง มีรสชาติจดั จา้ น น้าก๋วยเตี๋ยวสีขน้ คลา้ ยก๋วยเต๋ียวเน้ือหรือ ก๋วยเต๋ียวเน้ือตุ๋น เพราะใส่เคร่ืองปรุงท่ีต่างจากก๋วยเต๋ียวชนิดอื่น คือ ซีอิ๊วดา เตา้ หูย้ ้ี และ เครื่องเทศต่างๆ เป็นตน้ อีกท้งั ยงั มี น้าตก คอื เลือดววั หรือหมูผสมกบั เกลือ สาหรับปรุงใส่ในน้า ก๋วยเตี๋ยว

ส้มตา เป็นอาหารปรุงมาจากการทาตาสม้ คือการทาใหเ้ ปร้ียว ในลาวจะเรียกวา่ ตาหมากหุ่ง ปรุงโดยนามะละกอดิบที่สบั แลว้ ฝานหรือขดู เป็นเส้นมาตาในครกเป็นหลกั พร้อมดว้ ยวตั ถดุ ิบอ่ืน ๆ คือ มะเขือเทศลกู เลก็ มะเขือสีดา มะเขือเปราะ พริกสดหรือ พริกแหง้ ถวั่ ฝักยาว กระเทียม และปรุงรสดว้ ยน้าตาล ป๊ี บ น้าปลา มะนาวและแหม่ม

ผดั ไทยเป็นอาหารท่ีไดร้ ับอิทธิพลจากอาหารจีน[4] เดิม เรียกอาหารชนิดน้ีวา่ \"ก๋วยเต๋ียวผดั \" และไดร้ ับการ เปล่ียนแปลงดา้ นรสชาติใหมต่ ามอยา่ งอาหารไทยมากข้ึน ในเวลาต่อมา

ซุปหน่อไม้ เป็นอาหารที่ทาจากผกั นามาตม้ หรือเผาไฟ แลว้ ทา ซุปโดยใส่เครื่องปรุง ไดแ้ ก่ งา ขา้ วคว่ั ผกั ท่ีมีกล่ินหอม เช่น ใบ สะระแหน่ รับประทานกบั ผกั สาหรับซุปหน่อไม้ ใชห้ น่อไมส้ ด ไผร่ วก นาไปเผาไฟแลว้ ขดู เป็นเสน้ ๆ หรือใชห้ น่อไมด้ องท่ีไส เป็นเสน้ ยาว ๆ ตม้ กบั น้าใบยา่ นางพอสุก (สงั เกตจากน้าใบยา่ นาง เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีคล้า) ตกั หน่อไมใ้ ส่ครก เติมพริกป่ น ขา้ ว ควั่ งาขาว น้าปลา น้าปลาร้าตม้ น้ามะนาว ตน้ หอมซอย หอมแดงซอย ผกั ชีฝร่ังซอย ตาเบา ๆ เวลารับประทานโรยดว้ ย ใบสะระแหน่

กลว้ ยทอดกรอบ เป็นอาหารขบเค้ียว หมายถึง ผลิตภณั ฑท์ ่ีได้ จากการนากลว้ ยดิบที่มีความแก่พอเหมาะ มาฝานบาง (slicing) หรือหนั่ เป็นรูปทรงต่างๆ เช่น เสน้ แท่ง นามาทอด (frying) อาจผสมส่วนประกอบอื่นในน้ามนั ที่ใชท้ อด เช่น น้าตาล เกลือ เนย หรืออาจคลกุ ดว้ ยเครื่องปรุงรส เช่น น้าเช่ือม เกลือ หรือวตั ถปุ รุง แต่งกล่ินรส (flavoring agent) อื่นกไ็ ด้

สเต๊ก (องั กฤษ: steak) คือชิ้นส่วนขนาดใหญข่ องเน้ือ โดยเฉพาะเน้ือววั ในปัจจุบนั เน้ือแดงอนื่ ๆ และปลานิยมตดั มาทาสเตก๊ เน้ือสเตก๊ จะตดั ต้งั ฉากกบั เอน็ ของเน้ือเพอ่ื คงความ นุ่มของเน้ือไว้ สเต๊กสามารถกินไดใ้ นลกั ษณะ ยา่ ง ทอด หรือ ตม้ ราคาของสเต๊กจะคอ่ นขา้ งสูงเปรียบเทียบ กบั เน้ือส่วนอ่ืน ซ่ึงการกินสเต๊กยงั คงแสดงถึงความร่ารวยในบาง วฒั นธรรม

สปาเกตตี (Spaghetti; ภาษาอิตาลี: [spaˈɡetti]) คือเสน้ พาสตาที่ยาว บาง แขง็ และเป็นทรงกระบอก [1] สปาเกตตีเป็นอาหารหลกั ในอาหารอติ าลีแบบด้งั เดิม สปาเกตตีเช่นเดียวกบั พาสตาอืน่ ๆ ผลิตจากขา้ วสาลีโม่ กบั น้า อาจทีบา้ งที่ผสมแป้งวติ ามินหรือแร่ธาตุ สปาเกตตีแบบอติ าลี น้นั นิยมผลิตมาจากแป้งดูรัม ที่เรียกวา่ เซโมลินา[2] สปาเกต โตนี (Spaghettoni) คือสปาเกตตีแบบที่หนากวา่ ส่วน กาเปลลินี (capellini) คือสปาเกตตีท่ีบางมาก ๆ

แหนมเนืองเป็นอาหารเวยี ดนามชนิดหน่ึงว่ึงแต่เดิมน้นั จดั เป็น อาหารของชาววงั ในประเทศเวียดนาม รับประทานในกลุ่ม บุคคลชนสูงเท่าน้นั ไมส่ ามารถหาซ้ือไดต้ ามทอ้ งตลาด กาล ต่อมาสูตรแหนมเนืองไดร้ ับมรดกตกทอดมาจากรุ่นคุณยายสู่รุ่น คุณแม่ และคุณแมไ่ ดค้ ิดดดั แปรงและปรับปรุงสูตรชาววงั ด้งั เดมมาจนสู่ยคุ คุณลกู

มสั มน่ั เป็นอาหารประเภทแกงที่ไดร้ ับอิทธิพลมาจากอาหาร มลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดน้ีวา่ ซาละหมนั่ แกงมสั มนั่ แบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตารับด้งั เดิมของชาว มุสลิมออกรสเคม็ มนั ในไทยมีวธิ ีการทาสองแบบคือ แบบไทย น้าพริกแกงมี พริกแหง้ ขา่ ตะไคร้ หอม กระเทียม ลกู ผกั ชี ยหี่ ร่า ดอกจนั ทน์ กานพลู ปรุงรสใหห้ วานนา เคม็ และอมเปร้ียว

เส้นอูดงมีตน้ กาเนิดมาจากเส้นชูเม่ียน (ภาษาจีน: 粗麵, พิน อนิ : cū miàn) ของประเทศจีน เป็นเส้นทาจากแป้งสาลี ยาว หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร นิยมทานในซุปผสม เตา้ เจ้ียว ถือเป็นอาหารภาคเหนือของจีน

พซิ ซา หรือ พซิ ซ่า[1] (อิตาลี: pizza) เป็นอาหาร อิตาลีและอาหารจานด่วนประเภทหน่ึง ซ่ึงชาวอิตาลีเป็นผู้ คิดคน้ มีลกั ษณะเป็นแป้งแผน่ กลมแบนราดดว้ ยซอสมะเขือ เทศ แลว้ ทาใหส้ ุกโดยการอบในเตาอบ

เทมปรุ ะ (天ぷら - Tempura) เป็นอาหารทอดชนิด หน่ึง ส่วนใหญ่จะนาอาหารทะเลและผกั มาชุบแป้งทอด ถกู นาเขา้ มาสู่ญี่ป่ ุนในช่วงกลางศตวรรษท่ี 16 (สมยั เอโดะ) โดย บาทหลวงและชาวโปรตุเกสที่เขา้ มาเผยแผศ่ าสนาในญี่ป่ ุน ชาว ญี่ป่ ุนเห็นกน็ ามาทาทานกนั และพฒั นาจนกลายมาเป็นเทมปรุ ะ ในปัจจุบนั

ไอศกรีม (องั กฤษ: ice cream) หรือภาษาปากวา่ ไอติม เป็นของหวานแช่แขง็ ชนิดหน่ึง ไดจ้ ากการผสมส่วนผสม นาไป ผา่ นการฆ่าเช้ือ แลว้ จากน้นั นาไปปั่นในที่เยน็ จดั เพอ่ื เติมอากาศ เขา้ ไปพร้อม ๆ กบั การลดอณุ หภมู ิ โดยอาศยั เคร่ืองปั่นไอศกรีม ไอศกรีมตกั โดยทว่ั ไปจะตอ้ งผา่ นข้นั ตอนการแช่เยอื กแขง็ อีก คร้ังก่อนนามาขายหรือรับประทาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook