คมู่ อื พฒั นาการจัดการเรียนรู้เพ่ือยกระดับผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติข้นั พน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 เอกสาร ศน. เลขที่ 42/2563 กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
ส่วนท่ี 1 บทนำ 1. เหตุผลและควำมสำคัญ กระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงความสาคัญของการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมีนโยบาย ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษาที่มีระบบเพ่ือการพัฒนาเด็กและเยาวชน ไปส่คู วามเป็นพลเมอื งท่สี มบรู ณ์ สามารถดารงตนในสังคมอย่างปกตสิ ขุ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กาหนดนโยบายการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน ใหม้ กี ารดาเนนิ งานดา้ นผเู้ รียน คอื นักเรยี นตอ้ งมสี มรรถนะสาคัญสู่มาตรฐานสากล ประชากร ในวัยเรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานต้องได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ มีความรู้ ความสามารถ ตามมาตรฐานสากล มีทักษะที่จาเป็นในการประกอบอาชีพเต็มตามศักยภาพของตนและพัฒนาสู่คุณภาพ ระดับมาตรฐานสากลบนพ้ืนฐานความเป็นไทยและกาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ท่ี 1 ด้านการพัฒนาผู้เรียน ทุกระดับทุกประเภท โดยมีกลยุทธ์ท่ีสาคัญในการเร่งรัดการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและกาหนด ตัวชี้วัดความสาเร็จระดับสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คือค่าเฉลี่ยร้อยละ ของผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีการประเมินและผลการทดสอบความสามารถพ้ืนฐาน ของผู้เรียนระดับชาติ (NT) นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เพิ่มข้ึนไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 เมื่อเทียบ กบั ปกี ารศกึ ษาท่ผี า่ นมา สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ได้นารูปแบบอัตนัย เขียนตอบมาใช้ในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย ของนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 – ปัจจุบัน ซึ่งมีจานวน 2 ข้อ (ข้อละ 10 คะแนน) คิดเป็น รอ้ ยละ 20 ของคะแนนท้ังหมด ประกอบดว้ ย การเขียนเรอื่ งจากภาพและการเขยี นสรปุ ใจความสาคัญ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 มีค่าเฉลี่ยคะแนนข้อสอบรูปแบบอัตนัย เขียนตอบ วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยในปีการศึกษา 2559 มีค่าเฉลี่ย 11.35 ปีการศึกษา 2560 มีค่าเฉล่ีย 9.53 ปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉล่ีย 10.95 และปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ย 11.05 ซงึ่ มพี ัฒนาการดขี ึ้นตามลาดับ แต่ยงั มโี รงเรยี นจานวน 78 โรงเรยี นท่มี ีคา่ เฉล่ียต่ากวา่ ระดับเขตพ้ืนที่ การศึกษา เพ่ือให้ค่าเฉลี่ยคะแนนข้อสอบรูปแบบอัตนัยเขียนตอบสูงข้ึน กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล การจัดการศึกษาได้จัดทาคูม่ ือพฒั นาการจดั การเรียนรู้เพ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 เพ่อื ให้ครผู ูส้ อนประยุกต์ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นตอ่ ไป คูม่ ือพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพ่อื ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ั้นพนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2563
2 2. วัตถปุ ระสงค์ เ พื่ อ ใ ห้ ค รู ผู้ ส อ น น า ไ ป ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ คู่ มื อ เ ป็ น แ น ว ท า ง พั ฒ น า ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ เ พื่ อ ย ก ร ะ ดั บ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ปีการศึกษา 2563 3. กลมุ่ เปำ้ หมำย สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 ดาเนินการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัย เขียนตอบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 โดยกาหนดกลุ่มเป้าหมาย คือ ครูผู้สอนกลุ่มสาระ การเรยี นรูภ้ าษาไทยช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ทกุ โรงเรยี นในสงั กดั 4. นยิ ำมศพั ทเ์ ฉพำะ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 ได้กาหนด นิยามศัพท์ไว้ ดงั น้ี รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ หมายถึง ข้อสอบท่ีต้องเขียนตอบตามความรู้และความเข้าใจของผู้สอบ อาจมีกาหนดความยาวหรือไม่มีก็ได้ การตอบข้อสอบแบบอัตนัย สามารถสะท้อนทักษะหลาย ๆ ด้าน ของผู้ตอบ เช่น ทักษะการคิด การใช้เหตุผล การอธิบาย การเขียน การเรียบเรียงความคิด การวิพากษ์วิจารณ์ แสดงเหตุผล เห็นด้วยไม่เห็นด้วย สามารถบูรณาการเน้ือหาสาระจากองค์ความรู้ จากประสบการณ์หรือจากทฤษฎี พร้อมยกตัวอย่างประกอบคาอภิปรายเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพได้ ชัดเจน เป็นจริง ลงในกระดาษคาตอบ เป็นข้อสอบที่ให้ผู้ตอบเขียนคาตอบได้อย่างเสรีตามความรู้ ความคิดเห็น ของแต่ละบุคคล ผู้ตอบต้องเรียบเรียงคาตอบให้ตรงกับคาถามที่กาหนดให้ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สารท่ี 2 การเขียน มาตรฐานท่ี 2.1 ตัวชี้วัด ป.6/2, ป.6/5 และ ป.6/8 กำรเขียนเรื่องจำกภำพ หมายถึง ข้อสอบที่มีภาพหนึ่งภาพให้ผู้เข้าสอบเขียนตามคาสั่งท่ีกาหนด โดยเขียนลักษณะเล่าเร่ือง ต้องมีเหตุการณ์ มีตัวละคร มีการเคลื่อนไหวของตัวละคร ไม่ใช่เพียงแค่อธิบาย หรือให้ข้อมูลบางอย่างของภาพหรืออธิบายลักษณะบางอย่างของภาพเท่านั้น เรื่องราวท่ีเขียนต้อ3งมี เหตุการณท์ ่ตี อ่ เนือ่ งกนั ไป กำรเขียนสรุปใจควำมสำคญั หมายถงึ ขอ้ สอบทม่ี ีบทอา่ นมาให้หนงึ่ บท โดยใหผ้ ู้เข้าสอบเขียนสรุป ใจความสาคญั จากเรื่องทอี่ า่ นตามคาสง่ั ทกี่ าหนด คูม่ ือพฒั นาการจัดการเรียนรเู้ พือ่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติข้นั พน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขยี นตอบ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
3 5. ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำน สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 การดาเนินงานพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพ่ือยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัย เขยี นตอบชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 โดยมีรายละเอยี ดตารางการดาเนินงาน ดงั นี้ วนั /เดอื น/ปี กำรดำเนินงำน 20 สงิ หาคม 2563 ศกึ ษานิเทศกร์ บั ผดิ ชอบกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา ประถมศึกษานา่ น เขต 1 ประชุมวางแผนเพอ่ื พฒั นาครผู ูส้ อนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ตามโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นโดยใชก้ ลุ่มโรงเรยี น เปน็ ฐาน 20 กันยายน 2563 โรงเรยี นในกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการการอบรมปฏบิ ตั ิการพฒั นาครูผสู้ อน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามโครงการยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น โดยใชก้ ล่มุ โรงเรยี นเปน็ ฐาน ณ ห้องประชุมเวทวี ชิ าการ สานักงานเขตพนื้ ที่ การศกึ ษาประถมศึกษานา่ น เขต 1 1 ธนั วาคม 2563 – 1. โรงเรียนในกลุ่มเป้าหมายใชค้ มู่ อื เป็นแนวทางในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ 12 มนี าคม 2564 เพอื่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขัน้ พ้นื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรปู แบบอัตนัยเขยี นตอบช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 2. โรงเรยี นในกลุม่ เป้าหมาย รับการนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การเรียนรู้ เพ่ือยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขน้ั พ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนยั เขยี นตอบชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 12 มีนาคม 2564 นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2563 21 เมษายน 2564 ประกาศผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 22 - 23 เมษายน 2564 ศกึ ษานิเทศก์รบั ผิดชอบกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษานา่ น เขต 1 วเิ คราะหผ์ ลการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้เพ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรปู แบบ อตั นยั เขียนตอบช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563 27 - 30 เมษายน 2564 ศกึ ษานิเทศกร์ บั ผิดชอบกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาน่าน เขต 1 สรุปและรายงานผลการดาเนินงาน คมู่ ือพัฒนาการจัดการเรยี นรูเ้ พอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ั้นพนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขยี นตอบชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา 2563
4 6. รปู แบบ/จำนวนขอ้ สอบและเครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในกำรประเมนิ 6.1 โครงสรำ้ งทใ่ี ช้ในกำรประเมิน โครงสร้างที่ใช้ในการประเมินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) วิชา ภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 มีรายละเอียดตามรูปแบบ/ จานวนข้อสอบ ดังน้ี คมู่ ือพัฒนาการจดั การเรียนรู้เพอื่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขนั้ พน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
5 6.2 เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมิน เครื่องมือท่ีใช้ในการประเมินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรูปแบบอตั นยั เขียนตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 มที ง้ั หมด 2 ขอ้ ได้แก่ ข้อท่ี 1 กำรเขยี นเรอื่ งจำกภำพ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ข้อท่ี 2 กำรเขยี นสรุปใจควำมสำคญั คะแนนเตม็ 10 คะแนน 7. กำรนำผลกำรประเมนิ ไปใชใ้ นกำรวินิจฉัยนักเรยี น ภายหลงั การสอบ สถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ประกาศผล การทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพืน้ ฐาน (O-NET) ระดบั รายบคุ คล ระดบั สถานศึกษา ระดบั เขตพื้นที่ การศึกษาและระดับสานักงานศึกษาธิการภาค โดยต้นสังกัด โรงเรียนและนักเรียนสามารถนาผลสอบไปใช้ พัฒนาการเรียนการสอน วางแผนการจัดการศึกษาและยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ดี ย่ิงข้ึน ซ่ึงผลการทดสอบดังกล่าวจะช่วยให้ครูผู้สอนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ทราบปัญหา จุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนา ของผู้เรียนรายบุคคล รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับผู้เรียน ในปีการศึกษาต่อไป เช่น พบว่านักเรียนส่วนใหญ่เขียนสะกดคาผิดโดยเป็นคาเดียวกัน แสดงว่า คานั้น เป็นคายากสาหรับนักเรียน ครูควรต้องปรับกระบวนการสอน ทาความเข้าใจกับนักเรียนหรือนักเรียน จับประเด็นสาคัญไม่ได้และใช้ภาษาถิ่นปะปนกับภาษาไทยกลาง ครูจะต้องสอนให้เด็กจับประเด็น และแนวคิดท่ีสาคัญเพราะเปน็ หวั ใจสาคญั และเน้นยา้ เรอ่ื งการสอนใหใ้ ชภ้ าษาอย่างถูกต้องและฝกึ ให้มากขนึ้ เปน็ ต้น 8. กำรวเิ ครำะหผ์ ลในภำพรวมของโรงเรียน ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขน้ั พนื้ ฐาน (O-NET) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรยี นสามารถ นาผลการทดสอบรายบุคคล ค่าสถิติแยกตามมาตรฐานการเรียนรู้ ค่าสถิติแยกตามสาระการเรียนรู้ ร้อยละของนักเรียนที่ตอบถูกในแต่ละข้อ จานวนร้อยละของผู้เข้าสอบจาแนกตามช่วงคะแนนและค่าสถิติ แยกตามรายวิชาไปวิเคราะห์และหาจุดบกพร่องของการเรียนการสอนในภาพรวม เช่น ฝึกนักเรียนเก่ียวกับ หลกั การเขยี นเลา่ เร่ืองจากภาพ การคัดลายมือ ตัวหนังสอื มีหวั การตรวจทบทวนงานเขยี น ฝึกนักเรยี นเขยี น ให้ถูกต้องตามอักขระ การใช้คาเชื่อมประโยค การใช้ระดับของภาษา การใช้ภาษากลางในโรงเรียนจะได้ ไม่มีภาษาถ่ินในงานเขียน ห้ามนักเรียนใช้ภาษาตาม internet และ line การมีมารยาทในการเรียน พฒั นาผเู้ รยี นให้ใสว่ รรณยุกต์หรือสระให้ถูกต้อง ไม่ใชค้ าฟมุ่ เฟือย ไม่ใช้คาทเ่ี ป็นภาษาพดู การวางสว่ นขยาย ของคา ใ นปร ะโ ยค ใ ห้ ถูก ต า แ ห น่ง ก า ร แต่ งปร ะโ ยค ก า ร เว้ นว ร ร ค ต อ นเม่ื อ จ บ ปร ะ โ ย ค การเขียนสะกดคาควบกล้าให้นักเรียนเป็นประจา ฝึกการขึ้นประโยคใหม่ด้วยคาเชื่อมที่เหมาะสม ไม่ใช้คาเชื่อมซา้ บ่อยเกนิ ไป เป็นต้น คมู่ ือพัฒนาการจัดการเรียนร้เู พ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขัน้ พืน้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขยี นตอบชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
6 ส่วนที่ 2 กรอบแนวคิดในการดาเนนิ งาน กรอบแนวคิดที่ใช้ในการดาเนินงานพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพ่ือยกระดับผลการทดสอบ ทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ัน้ พ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 คานึงถึงความสาคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตัวช้ีวัดท่ีเก่ียวข้องกับข้อสอบรปู แบบอัตนยั เขียนตอบ แนวคิดเก่ียวกับข้อสอบ รปู แบบอตั นยั เขยี นตอบ ข้อสอบรูปแบบอตั นัยเขียนตอบในการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) โดยมรี ายละเอียด ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย 1.1 ความสาคัญ ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ เปน็ สมบตั ทิ างวฒั นธรรมอันกอ่ ให้เกิดความเปน็ เอกภาพ และเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในการติดต่อสื่อสารเพ่ือสร้าง ความเขา้ ใจและความสมั พนั ธท์ ่ีดตี ่อกนั ทาใหส้ ามารถประกอบกจิ ธุระการงานและดารงชวี ิตร่วมกนั ในสังคม ประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปล่ียนแปลง ทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพั ฒนาอาชีพ ให้มีความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อท่ีแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ด้านวัฒนธรรม ประเพณี ชีวทัศน์ โลกทัศน์ และสุนทรียภาพ โดยบันทึกไว้เป็นวรรณคดีและวรรณกรรม อันล้าค่า ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาตไิ ทย ตลอดไป 1.2 เรยี นรอู้ ะไรในภาษาไทย ภาษาไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารการเรียนรู้ อย่างมีประสทิ ธิภาพและเพื่อนาไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพ่ือสร้างความเข้าใจและการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากส่ิงท่ีอ่าน เพื่อนาไปปรับใช้ ในชวี ิตประจาวัน การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนส่ือสารโดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่าง ๆ ของการเขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่าง ๆ การเขียนตามจินตนาการ วเิ คราะห์วิจารณ์และเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ คู่มอื พัฒนาการจดั การเรียนร้เู พอื่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติข้นั พน้ื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขียนตอบ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
7 การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดลาดับเร่ืองราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการ และไมเ่ ปน็ ทางการและการพดู เพอื่ โน้มน้าวใจ หลกั การใช้ภาษาไทย ธรรมชาตแิ ละกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถกู ตอ้ งเหมาะสม กับโอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์ประเภทต่าง ๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วรรณคดแี ละวรรณกรรม วเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศกึ ษาข้อมูล แนวความคดิ คุณค่า ของงานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทาความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพ้ืนบ้านท่ีเป็นภูมิปัญญาท่ีมีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เร่อื งราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่ือใหเ้ กดิ ความซาบซ้งึ และภูมิใจในบรรพบุรุษ ที่ได้สั่งสมสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบัน 1.3 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวิตและมนี สิ ยั รกั การอ่าน สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท 2.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก ในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ สาระที่ 4 หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง คู่มือพัฒนาการจัดการเรยี นร้เู พื่อยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขียนตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
8 1.4 คณุ ภาพของผูเ้ รียน จบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบาย ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั ของคา ประโยค ข้อความ สานวนโวหาร จากเรื่องท่ีอ่าน เข้าใจ คาแนะนา คาอธิบายในคู่มือต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมท้ังจับใจความสาคัญของเรื่อง ทีอ่ ่านและนาความร้คู วามคิดจากเรื่องท่อี า่ นไปตัดสินใจแก้ปญั หาในการดาเนินชีวิตได้ มีมารยาทและมีนิสัย รกั การอ่านและเห็นคณุ ค่าสิ่งทอ่ี ่าน มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสะกดคา แต่งประโยค และเขยี นขอ้ ความ ตลอดจนเขียนสอ่ื สารโดยใชถ้ ้อยคาชัดเจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรอื่ งและแผนภาพ ความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเร่ืองตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ และมีมารยาท ในการเขยี น พูดแสดงความรู้ ความคิดเก่ยี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังและดู เลา่ เรือ่ งย่อหรอื สรุปจากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู ตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรื่องที่ฟังและดู รวมทั้งประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณา อย่างมีเหตุผล พูดตามลาดับข้ันตอนเร่ืองต่าง ๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจากการฟัง การดู การสนทนา และพดู โน้มน้าวได้อยา่ งมีเหตผุ ล รวมทัง้ มมี ารยาทในการดแู ละพูด สะกดคาและเข้าใจความหมายของคา สานวน คาพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจชนิด และหน้าที่ของคาในประโยค ชนิดของประโยคและคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คาราชาศัพท์ และคาสุภาพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม แต่งประโยค แตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนสภุ าพ กาพย์ยานี 11 เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน เล่านิทานพ้ืนบ้าน ร้องเพลงพ้ืนบ้าน ของทอ้ งถ่นิ นาข้อคดิ เหน็ จากเร่ืองทอี่ า่ นไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง และทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดได้ 2. ตัวชีว้ ดั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับข้อสอบรูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ การดาเนินงานพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 กาหนดให้มีกรอบการพัฒนาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยใช้ มาตรฐานและตัวชี้วดั ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ คมู่ อื พัฒนาการจดั การเรียนรู้เพื่อยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้นั พนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขยี นตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
9 สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรอื่ งราว ในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.6 1. คัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั การคดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและ และครึ่งบรรทดั ครงึ่ บรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย 2. เขียนส่อื สารโดยใช้คาไดถ้ กู ตอ้ ง การเขียนสื่อสาร เช่น ชดั เจน และเหมาะสม - คาขวญั - คาอวยพร - ประกาศ 3. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ การเขียนแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพ ความคิดเพ่อื ใช้พฒั นางานเขยี น ความคิด 4. เขยี นเรียงความ การเขียนเรยี งความ 5. เขยี นยอ่ ความจากเรือ่ งที่อ่าน การเขียนยอ่ ความจากสือ่ ตา่ ง ๆ เช่น นทิ าน ความเรียงประเภทต่าง ๆ ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คาสอน โอวาท คาปราศรยั สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คาส่งั 6. เขยี นจดหมายส่วนตวั การเขียนจดหมายส่วนตัว 7. กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ - จดหมายขอโทษ 8. เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ - จดหมายแสดงความขอบคุณ - จดหมายแสดงความเห็นใจ - จดหมายแสดงความยนิ ดี การกรอกแบบรายการ - แบบคารอ้ งตา่ ง ๆ - ใบสมัครศึกษาตอ่ - แบบฝากสง่ พัสดุและไปรษณยี ภัณฑ์ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ และสร้างสรรค์ 9. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น คู่มือพัฒนาการจดั การเรียนรูเ้ พอื่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ น้ั พื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
10 3. ข้อสอบรูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพ่ือยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรปู แบบอัตนยั เขียนตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา 2563 ไดก้ าหนดนิยาม ความหมายไว้ ดงั น้ี 3.1 ข้อสอบรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ (Subjective or Essay test) เป็นข้อสอบท่ีมีเฉพาะ คาถามให้ผู้เข้าสอบได้เขียนคาตอบลงบนกระดาษอย่างเสรี เขียนบรรยายตามความรู้และข้อคิดเห็น ของแต่ละคนมีคาตอบถูกหลาย ๆ ทางและอาจมีความแตกต่างกันทั้งในด้านคุณภาพและความถูกต้อง ซึ่งจะต้องมีเกณฑ์การวัดและประเมินผลที่เรียกว่าเกณฑ์การประเมิน (Rubrics) ที่ชัดเจน ลักษณะ ของแบบทดสอบชนดิ น้ี แบ่งออกเปน็ 3 ลกั ษณะ คือ 3.1.1 ความเรียง (Essay type) หรือแบบปลายเปิด คือ ผู้ตอบได้เรียบเรียงความคดิ เหตุผล เจตคติ ความรู้สึกต่าง ๆ ได้โดยอิสระ ภายใต้หัวข้อหรือคาถามที่กาหนด ซ่ึงใช้วัดความสามารถ ในการสงั เคราะห์ไดด้ ี 3.1.2 แบบจากัดคาตอบ (Fixed response type) เป็นแบบทดสอบที่มีคาตอบถูก ไว้ให้ภายใต้เงื่อนไขที่กาหนดอย่างจากัด โดยทั่วไปยังแบ่งได้อีกหลายแบบ เช่น แบบถูกผิด แบบเติมคา แบบจบั คแู่ ละแบบเลือกตอบ เปน็ ต้น 3.1.3 แบบทดสอบการปฏบิ ัติ (Performance test) เป็นการทดสอบใหผ้ เู้ ขา้ สอบได้ แสดงพฤติกรรมออกมา โดยลงมือปฏิบัติจรงิ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น การทดสอบความสามารถในทางชา่ ง ทางดนตรี ทางกีฬา เปน็ ต้น สาหรบั จุดมุ่งหมายของการใช้ข้อสอบรูปแบบอัตนยั เขยี นตอบเพอื่ ให้ผเู้ ข้าสอบแสดงความสามารถ ด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และบรรยายความคิดออกมาได้อย่างเป็นอิสระและเน้นความรู้ ข้ันลึกซึ้ง ตัวอย่างเช่น ความสามารถด้านการสังเคราะห์ หรือต้องการวัดความเข้าใจในเน้ือหาท่ีเรียนมา ทั้งหมด 3.2 วิธกี ารตรวจให้คะแนนขอ้ สอบรูปแบบอัตนยั เขียนตอบ มี 2 วธิ ี คือ 3.2.1 การตรวจโดยวิธีเทียบเกณฑ์ (Analytical Method หรือ Point Method) ต้องกาหนดแนวการตอบไว้ก่อน โดยแยกแนวคาตอบออกเป็นตอนย่อย ๆ ตามความสาคัญ ฉะนั้นในการตรวจให้คะแนนโดยวิธีน้ีผู้ตรวจต้องกาหนดรายละเอียดของคาตอบไว้ก่อนที่จะทาการตรวจ ในการตรวจให้คะแนนผูต้ รวจจะนาเอากระดาษคาตอบมาเทยี บกับเกณฑ์ หรือแนวคาตอบทไ่ี ด้กาหนดไว้ว่า ตอบได้ใกล้เคียงกับแนวคาตอบเพียงใด แล้วจึงให้คะแนนเป็นรายบุคคลในการกาหนดแนวคาตอบนั้น ไมค่ วรจะมากาหนดแนวการตอบเมอ่ื จะเร่มิ ตรวจการใหค้ ะแนน ค่มู อื พัฒนาการจดั การเรียนรูเ้ พือ่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ัน้ พน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขยี นตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
11 3.2.2 การตรวจโดยวิธีจัดอันดับคุณภาพ (Global Scoring หรือ Rating Method) ผู้ตรวจจะอ่านกระดาษคาตอบของผู้เข้าสอบทุกคนทีละข้อ แล้วนาคาตอบนั้นมาจัดเป็นกลุ่ม ๆ ตามความสามารถ เช่น กลุ่มดีมาก ดี ปานกลาง พอใช้ ใช้ไม่ได้ แล้วจึงตรวจคุณภาพของคาตอบ ในแต่ละกลุ่มอีกครั้งยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มท่ีตอบดีมากน้ัน ต้องพิจารณากันอีกคร้ังว่าใครตอบดีกว่ากัน ให้เรียงอันดับของกระดาษคาตอบ ให้ติดต่อกันไปแล้วจึงให้คะแนน ใครอยู่อันดับแรกก็ได้คะแนนสูงสุด ลดนอ้ ยลงไปเป็นลาดบั การตรวจแบบนจี้ ะทาให้คะแนนมคี วามเชอื่ มน่ั มากยงิ่ ข้นึ 3.3 ข้อเสนอแนะในการตรวจขอ้ สอบรูปแบบอัตนัยเขยี นตอบ 3.3.1 ให้ตรวจคาตอบทีละขอ้ โดยไม่ตรวจใหเ้ สรจ็ เป็นรายบคุ คล 3.3.2 ให้มีความคงเส้นคงวาในการตรวจ ซ่ึงเกณฑ์ในการให้คะแนนจะเหมือนกัน สาหรับทกุ คาตอบ 3.3.3 เวลาตรวจไมค่ วรดชู ือ่ ผเู้ ข้าสอบ เพอ่ื ปอ้ งกันไมใ่ ห้เกดิ อคตใิ นขณะทต่ี รวจ 3.3.4 ควรมีผู้ตรวจ 2 คน ในแต่ละคาตอบ แล้วหาค่าเฉล่ียของคะแนนนามาเป็น คะแนนเฉลีย่ จะทาให้คะแนนมคี วามเชอื่ มัน่ มากขึน้ 3.3.5 ควรสุ่มหยิบกระดาษคาตอบมาตรวจ 3.3.6 ไม่ควรนาเรื่องที่นอกเหนือจากที่เกณฑ์กาหนดไว้เป็นข้อพิจารณาให้คะแนน เชน่ ลายมอื ของผเู้ ขา้ สอบ เป็นต้น 4. ข้อสอบรูปแบบอัตนัยเขียนตอบในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษา 2559 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้เริ่ม จัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาไทย โดยใช้รูปแบบข้อสอบ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 ข้อสอบปรนัยแบบเลือกตอบท่ีมีคาตอบที่ถูกที่สุดเพียง 1 ตัวเลือก (80%) และรูปแบบท่ี 2 ข้อสอบอัตนัยแบบเขียนตอบ (20%) จัดสอบวันท่ี 4 กุมภาพันธ์ 2560 และประกาศผลสอบ 25 มีนาคม 2560 สาหรับการเตรยี มความพรอ้ มในการทดสอบ O-NET ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 โดยใช้รูปแบบข้อสอบ อัตนัย สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกับสถาบันภาษาไทยสิรินธร จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ไดจ้ ัดทาหลกั สูตรอบรมการตรวจข้อสอบอตั นัย O-NET จานวน 2 หลกั สตู ร ได้แก่ หลักสูตรอบรมครู (Teachers) เพื่อตรวจข้อสอบอตั นยั ให้มีมาตรฐานเดียวกัน และหลักสูตรอบรมวิทยากร แกนนา (ครูของครูของครู ได้แก่ คณาจารย์มหาวิทยาลัย Master Teachers) เพ่ือทาหน้าท่ีเป็นวิทยากร แกนนาอบรมครูตรวจขอ้ สอบอัตนยั ตามภูมิภาค คมู่ ือพัฒนาการจดั การเรียนรูเ้ พือ่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขนั้ พ้นื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขียนตอบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
12 นอกจากน้ีสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้เผยแพร่ลักษณะเฉพาะ ของแบบทดสอบ (Test Specification) ตัวอย่างข้อสอบ ตัวอย่างกระดาษคาตอบ ตัวอย่างการเขียนตอบ เกณฑ์การตรวจกระดาษคาตอบ คาแนะนาในการเขียนตอบ และวีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์การสอบอัตนัย O-NET ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาไทย โดยมี รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธ์ุพฤกษ์ ผู้อานวยการ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ อาจารย์ยาภา ล่ิวเจริญชัย จากสถาบัน ภาษาไทยสิรินธรแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย เปน็ วทิ ยากร เหตุผลท่ีนาข้อสอบอัตนัยมาใช้ในการสอบ O-NET เน่ืองจากสานักงานสถิติแห่งชาติ ได้เปิดเผย ขอ้ มลู วา่ คนไทย 1 ใน 3 ยังอา่ นหนงั สอื ไมถ่ ึง 30 นาทตี อ่ วัน และธนาคารโลก (World Bank) ไดเ้ ปดิ เผยว่า เดก็ ไทย 1 ใน 3 ยงั อา่ นหนงั สอื มผี ลสมั ฤทธติ์ ่า อ่านไมเ่ ข้าใจเนื้อหา จากปญั หาดังกลา่ วกระทรวงศึกษาธิการ ต้องการแก้ปัญหาการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะให้ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์มากยิ่งข้ึนจึงกาหนดให้สถาบัน ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดสอบ O-NET ในรูปแบบข้อสอบอัตนัยแบบเขียนตอบ เพ่ือที่ให้สถานศึกษาได้ขับเคลื่อนทาให้ผลสัมฤทธ์ิของเด็กไทยด้านการอ่าน การเขียนและการคิดวิเคราะห์ ดีขนึ้ สาหรับปีการศึกษา 2563 ข้อสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษา ปีท่ี 6 วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบมี 2 รปู แบบ ได้แก่ ขอ้ สอบปรนัยแบบเลือกตอบ 4 ตวั เลือกจานวน 32 ข้อ ข้อละ 2.5 คะแนน รวม 80 คะแนน และรูปแบบที่ 2 เป็นข้อสอบอัตนัยแบบเขียนตอบที่เป็นการวัด ความรู้ความเข้าใจในสาระการเขียน มจี านวน 2 ข้อ ข้อละ 10 คะแนน รวม 20 คะแนน ดังนี้ ข้อ 33 เป็นข้อสอบเขียนเล่าเร่ืองจากภาพ (10 คะแนน) วัดสาระการเขียนในมาตรฐาน การเรียนรู้ ท 2.1 ใช้ กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ เขียนเร่ืองราวในรูปแบบ ตา่ ง ๆ และตวั ช้ีวดั ป.6/2 เขียน สอ่ื สารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสมและตวั ช้ีวัดท่ี 8 เขียนเรื่อง ตามจินตนาการและสร้างสรรค์ ข้อสอบจะกาหนดภาพถ่ายหรือภาพวาดเกี่ยวกับคน สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ี ที่นักเรยี นช้ัน ป.6 สามารถนาเสนอ แนวคิดสาคัญของภาพได้ และสามารถเรียงลาดบั ความคดิ และ เชอื่ มโยงความคดิ ให้ต่อเน่ืองและเปน็ เรอื่ งเดยี วกัน ข้อ 34 เป็นข้อสอบเขียนสรุปใจความสาคัญ (10 คะแนน) วัดสาระการเขียนในมาตรฐาน การเรียนรู้ ท 2.1 ตัวช้ีวัด ป.6/5 เขียนย่อความจากเร่ืองท่ีอ่าน ข้อสอบจะกาหนดเร่ืองหรือบทอ่าน ท่ีมีเน้ือหาน่าสนใจเหมาะกับนักเรียน ป.6 จานวน 1 เร่ืองท่ีมีประเด็นสาคัญ 6 ประเด็น ความยาว ½ - ¾ หน้า มาให้ 1 เร่ือง หรือบทอ่าน นักเรียนต้องเขียนสรุปใจความสาคัญจากเร่ือง หรือบทอ่านให้ไม่เกิน 3 บรรทัด ค่มู อื พัฒนาการจดั การเรียนรเู้ พ่อื ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้นั พ้นื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขยี นตอบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
13 4.1 ข้อสอบเขียนเลา่ เรอ่ื งจากภาพ เกณฑ์ เขียนตรงตามคาส่ัง เน้ือหา ภาษา ประโยค วรรค รวม ตอน คะแนน คาสั่ง การเขยี น/ การนาเสนอ การเรยี งลาดับ เตม็ เล่าเรื่อง ความคิดสาคัญ และการเช่อื มโยง การสะกดคา การใช้ คะแนน ของภาพ ความคิด และการใช้ คา/ ท่ีได้ 0.5 0.5 2 2 ไมย้ มก ถ้อยคา สานวน 1.5 1.5 1.5 0.5 10 การตรวจข้อสอบการเขยี นเรื่องจากภาพ (ขอ้ ที่ 33) กาหนดเกณฑ์ ดังตอ่ ไปนี้ 1. เขียนตรงตามคาสง่ั (1 คะแนน) 1.1.คาสั่ง (0.5 คะแนน) 1.1.1 คาส่ังให้เขียนตัวครึ่งบรรทัด ถ้านักเรียนเขียนเต็มบรรทัดไม่หักคะแนน 1.1.2 ไม่เขยี นบทรอ้ ยกรอง 1.1.3 ไม่ใช้คายอ่ 1.1.4 ไม่ใชค้ าทับศัพท์ (ไมม่ ีคาไทยใช้แทน ใชเ้ ขยี นได้ เช่น ทีวตี อ้ งใช้โทรทัศน์ 1.1.5 ใชค้ าภาษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) 1.1.6 ความยาว 4 - 7 บรรทัด (เขียนไม่น้อยกว่า 4 บรรทัดแต่ไม่เกิน 7 บรรทัด) แต่ถา้ นกั เรียนเขยี นมา 1 - 3 บรรทดั แต่มแี นวคิดสาคัญของเรื่องจะได้คะแนน 2 ชอ่ งคอื การเขยี นเล่าเร่ือง และการเขียนเสนอความคิดสาคัญของเรื่อง แต่ช่องอื่น ๆ ได้ 0 คะแนน และถ้านักเรียนเขียนมา 1-2 บรรทัดแตไ่ ม่มคี วามคดิ สาคญั เลยจะให้ 0 คะแนน 1.2.การเขยี น/เลา่ เร่อื ง (0.5 คะแนน) เขีย น / เล่ าเรื่ อง สั มพั นธ์กั บภาพ อาจมี ตัว ละคร หรื อใช้ ตั ว เองเป็นตั วละคร ก็ได้ (0.5 คะแนน) คูม่ ือพัฒนาการจัดการเรยี นรูเ้ พอื่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขั้นพนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนัยเขยี นตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
14 2. เน้ือหา (4 คะแนน) 2.1.การนาเสนอความคิดสาคัญของภาพ (2 คะแนน) (ตัวอย่างข้อสอบเขียนเร่ือง จากภาพปีการศกึ ษา 2562) 2.1.1 นาเสนอคาว่า “ปลูกต้นไม้” แล้วมีเหตุผลประกอบและแสดงให้เห็น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น ทาให้ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์กลายเป็นป่า , ทาให้ร่มรื่น, ช่วยลดโลกรอ้ น เปน็ ตน้ (2 คะแนน) 2.1.2 นาเสนอคาว่า “ปลูกต้นไม้” แต่ไม่มีการนาเสนอความคิดท่ีแสดงคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ (1 คะแนน) 2.1.3 ไม่กล่าวถึงการปลูกต้นไม้เป็นความคิดสาคัญ (0 คะแนน) ถ้านักเรียน เขยี นเก่ยี วกบั จิตอาสาหรอื เข้าร่วมโครงการรักษ์โลกหรือจติ อาสา เพือ่ ....?? ให้ 2 คะแนน หากมเี ครือ่ งหมาย อัญประกาศ “……..” ไม่หักคะแนน แนวคิดสาคัญส่วนใหญ่จะมาจากคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ ได้แก่ 1. รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุง่ ม่ันในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ 2.2 การเรยี งลาดับและการเช่ือมโยงความคิด 2.2.1 อา่ นแลว้ เข้าใจไมว่ กไปวนมา (2 คะแนน) 2.2.2 อา่ นแล้วไมค่ อ่ ยเขา้ ใจ (0.5 คะแนน) 2.2.3 อา่ นแลว้ วกไปวนมาไม่เชื่อมโยงกนั (0 คะแนน) หลักการสังเกต - คาสรรพนาม/คาลักลั่น เชน่ เดก็ ผู้ชาย เป็น ผูช้ าย - การใชค้ าสันธานผิดให้หักการใชค้ า - ถ้านกั เรยี นเขียนสมั พันธก์ ับภาพแตไ่ ม่มคี วามคิดสาคญั ยงั พจิ ารณาให้คะแนนตอ่ ไป - ถา้ นกั เรยี นเขียน 7 บรรทัด แต่ไมม่ ีความคิดสาคัญ ได้คะแนนแค่ส่วนท่ี 1 เขียนตรงตามคาส่ัง (0.5 คะแนน ) - ถ้านักเรียนลอกข้อความจากข้อ 34 (สรุปใจความสาคัญ) แต่นักเรียนมีการเพิ่มคาหรอื คิดคา ขึน้ ใหม่ มีการลดคา/เพ่มิ คา ก็ถอื วา่ นักเรียนไม่ได้ลอกและใหค้ ะแนนตอ่ ไป - ถ้านักเรียนคัดลอกมามากกว่า 1 ส่วน แต่ไม่มีการดัดแปลงถือว่าคัดลอกมา ได้ 0 คะแนน - ถ้าคัดลอกมาแล้วสะกดผดิ ถอื วา่ คัดลอก ได้ 0 คะแนน - ฝึกให้นักเรียนใช้คาเชื่อมที่หลากหลาย เพราะนักเรียนจะคุ้นเคยในการใช้คาว่า “และ” ในการเช่อื มคาซงึ่ จะทาใหถ้ ูกหักคะแนนในส่วนของการใชค้ าได้ คู่มือพัฒนาการจัดการเรยี นรูเ้ พื่อยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ัน้ พ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
15 - ถ้านักเรียนเขียนสัมพันธ์กับภาพแต่ไม่มีความคิดสาคัญยังพิจารณาให้คะแนนต่อไป 3. ภาษา (5 คะแนน) 3.1 การสะกดคาและการใชไ้ ม้ยมก (1.5 คะแนน) 3.1.1 ผิด 1-2 คา ได้ 1 คะแนน 3.1.2 ผดิ 3-4 คา ได้ 0.5 คะแนน 3.1.3 ผดิ 5 คาข้นึ ไป ได้ 0 คะแนน 3.1.4 การใช้ไมย้ มก คน ๆ หน่งึ ใช้ไม่ได้ หรอื นา ๆ ใช้ไม่ได้ 3.1.5 คาที่สะกดผิดแล้วเกิดความหมายใหม่จะหกั คะแนนการใช้คา แต่จะไม่หักคะแนน ในส่วนของการสะกดคาจะไม่หักคะแนน 2 คร้งั 3.2. การใช้คา/ถอ้ ยคาสานวน (1.5 คะแนน) 3.2.1 ผดิ 1-2 คา ได้ 1 คะแนน 3.2.2 ผิด 3-4 คา ได้ 0.5 คะแนน 3.2.3 ผดิ 5 คาขึน้ ไป ได้ 0 คะแนน เชน่ 555+, เชา้ อนั หนง่ึ เปน็ ตน้ เจอคาภาษาองั กฤษ หักการใช้คา เช่น ฉันไปสอบ O-NET การใช้คาซ้า/การใช้คาตก เช่น รับประ....(รับประทาน)/การใช้คา ลักลั่นเช่น เดก็ ชาย เปน็ ชาย เปน็ ต้น 3.2.4 คาว่า “แล้ว, แล้วก็” จะไม่หักคะแนน ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนสัมพันธ์ กับเหตุการณ์ท่ตี ามมา 3.3 ประโยค (1.5 คะแนน) เขยี นประโยคท่ีสมบูรณ์ ส่อื ความได้ เรยี งลาดบั คา วางส่วนขยายใน ประโยคได้ถูกต้อง 3.3.1 ถูกทัง้ หมด 1.5 คะแนน 3.3.2 ผดิ 1 แห่ง 1 คะแนน 3.3.3 ผิด 2 แห่ง 0.5 คะแนน 3.3.4 ผิดตง้ั แต่ 3 คาขน้ึ ไป 0 คะแนน 3.3.5 ผดิ ต้ังแต่ 3 แห่งข้ึนไป ได้ 0 คะแนน 3.4 วรรคตอน (0.5 คะแนน) เวน้ วรรคได้โดยไม่ทาใหเ้ กิดความเข้าใจผดิ ไม่ทาให้ต้องอ่าน ทบทวนหลายครง้ั 3.4.1 มีการเวน้ วรรคตอน 0.5 คะแนน 3.4.2 ไม่เว้นวรรคตอน, เว้นวรรคตอนทุกคา 0 คะแนน ** เว้นวรรคตอนแค่ 1 แห่ง ก็ได้คะแนน แต่เขียนเวน้ วรรคตอนคาเว้นคา ไมไ่ ด้คะแนน เช่น “ผู้ ชาย เก็บ เงนิ ท่ี ตก คืน ให้ ผูห้ ญิง” เป็นต้น ค่มู ือพฒั นาการจัดการเรยี นรูเ้ พื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
16 4.2 ข้อสอบเขยี นสรปุ ใจความสาคัญจากเรอ่ื งทีอ่ า่ น เกณฑ์ ประเด็น การ กลวธิ ี การสะกดคา/ การใช้คา/ถอ้ ยคา ประโยค รวม 10 สาคัญ เช่ือมโยง สรปุ ความ ไมย้ มก/อกั ษรย่อ สานวน ความคดิ คะแนนเต็ม 4 1 2 1 11 คะแนนทไี่ ด้ การตรวจขอ้ สอบการเขยี นเรื่องจากภาพ (ขอ้ ท่ี 33) กาหนดเกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. สว่ นเนอื้ หา (7 คะแนน) 1.1.ประเด็นสาคัญ 4 ประเด็น (4 คะแนน) ประเด็นสาคัญมักจะอยู่ต้นประโยค กลางประโยคหรอื ตน้ และทา้ ยประโยค ประเดน็ สาคญั ในแต่ละเรื่องจะมปี ระมาณ 4 - 6 ประเด็น 1.2.การเชื่อมโยงความคิด (1 คะแนน) อ่านแล้วไม่สงสยั หรือไมผ่ ดิ จากบทอ่าน (ไมเ่ อ๊ะ!!) 1.3.กลวิธีการสรุปความ (2 คะแนน) 1.3.1 ไม่มตี ัวอย่าง เช่น พรกิ มะเขือเทศ...., คือ , กลา่ วคอื - รายละเอียด, จานวน ตัวเลข 1.3.2 ไม่มีเครอื่ งหมายคาพดู หรืออัญประกาศ “……………..” 1.3.3 ไม่ใช้สรรพนามบุรุษท่ี 1 ในการสรุปความ เช่นคาว่า พวกเรา, เราแต่ใช้คา สรรพนามบรุ ุษท่ี 3 ได้ เช่น ทา่ น, เขา 1.3.4 สรุปความผิดจากบทอ่าน หลกั การสังเกต - ถ้ามีคาว่า “ภูมิปัญญาชาวบ้าน”ต้องไม่มีคาว่า ชีวภาพ หักคะแนนในส่วนของการให้ รายละเอยี ด - นักเรียนเขียนมา 3 บรรทัด แต่ไม่มีภาษาของเด็กเลยให้ตรวจให้คะแนนในส่วนเนื้อหา อยา่ งเดียว สว่ นภาษาไมต่ รวจ - ถา้ นักเรียนเพม่ิ คาขน้ึ มาแค่ 1 คา กไ็ ด้ เชน่ หลายชนิด เปน็ หลากหลายชนิด กใ็ หค้ ะแนน นกั เรียน - นกั เรียนเขียนเขยี นมาเกนิ 3 บรรทดั ตรวจต่อแตจ่ ะมรี ายละเอยี ดใหห้ ักคะแนนเยอะ คูม่ ือพฒั นาการจัดการเรียนรู้เพอื่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพืน้ ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขยี นตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
2. ส่วนภาษา (3 คะแนน) 17 2.1. การสะกดคา/ไมย้ มก/อกั ษรยอ่ (1 คะแนน) 2.1.1 ผดิ 1 - 2 คา ได้ 0.5 คะแนน 2.1.2 ผดิ 3 คา ขน้ึ ไป ได้ 0 คะแนน หลักการสงั เกต - ไม่ควรใชไ้ มย้ มก , ใชค้ าย่อไม่ได้ - การสะกดคาผดิ - ใช้เคร่ืองหมายไม้ยมกผดิ หรือใช้เกิน เช่น ต่างๆ นาๆ - ใช้คาย่อ เชน่ ป.ตรี , บ.(บาท) เปน็ ตน้ 2.2. การใช้คา/ถ้อยคาสานวน (1 คะแนน) 2.2.1 ผิด 1 - 2 คา ได้ 0.5 คะแนน 2.2.1 ผดิ 3 คาขนึ้ ไป ได้ 0 คะแนน หลกั การสังเกต - ใช้คาผิดความหมาย - ใชค้ าเช่ือมผดิ - ใช้คาบพุ บทผิด - ใชล้ ักษณนามผดิ - ใชค้ า/สานวนทไี่ ม่มีในภาษา - ใช้คาไมเ่ ข้ากบั คาแวดลอ้ ม - ใช้คาเกิน เช่น จับแมลงนางวันทอง - ใช้คาตก เช่น เกษตร (เกษตรกร), เชา่ ดนิ (เชา่ ทีด่ ิน) - ใช้คาลกั ลั่น เช่น ผกั เปน็ พืช, เดก็ ชาย เป็น ผู้ชาย เป็นต้น - ใช้ภาษาถิน่ - ใชภ้ าษาพูด 2.3. ประโยค (1 คะแนน) 2.3.1 ตรวจเป็นประโยคกอ่ น 2.3.2 ผดิ 1 แหง่ ได้ 0.5 คะแนน 2.3.3 ผิด 2 แห่ง ได้ 0 คะแนน ค่มู อื พฒั นาการจดั การเรียนรเู้ พ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขน้ั พ้นื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขียนตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
18 หลกั การสังเกต - นกั เรยี นเขียนมามากกว่า 1 ประโยค เกิน 3 บรรทดั ตอ้ งตรวจต่อ - นักเรียนเขียนคาดว้ ยภาษาของตนเอง มีคาทน่ี กั เรยี นคดิ เอง เช่น การศกึ ษาข้ันสูงสดุ - นกั เรียนยกขอ้ ความมาเขยี นแค่ 1 ยอ่ หน้า ให้คะแนนเฉพาะประเดน็ สาคญั - หากประเดน็ สาคญั ได้ 0 คะแนน จะไม่ตรวจสว่ นอ่นื - หากเขียนมา 1 ประโยค ตรวจเฉพาะประเดน็ สาคัญ ไมต่ รวจส่วนอื่น - หากเขยี นเกนิ 3 บรรทดั ไมห่ กั คะแนน และตรวจต่อตามปกติ - หากประเด็นไม่ครบแต่เรียงลาดับความคิดได้เหมาะสม ถือว่าเรียงลาดับและเช่ือมโยง ความคิดได้ (ได้ 1 คะแนน) - หากลอกข้อความจากบทอ่านท้ังหมดแต่มีประเด็นสาคัญ ให้คะแนนในส่วนประเด็นสาคัญ แต่คะแนนการเรียงลาดับความคดิ กลวธิ กี ารสรปุ ความ และภาษา เป็น 0 คะแนน - หากไมไ่ ด้สรปุ จากเรื่องทอี่ า่ น นาแค่คาสาคญั บางคามาแต่งเรื่องเอง ได้ 0 คะแนนและไม่ตรวจ ชอ่ งคะแนนอ่นื - เขียนเลขไทยและเลขอารบกิ ปนกนั หกั คะแนนภาษา (ใช้คาลกั ลั่น) - ถ้าคัดลอกข้อความสว่ นหนึง่ สว่ นใดของขอ้ สอบมาเขยี นจะได้ 0 คะแนนทง้ั ข้อ ค่มู ือพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รปู แบบอัตนยั เขียนตอบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
19 สว่ นที่ 3 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 1 ได้จัดทาคู่มือพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัย เขียนตอบชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 ดงั นี้ 1. แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 7 ข้นั ตอน คูม่ ือพฒั นาการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ น้ั พ้นื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนัยเขียนตอบ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
20 1.1 ศกึ ษาหลกั สูตรให้ชัด ก่อนที่ครูผู้สอนจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ควรมีการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเพ่ือจะได้ วิเคราะห์หลักสูตร กาหนดเนื้อหาสาระ กาหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุดประสงค์การเรียนรู้ปลายทาง และนาทาง ศึกษาหลักการ ทฤษฏีท่ีเก่ียวข้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ จิตวิทยาศาสตร์ กระบวนการ วัดและประเมินผล พัฒนาเทคนิคการเรียนรู้ท่ีเน้นนักเรียนเป็นสาคัญเพ่ือจะนาไปสู่การจัดการเรียนรู้ที่มี ประสทิ ธภิ าพ 1.2 วเิ คราะหต์ ัวชีว้ ดั ใหต้ รง หลังจากมีการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยจนมีความเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว ข้ันตอนต่อไปคือการวิเคราะห์ตัวชว้ี ัดโดยเน้นเฉพาะ สาระที่ 2 การเขยี น มาตรฐาน ท2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียน เรอื่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพ่ือจะนาไปสู่การจดั ทาโครงสร้างรายวชิ าซ่ึงเป็นการกาหนดขอบข่ายของรายวิชา ช่วยให้เห็นภาพรวมของ แต่ละรายวิชาว่าประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้จานวนเท่าใด มีสาระสาคัญอย่างไรบ้าง แต่ละหน่วยจะ พัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตัวช้ีวัดใด ใช้เวลาเท่าไร และมีสัดส่วนการเก็บคะแนนของรายวิชาน้ันเป็นอย่างไร โครงสร้างรายวิชาประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้ท่ีครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดตลอด ปีการศึกษา/ภาคเรียน พร้อมทั้งกาหนดสาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด สัดส่วนเวลา และน้าหนัก ความสาคัญของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ครูผู้สอนสามารถนาไปจัดทา แผนการจดั การเรยี นรสู้ าหรบั ใชใ้ นหอ้ งเรียน 1.3 จัดทรงรปู แบบขอ้ สอบใหแ้ มน่ ยา ในส่วนของข้อสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาไทย ทั้ง 2 รูปแบบ ได้แก่ ข้อสอบปรนัยแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจานวน 32 ข้อ ข้อละ 2.5 คะแนน รวม 80 คะแนน และรปู แบบท่ี 2 เป็นข้อสอบอตั นัยแบบเขียนตอบท่ีเป็นการวัดความร้คู วามเข้าใจ ในสาระการเขียน มีจานวน 2 ข้อ ขอ้ ละ 10 คะแนน รวม 20 คะแนน นอกจากครูผสู้ อนจะสรา้ งความเขา้ ใจ ให้ละเอียดถี่ถ้วนถูกต้อง สอดคล้องกับ Test Blueprint และเกณฑ์การวัดประเมินผลแล้วต้องฝึก สร้างข้อสอบท้งั 2 รปู แบบใหม้ ีจานวนเพียงพอรวบรวมเป็นคลังขอ้ สอบเพื่อใชพ้ ฒั นาผู้เรียนตลอดระยะเวลา ก่อนสอบจริงและนาไปซอ่ มเสริมหลงั จากมีผลการพฒั นาผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล ค่มู ือพัฒนาการจัดการเรยี นรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ นั้ พ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขียนตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
21 1.4 จดั กิจกรรมการเรียนร้เู ชิงรุก ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมและมีผลการวิจัยสนับสนุนว่าเป็นวิธี ที่จะพัฒนาผู้เรียนที่เหมาะสมเพื่อนาไปสู่ศตวรรษที่ 21 น่ันคือการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ซ่ึงเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่ง แปลตามตัวก็คือ เป็นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติหรือการลงมือทา “ความรู้” ท่ีเกิดข้ึนก็เป็นความรู้ท่ีได้จากประสบการณ์ กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียน ต้องได้มีโอกาสลงมือกระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ต้องจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรยี นรู้โดยการอา่ น การเขียน การโต้ตอบ และการแก้ปัญหา อีกท้ังให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดข้ึนสูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า สาหรับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ วิธีการจัดการเรียนรู้นี้ จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) หมายถึง การออกแบบ การเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติจริง สร้างองค์ความรู้ ผ่านการคิดข้ันสูง (Higher- Order Thinking) การได้ปฏิบัติงานสร้างสรรค์งาน และนาเสนองานด้วยตัวเองซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนา ดังกล่าว 1.5 วัดประเมนิ ผลครบทุกเกณฑ์ สาหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หัวใจสาคัญอีกประการหนึ่งท่ีจะทาให้ครูผู้สอนรับทราบ พัฒนาการของผู้เรียนก็คือการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลต้องครอบคลุม ท้ัง 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นอกจากน้ียังมีการประเมินผล ตามสภาพจริง โดยใช้เคร่ืองมือ วิธีการและเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น แบบประเมินการอ่านออกเสียง แบบประเมินชนิ้ งาน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เปน็ ต้น ในสว่ นของการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ พัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน ( O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบคือเกณฑ์การวัดและประเมินผลตามที่สถาบันทดสอบทางการศึกษา แหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) หรอื สทศ. กาหนดรายละเอียดไวอ้ ย่างชดั เจน เพอ่ื ใช้ผลจากการวัดและประเมนิ สูก่ ารพัฒนาผเู้ รียนตอ่ ไป 1.6 วิเคราะห์ประเด็นส่กู ารพัฒนา หลังจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มีการวัดและประเมินผลตามเกณฑ์ ครูผู้สอนนาข้อมูลวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลไปสู่การพัฒนาตามศักยภาพการเรียนรู้ของความแตกต่าง ระหว่างบุคคล โดยการบันทึกผลจากการฝึกผู้เรียนทาแบบทดสอบทั้งสองข้อนาไปสู่การวิเคราะห์ ประเด็นย่อยของเกณฑ์การวัดและประเมินผลที่ต้องเร่งพัฒนาตามลาดับความสาคัญของผู้เรียนแต่ละคน และกาหนดเป้าหมายในการพัฒนา เช่น กลุ่มผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป กลุ่มผู้เรียน ทผ่ี ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 50 แต่ไม่ถึงรอ้ ยละ 80 และกลุ่มทมี่ ีคะแนนตา่ กวา่ ร้อยละ 50 เปน็ ตน้ คู่มือพัฒนาการจัดการเรียนรเู้ พือ่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติข้ันพนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนัยเขยี นตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
22 1.7 แกป้ ญั หาซ่อมเสริมรายบคุ คล หลังจากท่ีได้ข้อมูลในการพัฒนาของผู้เรียนรายบุคคล ครูผู้สอนจะวางแผนการจัดการเรียนรู้ ตามศักยภาพบนพ้ืนฐานของความแตกตา่ งของผู้เรียน โดยการจดั กิจกรรมทส่ี อดคลอ้ งกับมาตรฐาน ตัวชว้ี ัด เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ไม่ว่าผู้เรยี นจะมีความแตกตา่ งทางดา้ นบุคลกิ ภาพ สติปัญญา หรือความสนใจ โดยเฉพาะความแตกตา่ งท่ีมีผลต่อการเรียนรู้ที่สาคญั 4 ประการ คือ 1. ความแตกต่างในเรอื่ งอัตราเร็วของการเรียนรู้ (Rate of learning) ผู้เรียนแต่ละคนจะใชเ้ วลา ในการเรียนรแู้ ละทาความเขา้ ใจในส่งิ เดยี วกนั ในเวลาทีแ่ ตกต่างกัน 2. ความแตกต่างในเร่ืองความสามารถ (Ability) เช่น ความฉลาด ไหวพริบ ความสามารถพิเศษ ตา่ ง ๆ 3. ความแตกต่างในเรื่องวิธีการเรียน (Style of learning) ผู้เรียนเรียนรู้ในทางที่แตกต่างกัน และมวี ธิ เี รยี นทแี่ ตกตา่ งกันด้วย 4. ความแตกต่างกันในเรื่องความสนใจและส่ิงที่ชอบ (Interests and preference) เม่ือผู้เรียน แต่ละคนมีความแตกต่างกันในหลายด้านเช่นน้ี ครูจึงต้องจัดบทเรียนและอุปกรณ์การเรียนในระดับและ ลักษณะต่างๆ ให้ผู้เรียนได้เลือกด้วยตนเอง (Self-selection) เพ่ือสนองความแตกต่างดังกล่าว ครูผู้สอนสามารถนาหลักของความแตกต่างทั้ง 4 ประการประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาไทยฝึกทาข้อสอบรูปแบบอัตนัยเขียนตอบท่ีเป็นลักษณะบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาและซ่อมเสริม ผู้เรียนได้เหมาะสมและบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้ ตัวอย่างการจัดกิจกรรม เช่น กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับทักษะแห่งอนาคตใหม่ในศตวรรษท่ี 21 กิจกรรม การเขียนเร่ืองจากภาพบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กิจกรรมการเขียนสรุปใจความสาคัญ จากเนอื้ หาทเี่ กี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น เป็นตน้ สาหรับช่วงเวลาในการสอนซ่อมเสริมรายบุคคล ครูผู้สอนสามารถใช้เวลาในชั่วโมงเรียน วิชาภาษาไทยหรือวิชาอ่ืนได้ตามความเหมาะสม เวลาในกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน หรือนอกเวลาเรียน ท่ีครูและผู้เรียนสะดวกพร้อมกัน เน่ืองจากครูผู้สอนต้องมีการบันทึกผลการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง รวมไปถึงการสะท้อนผลให้ผู้เรียนทราบแนวทางในการพัฒนาตนเองเก่ียวกับการเรียนรู้ วิและฝึกปฏิบัติ ขอ้ สอบรูปแบบอตั นยั เขยี นตอบดว้ ยตนเอง อนั จะนาไปส่กู ารการพฒั นาผู้เรยี นรายบุคคลอย่างแท้จรงิ คูม่ ือพฒั นาการจัดการเรยี นรู้เพอื่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขียนตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา 2563
23 2. ตวั อยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้ 23 2.1 ตวั อยา่ งแผนการจดั การเรยี นรู้ การเขยี นเรื่องจากภาพ รหัสวิชา ท16101 วิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 พฒั นาทักษะภาษาด้วยการเขยี น จานวนช่ัวโมง 22 ช่ัวโม ง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 หลักการและประโยชน์ของการเขียนเร่ืองจากภาพตามจินตนาการ และสร้างสรรค์ เวลา 1 ช่วั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวชี้วัด ท2.1 ป.6/2 เขยี น สื่อสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจนและเหมาะสม ท2.1 ป.6/8 เขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ ท2.1 ป.6/9 มีมารยาทในการเขยี น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจหลักการและประโยชนข์ องการเขียนเรือ่ งจากภาพตามจินตนาการและสรา้ งสรรค์ (K) 2. เขยี นเขยี นเรอ่ื งจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรคไ์ ด้ (P) 3. เห็นประโยชน์ของการเขียนเรอ่ื งจากภาพตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ (A) สาระสาคญั การเขียนเรื่องจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์ เป็นการเขียนถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด จากภาพโดยอาศัยจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ทาให้เกิดเป็นเร่ืองที่น่าสนใจและให้ข้อคิด ในการดาเนนิ ชีวติ ท่ีดี สาระการเรยี นรู้ หลักการและประโยชนข์ องการเขียนเรื่องจากภาพตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น จานวน 2 สมรรถนะ ดงั น้ี 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ จานวน 4 คุณลักษณะ ดงั น้ี 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทางาน 4. รกั ความเปน็ ไทย คมู่ อื พัฒนาการจัดการเรยี นร้เู พอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขียนตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563
24 ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3R8C) จานวน 7 ทักษะ ดงั น้ี 1. Reading-อ่านออก 2. (W)Riting-เขียนได้ 3. Critical Thinking and Problem Solving : มีทักษะในการคดิ วิเคราะห์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และแกไ้ ขปัญหาได้ 4. Creativity and Innovation : คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คิดเชงิ นวตั กรรม 5. Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่ือสารและการรู้ เท่าทันสือ่ 6. Cross-cultural Understanding : ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคิด ขา้ มวฒั นธรรมCareer and Learning Skills : ทกั ษะทางอาชพี และการเรยี นรู้ 7. Compassion : มคี ุณธรรม มีเมตตา กรุณา มรี ะเบียบวนิ ยั ช้ินงาน/ภาระงาน เขยี นเร่อื งจากภาพตามจินตนาการและสรา้ งสรรค์ การวดั และประเมินผล ตามเกณฑ์การตรวจข้อสอบการเขียนเรื่องจากภาพ (ข้อท่ี 33) ตามคู่มือดาเนินการพัฒนา การจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอตั นัยเขยี นตอบชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2563 หนา้ ที่ 13 – 15 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น นักเรียนดูภาพ “สุนัขกับลิง” แล้วให้นักเรียนร่วมกันแต่งเรื่องจากภาพตามจินตนาการ และสรา้ งสรรค์ โดยการเล่นเกมเล่าเก่งไดแ้ ตม้ ซึ่งมขี ้นั ตอนและวิธีการ ดงั นี้ 1. แบ่งกลุ่มออกเป็น 3 หรือ 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มมาเล่า เรอื่ งราวตอ่ จากกลมุ่ อื่นโดยการหมนุ เวยี นกันเป็นรอบ ๆ 2. กลุ่มใดเล่าเร่ืองต่อได้ภายใน 30 วินาที ได้ 1 คะแนน กลุ่มใดเล่าไม่ได้จะไม่ได้คะแนน และข้ามไปกลมุ่ ตอ่ ไป ดาเนนิ การเลน่ เกมไปเร่ือย ๆ จนจบเร่อื ง กลุ่มใดได้คะแนนมากทส่ี ุดเปน็ ฝ่ายชนะ คู่มือพฒั นาการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ น้ั พื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอตั นัยเขียนตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา 2563
25 ข้ันสอน 1. นักเรียนร่วมกันเขียนเร่ืองจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์จากรูปภาพท่ีครูติดไว้ บนกระดาน 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการวิธีการและประโยชน์ ของการเขยี นเรอื่ งจากภาพตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ 3. นักเรียนเขียนแผนผังความคิดเรื่องหลักการและประโยชน์ของการเขียนเร่ืองจากภาพ ตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ จากความเขา้ ใจของตนเอง 4. นักเรียนทาใบงานการเขียนเรื่องจากภาพตามจินตนาการจากรูปภาพที่ครูกาหนดให้ ขั้นสรปุ ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอชิ้นงานแผนผังความคิดเรื่องหลักการและประโยชน์ของการเขียนเรื่อง จากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์ของตนเองและให้นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการและประโยชน์ของ การเขยี นเร่ืองจากภาพตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบความร้เู รือ่ งการเขยี นเรื่องจากภาพตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ 2. รปู ภาพสาหรับกจิ กรรมการเขยี นเรอื่ งจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์ (ขัน้ นา) 3. รปู ภาพสาหรับกจิ กรรมการเขยี นเร่อื งจากภาพตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ (ขัน้ สอน) 4. ใบงานการเขยี นเรื่องจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์ (ข้นั สอน) คมู่ ือพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้ันพนื้ ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขียนตอบ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา 2563
26 1 .ใบความรเู้ รื่องการเขยี นเรอ่ื งจากภาพตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ 2. รปู ภาพสาหรับกจิ กรรมการเขียนเรอ่ื งจากภาพตามจินตนาการและสร้างสรรค์ (ขน้ั นา) คมู่ อื พฒั นาการจดั การเรยี นร้เู พือ่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพน้ื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขยี นตอบ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
27 3. รูปภาพสาหรับกจิ กรรมการเขียนเรือ่ งจากภาพตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ (ขนั้ สอน) 4. ใบงานการเขยี นเรอ่ื งจากภาพตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ คาชี้แจง : จงเขยี นเร่ืองจากภาพดว้ ยตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั ไมต่ ้องต้งั ช่ือเร่ือง ไมเ่ ขียนเป็นบทรอ้ ยกรอง ไมใ่ ชค้ าย่อ และไม่ใชค้ าทับศพั ท์ โดยใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) ความยาว 4 – 7 บรรทดั ถ้าเขียนเกิน 7 บรรทดั จะตรวจถงึ บรรทัดที 7 เท่านัน้ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ คมู่ ือพัฒนาการจัดการเรยี นรูเ้ พอ่ื ยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติข้นั พื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
28 2.2 ตัวอยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้ การเขยี นสรุปใจความสาคญั จากเร่ืองที่อา่ น รหัสวิชา ท16101 วิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 พัฒนาทักษะภาษาด้วยการเขียน จานวนช่ัวโมง 22 ชั่วโม ง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 หลักการเขยี นสรปุ ใจความสาคญั ดว้ ย 5W1H เวลา 1ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรปู แบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตัวชี้วัด ท2.1 ป.6/5 เขียนย่อความจากเรือ่ งท่ีอา่ น ท2.1 ป.6/9 มีมารยาทในการเขยี น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เข้าใจหลักการเขยี นสรุปใจความสาคญั ด้วย 5W1H (K) 2. เขยี นสรปุ ใจความสาคญั จากการอา่ นได้ (P) 3. เห็นประโยชนข์ องการเขยี นเรอ่ื งจากภาพตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ (A) สาระสาคญั การเขียนสรุปใจความสาคัญจากการอ่านด้วยเทคนิค 5W1H ให้มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ What (อะไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) Why (ทาไม) Who (ใคร) และ How (อย่างไร) นามาเรียบเรียง เปน็ ภาษาของตนเอง เรยี งลาดบั ความคิดและเชือ่ มโยงความคิดใหต้ อ่ เน่อื งและเปน็ เร่ืองเดยี วกัน สาระการเรยี นรู้ การเขียนยอ่ ความจากวรรณคดีและวรรณกรรมในหนงั สอื เรยี นหรอื ส่อื ตา่ ง ๆ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน จานวน 2 สมรรถนะ ดงั นี้ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จานวน 4 คณุ ลักษณะ ดังน้ี 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน 4. รักความเปน็ ไทย คู่มอื พัฒนาการจดั การเรียนรู้เพอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขัน้ พืน้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอตั นยั เขียนตอบ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
29 ทกั ษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 (3R8C) จานวน 7 ทักษะ ดงั นี้ 1. Reading-อ่านออก 2. (W)Riting-เขียนได้ 3. Critical Thinking and Problem Solving : มที กั ษะในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และแกไ้ ขปัญหาได้ 4. Creativity and Innovation : คิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม 5. Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่ือสารและการรู้ เท่าทนั สือ่ 6. Cross-cultural Understanding : ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคิด ขา้ มวฒั นธรรมCareer and Learning Skills : ทักษะทางอาชีพ และการเรียนรู้ 7. Compassion : มคี ุณธรรม มีเมตตา กรณุ า มรี ะเบยี บวนิ ัย ช้นิ งาน/ภาระงาน เขยี นสรุปใจความสาคัญจากการอ่าน การวดั และประเมินผล ตามเกณฑ์การตรวจข้อสอบการเขียนสรุปใจความสาคัญจากเรื่องที่อ่าน (ข้อท่ี 34) ตามคู่มือ ดาเนินการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563 หนา้ ที่ 16 – 18 การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น นักเรียนอ่านภาพอินโฟกราฟิกนิทานปรัชญาเรื่อง “ไก่ไม่ขันตะวันไม่ข้ึน” อภิปรายถึงตัวละคร และเรื่องราวทีป่ รากฏในเรอื่ ง ขนั้ สอน 1. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ “การจบั ใจความสาคญั ดว้ ย 5W1H” 2. นักเรียนร่วมอภิปรายการวิเคราะห์ภาพอนิ โฟกราฟิกนิทานปรัชญาเรื่อง “ไก่ไม่ขันตะวันไม่ข้ึน” กับหลักการจับใจความสาคัญดว้ ย 5W1H 3. นักเรยี นทาใบงานเขยี นสรปุ ใจความสาคัญจากการอา่ นนิทานปรชั ญา “ชอ้ นยาวหนึ่งเมตร” คูม่ อื พัฒนาการจัดการเรยี นรู้เพ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ัน้ พน้ื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขยี นตอบ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
30 ขัน้ สรปุ นกั เรียนร่วมสรุปหลักการเขียนสรปุ ใจความสาคญั จากการอา่ นด้วย 5W1H สอ่ื การเรียนรู้ 1. ใบความรู้ “การจบั ใจความสาคญั ดว้ ย 5W1H” 2. รปู ภาพอนิ โฟกราฟิกนิทานปรชั ญาเร่ือง “ไกไ่ มข่ นั ตะวนั ไมข่ นึ้ ” (ขน้ั นา) 3. ใบงานการเขียนสรุปใจความสาคัญจากการอ่าน (ขั้นสอน) คมู่ ือพัฒนาการจดั การเรียนรเู้ พ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้นั พ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นัยเขยี นตอบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา 2563
31 1. ใบความรู้ “การจับใจความสาคญั ด้วย 5W1H” การจับใจความสาคญั ด้วย 5W1H การจับใจความสาคัญด้วย 5W1H ช่วยให้เกิดการคิดเชิงลึก คิดอย่างละเอียด จากเหตุไปสู่ผล ต ล อ ด จ น ก า ร เ ช่ื อ ม โ ย ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ใ น เ ชิ ง เ ห ตุ แ ล ะ ผ ล ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ ห ว่ า ง ข้ อ โ ต้ แ ย้ ง ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง และไม่เกีย่ วขอ้ งสามารถพัฒนาการอ่านจับใจความไปส่กู ารเขียนสรุปใจความสาคัญได้ โดยการฝกึ ต้งั คาถาม ใหค้ รอบคลุมหลกั 5W1H มีรายละเอียด ดงั นี้ Who ใคร (ในเรอ่ื งนน้ั มีใครบา้ ง) What ทาอะไร (แตล่ ะคนทาอะไรบา้ ง) Where ที่ไหน (เหตกุ ารณ์หรือสิ่งทท่ี าน้ันอยู่ทีไ่ หน) When เมื่อไหร่ (เหตุการณ์หรอื สิ่งที่ทานั้นทาเมื่อวัน เดอื น ปี ใด) Why ทาไม (เหตใุ ดจึงได้ทาสิง่ น้ัน หรือเกิดเหตุการณน์ ั้นๆ) How อย่างไร (เหตุการณ์หรอื สง่ิ ทท่ี านน้ั ทาเปน็ อย่างไรบา้ ง) คู่มอื พัฒนาการจัดการเรียนรูเ้ พือ่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้นั พืน้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศึกษา 2563
32 2. รปู ภาพอนิ โฟกราฟกิ นิทานปรชั ญาเร่ือง “ไก่ไม่ขนั ตะวันไมข่ ึ้น” (ขั้นนา) ค่มู อื พฒั นาการจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้ันพ้นื ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอตั นัยเขียนตอบ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา 2563
33 4. ใบงานการเขยี นสรปุ ใจความสาคญั จากการอา่ น (ขัน้ สอน) คาส่ัง จงสรุปใจความสาคัญของบทอ่านต่อไปน้ีด้วยตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด ความยาวไม่เกิน 3 บรรทัด โดยใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) “ถึงนรกแล้ว” ท่ีนั่นเป็นห้องใหญ่ ๆ มีโต๊ะยาว ๆ บนโต๊ะมีอาหารที่ประณีตอร่อยทุกประเภท “สตั วน์ รก” น่งั มองอาหารทีน่ า่ กินทีส่ ุดในโลก แต่ตวั เขาผอมเหลืองน่าสงสารทนี่ ่ีอนุญาตให้กนิ อาหารดี ๆ ได้ แต่มเี งอื่ นไขวา่ ต้องใช้ชอ้ นท่ียาวหนงึ่ เมตร สัตว์นรกทุกตัวจะพยายามตักอาหารท้ังหลายเข้าปากตัวเอง แต่ไม่สามารถทาได้ เพราะช้อนท่ีให้น้ัน ยาวมาก ไม่ว่าสัตว์นรกทุกตัวจะพยายามมากแค่ไหน อาหารก็หกลงพ้ืนเสียก่อน สัตว์นรกไม่เคยจะได้กิน อาหารเลยจึงผอมโซและหวิ โหย มคี วามทรมานอย่างมาก “น่ีสวรรค์” ห้องท่ีสองนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับห้องแรกทุกประการ และมีเงื่อนไขคือต้องใช้ช้อนยาว หนึ่งเมตรในการตกั อาหารเทา่ นน้ั เหมอื นกนั แตท่ ีแ่ ตกตา่ งกันคอื ชาวสวรรคล์ ว้ นมีความสุข เน่อื งจากชาวสวรรค์ ไมไ่ ด้พยายามตักอาหารใสป่ ากของตวั เอง แต่ต่างตักอาหารป้อนซ่ึงกนั และกัน ผู้ที่นั่งข้างหน่ึงของโต๊ะเขาตักอาหารด้วยช้อนยาว ๆ เอาไปป้อนใส่ปากของผู้น่ังตรงข้าม ท้ังหมดก็เลย ไดก้ ินกนั อย่างอม่ิ หนาสาราญอย่แู สนสุขสบาย ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ คู่มือพัฒนาการจัดการเรียนรูเ้ พ่ือยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ น้ั พืน้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขยี นตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
สว่ นที่ 4 ตวั อย่างและการสร้างข้อสอบรูปแบบอตั นัยเขยี นตอบ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 ได้รวบรวม ตัวอย่างขอ้ สอบรูปแบบอตั นยั เขยี นตอบใหค้ รผู ู้สอนใช้เป็นแนวทางพัฒนาผู้เรียน ดังตอ่ ไปน้ี 1. ตัวอย่างขอ้ สอบการเขียนเร่ืองจากภาพ (ข้อท่ี 33) คู่มือพฒั นาการจัดการเรียนรเู้ พือ่ ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้นื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขียนตอบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
35 ตวั อยา่ งขอ้ สอบการเขยี นเรื่องจากภาพ ปี 2562) 33. จงเขียนเร่ืองจากภาพด้วยตัวบรรจงครึ่งบรรทัด ไม่ต้องต้ังชื่อเร่ือง ไม่เขียนเป็นบทร้อยกรอง ไม่ใช้คาย่อ และไม่ใช้คาทับศัพท์ โดยใช้ภาษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) ความยาว 4 – 7 บรรทัด ถ้าเขยี นเกนิ 7 บรรทดั จะตรวจถงึ บรรทดั ที 7 เทา่ นัน้ ......................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... คมู่ ือพัฒนาการจดั การเรียนรู้เพอ่ื ยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ัน้ พ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศึกษา 2563
36 2. ตัวอยา่ งขอ้ สอบการเขยี นสรุปใจความสาคัญจากเรื่องท่ีอา่ น (ขอ้ ที่ 34) ชาวสวนคนหนึ่ง ได้แก้ปัญหาในการทาสวนของตนเองโดยใช้ระบบน้าหยด ใชภูมิปัญญา 1 ชาวบา้ นในการกาจดั ศตั รพู ืช ใชน้ า้ หนกั ชีวภาพแทนยาฆา่ แมลง เพ่อื ลดการใช้น้า ลดต้นทุน คา่ ใชจ้ ่าย เพ่ือเพ่ิมผลผลติ จนประสบความสาเรจ็ ประเด็น การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประโยค รวม สาคัญ เชือ่ มโยง กลวิธี การสะกด การใช้คา (1 คะแนน) (10 (4 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) คา (1 คะแนน) คะแนน) 1 6.5 1 1 (1 คะแนน) 2 0.5 1 อธิบายเพ่ิมเตมิ 1. ได้คะแนนประเดน็ 1 คะแนน คือ 1.ใช้ระบบน้าหยด ใช้ภูมปิ ัญญาชาวบ้าน 2. หักคะแนนการสะกดคาผิด 1 แหง่ 0.5 คะแนน คือคาวา่ ใช 1 2 เกษตรกรคนหนึ่งและภรรยา ได้ปลูกผักหลายชนิดสลับสับเปล่ียนกันไป โดยใช้ระบบน้า หยด ทาให้ลดการใช้น้า ลดต้นทุนรายจา่ ยได้มาก และใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเสริมด้วย สิงที่ เขาภมู ิใจทีส่ ดุ คอื สามารถเลีย้ งดูครอบครัวให้มคี วามสขุ และสง่ ลูกให้ไดร้ ับการศกึ ษาสูงข้นึ ประเด็น การ เกณฑ์การให้คะแนน ประโยค รวม สาคัญ เชือ่ มโยง กลวิธี การสะกด การใชค้ า (1 คะแนน) (10 (4 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) คา (1 คะแนน) คะแนน) 1 6.5 2 1 (1 คะแนน) 1 0.5 1 อธบิ ายเพมิ่ เติม 1. ได้คะแนนประเดน็ 2 คะแนน คือ 1.ปลกู ผกั หลายชนิดสลับสบั เปลย่ี นกนั ไป 2.ใช้ระบบน้าหยดและใชภ้ มู ิ ปัญญาชาวบ้าน 2. หกั คะแนนกลวธิ ี 1 แบบ 1 คะแนน คอื การสรปุ ความผิดจากบทอา่ น “การศกึ ษาสงู ข้นึ ” ซง่ึ ในบทอ่าน เปน็ การศึกษาขัน้ สูง หรอื ระดับปรญิ ญาตรี 3. หักคะแนนการสะกดคาผิด 1 แห่ง 0.5 คะแนน คือคาวา่ สิง คมู่ ือพัฒนาการจดั การเรยี นรู้เพ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขนั้ พน้ื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศึกษา 2563
37 เกษตรกรคนหนง่ึ ไดเ้ ช่าท่ีดินเพื่อทาสวนผกั โดยได้ปลูกผักหลายชนิดสลบั สับเปล่ยี นกันไ1ปจน ทาให้มีรายได้มาเล้ียงดูครอบครวั ท้ังน้ียังสามารถส่งลูกเรยี นจนจบปรญิ ญาทั้ง 2 คน ซึ่งทา ใหเ้ ขามคี วามสุข ประเด็น การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประโยค รวม สาคญั เช่อื มโยง กลวิธี การสะกด การใช้คา (1 คะแนน) (10 (4 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) คา (1 คะแนน) คะแนน) 1 5 1 1 (1 คะแนน) 011 อธบิ ายเพม่ิ เติม 1. ไดค้ ะแนนประเด็น 1 คะแนน คือ 1.ทาสวนผกั โดยไดป้ ลกู ผกั หลายชนดิ สลับสับเปล่ียนกันไป 2. หักคะแนนกลวิธี 2 แบบ 2 คะแนน คอื 1.การระบุจานวนเป็นตวั เลข 2 คน 2.การสรปุ ความผิดไปจาก บทอา่ น 2 คน ซ่งึ ในบทอา่ น คอื มีลกู 3 คน เกษตรกรคนหนึ่งได้ทาการเกษตรกันเองภายในครอบคร1 ัว โดยการปลูกผักหลายชนิด 2 หมนุ เวียนกันไป จนมรี ายได้ทด่ี ขี น้ึ สามารถเล้ียงดูครอบครวั และสง่ เสริมการศึกษาให้แก่ ลูก ๆ ไดร้ บั การศกึ ษาขัน้ สูง ประเด็น การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประโยค รวม สาคญั เชื่อมโยง กลวธิ ี การสะกด การใชค้ า (1 คะแนน) (10 (4 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) คา (1 คะแนน) คะแนน) 1 8 2 1 (1 คะแนน) 211 อธิบายเพ่มิ เตมิ 1. ไดค้ ะแนนประเด็น 1 คะแนน คอื 1.ทาการเกษตรกันเองภายในครอบครวั 2.การปลกู ผกั หลายชนดิ หมนุ เวยี นกันไป คูม่ อื พัฒนาการจดั การเรยี นรเู้ พ่ือยกระดบั ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ น้ั พนื้ ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนยั เขยี นตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา 2563
38 1 2 4 เกษตรกรคนหน่ึงได้ลงมือปลูกผักหลายชนดิ สลับสบั เปล่ียนกนั ไปจนมีรายได้ดี เขาทาระบบ น้าหยดและใช้น้าหมักชีวภาพ ช่วยกันทาในครอบครัวจนสามารถเล้ียงดูครอบครัวให้มี ความสุข และสามารถส่งลกู ใหไ้ ดร้ ับการศกึ ษาข้ันสงู ได้ 3 ประเด็น การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประโยค รวม สาคญั เช่อื มโยง กลวิธี การสะกด การใชค้ า (1 คะแนน) (10 (4 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) คา (1 คะแนน) คะแนน) 1 10 4 1 (1 คะแนน) 211 คะแนนประเดน็ สาคัญของบทอ่าน ภาคผนวก คมู่ ือพฒั นาการจัดการเรียนร้เู พอื่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2563
39 แบบทดสอบการเขยี นสรุปใจความสาคญั คาสั่ง จงสรุปใจความสาคัญของบทอ่านต่อไปน้ี ด้วยตัวบรรจงครึ่งบรรทัด ความยาวไม่เกิน 3 บรรทัด โดยใช้ภาษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) การปลูกฝังพฤติกรรมการล้างมือฟอกสบู่นั้น ควรเร่ิมในครอบครัว ผู้ปกครองพ่อแม่ควรเริ่มสอนตัง้ แต่ อยู่ในวัยเด็กท่ีสื่อสารเข้าใจ ประการสาคัญท่ีสุดพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเป็นแบบอย่างทาให้เด็กเห็น เด็กจะเกิด การเรียนรู้และจดจาโดยอัตโนมัติ ขณะที่ฝึกเด็กจะต้องสร้างบรรยากาศให้เป็นเรื่องสนุกที่เด็ก ๆ ชอบ และเมื่อทาสาเร็จแล้ว จะต้องมีคาช่ืนชมเด็ก เม่ือเข้าสู่ระบบโรงเรียน ก็จะมีการสอนเร่ืองสุขบัญญัติ 10 ประการ ตอกยา้ ให้เด็กเรียนรู้และลงมือปฏิบตั ิ ดูแลสุขภาพตัวเองอยา่ งถกู ตอ้ ง ท้ังนี้ การล้างมือด้วยน้าและสบู่ให้สะอาดถูกวิธีมี 7 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ฝ่ามือถูกัน ข้ันตอนท่ี 2 ฝ่ามือถูหลังมือและน้ิวถูซอกน้ิว ข้ันตอนท่ี 3 ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว ขั้นตอนท่ี 4 หลังน้ิวมือถูฝ่ามือ ขั้นตอนท่ี 5 ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบฝ่ามือ ขั้นตอนท่ี 6 ปลายน้ิวถูขวางฝ่ามือ ข้ันตอนที่ 7 ถูรอบข้อมือ ทุกข้ันตอนทา 5 คร้ัง สลับกันทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลาไม่นานเพียง 10-20 วินาที หากประชาชนทุกคนล้างมือ ให้สะอาด ม่ันใจว่าจานวนผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารจะลดลง รวมท้ังลดโรคอื่นๆที่เช้ือติดมากับมือเช่นกัน เชน่ ไขห้ วดั ไข้หวดั ใหญไ่ ดด้ ว้ ย แนวคาตอบ การปลกู ฝงั พฤตกิ รรมการลา้ งมือฟอกสบู่ ควรเรมิ่ ในครอบครวั ต้งั แตอ่ ยใู่ นวยั เดก็ พ่อแม่ผปู้ กครอง ตอ้ งเปน็ แบบอยา่ ง เมอ่ื เข้าสู่ระบบโรงเรยี น ก็จะมกี ารสอนเรอื่ งสุขบญั ญตั ิ 10 ประการ ให้เด็กเรยี นรแู้ ละ ลงมอื ปฏิบัติ หากทุกคนล้างมอื ใหส้ ะอาด ผู้ปว่ ยโรคทางเดนิ อาหาร โรคอน่ื ๆทเ่ี ช้อื ติดมากับมอื จะลดลง คู่มือพฒั นาการจดั การเรียนรู้เพอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติข้นั พ้นื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอัตนยั เขยี นตอบ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
40 (ตัวอย่างข้อสอบการสรุปใจความสาคญั ปี 2562) คาส่งั จงสรปุ ใจความสาคญั ของบทอ่านตอ่ ไปน้ี เขยี นดว้ ยตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด โดยใช้ ภาษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) ความยาวไมเ่ กิน 3 บรรทดั เกษตรกรคนหน่งึ เปดิ เผยวา่ ตนและภรรยาไดเ้ ชา่ ทดี่ ินจานวน 24 ไร่ เพอ่ื ใชท้ าสวนผักโดยลองผิด ลองถกู ลม้ ลุกคลกุ คลานมาหลายคร้งั กระท่ังได้ลงมอื ปลูกผกั หลายชนดิ สลบั สับเปลีย่ นกนั ไป อาทิ มะระ พริก มะเขือ แตงกวา มะเขือเทศ จนมีรายได้ดี คอื ประมาณ 1,000 - 1,500 บาทตอ่ วัน ขนึ้ อยกู่ บั ราคา ผักในตลาด “ในการปลกู ผกั น้ัน ผมใชร้ ะบบนา้ หยด ทาใหล้ ดการใช้น้า ลดต้นทุนรายจา่ ยไดม้ ากและมีผลผลติ เพิม่ ขน้ึ นอกจากนี้ยงั ใชภ้ ูมปิ ัญญาชาวบา้ นเสริมด้วย คือ ใช้ขวดนา้ พลาสตกิ เจาะรู 2 ดา้ น ใส่นา้ ไวใ้ นขวด แลว้ แขวนไว้ในแปลงเพื่อดักจบั แมลงวันทอง แล้วกย็ ังได้ผลิตน้าหมกั ชวี ภาพ โดยลองผดิ ลองถกู ดว้ ยตัวเอง ไมใ่ ช้ยาฆ่าแมลงเลย ท่สี าคญั อย่างยิ่งก็คอื พวกเราทากันเองในครอบครวั ไมม่ ีการจา้ งคนช่วย” เขากลา่ ว สงิ่ ทเี่ ขาภูมิใจทส่ี ดุ คือ มรี ายไดจ้ นสามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้มีความสุขและสามารถสง่ ลกู ให้ได้รับการศกึ ษาขน้ั สงู ตอนนีล้ กู เรียนจบปริญญาตรแี ล้ว 2 คน คนโตจบทางดา้ นสาธารณสุข คนกลาง เป็นวิศวกร สว่ นคนเลก็ กาลงั เรยี นอยกู่ ารบินพาณชิ ย์ น่ีคือตวั อยา่ งของความสาเรจ็ ทีน่ า่ ช่นื ชมของขาวสวน ธรรมดาคนหนึง่ ประเด็นสาคัญ 4 ประเด็น 1. เกษตรกรปลูกผกั หลายชนิด (ทาสวนผัก ปลกู แตงกวา ปลูกมะเขือเทศ พรกิ ) 2. การปลกู ผักใชร้ ะบบน้าหยดและใชภ้ มู ิปัญญาชาวบา้ น (อาจใช้ ใชน้ า้ ชวี ภาพ เจาะรูดกั จบั แมลงวนั ทอง ได้) ***ไดค้ ะแนนสว่ นประเดน็ สาคญั แตจ่ ะไปหักคะแนนในการใช้กลวธิ ี*** 3. การปลกู ผกั ทากนั เองในครอบครวั (หรอื ใช้คาวา่ “ไม่มกี ารจา้ งคนช่วย” กไ็ ด้) 4. การปลกู ผักทาใหม้ ีรายไดเ้ ลีย้ งดคู รอบครวั ใหม้ คี วามสขุ และสง่ ลูกใหไ้ ดร้ บั การศึกษาข้ันสูง ( ใช้คาวา่ จบปริญญาตรไี ด้) หลกั การสังเกต - ถ้านกั เรียนยกขอ้ ความมาเขียน 1 ยอ่ หน้า ไดเ้ ฉพาะคะแนนประเด็นสาคญั - ถ้าไม่มคี าว่า “ปลกู ผัก” ใช้คาวา่ “ชาวสวน” ได้ เพราะ ชาวสวนก็หมายถึง คนปลูกผกั คูม่ ือพฒั นาการจัดการเรยี นรเู้ พอื่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพืน้ ฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขียนตอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563
41 ตวั อยา่ งการสรา้ งข้อสอบรูปแบบอตั นัยเขยี นตอบ ใบงานที่ 1 ลกั ษณะเฉพาะของขอ้ สอบ (Item Specification) ขอ้ สอบเขยี นเลา่ เร่ืองจากภาพ มาตรฐานการเรยี นรู้ ท2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สารเขยี นเรยี งความยอ่ ความ (Learning Standards) และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ชี้วดั (Indicators) - เขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ (ท2.1 ป.6/8) - เขียนสอ่ื สารโดยใชค้ าได้ถกู ต้องชดั เจนและเหมาะสม (ท2.1 ป.6/2) หลักฐานร่องรอย เขียนเลา่ เร่อื งราวจากภาพที่กาหนดให้ : ใชค้ วามสามารถในการเขยี นสอื่ สาร (Evidence Required) โดยใชค้ า ประโยคไดถ้ กู ตอ้ งชัดเจนและเหมาะสมเขยี นแสดงความรูส้ ึกและ ความคดิ เหน็ เขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ รูปแบบข้อสอบ เลือกตอบ เติมคาตอบส้นั เขยี นตอบ (Allowable Item Types) ระดับพฤตกิ รรมดา้ นพทุ ธิพิสยั จดุ ม่งุ หมายทางการศกึ ษาของบลมู (Revised Bloom’s Taxonomy) : (Target Cognitive Levels) จา เขา้ ใจ ประยุกตใ์ ช้ วิเคราะห์ ประเมนิ คา่ สร้างสรรค์ ระดบั ความยากของขอ้ สอบ งา่ ย ปานกลาง ยาก (Level of Difficulty) โมเดลขอ้ สอบ สถานการณ์ (Prompts & Stimuli) : กาหนดภาพท่มี ีความคมชัดจานวน (Item Model) : 1 ภาพท่ีนักเรียนระดับชน้ั ป. 6 สามารถนาเสนอแนวคิดท่ีน่าสนใจ คาถาม : เป็นคาส่งั ให้เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการและสร้างสรรค์จากภาพ ที่กาหนดให้มคี วามยาวจานวน 4–7 บรรทดั คาตอบ : เขียนเลา่ เร่อื ง/เลา่ เหตกุ ารณ/์ เล่าพฤตกิ รรมหรอื ความร้สู ึก/เลา่ นทิ าน ท่แี สดงแนวคดิ สาคัญของภาพทีก่ าหนดใหม้ คี วามยาวจานวน4-7บรรทดั ) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : คะแนนเตม็ 10คะแนนแบ่งเป็น 3 สว่ นคอื (1) เขยี นตรงตามคาสง่ั (ความยาวตามคาสั่งเขยี นเล่าเรื่อง) (1คะแนน) (2) เนื้อหา (นาเสนอแนวคิดสาคัญของภาพได้มกี ารเรยี งลาดับความคดิ และการเชื่อมโยงความคดิ ) (4 คะแนน) (3) ภาษา (การสะกดการันต์และการใช้เคร่อื งหมายการใช้คา/ถอ้ ยคา สานวนประโยคและวรรคตอนถูกต้อง) (5 คะแนน) ค่มู ือพฒั นาการจัดการเรียนรเู้ พอ่ื ยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นยั เขียนตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
สถานการณท์ ใ่ี ช้ 42 (Allowable Stimuli) เป็นภาพถา่ ย/ภาพวาดเกย่ี วกับคนสัตว์สิง่ ของสถานทท่ี ี่นกั เรยี นระดบั ชั้น ป. 6 สามารถนาเสนอแนวคดิ สาคญั ของภาพไดโ้ ดยตอ้ งหลกี เล่ียงการใชภ้ าพทม่ี ี ลิขสทิ ธิ์ แบบทดสอบการเขยี นเรือ่ งจากภาพ คาสง่ั จงเขียนเล่าเรอื่ งจากภาพใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง) ไมเ่ ขยี นเปน็ บทรอ้ ยกรอง และไมต่ อ้ งตั้งชอ่ื เรือ่ ง ความยาว 4 – 7 บรรทดั ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... คู่มอื พัฒนาการจัดการเรยี นรเู้ พอ่ื ยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขียนตอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
การสรา้ งเกณฑป์ ระเมนิ ขอ้ สอบเขียนเลา่ เร่ืองจากภาพ 43 1. เขยี นตรงตามคาส่งั (1 คะแนน) เกณฑ/์ คะแนน 0.5 คะแนน 0 คะแนน 1. ความยาวตามคาสง่ั เขยี นความยาว 4 – 7 บรรทดั ไม่รวมช่ือเรอ่ื ง เขียนความยาวตา่ กวา่ 4 บรรทดั หรอื เขียนความยาวเกิน 7 บรรทดั (ตรวจบรรทดั ท่ี 1 – 7) 2. เขยี นเลา่ เรอ่ื ง มกี ารเล่าเรือ่ ง/เล่าเหตุการณ/์ เลา่ พฤตกิ รรม มีแตค่ าอธบิ าย/ใหข้ ้อมลู / หรือความรู้สึก/เล่านิทาน ทัง้ หมดหรอื บางส่วน บอกลักษณะ หมายเหตุ ถา้ เขยี นต่ากวา่ 4 บรรทดั ให้พิจารณาดงั นี้ ถา้ เขียน1ประโยคใหค้ ะแนนการเรียงลาดบั ความคดิ และการเช่อื มโยงความคดิ 0 คะแนน และใหค้ ะแนนดา้ นภาษารวมได้ไม่เกนิ 2.5 คะแนน ถ้าเขียนมากกวา่ 1 ประโยคใหค้ ะแนนการเรยี งลาดบั ความคิดและการเชอ่ื มโยงความคดิ ไดไ้ ม่เกนิ 1คะแนน (จากคะแนน 1.5 คะแนน) และให้คะแนนดา้ นภาษารวมไดไ้ มเ่ กนิ 2.5 คะแนน คมู่ ือพฒั นาการจดั การเรียนรู้เพื่อยกระดบั ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขน้ั พ้นื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัยเขยี นตอบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
44 ใบงานที่ 2 ลกั ษณะเฉพาะของขอ้ สอบ (Item Specification) ข้อสอบการเขยี นสรปุ ใจความสาคัญ มาตรฐานการเรยี นรู้ ท2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสารเขยี นเรยี งความยอ่ ความ (Learning Standards) และเขียนเรอื่ งราวในรูปแบบตา่ งๆเขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ช้วี ดั (Indicators) - เขียนยอ่ ความจากเรอ่ื งท่อี า่ น (ท2.1 ป.6/5) หลักฐานรอ่ งรอย เขยี นย่อความ สรปุ ใจความสาคัญจากบทอา่ น : (Evidence Required) ใช้ความสามารถในการยอ่ ความ สรุปใจความสาคญั จากบทอา่ น โดยมีประเด็นสาคญั ของเรอ่ื ง มกี ลวธิ ีการสรุปความ เขียนสอ่ื สาร เป็นประโยคและสะกดถูกต้อง รปู แบบขอ้ สอบ เลือกตอบ เตมิ คาตอบสนั้ เขยี นตอบ (Allowable Item Types) ระดบั พฤตกิ รรมดา้ นพุทธพิ ิสัย จดุ มุง่ หมายทางการศึกษาของบลมู (Revised Bloom’s Taxonomy) : (Target Cognitive Levels) จา เขา้ ใจ ประยุกต์ใช้ วเิ คราะห์ ประเมนิ ค่า สรา้ งสรรค์ ระดบั ความยากของข้อสอบ ง่าย ปานกลาง ยาก (Level of Difficulty) โมเดลขอ้ สอบ สถานการณ์ (Prompts & Stimuli) : กาหนดเร่อื งที่มีเน้อื หาน่าสนใจ (Item Model) เหมาะกบั นกั เรียนระดับชั้น ป. 6 จานวน 1 เรอื่ ง มปี ระเดน็ สาคญั 6 ประเดน็ ความยาว 1/2 – 3/4 หน้า คาถาม : เป็นคาสั่งให้เขียนสรุปใจความสาคญั จากบทอ่านทกี่ าหนดให้ ความยาวไมเ่ กนิ 3 บรรทัด(เวลาทใี่ ชใ้ นการทดสอบ 15 นาท)ี คาตอบ : เขียนสรุปใจความสาคญั ได้ และใชภ้ าษาได้ถูกตอ้ ง เกณฑ์การให้คะแนน :คะแนนเต็ม10คะแนนแบ่งเป็น 2 ส่วนคอื (1) ดา้ นเนื้อหา8คะแนนประกอบดว้ ย ประเดน็ สาคญั 6 ประเดน็ สรปุ ใจความสาคัญได้ครบ 6 ประเด็น (6 คะแนน) ร้กู ลวธิ ีการสรุปความ (2 คะแนน) (2) ดา้ นภาษา2 คะแนน ประกอบดว้ ย การสะกดการนั ต์และการใช้ เคร่อื งหมาย (1 คะแนน) และการใช้ประโยค (1 คะแนน) สถานการณ์ทใ่ี ช้ เป็นบทอ่านที่มปี ระเด็นสาคัญของภาพครบถ้วน 6 ประเดน็ ท้ังน้ใี นกรณี (Allowable Stimuli) ที่ดดั แปลงนามาจากเรื่องของบคุ คล/แหลง่ อ่ืน ต้องระบแุ หล่งอา้ งอิง คู่มอื พัฒนาการจดั การเรยี นรู้เพอื่ ยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ้ันพ้นื ฐาน (O-NET) วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนยั เขยี นตอบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2563
45 ค่มู อื พัฒนาการจัดการเรียนร้เู พื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขนั้ พื้นฐาน (O-NET) วชิ าภาษาไทย รปู แบบอตั นัยเขียนตอบ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563
บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศกึ ษาธิการ. กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). ตัวชี้วัดและสาระแกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตร แห่งประเทศไทย จากัด. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2563). คู่มือการจัดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพฯ : สถาบัน ทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน). สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2563). O-NET กับการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน NIET News ฉบับท่ี 79. กรุงเทพฯ : สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน). สัมพันธ์ พนั ธ์พุ ฤกษ.์ (2559). การนาผลการทดสอบระดับชาตขิ ัน้ พนื้ ฐาน (O-NET) เป็นกลไกในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน แบบครูมอื อาชพี . กรุงเทพฯ : สถาบันทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาต(ิ องคก์ ารมหาชน). สุกญั ญา ทองนาค. (2555). หลกั การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้.อุตรดิตถ์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดติ ถ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2563. จาก http://old-book.ru.ac.th/e-book/m/MR311/mr311-11.pdf. โครงการโรงเรียนทรูปลูกปัญญา. แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป. 6. สืบค้นเม่ือ 26 ตุลาคม 2563. จาก http://www.trueplookpanya.com/examination/doexam/11126.
ทปี่ รกึ ษำ คณะผู้จดั ทำ นายสมเร็จ อดุ แดง ผู้อานวยการสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานา่ น เขต 1 นายนิวัฒน์ ไชยเลิศ รองผ้อู านวยการสานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 วา่ ทพ่ี นั ตรสี รุ เดช รอดจนิ ดา รองผู้อานวยการสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 นางนฑั วิภรณ์ จันตะ๊ พรมมา รองผู้อานวยการสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาน่าน เขต 1 นายสุรชาติ ภูผาผยุ ผูอ้ านวยการกลุม่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา คณะกรรมกำรดำเนนิ งำน นายวันชยั ภผู าคณุ หวั หน้ากลุ่มงานสง่ เสรมิ และพฒั นาระบบการนิเทศและการจดั กระบวนการเรียนรู้ นางศิริรตั น์ แยม้ ศลิ ป์ หวั หน้ากลมุ่ งานประสาน ส่งเสรมิ สนับสนนุ และพฒั นาหลกั สูตรการศกึ ษา นางลาเนาว์ ชยั คา ข้ันพืน้ ฐาน หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัย และหลักสตู รการศึกษาพิเศษ ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ นางสาวกฤติยา ขัติยะ ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ นายชาตชิ าย ทนะขว้าง ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการพิเศษ นายปิยะ จะเฮงิ ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพเิ ศษ สบิ ตรียุทธภัณฑ์ จันทรค์ าเรอื งกุล ครูโรงเรยี นศรีนาช่ืน นางสาวนัยนา จนิ ะป๊อก ครูโรงเรยี นบ้านหว้ ยส้ม นางดาวใจ สองสโี ย ครโู รงเรยี นจอมจันทร์วทิ ยาคาร นางสาวภภิ สั รา ยศอศิ วกลุ ครูโรงเรยี นบา้ นฟา้ นางสาวศรสวรรค์ จันทรว์ งั ครโู รงเรยี นบ้านนาคา นางสาวชนาภรณ์ เมฆแสน ครโู รงเรียนบา้ นนา้ ตวง บรรณำธิกำรกิจ นายวนั ชยั ภผู าคุณ หวั หนา้ กล่มุ งานส่งเสรมิ และพฒั นาระบบการนเิ ทศและการจดั กระบวนการเรียนรู้ ออกแบบปก/รูปเล่ม นายชาตชิ าย ทนะขว้าง ศกึ ษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ
กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานา่ น เขต 1 เลขที่ 114 หมู่ 6 บ้านพญาวัด ถนนยันตรกิจโกศล ตาบลด่ใู ต้ อาเภอเมืองนา่ น จงั หวัดน่าน 55000
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: