รายงานการศึกษาคาพนื้ ฐาน นักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ปี การศึกษา ๒๕๕๔ สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
สารบัญ หน้า คานา บทคัดย่อ บทที่ ๑ บทนาํ ความเป็นมาและความสาํ คญั ..........................................................................................๑ วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา............................................................................................๕ นิยามศพั ท์ .....................................................................................................................๕ บทที่ ๒ วธิ ีการศึกษา ๑. กลุ่มตวั อยา่ ง.............................................................................................................๖ ๒. เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษา.......................................................................................๖ ๓. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู .............................................................................................๖ ๔. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล...................................................................................................๗ บทที่ ๓ ผลการวเิ คราะห์คาํ พ้นื ฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓..................................๘ บทที่ ๔ บญั ชีคาํ พ้ืนฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓...............................๒๐ บทที่ ๕ การใชค้ าํ พ้นื ฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓...........................๓๔
คานา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ – ๒๕๓๑ กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมวชิ าการ ไดศ้ ึกษาคาํ พ้ืนฐาน ที่ใชใ้ นการเรียนการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา เพื่อเตรียมการพฒั นาหลกั สูตรและส่ือการเรียนการ สอน และใช้เป็ นข้อมูลพฒั นาการเรียนการสอนภาษาไทยมาอย่างต่อเนื่อง สํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พิจารณาเห็นวา่ ควรมีการวจิ ยั เก่ียวกบั คาํ พ้นื ฐานของนกั เรียนระดบั ประถมศึกษาข้ึนใหม่ เนื่องจากบญั ชีคาํ พ้ืนฐานที่มีอยเู่ ดิมใชม้ านานกวา่ ๒๕ ปี สภาพการใชภ้ าษายอ่ มมีการเปล่ียนแปลงตามบริบท ทางสังคมและเทคโนโลยใี นปัจจุบนั คาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาที่เคยไดศ้ ึกษาไว้ ก็คงจะมีการ เปลี่ยนแปลงไปดว้ ยเช่นกนั ซ่ึงผลการศึกษาก็เป็ นไปตามที่กล่าวแลว้ คือ มีคาํ พ้ืนฐานที่มาจากภาษาองั กฤษ จาํ นวนมาก โดยเฉพาะคาํ ที่เก่ียวขอ้ งกบั คอมพิวเตอร์ ซ่ึงสอดคล้องกบั สภาพสังคมในปัจจุบนั ที่ปรากฏมี อิทธิพลของภาษาองั กฤษอยรู่ อบดา้ น ท่ีสาํ คญั ในปัจจุบนั วงการการศึกษาในประเทศตะวนั ตกให้ความสาํ คญั ต่อการศึกษาคาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนมาก เพราะคาํ พ้ืนฐานเป็ นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน การเขียน หนงั สือที่ดี เหมาะสมกบั ระดบั ความรู้และความสามารถทางภาษาของนกั เรียน และคาํ พ้ืนฐานยงั เป็ น ดรรชนีช้ีถึงพฒั นาการดา้ นความรู้ และการใชภ้ าษาของนกั เรียนไดด้ ว้ ย การศึกษาคร้ังน้ี ไดจ้ ดั ทาํ บญั ชีคาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ โดยจดั ทาํ บญั ชีคาํ รวมท้งั ๓ ช้นั และบญั ชีคาํ แยกแตล่ ะช้นั ปี นอกจากน้ียงั เปรียบเทียบคาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนกบั คาํ ศพั ท์ ท่ีใช้ในรายการโทรทัศน์สําหรับเด็ก คําท่ีใช้ในข้อสอบประเมินผลทางการเรียนระดบั ชาติ ระดบั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ และคาํ ท่ีใชใ้ นหนงั สือเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ตา่ งๆ ผลการศึกษาน่าจะเป็ นประโยชน์ ต่อผทู้ ่ีอยูใ่ นวงการการศึกษาระดบั ประถมศึกษาตอนตน้ และผสู้ นใจทวั่ ไป ในโอกาสน้ี ขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์วิไลวรรณ ขนิษฐานันท์ ประธานคณะวิจัย คณาจารย์ และผูม้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งทุกท่าน ที่ดาํ เนินการวิจยั ได้ผลการศึกษาที่เป็ นประโยชน์ต่อการพฒั นา ภาษาไทยของนกั เรียน ไว้ ณ ท่ีน้ี (นายชินภทั ร ภูมิรัตน) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
บทคดั ย่อ การศึกษาคร้ังน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ศึกษา เปรียบเทียบ และหาลกั ษณะความแตกตา่ งระหวา่ ง คาํ ศพั ทพ์ ้ืนฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ เพื่อหาขอบเขตและสร้างวงศพั ทข์ ยาย ออกไปนอกวงการศึกษาของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓โดยเก็บรวบรวมขอ้ มูล จากการสัมภาษณ์ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ สงั กดั สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา เขตละ ๙ – ๑๒ คน เกบ็ ขอ้ มูลจากการใชค้ าํ ในรายการโทรทศั น์สาํ หรับเด็ก การใชค้ าํ ในขอ้ สอบประเมินผลทางการเรียนระดบั ชาติ และการใชค้ าํ ในหนงั สือเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยนบั ความถี่ของการใชค้ าํ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ท้งั ภาษาพดู และภาษาเขียน ประกอบดว้ ย คาํ ไวยากรณ์ (คาํ กริยา คาํ สรรพนาม คาํ บุพบท คาํ สันธาน คาํ ลกั ษณนาม และคาํ กริยาช่วย) และคาํ สาระ (คาํ ท่ีมี ความหมายเฉพาะ ไดแ้ ก่ คาํ นาม คาํ กริยา และคาํ วเิ ศษณ์) ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู พบวา่ คาํ ภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ มีจาํ นวน ๑,๐๐๗ คาํ คาํ ภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ มีจาํ นวน ๙๙๓ คาํ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๒ มี จาํ นวน ๑,๒๑๒ คาํ และช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ มีจาํ นวน ๑,๓๓๒ คาํ โดยมีคาํ ท่ีใชซ้ ้าํ กนั ท้งั คาํ ไวยากรณ์และ คาํ สาระ ส่วนท่ีแตกตา่ งกนั คือ เป็นคาํ ท่ีใชเ้ ฉพาะเจาะจง ท้งั น้ี ในภาพรวม คาํ พ้นื ฐานที่เคยศึกษาไวเ้ ม่ือปี ๒๕๓๗ และปัจจุบนั มีคาํ ศพั ทท์ ี่แตกตา่ ง คือ การใชค้ าํ ที่มี “การ” นาํ หนา้ มากข้ึน และมีคาํ ท่ีใชศ้ พั ท์ ภาษาองั กฤษเพม่ิ มากข้ึน โดยเฉพาะคาํ ที่เก่ียวขอ้ งกบั คอมพวิ เตอร์ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั สภาพสงั คมในปัจจุบนั ที่ ปรากฏมีอิทธิพลของภาษาองั กฤษอยรู่ อบดา้ น ผลการเปรียบเทียบคาํ พ้นื ฐานระหวา่ งนกั เรียนประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ดว้ ยกนั ช้ีใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ รู้จกั กฎการสร้างหน่วยนามโดยการเติม “การ” ลงหนา้ คาํ กริยา (การกิน) ได้ จาํ กดั มาก ส่วนนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ใชก้ ฎน้ีมากกวา่ และบอ่ ยกวา่ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๒ อยา่ งไรก็ตามมีร่องรอยการใชค้ าํ ของนกั เรียนท้งั สองช้นั วา่ รู้จกั กฎการสร้างคาํ ดว้ ยวธิ ีน้ีแลว้ เมื่อเปรียบเทียบ กบั หนงั สือเรียนของทุกช้นั ปี และขอ้ สอบประเมินผลทางการเรียนระดบั ชาติ ของช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ พบวา่ ท้งั หนงั สือเรียนและขอ้ สอบใชว้ ธิ ีเติม “การ” ซบั ซอ้ นมากกวา่ วธิ ีของนกั เรียน ทาํ ใหน้ าม นามวลี และประโยคท้งั ในหนงั สือเรียนและในขอ้ สอบ มีความหมายท่ีเป็ นนามธรรมและซับซ้อน แตกต่างจาก ภาษาของนกั เรียนมาก และความแตกต่างน้ีย่อมมีผลต่อความเขา้ ใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ซ่ึงภาษายงั ไมพ่ ฒั นาเท่ากบั ผใู้ หญ่ อาจตีความตา่ งไป เพราะนกั เรียนยงั ไมร่ ู้จกั กฎการสร้างหน่วยคาํ ที่ซบั ซอ้ น มากเท่าน้ี ( เช่น การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของไส้เดือน) และทา้ ยสุดคาํ ศพั ทท์ ี่ใชใ้ นรายการโทรทศั น์สาํ หรับ เดก็ เป็นภาษาท่ีอยกู่ ลางระหวา่ งหนงั สือ ซ่ึงมีวธิ ีการสร้างและใชค้ าํ /วลี “การ” ที่ซบั ซอ้ นมาก กบั วธิ ีการ สร้างและใชค้ าํ /วลี “การ” ของนกั เรียนที่ยงั อยใู่ นระยะเริ่มตน้ และยงั ตอ้ งพฒั นาอีกหลายข้นั ตอน
บทท่ี ๑ บทนา ความเป็ นมาและความสาคญั ปัจจุบนั บญั ชีคาํ พ้ืนฐานหรือคาํ ที่มีความถ่ีในการใชส้ ูงมีบทบาทในวงการการเรียนการสอน ภาษามาก วงการการศึกษาในซีกโลกตะวนั ตกใชบ้ ญั ชีคาํ พ้ืนฐานหรือคาํ ท่ีมีความถี่สูงจดั ลาํ ดบั ความยากง่าย ของคาํ คาํ ที่มีความถ่ีสูงคือคาํ ท่ีใช้บ่อยจดั เป็ นคาํ ง่าย ฉะน้นั คาํ ท่ีมีความถี่สูงสุด ๑,๐๐๐ คาํ แรก จึงเหมาะ สาํ หรับการใชเ้ ขียนหนงั สือ หรือใชเ้ ล่าเร่ืองใหเ้ ด็กเล็กฟัง และเด็กท่ีโตกวา่ ก็ใชค้ าํ ท่ีมีความถ่ีสูงลดลงในลาํ ดบั ถดั ไป เช่น คาํ ในบญั ชี ๑,๐๐๐ คาํ ท่ีสอง (คาํ ท่ี ๑,๐๐๑ – ๒,๐๐๐) ต่อจากบญั ชี ๑,๐๐๐ คาํ แรก ใชก้ บั เด็กที่ โตข้ึนในลาํ ดบั ถดั ไป และในการเรียนการสอนภาษาองั กฤษเป็ นภาษาต่างประเทศ คาํ ที่มีความถ่ีสูงเหล่าน้ีจดั วา่ เป็นคาํ ท่ีควรสอนในบทเรียนตน้ ๆ เพราะเป็นคาํ ท่ีผเู้ รียนมีโอกาสไดย้ นิ ไดเ้ ห็นมากกวา่ คาํ อ่ืนๆ นอกจากน้ี ยงั มีผลงานวิจยั ที่เกี่ยวกบั การวดั วงคาํ ศพั ท์ของนกั เรียนและความรู้เก่ียวกบั คาํ ศพั ท์ ซ่ึงเป็ นท่ียอมรับกนั อย่าง กวา้ งขวางในวงการการศึกษา คือ จาํ นวนคาํ ศพั ท์ที่เรารู้สัมพนั ธ์กบั ความรู้ที่เรามี คนที่มีความรู้มาก มี การศึกษาสูงมกั เป็ นผูร้ ู้คาํ ศพั ท์จาํ นวนมาก และสําหรับเด็กนักเรียนมีผลการศึกษาที่ช้ีว่า จาํ นวนคาํ ศพั ท์ที่ นกั เรียนรู้สัมพนั ธ์กับสภาพทางสังคม นกั เรียนท่ีมาจากครอบครัวท่ีมีฐานะดีและมีความรู้ดี มกั รู้คาํ ศพั ท์ มากกวา่ เป็ นเท่าตวั ของนกั เรียนท่ีมาจากครอบครัวท่ีมีฐานะดอ้ ยกว่า และความรู้คาํ ศพั ท์ที่นกั เรียนติดตวั มา ก่อนเขา้ โรงเรียนน้ี มีผลตอ่ การศึกษาในโรงเรียนติดตอ่ กนั เป็นเวลายาวนาน นกั เรียนท่ีรู้คาํ ศพั ทจ์ าํ นวนมากมกั เป็ นผูท้ ่ีมีผลการเรียนดี เพราะเมื่ออ่านก็สามารถเขา้ ใจส่ิงท่ีอ่านไดด้ ีกว่าและเร็วกว่า และสามารถใช้คาํ ศพั ท์ เขียนแสดงความรู้ความเขา้ ใจไดด้ ีกวา่ นกั เรียนที่รู้คาํ ศพั ทน์ อ้ ย และในดา้ นการพฒั นาเพ่ิมจาํ นวนคาํ ศพั ท์ (ซ่ึง หมายถึง ความรู้และประสบการณ์) นกั เรียนที่รู้คาํ ศพั ทม์ ากต้งั แตเ่ ริ่มเรียนสามารถเรียนรู้คาํ ใหม่ไดร้ วดเร็วกวา่ และยงั สามารถเพม่ิ หรือขยายวงคาํ ศพั ทไ์ ดม้ ากกวา่ ในระยะเวลาเรียนรู้ท่ีเทา่ กนั คาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑, ๒ และ ๓ คือคาํ ท่ีนกั เรียนรู้จกั อยู่แลว้ ถา้ หนงั สือเรียนเขียนด้วยคาํ พ้ืนฐานของนักเรียนหรือคาํ ท่ีนกั เรียนรู้จกั อยู่แล้ว นกั เรียนก็จะสามารถอ่านและ เขา้ ใจหนงั สือน้นั ไดด้ ี และมีความสนใจท่ีจะอา่ นมากกวา่ หนงั สือท่ีไม่ไดใ้ ชค้ าํ พ้นื ฐานของนกั เรียนมาเขียน ความหมายของคาว่า “คาพนื้ ฐาน” ในวงการ “คาศัพท์ศึกษา” “คาํ พ้นื ฐาน” ในที่น้ีตรงกบั คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ core vocabulary ความหมายของคาํ น้ี ยงั มี ขอบเขตท่ีแตกต่างกันในวงการการศึกษาคาํ ศพั ท์ในยุโรปและอเมริกา ซ่ึงเป็ นผูร้ ิเร่ิมและเป็ นผูน้ ําเร่ือง การศึกษาคาํ ศพั ทพ์ ้ืนฐาน ประเด็นสาํ คญั ท่ีผรู้ ู้ในวงการน้ีเห็นตรงกนั คือ “คาํ ศพั ทพ์ ้ืนฐาน” เป็ นคาํ ท่ีมีความถ่ี ในการใช้สูง เป็ นคาํ ท่ีผูใ้ ช้ภาษาใช้บ่อยมากกว่าคาํ ที่ไม่ใช่คาํ พ้ืนฐาน ในความหมายแคบ “คาํ พ้ืนฐาน” เป็ นคาํ ท่ีผใู้ ชภ้ าษาตอ้ งใชต้ ลอดเวลา ไม่วา่ จะพดู หรือเขียน เก่ียวกบั เรื่องอะไร และไมว่ า่ ผใู้ ชภ้ าษาจะมีการศึกษาสูงมาก หรือเพยี งอ่านออกเขียนได้ ไม่วา่ ผใู้ ชภ้ าษาจะมี
๒ อายุ ๘๐ หรือ ๑๘ ปี ก็ตอ้ งใช้เหมือนกัน ในความหมายแคบน้ี “คาํ พ้ืนฐาน” ครอบคลุมคาํ ประเภทท่ี นักภาษาศาสตร์เรียกว่า “คาํ ไวยากรณ์” (function word) ซ่ึงประกอบด้วย คาํ หลายประเภท อาทิ สรรพนาม บุพบท สันธาน คาํ ปฏิเสธ คาํ ใช้คาํ ถาม คาํ ลักษณนาม คาํ กริยาช่วย คาํ กริยาบางคาํ และคาํ วิเศษณ์บางคาํ ดงั ตวั อย่าง หนู(คาํ แทนตวั ผูพ้ ูดบุรุษท่ี ๑ ) ใน บท แต่ และ ไม่ หรื อ ไหม อัน ตัว จะ คง อาจ มี เป็ น คือ ใช่ เอา ให้ แล้ว ก็ นี้ น้ัน กว่า “คาํ ไวยากรณ์” เป็ นคาํ ที่ไม่มีความหมายประจาํ คาํ ตรงข้ามกบั “คาํ สาระ” (content word) ซ่ึงมีความหมายประจาํ คาํ ได้แก่ คาํ นาม คาํ กริยา คาํ วิเศษณ์ โดยธรรมชาติ “คาํ ไวยากรณ์” มี ความถี่ในการใช้สูงกว่า”คาํ สาระ”มาก เพราะ “คาํ ไวยากรณ์” เป็ นคาํ ที่ใช้แสดงถึงความสัมพนั ธ์ทาง ไวยากรณ์ของคาํ ต่าง ๆ ที่เรียบเรียงอยู่ในประโยคหรือในวลีเดียวกนั ทุกประโยค วลี หรือ ขอ้ ความ ตอ้ งมีคาํ ไวยากรณ์อยู่ดว้ ยเสมอ และแมท้ ุกประโยคก็ตอ้ งมีคาํ สาระ (content word) ด้วยเช่นกนั แต่คาํ สาระ มีจาํ นวนมากกว่าคาํ ไวยากรณ์ (function word) หลายพนั เท่า โอกาสที่ผใู้ ชภ้ าษาจะเลือกใช้คาํ สาระ (content word) คาํ เดิมซ้าํ บ่อยๆ จึงมีน้อยกว่ามาก ดว้ ยเหตุที่คาํ ไวยากรณ์แต่ละภาษา มีจาํ นวนน้อย มี จาํ นวนจาํ กดั ตายตวั ไม่เพิ่มใหม่หรือสูญหายได้ง่ายเหมือนคาํ สาระ นักภาษาจึงสามารถนับได้ว่า “คาํ ไวยากรณ์” แต่ละประเภทมีจาํ นวนเท่าใด อะไรบา้ ง เช่น หนังสือไวยากรณ์สามารถระบุว่า คาํ บุพ บทมีอะไรบ้าง คาํ สรรพนามมีก่ีคาํ แต่นักภาษาไม่สามารถระบุได้ว่ามีคาํ สาระเท่าใดในภาษา และ พจนานุกรมจะรวบรวมคาํ ไวเ้ ป็นจาํ นวนมหาศาลเมื่อเทียบกบั จาํ นวนคาํ ที่คนธรรมดาหน่ึงๆ จะพึงรู้หรือใชเ้ ป็ น ประจาํ แต่พจนานุกรมกไ็ มส่ ามารถเกบ็ บนั ทึกคาํ ทุกคาํ ในภาษาไวใ้ นพจนานุกรม ๑ เล่ม หรือ ๑๐ เล่มได้ เพราะ คาํ สาระอาจเกิดใหม่ได้ตลอดเวลา เม่ือมีสถานการณ์ใหม่ หรือเม่ือมีส่ิงใหม่เกิดข้ึนในสังคม และท่ีสาํ คญั ผใู้ ชภ้ าษาอาจสร้างคาํ ใหมไ่ ดต้ ลอดเวลา โดยใชก้ ฎที่มีอยใู่ นภาษา เช่น ภาษาไทยมีกฎการซ้าคา เพ่ือสร้างคาํ ใหม่ ที่สื่อความหมายอารมณ์ของผพู้ ดู เช่น “เลือกเอาลูกหนักๆ” “นง่ั ตรงๆ” “เช็ดโตะ๊ ให้สะอาดๆ” “คนเก่งๆ ก็มี หลายคน” ในพจนานุกรม มีคาํ วา่ “หนกั ตรง สะอาด เก่ง” แต่ไม่มีคาํ วา่ “หนกั ๆ ตรงๆ สะอาดๆ เก่งๆ” ซ่ึงมีความหมายที่แตกต่างกนั ออกไป และพจนานุกรมคงไม่สามารถใส่คาํ ประเภทน้ีไวใ้ นเล่มได้เพราะมี จาํ นวนมาก และไม่มีจาํ นวนจาํ กดั ท่ีแน่นอน ผูพ้ ูดภาษาสามารถซ้าํ คาํ ไดเ้ กือบทุกประเภท เช่น “พวกพ่อๆ แม่ๆ มายนื รออยเู่ ตม็ เลย” “เอาแตน่ า้ ๆ นะ เนือ้ ๆ ไม่เอา” “วางเขา้ ไปในๆ หน่อยจะไดป้ ลอดภยั ” “รู้สึกเบ่ือๆ ก็ เลยเดินออกมา” “อนั ดบั ต้นๆ ดีกวา่ อนั ดบั ท้ายๆ” “ยนื ที่ร่มๆ สบายกวา่ ” ฯลฯ และในทางตรงขา้ ม ถา้ คนใน สงั คมเลิกใชส้ ิ่งของ หรือความคิดบางอยา่ ง คาํ ท่ีใชอ้ า้ งถึงส่ิงดงั กล่าวกจ็ ะสูญหายไปจากภาษาดว้ ย ตวั อยา่ งที่เห็นได้ ชดั ในปัจจุบนั เช่น เราเลิกใชค้ าํ เรียกหน่วยเงินตราแบบเก่า เช่น อฐั โสฬส เฟ้ื อง และใชค้ าํ วา่ บาท สตางค์ คาํ วา่ “สลึง” กใ็ ชน้ อ้ ยลงไปมาก เดี๋ยวน้ีคนนิยมพดู วา่ “หา้ สิบสตางค”์ มากกวา่ “สองสลึง”
๓ ในความหมายกว้าง “คาํ พ้ืนฐาน” หมายถึง คาํ ท่ีมีความถ่ีในการใช้สูงสุดที่มีขอบเขตจาํ กดั และมีจาํ นวนท่ีแน่นอน เช่น คาํ ท่ีมีความถ่ีในการใชภ้ าษาองั กฤษทวั่ ไปสูงถึง ๓,๐๐๐ คาํ แรก Paul Nation (ค.ศ. ๑๙๙๗,๒๐๐๖la) ศาสตราจารยท์ างภาษาศาสตร์แห่งมหาวทิ ยาลยั วคิ ตอเรีย ประเทศนิวซีแลนด์ ไดร้ วบรวมคาํ ภาษาองั กฤษ และสร้างบญั ชีคาํ ภาษาองั กฤษท่ีมีความถ่ีสูงสุดในการใชภ้ าษาองั กฤษทว่ั ไปข้ึน (Most Frequent Word List ; General Service List) งานซ่ึงเป็นท่ีใชอ้ า้ งอิงกนั แพร่หลายมี ๓ บญั ชี คือ ๑,๐๐๐ คาํ แรก (๑- ๑,๐๐๐) ๑,๐๐๐ คาํ ที่สอง (๑,๐๐๑ – ๒,๐๐๐) และ ๑,๐๐๐ คาํ ท่ีสาม (๒,๐๐๑ – ๓,๐๐๐) บญั ชีคาํ เหล่าน้ี มี ขอบเขตรวมถึงคาํ สาระ (content word) ดว้ ย เพราะโดยเฉลี่ยแลว้ คาํ ไวยากรณ์ในแตล่ ะภาษาจะมีไม่เกิน ๒,๐๐๐ คาํ โดยทวั่ ไปคาํ ไวยากรณ์มกั จะเป็นคาํ ที่มีความถี่ในการใชส้ ูงในลาํ ดบั ตน้ ๆ ของบญั ชีคาํ เหล่าน้ี ส่วน “คาํ สาระ” ที่มีความถี่สูงในลาํ ดบั ตน้ ๆ มกั จะเป็ นคาํ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั “หวั เรื่อง” ที่พูด/ เขียน หรือเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั “เน้ือหา/สาระ” ของแหล่งขอ้ มูลคาํ น้นั ๆ ดงั ตวั อยา่ งจากรายการโทรทศั น์ “ขนมไทย” คาํ ท่ีมีความถ่ีสูงสุด ๑๕ อนั ดบั แรก เป็ นคาํ ไวยากรณ์ ๑๔ คาํ และเป็ นคาํ สาระเพียง ๑ คาํ คาํ สาระที่มีความถี่สูงสุดลาํ ดบั แรกคือคาํ ว่า “ขนม / ขนมไทย” ซ่ึงเป็ นชื่อและเนื้อหาของรายการ โทรทศั น์ ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี ลาดับท่ี คา จานวนคร้ัง ๑ คะ ๑๘๐ ๒ ค่ะ ๑๔๙ ๓ ท่ี ๑๓๕ ๔ น้ี ๑๒๕ ๕ เรา ๑๒๓ ๖ ไป ๑๐๖ ๗ แลว้ ๑๐๖ ๘ ทาํ ๙๙ ๙ กนั ๙๒ ๑๐ มา ๙๑ ๑๑ เลย ๘๔ ๑๒ นะ ๗๕ ๑๓ ได้ ๗๑ ๑๔ ของ ๖๙ ๑๕ ขนม ๖๔
๔ อีกตวั อย่างหน่ึงจากการสัมภาษณ์นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ใน ๔ ภูมิภาค ภาคเหนือ นกั เรียนใช้คาํ ท้งั หมด ๒๕,๕๙๕ คาํ นกั เรียนภาคอิสานใช้ ๒๙,๕๒๔ คาํ นกั เรียนภาคใต้ใช้ ๑๑,๔๒๒ คาํ จาํ นวนคาํ ท่ีนกั เรียนใช้โตต้ อบในการสัมภาษณ์ของ ๔ ภาค ต่างกนั มาก แต่เม่ือจดั ลาํ ดบั คาํ ตามความถ่ีของ การใช้แล้ว คาํ ศพั ท์ ๑๐ คาํ แรกที่มีความถี่ในการใช้สูงสุ ดของท้งั ๔ ภาค ใกล้เคียงกันมากจนแทบจะ เหมือนกนั คือ เป็ นคาํ ไวยากรณ์ ๙ คาํ คาํ สาระ ๑ คาํ คาํ ไวยากรณ์ของภาคกลางและภาคใต้ ๙ คาํ เหมือนกนั ท้งั ๙ คาํ แตต่ า่ งกนั ที่ลาํ ดบั ความถ่ีของแต่ละคาํ ภาคเหนือกบั ภาคอิสานก็มีคาํ ไวยากรณ์เหมือนกนั ๙ คาํ และ ต่างกนั ท่ีลาํ ดบั ความถี่ของแต่ละคาํ เช่นกนั ภาคกลางและภาคใตม้ ีคาํ ว่า “ท่ี” ซ่ึงภาคเหนือกบั ภาคอิสานไม่มี (ใน ๑๐ ลาํ ดบั แรก) แต่มีคาํ ว่า “เป็ น”แทน คาํ ในไวยากรณ์ที่เหลืออีก ๘ คาํ เหมือนกนั ท้งั ๔ ภาค ส่วนคาํ สาระ ๑ คาํ ท่ีเหมือนกนั ท้งั ๔ ภาค คือ คาํ วา่ “เล่น” สาเหตุท่ีเหมือนกนั ก็เพราะ คาํ ถามในการสัมภาษณ์ กาํ หนดไวเ้ หมือนกนั คือใหพ้ ดู ถึงเร่ือง “การเล่นกบั เพ่ือน” และน่ีเป็ นตวั อยา่ งที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ คาํ สาระ น้นั สัมพนั ธ์กนั โดยตรงกบั สถานการณ์ หรือ หวั ขอ้ เรื่องท่ีพูด/เขียน ส่วนคาํ ในไวยากรณ์น้นั ไม่มีความสัมพนั ธ์กบั สาระของเร่ือง และไม่ว่าเน้ือหาจะเป็ นสาระเกี่ยวกบั อะไร ไม่ว่าใครจะเป็ นผูพ้ ูด/ผูเ้ ขียน ถา้ ใช้ภาษาไทย เหมือนกนั กจ็ ะตอ้ งใชค้ าํ ไวยากรณ์เหมือนกนั ดงั ตวั อยา่ งรายละเอียดของคาํ ศพั ทท์ ี่มีความถ่ีในการใชส้ ูงสุด ๑๐ คาํ แรก ในการใหส้ ัมภาษณ์ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ตอ่ ไปน้ี คาํ ศพั ทท์ ี่มีความถี่สูงสุดในการใชจ้ ากการสัมภาษณ์นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ คาท่ี ภาคเหนือ คร้ัง ภาคกลาง คร้ัง ภาคใต้ คร้ัง ภาคอสิ าน คร้ัง ๑. ค่ะ ๒,๕๗๔ คะ่ ๑,๙๗๔ คะ่ ๙๑๘ ค่ะ ๓,๓๑๕ ๒. ครับ ๑,๖๕๒ ครับ ๑,๓๖๖ ไม่ ๕๘๕ ไม่ ๑,๓๘๗ ๓. ไม่ ๙๕๖ ไม่ ๑,๑๑๙ ครับ ๔๔๑ ก็ ๑,๐๕๕ ๔. ก็ ๗๘๖ ก็ ๘๖๘ มี ๔๑๖ ครับ ๑,๐๓๐ ๕. มี ๗๓๔ หนู ๘๖๐ ก็ ๓๐๒ มี ๗๙๒ ๖. แลว้ ๕๐๑ แลว้ ๕๕๕ แลว้ ๒๔๘ หนู ๗๓๔ ๗. หนู ๓๘๐ ที่ ๕๔๙ เล่น ๒๑๔ แลว้ ๕๕๗ ๘. เป็น ๓๗๙ เล่น ๕๑๓ หนู ๒๐๗ เล่น ๕๓๔ ๙. ได้ ๓๗๕ ได้ ๔๓๔ ได้ ๑๖๗ ได้ ๔๔๘ ๑๐. เล่น ๓๓๓ มี ๔๑๖ ที่ ๑๕๙ เป็น ๔๑๐
๕ วตั ถุประสงค์ของการศึกษา ๑. เพือ่ ศึกษาคาํ ศพั ทพ์ ้นื ฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ๒. เพื่อเปรียบเทียบวงคาํ ศพั ทพ์ ้นื ฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ของทุกภาคในประเทศไทย และหาลกั ษณะของความแตกต่างระหวา่ งคาํ ศพั ทภ์ าษาถิ่นที่นกั เรียนใช้ ๓. เพื่อเปรี ยบเทียบวงคําศัพท์ที่ใช้ในหนังสื อเรี ยนทุก กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ของช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ และศพั ทใ์ นขอ้ สอบประเมินผลทางการเรียนระดบั ชาติ (NT) ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ กบั วงศพั ทภ์ าษาพูดของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ และหาขอบเขตของวงศพั ทข์ ยายในแวดวง การศึกษาของระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ๔. เพ่ือเปรียบเทียบวงศพั ทท์ ี่ใช้ในรายการโทรทศั น์สําหรับเด็กและวงศพั ทใ์ นหนงั สืออ่าน เล่นสาํ หรับเด็กกบั วงศพั ทพ์ ้นื ฐานในภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ - ๓ เพือ่ หาขอบเขตและสร้าง วงศพั ทข์ ยายนอกแวดวงการศึกษาของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ นิยามศัพท์ คาํ พ้ืนฐาน หมายถึง คาํ ที่มีความถ่ีในการใช้สูงสุดที่มีขอบเขตจาํ กดั และมีจาํ นวนท่ีแน่นอน คาํ ไวยากรณ์ หมายถึง คาํ ที่ไม่มีความหมายประจาํ คาํ มีหลายประเภท เช่น คาํ สรรพนาม คาํ บุพบท คาํ สันธาน คาํ ปฏิเสธ คาํ ใช้คาํ ถาม คาํ ลักษณนาม คาํ กริยาช่วย คาํ กริยาบางคาํ และคาํ วิเศษณ์ บางคาํ เป็ นคาํ ที่ใช้แสดงถึงความสัมพนั ธ์ทางไวยากรณ์ของคาํ ต่าง ๆ ที่เรียบเรียงอยู่ในประโยคหรือ ในวลีเดียวกนั ทุกประโยค วลี หรือ ขอ้ ความ ตอ้ งมีคาํ ไวยากรณ์อยู่ดว้ ยเสมอ คาํ ไวยากรณ์แต่ละ ภาษา มีจาํ นวนน้อย มีจาํ นวนจาํ กดั ตายตวั ไม่เพิ่มใหม่หรือสูญหายได้ง่ายเหมือนคาํ สาระ คาํ สาระ หมายถึง คาํ ที่มีความหมายประจาํ คาํ ได้แก่ คาํ นาม คาํ กริยา คาํ วิเศษณ์ คาํ สาระ มีจาํ นวนมากกว่าคาํ ไวยากรณ์ (function word) หลายพนั เท่า โอกาสท่ีผใู้ ชภ้ าษาจะเลือกใช้คาํ สาระ (content word) คาํ เดิมซ้าํ บ่อยๆ จึงมีน้อยกว่ามาก
บทที่ ๒ วธิ ีการศึกษา การการศึกษาคาํ พ้ืนฐานนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ปี การศึกษา ๒๕๕๔ ได้ ดาํ เนินการ ดงั น้ี ๑. กล่มุ ตัวอย่าง ที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ประกอบดว้ ย ๑.๑ การศึกษาจากภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ จากสาํ นกั งานเขต พ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษา ๑๘๓ เขต เขตละ ๙ –๑๒ คน ประมาณ ๒,๐๐๐ คน โดยการสัมภาษณ์ ๑.๒ กาํ หนดรายการโทรทศั นส์ าํ หรับเดก็ เฉพาะวนั เสาร์และวนั อาทิตย์ เป็ นเวลา ๑ เดือนรวบรวมขอ้ มูลโดยการบนั ทึกเทป ๑.๓ รวบรวมขอ้ มูลขอ้ สอบประเมินผลสัมฤทธ์ิภาษาไทย (NT) ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ ปี การศึกษา ๒๕๕๑ – ๒๕๕๓ ๑.๔ รวบรวมขอ้ มลู หนงั สือเรียน ทุกสาระการเรียนรู้ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ โดยใช้หนงั สือเรียนท่ีกระทรวงศึกษาธิการ จดั พิมพ์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๒. เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการศึกษา มี ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ ๒.๑ เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บขอ้ มูลจากการสัมภาษณ์นักเรียน ใช้แบบสัมภาษณ์ โดย กาํ หนดขอบเขตการสมั ภาษณ์ ไดแ้ ก่ บทสนทนาในครอบครัว และในโรงเรียน ๒.๒ เคร่ืองบนั ทึกเสียงรายการโทรทศั น์สาํ รับเด็ก ๒.๓ ขอ้ สอบประเมินผลทางการเรียนระดบั ชาติ (NT) จาํ นวน ๓ ปี การศึกษา คือ ปี การศึกษา ๒๕๕๑ – ๒๕๕๓ ๒.๔ หนังสือเรียนทุกสาระการเรียนรู้ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ โดยใช้ หนงั สือเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการ จดั พิมพ์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๓. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ดาํ เนินการดงั น้ี ๓.๑ เก็บรวบรวมขอ้ มูลภาษาพดู ของนกั เรียนจากการสมั ภาษณ์นกั เรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ท่ี ๑ – ๓ โดยจดั ประชุมศึกษานิเทศก์ทุกเขตพ้ืนท่ีการศึกษาทวั่ ประเทศ จาํ นวน ๑๘๓ เขต แบ่งเป็ น ๔ ภูมิภาค ใน เดือนธนั วาคม ๒๕๕๓ ณ จงั หวดั เชียงใหม่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช และกรุงเทพฯ เพ่ือขอความร่วมมือจาก ศึกษานิเทศก์เก็บขอ้ มูลภาษาพูดของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ รวมท้งั ให้ความรู้เร่ืองการใช้อุปกรณ์ บนั ทึกเสียง ( MP๓) อดั เสียง วธิ ีเกบ็ ขอ้ มลู การสมั ภาษณ์ การถามคาํ ถาม ดงั น้ี คร้ังที่ ๑ เดือนธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ - กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ คร้ังที่ ๒ เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
๗ ๓.๒ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การใชค้ าํ ในรายการโทรทศั น์สาํ หรับเด็ก โดยบนั ทึกเทปรายการ โทรทศั น์สาํ หรับเดก็ เฉพาะวนั เสาร์และวนั อาทิตย์ เป็นเวลา ๑ เดือน ๓.๓ เก็บรวบรวมข้อมูลการใช้คาํ ในขอ้ สอบประเมินผลสัมฤทธ์ิภาษาไทย (NT) ช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ ปี การศึกษา ๒๕๕๑ – ๒๕๕๓ ๓.๔ เก็บรวบรวมขอ้ มูลการใชค้ าํ ในหนงั สือเรียนทุกสาระการเรียนรู้ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ โดยใชห้ นงั สือเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการ จดั พมิ พ์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๔. การวเิ คราะห์ข้อมูล โดยใชค้ ่าร้อยละ ดงั น้ี ๔.๑ นบั จาํ นวนคาํ จากขอ้ มูลการสัมภาษณ์นกั เรียน และลาํ ดบั คาํ ตามความถ่ีตามขอบเขต ความรับผดิ ชอบท่ีไดต้ กลงไวใ้ นขอ้ ๓.๑ ๔.๒ นับจาํ นวนคาํ ที่ใช้ในรายการโทรทศั น์สําหรับเด็ก และลาํ ดับคาํ ตามความถ่ีตาม ขอบเขตความรับผดิ ชอบที่ไดต้ กลงไวใ้ นขอ้ ๓.๒ ๔.๓. นบั จาํ นวนคาํ ในขอ้ สอบประเมินผลสัมฤทธ์ิภาษาไทย (NT) ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ และลาํ ดบั คาํ ตามความถ่ี ๔.๔ นบั จาํ นวนคาํ และลาํ ดบั คาํ ตามความถ่ีของคาํ ในหนงั สือเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ศิลปะ ตามขอบเขตความรับผดิ ชอบที่ได้ ตก ลงไวใ้ นขอ้ ๑ หลงั จากวเิ คราะห์ขอ้ มูลแลว้ จดั ทาํ บญั ชีคาํ พ้นื ฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ รวม ท้งั หมด ๕ บญั ชี บญั ชีละ ๑,๐๐๐ คาํ ดงั น้ี ๑) บญั ชีคาํ พ้ืนฐานจากภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ๒) บญั ชีคาํ พ้ืนฐานจากภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ๓) บญั ชีคาํ พ้นื ฐานจากภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๒ ๔) บญั ชีคาํ พ้นื ฐานจากภาษาพดู ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ๕) บญั ชีคาํ พ้ืนฐานจากภาษาพดู และภาษาเขียนของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ผลการนับคาในข้อมูล ๔ ประเภท (ก่อนการวเิ คราะห์) ๑. ขอ้ มูลจากการสัมภาษณ์นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ภาคกลาง ๑๑๘,๙๙๗ คาํ ภาคเหนือ ๑๐๓,๐๐๙ คาํ ภาคอิสาน ๙๓,๔๐๖ คาํ ภาคใต้ ๓๔,๑๓๓ คาํ
รวม ๓๔๙,๕๔๕ คาํ ๘ แยกตามช้นั ปี ไดด้ งั น้ี ป. ๑ ๙๕,๖๘๖ คาํ ป. ๒ ๑๑๖,๒๒๘ คาํ ป. ๓ ๑๓๗,๓๘๒ คาํ ๒. จาํ นวนคาํ ในหนงั สือเรียน ๓๒๕,๒๘๘ คาํ แยกเป็นรายวชิ าไดด้ งั น้ี วทิ ยาศาสตร์ ๑๗,๑๐๙ คาํ ศิลปะ ๒๐,๒๙๑ คาํ สุขศึกษา ๓๕,๑๑๙ คาํ ภาษาไทย ๔๑,๑๑๒ คาํ สังคม ๗๙,๘๐๘ คาํ คณิตศาสตร์ ๙๑,๔๙๘ คาํ ๓. จาํ นวนคาํ ในขอ้ สอบทุกวชิ าระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ จาํ นวน ๑,๖๙๓ คาํ ๔. จาํ นวนคาํ ในรายการโทรทศั นส์ าํ หรับเด็กและหนงั สือเด็ก จาํ นวน ๗๒,๘๓๙ คาํ รวมคาํ ในการศึกษา ๔ รายการ ๗๔๙,๓๖๕ คาํ
บทที่ ๓ ผลการวเิ คราะห์คาพนื้ ฐานของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ๑. จานวนคาศัพท์ทน่ี ักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ ใช้ในการตอบคาสัมภาษณ์ จาํ นวนคาํ ศพั ทท์ ี่นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑, ๒ และ ๓ ท่ีใชใ้ นการตอบคาํ สัมภาษณ์ แตกตา่ งกนั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ ใชค้ าํ พดู จาํ นวนนอ้ ยที่สุด คือ ๙๕,๖๘๖ คาํ แยกเป็ นคาํ ศพั ท์ (นบั ก่อนใชซ้ ้าํ ) ได้ ๓,๘๔๙ คาํ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ใชค้ าํ ศพั ทม์ ากที่สุด คือ ๑๓๗,๓๘๒ คาํ แยกเป็ น คาํ ศพั ท์ (นบั ก่อนใชซ้ ้าํ ) ได้ ๕,๑๙๓ คาํ และนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๒ อยรู่ ะหวา่ งกลาง คือ ๑๑๖,๒๒๘ คาํ แยกเป็ นคาํ ศพั ท์ (นบั ก่อนใชซ้ ้าํ ) ได้ ๔,๒๑๒ คาํ ซ่ึงเป็ นไปตามความคาดหมาย คือ นกั เรียนมีการพฒั นา เพิ่มจาํ นวนคาํ ศพั ทม์ ากข้ึนตามประสบการณ์ที่เพิม่ ข้ึน ๒. ความแตกต่างระหว่างคาศัพท์จานวนคาศัพท์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ คาํ ในบญั ชีคาํ พ้ืนฐานมาจากภาษาพูดของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑, ๒ และ ๓ ไม่ ต่างกนั มากนกั แต่ถา้ พิจารณาคาํ ของนกั เรียนท้งั ๓ ช้นั ปี ในรายละเอียด จะเห็นวา่ นกั เรียนมีพฒั นาการดา้ น คาํ ศพั ทต์ ่างกนั อยา่ งชดั เจน โดยเฉพาะพฒั นาการดา้ นการใช้กฎเกณฑ์ของภาษา พฒั นาการท่ีเห็นไดช้ ดั ท่ีสุด คือ การใชก้ ฎเติมคาํ วา่ “การ” ลงหนา้ คาํ กริยา เพื่อแปลงคาํ ใหเ้ ป็นคาํ นาม นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ใช้ คาํ ที่เริ่มตน้ ดว้ ย “การ” เพียง ๓๑ คาํ นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๒ ใช้ ๖๐ คาํ และนกั เรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ใช้ ๘๙ คาํ นอกจากน้ีคาํ ที่มี “การ” นาํ หนา้ ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ส่วนใหญ่ เป็นชื่อวชิ า หรือเป็นคาํ ท่ีใชเ้ ป็นคาํ นามอยแู่ ลว้ เช่น การงานอาชีพ การบา้ น การทดลอง ไม่ใช่มาจากการใช้ กฎเติม “การ” ลงหนา้ คาํ ส่วนคาํ ท่ีนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๒ และ ๓ ใช้ มีร่องรอยว่านกั เรียน ไดพ้ ฒั นาการใชก้ ฎเติม “การ” ลงหนา้ คาํ กริยาแลว้ ดงั ขอ้ มลู ในรายละเอียด ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ ๑. การ ๒. การกิน ๓. การเกบ็ ขอ้ มลู ๔. การเกิดฝน ๕. การเกิดลม ๖. การเขา้ โปรแกรม ๗. การเขา้ อินเทอร์เน็ต ๘. การเขียน
๑๐ ๙. การคลิก ๑๐. การงาน ๑๑. การงานอาชีพ ๑๒. การเงิน ๑๓. การเจบ็ ป่ วย ๑๔. การชง่ั น้าํ หนกั ๑๕. การใชภ้ าษา (น่าจะมาจากครูผสู้ ัมภาษณ์) ๑๖. การใชเ้ มา้ ส์ ๑๗. การซ้ือ ๑๘. การทดลอง ๑๙. การบวก ๒๐. การบวกลบ ๒๑. การบา้ น ๒๒. การเปิ ดปิ ด ๒๓. การมาโรงเรียน (น่าจะมาจากครูผสู้ ัมภาษณ์) ๒๔. การเมือง ๒๕. การแยกขยะ ๒๖. การเรียน ๒๗. การเล่น ๒๘. การเล่นฟุตบอล ๒๙. การวาดรูป ๓๐. การศึกษา ๓๑. การอ่าน ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๒ ๑. การ ๒. การกระโดด ๓. การกิน ๔. การแกป้ ัญหา
๑๑ ๕. การขายของ ๖. การเขา้ โปรแกรม ๗. การคาํ นวณ ๘. การคูณ ๙. การงาน ๑๐. การงานอาชีพ ๑๑. การเงิน ๑๒. การชน ๑๓. การชง่ั ๑๔. การใช้ ๑๕. การดาํ รงชีวติ ๑๖. การดู ๑๗. การตวง ๑๘. การตอ้ งการ ๑๙. การเตะ ๒๐. การแต่งตวั ๒๑. การทดลอง ๒๒. การทรงตวั ๒๓. การทาํ ๒๔. การทาํ ขนมกรุบกรอบ ๒๕. การทาํ เคก้ ๒๖. การทาํ งาน ๒๗. การบวก ๒๘. การบา้ น ๒๙. การบิน ๓๐. การแบ่ง ๓๑. การประกอบอาชีพ ๓๒. การประหยดั ๓๓. การปรุง
๑๒ ๓๔. การเป็น ๓๕. การพนนั ๓๖. การรับประทาน ๓๗. การรายงาน ๓๘. การเรียน ๓๙. การลบ ๔๐. การละเล่น ๔๑. การเล่น ๔๒. การเล้ียงสตั ว์ ๔๓. การเลือก ๔๔. การวดั ๔๕. การวง่ิ แข่ง ๔๖. การศึกษา ๔๗. การแสดง ๔๘. การหาขอ้ มูล (น่าจะมาจากครูผสู้ มั ภาษณ์) ๔๙. การหาร ๕๐. การออกกาํ ลงั กาย ๕๑. การอ่าน ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ๑. การ ๒. การกิน ๓. การกีฬา ๔. การโกหก ๕. การขายของ ๖. การเขียน ๗. การคน้ ควา้ ๘. การคลิก ๙. การคิด
๑๓ ๑๐. การคูณ ๑๑. การฆา่ ๑๒. การงาน ๑๓. การชนะ ๑๔. การดู ๑๕. การดูแล ๑๖. การตกปลา ๑๗. การต่อสู้ ๑๘. การตกั บาตร ๑๙. การทดลอง ๒๐. การท่อง ๒๑. การท่องเท่ียว ๒๒. การทาย ๒๓. การทาํ ๒๔. การทาํ งาน ๒๕. การทาํ บุญ ๒๖. การนอนดิ้น ๒๗. การนาํ เสนอ ๒๘. การบา้ น ๒๙. การบิน ๓๐. การปฏิบตั ิตวั ๓๑. การประกวด ๓๒. การประดิษฐ์ ๓๓. การปรับ ๓๔. การเป็นครู ๓๕. การเปิ ดปิ ด ๓๖. การเปิ ดเพลง ๓๗. การผจญภยั
๑๔ ๓๘. การพิมพ์ ๓๙. การพดู ๔๐. การแพร่กระจาย ๔๑. การฟ้ อนราํ ๔๒. การมี ๔๓. การเมา ๔๔. การเมือง ๔๕. การร้องเพลง ๔๖. การรับไม้ ๔๗. การเรียน ๔๘. การลด ๔๙. การลบ ๕๐. การละเล่น ๕๑. การละเล่นพ้ืนบา้ น ๕๒. การลา้ ง ๕๓. การเล่น ๕๔. การเล่นเกม ๕๕. การเล่าเรียน ๕๖. การเลิก ๕๗. การเล้ียง ๕๘. การเลือกต้งั ๕๙. การวางนิ้ว ๖๐. การวางมือ ๖๑. การวาด ๖๒. การวาดภาพ ๖๓. การวาดรูป ๖๔. การวเิ คราะห์ ๖๕. การวงิ่
๑๕ ๖๖. การวงิ่ ราว ๖๗. การศึกษา ๖๘. การสนทนา ๖๙. การสนุก ๗๐. การสอน ๗๑. การสอบ ๗๒. การสงั เกต ๗๓. การสาํ รวจ ๗๔. การแสดง ๗๕. การหลอกลวง ๗๖. การหาร ๗๗. การให้ ๗๘. การออกกาํ ลงั กาย ๗๙. การออกเดินทาง ๘๐. การอา่ น เรื่องการใชก้ ฎ “การ” แปลงคาํ ให้เป็ นคาํ นามน้ีมีความสาํ คญั มาก และมีผลต่อการศึกษาของ นกั เรียนมาก ผูเ้ ขียนหนังสือเรียน (และผูใ้ ช้ภาษาอ่ืนทว่ั ไป) ใช้กฎน้ีในการเขียนหนงั สือ ซ่ึงเป็ นไปตาม ธรรมชาติของการใชภ้ าษาสาํ หรับ “ผใู้ ชภ้ าษาที่เป็ นผใู้ หญ่ในยุคปัจจุบนั ” (คือ ใชก้ ฎ “การ” มากกวา่ นกั เรียน หลายเทา่ ตวั ) ผเู้ ขียนไมไ่ ดป้ รับระดบั ภาษาใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รียน ดงั จะกล่าวถึงในหวั ขอ้ ตอ่ ไป ๓. จานวนคาศัพท์ และภาษาในหนังสือเรียน จาํ นวนคาํ ในหนงั สือเรียนท่ีศึกษาในงานน้ีมีท้งั สิ้น ๓๒๕,๒๘๘ คาํ แยกเป็นรายวชิ า ดงั น้ี วทิ ยาศาสตร์ ๑๗,๑๐๙ คาํ ศิลปะ ๒๐,๒๙๑ คาํ สุขศึกษา ๓๕,๑๑๙ คาํ ภาษาไทย ๔๑,๑๑๒ คาํ คณิตศาสตร์ ๙๑,๔๙๘ คาํ
๑๖ คาํ สาระ (content word) ที่ใชใ้ นหนงั สือแตกต่างจากคาํ สาระของนกั เรียนมาก และเป็ นคาํ ท่ี นกั เรียนตอ้ งเรียนรู้เพอื่ พฒั นาสติปัญญาและความรู้ คาํ ศพั ทใ์ นภาษาของนกั เรียนจะพฒั นาเพิ่มพนู ตามความรู้ ที่ไดจ้ ากการศึกษา จากการอ่านหนงั สือ หนังสือเรียนจึงเป็ นแหล่งพฒั นาคาํ ศพั ท์ที่สําคญั ของนกั เรียนใน ต่างประเทศการเรียนหนงั สือเด็กเลก็ ไม่วา่ จะเป็นหนงั สือเรียน หนงั สืออา่ นเล่น หรือหนงั สือนิทาน ผเู้ ขียนมกั เขียนโดยอา้ งอิง “ระดบั คาํ ศพั ท์ตามอายุของเด็ก” เพราะมีสมมติฐานอยวู่ ่าภาษา (รวมคาํ ศพั ทด์ ว้ ย) ของเด็ก แตกต่างจากภาษาของผู้ใหญ่ท้งั คาํ ศัพท์และไวยากรณ์หรือกฎเกณฑ์ทางภาษา ประเทศไทยน่าจะให้ ความสําคญั กบั เร่ืองน้ี เพราะภาษาท่ีใชเ้ ขียนหนงั สือเรียนแตกต่างจากภาษาของเด็ก (โดยเฉพาะเด็กเล็ก ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑, ๒ และ ๓) มาก ซ่ึงมีผลต่อการเรียนรู้และการอ่านของนกั เรียนโดยตรง ผูเ้ ขียนหนงั สือ เรียนที่ใชใ้ นการศึกษาน้ียงั ไม่ไดใ้ ห้ความสาํ คญั ในเร่ืองน้ี และไม่ได้ปรับการใช้ภาษาที่ใช้เขียนหนังสือให้ เหมาะสมกบั ระดับความสามารถทางภาษาของนักเรียน ดังตวั อย่าง เรื่องการใช้ “การ” ผใู้ ช้ภาษาไทยท่ีเป็ นผูใ้ หญ่ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงผูท้ ี่มีความรู้หรืออย่ใู นวงการการศึกษา ใช้กฎ “การ_” บ่อยกว่านกั เรียนช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ มาก ซ่ึงสะทอ้ นให้เห็นวิธีการคิดที่แตกต่างจากนกั เรียน หนงั สือเรียนวชิ าต่างๆ ท่ีใชค้ าํ ข้ึนตน้ ดว้ ย “ การ_” มากถึง ๖๔๔ คร้ัง เช่น การบวก ๑๓๗ คร้ัง การเรียนรู้๑๒๑ คร้ัง การศึกษา ๑๐๑ คร้ัง ยิ่งกวา่ น้นั ผเู้ ขียนหนงั สือเรียนสาํ หรับนกั เรียนยงั ใชก้ ฎ “การ_” ที่มีความยากและ ซบั ซ้อนมากกวา่ กฎ “การ_” ท่ีนกั เรียนรู้จกั “การวลี” ท่ีผใู้ หญ่ใชม้ ีความซบั ซ้อนและเป็ นนามธรรมมาก ซ่ึง เกินความรู้ความสามารถและความเขา้ ใจของเดก็ นกั เรียน เช่น การที่มีร่างกายขนาดใหญข่ ้ึน การเป็นเจา้ ของ การตอบสนองต่อส่ิงเร้า การแสดงรายละเอียด การแกป้ ัญหา การทาํ งานกลุ่ม การเคล่ือนที่ การไม่ถูกโดนสาป (ศิลปะ) การนาํ ความรู้ไปใช้ การแสดงความสามารถ การดาํ รงชีวติ การชมการแสดง การนาํ วสั ดุ (ไปใช)้ การผายมือ การเกิดลูกเกิดหลาน การออกอกั ขระ การสูญพนั ธุ์ การดาํ เนินการ การพฒั นาแหล่งน้าํ การเกบ็ ภาษี การเคลื่อนที่ไฟฟ้ า การเชื่อมโยง
๑๗ ๔. จานวนคาศัพท์ในรายการโทรทศั น์สาหรับเดก็ คาํ ศพั ทใ์ นรายการโทรทศั น์สาํ หรับเดก็ มีท้งั หมด ๔,๘๓๕ คาํ รายการโทรทศั น์สาํ หรับเด็ก เป็นแหล่งเดียวที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ มีความพยายามปรับภาษาใหง้ ่ายสาํ หรับเด็ก แมจ้ ะใชค้ าํ ท่ีเร่ิมตน้ ดว้ ย “การ_” เหมือนแหล่งอื่นๆ ซ่ึงเป็ นเร่ืองปกติและเป็ นธรรมชาติของการใชภ้ าษาไทยในปัจจุบนั แต่คาํ ท่ีใชเ้ ป็ นคาํ ที่รู้จกั กนั แพร่หลายหรือเป็นคาํ ท่ีมีความถ่ีในการใชส้ ูงอยแู่ ลว้ เช่น การยมิ้ การรักษา การเรียนรู้ การแตง่ ตวั การตอบแทน การบวชนาค การตรวจ การทาํ การหมุน การทาํ อาหาร คาํ ศพั ท์ท่ีใช้ในรายการโทรทศั น์มีความหลากหลายมากเท่ากับคาํ ศัพท์ในหนังสือเรียน คาํ ศพั ทท์ ี่ใชใ้ นรายการมีท้งั ศพั ทว์ ิชาการเหมือนในหนงั สือเรียนและศพั ท์ที่ใชใ้ นวงการต่างๆ ทว่ั ไปในสังคม ปัจจุบนั กล่าวคือมีท้งั ศพั ท์วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ รายการโทรทศั น์จดั เป็ นแหล่งที่ เพมิ่ พนู คาํ ศพั ทใ์ หแ้ ก่นกั เรียนที่สาํ คญั แหล่งหน่ึง ๕. คาศัพท์ในข้อสอบไล่ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ย้อนหลงั ๓ ปี คาํ ศพั ทใ์ นขอ้ สอบไล่ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ยอ้ นหลงั ๓ ปี มีจาํ นวน ๑,๕๘๓ คาํ คาํ ศพั ทท์ ี่ ใชเ้ หมือนกบั หนงั สือเรียนเกือบท้งั หมด วธิ ีการเขียนคาํ ถามและคาํ สั่งก็เหมือนกบั หนงั สือเรียน ในแง่ท่ีใชค้ าํ “การ+…” ซ่ึงเป็นคาํ ที่มีความเป็นนามธรรมสูงมาก จึงมีโอกาสที่นกั เรียนอาจไม่เขา้ ใจขอ้ สอบ เพราะภาษาที่ ใชเ้ ขียนคาํ สัง่ มีความซบั ซอ้ น ตวั อยา่ งการใชภ้ าษาในขอ้ สอบ ดงั น้ี ๑. “การกระทาํ ในขอ้ ใดตอ้ งใชค้ วามร้อน” - การเป่ าแกว้ - การตดั ลวดเป็นรูปตา่ งๆ - การป้ันดินเหนียวเป็นรูปสตั ว์ - การเลื่อยไมเ้ ป็นสองท่อน ๒. ...น้าํ จาํ เป็นตอ่ การเจริญเติบโตของตน้ ถว่ั กล่องกระดาษเป็นปัจจยั ในการเจริญเติบโตของตน้ ถว่ั ๓. การออกแรงกระทาํ ตอ่ กล่องของชายท้งั สอง
นอกจากน้ี บางคร้ังขอ้ สอบยงั ใชค้ าํ ยากท่ีปรากฏในหนงั สือเรียน เช่นคาํ วา่ นิเวศ ๑๘ ๖. คาภาษาองั กฤษในบญั ชีคาพนื้ ฐานของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ - ๓ จุดมุ่งหมายประการหน่ึงของโครงการน้ี คือ ศึกษาเปรียบเทียบคาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑, ๒ และ ๓ ในภาคต่างๆของประเทศ เพ่ือศึกษาถึงความแตกต่างในการใชค้ าํ ศพั ทพ์ ้ืนฐาน ของทอ้ งถ่ิน ( เหนือ อิสาน กลาง ใต)้ ดว้ ย หรืออีกนยั หน่ึง คือ มีความคาดหมายวา่ นกั เรียนแต่ละทอ้ งถ่ินจะ ใช้คาํ ศพั ท์ท้องถิ่นซ่ึงเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะของตนเอง แต่ผลการศึกษาช้ีให้เห็นว่านักเรียนไม่ใช้คาํ ศพั ท์ เฉพาะถิ่นมากพออยา่ งมีนยั สาํ คญั ตรงกนั ขา้ มนกั เรียนใชค้ าํ ภาษาองั กฤษเหมือนๆ กนั และใชด้ ว้ ยความถี่สูงท่ี มีนยั สาํ คญั ซ่ึงทาํ ใหเ้ ราสามารถจดั คาํ ภาษาองั กฤษเป็นคาํ พ้ืนฐานของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ ,๒ และ ๓ ได้ ในอีกแง่มุมหน่ึงอาจกล่าวว่าคาํ ภาษาองั กฤษเหล่าน้ีไดก้ ลายเป็ นคาํ ศพั ท์ภาษาไทยแลว้ สําหรับนกั เรียน เหล่าน้ี เพราะนักเรียนใช้คําเหล่าน้ีบ่อยมาก ในบัญชีคาํ ศัพท์พ้ืนฐานของนักเรียนมีคาํ ศัพท์ท่ีมาจาก ภาษาองั กฤษมากกวา่ คาํ ภาษาถิ่น ดงั น้ี การ์ตูน คอมพิวเตอร์ เมาส์ คลิก อินเทอร์เน็ต ฟุตบอล เกมส์ ทีวี เน็ต (คาํ ตดั ส้นั จากอินเทอร์เน็ต) แอป๊ เปิ้ ล ไอศกรีม คียบ์ อร์ด ไดโนเสาร์ แบต (แบตเตอร์ร่ี) แครอท โนต้ บุค๊ เคก้ ซีพียู
ช็อกโกแล็ต ๑๙ น่าสังเกตว่าคาํ ภาษาองั กฤษท่ีมีความถ่ีสูงสุดในการใชอ้ นั ดบั ๑ (ในบรรดาคาํ ภาษาองั กฤษ) เป็ นคาํ ท่ีอยู่ในวงการสื่อ/บนั เทิง “การ์ตูน” ส่วนอนั ดับรองลงมาเป็ นคาํ ในวงการคอมพิวเตอร์ การใช้ คอมพวิ เตอร์และการเล่นเกมส์ คาํ ศพั ท์ภาษาองั กฤษเหล่าน้ีมีความถ่ีในการใช้สูงมากกว่าคาํ ประจาํ ถ่ินของแต่ละภาค ซ่ึง สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงอิทธิพลของภาษาองั กฤษท่ีมีตอ่ สงั คมไทยอยา่ งมาก เป็นท่ีน่าสงั เกตวา่ มีการใชค้ าํ ภาษาถ่ินนอ้ ยมากในบญั ชีคาํ ท่ีมีความถ่ีสูง ๑,๐๐๐ คาํ แรก มีคาํ ท่ี บ่งบอกความเป็นภาษาถิ่นเหนือและอิสานเพยี ง ๒ คาํ คือคาํ วา่ “ฮกั ” (รัก) และคาํ วา่ “เฮา” (เรา) จนอาจกล่าววา่ ไม่มีความเป็ นภาษาถ่ินเลยก็ว่าได้ ที่เป็ นเช่นน้ีอาจเป็ นเพราะบริบทในการสัมภาษณ์อยู่ในโรงเรียน และ โดยทว่ั ไปโรงเรียนส่วนใหญใ่ ชภ้ าษาไทยกลางเป็นสื่อในการเรียนการสอน รวมท้งั ไม่สนบั สนุนใหน้ กั เรียนใช้ ภาษาถ่ิน ซ่ึงเป็นสาเหตุสาํ คญั อยา่ งยงิ่ ประการหน่ึงท่ีทาํ ใหน้ กั เรียนในภมู ิภาคตา่ งๆ ไมน่ ิยมใชภ้ าษาถ่ินของตนเอง
บทที่ ๔ บญั ชีคาพนื้ ฐานในภาษาพูดของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ๑. คะ่ ๒๖. บา้ น ๕๑. สาม ๒. ครับ ๒๗. มนั ๕๒. ดี ๓. ไม่ ๒๘. เพราะ ๕๓. การ์ตูน ๔. มี ๒๙. ดู ๕๔. ปี ๕. ก็ ๓๐. พอ่ ๕๕. กนั ๖. แลว้ ๓๑. เรียน ๕๖. เพลง ๗. หนู ๓๒. ผม ๕๗. และ ๘. ได้ ๓๓. อยาก ๕๘. หน่ึง ๙. ท่ี ๓๔. เขา ๕๙. อะไร ๑๐. เล่น ๓๕. ทา ๖๐. น้ี ๑๑. เป็ น ๓๖. โรงเรียน ๖๑. คุณ ๑๒. ก็ (กอ้ ) ๓๗. สอง ๖๒. เกม ๑๓. เคย ๓๘. วนั ๖๓. ภาษา ๑๔. ชอบ ๓๙. รู้ ๖๔. ดว้ ย ๑๕. อยู่ ๔๐. หนงั สือ ๖๕. ใน ๑๖. ไป ๔๑. ของ ๖๖. เร่ือง ๑๗. ช่ือ ๔๒. อ่าน ๖๗. ใช้ ๑๘. มา ๔๓. วิชา ๖๘. รู้จกั ๑๙. จะ ๔๔. ครู ๖๙. ช้นั ๒๐. แม่ ๔๕. นอ้ ง ๗๐. ตอน ๒๑. ให้ ๔๖. แต่ ๗๑. คณิตศาสตร์ ๒๒. คน ๔๗. เอา ๗๒. อายุ ๒๓. วา่ ๔๘. กิน ๗๓. ฟัง ๒๔. พ่ี ๔๙. เลย ๗๔. บ่อย ๒๕. กบั ๕๐. คอ่ ย ๗๕. รายการ
๒๑ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ๗๖. ภาษาไทย ๑๐๑. เขา้ ๑๒๖. ร้อง ๗๗. ๑๐๒. คร้งั ๑๒๗. ศิลปะ ๗๘. เพ่ือน ๑๐๓. ไทย ๑๒๘. ถึง ๗๙. ถา้ ๑๐๔. ยาก ๑๒๙. หา ๘๐. ที ๑๐๕. อาทิตย์ ๑๓๐. นาย ๘๑. องั กฤษ ๑๐๖. ใช่ ๑๓๑. เอง ๘๒. คอมพวิ เตอร์ ๑๐๗. ข้ึน ๑๓๒. วาด ๘๓. จา ๑๐๘. พวก ๑๓๓. ถาม ๘๔. บาง ๑๐๙. แบบ ๑๓๔. แปด ๘๕. ไว้ ๑๑๐. สอน ๑๓๕. คลิก ๘๖. ทุก ๑๑๑. บอก ๑๓๖. เปิ ด ๘๗. หน่ึง (นึง) ๑๑๒. เรา ๑๓๗. ช่วย ๘๘. สนุก ๑๑๓. แค่ ๑๓๘. ขาย ๘๙. เดียว ๑๑๔. เด็ก ๑๓๙. สี่ ๙๐. มาก ๑๑๕. เจด็ ๑๔๐. ชา้ ง ๙๑. ยงั ๑๑๖. ขา่ ว ๑๔๑. รูป ๙๒. ตอ้ ง ๑๑๗. เสาร์ ๑๔๒. บางที ๙๓. เมาส์ ๑๑๘. หา้ ๑๔๓. สวสั ดี ๙๔. ยาย ๑๑๙. ออก ๑๔๔. ละ ๙๕. เดก็ หญิง ๑๒๐. เยอะ ๑๔๕. ส่ง ๙๖. เวลา ๑๒๑. รถ ๑๔๖. สงั คม ๙๗. ตวั ๑๒๒. งาน ๑๔๗. เหมือน ๙๘. ซ้ือ ๑๒๓. ทางาน ๑๔๘. โต ๙๙. หนงั ๑๒๔. ประถมศึกษา ๑๔๙. วทิ ยาศาสตร์ ๑๐๐. ตา ๑๒๕. ฉนั ๑๕๐. กด คือ
๒๒ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ๑๕๑. น้นั ๑๗๖. ลูก ๒๐๑. ภาษาองั กฤษ ๑๕๒. น้า ๑๗๗. ไก่ ๒๐๒. ๑๕๓. เดิน ๑๗๘. หอ้ ง ๒๐๓. หมอ ๑๕๔. หก ๑๗๙. ขอ ๒๐๔. หรือ ๑๕๕. เดก็ ชาย ๑๘๐. อีก ๒๐๕. เก่ียวกบั ๑๕๖. กลวั ๑๘๑. อร่อย ๒๐๖. เธอ ๑๕๗. กวา่ ๑๘๒. ทาน ๒๐๗. กลา้ ๑๕๘. สิบ ๑๘๓. ใคร ๒๐๘. หลาย ๑๕๙. ใส่ ๑๘๔. ป้ า ๒๐๙. เสร็จ ๑๖๐. ผกั ๑๘๕. พอ ๒๑๐. ไข่ ๑๖๑. ขา้ ว ๑๘๖. คิด ๒๑๑. เกิด ๑๖๒. ประจา ๑๘๗. หมด ๒๑๒. ใจ ๑๖๓. เขียน ๑๘๘. สุขศึกษา ๒๑๓. เพราะ ๑๖๔. เก่ง ๑๘๙. ใหญ่ ๒๑๔. พดู ๑๖๕. จบั ๑๙๐. บา้ ง ๒๑๕. อื่น ๑๖๖. อยา่ ง ๑๙๑. หนงั สือพิมพ์ ๒๑๖. ศึกษา ๑๖๗. สอบ ๑๙๒. กลบั ๒๑๗. ขอ้ มลู ๑๖๘. จาก ๑๙๓. งา ๒๑๘. ประวตั ิศาสตร์ ๑๖๙. วิ่ง ๑๙๔. ความรู้ ๒๑๙. เรา (เฮา) ๑๗๐. พมิ พ์ ๑๙๕. จงั หวดั ๒๒๐. ไหม ๑๗๑. นิทาน ๑๙๖. ไหน ๒๒๑. นอ้ ย ๑๗๒. เห็น ๑๙๗. นาง ๒๒๒. ทราบ ๑๗๓. ทบั ๑๙๘. หนา้ ๒๒๓. มือ ๑๗๔. ตรง ๑๙๙. อาหาร ๒๒๔. ช่อง ๑๗๕. เลข ๒๐๐. ขวบ ๒๒๕. รับ อาเภอ
๒๓ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ๒๒๖. สุด ๒๕๑. การงาน ๒๗๖. เล้ียง ๒๒๗. ป่ ู ๒๕๒. ๒๗๗. บ่อ ๒๒๘. อินเทอร์เน็ต (เน็ต) ๒๕๓. จริง ๒๗๘. ลุง ๒๒๙. ขา้ ง ๒๕๔. ละคร ๒๗๙. เตะ ๒๓๐. น่ี ๒๕๕. เยน็ ๒๘๐. ตารวจ ๒๓๑. ยา่ ๒๕๖. โทรทศั น์ ๒๘๑. ผชู้ าย ๒๓๒. วดั ๒๕๗. สวสั ดี (หวดั ดี) ๒๘๒. ตก ๒๓๓. นา้ ๒๕๘. เกบ็ ๒๘๓. ยา่ ง ๒๓๔. ทาไม ๒๕๙. ก่อน ๒๘๔. ตาม ๒๓๕. รัก ๒๖๐. เชา้ ๒๘๕. พา ๒๓๖. ไกล ๒๖๑. บอล ๒๘๖. รักษา ๒๓๗. ท่ีสุด ๒๖๒. วิทยุ ๒๘๗. จกั ๒๓๘. นอน ๒๖๓. โมง ๒๘๘. บาท ๒๓๙. พละ ๒๖๔. เงิน ๒๘๙. ฟตุ บอล ๒๔๐. จกั รยาน ๒๖๕. สัตว์ ๒๙๐. โลก ๒๔๑. ไล่ ๒๖๖. ขนม (หนม) ๒๙๑. ขนม ๒๔๒. ข่ี ๒๖๗. เล่ือน ๒๙๒. จบ ๒๔๓. ผหู้ ญิง ๒๖๘. เหมือนกนั ๒๙๓. เท่า ๒๔๔. ส่วน ๒๖๙. หมู ๒๙๔. ชา้ ๒๔๕. อนุบาล ๒๗๐. ทุกวนั ๒๙๕. ผลไม้ ๒๔๖. ตี ๒๗๑. ร้าน ๒๙๖. อยา่ งไร ๒๔๗. ปลา ๒๗๒. สวย ๒๙๗. ดนตรี ๒๔๘. อาชีพ ๒๗๓. เหรอ ๒๙๘. ทา ๒๔๙. ประมาณ ๒๗๔. น่ะ ๒๙๙. นาน ๒๕๐. วิทยาศาสตร์ (วทิ ย)์ ๒๗๕. รอ ๓๐๐. สงั คมศึกษา ตอ่
๒๔ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ๓๐๑. ท้งั ๓๒๖. หวาน ๓๐๒. บน ๓๒๗. ถูก ๓๕๑. บิน ๓๐๓. ทีวี ๓๒๘. ไม้ ๓๐๔. กระต่าย ๓๒๙. ยาว ๓๕๒. หรือ (เหรอ,หรอ) ๓๐๕. เท่ียว ๓๓๐. วาดรูป ๓๐๖. หลงั ๓๓๑. คน้ หา ๓๕๓. ชว่ั โมง ๓๐๗. การบา้ น ๓๓๒. ทอด ๓๐๘. ใกล้ ๓๓๓. เดี๋ยว ๓๕๔. น่า ๓๐๙. เอ่อ ๓๓๔. รัก (ฮกั ) ๓๑๐. เจอ ๓๓๕. เลก็ ๓๕๕. เลิก ๓๑๑. ตาบล ๓๓๖. ขนมปัง ๓๑๒. ทาง ๓๓๗. ต่างๆ ๓๕๖. ออ้ ๓๑๓. ผวู้ ิเศษ ๓๓๘. นงั่ ๓๑๔. หมู่ ๓๓๙. ภาพ ๓๕๗. เช่น ๓๑๕. ตาย ๓๔๐. แข่ง ๓๑๖. กาลงั ๓๔๑. พยาบาล ๓๕๘. อนั ๓๑๗. คอม ๓๔๒. ลง ๓๑๘. ติด ๓๔๓. เหลือ ๓๕๙. กีฬา ๓๑๙. เลือก ๓๔๔. ขอบคุณ ๓๒๐. ยาง ๓๔๕. นกั เรียน ๓๖๐. สุข ๓๒๑. เคร่ือง ๓๔๖. เมื่อ ๓๒๒. เรียก ๓๔๗. ขา้ วผดั ๓๖๑. ขา้ พเจา้ ๓๒๓. ง่าย ๓๔๘. เล่ม ๓๒๔. ฟตุ บอล (บอล) ๓๔๙. คา ๓๖๒. ผู้ ๓๒๕. ลา้ ง ๓๕๐. เท่าไหร่ ๓๖๓. จาน ๓๖๔. หอ้ งสมุด ๓๖๕. ชุมชน ๓๖๖. ทหาร ๓๖๗. พลศึกษา ๓๖๘. วา่ ง ๓๖๙. กระโดด ๓๗๐. จนั ทร์ ๓๗๑. ช่ือเล่น ๓๗๒. หมา ๓๗๓. หมายมาด ๓๗๔. อือ ๓๗๕. ก่ี
๒๕ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ๓๗๖. ปลูก ๔๐๑. เพื่อนบา้ น ๔๒๖. ไก่ยา่ ง ๓๗๗. โปรแกรม ๔๐๒. ๔๒๗. มธั ยม ๓๗๘. ส้ม ๔๐๓. สี่สิบ ๔๒๘. อยา่ ๓๗๙. แหละ ๔๐๔. สมดุ ๔๒๙. ขา้ วมนั ไก่ ๓๘๐. ประโยชน์ ๔๐๕. เฉพาะ ๔๓๐. ไขเ่ จียว ๓๘๑. เขต ๔๐๖. ทะเล ๔๓๑. ๓๘๒. น้าปลา ๔๐๗. แปะ ๔๓๒. ยงิ ๓๘๓. เป็ ด ๔๐๘. แมว ๔๓๓. งวง ๓๘๔. หยดุ ๔๐๙. นิด ๔๓๔. จดั ๓๘๕. ต้งั ๔๑๐. ยงั ไง ๔๓๕. ช่วง ๓๘๖. อา ๔๑๑. ระบาย ๔๓๖. ประเทศ ๓๘๗. กุง้ ๔๑๒. แกง ๔๓๗. กวาด ๓๘๘. ขา ๔๑๓. ดุ ๔๓๘. เสีย ๓๘๙. ชีวิต ๔๑๔. ตดั ๔๓๙. ชาติ ๓๙๐. ตน้ ๔๑๕. ตุก๊ ตา ๔๔๐. ปิ ด ๓๙๑. โทร ๔๑๖. ป่ัน ๔๔๑. เปล่า ๓๙๒. พระ ๔๑๗. ส่ิง ๔๔๒. มนุษยต์ า่ งดาว ๓๙๓. เจา้ ๔๑๘. ไอศกรีม ๔๔๓. มอง ๓๙๔. ตน้ ไม้ ๔๑๙. จอ ๔๔๔. ตลาด ๓๙๕. ตลก ๔๒๐. ชนะ ๔๔๕. กลาง ๓๙๖. อืม ๔๒๑. ซกั ๔๔๖. เก่ียว ๓๙๗. ทุ่ม ๔๒๒. ใบ ๔๔๗. คาถาม ๓๙๘. ผดั ๔๒๓. ตอนเชา้ ๔๔๘. ถู ๓๙๙. เดือน ๔๒๔. นอก ๔๔๙. ฝึ ก ๔๐๐. ไขด่ าว ๔๒๕. นามสกลุ ๔๕๐. ลิง ก๋วยเตี๋ยว เค้ียว
๒๖ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ๔๕๑. จึง ๔๗๖. การ ๕๐๑. รวม ๔๕๒. ชน ๔๗๗. ตวั เอง ๕๐๒. ร้องเพลง ๔๕๓. ทอง ๔๗๘. อาจ ๕๐๓. ลูกเสือ ๔๕๔. ผี ๔๗๙. แอปเปิ้ ล ๕๐๔. เสือ ๔๕๕. ฟัน ๔๘๐. โจร ๕๐๕. ซอย ๔๕๖. โดน ๔๘๑. เพื่อ ๕๐๖. ตม้ ยา ๔๕๗. แถว ๔๘๒. เล่า ๕๐๗. นม ๔๕๘. นิยาย ๔๘๓. เสียง ๕๐๘. ลืม ๔๕๙. ผา้ ๔๘๔. ครอบครัว ๕๐๙. ลูกศร ๔๖๐. ยมื ๔๘๕. เทอม ๕๑๐. กบั ขา้ ว ๔๖๑. ตา่ ง ๔๘๖. เมือง ๕๑๑. คุย ๔๖๒. ตื่น ๔๘๗. รอบ ๕๑๒. ดา ๔๖๓. เต่า ๔๘๘. สกั ๕๑๓. ป่ า ๔๖๔. แฟน ๔๘๙. หาง ๕๑๔. มะม่วง ๔๖๕. เรา ๔๙๐. ฮูลาฮูป ๕๑๕. ลอง ๔๖๖. หญิง ๔๙๑. คร่ึง ๕๑๖. สวน ๔๖๗. หน่อย ๔๙๒. คบั ๕๑๗. ตอ้ งการ ๔๖๘. หาย ๔๙๓. จน ๕๑๘. ฟ้ า ๔๖๙. ดารา ๔๙๔. ชาย ๕๑๙. ขาว ๔๗๐. ตอบ ๔๙๕. แดง ๕๒๐. แขง็ แรง ๔๗๑. นก ๔๙๖. แตงโม ๕๒๑. คนั ๔๗๒. เน้ือ ๔๙๗. มอเตอร์ไซค์ ๕๒๒. ดูแล ๔๗๓. รู้สึก ๔๙๘. รับประทาน ๕๒๓. ตา ๔๗๔. ศุกร์ ๔๙๙. ดิฉนั ๕๒๔. เตน้ ๔๗๕. ใหม่ ๕๐๐. แต่ง ๕๒๕. เท่ากนั
๒๗ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ๕๒๖. ไฟ ๕๕๑. ดิน ๕๗๖. เบา ๕๒๗. แรก ๕๕๒. ทนั ๕๗๗. มงั่ ๕๒๘. เหน่ือย ๕๕๓. เท่ียง ๕๗๘. วิ่งแขง่ ๕๒๙. แอบ ๕๕๔. เปลี่ยน ๕๗๙. วเิ ศษ ๕๓๐. ตม้ ๕๕๕. ฝาก ๕๘๐. กา ๕๓๑. น้าตาล ๕๕๖. ร้อย ๕๘๑. ใจดี ๕๓๒. บ่ ๕๕๗. องุ่น ๕๘๒. เตม็ ๕๓๓. เร็ว ๕๕๘. ของเล่น ๕๘๓. ใต้ ๕๓๔. จมูก ๕๕๙. เขา้ ใจ ๕๘๔. เพิ่ง ๕๓๕. ดวงจนั ทร์ ๕๖๐. เขียว ๕๘๕. มธั ยมศึกษา ๕๓๖. ท่อน ๕๖๑. คุณหมอ ๕๘๖. โรงพยาบาล ๕๓๗. ขวา ๕๖๒. บวก ๕๘๗. หนา้ จอ ๕๓๘. ซ่อน ๕๖๓. ผิด ๕๘๘. องั คาร ๕๓๙. ซ่อนหา ๕๖๔. พบั ๕๘๙. จีน ๕๔๐. ซ่อม ๕๖๕. ร้อน ๕๙๐. นอกจาก ๕๔๑. ญาติ ๕๖๖. กลว้ ย ๕๙๑. ป่ วย ๕๔๒. ต้งั แต่ ๕๖๗. กลางวนั ๕๙๒. ยมิ้ ๕๔๓. นน่ั ๕๖๘. การงานอาชีพ ๕๙๓. ไล่จบั ๕๔๔. นางสว ๕๖๙. ท้งั หมด ๕๙๔. เสีย (ซะ) ๕๔๕. สารคดี ๕๗๐. นึก ๕๙๕. อาบน้า ๕๔๖. คง ๕๗๑. ผรู้ ้าย ๕๙๖. กลางคืน ๕๔๗. ความสุข ๕๗๒. พิเศษ ๕๙๗. ขน ๕๔๘. เจบ็ ๕๗๓. ส้มตา ๕๙๘. ดึก ๕๔๙. ชิมิ ๕๗๔. สร้าง ๕๙๙. ต้งั ใจ ๕๕๐. ซา้ ย ๕๗๕. ท่าน ๖๐๐. แท้
๒๘ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ที่ คำ ๖๐๑. แบงค์ ๖๒๖. สัตวป์ ระหลาด ๖๕๑. ถนน ๖๐๒. ประวตั ิ ๖๒๗. ๖๕๒. บ่าย ๖๐๓. แผ่น ๖๒๘. สิบเอด็ ๖๕๓. แปรง ๖๐๔. ล่ะ ๖๒๙. พริก ๖๕๔. ผล ๖๐๕. หนี ๖๓๐. ร่างกาย ๖๕๕. สิงโต ๖๐๖. ชม ๖๓๑. สามสิบ ๖๕๖. เส้น ๖๐๗. ปื น ๖๓๒. หา้ ม ๖๕๗. หมบู่ า้ น ๖๐๘. สามารถ ๖๓๓. เข้ียว ๖๕๘. เออ ๖๐๙. ๖๓๔. คียบ์ อร์ด ๖๕๙. ขายของ ๖๑๐. สู้ ๖๓๕. จดุ ๖๖๐. ซีดี ๖๑๑. หรอก ๖๓๖. เท่าไร ๖๖๑. บวั ๖๑๒. หดั ๖๓๗. ธรรมะ ๖๖๒. ปู ๖๑๓. ๖๓๘. บุญ ๖๖๓. ลา ๖๑๔. หู ๖๓๙. ลอย ๖๖๔. เสียบ ๖๑๕. ช่วยเหลือ ๖๔๐. กระดาษ ๖๖๕. หวั ใจ ๖๑๖. โดราเอมอน ๖๔๑. ขบั ๖๖๖. แก่ ๖๑๗. ๖๔๒. คน้ ควา้ ๖๖๗. คนไข้ ๖๑๘. พกั ๖๔๓. เจา้ หญิง ๖๖๘. ผกั บุง้ ๖๑๙. เรือ ๖๔๔. ดวง ๖๖๙. ฝน ๖๒๐. แรง ๖๔๕. ไดโนเสาร์ ๖๗๐. แพ ๖๒๑. หลบั ๖๔๖. โทรศพั ท์ ๖๗๑. มากมาย ๖๒๒. ออกกาลงั กาย ๖๔๗. นา ๖๗๒. ยก ๖๒๓. แกว้ ๖๔๘. ผา่ น ๖๗๓. ระเบิด ๖๒๔. งู ๖๔๙. โยน ๖๗๔. ไว ๖๒๕. ธรรมดา ๖๕๐. รุ่น ๖๗๕. เสาเอก นางฟ้ า ขอ้ แนะแนว สง่ั
๒๙ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ๖๗๖. คา่ ๗๐๑. ภเู ขา ๗๒๖. ไข้ ๖๗๗. ช้ี ๗๐๒. มหาวทิ ยาลยั ๗๒๗. คา้ ขาย ๖๗๘. ดอกไม้ ๗๐๓. ยา ๗๒๘. แครอท ๖๗๙. ตอ่ สู้ ๗๐๔. ร้าย ๗๒๙. ชิงชา้ ๖๘๐. แต่งตวั ๗๐๕. ศูนย์ ๗๓๐. ดีใจ ๖๘๑. ประเภท ๗๐๖. สาระ ๗๓๑. ตู้ ๖๘๒. ปาก ๗๐๗. เสริม ๗๓๒. ปล่อย ๖๘๓. ลม ๗๐๘. อาบ ๗๓๓. รถตู้ ๖๘๔. ลูกทุ่ง ๗๐๙. กลุ่ม ๗๓๔. รถยนต์ ๖๘๕. สบาย ๗๑๐. เกิน ๗๓๕. รีบ ๖๘๖. สัปดาห์ ๗๑๑. ชวน ๗๓๖. ลนั ๖๘๗. สาย ๗๑๒. ชิง ๗๓๗. เลขท่ี ๖๘๘. เสก ๗๑๓. เชือก ๗๓๘. ส่ีสิบ ๖๘๙. หนอ ๗๑๔. โตะ๊ ๗๓๙. แสดง ๖๙๐. เหงา ๗๑๕. ท่า ๗๔๐. หลาน ๖๙๑. ขนมจีน ๗๑๖. นิ้ว ๗๔๑. ห่าง ๖๙๒. ขา้ ๗๑๗. ปิ้ ง ๗๔๒. ฉลาด ๖๙๓. ขา้ วเหนียว ๗๑๘. พนั ๗๔๓. ช็อกโกแลต ๖๙๔. จด ๗๑๙. รับจา้ ง ๗๔๔. ชุด ๖๙๕. ซ่อนแอบ ๗๒๐. สมอง ๗๔๕. ดา้ น ๖๙๖. ดาว ๗๒๑. สวดมนต์ ๗๔๖. เดก็ ๆ ๖๙๗. เดิม ๗๒๒. สาว ๗๔๗. นา ๖๙๘. นกั ๗๒๓. หวดั ๗๔๘. เผา ๖๙๙. น่ารัก ๗๒๔. กระโดดยาง ๗๔๙. เพยี ง ๗๐๐. เปร้ียว ๗๒๕. แกะ ๗๕๐. เพื่อน
๓๐ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ๗๕๑. รถรับส่ง ๗๗๖. เลือด ๘๐๑. ไก่ทอด ๗๕๒. วา่ ยน้า ๗๗๗. สตางค์ (ตงั ค)์ ๘๐๒. คอย ๗๕๓. ความ ๗๗๘. สนาม ๘๐๓. ๗๕๔. ๗๗๙. ฮะ ๘๐๔. เคก้ ๗๕๕. เงาะ ๗๘๐. กะ ๘๐๕. งาม ๗๕๖. ท่อง ๗๘๑. เก่า ๘๐๖. เจริญ ๗๕๗. ทิ้ง ๗๘๒. คืน ๘๐๗. ดินสอ ๗๕๘. น้ามนั ๗๘๓. จ๋า ๘๐๘. ทดลอง ๗๕๙. เผด็ ๗๘๔. ซ่ึง ๘๐๙. ทาย ๗๖๐. ภาค ๗๘๕. ทราย ๘๑๐. นาที ๗๖๑. แยง่ ๗๘๖. ธนาคาร ๘๑๑. มะละกอ ๗๖๒. กระทะ ๗๘๗. บ่อยๆ ๘๑๒. มืด ๗๖๓. กดั ๗๘๘. แบดมินตนั (แบด) ๘๑๓. ยี่ ๗๖๔. ใกล้ ๗๘๙. ประดิษฐ์ ๘๑๔. ระบายสี ๗๖๕. คน้ ๗๙๐. ผกั กาด ๘๑๕. เล้ียว ๗๖๖. จิต ๗๙๑. ผดั กะเพรา ๘๑๖. วาง ๗๖๗. ด่า ๗๙๒. พ่ีสาว ๘๑๗. หา้ ง ๗๖๘. ตลอด ๗๙๓. แพ้ ๘๑๘. อนาคต ๗๖๙. แตง ๗๙๔. เมด็ ๘๑๙. เกือบ ๗๗๐. นาฏศิลป์ ๗๙๕. ศาสนา ๘๒๐. จระเข้ ๗๗๑. นิดหน่อย ๗๙๖. หมาป่ า ๘๒๑. จ่าย ๗๗๒. เน้ีย ๗๙๗. หวั ๘๒๒. ช่อง 7 ๗๗๓. บท ๗๙๘. กระเป๋ า ๘๒๓. ทุเรียน ๗๗๔. บีบ ๗๙๙. เก่งๆ ๘๒๔. เน็ต ๗๗๕. ป่ ุม ๘๐๐. เกรด ๘๒๕. แน่นอน แป้ นพิมพ์ แบด
๓๑ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ที่ คำ ๘๒๖. ฝัน ๘๕๑. แกงส้ม ๘๗๖. สมคั ร ๘๒๗. พฤหสั บดี ๘๕๒. คล่อง ๘๗๗. สระ ๘๒๘. ยาม ๘๕๓. ๘๗๘. สิบหา้ ๘๒๙. วาดภาพ ๘๕๔. ฆา่ ๘๗๙. ไหว ๘๓๐. วาน ๘๕๕. โดย ๘๘๐. อมยมิ้ ๘๓๑. สาหรับ ๘๕๖. ทา้ ๘๘๑. กบ ๘๓๒. การศึกษา ๘๕๗. เทวดา ๘๘๒. กล่อง ๘๓๓. คอ ๘๕๘. นบั ๘๘๓. เคม็ ๘๓๔. ชมพู่ ๘๕๙. โนต้ บุก๊ ๘๘๔. จา้ ง ๘๓๕. ซ่า ๘๖๐. ปกติ ๘๘๕. ช่าง ๘๓๖. ดงั ๘๖๑. ฝร่งั ๘๘๖. ชายแดน ๘๓๗. โนต้ บุค๊ ๘๖๒. รถจกั รยาน ๘๘๗. เดง้ ด๋ึง ๘๓๘. ผอู้ านวยการ ๘๖๓. สบั ปะรด ๘๘๘. โด (โนต้ ดนรี) ๘๓๙. มงั คุด ๘๖๔. สิบส่ี ๘๘๙. ตูด ๘๔๐. ยา้ ย ๘๖๕. แสง ๘๙๐. ทอ้ ง ๘๔๑. รส ๘๖๖. หยบิ ๘๙๑. แทน ๘๔๒. รายงาน ๘๖๗. หอย ๘๙๒. ปี ก ๘๔๓. ลบ ๘๖๘. แกงจืด ๘๙๓. แหง้ ๘๔๔. วอลเลย์ ๘๖๙. ความคิด ๘๙๔. ลูกชิ้น ๘๔๕. สนิท ๘๗๐. เครื่องบิน ๘๙๕. ววั ๘๔๖. สงั คมศาสตร์ ๘๗๑. ทาให้ ๘๙๖. เศรษฐี ๘๔๗. เส้ือผา้ ๘๗๒. ปลาหมึก ๘๙๗. สตรอเบอร่ี ๘๔๘. เหรียญ ๘๗๓. พงั ๘๙๘. สมมติ ๘๔๙. เหลือง ๘๗๔. พ้ืนที่ ๘๙๙. สุนขั ๘๕๐. ไอ้ ๘๗๕. ร้อน (ฮอ้ น) ๙๐๐. หนา้ ที่ รัฐ
๓๒ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ท่ี คำ ลำดบั ที่ คำ ๙๐๑. หมนุ ๙๒๖. ลูกโป่ ง ๙๕๑. เสมอ ๙๐๒. ไหว้ ๙๒๗. วิตามิน ๙๕๒. หนอง ๙๐๓. อว้ น ๙๒๘. สีขาว ๙๕๓. ออ้ ย ๙๐๔. อี ๙๒๙. หลอก ๙๕๔. อุปกรณ์ ๙๐๕. แกลง้ ๙๓๐. โอกาส ๙๕๕. กะเพรา ๙๐๖. ขยะ ๙๓๑. กรอบ ๙๕๖. ขโมย ๙๐๗. ขา้ วตม้ ๙๓๒. การเรียน ๙๕๗. เขิน ๙๐๘. ครบ ๙๓๓. ขยนั ๙๕๘. คนป่ วย ๙๐๙. คะแนน ๙๓๔. ๙๕๙. ครัว ๙๑๐. คู่ ๙๓๕. คา้ ๙๖๐. ควร ๙๑๑. จม ๙๓๖. ซอส ๙๖๑. แจก ๙๑๒. เจียว ๙๓๗. โดด ๙๖๒. ด่ืม ๙๑๓. นางเอก ๙๓๘. ตะกร้อ ๙๖๓. ตกั ๙๑๔. บงั คบั ๙๓๙. ตึก ๙๖๔. ธรรมชาติ ๙๑๕. ประตู ๙๔๐. เทา้ ๙๖๕. แบ่ง ๙๑๖. ป้ ัน ๙๔๑. นิสยั ๙๖๖. มว่ ง ๙๑๗. ฝ่ัง ๙๔๒. นูน้ ๙๖๗. ยอม ๙๑๘. เพนท์ ๙๔๓. เพ่ิม ๙๖๘. เรียนรู้ ๙๑๙. ยาวๆ ๙๔๔. แยก ๙๖๙. วงกลม ๙๒๐. ยาเสพติด ๙๔๕. รถไฟ ๙๗๐. วฒั นธรรม ๙๒๑. รอง ๙๔๖. ลอ้ ๙๗๑. เวบ็ ไซต์ ๙๒๒. รูปร่าง ๙๔๗. เลย์ ๙๗๒. ส่วนมาก ๙๒๓. เรื่อย ๙๔๘. วงรี ๙๗๓. หนกั ๙๒๔. โรงงาน ๙๔๙. สานกั งาน ๙๗๔. หอม ๙๒๕. ลุก ๙๕๐. สุก ๙๗๕. หนั สุดทา้ ย
๓๓ ลำดบั ที่ คำ ลำดบั ที่ คำ ๙๗๖. กะเพรา ๑,๐๐๑. ลม้ ๙๗๗. กลม ๑,๐๐๒. วอลเลยบ์ อล ๙๗๘. เกา้ อ้ี ๑,๐๐๓. สมยั ๙๗๙. ขนาด ๑,๐๐๔. สยาม ๙๘๐. ขา้ ม ๑,๐๐๕. สวรรค์ ๙๘๑. เคล่ือน ๑,๐๐๖. สูง ๙๘๒. จอ้ ง ๑,๐๐๗. เสียใจ ๙๘๓. ๙๘๔. จงั ๙๘๕. จิก ๙๘๖. เจอ ๙๘๗. เจา้ ชาย ๙๘๘. แตน ๙๘๙. โทษ ๙๙๐. นุ่น ๙๙๑. ปัญหา ๙๙๒. แปล ๙๙๓. ผกั คะนา้ ๙๙๔. ผกั ชี ๙๙๕. ฝ่ิ น ๙๙๖. พิซซ่า ๙๙๗. พชื ๙๙๘. แมบ่ า้ น ๙๙๙. รด ๑,๐๐๐. รุ่ง โรค
บทที่ ๕ การใช้คาพนื้ ฐานในภาษาพดู ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ลำดบั ที่ คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๑. ค่ะ ค่ะ คะ่ ๒. ครับ ครับ ครับ ๓. ไม่ ไม่ ไม่ ๔. ก็ ก็ ก็ ๕. มี มี มี ๖. หนู หนู หนู ๗. แลว้ แลว้ แลว้ ๘. เล่น เล่น เล่น ๙. ได้ ได้ ได้ ๑๐. ที่ ท่ี ที่ ๑๑. เป็ น เป็ น เป็ น ๑๒. ชอบ ชอบ ชอบ ๑๓. เคย เคย เคย ๑๔. อยู่ อยู่ อยู่ ๑๕. แม่ แม่ แม่ ๑๖. ชื่อ ช่ือ ชื่อ ๑๗. ไป ไป ไป ๑๘. มา มา มา ๑๙. ให้ ให้ ให้ ๒๐. วา่ วา่ วา่ ๒๑. พี่ พ่ี พี่ ๒๒. จะ จะ จะ ๒๓. คน คน คน ๒๔. กบั กบั กบั ๒๕. ดู ดู ดู
๓๕ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๒๖. บา้ น บา้ น บา้ น ๒๗. มนั มนั มนั ๒๘. พอ่ พอ่ พอ่ ๒๙. เรียน เรียน เรียน ๓๐. เพราะ เพราะ เพราะ ๓๑. รู้ รู้ รู้ ๓๒. อยาก อยาก อยาก ๓๓. โรงเรียน ๓๔. เขา โรงเรียน โรงเรียน ๓๕. หน่ึง เขา เขา ๓๖. ทา หน่ึง หน่ึง ๓๗. แต่ ทา ทา ๓๘. นอ้ ง แต่ แต่ ๓๙. หนงั สือ นอ้ ง นอ้ ง ๔๐. วนั ๔๑. กิน หนงั สือ หนงั สือ ๔๒. อ่าน วนั วนั ๔๓. ของ กิน กิน ๔๔. ผม อ่าน อ่าน ๔๕. ครู ของ ของ ๔๖. วิชา ผม ผม ๔๗. เลย ครู ครู ๔๘. สอง วิชา วิชา ๔๙. เอา เลย เลย ๕๐. การ์ตูน สอง สอง เอา เอา การ์ตนู การ์ตนู
๓๖ ลำดบั ที่ คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๕๑. เพลง เพลง เพลง ๕๒. ภาษา ภาษา ภาษา ๕๓. ดว้ ย ดว้ ย ดว้ ย ๕๔. กนั กนั กนั ๕๕. ดี ดี ดี ๕๖. เกม เกม เกม ๕๗. ตอน ตอน ตอน ๕๘. คุณ คุณ คุณ ๕๙. น้ี น้ี น้ี ๖๐. รู้จกั รู้จกั รู้จกั ๖๑. ค่อย ค่อย ค่อย ๖๒. เรื่อง เรื่อง เรื่อง ๖๓. ช้นั ช้นั ช้นั ๖๔. ภาษาไทย ภาษาไทย ภาษาไทย ๖๕. อะไร อะไร อะไร ๖๖. ใช้ ใช้ ใช้ ๖๗. เพ่ือน เพื่อน เพ่ือน ๖๘. องั กฤษ องั กฤษ องั กฤษ ๖๙. ใน ใน ใน ๗๐. เจด็ เจด็ เจด็ ๗๑. คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ ๗๒. และ และ และ ๗๓. ถา้ ถา้ ถา้ ๗๔. รายการ รายการ รายการ ๗๕. ปี ปี ปี
๓๗ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๗๖. ตวั ตวั ตวั ๗๗. ฟัง ฟัง ฟัง ๗๘. จา จา จา ๗๙. คะ คะ คะ ๘๐. บ่อย บ่อย บ่อย ๘๑. สวสั ดี สวสั ดี สวสั ดี ๘๒. หนงั หนงั หนงั ๘๓. ๘๔. หน่ึง (นึง) หน่ึง (นึง) หน่ึง (นึง) ๘๕. ยงั ยงั ยงั ๘๖. ไว้ ไว้ ไว้ ๘๗. เดียว เดียว เดียว ๘๘. สนุก สนุก สนุก ๘๙. สาม สาม สาม ๙๐. ซ้ือ ซ้ือ ซ้ือ ๙๑. บาง บาง บาง ๙๒. ๙๓. คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ ๙๔. ตา ตา ตา ๙๕. เรา เรา เรา ๙๖. ที ที ที ๙๗. ยาย ยาย ยาย ๙๘. ๙๙. เด็กหญิง เด็กหญิง เดก็ หญิง ๑๐๐. อายุ อายุ อายุ ไทย ไทย ไทย แค่ แค่ แค่ ทุก ทุก ทุก
๓๘ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๑๐๑. แบบ แบบ แบบ ๑๐๒. ขา่ ว ขา่ ว ขา่ ว ๑๐๓. บอก บอก บอก ๑๐๔. รูป รูป รูป ๑๐๕. สอน สอน สอน ๑๐๖. ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ๑๐๗. อาทิตย์ อาทิตย์ อาทิตย์ ๑๐๘. ขาย ขาย ขาย ๑๐๙. ตอ้ ง ตอ้ ง ตอ้ ง ๑๑๐. คือ คือ คือ ๑๑๑. วาด วาด วาด ๑๑๒. ประถมศึกษา ๑๑๓. เด็ก ประถมศึกษา ประถมศึกษา ๑๑๔. ข้ึน เด็ก เดก็ ๑๑๕. ทางาน ข้ึน ข้ึน ๑๑๖. มาก ทางาน ทางาน ๑๑๗. ร้อง มาก มาก ๑๑๘. เอง ร้อง ร้อง ๑๑๙. ยาก เอง เอง ๑๒๐. คุณครู ยาก ยาก ๑๒๑. เวลา คุณครู คุณครู ๑๒๒. รถ เวลา เวลา ๑๒๓. วิ่ง รถ รถ ๑๒๔. ถาม วิ่ง วิ่ง ๑๒๕. เขา้ ถาม ถาม เขา้ เขา้
๓๙ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๑๒๖. ฉนั ฉนั ฉนั ๑๒๗. โต โต โต ๑๒๘. เลข เลข เลข ๑๒๙. กด กด กด ๑๓๐. คร้ ัง คร้ ัง คร้ งั ๑๓๑. เสาร์ เสาร์ เสาร์ ๑๓๒. บางที บางที บางที ๑๓๓. สี สี สี ๑๓๔. เยอะ เยอะ เยอะ ๑๓๕. หก หก หก ๑๓๖. เมาส์ เมาส์ เมาส์ ๑๓๗. ๑๓๘. เหมือน เหมือน เหมือน ๑๓๙. ศิลปะ ศิลปะ ศิลปะ ๑๔๐. ออก ออก ออก ๑๔๑. บางคร้ งั บางคร้ งั บางคร้ งั ๑๔๒. งาน งาน งาน ๑๔๓. ส่ง ส่ง ส่ง ๑๔๔. ขา้ ว ขา้ ว ขา้ ว ๑๔๕. ๑๔๖. ส่ี สี่ ส่ี ๑๔๗. เปิ ด เปิ ด เปิ ด ๑๔๘. สงั คม สังคม สงั คม ๑๔๙. เขียน เขียน เขียน ๑๕๐. หอ้ ง หอ้ ง หอ้ ง หา้ หา้ หา้ เก่ง เก่ง เก่ง
๔๐ ลำดบั ที่ คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๑๕๑. คุณแม่ คุณแม่ คุณแม่ ๑๕๒. ใคร ใคร ใคร ๑๕๓. ตรง ตรง ตรง ๑๕๔. ประถม ประถม ประถม ๑๕๕. กวา่ กวา่ กวา่ ๑๕๖. ทบั ทบั ทบั ๑๕๗. เห็น เห็น เห็น ๑๕๘. ขวบ ขวบ ขวบ ๑๕๙. จบั จบั จบั ๑๖๐. ๑๖๑. ถึง ถึง ถึง ๑๖๒. เดิน เดิน เดิน ๑๖๓. คลิก คลิก คลิก ๑๖๔. ขนม ขนม ขนม ๑๖๕. นิทาน นิทาน นิทาน ๑๖๖. ประถม (ป.) ประถม (ป.) ประถม (ป.) ๑๖๗. ใช่ ใช่ ใช่ ๑๖๘. ทาน ทาน ทาน ๑๖๙. ประจา ประจา ประจา ๑๗๐. พมิ พ์ พิมพ์ พมิ พ์ ๑๗๑. หนงั สือพิมพ์ หนงั สือพิมพ์ หนงั สือพมิ พ์ ๑๗๒. เด็กชาย เด็กชาย เด็กชาย ๑๗๓. เพราะวา่ เพราะวา่ เพราะวา่ ๑๗๔. อร่อย อร่อย อร่อย ๑๗๕. ช่วย ช่วย ช่วย นาย นาย นาย
๔๑ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๑๗๖. ละ ละ ละ ๑๗๗. หา หา หา ๑๗๘. ผกั ผกั ผกั ๑๗๙. ๑๘๐. ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ ๑๘๑. คิด คิด คิด ๑๘๒. งา งา งา ๑๘๓. หรือ หรือ หรือ ๑๘๔. น้า น้า น้า ๑๘๕. หมด หมด หมด ๑๘๖. ไก่ ไก่ ไก่ ๑๘๗. เคา้ เคา้ เคา้ ๑๘๘. พอ พอ พอ ๑๘๙. ยา่ ยา่ ยา่ ๑๙๐. ๑๙๑. วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ๑๙๒. สอบ สอบ สอบ ๑๙๓. คุณพอ่ คุณพอ่ คุณพอ่ ๑๙๔. กลวั กลวั กลวั ๑๙๕. หมอ หมอ หมอ ๑๙๖. อนุบาล อนุบาล อนุบาล ๑๙๗. ลูก ลูก ลูก ๑๙๘. ใส่ ใส่ ใส่ ๑๙๙. กลบั กลบั กลบั ๒๐๐. สิบ สิบ สิบ เสร็จ เสร็จ เสร็จ ไหน ไหน ไหน
ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ ๔๒ คำ/ ป. ๓ ๒๐๑. อยา่ ง อยา่ ง ๒๐๒. ทุกวนั คำ/ ป. ๒ ทุกวนั ๒๐๓. ผชู้ าย อยา่ ง ผูช้ าย ๒๐๔. อีก ทุกวนั อีก ๒๐๕. กลา้ ผชู้ าย กลา้ ๒๐๖. จาก อีก จาก ๒๐๗. ชา้ กลา้ ชา้ ๒๐๘. รัก จาก รัก ๒๐๙. ป้ า ชา้ ป้ า ๒๑๐. หนา้ รัก หนา้ ๒๑๑. เธอ ป้ า เธอ ๒๑๒. ผหู้ ญิง หนา้ ผูห้ ญิง ๒๑๓. พละ เธอ พละ ๒๑๔. ศึกษา ผหู้ ญิง ศึกษา ๒๑๕. เก่ียวกบั พละ เก่ียวกบั ๒๑๖. จกั รยาน ศึกษา จกั รยาน ๒๑๗. ไล่ เก่ียวกบั ไล่ ๒๑๘. ช่อง จกั รยาน ช่อง ๒๑๙. ใหญ่ ไล่ ใหญ่ ๒๒๐. ใจ ช่อง ใจ ๒๒๑. มือ ใหญ่ มือ ๒๒๒. อื่น ใจ อ่ืน ๒๒๓. ตี มือ ตี ๒๒๔. พวก อื่น พวก ๒๒๕. สวย ตี สวย พวก สวย
๔๓ ลำดบั ท่ี คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๒๒๖. หลาย หลาย หลาย ๒๒๗. พา พา พา ๒๒๘. รับ รับ รับ ๒๒๙. จงั หวดั จงั หวดั จงั หวดั ๒๓๐. เล้ียง เล้ียง เล้ียง ๒๓๑. เกิด เกิด เกิด ๒๓๒. นา้ นา้ นา้ ๒๓๓. บอล บอล บอล ๒๓๔. ฟตุ บอล ฟตุ บอล ฟตุ บอล ๒๓๕. ยาว ยาว ยาว ๒๓๖. สุขศึกษา สุขศึกษา สุขศึกษา ๒๓๗. อาหาร อาหาร อาหาร ๒๓๘. กระตา่ ย กระตา่ ย กระต่าย ๒๓๙. ขา้ ง ขา้ ง ขา้ ง ๒๔๐. คณิต คณิต คณิต ๒๔๑. นาง นาง นาง ๒๔๒. ไข่ ไข่ ไข่ ๒๔๓. ๒๔๔. ป่ ู ป่ ู ป่ ู ๒๔๕. ไกล ไกล ไกล ๒๔๖. ขอ ขอ ขอ ๒๔๗. ขี่ ขี่ ข่ี ๒๔๘. ตารวจ ตารวจ ตารวจ ๒๔๙. ปลา ปลา ปลา ๒๕๐. พดู พดู พดู คอม คอม คอม
๔๔ ลำดบั ที่ คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๒๕๑. ๒๕๒. นะ นะ นะ ๒๕๓. ๒๕๔. เตะ เตะ เตะ ๒๕๕. ๒๕๖. ไม้ ไม้ ไม้ ๒๕๗. ๒๕๘. จริง จริง จริง ๒๕๙. ๒๖๐. เชา้ เชา้ เชา้ ๒๖๑. ๒๖๒. น้าปลา น้าปลา น้าปลา ๒๖๓. ๒๖๔. สุด สุด สุด ๒๖๕. ๒๖๖. เหรอ เหรอ เหรอ ๒๖๗. ๒๖๘. หมู หมู หมู ๒๖๙. ๒๗๐. อาชีพ อาชีพ อาชีพ ๒๗๑. ๒๗๒. เยน็ เยน็ เยน็ ๒๗๓. ๒๗๔. สัตว์ สัตว์ สัตว์ ๒๗๕. ไหม ไหม ไหม ทราบ ทราบ ทราบ เท่าไหร่ เท่าไหร่ เท่าไหร่ นอ้ ย นอ้ ย นอ้ ย น้นั น้นั น้นั น่ี นี่ น่ี แบงค์ แบงค์ แบงค์ ใบ ใบ ใบ ร้าน ร้าน ร้าน เล่ือน เล่ือน เลื่อน อาเภอ อาเภอ อาเภอ อินเทอร์เนต็ (เนต็ ) อินเทอร์เนต็ (เนต็ ) อินเทอร์เน็ต (เนต็ ) ท้งั ท้งั ท้งั
๔๕ ลำดบั ที่ คำ/ ป. ๑ คำ/ ป. ๒ คำ/ ป. ๓ ๒๗๖. โทรทศั น์ โทรทศั น์ โทรทศั น์ ๒๗๗. เรียก เรียก เรียก ๒๗๘. เลก็ เลก็ เลก็ ๒๗๙. ความรู้ ความรู้ ความรู้ ๒๘๐. แปด แปด แปด ๒๘๑. ผู้ ผู้ ผู้ ๒๘๒. ขนมปัง ขนมปัง ขนมปัง ๒๘๓. ตอ่ ต่อ ตอ่ ๒๘๔. ทาไม ทาไม ทาไม ๒๘๕. บ่อ บ่อ บ่อ ๒๘๖. บาท บาท บาท ๒๘๗. วาดรูป วาดรูป วาดรูป ๒๘๘. วิทยาศาสตร์ (วิทย)์ วทิ ยาศาสตร์ (วทิ ยว)์ ทิ ยาศาสตร์ (วทิ ย)์ ๒๘๙. ก่อน ก่อน ก่อน ๒๙๐. เงิน เงิน เงิน ๒๙๑. ทีวี ทีวี ทีวี ๒๙๒. นอน นอน นอน ๒๙๓. ผลไม้ ผลไม้ ผลไม้ ๒๙๔. โลก โลก โลก ๒๙๕. วิทยุ วิทยุ วทิ ยุ ๒๙๖. ส่วน ส่วน ส่วน ๒๙๗. ตก ตก ตก ๒๙๘. นาน นาน นาน ๒๙๙. การงาน การงาน การงาน ๓๐๐. เก็บ เกบ็ เกบ็
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107