50 เอกสารอ้างองิ ภานุมาศ ปิยะภานุกูล. 2556. แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการฐานสมรรถนะตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง วิชาการประมงทว่ั ไป. วทิ ยาลยั การอาชวี ศึกษาปทมุ ธานี, จังหวดั ปทุมธานี. 53 น. www.fishtech.mju.ac.th บันทกึ หลงั การเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………..อาจารยป์ ระจาวิชา
51 แผนการเรียนรู้ หน่วยท่ี 8 จานวน 6 ช่ัวโมง ชื่อวชิ า การประมงทว่ั ไป ช่ือหน่วย การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรประมง ชอื่ เรื่องหรอื งาน การอนรุ ักษท์ รพั ยากรประมง รายการสอน 1.การอนรุ ักษท์ รพั ยากรประมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.ผู้เรียนอธบิ ายถงึ การอนรุ ักษท์ รัพยากรประมงได้ รายการสอน การอนุรักษ์ทรัพยากรประมง 1.การแพร่พันธุสตั วน์ ้าในแหล่งน้าธรรมชาติ 2.การแพร่พนั ธ์สุ ัตวน์ ้าในแหล่งน้าเกดิ ใหม่ 3.การควบคุมกาจดั สตั วน์ า้ ท่ีไม่ต้องการ เนอื้ หาการเรยี นรู้ การใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ นับวันมีแต่จะหมดไป กิจการประมงจึงควรต้องมี แนวทางอนุรกั ษ์ เพอ่ื ให้มที รพั ยากรได้ใช้อยา่ งยัง่ ยนื เม่ือประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา การประมงน้าจืดมีความสาคัญต่อประเทศมาก ชาวไร่ชาวนาหา ปลาโดยใช้เครื่องมือพื้นบ้าน เช่น ลอบ เบ็ด แห สวิง ยอ บ่อล่อ เป็นต้น สาหรับชาวประมงท่ีอยู่ตาม หมู่บ้านชายทะเลก็หากินโดยทาการประมงใกล้ฝ่ังในน้าลึกไม่เกิน 15 เมตร ใช้ลอบ โพงพาง โป๊ะ ท่ีเป็น เคร่อื งมอื ประจาท่ี เรอื ที่ใช้หาปลาจะใชเ้ รอื ใบ ขนาดความยาวประมาณ 3-6 เมตร ต่อมาพัฒนาใช้อวนท่ี มีประสทิ ธิภาพสงู เชน่ อวนตังเก ใช้จับปลาฝูง เช่น ปลาทู ปลาลัง ส่วนชาวประมงรายย่อยจะใช้เพียง อวนลอยเพ่ือหาปลา และชาวประมงท่ีมีทุนได้เพ่ิมขนาดเรือเป็นความยาวประมาณ 30 เมตร มีอาณา บรเิ วณทาการประมงแผ่ขยายออกไปในทะเลจนี ตอนใต้ และทะเลอันดามนั การขยายตวั อย่างรวดเร็วของการประมงทะเล มกี ารจับปลาเพิ่มมากข้ึน ทาให้ปรมิ าณปลาท่ีจับ ได้เพม่ิ ขน้ึ อยา่ งมากมาย ผลผลติ จากการประมงทะเลมีปริมาณเพิ่มสงู ขึน้ ถงึ 90 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณ สัตว์นา้ ทจ่ี ับไดท้ ่ัวประเทศ การขยายตวั ของอวนลากทาให้ประชากรปลาและสัตว์น้าหน้าดินในอ่าวไทย
52 ลดน้อยถอยลงจนน่าวิตก หากไม่มีมาตรการท่ีเหมาะสมในการอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ทรัพยากร ประมงจะค่อยๆลดน้อยลง จนอาจมีการสูญพันธ์ุได้ การวางโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรประมง เป็น โครงการระยะยาวท่ีจะวางมาตรการให้ทรพั ยากรเกดิ ผลผลติ แกธ่ รรมชาติ และประเทศอยา่ งเตม็ ที่ การอนุรกั ษท์ รพั ยากรประมง มีดงั น้ี 1.การแพรพ่ ันธุส์ ัตว์นา้ ในแหล่งน้าธรรมชาติ ได้แก่ การปล่อยปลานิล ตะเพียน สวาย ย่ีสก หากการปล่อยสัตว์น้าต่างถ่ินจะเป็นผลเสียต่อ สัตวน์ ้าประจาถ่ิน เชน่ การปลอ่ ยปลาดุกแอฟรกิ า ปลากดเกรา (sucker) ปริ นั ย่า จะไปกนิ ปลาท้องถ่ินที่ มอี ยู่ใหล้ ดจานวนลง 2.การแพรพ่ นั ธุส์ ัตวน์ ้าในแหล่งน้าเกิดใหม่ ได้แก่ สระเกบ็ นา้ อ่างเก็บน้า เข่อื น เพือ่ ใช้ในการชลประทาน ผลิตกระแสไฟฟ้า 3.การควบคมุ กาจดั สตั ว์น้าทไี่ มต่ อ้ งการ -โล่ต๊ิน (rotenone) มีคุณสมบัติเป็นเมือกไปจับท่ีเหงือกปลา อุดตันการหายใจของปลา ออก ฤทธ์ิตามชนิด ขนาดของปลา และอุณหภูมิน้า สลายตัวภายใน 4 วัน ที่อุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส สามารถสลายพิษได้ทันทีด้วยด่างทับทิม ข้อเสียของโล่ต๊ินคือ ปลาที่หลบหนีไปได้ สามารถฟื้น คืนกลบั มา ไปทาลายไขป่ ลา ทาลายสัตวน์ ้าที่หายใจดว้ ยเหงือก -แอนตีไ้ มซนิ ชอ่ื การค้า ฟินโทรล มีข้อดีกว่าโล่ติ๊นคือ กาจัดไข่ปลาได้ด้วย และปลาท่ีสัมผัสพิษ จะตายในภายหลัง 4.การควบคมุ ระดับน้า -การลดระดบั นา้ ในอา่ งเก็บน้า ทะเลสาบ ในชว่ งฤดูผสมพันธุข์ องปลาท่ไี ม่ต้องการ -การเพ่ิมระดับน้า ในชว่ งฤดผู สมพนั ธ์ุของปลาทเ่ี ราต้องการ ทาให้ปลาวางไขเ่ พมิ่ มีตวั อ่อน และ อัตรารอดตายสงู แหลง่ อาหารในธรรมชาติเพม่ิ สูงขนึ้ 5.การเพม่ิ อาหารปลาในแหลง่ น้า -การแพร่พันธุ์สัตว์น้าท่ีเป็นอาหาร เช่น แพลงตอน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เพื่อเป็น อาหารปลา -การใสป่ ุ๋ยฟอสฟอรัสลงในแหลง่ น้า เพอ่ื เพิม่ จานวนแพลงตอน กจิ กรรมการเรียนรู้ 1.นกั ศึกษาแบง่ กลุ่ม จานวน 3 กลมุ่ 2.นักศึกษาทาใบงาน เรอื่ ง การอนรุ ักษท์ รัพยากรประมง 3.นาเสนอ ตอบคาถาม และครสู รปุ
53 แบบฝึกหดั ใบความรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง การอนุรกั ษ์ทรัพยากรประมง แบบฝึกหัดเป็นแบบเลือกตอบ โดยกากบาท ทับตัวเลือกท่ีถูกท่ีสุดเพียงตัวเลือกเดียวจาก ตวั เลอื ก ก. ข. ค. และ ง . (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 1.การใชท้ รพั ยากรทางธรรมชาตขิ องประเทศ ปัจจบุ ันมสี ภาพเปน็ อย่างไร ก.มแี ตจ่ ะหมดไป ข.ลดลง ค.คงที่ ง.ท้ังลดลงและคงท่ี 2.เพ่ือใหท้ รพั ยากรธรรมชาตมิ ีใช้อย่างยั่งยืน ควรพฒั นาอยา่ งไร ก.รบี เรง่ ข.คอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ค.ยงั่ ยนื ง.ปล่อยวาง 3.ชาวไรช่ าวนาหาปลา โดยใช้เคร่ืองมอื พ้ืนบา้ น ขอ้ ใดเป็นเคร่ืองมือพน้ื บา้ น ก.ลอบ สวิง ยอ ข.เบด็ แห ค.บ่อลอ่ ง.ถูกทกุ ข้อ 4.ชาวประมงทอี่ ยูต่ ามหมูบ่ ้านชายทะเล หากินโดยทาการประมงใกล้ฝ่ังในน้าลึกไม่เกิน 15 เมตร มักใช้ เครอ่ื งมอื ใด ในการจับปลา ก.ลอบ ข.โพงพาง ค.โปะ๊ ง.ถูกทกุ ขอ้ 5.ชาวประมง ใช้อวนทมี่ ีประสทิ ธภิ าพสูงขน้ึ เครื่องท่ใี ช้เรยี กวา่ ก.โป๊ะ ข.อวนตังเก ค.ลอบ ง.เบ็ดราว 6.จากโจทยข์ ้อ 5 ใชเ้ ครื่องมือดงั กลา่ วจบั สตั ว์นา้ ชนดิ ใด ก.กงุ้ ข.ก้งั กระดาน ค.ปลาทู ปลาลงั ง.เต่าทะเล 7.ขอ้ ใด เปน็ การอนรุ ักษท์ รัพยากรประมง ก.ปล่อยพันธุ์สัตว์น้า ทาปะการังเทียม ข.สรา้ งเขื่อน ค.ปลอ่ ยสัตว์นา้ ตา่ งถน่ิ ง.ถมทะเล 8.สารธรรมชาติทใ่ี ชก้ าจดั สัตวน์ ้าทไ่ี มต่ อ้ งการ มคี วามปลอดภัยสูง ก.ฟา้ ทะลายโจร ข.โล่ต๊ิน ค.ขมน้ิ ชนั ง.ขเี้ หลก็ 9.การควบคุมระดบั นา้ โดยการเพ่มิ ระดบั นา้ ในฤดูผสมพนั ธุ์ มผี ลตอ่ สตั ว์นา้ อยา่ งไร ก.จานวนสตั ว์น้าลดลง ข.ตวั อ่อนสตั ว์น้าลดลง ค.ผสมพันธ์ุลดลง ง.วางไข่เพมิ่ ข้ึน 10.การเพิ่มอาหารปลาในแหลง่ นา้ จดื ทาได้โดยวิธใี ด ก.การแพรแ่ พลงตอน ข.การแพรส่ ตั ว์ไมม่ ีกระดกู สนั หลัง ค.การใสป่ ยุ๋ ฟอสฟอรสั ลงในแหล่งนา้ ง.ถกู ทุกขอ้
54 เฉลยแบบฝึกหดั ใบความร้ทู ่ี 8 ขอ้ ท่ี คาตอบ 6ค ข้อที่ คาตอบ 7ก 1ก 8ข 2ค 9ง 3ง 10 ง 4ง 5ข เอกสารอา้ งองิ 1.เทพรัตน์ อ้ึงเศรษฐพันธ์. 2554. การอนุรักษ์ทรัพยากรประมง. คณะเทคโนโลยีการประมงและ ทรพั ยากรทางน้า, มหาวิทยาลยั แม่โจ้. เชียงใหม่. 109 น. 2.ภานุมาศ ปิยะภานุกูล. 2556. แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการฐานสมรรถนะตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง วิชาการประมงทว่ั ไป. วทิ ยาลัยการอาชวี ศึกษาปทมุ ธานี, จงั หวัดปทุมธานี. 53 น. บนั ทึกหลงั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………..อาจารย์ประจาวิชา
Search