Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

หนังสือคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

Description: หนังสือคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

Search

Read the Text Version

ตัวอย่างกิจกรรมท่ี ๒ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นฝึกผนั วรรณยุกต์คำอกั ษรสูงต่อไปนี้ อักษรสูง ่ ้ ขา ข่า ขา้ ขรา ขร่า ขรา้ ขลา ขล่า ขล้า ขวา ขวา่ ขว้า ผล ี ผล่ ี ผล ้ี ขร ู ขร ู่ ขร้ ู เขร เขร่ เขร ้ แผร แผร่ แผร ้ โผล โผล ่ โผล ้ ขลอ ขลอ่ ขล้อ ขลัว ขลว่ั ขล้ัว เขลยี เขลี่ย เขลย้ี เขลอื เขลอ่ื เขลอ้ื เขรอ เขรอ่ เขร้อ ไขว ไขว ่ ไขว ้ เขลา เขลา่ เขลา้ ขลำ ขล่ำ ขลำ้ หนังสือคมู่ ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 45

ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี ๓ คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นฝกึ อ่านผันเสียงวรรณยกุ ต์คำอกั ษรตำ่ ต่อไปน ี้ อักษรตำ่ ่ ้ คา ค่า ค้า ครา ครา่ ครา้ คลา คล่า คลา้ ควา คว่า คว้า คลี คลี่ คลี้ ครู คร ู่ ครู้ เคร เคร่ เคร้ แพร แพร่ แพร ้ โคล โคล ่ โคล้ คลอ คล่อ คลอ้ พลวั พล่วั พลว้ั เพลยี เพล่ยี เพลย้ี เคลือ เคลอื่ เคลอื้ เครอ เคร่อ เครอ้ ไคล ไคร่ ไคร้ เคลา เคล่า เคล้า คลำ คลำ่ คลำ้ 46 หนังสอื คู่มอื แนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

๒.๔ การฝกึ อา่ นบอ่ ยๆ จะทำใหน้ กั เรยี นสามารถอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งและคลอ่ งแคลว่ ตัวอย่างกิจกรรมท่ี ๑ คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นอา่ นคำต่อไปน้ี ๑. อา่ นพรอ้ มกันท้งั ชนั้ เรียน ๒. อ่านตามแถวทน่ี งั่ แถวละคำ ๓. อ่านทลี ะคน ตีเกราะ ใจกลา้ ไกลเ่ กล่ีย ตะกร้อ ตะกรา้ มะเกลอื คละกัน กล้าหาญ หัวปลี ไกวเปล หวั เปราะ ประดาน้ำ คำแปล นำ้ คร่ำ ผ้าไตร เชา้ ตร ู่ ปลอดภยั ใบขลู่ แกว้ แกลบ รถดบั เพลงิ มวยปล้ำ ชะคราม ครกึ ครนื้ คลิง้ โคลง ผา้ แพร แคลว่ คลอ่ ง พลับพลงึ ประดู่ ตะไคร้ มดี พรา้ ช้าพลู แตงกวา ตะไคร้นำ้ ฝนพรำ กะหล่ำปล ี กระดาษ ขวญั ข้าว แพร่หลาย ผกากรอง พรำ่ สอน จากพราก บินไขว ่ นกเปล้า ควาญชา้ ง ไหว้พระ ตระเตรยี ม ยงิ กวาง กลางดง เคร่ืองเคลือบ พูดเพราะ ตน้ ควา้ ตรึกตรอง พลบั พลา กงุ้ พลา่ สานคร ุ ใครค่ รวญ กนิ ปลี พรานป่า กระบือ หนงั สือคูม่ ือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 47

ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๒ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านเร่ือง “นายกล่ำ ใจกล้า ดีอย่างไร” แล้วบอกใจความ สำคัญหรอื ขอ้ คิดจากเรอื่ งทีอ่ า่ น นายกลำ่ ใจกลา้ ดอี ย่างไร นายกล่ำ ใจกล้า ทำมาหากินในทางทำไร่ ไร่ของแกมีเปราะ ขิง ข่า ตะไคร้ ฟัก แฟง แตงกวา กะหล่ำปลี และผักอื่นๆ อีกหลายอย่าง แกเป็นคนขยันขันแข็ง รจู้ กั คน้ ควา้ หาขอ้ ทน่ี า่ รใู้ นเรอ่ื งทำไรต่ ามหลกั วชิ า เอาใจใสบ่ ำรงุ ไรด่ มี าก หมน่ั รดนำ้ ถากถาง ใส่ปุ๋ย และคอยระวังจับหนอน ตัวเพลี้ย ไม่ให้มากัดกินผักของแก ผักของแกจึงงอกงามดี น่าดู น่าชมแทๆ้ พอเวลาเชา้ ตรู่ ถงึ แมฝ้ นจะตกพรำๆ และหนทางจะเฉอะแฉะ แกกท็ นตรำฝน ไม่กลัวเปรอะเปื้อน หาบผักต่างๆ เตร่ไปเที่ยวขายตามตลาด แกเป็นคนใจดี หน้ายิ้มแย้ม อยู่เสมอ วาจากอ็ ่อนหวาน ฟังเพราะจบั ใจ และไม่ใครพ่ ูดพรำ่ เพรื่อ ถ้าแกมีเวลาว่าง ใครโผล่หน้าเข้าไปดูใกล้ๆ ประตูรั้วไร่จะเห็นแกนั่งอยู่บน เกา้ อ้ี สานกระจาด ตะกรา้ เปน็ ตน้ ดว้ ยฝมี อื อนั ละเอยี ดเรยี บรอ้ ย นา่ ดู นา่ ใช้ ถา้ มเี หลอื มาก ก็ส่งไปขายทต่ี ลาด ใครๆ ก็พอใจอุดหนุนแก ในเรือนของแกแม้แต่ครัว ก็ดูสะอาดดี ถ้วยชามวางคว่ำ เป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ย ตมุ่ นำ้ กไ็ มม่ ตี ะไครน่ ำ้ จบั จนกระทงั่ กะปิ นำ้ ปลา หวั หอม หวั กระเทยี ม นางไปล่ ใจกลา้ เมียของแกกห็ มั่นเอาออกผึ่งแดดบอ่ ยๆ เพอ่ื มิให้เป็นขมวน แกชอบใส่เส้ือผ้า ท่ีทำขึ้นจำหน่ายในประเทศไทย เพ่ือบำรุงสินค้าใน บา้ นเมืองของตน แพรและไหมถึงแมม้ แี พรห่ ลายกต็ าม แต่แกไมใ่ ครช่ อบใช้ เพราะมีราคา แพงเกินไป สรุ ยุ่ สรุ า่ ย เสียเงนิ ในส่ิงท่ีไม่จำเป็น ตามเรื่องที่ได้อ่านมานี้ นักเรียนคงรู้ได้แล้วว่านายกล่ำ ใจกล้า ขยันขันแข็ง อย่างไร มีกิริยาวาจาเป็นอย่างไร เรือนของแกจนกระทั่งครัวสะอาดอย่างไร และแกรู้จัก ประหยัดใช้เส้ือผ้าอย่างไร ข้อเหล่าน้ีนักเรียนทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแกดี ทั้งหมด และเป็นสิ่งที่น่าจดจำกระทำตามแกทั้งส้ินด้วย ถ้าชาวไทยเราทุกคน ต่างรู้สึก สำนกึ ตัวถงึ หนา้ ทีอ่ ันดีงามเชน่ นแ้ี ล้ว ประเทศไทยเราก็จะมงั่ ค่งั และรุง่ เรอื งทดั เทียมบา่ ไหล่ 48 หนงั สอื คูม่ อื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

เมืองไทย ใหญอ่ ุดม ดนิ ดสี ม เป็นนาสวน เพอ่ื นรัก เราชักชวน ร่วมชว่ ยกนั มุ่งหมน่ั ทำ วชิ า ตอ้ งหาไว ้ เปน็ หลักได ้ ใช้ชว่ ยนำ ให้รู้ ลู่ทางจำ ค้นคว้าไป ใหม้ ากมาย ช่วยกัน อยา่ งขันแข็ง ด้วยลำแข้ง และแรงกาย ทำไป ไม่เสียดาย แม้อาบเหงอ่ื เมอื่ ทำงาน ด่งั นี้ มง่ั มแี ท ้ รม่ เย็นแน ่ หาไหนปาน โลกเขา คงเล่าขาน ถ่นิ ไทยน้ ี ดงี ามเอย หนงั สอื คู่มือแนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 49

๓. คำศพั ท์ ๓.๑ ความหมายของคำศัพท ์ คำศัพท์ ความหมาย ขมวน หนอนชนดิ หนงึ่ มกั เกิดในซากทเี่ กบ็ ไว้นานๆ เชน่ ปลายา่ ง อาหารแหง้ อนื่ ๆ แกว้ แกลบ - ตะกรัน เกิดจากเถา้ แกลบทีแ่ ข็ง มสี ีขาว ลอยน้ำได,้ ช่ือหนิ ออ่ น สีขาวใสใช้ทำยา - แกว้ ๗ ประการ ๑. สวุ รรณ ๒. หิรัญ ๓. มกุ ดาหาร ๔. มณ ี ๕. ไพฑรู ย์ ๖. วเิ ชียร ๗. ประพาฬ คลง้ิ โคลง ช่อื นกชนิดหน่งึ ขนาดนกเอยี้ ง บางทเี รียกกิ้งโครง ๓.๒ คำท่เี ขยี นแตกตา่ งจากปจั จุบนั คำทใ่ี ช้ในปจั จบุ ัน คำที่ใช้ในหนงั สือแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง ทัดเทียม, เทา่ เทยี ม ส่งเสริมสนิ คา้ , สนับสนุนสนิ ค้า ทนั เทียม บำรงุ สนิ คา้ ๔. ข้อสังเกตและขอ้ เสนอแนะ ๔.๑ คำศัพท์ที่เป็นคำยาก ไม่มีใช้ในท้องถ่ิน ครูควรอธิบายคำศัพท์เหล่านั้น เพิม่ เติม ๔.๒ การฝึกหัดอ่าน หัดผันวรรณยุกต์ การประสมอักษรสามหมู่กับสระ จะพบกับคำที่ไม่มีความหมายหลายๆ คำ ครูไม่จำเป็นต้องสอนให้รู้ความหมาย แต่เน้นให ้ รจู้ ักการประสมอกั ษร ๔.๓ การสอนอา่ นคำในแบบฝกึ หดั แตล่ ะคำ การสอนคำทเ่ี ขา้ ใจยาก ควรยกตวั อยา่ ง การใช้คำโดยการพูดหรือเขยี นเป็นประโยคให้นักเรียนเข้าใจคำมากขน้ึ 50 หนังสอื ค่มู ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

บทท่ี ๒๒ ๑. เนื้อหา ๑.๑ พยญั ชนะทใี่ ช้กล้ำกบั ร ล หรือ ว ๑) การอา่ นออกเสยี งพยัญชนะที่ใช้กล้ำ ร ล ว (กร- กล- กว- ตร- ปร- ปล- ขร- ขล- ขว- ผล- คร- คล- คว- พร- พล-) มตี วั สะกด ๒) การประสมพยญั ชนะท่ีใชก้ ล้ำกับ ร ล ว (กร- กล- กว- ตร- ปร- ปล- ขร- ขล- ขว- ผล- คร- คล- คว- พร- พล-) มีตัวสะกด ๑.๒ การผนั พยญั ชนะที่ใช้กลำ้ กบั ร ล หรอื ว (กร- กล- กว- ตร- ปร- ปล- ขร- ขล- ขว- ผล- คร- คล- คว- พร- พล-) มีตัวสะกด ๑.๓ อักษรควบไมแ่ ท้ ๒. แนวทางการจดั กจิ กรรม ๒.๑ ใหค้ วามรเู้ รอื่ งการผนั อกั ษรสามหมู่ เรอื่ ง พยญั ชนะท่ใี ช้ควบกล้ำกบั ร ล หรอื ว และมตี ัวสะกด โดยใชอ้ ักษรสามหมู ่ อักษรกลาง อกั ษรกลาง มี ๙ ตัว ได้แก่ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ อกั ษรกลางท่มี ีพยัญชนะตน้ ควบ ร ล ว ผันไดค้ รบ ๕ เสยี ง พื้นเสยี งเป็น เสยี งสามัญ รปู และเสยี งวรรณยกุ ต์ตรงกัน อกั ษรสูง อักษรสูง มี ๑๑ ตัว ไดแ้ ก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห อักษรสูงท่ีมีพยัญชนะต้นควบ ร ล ว ผันได้ครบ ๓ เสียง พ้ืนเสียงเป็น เสียงจตั วา รูปและเสียงวรรณยกุ ต์ตรงกัน อกั ษรต่ำ อกั ษรตำ่ มี ๒๔ ตวั ไดแ้ ก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ อักษรต่ำที่มีพยัญชนะต้นควบ ร ล ว ผันได้ครบ ๓ เสียง พื้นเสียงเป็น เสียงสามญั รปู และเสยี งวรรณยุกต์ไมต่ รงกนั หนังสอื คมู่ ือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 51

๒.๒ การอ่านคำท่ีมีพยัญชนะกล้ำกับ ร ล ว มีตัวสะกด ให้ฝึกอ่านสะกดคำ และอา่ นเปน็ คำ ตัวอย่างกจิ กรรม คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงคำตอ่ ไปน้ี ๑. ให้อา่ นจากขา้ งบนลงมาข้างล่าง ๒. ใหอ้ ่านจากซา้ ยไปขวา อ่านจากซา้ ยไปขวา ง น ม ย ว ก ด บ กระ กรงั กรัน กรัม กรัย - กรัก กรัด กรบั กรา กราง กราน กราม กราย กราว กราก กราด กราบ กร ิ กรงิ กรนิ กรมิ กรยิ กริว กริก กรดิ กรบิ ครี ครีง ครนี ครีม ครยี ครวี ครีก ครีด ครีบ อ า่ นจาก ตร ึ ตรึง ตรนึ ตรมึ ตรึย ตรวึ ตรกึ ตรึด ตรบึ ขา้ งบน คร ื ครืง ครนื ครมื ครืย ครวื ครกื ครืด ครืบ ลงมา ผล ุ ผลงุ ผลนุ ผลุม ผลยุ ผลุว ผลุก ผลดุ ผลบุ ข า้ งล่าง ปล ู ปลงู ปลนู ปลมู ปลยู ปลูว ปลูก ปลูด ปลูบ เพล เพลง เพลน เพลม เพลย เพลว เพลก เพลด เพลบ แปล แปลง แปลน แปลม แปลย แปลว แปลก แปลด แปลบ โกระ กรง กรน กรม กรย กรว กรก กรด กรบ คลอ คลอง คลอน คลอม คลอย คลอว คลอก คลอด คลอบ พรัว พรวง พรวน พรวม พรวย - พรวก พรวด พรวบ เกรีย เกรยี ง เกรียน เกรียม เกรยี ย เกรยี ว เกรยี ก เกรียด เกรียบ เกลือ เกลือง เกลอื น เกลอื ม เกลือย เกลอื ว เกลอื ก เกลอื ด เกลือบ เพลอ เพลงิ เพลิน เพลมิ เพลยิ เพลิว เพลกิ เพลดิ เพลบิ 52 หนังสอื คู่มือแนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

ตวั อยา่ งการอ่าน การอา่ นจากขา้ งบนลงมาขา้ งลา่ ง กรงั กราง กริง ตัวอย่างการอ่านสะกดคำ กรัง อ่านสะกดคำว่า กอ - รอ - อะ - งอ - กรัง อ่านวา่ กรงั กราง อา่ นสะกดคำว่า กอ - รอ - อา - งอ - กราง อา่ นวา่ กราง กริง อ่านสะกดคำว่า กอ - รอ - อิ - งอ - กรงิ อ่านวา่ กรงิ การอา่ นจากซา้ ยไปขวา กรงั กรนั กรัม กรัย กรกั กรดั กรับ ตวั อยา่ งการอา่ นสะกดคำ กรัง อ่านสะกดคำว่า กอ - รอ - อะ - งอ - กรงั อ่านว่า กรงั กรนั อา่ นสะกดคำวา่ กอ - รอ - อะ - นอ - กรัน อ่านวา่ กรนั กรมั อา่ นสะกดคำว่า กอ - รอ - อะ - มอ - กรัม อ่านวา่ กรมั กรยั อา่ นสะกดคำวา่ กอ - รอ - อะ - ยอ - กรยั อ่านว่า กรัย กรกั อ่านสะกดคำว่า กอ - รอ - อะ - กอ - กรัก อา่ นวา่ กรกั กรัด อ่านสะกดคำว่า กอ - รอ - อะ - ดอ - กรัด อ่านวา่ กรัด กรับ อา่ นสะกดคำวา่ กอ - รอ - อะ - บอ - กรบั อ่านว่า กรบั หนังสอื คู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 53

๒.๓ การผันวรรณยุกต์คำท่ีมีอักษรกลางควบกล้ำกับ ร ล หรือ ว ให้ฝึกอ่าน เปน็ คำ ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๑ คำชีแ้ จง ่ อกั ษรกลาง ๊ ๋ กัน ก่นั กั๊น กนั๋ กลัน กลั่น ้ กลนั๊ กลั๋น กวาง กวา่ ง กัน้ กว๊าง กว๋าง กราว กร่าว กลนั้ กรา๊ ว กรา๋ ว กลิง กลง่ิ กว้าง กล๊ิง กล๋งิ กรึง กร่ึง กรา้ ว กรง๊ึ กร๋ึง กลนื กล่นื กลิ้ง กล๊นื กลื๋น กลมุ กลมุ่ กรึ้ง กลมุ๊ กลมุ๋ เปลง เปลง่ กล้ืน เปล๊ง เปล๋ง แกลน แกลน่ กลมุ้ แกล๊น แกล๋น กลน กลน่ เปลง้ กล๊น กล๋น โกรง โกรง่ แกลน้ โกร๊ง โกรง๋ กลอง กล่อง กลน้ กล๊อง กล๋อง กลวย กล่วย โกรง้ กล๊วย กล๋วย เปรยี ว เปร่ยี ว กลอ้ ง เปร๊ียว เปร๋ยี ว เกลือน เกลือ่ น กล้วย เกลื๊อน เกล๋ือน เปร้ยี ว เกลื้อน 54 หนังสือค่มู ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

ตวั อยา่ งกจิ กรรมที่ ๒ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นฝกึ ผันวรรณยกุ ต์คำอักษรสูงตอ่ ไปน้ี อักษรสงู ่ ้ ขนั ขน่ั ข้ัน ขลนั ขลน่ั ขลน้ั ขวาง ขว่าง ขวา้ ง ขราว ขรา่ ว ขรา้ ว ขลิง ขล่งิ ขลง้ิ ขลงึ ขลึง่ ขลึ้ง ขลืน ขลน่ื ขลื้น ขลุย ขลยุ่ ขลุ้ย เขลง เขลง่ เขล้ง แขวน แขวน่ แขว้น ขลน ขล่น ขลน้ โขรง โขรง่ โขร้ง ขลอง ขลอ่ ง ขลอ้ ง ขลอย ขลอ่ ย ขล้อย เขรยี ว เขรย่ี ว เขร้ียว เขลือน เขลือ่ น เขลอ้ื น หนงั สือคู่มอื แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 55

ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี ๓ คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นฝึกผังวรรณยุกต์คำอกั ษรตำ่ ต่อไปนี้ อกั ษรตำ่ ่ ้ คัน ค่นั คั้น ครัน ครั่น ครน้ั ควาง คว่าง ควา้ ง คราว คร่าว คร้าว คลงิ คลง่ิ คลิ้ง ครึง คร่ึง ครงึ้ คลืน คลน่ื คลืน้ คลุม คลุ่ม คล้มุ เคลน เคล่น เคล้น แคลน แคล่น แคลน้ คลน คลน่ คล้น โครง โคร่ง โคร้ง คลอง คล่อง คลอ้ ง คลอย คลอ่ ย คลอ้ ย เพรียว เพรีย่ ว เพรี้ยว เคลอื น เคลอ่ื น เคลอ้ื น 56 หนังสอื คมู่ ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี ๔ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนเขียนตามคำบอกต่อไปน้ี ๑. มะขวิด ๒. กว้างขวาง ๓. ด้ามขวาน ๔. แขวนเสอื้ ๕. สระน้ำ ๖. ตระเตรยี ม ๗. เพลิดเพลิน ๘. มะพลับ ๙. ปลูกพรกิ ๑๐. กลางวนั ๑๑. พลบคำ่ ๑๒. กราบพระ ๑๓. กลีบบวั ๑๔. พรวนดิน กราบพระ ๑๕. ครอบครัว ๒.๔ คำควบไม่แท้มี ๒ ลักษณะ ไดแ้ ก่ ๑) พยัญชนะควบที่ออกเสียงเฉพาะตัวหน้า ได้แก่ คำที่ควบด้วย ร แต่ ไม่อ่านออกเสียง ร เชน่ จรงิ อา่ นว่า จงิ สร้าง อา่ นวา่ ส้าง ไซร้ อา่ นวา่ ไซ้ ๒) พยญั ชนะควบทอ่ี อกเสยี งเปน็ เสยี งอนื่ ไดแ้ ก่ ทร ออกเสยี ง เปน็ ซ เชน่ ทรง อ่านวา่ ซง ทราย อ่านว่า ซาย ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๑ คำช้ีแจง ให้นกั เรียนฝกึ อ่านคำควบไม่แทต้ อ่ ไปน ้ี ๑. สระ ๒. ไซร้ ๓. สรง ๔. สร้าง ๕. สร้อย ๖. จรงิ ๗. อนิ ทร ี ๘. ไทร ๙. ทรง ๑๐. ทราย ๑๑. ทรดุ โทรม ๑๒. แทรก หนงั สือคู่มอื แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 57

ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๒ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนยกตัวอย่างคำควบกล้ำไม่แท้ท่ีนักเรียนเคยใช้ในชีวิตประจำวัน และชว่ ยกันนำคำเหล่านัน้ มาแตง่ ประโยคปากเปล่า ๒.๕ การฝกึ อา่ นบอ่ ยๆ จะทำใหน้ กั เรยี นสามารถอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งและคลอ่ งแคลว่ ตัวอยา่ งกิจกรรมที่ ๑ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นคำตอ่ ไปน้ี ๑. อา่ นพรอ้ มกันทง้ั ช้ันเรียน ๒. อ่านตามแถวทน่ี ่งั แถวละคำ ๓. อา่ นทลี ะคน กลมเกลยี ว แกลว้ กล้า สม้ เกลยี้ ง มะกรดู เกรงกลวั อดกล้นั แปรงฟนั เปลวไฟ ปลิวไป ปลายขา้ ว มะขวิด กวา้ งขวาง ดา้ มขวาน แขวนเสอ้ื สรงนำ้ เปา่ ขลยุ่ ห้ามปราม ขา้ วเปลอื ก ปากตรอก ซอ่ื ตรง ตระเตรยี ม ตรกึ ตรอง รอ้ งเพลง พรอ้ มเพรยี ง เพลดิ เพลิน ปลูกพริก มะพร้าว มะพลบั หลน่ ผล็อย ผลัดผ้า ครีบปลา มะปราง กลางวัน วงกลม ว่ากลา่ ว ดา้ ยกลุม่ กราบพระ ขา้ วเกรียบ ไสก้ รอก กรงนก กรองนำ้ คราดนา ปลากราย กลบี บัว เครอ่ื งบิน ครกหนิ พรวนดนิ ความดี พรุ่งนี้ ซโ่ี ครง พลบค่ำ หอยแครง ขุดคลอง คลอ่ งแคลว่ ตัวครงั่ คล้ายคลึง ครอบครัว ววั ควาย กวักมอื ปกครอง คราวหลงั ครั้งแรก กวาดเรอื น คลองใหญ ่ แพร่หลาย ครวั ไฟ กรวดทราย นกกวัก ครงึ่ ซกี กลุม้ ใจ ตน้ กลว้ ย นกคล้ิงโคลง เข้ากรุง กระทรวง โครงกระดูก เพาะปลูก ทำจริง 58 หนังสือคมู่ ือแนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี ๒ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอ่ื ง “ครอบครวั ทดี่ ”ี แลว้ บอกใจความสำคญั หรอื ขอ้ คดิ จาก ครอบครวั ทีด่ ี ครอบครัวที่ดี ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับต้นไทรสูงตระหง่านแผ่กิ่งก้านออกไป โดยรอบ มีใบแน่นหนา ร่มครึ้ม งดงาม เป็นที่อาศัยจับเกาะของฝูงนกท้ังหลาย หมายความว่า ผู้ท่ีอยู่ในครอบครัวที่ดีน้ัน ย่อมจะได้รับความร่มเย็น มีความผาสุกท่ัวหน้า กันทุกคน แต่ท่ีจะให้เป็นไป ตามที่ว่านี้ได้ ก็ด้วยคนทั้งหลายในครอบครัว ต่างรู้จักหน้าท่ี ของตนและต่างทำหนา้ ทีข่ องตน มใิ หผ้ ิดพลาดบกพร่อง ดงั จะนำมากลา่ วยอ่ ๆ ตอ่ ไปนี้ พอ่ บา้ นเปน็ หวั หนา้ ของครอบครวั ตอ้ งทำตวั ใหค้ นในครอบครวั รกั ใครน่ บั ถอื เหมอื นกบั ลกู รกั พอ่ คอื ตอ้ งมใี จคอเยอื กเยน็ กวา้ งขวาง ไมต่ ระหนี่ เหนยี วแนน่ ใจหนกั แนน่ ใจดี ไมเ่ กรย้ี วกราด ใจแนว่ แนไ่ มโ่ ลเล มคี วามเทยี่ งตรง ซอื่ สตั ย์ ทำอะไรทำจรงิ ไมเ่ หลวไหล ปล้ินปล้อน กลับกลอก เอาความจริงไม่ได้ มีไหวพริบ ตริตรองรอบคอบ คอยระวังดูแล ไม่ให้มีอะไรบกพร่อง ไม่หูเบา ไม่เช่ือคำสอพลอพล่อยๆ ของใครง่ายๆ และต้องรู้สึก อยู่เสมอวา่ ตนเป็นกำลังของครอบครวั หลักที่ดที ส่ี ุดกค็ อื ทำตวั ใหเ้ ปน็ แบบอย่างอนั ดีงาม ของคนในปกครอง เพือ่ เขาจะไดน้ ับถือและกระทำตามด้วยความจงรกั ภักด ี สว่ นแมบ่ า้ นนน้ั ตอ้ งทำตวั ใหค้ นในครอบครวั รกั ใครน่ บั ถอื เหมอื นกบั ลกู รกั แม่ นอกจากมีใจคอเหมือนกับพ่อบ้านดังกล่าวแล้ว ยังต้องเป็นผู้ดูแลงานต่างๆ ในเหย้าเรือน ให้เรียบร้อย รู้จักประหยัด ใช้จ่ายให้พอเหมาะ รู้จักเก็บเล็กประสมน้อยเหมือนกับปลวก ทีท่ ำรังตอ้ งคอยอบรมกล่อมเกลาลกู ให้เปน็ ผ้มู ีกำลังแขง็ แรง มคี วามรเู้ ฉลยี วฉลาด และเปน็ คนดี สอนลูกให้รู้จักรักครอบครัวและรักชาติบ้านเมือง ให้ระลึกถึงความดีของผู้ท่ีได ้ ช่วยชาติบ้านเมือง ซึ่งล่วงลับไปแล้ว แต่ความดียังมิได้ลับตามไป แล้วพยายามทำความดี ให้เหมือนท่านเหล่าน้ัน นอกจากน้ันอย่ารักลูกโดยพะนอ อย่าปล่อยตามใจลูกมากเกินไป หรือเกร้ยี วกราดขัดใจลูกจนเกินไป เพราะจะทำใหล้ ูกเหลิงหรือเซ่ืองซมึ อ่อนแอไป หนงั สือค่มู ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 59

สว่ นเดก็ ๆ นนั้ เลา่ ตอ้ งทำตนใหเ้ ปน็ ทน่ี า่ รกั นา่ เอน็ ดขู องพอ่ แม่ และคนอน่ื ๆ ตอ้ งมกี ริ ยิ าวาจาเรยี บรอ้ ย ออ่ นโยน รจู้ กั นบนอ้ มกราบไหว้ ไมข่ า้ มกรายหรอื ยนื คำ้ หวั ใครๆ ไมเ่ ถียงพ่อแม่ ไม่กล่าวคำหยาบ ตอ้ งซือ่ ตรง ตรงต่อเวลา จริงตอ่ งาน ตอ้ งใจดี รกั เพ่อื นฝูง ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือแก่งแย่งชิงดีกัน ไม่แกล้งหรือเล่นรังแกเพ่ือน ต้องรู้สึกระลึกถึง ความดีของพ่อแม่ ที่มีแก่ตนและผู้ท่ีได้ทำความดีแก่ประเทศไทยอย่างสูง และหาทาง ตอบแทนความดีของท่านด้วย ต้องเป็นคนว่าง่ายสอนง่าย เช่ือฟังและทำตามคำส่ังสอน ของพอ่ แมอ่ ยา่ งเครง่ ครดั ไมด่ อ้ื ดา้ น ตอ้ งขยนั หมนั่ อา่ นหนงั สอื เพอื่ อบรมตนใหเ้ ปน็ คนฉลาด และเต็มใจช่วยเหลือพ่อแม่ทุกค่ำเช้า ไม่ทอดธุระ ไม่เล่นคลุกคลีกับเด็กเกเรเสเพล เพราะจะพาตัวไปสู่ความช่ัว ต้องรู้จักค่าของเงิน ว่าเงินทองที่พ่อแม่หามาได้น้ัน ไม่ใช ่ ได้มาง่ายๆ เลย ได้มาโดยยากลำบากและเหน่ือยอาบเหง่ือต่างน้ำทีเดียว จึงต้อง ประหยัดใช้ ตลอดจนรู้จักรักและถนอมเครื่องใช้สอยต่างๆ ไม่ให้หมดเปลืองไปในสิ่ง ทไี่ มจ่ ำเปน็ เงนิ ทพี่ อ่ แมใ่ หไ้ ปซอ้ื ของรบั ประทานทโ่ี รงเรยี น ควรจะแบง่ เกบ็ ฝากคลงั ออมสนิ ไวว้ นั ละเล็กวันละนอ้ ยทกุ ๆ วัน เพ่ืออบรมตนใหเ้ ป็นคนรู้จักเก็บหอมรอมริบ นักเรียนท้ังหลาย พึงจดจำไว้ว่า เมื่อตนยังเด็กอยู่ ต้องทำตามเย่ียงอย่าง ของลกู หลานทด่ี ีก่อน คร้ันเติบโตขน้ึ เมอื่ จะเปน็ พอ่ บา้ นหรอื แมบ่ า้ นตอ่ ไปแลว้ จงึ คอ่ ยทำ ตามเย่ียงอย่างของพ่อบ้านแม่บ้านที่ดีต่อไป ถ้าชาวไทยเรารู้สึกตัวเช่นนี้แล้ว ไทยทั้งชาติ จะเข้มแข็ง ไม่มีชาติใดกล้ามาขม่ เหงไดเ้ ลย 60 หนังสือคู่มอื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

ตวั อย่างกิจกรรมท่ี ๓ คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นอ่านเรือ่ ง “ครอบครวั ดี” ตอ่ ไปน้ี ๑. อา่ นพรอ้ มกันท้ังชั้นเรยี น ๒. อ่านตามแถวทน่ี ัง่ แถวละวรรค ๓. อ่านทลี ะคน คนละวรรค ครอบครัวด ี ครอบครวั ดมี สี งา่ เป็นราศ ี ยอ่ มจะมพี อ่ แมแ่ ละหวั หน้า เฝ้าปกปอ้ งปองทำนุทุกเวลา รว่ มรักษาหน้าทอ่ี นั ดงี าม สรา้ งตวั ดีมที รพั ย์ดว้ ยช่วยชาตบิ ้าง เป็นตวั อยา่ งลกู หลานให้ไมค่ ร่ันครา้ ม สู้พากเพียรเรียนร่ำกระทำตาม ทำแต่ความดไี ว้ใหช้ าติเอย ครอบครัวทด่ี ี หนงั สือค่มู ือแนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 61

๓. คำศพั ท์ ความหมายของคำศพั ท์ คำศพั ท ์ ความหมาย ทอดธรุ ะ ปลอ่ ยปละละเลย ๔. ข้อสังเกตและขอ้ เสนอแนะ การผันวรรณยุกต์คำควบกล้ำที่มีพยัญชนะต้นอักษรกลาง อักษรสูง อักษรต่ำ มีตัวสะกด ครูอาจอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับการเปรียบเทียบรูปและเสียงของวรรณยุกต์ของ คำควบกล้ำ ดังน้ี หมู่อกั ษร เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตร ี เสยี งจัตวา กล่อง กล้อง กลอ๊ ง กลอ๋ ง อกั ษรกลาง กลอง โปร่ง โปร้ง โปรง๊ โปรง๋ กว่าง กวา้ ง กว๊าง กว๋าง โปรง ขวา่ ง ขวา้ ง ขวาง ขลุย่ ขลยุ้ - ขลยุ กวาง แขวง่ แขวง้ - แขวง ครัน่ - - อกั ษรสงู - - พล่อง ครนั้ - - คว่าน พล้อง - - - คว้าน - อักษรตำ่ ครัน พลอง ควาน 62 หนังสือคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

บทที่ ๒๓ ๑. เน้อื หา คำทีไ่ มป่ ระวิสรรชนยี ์ แต่อา่ นออกเสียงเหมอื นประวิสรรชนีย ์ ๒. แนวทางการจัดกิจกรรม ๒.๑ ครูทบทวนการอ่านออกเสียงคำท่ีประวิสรรชนีย์ก่อน เช่น มะระ กะทะ อุบะ ระยะ มานะ เป็นต้น โดยอ่านให้นักเรียนฟังอย่างชัดเจน แล้วให้นักเรียนออกเสียงตาม จนอ่านได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว จากนั้นให้นักเรียนฝึกอ่านคำที่ไม่ประวิสรรชนีย ์ แต่อ่านออกเสยี งเหมือนประวสิ รรชนยี ์ ดงั น้ี ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๑ คำช้แี จง ให้นักเรยี นอ่านคำตอ่ ไปนี้ ๑. อ่านพร้อมกนั ทง้ั ชั้นเรยี น ๒. อา่ นตามแถวทน่ี ั่ง แถวละคำ ๓. อ่านทลี ะคน ๑. กว ี อ่านวา่ กะ - วี ๒. กษัย อ่านว่า กะ - สยั ๓. สต ิ อ่านว่า สะ - ต ิ ๔. คติ อ่านวา่ คะ - ติ ๕. ทหาร อา่ นวา่ ทะ - หาน ๖. ชโย อ่านวา่ ชะ - โย ๗. สบาย อ่านวา่ สะ - บาย ๘. สบง อา่ นว่า สะ - บง ๙. สมาคม อ่านว่า สะ - มา - คม ๑๐. เสียงชโย อ่านว่า เสยี ง - ชะ - โย หนังสือค่มู ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 63

๑๑. ไมย้ มก อ่านวา่ ไม้ - ยะ - มก เขา้ - สะ - มา - คม ๑๒. เขา้ สมาคม อา่ นวา่ ทาง - คะ - มะ - นา - คม ทะ - นาย - ความ ๑๓. ทางคมนาคม อา่ นวา่ ตาม - ปรก – กะ - ติ เย็บ - สะ - บง ๑๔. ทนายความ อ่านว่า สะ - บาย - ด ี มี - สะ - ต ิ ๑๕. ตามปรกติ อ่านวา่ ลง - มะ - ติ เปน็ - คะ - ต ิ ๑๖. เย็บสบง อา่ นว่า อะ - นา - มัย มะ - หา - ชน ๑๗. สบายด ี อา่ นว่า ทะ - หาน - ไทย ธะ - นา - คาน ๑๘. มสี ต ิ อา่ นวา่ จะ - รา - จอน นะ - คอน - หลวง ๑๙. ลงมต ิ อา่ นวา่ ๒๐. เป็นคต ิ อา่ นว่า ๒๑. อนามัย อา่ นวา่ ๒๒. มหาชน อ่านวา่ ๒๓. ทหารไทย อา่ นวา่ ๒๔. ธนาคาร อา่ นว่า ๒๕. จราจร อ่านวา่ ๒๖. นครหลวง อ่านวา่ ตวั อย่างกจิ กรรมที่ ๒ คำช้แี จง ให้นักเรยี นเขียนตามคำบอกต่อไปนี้ ๑. ปรกติ ๒. ทนั สมัย ๓. แสงสวา่ ง ๔. อนามัย ๕. ถนน ๖. คมนาคม ๗. ตลาด ๘. สมาคม ๙. สนาม ๑๐. สนกุ สนาน ๑๐. สถานท่ ี ๑๒. ตลอด ๑๓. สบาย ๑๔. เทศบาล 64 หนังสือคูม่ ือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

๒.๒ การฝกึ อา่ นบ่อยๆ จะทำให้นกั เรยี นสามารถอา่ นได้ถูกตอ้ งแลคลอ่ งแคลว่ ตวั อยา่ งกิจกรรมท่ี ๑ คำชแี้ จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “ช่วยกันบำรุงท้องถิ่น” แล้วบอกใจความสำคัญ หรือขอ้ คดิ จากเรือ่ งทีอ่ า่ น ชว่ ยกันบำรุงท้องถิ่น แต่กอ่ นมา ในทอ้ งถ่ินทกุ ๆ จงั หวัด แหง่ ประเทศไทย ตามปรกติ ยงั จดั บำรงุ ไม่ท่ัวถึงกันนัก เพราะมีเรื่องติดขัดอยู่หลายอย่าง เช่น เงินทอง เป็นต้น มาบัดน้ี ทางฝ่าย บ้านเมอื งเหน็ วา่ ถึงเวลาแล้วท่เี ราท้ังหลายจะตอ้ งตื่นตาตนื่ ใจ รว่ มมอื ชว่ ยกันจัดใหท้ ้องถิ่น มีระเบียบทันสมัย เป็นอย่างเดียวกัน จึงได้ออกข้อบังคับให้ผู้คนที่อยู่ในท้องถิ่นน้ันๆ ขวนขวายช่วยกัน จัดบำรุงข้ึนตามแบบแผนอันดี เป็นต้นว่า บ้านเรือนก็ต้องปลูกให้เป็น ระเบียบตามแบบแผนท่กี ำหนดไว้ ไมใ่ หย้ ัดเยยี ดอดั แอกนั ให้มีแสงสว่าง ลมเดนิ ไดส้ ะดวก เพ่ือให้ถูกอนามัย มีถนนเป็นทางคมนาคม สำหรับประชาชนไปมาหรือขนส่งสินค้า มีท่อ และรางน้ำ สำหรับระบายส่ิงโสโครก ให้ไหลไปสู่ท่อรวมได้โดยง่าย เพ่ือไม่ให้หมักหมม เกรอะกรงั อยไู่ ด้ มตี ลาดสรา้ งอยา่ งถกู แบบเปน็ ยา่ นการคา้ ขาย มสี ว้ มอยา่ งสะอาดแบบใหม่ มีโรงเรียนเป็นที่เล่าเรียนของเด็ก มีสมาคมและอ่ืนๆ เพื่อความครึกคร้ืนรื่นเริง มีสนาม เปน็ ท่ีสำหรบั เลน่ ออกกำลัง เพอ่ื บำรุงรา่ งกายให้แขง็ แรง และเพื่อสนกุ สนาน มีสวนสำหรบั เดนิ เลน่ เพอ่ื พกั ผอ่ นหยอ่ นใจในยามวา่ ง มสี ถานทช่ี ว่ ยเหลอื คนเจบ็ ไข้ เพอ่ื บำบดั ความเจบ็ ปว่ ย มีน้ำดื่มท่ีสะอาด ตลอดจนไฟฟ้าในเวลาค่ำคืน สว่างไสว มีเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาด ตามถนนและตรอก คอยกำจดั ยงุ และอนื่ ๆ ซง่ึ เปน็ ตน้ เชอ้ื ของความปว่ ยเจบ็ รา้ ยแรงบางอยา่ ง และมีเจ้าหน้าท่ีคอยดูแลแก้ไข บำรุงส่งเสริม ในการทำมาหากิน อย่างทันสมัย ให้ดียิ่งขึ้น เหล่านี้เป็นต้น เมื่อท้องถ่ินนั้นๆ ได้รับทะนุบำรุงด้วยส่ิงต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว ก็เป็นท ่ี แน่ใจว่าท้องถ่ินน้ันจะเป็นที่อยู่สบายดี จำนวนผู้คนก็จะมีมากข้ึน ถ้าจัดบำรุงกันครบถ้วน เต็มที่ ทว่ั ถึงทกุ จงั หวัดแลว้ บ้านเมืองไทยกจ็ ะงดงามทันเทียมมหาประเทศอนื่ ๆ ได ้ ในเรอ่ื งจดั บำรงุ ทอ้ งถน่ิ ของตนเอง ใหถ้ กู ตอ้ งตามระเบยี บแบบแผน ทท่ี นั สมยั นนั้ เรยี กวา่ เทศบาล ตอ่ ไปขา้ งหนา้ นกั เรยี นจะตอ้ งมหี นา้ ทชี่ ว่ ยกนั จดั ทะนบุ ำรงุ ทอ้ งถนิ่ ทต่ี นอยู่ เพือ่ ความรุ่งเรอื งแก่บา้ นเกดิ เมอื งนอนอนั เปน็ ทร่ี ักยง่ิ ของตนต่อไป หนังสือคู่มือแนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรียนเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 65

ตัวอยา่ งกจิ กรรมที่ ๒ คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอา่ นเรื่อง “การเทศบาล” ต่อไปน้ี ๑. อ่านพร้อมกนั ทัง้ ชน้ั เรยี น ๒. อา่ นตามแถวท่นี ่ัง แถวละวรรค ๓. อ่านทีละคน คนละวรรค กาลเทศบาล ระลึกรสู้ กึ ตัว ชาวไทยทว่ั อยา่ มวั รอ จงร่วมรวมใจคอ ขอใหช้ ่วยทำดว้ ยกัน บำรุงปรับปรงุ แต่ง ทอ้ งถน่ิ แหล่งแหง่ เราพลัน เพ่ือความงามครบครัน ทุกสงิ่ อันทันสมยั ตึกรามงามถกู ทา่ หันเข้าหาอนามยั ร่มรืน่ แช่มช่นื ใจ ทกุ สถานบ้านเมืองเรา 66 หนงั สอื คู่มอื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

๓. คำศพั ท์ คำทเ่ี ขียนแตกต่างจากปจั จุบันท่มี ีอกั ษรสงู นำ คำทใี่ ช้ในปจั จบุ ัน คำที่ใช้ในหนังสอื แบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง แออัด สาเหตุ (ใชก้ บั ความเจ็บปว่ ย) อัดแอ เจบ็ ป่วย ตน้ เชอ้ื ปว่ ยเจ็บ ๔. ขอ้ สงั เกตและขอ้ เสนอแนะ คำท่ีประวิสรรชนีย์ คือ คำท่ีประสมสระ อะ และคงรูปสระ อะ ไว้หลัง พยัญชนะ เวลาอ่านออกเสียงจะอ่านออกเสียง อะ เต็มเสียง (ถ้าประสมอยู่ที่พยางค์หน้า ใหอ้ อกเสียง อะ ก่ึงเสียง) เช่น กระจก ตะลงึ ละเอียด กะปิ เปน็ ตน้ หนงั สือคมู่ อื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 67

หลักการคัดลายมอื เขยี นลายมือ มหี ลกั รจู้ กั นัง่ ตัวตอ้ งตัง้ ตรงแนบ ถกู แบบอยา่ ง จับดินสอ ปากกา ถูกทา่ ทาง สมดุ วาง พลางเพง่ แลว้ เล็งแล 68 หนังสอื คู่มือแนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

บทท่ี ๒๔ ๑. เนอื้ หา ๑.๑ พยัญชนะ ฃ ฅ ฆ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ธ ภ ศ ษ ฬ ๑.๒ อกั ษรสามหมู่ ไดแ้ ก่ ๑) อักษรกลาง มี ๙ ตวั ได้แก่ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ ๒) อักษรสงู มี ๑๑ ตวั ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห ๓) อักษรตำ่ มี ๒๔ ตัว ไดแ้ ก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ ๒. แนวทางการจดั กจิ กรรม ๒.๑ พยัญชนะ ฃ ฅ ฆ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ธ ภ ศ ษ ฬ ออกเสยี งดงั ต่อไปน้ี พยัญชนะ เสยี ง ฃ ขอ ฅ คอ ฆ คอ ฌ ชอ ญ ยอ ฎ ดอ ฏ ตอ ฐ ถอ ฑ ทอ ฒ ทอ ณ นอ ธ ทอ ภ พอ ศ สอ ษ สอ ฬ ลอ หนงั สอื คู่มอื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 69

ตัวอย่างกจิ กรรม คำชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงพยญั ชนะตอ่ ไปนี้ ฃ ฅ ฆ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ธ ภ ศ ษ ฬ ๒.๒ การสอนอักษรสามหมู่ต้องเน้นให้นักเรียนท่องจำให้จงได้ โดยการ ผูกคำเหล่าน้ันใหเ้ ป็นประโยค อักษรกลาง อกั ษรกลาง มี ๙ ตัว ไดแ้ ก่ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ ตวั อย่างการจำอกั ษรกลาง - ไก่ (ก) แจ้ (จ) เดก็ (ฎ, ด) เตย้ี (ฏ, ต) บาง (บ) ประ (ป) อนิ (อ) หรอื - ไก่ (ก) แจ้ (จ) ตา (ต) ดี (ด) อา้ (อ) ปาก (ป) บอก (บ) ฏอ (ฏ) ฎอ (ฎ) อักษรสูง อักษรสูง มี ๑๑ ตวั ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห ตวั อย่างการจำอักษรสงู - ไข่ (ข) ฃวด (ฃ) ฉง่ิ (ฉ) ถุง (ถ) ฐาน (ฐ) ผึ้ง (ผ) ฝา (ฝ) ศาล (ศ) ฤา ษี (ษ) เสอื (ส) หีบ (ห) หรือ - ผี (ผ) ฝาก (ฝ) ถงุ (ถ, ฐ) ขา้ ว (ข, ฃ) สาร (ศ, ษ, ส) ให้ (ห) ฉนั (ฉ) อักษรตำ่ อักษรตำ่ มี ๒๔ ตัว ไดแ้ ก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ ตวั อย่างการจำอักษรต่ำ - เพชร (พ) ฆาต (ฆ) เฒา่ (ฒ) ใช้ (ฌ, ช) โซ่ (ซ) ใหญ่ (ญ) ฟาด (ฟ) ธง (ธ) รปู (ร) นก (น) ฮกู (ฮ) ล้ม (ล) ครืน (ค, ฅ) ใน (น) งาน (ง) ภาณ (ภ) ยกั ษ์ (ย) ท่ี (ท) วัด (ว) โม (ม) ฬี (ฬ) โลก (ล) 70 หนังสือคมู่ ือแนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

ตวั อยา่ งกิจกรรม คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอา่ นคำตอ่ ไปนี้ ๑. อา่ นพรอ้ มกนั ทงั้ ช้นั เรียน ๒. อ่านตามแถวที่น่งั แถวละคำ ๓. อา่ นทลี ะคน ฆา่ เฆย่ี น ฆ้อง ระฆงั ตะเฆ่ ฌาน ใหญ่ ญวน ญ่ีปุ่น หญิง หญ้า ปฏทิ นิ ฐานะ ฐาน ผู้เฒา่ ธง เธอ ชฎา ฎีกา คณะ ภายใน ภูเขา อำเภอ เสภา ศาลา กฐิน กรฑี า อาศยั ศึกษา ภาษา นาฬกิ า จุฬา กีฬา ธรุ ะ ขณะ ธันวาคม คันธน ู เลง็ ญาณ หมภู่ มร พระธิดา ความภกั ด ี ตะเภา สำเภา รปู ภาพ ลำธาร พระภกิ ษุ กอหญา้ ผ้หู ญิง ภายนอก ศก ศอก รักคณะ ทอดกฐนิ หา้ นาท ี นายอำเภอ ขับเสภา เรอื สำเภา ภาษ ี ปรกึ ษา ธูปเทยี น ญาติพี่นอ้ ง โรคภัย ญตั ติ มีธรุ ะ ภาษาไทย ภษู า ธงไทย ณ ทน่ี ี้ หลักฐาน เสาธง ไก่ตะเภา ภูเขาไฟ หนังสือคู่มอื แนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 71

๒.๓ การฝกึ อา่ นบอ่ ยๆ จะทำใหน้ กั เรยี นสามารถอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งและคลอ่ งแคลว่ ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๑ คำช้แี จง ให้นักเรียนอ่านเร่ือง “นาฬิกา” แล้วบอกใจความสำคัญ หรือข้อคิดจาก เรือ่ งท่อี า่ น นาฬิกา ตอน ๑ เวลาบ่ายวันหนึ่ง เมื่อเด็กหญิงสารภี เผ่าเภตรา กลับจากโรงเรียนแล้ว นายภกั ดี เผา่ เภตรา บดิ าของเขาไดพ้ าไปเทย่ี วทหี่ า้ งขายนาฬกิ าแหง่ หนง่ึ ซง่ึ เปน็ หา้ งใหญโ่ ต กวา้ งขวางมาก มนี าฬกิ าตา่ งๆ เชน่ นาฬกิ าพก นาฬกิ าขอ้ มอื นาฬกิ าปลกุ และนาฬกิ าแมงดา เปน็ ตน้ ตดิ ไวข้ า้ งฝาผนงั ตงั้ และวางไวใ้ นตเู้ รยี งรายแลสะพรงั่ ดงู ามตายงิ่ นกั นาฬกิ าเหลา่ นี้ มีรูปร่างและลักษณะต่างๆ กัน ทำด้วยไม้ก็มี ทำด้วยหินอ่อนก็มี ทำด้วยโลหะ เช่น เงิน ทอง นาก กะไหล่ กม็ ี บางเรอื นแกะสลักดว้ ยฝมี อื อนั งดงาม เปน็ ลวดลาย ดอกไม้ กง่ิ ไม้ และใบไม้ รปู คน รปู ม้า และรปู อ่ืนๆ บางเรอื นทำเปน็ รูปนกฮกู โผลห่ นา้ ออกมาเมอื่ เวลา นาฬิกาตีก็มี เสียงนาฬิกาเดินดังต๊ิกๆ ! ก๊อกแก๊กๆ ! ได้ยินอยู่ไม่ขาดระยะ เสียงระฆัง นาฬิกาตีดังก๋องแก๋งๆ ! ต๊ิกแต๊กๆ ! เป็นของน่าดู น่าชมยิ่งนัก เปน็ สงิ่ ทแ่ี ปลกตาแปลกหู ทำใหเ้ ดก็ หญงิ สารภรี สู้ กึ ประหลาดมาก บงั เกดิ ความเบกิ บานใจ และตนื่ เตน้ อยากรอู้ ยากเหน็ ยงิ่ ขนึ้ นายภกั ดี กบั เจา้ ของหา้ งนนั้ เปน็ ผทู้ รี่ จู้ กั และคนุ้ เคยกนั ดี นายภกั ดี จงึ เทย่ี วชมนาฬกิ า ต่างๆ ในห้างได้ตามความพอใจ บิดาของเขาได้ชี้ให้เด็กหญิงสารภีดูนาฬิกาชนิดต่างๆ เหล่าน้นั พรอ้ มกับอธบิ ายประกอบทลี ะอย่างๆ ดังตอ่ ไปนี ้ เวลานาฬิกาเดินมีเสียงดัง และเข็มหมุนเวียนไปรอบๆ โดยอาศัยกำลังลาน และเคร่ืองที่ประกอบขึ้นกับลานนั้น ถ้าจะเปรียบกับเท้าของเรา ที่พาตัวเราเดินไปได้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน เข็มท่ีบอกเวลานั้นก็คล้ายกับน้ิวมือของเราท่ีชี้บอกใครให้ดูอะไร ส่วนเสียงระฆังท่ีตีบอกเวลานาฬิกาและตีก่ึงนั้นเล่าก็คล้ายกับเสียงของเราท่ีพูดบอก ขอ้ ความอะไรแกใ่ ครๆ นน่ั เอง นก่ี ็เป็นสิ่งแปลกประหลาด นา่ ชมความคิดท่เี ขาคดิ ทำขนึ้ 72 หนังสอื คมู่ ือแนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

นาฬกิ า ตอน ๒ หนา้ นาฬกิ านน้ั แบนและกลม ทห่ี นา้ นาฬกิ านแี้ บง่ ออกเปน็ ชอ่ งใหญๆ่ ๑๒ ชอ่ ง เท่าๆ กัน ช่องใหญ่ชอ่ งหน่ึงๆ มเี คร่ืองหมาย ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑ และ ๑๒ กำกับอยู่ทุกๆ ช่องในระหว่างช่องใหญ่ช่องหน่ึงๆ ยังได้แบ่งออกเป็นขีดเล็กๆ อีก ๕ ขีด ส่วนเคร่ืองหมายนับเวลานาฬกิ านั้น เขยี นเป็นตวั เลขโรมนั บ้าง ตัวเลขอาระบิกบา้ ง บางเรอื นมีต้งั แต่ ๑ ถงึ ๑๒ บางเรือนกม็ ตี งั้ แต่ ๑ ถงึ ๒๔ คอื ตั้งแต่ ๑ ถงึ ๑๒ รอบหนึ่ง และ ๑๓ ถึง ๒๔ อกี รอบหนึง่ เข็มของนาฬิกา หมุนเวียนจากทางซ้ายมือไปทางขวามือท่ีเขาเรียกว่า เวียนขวาเสมอ เขม็ นาฬิกาโดยมาก มีอยู่ ๒ ชนดิ คอื เขม็ สน้ั สำหรบั ชบ้ี อกชว่ั โมง เมือ่ หมุน ไปช่ัวระยะช่องใหญ่ช่องหน่ึงๆ นับเป็นเวลาชั่วโมงหน่ึงๆ เช่น หมุนจาก ๑๒ ซึ่งตั้งอยู่ที่ กง่ึ กลางตอนบน ไปถึงเลข ๑ เรียกวา่ ๑ นาฬิกา และจาก ๑ ไปถงึ ๒ ก็เรียกวา่ ๒ นาฬิกา เปน็ ลำดบั เรอ่ื ยไป ในทำนองเดยี วกนั จนกระทงั่ ถงึ ๑๒ กเ็ รยี กวา่ ๑๒ นาฬกิ า เขม็ อกี ชนดิ หนง่ึ เรียกว่า เข็มยาว สำหรับช้ีบอกนาที เม่ือหมุนไปชั่วระยะช่องเล็กช่องหน่ึงๆ นับเป็นเวลา นาทหี นงึ่ ๆ เช่น ต้ังตน้ หมนุ จากเลข ๑๒ นั้น ไปช่วั ๑ ขดี กเ็ รยี กวา่ ๑ นาที ๒ ขีด ก็เรยี ก ๒ นาที ๓๐ ขีด ก็เรียก ๓๐ นาที หรือคร่ึงช่ัวโมง และต่อๆ ไปในทำนองเดียวกันจนถึง ๖๐ ขดี กเ็ รยี กว่า ๖๐ นาที หรอื ๑ ช่วั โมง เขม็ ยาวนีจ้ ะต้องหมนุ ไปบรรจบรอบทีต่ รงเลข ๑๒ เสมอ ทุกๆ ช่วั โมง หนังสอื ค่มู ือแนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 73

นาฬิกา ตอน ๓ วิธีดูนาฬิกาหรือนับเวลา คือ พอเวลาตะวันส่องแสงอ่อนๆ แสงเงนิ แสงทอง งามตา เข็มสั้นจะชีต้ รงเลข ๖ ซึง่ อยูก่ ึง่ กลางตอนล่าง ตรงกนั ขา้ มกับเลข ๑๒ เรยี กวา่ เวลา ๖ นาฬกิ า หรอื ย่ำรุ่ง ครั้นตะวนั สูงขึน้ ๆ เขม็ สน้ั นนั้ กห็ มุนตอ่ ไปจนถงึ เลข ๗, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑ และ ๑๒ ในทำนองเดยี วกนั เรยี กวา่ ๗ นาฬกิ า ๘ นาฬกิ า ๙ นาฬกิ า ตลอดไปจนถงึ ๑๒ นาฬกิ า หรอื เทยี่ งวนั ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงตะวันอยู่ตรงหัวเราพอดี ต่อจากนี้ ดวงตะวัน จะลดต่ำลงไปทุกๆ ที เข็มสั้นจะหมุนต่อไปถึงเลข ๑๓ หรือ ๑ เรียกว่า ๑๓ นาฬิกา ถึงเลข ๒ กเ็ รียกวา่ ๑๔ นาฬิกา ในทำนองเดยี วกัน จนถึงเลข ๖ เรยี กว่าเวลา ๑๘ นาฬิกา หรอื ยำ่ คำ่ ซ่งึ เปน็ เวลาตะวันตกดิน นับเปน็ เวลา ๑๒ ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลากลางวัน เราไดร้ ับ แสงสว่าง ตลอดท้ัง ๑๒ ชั่วโมง เป็นเวลาเหมาะสำหรับไปทำมาหากิน ต่อจากน้ีเข็มสั้น กจ็ ะหมุนตอ่ ไปจนถงึ เลข ๗ เรียกว่า ๑๙ นาฬกิ า ถงึ เลข ๘ เรยี กวา่ ๒๐ นาฬกิ า ตลอดไป จนถึงเลข ๑๒ เรียกว่า ๒๔ นาฬิกา หรือเที่ยงคืน หรือสองยาม ซึ่งนิยมกันว่า ตั้งต้น ขน้ึ วนั ใหม่ แลว้ เขม็ ส้นั หมุนตอ่ ไปอีกช้ีทต่ี รงเลข ๒ เรียกว่า ๒ นาฬกิ า ช้ตี รงเลข ๓ เรยี กว่า ๓ นาฬิกา หรือสามยาม และตอนสามยามนี้มักได้ยินเสียงไก่ขันแจ้วๆ บอกเวลาคล้ายๆ กบั เสียงนาฬกิ าตี ในท่ีสุดชถ้ี งึ เลข ๖ เรยี กวา่ ๖ นาฬิกา หรอื ย่ำรุ่ง เวลาเช้าตรู่นีไ้ ก่ยิ่งขัน กระชั้นเสียงหนักข้ึน เสยี งนกเสยี งการอ้ งจอ้ กแจก้ เซง็ แซ่ ตา่ งกอ็ อกจากรงั บนิ ไปเทยี่ วหากนิ เปน็ ฝงู ๆ แตเ่ ชา้ ตรู่ ผคู้ นตนื่ นอน ลกุ ขนึ้ ทำงานกนั ยามน้ีอากาศเย็นสบายและสดช่ืนดีมาก เวลาตั้งแต่ ๑๘ นาฬิกา ถงึ ๖ นาฬกิ า รวม ๑๒ ชวั่ โมง เปน็ เวลากลางคนื มดื มวั ไม่แลเหน็ แสงตะวันเลย นอกจากแสงเดือนแสงดาวเท่านั้น เวลากลางคืนจึงเย็นสบายกว่าเวลา กลางวันมาก ทั้งเหมาะสำหรับพักผ่อนหลับนอน ทั้งกลางคืน และกลางวัน นับเป็นเวลา ๒๔ ชัว่ โมง เรยี กวา่ วนั หนง่ึ 74 หนังสือค่มู อื แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

นาฬิกา ตอน ๔ วิธีดูนาฬิกา นอกจากใช้ตามองดูเข็มตามท่ีได้กล่าวมาแล้ว จะใช้หูฟังเสียง นาฬิกาตีก็ได้ เพราะนาฬิกาท่ีมีระฆังตีบอกเวลานาฬิกาน้ัน จำนวนครั้งท่ีตีก็เท่ากับจำนวน เคร่ืองหมายท่ีเข็มส้ันชี้บอกน้ันๆ เสมอ เช่น เม่ือชี้ตรงเลข ๑ นาฬิกาก็ตี ๑ ที ช้ีตรงเลข ๒ นาฬิกาก็ตี ๒ ที ตลอดเร่ือยไปจนถึงเลข ๑๒ นาฬิกาก็ตี ๑๒ ที ครบรอบหนึ่งพอด ี เมื่อนาฬิกาตี ๑๒ ทีเล้ว ต่อจากนี้ก็ต้ังต้นตี ๑ ทีไปใหม่ ดังนั้นเม่ือถึงเวลา ๑๓ นาฬิกา จึงตี ๑ ที ๑๔ นาฬกิ าตี ๒ ที เรื่อยไป จนถึง ๒๔ นาฬกิ า กต็ ี ๑๒ ที ครบอกี รอบหน่ึง เช่นเดียวกัน ทุกๆ คนควรจะหัดดูนาฬิกาให้เป็น เพราะนาฬิกาเป็นเครื่องสำหรับนับ และดเู วลา บอกเวลาใหเ้ รารไู้ ด้ มนั เดนิ ตามปรกตทิ กุ ๆ วนั ครน้ั ถงึ เวลาตมี นั กต็ ตี รงกบั เวลา ของมันจริงๆ นับว่ามันตรงต่อเวลาดีมาก เป็นตัวอย่างอันดีงามที่เด็กๆ น่าจะอบรมตน ใหเ้ ป็นคนตรงตอ่ เวลาจริงๆ คลา้ ยๆ กบั ทำตวั ให้เป็นนาฬกิ า เช่น เวลา ๖ นาฬกิ าตนื่ นอน ๗ นาฬิกาไปโรงเรียน ๑๕ นาฬิกาโรงเรียนเลิก รีบกลับมาบ้าน ๑๗ นาฬิกา อาบน้ำ รบั ประทานขา้ วเยน็ เวลา ๑๙ ถงึ ๒๐ นาฬกิ าดหู นงั สอื ทอ่ งบน่ วชิ าตา่ งๆ ทไ่ี ดเ้ ลา่ เรยี นมา เวลา ๒๐ นาฬิกาเขา้ นอน เด็กๆ ที่นอนแต่หัวค่ำ แล้วตื่นแต่เช้าๆ จะรู้สึกชุ่มชื่นดี ย่อมทำให้ร่างกาย แข็งแรง หนา้ ตาอม่ิ เอิบ งดงาม แจม่ ใส น่ารกั และทำใหค้ วามคดิ ดี เรียนหนงั สือไดด้ ีดว้ ย เด็กๆ ทั้งหลาย ได้อ่านเร่ืองนาฬิกามาเพียงเท่านี้ จะเห็นได้ว่า นาฬิกา มันเท่ียงตรงต่อเวลา จริงต่อเวลาดีมาก เป็นตัวอย่างอันดีงาม สำหรับคอยเตือนเรา ให้รู้สึกตัวว่า อายุของเรานั้นค่อยๆ แก่ขึ้น ทุกคืน ทุกวัน ทุกนาที เวลาเป็นเงินเป็นทอง เป็นของอันมีค่า ไม่น่าจะปล่อยให้มันล่วงไปเสียเปล่าๆ เลย เราน่าจะใช้เวลาทำอะไรๆ ที่จะดำเนินไปสู่ความดีความงามแก่ตน และแก่บ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักย่ิงของตน ถ้าชาวไทยเราทุกคนต่างก็รู้สึกตัวเช่นน้ีแล้ว เราก็จงช่วยกันคิด ทำเคร่ืองใช้สอยต่างๆ ของเราใช้เอง โดยไมต่ อ้ งอาศัยบ้านเมอื งอืน่ เขา หนงั สือคมู่ ือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 75

ตัวอย่างกิจกรรมท่ี ๒ คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นเร่อื งต่อไปน้ ี ๑. อา่ นพร้อมกันท้งั ช้ันเรยี น ๒. อา่ นตามแถวทนี่ ่งั แถวละวรรค ๓. อ่านทีละคน คนละวรรค จงเทียบ เปรียบเอาวา่ เราเปน็ นา- ฬิกาเอง เขม็ บง่ ชต้ี รงเผง พึงเพ่งไว ้ ให้ทกุ วัน ย่ำรุ่ง สะดุง้ ต่นื วางหน้าชืน่ ลกุ ข้ึนพลนั อาบนำ้ ชำระฟัน หมดโสมม ผมเผ้าหวี โมงเช้า เฝ้าแตง่ ตวั เคร่ืองเรยี นทวั่ ทกุ อยา่ งมี เตรยี มไป ใหท้ ันที ทเี่ พ่อื นเรา เข้าเรยี นกัน ตอนบ่าย หมายสิบห้า นาฬกิ า เลกิ มาพลัน ถงึ เหย้า เราขยัน หยบิ งานทำ โดยจำนง 76 หนังสือคู่มอื แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง

รว่ มด้วย ช่วยแม่พ่อ สบิ เจ็ด น. พอแลว้ ลง อาบน้ำ คำ่ แล้วคง ฟื้นความร้ ู ทคี่ รูสอน ท่องเรยี น เขยี นอา่ นพอ ย่สี บิ น. ก็เขา้ นอน ฝึกฝนตัว ทั่วทุกตอน เทยี บตามนา- ฬิกาต ี ยอ่ มจะ กระทำให้ อนามยั เกดิ ได้ดี กายใจ แจ่มใสมี สมองโล่ง ปลอดโปร่งเอย ๒.๔ หลกั การคัดลายมอื ทถี่ กู ตอ้ ง มีดังนี้ ๑) นง่ั ตัวตรง ๒) จับดินสอให้ถูกวิธี โดยให้ดินสออยู่ในระหว่างน้ิวหัวแม่มือกับน้ิวช้ี และนิว้ กลาง สว่ นนว้ิ นางกับนวิ้ ก้อยงอเข้าไวในฝ่ามอื ๓) วางสมดุ ให้ตรง ๔) เขียนสว่ นสงู และสว่ นกว้างให้ถกู ส่วน ๕) การเขยี นพยญั ชนะ ต้องเรมิ่ เขียนหวั ก่อน ๖) เวน้ ระยะขอ้ ความกบี ขอ้ ความให้ห่างเท่าๆ กันทกุ ตอน ๗) ต้องเขยี นโดยวา่ งสระและสรรณยุกตใ์ หถ้ ูกที่ ๘) เขียนใหส้ ะอาด เปน็ ระเบยี บ เรยี บร้อย ตัวอย่างการคัดลายมอื หนงั สือคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง 77

ตวั อยา่ งกิจกรรม คำช้แี จง ให้นักเรียนอา่ นเร่ือง “หลักการคัดลายมอื ” แล้วฝึกคัดในสมุดใหส้ วยงาม หลักการคัดลายมือ เขยี นลายมือ มีหลกั รูจ้ กั น่ัง ตวั ต้องต้งั ตรงแนบ ถกู แบบอยา่ ง จับดนิ สอ ปากกา ถูกท่าทาง สมดุ วาง พลางเพง่ แลว้ เลง็ แล คอ่ ยเขยี นไป ใหง้ าม ก ตามส่วนสัด ชอ่ งไฟจดั วดั กะ สระหรอื เครอ่ื งหมาย ระยะแน ่ ต้งั ใจแน่ มีระเบยี บ อย่าย้ายแปร เรยี บรอ้ ยเอย ๓. คำศัพท์ ๓.๑ ความหมายของคำศพั ท์ คำศพั ท ์ ความหมาย นาฬกิ าแมงดา นาฬิกาแขวนผนงั ชนดิ หนงึ่ ๓.๒ คำที่เขียนแตกตา่ งจากปจั จบุ นั คำทีใ่ ช้ในปจั จบุ ัน คำท่ใี ช้ในหนังสือแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ อารบกิ ตอนกลาง อาระบิก 78 หนงั สอื คมู่ อื แนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนกลาง

๔. ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ๔.๑ ครูควรใช้นาฬกิ ามาเปน็ ส่ือการจดั การเรยี นรคู้ วบคไู่ ปดว้ ย ๔.๒ ครคู วรแยกอกั ษรต่ำออกเป็นสองกลุ่ม คือ อักษรตำ่ เดย่ี ว และอักษรตำ่ ค ู่ เพือ่ ประโยชน์ในการผันวรรณยกุ ตแ์ ละการสอนอักษรนำ - อักษรต่ำเด่ียว งู (ง) ใหญ่ (ญ) นอน (น) อยู่ (ย) ณ (ณ) ริม (ร) วัด (ว) โม (ม) ลี (ล) โฬก (ฬ) - อักษรต่ำคู่ พ่อ (ภ, พ) ค้า (ค, ฅ, ฆ) ฟัน (ฟ) ทอง (ฑ, ฒ, ท, ธ) ซอื้ (ซ) ชา้ ง (ฌ, ช) ฮ่อ (ฮ) ๔.๓ การคัดลายมือควรใช้สมุดคัดลายมือ และต้องเน้นให้นักเรียนจัดท่าทาง การนง่ั การวางสมดุ และการจับดนิ สอให้ถูกต้อง หนังสอื คมู่ อื แนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 79



คณะผู้จัดทำ ทป่ี รึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน นายอนสุ รณ์ ฟูเจรญิ ผอู้ ำนวยการสำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา นางสกุ ญั ญา งามบรรจง ผู้อำนวยการสถาบันภาษาไทย คณะทำงานจดั ทำต้นฉบับ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา นางสาวนจิ สุดา อภินนั ทาภรณ ์ นครศรธี รรมราช เขต ๔ นายบุญเสริม แกว้ พรหม สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๑ สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานนทบุรี เขต ๒ นายธเนศร์ ชาญเชาว์ สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษากาฬสนิ ธ์ุ เขต ๓ นางเพญ็ จา เสมอเหมือน สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาลพบุรี เขต ๑ นางนวลอนงค์ สุวรรณเรอื ง สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาร้อยเอ็ด เขต ๒ นายวบิ ลู ย์ ศรีโสภณ สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ นายเทิดศกั ดิ์ โพธสิ าขา สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๑ นางวธั นีพร นยิ มพานิช สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษายโสธร เขต ๑ พ.ต.กรณฐั รตั นยรรยง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๒ นายสามารถ ผ่องศร ี สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต ๒ นายเกรียงศกั ดิ์ ศรีรุ่งเรือง สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๒ นางสาวรนิ รดา ธนวังศร ี สถาบันภาษาไทย นางสาวลกั ขณา โตงาม นางสาวดวงใจ บุญยะภาส หนงั สอื คู่มอื แนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง 81

คณะทำงานเรยี บเรียงต้นฉบับ ตอนกลาง นายธเนศร์ ชาญเชาว์ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๑ นางนวลอนงค์ สวุ รรณเรือง สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษากาฬสนิ ธ์ุ เขต ๓ นางสาวรินรดา ธนวงั ศรี สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต ๒ นายเกรยี งศกั ด์ิ ศรีรุง่ เรอื ง สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต ๒ บรรณาธิการ ผู้อำนวยการสถาบันภาษาไทย นางสาวนจิ สุดา อภินันทาภรณ ์ สถาบนั ภาษาไทย นางสาวดวงใจ บุญยะภาส สถาบนั ภาษาไทย นางธนาภรณ์ กอวฒั นา สถาบนั ภาษาไทย นางลัตติยา อมรสมานกลุ สถาบันภาษาไทย นางสาววภิ ารัตน์ อัศวนิ พันเลศิ สถาบนั ภาษาไทย นายณฐั วฒุ ิ พุ่มขจร ออกแบบปก กลมุ่ พัฒนาสอื่ การเรียนรู้ นายพนิ จิ สุขะสนั ติ์ 82 หนังสอื คมู่ อื แนวทางการจัดการเรยี นการสอนแบบเรยี นเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนกลาง