คำนำ แบบข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน (PA) จัดทำข้ึนเพื่อนำเสนอข้อตกลงในกำรพัฒนำงำนสำหรับ ข้ำรำชกำรครูและ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู ชำนำญกำร ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2565 ระหว่ำงวันท่ี 1 ตุลำคม พ.ศ. 2564 ถึง วันท่ี 30 กันยำยน พ.ศ. 2565 ท่ีได้เสนอต่อผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ เพ่ือแสดงเจตจำนงว่ำภำยในรอบกำรประเมินจะ พฒั นำผลลพั ธ์กำรเรียนรู้ของผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนมีควำมรู้ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชำ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และ สมรรถนะท่ีสำคัญตำมหลักสูตรให้สูงขึ้น โดยสะท้อนให้เห็นถึงระดับกำรปฏิบัติที่คำดหวังของตำแหน่งและวิทยฐำนะท่ี ดำรงอยู่ และสอดคล้องกับเป้ำหมำยและบริบทสถำนศึกษำ นโยบำยของส่วนรำชกำรและกระทรวงศึกษำธิกำร โดยผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำได้ เหน็ ชอบให้เปน็ ขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน ประกอบด้วย 2 สว่ น ได้แก่ ส่วนท่ี 1 ขอ้ ตกลงในกำรพัฒนำงำนตำมมำตรฐำนตำแหนง่ สว่ นที่ 2 ข้อตกลงในกำรพฒั นำงำนทีเ่ สนอเป็นประเดน็ ท้ำทำยในกำรพฒั นำผลลพั ธก์ ำรเรียนรู้ของผู้เรยี น ซึง่ ขอ้ มลู ทไ่ี ด้นำเสนอน้ี ข้ำพเจ้ำจะนำไปพัฒนำผลลัพธ์กำรเรียนรู้ของผู้เรียนโรงเรียนป่ำแดดวิทยำคม สำนักงำน เขตพืน้ ทกี่ ำรศึกษำมธั ยมศึกษำเชียงรำยให้เกดิ ประสทิ ธภิ ำพต่อไป นำงสำวมลฤดี อยู่พันธ์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐำนะ ชำนำญกำร
PA 1/ส แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สาหรบั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู วิทยฐำนะครชู ำนำญกำร (ทุกสงั กัด) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระหว่างวนั ท่ี 1 เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2564 ถงึ วนั ท่ี 30 เดอื นกันยายน พ.ศ. 2565 ผูจ้ ดั ทาข้อตกลง ชอ่ื นำงสำวมลฤดี นำมสกลุ อยพู่ ันธ์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำร สถำนศึกษำ โรงเรยี นปำ่ แดดวิทยำคม สังกดั สำนักงำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำ เชียงรำย รับเงนิ เดือนในอนั ดบั ค.ศ.2 อัตรำเงินเดือน 37,140 บำท ประเภทหอ้ งเรียนท่จี ัดการเรียนรู้ (สำมำรถระบไุ ด้มำกกว่ำ 1 ประเภทหอ้ งเรียน ตำมสภำพกำรจัด กำรเรียนร้จู ริง) ห้องเรยี นวชิ ำสำมัญหรอื วิชำพนื้ ฐำน ห้องเรยี นปฐมวยั ห้องเรียนกำรศึกษำพิเศษ ห้องเรียนสำยวชิ ำชพี หอ้ งเรยี นกำรศึกษำนอกระบบ / ตำมอัธยำศัย ข้ำพเจ้ำขอแสดงเจตจำนงในกำรจดั ทำข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน ตำแหน่งครู วทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำร ซงึ่ เป็นตำแหนง่ และวทิ ยฐำนะท่ดี ำรงอยู่ในปจั จบุ ันกับผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ไวด้ ังต่อไปน้ี ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหนง่ 1. ภำระงำน จะมภี ำระงำนเป็นไปตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ช่ัวโมงสอนตำมตำรำงสอน รวมจำนวน.....25.50........ช่วั โมง/สปั ดำห์ ดังน้ี ตารางสอนโรงเรยี นปา่ แดดวทิ ยาคม ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ครูมลฤดี อยพู่ นั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 11.10- 12.00 – 13.40- 14.30- วนั /เวลา 08.10- 08.40- 09.30- 10.20- 12.00 12.50 12.50- 14.30 15.20 15.20- 10.20 11.10 13.40 2/2 16.10 08.40 09.30 4/3 2/3 ศ22102 4/2 4/4 1/2 ศ31102 ศ22102 5/2 1/1 ศ31102 จนั ทร์ 3/1 ศ31102 ศ21102 ศ32102 ศ21102 ศ23102 3/3 6/1 3/4 ศ23102 3/2 1/3 อังคาร ิกจกรรมโฮม ูรม 6/2 ศ33102 ศ33102 ศ23102 ศ21102 ศ33102 5/3 2/1 1/3 1/2 พธุ 2/2 ศ32102 ศ22102 ศ21102 ศ21102 ศ22102 1/1 4/1 3/2 พฤหัสบดี 3/1 ศ21102 ศ31102 ศ23102 ศ23102 2/3 5/1 3/3 ศกุ ร์ 2/1 ศ22102 ศ32102 ศ23102 ศ22102
ที่ รหัสวชิ ำ วชิ ำ หน่วยกิต ช้ัน คำบ 1.0 ม.1/1 – ม.1/3 6 1 ศ21102 ศิลปะ2 1.0 ม.2/1 – ม.2/3 6 1.0 ม.3/1 - ม.3/3 6 2 ศ22102 ศิลปะ2 0.5 ม.4/1 - ม.4/4 4 0.5 ม.5/1 - ม.5/3 3 3 ศ23102 ศลิ ปะ2 0.5 ม.6/1 - ม.6/3 3 0.5 1 4 ศ31102 ศิลปะพนื้ ฐำน2 0.5 ม.2/2 1 0.5 ม.2/2 1 5 ศ32102 ศลิ ปะพื้นฐำน2 ม.2/2 31 6 ศ33102 ศิลปะพ้ืนฐำน2 7 ก23901 แนะแนว 8 ก23902 ลกู เสือ-เนตรนำรี 9 ก23904 ชมุ นมุ รวม 1.2 งำนส่งเสรมิ และสนับสนุนกำรจดั กำรเรยี นรู้ จำนวน...10...ชว่ั โมง/สัปดำห์ 1) ปฏบิ ตั งิ ำนหน้ำทเี่ ป็นกรรมกำรในงำนนเิ ทศกำรศกึ ษำและวิจยั ในชนั้ เรยี น 2) ปฏบิ ตั งิ ำนหนำ้ ท่ีเป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร ในงำนกิจกรรมพฒั นำผู้เรยี น ดแู ลงำนคำ่ ย ดนตรนี ำฏศลิ ป์ 3) ปฏิบตั งิ ำนหน้ำที่เปน็ กรรมกำรในงำนพัฒนำหลกั สูตร 4) ปฏบิ ัตงิ ำนหนำ้ ทเี่ ป็นกรรมกำรในงำนพัฒนำกำรเรียนกำรสอน หัวหน้ำกลุ่มสำระศลิ ปะ 5) ปฏิบัติงำนหนำ้ ทเ่ี ป็นกรรมกำรงำนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูท่ีปรึกษำ ม.2/2 6) ปฏิบัตงิ ำนหน้ำทเ่ี ป็นกรรมกำรงำนพัฒนำและส่งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรมนกั เรียน ม.2/2 7) ปฏบิ ตั ิงำนหนำ้ ท่เี ป็นประธำนกรรมกำรงำนสง่ เสริมกจิ กรรมนักเรียน 8) ปฏิบตั งิ ำนหนำ้ ทเ่ี ป็นกรรมกำรงำนดแู ลรักษำควำมปลอดภัยในโรงเรียน 9) ปฏิบัติงำนหนำ้ ทเี่ ป็นกรรมกำรงำนเวรประจำวนั วันพฤหสั บดี 10) ปฏบิ ตั งิ ำนหน้ำท่เี ป็นรองประธำนกรรมกำร กล่มุ บริหำรงำนท่ัวไป 11) ปฏิบตั งิ ำนหนำ้ ท่เี ปน็ ประธำนกรรมกำร งำนสำนักงำนและสำรสนเทศกลุ่มบริหำรงำนทัว่ ไป 12) ปฏบิ ตั งิ ำนหนำ้ ทเ่ี ป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร งำนชุมชนสัมพนั ธ์ 1.3 งำนพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ จำนวน....2....ชว่ั โมง/สปั ดำห์ - ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีครปู ระจำชนั้ ม.2/2 1.4 งำนตอบสนองนโยบำยและจุดเน้น จำนวน....-....ชั่วโมง/สัปดำห์
2. งานทจี่ ะปฏิบัตติ ามมาตรฐานตาแหนง่ ครู งาน (Tasks) ผลลัพธ์ ตัวชีว้ ดั (Indicators) ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ ที่จะดำเนินกำรพัฒนำตำมข้อตกลง (Outcomes) ท่ีจะเกิดขน้ึ กับผูเ้ รียน ตามมาตรฐานตาแหน่ง ทแี่ สดงให้เห็นถึงกำร ใน 1 รอบกำรประเมิน ของงำนตำมข้อตกลง เปลยี่ นแปลงไปในทำง ทด่ี ขี น้ึ หรือมีกำรพฒั นำมำก แก้ไขปัญหา (โปรดระบุ) ทีค่ ำดหวังให้เกิดขึ้น ข้นึ หรอื ผลสมั ฤทธิ์ กับผ้เู รยี น สงู ขึ้น (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) ผู้เรยี นร้อยละ 75 ผำ่ นกำร ประเมนิ ตวั ชีว้ ดั ของกลมุ่ สำระ 1. ดา้ นการจัดการเรียนรู้ 1.1 สรา้ งและหรือพัฒนาหลักสตู ร ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ ศลิ ปะ มกี ำรจัดทำรำยวชิ ำและหนว่ ย ทำงกำรเรียนรู้ท่ีครู กำรเรียนร้ใู ห้สอดคลอ้ งกบั ดำเนินกำรจัดกำรเรียน มำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตัวชว้ี ดั กำรสอน ผำ่ นตัวช้วี ดั หรือผลกำรเรียนรตู้ ำมหลกั สูตร ตำมมำตรฐำนหลักสตู ร เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนำสมรรถนะ และตัวชีว้ ดั และกำรเรียนรู้ เต็มตำมศกั ยภำพ โดยมีกำรพัฒนำรำยวิชำและหนว่ ย กำรเรียนรู้ ใหส้ อดคล้องกับบริบท ของสถำนศกึ ษำ ผเู้ รียน และ ทอ้ งถิ่น และสำมำรถแกไ้ ขปัญหำ ในกำรจัดกำรเรียนรู้ได้ 1.2 ออกแบบกำรจดั กำรเรียนรู้ ผู้เรียนเรียนรู้ไดอ้ ยำ่ งมี ผ้เู รยี นรอ้ ยละ 80 มีควำมพึง เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ เพ่ือให้ผเู้ รียน ควำมสขุ และมีผลสมั ฤทธ์ิ พอใจในกำรจดั กิจกรรมกำร มคี วำมรู้ ทกั ษะคณุ ลักษณะประจำ ทำงกำรเรียนทส่ี งู ขึน้ เรยี นรขู้ องครู วชิ ำ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญ ตำม หลกั สูตร โดยมกี ำรออกแบบกำร จดั กำรเรยี นรู้ที่สำมำรถแก้ไขปญั หำ ในกำรจัดกำรเรยี นรู้ ทำให้ผ้เู รียนมี กระบวนกำรคิดและคน้ พบองค์ ควำมรู้ด้วยตนเอง และสรำ้ งแรง บนั ดำลใจ
งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตวั ช้วี ัด (Indicators) ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ ทีจ่ ะดำเนินกำรพัฒนำตำมข้อตกลง (Outcomes) ทจ่ี ะเกิดขนึ้ กับผเู้ รียน ตามมาตรฐานตาแหนง่ ใน 1 รอบกำรประเมิน ทแ่ี สดงให้เห็นถึงกำร (โปรดระบุ) ของงำนตำมข้อตกลง เปล่ยี นแปลงไปในทำง แกไ้ ขปัญหา ท่คี ำดหวังให้เกิดขนึ้ ทีด่ ีขึ้นหรือมกี ำรพัฒนำมำก ขึ้นหรอื ผลสัมฤทธ์ิ กับผู้เรียน สูงขึ้น (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) 1.3 จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผเู้ รยี นมคี วำมสนใจและ ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 มีควำม มกี ำรอำนวยควำมสะดวกใน ตง้ั ใจในกำรเรียน สนใจและพงึ พอใจในกจิ กรรม กำรเรยี นรู้ และส่งเสรมิ ผู้เรียนได้ สำมำรถสรำ้ งองคค์ วำมรู้ กำรเรยี นรู้ และมีกำรสรำ้ ง พัฒนำเต็มตำมศักยภำพ เรียนรู้ ดว้ ยตนเอง องค์ควำมรูด้ ว้ ยตนเอง และทำงำนร่วมกันโดยมีกำรจัด กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ทส่ี ำมำรถแกไ้ ข ปัญหำในกำรจดั กำรเรียนรู้ ทำให้ ผู้เรียนมกี ระบวนกำรคิดและค้นพบ องค์ควำมรู้ดว้ ยตนเอง และสร้ำง แรงบนั ดำลใจ 1.4 สรา้ งและพฒั นาสอ่ื นวัตกรรม ผูเ้ รียนมีส่อื กำรเรียนรู้ท่ี ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 เทคโนโลยีและแหลง่ เรยี นรู้ หลำกหลำยในกำรเรยี นรู้ ผเู้ รียนมที ักษะกำรคิดและ มกี ำรสร้ำงและหรือพัฒนำส่อื สำมำรถบรรลุผลกำร สำมำรถสรำ้ งนวตั กรรมได้ นวตั กรรม เทคโนโลยีและแหลง่ เรียนรูไ้ ด้เรว็ และมี เรียนรสู้ อดคล้องกบั กจิ กรรมกำร คณุ ภำพ เรยี นรู้ สำมำรถแก้ไขปญั หำในกำร เรยี นร้ขู องผเู้ รียน และทำใหผ้ ู้เรียน มีทกั ษะกำรคดิ และสำมำรถสรำ้ ง นวตั กรรมได้
ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวช้วี ดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ (Outcomes) ท่ีจะเกิดขึ้นกบั ผู้เรียน ที่จะดำเนนิ กำรพัฒนำตำมข้อตกลง ที่แสดงให้เห็นถึงกำร แกไ้ ขปัญหา ใน 1 รอบกำรประเมนิ ของงำนตำมข้อตกลง เปลย่ี นแปลงไปในทำง (โปรดระบุ) ท่คี ำดหวังให้เกิดขึน้ ทีด่ ขี น้ึ หรอื มีกำรพัฒนำมำก ขนึ้ หรือผลสัมฤทธ์ิ กับผู้เรยี น สูงขน้ึ (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) 1. ผู้เรยี นรอ้ ยละ 80 ได้รบั 1.5 วัดและประเมินผลการจดั การ ผู้เรยี นไดร้ บั กำรวัดและ กำรวดั และประเมนิ ผลกำร เรียนรู้ ประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เรยี นรูอ้ ยำ่ งหลำกหลำยมสี ่วน มีกำรวัดและประเมินผลกำร อยำ่ งหลำกหลำย เรยี นรูด้ ้วยวิธีกำรทห่ี ลำกหลำย รว่ มในกำรสร้ำงเกณฑ์กำร เหมำะสม และสอดคล้องกบั มำตรฐำนกำรเรยี นรใู้ ห้ผเู้ รยี น ประเมนิ งำน พฒั นำกำรเรยี นรู้อย่ำงต่อเน่ือง ประเมนิ ผลกำรเรียนรตู้ ำมสภำพ 2. ครมู เี ครื่องมอื และวิธีกำร จรงิ และนำผลกำรวัดและ วดั ประเมนิ ผลรอ้ ยละ 80 ใน ประเมนิ ผลกำรเรียนรมู้ ำใช้แก้ไข กำรจดั กำรเรียนรู้ตลอดปี ปญั หำกำรจัดกำรเรยี นรู้ 1.6 ศกึ ษา วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ผเู้ รียนไดร้ บั กำร 1. ผเู้ รยี นร้อยละ 80 ได้รบั กำรพฒั นำ แก้ไขปญั หำ จำก เพอ่ื แกไ้ ขปญั หา พฒั นำกำรเรียนรู้ดว้ ย งำนวิจยั ท่ีแสดงให้เหน็ ถึงผล กำรแก้ไขและพัฒนำกำรท่ี มกี ำรศึกษำ วิเครำะห์ และ กระบวนกำรวิจัยในชน้ั เปลย่ี นแปลงไปของผ้เู รียน 2. ครมู ีผลงำนวิจัยในชน้ั เรียน สังเครำะห์ เพ่ือแก้ไขปัญหำหรอื เรยี น ภำคเรียนละ 1 เร่อื ง พัฒนำกำรเรยี นรู้ทีส่ ่งผลต่อ คณุ ภำพผเู้ รียนและนำผลกำรศึกษำ วิเครำะห์ และสงั เครำะห์มำใช้ใน กำรแก้ไขปญั หำ หรอื พฒั นำกำร จดั กำรเรียนรู้
ลกั ษณะงานท่ีปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ช้ีวัด (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ ที่จะดำเนนิ กำรพัฒนำตำมข้อตกลง ของงำนตำมข้อตกลง ทีจ่ ะเกิดขึ้นกบั ผเู้ รยี น ทีค่ ำดหวังใหเ้ กิดข้นึ ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถึงกำร ใน 1 รอบกำรประเมนิ เปลยี่ นแปลงไปในทำง (โปรดระบุ) กบั ผูเ้ รียน ท่ีดีข้นึ หรือมกี ำรพัฒนำมำก (โปรดระบุ) ขึน้ หรอื ผลสัมฤทธิ์ สงู ขนึ้ (โปรดระบุ) 1.7 จดั บรรยากาศทส่ี ่งเสรมิ และ ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นร้ใู นสภำพ ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 ได้เรยี นรู้ใน พฒั นาผเู้ รยี น บรรยำกำศกำรเรียนรทู้ ่ี บรรยำกำศทีเ่ อื้อต่อกำรเรยี นรู้ มีกำรจัดบรรยำกำศท่ีเหมำะสม เอือ้ ต่อกำรฝกึ ทักษะทำง สอดคลอ้ งกบั ควำมแตกต่ำงผู้เรียน ศิลปะ อย่ำงครอบคลมุ เป็นรำยบคุ คล สำมำรถแก้ไขปัญหำ ท้ัง 3 สำระ ได้แก่ สำระ กำรเรียนรู้ สร้ำงแรงบันดำลใจ ทศั นศลิ ป์ สำระดนตรี ส่งเสริมและพฒั นำผูเ้ รยี นให้เกดิ และสำระนำฏศิลป์ กระบวนกำรคดิ ทกั ษะชีวิต ทักษะ กำรทำงำนทกั ษะกำรเรียนร้แู ละ นวตั กรรม ทักษะด้ำนสำรสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 1.8 อบรมและพฒั นาคุณลกั ษณะ ผู้เรียนเปน็ ผมู้ คี ณุ ธรรม ผ้เู รยี นรอ้ ยละ 90 เปน็ ผมู้ ี คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ทด่ี ขี องผู้เรียน จรยิ ธรรมและ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ มีกำรอบรมบ่มนิสยั ให้ผ้เู รยี นมี คณุ ลักษณะอันพงึ คณุ ธรรม จริยธรรม คุณลักษณะ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ และคำ่ นยิ มควำม เป็นไทยทดี่ ีงำมโดยคำนึงถึงควำม แตกต่ำงของผูเ้ รียนเป็นรำยบุคคล และสำมำรถแก้ไขปัญหำผูเ้ รยี นได้
ลักษณะงานที่ปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ชี้วดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหน่ง ทจี่ ะดำเนนิ กำรพฒั นำตำมข้อตกลง ของงำนตำมข้อตกลง ทจี่ ะเกิดข้ึนกับผูเ้ รยี น ทีค่ ำดหวงั ให้เกดิ ข้ึน ทีแ่ สดงให้เหน็ ถึงกำร 2.ดา้ นการส่งเสรมิ และ ใน 1 รอบกำรประเมิน เปล่ียนแปลงไปในทำง สนบั สนุนการจัดการเรียนรู้ (โปรดระบุ) กบั ผู้เรียน ทด่ี ีขึน้ หรอื มกี ำรพัฒนำมำก (โปรดระบุ) ขน้ึ หรือผลสมั ฤทธิ์ 2.1 จัดทำขอ้ มูลสำรสนเทศ สูงข้ึน (โปรดระบุ) มกี ำรจดั ทำขอ้ มูลสำรสนเทศ ครูมขี ้อมูลสำรสนเทศ เพื่อสง่ เสริมสนบั สนนุ ครูมีข้อมูลรอ้ ยละ 80 ของ ของผูเ้ รยี นและรำยวิชำโดยมีขอ้ มูล ผู้เรยี นเพ่ือให้มี ผ้เู รยี นและรำยวชิ ำทสี่ อน เปน็ ปัจจบุ นั เพ่ือใช้ในกำรส่งเสริม ประสิทธิภำพในกำร สนับสนุนกำรเรยี นรู้แก้ไขปญั หำ เรยี นรู้ และพัฒนำคุณภำพผ้เู รียน 2.2 ดำเนนิ งำนตำมระบบดูแล ผู้เรยี นได้รบั กำรดแู ล ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 90 ได้รับกำร ชว่ ยเหลอื นกั เรียน ช่วยเหลอื แนะนำ ใน ตดิ ตำมช่วยเหลอื ให้ ประเดน็ ปญั หำตำ่ ง ๆ คำแนะนำเพ่ือแกป้ ัญหำทงั้ มกี ำรใช้ข้อมูลสำรสนเทศ ท้งั ทำงดำ้ นกำรเรียน ทำงกำรเรียน ครอบครัวและ เก่ียวกับผู้เรียนรำยบุคคลและ ครอบครวั และกำร กำรดำรงชวี ิต ประสำนควำมรว่ มมือกับผ้มู สี ว่ น ดำรงชีวิต เกีย่ วขอ้ ง เพอ่ื พฒั นำและแก้ไข ปญั หำผู้เรียน 2.3 ปฏิบัติงำนวชิ ำกำร และ ผเู้ รียนไดร้ ับกำร ผู้เรียนรอ้ ยละ 90 ได้รบั กำร พฒั นำทักษะกำรเรยี นรู้ งำนอื่นๆ ของสถำนศกึ ษำ สนบั สนนุ งำนวิชำกำรท่ี ผลสัมฤทธ์ิและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ร่วมปฏบิ ตั งิ ำนทำงวชิ ำกำร สง่ ผลต่อผลสมั ฤทธ์ิ และงำนอ่นื ๆ ของสถำนศึกษำเพื่อ ทำงกำรเรยี นและ ยกระดับคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ คณุ ลักษณะอันพงึ ของสถำนศกึ ษำ ประสงคแ์ ละทักษะ 2.4 ประสำนควำมร่วมมือกบั ผเู้ รยี นได้รบั กำรอำนวย ผ้ปู กครองร้อยละ 80 ให้ควำม ผปู้ กครอง ภำคีเครือขำ่ ยและหรือ ควำมสะดวกและกำร ร่วมมอื ในกำรพัฒนำผเู้ รียน สถำนประกอบกำร เพื่อร่วมกัน สนบั สนนุ กำรเรียนรูจ้ ำก แกไ้ ขปัญหำและพฒั นำผู้เรยี น โรงเรียนและผู้ปกครอง
ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ ท่ีจะดำเนินกำรพฒั นำตำมข้อตกลง ของงำนตำมข้อตกลง ที่จะเกิดขนึ้ กับผ้เู รยี น ที่คำดหวังให้เกดิ ขึน้ ทีแ่ สดงใหเ้ ห็นถึงกำร 3.ดา้ นการพฒั นาตนเอง ใน 1 รอบกำรประเมิน เปล่ียนแปลงไปในทำง และวิชาชพี (โปรดระบุ) กับผ้เู รียน ท่ีดขี ึน้ หรอื มีกำรพัฒนำมำก (โปรดระบุ) ขึ้นหรอื ผลสัมฤทธิ์ สงู ขึ้น (โปรดระบุ) 3.1 มกี ำรพฒั นำตนเองอย่ำงเป็น ผู้เรียนไดร้ ับกำรพัฒนำ ครูไดร้ ับกำรพฒั นำตลอด ปีงบประมำณ ทง้ั จำกภำยใน ระบบและต่อเน่ือง เพ่ือให้มีควำมรู้ ดว้ ยวธิ ีกำรใหม่ ๆ อย่ำง และภำยนอก รวมท้ังกำร แสวงหำควำมร้ดู ้วยตนเอง ควำมสำมำรถ ทักษะ โดยเฉพำะ ตอ่ เน่ือง จำกกำรทค่ี รู จำนวน 10 หลกั สูตร นำผลที่ ไดจ้ ำกกำรพฒั นำตนเองมำ อย่ำงยงิ่ กำรใช้ภำษำไทยและ ไดร้ ับกำรพัฒนำตนเอง ประยกุ ต์ใช้ในกำรพฒั นำกำร จัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำร และ และแสวงหำกำรพัฒนำ ส่งเสริมให้นกั เรยี นมี กระบวนกำรเรยี นรู้ท่ี กำรใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพื่อ ตนเอง เหมำะสม กำรศกึ ษำ สมรรถนะวิชำชีพครูและ ครไู ดแ้ ลกเปลย่ี นเรียนร้ทู ำง วชิ ำชีพตลอดปงี บประมำณ ควำมรอบรู้ในเน้ือหำวชิ ำ 40 ช่วั โมง และวธิ กี ำรสอน และนำผลกำร พฒั นำตนเองและพฒั นำวชิ ำชพี มำ ใช้ในกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ีมีผลต่อ คณุ ภำพผเู้ รียน 3.2 มีส่วนรว่ มในกำรแลกเปล่ียน ผูเ้ รยี นไดร้ บั กำรพฒั นำ เรียนรูท้ ำงวชิ ำชีพเพ่ือแก้ไขปัญหำ จำกองค์ควำมรู้และ และพัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้ วธิ กี ำรสอนของครจู ำก กำรแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ทำงวชิ ำชีพ 3.3 นำควำมรู้ ควำมสำมำรถ นักเรยี นมีคุณภำพและ ครใู ชว้ ิธกี ำรสอน เทคนิคกำร ทักษะท่ีไดจ้ ำกกำรพัฒนำตนเอง วิธีกำรปฏบิ ัติท่ดี ขี ้นึ และ สอน ในกำรจัดกำรเรยี นรู้ และวิชำชพี มำใช้ในกำรพฒั นำกำร มกี ระบวนกำรเรยี นร้ทู ่ี ให้แก่ผ้เู รียน ไมน่ ้อยกว่ำ 5 วิธี จดั กำรเรยี นรู้ กำรพัฒนำคุณภำพ พัฒนำขน้ึ เกดิ จำกกำร ตอ่ หนึง่ ภำคเรียน ผเู้ รียน และกำรพัฒนำนวัตกรรม พฒั นำอย่ำงต่อเน่ืองของ กำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ีมีผลตอ่ คุณภำพ ครู ผู้เรยี น
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ประเด็นที่ท้ำทำยในกำรพัฒนำผลลัพธ์กำรเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรง ตำแหน่งครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำร ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับกำรปฏิบัติท่ีคำดหวังของวิทยฐำนะชำนำญกำร คอื การแก้ไขปญั หา กำรจัดกำรเรยี นร้แู ละกำรพฒั นำคุณภำพกำรเรียนรขู้ องผู้เรียน ให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงไปในทำงท่ีดี ข้ึนหรือมีกำรพัฒนำมำกข้ึน (ท้ังน้ี ประเด็นท้ำทำยอำจจะแสดงให้เห็นถึงระดับกำรปฏิบัติท่ีคำดหวังในวิทยฐำนะท่ีสูงกว่ำ ได)้ ประเด็นท้าทาย เรื่อง กำรศึกษำเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนในวิชำ ศิลปะพื้นฐำน2 (ศ32102) สำระดนตรี ในระดับช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 5 จำนวน 3 ห้อง ระหว่ำงกำรใช้กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน กระบวนกำรฝึกปฏิบัตทิ ำงดนตร(ี ขบั ร้อง) และกำรเรยี นในเชิงทฤษฎี 1. สภาพปัญหาการจัดการเรยี นรแู้ ละและคุณภาพการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น จำกกำรเรียนกำรสอนในวิชำ ศิลปะพน้ื ฐำน2 (ศ32102) สำระดนตรี ในระดับช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 5 ในภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2564 ท่ีผ่ำนมำ พบว่ำในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนนักเรียนขำดควำมกระตือรือร้นทำงกำร เรียน ซึ่งน่ำจะมีสำเหตุมำจำกกำรเรียนออนไลน์ท่ีสำมำรถทดลองปฏิบัติได้ยำก ต้องจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ผ่ำน ระบบคลำสรูม ครูสำธิตหรือบรรยำยผ่ำนวีดีโอ ซ่ึงเม่ือนักเรียนทำกำรศึกษำแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้ำใจเน้ือหำเองให้บรรลุตำม วัตถุประสงค์ในหลักสูตรได้ อีกท้ังเมื่อนักเรียนเรียนเองท่ีบ้ำนไม่ได้รับกำรควบคุมดูแลจำกผู้ปกครอง นักเรียนก็มักจะ ปล่อยปละละเลยในกำรทำกำรศึกษำเรียนรู้ รวมถึงกำรส่งงำนของนักเรียนไม่ค่อยให้สำคัญ คัดลอกมำส่งบ้ำง ไม่ศึกษำ ขอ้ มลู กอ่ นทำงำนสง่ บ้ำง ส่งผลใหค้ ณุ ภำพงำนและผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียนใน วิชำ ศิลปะพ้ืนฐำน1 (ศ32101) ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 5 ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 ซึ่งมีจำนวนนักเรียนทั้งส้ิน 64 คน มีนักเรียนได้รับผลกำร เรยี นในระดับ 2.5-4 จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 85.93 % ได้รับผลกำรเรียนระดับ 1 – 2 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อย ละ 12.5 % และและนักเรียนที่ได้รับผลกำรเรียนในระดับ 0 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.56 % อันมีเหตุผลสืบ เนือ่ งมำจำกนักเรียนไมค่ อ่ ยส่งงำน ส่งงำนล่ำช้ำและคุณภำพงำนในระดบั ปรบั ปรงุ ดงั นน้ั ในภำคเรยี นที่ 2 ปกี ำรศึกษำ 2564 น้ี ข้ำพเจ้ำครูผู้สอนเล็งเห็นว่ำ จำกสภำพปัญหำข้ำงต้น ข้ำพเจ้ำควรปรบั กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนโดยเนน้ ใหม้ ีทกั ษะกำรปฏิบัติมำกข้ึน จึงได้ดำเนินกำรสอบถำมนักเรียน ในระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่5ี ทง้ั 3 หอ้ งว่ำมนี กั เรยี นห้องใดทีม่ ีควำมตอ้ งกำรปรับกำรเรียนกำรสอนเป็นกำรเน้นกำรปฏิบัติ ทักษะทำงดนตรี(ขับร้อง) หรือห้องใดจะเลือกเรียนเป็นกำรเน้นทฤษฏีเหมือนเดิมบ้ำง ผลสรุปจำกกำรออกเสียงโหวดของ นักเรียนในหอ้ งทั้ง 3 ห้อง ผลปรำกฏวำ่ มนี ักเรยี น ม.5/1 เลอื กเนน้ ปฏิบัติกำรทกั ษะทำงดนตรี(ขับรอ้ ง) และ ม.5/2, ม.5/3 เลือกกำรเรยี นท่ีเน้นทฤษฎีเหมือนเดมิ ฉะนนั้ ประเด็นท้ำทำยในคร้ังนี้ คือ กำรศึกษำเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ในวิชำ ศิลปะพ้ืนฐำน2 (ศ32102) สำระดนตรี ในระดับชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 5 จำนวน 3 ห้อง ระหว่ำงกำรใช้กิจกรรมกำร เรียนกำรสอนกระบวนกำรฝกึ ปฏิบตั ทิ ำงดนตรี(ขับรอ้ ง) และกำรเรียนในเชงิ ทฤษฎี วำ่ กำรเรยี นกำรสอนแบบใดจะส่งผลให้ นักเรียนมผี ลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนดกี ว่ำกนั
2. วธิ กี ารดาเนนิ การใหบ้ รรลผุ ล ใช้กระบวนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรูใ้ น 2 รปู แบบ 2.1) กระบวนกำรเรยี นกำรสอนปฏบิ ตั กิ ำรทำงดนตรี(ขบั ร้อง) สำหรบั นกั เรียนระดับช้ัน ม.5/1 2.1.1) แบง่ กลุ่มนักเรียนตำมลกั ษณะเสยี ง 2.1.2) แนะนำท่ำทำงกำรยนื หรอื กำรน่งั ที่ถูกตอ้ งเหมำะสม 2.1.2) ฝึกกำรออกเสียง กำรหำยใจ วอรม์ เสยี งสำหรับกำรขบั ร้อง 2.1.3) สอน และสำธติ กำรหำยใจในกำรขับรอ้ ง ไปพร้อมกบั ใหน้ ักเรียนปฏิบัติตำม 2.1.4) ให้เพลงพ้นื ฐำนสำหรับฝึกขับรอ้ งและอธบิ ำยควำมหมำย อธิบำยพร้อมวิธกี ำรขบั ร้องและใหฝ้ ึกซ้อมไปพร้อมๆกัน ครคู อยฟัง สงั เกตและให้คำแนะนำ 2.1.5) ฝึกปฏบิ ตั ิเพลงท่ีเป็นแบบฝกึ พร้อมใหค้ ำแนะนำในกำรแก้ไขกำรปฏิบตั ิ 2.1.6) สรปุ ผลกำรเรียน ประเมนิ ผล เน้ือหำองค์ควำมรู้และทักษะควำมรทู้ ไี่ ด้ 2.1.7) แนะนำนดั หมำยเน้อื หำในครั้งต่อไป 2.2) กำรเรียนกำรสอนทฤษฎีดนตรีดว้ ยกระบวนกำรกลุ่ม สำหรบั นกั เรยี นระดบั ช้ัน ม.5/2 และ ม.5/3 ดงั น้ี 2.2.1) ต้งั จุดมุ่งหมำยของกำรเรียนกำรสอน ทง้ั จุดมุ่งหมำยท่วั ไปและจุดมุง่ หมำยเชงิ พฤติกรรม 2.2.2) กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ โดยเนน้ ให้ผู้เรียนลงมือประกอบกจิ กรรมด้วย ตนเองและมีกำรเพื่อทำงำนเปน็ กลมุ่ เพื่อใหม้ ปี ระสบกำรณใ์ นกำรทำงำนกลมุ่ ซ่งึ มีข้นั ตอนดงั น้ี - ข้นั นา เป็นกำรสรำ้ งบรรยำกำศและสมำธิของผู้เรยี นให้มีควำมพร้อมในกำรเรียน กำรสอน กำรจัดสถำนที่ กำรแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย แนะนำวิธีดำเนินกำรสอน กติกำหรือกฎเกณฑ์กำรทำงำน ระยะเวลำกำรทำงำน - ขั้นสอน เป็นข้ันท่ีครูลงมือสอนโดยให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้เกิดประสบกำรณ์ตรง โดยที่กิจกรรมต่ำงๆ จะต้องคัดเลือกให้เหมำะสมกับเน้ือเรื่องในบทเรียน เช่น กำรอภิปรำยกลมุ่ เป็นต้น - ขน้ั วิเคราะห์ เม่ือดำเนนิ กำรจัดประสบกำรณเ์ รียนรแู้ ลว้ จะใหน้ ักเรียนวิเครำะห์ และแสดงควำมคิดเหน็ เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมตำ่ ง ๆ ควำมสัมพันธก์ ันในกลุ่ม ตลอดจนควำมร่วมมือในกำรทำงำนร่วมกัน โดย วิเครำะห์ประสบกำรณ์ทไ่ี ด้รบั จำกำรทำงำนกลมุ่ ใหค้ นอนื่ ได้รับรู้ เป็นกำรถ่ำยทอดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ของกันแนะกัน ขน้ั วเิ ครำะหจ์ ะช่วยให้ผู้เรียนเข้ำใจตนเอง เข้ำใจผู้อ่ืน และมองเห็นปัญหำและวิธีกำรทำงำนที่เหมำะสม เพ่ือเป็นแนวทำง ในกำรปรบั ปรุงกำรทำงำน เป็นกำรถ่ำยโอนประสบกำรณ์กำรเรียนที่ดี จะช่วยให้ผู้เรียนสำมำรถค้นแนวคิดท่ีต้องกำรด้วย ตนเอง เป็นกำรขยำยประสบกำรณ์กำรเรยี นร้ใู หถ้ กู ต้องเหมำะสม - ข้ันสรุปและนาหลักการไปประยุกต์ใช้ นักเรียนสรุป รวบรวมควำมคิดให้ เป็นหมวดหมู่ โดยครูกระตุ้นให้แนวทำงและหำข้อสรุป จำกน้ันนำข้อสรุปที่ค้นพบจำกเน้ือหำวิชำที่เรียนไปประยุกต์ใช้ให้ เข้ำกับตนเองและนำหลักกำรที่ได้ไปใช้เพือ่ กำรปรบั ปรุงตนเอง ประยุกตใ์ ชใ้ ห้เข้ำกับคนอน่ื ประยกุ ตเ์ พ่ือแก้ปญั หำและ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: