บทที 5 พกิ ดั เชงิ ขวั (Polar coordinates) บรรยายโดย ผศ.ศริ วิ รรณ วาสกุ รี
5.1 ระบบพกิ ดั เชิงข้วั ระบบพิกดั ฉาก ประกอบดว้ ย ระบบพิกดั เชิงข้วั ประกอบดว้ ย เสน้ ตรง 2 เสน้ ที่ตดั กนั เป็นมุมฉาก เสน้ ตรงที่ผา่ นจุด เรียกวา่ แกนเชิง ที่จุดกาํ เนิด เสน้ ตรงแนวนอนของ ข้วั ซ่ึงใชแ้ กน x ทางดา้ นบวก หรือ แกนพิกดั ฉากคือ แกน x และ แกน ของระบบพิกดั ฉากเป็นแกน เสน้ ตรงแนวต้งั ของแกนพิกดั ฉาก เชิงข้วั และเรียกจุดกาํ เนิด วา่ ข้วั คือ แกน y (รูปที่ 1) (รูปท่ี 2)
5.1 ระบบพกิ ดั เชิงข้วั บทนิยามที่ 5.1.1 ระบบพิกดั เชิงข้วั มีส่วนประกอบท่ีสาํ คญั อยู่ 2 ส่วน คือ 1. จุดกาํ เนิด เป็นจุดคงท่ีจุดหน่ึง เขียนแทนดว้ ย O เรียกวา่ ข้วั (Polar) 2. เสน้ คงท่ี หมายถึง รังสีที่มีจุดเร่ิมตน้ ท่ีข้วั O โดยต่อออกไปในแนวราบ มีทิศทางรังสีไปทางขวามือ เรียกวา่ แกนเชิงข้วั (Polar axis)
5.1 ระบบพกิ ดั เชิงข้วั ให้ P เป็นจุดใดๆ บนระนาบ พกิ ดั ของจุด P ในระบบพิกดั เชิงข้วั เขียนแทนดว้ ย (r,) โดยท่ี r แทน ระยะทางจาก O ไป P และ แทน มุมท่ีวดั จากแกนเชิงข้วั ไปยงั ส่วนของเสน้ ตรง OP 0 (เป็นบวก) เม่ือวดั จากแกนเชิงข้วั ในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกา 0 (เป็นลบ) เม่ือวดั จากแกนเชิงข้วั ในทิศทางตามเขม็ นาฬิกา r 0 (เป็นบวก) เม่ือวดั จากจุดข้วั ไปในทิศเดียวกบั ที่เป็นรังสีของมุม r 0 (เป็นลบ) เมื่อวดั จากจุดข้วั ไปในทิศตรงขา้ มกบั ท่ีเป็นรังสีของมุม
ตวั อยา่ งของการระบุพกิ ดั ของจุด P
5.1 ระบบพกิ ดั เชิงข้วั การระบุตาํ แหน่งของจุด การระบุตาํ แหน่งของจุดในระบบพิกดั เชิงข้วั จาํ เป็นตอ้ งมีจุดคงท่ี เรียกวา่ ข้วั และเสน้ ตรงผา่ นข้วั เรียกวา่ แกนเชิงข้วั ซ่ึงทาํ มุมต่างๆ กนั เช่น 0, , , , ,... ดงั รูป 6 4 3 2
Y 2 (120 ) (90 ) (60 ) 3 2 3 3 (135 ) (45 ) 4 4 5 (150 ) (30 ) 6 6 (180 ) 0, 2 (360 ) X 7 (210 ) 11 (330 ) 6 6 5 (225 ) 7 (315 ) 4 4 4 (240 ) 3 (270 ) 5 (300 ) 3 2 3
มุมบวก มุมลบ
ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมติ ขิ องมุมต่างๆ
ตวั อย่างท่ี 5.1.1 จงแสดงพิกดั เชิงข้วั ของจุดต่อไปน้ี (4, ) , (4, ) , (4, 4 ) 4 4 และ (4, 4 ) 2 2 3 3 3 4 4 5 6 (4, ) 6 4 (4, ) 4 0 (4, ) (4, ) 11 4 4 6 7 6 7 4 5 4 5 3 3 4 3 2
ตวั อย่างที่ 5.1.2 จงแสดงพิกดั เชิงข้วั ของจุดต่อไปน้ี (3, 56) , (3, 116) , (3, 6 ) และ (3, 76) 2 2 3 3 3 4 4 5 66 0 7 11 6 6 5 7 4 4 5 4 3 3 3 2
5.2 ความสัมพนั ธ์ระหว่างพกิ ดั ฉากกบั พกิ ดั เชิงข้วั กาํ หนดให้ P เป็นจุดบนระนาบ (x , y) แทนพกิ ดั ฉากของจุด P (r, ) แทนพกิ ดั เชิงข้วั ของจุด P ถา้ ให้ ข้วั ทบั กบั จุดกาํ เนิด o และแกนเชิงข้วั ทบั กบั แกน x ดงั รูป
5.2 ความสัมพนั ธ์ระหว่างพกิ ดั ฉากกบั พกิ ดั เชิงข้วั สูตรท่ี 1 ใชส้ าํ หรับการเปลี่ยน สูตรที่ 2 ใชส้ าํ หรับการเปลี่ยน พกิ ดั ฉากใหเ้ ป็นพิกดั เชิงข้วั พิกดั เชิงข้วั ใหเ้ ป็นพกิ ดั ฉาก cos xr และ sin y tan y และ r2 x2 y2 r x ดงั น้นั x rcos และ y rsin
ตวั อย่างท่ี 5.2.1 จงเปล่ียนพิกดั เชิงข้วั (2 , 3 ) ใหเ้ ป็นพกิ ดั ฉาก Y (2, 3 ) OX
ตวั อย่างที่ 5.2.2 จงเปลี่ยนพกิ ดั ฉาก(2 , 2 3) ใหเ้ ป็นพกิ ดั เชิงข้วั Y X (2, 2 3) O
5.3 กราฟและสมการเชิงข้วั สมการเชิงข้วั เป็นสมการท่ีเขียนในรูป r f () หรือ F(r,) 0 โดย r และ เป็นตวั แปรในระบบพกิ ดั เชิงข้วั เช่น 1. r 3 2. rcos 1 3. r 2sin 4. r 1 cos กราฟของสมการเชิงข้วั r f () หรือ F(r,) 0 ประกอบดว้ ยจุด P ในระบบพิกดั เชิงข้วั ซ่ึงจะตอ้ งมีพกิ ดั เชิงข้วั (r,) อยา่ งนอ้ ยหน่ึงพิกดั ท่ีสอดคลอ้ งกบั สมการเชิงข้วั ท่ีกาํ หนดให้
ตวั อย่างที่ 5.3.1 กาํ หนดสมการเชิงข้วั r 3 1. จงเขียนกราฟของสมการเชิงข้วั ท่ีกาํ หนดให้ 2. จงเปล่ียนสมการเชิงข้วั ที่กาํ หนด ใหเ้ ป็นสมการระบบพิกดั ฉาก y (1) กราฟของ r = 3 หมายถึง r = 3 เสมอ 3 โดยท่ี เปล่ียนไดเ้ ร่ือยๆ ดงั น้นั จะได้ กราฟดงั รูป –3 –3 3 x (2) จาก r=3 จะได้ r2 = 9 จากสูตร r2 = x2 + y2 ดงั น้นั x2 + y2 = 9
ตวั อย่างที่ 5.3.2 จงเปล่ียนสมการในระบบพิกดั ฉาก y 2 4x ใหเ้ ป็นสมการเชิงข้วั วธิ ีทาํ สูตร x r cos ; y r sin จาก y2 4x จะได้ (r sin )2 4(r cos ) r2 sin2 4 r cos r2 4 cos r sin2 r 4(csions)(sin1 ) r 4(cot )(cos ec)
ตวั อย่างที่ 5.3.3 จงเปล่ียนสมการเชิงข้วั r2 4 sin2 ใหเ้ ป็นสมการในระบบพกิ ดั ฉาก
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 1. คาร์ดิออย์ (Cardioid) มีลกั ษณะคลา้ ยรูปหวั ใจบางทีเรียกวา่ เส้นโคง้ รูปหวั ใจ มี 4 แบบ ดงั น้ี r a(1 cos ) r a(1 cos ) r a(1 sin) r a(1 sin)
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อยา่ งกราฟคาร์ดิออย์ (Cardioid) หรอื เสน้ โคง้ รูปหวั ใจ
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 2. ลีมาซอง (Limacon) รูปแบบสมการเชิงข้วั r a b sin หรือ r a b cos เม่ือ a , b เป็ นค่าคงท่ีใดๆ และ a > 0 , b > 0 ลกั ษณะกราฟของลีมาซองมี 4 แบบตามเงื่อนไขของค่า a และ b ดงั น้ี
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั กราฟของลีมาซอง จะมีตาํ แหน่งเป็นเช่นไรข้ึนอยกู่ บั สมการของลีมาซองวา่ อยใู่ นรูป sin หรือ cos และข้ึนอยกู่ บั เคร่ืองหมาย (+) หรือ () ท่ีปรากฏในสมการน้นั ตาํ แหน่งของ กราฟลีมาซอง มี 4 แบบ ดงั น้ี
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อยา่ งกราฟลีมาซอง
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 3. เลมนิสเคต (Lemniscate) รูปแบบสมการเชิงข้วั r2 a2 sin 2 และ r2 a2 cos2 กราฟของเลมนิสเคต มีลกั ษณะคลา้ ยเลข 8 ตาํ แหน่งของกราฟจะเป็นเช่นไรข้ึนอยกู่ บั สมการน้นั มีพจน์ sin 2 หรือ cos 2 และข้ึนอยกู่ บั เครื่องหมาย (+) หรือ () ท่ี ปรากฏในสมการน้นั ตาํ แหน่งของกราฟเลมนิสเคต มี 4 แบบ ดงั น้ี
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อยา่ งกราฟเลมนิสเคต
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 4. เสน้ โคง้ ดอกกหุ ลาบ (Rose Curve) รูปแบบสมการเชิงข้วั r asin n และr acosn เมื่อ a ≠ 0 และ n เป็นจาํ นวนนบั โดยท่ี n > 1 กราฟของเสน้ โคง้ ดอกกหุ ลาบ มีความยาวกลีบเท่ากบั | a | หน่วย จาํ นวนกลีบของดอก กหุ ลาบจะมีเท่าไรข้ึนอยกู่ บั ค่าของ n โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ถา้ n เป็นจาํ นวนคี่ แลว้ เสน้ โคง้ ดอกกหุ ลาบจะมีจาํ นวนกลีบเท่ากบั n กลีบ ถา้ n เป็นจาํ นวนคู่ แลว้ เสน้ โคง้ ดอกกหุ ลาบจะมีจาํ นวนกลีบเท่ากบั 2n กลีบ ทิศทางของดอกกหุ ลาบ เทียบกบั แกนเชิงข้วั จะข้ึนอยกู่ บั เคร่ืองหมายของค่าคงที่ a และ ข้ึนอยกู่ บั พจน์ sin n หรือ cosn ที่ปรากฏอยใู่ นสมการดงั น้ี ถา้ เป็น sin n กราฟมีกลีบแรกอยเู่ หนือแกนขวั ไมท่ บั แกน ถา้ เป็น cosn กราฟมีกลีบแรกทบั แกนข้วั และแกนลากผา่ นก่ึงกลางกลีบแรก
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อยา่ งกราฟเสน้ โคง้ ดอกกหุ ลาบ
5.4 กราฟทน่ี ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 5. เสน้ เวยี นกน้ หอย (Spiral) รูปแบบสมการเชิงข้วั r = เมื่อ a ≠ 0 กราฟของเสน้ เวยี นกน้ หอยจะหมุนเวยี นรอบข้วั เป็นจาํ นวนไม่จาํ กดั รอบ โดยมี r เพิ่มข้ึนหรือลดลงอยา่ งไม่มีที่สิ้นสุด กราฟเสน้ เวยี นกน้ หอยจะวนทวนเขม็ นาฬิกา ถา้ 0 และวนตามเขม็ นาฬิกา ถา้ 0 สาํ หรับค่าคงท่ี a จะควบคุมระยะห่างของเสน้ กราฟ ถา้ a มีขนาดมากเสน้ กราฟ จะวนห่างกนั มาก และถา้ a มีขนาดนอ้ ยเสน้ กราฟจะวนห่างกนั นอ้ ย โดยสรุปกราฟเสน้ เวยี นกน้ หอยมีอยู่ 4 ลกั ษณะดงั น้ี
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั 1. ถา้ 0 และa 0 กราฟวนทวนเขม็ 3. ถา้ 0 และa > 0 กราฟวนทวนเขม็ นาฬิกา และเร่ิมในจตุภาคท่ี 1 นาฬิกา และเริ่มในจตุภาคท่ี 4 2. ถา้ 0 และa < 0 กราฟวนทวนเขม็ 4. ถา้ 0 และa < 0 กราฟวนทวนเขม็ นาฬิกา และเริ่มในจตุภาคท่ี 3 นาฬิกา และเร่ิมในจตุภาคที่ 2
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อยา่ งกราฟเสน้ เวยี นกน้ หอย เม่ือ 0
กจิ กรรมทาํ ตอนน้ี นกั ศกึ ษาเปิดแบบฝึกหดั บทท่ี 5 แบง่ กลมุ่ ประมาณ 2 - 3 คน ใหช้ ว่ ยเขยี นคาํ ตอบ แสดงวธิ ที าํ ดขู อ้ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายตามรหสั นกั ศกึ ษา โจทยอ์ ยใู่ น Jamboard ใหค้ ลกิ ลงิ คเ์ ฉพาะขอ้ ของเรา แลว้ ชว่ ยกนั ทาํ ใหเ้ วลา 30 นาที เขยี นคาํ ตอบในกระดาษแลว้ คลกิ เพมิ่ รปู ภาพใน Jamboard กไ็ ด้
5.4 กราฟทนี่ ่าสนใจในระบบพกิ ดั เชิงข้วั ตวั อย่าง จงเขียนกราฟของสมการ r = 5+5cos วธิ ีทาํ พจิ ารณาสมการ r = 5+5cos เม่ือแทน ดว้ ย จะได้ r มีค่าเหมือนเดิม เนื่องจาก cos = cos( ) ดงั น้นั กราฟจะสมมาตรกนั แกนเชิงข้วั จะไดค้ ่าของ r เมื่อ มีค่าระหวา่ ง 0° ถึง 180° ดงั ตาราง ������ 0° 30° 45° 60° 90° 120° 135° 150° 180° r 10 9.3 8.5 7.5 5 2.5 1.5 0.67 0
������ 0° 30° 45° 60° 90° 120° 135° 150° 180° r 10 9.3 8.5 7.5 5 2.5 1.5 0.67 0 The picture can't be display ed. 120 60 135 45 150 30 180 The picture can't be display ed. 14 12 10 8 6 4 2 0 2 4 6 8 10 12 14 The picture can't be display ed. 330 225 315 240 300 270
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: