๔๕ บทระลกึ ถงึ พระธรรมคณุ ไมใ่ หต้ กไปในทีช่ ั่ว พระธรรมคําส่ังสอนของพระพทุ ธเจา้ ยอ่ มคุ้มครองรกั ษาผ้ปู ฏบิ ตั ติ าม ข้าพเจา้ ถงึ พระธรรมเจา้ เปน็ ทพ่ี ่งึ ตลอดชวี ติ ไม่มที ่ีพ่ึงอ่นื จะยง่ิ กวา่ ฯ บทเจรญิ พระสังฆคณุ สปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อชุ ปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สามจี ปิ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ยะททิ ัง จตั ตาริ ปรุ สิ ะยคุ านิ อัฏฐะ ปุรสิ ะปคุ คะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อาหเุ นยโย ปาหเุ นยโย ทกั ขเิ ณยโย อญั ชะลีกะระณโี ย อะนตุ ตะรงั ปญุ ญกั เขตตงั โลกสั สสาติ บทระลกึ ถึงพระสังฆคณุ พระสงฆ์สาวกของพระพทุ ธเจ้า เป็นผู้ปฏบิ ัตดิ ี ปฏบิ ัตติ รง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ เปน็ พยานในพระธรรมคําสง่ั สอนของพระพุทธเจ้า วา่ ปฏบิ ัตติ ามไดจ้ รงิ และมีผลประเสรฐิ จริง ข้าพเจ้าถึงพระสงฆ์เจ้า เป็นทีพ่ ่ึงตลอดชีวิต ไม่มที พ่ี งึ่ อน่ื จะยงิ่ กว่า ฯ บทแผ่เมตตา (ลดมอื ลงประสานกนั ไว้ สาํ รวมใจแผ่เมตตา) สัตวท์ ัง้ หลาย ทีเ่ ปน็ เพอื่ นทุกข์ เกดิ แก่เจ็บตายด้วยกันหมดทง้ั ส้นิ จงเป็นสขุ เป็นสุขเถดิ อย่าไดม้ เี วรแกก่ นั และกันเลย จงเปน็ สขุ เป็นสุขเถดิ อยา่ ไดเ้ บยี ดเบยี นซึง่ กนั และกนั เลย จงเป็นสุขเปน็ สุขเถดิ อยา่ ได้มีความทุกขก์ ายทกุ ข์ใจเลย จงมีความสขุ กายสุขใจ รักษาตน ให้พ้นจากทุกขภ์ ยั ทงั้ ส้นิ เถดิ ฯ (แผเ่ มตตาจบแลว้ กราบ ๓ ครงั้ พรอ้ มกนั ) บทปลงใจ (ลกุ ขึน้ ยนื ทา่ ตรงกลา่ วจนจบพธิ ี) ชาติของเรา เป็นไทยอยไู่ ด้ จนถึงตัวเราคนหนง่ึ น้ี เพราะบรรพบุรุษของเรา เอาเลอื ด เอาเน้อื เอาชีวติ และความลาํ บากยากเข็ญเขา้ แลกไว้ เราต้องรักษาชาติ เราต้องบาํ รงุ ชาติ เราตอ้ งสละชีพเพือ่ ชาติ ฯ เพลงชาติ ประเทศไทยรวมเลอื ดเนอ้ื ชาติเชอ้ื ไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทกุ สว่ น อยดู่ ํารงคงไวไ้ ด้ทง้ั มวล ดว้ ยไทยลว้ นหมายรกั สามัคคี ไทยน้ีรักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราช จะไมใ่ หใ้ ครข่มข่ี สละเลือดทกุ หยาดเปน็ ชาตพิ ลี เถลงิ ประเทศชาตไิ ทยทวีมชี ยั ชโย ฯ
๔๖ บทสรรเสรญิ พระบารมี ข้าวรพทุ ธเจา้ เอามโนและศริ กราน นบพระภูมิบาล บญุ ดิเรก เอกบรมจักรนิ พระสยามมนิ ทร์ พระยศย่งิ ยง เย็นศิระเพราะพระบริบาล ผลพระคณุ ธ รกั ษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ ขอบันดาล ธ ประสงคใ์ ด จงสฤษดิด์ งั หวงั วรหฤทัย ดุจถวายชยั ชโย ฯ ๑๒. การกล่าวคาํ อาราธนาในพทุ ธศาสนาพิธี กอ่ นแตจ่ ะรบั ศีลจากพระสงฆก์ ็ดี กอ่ นแตจ่ ะฟงั พระธรรมเทศนาก็ดี กอ่ นแตจ่ ะให้ พระสงฆ์เจริญพระพทุ ธมนต์กด็ ี คฤหสั ถต์ อ้ งอาราธนาก่อน คําอาราธนานน้ั เป็นภาษามคธ ดงั นี้ คําอาราธนาศลี ๕ คําบาลี คําแปล มะยงั ภันเต วิสุง วิสงุ รักขะณตั ถายะ/ ขา้ แตท่ า่ นผเู้ จรญิ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอศีล ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปัญจะ สลี านิ ยาจามะ พรอ้ มดว้ ยไตรสรณะ เพื่อรักษาแยกกันเป็นข้อ ๆ ทตุ ิยมั ปิ มะยัง ภันเต วสิ งุ วิสุง รกั ขะณตั ถายะ/ ขา้ แตท่ า่ นผเู้ จรญิ ข้าพเจ้าท้งั หลายขอศีล ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ พร้อมด้วยไตรสรณะ เพอ่ื รักษาแยกกันเปน็ ข้อ ๆ เปน็ ครง้ั ท่ี ๒ ตะติยัมปมิ ะยัง ภันเต วิสงุ วสิ งุ รกั ขะณัตถายะ/ ขา้ แต่ท่านผเู้ จรญิ ข้าพเจา้ ทั้งหลายขอศีล ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ พร้อมดว้ ยไตรสรณะ เพอื่ รักษาแยกกนั เปน็ ขอ้ ๆ เปน็ ครงั้ ท่ี ๓ คําอาราธนาพระปรติ ร (สวดมนต)์ คาํ บาลี คําแปล วปิ ตั ตปิ ะฏิพาหายะ สพั พะสมั ปตั ตสิ ิทธยิ า ขออาราธนาพระคณุ เจ้าท้ังหลาย สวดพระปรติ ร สพั พะทกุ ขะวนิ าสายะ ปะรติ ตัง พรถู ะ มงั คะลัง อันเปน็ มงคล เพอ่ื ปอ้ งกันความพิบตั ิ เพ่ือให้สําเรจ็ สมบตั ทิ กุ อยา่ ง และเพ่ือใหท้ กุ ข์พนิ าศไป วปิ ัตตปิ ะฏิพาหายะ สพั พะสัมปัตติสิทธิยา สพั พะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรถู ะ มงั คะลัง ขออาราธนาพระคณุ เจ้าท้ังหลาย สวดพระปรติ ร อนั เป็นมงคล เพอ่ื ปอ้ งกนั ความพบิ ัติ เพอื่ ใหส้ าํ เรจ็ วปิ ตั ตปิ ะฏิพาหายะ สพั พะสัมปตั ตสิ ทิ ธยิ า สมบตั ิทกุ อยา่ ง และเพื่อใหภ้ ัยพนิ าศไป สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตงั พรูถะ มงั คะลัง ขออาราธนาพระคณุ เจา้ ท้ังหลาย สวดพระปรติ ร อนั เปน็ มงคล เพ่อื ป้องกนั ความพิบัติ เพอ่ื ใหส้ าํ เร็จ สมบตั ิทุกอยา่ ง และเพ่อื ให้ภยั พนิ าศไป อาราธนาธรรม (อาราธนาใหพ้ ระเทศน)์ คาํ บาลี คําแปล พรหั มา จะ โลกาธปิ ะตี สะหมั ปะติ ทา้ วสหมั บดีพรหม ผู้เปน็ อธิบดีของโลก ไดป้ ระนมหตั ถ์ กตั อัญชะลี อนั ธิวะรงั อะยาจะถะ นมัสการกราบทลู สมเด็จพระผู้มพี ระภาคเจา้ ผปู้ ระเสริฐ สนั ตธี ะ สตั ตาปปะระชักขะชาตกิ า กวา่ สัตวผ์ ้ยู งั มดื มนว่า สัตวท์ ั้งหลายผู้มี คอื กิเลส เทเสตุ ธมั มัง อะนุกัมปมิ ัง ปะชัง ในดวงตาเพียงเล็กน้อย ยังมอี ย่ใู นโลกนี้ ขอพระองค์ จงทรงแสดงธรรม อนเุ คราะหห์ ม่สู ัตวน์ ีเ้ ถิด ก่อนว่าคําอาราธนา ถ้าเป็นพิธีทางราชการ พระสงฆ์นั่งบนอาสนะสูง เจ้าภาพน่ังเก้าอ้ี
๔๗ ผู้อาราธนาควรยืนข้ึน ทําความเคารพประธานก่อน แล้วจึงเดินเข้าไปหาพระสงฆ์ยืนห่างพอควร แล้ว ประนมมอื ไหว้กล่าวคาํ อาราธนา เสร็จแล้วไหว้อีกคร้ังหนึ่งหันมาทําความเคารพประธาน แล้วจึงไปนั่งฟัง เทศน์หรือฟังพระสวดมนต์ ถ้าเป็นพิธีของเอกชน ผู้ฟังนั่งกับพ้ืน ผู้อาราธนาควรนั่งคุกเข่าข้ึนแล้วกราบ พระประนมมอื กล่าวคําอาราธนา เสร็จแล้ว กราบ ๑ คร้ัง นงั่ ราบลงกับพนื้ ฟงั สวดหรือเทศน์ตอ่ ไป
๔๘ เอกสารอา้ งอิง (Bibliography) ............................................................................................................................. กองอนุศาสนาจารย์ กรมยทุ ธศึกษาทหารบก, วิชาการศาสนาและศลี ธรรม สาํ หรบั หลักสตู ร นายสิบชน้ั ตน้ และหลักสตู รนายสิบอาวุโส. พมิ พค์ รง้ั ที่ ๒. กรงุ เทพมหานคร : อมรนิ ทร์พรน๊ิ ติง้ , ๒๕๔๘. กองทัพบก, คําสั่งท่ี ๒/๒๕๕๗ เร่อื ง กาํ หนดมาตรฐานโตะ๊ หมบู่ ชู าเครอื่ งพร้อมประจาํ หนว่ ย ทหาร ลง ๖ ม.ค. ๒๕๕๗. กองทพั บก, คู่มือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ี , กรงุ เทพมหานคร : อมรนิ ทรพ์ รนิ ติ้ง, ๒๕๕๓ พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ ฺโต). พจนานกุ รมพุทธศาสตร์ ฉบบั ประมวลธรรม Dictionary of Buddhism. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั เอส. อาร์. พริ้นติ้งแมส โปรดกั ส์ จํากัด, ๒๕๕๑. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์มหาจุฬา ลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๙.
๔๙ ภาคผนวก (Appendix)
๕๐ แบบประเมินความร้หู ลังเรยี น
๕๑ ปญั หาวิชาการศาสนาและศลี ธรรม ชุดท่ี ๑ หลักสูตรนายสบิ ชัน้ ตน้ ---------------------------------------- คําสัง่ จงกาเครอ่ื งหมาย ( X ) ทบั ข้อทถ่ี ูกทส่ี ดุ เพียงขอ้ เดยี ว ๑. พระพุทธศาสนาเกิดข้นึ ในโลกกอ่ น พ.ศ. ก่ปี ี ? ก. ๒๕ ปี ข. ๓๕ ปี ค. ๔๕ ปี ง. ๕๕ ปี ๒. พระพทุ ธเจ้าเป็นเผา่ อะไร ? ก. เผา่ โมฬยิ ะ ข. เผ่าคปุ ตะ ค. เผ่ามลิ กั ขะ ง. เผา่ อรยิ กะ ๓. พระพุทธเจ้ากาํ เนดิ ในวรรณะอะไร ? ก. กษตั ริย์ ข. พราหมณ์ ค. แพศย์ ง. ศทู ร ๔. เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภเิ ษกสมรสเมอื่ พระชนมายกุ ีพ่ รรษา ? ก. ๑๖ พรรษา ข. ๑๗ พรรษา ค. ๑๘ พรรษา ง. ๑๙ พรรษา ๕. ขอ้ ใดเก่ยี วข้องกับเทวทตู ทง้ั ๔ ? ก. คนเกิด ข. คนแต่งงาน ค. บรรพชิต ง. นกั โทษ ๖. เจา้ ชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชเมอื่ พระชนมายเุ ทา่ ไร ? ก. ๑๙ พรรษา ข. ๒๙ พรรษา ค. ๓๙ พรรษา ง. ๔๙ พรรษา ๗. เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรธู้ รรมอะไรจงึ ไดป้ ฏญิ าณตนเป็นพระสมั มาสมั พุทธเจา้ ? ก. อทิ ธิบาท ๔ ข. อรยิ สัจ ๔ ค. พรหมวหิ าร ๔ ง. พละ ๔ ๘. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะตรสั รเู้ ป็นพระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าเม่ือพระชนมายเุ ท่าไร ? ก. ๒๕ พรรษา ข. ๓๕ พรรษา ค. ๔๕ พรรษา ง. ๓๖ พรรษา ๙. คาํ ว่า “สัมมาวายามะ” แปลวา่ ทาํ ความเพยี รถูก อยูใ่ นอริยสัจข้อใด ? ก. ทุกข์ ข. สมุทัย ค. นโิ รธ ง. มรรค ๑๐. พระสงฆท์ ่ีมาประชมุ กันในวนั มาฆบชู ามจี ํานวนเท่าใด ? ก. ๑๑๕๐ รูป ข. ๑๒๕๐ รปู ค. ๑๒๓๐ รปู ง. ๒๒๕๐ รปู ๑๑. การเกดิ นกิ ายเถรวาทกับนกิ ายมหายาน เกดิ ขึ้นเมอ่ื พระพทุ ธเจ้าปรินิพพานแล้วกป่ี ี ? ก. ๑๐๐ ปี ข. ๒๐๐ ปี ค. ๓๐๐ ปี ง. ๔๐๐ ปี ๑๒. พทุ ธชยนั ตี ๒,๖๐๐ ปี เกี่ยวกบั เร่ืองใด ? ก. ประสูติ ข. ออกบวช ค. ตรัสรู้ ง. ปรนิ ิพพาน ๑๓. นาย ก. ตนื่ ขึ้นมาเห็นถนนหน้าบา้ นเปียกก็รวู้ ่าเมือ่ คนื ฝนตก แสดงวา่ นาย ก. มสี ัปปรุ ิสธรรมขอ้ ใด ? ก. อัตถัญญตุ า รู้ผล ข. ธัมมญั ญุตา รู้เหตุ ค. อตั ตัญญุตา รต้ น ง. มตั ตญั ญุตา รู้ประมาณ ๑๔. คําวา่ รูเ้ วลาวา่ ควรทาํ สงิ่ ใดกอ่ นสงิ่ ใดหลงั ตรงกับสปั ปุริสธรรมข้อใด ? ก. อัตตัญญุตา ข. ธมั มญั ญุตา ค. กาลญั ญตุ า ง. ปริสญั ญตุ า ๑๕. คาํ วา่ รู้จกั ตนวา่ เป็นคนดีมสี กุล จะประพฤติปฏบิ ตั อิ ะไร กส็ าํ รวมระวงั ตนไม่ให้ทาํ ผดิ แสดงวา่ มสี ัปปรุ สิ ธรรมขอ้ ใด ? ก. อตั ถญั ญุตา ข. อตั ตัญญุตา ค. ปรสิ ญั ญตุ า ง. ธัมมญั ญตุ า ๑๖. เวลาและวารีมิได้มีจะคอยใคร รถเมลแ์ ละรถไฟ กต็ อ้ งไปตามเวลา จากคาํ พดู นเ้ี กีย่ วข้องกับขอ้ ใด ? ก. อตั ตญั ญุตา ข. อัตถัญญุตา ค. ปรสิ ญั ญุตา ง. กาลญั ญุตา ๑๗. คาํ วา่ ”เขา้ เมืองตาหล่วิ ต้องหลวิ่ ตาตาม” หมายถึงสปั ปรุ สิ ธรรมข้อใด ? ก. อัตตัญญุตา ข. ปรสิ ญั ญุตา ค. ธัมมญั ญุตา ง. ปคุ คลปโรปรญั ญตุ า
๕๒ ๑๘. คําพดู ท่ีว่า “เวน้ คนทีค่ วรเวน้ คบคนทคี่ วรคบ” แสดงถงึ สัปปรุ ิสธรรมในข้อใด ? ก. อัตตัญญตุ า ข. อัตถัญญตุ า ค. ปริสญั ญุตา ง. ปคุ คลปโรปรัญญุตา ๑๙. คําว่า “เปน็ ผ้รู ู้จักบรษิ ทั จะปฏบิ ัติอยา่ งไรกเ็ หมาะสม” เป็นสัปปรุ ิสธรรมขอ้ ใด ? ก. อัตตัญญุตา ข. ปรสิ ญั ญตุ า ค. ธมั มญั ญตุ า ง. ปคุ คลปโรปรัญญุตา ๒๐. นาย ก.ชกั ชวนนาย ข.ไปโขมยของคนอื่น แตน่ าย ข. คํานึงถึงเกยี รตภิ มู ขิ องตนแลว้ ก็หา้ มนาย ก. เสยี ไมไ่ ปดว้ ย แสดงว่านาย ข. มสี ัปปุรสิ ธรรมขอ้ ใด ? ก. อัตตญั ญตุ า ข. ปรสิ ญั ญุตา ค. อตั ถญั ญุตา ง. ธัมมญั ญุตา ๒๑. คําว่า “อุบาสกธรรม” หมายถึงขอ้ ใด ? ก. ธรรมของนกั ปฏิบัติ ข. ธรรมของนกั ปรยิ ัติ ค. ธรรมของอบุ าสก ง. ธรรมะทัว่ ไป ๒๒. ผมู้ ศี รัทธาในพระบวรพุทธศาสนา เชือ่ ว่า ทาํ ดไี ด้ดี ทําช่วั ได้ชั่ว เป็นอุบาสกธรรมในข้อใด ? ก. มีศลี ข. มศี รทั ธา ค. ไมถ่ ือมงคลต่ืนข่าว ง. ไมท่ ําบุญนอกศาสนา ๒๓. คําว่า “เจ๊กตืน่ ไฟ ไทยตื่นขา่ ว..” เกยี่ วข้องกบั อุบาสกธรรมขอ้ ใด ? ก. มีศรทั ธา มีศลี ค. ไม่ถอื มงคลตน่ื ขา่ ว ง. ไม่ทําบญุ นอกศาสนา ๒๔. ความเชือ่ ตามพระพทุ ธประสงค์มกี ่ปี ระการ ? ก. ๔ ประการ ข. ๕ ประการ ค. ๖ ประการ ง. ๗ ประการ ๒๕. คําว่า “เชื่อผลของกรรม” หมายถงึ ข้อใด ? ก. กมั มสทั ธา ข. วิปากสัทธา ค. กัมมสั สกตาสัทธา ง. ตถคตโพธสิ ัทธา ๒๖. การทเี่ ราพยายามช่วยเหลือผูต้ กทกุ ขไ์ ด้ยากแลว้ ไม่สาํ เรจ็ จึงปลงใจว่า สตั วท์ ัง้ หลายมีกรรมเป็น ของ ๆ ตน ไมม่ ีใครล่วงพน้ ได้ จัดเป็นศรัทธาในขอ้ ใด ? ก. กมั มสั สกตาสัทธา ข. วปิ ากสทั ธา ค. กมั มสทั ธา ง. ตถคตโพธสิ ัทธา ๒๗. ความเช่อื มนั่ ในความตรสั ร้ขู องพระพุทธเจ้าเปน็ ศรัทธาในข้อใด ? ก. กมั มสั สกตาสัทธา ข. วิปากสทั ธา ค. กมั มสทั ธา ง. ตถคตโพธิสทั ธา ๒๘. ในการทําบุญข้นึ บา้ นใหมน่ ิยมนมิ นต์พระเจรญิ พระพุทธมนตก์ ่รี ปู ? ก. ๕ รูป ข. ๗ รูป ค. ๘ รปู ง. ๙ รูป ๒๙. คาํ อาราธนาท่ีว่า “วปิ ตั ตปิ ฏพิ าหายะ…” เปน็ คาํ อาราธนาอะไร ? ก. อาราธนาธรรม ข. อาราธนาเทศน์ ค. อาราธนาศลี ง. อาราธนาพระปริตร ๓๐. เม่อื ทําบญุ อายคุ รบ ๓๐ ปี นยิ มนิมนตพ์ ระกร่ี ูป ? ก. ๒๐ รปู ข. ๓๐ รปู ค. ๓๑ รูป ง. ๓๒ รูป Key ชดุ ที่ ๑ : 341132224213232424213231214443
๕๓ ปัญหาวชิ าการศาสนาและศลี ธรรม ชดุ ที่ ๒ หลกั สตู รนายสบิ ช้ันต้น ---------------------------------------- คําส่งั จงทําเคร่ืองหมาย X ทบั อักษร ก, ข, ค หรอื ง ทเี่ หน็ วา่ ถูกที่สดุ ในแต่ละข้อ ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ชด่ ินแดนทเ่ี ปน็ เขตของชมพูทวีปในสมัยโบราณ ? ก. อนิ เดีย – เนปาล ข. เนปาล – บงั คลาเทศ ค. ปากสี ถาน – อัฟกานิสถาน ง. ศรีลังกา – พมา่ ๒. ผ้ทู ม่ี หี น้าทใ่ี นการปกครองบา้ นเมอื ง โดยเช่อื วา่ สร้างมาจากแขนของพระพรหม คอื วรรณะในขอ้ ใด ? ก. วรรณะกษตั รยิ ์ ข. วรรณะพราหมณ์ ค. วรรณะแพศย์ ง. วรรณะศูทร ๓. ก่อนพระพทุ ธศาสนาอุบตั ิ ประชาชนในชมพูทวีปสมัยโบราณนบั ถือลัทธิศาสนาใดเปน็ สว่ นใหญ่ ? ก. พุทธ ข. ครสิ ต์ ค. อสิ ลาม ง. พราหมณ์ ๔. สวนลุมพนิ วี ัน คือสถานทป่ี ระสตู ิของพระพทุ ธเจา้ ปัจจุบันอย่ใู นประเทศใด ? ก. อินเดยี ข. เนปาล ค. ปากีสถาน ง. บงั คลาเทศ ๕. คําวา่ “สทิ ธตั ถะ” มีความหมายว่าอยา่ งไร ? ก. ผู้รอบรู้สรรพสิ่ง ข. ผู้รูแ้ จ้งโลก ค. ผ้ตู รัสรเู้ องโดยชอบ ง. ผสู้ ําเรจ็ ในสง่ิ ท่ีทรงประสงค์ ๖. สาเหตุใดทท่ี ําให้เจ้าชายสทิ ธตั ถะเสดจ็ ออกผนวช ? ก. ทรงเบ่อื หน่ายชีวิต ข. ทรงเห็นวา่ ความสขุ เป็นภาพลวงตา ค. ทรงแสวงหาวธิ ีขจดั ความแกช่ รา ง. ทรงแสวงหาความจริงเพ่อื หาวธิ ีการดบั ทุกข์ ๗. เทวทูต ๔ ในข้อใดทเี่ จ้าชายสทิ ธตั ถะทรงพบเหน็ และดาํ ริเรอ่ื งออกผนวช ? ก. เด็กทารก คนชรา คนเจ็บ คนตาย ข. เดก็ ทารก คนชรา คนเจบ็ นักบวช ค. คนชรา คนเจบ็ คนตาย นกั บวช ง. คนชรา คนเจ็บ คนตาย เทวดา ๘. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงหลกั ธรรมโอวาทเป็นครัง้ แรกในวนั ใด ? ก. วันมาฆบชู า ข. วันวิสาขบชู า ค. วันอัฏฐมบี ชู า ง. วันอาสาฬหบูชา ๙. ปจั ฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้ากล่าวถึงเร่ืองอะไร ? ก. หนทางดบั ทุกข์ ข. วธิ ีเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนา ค. การสังคายนาพระธรรมวินยั ง. การเตอื นให้ต้ังอยูใ่ นความไมป่ ระมาท ๑๐. มานะไปหาแพทย์เพือ่ ตรวจหาสาเหตขุ องการปวดฟัน สาเหตุของการปวดฟนั ตรงกบั หลกั อรยิ สจั ๔ ขอ้ ใด ? ก. ทุกข์ ข. สมทุ ยั ค. นโิ รธ ง. มรรค ๑๑. พระรัตนตรัย หมายถึง ? ก. ศลี สมาธิ ปญั ญา ข. ทาน ศลี ภาวนา ค. อนิจจงั ทุกขัง อนัตตา ง. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ๑๒. การที่พระพทุ ธศาสนาสืบต่อมาจนถึงปัจจุบนั เป็นเพราะพระพุทธคุณในดา้ นใดมากทสี่ ดุ ? ก. พระศรัทธาคณุ ข. พระปญั ญาธิคณุ ค. พระวสิ ุทธิคุณ ง. พระมหากรุณาธิคุณ ๑๓. พระพทุ ธองค์ ทรงแต่งตงั้ ใครเป็นศาสดาแทนพระองค์ เมื่อพระองคป์ รินิพพานแล้ว ? ก. สมเดจ็ พระสงั ฆราช ข. พระสงฆ์ ค. บรษิ ัท ๔ คอื ภิกษุ ภิกษณุ ี อุบาสก อุบาสกิ า ง. พระธรรมวินัย
๕๔ ๑๔. พระพุทธศาสนาจัดเปน็ ศาสนาประเภทใด ? ก. เทวนยิ ม ข. อเทวนิยม ค. ลทั ธินิยม ง. ปาฏหิ ารยิ น์ ิยม ๑๕. พระเจา้ อโศกมหาราช ทรงส่งพระสาวกรปู ใดมาประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ? ก. พระสารีบตุ รและพระโมคคลั ลานะ ข. พระโกณฑัญญะและพระอัสสชิ ค. พระอานนท์และพระราหลุ ง. พระโสณะและพระอุตตระ ๑๖. ธรรมข้อใด จาํ เป็นและสาํ คัญท่สี ุดสําหรบั ผู้บังคบั บัญชา หรอื ผใู้ หญ่ ตอ้ งนําไปปฏบิ ัติ ? ก. ทาน ปิยวาจา อตั ถจริยา สมานตั ตตา (สงั คหวัตถุ) ข. เมตตา กรณุ า มทุ ติ า อเุ บกขา (พรหมวิหาร) ค. ฉนั ทะ วริ ยิ ะ จติ ตะ วิมงั สา (อทิ ธบิ าท) ง. สจั จะ ทมะ ขนั ติ จาคะ (ฆราวาสธรรม) ๑๗. โบราณว่า ผูกวัว ควาย ช้าง มา้ ใชเ้ ชอื กและโซเ่ ปน็ เคร่อื งผูก แต่การผูกใจคน ทา่ นให้ผูกดว้ ยธรรม หมวดใด ? ก. พรหมวิหาร ๔ ข. สังคหวัตถุ ๔ ค. ฆราวาสธรรม ๔ ง. อิทธิบาท ๔ ๑๘. สังคหวัตถธุ รรม มคี วามหมาย สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ? ก. หลกั ธรรมทช่ี ว่ ยดาํ รงชีวติ อยู่ไดอ้ ย่างประเสรฐิ ข. หลกั ธรรมเครอ่ื งยึดเหนี่ยวนํา้ ใจผ้อู ืน่ ค. หลักธรรมสาํ หรบั ผ้คู รองเรือน ง. หลกั ธรรมทที่ ําใหป้ ระสบความสําเรจ็ ๑๙. นสน.มสี มั มาคารวะเชอื่ ฟังคาํ สงั่ สอนของครูอาจารย์ แสดงว่า ปฏิบัตติ ามสังคหวัตถุธรรมข้อใด ? ก. ทาน ข. ปยิ วาจา ค.อตั ถจรยิ า ง. สมานตั ตตา ๒๐. นายดํา ชว่ ยเหลอื เพือ่ นๆ ทงั้ ทางกายและทางใจ ไม่นง่ิ ดดู ายในกจิ การงานของผ้อู ื่น เพราะเขามี คุณธรรมข้อใด ? ก. ทาน ข. ปยิ วาจา ค. อัตถจริยา ง. สมานัตตตา Key ชุดท่ี ๒ : 31424431424242422243
๕๕ ปัญหาวิชาการศาสนาและศีลธรรม ชุดท่ี ๓ หลกั สตู รนายสบิ ชั้นต้น ---------------------------------------- ๑. การกระทําของบุคคลใด มลี ักษณะสอดคลอ้ งกับความหมายของ “เมตตา” มากทีส่ ดุ ? ก. แดงบริจาคโลหิตใหส้ ภากาชาด ข. ดํา ชว่ ยจงู คนตาบอดขา้ มถนน ค. สม้ ช่วยดบั เพลิงทกี่ าํ ลงั ไหม้บ้านเพ่อื นบ้าน ง. ขาว ออกเงินค่ารกั ษาพยาบาลให้ผู้ปว่ ยอนาถา ๒. ความสุขของผคู้ รองเรือนมี ๔ ขอ้ ขอ้ สดุ ทา้ ยว่าอยา่ งไร ? ก. มีทรพั ย์ ข. จ่ายทรัพย์ ค. ไมม่ ีหนี้ ง. ทํางานไมม่ ีโทษ ๓. คูค่ รองทีด่ ี ทอี่ ยูก่ ันมาจนไดช้ อ่ื วา่ เป็น “คสู่ รา้ งคสู่ ม” เพราะมหี ลักธรรมข้อใดเป็นหลักประจําใจ ? ก. มศี รัทธา ศลี จาคะ และปญั ญา เสมอกัน ข. ประพฤติตอ่ กนั ดจุ มารดาบิดา ค. ประพฤติต่อกนั ดุจเจา้ นายและคนรบั ใช้ ง. ประพฤตติ ่อกนั ดุจพ่ีน้องกัน ๔. การท่ีคนไปกราบไหวต้ น้ ไมแ้ ลว้ ขดู หาตัวเลขเพ่อื เอาไปเสย่ี งโชค แสดงว่าไมป่ ฏิบตั ิตามอบุ าสกธรรม ขอ้ ใด ? ก. มีศรัทธา ข. มศี ลี ค. ไมถ่ ือมงคลตืน่ ขา่ ว ง. ไมแ่ สวงหาทักขไิ ณยนอกพระศาสนา ๕. ความเชื่อท่วี ่า คนและสัตวม์ ีกรรมเปน็ ของตน ทําดียอ่ มไดด้ ี ทําชว่ั ย่อมไดช้ ่วั จัดเป็นศรัทธาประเภท ใดในศรทั ธา ๔ ? ก. กัมมสทั ธา ข. วปิ ากสัทธา ค. กมั มสั สกตาสัทธา ง. ตถาคตโพธิสทั ธา ๖. คําในขอ้ ใด เป็นคาํ เรยี กหมายถึง ศีล ๕ ? ก. มนษุ ยธรรม ข. นจิ ศีล ค. เบญจศลี ง. ถูกทุกข้อ ๗. “มนษุ ยธรรม” หมายถึง ธรรมทท่ี าํ ใหเ้ กดิ เป็นมนุษย์แลว้ ก็จะเป็นมนุษยท์ ี่สมบรู ณ์ หมายถึงขอ้ ใด ? ก. กลั ยาณธรรม ๕ ข. ศลี ๕ ค. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ง. อบายมขุ ๖ ๘. “เปน็ มนุษย์เป็นได้เพราะใจสงู เหมือนหน่งึ ยงู มีดที ่ีแววขน ถ้าใจตํ่าเป็นไดแ้ ตเ่ พยี งคน ยอ่ มเสยี ทที ต่ี น ไดเ้ กดิ มา” คาํ ประพนั ธน์ ้มี ุง่ ให้เราปฏิบัตใิ นขอ้ ใด ? ก. รักษาเบญจศลี ข. รักษาเบญจธรรม ค. รักษาศลี ๘ ง. รกั ษาศีลอโุ บสถ ๙. บุคคลทที่ ําปาณาตบิ าตเป็นประจาํ ยอ่ มบ่งถงึ ลกั ษณะจติ ทข่ี าดคุณธรรมในข้อใด ? ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มุทิตา ง. อุเบกขา ๑๐. การปลอมแปลงเอกสารอันเป็นเท็จ เพ่ือหลอกลวงคนอื่นให้เข้าใจผดิ ผดิ ศลี ข้อใด ? ก. ปาณาตบิ าต ข. อทินนาทาน ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร ง. มสุ าวาท ๑๑. การท่ีนายสิบนกั เรยี นไม่ลว่ งละเมิดศีล ๕ โดยไมไ่ ดต้ งั้ ใจไวก้ อ่ น จดั ว่ามวี ิรัติในข้อใด ? ก. สมาทานวิรตั ิ ข. สมั ปตั ตวิรตั ิ ค. สมจุ เฉทวริ ตั ิ ง. มังสวิรัติ ๑๒. การปฏบิ ตั ิตามเบญจศีล – เบญจธรรม คใู่ ดไมส่ ัมพนั ธก์ นั ? ก. อทนิ นาทาน – สมั มาอาชพี ข. ไม่มสุ าวาท – สัจจะ ค. ไมเ่ สพสุรายาเสพตดิ – มสี ตสิ ัมปชัญญะ ง. ของของใคร ใครกร็ กั กห็ วง – เมตตากรณุ า
๕๖ ๑๓. คําว่า “อย่าชิงสุกกอ่ นห่าม” มีความหมายตรงกบั ข้อใด ? ก. เมตตากรุณา ข. สมั มาอาชวี ะ ค. ปากเปน็ เอกเลขเป็นโท ง. สํารวมในกาม ๑๔. คาํ วา่ “อบายมขุ ”แปลได้ความหมายวา่ อย่างไร ? ก. ความเสอ่ื ม ข. ความฉิบหาย ค. ปากทางแห่งความสงสัย ง. ปากทางแห่งความเสอื่ ม ๑๕. การด่ืมนํา้ เมา และเสพสง่ิ เสพตดิ ใหโ้ ทษเปน็ ประจาํ ยอ่ มมโี ทษมากกว่าคณุ โทษท่เี หน็ ไดช้ ัดและมา ก่อนโทษข้ออ่ืนๆ คอื ขอ้ ใด ? ก. เกดิ โรคภัยไขเ้ จบ็ ข. เสยี ทรพั ย์ ค. ไมร่ ู้จักอาย ง. ก่อการทะเลาะววิ าท ๑๖. ในเรื่องอบายมขุ ทา่ นคดิ ว่าขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นโทษของการเทย่ี วกลางคนื ? ก. ทอนกาํ ลังสติปัญญา ข. มักถูกใสค่ วาม ค. เป็นที่ระแวงสงสยั ของคนอื่น ง. ได้ช่อื ว่าไมร่ กั ลกู เมยี ๑๗. สัปปรุ สิ ธรรม หมายถึง ธรรมของสตั บรุ ษุ หรือคุณสมบตั ขิ องคนดี การท่บี ุคคลรูจ้ ักเหตุ รู้กฎเกณฑ์ แห่งเหตผุ ลว่าทาํ เหตุเชน่ นแ้ี ลว้ จะได้รบั ผลเช่นน้ี จัดว่ามสี ัปปุรสิ ธรรมขอ้ ใด ? ก. ธมั มัญญุตา ข. อตั ถัญญตุ า ค. อัตตญั ญุตา ง. มัตตญั ญตุ า ๑๘. คําว่า “นา้ํ ข้นึ ให้รบี ตกั ” มคี วามหมายสอดคลอ้ งกับขอ้ ใด ? ก. กาลัญญตุ า ข. มตั ตญั ญตุ า ค. ปรสิ ญั ญตุ า ง. อัตตญั ญุตา ๑๙. ผทู้ ่ีปฏิบัตติ นตามแนวทางพระราชดําริเรอ่ื งเศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้ชื่อว่าเป็นผู้มสี ปั ปุรสิ ธรรม ๗ ข้อใด ? ก. อัตถญั ญตุ า ข. ปรสิ สญั ญุตา ค. ธมั มญั ญตุ า ง. มตั ตัญญตุ า ๒๐. “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑติ บณั ฑติ พาไปหาผล คบคนชวั่ พาตัวใหอ้ บั จน จะคบคน จงเรียนร้ดู ใู หด้ ี” คาํ กลอนน้ีตรงกับหลักสปั ปรุ ิสธรรม ๗ ข้อใด ? ก. ปรสิ ัญญุตา ข. ปุคคลปโรปรัญญุตา ค. ธัมมญั ญุตา ง. อัตตญั ญุตา Key ชุดท่ี ๓ : 14133412142444211142
๕๗ ปญั หาวชิ าการศาสนาและศลี ธรรม ชดุ ท่ี ๔ หลกั สูตรนายสิบช้นั ต้น ---------------------------------------- ๑. คนทไี่ ดร้ ับยศหรอื ตําแหน่งใดๆ แลว้ วางตนเสมอตน้ เสมอปลาย ไมเ่ ย่อหยิ่งจองหอง ชอ่ื วา่ มธี รรมของ คนดีขอ้ ใด ? ก. อัตตัญญตุ า ข. อัตถญั ญุตา ค. ธัมมญั ญตุ า ง. มัตตญั ญุตา ๒. สิบเอกองอาจ สง่างาม เข้าห้องประชมุ มคี วามองอาจกล้าหาญไมห่ วนั่ ไหวหรอื เคอะเขนิ จัดวา่ มีสปั ปรุ ิสธรรมข้อใด ? ก. ธมั มญั ญตุ า ข. อตั ตญั ญุตา ค. มัตตญั ญตุ า ง. ปรสิ ญั ญุตา ๓. พิธที าํ บญุ ในพระพทุ ธศาสนา โดยสรปุ มี ๒ อยา่ งคอื ? ก. พธิ เี กิด และ พิธที ําบุญอายุ ข. พิธขี ้นึ บา้ นใหม่ และ พธิ แี ต่งงาน ค. พิธงี านมงคล และ งานอวมงคล ง. พิธีทําบุญปัญญาสมวาร และ พธิ ที ําบุญสตมวาร ๔. การทีเ่ รานยิ มจุดเทียนกอ่ นจุดธปู บนโต๊ะหมูบ่ ชู าน้ัน อยากทราบวา่ เทียน ๒ เล่มทจ่ี ดุ นนั้ หมายถงึ อะไร ? ก. พระพุทธ และ พระธรรม ข. พระธรรม และ พระวนิ ยั ค. พระธรรม และ พระสงฆ์ ง. คณุ พระ และ คณุ บดิ ามารดา ๕. เครอ่ื งสกั การะบนโต๊ะหมู่บชู า เฉพาะธูป ใช้บชู าสงิ่ ใด ? ก. พระพุทธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. พระรัตนตรัย ๖. ดอกไม้ในแจกันท่นี ยิ มจัดถวายพระบนโต๊ะหมบู่ ูชา หรือบนหง้ิ พระ เป็นสญั ลกั ษณแ์ ทนขอ้ ใด ? ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. พระรัตนตรัย ๗. การต้งั โตะ๊ หมู่บชู า ในงานพธิ ตี า่ งๆ นิยมตัง้ ไวอ้ ย่างไร ? ก. ด้านขวามือของพระสงฆ์ ข. ดา้ นซา้ ยมอื ของพระสงฆ์ ค. นยิ มต้ังหนั หน้าไปทางทศิ ตะวันออก ง. ถูกทงั้ ขอ้ ก. และ ข้อ ค. ๘. ขอ้ ใดจัดเปน็ คาํ ขนึ้ ตน้ ของการอาราธนาพระปรติ ร ? ก. มะยัง ภนั เต วิสงุ วสิ งุ ข. วิปัตติปะฏิพาหายะ ค. พรัหมา จะ โลกา ง. อิมานิ มะยงั ภันเต ๙. คําว่า “สัพพะภะยะวินาสายะ” เป็นส่วนหนึ่งของคาํ อาราธนาอะไร ? ก. อาราธนาศีล ข. อาราธนาธรรม ค. อาราธนาพระปรติ ร ง. อาราธนาพระสงฆ์ ๑๐. เจ้าภาพจะจดุ เทียนนํา้ มนต์ เมอ่ื พระสงฆ์เจริญพระพทุ ธมนตถ์ งึ บทใด ? ก. บท ยานีธะ ภูตานิ ... ข. บท นตั ถิ เม สะระณัง ... ค. บท อิติปิ โส ภะคะวา ... ง. บท อะเสวะนา ... ๑๑. ในงานพิธีทําบุญทัว่ ไป โดยความนิยมผรู้ ่วมพธิ ีจะเร่มิ ใส่บาตร เมื่อพระสงฆส์ วดถึงบทใด ? ก. บท อะเสวะนา ... ข. บท อติ ิปิ โส ภะคะวา ... ค. บท พาหงุ ... ง. บท มะหาการุณโิ ก ... ๑๒. สมจิตถวายทานแดพ่ ระสงฆ์ โดยมิได้เจาะจงวา่ เปน็ พระสงฆร์ ปู ใดรปู หนึ่ง การกระทําของสมจติ เปน็ การ ทาํ บญุ แบบใด ? ก. สังฆทาน ข. อภัยทาน ค. ธรรมทาน ง. อามสิ ทาน
๕๘ ๑๓. การกรวดนา้ํ อทุ ศิ ส่วนบญุ นน้ั เมือ่ พระสงฆเ์ รมิ่ สวดบทอนุโมทนาบทใด เจา้ ภาพจงึ เร่ิมกรวดนํ้า ? ก. สัพพีติโย ... ข. ชะยนั โต ... ค. ยะถา วารวิ ะหา ... ง. ภะวะตุ สัพพะมังคะลงั ... ๑๔. เม่อื พระสงฆ์สวดบทอนโุ มทนาวา่ “สัพพีตโิ ย ...” เจา้ ภาพควรปฏิบัติอยา่ งไร ? ก. เริม่ กรวดน้ํา ข. เทนํ้ากรวดใหห้ มดแล้วประนมมือรับพร ค. รับประพรมนาํ้ พระพทุ ธมนต์ ง. จดุ เทยี นน้ํามนต์ ๑๕. ธูปเทียนแพ - กรวยดอกไม้ ไมใ่ ชใ้ นกรณใี ด ? ก. ขอขมาญาติผใู้ หญ่ ข. ทําวตั รอุปชั ฌาย์ ค. ถวายราชสักการะ รัชกาลท่ี ๙ ง. บชู าศพ - พระบรมรปู รัชกาลก่อน ๑๖. เคร่ืองประกอบของเคร่ืองทองน้อย ๑ ชุด ในขอ้ ใดถกู ต้อง ? ก. กรวยดอกไม้ ๓ ดอก, ธูประกํา ๓ ดอก, เทียน ๓ เล่ม ข. กรวยดอกไม้ ๓ ดอก, ธูประกาํ ๑ ดอก, เทียน ๒ เล่ม ค. กรวยดอกไม้ ๓ ดอก, ธปู ระกํา ๑ ดอก, เทยี น ๑ เลม่ ง. กรวยดอกไม้ ๓ ดอก, ธปู ระกาํ ๓ ดอก, เทียน ๑ เล่ม ๑๗. เครอ่ื งทองนอ้ ย ใช้ไม่ถกู ต้องในข้อใด ? ก. บูชาพระธาตุ ข. บูชาศพ ค. พระมหากษัตริย์ทรงธรรม ง. สักการะพระบรมฉายาลกั ษณ์ รัชกาลท่ี ๙ ๑๘. คาํ ว่า “อภวิ าท” มคี วามหมายตรงกับข้อใด ? ก. ประนมมอื ข. การไหว้ ค. การกราบ ง. การยกมือ ๑๙. การกราบศพพระสงฆ์ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง ? ก. กราบแบมือ ๑ ครัง้ ข. กราบตัง้ มอื ๑ คร้ัง ค. กราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ ๑ ครั้ง ง. กราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ ๓ คร้งั ๒๐. การตัง้ ทบี่ ูชาในพิธที างราชการ นบั จากซ้ายไปขวาของผู้หนั หนา้ ไปทางท่บี ชู า ข้อใดถกู ต้อง ? ก. โตะ๊ หม่บู ชู า ธงชาติ พระบรมฉายาลักษณ์ ข. พระบรมฉายาลักษณ์ โตะ๊ หมู่บูชา ธงชาติ ค. ธงชาติ โต๊ะหมบู่ ูชา พระบรมฉายาลกั ษณ์ ง. พระบรมฉายาลกั ษณ์ ธงชาติ โตะ๊ หมู่บูชา Key ชดุ ท่ี ๔ : 14321342343132434343
๕๙ คณะกรรมการตรวจชาํ ระตาํ รา
๖๐
๖๑
Search