1 รายงานการวเิ คราะห์ผู้เรียนรายบคุ คล (CAR1) ภาคเรียนท่ี 2/2563 โรงเรยี นโคกสงู ประชาสรรพ์ โดย นางสาวสุมาลี อุปชัย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นโคกสงู ประชาสรรพ์ อาเภอนา้ พอง จงั หวัดขอนแก่น องค์การบริหารส่วนจังหวดั ขอนแก่น
-ก - 2 บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นโคกสูงประชาสรรพ์ อาเภอนา้ พอง จังหวดั ขอนแก่น ที่ ขก ๕๑๐๐๖.๑๑/ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๔ เรอ่ื ง รายงานการวเิ คราะห์ผู้เรยี นรายบุคคล (CAR1) ภาคเรยี นท่ี 2/2563 เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนโคกสูงประชาสรรพ์ ดว้ ยขา้ พเจ้า นางสาวสมุ าลี อปุ ชัย ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโคกสงู ประชาสรรพ์ ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏิบัตหิ นา้ ครูทปี่ รึกษาระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ประจาปกี ารศึกษา 2/2563 จานวน 18 คน ในการวางแผนจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่มคี ุณภาพและช่วยเหลอื ผู้เรียนน้ันครผู ้สู อนตอ้ งจัดทาการ วเิ คราะห์ผู้เรียนเพื่อให้ทราบสภาพปจั จุบนั ปญั หาอุปสรรคและความสามารถของผู้เรียนดังนน้ั ขา้ พเจา้ จงึ รายงาน ผลการวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นรายบุคล ดงั เอกสารท่ีแนบมาพรอ้ มนี้ จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ (ลงชื่อ)…………………………………..………….. (นางสาวสมุ าลี อปุ ชยั ) ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ ความเหน็ หัวหน้าฝา่ ยวิชาการ ความเห็นผอู้ านวยการโรงเรยี น .................................................................................. ................................................................................... ..................................................................................... ................................................................................... ลงชอ่ื ลงช่ือ (นายธนู ศิริจันทพนั ธุ์) (นายชิตพล สุวรรณผา) ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ รองผอู้ านวยการ รักษาราชการแทน ................/................/................... ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกสงู ประชาสรรพ์ ................/................/...................
-ข - 3 คานา การวิเคราะหผ์ ู้เรยี น เพ่ือศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล มีความสาคัญและจาเป็น จะช่วยให้ครูผู้สอน ได้รู้จัก ผู้เรียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม โดยการกาหนดความต้องการที่จะใช้ข้อมูลเก่ียวกับตัวผู้เรียน เป็นข้อมูล สารสนเทศพ้ืนฐานนาไปสู่การวางแผนการเรียนรู้ หรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะในเร่ือง ความสามารถ ทักษะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลากหลาย เพ่ือให้ได้ข้อมูล เก่ียวกับตัวผู้เรียน เช่น การสอบถาม การให้ทาแบบทดสอบ การรวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานการเรียนรู้ แล้วนามา วิเคราะห์เป็นรายบุคคล โดยจาแนกให้เห็นองค์รวมของผู้เรียนในแต่ละด้าน กาหนดเกณฑ์การจาแนกคุณภาพ ผู้เรียน และสรุปจัดกลุ่มผู้เรียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถนาไปใช้ประโยชน์เพื่อนาไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีการพัฒนาได้อย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพของแต่ละบุคคลและมีความสุข พัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เร่ิมต้นค้นวิเคราะห์ ที่ครูและผู้เก่ียวข้องสามารถนาไป วางแผนในการพัฒนาผู้เรียนด้านต่าง ๆ ได้ต่อไป และช่วยให้ครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหา ความรู้ พฒั นาตนเอง คดิ เอง ปฏบิ ตั ิเอง เพอ่ื นาไปสกู่ ารสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ลงช่อื .......... ............................. (นางสาวสุมาลี อุปชัย)
-ค - 4 สารบญั ที่ เรือ่ ง หน้า บันทกึ ข้อความ ก คานา ข สารบญั ค 5 1 บทนา... ....................................................................................................................................... 7 2 วิธีดาเนินการ............................................................................................................................... 8 3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู .................................................................................................................. 14 4 สรุปผลและข้อเสนอแนะ...................................................................................................... 16 5 บทเรียนท่ไี ดร้ บั จากการดาเนินการ...............................................................................................
5 ตอนท่ี 1 บทนา แนวคิดและเหตผุ ล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ..ศ. 2542 ท่ีระบุไว้ว่า“มาตรา 22” การจัดการศึกษาต้องยึด หลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญมากที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องสง่ เสริมให้ผเู้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติ และเต็มตามศกั ยภาพ การวิเคราะห์ผู้เรียน เพ่ือศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล จึงมีความสาคัญมาก ประโยชน์ของการวิเคราะห์ ผู้เรียน คือการนาข้อมูลไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีการพัฒนาได้อย่างเหมาะสมตาม ศักยภาพของแต่ละบุคคล และมีความสุข ครูผู้สอนจึงมีบทบาทสาคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ ส่งเสริมให้ นกั เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ พฒั นาตนเอง คิดเอง ปฏิบตั เิ อง เพ่อื นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ผู้ศึกษาได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีครูที่ปรึกษานักเรียน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 18 คน ได้ดาเนินการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลที่ได้มอบหมายในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เพื่อให้ทราบข้อมูลพ้ืนฐานของผู้เรียนเพ่ือนาไปวางแผนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ เหมาะสมและมีประสิทธภิ าพ ซ่งึ เป็นไปตามมาตรฐานคณุ ภาพของครทู ก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนดไว้ ในด้านการ จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างมีประสิทธิภาพไว้ว่าในการปฏิบัติงานสอนน้ันครูจะต้องทา กจิ กรรม 7 กจิ กรรม คือ 1. การวเิ คราะห์หลกั สตู ร 2. การวิเคราะหผ์ ้เู รียนเป็นรายบคุ คล 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 4. การใช้เทคโนโลยีเปน็ แหล่งและส่อื การเรยี นรู้ของตนเองและนักเรยี น 5. การวัดผลและประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ อย่างรอบด้าน เน้นองค์รวมและเนน้ พฒั นาการ 6. การใชผ้ ลการประเมินเพ่ือแก้ไขปรบั ปรุง และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน เพอื่ พัฒนาผเู้ รียน ให้เตม็ ศักยภาพ 7. การใช้การวจิ ัยปฏบิ ัตกิ ารในการพฒั นานวัตกรรม เพ่ือพัฒนาการเรยี นรขู้ องนักเรียนและการสอน ของตนเอง จากมาตรฐานดงั กล่าว ครูจึงต้องวเิ คราะห์ผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล เพื่อทจ่ี ะวางแผนการจัดการเรียนรู้ให้ เหมาะสมกับผ้เู รียน คาถามที่อยากรู้ 1.นกั เรียนแต่ละคนมีลักษณะสาคญั อยา่ งไร 2.นกั เรยี นแตล่ ะคนมีจดุ อ่อน จดุ ดอ้ ยจุดท่คี วรพัฒนาและจุดทค่ี วรปรับปรุงแก้ไขในเรอ่ื งใดบา้ ง 3.ครคู วรออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยา่ งไรใหส้ ามารถพฒั นาคุณภาพของผเู้ รยี นรายบคุ คล ไดส้ อดคลอ้ งตามสภาพปญั หาของแตล่ ะบุคคล
6 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือศึกษารจู้ ักผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล วเิ คราะหแ์ ยกแยะความพร้อมของผเู้ รียนรายบุคคล ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี นโคกสูงประชาสรรพ์ ปกี ารศึกษา 2563 2. เพอ่ื หาแนวทางการออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกับความสามารถของผู้รายบุคคลให้ สามารถพฒั นาตามธรรมชาติของแตล่ ะบคุ คลเตม็ ตามศักยภาพ และหาทางช่วยเหลอื ผูเ้ รยี นทีม่ ีข้อบกพร่องใหม้ ี ความพร้อมทดี่ ีข้ึน ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ 1.ได้ข้อมลู พ้นื ฐานของนักเรียนระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโคกสงู ประชาสรรพ์ ปีการศึกษา 2563 2.ไดข้ ้อมูลในการพฒั นาและปรับปรุงนักเรยี น ในระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนโคกสงู ประชาสรรพ์ 3.ไดแ้ นวทางการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ตอบสนองความแตกตา่ งระหว่างบุคคลในการจดั การ เรียนรทู้ ี่มปี ระสทิ ธภิ าพและเหมาะสมตามจดุ เน้นคุณภาพผู้เรียน
7 ตอนท่ี 2 วธิ ีดาเนนิ การ กล่มุ เป้าหมาย กลุ่มเปา้ หมายทใี่ ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ไดแ้ ก่ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 โรงเรียนโคกสงู ประชาสรรพ์ จานวน 18 คน การเก็บรวบรวมข้อมลู การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ประกอบด้วย 1.ภมู หิ ลังทางครอบครัว 2.ผลการเรียนร้ตู ามหลกั สูตร 3.พัฒนาการด้านรา่ งกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา คา่ นยิ ม 4.ความสนใจ ความถนดั ศักยภาพ และความต้องการทจี่ าเปน็ 5.ปัญหา/ข้อจากดั เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ประกอบด้วย แบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์ขอ้ มลู รายบุคคล แบบ กรอกขอ้ มลู รายบุคคล การสังเกตนักเรยี น แบบประเมินการอ่าน เขียน พูด และฟงั การพบปะพูดคยุ
8 ตอนที่ 3 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูลผเู้ รยี นรายบคุ คล นักเรยี นระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 จานวน 18 คน โดยวเิ คราะห์ตามประเด็นการวเิ คราะหผ์ ้เู รยี น นาเสนอตามลาดับ ดงั น้ี ผลการวิเคราะห์ 1. ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ด้านครอบครัว ตาราง 1 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านภูมหิ ลงั ของครอบครัว ขอ้ มูล รายการ จานวน (คน) ร้อยละ 1. สถานภาพบิดา-มารดา 1.1 อยูร่ ว่ มกัน 4 22.22 1.2 หยา่ ร้าง -- 1.3 แยกกนั อยู่ 14 77.78 1.4 ถงึ แก่กรรม (บิดา/มารดา) - - 1.5 อยู่รว่ มกบั บุคคลอื่น -- 2. ท่พี กั ของนักเรียน 2.1 บา้ นพักของตนเอง 17 94.44 2.2 หอพัก/บา้ นเช่า 1 5.55 2.3 บ้านญาติ -- 2.4 อืน่ ๆ -- 3. อาชพี ของผปู้ กครอง 3.1 เกษตรกรรม 6 33.33 3.2 รบั ราชการ -- 3.3ค้าขาย 3 16.67 3.4รับจ้างทัว่ ไป 9 50.00 3.5 อืน่ ๆ -- จากตาราง 1 พบว่า สถานภาพบิดา- มารดา อันดับที่ 1 แยกกันอยู่ ร้อยละ 77.78 อันดับท่ี 2 อยู่ ด้วยกัน (บิดา/มารดา) ร้อยละ 22.22 ที่พักของนักเรียน อันดับท่ี 1 บ้านพักของตนเอง ร้อยละ 94.44 อันดับท่ี 2 หอพัก/บ้านเช่า ร้อยละ 5.55 อาชีพของผู้ปกครอง อันดับที่ 1 รับจ้างท่ัวไป ร้อยละ50.00 อันดับที่ 2 เกษตรกรรม ร้อยละ 33.33 อนั ดับที่ 3 คา้ ขาย ร้อยละ 16.67
9 2.ผลการวิเคราะห์นา้ หนัก/ส่วนสูง ผลการวเิ คราะหน์ า้ หนักสว่ นสูง ปรากฏวา่ นักเรียนสมส่วน จานวน 17 คน เรม่ิ อ้วน จานวน 1 คน ท้วม จานวน - คน คอ่ นข้างผอม - จานวน คน อ้วน จานวน - คนนกั เรยี นผอมจานวน - คน จากการวิเคราะห์ระบบการรับรู้ด้านสายตาปรากฏว่า นักเรียนมีสายตาปกติ จานวน 18 คน นักเรียนมีสายตาสั้น จานวน - คน และนักเรียนสายตายาวจานวน - คน ตาบอดสีจานวน - คน และสารวจความต้องการความชว่ ยเหลอื ดา้ นสายตา ปรากฏว่า -ไม่ม-ี จากการวเิ คราะหร์ ะบบการรับรดู้ ้านหู ปรากฏว่านกั เรียนมีระบบการได้ของหูปกติ จานวน 18 คน นักเรยี นหหู นวก จานวน - คน และมปี ัญหาอ่นื ๆ จานวน - คน และความต้องการความชว่ ยเหลือด้านหู คอื - ไม่มี - 3. ผลการวเิ คราะห์โรคประจาตัว ตารางที่ 2 แสดงผลการวเิ คราะหโ์ รคประจาตัวนักเรียนระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรคประจาตัวนักเรยี น จานวน(คน) ร้อยละ 1. หวั ใจ -- 2.ไตวาย -- 3.เบาหวาน -- 4.กระเพาะอาหาร -- 5. ไมเกรน -- 6. ภูมิแพ้ -- 7. อน่ื ๆ - - 4.ผลการวิเคราะห์รายวิชาท่ีนกั เรียนชอบเรียนมากทส่ี ดุ ในระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ตารางที่ 3 แสดงผลการวิเคราะห์วชิ าทน่ี ักเรียนชอบระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ลาดับท่ี ชอ่ื วิชา จานวน(คน) รอ้ ยละ 1 พลศกึ ษา 8 44.44 2 ดนตรี นาฏศลิ ป์ 5 27.78 3 คอมพิวเตอร์ 5 27.78 4 จากตารางที่ 3 พบวา่ วชิ าท่ีนักเรียนชอบ อนั ดับท่ี 1 คือ พลศกึ ษา รอ้ ยละ 44.44 อันดบั ที่ 2 คือ ดนตรี นาฏศิลปแ์ ละคอมพวิ เตอร์ รอ้ ยละ 27.78
10 5.ผลการวเิ คราะห์ความสามารถพเิ ศษของนกั เรยี นระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ตารางที่ 4แสดงความสามารถพเิ ศษของนักเรียนระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ลาดบั ท่ี ความสามารถพเิ ศษด้าน จานวน(คน) ร้อยละ 1 เล่นดนตรี 5 27.78 2 เลน่ ฟตุ บอล 8 44.44 3 รอ้ งเพลง 2 11.11 4 วาดภาพ 1 5.56 5 ฟอ้ นรา 2 11.11 จากตารางที่ 4 พบวา่ ความสามารถของนักเรียน อันดับท่ี 1 คือ เล่นฟุตบอล ร้อยละ 44.44 อันดบั ท่ี 2 คอื เล่นดนตรี รอ้ ยละ 27.78 อันดับที่ 3 คือ ร้องเพลงและฟ้อนรา ร้อยละ 11.11 และอันดบั ท่ี 4 คอื วาดภาพ รอ้ ยละ 5.56 6.ผลการวเิ คราะห์อาชีพท่ีนักเรียนใฝฝ่ นั ตารางที่ 5 แสดงผลการวเิ คราะหอ์ าชีพท่ีนักเรียนใฝฝ่ ันอยากเปน็ มากที่สดุ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ลาดับที่ อาชีพทีน่ กั เรยี นใฝ่ฝัน จานวน(คน) รอ้ ยละ 1 นกั ฟตุ บอลอาชีพ 6 33.33 2 ครู 5 27.78 3 เกษตรกร 7 38.89 จากตารางท่ี 5 พบว่า อาชพี ที่นกั เรยี นใฝ่ฝันอยากเป็นมากท่สี ดุ เป็นอนั ดับท่ี 1 คือ เกษตรกร รอ้ ยละ 38.89 อนั ดบั ที่ 2 คือ นักฟุตบอลอาชีพ ร้อยละ 33.33 และอนั ดับท่ี 3 คือ ครู ร้อยละ 27.78 7. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลดา้ นผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ตารางที่ 6 แสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นGPAภาคเรียนท่ี2 ปีการศึกษา 2563 ชน้ั /หอ้ ง ระดับผลการเรียนเฉลยี่ (GPA) 1.00-1.99 2.00-2.99 3.00-4.00 จานวน(คน) ร้อยละ จานวน(คน) ร้อยละ จานวน(คน) รอ้ ยละ 10 55.55 3 16.67 5 27.78 รวม 10 55.55 3 16.67 5 27.78 จากตารางที่ 6 พบวา่ ผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 อนั ดับท่ี 1 คือ ระดับ 1.00-1.99 จานวน 10 คน ร้อยละ 55.55 อันดับที่ 2 คือ ระดบั 3.00-4.00 จานวน 5 คน ร้อยละ 27.78 และ อันดบั ท่ี 3 คือ ระดบั 2.00-2.99 จานวน 3 คน รอ้ ยละ 16.67
11 8.ผลการวิเคราะห์ความต้องการให้ครจู ดั กระบวนการเรียนรู้ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ตารางท่ี 7 แสดงการวิเคราะห์ความตอ้ งการให้ครูจดั กระบวนการเรยี นรู้นกั เรยี นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 อนั ดบั ที่ กระบวนการเรยี นรู้ จานวนนักเรียน(คน) รอ้ ยละ 1 Active Learning 9 50.00 2 สบื เสาะ , สืบคน้ , คน้ คว้า 6 33.33 3 โครงงาน 3 16.66 จากตารางที่8 พบวา่ ความต้องการให้ครจู ดั กระบวนการเรียนรู้ อันดับท่ี 1 คือ แบบ Active Learning จานวน 9 คน รอ้ ยละ 50.00 อันดับที่ 2 คือ แบบสืบเสาะ , สบื คน้ ,คน้ คว้า จานวน 6 คน รอ้ ยละ 33.33 และ อันดับที่ 3 คือ แบบโครงงาน จานวน 3 คน ร้อยละ 16.66 9.ผลการวเิ คราะห์ผเู้ รยี นรายบุคคลระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ตารางท่ี 9 แสดงผลการวิเคราะห์ผ้เู รียนรายบุคคลระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ดา้ น รายการวเิ คราะห์ผเู้ รียน ดี ปานกลาง ปรบั ปรุงแก้ไข จานวน ร้อยละ ท่ี จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ 2 11.11 1 ด้านความรู้ ความสามารถ และ 2 11.11 ประสบการณ์ทางภาษา 7 38.89 7 38.89 1) ความรพู้ ้นื ฐาน 8 44.44 8 44.44 2 11.11 3 16.67 2) ความสามารถในการแก้ปัญหา 10 55.56 6 33.33 3 16.67 3) ความสนใจและสมาธิในการเรยี น 8 44.44 3 16.67 20.64 4) ความสามารถในการฟงั 8 44.44 3 16.67 7 38.89 00 5) ความสามารถในการพูด 10 55.56 6 33.33 7 38.89 6) ความสามารถในการอ่าน 15 83.33 0 0 25.93 7) ความสามารถในการเขยี นฯ 13 72.22 2 11.11 รวมด้านที่ 1 57.14 22.22 2 ความพร้อมดา้ นสติปัญญา 1) ความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 8 44.44 3 16.67 2) ความมีเหตุผล 18 100.00 0 0 3) ความสามารถในการเรยี นรู้ 8 44.44 3 16.67 รวมด้านที่ 2 62.96 11.11
12 ตารางท่ี 9(ต่อ) ดี ปานกลาง ปรับปรงุ แก้ไข ด้าน รายการวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ท่ี 10 55.56 3 16.67 5 27.78 3 ความพรอ้ มด้านพฤติกรรม 18 100.00 0 0 0 0 1) การแสดงออก 12 66.67 3 16.67 3 16.67 2) การควบคมุ อารมณ์ 12 66.67 3 16.67 3 16.67 3) ความมงุ่ มน่ั อดทน ขยนั หม่ันเพยี ร 4) ความรบั ผดิ ชอบ 72.23 12.50 15.28 รวมดา้ นที่ 3 18 100.00 0 0 0 0 4 ความพร้อมด้านรา่ งกายและจิตใจ 1) สุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์ 18 100.00 0 0 0 0 2) การเจรญิ เตบิ โตตามวัย 3) ความสมบูรณท์ างดา้ นสขุ ภาพจติ 17 94.44 0 0 1 5.56 รวมดา้ นที่ 4 98.15 0.00 1.85 5 ความพรอ้ มทางสงั คม 1) การปรับตัวเข้ากับผู้อ่นื 18 100.00 0 0 0 0 2) การเสยี สละ ไม่เห็นแกต่ ัว 13 72.22 5 27.78 0 0 3) มรี ะเบียบวินยั เคารพกติกา 13 72.22 5 27.78 0 0 รวมดา้ นท่ี 5 0.00 รวมท้ังสิ้น 81.48 18.52 จากตารางท่ี 9 พบวา่ นกั เรยี นมีวามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทางภาษาอยู่ในระดับ ดี ร้อยละ 57.14 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 22.22 และต้องปรับปรุงแก้ไข ร้อยละ 20.64 ความพร้อมด้านสติปัญญา อยู่ใน ระดบั ดี ร้อยละ 62.96 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 11.11 และต้องปรับปรุงแก้ไข ร้อยละ 25.93 ความพร้อม ด้านพฤติกรรม อยู่ในระดับดี ร้อยละ 72.23 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 12.50 และต้องปรับปรุงแก้ไข ร้อยละ 15.28 ความพร้อมด้านร่ากาย จิตใจ อยู่ในระดับดี ร้อยละ 98.15 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 0.00 และต้องปรับปรุงแก้ไข ร้อยละ 1.85 และความพร้อมด้านสังคม อยู่ในระดับดี ร้อยละ 81.48 อยู่ในปาน กลาง รอ้ ยละ 18.52 และตอ้ งปรับปรงุ แก้ไข รอ้ ยละ 0.00
10.ผลการวิเคราะห์ความปกติ – พิการของนักเรยี นระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 13 ตารางท่ี 10 แสดงผลการวิเคราะห์ความปกติ – พกิ ารของนักเรยี นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 รอ้ ยละ - ประเภท จานวน - - 1. บุคคลทมี่ ีความบกพร่องทางการเห็น - - - 2. บคุ คลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน - - - 3. บคุ คลที่มคี วามบกพร่องทางสติปัญญา - - - 4. บุคคลที่มีความบกพรอ่ งทางรา่ งกายและสุขภาพ - 100.00 5. บคุ คลที่มีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ - 100.00 6. บคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทางการพูด/ภาษา - 7. บุคคลท่ีมีความบกพรอ่ งทางพฤติกรรมหรืออารมณ์ - 8. บคุ คลออทิสตกิ - 9. บุคคลพกิ ารซ้าซ้อน - 10. ปกติ 18 รวม 18 จากตาราง 10 พบว่า การวิเคราะห์ความปกติ-พิการของนักเรียน พบว่า ปกติ จานวน 18 คน รอ้ ยละ 100.00
14 ตอนที่ 4 สรุปผลและข้อเสนอแนะ วัตถปุ ระสงค์ 1.เพื่อศกึ ษารู้จกั ผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล วเิ คราะห์แยกแยะความพร้อมของผเู้ รียนรายบคุ คล ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนโคกสงู ประชาสรรพ์ ปีการศึกษา 2563 2. เพอื่ หาแนวทางการออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกับความสามารถของผู้รายบุคคลให้ สามารถพัฒนาตามธรรมชาติของแตล่ ะบุคคลเตม็ ตามศักยภาพ และหาทางชว่ ยเหลือผู้เรียนทม่ี ีข้อบกพรอ่ งใหม้ ี ความพร้อมทีด่ ีขึ้น สรุปผล 1. สถานภาพบดิ า- มารดา อันดับท่ี 1 แยกกนั อยู่ ร้อยละ 77.78 อนั ดับที่ 2 อยู่ด้วยกัน (บิดา/มารดา) ร้อยละ 22.22 ท่พี กั ของนักเรยี น อันดับที่ 1 บา้ นพกั ของตนเอง ร้อยละ 94.44 อนั ดบั ที่ 2 หอพัก/ บ้านเชา่ รอ้ ยละ 5.55 อาชีพของผปู้ กครอง อันดบั ท่ี 1 รับจ้างท่ัวไป ร้อยละ50.00 อันดบั ท่ี 2 เกษตรกรรม รอ้ ยละ 33.33 อันดบั ที่ 3 คา้ ขาย รอ้ ยละ 16.67 2. ผลการวเิ คราะหน์ า้ หนกั สว่ นสูง ปรากฏวา่ นักเรียนสมสว่ น จานวน 17 คน เรมิ่ อว้ น จานวน 1 คน 3. จากการวิเคราะห์ระบบการรับรูด้ ้านสายตาปรากฏวา่ นกั เรียนมีสายตาปกติ จานวน 18 คน 4. จากการวเิ คราะหร์ ะบบการรับรดู้ า้ นหู ปรากฏวา่ นกั เรียนมรี ะบบการไดข้ องหูปกติ จานวน 18 คน 5. ผลการวิเคราะหโ์ รคประจาตัวนักเรยี นระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ไมม่ ีนักเรยี นคนใดมโี รคประจาตวั 6. ผลการวเิ คราะหว์ ชิ าทีน่ ักเรียนชอบระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 พบว่า วิชาที่นักเรียนชอบ อันดับท่ี 1 คือ พลศึกษา ร้อยละ 44.44 อนั ดับท่ี 2 คือ ดนตรี นาฏศิลป์และคอมพวิ เตอร์ รอ้ ยละ 27.78 7. ผลการวเิ คราะห์ความสามารถพเิ ศษของนักเรยี นระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 พบวา่ ความสามารถของ นกั เรียน อนั ดับที่ 1 คอื เล่นฟุตบอล ร้อยละ 44.44 อนั ดบั ท่ี 2 คอื เลน่ ดนตรี รอ้ ยละ 27.78 อันดบั ท่ี 3 คอื ร้องเพลงและฟอ้ นรา ร้อยละ 11.11 และอันดบั ท่ี 4 คอื วาดภาพ รอ้ ยละ 5.56 8. ผลการวิเคราะหอ์ าชีพท่ีนักเรียนใฝฝ่ นั อยากเปน็ มากทีส่ ุด พบว่า อาชพี ทีน่ ักเรียนใฝฝ่ ันอยากเป็นมากที่สดุ เป็นอันดบั ท่ี 1 คอื เกษตรกร รอ้ ยละ 38.89 อนั ดับท่ี 2 คอื นกั ฟุตบอลอาชีพ รอ้ ยละ 33.33 และอนั ดับท่ี 3 คอื ครู ร้อยละ 27.78 9. ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนGPAภาคเรียนท่ี2 ปีการศึกษา 2563 พบวา่ ผลการ เรียนเฉลยี่ (GPA) ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 อนั ดับที่ 1 คือ ระดบั 1.00-1.99 จานวน 10 คน ร้อย ละ 55.55 อนั ดับที่ 2 คือ ระดับ 3.00-4.00 จานวน 5 คน รอ้ ยละ 27.78 และอันดบั ท่ี 3 คอื ระดับ 2.00- 2.99 จานวน 3 คน ร้อยละ 16.67 10. ผลการวิเคราะหค์ วามต้องการใหค้ รจู ัดกระบวนการเรียนรู้นกั เรียนระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 พบว่า ความตอ้ งการให้ครจู ดั กระบวนการเรียนรู้ อันดับที่ 1 คอื แบบ Active Learning จานวน 9 คน ร้อยละ 50.00 อนั ดบั ท่ี 2 คือ แบบสืบเสาะ , สบื ค้น ,ค้นควา้ จานวน 6 คน ร้อยละ 33.33 และอนั ดับที่ 3 คือ แบบโครงงาน จานวน 3 คน ร้อยละ 16.66
15 11. ผลการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 พบว่า นักเรียนมีวามรู้ ความสามารถและ ประสบการณ์ทางภาษาอยใู่ นระดบั ดี รอ้ ยละ 57.14 อยใู่ นปานกลาง รอ้ ยละ 22.22 และต้องปรับปรุง แก้ไข ร้อยละ 20.64 ความพร้อมด้านสติปัญญา อยู่ในระดับดี ร้อยละ 62.96 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 11.11 และต้องปรับปรุงแก้ไข ร้อยละ 25.93 ความพร้อมด้านพฤติกรรม อยู่ในระดับดี รอ้ ยละ 72.23 อยใู่ นปานกลาง ร้อยละ 12.50 และต้องปรับปรงุ แกไ้ ข ร้อยละ 15.28 ความพร้อม ด้านร่ากาย จิตใจ อยู่ในระดับดี ร้อยละ 98.15 อยู่ในปานกลาง ร้อยละ 0.00 และต้องปรับปรุง แก้ไข ร้อยละ 1.85 และความพร้อมด้านสังคม อยู่ในระดับดี ร้อยละ 81.48 อยู่ในปานกลาง รอ้ ยละ 18.52 และตอ้ งปรบั ปรุงแกไ้ ข รอ้ ยละ 0.00 12. ผลการวเิ คราะหค์ วามปกติ – พิการของนักเรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 พบวา่ การวิเคราะห์ความ ปกติ-พิการของนักเรียน พบวา่ ปกติ จานวน 18 คน รอ้ ยละ 100.00 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการเกบ็ ข้อมลู เพ่ิมเติมอีกในดา้ นปัจจยั สนับสนุนในการเรยี นและฐานะทางบ้านของนกั เรียน 2. ควรวเิ คราะหข์ ้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลอื่น ๆอีกคือข้อมลู จากครทู ่ปี รกึ ษา และผู้ปกครองนักเรียน
16 ตอนที่ 5 บทเรียนจากการดาเนินงาน 1. บทเรยี นสาหรับตัวเองในการพัฒนานกั เรียน ด้านการใช้เวลาในการทบทวนความรู้คู่ควรสง่ เสรมิ และแนะนานกั เรียนให้ใชเ้ วลาในการทบทวนความรู้ บทเรียนมากย่ิงข้นึ และใช้เวลาในการดทู วี ีหรือใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตให้นอ้ ยลงโดยนาอินเทอร์เน็ตมาใชเ้ พ่ือการเรยี นรู้มาก ขึ้นซ่ึงครูควรจัดกจิ กรรมในช้ันเรยี นให้กับนกั เรียนเพื่อเปน็ ตัวอย่างท่ีนักเรยี นจะได้นาไปปฏิบตั ติ ามได้อยา่ งถูกต้อง 2. บทเรียนของตนเองในเร่ืองหลกั การออกแบบแผนการจัดการเรียนรทู้ ค่ี วรจัดให้กบั นักเรยี น การออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ควรออกแบบให้เหมาะสมกบั ระดบั การเรียนรู้ของนักเรยี นเหมาะสมกบั บริบท ลกั ษณะของโรงเรียนชมุ ชนและนกั เรยี น 3. บทเรยี นในการประสานงานกบั ครูประจาวิชาเพ่ือรว่ มมือช่วยเหลอื นักเรียนในความดูแล ครูทีป่ รกึ ษาทาการประสานงานกับครูผสู้ อนแต่ละรายวิชาเพ่อื สอบถามความก้าวหน้าในการเรยี นรู้และปัญหาใน การเรยี นรขู้ องนกั เรียนเพ่อื ท่ีจะหาวธิ ีการแก้ไขและพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรียนให้ดยี ง่ิ ข้ึน
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: