การประชุมวิชาการระดบั ชาติ ครงั้ ที่ 3 INC2019: Mcu Nan The 3rd National Conference 2019 วิทยาลัยสงฆน์ ครนา่ น มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ทป่ี รึกษา พระราชปริยัตกิ ว,ี ศ.ดร. อธิการบดีมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย พระราชวรเมธ,ี รศ.ดร. รองอธิการบดฝี า่ ยบริหาร พระราชวรมนุ ,ี รศ,ดร. รองอธกิ ารบดฝี ่ายกจิ การนสิ ติ พระราชคุณาภรณ์ เจา้ คณะจังหวดั น่าน พระราชศาสนาภิบาล รองเจา้ คณะจังหวดั นา่ น พระสนุ ทรมนุ ี ประธานคณะกรรมการวิทยาลยั สงฆน์ ครน่าน วา่ ท่รี ้อยตรีสมเดช อภิชยกลุ ทีป่ รกึ ษาวทิ ยาลัยสงฆ์นครนา่ น คณะบรรณาธกิ าร ประธานคณะบรรณาธกิ าร พระสวุ รรณเมธาภรณ์,ผศ. รองประธานคณะบรรณาธกิ าร พระมหาบญุ เลศิ อนิ ทฺ ปญโฺ ญ,รศ.ดร. คณะบรรณาธิการ พระครโู สภณปรยิ ตั สิ ธุ ,ี รศ.ดร. คณะบรรณาธกิ าร ศาสตราจารย์ ดร.วชั ระ งามจิตรเจรญิ คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.ปรตุ ม์ บญุ ศรตี ัน คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.กุหลาบ รตั นสัจธรรม คณะบรรณาธิการ รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชา จนั ทรบรู ณ์ คณะบรรณาธกิ าร รองศาสตราจารย์ ดร.วโิ รจน์ อนิ ทะนนท์ คณะบรรณาธกิ าร ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อนนั ต์ อุปสอด คณะบรรณาธกิ าร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธงชยั สิงอดุ ม เลขานกุ ารคณะบรรณาธกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.วรปรชั ญ์ คาพงษ์ ผชู้ ่วยบรรณาธกิ าร พระครปู ลัดวชั รพงษ์ วชิรปญฺโญ, ผศ.ดร. ผ้ชู ่วยบรรณาธกิ าร ดร.ธีรทัศน์ โรจนก์ ิจจากุล แบบปก-รปู เล่ม : นายศภุ กริช เข่อื นเพชร พิมพเ์ ม่ือ : พฤษภาคม 2562 จดั พิมพ์ในงาน : การประชุมวิชาการระดับชาติ คร้งั 3 วทิ ยาลัยสงฆน์ ครน่าน มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั เฉลิมพระเกียรติสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ประจาปี 2562
นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [1] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage ถอ้ ยแถลง เน่ืองในโอกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดสะพานสิริธรรมรัถย์ (เส้นทางแห่งคุณความดีอัน เป็นมงคล) ทรงเปิดแพรคลุมป้ายวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกยี รติฯ และทรงเปิดงานประชุมวิชาการระดบั นานาชาติ ครง้ั ท่ี 2 (คร้งั ที่ 10 มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) และระดับชาติ คร้ังท่ี 3 ในวันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ วิทยาลัยสงฆน์ ครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกยี รตฯิ จังหวัดน่าน เพ่ือวางรากฐานการศึกษาวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งน้ี ให้เกิดความ เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป ซ่ึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ อยา่ งหาที่สุดมไิ ด้ วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มจร และเครือข่ายจัดประชุมวิชาการวิชาการระดับนานาชาติ คร้ังท่ี 10 และระดับชาติ คร้ังที่ 3 (The 10th International and the 3rd National Conference 2019 (INC 2019 : MCU Nan) ภายใต้หัวข้อเรื่อง “นครน่าน : นครพระพุทธศาสนา สู่มรดกธรรม มรดกโลก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการสู่สังคม และเปน็ เวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ ผ่านผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือการพัฒนาจิตใจและสังคมอย่างย่ังยืน ตามปรัชญาของ มหาวิทยาลัยและนโยบายรัฐบาลท่ีให้ความสาคัญต่อการวิจัย การพัฒนาต่อยอด และการสร้าง นวัตกรรมเพ่ือนาไปสู่การแกไ้ ขและพฒั นาประเทศให้ยัง่ ยนื การนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นฐานในการทาให้วิทยาการใหม่ๆ ท้ังหลาย มีโอกาสได้แสดงฐานะและบทบาทมากยิ่งข้ึน น่ันคือผู้ที่มีความรู้ความเช่ียวชาญในวิชาการยุคใหม่ได้ หนั มาศึกษาปฏิบตั ติ ามหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา พัฒนาตัวเองให้มคี วามเขม้ แข็งสามารถยืนหยัด อยู่ได้ในท่ามกลางโลกธรรมท่ีแปรเปล่ียนไปในทางดีและไม่ดีตลอดเวลา ความเป็นคนเข้มแข็งน้ี จะเป็นโอกาสให้ได้ใช้วิชาความรู้ในการปฏบิ ัตหิ น้าทกี่ ารงานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพตลอดเวลา ตรงกับ พุทธประสงค์มากที่สุด เพราะทรงแสดงลาดับข้ันของการพัฒนาตนเพื่อบรรลุเป้าหมายท่ีพึงประสงค์ โดยเร่ิมจากการศึกษาหาความรู้ด้านวิชาการวิชาชีพ (ปริยัติสัทธรรม) อบรมสั่งสมตนให้มีความ เรียบร้อยดา้ นกายภาพ ให้เข้มแข็งอดทนด้านจติ ภาพ และโลกทัศน์ชีวทัศนท์ ่ีเป็นสมั มาทฏิ ฐิตลอดเวลา (ปฏิปตั ตสิ ทั ธรรม) และใหม้ คี วามร่มเยน็ เป็นสุข (ปฏิเวธสัทธรรม)
[2] รายงานการประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ที่ 3 มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย มปี รชั ญาวา่ “จัดการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา บรู ณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม” ในภาคปฏบิ ตั ิกม็ ีการศึกษาวชิ าพระพทุ ธศาสนา ทกุ สาขาวิชา ถือว่าไดส้ ะสมองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนามาเป็นเวลายาวนาน มีองค์ความรูด้ า้ นน้ี ท้ังในรูปของความรู้ที่ อยู่ในตัวตน (Tacit Knowledge) และความรู้สาธารณ ะ (Explicit Knowledge) หลากหลาย การจัดสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติและระดับชาติครั้งนี้ เป็นเวที วิชาการท่ีจะแสดงให้ประชาคมทางวิชาการท่ัวประเทศรู้ว่า นครน่านเป็นนครแห่งพระพุทธศาสนา อย่างไร หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นมรดกโลกและบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่นั้นเป็น อย่างไร และจะสามารถนาไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่สงั คมประเทศชาตอิ ย่างไร ขออนุโมทนาและช่ืนชมในวิริยะอุตสาหะของผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ของวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติฯ สถาบันวจิ ัยพุทธศาสตร์ คณะ วทิ ยาเขต วทิ ยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และองค์กรภาคีเครือข่ายในการร่วมด้วยช่วยกันจัดงานและนาเสนอผลงานทางวิชาการในรูปแบบ ตา่ งๆ ตอ่ เน่อื งทุกปี อันจะเป็นคุณปู การตอ่ การศึกษาพระพทุ ธศาสนาและสงั คมสืบไป. (พระราชปริยตั กิ วี, ศ.ดร.) อธิการบดี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย 10 พฤษภาคม 2562
นครนา น : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [3] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage ÊÒúÑÞ เรื่อง หนา ถอยแถลงของประธานคณะบรรณาธกิ าร [1] สารบญั [3] ศกึ ษาแหลง อารยธรรมโบราณลุมแมน้าํ กก-แมน ํ้าลาวในพืน้ ทีจ่ ังหวดั เชียงราย 1 พระครูวิมลศลิ ปกิจ วิถีพทุ ธ วถิ ีวัฒนธรรม ของจงั หวัดนาน: ขบวนการพฒั นาสูการจัดการตนเองอยา งย่ังยืน 11 ดนธนิ ี ฟองคํา ใกนาอรศําเกึ ภษอาลวําเิ ทคระาเมะนหชภัยาวจะังผหูนวําดั เชนงิคพรุทราธชขสอีมงเาจาอาวาส : กรณีศกึ ษาเจา อาวาส 18 พระมหาพระรจน อภปิ ุ ฺโญ, พระปลดั กติ ติ ยตุ ติธโร, บรรพต แคไธสง วธิ ีการแกปญหาความขัดแยง ในครอบครวั ตามหลกั พุทธธรรม 29 พระวรวรรษ ธมมฺ ทินโฺ น, พระครูวินยั ธรอํานาจ พลปโฺ , พระมหามงคลกานต ต ธมฺโม ศกึ ษาการประยกุ ตห ลักพทุ ธกิจในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตพระสงฆไทย 38 พระครูโสภณจิตตาภิรม, พระปลัดกติ ติ ยตุ ฺตธิ โร, วิเชียร ชาบตุ รบุณฑริก จศงัึกหษวาัดอบทิ ุรธรี พิ มั ลยข องประเพณบี ญุ เทศนมหาชาตทิ ีม่ ีตอ พุทธศาสนกิ ชนอําเภอลาํ ปลายมาศ 51 พระมณพี ร ขนตฺ สิ าโร, บรรพต แคไธสง, ภฏั ชวัชร สขุ เสน ศกึ ษาวิเคราะหก ารบชู าพระพิฆเณศในทศั นะของพระพุทธศาสนา 61 พระโทน ทปี งฺกโร, ภัฎชวัชร สขุ เสน, เอกฉัท จารุเมธีชน อศําึกเษภาอกเาฉรลปิมรพะรยะุกเกตียใชรหตลิ จักงั เหมวตดัตบาธุรรรี รัมมยใ นการใหบริการของสํานกั ทะเบยี น 73 คุณากร ชวงกระจา ง, บรรพต แคไธสง, เอกฉัท จารุเมธชี น ศึกษาวิธกี ารขจัดมลทนิ ในพระพทุ ธศาสนาเถรวาท 85 พระศรายธุ สิริธโร, พระปลดั กติ ติ ยตุ ตธิ โร, ภฎั ชวชั ร สุขเสน
นครนาน : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก [5] Nan : City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กอัญาํ เชภงอกแบั มคร วมิ าจมังเชหอ่ื วขดั อเชงยีชงาใวหมมง หมบู านแมส าใหม ตาํ บลโปง แยง 216 ธาราทพิ ย สมจนั ทรตา, พิมวิภา มลอา, ตลุ าภรณ แสนปรน ตเชาํ กบอลแเมชววินา อเชําซเภู: อกแามรสว าืบงทจองัดหบวนดั ลเชายียงผใาหทมอ กะเหรยี่ งในชุมชนบานโปง นอย 223 พรนดิ า อนิ ตะคํา, วราพร รกั สขุ สําราญ, ตลุ าภรณ แสนปรน ผา ทอไทลื้อ: ภูมิปญ ญาบนลายผาของชุมชนบานปา ป ตําบลบา นธิ 230 อาํ เภอบา นธิ จังหวดั ลาํ พนู ศริ ิพร เวียงเงิน, อรสิ รา ศรมี าลา, ตุลาภรณ แสนปรน กอาํารเภศอึกลษอางองจคงั ปหรวะดั กแอพบรพ ิธกี รรมหวงผา หมูบา นนาสาร ตําบลบานปน 237 วราพร ดวงแกว , รวินทน ภิ า ยาวิละ, ตลุ าภรณ แสนปรน ใกนารราจยัดวกิชาารกเรายี รนปกระารมสวอลนผแลบแบบบAกcลtมุivเeมฆLearning โดยใชรูปแบบ MARCO Model 246 ดวงใจ งามศิริ, นภิ าพร บญุ ยศ, นิพล พนิ ิจวจั นะวงศ การศกึ ษาคาํ ยมื ภาษาตา งประเทศทป่ี รากฏในพจนานกุ รมนกั เรยี น ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสภา 257 ปพชิ ญา พรหมกนั ธา, พทั ธนนั ท พาปอ , ปนุ ชมภพู ระ,นภาพร เลขาโชค, สรุ ยิ าพร สงิ หโ นนเชอื ก กมาหราจวัดิทกยาารลเยัรียรานชกภาฏัรสนอคนรวสิชวารกรคาร บรหิ ารเชิงกลยทุ ธภาครัฐหลักสูตรรัฐศาสตรบณั ฑติ 268 พรรณอร วนั ทอง อบาํทเบภาอทเสขรอิมงงนาิทมาจนงัพหน้ื วบดั าลนําปปกางาเกอะญอ หมูบ า นสันโปง ตําบลเสรมิ กลาง 281 เกษณี ตนั๋ ตุย , ภาณุวัฒน สกลุ สบื พตําิธบเี ปลลเสี่ยรนมิ สกภลาาวงะ:อกาํ เรภณอศี เสึกรษิมางจาามกงจางั นหแวตดั งลงําาปนาขงองชาวปกาเกอะญอ หมูบ า นสันโปง 290 ศริ ริ ตั น บญุ สาํ อางค, สกุ ญั ญา อุดแคว, ภาณุวัฒน สกุลสบื ใคนวผาทูมร่นี ู อทนศั ตนิดคเตติียแงลขะอกงาพรรปะฏสบิงฆัติเจพงัื่อหกวาดั รลสําง พเสนู ริมสขุ ภาวะภายใตห ลักภาวนา 4 301 พระมหาบญุ เลิศ อนิ ฺทปฺโญ,ชมพนู ุท สงิ หม ณี, วโรดม เสมอเชือ้ , พระมหาอนุวตั วชิ ัยรตั น, เบญจมาศ สุขสถติ ย
Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 281 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage บทบาทของนิทานพื้นบา นปกาเกอะญอ หมบู า นสนั โปง ตําบลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จงั หวัดลาํ ปาง Roles of Karen Folktales at San Pong Village, Serm Klang Sub-District, Serm-ngam District, Lampang Province เกษณี ต๋นั ตุย ภาณวุ ัฒน สกลุ สืบ มหาวิทยาลัยราชภฏั ลําปาง บทคดั ยอ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาคุณคาของนิทานพื้นบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จงั หวัดลําปาง โดยใชแนวคิดเก่ียวกับบทบาทของนิทานของสติธ ทอมปสัน มาใชในการศึกษาวิเคราะห จากการสัมภาษณวิทยากรชาวปกาเกอะญอจํานวน 6 คน สามารถรวบรวม นิทานไดทง้ั สิ้น 24 เรื่อง ผลการวิเคราะหเนื้อหานิทานพื้นบานปกาเกอะญอ พบวาปรากฏบทบาทใน 4 ดา น ไดแก 1) ใหสาระความรู 2) ใหความบนั เทิง 3) อบรมศีลธรรม-จรยิ ธรรม และ 4) ผอนคลายความกังวล คําสาํ คญั : บทบาท, นิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ, สติธ ธอมปส นั Abstract The research aimed at studying roles of Karen folktales from San Pong village, Serm Klang Sub-district, Serm Ngam District by using 4 functions of Stith Thompson for analysis. From the interview 6 Karen people, 24 folktales were collected. The finding found that roles appeared in 4 dimensions, namely: 1) Knowledge, 2) Entertainment, 3) Ethics, and 4) Recreation. Keywords: Role, Karen Folktales, Stith Thompson ทม่ี าและความสาํ คัญของปญหา นิทาน เปนขอมูลทางวัฒนธรรมประเภทหนึ่งท่ีนักคติชนและผูสนใจดานวัฒนธรรมศึกษาใหความ สนใจ ดวยเหตุเพราะนิทานไมเพียงแตใชเลาเพื่อความบันเทิงหรือเลาใหเกิดความเพลินดเพลินเทาน้ัน บางคร้ังยังใชเลาเพื่อวัตถุประสงคอื่นๆ เชน การปลูกฝงคุณธรรมใหแกเด็กหรือผูฟงไดอีกดวย ดังปรากฏให เห็นไดจากนิทานอีสปที่พิมพเ ผยแพรใ หเดก็ ๆ ไดอ านกันมักจะลงทา ยดวยขอความสําเร็จรปู ทีว่ า “นทิ านเรื่อง นสี้ อนใหรวู า...” เปนตน ในทางคติชนวิทยา นทิ าน หรอื นิทานพื้นบาน หมายถึง “เรอ่ื งเลา สืบตอกันมาเปน
282 รายงานการประชุมวชิ าการระดับชาติ ครั้งท่ี 3 มรดกทางวัฒนธรรม สวนใหญถายทอดดวยวิธีมุขปาฐะ แตก็มีอยูจํานวนมากที่ไดรับการบันทึกไวแลว” 1 จากทรรศนะขา งตนจะเหน็ ไดวา นทิ านนอกจากจะเปน เรือ่ งทเี่ ลาสืบทอดกนั แบบปากตอปากแลว ยังเปนสิง่ ท่ี สืบทอดจากรุนสูรุนอีกดวย ในขณะท่ีสุกัญญา สุจฉายา2 ไดกลาวถึงลักษณะของนิทานพ้ืนบาน (folktale) วา “เปนเร่ืองเลารอยแกว เรื่องเลาประเภทน้ีสืบทอดตอๆ กันมา มีโครงเรื่อง (plot) งายๆ ไมผูกเร่ือง ซบั ซอนวกวน จึงทําใหจดจําเรื่องและเขา ใจไดง าย เรอ่ื งเลาพื้นบานเปนสมบัติของชุมชน ไมม ใี ครผูกขาดเปน เจาของ ทุกครั้งที่มีการเลา ผูเลาก็คือเจาของเร่ืองที่ผูกข้ึนใหม แมจะใชเคาโครงเร่ืองเดิมก็ตาม” สําหรับ คุณลกั ษณะของการเปน สมบัตหิ รือมรดกดงั กลา ว ธวชั ปุณโณทก3 ไดอธบิ ายไววา “แตล ะทอ งท่กี จ็ ะมนี ิทาน ท่ีเลากันในท่ีนั้นๆ โดย ชาวทองถิ่นเปนผูอนุรักษ ทําใหนิทานพื้นบานมีเอกลักษณเปนของตนเอง ในนิทาน แตละเร่อื งจะแฝงไวซ ึ่งความเชอื่ วถิ ีชีวติ ภูมปิ ญญา ประเพณีของทอ งถิ่นนนั้ ” นอกจากนี้วิเชยี ร เกษประทุม4 ยังไดอธบิ ายบทบาทของนิทานพ้นื บานไวว า นทิ านนอกจากจะใหค วามสนกุ สนานเพลิดเพลนิ แลว ยงั ใหแ งค ิด ในแงใดแงหนึ่ง เพื่อปลูกฝงคุณธรรมที่สงั คมพึงประสงคใหแกผูฟง การสอนในนิทานน้ันเปน การแฝงขอคิดไว ในเรื่อง ไมไ ดสอนโดยตรง ซึง่ ขอคดิ ในนิทานนั้นสามารถสอนไดทุกเพศทุกวยั ไมไดจ ํากดั อยูแตว ัยเด็ก นิทาน เปนเคร่อื งมือสําคญั เพือ่ ปลูกฝงคุณธรรมจริยธรรมทเ่ี ปนบรรทดั ฐานของสังคม จงึ เปน สิง่ ท่ีพึงรักษาไว จากลักษณะและคุณคาของนทิ านขางตน สะทอ นใหเห็นวานิทานเปน เรอ่ื งทมี่ ีบทบาทตอบคุ คลและ สงั คมอยไู มน อย อยางไรก็ตามปจ จบุ นั เทคโนโลยเี ขามามีบทบาทในวถิ ชี ีวติ ของผูคนเปน อยางมาก หนา ทแ่ี ละ ความรับผิดชอบของผูคนในสังคมก็เพิ่มขึ้นตามมา ทําใหนิทานพื้นบาน ถูกกระแสเทคโนโลยีพัดพาใหหาง ออกไปจากวิถชี วี ิตของผูคนมากข้นึ เรื่อยๆ หากคนรนุ หลงั ไมไดต ระหนกั ถึงความสาํ คัญและรวมกันอนรุ กั ษไ ว สิ่งดีงามเหลานี้กจ็ ะหายไปหรอื ถกู หลงลืมตามกาลเวลา หมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง เปนหมูบานท่ีมีกลุมชาติพันธุ ปกาเกอะญออาศัยอยู ซ่ึงกลุมชาติพันธุนี้มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ที่ควรคาแกการรักษาไวหลายอยาง และที่ นาสนใจ คอื กลุมชาตพิ ันธุปกาเกอะญอทหี่ มูบานสนั โปง มนี ิทานพืน้ บา นท่เี ปนเอกลักษณข องตนเอง ท้ังยังมีการถา ยทอดแบบมุขปาฐะมาชานานและยังไมเคยมีการรวบรวมขอมูลเปนลายลักษณอ ักษร ในฐานะ ท่ีผูวิจัยเปนหน่ึงในสมาชิกของหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง และเคยฟง นิทานพื้นบานมาต้ังแตเด็ก จึงไมอยากใหกระแสเทคโนโลยีท่ีเขามาเก่ียวของกับวิถีชีวิตของผูคนมากข้ึน เร่อื ยๆ น้นั ทาํ ใหนทิ านพื้นบานสญู หายไปตามกาลเวลา ผวู จิ ัยจึงเลอื กท่จี ะศกึ ษานทิ านพ้นื บานทหี่ มูบ าน สันโปง ตาํ บลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสรมิ งาม จังหวัดลําปาง เพื่อรวบรวมและวเิ คราะหบทบาทของนิทาน โดยใช แนวคิดของสติธ ทอมปสัน 1 กงิ่ แกว อัตถากร,คติชนวทิ ยา, (กรุงเทพมหานคร : กรมการฝก หดั ครู, 2519)หนา 12. 2 สุกัญญา สุจฉายา,วรรณกรรมมุขปาฐะ,(กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, 2556), หนา21. 3 ธวชั ปุณโณทก, วรรณกรรมทองถิ่น,( กรงุ เทพมหานคร : พรี ะพธั นา, 2525),หนา8. 4 วิเชียร เกษประทุม, นิทานพื้นบาน(ฉบับปรับปรุงใหม),(กรุงเทพมหานคร : บริษัทสิทธ์ิพัฒนา จํากัด ,2551),หนา 10.
Nan : นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 283 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage วตั ถุประสงคการวิจยั เพ่ือวิเคราะหบทบาทของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวดั ลาํ ปาง ตามแนวคดิ ของ สตธิ ทอมปส นั วธิ ีดําเนนิ งานวิจยั การศึกษาบทบาทของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ จากหมูบานสันโปง ตําบลเสริมกลาง อําเภอ เสริมงาม จังหวัดลําปาง ตามทฤษฎีของสติธ ทอมปสัน ในครั้งน้ีเปนงานวิจัยเชิงคุณภาพ ซ่ึงผูวิจัยมี วิธีดําเนินการตามข้นั ตอน ดังนี้ 1. รวบรวมขอ มูลจากเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ ง 2. รวบรวมขอมูลจากการลงพื้นท่ีภาคสนาม ในขั้นตอนน้ีผูวิจัยเก็บขอมูลนิทานโดยการเลือกกลุม ตัวอยา งแบบเจาะจง โดยพิจารณาจากคณุ สมบตั ขิ องวทิ ยากรดังนี้ 2.1 สามารถลา นิทานไดตัง้ แตต น จนจบ (ชาวปกาเกอะญอหมบู านสันโปง มคี วามเชือ่ วาถานทิ าน เรอื่ งไหนเลาไมจบจะไมใ หเลา เรือ่ งนัน้ เพราะจะเกดิ เร่ืองไมดีกับผูเลา นทิ าน) 2.2 วิทยากรตองกําเนดิ และเตบิ โตในพนื้ ที่มาไมน อ ยกวา 40 ป จากการสํารวจกลุมตัวอยางพบวามีวิทยากรท่ีมีคุณสมบัติท้ังสองขอดังกลาว จํานวนทั้งส้ิน 6 คน และการลงพื้นท่ีครั้งนี้ผูวิจัยไดลงพื้นท่ีตั้งแตวันท่ี 1 ธันวาคม 2561 – 22 ธันวาคม 2561 ซ่ึงไดขอมูลนิทาน ทั้งหมด 24 เรื่อง ไดแก 1.เรื่อง เถอะถุยเบะ 2.เร่ือง สุวันนะ 3.เร่ือง โอแพโพโอะแพลีฮอมจิตะเงตะเงบะ 4.เรอ่ื ง โพแค 5.เรื่อง โพแค (หนอชอดิ) 6.เร่ือง หนอหมื่อเอ 7. เร่ือง กะชอตี่ 8.เร่ือง หนอคาลี 9.เรือ่ ง โพแค (หนอกาแข) 10.เรื่อง โพแค (หวาอะพอ) 11.เรื่อง ยุพาต่ี .เร่ือง ปวาคีงา 13.เร่ือง ตาแมเบลาะตาเขาะกะ (สํานวนที่ 2) 14.เร่ือง โขละ (สํานวนท่ี 1) 15.เรื่อง โขละ (สํานวนที่ 2) 16.เร่ือง ปวากะญอแฮกื้อ 17.เร่ือง หนอกะชอ 18.เรื่อง พญาคางขาก 19.เรื่อง ตาแลบา 20.เร่ือง โกโหละหนะ (สํานวนที่ 1) 21.เร่ือง โกโหละหนะ (สํานวนที่ 2) 22.เร่ือง ตาแมเบลาะตาเขาะกะ (สํานวนที่ 1) 23.เร่ืองหนอเดะกวา และ24.เรอื่ ง ตา แลบา 3. ถอดเสยี งการเลานิทานภาษาปกาเกอะญอจากเครื่องบันทกึ เสียงแลวแปลเปน ภาษาไทย 4. วิเคราะหบทบาทของนิทานพ้ืนบานตอวิถีชีวิตความเปนอยูของชาวหมูบานสันโปง ตําบล เสรมิ กลาง อําเภอเสริมงาม จังหวัดลาํ ปาง ตามแนวคดิ ของ สติธ ทอมปส นั 5. สรปุ อภิปรายผล และเสนอแนะ ผลการวจิ ัย จากการศึกษาบทบาทของนิทานพืน้ บานปกาเกอะญอโดยใชแ นวคดิ ดานบทบาทของนิทานของสติธ ทอมปสันซึ่งไดแบง บทบาทของนิทานไว 5 ประการ5 ดังนี้ 5 เสาวลักษณ อนันตศานต, นิทานพ้ืนบานเปรียบเทียบ, พิมพคร้ังท่ี 2,( กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ มหาวทิ ยาลยั รามคาํ แหง,2538),หนา 79-80.
284 รายงานการประชมุ วิชาการระดับชาติ ครัง้ ท่ี 3 1. ใหส าระความรู 2. ใหค วามบนั เทงิ 3. สง เสริมการกระทาํ และพฤติกรรมของวีรบรุ ุษ 4. อบรมศีลธรรม และจริยธรรม 5. ผอนคลายความกงั วล ผลการศึกษาเน้ือหาของนิทานพ้ืนบานปกาเกอะญอ ทั้ง 24 เร่ืองพบวาปรากฏบทบาทท้ังส้ิน 4 ดาน ไดแก บทบาทดานการใหความรู บทบาทดานการใหความบันเทิง บทบาทตอการอบรมศีลธรรม- จรยิ ธรรม และบทบาทในการผอนคลายความกังวล สามารถคดิ เปนรอ ยละไดด งั ตารางตอไปนี้ ตารางที่ 1 แสดงรอยละจากการศึกษาบทบาทนิทานพืน้ บา นปกาเกอะญอหมูบา นสันโปง บทบาทของนทิ านพน้ื บานทปี่ รากฏ รอยละ บทบาทดา นการใหความรู 16.67 บทบาทดานการใหความบันเทงิ 58.33 บทบาทดา นการอบรมคุณธรรม-จริยธรรม 16.67 บทบาทดา นการผอนคลายความกังวล 8.33 จากตางรางสามารถใหรายละเอยี ดของนิทานในแตล ะบทบาทได ดังน้ี 1. บทบาทดานการใหความรู นิทานพื้นบานปกาเกอะญอท่ีใหความรูนั้น จะมีเนื้อหาที่กลาวถึง ที่มาของสิ่งตางๆ ในธรรมชาติ หรือเปนการเลาเพ่ือใหความรูความเขาใจเกี่ยวกับโลกและชีวิตแกผูท่ีไดฟง นิทาน เชน ฝนตกไดอยางไร ใครเปนผูชวยมนุษยจากเหตุการณไฟไหมโลกในอดีต เพราะเหตุใดชาว ปกาเกอะญอหมูบานสันโปงถึงไมกินหอยทุกวันพระ การเกิดและเติบโตของมนุษย จากการวิเคราะหเน้ือหา ของนิทานท้ังสิ้น 24 เรื่องพบวามีเน้ือหาในดานการใหความรู จํานวน 4 เร่ือง ไดแก เร่ืองพญาคางขาก เรอื่ งโขละ (สาํ นวนท่ี 1) เร่อื งโขละ (สาํ นวนที่ 2) และเร่อื งปกาเกอะญอแฮกือ้ ตัวอยางนทิ าน เรือ่ ง พญาคางขาก ในฤดูแลง หนึง่ ท่ีทกุ อยา งลว นแหงเห่ยี วตามกนั ไปหมด สัตวพ ากันลม ตาย คางคก 7 ตวั อาสาข้ึนไป ขอฝนกับเทวดา แตถูกปฏิเสธดวยเหตุผลท่ีเปนเพียงคางคก คางคกจึงกลับมารวบรวมคางคกทั้งหมดข้ึนไป อีกรอบ เม่ือเทวดาไมยอมใหโดยดี คางคกจึงทาสู และชนะเทวดาในที่สดุ คางคกจึงทําขอตกลงกับเทวดาวา ถาหากไดยินเสียงคางคกรองเมื่อไหร ใหรีบทําใหฝนตกนํ้าทวมทันที และนี่ก็เปนท่ีมาของการที่ฝนตกเวลา คางคกหรอื กบรอ ง 6 สําหรับนิทานเร่ืองพญาคางขากน้ีชาวปกาเกอะญอมักใชเลาเพ่ืออธิบายถึงสาเหตุของการมีเสียง คางคกหรอื กบท่ีมกั จะรองในชว งท่ีมีฝนตกวา ทกุ ครัง้ ที่ฝนตกลงมานนั้ เปนเพราะวา คางคกรอ งใหสญั ญานแก เทวดา เพื่อใหเทวดาบันดาลใหเกิดฝนน่ันเอง นอกจากนี้ยังมีนิทานอีก 3 เรื่องที่ใชเลา เพื่อใหสาระความรูใน ทํานองเดียวกัน กลาวคือ เรื่องโขละ (สํานวนที่ 1) ใหขอความรูเกี่ยวกับใบตองของตนกลวยปาวาใชเปนท่ี กําบังไฟได ซ่ึงสอดคลองกับความเช่ือเกี่ยวกับการสรางบานของชาวปกาเกอะญอบานสันโปงที่มักจะนําตน 6 สัมภาษณ กอ ปาละอา ย., 1 ธนั วาคม 2561.
Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 285 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กลวยท่ีมีใบตองมามดั ติดกบั เสาเอกดวย เพราะเช่ือวาจะทําใหผูอาศยั มีแตความสงบรมเย็นและจะเจริญงอก งาม และเรื่องโขละ (สํานวนท่ี 2) ใหเหตผุ ลหรอื ท่ีมาของการงดกินหอยทกุ วันพระของชาวปกาเกอะญอบา น สนั โปง เปน ตน 2. บทบาทดานการใหความบันเทิง นิทานปกาเกอะญอท่ีใหความบันเทิงน้ันจะมีเน้ือหาท่ีทําให ผูฟงรูสึกคลอยตามความรูสึกของตัวละคร ไมวาจะเปนอารมณทุกข สุข สนุก หรือเศราโศกเสียใจ ฯลฯ จากการวเิ คราะหเ นือ้ หาของนทิ านทงั้ ส้นิ 24 เรือ่ งพบวานทิ านพ้นื บา นปกาเกอะญอท่ีมเี น้ือหาในการใหค วาม บันเทิง จํานวน 14 เรื่อง ไดแก ไดแก เร่ืองหนอเดะกวา เรื่องผี (ไมมีช่ือเร่ือง) เร่ืองโพแค (หนอชอดิ) เร่ืองโพแค (หนอกาแข) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) เรื่องเถอะถุยเบะ เรื่องหนอกะชอ เร่ืองกะชอต่ี เร่ืองหนอคาลี เร่ืองตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนท่ี 1) ตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนท่ี 2) เรื่องยุพาตี่ เร่อื งสวุ นั นะ และเร่ืองปวาคงี า ตวั อยางนิทานเรอื่ ง ปวาคงี า มีหญิงชายคูหนึ่งรักกันมาก แตพอแมของฝายหญิงไมยอมรับ จึงขัดขวางทุกวิถีทาง แมทั้งสองจะ พยายามทําดีแคไหนพอแมของฝายหญิงก็ปฏิเสธ ทั้งสองจึงตัดสินใจพากันหนี และดวยความนอยใจใน โชคชะตาทัง้ สองจึงเอาเสนผมของผหู ญงิ มดั ตดิ ดับกงิ่ ไมแ ลวแขวนคอตายคกู นั 7 จากตัวอยางที่กลาวมาจะเห็นวานิทานดังกลาวทําใหผูฟงรูสึกเศราสะเทือนใจกับความรักท่ีไม สมหวัง และจบลงดวยโศกนาฏกรรมของหญิงชายทั้งคู ซึ่งในเรื่องอื่นๆ ก็จะใหอารมณความรูสึกที่ให ความรสู ึกในทํานองเดียวกัน ไดแก เรื่อง หนอคาลี (พอเสียสละชีวิตเพ่ือใหลูกไดสุขบาย) เรอ่ื ง หนอเดะกวา (หญิงสาวที่ถูกกินเน้ือ) เร่ืองผี (ไมมีชื่อเร่ือง) (แฟนที่กําลังจะแตงงานดวยตายระหวางท่ีผูชายไปทํางานเก็บ เงินเพื่อแตงงาน) เร่ือง เถอะถุยเบะ (เด็กชายที่ถูกแมเล้ียงใจรายยุพอใหไปฆาท้ิงกลางปา) เร่ือง หนอกะชอ (หญิงสาวที่ตองกลายเปนชางตลอดชีวิต) เร่ือง กะชอต่ี (เด็กชายท่ีออกตามหาพอท่ีเปนชาง) เร่ือง สุวันนะ (เด็กชายที่ถกู พอเอาไปลอยนํ้า เพราะถกู แมเลย้ี งใสรา ย) สวนเรื่องทใี่ หความรสู ึกสนุกสนานแกผฟู ง เชน เรอื่ งโพแค (หนอชอดิ) (ผฟู งรสู กึ สนกุ และลุนไปกับ บุคคลปริศนาทีม่ าทําความสะอาดบานใหโ พแควาคือใคร) เร่ือง โพแค (หนอกาแข) (ผฟู งความรูสกึ สนุกไปกบั ไหวพริบ ปฏิพานของโพแคซ่ึงเปนพระเอกของเร่ือง) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) (ผูฟงรูสึกสนุกไปกับความ จงรักภักดแี ละความฉลาดของลงิ กบั นกท่มี ีตอ โพแค) เรอื่ ง ตาแมเบลาะตาขอ กะ (สํานวนท่ี 1) (ผูฟง รูสึกสนุก กบั การใชอบุ ายของตัวละครในการเอาตวั รอกจากการถกู แมม ดกนิ ) เรื่อง ตาแมเบลาะตา ขอ กะ (สาํ นวนที่ 2) (ผูฟงสนุกและตลกไปกับการท่ีสองเพ่ือนซี้ท่ีคนหน่ึงหูหนวกและอีกคนหนึ่งตาบอดโดนแกลง) เร่ือง ยุพาต่ี (ผูฟ งจะรูสึกสนุกและตลกไปกบั ความข้ีเกยี จท่ไี มมีใครเทยี บของพระเอกของเรื่อง) 3. บทบาทดานการอบรมคุณธรรม-จริยธรรม นิทานพื้นบานปกาเกอะญอที่เปนการอบรม คุณธรรมและจริยธรรมน้ัน เน้ือหาของนิทานจะใหขอคิดหรือใหคติสอนใจแกผูฟง จากการวิเคราะหเนื้อหา ของนิทานทั้งส้ิน 24 เรื่อง พบวามีเน้ือหาในดานการอบรมคุณธรรมและจริยธรรม จํานวน 4 เร่ือง ไดแก เรื่องโอะแพโพโอะแพลีฮอมจตี ะเงตะเงบา เรอื่ งโพแค เรื่องหนอหมือ่ เอ และเรอ่ื งตา แลบา 7 อา งแลว ,สัมภาษณ กอ ปาละอาย, 8 ธนั วาคม 2561.
286 รายงานการประชุมวิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 3 ตัวอยา งนทิ านเรื่อง โอะแพโพโอะแพลฮี อมจติ ะเงตาเงบา มเี ด็กชายสองพ่นี องอยบู านดวยกันตามลําพงั เพราะพอแมไปหาของปา นองชายรูสึกหวิ ขาว พชี่ าย จึงชวนไปหาปู ไดปูมาสี่ตัว สองพี่นองแบงกันคนละตัว ที่เหลือแบงไวใหพอกับแม แตนองชายกินไมอ่ิม พี่ชายคิดวาถาเหลอื ตัวเดียวพอกับแมคงไมพอกินอยูดี จึงชวนกันกินปูจนหมด ตกเย็นพอกับแมกลับมาบาน พอรูเร่ืองท่ีลูกกินปไู มแบงใหพอ กับแมเขา กโ็ กรธมากจงึ ดา และไลอ อกจากบา นไป ลูกชายสองคนเรร อนไปใน เมืองตางๆ พี่ชายไดชวยชีวิตลูกสาวเจาเมืองแหงหน่ึงไว จึงไดแตงงานดวยจนไดดิบไดดี สวนนองชายก็ได แตงงานกับลูกสาวเจา เมอื งละแวกใกลเ คียง วันหนง่ึ ทัง้ สองพากันกลับไปเยีย่ มพอ แม แตพ อ แมจาํ ทัง้ สองไมได แลว สองคนพ่ีนองแอบนําทองใสไวในไมไผไวใหแลวจากไป พอมีคนมาบอกวาคนที่มาเย่ียมคือลูก ท้ังสองก็ รบี วิ่งตามและตะโกนเรยี กแตลกู ชายทั้ง 2 คนถกู เทวดาเอาสาํ ลีปด หูไวท ําใหไ มไ ดยิน ฝายพอแมเ สยี ใจมากจึง ขาดใจตายดว ยกันท้งั คู8 จากตัวอยา งท่ีกลาวมาทําใหเหน็ วา นิทานเรื่องนี้เปนนิทานทใ่ี หคติเตอื นใจแกผูท่ีเปนพอแมวา เวลา จะดาวาลูกไมควรไลออกจากบาน เพราะสุดทายผูที่จะเสียใจท่ีสุดกค็ ือตัวของพอแมเอง ในขณะเดียวกันผูท่ี เปนลูกก็ตองมีความกตัญูตอพอแมดวยเชนกัน สวนนิทานเรื่องอื่นๆ ก็จะใหคติ ขอคิดในทํานองของการ เตือนใจเชนเดียวกนั กลาวคือ เรื่องโพแคและหนอ หมื่อเอ เปนนิทานท่ีเตอื นใจเราวา เราควรพอใจในส่ิงท่ีตน มี และเรือ่ งตา แลบา เปน นทิ านที่เตือนใจไมใหเราใชก าํ ลังทํารายผทู อ่ี อ นแอกวา เพราะสุดทายผลกรรมนัน้ จะ คนื สนองแกต ัวเราเอง 4. คุณคา ดา นการผอ นคลายความกังวล นิทานพืน้ บานปกาเกอะญอที่มบี ทบาทในการผอ นคลาย ความกังวลหรือหาทางออกใหกับความขับของในจิตใจน้ัน เนื้อหาของนิทานจะปรากฏตัวละครที่แสดง พฤติกรรมท่ีไมเหมาะสม หรือไมสามารถกระทําไดในโลกแหงความเปนจริง เพราะเปนพฤติกรรมที่สังคม ปกาเกอะญอไมยอมรับ เปนขอหาม หรือเปนพฤติกรรมที่ตองระมัดระวัง จนทําใหบางครั้งกลายเปนความ กังวลในจติ ใจจึงแสดงออกความคับของใจน้ีผานเนื้อหาและพฤติกรรมของตัวละคร จากการวิเคราะหเ น้อื หา ของนิทานทั้งส้ิน 24 เร่ือง พบวามีเนื้อหาในดานการผอนคลายความกังวล จํานวน 2 เรื่อง ไดแก เรื่อง โกะโหละ หนา (สาํ นวนท่ี 1) และโกะโหละหนา (สํานวนท่ี 2) ตวั อยา งนิทานเรือ่ ง โกะโหละหนา (สาํ นวนท่ี 1) โกะโหละหนาอาศัยอยูกับพี่ชายและยาย ทุกวันหนาที่ของโกะโหละหนาคือการเล้ียงควาย สว นพ่ีชายมหี นาที่เลี้ยงยาย แตวันหนึ่งนอ งชายอยากลองเล้ียงยายบาง พี่ชายกอ็ นุญาต และบอกวาอยูบาน เล้ียงยายก็ตมนาํ้ อาบใหยายดวย โกะ โหละหนาก็ทาํ ตามโดยตม น้าํ จนเดอื ด แลวเอามาราดตัวยายตง้ั แตห ัวลง มาจนยายตาย ผิวยายของโกะโหละซดี เพราะโดนนา้ํ รอนลวก สวนฟนก็ยงิ คางไว โกะโหละ หนาเขาใจวา ยาย ดีใจที่ตวั ขาวจึงย้ิมไมยอมหุบ พอพี่ชายกลับจากเลี้ยงควายโกะโหละหนาจึงรีบไปบอกพ่ีชาย พ่ีชายเหน็ ก็รวู า ยายน้ันตายแลวจงึ ดา โกะ โหละหนา และใหโ กะโหละหนาไปตามผูห ลกั ผูใหญมาชวยกันทําพิธี แตโ กะ โหละห นา กลับไปเรียกยักษมาจนยกั ษกินเนื้อยายจนหมด และจะกินโกะโหละหนากับพี่ชายตอ สุดทายโกะโหละห 8 อา งแลว ,สัมภาษณ กอ ปาละอา ย, 1 ธนั วาคม 2561.
Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 287 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage นา จึงใชกลอุบายฆายกั ษโ ดยการใหยกั ษมัดกอนหนิ ตดิ ไวที่หลงั แลว โหนเชือกขามแมน ํ้า พอโกะ โหละ หนาตัด เชอื ก ยกั ษจึงจมนํ้าตาย9 จากตัวอยางที่กลาวมาจะเห็นไดวา นทิ านเร่ืองน้ีโกะโหละ หนา (สํานวนท่ี 1) มีการฆายายตัวเอง แม จะไมไดต้ังใจแตก็เปนส่ิงที่ถือวาผิดในโลกแหงความเปนจริง และตองไดรับการลงโทษ เพราะโดยปกติแลว ชาวปกาเกอะญอจะใหความเคารพแกผูใหญเปนอยางมาก เชื่อวาเด็กจะตองเช่ือฟงคําสั่งสอนของผูใหญ เพราะผใู หญอาบนา้ํ รอนมากอนและมีพระคุณตอเรา ซึง่ จะเหน็ ไดจากพธิ กี รรมการเล้ียงผีปูยา ท่แี สดงใหเ ห็น วาแมบรรพบุรุษจะเสียชีวิตไปแลว แตล กู หลานก็ยังเคารพและรําลึกถึงเสมอ แต โกะโหละหนาจากเร่อื งน้ไี ม ตองรับโทษอะไรเลย อีกท้ังยังไดใจของผูฟงในความใสซ่ืออีกตางหาก สวนในโกะโหละหนา (สํานวนท่ี2) โกะ โหละหนา กย็ ังทําผิดในทาํ นองเดียวกันคอื ฆาควายของพระราชาเพ่ือขโมยเอาเคร่ืองใน แตโกะโหละหนา ก็ไมไ ดร บั โทษอีกเชน เคย สรุปและอภิปรายผลการวิจัย สรปุ ผล การศึกษาบทบาทของนิทานพื้นบา นปกาเกอะญอ หมบู า นสนั โปง ตําบลเสริมกลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง ตามแนวคิดของ สติธ ทอมปสัน ในคร้ังน้ี ใชวิธีการเก็บขอมูลภาคสนาม โดยการสัมภาษณ วทิ ยากรท้ังหมด 6 คน ซึ่งสามารถเก็บขอ มูลนทิ านปกาเกอะญอบานสันโปง ไดทั้งสนิ้ 24 เรื่อง ผลการศึกษา เน้อื หาของนิทานพน้ื บานปกาเกอะญอ พบวาปรากฏบทบาททั้งสิ้น 4 ดา น ไดแ ก บทบาทดานการใหความรู บทบาทดานความบนั เทิง บทบาทตอการอบรมศีลธรรม-จริยธรรม และบทบาทตอการผอนคลายความกงั วล ดังผลสรุปจากการวิเคราะหต อไปนี้ 1. บทบาทดานการใหความรู ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญ อทั้งสิ้น 4 เร่ือง ไดแก เรอ่ื ง พญาคางขาก เรอื่ งโขละ (สาํ นวนท่ี 1) เรอื่ งโขละ (สํานวนที่ 2) และเร่อื งปวากะญอแฮกอื้ 2. บทบาทดานความบันเทิง ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญ อทั้งส้ิน 14 เร่ือง ไดแก เรื่อง หนอเดะกวา เร่อื งนทิ านผี (ไมท ราบช่อื เรื่อง) เรอื่ งโพแค (หนอ ชอด)ิ เรอื่ งโพแค (หนอ กาแข) เรื่องโพแค (หวาอะพอ) เรื่องเถอะถุยเบะ เร่ืองหนอกะชอ เร่ืองกะชอต่ี เร่ืองหนอคาลี เร่ืองตาแมเบลาะตาขอกะ (สํานวนที่ 1) เรือ่ งตา แมเบลาะตา ขอกะ (สาํ นวนท่ี 2) เร่ืองยุพาต่ี เร่อื งสวุ นั นะ และเรอ่ื งปวาคีงา 3. บทบาทตอการอบรมศีลธรรม-จริยธรรม ประกอบดวยนิทานปกาเกอะญอท้ังสิ้น 4 เร่ือง ไดแก เรื่อง โอะแพโพโอะแพลฮี อมจีตะเงตะเงบา เรือ่ งโพแค เร่อื งหนอหม่อื เอ และเรอ่ื งตา แลบา 4. บทบาทตอการผอนคลายความกังวล ประกอบดวนนิทานปกาเกอะญอท้ังสิ้น 2 เรื่อง ไดแก เร่อื ง โกะ โหละหนา (สํานวนท่ี 1) และเรื่องโกะโหละหนา (สาํ นวนท่ี 2) อภปิ รายผล ผลการวิจัยสะทอนใหเห็นวา นิทานปกาเกอะญอ หมูบานสันโปง ตําบลเสรมิ กลาง อาํ เภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง เปนนิทานท่ีมีลักษณะความเปนสากลเชนเดียวกับนิทานในวัฒนธรรมที่อื่นๆ โดยเมื่อศึกษา 9 สัมภาษณ, จันทรสม ต๋นั ตยุ ,22 ธันวาคม 2561.
288 รายงานการประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 3 จากเน้ือหาของนิทานตามแนวคิดของสติธ ทอมปสันแลวพบวาปรากฏบทบาทของนิทานถึง 4 ดาน ไดแก ใหสาระนารู ใหความบันเทิง อบรมศีลธรรมและจริยธรรม และผอนคลายความกังวล ซึ่งสอดคลองกับ การศึกษาของรัชนี กาวิ10 ท่ีศึกษาเร่ือง นิทาน ตํานานและประวัติศาสตร : บทบาทหนาที่ คุณคาและอัต ลักษณของชุมชนทาผาปุม อําเภอแมลานอย จังหวัดแมฮองสอน โดยผลการศึกษาของ รัชนี กาวิ ปรากฏ บทบาทของของนิทาน 4 ดาน ไดแก 1.บทบาทในการอธิบายการกําเนิดของกลุมชนและพิธีกรรม 2.บทบาทการใหการศึกษา อบรมระเบียบพฤติกรรมแบบแผนและรักษามาตราฐานทางสังคมและทองถ่ิน 3.บทบาทในการเปนทางออกใหกับความคับของใจของบคุ คลอนั เกดิ จากกฎเกณฑทางสงั คม และ 4.บทบาท ในการใหความบันเทิงแกคนในสังคม เชนเดียวกับการศึกษาของขวัญใจ ฟองมูล11) ท่ีศึกษาเร่ือง โครงสราง และบทบาทหนาท่ีของนิทานพ้ืนบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัดเชียงใหม ผลการศึกษาพบวา นิทาน พ้ืนบานไทใหญปรากฏบทบาทของนิทานทั้งหมด 4 ดาน ไดแก 1.บทบาทหนาที่ในการอธิบายท่ีมา อธิบาย เหตุผลของส่ิงตางๆ 2.บทบาทหนาที่ในการใหการศึกษาทางสังคมและทองถ่ิน 3.บทบาทหนาท่ีในการรักษา มาตรฐานพฤติกรรมท่ีเปนแบบแผนของสงั คม และ 4.บทบาทหนาที่ใหความบันเทิง ในขณะท่ี ศาริศา สุขคง 12 ซ่ึงศึกษาเร่ือง นิทานพ้ืนบานไทดํา บานปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย แลวพบวา บทบาทของนิทานของชาวไทดํามีอยูดวยกัน 3 ประการ คือ 1.บทบาทในการใหความบันเทิง 2.บทบาทใน การเปน สายใยเช่ือมโยงความรักความผูกพันระหวางพอแม และ 3.รักษาแบบแผนพฤตกิ รรม ควบคุมชุมชน และผอนคลายความตึงเครียดในชุมชน ผลงานวิจัยบทบาทของนิทานทั้ง 3 เรื่องท่ีมีความสอดคลองกับ การศกึ ษานทิ านของชาวปกาเกอะญอในครงั้ น้ี สะทอ นใหเ ห็นวา บทบาทพน้ื ฐานของนิทานทใี่ ชเ ลากันในกลมุ ชาติพันธุตางๆ นั้น มีบทบาทหนาที่พื้นฐานในลักษณะเดียวกันคือ ใหความรู ใหความบันเทิง ท้ังยังชวย สงเสริมในดานศีลธรรมและจริยธรรม ตลอดจนเปนผอนคลายความกังวลในจิตใจของกลุมชนอีกดวย นอกจากน้ีคุณลักษณะรวมดังกลาวยังเปนการยืนยันถึงลักษณะอันเปนสากลของนิทานในวัฒนธรรมตางๆ ทว่ั โลกอีกดวย ขอเสนอแนะ ชาวปะกาเกอะญอ เปน หน่ึงในกลุมชาตพิ ันธุก ะเหร่ียงซึ่งมีนิทานท่ีใชเลา ในกลุมเชนเดียวกนั หากมี การเก็บรวบรวมและศึกษาเนื้อหาของนิทานในเชิงเปรียบเทียบ ก็อาจทําใหเห็นจุดรวมหรือทําใหทราบถึง นิทานท่ีเปนจุดกําเนิดของกลุมชาติพันธุกะเหรี่ยงก็เปนได ฉะนั้นจึงควรมีการศึกษาเปรียบเทียบนิทานของ 10 รัชนี กาวิ, นทิ าน ตํานานและประวัตศิ าสตร : บทบาทหนา ท่ี คณุ คาและอัตลักษณของชุมชนทา ผาปมุ อําเภอแมลานอย จังหวัดแมฮองสอน,ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาภาษาไทย,(มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม, 2558). 11 ขวัญใจ ฟองมูล, การศึกษาโครงสรางและบทบาทหนาที่ของนิทานพื้นบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัด เชยี งใหม, ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าภาษาไทย, (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม, 2557). 12 ศาริศา สุขคง, “นิทานพ้ืนบานไทดํา บานนาปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย”, วารสารมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร, มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม, ปท ี่ 35 ฉบับท่ี 3: 125, 2559.
Nan : นครนาน : นครพระพทุ ธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 289 City Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage กลุมชาติพันธุกะเหรีย่ งทง้ั ที่เปน ปะกาเกอะญอหรือสะกอ กะเหรยี่ งโปหรอื กะเหรยี่ งมอญ กะเหร่ยี งปะโอหรือ ตองสู และกะเหร่ียงบะเวหรือคะยา บรรณานุกรม กอ ปาละอา ย. สัมภาษณ, 1 ธันวาคม 2561. __________. สัมภาษณ, 8 ธนั วาคม 2561.2557. กิ่งแกว อตั ถากร. คติชนวิทยา. กรงุ เทพมหานคร : กรมการฝกหัดครู, 2519. ขวัญใจ ฟองมูล. การศึกษาโครงสรางและบทบาทหนาท่ีของนิทานพ้ืนบานไทใหญ อําเภอแมอาย จังหวัดเชยี งใหม. ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าภาษาไทย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม, จันทรสม ต๋นั ตุย. สมั ภาษณ, 22 ธนั วาคม 2561 ธวชั ปุณโณทก. วรรณกรรมทองถ่ิน. กรงุ เทพมหานคร : พีระพัธนา, 2525. รัชนี กาวิ. นิทาน ตํานานและประวัติศาสตร : บทบาทหนาที่ คุณคาและอัตลักษณของชุมชนทาผาปุม อาํ เภอแมลานอย จงั หวัดแมฮ อ งสอน. ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวิชาภาษาไทยมหาวิทยาลัย ราชภฏั เชยี งใหม, 2558. วิเชียร เกษประทุม. นิทานพ้ืนบาน (ฉบับปรับปรุงใหม). กรุงเทพมหานคร : บริษัทสิทธิ์พัฒนา จํากัด, 2551. ศาริศา สุขคง. นิทานพ้ืนบานไทดํา บานนาปาหนาด ตําบลเขาแกว อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย. วารสาร มนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ปที่ 35 ฉบับที่ 3: 125, 2559. สุกญั ญา สจุ ฉายา. วรรณกรรมมุขปาฐะ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณม หาวิทยาลัย, 2556. เสาวลักษณ อนันตศานต. นิทานพ้ืนบานเปรียบเทียบ. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ มหาวิทยาลยั รามคาํ แหง, 2538.
Nan : City นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 1985 Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage
1986 รายงานการประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครั้งท่ี 3
Nan : City นครนา น : นครพระพุทธศาสนา มรดกธรรมสู มรดกโลก 1987 Of Buddhism towards Dhamma & World Heritage
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: