Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยในฃั้นเรียน ม.3-บทเรียนออนไลน์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2563

วิจัยในฃั้นเรียน ม.3-บทเรียนออนไลน์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2563

Published by hmeai.hmeai, 2021-07-19 15:24:14

Description: วิจัยในฃั้นเรียน ม.3-บทเรียนออนไลน์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2563

Search

Read the Text Version

งานวิจัยในชน้ั เรียน เรื่อง การพฒั นาผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน รายวิชา การออกแบบผลิตภณั ฑ์ รหสั วชิ า ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผวู้ ิจยั นางสาวสุมาลี อุปชัย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 โรงเรยี นโคกสงู ประชาสรรพ์ ต้าบลนา้ พอง อา้ เภอนา้ พอง จงั หวดั ขอนแกน่ ส้านกั การศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ขอนแกน่

2

3 บทคดั ยอ่ ชอ่ื งานวิจยั การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน รายวชิ า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ของนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ช่อื ผู้วจิ ัย นางสาวสุมาลี อุปชัย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี บทคดั ย่อ การศึกษาวิจัยคร้ังน้ีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือแก้ปัญหานักเรียนขาดความสนใจและใส่ใจต่อการเรียน เข้าห้องเรียนช้าและไม่ตั้งใจเรียน ท่าให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาต่า และไม่ผ่านเกณฑ์ คือ นักเรียนควรจะได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 3.00 ข้ึนไป ท่าให้ต้องมีการสอนและสอบซ่อม ท่าให้เสียเวลา และไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ ซึ่งผู้วิจัยเห็นว่าพฤติกรรมการเรียนดังกล่าวจะ ส่งผลกระทบต่อการศึกษาต่อและการปฏิบัติงานของนักเรียนต่อไป ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ศึกษาวิธีการ แกป้ ัญหานี้และพบว่า การประเมนิ ผลย่อยจะชว่ ยกระตุ้นใหน้ ักเรยี นเกิดการตื่นตวั ในการเรยี นรู้ไดม้ ากขนึ้ ผล การเปรียบเทียบผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนด้ว ย บทเรียนด้ว ยบทเรียน ออนไลน์ เรอื่ ง การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อย ละ 70 และนักเรียนทเ่ี รียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง การออกแบบผลติ ภัณฑ์ มคี ะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 จ่านวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 91.91 ไม่ผ่านเกณฑ์ 2 คน คิดเป็นร้อยละ 9.09 เนื่องจากการสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ท่าให้ นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้น ท่าให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ี ตลอดเวลา ท่าให้เกิดความ ม่ันใจในการเรียนรู้ กล้าเผชิญปัญหา ส่าหรับครูผู้สอน ท่าให้ครูค้นพบวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการ เรยี นการสอน

4 ค้านา้ งานวิจัยการพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน รายวชิ า การออกแบบผลิตภณั ฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ได้จัดท่าข้ึน เพ่ือ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา การออแบบผลิตภัณฑ์ หลังการเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง การออกแบบผลิตภัณฑ์ กับเกณฑ์ท่ีก่าหนด ผู้วิจัยได้เลือกนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จ่านวน 22 คนซ่ึงมีนักเรียนจ่านวน 1 กลุ่มท่ีขาดความสนใจและเข้าห้องเรียนช้า การสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ท่าให้นักเรียนมีความสนใจและมีความ กระตือรือร้นในการเข้าห้องเรียนให้ทันครูสอนและเพ่ิมความสนใจให้กับนักเรียนเพ่ิมมากขึ้น และส่งผล ใหน้ กั เรียนมีทัศนคติท่ีดีต่อกลุ่มรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งส่งผลให้นักเรียนเกิดความเคยชินกับ การเข้าห้องเรียนใหท้ ันเวลาในทกุ กลมุ่ รายวิชาต่อไป นางสาวสมุ าลี อุปชยั ผ้วู จิ ัย

5 สารบัญ หนา้ 3 เรอ่ื ง 4 บทคดั ย่อ 6 ค่าน่า 6 บทท่ี 1 บทนา่ 6 6 ที่มาและความส่าคัญของปญั หา 7 วตั ถปุ ระสงค์ของงานวจิ ัย 7 สมมตฐิ านการวจิ ยั 7 ขอบเขตของการวิจัย 8 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 19 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ ับ 19 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกยี่ วข้อง 19 บทที่ 3 วิธดี า่ เนินการวจิ ัย 19 กลุ่มเปา้ หมาย 20 การสรา้ งและการหาคุณภาของเครอ่ื งมือทใ่ี ชก้ ารวิจยั 20 การสร้างและการหาคุณภาพของเคร่ืองมือทใี่ ชเ้ ก็บขอ้ มลู 20 การออกแบบการทดลอง 21 การเก็บรวบรวมข้อมูล 23 สถติ ิทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล 25 บทที่ 4 ผลการวจิ ยั 27 บทที่ 5 สรุปผลการวิจยั อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก - แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน - คูม่ ือการใชง้ านบทเรยี นออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์

6 บทที่ 1 บทนา้ ที่มาและความสา้ คัญของปญั หา จากการท่ีผู้วิจัยเป็นครูสอนในวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 พบว่า นกั เรยี นขาดความสนใจและใสใ่ จตอ่ การเรยี น เข้าห้องเรียนช้าและไม่ตั้งใจเรียน ท่าให้นักเรียนมี ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาตา่ และไม่ผ่านเกณฑ์ คือ นักเรยี นควรจะได้เกรดเฉล่ียต้ังแต่ 3.00 ขึ้นไป ทา่ ให้ต้องมกี ารสอนและสอบซอ่ ม ท่าใหเ้ สยี เวลาและไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนได้ ซ่ึงผู้วิจัยเห็นว่าพฤติกรรมการเรียนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการศึกษาต่อและการปฏิบัติงานของ นักเรยี นตอ่ ไป ดังนั้นผู้วจิ ัยจึงไดศ้ กึ ษาวธิ ีการแก้ปญั หาน้ีและพบว่า การประเมนิ ผลย่อยจะช่วยกระตุ้นให้ นักเรียนเกิดการต่ืนตัวในการเรียนรู้ได้มากขึ้น ดังที่บลูม (Bloom and others. 1971 : 66) ได้กล่าวถึง ประโยชนข์ องการทดสอบย่อยว่าก่อใหเ้ กดิ ประโยชนห์ ลายอย่างดังนี้ ท่าให้นักเรียนต้องเตรียมตัวอยู่เสมอ ท่าให้เรียนรู้ได้ง่ายข้ึน และสอดคล้องกับท่ี สุรชัย ขวัญเมือง (2522 : 217) กล่าวถึงประโยชน์ของการ ทดสอบย่อย เป็นเคร่ืองมือในการสังเกตดูว่า นักเรียนมีการพัฒนาการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด ใช้ ตรวจสอบล่าดบั ขัน้ ปรับปรงุ การเรยี นการสอนได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ จากสภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจท่ีจะศึกษาวิจัยเก่ียวกับการพัฒนา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนโคกสูงประชาสรรพ์ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2563 เน่ืองจากผ้วู ิจยั เหน็ วา่ การสอนดว้ ยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ จะ ท่าให้นักเรียนเกิดความสนใจ มีความต้ังใจและความรับผิดชอบในการเรียนมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลง ดังกล่าวจะสง่ ผลต่อผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนและเป็นการปรับพฤติกรรมการเรียนท่ีเหมาะสม ของนกั เรยี นต่อไป วัตถปุ ระสงค์ของงานวจิ ยั เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัส ว20288 หลงั การเรยี นดว้ ยบทเรยี นออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลติ ภัณฑ์กับเกณฑท์ กี่ า่ หนด สมมตฐิ านการวจิ ัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นรายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัส ว20288 หลังการเรยี นด้วย บทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง การออกแบบผลิตภัณฑ์สูงกว่าเกณฑท์ ก่ี ่าหนด

7 ขอบเขตของการวจิ ยั กลุม่ เป้าหมาย ในการวจิ ัยครั้งน้ี กลุ่มเป้าหมาย ท่ีใช้ในการวจิ ยั ครัง้ น้ี คือ นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 จา่ นวน 22 คน ตัวแปร ตัวจัดกระท่า คอื วธิ ีการสอนดว้ ยบทเรยี นออนไลน์ เร่อื ง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ตัวแปรตาม คือ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรายวิชา ออกแบบผลิตภัณฑ์ รหสั ว20288 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน หมายถงึ บทเรยี นท่จี ดั ทา่ ขนึ้ เป็นส่ือการสอน ผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลักสูตร ค่าอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ การวางแผนการ จัดการเรียนรู้ เนื้อหา แบบทดสอบ แบบฝึกทักษะเพื่อให้นักเรียนและผู้ท่ีสนใจศึกษา สามารถศึกษา คน้ ควา้ ความรู้ ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยออกแบบไว้ ให้โตต้ อบกบั ผู้เรียนได้ การประเมินผลย่อย หมายถึง การประเมินผลระหว่างการเรียนการสอนตามจุดประสงค์ที่ ก่าหนดไว้ระหว่างการเรียนการสอนในแต่ละบท เพ่ือวินิจฉัยข้อบกพร่องของผู้เรียน และน่ามาปรับปรุง การเรยี นการสอนใหอ้ ยู่ในเกณฑ์ท่กี า่ หนด ซึง่ ในการวจิ ยั ครั้งนี้ ผู้วิจัยประเมินผลย่อยโดยใช้แบบทดสอบ อัตนยั และปรนยั แบบเลือกตอบ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน หมายถงึ คะแนนท่ีได้จากการตอบค่าถามในแบบทดสอบปรนัยแบบ เลือกตอบ จา่ นวน 40 ข้อ 20 คะแนน ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รับ ผลการวจิ ยั จะเป็นประโยชน์ต่อครผู สู้ อนในรายวิชาอนื่ ๆ หรือระดบั ช้นั อน่ื นา่ การเรียนด้วย บทเรียนออนไลน์ ไปใชใ้ นการพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรยี นตอ่ ไป

8 บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง การวิจัย เร่ือง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลติ ภัณฑ์ ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในคร้ังนี้ผู้วิจัยได้น่า แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องมาศึกษา เพ่ือให้สามารถท่างานได้ตรงตามวัตถุประสงค์และ ขอบเขตของงานทกี่ า่ หนดไว้ โดยมรี ายละเอยี ดของเอกสารและผลงานวิจยั ที่เกย่ี วข้องดงั น้ี 2.1 การเรียนการสอนแบบออนไลน์ 2.2 ระบบการจดั การดา้ นการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) 2.3 ความหมายของบทเรยี นออนไลน์ 2.4 แนวคดิ ทฤษฏที เ่ี กีย่ วข้องกับการวิจัย 2.5 งานวจิ ัยทเี่ กยี่ วขอ้ ง 2.6 ทฤษฎแี ละหลักการเกย่ี วกบั การวัดและประเมนิ ผลการศึกษา 2.1 การเรียนการสอนแบบออนไลน์ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ คือ นวัตกรรมทางการศึกษาที่ เปล่ียนแปลงวิธีเรียนที่เป็นอยู่ เดิมเป็นการเรียนท่ีใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เช่น อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต ดาวเทียม ดังน้ันจึงหมายรวมถึงการเรียนทางไกล การเรียนผ่านเว็บ ห้องเรียนเสมือนจริง ซ่ึ ง มี จุ ด เ ชื่ อ ม โ ย ง คื อ เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร สื่ อ ส า ร เ ป็ น ส่ื อ ก ล า ง ข อ ง ก า ร เ รี ย น รู้ \" ( เ ว็ บ ไ ซ ต์ http://www.capella.edu/eLearning) การเรียนการสอนแบบออนไลนเ์ ปน็ รปู แบบของเน้อื หาสาระที่สร้างเป็นบทเรียนส่าเร็จรูป ท่ี อาจ ใช้ซีดรี อมเปน็ สื่อกลางในการส่งผ่าน หรือใช้การส่งผ่านเครือข่ายภายในหรืออินเทอร์เน็ต ท้ังน้ี อาจจะอยู่ ในรูปแบบคอมพิวเตอร์ช่วยการฝึกอบรม (Computer Based Training : CBT) และการใช้ เว็บเพ่ือการ ฝึกอบรม (Web Based Training : WBT) หรือการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมก็ ได้ Krutus (2000) การเรียนรู้แบบออนไลน์ หรือ e-learning เป็นการศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) หรืออินทราเน็ต (Intranet) ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความ สนใจ ของตน โดยเนื้อหาของบทเรียน ประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ และมัลติมีเดียอ่ืนๆ จะถูก ส่งไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browser โดยผู้เรียน ผู้สอน และเพ่ือนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถ ติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดย อาศัย เคร่ืองมือการติดต่อส่ือสารที่ทันสมัย เช่น (e-mail, web-board, chat, Social Network) การเรียนรู้

9 แบบออนไลน์จึงเป็นการเรียนส่าหรับทุกคน, เรียนได้ทุกเวลา และทุกสถานท่ี (Learn for all : anyone, anywhere and anytime) วิธจี ัดการเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ e – learning เป็นในปัจจุบันใช้กันอยู่ 3 ลักษณะ คอื ใช้เปน็ สือ่ เสริม โดยการสร้างเว็บเพจโครงการสอน เนือ้ หาวิชาบางสว่ น หรอื ท้ังหมด แจ้ง แหล่งอ้างอิง แหล่งค้นคว้า ให้นักศึกษาทราบ ตอบค่าถามที่นักศึกษาถามเข้ามาบ่อย ๆ (Frequently Ask Question – FAQ) แจ้ง e-mail ให้ผูเ้ รยี นส่งงาน ใช้เปน็ ทางเลือก โดยผเู้ รยี นสามารถเลือกเรียน แบบวิธีเข้าชั้นเรียน ปกติ หรือเรียนผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังน้ันเว็บเพจรายวิชาต้องมี ความสมบูรณ์ใกล้เคียงกับ การเรียนการสอนในช้ันเรียน นั่นคือจะต้องมีความละเอียดมากกว่า ใน ระดับที่ใช้เป็นสื่อเสริมใช้สอน ทดแทนการเรียนการสอนปกติ เป็นระดับสูงสุดที่คาดหวังในการท่า e – learning โดยผู้เรียนสามารถ เรยี น ทา่ แบบฝกึ หัด และทดสอบตนเองไดใ้ นระบบออนไลน์โดยไม่ ต้องเข้าชั้นเรียน อย่างไรก็ตาม ในการ ประเมินผลออนไลน์ ยังต้องอาศัยความซื่อสัตย์ของผู้เรียน จึง ยังคงน่ามาใช้ได้ยาก ข้อสอบอาจอยู่ใน กระดาษ หรืออย่ใู นคอมพิวเตอรก์ ไ็ ด้ 2.2 ระบบการจัดการด้านการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) LMS คือ ระบบ จัดการการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย มีเครื่องมือและส่วนประกอบท่ีส่าคัญ ส่าหรับผู้สอน ผู้เรียนและ ผู้ดูแลระบบ ได้แก่ ระบบการจัดการรายวิชา ระบบการจัดการสร้างเน้ือหา ระบบบริหารจัดการผู้เรียน ระบบส่วนการจัดการข้อมูลบทเรียน และระบบเครื่องมือช่วยจัดการ สื่อสารและปฏิสัมพันธ์และจัด กระบวนการเรียนรู้ ได้แก่ การสื่อสาร Chat, E-mail, Web-board, การเข้าใช้ การเก็บข้อมูล, และการ รายงานผล เป็นต้น LMS เป็นค่าท่ีย่อมาจาก Learning Management System หรือระบบการจัดการ เรียนรู้ เป็นซอฟต์แวร์ที่ท่าหน้าท่ีบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ จะประกอบด้วยเครื่องมืออ่านวย ความ สะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียน ผู้ดูแลระบบ โดยท่ีผู้สอนน่าเนื้อหาและส่ือการสอนข้ึนเว็บไซต์รายวิชา ตามท่ีได้ขอให้ระบบ จัดไว้ให้ได้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา กิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยผ่านเว็บ ผู้สอน และผู้เรียนติดต่อ ส่ือสารได้ผ่านทางเครื่องมือการส่ือสารที่ระบบจัดไว้ให้ เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หอ้ งสนทนา กระดานถาม - ตอบ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีองค์ประกอบท่ีส่าคัญ คือ การเก็บ บันทึก ขอ้ มลู กิจกรรมการเรยี นของผู้เรียนไว้บนระบบเพ่อื ผูส้ อนสามารถนา่ ไปวเิ คราะห์ ติดตามและ ประเมินผล การเรียนการสอนในรายวิชาน้ันอย่างมีประสิทธิภาพ Learning Management System: LMS คือ ระบบการจัดการด้านการเรียนรู้ ผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยมีการจัดการทางด้านคอร์สแวร์ (Courseware) และองค์ประกอบต่างๆ คล้ายคลึงกับการเรียนการสอนจริง ผู้เรียนสามารถเรียนและท่า กจิ กรรมต่างๆ ทไ่ี ด้มกี ารออกแบบไว้ ได้ด้วยตนเอง ผู้สอนสามารถติดตามและตรวจปรับผลการเรียนของ ผ้เู รยี นได้ อกี ท้งั ยังมรี ะบบบรหิ าร จดั การท่คี รอบคลุมการจดั การสือ่ การเรียนการสอนทั้งหมด ระบบ LMS คอื อะไร เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ท่าหน้าท่ีบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บจะ ประกอบด้วยเครื่องมืออ่านวย

10 ความสะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียนผู้ดูแลระบบโดยท่ีผู้สอนน่าเนื้อหาและ สื่อการสอนข้ึน เว็บไซต์รายวิชา ตามท่ีได้ขอให้ระบบจัดไว้ให้ได้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเน้ือหา กิจกรรมต่างๆ ระบบจัดการหลักสูตร (Course Management) ระบบ LMS มปี ระเภท กลุ่ม ซอฟท์แวร์ฟรี (Open Source LMS) ที่มีลิขสิทธ์ิ ในการใช้งานแบบ GPL ได้แก่ Moodle (www.moodle.org) (แพร่หลายมากที่สุด) ATutor (www.atutor.ca) ระบบการสร้างบทเรียนระบบการทดสอบและประเมินผล (Test and Evaluation System) ระบบสง่ เสริมการเรียน และ ระบบจัดการขอ้ มูล 2.3 ความหมายของบทเรียนออนไลน์ บทเรยี นทจี่ ดั ท่าขึน้ เปน็ สอื่ การสอน ผา่ นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ประกอบไปด้วย โครงสร้าง หลกั สูตร ค่าอธิบายรายวชิ า หนว่ ยการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรยี นรู้ เน้ือหา แบบทดสอบ แบบ ฝึกทักษะเพ่อื ใหน้ ักเรยี นและผูท้ ่ีสนใจศึกษา สามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ ได้ด้วย ตนเอง โดยออกแบบไว้ ใหโ้ ตต้ อบกับผู้เรียนได้ การเรียนการสอนผ่านระบบเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ ในรูปแบบดังกล่าวข้างต้นนี้ ได้มี ผู้จัดท่ามาแล้วเป็นจ่านวนมาก โดยอาจใช้ชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น เว็บไซต์ช่วยสอน บทเรียนผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรืออื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนพ้ืนฐานเดียวกันคือ เป็นส่ือการสอน ประเภท เว็บไซตช์ ่วยสอน แสดงผลผ่านระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต ขึ้นอยูก่ บั ผูจ้ ัดทา่ จะพัฒนาไปใน รปู แบบใด จากการศกึ ษาและสบื ค้นเก่ียวกบั บทเรียนออนไลน์ ขา้ พเจ้าพบวา่ การใช้บทเรียนออนไลน์ใน การ จดั การเรียนการสอนมีประโยชน์หลายประการเช่น 1. เหมาะกับการเรียนรู้ตามความสนใจของ แต่ละคน 2. มีเอกสารส่าหรบั การเรยี นรู้หลากหลาย 3. เป็นการเรียนร้สู องทาง 4. งา่ ยต่อการส่ารวจ ความก้าวหน้า 5. เป็นการเรยี นรไู้ ดท้ กุ สถานที่และทุกเวลา 6. ค่าใช้จ่ายในการเรียนของผู้เรียนต่าลง 7. สร้างโอกาสใน การแลกเปล่ียนในการเรียนรู้กับบุคคลอ่ืน 8. ประสิทธิภาพของการเรียนเพ่ิมขึ้น 9. การส่ง (แลกเปล่ียน) เอกสารในการสอนรวดเร็ว แต่อยา่ งไรกต็ ามการจัดการเรียนการสอนผ่านบทเรียนออนไลน์ก็ยังมีขีดจ่ากัด เช่น ผู้สอน และผู้เรียนขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ครูผู้สอนไม่สามารถสอดแทรกเรื่องคุณธรรมและ จริยธรรม ให้กับผู้เรียนได้โดยตรง อีกทั้งการใช้บทเรียนออนไลน์เหมาะสมกับผู้เรียนและสถานศึกษาที่มี ความ พรอ้ มดา้ นเทคโนโลยี 2.4 แนวคิด ทฤษฏที เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การวิจยั ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้น่าแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย เพื่อใช้ประกอบในการวิจัย ดังน้ี 2.4.1 ทฤษฎีพุทธิปัญญา (Cognitive Theory) นักจิตวิยาและนักการศึกษากลุ่มพุทธิปัญญา เชื่อว่าการเรียนบางเร่ืองไม่สามารถสังเกตเห็น ได้จากพฤติกรรมที่แสดงออก และการเรียนรู้ที่เกิดข้ึนมี มากกว่าการวัดด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น นักจิตวิทยาและนักการศึกษากลุ่มน้ีจึงศึกษาการ

11 เรียนเรียนรู้ท่ีเก่ียวข้องกับการใช้ความจ่า แรงจูงใจและการคิดตลอดจนการสะท้อนท่ีแสดงให้เห็นถึง กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนซ่ึง นักจิตวิทยากลุ่มน้ีพิจารณาว่าการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้น ภายในของผู้เรยี น ตาม ความสามารถในการเรยี นรขู้ องแตล่ ะบุคคล ปริมาณความสามารถ ความพยายาม ทุ่มเทระหว่าง กระบวนการเรียนรู้ และความซับซ้อนของการประมวลผล ตลอดจนโครงสร้างความรู้เดิม ของผเู้ รียน ดังนน้ั แนวทางปฏบิ ัติของการน่าแนวคิดของนักจิตวิทยาและนักการศึกษากลุ่มพุทธิปัญญาไป ใช้ได้คือ การใช้กลวิธีทีให้ผู้เข้ารับการเรียนการสอนได้เข้าถึงส่ือการเรียนได้มากท่ีสุด เพ่ือให้ผู้เข้ารับการ เรียน การสอนสามรรถถ่ายโอนส่ิงท่ีได้รับผ่านประสาทสัมผัสไปยังหน่วยความจ่าระยะสั้น เช่น การอ่าน การ มอง และการสัมผัส เป็นต้น นอกจากนี้การจัดล่าดับเน้ือหาอย่างเป็นระบบ เรียงล่าดับจากง่ายไป ยาก และแสดงถึงความเชื่อมโยง เช่น การใช้ผังความคิดล่วงหน้า (Advanced Organizer) จะช่วยให้ผู้ เข้า รับการเรยี นการสอนเกดิ การจดจ่าและระลึกถงึ ข้อมลู นน้ั ๆ ไดด้ ียง่ิ ขนึ้ 2.4.2 ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสม์ (Constructivism Theory) ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เป็นทฤษฎี ท่เี กีย่ วกบั ความรูแ้ ละการเรียนรู้ โดยมีรากฐานมาจาก ปรัชญาจิตวิทยาและมนุษยวิทยา ซึ่งเชื่อว่า ความรู้ เป็นสิ่งที่บุคคลสร้างข้ึนและบุคคลจะเรียนรู้ได้โดย การมีปฎิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ ซ่ึงต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์เดิมและ โครงสร้างทางปัญญา เป็นพ้ืนฐานในการเรียนรู้ นอกจากน้ี วฒั นาพร ระงบั ทุกข์ (2541) กล่าวว่า องค์ประกอบการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ประกอบด้วย 1) ผเู้ รียนสร้างความหมายของส่งิ ที่ไดพ้ บเห็น รับรู้ โดยใช้กระบวนการทางปญั ญาของตนเองท่ีเรียนรู้และ สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง ประสาทสัมผัสของผู้เรียนกับส่ิงแวดล้อมโดยจะใช้ความรู้ 2) โครงสร้างทาง ปัญญา เกิดจากความ พยายามทางความคิดหากการใช้ความรู้เดิมคาดคะเนเหตุการณ์ได้ถูกต้อง จะท่าให้ โครงสร้างทาง ปัญญามั่นคงย่ิงขึ้นแต่ถ้าหากคาดคะเนไม่ถูกต้องจะเกิดภาวะที่ เรียกว่า ภาวะไม่สมดุล 3) โครงสร้าง ทางปัญญาเป็นส่ิงที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก แม้ว่าจะมีหลักฐานจากการสังเกตท่ีขัดแย้งกับ โครงสรา้ งนั้น 2.5 งานวิจยั ที่เก่ยี วข้อง ในการวิจยั ครั้งนีผ้ ู้วจิ ยั ได้นา่ วจิ ัยที่เกี่ยวขอ้ ง เพือ่ ใชป้ ระกอบในการวิจัย ดังน้ี กาญจนา รัตนธีรวิเชียร (2555) ได้ศึกษางานวิจัยการพัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชา อัลกอริทึม เบอื้ งตน้ เรื่อง การเขียนผังงาน ส่าหรับนักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏล่าปาง วัตถุประสงค์ใน การวจิ ยั คร้งั นี้เพ่อื สร้างและประเมนิ ประสิทธภิ าพบทเรียนออนไลน์วชิ าอลั กอรทิ มึ เบ้ืองต้น เร่ืองการเขียน ผังงาน และเพือ่ ประเมินความพงึ พอใจของนกั ศกึ ษาตอ่ การเรยี นโดยใช้ บทเรียนออนไลน์เร่ืองการเขียนผัง งาน กลุม่ ตวั อยา่ งในการวจิ ัยได้แกน่ ักศึกษาปรญิ ญาตรีสาขาวิชา คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ คณะวิทยาการจัดการ จ่านวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบทดสอบ เพ่ือหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียน และแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ซ่งึ มีลกั ษณะเป็น แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่

12 ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า บทเรียนออนไลน์ท่ีสร้างขึ้นมี ประสิทธิภาพ 82.21 / 80.07 ซ่ึงสูงกว่า เกณฑ์ที่ก่าหนดไว้ 80 / 80 และนักศึกษามีความพึงพอใจใน ระดับดีมากด้านเน้ือหาโดยมีค่าเฉล่ีย รวมเท่ากับ 4.91 ระดับดีมากด้านการออกแบบส่ือมีค่าเฉล่ียรวม เทา่ กับ 4.91 และระดบั ดีมากดา้ น ประสิทธิภาพการสอน มีค่าเฉลี่ยรวม 4.78 ไกรรัตน์ นิลฉิม , แวฮาซัน แวหะมะ (2556) ได้ท่าการศึกษา เร่ือง ผลการใช้ส่ือการ สอนด้วยการบันทึกการสอนในห้องเรียนเป็น แบบมัลติมีเดียฝังบนห้องเรียนเสมือนในรายวิชาด้าน คอมพิวเตอร์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพ่ือพัฒนา สื่อการสอนดว้ ยการบนั ทกึ การสอนในห้องเรียนเปน็ แบบมัลติมีเดียฝังบนห้องเรียนเสมือนในรายวิชาด้าน คอมพวิ เตอร์ 2) เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของนักเรียนท่ีเรียนด้วยวิธีการส่ือการสอนด้วยการ บนั ทึกการสอนในหอ้ งเรียนเปน็ แบบมัลติมีเดยี ฝังบนห้องเรียนเสมือนในรายวิชาด้านคอมพิวเตอร์กับการ เรียนด้วยวิธีการเรียนบนห้องเรียนเสมือนปกติ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วย วิธีการส่ือการสอนด้วยการบันทึกการ สอนในห้องเรียนเป็นแบบมัลติมีเดียฝังบนห้องเรียนเสมือนใน รายวิชาด้านคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างท่ี ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ได้แก่ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา ง 31121 การออกแบบและ เทคโนโลยี ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2555 จ่านวน 2 กลุ่ม ได้กลุ่มที่ 1 จ่านวน 71 คน เป็นกลุ่ม ควบคุม และกลุ่มที่ 2 จ่านวน 75 คน เป็นกลุ่มทดลอง จากผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการใช้ส่ือการ สอนด้วยการบันทึกการสอนใน ห้องเรียนเป็นแบบมัลติมีเดียฝังบนห้องเรียนเสมือนในรายวิชาด้าน คอมพิวเตอร์ เป็นการใช้การเรียน การสอนในชั้นเรียนเป็นหลัก แล้วเสริมการเรียนการสอนออนไลน์ผ่าน ห้องเรียนเสมือน โดยอาศัยสื่อ การสอนแบบมัลติมีเดียบนห้องเรียนเสมือน ขณะด่าเนินการสอนผู้สอน สามารถบันทึกการสอนเป็น แบบมัลติมีเดียด้วยตนเองและน่าข้ึนไปใช้บนห้องเรียนเสมือน นอกจาก กิจกรรมท่ีสามารถกระท่าผ่าน ห้องเรียนเสมือน ได้แก่ การบ้าน การสนทนาผ่านกระดานสนทนา และ การใช้สงั คมออนไลน์ เปน็ ต้น 2) ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียนที่เรียนด้วยวิธีการเรียนรู้แบบการใช้ สื่อการสอนดว้ ยการบันทึก การสอนในห้องเรยี นเป็นแบบมัลติมีเดียฝังบนห้องเรียนเสมือนในรายวิชาด้าน คอมพิวเตอร์สูงกว่าการ เรียนด้วยวิธีการเรียนแบบการเรียนด้วยวิธีการเรียนบนห้องเรียนเสมือนปกติ อย่างมีนัยส่าคัญท่ีระดับ .01 3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยวิธีการเรียนรู้แบบการใช้สื่อการ สอนด้วยการบันทกึ การสอนในห้องเรียนเป็นแบบมลั ตมิ เี ดียฝงั บนหอ้ งเรียนเสมอื นอย่ใู นระดบั มากท่สี ดุ จุลศักด์ิ สุขสบาย (2558) ได้ศึกษาการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ส่าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) มีจุดมุ่งหมายส่าคัญเพ่ือ 1) พัฒนารูปแบบ การเรยี นรทู้ างอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2) ศกึ ษาประสทิ ธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ 3) ศึกษา ประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์หลังการ เรียนของ นกั เรียนทเ่ี รยี นโดยใชร้ ปู แบบการเรยี นร้ทู างอเิ ล็กทรอนิกส์กับเกณฑ์ร้อยละ 80 และศึกษา ความพึงพอใจ

13 ของนักเรียนที่มตี อ่ การใชร้ ปู แบบการเรยี นร้ทู างอิเลก็ ทรอนิกสเ์ รอื่ งเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ส่าหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างท่ี ใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี เป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝา่ ยประถม) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) จ่านวน 52 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร 2) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้ทาง อิเล็กทรอนิกส์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของ นักเรียนท่ีมีต่อรูปแบบการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร กลุ่ม สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ส่าหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าที (t-test) ฉันท์ทิพย์ ลีลิตธรรม (2556) ได้ศกึ ษาการสังเคราะหก์ รอบแนวคิดการเรยี นรู้ใน หอ้ งเรยี นกลับทางร่วมกับเทคโนโลยีการเรียนรู้ แบบภควันตภาพโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต The Development of Flipped Classroom Techniques Model with Ubiquitous Learning Using Collaborative Learning Techniques on Internet การวิจัย ครั้งน้ี เป็นการสังเคราะห์กรอบแนวคิดการเรียนรู้ใน ห้องเรียนกลับทางร่วมกับเทคโนโลยีการเรียนรู้ แบบภควันตภาพโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ ผ่านเครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต และประเมินความ เหมาะสมของกรอบแนวคิดการเรียนรู้ที่สังเคราะห์ขึ้น เพื่อ นา่ ไปใชเ้ ป็นต้นแบบส่าหรบั การสอนใน รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ตามหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพช้ันสูง(ปวส.) พุทธศักราช 2546 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ส่านักงานคณะกรรมการการ อาชีวศกึ ษา ขน้ั ตอนการวจิ ัย ประกอบด้วย ศึกษาหลักการแนวคดิ ขั้นตอน ทฤษฎแี ละงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง , ปรึกษาอาจารย์ที่ ปรึกษา, ร่างกรอบแนวคิดขั้นต้น, ก่าหนดกลุ่มตัวอย่าง, สร้างแบบสอบถาม, เก็บ รวบรวมข้อมูล และ ปรับปรุงแก้ไขกรอบแนวคิด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สอนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จ่านวน 10 คน ผลการวิจัยได้กรอบแนวคดิ ท่ีมชี ื่อว่า “DeFlipp With UL Model” ผลการประเมินความ เหมาะสม ของกรอบแนวคดิ การเรียนรูท้ สี่ ังเคราะหข์ ้ึน พบว่า น่าไปเปน็ ต้นแบบได้ นิลบุล ทองชัย (2556) ได้ท่าการวิจัย เรื่อง การประยุกต์ใช้ส่ือการเรียนออนไลน์ เพื่อ เพิ่ม ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษส่าหรับวิทยาการคอมพิวเตอร์ ของนักศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏกาญจนบุรี งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย ส่าหรับการเรียน แบบออนไลน์ เพ่ือ เพ่มิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในรายวชิ าภาษาองั กฤษส่าหรับวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ โดยใช้การสอนรูปแบบ ปกติร่วมกับการเรียนรู้แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อีเลิร์นน่ิงของรายวิชา กลุ่ม ตัวอย่าง คือ นักศึกษาท่ี ลงทะเบียนและเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษส่าหรับวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นรายวิชาในหลักสูตร ของสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จนครบ กระบวนการตลอดภาค การศึกษาท่ี 1/2556 จ่านวน 21 คน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียน ( ̅ = 66.51 , S.D. =18.26) สูงกว่า

14 คะแนนสอบก่อนเรยี น ( ̅ = 33.21,S.D. = 14.14) เฉลี่ยที่ 33.30 อย่างมีนัยส่าคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.01 และมีความสอดคล้องกับผลการเรียนตลอดภาค การศึกษาท่ีนักศึกษาแต่ละคนได้ (r = 0.911, sig. = .000) รวมทั้งผลความพึงพอใจของผู้เรียนต่อ กิจกรรมการเรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรู้แบบ ออนไลน์ ในระดับมากในทุกประเด็นค่าถาม สามารถสรุปได้ว่ามัลติมีเดียส่าหรับการเรียนแบบออนไลน์ ชว่ ยเพมิ่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน และเพ่ิม โอกาสในการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ โดย ลดข้อจา่ กัดดา้ นเวลาและสถานที่ พัชรา คงเหมาะ (2560) ได้ท่าวิจัยเรื่องแนวทางการพัฒนาห้องเรียนออนไลน์ส่าหรับ อาจารย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พบว่า ปัญหาและอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนส่าหรับผู้สอนใน การใช้ ห้องเรียนออนไลน์คือการไม่มีเวลาในการจัดท่าและการปรับปรุงเนื้อหาของบทเรียน มีจ่านวน ภาระงาน สอนที่มาก มีงานอื่นที่ส่าคัญกว่าจะต้องกระท่า ขาดแรงจูงใจในการใช้งาน รวมถึงความ พร้อมของสิ่ง อา่ นวยความสะดวกในการใช้งาน แนวทางในการพัฒนาห้องเรียนออนไลน์คือ ควร ส่งเสริมการใช้งานให้ มากข้ึนควรก่าหนดนโยบายการใช้งานห้องเรียนออนไลน์ในการเรียนการสอน ก่าหนดตัวช้ีวัดด้านการ จัดการเรียนการสอน มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือสร้างให้เกิดความเข้าใจ และมีการติดตาม ประเมินผลการเข้าใช้งานห้องเรยี นออนไลน์ ภาณุวัฒน์ วรพิทย์เบญจา , จ่ารัส กลิ่นหนู และณรงค์ศักด์ิศรีสม (2558) ได้ ท่าการศึกษาวิจัย เร่ือง การพัฒนาแอพพลเิ คชัน่ การจดั การเรยี นการสอนในหอ้ งเรียนเสมือนจริงบน อุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยมี วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือแก้ปัญหาข้อจ่ากัดของระบบบริหารจัดการเรียนการสอนของส่านักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐาน (OBECLMS) ใหส้ ามารถใชง้ านผ่านอุปกรณ์ เคล่ือนท่ี เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ได้ แอพพลิเคช่ันถูกพัฒนาในลักษณะ Responsive Web Design โดยน่าวงจรการพัฒนาระบบ (SDLC) มาเป็นแนวทางในการพัฒนา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดย วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มได้กลุ่มตัวอย่างเป็น นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ในกลุ่มเครือข่าย โรงเรียนทุ่งผึ้ง สังกัดเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ล่าปางเขต 3 จ่านวน 30 คน จากจ่านวนท้ังส้ิน 17 กลุ่มเครือข่ายและครูผู้สอนจ่านวน 15 คน ผลการ ทดลองพบว่าแอพพลิเคช่ันสามารถใช้งานผ่าน อุปกรณ์เคล่ือนท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม่ือนักเรียนใช้ แอพพลิเคชั่นในการทบทวนเน้ือหาวิชาเรียน นอกเหนือจากการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติ ช่วยให้ นักเรียนเข้าใจและสามารถจดจ่าเน้ือหาวิชา เรียนได้ดีย่ิงขึ้น โดยผลการประเมินความพึงพอใจของ นักเรียนท่ีทดลองใช้แอพพลิเคชั่น ในภาพรวมมี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ียอยู่ที่ 4.10 จาก 5.00 และความพึงพอใจของครูผู้สอนที่ ทดลองใช้แอพพลิเคช่ันในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ค่าเฉล่ียอยทู่ ่ี 4.09 จาก 5.00 วรวรรณ เพชรอุไร (2555) ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ใน รายวิชา อย 341 การแปรรูป พบว่าไม่สามารถท่าให้นักศึกษาทุกคนมีผลการเรียนไม่ต่ากว่าเกรดซี (C) ตาม เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีนักศึกษาที่สอบไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินใน คร้ัง นี้ลดลง

15 และนักศึกษาท่ีเคยสอบไม่ผ่านในรายวิชาน้ีในภาคการศึกษาที่แล้ว (ภาคการศึกษาท่ี 1/2554) มีผลการ เรยี นดีขึ้น และจากการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาพบว่าการเรียนแบบ Active learning โดยใช้ กิจกรรมท่ีหลากหลายในการเรียนการสอนทั้งกิจกรรมในห้องเรียนและ กิจกรรมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ นักศึกษามีความพึงพอใจต่อกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างมาก มีความ กระตือรือร้น และมีความสนใจที่ อยากจะร่วมกจิ กรรมมากกว่าการสอนแบบบรรยายเพยี งอยา่ งเดยี ว วฒุ ภิ ทั ร หนยู อด (2556) ไดท้ ่าวิจยั เรือ่ งประสทิ ธผิ ลของรูปแบบการสอนโดยใช้ส่ือ การสอนแบบ ออนไลน์ วิชาการเขียนโปรแกรมเว็บแบบพลวัติ (The Effectiveness about ELearning :Dynamic Web Programming.) ผลการวจิ ัยพบว่า 1) นกั ศกึ ษาทเี่ รยี นแบบ e-learning โดยผ่านระบบสร้างส่ือการ เรียนการสอนออนไลน์ มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงกว่านักศึกษาท่ีเรียนใน ห้องเรียนปกติ ซ่ึงมีค่า t เท่ากับ 2.22 ท่ีระดับนัยส่าคัญท่ี 0.01 และ 2) ความพึงพอใจของนักศึกษา ท่ีเรียนแบบ e-learning โดย ผ่านระบบสร้างส่ือการเรียนการสอนออนไลน์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 ซ่ึง อยู่ในเกณฑ์พึงพอใจมากท่ีสุด ดังนั้นจงึ สรุปได้วา่ การเรยี นแบบ e-learning โดยผ่านระบบสรา้ งส่ือ การเรียนการสอนออนไลน์ สามารถ ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สุพิชชา ตันติธีระศักดิ์, ศิวนิต อรรถวุฒิกุล (2559) ได้ท่าการวิจัยศึกษาผลของการจัด กิจกรรม การเรยี นแบบผสมผสานผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวคิดเพ่ือนช่วยเพ่ือน เพ่ือส่งเสริม ทักษะการ แก้ปัญหาการเขียนโปรแกรมของนักเรียน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า 1) คะแนน ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนแบบผสมผสานผ่าน เครือข่าย สังคมออนไลน์ตามแนวคิดเพื่อนช่วยเพ่ือน แตกต่างกันอย่างมีนัยส่าคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 2) ทักษะ การแก้ปัญหาการเขียนโปรแกรมของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับคุณภาพ ดี ( ̅ = 18.23, S.D. = 2.30) 3) พฤติกรรมการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนแบบ ผสมผสานผ่านเครือข่าย สังคมออนไลน์ตามแนวคิดเพื่อนช่วยเพื่อนท่ีพบมากที่สุดคือ การตอบค่าถาม (ร้อยละ 97.70) ส่วน พฤติกรรมที่พบน้อยที่สุดคือการโพสต์ แชร์เน้ือหา (ร้อยละ 3.69) และ 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อ การเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนแบบผสมผสานผ่านเครือข่ายสังคม ออนไลน์ตามแนวคิดเพื่อนช่วยเพื่อน อยใู่ นระดับมาก ( ̅ = 4.15, S.D.= 0.74) 2.6 ทฤษฎีและหลกั การเกี่ยวกับการวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา การประเมนิ ผลการศกึ ษา ไพศาล หวังพานชิ (2526: 3-4) การประเมินผลการเรียนการสอนในระหว่างการเรียนการสอน เพ่ือปรับปรุงช่วยเหลือแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง การประเมินผลลักษณะนี้เรียกว่า การประเมินเพื่อ ปรับปรุงการเรียนการสอน (Formative Evaluation) ได้จากการวัดผลการสอบย่อย การท่าแบบฝึกหัด หรือให้งานอย่างอ่ืน ส่วนการประเมินหลังจากการเรียนการสอนได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เพื่อลงสรุป ตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนว่ามีความรู้มากน้อยเพียงใด การประเมินผลลักษณะนี้เรียกว่า การ

16 ประเมินผลรวม (Summative Evaluation) ประเมินผลเมื่อส้ินสุดการเรียนการสอนท้ังหมดได้จากการ วดั ผลการสอบปลายภาพเรียน สมบูรณ์ ตันยะ (2538: 13-14) กล่าวว่า การประเมินผลการเรียนการสอนเป็นกระบวนการ ตรวจสอบผเู้ รยี นวา่ สามารถเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่วางไว้หรือไม่ อีกท้ังยัง เปน็ ตวั บ่งชถ้ี งึ ประสทิ ธภิ าการสอนของครอู กี ด้วยโดยทัว่ ไปมจี ุดมุง่ หมาย 3 ประการดังน้ี 1.ประเมนิ เพอ่ื วนิ จิ ฉยั คน้ หาส่วนที่บกพร่องเป็นการตรวจสอบความพร้อม ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการดา่ เนนิ งาน 2. ประเมนิ เพ่ือปรบั ปรงุ การกระทา่ ระหวา่ งการเรยี นการสอน 3. ประเมนิ เพอื่ ตดั สนิ ลงสรปุ ว่าการเรยี นการสอนน้ันมีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ลหรือไม่ สมนึก ภทั ทิยธนี (2544 : 4) กล่าวว่า การประเมินผลการศกึ ษา หมายถงึ การตดั สินหรือวินิจฉัย สิ่งต่าง ๆ ท่ีไดจ้ ากการวดั ผลการศึกษา โดยอาศัยเกณฑพ์ ิจารณาอย่างใด อย่างหนึง่ กล่าวโดยสรุปแล้ว การประเมินผลการเรียน หมายถึง การตัดสิน หรือวินิจฉัยส่ิงต่าง ๆ ท่ีได้จาก การวัดผลการศกึ ษา เพอื่ ตรวจสอบเพ่ือผเู้ รยี นวา่ มีความรู้มากน้อยเพียงใด ความหมายของการประเมนิ ผลย่อย การประเมินผลเป็นกระบวนการตัดสินคุณค่าของส่ิงของหรือกระท่าใด ๆ โดยเปรียบเทียบกับ เกณฑ์มาตรฐานท่ีได้ต้ังไว้ ส่าหรับการประเมินผลย่อย (Formative Evaluation) มีผู้ให้ความหมายไว้ หลายท่าน ดังน้ี ไพศาล หวังพานิช (2526: 24-26) ได้กล่าวว่า การประเมินผลย่อยเป็นการปริมนผลหลังจบ เนื้อหาหน่ึง ๆ เพ่ือตรวจสอบดูว่าหลังจากนักเรียนได้เรียนในแต่ละเร่ืองแล้วได้ผลในระดับที่น่าปรารถนา หรือไม่ หรอื ยังมขี อ้ บกพร่องในส่วนไหน ตอนใด และควรมกี ารแก้ไขปรับปรุงเกีย่ วกับสิ่งใดในเนื้อหานั้น ๆ ทั้งยังช่วยให้ได้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการสอนของครู เป็นผลให้นักเรียนเกิดความรอบรู้ในการเรียนอย่าง สมบูรณเ์ ต็มท่ี นิภา เมธธาวชี ัย (2533 : 10) ได้กล่าววา่ การประเมินผลระหว่างสอนมีจุดประสงค์เพื่อทราบว่า ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์หรือยัง เครื่องมือที่ใช้วัด เช่น การซักถาม การสังเกต การให้ลงมือ ปฏิบัติ การทดสอบย่อยตามจุดประสงค์การเรียนรู้ และเป็นแนวทางในการปรับปรุงการสอนให้มี ประสทิ ธิภาพยิ่งขน้ึ สุทธิวรรณ พรี ศกั ดโ์ิ สภ (2537: 5) ไดก้ ลา่ วไวว้ า่ การประเมินผลระหว่างเรยี นเปน็ การประเมินผล ตามจดุ ประสงค์ที่กา่ หนดไว้ระหวา่ งการเรยี นการสอนในแต่ละบท เพ่ือให้ครูทราบว่านักเรียนได้บรรลุตาม จุดประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่เพียงใด นักเรียนบกพร่องในเรื่องใด ครูจะได้ท่าการปรับปรุงการสอนให้ เหมาะสม จากความหมายการประเมินผลยอ่ ยข้างตน้ พอสรุปได้ว่า การประเมนิ ผลย่อยเป็นการประเมินผล ระหว่างการเรียนการสอนตามจุดประสงค์ที่ก่าหนดไว้ระหว่างการเรียนการสอนในแต่ละบท เพื่อวินิจฉัย ขอ้ บกพร่องของผู้เรยี น และน่ามาปรบั ปรงุ การเรียนการสอนใหอ้ ยูใ่ นเกณฑ์ท่ีกา่ หนด หลกั การสรา้ งแบบทดสอบยอ่ ย

17 บลูม (Bloom and others. 1971 : 65)ได้ก่าหนดขั้นตอนในการสร้างแบบทดสอบย่อยไว้ 3 ประการดงั น้ี 1.วิเคราะห์หน่วยความรู้ (Analysis of Learning Units) เน้ือหา จุดมุ่งหมายและธรรมชาติของ บทเรียนนัน้ ๆ 2. สรา้ งตารางเฉพาะของหนว่ ยการเรียนรู้ (Specification for Units) 3. ด่าเนินการสร้างข้อสอบย่อยซึ่งควรมลี ักษณะดังน้ี 3.1 สร้างข้อสอบให้ครอบคลุมแต่ละพฤติกรรมท่ีก่าหนดไว้ในตารางเฉพาะอย่างน้อยพฤติกรรม ละ 1 ข้อ 3.2 ขอ้ สอบตอ้ งรวบรวมเน้อื หาทงั้ หมดไมใ่ ช่สมุ่ เฉพาะสว่ นส่าคญั เพ่ือเป็นตวั แทนเท่านัน้ 3.3 ขอ้ สอบควรมคี วามยากงา่ ยต่อเนื่องกัน ผู้ทที่ า่ ขอ้ สอบส่วนที่ง่าย ๆ จะได้เกิดการเรียนรู้ท่ียาก กวา่ ได้ถกู ตอ้ ง ไมใ่ ชท่ ่าถกู โดยบังเอญิ หรอื การเดา 3.4 ขอ้ สอบจะมปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน ถ้าไม่เพียงแตบ่ อกว่าเขาท่าสว่ นใดไม่ได้ แต่ควรบอกสาเหตุ ท่ีเขาทา่ ไม่ได้ด้วย 3.5 คะแนนตอ่ การสอบยอ่ ยไมม่ ีผลตอ่ การตัดสินผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน แต่จะเป็นเครื่องชี้น่าให้ นกั เรียนร้วู า่ เขาบกพร่องทไ่ี หน ควรแก้ไขอยา่ งไร เพ่อื ให้เกดิ ความร้ใู นเนื้อหานนั้ เป็นอย่างดี สุรชยั ขวัญเมือง (2522: 215-217) กลา่ วถงึ กระบวนการสร้างแบบทดสอบยอ่ ย มีดังน้ี 1.น่าหน่วยการเรียนท่ีต้องการสอบมาจัดวิเคราะห์เนื้อหาอย่างย่อย ๆ โดยศึกษาจากคู่มือและ แบบเรยี น 2. วเิ คราะห์พฤตกิ รรมของเนอื้ หาย่อยที่วิเคราะห์ไวแ้ ล้ว 3. กา่ หนดนา่้ หนักทต่ี อ้ งการวดั ในแตล่ ะเน้ือหาพฤติกรรม 4. ปรบั ปรุงตารางวเิ คราะหใ์ ห้สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องวิชา 5. สร้างแบบทดสอบย่อยตามตารางท่ีวิเคราะห์ไว้แล้ว ข้อสอบบางข้ออาจน่าไปใช้ในการ ประเมินผลรวมอกี ก็ได้ 5.1 เป็นข้อสอบที่ถามตรงจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของการเรียนการสอนในแต่ละ หนว่ ยโดยหน่ึงจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมอาจสรา้ งข้อสอบได้หลายข้อ 5.2 การให้คะแนนจากการสอบ ตัดสินว่าบุคคลผ่านหรือไม่ หน่วยย่อยใด ๆ นั้น อาศัย การก่าหนดเกณฑไ์ วล้ ว่ งหนา้ 5.3 การสอบต้องสอบหลังจากการเรยี นการสอนในหนว่ ยนั้นสิน้ สดุ ลง ไพศาล หวังพานิช (2526: 86) ได้เสนอหลักการพอสรุปได้ว่า การออกข้อสอบย่อยน้ันไม่ จ่าเป็นต้องมีจ่านวนข้อมากมาย และใช้เวลาสอบนานเป็นชั่วโมง อาจใช้ข้อสอบ 10-20 ข้อ และใช้เวลา เพียง 10-15 นาทีก็ได้ ข้อส่าคัญอยู่ที่ว่าข้อสอบนั้นต้องครอบคลุมและสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการ สอนที่ก่าหนด กรอนลันด์ (Gronlund. 1981:137) ไดเ้ สนอหลักการสร้างและการใช้แบบทดสอบยอ่ ยดงั น้ี 1.เป็นแบบทดสอบอิงเกณฑ์ (Criterion-referenced Mastery Tests) บางคร้ังใช้แบบอิงกลุ่ม (Norm-referenced Tests) 2. เน้ือหาท่จี ะนา่ มาทดสอบ ก่าหนดขึน้ อยา่ งแน่นอนอาจเป็น 1 หน่วย 1 บท หรอื 1 หมวด ก็ได้

18 3. ความยากงา่ ยข้นึ อยู่กับเนอื้ หาและควรเป็นขอ้ สอบทีค่ ่อนข้างง่าย 4. ใชท้ ดสอบระหว่างการเรยี นการสอนเพ่อื ชว่ ยชขี้ ้อบกพรอ่ งในการเรียนของนกั เรียน กล่าวโดยสรุปแลว้ การสร้างแบบทดสอบย่อยจะต้องสร้างตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมในแต่ละ หน่วยการเรียนและตอ้ งสร้างจากเนื้อหาท้ังหมด ความยากง่ายของข้อสอบขึ้นอยู่กับเน้ือหาแต่ละตอน ซ่ึง คะแนนของการสอบจะไม่น่าไปตดั สนิ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น หรือการตดั สินได-้ ตก ประโยชน์ของการทดสอบย่อย บลูม (Bloom and others. 1971 : 66) ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการทดสอบย่อยว่าก่อให้เกิด ประโยชน์หลายอย่างดังนี้ ส่าหรับการประเมินย่อยท่าให้นักเรียนได้เรียนรู้มากขึ้น เพราะท่าให้นักเรียน ต้องเตรียมตัวอยู่เสมอ ท่าให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เพราะต้องแบ่งเน้ือหาเป็นส่วนย่อย ๆ ท่าให้นักเรียนทราบ ข้อบกพร่องท่ีควรแก้ไขของตนเอง และท่าให้เกิดความมั่นใจในการเรียนรู้ กล้าเผชิญปัญหา ส่าหรับ ครผู ูส้ อน ทา่ ใหค้ รคู ้นพบวิธีการทเี่ หมาะสมในการจดั การเรียนการสอน และส่าหรับผู้ร่างหลักสูตร ช่วยให้ ผู้รา่ งหลกั สตู รเรยี งลา่ ดับเน้อื หาไดง้ า่ ยขึน้ สุรชัย ขวัญเมือง (2522 : 217) กล่าวถึงประโยชน์ของการทดสอบย่อย เป็นเคร่ืองมือในการ สงั เกตดวู า่ นักเรยี นมีการพฒั นาการเรียนรูม้ ากน้อยเพียงใด ใช้ตรวจสอบล่าดับข้ัน ปรับปรุงการเรียนการ สอนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ไพศาล หวังวานิช (2526: 4) กล่าวถึงประโยชน์ของการทดสอบย่อย ท่าให้ข้อบกพร่องของ ผ้เู รยี น เพือ่ จะไดใ้ หก้ ารชว่ ยเหลือซอ่ มเสรมิ หรอื แก้ไขข้อบกพร่องเหลา่ นนั้ เชนิสา ชื่นสวุ รรณ (2539: 23) กล่าววา่ แบบทดสอบยอ่ ยมีขอ้ ดีหลายประการดังต่อไปน้ี 1.ครจู ะทราบว่านักเรียนมคี วามรู้มากนอ้ ยเพียงใดในแตล่ ะคน 2. ครูสามารถจัดการเรยี นการสอนให้นักเรียนที่ยังบกพร่อง และสามารถจัดเน้ือหาการเรียนการ สอนซอ่ มเสรมิ ได้ถูกต้อง 3. ครูจะใช้ผลการทดสอบเพ่ือเป็นแนวทางในการวางแผนการจัดการเรียนการสอนในตอนตอ่ ไป 4. นักเรียนจะทราบความสามารถของตนเองและสามารถแก้ไขข้อบกพร่องในการเรียนของ ตนเองไดจ้ ากการเฉลยขอ้ สอบและการแนะน่าจากครูผสู้ อน 5. การทดสอบย่อยจะท่าให้ทราบข้อมูลความรู้ของนักเรียนทันที สามารถแก้ไขปัญหาการเรียน การสอนได้ทันท่วงที ดกี วา่ การทดสอบเพียงครั้งเดยี วทา้ ยบทเรยี น กล่าวโดยสรุปแล้ว การทดสอบย่อยเป็นประโยชน์ส่าหรับนักเรียนในด้านความก้าวหน้าในการ เรียนแต่ละหน่วย หรือข้อบกพร่องท่ีต้องปรับปรุง และส่าหรับครูเป็นการช่วยให้ครูค้นพบวิธีการจัดการ เรยี นการสอนทเี่ หมาะสม

19 บทที่ 3 วธิ ดี า้ เนนิ การวิจัย กลุม่ เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ คือ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จ่านวน 22 คน ซ่ึงได้มาโดยการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรายวิชาการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จ่านวน 22 คน ท่ีมี พฤตกิ รรมการเรียนที่ขาดความสนใจและเอาใจใส่ต่อการเรียน ผู้วิจัยจึงเลือกนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 จ่านวน 22 คน เป็นกล่มุ เป้าหมาย ในการทดลองใช้วิธีการสอนแล้ว สอบ การสรา้ งและการหาคุณภาพของเครอ่ื งมือท่ีใชก้ ารวจิ ัย เครอ่ื งมือที่ใช้ในการวิจัยในครง้ั นี้ คอื วิธีการสอนดว้ ยบทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง การออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ ซง่ึ มีขั้นตอนในการสร้างและการหาคณุ ภาพดังต่อไปนี้ 1. ศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวข้องกับการประเมินผลระหวา่ งเรยี น 2. ก่าหนดขั้นตอนการสอนด้วยบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง เร่อื ง การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ 3. ในการตรวจสอบคุณภาพของขน้ั ตอนการสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง เร่ือง การออกแบบ ผลิตภัณฑ์น้นั ผู้วจิ ยั ได้นา่ ขั้นตอนการสอนดว้ ยบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปให้ ผู้เช่ยี วชาญ จ่านวน 3 คน ประเมนิ ความสอดคล้องของข้ันตอนการสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดกับนักเรียน จากน้ันผู้วิจัยจึงน่าขั้นตอน การสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์มาปรับปรุงแก้ไขแล้วน่าไปท่าการ ทดลองใช้กับนักเรยี นกล่มุ เปา้ หมาย การสร้างและการหาคุณภาพของเคร่อื งมือท่ีใช้เก็บข้อมลู การสร้างและการหาคุณภาพของเคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวจิ ัย ในคร้ังน้ี คอื แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ซึ่งมขี ้ันตอนในการสร้างและการหาคุณภาพ ดังต่อไปน้ี 1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน 2. สร้างข้อสอบย่อยระหว่างเรียนแต่ละหัวข้อ ซึ่งเป็นข้อสอบแบบอัตนัย หัวข้อละ 3 – 5 ข้อ ขึน้ อย่กู ับเนอื้ หา และสร้างขอ้ สอบปรนัยแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ่านวน 40 ข้อ 20 คะแนนส่าหรับวัด ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นหลงั เรียน

20 3. ในการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบแบบอัตนัยและปรนัยน้ัน ผู้วิจัยได้น่าข้อสอบไปให้ ผเู้ ชีย่ วชาญ จ่านวน 3 คน ประเมินความสอดคล้องของข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ีต้องการให้เกิด กับนักเรียน จากน้ันผู้วิจัยจึงน่าข้อสอบ มาปรับปรุงแก้ไขแล้วน่าไปท่าการทดลองใช้กับนักเรียน กลุม่ เป้าหมาย การออกแบบการทดลอง แบบแผนการทดลอง ในการวิจัยคร้ังนี้ ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัย แบบกลุ่มเดียว วัดผลเฉพาะหลังการทดลอง (One group posttest only design ) กลมุ่ สอบก่อนทดลอง ทดลอง สอบหลังทดลอง กลุ่มทดลอง X T2 ความหมายของสัญลกั ษณ์ X หมายถึง วิธกี ารสอนบทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื ง เรอ่ื ง การออกแบบผลิตภัณฑ์ T2 หมายถึง การทดสอบหลงั การทดลอง (post-test) นา่ คะแนนหลังการทดลองเทียบกบั เกณฑ์ การผ่าน 14 คะแนน การเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ช้ีแจงให้นกั เรยี นไดร้ ับทราบเก่ียวกับกระบวนการจดั การเรียนการสอนทั้งหมด เนอ้ื หาท่ีต้อง เรยี น และวัน เวลาที่เรียนและท่ีต้องสอบ 2. ด่าเนนิ การสอบตามเนือ้ หาวชิ าและกิจกรรมการเรียนการสอนทกี่ ่าหนดไว้ พร้อมทงั้ แจง้ ให้ นกั เรยี นไดร้ ับทราบล่วงหนา้ เกย่ี วกับการสอบ เน้ือหาทีจ่ ะทา่ การสอบ เวลาที่จะสอบ 3. สอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เร่ือง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ แลว้ สอบนักเรยี นที่กา่ หนดไว้ 4. เก็บรวบรวมขอ้ มลู แล้ววิเคราะห์พัฒนาการด้านคะแนนของนักเรียน 5. ดา่ เนินการสอบปลายภาคนกั เรียน 6. นา่ คะแนนที่ได้ไปเทยี บกบั เกณฑ์ที่กา่ หนด ไว้คอื ร้อยละ 70 สถิตทิ ่ใี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ในการวิจยั ครั้งนี้ สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู ไดแ้ ก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน

21 บทท่ี 4 ผลการวิจัย ผลการพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น รายวชิ า การออกแบบผลติ ภัณฑ์ รหสั วชิ า ว20288 ด้วย บทเรยี นออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ปรากฏผลดังตาราง ตารางท่ี 1 ผลการพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน รายวชิ า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียน ออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 (โดยรวม) การทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ n X S.D. คะแนนหลังเรยี น 22 15.68 2.17 จากตารางท่ี 1 แสดงว่านักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ มี คะแนนเฉลีย่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนหลังเรียน ( X = 15.68) สูงกวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 70 ตารางที่ 2 ผลการพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น รายวชิ า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียน ออนไลน์ เร่อื ง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 (รายบุคคล) คนที่ ชอื่ – สกุ ล คะแนนหลังเรยี น เทียบกบั เกณฑ์ (20 คะแนน) (รอ้ ยละ 70 หรือ 14/20คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 เดก็ ชายกฤษฎี สที าแก 14  2 เดก็ ชายโชตนิ นั ท์ เงนิ ขาว 15  3 เด็กชายทนิ กร สวา่ งพฤกษ์ 15  4 เด็กชายพาณุ เทยี มเกตุแกว้ 14  5 เด็กชายพีรวัฒน์ จูมมาสวง 17  6 เด็กชายเรด ฟาแล็บ วลิ เลยี่ ม 10  7 เดก็ ชายวีระศักด์ิ ภักดีราช 16 

22 คนที่ ชื่อ – สกุ ล คะแนนหลังเรยี น เทยี บกับเกณฑ์ 8 เด็กหญิงกนกพร สีทาแก (20 คะแนน) (ร้อยละ 70 หรือ 14/20คะแนน) 16 ผา่ น ไม่ผา่ น  9 เดก็ หญงิ กนกวรรณ กลางบุรมั 12  10 เด็กหญงิ ขวัญจริ า โคตรทา้ ว 15  11 เดก็ หญิงณัฐธิดา รัตเพช็ ร 17  12 เดก็ หญงิ นัชชา คา่ อ้อ 18  13 เด็กหญิงปิยะธิดา มาตลุ ี 18  14 เด็กหญงิ ปานตะวนั คา่ อ้อ 16  15 เดก็ หญงิ ภัชราพร เพง็ นา้่ คา่ 17  16 เด็กหญิงวรนชุ วเิ วช 15  17 เด็กหญงิ วารณุ ี เกดิ ทอง 14  18 เด็กหญงิ สกุ ัญญา เหล่าเจริญ 14  19 เดก็ หญิงอัจฉริยา วงกลาง 18  20 เด็กหญิงวริ าสินี ภูดินดาน 18  21 เด็กหญิงสดุ าลักษ์ วิเศษ 17  22 เดก็ หญงิ ชนมน์ ิภา หนนุ เภา 19  รวม 22 คน 20 2 จากตารางท่ี 2 แสดงว่า นักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ มีคะแนนเฉล่ียผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 จ่านวน 20 คน คิดเป็นร้อย ละ 90.91 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.09

23 บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ยั อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัยคร้งั นเี้ ปน็ การวิจยั ในช้ันเรยี น (classroom action research) มีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มเปา้ หมายทีใ่ ช้ในการวจิ ยั คร้ังน้ี คือ นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียน ที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จ่านวน 22 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัด ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รูปแบบการทดลองท่ีใช้ คือ แบบกลุ่มเดียววัดผล เฉพาะหลังการทดลอง (One group posttest only design ) โดยการน่าคะแนนหลังการทดลองไป เทยี บกับเกณฑ์การผา่ นรอ้ ยละ 70 สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน สรปุ ผลการวจิ ยั การด่าเนินการทดลองเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ว20288 ดว้ ยบทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ จากผลการทดลองสรุปได้ดงั น้ี ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ พบว่า นักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ มีคะแนนเฉล่ียผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 และนักเรียนท่ีเรียนด้วย บทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ มีคะแนนเฉล่ียผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า เกณฑร์ อ้ ยละ 70 จา่ นวน 20 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90.91 ไมผ่ ่านเกณฑ์ 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 9.09 อภปิ รายผลการวจิ ัย จากผลการวจิ ยั สามารถอภปิ รายผลได้ดงั น้ี ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การ ออกแบบผลิตภัณฑ์ พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ มี คะแนนเฉลย่ี ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนหลงั เรยี นสงู กวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 70 และนักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียน ออนไลน์ เรอ่ื ง การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ มคี ะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อย ละ 70 จ่านวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 90.91 ไม่ผ่านเกณฑ์ 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 9.09 เนื่องจาก การสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ท่าให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากข้ึน ท่าให้นักเรียนสนใจ ต่ืนเต้น สามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ีทุกเวลาและท่าให้เกิดความม่ันใจในการเรียนรู้ กล้า เผชิญปัญหา ส่าหรับครผู ูส้ อน ท่าใหค้ รคู ้นพบวธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน ซ่ึงสอดคล้อง

24 กับท่ี สุทธิวรรณ พีรศักดิ์โสภณ (2537: 5) ได้กล่าวไว้ว่า การประเมินผลระหว่างเรียนเป็นการ ประเมินผลตามจุดประสงค์ที่ก่าหนดไว้ระหว่างการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้สอนทราบว่าผู้เรียนได้บรรลุ ตามจุดประสงค์ที่ต้ังไว้หรือไม่เพียงใด นักเรียนบกพร่องในเรื่องใด ครูจะได้ท่าการปรับปรุงการสอนให้ เหมาะสม ดังนั้นการประเมินผลระหว่างเรียน หรือการด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การออกแบบ ผลิตภัณฑ์ จึงท่าให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันผู้สอนก็สามารถน่าผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียนมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน นอกจากนก้ี ารสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ยังก่อให้เกดิ ความคงทนในการเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการนา้ ผลการวิจัยไปใช้ จากผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึน เมื่อเรียนด้วยบทเรียน ออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ดังน้ันในรายวิชาอ่ืนๆ อาจจะมีการน่าวิธีการสอนด้วยบทเรียน ออนไลน์ เร่ือง การออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนมี ความสนใจ สรา้ งความตน้ื เต้นในการเรยี นร้อู ยู่เสมอ ขอ้ เสนอแนะในการวิจยั คร้งั ต่อไป 1. ควรศึกษาวิจัยเชิงเปรียบเทียบวิธีการสอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การออกแบบ ผลติ ภัณฑ์ กับวิธีการสอนแบบอื่นๆ เพื่อหาวิธีการสอนท่ีมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมกับนักเรียน ตอ่ ไป 2. ควรมีการศกึ ษาวจิ ยั เกยี่ วกับการนา่ วธิ ีการสอนดว้ ยบทเรียนออนไลน์ ไปใช้ในระดับชน้ั อ่นื ๆ

25 บรรณานกุ รม กาญจนา รตั นธีรวเิ ชยี ร. ( 2555 ). การพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ วชิ าอัลกอรทิ ึมเบอ้ื งตน้ เรอ่ื ง การ เขยี นผงั งาน ส้าหรับนักศกึ ษาปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ล้าปาง. (ออนไลน์). 7 มิถุนายน 2560. เข้าถงึ จาก : https://www.tci-thaijo.org/index.php/JLPRU/article /view/24611. ไกรรตั น์ นลิ ฉิม และแวฮาซนั แวหะมะ. (2557). ผลการใชส้ ่ือการสอนดว้ ยการบนั ทึกการสอนใน ห้องเรยี นเป็นแบบมลั ติมเี ดียฝังบนห้องเรยี นเสมือนในรายวิชาด้านคอมพิวเตอร์. (ออนไลน์). 7 มิถนุ ายน 2560. เขา้ ถงึ จาก http://edujournal.psu.ac.th/edujn/index.php /edu_jn2015/article/view/74. จลุ ศักดิ์ สขุ สบาย. (2559). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรือ่ งเทคโนโลยี สารสนเทศ และการส่ือสาร ส่าหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (ฝ่ายประถม). (ออนไลน์). 8 มิถุนายน 2560. เข้าถึงจาก : http://ejournals.swu.ac.th/index.php/jre/issue/view/851. ฉันท์ทิพย์ ลีลติ ธรรม. (2556). การสังเคราะหก์ รอบแนวคิดการเรียนรู้ในหอ้ งเรียนกลบั ทางรว่ มกบั เทคโนโลยีการเรียนรู้ แบบภควันตภาพโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต. (ออนไลน์) 9 มิถุนายน 2560 . สืบค้นจาก https://gsbooks.gs.kku.ac.th /57/grc15/files/sdp7.pdf. เชนสิ า ช่ืนสวุ รรณ. การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ความรบั ผดิ ชอบในการเรียนและ ความสนใจในวชิ าสังคมศกึ ษาของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ท่ีไดร้ ับการสอน โดยวิธแี บบเรยี นคู่ (Learning Cell) กับการสอนตามค่มู อื คร.ู ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมติ ร, 2539. นภิ า เมธธาวชี ยั .การประเมินผลและการสร้างแบบสอบถาม. กรุงเทพฯ : วทิ ยาลยั ครธู นบุรี,2533. นิลบลุ ทองชัย. (2556). การประยุกตใ์ ช้สอ่ื การเรียนออนไลน์ เพอ่ื เพม่ิ ผลสมั ฤทธิ์ในการเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษส้าหรับวิทยาการคอมพิวเตอร์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ กาญจนบุรี. (ออนไลน์). 10 มิถุนายน 2560. เข้าถึงจาก : eoffice.kru.ac.th/e-research /res_person_detail.php?pid=727. พชั รา คงเหมาะ. (2560). แนวทางการพฒั นาหอ้ งเรยี นออนไลน์ส้าหรับอาจารย์มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. (ออนไลน์). 12 มิถุนายน 2560. สืบค้นจาก : www.research. rmutt.ac.th/?p=16207. 40 ไพศาล หวงั พานิช.การวัดผลทางการศึกษา.กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานชิ , 2526. ภาณวุ ัฒน์ วรพิทยเ์ บญจา และคณะ. (2558). การพัฒนาแอพพลเิ คชน่ั การจดั การเรียนการสอนใน ห้องเรียนเสมือนจริงบนอุปกรณ์เคลื่อนท่ี. (ออนไลน์). 12 มิถุนายน 2560. สืบค้นจาก : www.tci-thaijo.org/index.php/Itech/article/view/49051.

26 วรวรรณ เพชรอไุ ร. (2555). ศกึ ษารูปแบบการจดั การเรียนรู้แบบ Active learning ในรายวิชา อย 341 การแปรรูป . (ออนไลน์) . 13 มิถุนายน 2560. สืบค้นจาก : www.engineer.mju.ac.th/goverment/..engineer/File20130530100922_19864.pdf วุฒภิ ทั ร หนยู อด. (2556). ประสิทธผิ ลของรูปแบบการสอนโดยใช้สือ่ การสอนแบบออนไลน์ วิชาการเขียนโปรแกรมเว็บแบบพลวัติ. (ออนไลน์). 13 มิถุนายน 2560. สืบค้นจาก : repository. rmutto.ac.th/xmlui/handle/123456789/133. สุพิชชา ตนั ตธิ ีระศักดิ์และศวิ นติ อรรถวุฒิกลุ . (2559). ผลของการจดั กิจกรรมการเรยี นแบบ ผสมผสานผ่านเครือขา่ ยสังคมออนไลนต์ ามแนวคดิ เพือ่ นช่วยเพ่ือน เพ่ือสง่ เสรมิ ทักษะ การ แกป้ ัญหาการเขียนโปรแกรมของนกั เรยี น ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5. (ออนไลน)์ . 15 มถิ ุนายน 2560. สืบคน้ จาก:https://www.tci-thaijo.org/index.php/Veridian- EJournal/article/view/75644. สุรางค์ โคว้ ตระกูล. (2541). ทฤษฏีการเรียนร้พู ทุ ธิปญั ญานิยม (Constructivism). สืบค้นเมือ่ วนั ท่ี 20 มถิ ุนายน 2560. จาก https://www.gotoknow.org/posts/106985. อนชุ า โสมาบุตร. (ม.ป.ป.). ทฤษฎคี อนสตรัคตวิ สิ ต์ (Constructivist Theory). สบื คน้ เมื่อวนั ที่ 20 มถิ นุ ายน 2560. จาก https://teacherweekly.wordpress.com/2013/09/25 /constructivist-theory/. สมบูรณ์ ตันยะ. รายงานการวิจัยค่านิยมทางการศึกษาไทย อดีต ปัจจุบัน อนาคต. นครราชสีมา : คณะครศุ าสตร์ สถาบนั ราชภัฎนครราชสีมา, 2538. สุทธวิ รรณ พรี ศกั ดโิ์ สภณ. เอกสารประกอบการสอนวิชาการวัดผลการศกึ ษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม, 2537. สรุ ชัย ขวญั เมือง.วธิ ีสอนและการวดั ผลในวชิ าคณติ ศาสตร์. กรงุ เทพฯ : กรมการฝกึ หดั คร,ู 2522. Bloom, B.S.,and others. Handbook on Foprmative and Summative Evaluation of Student Gronlund, N.E.Measurement and Evaluation in Teaching. 4th ed. New York : Macmillan,1981.

27 ภาคผนวก - แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น - คมู่ อื การใช้งานบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง การออกแบบผลติ ภณั ฑ์

28 โรงเรียนโคกสูงประชาสรรพ์ อ่าเภอน้า่ พอง จงั หวดั ขอนแกน่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 รายวชิ า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัสวชิ า ว 20288 คะแนนเต็ม 20 คะแนน แบบปรนยั 40 ขอ้ เวลา 60 นาที ค้าชีแ้ จง เลือกคา่ ตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ เพียงข้อเดยี ว 1. โปรแกรม Google SketchUp เปน็ โปรแกรมเกี่ยวกบั อะไร (ผลการเรียนรู้ขอ้ 5) ก. น่าเสนอข้อมลู ข. ประมวลผลคา่ ค. ออกแบบผลิตภณั ฑ์ ง. การคา่ นวณ 2. สกลุ ไฟล์ของโปรแกรม Google SketchUp Pro 8.0 คอื ข้อใด (ผลการเรยี นร้ขู ้อ 5) ก. jpg ข. Skp ค. gif ง. Bmp 3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เคร่ืองเรอื นภายในหอ้ งพักของโรงแรม (ผลการเรียนรู้ขอ้ 6) ก. เตียง ข. โต๊ะเคร่อื งแป้ง ค. ตเู้ กบ็ ของ ง. ตูเ้ สื้อผา้ 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เครอ่ื งเรอื นภายในหอ้ งรบั รองหรอื ล็อบบ้ี (ผลการเรียนรขู้ ้อ 6) ก. เก้าอ้ยี าว ข. เก้าอ้ีเท้าแขน ค. โตะ๊ กลาง ง. เก้าอีโ้ ยก 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เครอ่ื งเรือนในหอ้ งอาหาร (ผลการเรยี นรูข้ ้อ 6) ก. โตะ๊ อาหาร ข. เกา้ อ้รี ับประทานอาหาร ค. โตะ๊ เล่ือน ง. โตะ๊ ขา้ ง 6. ขอ้ ใดไม่ใช่เคร่ืองเรอื นภายในหอ้ งครัว (ผลการเรยี นรขู้ ้อ 6) ก. อา่ งลา้ งจาน ข. เตาหงุ ต้ม ค. โต๊ะรบั ประทานอาหาร ง. ตเู้ ยน็ 7. ข้อใดไม่ใช่เครื่องเรอื นภายในห้องทา่ งาน (ผลการเรยี นรู้ขอ้ 6) ก. โตะ๊ ท่างาน ข. ตูเ้ กบ็ เอกสาร ค. ตวู้ างของ ง. เกา้ อี้หมนุ 8. Living Room หมายถงึ ห้องอะไร (ผลการเรยี นรูข้ ้อ 6) ก. หอ้ งนอน ข. หอ้ งรับแขก ค. ห้องอาหาร ง. หอ้ งครวั 9. Dining Room หมายถึงห้องอะไร (ผลการเรียนรู้ข้อ 6) ก. ห้องนอน ข. หอ้ งรับแขก ค. หอ้ งอาหาร ง. ห้องครัว

29 10. การออกแบบสีภายในหอ้ งรับรองข้อใดเหมาะสมทส่ี ุด (ผลการเรยี นรู้ข้อ 7) ก. ใชโ้ ทนสอี บอนุ่ พรมสีเขม้ ข. ใช้สีนวลหรอื สีฟ้าและกระเบอื้ งกนั ล่นื ค. ใช้สีสันสดใส สนกุ สนาน ง. ใชส้ สี ุภาพ สะอาดตา และใช้วสั ดทุ ่าความสะอาดง่าย 11. สถานะเร่มิ ต้นของเมาส์ในโปรแกรม Google SketchUp เป็นเคร่ืองมือตวั ใด (ผลการเรียนรูข้ อ้ 7) ก. ข. ค. ง. 12. เครอ่ื งเรือนประเภทเคลือ่ นย้ายได้ มขี ้อดีอย่างไร (ผลการเรียนรูข้ อ้ 7) ก. สามารถเปลย่ี นแปลงต่าแหน่งเครื่องเรือนได้ ข. มคี วามหรูหราสวยงาม ค. มีความแข็งแรงทนทาน ง. ถูกทุกข้อ 13. ข้อเสียของเครื่องเรือนติดตงั้ ถาวร คอื อะไร (ผลการเรยี นรูข้ อ้ 7) ก. มตี น้ ทนุ สงู ข. ยากตอ่ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรปู แบบ ค. ไม่สามารถเคล่ือนยา้ ยได้ ง. ถกู ทกุ ข้อ 14. การออกแบบสภี ายในห้องน้า่ ข้อใดเหมาะสมทสี่ ุด (ผลการเรียนรูข้ ้อ 7) ก. ใช้โทนสอี บอุ่น พรมสีเข้ม ข. ใชส้ นี วลหรอื สีฟ้าและกระเบือ้ งกนั ลื่น ค. ใช้สสี ดใส สนกุ สนาน ง. ใชส้ ีสุภาพ สะอาดตา และใชว้ สั ดทุ ่าความสะอาดง่าย 15. การออกแบบสีภายในหอ้ งครวั ข้อใดเหมาะสมท่ีสุด (ผลการเรียนรู้ข้อ 7) ก. ใช้โทนสอี บอุน่ พรมสีเขม้ ข. ใชส้ นี วลหรอื สีฟา้ และกระเบ้ืองกนั ล่นื ค. ใช้สีสดใส สนุกสนาน ง. ใช้สสี ภุ าพ สะอาดตา และใช้วสั ดุทา่ ความสะอาดงา่ ย 16. การตดิ ตั้งไฟในหอ้ งพักโรงแรม ข้อใดไม่เหมาะสม (ผลการเรยี นรขู้ ้อ 8) ก. ตั้งโคมไฟไวท้ ีโ่ ตะ๊ หวั เตียง ข. ให้แสงสวา่ งด้วย Downlight กระจายตามมมุ ห้อง ค. ตดิ ดวงโคมไว้ที่เพดานตรงกับเตียงนอน ง. ใช้ไฟก่ิงติดข้างผนัง

30 17. “Edge Style” คอื อะไร (ผลการเรยี นรู้ข้อ 8) ก. รปู แบบการแสดงเสน้ ขอบ ข. การควบคุมการแสดงภาพ ค. การแสดงมมุ มองภาพ ง. การแก้ไขการแสดงภาพ 18. ข้อใดไมใ่ ช่กลุ่มเคร่ืองมือควบคุมการแสดงจอภาพ (ผลการเรยี นรขู้ อ้ 8) ก. ข. ค. ง. 19. การเลอื กโมเดลเฉพาะพน้ื ท่รี ูปทรงปิด คือข้อใด (ผลการเรยี นรู้ขอ้ 8) ก. คลิกเมาส์ 1 ครงั้ ทีส่ ว่ นนัน้ ข. ดบั เบลิ คลิกเมาส์ ค. ทรปิ เบลิ คลกิ เมาส์ ง. กดคยี ์ Ctrl ค้างไว้และคลกิ เมาส์ 1 คร้ัง 20. การกดแปน้ คยี ์ Delete ขณะกา่ ลงั เลือกเสน้ หรอื ผิวโมเดล เหมือนกบั การใชเ้ คร่ืองมือใด (ผลการ เรยี นรู้ข้อ 8) ก. ข. ค. ง. 21. ข้อใดไมใ่ ช่ขอ้ ดีของการใช้คา่ สัง่ Make Group (ผลการเรยี นรูข้ ้อ 9) ก. สะดวกในการเทสบี นผิวระนาบแตล่ ะส่วน ข. สะดวกในการเรยี กใชง้ าน ค. สะดวกในการเคล่อื นยา้ ยงาน ง. สะดวกในการคดั ลอกงาน 22. เมอ่ื ใช้คา่ สงั่ Window > Soften Edges จะท่าให้เกิดผลอะไรกบั โมเดล (ผลการเรียนรขู้ ้อ 9) ก. การลบเหลีย่ มและเสน้ ขอบของโมเดล ข. การปรบั สีอัตโนมตั ใิ หโ้ มเดล ค. การขยายขนาดของโมเดล ง. การเพิ่มความคมชัดของเส้น 23. อนิ เฟอรเ์ รนซ์ จดุ สเี ขียว หมายถงึ อะไร (ผลการเรยี นรู้ขอ้ 9) ก. เคอรเ์ ซอร์อยูใ่ นต่าแหนง่ ปลายเสน้ หรือปลายเส้นขอบของวัตถุ ข. เคอรเ์ ซอร์อยใู่ นต่าแหนง่ กลางเส้นหรือกลางเสน้ ขอบของวตั ถุ ค. เคอรเ์ ซอร์อย่บู นพืน้ ผิวของวตั ถุ ง. เคอร์เซอร์อยใู่ นตา่ แหนง่ บนเส้นขอบของวตั ถุ

31 24. การใช้อินเฟอร์เรนซล์ ็อกแกนขณะวาด สามารถท่าได้โดยวธิ ีใด (ผลการเรยี นรขู้ ้อ 9) ก. กดคยี ์ ctrl คา้ งไวแ้ ลว้ ลากเส้น ข. กดคีย์ Shift คา้ งไวแ้ ล้วลากเสน้ ค. กดคยี ์ Spacebar คา้ งไว้แล้วลากเสน้ ง. กดคยี ์ Alt ค้างไว้แล้วลากเสน้ 25. ถา้ ผใู้ ช้วาดรปู วงกลมแลว้ พมิ พค์ า่ 10” ลงในช่อง VCB จะเกดิ อะไรข้นึ (ผลการเรยี นรขู้ อ้ 9) ก. กา่ หนดเส้นรอบวงใหม่เป็น 10 น้วิ ข. ก่าหนดเส้นรอบวงใหมเ่ ป็น 10 ฟตุ ค. กา่ หนดรศั มใี หว้ งกลมเปน็ 10 น้ิว ง. ก่าหนดเส้นรศั มีให้วงลมเป็น 10 ฟตุ 26. เคร่ืองมือในขอ้ ใดทส่ี ามารถสร้างรปู ห้าเหลย่ี มได้ทั้งหมด (ผลการเรียนรขู้ อ้ 9) ก. ข. ค. ง. 27. การคดั ลอกโมเดลโดยใช้เคร่อื งมือ จะกดควบคู่กับแป้นคยี ์ใด (ผลการเรียนรูข้ ้อ 9) ก. Ctrl ข. Shift ค. Alt ง. Spacebar 28. จากภาพ จะเกิดจากการใช้เคร่ืองมือตัวใดท่ารูปทรง 3 มติ ิ (ผลการเรยี นรขู้ อ้ 9) ก. ข. ค. ง. 29. รูปท่ี 1 รูปที่ 2 จากรปู ท่ี 1 เปลยี่ นไปเป็นรูปที่ 2 ควรใช้เครอื่ งมอื ในข้อใดเหมาะสมทสี่ ดุ (ผลการเรียนรขู้ ้อ 9) ก. ข. ค. ง.

32 30. ขอ้ ใดไม่ใช่ข้อดีของคอมโพเนนต์ (ผลการเรียนรู้ข้อ 9) ก. ช่วยใหก้ ารท่างานเรว็ ขนึ้ ในการปรับแต่ง ข. สามารถใชเ้ ส้นแบง่ พ้ืนผิวงานไดง้ า่ ย ค. สามารถแชร์หรือเก็บไว้ใชก้ บั ไฟลอ์ ่นื ได้ ง. วางชิ้นงานไดอ้ ย่างแมน่ ยา่ ตอบค้าถามข้อท่ี 31-40 31. เครอ่ื งมอื หมายเลข 1 ใชส่าหรับทา่ อะไร (ผลการเรยี นรขู้ ้อ 10) ก. เคลอื่ นยายตา่ แหนงของโมเดล ข. หมนุ โมเดล ค. เลอ่ื นมมุ มองการท่างาน ง. ดนั /ยกพ้ืนที่ข้ึน 32. เครอื่ งมือหมายเลข 2 ใชสา่ หรบั ท่าอะไร (ผลการเรยี นรขู้ อ้ 10) ก. เคลือ่ นยายต่าแหนงของโมเดล ข. หมุนโมเดล ค. เลอื่ นมมุ มองการท่างาน ง. สรางพน้ื ผวิ ใหมจากรปู ทรงท่ีเราเลอื ก 33. เครือ่ งมอื หมายเลข 3 ใชส่าหรับทา่ อะไร (ผลการเรยี นรู้ขอ้ 10) ก. เคล่ือนยายต่าแหนงของโมเดล ข. หมนุ โมเดล ค. สรางเสนหรอื ผิวจากตนแบบ ง. สรางพื้นผวิ ใหมจากรูปทรงทเ่ี ราเลือก 34. เครอ่ื งมอื หมายเลข 4 ใชสา่ หรับท่าอะไร (ผลการเรียนรู้ข้อ 10) ก. เคลอื่ นยายตา่ แหนงของโมเดล ข. หมุนโมเดล ค. เลื่อนมุมมองการทา่ งาน ง. สร้างพืน้ ส่เี หลี่ยม 35. เครื่องมอื หมายเลข 5 ใช้สา่ หรบั ทา่ อะไร (ผลการเรียนรขู้ อ้ 10) ก. การวัดระยะหางระหวางจุด 2 จดุ ข. หมุนโมเดล ค. เลือ่ นมมุ มองการท่างาน ง. สรางพ้ืนสเ่ี หล่ยี ม 36. เครื่องมอื หมายเลข 6 ใชส่าหรบั ท่าอะไร (ผลการเรยี นรขู้ ้อ 10) ก. สรางเสนตรง ข. หมนุ โมเดล ค. เลอ่ื นมมุ มองการทา่ งาน ง. สรางพ้ืนสี่เหลีย่ ม

33 37. เครื่องมือหมายเลข 7 ใชสรางในลกั ษณะใด (ผลการเรียนรขู้ ้อ 10) ก. วาดเสนโคง ข. วาดวงกลม ค. วาดเสนตรง ง. วาดเสนอิสระ 38. เคร่ืองมือหมายเลข 8 มชี ่ือเรยี กวาอยางไร และมีหนาท่ีอะไร (ผลการเรยี นรูข้ ้อ 10) ก. เคร่อื งมอื Rectangle ใชวาดรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก ข. เครอ่ื งมือ Follow Me ใชข้ึนรูปวัตถุ ค. เครือ่ งมือ Arc ใชวาดเสนโคง ง. เครอ่ื งมอื Move ใชยายตา่ แหนงวัตถุ 39. เครื่องมอื หมายเลข 9 ใชทา่ หนาท่ตี ามขอใด (ผลการเรยี นรู้ข้อ 10) ก. ยอหรอื ขยายวัตถุ ข. ยดื ขยายผิววัตถตุ ามเสน ค. ดงึ พ้นื ผวิ ขน้ึ ลง ง. Animation สรางภาพเคลื่อนไหว 40. เครอื่ งมือหมายเลข 10 ชื่อเรยี กวาอยางไร และมีหนาที่อะไร (ผลการเรียนรขู้ ้อ 10) ก. เครอื่ งมือ 3DText เขยี นคา่ อธิบายภาพแบบสามมิติ ข. เครือ่ งมอื Text เขียนค่าอธิบายภาพ ค. เครอื่ งมอื Axes แกนจดุ อางอิง ง. เครื่องมอื Animation สรางภาพเคลื่อนไหว

34 คู่มือการใชง้ านบทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื ง การออกแบบผลิตภณั ฑ์ 1. นกั เรยี นพิมพ์ URL : https://sites.google.com/view/krusumatik จะปรากฏหนา้ ตามภาพ ภาพที่ 1 : หนา้ แรกของเว็บไซตห์ อ้ งเรยี นออนไลนข์ องคุณครูสมุ าลี อปุ ชยั 2. คลิกเลือกเมนู “ห้องเรยี นออนไลน์” ดงั ภาพ ภาพท่ี 2 : เมนู “หอ้ งเรยี นออนไลน์

35 3. จะปรากฏหนา้ เวบ็ ไซต์ ดังภาพ ภาพท่ี 3 : หนา้ ห้องเรยี นออนไลน์ 4. คลิกเลือกวชิ า “การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ม.3” ดังภาพ ภาพที่ 4 : เลอื กวิชา “การออกแบบผลิตภัณฑ์ ม.3”

36 5. จะปรากฏหนา้ บทเรยี นออนไลน์ “การออกแบบผลิตภัณฑ์ ม.3” ดังภาพ ภาพที่ 5 : บทเรยี นออนไลน์วิชา “การออกแบบผลติ ภัณฑ์ ม.3” 6. บทเรียนออนไลน์ รายวชิ า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รหัส ว20288 ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ งๆ ดงั นี้ 6.1 เมนเู ขา้ ห้องเรยี น Google Classroom ดังภาพ ภาพที่ 6 : เมนเู ข้าห้องเรยี น Google Classroom

37 6.1.1 เมือ่ คลกิ เข้าในสว่ นนีจ้ ะปรากฏหน้าจอ ดังภาพ แล้วนกั เรยี นกรอก รหัสเขา้ ห้องเรียน คอื mhvemqi จากน้นั คลกิ ทีป่ ่มุ Join 2. คลิก 1. กรอกรหัสเข้าห้องเรยี น ภาพที่ 7 : กรอกรหสั เพื่อเขา้ ห้องเรยี น Google Classroom 6.1.2 จะปรากฏหน้าของหอ้ งเรียน Google Classroom ดงั ภาพ ภาพที่ 8 : หอ้ งเรยี น Google Classroom รายวิชา การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ม.3

38 ซ่งึ ในห้องเรยี น Google Classroom จะมีภาระงานท่คี รูได้มอบหมายใหต้ ามแผนการจดั การเรยี นรูใ้ นแต่ ละชวั่ โมงส่าหรับนกั เรยี นไดร้ ่วมกิจกรรม 6.2 เมนคู ่าอธบิ ายรายวชิ า จะปรากฏดงั ภาพ ภาพที่ 9 : เมนคู ่าอธบิ ายรายวิชา การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ม.3 6.2.1 เมอื่ คลกิ เมนูค่าอธิบายรายวิชา จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพท่ี 10 : คา่ อธบิ ายรายวชิ า การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ม.3 6.3 เมนโู ครงสร้างรายวิชา จะปรากฏ ดังภาพ ภาพที่ 11 : เมนโู ครงสรา้ งรายวิชา การออกแบบผลติ ภัณฑ์ ม.3

39 6.3.1. เม่อื คลิกเมนโู ครงสร้างรายวิชา จะปรากฏ ดังภาพ ภาพท่ี 12 : โครงสรา้ งรายวชิ า การออกแบบผลิตภณั ฑ์ ม.3 6.4 เมนู หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 หลักการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพที่ 13 : เมนู หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 หลักการออกแบบผลิตภณั ฑ์

40 6.4.1 เม่ือคลิกเมนู หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หลักการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ซ่งึ ประกอบดว้ ยเมนยู อ่ ย ไดแ้ ก่ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - บทเรยี น - ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง การออกแบบผลิตภัณฑ์ - ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ - ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ผงั มโนภาพการออกแบบผลติ ภัณฑ์ - แบบทดสอบหลังเรยี น จะปรากฏ ดังภาพ ภาพที่ 14 : หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หลักการออกแบบผลิตภณั ฑ์ 6.5 เมนู หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ความรู้เบอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั โปรแกรม Google SketchUp จะปรากฏ ดังภาพ ภาพท่ี 15 : เมนู หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ความรเู้ บือ้ งต้นเก่ยี วกับโปรแกรม Google SketchUp

41 6.5.1 เมอื่ คลิกเมนู หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ความรูเ้ บื้องตน้ เก่ียวกบั โปรแกรม Google SketchUp ซง่ึ ประกอบดว้ ยเมนูย่อย ไดแ้ ก่ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - บทเรียน - ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั โปรแกรม Google SketchUp - ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การตดิ ต้ังโปรแกรม Google SketchUp - แบบทดสอบหลงั เรยี น จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพท่ี 16 : หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับโปรแกรม Google SketchUp 6.6 เมนู หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 สว่ นประกอบของโปรแกรมและแถบเคร่ืองมอื จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพที่ 17 : เมนู หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 สว่ นประกอบของโปรแกรมและแถบเคร่อื งมือ

42 6.6.1 เม่อื คลกิ เมนู หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ส่วนประกอบของโปรแกรมและแถบเครื่องมือ ซึ่งประกอบดว้ ย เมนยู อ่ ย ได้แก่ - แบบทดสอบก่อนเรียน - บทเรยี น - ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของโปรแกรม Google SketchUp - ใบงานท่ี 3.2 เร่ือง แถบเครื่องมือในโปรแกรม Google SketchUp - ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง แกนอา้ งอิงและการควบคมุ มุมมอง - ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง การบันทึกแม่แบบและไฟลง์ าน - แบบทดสอบหลังเรยี น จะปรากฏ ดังภาพ ภาพที่ 18 : หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 สว่ นประกอบของโปรแกรมและแถบเครื่องมือ 6.7 เมนู หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 การใช้งานกล่มุ เครือ่ งมอื ของโปรแกรม จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพที่ 19 : เมนู หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การใชง้ านกลุ่มเคร่ืองมือของโปรแกรม

43 6.7.1 เม่อื คลิกเมนู หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้งานกลุ่มเคร่ืองมือของโปรแกรม ซ่ึงประกอบดว้ ยเมนยู อ่ ย ได้แก่ - แบบทดสอบก่อนเรียน - บทเรยี น - ใบงานท่ี 4.1 เร่ือง การใช้งานเคร่อื งมอื ของโปรแกรม Google SketchUp - ใบงานท่ี 4.2 เรอ่ื ง การสร้างโมเดลงานดว้ ยโปรแกรม Google SketchUp - ใบงานที่ 4.3 เร่ือง การฝึกออกแบบโมเดลเกา้ อี้ - ใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง การฝกึ ออกแบบโมเดลโต๊ะ - ใบงานท่ี 4.5 เรอ่ื ง การฝกึ ออกแบบโมเดลแก้ว - ใบงานที่ 4.6 เร่อื ง การฝึกออกแบบโมเดลแจกนั - ใบงานท่ี 4.7 เรอ่ื ง การฝึกออกแบบโมเดลโคมไฟ - แบบทดสอบหลงั เรยี น จะปรากฏ ดังภาพ ภาพที่ 20 : หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชง้ านกลุ่มเคร่ืองมือของโปรแกรม

44 6.8 เมนู หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 การสร้างและการออกแบบชิ้นงาน จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพท่ี 21 : เมนู หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 การสรา้ งและการออกแบบชิ้นงาน 6.8.1 เม่อื คลกิ เมนู หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การสร้างและการออกแบบชิน้ งาน ซึ่งประกอบด้วยเมนู ย่อย ได้แก่ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - บทเรยี น - ใบงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง เครื่องมือในการออกแบบโปรแกรม Google SketchUp - ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การออกแบบจดั ชุดโตะ๊ เกา้ อ้ี - ใบงานที่ 5.3 เรอ่ื ง การออกแบบเตียงนอน - ใบงานที่ 5.4 เรื่อง การออกแบบตู้เสื้อผ้า - ใบงานท่ี 5.5 เรื่อง การออกแบบชั้นวางทวี ี - ใบงานที่ 5.6 เรื่อง การออกแบบตู้เคาเตอรบ์ าร์ - ใบงานที่ 5.7 เรอ่ื ง การออกแบบหอ้ งรบั แขก - ใบงานท่ี 5.8 เรื่อง การออกแบบห้องครวั - ใบงานท่ี 5.9 เรื่อง การออกแบบบ้านในฝนั - แบบทดสอบหลงั เรยี น จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพที่ 22 : หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การสรา้ งและการออกแบบชนิ้ งาน

45 6.9 เมนู แบบฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสร้างโมเดลงาน จะปรากฏ ดังภาพ ภาพที่ 23 : หนว่ ยการเรียนรู้ แบบฝึกปฏบิ ัติการสรา้ งโมเดลงาน 6.9.1 เม่ือคลิกเมนู แบบฝกึ ปฏิบัติการสรา้ งโมเดลงาน ซึ่งประกอบดว้ ยเมนยู ่อย ไดแ้ ก่ - แบบฝกึ ปฏิบตั ิที่ 1 การสรา้ งรูปส่เี หลี่ยม - แบบฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ่ี 2 การสร้างรปู ทรงกระบอก - แบบฝึกปฏิบตั ทิ ่ี 3 การสรา้ งรูปหลายเหลี่ยม - แบบฝึกปฏบิ ัตทิ ่ี 4 การสร้างรูปปิรามิด - แบบฝึกปฏิบตั ทิ ่ี 5 การสร้างรูปทรงกลม - แบบฝึกปฏบิ ัตทิ ี่ 6 การเพิ่มพืน้ ผวิ ของรูปทรงวตั ถุ - แบบฝกึ ปฏิบัตทิ ่ี 7 การเจาะพน้ื ผิวของรูปทรงวัตถุ - แบบฝกึ ปฏิบตั ทิ ่ี 8 การปรับแต่งรูปทรงส่ีเหลี่ยม - แบบฝกึ ปฏิบัตทิ ี่ 9 การท่ามุมมนรอบของส่เี หลี่ยม - แบบฝกึ ปฏิบัติที่ 10 การปรับแตง่ บิดรปู ทรงกระบอก - แบบฝกึ ปฏบิ ัตทิ ี่ 11 การสร้างทอ่ - แบบฝึกปฏิบัตทิ ่ี 12 การสร้างแก้วทรงกระบอกสงู - แบบฝกึ ปฏิบตั ิท่ี 13 การสร้างแกว้ ไวน์ - แบบฝกึ ปฏบิ ัตทิ ่ี 14 การสร้างรปู ทรงแจกัน - แบบฝกึ ปฏิบตั ทิ ่ี 15 การสร้างแจกันรปู หลายเหลย่ี ม - แบบฝึกปฏิบัตทิ ่ี 16 การสร้างโคมไฟ - แบบฝึกปฏิบตั ิที่ 17 การสร้างเก้าอี้ - แบบฝึกปฏบิ ัติที่ 18 การสร้างโต๊ะแบบนง่ั กบั พนื้ - แบบฝึกปฏบิ ัตทิ ่ี 19 การสร้างโต๊ะทรงสงู - แบบฝกึ ปฏิบัติที่ 20 การออกแบบตัวอกั ษรบนพ้ืนผิว - แบบฝกึ ปฏบิ ัตทิ ่ี 21 การท่าภาพพืน้ ผิวของผนงั - แบบฝึกปฏบิ ัติท่ี 22 การออกแบบบนั ได

46 - แบบฝึกปฏิบตั ทิ ี่ 23 การออกแบบประตบู ้าน - แบบฝกึ ปฏิบัตทิ ี่ 24 การออกแบบสร้างรว้ั - แบบฝึกปฏิบตั ิที่ 25 การออกแบบบา้ น จะปรากฏ ดงั ภาพ ภาพที่ 24 : แบบฝึกปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งโมเดลงาน