Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore NutriNote-กลุ่ม2

NutriNote-กลุ่ม2

Published by Sofia Buesa, 2020-10-01 09:15:59

Description: NutriNote-กลุ่ม2

Keywords: NurtiNote

Search

Read the Text Version

กล่มุ ท่ี 2 Nutri – Note Nutrition and Dietetics จัดทำโดย 1. นำงสำวอทติ ยำ มวงงำม รหสั นักศึกษำ 6020310071 2. นำงสำวอำรยี ำ กแู ดหวำ รหัสนกั ศึกษำ 6020310072 3. นำงสำวโซเฟย บือสำ รหัสนกั ศึกษำ 6020310109 4. นำงสำวโซรัยยำ หำมะ รหสั นักศึกษำ 6020310110 5. นำงสำวนติ อฮเี รำะห นมิ ะมิง รหัสนักศกึ ษำ 6020310112

สำรบญั หนำ้ เรอ่ื ง 1 1. ชนิด/ชอื่ อำหำรทอ้ งถ่นิ 2 2. โรคไตและสมนุ ไพรทีเ่ ก่ยี วข้อง/ควำมเชื่อ 3 5 3. ชนดิ สูตรนมผงเดก็ ตำมวัย 6 4. กำรประเมนิ ภำวกำรณ์เจริญเติบโตของเดก็ 9 5. ค่ำแลปท่ีใชใ้ นกำรวนิ ิจฉยั และตดิ ตำมโรคตำ่ ง ๆ 10 6. Tool for screening and assessment 11 7. BMT ผูส้ งู อำยุ กอ่ นและหลังอำยุ 60 ปี 12 8. ไตเฉียบพลนั ( Nephrotic syndrome ) 13 9. กระดูกหักเนอ่ื งจำกกระดูกพรุน 14 10. คำนวนพลังงำนในเด็ก 14 11. สูตรอำหำรทำงกำรแพทย์ 15 12. % ของ Free water ในอำหำร 16 13. กำรคำนวณอำหำร (พลังงำนปทำงหลอดเลอื ดดำ) 17 14. กำรคำนวณอำหำรใน CAPD (กำรฟอกเลอื ดทำงชอ่ งทอ้ ง) 18 15. ปฏิสัมพนั ธ์ยำกบั อำหำร 20 16. คำศัพทท์ ำงกำรแพทย์ 30 17. ปรมิ ำณสำรสำคญั ในอำหำร 31 18. กำรตรวจ SMBG : Self-Monitoring Blood Glucose 32 19. กำรกำหนดคำรบ์ ในแต่ละมือ้ สำหรบั หญงิ ต้งั ครรภ์ (GDM) 33 20. ชนิดและยห่ี ้อของ Insulin และ action 33 21. วิธีคำนวณ IBW อยำ่ งงำ่ ย 36 22. วติ ำมิน 37 23. อำหำรแก้ Hypoglycemia ซึง่ เป็นภำวะแทรกซ้อนของเบำหวำน 38 24. รูปแบบอำหำร Ketone, DACH diet, TLC plate model 38 25. กำรคำนวณพลงั งำนอยำ่ งงำ่ ย แบง่ ตำมกิจกรรมและ BMI 26. อำหำรเบำหวำน DKA 39 39 27. % weight loss 40 28. Nutrition diagnosis term ก 29. อำหำรสำหรับผ้ปู ่วยธำลสั ซีเมยี อำ้ งองิ

1 1. ชนิด/ชือ่ อำหำรทอ้ งถ่ิน หมวดอำหำรหลัก ชื่อสำมัญ ชอ่ื ท้องถิ่น ขนมมจีน ละสอ ขา้ วผัด นาสฆิ อเเรง ขา้ วยา นาสกิ าบู โรตี โรตปี าแย ขา้ วมัน นาสมิ ีเยาะ ข้าวต้ม นาสอิ าย หมวดของหวำน/ขนม ชอ่ื สำมัญ ชอื่ ท้องถ่ิน หมึกยัดเหนียว ตปู ะสตู ง คลา้ ยขนมหม้อแกง ขนมอาเกาะ ขนมประเภทเค้ก ขนมงาแน ขนมกวน ขนมกอและห์ ข้าวเกรียบปลาสด กะโป๊ะ ขนมนาดอกไม้ ขนมบงู อ ขนมทีใ่ ช้ไข่ นาตาล ขนนุ ตีใหเ้ ข้ากนั แลว้ นาไปนึง่ ฆอเดาะ ขนมจากกะททิ ร่ี าดบนแป้งข้าวเจ้าผสมนาใบเตย ราดดว้ ยนาผงึ โหนด รอปะตแี ก คล้ายปอเป๊ยี ะทอดแตท่ าเปน็ รปู สามเหลยี่ ม ขนมซมั บซู ะ

2 2. โรคไตและสมุนไพรท่ีเก่ียวข้อง/ควำมเชือ่ ลำดบั ที่ ชอ่ื สมุนไพร โทษ หมำยเหตุ 1 ปอกะบดิ การทางานของไตลดลง 2 โสม หัวใจเต้นผิดจังหวะ เชื่อว่าทาใหห้ ายจากโรคไต 3 นาลูกยอ โพแทสเซียมในเลอื ดสงู เชอื่ ว่าบารงุ ไต 4 ชะเอมเทศ ความดันโลหิตสงู 5 หญา้ โพแทสเซยี มในเลือดสูง หนวดแมว 6 มะเฟอื ง ชกั ,มกี รดออกซาเลตไปจับกบั แคลเซียมทีไ่ ต ทาให้ ไตวายเฉยี บพลนั ได้ 7 เซยี่ งจ๊ิ มีเกลอื แรแ่ ละกรดยูรกิ มาก,บวมนา,นาท่วมปอด 8 เหด็ หลนิ จอื อาจพบอาการโรคตบั และไตวายมากขนึ 9 มะมว่ งหาว ทาใหไ้ ตขบั โพแทสเซยี มไม่ทัน หวั ใจเตน้ ผิดจังหวะ อาจถงึ ตายได้ มะนาวโห่ มกี รดออกซาเลตมาก ไปจับแคลเซยี มทไ่ี ต ทาให้ไต 10 โกฐนาเตา้ วายเฉยี บพลนั ได้ มีกรดออกซาเลตมาก ไปจับแคลเซยี มทีไ่ ต ทาให้ไต 11 ตะลงิ ปลงิ วายเฉียบพลนั ได้ มีกรดออกซาเลตมาก ไปจับแคลเซียมท่ไี ต ทาใหไ้ ต 12 ปวยเลง้ วายเฉยี บพลันได้ มกี รดออกซาเลตมาก ไปจับแคลเซยี มทีไ่ ต ทาใหไ้ ต 13 แครนเบอร่ี วายเฉียบพลันได้ มีกรดออกซาเลตมาก ไปจับแคลเซียมทไ่ี ต ทาให้ไต 14 ไครเ้ ครือ วายเฉียบพลนั ได้

3 3. ชนดิ สตู รนมผงเดก็ ตำมวยั 3.

4

5 4. กำรประเมินภำวกำรณเ์ จริญเตบิ โตของเด็ก 4. 1. กำรช่ังน้ำหนัก เด็กอายุ 0-5 ปี ใช้ความละเอียด 100 g (0.1 kg) เดก็ อายุ >5 ปี ใช้ความละเอยี ด 500 g (0.5 kg) 2. กำรวดั ควำมยำว หรือสว่ นสงู เดก็ อายุ <2 ปี ใช้เครอ่ื งวัดความยาว ความละเอียด 0.1 cm และควรใช้ผู้วดั 2 คน เด็กอายุ >2 ปี ใช้เคร่ืองวดั สว่ นสงู ความละเอียด 0.1 cm 3. กำรวัดเส้นรอบศีรษะ ขนำดเสน้ รอบศีรษะ 35 cm อำยุ 40 cm (1.5 cm/เดือน) แรกเกดิ 45 cm (0.5 cm/เดอื น) 4 เดือน 47 cm (2 cm/ปี) 50 cm (1.5 cm/ปี) 1 ปี 2 ปี 4 ปี กำรใช้กรำฟดูภำวะกำรเจรญิ เติบโตของเด็ก 1. กราฟนาหนกั ตามเกณฑ์อายุ ใช้ดูการเจรญิ เตบิ โตโดยรวม ไม่นามาใช้ประเมนิ ภาวะอ้วน 2. กราฟสว่ นสูงตามเกณฑอ์ ายุ ใช้ดูการเจรญิ เตบิ โตโดยรวมได้ดที ี่สดุ สามารถบอกภาวะการ เจรญิ เตบิ โตได้วา่ สงู หรอื เตยี 3. กราฟนาหนกั ตามเกณฑ์สว่ นสงู ใช้บอกว่าเด็กมรี ูปร่างสมสว่ น ผอม หรืออว้ น

6 5. ค่ำแลปทีใ่ ช้ในกำรวินิจฉัยและติดตำมโรคตำ่ ง ๆ 5. เกณฑก์ ำรวินิจฉยั โรคเบำหวำน - Plasma glucose >= 200 mg/dl - FBG หรอื FPG >= 126 mg/dl - OGTT >= 200 mg/dl - HbA1c >= 6.5 % (ค่าปกติ <5.7%) เกณฑ์กำรวนิ จิ ฉัยโรคควำมดันโลหิตสูง เกณฑก์ ำรวนิ ิจฉัยโรคไต

7 เกณฑ์กำรวินิจฉัย GDM

8 โรค หัวใจและหลอดเลือด ค่ำแลปเพ่มิ เติม

9 6. Tool for screening and assessment 6. Screening Tool - MST 3-5 เสย่ี งสงู (ไวกบั ผปู้ ่วยมะเร็ง) - NRT,NRS >3 เส่ยี ง - MUST 2 เส่ยี งสงู - NT/BNT >= 1 ให้ประเมินภาวะโภชนาการตอ่ - SNAQ 3 รนุ แรง (คล้าย MST) Assessment Tool ระดับ C รนุ แรง - SGA >=9 ตอ้ งไดร้ บั โภชนบาบัด (ไวกับผู้ป่วยมะเรง็ ) - PG-SGA >=11 เสย่ี งมาก - NAF 8-11 เส่ยี งตอ่ ภาวะขาดสารอาหาร (ประเมินผู้สงู อายุ) - MNA

10 7. BMT ผู้สูงอำยุ ก่อนและหลังอำยุ 60 ปี ค่ำดชั นมี วลกำย 7. การพิจารณาว่าผู้สูงอายุมีภาวะโภชนาการทีพอเหมาะหรือไม่นัน ใช้ตัวชีวัดดัชนีมวลกาย (Body Mass Index,BMI) เช่นเดียวกับวัยผู้ใหญ่ คือ ถ้าดัชนีมวลกาย < 18.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ถือว่านาหนักน้อย หรือผอมและถ้าดัชนีมวลกาย > 23.0 และ > 25.0 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ถือว่ามีภาวะนาหนักตัวเกนิ และ อว้ น สตู รคำนวณคำ่ BMI = น้ำหนักตวั (กิโลกรัม) ส่วนสงู (เมตร) 2

11 8. ไตเฉยี บพลนั ( Nephrotic syndrome ) โภชนบำบดั โรคไตในเด็ก 8. โภชนบำบัดในระยะท่ีทีปัสสำวะมำก โภชนบำบัดในระยะท่ที ปี สั สำวะนอ้ ย - โปรตีนในระยะค่า Urea และ Cr ยังไม่ - ควรจากัดโปรตนี ให้เหลือเพียง 0.2-0.5 g/BW ลดลงหรอื ลดลงไม่มาก ควรใหโ้ ปรตนี 0.5 1kg/d โดยตอ้ งใหโ้ ปรตนี คณุ ภาพ เช่น เนอื นม ไข่ g/BW 1kg/d และเมือ่ ค่าเปน็ ปกติใหเ้ พ่ิม ควรระวังอาหารทีม่ ีฟอสฟอรสั สูง เปน็ 1 g/BW 1kg/d - จากัดโซเดยี มให้เหลอื เพียง 500 - 1000 mg/d - ไม่จากดั โซเดยี มเนื่องจากมีการสญู เสีย - จากัดโปแตสเซยี มไมเ่ กิน 2 g/d โซเดยี มไป

12 9. กระดูกหกั เนอื่ งจำกกระดูกพรนุ สูตรคำนวน 0.2 x (นำ้ หนกั ตวั - อำยุ) อา้ งองิ :แนวทางเวชปฏิบตั เิ รอื่ งโรคกระดกู กพรุน แนวทำงดำ้ นโภชนำกำรเพื่อปอ้ งกนั โรคกระดูกพรนุ 1.ควรได้รับแคลเซียมและวิตามินดีจากอาหารให้เพียงพอ และการที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีจาก แสงแดดได้จึง แนะนาใหผ้ ูส้ ูงอายรุ บั แสงแดดออ่ นๆ โดยเฉพาะในชว่ งเช้าเป็นประจา ปริมำณแคลเซยี มทีแ่ นะนำใหบ้ ริโภคในแต่ละวันสำหรบั กลมุ่ อำยตุ ำ่ ง ๆ อ้างองิ :แนวทางเวชปฏิบัติเร่อื งโรคกระดกู กพรนุ

13 10. คำนวนพลังงำนในเดก็ วิธปี ระเมินควำมต้องกำรพลงั งำนในเด็ก Recommended Dietary Allowance (RDA) คานวณคา่ BEE ของทารก Schofield equations BEE = 22.1+(331.1xW)+(11.6xH) การคานวณพลงั งาน ใช้สูตร Holliday & Segar 10 กโิ ลกรมั แรก = 100 กโิ ลแคลอรี/กโิ ลกรมั /วัน 10 กโิ ลกรัมตอ่ มา = 50 กิโลแคลอร/ี กิโลกรัม/วนั นาหนกั ทเ่ี หลอื = 20 กิโลแคลอร/ี กโิ ลกรมั /วนั อา้ งองิ : Holliday & Segar EER สาหรบั เดก็ 3 ขวบ อำยุ 0-3 เดอื น 3-6 เดือน 6-12 เดอื น 13-35 เดือน TEE 89W-100+175 89W-100+56 89W-100+22 89W-100+20 อ้างองิ : General prediction WHO

14 11. สตู รอำหำรทำงกำรแพทย์ สตู ร สัดส่วนอำหำรทำงกำรแพทย์ 1,000 ml (1,000 ml) Conc. Osmolality CHO PRO FAT Ensure (kcal/ml) (mOsm/kg.H2O) g g g Pan-enteral 1.06 555 162 35 24 Peptamen 0.67 180 107 30 50 Aminoleban 1..0 375 134 43 34 Blenderla 1.0 600 154 64 17 Glucerna 1.0 355 140 38 34 Gen-DM 0.93 498 132 50 36 Neo-mune 1.0 300 136 38 34 Nepro 1.0 400 125 63 28 2.0 665 110 35 48 อา้ งอิง : หนว่ ยงานโภนาการโรงพยาบาลศริ ริ าช 12. % ของ Free water ในอำหำร ปรมิ ำณนำ้ (%) 55-60 ปริมำณน้ำในอำหำรชนดิ ตำ่ ง ๆ 50-70 74 ชนิดอำหำร 65-81 เนือหมูสด เนือววั สด 74-80 เนือไก(่ ไมม่ ีหนงั ) 90-95 เนอื ปลา 90-95 80-85 ผลไม้ กล้วย มะเขือเทศ สตอเบอร่ี ลูกแพร์ ผัก

15 ถวั่ ชนดิ ต่างๆ 74-80 มนั ฝรงั่ 80-90 แครอท 80-90 ผกั กะหลา่ อติ าลี 80-90 หน่อไมฝ้ รั่ง 90-95 กะหลา่ ปลี 90-95 กะหล่าดอก 90-95 13. กำรคำนวณอำหำร (พลังงำน) ทำงหลอดเลอื ดดำ อ้างองิ : Chapter กำรคำนวณพลังงำนในผปู้ ว่ ย วิฤติ Harris-Benendict equation เพศชำย : BEE = 66.47 + (13.8 × Kg) + [5 × hight(cm)] – (6.75 × age) เพศหญิง : BEE = 66.5 + (9.6 × Kg) + [1.8 × hight(cm)] – (4.7 × age) Irenton-Jones equqtion ผู้ปว่ ยหำยใจเอง : BEE = 629 – (11 × age) + (25×Kg) – (609 × obesity) ผูป้ ว่ ยใช้เครือ่ งชว่ ยหำยใจ : BEE = 1784 – (11 × age) + (5×Kg) – (244 × เพศ) + (239 × อบุ ัติเหตุ) + (804 × แผลไฟไหม้) โดยท่ี ความอ้วน (obesity) = นน.มากกวา่ 30% ของ IBW obesity = 1 Non-obesity = 0 , เพศชาย = 1 , เพศหญงิ = 0 , อุบัตเิ หตุ = 1 , ไมม่ อี บุ ัตเิ หตุ = 0 , ไฟไหม้ = 1 , ไม่ มไี ฟไหม้ = 0 ตวั อย่ำงกำรคำนวณ Parenteral nutrition สำหรบั ให้อำหำรทำงหลอดเลอื ดดำ ค่าเฉล่ีย Osm=(%dextrose*50)+(%amino acid*100)+2(Na mEq +K mEq +Ca mEq +Mg mEq)

16 ขนดิ สำรละลำย Osmoalrity ตวั อยำ่ ง PPN 1 liter mOsm Dextrose 6 mOsmol/gm or 10% Dextrose 500-600 50 mOsmol/% Amino acid 10 mOsmol/gm or 1.5% Amino acid 150 100 mOsmol/% Lipid 0.3 mOsmol/ml 20% Lipid 100 ml 30 NaCl 2 mOsmol/mEq 30 mEq NaCl 60 KPO4 2 mOsmol/mEq 20 mEq KPO4 40 Ca gluconate 1.4 mOsmol/mEq 10 mEq Ca gluconate 14 MgSO4 1.0 mOsmol/mEq 5 mEq MgSO4 5 14. กำรคำนวณอำหำรใน CAPD (กำรล้ำงไตทำงช่องท้อง) ควำมตอ้ งกำรพลงั งำนและสำรอำหำรของผปู้ ่วยบำบัดทดแทนไต Hemodialysis Energy Pro Na+ K+ P (ฟอกไต) (kcal/day) (g/day) (g/day) (g/day) (mg/day) Peritoneal Dialysis 600-800 (ลำ้ งไตทำงช่องทอ้ ง) 30-35 1.2 <2 2.5 Kcal/Kg 30-35 1.2-1.3 2-4 ไมจ่ ากัด 800-1000 Kcal/Kg (ยกเวน้ มีค่าสงู )

17 กำรคำนวณพลงั งำน Adults < 60 year : 35 kcal/Kg (SBW) Adults > 60 year : 30 kcal/Kg (SBW 15. ปฏิสัมพนั ธ์ยำกับอำหำร ปฏิสัมพันธ์ระหวำ่ งยำกับอำหำร ประเภทของกำรเกิดปฏกิ ิรยิ ำ ปฏกิ ริ ยิ ำทีเ่ กิด ชนดิ ของยำ/อำหำร อำหำรท่ีมีผลต่อกำรดูดซมึ ยำ อาหารท่มี ีไฟเบอร์สงู สามารถ ยาต้านซมึ เศรา้ กลมุ่ รวมตวั กบั ยาและส่งผลยบั ยงั การ tricyclic antidepressants อำหำรทีม่ ีผลต่อเมตำบอลิซึมหรือ ดดู ซมึ ของยา กำรเปลยี่ นแปลงของยำ แคลเซยี มในผลิตภัณฑน์ มจะ ยา tetracycline รวมตัวกับยาปฏิชีวนะบางชนดิ สง่ ผลลดการดูดซมึ ยา อาหารบางชนิดมผี ลตอ่ การ ผล grape fruit ใน ทางานของเอนไซมท์ ีใ่ ช้ในการ ปริมาณมากมีคุณสมบัตยิ งั เปลย่ี นแปลงยากอ่ นขบั ออกจาก ยังการทางานของเอนไซมไ์ ซ รา่ งกายหรอื อาจส่งผลต่อ โตโครมพี 450 ประสทิ ธิภาพในการออกฤทธ์ขิ อง (cytochrome P450) ยา วิตามนิ เค (ผักใบ เขียวเขม้ คะนา้ ผกั กาด

18 กะหลา่ ปลี บรอคโคลี่ ผักขม ตับสตั ว์ เนย นมถัว่ เหลือง สาหรา่ ยทะเล) มีโครงสร้าง ทางเคมเี หมือนกบั ยาวา ฟารนิ warfarinการทาน อาหารทมี่ ปี ริมาณวติ ามิน เค มาก อาจมีผลลดการ ออกฤทธ์ิของยา สมุนไพร เช่น กระเทียม ขิง โสม ใบ แป๊ะก๊วย (พบวา่ มีฤทธิ์ยงั ยงั การทางานของเกร็ดเลือด) ส่วนประกอบของอาหารบางชนิด อาหารโซเดยี มสูง อำหำรมีผลต่อกำรขบั ถ่ำยทำง มีผลเปลย่ี นแปลงการดดู ซมึ ยาก (กะปิ เต้าเจียว ซปุ ก้อน ลับท่ีไต สง่ ผลใหย้ าถกู ขับออกมา อาหารทะเล) ขณะทานยา ปสั สำวะ ทางปสั สาวะมากขนึ ยาในกระแส ลเิ ธียม (ยารักษาอาการ เลอื ดไมถ่ งึ ระดับรักษา การรกั ษา อารมณ์สองขัว) ไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพ 16. คำศัพท์ทำงกำรแพทย์ คำย่อทใี่ ชใ้ นกำรบนั ทกึ คำศพั ทเ์ ต็ม ควำมหมำย Chief Complaint ประวัติสาคัญที่มารพ. คำย่อ Present illness ประวตั ปิ ัจจบุ นั CC Past history ประวตั อิ ดีต PI Family history ประวัติทางกรรมพนั ธ์ุ PH FH

19 HPI History of present illness ประวตั ปิ ัจจุบันในเร่อื งอากา, ปัญหา PMH Past medical history ประวตั ิอดีตการรกั ษา Dx Diagnosis การวนิ ิจฉัยโรค Ddx Differential Diagnosis การวนิ ิจฉยั แยกโรค U/D Underlying disease โรคประจาตวั PE Physical Examination การตรวจร่างกาย BP Blood Pressure ความดันโลหิต HEENT Head Ear Eye Nose Throat ศรี ษะ หู ตา จมูก คอ Abd Abdomen ชอ่ งทอ้ ง Tx Treatment การรักษา I/O Intake/Outtake ปริมาณนาเข้าออกในแต่ละวนั IVF Intravenous Fluid สารนาทางหลอดเลือดดา NOP Nothing by mouth งดนางดอาหาร คำย่อทใ่ี ชใ้ นกำรวินิจฉัยโรคที่ใชใ้ นกนั ทั่ว ๆ ไป คำย่อ คำศัพทเ์ ต็ม ควำมหมำย TB Tuberculosis วัณโรค BPH Benign Prosthetic Hypertrophy ตอ่ มลกู หมากโต CA Cancer โรคมะเรง็ AGF Acute Gastroenteritis ลาไสอ้ กั เสบฉบั พลนั URI Upper respiratory Infection การติดเชือทางเดินหายใจสว่ นบน UTI Urinary Tract Infection การติดเชือทางเดนิ ปสั สาวะ AE Acute exacerbation การกาเริบฉบั พลัน HT Hypertension โรคความดันโลหติ สูง GERD Gastroesophageal reflux disease กรดไหลยอ้ น ARF Acute Renal Failure ไตวายฉบั พลัน CRF Chronic Renal Failure ไตวายเรอื รงั ESRD End Stage Renal Disease โรคไตวายเรือรังระยะสดุ ทา้ ย

20 CAPD Continuous Ambulatory การลา้ งไตทางชอ่ งทอ้ งชนดิ CRRT Peritoneal Dialysis ต่อเน่ือง CHF Continuous Renal Replacement การบาบดั ทดแทนไตอยา่ งตอ่ เน่อื ง NIDDM Therapy Congestive Heart Failure หัวใจวาย Non Insulin Dependent Diabetes เบาหวานชนิดไม่พ่ึงยาฉดี อินซลู นิ 17. ปรมิ ำรสำรสำคัญในอำหำร โพแทสเซยี ม จาแนกผกั และผลไม้เป็นกลมุ่ ตามปริมาณโพแทสเซียมในผกั และผลไม้จานวน 1 ส่วน กลุม่ ผกั ผลไมแ้ ยกตำมปรมิ ำณ ผักหรือผลไม้ 1 ส่วน โพแทสเซยี ม ปริมำณโพแทสเซียม (มิลลิกรัม) ค่ำเฉลี่ย (มลิ ลกิ รมั ) ต่า 1-100 70 ปานกลาง 101-200 150 สงู 201-300 270 ทมี่ า: ศูนยศ์ รีพฒั น์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพแทสเซียมในผลไม้ ถัว่ และผลิตภณั ฑ์จำกนม โพแทสเซียมสงู โพแทสเซยี มปำนกลำง โพแทสเซยี มต่ำ ถว่ั เมล็ดแหง้ สัปปะรด ชมพุ่ นมและผลติ ภัณฑ์จากนม ฝรงั่ แอปเปล้ิ อง่นุ เขยี ว ทเุ รียน เงาะ แตงโม กล้วย สม้ มงั คดุ ลาไย สละ

21 ลูกเกด อง่นุ สาลี่ มะเฟอื่ ง แกว้ มังกร ลินจ่ี ลกู ท้อสด บลูเบอรี่ นอ้ ยหน่า ส้มโอ เชอรี่ ลูกพีช ขนุน แคนตาลปู ราสเบอรี่ กวี ่ี มะม่วงดิบ ลองกอง สตอเบอรี่ สม้ เขียวหวาน ละมุด ท่มี า: ศนู ยศ์ รีพัฒน์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ โพแทสเซยี มในผกั โพแทสเซยี มสงู โพแทสเซียมปำนกลำง โพแทสเซยี มต่ำ แครอท ผกั หวาน มะเขอื ยาว บวบเหล่ยี ม เห็ดหหู นู มะเขือเทศ ใบกยุ ชา่ ย หัวหอมใหญ่ ฟกั เขยี ว ผกั กาดขาว ใบชะพลู เห็ดฟาง ผักบุ้งจีน กะหล่าปลี แตงกวา คะน้า ถัว่ ฟกั ยาว มะละกอดบิ ใบกระเพรา ใบบัวบก หัวปลี ผกั กะเฉด ถั่วพู ใบแมงลัก ใบชะมวง ผักชี ผกั กวางตงุ้ พรกิ หวาน กระถนิ สะตอ ถั่วงอก เห็ดฟาง สะเดา ข้าวโพดอ่อน บร็อคโคล่ี ยอดฟกั ทอง ถั่วลนั เตา คน่ื ฉาย มนั ฝร่งั เหด็ นางฟา้ ฟกั ทอง เหด็ กระดมุ เหด็ เผาะ ขีเหลก็ มะระจนี เหด็ โคน ตาลึง ชะเอม ต้นหอม ทมี่ า: ศูนยศ์ รพี ฒั น์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่

22 ฟอสฟอรสั ฟอสฟอรสั สูง ฟอสฟอรสั ปำนกลำง ฟอสฟอรสั ตำ่ > 200 มก. หรืออาหารท่ีมีปริมาณ 100- 200 ม ก . ห รื อ อ า ห า ร ท่ีมี < 100 มก. หรืออาหารท่ีมีปริมาณ ฟอสฟอรัสน้อยกว่า 15% ของ ปรมิ าณฟอสฟอรัสน้อยกวา่ 5-15% ฟอสฟอรัสน้อยกว่า 5% ของ พลงั งานท่คี วรบริโภคใน 1 วัน ของพลงั งานทีค่ วรบรโิ ภคใน 1 วัน พลังงานที่ควรบริโภคใน 1 วัน หมวดเน้ือสตั ว์ พลังงำน (กิโลแคลอร่ี) ปริมำณฟอสฟอรัส (มลิ ลกิ รมั ) 196 402 ฟอสฟอรัสสูง 327 319 ปทู ะเล (มัน) 85 236 ไขไ่ ก่ (ไข่แดง) 116 218 ปลาอนิ ทรีย์ 115 203 ปลาชอ่ น เป็ด (เนอื อก) พลังงำน (กิโลแคลอร)่ี ปรมิ ำณฟอสฟอรัส (มลิ ลกิ รัม) 169 186 ฟอสฟอรัสปำนกลำง 52 184 ไข่ไก่ทังฟอง 100 171 หอยแมลงภู่ 121 152 ไก่ (เนืออก) 376 151 ปูทะเล (เนือ) 273 150 หมุ (เนือ) 67 128 ววั (เนือตดิ มนั ) 80 128 หมกึ กลว้ ย หอยแครง พลงั งำน (กโิ ลแคลอร)่ี ปรมิ ำณฟอสฟอรสั (มิลลกิ รัม) 140 60 ฟอสฟอรสั ตำ่ 57 12 ปลาทูสด ไข่ไก่ (ไขข่ าว)

23 หมวดข้ำว แป้ง และนำ้ ตำล พลังงำน (กโิ ลแคลอร)ี่ ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลกิ รัม) - 215 ฟอสฟอรสั สูง ชีสเค้ก พลังงำน (กโิ ลแคลอร)่ี ปริมำณฟอสฟอรัส (มลิ ลิกรัม) - 200 ฟอสฟอรสั ปำนกลำง 135 126 คกุ้ กี - 120 ขา้ วโพดต้ม พลังงำน (กโิ ลแคลอร)่ี ปริมำณฟอสฟอรัส (มิลลิกรมั ) พายไสเ้ นือสตั ว์ - 95 381 92 ฟอสฟอรสั ตำ่ 324 82 เคก้ กลว้ ยหอม 512 64 99 30 ขนมเคก้ 136 29 ขนมปัง 299 12 ขนมปังเวเฟอร์ 99 10 บะหมตี่ ้ม ข้าวขาวสุก พลงั งำน (กโิ ลแคลอร)่ี ปริมำณฟอสฟอรัส (มิลลิกรมั ) ข้าวเหนยี ว 286 196 กว๋ ยเต่ยี ว 277 181 289 101 หมวดผลไม้ พลงั งำน (กิโลแคลอร่ี) ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลกิ รัม) ฟอสฟอรัสปำนกลำง 346 95.0 ลาไยแห้ง - 27.8 ลินจ่ีแห้ง ลกู เกด ฟอสฟอรัสตำ่ มะพร้าวแก่ (เนือ) มะมวงเขียวเสวย

ส้มโอขาวนาผึง 24 มะพรา้ ว (นา) มะละกอฮอลแลนด์ - 22.9 22 13.0 หมวดผัก - 10.9 ฟอสฟอรสั สงู พลังงำน (กโิ ลแคลอร)่ี ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรมั ) ผกั แพงพวย 36 300 ฟอสฟอรัสปำนกลำง พลังงำน (กิโลแคลอร)ี่ ปรมิ ำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรมั ) ใบขีเหลก็ 157 190 มะระขีนก 60 140 ผกั ชี 40 122 เหด็ 16 115 มะเขือพวง 47 110 ฟอสฟอรสั ตำ่ พลงั งำน (กโิ ลแคลอร่ี) ปริมำณฟอสฟอรัส (มลิ ลกิ รมั ) สะตอ 150 83 ผกั ขม 46 81 ผกั ชะเอม 57 80 ถั่วงอก 35 64 ถว่ั ลันเตา 57 45 ถ่ัวพู 29 36 21 33 ผักกาดขาวสกุ 21 32 ผกั บุง้ จีนตม้ 24 29 กะหล่าปลีดิบ 14 18 แตงกว่า

หมวดนม และผลิตภัณฑ์จำกนม 25 ฟอสฟอรสั สงู พลงั งำน (กโิ ลแคลอร่)ี ปริมำณฟอสฟอรัส (มิลลกิ รมั ) นมผง 486 480 336 229 นมข้นหวาน ปรมิ ำณฟอสฟอรัส (มิลลิกรมั ) ฟอสฟอรสั ต่ำ พลงั งำน (กิโลแคลอรี่) 99 ไอศกรมี 207 74 นมววั 65 48 33 43 นมถัว่ เหลอื ง - นมเปรยี ว หมวดเมล็ดธัญพืช พลังงำน (กิโลแคลอร่ี) ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรัม) 150 209 ฟอสฟอรสั สงู ถ่วั เขียวต้ม พลงั งำน (กิโลแคลอรี่) ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรัม) 376 181 ฟอสฟอรสั ปำนกลำง 130 179 ถัว่ ลิสงสุก 114 178 ถวั่ เหลอื งสกุ เต้าเจยี วขาว พลังงำน (กิโลแคลอร)ี่ ปริมำณฟอสฟอรสั (มลิ ลกิ รมั ) 105 93 ฟอสฟอรสั ตำ่ เตา้ หู้เหลอื ง หมวดเครอ่ื งปรุงรส พลงั งำน (กโิ ลแคลอรี่) ปริมำณฟอสฟอรัส (มลิ ลิกรมั ) 103 661 ฟอสฟอรัสสูง กะปิ

26 ฟอสฟอรัสปำนกลำง พลงั งำน (กิโลแคลอร่ี) ปริมำณฟอสฟอรัส (มลิ ลกิ รมั ) นาพรกิ แกงมสั มัน่ 267 153 126 125 กระเทยี ม 95 121 นาพรกิ แกงเผด็ พลังงำน (กโิ ลแคลอรี)่ ปริมำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรัม) หมวดเครื่องดืม่ 120 558 - 533 ฟอสฟอรสั สงู 287 400 เบียร์ พลงั งำน (กิโลแคลอรี)่ ปรมิ ำณฟอสฟอรสั (มิลลิกรัม) เคร่ืองดม่ื ธญั ญาหาร - 150 ช็อคโกแลตผง พลังงำน (กิโลแคลอร)่ี ปรมิ ำณฟอสฟอรสั (มลิ ลิกรัม) ฟอสฟอรสั ปำนกลำง 42 30 ผงกาแฟ 3 in 1 281 18 ฟอสฟอรัสตำ่ ผงโกโก้ รังนก โซเดียม ควำมตอ้ งกำรโซเดียม (มิลลิกรัม) เพศหญงิ เพศชำย 350-1100 อำยุ 400-1175 400-1250 9-12 500-1500 425-1275 13-15 525-1500 16-18

27 19-30 500-1475 400-1200 31-70 475-1450 400-1200 มากกวา่ 70 400-1200 350-1050 หญิงตงั ครรภ์ - เพิ่ม 50-200 หญิงให้นมบตุ ร - เพิ่ม 125-350 ความตอ้ งการสูงสุดของโซเดยี มทรี่ ่างกายได้รบั และไมท่ าให้เกดิ อนั ตราย คือ 2000 มิลลิกรมั /วนั หรอื คิดเปน็ เกลือป่านประมาณ 6 กรัม (1 ชอ้ นชา) ชนิดเครอ่ื งปรงุ รส ปรมิ ำณ ปริมำณโซเดยี ม (มิลลิกรัม) เกลอื ป่น 1 ชอ้ นชา 2000 นาปลา 1 ชอ้ นโตะ๊ 1350 ซีอ๊ิวขาว 1 ชอ้ นโต๊ะ 1190 1 ช้อนโต๊ะ 1187 ซอสถั่วเหลอื ง 1 ช้อนโต๊ะ 518 ซอสหอยนางรม 1 ชอ้ นโต๊ะ 385 1 ช้อนโตะ๊ 231 นาจมิ ไก่ 1 ชอ้ นตะ 149 ซอสพรกิ ซอสมะเขอื เทศ ที่มา: สถาบันโภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล แคลเซียม หมวดธัญพชื และผลิตภณั ฑ์ ปรมิ ำรแคลเซยี ม ชนดิ ของอาหาร ปริมาร นาหนกั /หนว่ ย มก./หนว่ ย มก./100 ก. กว๋ ยเตยี๋ ว เส้นเลก็ สด (หน่วย) (หน่วย) 12 กว๋ ยเต๋ยี ว เส้นใหญ่ สด 10 1 ช้อนโต๊ะ 6 0.72 7 ขนมจีน 22 ขนมปงั ปอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ 11 1.10 1 ชอ้ นโต๊ะ 10 0.70 1 ชอ้ นโตะ๊ 4 0.88

28 ขา้ วกล้อง หอมมะลิ 1 ช้อนโตะ๊ 12 3.24 27 ข้าวเจา้ หอมมะลิ 1 ช้อนโต๊ะ 12 0.36 3 ข้าวบารเ์ ลย์ 1 ชอ้ นโต๊ะ 12 4.92 41 ขา้ โพดเหลอื ง ตม้ 1 ชอ้ นโตะ๊ 10 1.10 11 ขา้ วโพดเหลือง ดบิ 1 ช้อนโตะ๊ 10 1.00 10 ข้าวฟ่าง 1 ช้อนโตะ๊ 12 2.88 24 ขา้ วมันปู 1 ช้อนโต๊ะ 12 2.16 18 ข้าวสาลี 1 ชอ้ นโต๊ะ 12 5.04 42 หมวดเน้ือสัตว์ ปริมำรแคลเซียม ชนดิ ของอาหาร ปรมิ าร นาหนกั /หน่วย มก./หนว่ ย มก./100 ก. ไก่ เนือ สด (หนว่ ย) (หน่วย) 0.60 4 เนอื วัว สด 0.68 4 เนือหมู สด 1 ชอ้ นโต๊ะ 15 0.34 2 ปลาทับทิม 0.90 6 ปลาทู สด 1 ช้อนโตะ๊ 17 23.80 170 ไข่ไก่ ทงั ฟอง 63.00 126 ไข่เปด็ ทงั ฟอง 1 ชอ้ นโตะ๊ 17 93.60 156 1 ชอ้ นโต๊ะ 15 1 ช้อนโต๊ะ 14 1 ฟอง 50 1 ฟอง 60 หมวดผัก ชนิดของอาหาร ปรมิ าร นาหนัก/หนว่ ย ปรมิ ำรแคลเซยี ม (หน่วย) (หนว่ ย) มก./หนว่ ย มก./100 ก. กระชาย 1 ช้อนโตะ๊ 12 กะเพราแดง, ใบ 1 ชอ้ นโต๊ะ 2 9.60 80 กะหลา่ , ดอก 1 ชอ้ นโตะ๊ 6 0.50 25 1.32 22

29 กะหล่าปลี 1 ชอ้ นโต๊ะ 4 0.20 5 ข้าวโพดอ่อน 1 ช้อนโตะ๊ 8 0.32 4 ข่าออ่ น, หวั 1 ช้อนโต๊ะ 12 0.60 5 ขิงแก่ 1 ชอ้ นโตะ๊ 12 2.16 18 ขิงออ่ น 1 ช้อนโต๊ะ 12 4.08 34 แตงกวา 1 ช้อนโตะ๊ 9 0.45 5 ถั่วงอก 1 ช้อนโต๊ะ 5 1.35 27 ถั่วฝักยาว 1 ช้อนโต๊ะ 8 3.44 43 บวบเหลย่ี ม 1 ชอ้ นโตะ๊ 9 0.45 5 หมวดผลไม้ ชนิดของอาหาร ปริมาร นาหนกั /หน่วย ปรมิ ำรแคลเซยี ม มก./หน่วย มก./100 ก. (หน่วย) (หนว่ ย) 0.52 4 กล้วยไข่ 1 ช้อนโตะ๊ 13 0.91 7 3.38 26 กล้วยนาหว้า 1 ชอ้ นโตะ๊ 13 2.90 29 0.63 7 กล้วยหอม 1 ชอ้ นโต๊ะ 13 0.30 3 3.77 29 เงาะ,โรงเรียน 1 ชอ้ นโต๊ะ 10 0.98 7 0.18 2 ชมพู่, แก้มแหมม่ 1 ช้อนโต๊ะ 9 1.44 12 1.65 11 แตงโม สุก 1 ชอ้ นโตะ๊ 10 0.24 2 ทุเรียนหมอนทอง 1 ช้อนโตะ๊ 13 น้อยหน่า 1 ช้อนโตะ๊ 14 ฝร่ัง 1 ชอ้ นโตะ๊ 9 มะละกอ สกุ 1 ชอ้ นโต๊ะ 12 มังคดุ 1 ช้อนโต๊ะ 15 ลาไย 1 ช้อนโต๊ะ 12 ท่มี า: กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ

คอเลสเตอรอล 30 ชนดิ อำหำร ปริมำณ กรมั ปรมิ ำณคอเลสเตอรอล ไก่, หน่อง หน่วย 100 (มิลลิกรมั ) ไก่, อก+หนัง 1 ชอ้ นโต๊ะ 15 100 อกไก่ ไมต่ ดิ มัน 15 ไข่ไก่ , ไข่แดง 1 ช้อนโตะ๊ 100 70 ไข่เปด็ , ไขแ่ ดง 1 ชอ้ นโตะ๊ 15 10 100 63 1 ฟอง 15 9 1 ฟอง 1250 100 188 15 1448 100 333 23 18. กำรตรวจ SMBG : Self- Monitoring Blood Glucose กำรตรวจ SMBG : Self- monitoring blood glucose กำรควบคุมระดับนำ้ ตำลในเลอื ดด้วยตวั เอง (Self-Monitoring of Blood Glucose : SMBG) เป็นกำรติดตำม กำรรักษำขณะผู้ป่วยอย่บ้ำนจำกกำรเจำะเลือดจำกปลำยนิ้วตรวจด้วยตนเอง เพ่ือตรวจหำค่ำระดับน้ำตำลใน เลือดได้ทุกเวลำที่ต้องกำร เพื่อป้องกันกำรเกิดภำวะน้ำตำลในเลือดต่ำ โดยทำกำรตรวจก่อนกำรรับประทำน อำหำร

31 ข้นั ตอนกำรตรวจ ลำ้ งมือให้สะอำดและเช็ดใหแ้ ห้ง เพ่ิมกำรไหลเวียนเลือด โดยหอ้ ยแขนข้ำงทีจ่ ะเจำะลง ประมำณ 10-15 วนิ ำที หรอื นวดคลงึ ปลำยนวิ้ ท่ีจะเจำะ ใชส้ ำลชี ุบ 70% alcohol เชด็ บริเวณผวิ หนังท่ปี ลำยนิว้ ท่จี ะเจำะ และรอให้แหง้ มักนิยมเจำะ นว้ิ กลำงหรือนำง 19. กำรกำหนดคำรบ์ ในแตล่ ะมอื้ สำหรบั หญิงตั้งครรภ์ (GDM) จากปริมาณพลงั งานและสารอาหารท่แี นะนาตอ่ วันสาหรบั หญงิ ตงั ครรภ์ ไตรมาสแรกของการตังครรภม์ ี ความตอ้ งการพลังงานเทา่ เดมิ และถ้าอยใู่ นชว่ งไตรมาสท่ี 2 และ 3 ของการตงั ครรภ์ ให้เพมิ่ อีก 300 และ 450 กโิ ล แคลอรตี ่อวนั ในแต่ละวันจะประกอบดว้ ย คารโ์ บไฮเดรต 55% โปรตนี 20 % ไขมัน 25 % โดยแบง่ ออกเป็น 3 มือหลกั และของวา่ ง 1 มือ คอื มือเชา้ : มอื เทีย่ ง: มือเยน็ : กอ่ นนอน เปน็ 2/7: 2/7: 2/7:1/7

32 กล่มุ อำหำร ไตรมำสที่ 1 ไตรมำสที่ 2 และ 3 ขา้ ว-แปง้ (ทพั พี) 6 9 ผัก (ทพั พ)ี 6 6 ผลไม้ (ส่วน) 5 6 นม (แกว้ ) 2 3 ตารางแสดงปริมาณอาหารท่ีแนะนาใหบ้ ริโภคต่อวนั สาหรบั หญิงตงั ครรภ์ 20. ชนิดและยีห่ อ้ ของ Insulin และ action อนิ ซลู นิ เป็นยาท่ีได้จากการสกดั หรือสงั เคราะห์ฮอรโ์ มนอนิ ซูลนิ เพ่อื ใช้ทดแทนในผเู้ ปน็ เบาหวานที่ไม่ สามารถผลิตอินซลู นิ ไดอ้ ย่างเพยี งพอ รวมถงึ มีการดัดแปลงใหม้ ีฤทธ์ทิ ่แี ตกต่างไปจากฮอร์โมนตามธรรมชาติเพอ่ื ให้ สะดวกในการใช้งาน เหมาะสมกับวิถีชวี ิตมากขนึ ทาให้คณุ ภาพชวี ิตของผเู้ ป็นเบาหวานที่ตอ้ งใชอ้ นิ ซลู ินดขี นึ มาก

33 21. วธิ ีคำนวณ IBW อยำ่ งง่ำย 9. นาหนกั ในอดุ มคติ (IBW) คือ นาหนักทเี่ ราควรจะเปน็ นัน่ เอง โดยมสี ูตรคานวณตามนี ชำย : IBW (kg) = สว่ นสงู (cm) - 105 หญงิ : IBW(kg) = สว่ นสงู (cm) - 110 22. วิตำมนิ 10. ชนดิ รำยละเอยี ด วิตำมนิ เอ วิตามินเอ ประกอบด้วยสาระสาคัญ 2 ชนิด ได้แก่ เรตินอล (Retinal) และแคโรทีน (Carotene) วิตามินเอมีส่วนสาคัญท่ีช่วยในการบารุงสายตา ทาให้การมองเห็นในเวลา กลางคืนดีขึน รวมถึงช่วยเสริมการสร้างกระดูกและฟัน ช่วยบารุงผิว ทาให้ผิวดูสุขภาพดี ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยจุดด่างดา และช่วยส่งเสริมภมู ิต้านทาน แหล่งที่พบ ในอำหำร เนอื สัตว์ ไขแ่ ดง ตบั นม เนย ผักและผลไม้ท่มี ีสีเขียวและสีสม้ เชน่ ตาลงึ กวางตุ้ง ผักบงุ้ คะนา้ มะมว่ งสกุ มะละกอสุก มะเขือเทศ วติ ำมินดี วิตามินดี ช่วยควบคุมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าสู่ร่างกาย ส่งเสริมการสร้าง กระดกู และฟนั ปอ้ งกันโรคกระดูกพรุนและโรคกระดูกบาง หากขาดวติ ามินดีจะทาให้ปวด เม่ือย และเสย่ี งตอ่ โรคกระดูกพรุน โดยปกตแิ ล้วรา่ งกายของเราสามารถสังเคราะห์วติ ามินดี ได้จากแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าและตอนเย็น ดังนัน จึงควรสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ อย่าง น้อยวันละ 15-20 นาที สปั ดาห์ละ 3-5 ครัง หรอื รับประทานอาหารจาพวก นม ไข่ นามนั ตับปลา หรือเนือปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า หรือจากอาหารเสริม เป็นต้น โดยจะช่วยเก็บแคลเซียมเข้ากระดูก ป้องกันโรคกระดูกบางและกระดูกพรุนได้ ปริมาณวิตามินดีท่ีร่างกายต้องการคือ วันละ 5 ไมโครกรัม และไม่ควรเกินวันละ 50 ไมโครกรัม วิตำมินอี วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระท่ีสาคัญ ช่วยชะลอการเส่ือมของเซลล์ กระตุ้นการ ทางานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และกล้ามเนือ ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า และ ออ่ นเพลีย ชว่ ยบารุงทาให้สขุ ภาพผิวเปน็ ปกติ

34 แหล่งที่พบในอำหำร นามันดอกทานตะวัน นามันมะกอก นามันเมล็ดดอกคาฝอย อลั มอนด์ เป็นตน้ ปรมิ าณทค่ี วรได้รับ ไมค่ วรเกนิ 1,000 ไมโครกรัมตอ่ วัน ชนิด รำยละเอยี ด วติ ำมินเค วิตามินเค ส่วนประกอบสาคัญในการแข็งตัวของเลือด ในเด็กที่วิตามินเคในเลือดต่า จะมี อาการเลือดออกผิดปกติ หากขาดวิตามินเคจะส่งผลให้เลือดออกง่าย หรือเลือดไหลแล้ว หยุดช้า แหล่งท่ีพบในอำหำร ผักใบเขียว มะเขือเทศ ดอกกะหล่า ไข่แดง นามันถั่ว ตับ เนือหมู เปน็ ต้น ปรมิ าณท่ีรา่ งกายควรได้รบั คอื 80 ไมโครกรัมต่อวัน วติ ำมินบี วิตำมินบี 1 ประกอบด้วยสารสาคัญ ไทอะมีน ส่วนสาคัญในการส่งเสริมการทางานของระบบประสาท วิตำมินบี 2 และกล้ามเนือ โดยเฉพาะการนากระแสประสาท ช่วยเพ่ิมการเผาผลาญสารอาหาร วิตำมินบี 3 โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต ช่วยบารุงผิว เสน้ ผม และสมอง ปอ้ งกนั โรคเหนบ็ ชา หากขาดจะ เกดิ อาการกลา้ มเนอื อ่อนแรงได้ อาการของผู้ทข่ี าดวติ ามินบี 1 คอื เหนือ่ ยงา่ ย เบ่ืออาหาร ปวดกลา้ มเนอื เปน็ ตะครวิ มีอาการเหน็บชาตามมือและเทา้ แหลง่ ทีพ่ บในอำหำร เนือหมู เมล็ดทานตะวัน ขา้ วซ้อมมอื ซึ่งจะพบมากที่เปลอื กและจมูก ของข้าว หากเป็นข้าวขัดสีจะพบปริมาณวิตามิน บี 1 น้อยกว่าข้าวซ้อมมือถึง 10 เท่า ปรมิ าณที่แนะนาให้รับประทานต่อวนั คือ 1.5 มลิ ลิกรมั ประกอบด้วยสารสาคัญ ไรโบฟลาวิน เก่ียวข้องกับการสร้างเส้นผม เล็บ และผิวหนัง เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ทังยังมีส่วนช่วยในการทางานของสายตา โดยเฉพาะบริเวณ เรตินา ของลกู ตา ถา้ ขาดวิตามนิ และแรธ่ าตุตัวนี จะทาให้เปน็ โรคปากนกกระจอกได้ แหล่งที่พบ ในอำหำร อาหารจาพวกขา้ ว ธัญพชื เนือสัตว์ ไข่ นม เครือ่ งในสัตว์ ตับ ผักใบเขยี ว โยเกิรต์ ข้าวโอ๊ต ปรมิ าณท่ีแนะนาใหร้ บั ประทานตอ่ วันคือ 1.2 มลิ ลิกรัม ประกอบด้วยสารสาคัญ ไนอาซิน หรือ ไนอาซินามายด์ ช่วยเรื่องผิวหนังแห้งเม่ือเจอ แสงแดด ถ้าขาดมากจะพบอาการท้องเสีย สมองเบลอ เกดิ อาการขหี ลงขีลมื ได้ แหล่ง

35 วติ ำมินบี 5 ทพี่ บในอำหำร ตบั เนอื สตั ว์ ขา้ วโอต๊ ถว่ั จมูกขา้ ว ยสี ต์ ผักใบเขยี ว ปรมิ าณที่ควรไดร้ ับไม่ ควรเกนิ 35 มลิ ลกิ รมั ตอ่ วนั ประกอบด้วยสารสาคัญ แพนโททินิก แอซิด ช่วยเผาผลาญสารอาหาร เสริมสร้าง ฮี โมโก ลบิน เป็น ส่ว น สาคัญของ ฮอร์โมนและสาร ส่ือประ สาทที่มีไขมันเป็น ส่วนประกอบ หากขาดวิตามินชนิดนี จะก่อให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่เท้า รวมถงึ อาการท่ีเก่ียวข้องกับระบบประสาท เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง เป็นต้น แหล่งที่พบในอำหำร เนือไก่ เนือวัว ตับ มันฝรั่ง เมล็ดทานตะวัน ปริมาณท่ีแนะนาให้ รบั ประทานตอ่ วันคือ 6 มิลลกิ รมั ตอ่ วัน ชนดิ รำยละเอียด วิตำมินบี 6 ประกอบด้วยสารสาคญั ไพริด็อกซิน จะเก่ยี วกับระบบของเสน้ ประสาท ช่วยสรา้ งเซลล์เม็ด เลือดแดง และมีส่วนช่วยในการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน ทาให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ตัวช่วยในการเปล่ียนแปลงของสารสื่อประสาทที่เก่ียวข้องกับการ นอนหลับ ความอยากอาหารและอารมณ์ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน หากขาดวิตามินบี 6 จะเกิด ภาวะซดี โลหิตจางได้ และอาจเป็นโรคหลอดเลอื ดอุดตันได้ แหล่งทีพ่ บในอำหำร เนือสตั ว์ ปลา ไก่ ตบั มนั ฝรง่ั กลว้ ย แตงโม นม ไข่แดง ขา้ วกล้อง รา ขา้ ว จมูกขา้ วสาลี ถ่ัวต่าง ๆ เมลด็ งา ปรมิ าณท่คี วรได้รบั ไม่ควรเกิน 100 มลิ ลิกรมั ต่อวนั วิตำมนิ บี 7 ประกอบด้วยสารสาคัญ ไบโอตีน จะเก่ียวกับเร่ืองผิวหนัง ถ้าขาดจะเป็นผิวหนังอักเสบ ลาไสอ้ กั เสบ แหล่งที่พบในอำหำร ดอกกะหล่า ถวั่ กลว้ ย ปลาแซลมอน ไข่ ตบั งา วติ ำมนิ บี 9 ประกอบดว้ ยสารสาคัญ โฟลิกแอซดิ จะเก่ียวข้องกบั การสร้างเม็ดเลือด หากขาดจะเปน็ โรค โลหติ จางได้ แหล่งท่ีพบในอำหำร ถั่ว ผักโขม บรอกโคลี คะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกาดหอม ปริมาณที่ ควรได้รบั ไม่ควรเกิน 1,000 ไมโครกรมั ตอ่ วัน

36 วิตำมนิ บี 12 ประกอบด้วยสารสาคัญ ไซยาโนโคบาลามนิ ช่วยให้ร่างกายนาคารโ์ บไฮเดรตและโปรตีนไป ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการทางานของระบบประสาท ช่วยป้องกนั โรคหวั ใจ หากขาดจะเกิดอาการโลหติ จางได้ มีขนาดเม็ดเลือดแดงโตกวา่ ปกติ แหล่งที่พบในอำหำร กลุ่มเนือสัตว์ นม เนย ไข่แดง โยเกิร์ต ร่างกายต้องการวันละ 2.4 ไมโครกรัม 6. วติ ำมินซี วิตามินซี เปน็ สารตา้ นอนุมลู อิสระ ชว่ ยในการดดู ซมึ ธาตุเหล็ก ส่งเสรมิ การสร้างคอลลาเจน ให้กับผิวหนังและเนือเยอ่ื ต่าง ๆ เช่น ผนงั หลอดเลอื ด ช่วยสมานแผล ทาใหผ้ ิวหนงั มีสุขภาพ ดี กระตนุ้ ระบบภูมคิ ้มุ กัน กระตนุ้ ทาใหเ้ กดิ การสรา้ งกระดกู และฟนั แหล่งท่ีพบในอำหำร ส้ม ดอกกะหล่า บรอกโคลี ผักโขม แคนตาลูป มะเขือเทศ มะละกอ มนั ฝรัง่ ฝร่ัง สับปะรด หากขาดจะเกิดอาการเลอื ดออกตามไรฟัน ซดี แผลหายยาก ปริมาณ ท่แี นะนาตอ่ วันคอื 60 มลิ ลกิ รัม แต่ไมเ่ กิน 2,000 มิลลิกรมั 23. อำหำรแก้ Hypoglycemia ซ่งึ เปน็ ภำวะแทรกซอ้ นของเบำหวำน เม่ือตรวจพบว่ามีระดับนาตาลในเลือดต่าหากผู้ป่วยสามารถกินได้ ให้กินเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมเช่น นาผลไม้ ลูกอม ขนมปังแครกเกอร์ ( นาผลไม้ 120มล., ลูกเกด 2 ช้อนโต๊ะ, ขนมปังแครกเกอร์ 4-5ชิน, นาตาลทราย 4ช้อนโต๊ะ หรือ นาผึง 1ช้อนโต๊ะ ) หรือให้เป็นสารนา 50% dextrose in water 50ml ทางหลอด เลอื ดดาbolus ให้ซาได้หากวัดระดับนาตาลซายังมีระดบั ต่าอยู่ และเมื่อ 7 มรี ะดับนาตาลท่ีดแี ล้ว จะต้องให้สารนาที่ มีdextroseไปด้วยเป็น maintenance ซึ่งจาก Tintinilli emergency medicine แนะนาให้ใช้ 10%Dextrose in water เพื่อให้มีระดับนาตาลมากกว่า 100mg/dL ซึ่งควรติดตามระดับนาตาลทุก30นาทีจนครบ 2 ชม. 13 Glucagon ในกรณีทีไ่ มส่ ามารถให้สารนาทางหลอดเลือดดาไดม้ ีการให้กลูคากอนทางชันใต้ผิวหนงั หรือ กล้ามเนอื 1 mg โดยกลูคากอนจะออกฤทธิ์ ประมาณ15นาทีหลังฉีดยา รวมถึงมีอาการข้างเคียงคืออาเจียน กลูคากอน มักใช้ รักษาภาวะนาตาลตา่ ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดท1ี่

37 24. รปู แบบอำหำร Ketone, DACH diet, TLC plate model รปู แบบอำหำร รำยละเอยี ด Ketogenic คือการกินที่เน้นไขมันสูง รองมาด้วยโปรตีน โดยลดคาร์โบไฮเดรตให้เหลือในปริมาณที่น้อย Diet มาก ๆ เพ่อื ใหร้ ่างกายนาไขมนั สะสมมาเผาผลาญเปน็ พลงั งาน โดยสดั สว่ นของประเภทอาหาร คือ ไขมันท่ีดี 70% โปรตีนทุกประเภท 25% และคาร์โบไฮเดรต 5% ของปริมาณแคลอร่ีต่อ วัน ร่างกายปกตินากลูโคสจากคาร์โบไฮเดรตมาใช้เป็นพลังงาน เม่ือมีกลูโคสน้อย จึงปรับตัว โดยนาไขมันสะสมมาเผาผลาญ และตับเปลี่ยนกรดไขมันที่ถูกย่อยเหล่านันเป็นสารคีโตน ให้ พลังงานแทน DACH diet เป็นหลักการบริโภคอาหารต้านความดันโลหิตสูงเพื่อการดูแลสุขภาพในระยะยาว ซ่ึงถูก ออกแบบมาเพื่อรักษาหรือป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง ด้วยการลดปริมาณโซเดียมในมือ อาหารให้นอ้ ยลงและรบั ประทานอาหารให้หลากหลาย โดยเน้นอาหารที่มีโภชนาการสูงและมี สรรพคุณในการลดความดันโลหิต เช่น อาหารที่ประกอบไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม และ โพแทสเซยี ม เป็นต้น กำรบริโภคอำหำรในแบบ DASH มหี ลักกำรงำ่ ย ๆ ดงั นี้ 1. รับประทานผกั ผลไม้ และอาหารท่ที าจากนมไขมนั ตา่ 2. ละเว้นการรับประทานอาหารท่ีมีไขมนั อ่ิมตัว คอเลสเตอรอล และไขมันทรานส์ในปริมาณ มาก 3. เนน้ รับประทานธัญพชื ไมข่ ัดสี ถัว่ สตั วป์ กี ปลา และเนอื สัตว์ไมต่ ิดมัน 4. จากัดปริมาณการบริโภคโซเดยี ม ขนมหวาน เครอ่ื งด่ืมผสมนาตาล และเนือแดง 5. ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือคิดว่าการบริโภคคาเฟอีนอาจมีผลต่อความดันโลหิต ต้อง ปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคอาหารท่ีมีคาเฟอีน เพราะแม้ว่า DASH Diet จะไม่ได้ห้ามบริโภค คาเฟอนี และผลกระทบของคาเฟอนี ตอ่ ภาวะความดันโลหิตนันยังไม่เป็นท่ีแน่ชัด แตค่ าเฟอีน อาจมผี ลให้ความดันโลหติ เพ่มิ ขนึ ไดช้ ั่วคราว 6. จากัดปริมาณการด่ืมแอลกอฮอล์ เพราะการด่ืมแอลกอฮอล์มากเกินพอดีมสี ่วนทาให้ความ ดันโลหิตเพ่ิมสูงขึนได้ โดยเพศชายไม่ควรเกิน 2 ดื่มมาตรฐาน/วัน และเพศหญิงไม่ควรเกนิ 1 ด่ืมมาตรฐาน/วัน ซ่ึง 1 ดื่มมาตรฐานเทียบเท่ากับเบียร์ปริมาณ 355 มิลลิลิตร หรือไวน์ 148 มลิ ลิลิตร TLC plate หลักการของ TLC นัน คือ วฏั ภาคนง่ิ จะถกู เคลอื บติดไว้ทแี่ ผน่ กระจก แผ่นอลูมิเนยี ม หรอื แผ่น model พลาสติกบาง ๆ สารจะถูกแต้มไว้ที่ใกล้ๆ ปลายด้านหน่ึงของแผ่นโดยใช้หลอดแคปิลลารี จากนันจึงนาแผ่นดังกล่าวไปวางลงในภาชนะที่ใส่วัฏภาคเคลื่อนที่ไว้ตนื ๆ เมอื่ ตัวทาละลายถูก

38 ดูดซึมขึนไปตามตัวดูดซับด้วย capillary action ก็จะพาสารตัวอย่างขึนไปด้วย จึงเกิดการ แยกของสารเกิดขึน ตัวอย่างเช่น หากใช้ซิลิกาเป็นวัฏภาคนิ่ง และใช้ตัวทาละลายท่ีมีขัวต่า เป็นวัฏภาคเคล่ือนที่ สารที่มีขัวน้อยจะละลายได้ดีในวัฏภาคเคลื่อนท่ีแต่ถูกดูดซบั ด้วยวัฏภาค น่ิงได้น้อยจึงเคลื่อนที่ไปได้ดีด้วยระยะท่ีมากกว่าสารท่ีมีขัวสูงซ่ึงละลายในวัฏภาคเคล่ือนท่ไี ด้ น้อยแต่ดูดซับบนวัฏภาคนิ่งได้ดีเนื่องจากใช้สารปริมาณนอ้ ยมากในการแยก เทคนิค TLC จึง เหมาะสมเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ มากกว่าที่จะเป็นเคร่ืองมือในการแยกสารเพ่ือเก็บแต่ละ องค์ประกอบ 25. กำรคำนวณพลงั งำนอยำ่ งง่ำย แบง่ ตำมกิจกรรมและ BMI 11. ควำมต้องกำรพลังงำนคำนวณอยำ่ งง่ำยจำกน้ำหนกั TEE BMI (kg/m2) คำนวณ (kcal/day) <30 30 – 35 kcal/kg นาหนักปัจจุบนั ขณะไมบ่ วม >35 **นน. X 30/35 = kcal/kg** 11 – 14 kcal/kg นาหนักปัจจุบนั ขณะไมบ่ วม 22 - 25 kcal/kg นาหนักจาก IBW ( 49-51 วัน) *** IBW = BMI x (สส.2)*** Ref.การดแู ลโภชนาการในผป.ผญ.ท่ีนอนรพ.60 26. อำหำรเบำหวำน DKA Diabetic ketoacidosis (DKA) เปน็ ภาวะที่ร่างกายมกี ารขาดอินซูลิน อย่างรุนแรงร่วมกบั มีฮอร์โมนท่ีออกฤทธต์ิ รงข้ามกับอินซูลิน ทาให้มีภาวะ นาตาลในเลอื ดสงู รว่ มกับภาวะกรดเมตะบอลิคจากกรดคโี ตนคั่งในรา่ งกาย โดยรูปแบบอาหารสาหรับผูป้ ่วย DKA 1) เน้นกินคาร์โบไฮเดรต คือ แนะนาให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เชน่ ขา้ วตม้ โจ๊ก นาขา้ วผสมเกลือเล็กน้อย แครกเกอร์ หรอื ขนมปัง ถา้ ไม่

39 สามารถกินอาหารอ่อนได้ แนะนาให้กินอาหารเหลว ที่มีคาร์โบไฮเดรต อยา่ งนอ้ ย 50 กรมั ทุก 3-4 ชม. เชน่ นาผลไม้หรือโยเกิรต์ ซุปข้น เปน็ ตน้ 2) ด่ืมนามากขนึ คอื ดื่มนาเปลา่ ให้เพียงพออย่างนอ้ ย 1 แกว้ ทุก 1 ชั่วโมง (สาหรับผู้ท่ีมีปญั หาโรคหัวใจหรือโรคไต ควรปรกึ ษาแพทย์เก่ยี วกับปริมาณ นาทเ่ี หมาะสม 27. % weight loss Weight loss ในทางการแพทยห์ มายถึง การลดลงของเนือเย่ือในรา่ งกายส่วนใหญ่คือเนือเย่อื เกยี่ วพันเช่น ไขมัน กล้ามเนือ และความหนาแน่นกระดูก ทังนีอาจเกิดโดยไม่ได้ตังใจ (Unintentional weight loss) กล่าวคือ เกิดจากโรค หรอื เกิดจากการตงั ใจ (Intentional weight loss) ซึง่ คอื การลดนาหนัก การอดอาหาร หรือกินยาเพื่อ การลดนาหนัก โดยสาเหตุที่ทาให้ผอมลงมักเกิดจากอาการของโรคนัน ๆ โดยอาการสาคัญท่ีทาให้ผอมลงคือ การ เบ่ืออาหาร อาการคลืน่ ไส้ อาการทอ้ ง เสยี เรือรงั และบางครงั แพทยห์ าอาการท่ีเป็นตน้ เหตไุ ม่ได้ ถ้าผอมลงโดยท่ไี ม่รู้ สาเหตุคือ นาหนักลดลงมากกว่าปกติ 5% ในระยะเวลา 6 เดือน โดยไม่ได้เกิดจากมีโรคและไม่ได้ตังใจอดอาหาร ทางการแพทยจ์ ัดวา่ เปน็ อาการผิดปกติทคี่ วรพบแพทย/์ ไปโรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุ 28. Nutrition diagnosis term การวินจิ ฉัยทางโภชนาการ (Nutrition Diagnosis) เปน็ ขนั ตอนถัดมาหลังจากการประเมนิ ภาวะโภชนาการ โดยจะเป็นการระบุปัญหาทางโภชนาการท่ีนักกาหนดอาหารสามารถแก้ปัญหานัน ๆ ได้ซึ่งจะแตกต่างจากการ วินิจฉัยของแพทย์ เพราะนักกาหนดอาหารไม่ได้มหี น้าท่ใี นการวินิจฉัยโรค นกั กาหนดอาหารก็จะตอ้ งประเมินภาวะ โภชนาการ และวินิจฉัยปัญหาทางโภชนาการ ซ่ึงคาวินิจฉัยทางโภชนาการที่เหมาะสม จะทาให้นักกาหนดอาหาร สามารถตังเป้าหมายท่ีสามารถทาได้จริง และเลือกตัวชีวัดท่ีสามารถเปรียบเทียบค่าได้ ซ่ึงจะนาไปสู่แนวทางการ แกไ้ ขปัญหา และการติดตามผลอยา่ งเหมาะสมเพ่อื ไปสู่เปา้ หมายทก่ี าหนดไว้

40 โดยรปู แบบของการเขียนคาวินิจฉยั ทางโภชนาการ จะใชร้ ูปแบบทีเ่ รยี กว่า PES Problem Etiology Signs/Symptoms ปญั หาทางโภชนาการ สาเหตุหรือปจั จยั เสย่ี งของปญั หา อาการแสดง เป็นการระบุปัญหาที่เกิด ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาทาง ตัวแปรต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลจาก หรือมีความเส่ียงที่จะเกิดขนึ โภชนาการ หรือทาให้ปัญหานัน ๆ คง การประเมินภาวะโภชนาการ ท่ี ในทางโภชนาการ อยู่จะทาให้นักกาหนดอาหารสามารถ เกี่ยวข้องหรือแสดงให้เห็นถึง วางแผนการดแู ลทางโภชนาการได้ โดย ปัญหาที่เกิดขึน รวมถึงระบุความ ดาเนนิ การแกไ้ ขทตี่ ้นเหตุ รนุ แรงของปญั หานนั ๆ ด้วย 29. อำหำรสำหรบั ธผาูป้ ลว่ัสยซธเี มำียลัส(Tซhีเมaียlassemia) เป็นโรคโลหติ จางทมี่ ีสาเหตุจากความผิดปกติทางพันธุกรรมระดบั ยนี ทาให้การ สร้างฮโี มโกบลิ (Hemoglobin; Hb) ซ่งึ เปน็ โปรตีนทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบสาคัญของเมด็ เลือดแดงผิดปกติ ส่งผลให้เม็ด เลอื ดแดงมีอายุสนั แตกงา่ ย ถกู ทาลายง่าย จัดเป็นโรคโลหิตจางทางพนั ธุกรรมท่พี บบอ่ ยทส่ี ุดในโลก อาหารที่เหมาะสมสาหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย โดยทั่วไปมักจะมีการเจริญเติบโตของร่างกายน้อยกว่าปกติ มี ภมู ิคมุ้ กนั ตา่ และความหนาแนน่ ของมวลกระดกู น้อยดังนันอาหารท่ีเหมาะสมกบั ผูป้ ว่ ยธาลสั ซเี มยี คอื 1) อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนือปลาทะเล เนือไก่ ธัญพืชต่าง ๆเช่น ถ่ัวเหลือง ถั่วเขียว ข้าวกล้อง ข้าวบาเลย์ เป็น ต้น อาหารทีมกี รดโฟลิก (Folic acid) สงู เพอ่ื ชว่ ยในการสรา้ งเม็ดเลอื ดแดง 2) อาหารที่มีแคลเซยี ม แมกนีเซียม และวิตามินดีสูงเพอื่ ป้องกันภาวะกระดูกพรนุ เช่น ผลิตภัณฑ์นม ใบย่านาง ใบ ชะพลู เปน็ ต้น 3) ผลไม้ ไดแ้ ก่ สม้ เขียวหวาน มะขามหวาน มะม่วงแก้วสุก นอกจากนคี วรรับประทานอาหารทีม่ ีวิตามินเอ วติ ามินอี และวติ ามนิ ซีสงู เพื่อชว่ ยลดภาวะการเกิดอนุมูลอิสระในรา่ งกายจากการทีเ่ มด็ เลอื ดแดงแตกง่าย อาหารทคี่ วรหลีกเล่ียงสาหรับผู้ปว่ ยโรคธาลัสซีเมีย ผูป้ ว่ ยธาลสั ซีเมียท่ีมีความรนุ แรงของโรคมากและปานกลางควร หลีกเล่ียงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น หอยชนิดต่าง ๆ สัตว์ท่ีมีเนือแดงเช่น เนือวัว เนือหมู ผลิตภัณฑ์จากเลือด เคร่ืองในสัตว์ เมล็ดฟักทอง งาขาว งาดา ดาร์กช็อกโกแลต ผักกูด ผักกะเพาแดง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างย่ิง ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Heme iron food) ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารดังกล่าวได้ดีกว่าธาตุเหล็กที่ พบในพืชต่างๆ (Non-heme iron food) และไม่รับประทานพชื ที่มีธาตุเหล็กสูงร่วมกับอาหารที่เพิม่ การดูดซึมธาตุ เหลก็ จากพืชต่างๆ ได้แก่ อาหารทมี่ ีวติ ามินซสี ูง

ก อ้ำงองิ พ.ญ.รพพี ร โรจนแ์ สงเรอื ง. มปป. ภำวะนำ้ ตำลในเลือดสงู ชนิด Diabetic ketoacidosis (ออนไลน)์ . สืบคน้ จาก: http://www.errama.com/system/spaw2/uploads/files/Diabetic%20ketoacidosis.pdf [29-09-63] พญ.ณัฐกานต์ มยรุ ะสาคร. 2563. ภำวะฉุกเฉนิ DKA (Diabetic ketoacidosis) หนึ่งในภำวะแทรกซ้อนของ โรคเบำหวำนท่ีควรระวัง (ออนไลน)์ . สืบค้นจาก: https://www.praram9.com/articles/dka-diabetic- ketoacidosis/ [29-09-63] Thai Health. 2561. ผอมลง น้ำหนักลด (Weight loss) (ออนไลน)์ . สืบค้นจาก: https://s3.amazonaws.com/thai- health/%E0%B8%9C%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%87-%E0%B8%99- %E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%94- weight-loss [29-09-63] ภญ. ศยามล สขุ ขา. 2559. ผลแลปเลอื ดกบั โรคไตเรอื้ รงั (ออนไลน์). สบื คน้ จาก: https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article [29-09-63] นพ.ธรรมพจน์ จีรากรภาสวฒั น.์ 2016. โรคเบำหวำนขณะตงั้ ครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus) (ออนไลน)์ . สืบค้นจาก: https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index.php?opti [29-09-63] สานักโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข. 2558. คมู่ อื แนวทำงกำรดำเนนิ งำนสง่ เสริมสุขภำพดำ้ น โภชนำกำรในคลินิกสขุ ภำพเด็กดี สำหรับบุคลำกรสำธำรณสุข (ออนไลน์). สบื คน้ จาก: http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/file/.pdf [29-09-63] พญ.ณัฐพร ทศั นกจิ พาณชิ ย.์ 2017. กำรเจริญเติบโตปกตใิ นเดก็ และกำรประเมนิ (ออนไลน)์ . สบื ค้นจาก: https://meded.psu.ac.th/binlaApp/class05/388_551/Normalgrowthinchildren/index4.ht [29-09-63] ศ.นพ.เกรียงศักดิ์ วารแี สงทพิ ย์. 2018. อยำ่ หลงเชอื่ สมุนไพรรกั ษำโรคไต แพทยเ์ ตือนอันตรำยถงึ ชวี ติ (ออนไลน์). สบื ค้นจาก: https://www.hfocus.org/content/2018/08/16248 [29-09-63]

ข ปตั ตานีบ้านฉัน. 2560. ขนมพนื้ บ้ำนชำวไทยมสุ ลิม จ.ชำยแดนภำคใต้ (ออนไลน์). สบื คน้ จาก: https://yala- patani-naratiwat.blogspot.com/2017/05/blog-post_73.html [29-09-63] ฐนิต วินจิ จะกูล. 2559. Nutrition Diagnosis กำรวินิจฉัยทำงโภชนำกำร (ออนไลน์). สบื คน้ จาก: http://sheacademy.in.th/?p=529#:~:text=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8% A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8% A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%8A%E0%B8% 99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%20(Nutrition,%E0%B9%80%E0%B8 %9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8 %9A%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8 %A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9 %88 [29-09-63] นนั ทิยา มงคลลาภ. มปป. Hypoglycemia : Update for Emergency Management in Diabetes mellitustype2patients (ออนไลน์). สืบคน้ จาก: http://www.errama.com/system/spaw2/uploads/files/CasereportUpdate [29-09-63] พบแพทย์. 2016. DASH Diet อำหำรตำ้ นควำมดันกบั หลักกำรบริโภค (ออนไลน์). สืบค้นจาก: https://www.pobpad.com/dash-diet [29-09-63] โรงพยาบาลสมิตเิ วช. 2562. Ketone Diet(ออนไลน์). สืบคน้ จาก: https://www.samitivejhospitals.com/th [29-09-63] เศรษฐวัฒก์ เศรษฐเสถียร. 2012. Nutrition in Pregnancy (ออนไลน์). สืบค้นจาก: https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index. [29-09-63] สานกั โภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสขุ . 2558. คมู่ ือแนวทำงกำรดำเนินงำนสง่ เสรมิ สขุ ภำพดำ้ น โภชนำกำร ในคลนิ ิกฝำกครรภ์ สำหรับบคุ ลำกรสำธำรณสุข (ออนไลน์). สบื คน้ จาก: http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/file/.pdf [29-09-63]

ค เอม็ ดบั บลวิ เวลเนส. 2020. วติ ำมนิ ท่ีจำเป็นต่อรำ่ งกำย (ออนไลน์). สืบค้นจาก: https://mw-wellness.com/health/6364 [29-09-63] Diet for Healthy Life by Dietitian. 2553. BMI และ IBW (ออนไลน์). สืบคน้ จาก: http://healthy-diet-by- dietitian.blogspot.com/2010/02/1.html [29-09-63] Sheacademy. 2016. อนิ ซลู ิน (ออนไลน์). สบื ค้นจาก: http://sheacademy.in.th/?p=583 [29-09-63] สานกั พัฒนาวชิ าการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ . 2558. แนวทำงเวชปฏิบัติเร่อื งโรคกระดกู พรุน (ออนไลน)์ . สืบค้นจาก: http://www.imrta.dms.moph.go.th/imrta/images/pdf_cpg/2548/15.pdf [20-09-63] กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2560. สตู รคำนวณสำหรบั ประเมนิ สภำวะโภชนำกำร (ออนไลน)์ . สืบคน้ จาก : https://www.eatsmartly.net/Files/Name2/CONTENT1189556878153.pdf [20-09-63] Chapter การตรวจเอกสาร. 2558. นำ้ ในอำหำร (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : http://www.lib.kps.ku.ac.th/SpecialProject/Food_Engineering/2541/Bs/WasunDc/chapter2.p df [20-09-63]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook