ใบงานที่3

ใบงานท่ี3 1. E-Commerce คืออะไร? E-Commerce ยอ่ มาจากคาํ วา่ Electronic Commerce แปลเป็ นภาษาไทยไดว้ า่ การพาณิชย์ อเิ ล็กทรอนิกส์ คือการทาํ ธุรกจิ โดยซ้ ือขายสนิ คา้ หรือโฆษณาผ่านสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ ที่นิยมคอื วทิ ยุ โทรทศั น์ และท่ีมีการใชง้ านมากที่สุดในปัจจุบนั ก็คืออินเทอรเ์ น็ต โดยสามารถใชท้ ้งั ขอ้ ความ เสียง ภาพ และคลิป วดิ ีโอในการทาํ ธุรกิจได้ การทาํ ธุรกิจแบบ E-commerce สามารถเขา้ ถึงลกู คา้ ไดก้ วา้ งขวางและทาํ ใหล้ ด ค่าใชจ้ า่ ยต่างๆ ในการดาํ เนินการไดเ้ ป็ นอยา่ งดี 2. E-Business แตกต่างจาก E-Commerce อยา่ งไร? ในที่น้ ีขออนุญาตอธิบายคาํ วา่ E-Business(ธุรกิจอเิ ล็กทรอนิกส)์ คือการใชก้ ลยุทธด์ า้ นเทคโนโลยี สารสนเทศ และการส่อื สาร มาประยุกตใ์ ชใ้ นการดาํ เนินกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ในองคร์ วม เพอื่ โตต้ อบกนั ระหวา่ ง ลูกคา้ ทางธุรกจิ คู่คา้ หุน้ ส่วนทางธุรกจิ ผถู้ ือหนุ้ และ/หรือนักลงทุน ตลอดท้งั หว่ งโซ่อปุ ทาน (Supply chain) ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาศยั การใชค้ อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การ สื่อสาร และอาจรวมถึงอินเทอรเ์ น็ตเพือ่ ขยายขอบเขตการดาํ เนินงานทางธุรกิจใหม้ ากยิ่งข้ ึน ดงั น้ัน E-Business และ E-Commerce เป็ นการใชก้ ลยุทธด์ า้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่อื สาร มา ประยุกตใ์ ชใ้ นการดาํ เนินธุรกจิ เหมอื นกนั แต่ E-Business จะครอบคลุมกระบวนการธุรกิจมากกวา่ กล่าวคอื E-Commerce เป็ นส่วนหนึ่งของ E-Business นัน่ เอง โดย E-Commerce แบ่งออกเป็ น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ B2C, B2B, C2C, B2G, และ G2C ซงึ่ ชว่ ยในการบริหารจดั การธุรกิจใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ และยงั เน้น สรา้ งความพึงพอใจใหแ้ กล่ ูกคา้ เป็ นสาํ คญั

3. จงอธบิ ายรูปแบบของการทาํ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ แบบB2B,แบบ B2C,แบบ C2C แบบ B2Gและแบบ G2C มาใหค้ รบถว้ นและกระชบั B คอื ผปู้ ระกอบการ C คือผูบ้ รโิ ภค และG คอื รฐั บาล B2B ธุรกิจกบั ธุรกจิ หรือ บีทบู ี (B-to-B = Business to Business) คือ ผปู้ ระกอบการสองฝ่ ายทาํ การติดต่อซ้ อื ขายกนั โดยการขายในที่น้ ีเป็ นการขายสง่ ซ่งึ ทาํ การสงั่ ซ้ ือผ่านอินเทอรเ์ น็ต B2C ธุรกจิ กบั ผซู้ ้ ือปลีก หรอื บีทซู ี (B-to-C = Business to Consumer) คือ ผูซ้ ้ ือปลีกซ้ ือสนิ คา้ จาก ผขู้ ายผ่านอินเตอรเ์ น็ต เช่น การขายเส้ ือผา้ รองเทา้ เครื่องสาํ อาง เป็ นตน้ C2C ผบู้ รโิ ภคกบั ผบู้ ริโภค หรอื ซที ูซี (C-to-C = Consumer to Consumer) คือ การติดต่อซ้ ือขาย ระหวา่ งผบู้ ริโภคดว้ ยกนั เอง กลา่ วคือ ผูบ้ ริโภคที่ไม่ไดป้ ระกอบธุรกจิ ประกาศขายสินคา้ ของตนเอง และ ผูบ้ รโิ ภคอกี คนก็สนใจสงั่ ซ้ ือไป การประกาศขายน้ ีสว่ นใหญท่ าํ ผ่านอินเทอรเ์ น็ตเพราะมีพ้ ืนท่ีใหต้ ิดต่อซ้ ือขาย ไดส้ ะดวก รวมถึงหาคนท่ีมีความสนใจเหมือนกนั ไดง้ ่ายอกี ดว้ ย B2G ธุรกจิ กบั รฐั บาล หรอื บีทูจี (B-to-G = Business to Government) คอื ธุรกจิ ระหวา่ งภาคเอกชน กบั ภาครฐั เช่น การจดั จา้ งของภาครฐั โดยประกาศผ่านทางเว็บไซตข์ องรฐั เพ่อื ลดค่าใชจ้ ่าย G2C ภาครฐั กบั ประชาชน หรอื จีทูซี (G-to-C = Government to Consumer) คอื การใหบ้ ริการจาก ทางภาครฐั ผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอินเทอรเ์ น็ต เชน่ การคาํ นวณและเสียภาษีผ่านอินเทอรเ์ น็ต การดาวน์โหลดแบบฟอรม์ เพื่อลงทะเบยี นต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ 4. ประโยชนข์ อง E-Commerce 1. เพิม่ โอกาสการเขา้ ถึงตลาด -ขยายโอกาสในการเขา้ ถึงตลาด สนองความตอ้ งการของลูกคา้ ขยายตลาดไดเ้ ร็ว - ตามทนั สือ่ การตลาดยคุ ใหม่ -เพม่ิ โอกาสโลกตลาดออนไลน์ -สรา้ งการรบั รไู้ ดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ยน่ ระยะเวลาการนําสินคา้ เขา้ สูต่ ลาด

-เปิ ดบริการตลอด 24 ชวั่ โมง -นําเสนอขอ้ มูลสนิ คา้ ไดเ้ ป็ นจาํ นวนมาก -เพิม่ โอกาสทางการตลาดในการบรหิ ารขอ้ มูลลูกคา้ จากระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 2. ลดตน้ ทุนในการจดั ซ้ ือ -ลดค่าใชจ้ ่ายในการจดั ซ้ ือท้งั ทางตรงและทางออ้ ม -ควบคุมข้นั ตอนการจดั ซ้ ือจดั จา้ งได้ วธิ ีการไม่ซบั ซอ้ น -สามารถเลือก ผูผ้ ลิต/ผจู้ าํ หน่ายสินคา้ และบรกิ ารไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ประหยดั เวลาในการเปรยี บเทียบ สินคา้ 3. สนับสนุนการซ้ อื - ขาย -มรี ะบบคน้ หาสินคา้ จาก “คาํ คน้ หาสินคา้ ” และชอ่ งทางการเขา้ ถึงขอ้ มลู ทาง“สารบญั ขอ้ มูล” แบ่ง ออกเป็ นหมวดหมแู่ ละประเภทอยา่ งชดั เจน -ส่งเสริมการเขา้ ถึงขอ้ มูลของผูเ้ ขา้ ชมเวบ็ ไซตจ์ าํ นวนมาก สามารถมองเห็นสินคา้ และบรษิ ัทของคุณได้ อยา่ งง่ายดาย ผ่านทางหนา้ เวบ็ ไซต์ -ซ่งึ ทาํ กาํ ไรไดม้ ากกว่าระบบการซ้ อื - ขายแบบเดิม 4. ช่วยสง่ เสริมการขายการโฆษณา -ลดตน้ ทุนการส่งเสริมการตลาด โฆษณาและประชาสมั พนั ธ์ เชน่ ลดตน้ ทุนการโฆษณาผ่านสื่อปกติอ่ืนๆ ซ่ึงสามารถใชส้ ่ืออเิ ล็กทรอนิกสบ์ รหิ ารจดั การได้ -สรา้ งภาพลกั ษณใ์ หก้ บั ธุรกจิ หรือองคก์ ร ในเรอ่ื งของความทนั สมยั และเป็ นโอกาสที่จะทาํ ใหส้ ินคา้ หรือ บริการเป็ นท่ีรจู้ กั อยา่ งรวดเร็ว 5. ทาํ ใหล้ ดการใชท้ รพั ยากรไดด้ ี -ลดเวลาในการหาขอ้ มูลสินคา้ หรอื ผูข้ าย และยน่ เวลาในการนําสินคา้ เขา้ สู่ตลาด -ชว่ ยลดข้นั ตอนทางการตลาด -ช่วยลดพลงั งานในการเดินทาง -ชว่ ยลดการใชท้ รพั ยากรดา้ นองคป์ ระกอบทางธุรกจิ เชน่ พ้ ืนที่การขาย อาคารประกอบการ ทาํ เลท่ีต้งั

-ลดตน้ ทุนดา้ น ค่าใชจ้ ่ายในการขายและบริหาร รวมท้งั คา่ เช่าพ้ ืนท่ีขายหรือการลงทุนในการสรา้ งรา้ น 5. บทบาทภาครฐั ในการสนับสนุน E-Commerce ปัจจุบนั รฐั บาลทวั่ โลกลว้ นมีมาตรการส่งเสริม e-Commerce ท่ีครอบคลุมดา้ นต่าง ๆ เช่น การ เสรมิ สรา้ งทกั ษะและความรู้ การอดุ หนุนค่าใชจ้ า่ ย การรวบรวมขอ้ มลู ทางการตลาด ภาษี ทรพั ยส์ ินทาง ปัญญา กฎหมายและนโยบายทางการคา้ โลจิสติกส์ การสรา้ งความไวว้ างใจ การคุม้ ครองขอ้ มูล และการบูร ณาการการทาํ งานระหวา่ งหน่วยงาน ภาครฐั ไทยควรเร่งพฒั นาธุรกิจ e-Commerce โดยมุ่งเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพผูป้ ระกอบการท้งั รายเก่าและ รายใหมใ่ หม้ ีความรแู้ ละทกั ษะดา้ น e-Commerce อยา่ งรอบดา้ น รวมถึงปรบั ปรุงกฎหมายและนโยบายให้ สอดคลอ้ งกบั สถานการณป์ รบั บทบาทภาครฐั ใหก้ ลายเป็ นผอู้ าํ นวยความสะดวก ใหเ้ งินอุดหนุนในรายการที่ จาํ เป็ น และใหก้ ารคุม้ ครองผูบ้ ริโภค 6. นักศึกษาคิดว่าสถาบนั การศกึ ษาทาํ ธุรกิจ E-commerce อยา่ งไร? ตอบ ก็ใชว้ ธิ ีเรียนออนไลน์ผ่านรปู แบบตา่ งๆ เช่น google meet และ Zoom นอกจากน้ ีอาจจะเป็ นการอดั คลิปแลว้ ส่งใหน้ ักศึกษาดูภายหลงั การจา่ ยเงินค่าเทอมผ่านแอพลิเคชนั่ ต่างๆในธนาคาร น.ส. ยลรดา ตนั ติผลประเสริฐ 1118 น.ส. สมาพร แตแ่ ดงเพชร 1121