Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทบาทของนิทานพื้นบ้านปกาเกอะญอ หมู่บ้านสันโป่ง ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง

บทบาทของนิทานพื้นบ้านปกาเกอะญอ หมู่บ้านสันโป่ง ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง

Published by sakulsueb_9, 2020-03-18 15:53:12

Description: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทนิทานพื้นบ้านปกาเกอะญอ จากหมู่บ้านสันโป่ง ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง โดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับบทบาทของนิทานของสติธ ทอมป์สันมาใช้ในการศึกษาวิเคราะห์ จากการสัมภาษณ์วิทยากรชาวปกาเกอะญอจำนวน 6 คน สามารถรวบรวมนิทานได้ทั้งสิ้น 24 เรื่อง ผลการวิเคราะห์เนื้อหานิทานพื้นบ้านปกาเอะญอ พบว่าปรากฏบทบาทใน 4 ด้าน ได้แก่1.ให้สาระความรู้ 2.ให้ความบันเทิง 3.อบรมศีลธรรม-จริยธรรม และ 4.ผ่อนคลายความกังวล

Keywords: บทบาท,นิทานพื้นบ้านปกาเกอะญอ,สติธ ธอมป์สัน

Search

Read the Text Version

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ ครงั้ ที่ 3 INC2019: Mcu Nan The 3rd National Conference 2019 วิทยาลัยสงฆน์ ครนา่ น มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ทป่ี รึกษา พระราชปริยัตกิ ว,ี ศ.ดร. อธิการบดีมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย พระราชวรเมธ,ี รศ.ดร. รองอธิการบดฝี า่ ยบริหาร พระราชวรมนุ ,ี รศ,ดร. รองอธกิ ารบดฝี ่ายกจิ การนสิ ติ พระราชคุณาภรณ์ เจา้ คณะจังหวดั น่าน พระราชศาสนาภิบาล รองเจา้ คณะจังหวดั นา่ น พระสนุ ทรมนุ ี ประธานคณะกรรมการวิทยาลยั สงฆน์ ครน่าน วา่ ท่รี ้อยตรีสมเดช อภิชยกลุ ทีป่ รกึ ษาวทิ ยาลัยสงฆ์นครนา่ น คณะบรรณาธกิ าร ประธานคณะบรรณาธกิ าร พระสวุ รรณเมธาภรณ์,ผศ. รองประธานคณะบรรณาธกิ าร พระมหาบญุ เลศิ อนิ ทฺ ปญโฺ ญ,รศ.ดร. คณะบรรณาธิการ พระครโู สภณปรยิ ตั สิ ธุ ,ี รศ.ดร. คณะบรรณาธกิ าร ศาสตราจารย์ ดร.วชั ระ งามจิตรเจรญิ คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.ปรตุ ม์ บญุ ศรตี ัน คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.กุหลาบ รตั นสัจธรรม คณะบรรณาธิการ รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชา จนั ทรบรู ณ์ คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.วโิ รจน์ อนิ ทะนนท์ คณะบรรณาธกิ าร ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อนนั ต์ อุปสอด คณะบรรณาธกิ าร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธงชยั สิงอดุ ม เลขานกุ ารคณะบรรณาธกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.วรปรชั ญ์ คาพงษ์ ผชู้ ่วยบรรณาธกิ าร พระครปู ลัดวชั รพงษ์ วชิรปญฺโญ, ผศ.ดร. ผ้ชู ่วยบรรณาธกิ าร ดร.ธีรทัศน์ โรจนก์ ิจจากุล แบบปก-รปู เล่ม : นายศภุ กริช เข่อื นเพชร พิมพเ์ ม่ือ : พฤษภาคม 2562 จดั พิมพ์ในงาน : การประชุมวิชาการระดับชาติ คร้งั 3 วทิ ยาลัยสงฆน์ ครน่าน มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั เฉลิมพระเกียรติสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ประจาปี 2562

นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [1] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage ถอ้ ยแถลง เน่ืองในโอกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดสะพานสิริธรรมรัถย์ (เส้นทางแห่งคุณความดีอัน เป็นมงคล) ทรงเปิดแพรคลุมป้ายวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกยี รติฯ และทรงเปิดงานประชุมวิชาการระดบั นานาชาติ ครง้ั ท่ี 2 (คร้งั ที่ 10 มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) และระดับชาติ คร้ังท่ี 3 ในวันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ วิทยาลัยสงฆน์ ครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกยี รตฯิ จังหวัดน่าน เพ่ือวางรากฐานการศึกษาวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งน้ี ให้เกิดความ เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป ซ่ึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ อยา่ งหาที่สุดมไิ ด้ วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มจร และเครือข่ายจัดประชุมวิชาการวิชาการระดับนานาชาติ คร้ังท่ี 10 และระดับชาติ คร้ังที่ 3 (The 10th International and the 3rd National Conference 2019 (INC 2019 : MCU Nan) ภายใต้หัวข้อเรื่อง “นครน่าน : นครพระพุทธศาสนา สู่มรดกธรรม มรดกโลก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการสู่สังคม และเปน็ เวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ ผ่านผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือการพัฒนาจิตใจและสังคมอย่างย่ังยืน ตามปรัชญาของ มหาวิทยาลัยและนโยบายรัฐบาลท่ีให้ความสาคัญต่อการวิจัย การพัฒนาต่อยอด และการสร้าง นวัตกรรมเพ่ือนาไปสู่การแกไ้ ขและพฒั นาประเทศให้ยัง่ ยนื การนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นฐานในการทาให้วิทยาการใหม่ๆ ท้ังหลาย มีโอกาสได้แสดงฐานะและบทบาทมากยิ่งข้ึน น่ันคือผู้ที่มีความรู้ความเช่ียวชาญในวิชาการยุคใหม่ได้ หนั มาศึกษาปฏิบตั ติ ามหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา พัฒนาตัวเองให้มคี วามเขม้ แข็งสามารถยืนหยัด อยู่ได้ในท่ามกลางโลกธรรมท่ีแปรเปล่ียนไปในทางดีและไม่ดีตลอดเวลา ความเป็นคนเข้มแข็งน้ี จะเป็นโอกาสให้ได้ใช้วิชาความรู้ในการปฏบิ ัตหิ น้าทกี่ ารงานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพตลอดเวลา ตรงกับ พุทธประสงค์มากที่สุด เพราะทรงแสดงลาดับข้ันของการพัฒนาตนเพื่อบรรลุเป้าหมายท่ีพึงประสงค์ โดยเร่ิมจากการศึกษาหาความรู้ด้านวิชาการวิชาชีพ (ปริยัติสัทธรรม) อบรมสั่งสมตนให้มีความ เรียบร้อยดา้ นกายภาพ ให้เข้มแข็งอดทนด้านจติ ภาพ และโลกทัศน์ชีวทัศนท์ ่ีเป็นสมั มาทฏิ ฐิตลอดเวลา (ปฏิปตั ตสิ ทั ธรรม) และใหม้ คี วามร่มเยน็ เป็นสุข (ปฏิเวธสัทธรรม)

[2] รายงานการประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ที่ 3 มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย มปี รชั ญาวา่ “จัดการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา บรู ณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม” ในภาคปฏบิ ตั ิกม็ ีการศึกษาวชิ าพระพทุ ธศาสนา ทกุ สาขาวิชา ถือว่าไดส้ ะสมองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนามาเป็นเวลายาวนาน มีองค์ความรูด้ า้ นน้ี ท้ังในรูปของความรู้ที่ อยู่ในตัวตน (Tacit Knowledge) และความรู้สาธารณ ะ (Explicit Knowledge) หลากหลาย การจัดสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติและระดับชาติครั้งนี้ เป็นเวที วิชาการท่ีจะแสดงให้ประชาคมทางวิชาการท่ัวประเทศรู้ว่า นครน่านเป็นนครแห่งพระพุทธศาสนา อย่างไร หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นมรดกโลกและบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่นั้นเป็น อย่างไร และจะสามารถนาไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่สงั คมประเทศชาตอิ ย่างไร ขออนุโมทนาและช่ืนชมในวิริยะอุตสาหะของผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ของวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ สถาบันวจิ ัยพุทธศาสตร์ คณะ วทิ ยาเขต วทิ ยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และองค์กรภาคีเครือข่ายในการร่วมด้วยช่วยกันจัดงานและนาเสนอผลงานทางวิชาการในรูปแบบ ตา่ งๆ ตอ่ เน่อื งทุกปี อันจะเป็นคุณปู การตอ่ การศึกษาพระพทุ ธศาสนาและสงั คมสืบไป. (พระราชปริยตั กิ วี, ศ.ดร.) อธิการบดี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย 10 พฤษภาคม 2562

นครนา น : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [3] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage ÊÒúÑÞ เรื่อง หนา ถอยแถลงของประธานคณะบรรณาธกิ าร [1] สารบญั [3] ศกึ ษาแหลง อารยธรรมโบราณลุมแมน้าํ กก-แมน ํ้าลาวในพืน้ ทีจ่ ังหวดั เชียงราย 1 พระครูวิมลศลิ ปกิจ วิถีพทุ ธ วถิ ีวัฒนธรรม ของจงั หวัดนาน: ขบวนการพฒั นาสูการจัดการตนเองอยา งย่ังยืน 11 ดนธนิ ี ฟองคํา ใกนาอรศําเกึ ภษอาลวําเิ ทคระาเมะนหชภัยาวจะังผหูนวําดั เชนงิคพรุทราธชขสอีมงเาจาอาวาส : กรณีศกึ ษาเจา อาวาส 18 พระมหาพระรจน อภปิ ุ ฺโญ, พระปลดั กติ ติ ยตุ ติธโร, บรรพต แคไธสง วธิ ีการแกปญหาความขัดแยง ในครอบครวั ตามหลกั พุทธธรรม 29 พระวรวรรษ ธมมฺ ทินโฺ น, พระครูวินยั ธรอํานาจ พลปโฺ , พระมหามงคลกานต ต ธมฺโม ศกึ ษาการประยกุ ตห ลักพทุ ธกิจในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตพระสงฆไทย 38 พระครูโสภณจิตตาภิรม, พระปลัดกติ ติ ยตุ ฺตธิ โร, วิเชียร ชาบตุ รบุณฑริก จศงัึกหษวาัดอบทิ ุรธรี พิ มั ลยข องประเพณบี ญุ เทศนมหาชาตทิ ีม่ ีตอ พุทธศาสนกิ ชนอําเภอลาํ ปลายมาศ 51 พระมณพี ร ขนตฺ สิ าโร, บรรพต แคไธสง, ภฏั ชวัชร สขุ เสน ศกึ ษาวิเคราะหก ารบชู าพระพิฆเณศในทศั นะของพระพุทธศาสนา 61 พระโทน ทปี งฺกโร, ภัฎชวัชร สขุ เสน, เอกฉัท จารุเมธีชน อศําึกเษภาอกเาฉรลปิมรพะรยะุกเกตียใชรหตลิ จักงั เหมวตดัตบาธุรรรี รัมมยใ นการใหบริการของสํานกั ทะเบยี น 73 คุณากร ชวงกระจา ง, บรรพต แคไธสง, เอกฉัท จารุเมธชี น ศึกษาวิธกี ารขจัดมลทนิ ในพระพทุ ธศาสนาเถรวาท 85 พระศรายธุ สิริธโร, พระปลดั กติ ติ ยตุ ตธิ โร, ภฎั ชวชั ร สุขเสน

นครนาน : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [5] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กอัญาํ เชภงอกแบั มคร วมิ าจมังเชหอ่ื วขดั อเชงยีชงาใวหมมง หมบู านแมส าใหม ตาํ บลโปง แยง 216 ธาราทพิ ย สมจนั ทรตา, พิมวิภา มลอา, ตลุ าภรณ แสนปรน ตเชาํ กบอลแเมชววินา อเชําซเภู: อกแามรสว าืบงทจองัดหบวนดั ลเชายียงผใาหทมอ กะเหรยี่ งในชุมชนบานโปง นอย 223 พรนดิ า อนิ ตะคํา, วราพร รกั สขุ สําราญ, ตลุ าภรณ แสนปรน ผา ทอไทลื้อ: ภูมิปญ ญาบนลายผาของชุมชนบานปา ป ตําบลบา นธิ 230 อาํ เภอบา นธิ จังหวดั ลาํ พนู ศริ ิพร เวียงเงิน, อรสิ รา ศรมี าลา, ตุลาภรณ แสนปรน กอาํารเภศอึกลษอางองจคงั ปหรวะดั กแอพบรพ ิธกี รรมหวงผา หมูบา นนาสาร ตําบลบานปน 237 วราพร ดวงแกว , รวินทน ภิ า ยาวิละ, ตลุ าภรณ แสนปรน ใกนารราจยัดวกิชาารกเรายี รนปกระารมสวอลนผแลบแบบบAกcลtมุivเeมฆLearning โดยใชรูปแบบ MARCO Model 246 ดวงใจ งามศิริ, นภิ าพร บญุ ยศ, นิพล พนิ ิจวจั นะวงศ การศกึ ษาคาํ ยมื ภาษาตา งประเทศทป่ี รากฏในพจนานกุ รมนกั เรยี น ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสภา 257 ปพชิ ญา พรหมกนั ธา, พทั ธนนั ท พาปอ , ปนุ ชมภพู ระ,นภาพร เลขาโชค, สรุ ยิ าพร สงิ หโ นนเชอื ก กมาหราจวัดิทกยาารลเยัรียรานชกภาฏัรสนอคนรวสิชวารกรคาร บรหิ ารเชิงกลยทุ ธภาครัฐหลักสูตรรัฐศาสตรบณั ฑติ 268 พรรณอร วนั ทอง อบาํทเบภาอทเสขรอิมงงนาิทมาจนงัพหน้ื วบดั าลนําปปกางาเกอะญอ หมูบ า นสันโปง ตําบลเสรมิ กลาง 281 เกษณี ตนั๋ ตุย , ภาณุวัฒน สกลุ สบื พตําิธบเี ปลลเสี่ยรนมิ สกภลาาวงะ:อกาํ เรภณอศี เสึกรษิมางจาามกงจางั นหแวตดั งลงําาปนาขงองชาวปกาเกอะญอ หมูบ า นสันโปง 290 ศริ ริ ตั น บญุ สาํ อางค, สกุ ญั ญา อุดแคว, ภาณุวัฒน สกุลสบื ใคนวผาทูมร่นี ู อทนศั ตนิดคเตติียแงลขะอกงาพรรปะฏสบิงฆัติเจพงัื่อหกวาดั รลสําง พเสนู ริมสขุ ภาวะภายใตห ลักภาวนา 4 301 พระมหาบญุ เลิศ อนิ ฺทปฺโญ,ชมพนู ุท สงิ หม ณี, วโรดม เสมอเชือ้ , พระมหาอนุวตั วชิ ัยรตั น, เบญจมาศ สุขสถติ ย

Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 281 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage บทบาทของนิทานพื้นบา นปกาเกอะญอ หมบู า นสนั โปง ตําบลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จงั หวัดลาํ ปาง Roles of Karen Folktales at San Pong Village, Serm Klang Sub-District, Serm-ngam District, Lampang Province เกษณี ต๋นั ตุย ภาณวุ ัฒน สกลุ สืบ มหาวิทยาลัยราชภฏั ลําปาง บทคดั ยอ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาคุณคาของนิทานพื้นบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จงั หวัดลําปาง โดยใชแนวคิดเก่ียวกับบทบาทของนิทานของสติธ ทอมปสัน มาใชในการศึกษาวิเคราะห จากการสัมภาษณวิทยากรชาวปกาเกอะญอจํานวน 6 คน สามารถรวบรวม นิทานไดทง้ั สิ้น 24 เรื่อง ผลการวิเคราะหเนื้อหานิทานพื้นบานปกาเกอะญอ พบวาปรากฏบทบาทใน 4 ดา น ไดแก 1) ใหสาระความรู 2) ใหความบนั เทิง 3) อบรมศีลธรรม-จรยิ ธรรม และ 4) ผอนคลายความกังวล คําสาํ คญั : บทบาท, นิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ, สติธ ธอมปส นั Abstract The research aimed at studying roles of Karen folktales from San Pong village, Serm Klang Sub-district, Serm Ngam District by using 4 functions of Stith Thompson for analysis. From the interview 6 Karen people, 24 folktales were collected. The finding found that roles appeared in 4 dimensions, namely: 1) Knowledge, 2) Entertainment, 3) Ethics, and 4) Recreation. Keywords: Role, Karen Folktales, Stith Thompson ทม่ี าและความสาํ คัญของปญหา นิทาน เปนขอมูลทางวัฒนธรรมประเภทหนึ่งท่ีนักคติชนและผูสนใจดานวัฒนธรรมศึกษาใหความ สนใจ ดวยเหตุเพราะนิทานไมเพียงแตใชเลาเพื่อความบันเทิงหรือเลาใหเกิดความเพลินดเพลินเทาน้ัน บางคร้ังยังใชเลาเพื่อวัตถุประสงคอื่นๆ เชน การปลูกฝงคุณธรรมใหแกเด็กหรือผูฟงไดอีกดวย ดังปรากฏให เห็นไดจากนิทานอีสปที่พิมพเ ผยแพรใ หเดก็ ๆ ไดอ านกันมักจะลงทา ยดวยขอความสําเร็จรปู ทีว่ า “นทิ านเรื่อง นสี้ อนใหรวู า...” เปนตน ในทางคติชนวิทยา นทิ าน หรอื นิทานพื้นบาน หมายถึง “เรอ่ื งเลา สืบตอกันมาเปน

282 รายงานการประชุมวชิ าการระดับชาติ ครั้งท่ี 3 มรดกทางวัฒนธรรม สวนใหญถายทอดดวยวิธีมุขปาฐะ แตก็มีอยูจํานวนมากที่ไดรับการบันทึกไวแลว” 1 จากทรรศนะขา งตนจะเหน็ ไดวา นทิ านนอกจากจะเปน เรือ่ งทเี่ ลาสืบทอดกนั แบบปากตอปากแลว ยังเปนสิง่ ท่ี สืบทอดจากรุนสูรุนอีกดวย ในขณะท่ีสุกัญญา สุจฉายา2 ไดกลาวถึงลักษณะของนิทานพ้ืนบาน (folktale) วา “เปนเร่ืองเลารอยแกว เรื่องเลาประเภทน้ีสืบทอดตอๆ กันมา มีโครงเรื่อง (plot) งายๆ ไมผูกเร่ือง ซบั ซอนวกวน จึงทําใหจดจําเรื่องและเขา ใจไดง าย เรอ่ื งเลาพื้นบานเปนสมบัติของชุมชน ไมม ใี ครผูกขาดเปน เจาของ ทุกครั้งที่มีการเลา ผูเลาก็คือเจาของเร่ืองที่ผูกข้ึนใหม แมจะใชเคาโครงเร่ืองเดิมก็ตาม” สําหรับ คุณลกั ษณะของการเปน สมบัตหิ รือมรดกดงั กลา ว ธวชั ปุณโณทก3 ไดอธบิ ายไววา “แตล ะทอ งท่กี จ็ ะมนี ิทาน ท่ีเลากันในท่ีนั้นๆ โดย ชาวทองถิ่นเปนผูอนุรักษ ทําใหนิทานพื้นบานมีเอกลักษณเปนของตนเอง ในนิทาน แตละเร่อื งจะแฝงไวซ ึ่งความเชอื่ วถิ ีชีวติ ภูมปิ ญญา ประเพณีของทอ งถิ่นนนั้ ” นอกจากนี้วิเชยี ร เกษประทุม4 ยังไดอธบิ ายบทบาทของนิทานพ้นื บานไวว า นทิ านนอกจากจะใหค วามสนกุ สนานเพลิดเพลนิ แลว ยงั ใหแ งค ิด ในแงใดแงหนึ่ง เพื่อปลูกฝงคุณธรรมที่สงั คมพึงประสงคใหแกผูฟง การสอนในนิทานน้ันเปน การแฝงขอคิดไว ในเรื่อง ไมไ ดสอนโดยตรง ซึง่ ขอคดิ ในนิทานนั้นสามารถสอนไดทุกเพศทุกวยั ไมไดจ ํากดั อยูแตว ัยเด็ก นิทาน เปนเคร่อื งมือสําคญั เพือ่ ปลูกฝงคุณธรรมจริยธรรมทเ่ี ปนบรรทดั ฐานของสังคม จงึ เปน สิง่ ท่ีพึงรักษาไว จากลักษณะและคุณคาของนทิ านขางตน สะทอ นใหเห็นวานิทานเปน เรอ่ื งทมี่ ีบทบาทตอบคุ คลและ สงั คมอยไู มน อย อยางไรก็ตามปจ จบุ นั เทคโนโลยเี ขามามีบทบาทในวถิ ชี ีวติ ของผูคนเปน อยางมาก หนา ทแ่ี ละ ความรับผิดชอบของผูคนในสังคมก็เพิ่มขึ้นตามมา ทําใหนิทานพื้นบาน ถูกกระแสเทคโนโลยีพัดพาใหหาง ออกไปจากวิถชี วี ิตของผูคนมากข้นึ เรื่อยๆ หากคนรนุ หลงั ไมไดต ระหนกั ถึงความสาํ คัญและรวมกันอนรุ กั ษไ ว สิ่งดีงามเหลานี้กจ็ ะหายไปหรอื ถกู หลงลืมตามกาลเวลา หมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง เปนหมูบานท่ีมีกลุมชาติพันธุ ปกาเกอะญออาศัยอยู ซ่ึงกลุมชาติพันธุนี้มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ที่ควรคาแกการรักษาไวหลายอยาง และที่ นาสนใจ คอื กลุมชาตพิ ันธุปกาเกอะญอทหี่ มูบานสนั โปง มนี ิทานพืน้ บา นท่เี ปนเอกลักษณข องตนเอง ท้ังยังมีการถา ยทอดแบบมุขปาฐะมาชานานและยังไมเคยมีการรวบรวมขอมูลเปนลายลักษณอ ักษร ในฐานะ ท่ีผูวิจัยเปนหน่ึงในสมาชิกของหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง และเคยฟง นิทานพื้นบานมาต้ังแตเด็ก จึงไมอยากใหกระแสเทคโนโลยีท่ีเขามาเก่ียวของกับวิถีชีวิตของผูคนมากข้ึน เร่อื ยๆ น้นั ทาํ ใหนทิ านพื้นบานสญู หายไปตามกาลเวลา ผวู จิ ัยจึงเลอื กท่จี ะศกึ ษานทิ านพ้นื บานทหี่ มูบ าน สันโปง ตาํ บลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จังหวัดลําปาง เพื่อรวบรวมและวเิ คราะหบทบาทของนิทาน โดยใช แนวคิดของสติธ ทอมปสัน 1 กงิ่ แกว อัตถากร,คติชนวทิ ยา, (กรุงเทพมหานคร : กรมการฝก หดั ครู, 2519)หนา 12. 2 สุกัญญา สุจฉายา,วรรณกรรมมุขปาฐะ,(กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, 2556), หนา21. 3 ธวชั ปุณโณทก, วรรณกรรมทองถิ่น,( กรงุ เทพมหานคร : พรี ะพธั นา, 2525),หนา8. 4 วิเชียร เกษประทุม, นิทานพื้นบาน(ฉบับปรับปรุงใหม),(กรุงเทพมหานคร : บริษัทสิทธ์ิพัฒนา จํากัด ,2551),หนา 10.

Nan : นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 283 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage วตั ถุประสงคการวิจยั เพ่ือวิเคราะหบทบาทของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวดั ลาํ ปาง ตามแนวคดิ ของ สตธิ ทอมปส นั วธิ ีดําเนนิ งานวิจยั การศึกษาบทบาทของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอ เสริมงาม จังหวัดลําปาง ตามทฤษฎีของสติธ ทอมปสัน ในครั้งน้ีเปนงานวิจัยเชิงคุณภาพ ซ่ึงผูวิจัยมี วิธีดําเนินการตามข้นั ตอน ดังนี้ 1. รวบรวมขอ มูลจากเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ ง 2. รวบรวมขอมูลจากการลงพื้นท่ีภาคสนาม ในขั้นตอนน้ีผูวิจัยเก็บขอมูลนิทานโดยการเลือกกลุม ตัวอยา งแบบเจาะจง โดยพิจารณาจากคณุ สมบตั ขิ องวทิ ยากรดังนี้ 2.1 สามารถลา นิทานไดตัง้ แตต น จนจบ (ชาวปกาเกอะญอหมบู านสันโปง มคี วามเชือ่ วาถานทิ าน เรอื่ งไหนเลาไมจบจะไมใ หเลา เรือ่ งนัน้ เพราะจะเกดิ เร่ืองไมดีกับผูเลา นทิ าน) 2.2 วิทยากรตองกําเนดิ และเตบิ โตในพนื้ ที่มาไมน อ ยกวา 40 ป จากการสํารวจกลุมตัวอยางพบวามีวิทยากรท่ีมีคุณสมบัติท้ังสองขอดังกลาว จํานวนทั้งส้ิน 6 คน และการลงพื้นท่ีครั้งนี้ผูวิจัยไดลงพื้นท่ีตั้งแตวันท่ี 1 ธันวาคม 2561 – 22 ธันวาคม 2561 ซ่ึงไดขอมูลนิทาน ทั้งหมด 24 เรื่อง ไดแก 1.เรื่อง เถอะถุยเบะ 2.เร่ือง สุวันนะ 3.เร่ือง โอแพโพโอะแพลีฮอมจิตะเงตะเงบะ 4.เรอ่ื ง โพแค 5.เรื่อง โพแค (หนอชอดิ) 6.เร่ือง หนอหมื่อเอ 7. เร่ือง กะชอตี่ 8.เร่ือง หนอคาลี 9.เรือ่ ง โพแค (หนอกาแข) 10.เรื่อง โพแค (หวาอะพอ) 11.เรื่อง ยุพาต่ี .เร่ือง ปวาคีงา 13.เร่ือง ตาแมเบลาะตาเขาะกะ (สํานวนที่ 2) 14.เร่ือง โขละ (สํานวนท่ี 1) 15.เรื่อง โขละ (สํานวนที่ 2) 16.เร่ือง ปวากะญอแฮกื้อ 17.เร่ือง หนอกะชอ 18.เรื่อง พญาคางขาก 19.เรื่อง ตาแลบา 20.เร่ือง โกโหละหนะ (สํานวนที่ 1) 21.เร่ือง โกโหละหนะ (สํานวนที่ 2) 22.เร่ือง ตาแมเบลาะตาเขาะกะ (สํานวนที่ 1) 23.เร่ืองหนอเดะกวา และ24.เรอื่ ง ตา แลบา 3. ถอดเสยี งการเลานิทานภาษาปกาเกอะญอจากเครื่องบันทกึ เสียงแลวแปลเปน ภาษาไทย 4. วิเคราะหบทบาทของนิทานพ้ืนบานตอวิถีชีวิตความเปนอยูของชาวหมูบานสันโปง ตําบล เสรมิ กลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลาํ ปาง ตามแนวคดิ ของ สติธ ทอมปส นั 5. สรปุ อภิปรายผล และเสนอแนะ ผลการวจิ ัย จากการศึกษาบทบาทของนิทานพืน้ บานปกาเกอะญอโดยใชแ นวคดิ ดานบทบาทของนิทานของสติธ ทอมปสันซึ่งไดแบง บทบาทของนิทานไว 5 ประการ5 ดังนี้ 5 เสาวลักษณ อนันตศานต, นิทานพ้ืนบานเปรียบเทียบ, พิมพคร้ังท่ี 2,( กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ มหาวทิ ยาลยั รามคาํ แหง,2538),หนา 79-80.

284 รายงานการประชมุ วิชาการระดับชาติ ครัง้ ท่ี 3 1. ใหส าระความรู 2. ใหค วามบนั เทงิ 3. สง เสริมการกระทาํ และพฤติกรรมของวีรบรุ ุษ 4. อบรมศีลธรรม และจริยธรรม 5. ผอนคลายความกงั วล ผลการศึกษาเน้ือหาของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ ทั้ง 24 เร่ืองพบวาปรากฏบทบาทท้ังส้ิน 4 ดาน ไดแก บทบาทดานการใหความรู บทบาทดานการใหความบันเทิง บทบาทตอการอบรมศีลธรรม- จรยิ ธรรม และบทบาทในการผอนคลายความกังวล สามารถคดิ เปนรอ ยละไดด งั ตารางตอไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงรอยละจากการศึกษาบทบาทนิทานพืน้ บา นปกาเกอะญอหมูบา นสันโปง บทบาทของนทิ านพน้ื บานทปี่ รากฏ รอยละ บทบาทดา นการใหความรู 16.67 บทบาทดานการใหความบันเทงิ 58.33 บทบาทดา นการอบรมคุณธรรม-จริยธรรม 16.67 บทบาทดา นการผอนคลายความกังวล 8.33 จากตางรางสามารถใหรายละเอยี ดของนิทานในแตล ะบทบาทได ดังน้ี 1. บทบาทดานการใหความรู นิทานพื้นบานปกาเกอะญอท่ีใหความรูนั้น จะมีเนื้อหาที่กลาวถึง ที่มาของสิ่งตางๆ ในธรรมชาติ หรือเปนการเลาเพ่ือใหความรูความเขาใจเกี่ยวกับโลกและชีวิตแกผูท่ีไดฟง นิทาน เชน ฝนตกไดอยางไร ใครเปนผูชวยมนุษยจากเหตุการณไฟไหมโลกในอดีต เพราะเหตุใดชาว ปกาเกอะญอหมูบานสันโปงถึงไมกินหอยทุกวันพระ การเกิดและเติบโตของมนุษย จากการวิเคราะหเน้ือหา ของนิทานท้ังสิ้น 24 เรื่องพบวามีเน้ือหาในดานการใหความรู จํานวน 4 เร่ือง ไดแก เร่ืองพญาคางขาก เรอื่ งโขละ (สาํ นวนท่ี 1) เร่อื งโขละ (สาํ นวนที่ 2) และเร่อื งปกาเกอะญอแฮกือ้ ตัวอยางนทิ าน เรือ่ ง พญาคางขาก ในฤดูแลง หนึง่ ท่ีทกุ อยา งลว นแหงเห่ยี วตามกนั ไปหมด สัตวพ ากันลม ตาย คางคก 7 ตวั อาสาข้ึนไป ขอฝนกับเทวดา แตถูกปฏิเสธดวยเหตุผลท่ีเปนเพียงคางคก คางคกจึงกลับมารวบรวมคางคกทั้งหมดข้ึนไป อีกรอบ เม่ือเทวดาไมยอมใหโดยดี คางคกจึงทาสู และชนะเทวดาในที่สดุ คางคกจึงทําขอตกลงกับเทวดาวา ถาหากไดยินเสียงคางคกรองเมื่อไหร ใหรีบทําใหฝนตกนํ้าทวมทันที และนี่ก็เปนท่ีมาของการที่ฝนตกเวลา คางคกหรอื กบรอ ง 6 สําหรับนิทานเร่ืองพญาคางขากน้ีชาวปกาเกอะญอมักใชเลาเพ่ืออธิบายถึงสาเหตุของการมีเสียง คางคกหรอื กบท่ีมกั จะรองในชว งท่ีมีฝนตกวา ทกุ ครัง้ ที่ฝนตกลงมานนั้ เปนเพราะวา คางคกรอ งใหสญั ญานแก เทวดา เพื่อใหเทวดาบันดาลใหเกิดฝนน่ันเอง นอกจากนี้ยังมีนิทานอีก 3 เรื่องที่ใชเลา เพื่อใหสาระความรูใน ทํานองเดียวกัน กลาวคือ เรื่องโขละ (สํานวนที่ 1) ใหขอความรูเกี่ยวกับใบตองของตนกลวยปาวาใชเปนท่ี กําบังไฟได ซ่ึงสอดคลองกับความเช่ือเกี่ยวกับการสรางบานของชาวปกาเกอะญอบานสันโปงที่มักจะนําตน 6 สัมภาษณ กอ ปาละอา ย., 1 ธนั วาคม 2561.

Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 285 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กลวยท่ีมีใบตองมามดั ติดกบั เสาเอกดวย เพราะเช่ือวาจะทําใหผูอาศยั มีแตความสงบรมเย็นและจะเจริญงอก งาม และเรื่องโขละ (สํานวนท่ี 2) ใหเหตผุ ลหรอื ท่ีมาของการงดกินหอยทกุ วันพระของชาวปกาเกอะญอบา น สนั โปง เปน ตน 2. บทบาทดานการใหความบันเทิง นิทานปกาเกอะญอท่ีใหความบันเทิงน้ันจะมีเน้ือหาท่ีทําให ผูฟงรูสึกคลอยตามความรูสึกของตัวละคร ไมวาจะเปนอารมณทุกข สุข สนุก หรือเศราโศกเสียใจ ฯลฯ จากการวเิ คราะหเ นือ้ หาของนทิ านทงั้ ส้นิ 24 เรือ่ งพบวานทิ านพ้นื บา นปกาเกอะญอท่ีมเี น้ือหาในการใหค วาม บันเทิง จํานวน 14 เรื่อง ไดแก ไดแก เร่ืองหนอเดะกวา เรื่องผี (ไมมีช่ือเร่ือง) เร่ืองโพแค (หนอชอดิ) เร่ืองโพแค (หนอกาแข) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) เรื่องเถอะถุยเบะ เรื่องหนอกะชอ เร่ืองกะชอต่ี เร่ืองหนอคาลี เร่ืองตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนท่ี 1) ตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนท่ี 2) เรื่องยุพาตี่ เร่อื งสวุ นั นะ และเร่ืองปวาคงี า ตวั อยางนิทานเรอื่ ง ปวาคงี า มีหญิงชายคูหนึ่งรักกันมาก แตพอแมของฝายหญิงไมยอมรับ จึงขัดขวางทุกวิถีทาง แมทั้งสองจะ พยายามทําดีแคไหนพอแมของฝายหญิงก็ปฏิเสธ ทั้งสองจึงตัดสินใจพากันหนี และดวยความนอยใจใน โชคชะตาทัง้ สองจึงเอาเสนผมของผหู ญงิ มดั ตดิ ดับกงิ่ ไมแ ลวแขวนคอตายคกู นั 7 จากตัวอยางที่กลาวมาจะเห็นวานิทานดังกลาวทําใหผูฟงรูสึกเศราสะเทือนใจกับความรักท่ีไม สมหวัง และจบลงดวยโศกนาฏกรรมของหญิงชายทั้งคู ซึ่งในเรื่องอื่นๆ ก็จะใหอารมณความรูสึกที่ให ความรสู ึกในทํานองเดียวกัน ไดแก เรื่อง หนอคาลี (พอเสียสละชีวิตเพ่ือใหลูกไดสุขบาย) เรอ่ื ง หนอเดะกวา (หญิงสาวที่ถูกกินเน้ือ) เร่ืองผี (ไมมีชื่อเร่ือง) (แฟนที่กําลังจะแตงงานดวยตายระหวางท่ีผูชายไปทํางานเก็บ เงินเพื่อแตงงาน) เร่ือง เถอะถุยเบะ (เด็กชายที่ถูกแมเล้ียงใจรายยุพอใหไปฆาท้ิงกลางปา) เร่ือง หนอกะชอ (หญิงสาวที่ตองกลายเปนชางตลอดชีวิต) เร่ือง กะชอต่ี (เด็กชายท่ีออกตามหาพอท่ีเปนชาง) เร่ือง สุวันนะ (เด็กชายที่ถกู พอเอาไปลอยนํ้า เพราะถกู แมเลย้ี งใสรา ย) สวนเรื่องทใี่ หความรสู ึกสนุกสนานแกผฟู ง เชน เรอื่ งโพแค (หนอชอดิ) (ผฟู งรสู กึ สนกุ และลุนไปกับ บุคคลปริศนาทีม่ าทําความสะอาดบานใหโ พแควาคือใคร) เร่ือง โพแค (หนอกาแข) (ผฟู งความรูสกึ สนุกไปกบั ไหวพริบ ปฏิพานของโพแคซ่ึงเปนพระเอกของเร่ือง) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) (ผูฟงรูสึกสนุกไปกับความ จงรักภักดแี ละความฉลาดของลงิ กบั นกท่มี ีตอ โพแค) เรอื่ ง ตาแมเบลาะตาขอ กะ (สํานวนท่ี 1) (ผูฟง รูสึกสนุก กบั การใชอบุ ายของตัวละครในการเอาตวั รอกจากการถกู แมม ดกนิ ) เรื่อง ตาแมเบลาะตา ขอ กะ (สาํ นวนที่ 2) (ผูฟงสนุกและตลกไปกับการท่ีสองเพ่ือนซี้ท่ีคนหน่ึงหูหนวกและอีกคนหนึ่งตาบอดโดนแกลง) เร่ือง ยุพาต่ี (ผูฟ งจะรูสึกสนุกและตลกไปกบั ความข้ีเกยี จท่ไี มมีใครเทยี บของพระเอกของเรื่อง) 3. บทบาทดานการอบรมคุณธรรม-จริยธรรม นิทานพื้นบานปกาเกอะญอที่เปนการอบรม คุณธรรมและจริยธรรมน้ัน เน้ือหาของนิทานจะใหขอคิดหรือใหคติสอนใจแกผูฟง จากการวิเคราะหเนื้อหา ของนิทานทั้งส้ิน 24 เรื่อง พบวามีเน้ือหาในดานการอบรมคุณธรรมและจริยธรรม จํานวน 4 เร่ือง ไดแก เรื่องโอะแพโพโอะแพลีฮอมจตี ะเงตะเงบา เรอื่ งโพแค เรื่องหนอหมือ่ เอ และเรอ่ื งตา แลบา 7 อา งแลว ,สัมภาษณ กอ ปาละอาย, 8 ธนั วาคม 2561.

286 รายงานการประชุมวิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 3 ตัวอยา งนทิ านเรื่อง โอะแพโพโอะแพลฮี อมจติ ะเงตาเงบา มเี ด็กชายสองพ่นี องอยบู านดวยกันตามลําพงั เพราะพอแมไปหาของปา นองชายรูสึกหวิ ขาว พชี่ าย จึงชวนไปหาปู ไดปูมาสี่ตัว สองพี่นองแบงกันคนละตัว ที่เหลือแบงไวใหพอกับแม แตนองชายกินไมอ่ิม พี่ชายคิดวาถาเหลอื ตัวเดียวพอกับแมคงไมพอกินอยูดี จึงชวนกันกินปูจนหมด ตกเย็นพอกับแมกลับมาบาน พอรูเร่ืองท่ีลูกกินปไู มแบงใหพอ กับแมเขา กโ็ กรธมากจงึ ดา และไลอ อกจากบา นไป ลูกชายสองคนเรร อนไปใน เมืองตางๆ พี่ชายไดชวยชีวิตลูกสาวเจาเมืองแหงหน่ึงไว จึงไดแตงงานดวยจนไดดิบไดดี สวนนองชายก็ได แตงงานกับลูกสาวเจา เมอื งละแวกใกลเ คียง วันหนง่ึ ทัง้ สองพากันกลับไปเยีย่ มพอ แม แตพ อ แมจาํ ทัง้ สองไมได แลว สองคนพ่ีนองแอบนําทองใสไวในไมไผไวใหแลวจากไป พอมีคนมาบอกวาคนที่มาเย่ียมคือลูก ท้ังสองก็ รบี วิ่งตามและตะโกนเรยี กแตลกู ชายทั้ง 2 คนถกู เทวดาเอาสาํ ลีปด หูไวท ําใหไ มไ ดยิน ฝายพอแมเ สยี ใจมากจึง ขาดใจตายดว ยกันท้งั คู8 จากตัวอยา งท่ีกลาวมาทําใหเหน็ วา นิทานเรื่องนี้เปนนิทานทใ่ี หคติเตอื นใจแกผูท่ีเปนพอแมวา เวลา จะดาวาลูกไมควรไลออกจากบาน เพราะสุดทายผูที่จะเสียใจท่ีสุดกค็ ือตัวของพอแมเอง ในขณะเดียวกันผูท่ี เปนลูกก็ตองมีความกตัญูตอพอแมดวยเชนกัน สวนนิทานเรื่องอื่นๆ ก็จะใหคติ ขอคิดในทํานองของการ เตือนใจเชนเดียวกนั กลาวคือ เรื่องโพแคและหนอ หมื่อเอ เปนนิทานท่ีเตอื นใจเราวา เราควรพอใจในส่ิงท่ีตน มี และเรือ่ งตา แลบา เปน นทิ านที่เตือนใจไมใหเราใชก าํ ลังทํารายผทู อ่ี อ นแอกวา เพราะสุดทายผลกรรมนัน้ จะ คนื สนองแกต ัวเราเอง 4. คุณคา ดา นการผอ นคลายความกังวล นิทานพืน้ บานปกาเกอะญอที่มบี ทบาทในการผอ นคลาย ความกังวลหรือหาทางออกใหกับความขับของในจิตใจน้ัน เนื้อหาของนิทานจะปรากฏตัวละครที่แสดง พฤติกรรมท่ีไมเหมาะสม หรือไมสามารถกระทําไดในโลกแหงความเปนจริง เพราะเปนพฤติกรรมที่สังคม ปกาเกอะญอไมยอมรับ เปนขอหาม หรือเปนพฤติกรรมที่ตองระมัดระวัง จนทําใหบางครั้งกลายเปนความ กังวลในจติ ใจจึงแสดงออกความคับของใจน้ีผานเนื้อหาและพฤติกรรมของตัวละคร จากการวิเคราะหเ น้อื หา ของนิทานทั้งส้ิน 24 เร่ือง พบวามีเนื้อหาในดานการผอนคลายความกังวล จํานวน 2 เรื่อง ไดแก เรื่อง โกะโหละ หนา (สาํ นวนท่ี 1) และโกะโหละหนา (สํานวนท่ี 2) ตวั อยา งนิทานเรือ่ ง โกะโหละหนา (สาํ นวนท่ี 1) โกะโหละหนาอาศัยอยูกับพี่ชายและยาย ทุกวันหนาที่ของโกะโหละหนาคือการเล้ียงควาย สว นพ่ีชายมหี นาที่เลี้ยงยาย แตวันหนึ่งนอ งชายอยากลองเล้ียงยายบาง พี่ชายกอ็ นุญาต และบอกวาอยูบาน เล้ียงยายก็ตมนาํ้ อาบใหยายดวย โกะ โหละหนาก็ทาํ ตามโดยตม น้าํ จนเดอื ด แลวเอามาราดตัวยายตง้ั แตห ัวลง มาจนยายตาย ผิวยายของโกะโหละซดี เพราะโดนนา้ํ รอนลวก สวนฟนก็ยงิ คางไว โกะโหละ หนาเขาใจวา ยาย ดีใจที่ตวั ขาวจึงย้ิมไมยอมหุบ พอพี่ชายกลับจากเลี้ยงควายโกะโหละหนาจึงรีบไปบอกพ่ีชาย พ่ีชายเหน็ ก็รวู า ยายน้ันตายแลวจงึ ดา โกะ โหละหนา และใหโ กะโหละหนาไปตามผูห ลกั ผูใหญมาชวยกันทําพิธี แตโ กะ โหละห นา กลับไปเรียกยักษมาจนยกั ษกินเนื้อยายจนหมด และจะกินโกะโหละหนากับพี่ชายตอ สุดทายโกะโหละห 8 อา งแลว ,สัมภาษณ กอ ปาละอา ย, 1 ธนั วาคม 2561.

Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 287 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage นา จึงใชกลอุบายฆายกั ษโ ดยการใหยกั ษมัดกอนหนิ ตดิ ไวที่หลงั แลว โหนเชือกขามแมน ํ้า พอโกะ โหละ หนาตัด เชอื ก ยกั ษจึงจมนํ้าตาย9 จากตัวอยางที่กลาวมาจะเห็นไดวา นทิ านเร่ืองน้ีโกะโหละ หนา (สํานวนท่ี 1) มีการฆายายตัวเอง แม จะไมไดต้ังใจแตก็เปนส่ิงที่ถือวาผิดในโลกแหงความเปนจริง และตองไดรับการลงโทษ เพราะโดยปกติแลว ชาวปกาเกอะญอจะใหความเคารพแกผูใหญเปนอยางมาก เชื่อวาเด็กจะตองเช่ือฟงคําสั่งสอนของผูใหญ เพราะผใู หญอาบนา้ํ รอนมากอนและมีพระคุณตอเรา ซึง่ จะเหน็ ไดจากพธิ กี รรมการเล้ียงผีปูยา ท่แี สดงใหเ ห็น วาแมบรรพบุรุษจะเสียชีวิตไปแลว แตล กู หลานก็ยังเคารพและรําลึกถึงเสมอ แต โกะโหละหนาจากเร่อื งน้ไี ม ตองรับโทษอะไรเลย อีกท้ังยังไดใจของผูฟงในความใสซ่ืออีกตางหาก สวนในโกะโหละหนา (สํานวนท่ี2) โกะ โหละหนา กย็ ังทําผิดในทาํ นองเดียวกันคอื ฆาควายของพระราชาเพ่ือขโมยเอาเคร่ืองใน แตโกะโหละหนา ก็ไมไ ดร บั โทษอีกเชน เคย สรุปและอภิปรายผลการวิจัย สรปุ ผล การศึกษาบทบาทของนิทานพื้นบา นปกาเกอะญอ หมบู า นสนั โปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง ตามแนวคิดของ สติธ ทอมปสัน ในคร้ังน้ี ใชวิธีการเก็บขอมูลภาคสนาม โดยการสัมภาษณ วทิ ยากรท้ังหมด 6 คน ซึ่งสามารถเก็บขอ มูลนทิ านปกาเกอะญอบานสันโปง ไดทั้งสนิ้ 24 เรื่อง ผลการศึกษา เน้อื หาของนิทานพน้ื บานปกาเกอะญอ พบวาปรากฏบทบาททั้งสิ้น 4 ดา น ไดแ ก บทบาทดานการใหความรู บทบาทดานความบนั เทิง บทบาทตอการอบรมศีลธรรม-จริยธรรม และบทบาทตอการผอนคลายความกงั วล ดังผลสรุปจากการวิเคราะหต อไปนี้ 1. บทบาทดานการใหความรู ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญ อทั้งสิ้น 4 เร่ือง ไดแก เรอ่ื ง พญาคางขาก เรอื่ งโขละ (สาํ นวนท่ี 1) เรอื่ งโขละ (สํานวนที่ 2) และเร่อื งปวากะญอแฮกอื้ 2. บทบาทดานความบันเทิง ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญ อทั้งส้ิน 14 เร่ือง ไดแก เรื่อง หนอเดะกวา เร่อื งนทิ านผี (ไมท ราบช่อื เรื่อง) เรอื่ งโพแค (หนอ ชอด)ิ เรอื่ งโพแค (หนอ กาแข) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) เรื่องเถอะถุยเบะ เร่ืองหนอกะชอ เร่ืองกะชอต่ี เร่ืองหนอคาลี เร่ืองตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนที่ 1) เรือ่ งตา แมเบลาะตา ขอกะ (สาํ นวนท่ี 2) เร่ืองยุพาต่ี เร่อื งสวุ นั นะ และเรอ่ื งปวาคีงา 3. บทบาทตอการอบรมศีลธรรม-จริยธรรม ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญอท้ังสิ้น 4 เร่ือง ไดแก เรื่อง โอะแพโพโอะแพลฮี อมจีตะเงตะเงบา เรือ่ งโพแค เร่อื งหนอหม่อื เอ และเรอ่ื งตา แลบา 4. บทบาทตอการผอนคลายความกังวล ประกอบดวนนิทานปกาเกอะญอท้ังสิ้น 2 เรื่อง ไดแก เร่อื ง โกะ โหละหนา (สํานวนท่ี 1) และเรื่องโกะโหละหนา (สาํ นวนท่ี 2) อภปิ รายผล ผลการวิจัยสะทอนใหเห็นวา นิทานปกาเกอะญอ หมูบานสันโปง ตําบลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง เปนนิทานท่ีมีลักษณะความเปนสากลเชนเดียวกับนิทานในวัฒนธรรมที่อื่นๆ โดยเมื่อศึกษา 9 สัมภาษณ, จันทรสม ต๋นั ตยุ ,22 ธันวาคม 2561.

288 รายงานการประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 3 จากเน้ือหาของนิทานตามแนวคิดของสติธ ทอมปสันแลวพบวาปรากฏบทบาทของนิทานถึง 4 ดาน ไดแก ใหสาระนารู ใหความบันเทิง อบรมศีลธรรมและจริยธรรม และผอนคลายความกังวล ซึ่งสอดคลองกับ การศึกษาของรัชนี กาวิ10 ท่ีศึกษาเร่ือง นิทาน ตํานานและประวัติศาสตร : บทบาทหนาที่ คุณคาและอัต ลักษณของชุมชนทาผาปุม อําเภอแมลานอย จังหวัดแมฮองสอน โดยผลการศึกษาของ รัชนี กาวิ ปรากฏ บทบาทของของนิทาน 4 ดาน ไดแก 1.บทบาทในการอธิบายการกําเนิดของกลุมชนและพิธีกรรม 2.บทบาทการใหการศึกษา อบรมระเบียบพฤติกรรมแบบแผนและรักษามาตราฐานทางสังคมและทองถ่ิน 3.บทบาทในการเปนทางออกใหกับความคับของใจของบคุ คลอนั เกดิ จากกฎเกณฑทางสงั คม และ 4.บทบาท ในการใหความบันเทิงแกคนในสังคม เชนเดียวกับการศึกษาของขวัญใจ ฟองมูล11) ท่ีศึกษาเร่ือง โครงสราง และบทบาทหนาท่ีของนิทานพ้ืนบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัดเชียงใหม ผลการศึกษาพบวา นิทาน พ้ืนบานไทใหญปรากฏบทบาทของนิทานทั้งหมด 4 ดาน ไดแก 1.บทบาทหนาที่ในการอธิบายท่ีมา อธิบาย เหตุผลของส่ิงตางๆ 2.บทบาทหนาที่ในการใหการศึกษาทางสังคมและทองถ่ิน 3.บทบาทหนาท่ีในการรักษา มาตรฐานพฤติกรรมท่ีเปนแบบแผนของสงั คม และ 4.บทบาทหนาที่ใหความบันเทิง ในขณะท่ี ศาริศา สุขคง 12 ซ่ึงศึกษาเร่ือง นิทานพ้ืนบานไทดํา บานปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย แลวพบวา บทบาทของนิทานของชาวไทดํามีอยูดวยกัน 3 ประการ คือ 1.บทบาทในการใหความบันเทิง 2.บทบาทใน การเปน สายใยเช่ือมโยงความรักความผูกพันระหวางพอแม และ 3.รักษาแบบแผนพฤตกิ รรม ควบคุมชุมชน และผอนคลายความตึงเครียดในชุมชน ผลงานวิจัยบทบาทของนิทานทั้ง 3 เรื่องท่ีมีความสอดคลองกับ การศกึ ษานทิ านของชาวปกาเกอะญอในครงั้ น้ี สะทอ นใหเ ห็นวา บทบาทพน้ื ฐานของนิทานทใี่ ชเ ลากันในกลมุ ชาติพันธุตางๆ นั้น มีบทบาทหนาที่พื้นฐานในลักษณะเดียวกันคือ ใหความรู ใหความบันเทิง ท้ังยังชวย สงเสริมในดานศีลธรรมและจริยธรรม ตลอดจนเปนผอนคลายความกังวลในจิตใจของกลุมชนอีกดวย นอกจากน้ีคุณลักษณะรวมดังกลาวยังเปนการยืนยันถึงลักษณะอันเปนสากลของนิทานในวัฒนธรรมตางๆ ทว่ั โลกอีกดวย ขอเสนอแนะ ชาวปะกาเกอะญอ เปน หน่ึงในกลุมชาตพิ ันธุก ะเหร่ียงซึ่งมีนิทานท่ีใชเลา ในกลุมเชนเดียวกนั หากมี การเก็บรวบรวมและศึกษาเนื้อหาของนิทานในเชิงเปรียบเทียบ ก็อาจทําใหเห็นจุดรวมหรือทําใหทราบถึง นิทานท่ีเปนจุดกําเนิดของกลุมชาติพันธุกะเหรี่ยงก็เปนได ฉะนั้นจึงควรมีการศึกษาเปรียบเทียบนิทานของ 10 รัชนี กาวิ, นทิ าน ตํานานและประวัตศิ าสตร : บทบาทหนา ท่ี คณุ คาและอัตลักษณของชุมชนทา ผาปมุ อําเภอแมลานอย จังหวัดแมฮองสอน,ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาภาษาไทย,(มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม, 2558). 11 ขวัญใจ ฟองมูล, การศึกษาโครงสรางและบทบาทหนาที่ของนิทานพื้นบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัด เชยี งใหม, ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าภาษาไทย, (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม, 2557). 12 ศาริศา สุขคง, “นิทานพ้ืนบานไทดํา บานนาปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย”, วารสารมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร, มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม, ปท ี่ 35 ฉบับท่ี 3: 125, 2559.

Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 289 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กลุมชาติพันธุกะเหรีย่ งทง้ั ที่เปน ปะกาเกอะญอหรือสะกอ กะเหรยี่ งโปหรอื กะเหรยี่ งมอญ กะเหร่ยี งปะโอหรือ ตองสู และกะเหร่ียงบะเวหรือคะยา บรรณานุกรม กอ ปาละอา ย. สัมภาษณ, 1 ธันวาคม 2561. __________. สัมภาษณ, 8 ธนั วาคม 2561.2557. กิ่งแกว อตั ถากร. คติชนวิทยา. กรงุ เทพมหานคร : กรมการฝกหัดครู, 2519. ขวัญใจ ฟองมูล. การศึกษาโครงสรางและบทบาทหนาท่ีของนิทานพ้ืนบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัดเชยี งใหม. ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าภาษาไทย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม, จันทรสม ต๋นั ตุย. สมั ภาษณ, 22 ธนั วาคม 2561 ธวชั ปุณโณทก. วรรณกรรมทองถ่ิน. กรงุ เทพมหานคร : พีระพัธนา, 2525. รัชนี กาวิ. นิทาน ตํานานและประวัติศาสตร : บทบาทหนาที่ คุณคาและอัตลักษณของชุมชนทาผาปุม อาํ เภอแมลานอย จงั หวัดแมฮ อ งสอน. ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวิชาภาษาไทยมหาวิทยาลัย ราชภฏั เชยี งใหม, 2558. วิเชียร เกษประทุม. นิทานพ้ืนบาน (ฉบับปรับปรุงใหม). กรุงเทพมหานคร : บริษัทสิทธิ์พัฒนา จํากัด, 2551. ศาริศา สุขคง. นิทานพ้ืนบานไทดํา บานนาปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย. วารสาร มนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ปที่ 35 ฉบับที่ 3: 125, 2559. สุกญั ญา สจุ ฉายา. วรรณกรรมมุขปาฐะ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณม หาวิทยาลัย, 2556. เสาวลักษณ อนันตศานต. นิทานพ้ืนบานเปรียบเทียบ. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ มหาวิทยาลยั รามคาํ แหง, 2538.

Nan : City นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 1985 Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage

1986 รายงานการประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครั้งท่ี 3

Nan : City นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 1987 Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage